บัวปริ่มน้ำ “ผกามาลิน” หญิงแสนสวย แต่ชีวิตเธอไม่ได้สวยงามเหมือนตัวตน เพราะชีวิตไม่ใช่ของง่าย เธอจึงผ่านความผิดพลาดและเธอเลือกที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ การเริ่มต้นเปรียบเหมือนดั่งบัวที่เปื้อนตม แต่การระลึกรู้และหมั่นยกระดับจิตใจ ก็สามารถจะงอกงามขึ้นพ้นน้ำ ชูช่อ ผลิดอกเบ่งบาน เช่นเดียวกับบัวในหัวใจของผกามาลิน มีทางที่จะทำให้ตัวเองและคนรอบข้างสัมผัสได้ถึงคุณค่าของชีวิต ที่ความผิดพลาดคือบทเรียนล้ำค่าที่จะไม่ย้อนเดินกลับไปอีก เหตุเพราะเธอเลือกที่จะลดความอาฆาตพยาบาท เคียดแค้น ชิงชังออกจากใจ ไม่นานบัวนั้นก็จะบานชูช่อพ้นน้ำขึ้นมาหยอกล้อแสงอาทิตย์ได้อีก ซึ่งแสงอาทิตย์มีไว้รอดอกบัวทุกช่อ มันอยู่ที่ว่าดอกบัวจะโน้มต่ำไปหาโคลนตมหรือจะมุ่งหาสิ่งใด แต่เชื่อว่าบัวที่โผล่พ้นน้ำมาแล้ว ไม่มีทางวนกลับสู่โคลนตมอย่างแน่นอน เฉกเช่นเดียวกับคนที่มีสติ มีศีลธรรมประจำใจนั่นเอง
ละคร บัวปริ่มน้ำ 2549
ละคร บัวปริ่มน้ำ 2549
ผกามาลิน แม่ม่ายลูกติดวัย 30 เจ้าของบริษัทออร์แกไนซ์มือโปร ที่มีข่าวซุบซิบหนาหูกันว่าเธอได้งานแต่ละชิ้นมานั้น เพราะใช้เรือนร่างและหน้าตาเข้าช่วย รังสรรค์ หลงเสน่ห์ของผกามาลินจนถอนตัวไม่ขึ้น เขาตามตื้อเธอจนหญิงสาวตกลงปลงใจยอมพลีกายให้เพราะคิดว่าเขาจะจริงใจด้วย แต่ในที่สุดเธอก็รู้ความจริงว่ารังสรรค์มีครอบครัวแล้วจึงตีตัวออกห่าง แต่รังสรรค์กลับตามรังควานเธอตลอดเวลา ผกามาลินเป็นเมียเก่าของ มิ่งขวัญ มีลูกด้วยกัน 1 คนชื่อ มณีฉาย ( ยัยหนู ) ทั้งคู่ได้เสียกันเพราะความเป็นเด็กที่ยังไม่พร้อมจะมีครอบครัว จึงเป็นเหตุให้ทั้งคู่ต้องเลิกรากันไป และมิ่งขวัญก็ไปเรียนต่อที่เมืองนอก ผกามาลินจึงยกลูกสาวให้ พรรษา พี่สาวและพี่เขย ชาญ ดูแลในฐานะพ่อแม่ และเธอเป็นแค่น้าสาวที่ยัยหนูให้ความรักและศรัทธาเป็นอย่างมาก รังสรรค์มีภรรยาชื่อ นลินี และมีลูกชายคนโตชื่อ สาโรจน์ ที่กำลังเข้าสู่วัยรุ่น ส่วนลูกสาวคนเล็กชื่อ วิลาสิณี ก็เป็นเพื่อนสนิทของมณีฉาย สาโรจน์มีปัญหากับพ่อแม่จึงหนีออกจากบ้านกระทั่งได้มารู้จักกับผกามาลิน เธอจึงช่วยแก้ปัญหาและปลอบใจจนสาโรจน์นึกหลงรักผกามาลินอย่างหลงใหลจึงคอยติดตามเธอไปยังที่ต่างๆ กระทั่งได้มาเห็นรังสรรค์กำลังปลุกปล้ำผกามาลิน ทำให้เขาได้รู้ความจริงว่ารังสรรค์กับผกามาลินเคยเป็นอะไรกันมาก่อน สาโรจน์จึงเกลียดชังรังสรรค์มากหนีเตลิดออกจากบ้านไปอีกและไปเข้ากลุ่มกับพวกแก๊งมิจฉาชีพ ผกามาลินกับ เครือมาศ มารดาของ คธา ทั้งสองเป็นคู่แข่งกันทางธุรกิจอย่างรุนแรง ผกามาลินผิดหวังจากรังสรรค์จึงขับรถตั้งใจจะไปเก็บตัวที่ต่างจังหวัด แต่เกิดขับรถชนกับรถของคธาเธอได้รับบาดเจ็บ คธารีบพาไปส่งโรงพยาบาลและคอยดูแลเธออย่างดีในฐานะเจ้าของไข้ จนเขาเกิดความรู้สึกประทับใจหญิงสาวขึ้นมาอย่างเงียบๆ และเมื่อผกามาลินออกจากโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ยังติดต่อกับเธออยู่บ่อยๆ พอผกามาลินรู้ว่าคธาเป็นลูกชายของเครือมาศคู่ปรับเก่า จึงตีตัวออกห่างแต่คธากลับวิ่งเข้าหา เครือมาศอยากให้ คลีทอง หลานสาวที่เลี้ยงดูอยู่ได้แต่งงานกับคธา จึงเอาคลีทองมาเป็นตัวกันคธาออกจากผกามาลิน
ทั้งคู่มีแผนการเล่นงานผกามาลต่างๆ นานา แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเธอได้ เครือมาศเล่นงานผกามาลินทางธุรกิจเข้าไปซื้อตึกที่ผกามาลินเช่าเปิดบริษัทอยู่ และขนข้าวของของบริษัทออกมาเผาทิ้งทำให้ผกามาลินโกรธแค้นมาก จึงลุกขึ้นสู้กับเครือมาศแบบตาต่อต่อฟันต่อฟัน เครือมาศร่วมมือกับ พิศาล ผู้มีบทบาทในการดึงลูกลูกค้าจากบริษัทสินค้าต่างๆ พิศาลคิดจะเคลมเครือมาศและต้องการฮุบมรดกของเธอ จึงร่วมมือกันเล่นงานจนผกามาลินถูกบอกเลิกสัญญาการจ้างงานไปหลายที่ เครือมาศประกาศไม่ให้เธอยุ่งเกี่ยวกับลูกชาย ผกามาลินกลับหันไปคบหากับคธาอย่างเปิดเผย และย้ายตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านเครือมาศ จนเครือมาศเครียดต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่บ่อยๆ เครือมาศจ้างให้คนไปสาดน้ำกรดใส่ผกามาลิน แต่ กรุณา เลขาฯ สาวมารับเคราะห์แทนทำให้ผกามาลินคับแค้นใจมาก เครือมาศข่มขู่ลูกชายสารพัดจนเขาไม่รู้จะทำอย่างไร มิหนำซ้ำเครือมาศยังสั่งพิมพ์การ์ดแต่งงานของคธากับคลีทองแล้วแจกจ่ายไปทั่ว ผกามาลินแก้แค้นกลับด้วยการตัดหน้าไปจดทะเบียนสมรสกับคธา แล้วพากันไปฮันนีมูนก่อนวันแต่งงานหนึ่งวัน แต่เมื่อถึงวันแต่งงานที่ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ คธามาร่วมพิธีเหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้วิญญาณ เครือมาศพอใจที่ชนะผกามาลินได้ แต่ในวันนั้นผกามาลินกลับมาปรากฏตัวด้วยการร่อนแผ่นซีร็อกซ์ทะเบียนสมรสของเธอกับคธาให้แขกในงานแทน ทำเอาคลีทองอับอายขายหน้าวิ่งหนีออกมาจากงาน มิ่งขวัญซึ่งกลับมาจากเมืองนอกนานแล้วและได้เจอกับคลีทองหลายครั้ง ทั้งคู่ปะทะคารมกันบ่อยๆ เพราะความเข้าใจผิด มิ่งขวัญเจอคลีทองที่หน้าโรงแรม จึงจับตัวเธอไปไว้ที่บ้านพักริมทะเลตามแผนที่เขากับผกามาลินได้ร่วมมือกันวางเอาไว้ เครือมาศประกาศตัดขาดลูกชายและขู่จะยกมรดกทั้งหมดให้คลีทอง เพราะเชื่อว่าถ้าคธาเหลือแต่ตัวผกามาลินจะเสือกไสลูกชายกลับมา แต่ทั้งสองกลับย้ายไปอยู่ด้วยกัน รังสรรค์และพิศาลร่วมมือกับเครือมาศเพื่อกระชากหน้ากากผกามาลินออกมาให้คธาได้เห็น โดยรังสรรค์หลอกผกามาลินไปที่หัวหินและโปะยาสลบจนเธอหมดสติไปในบ้านพักริมทะเล ส่วนพิศาลก็หลอกมิ่งขวัญมาเจอผกามาลินที่นอนหมดสติอยู่
จึงเข้าไปช่วยจนฟื้นขึ้นมาแล้วเครือมาศกับคลีทองก็พาคธาเข้ามาเห็นภาพทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน ผกามาลินถูกเครือมาศด่าอย่างหยาบคายว่าเธอกำลังคบชู้ จนเธอต้องประกาศให้ทุกคนรู้ว่ามิ่งขวัญไม่ได้เป็นชู้กับเธอ แต่เป็นสามีเธอก่อนที่คธาจะเข้ามาในชีวิตเธอเสียอีก คช็อกมากกับเหตุการณ์นี้ รวมทั้งคลีทองก็รู้สึกไม่ต่างกันเพราะเธอหลงรักมิ่งขวัญอยู่เงียบๆ และเคยหลับนอนด้วยกันมาแล้ว หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้ทั้งสองกลับมาใช้ชีวิตแบบซังกะตาย เครือมาศตกเป็นทาสบำเรอให้พิศาล เพราะความเมาประชดลูกชาย จากนั้นพิศาลก็เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของเครือมาศจนเธอแทบคลั่ง มิหนำซ้ำตัวเธอเองก็ต้องตกที่นั่งลำบากเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังท้อง นอกจากนี้พิศาลยังข่มขู่ให้เธอเซ็นยกพินัยกรรมทั้งหมดให้ แต่เครือมาศไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กัน ผกามาลินมาหาคธาที่บ้านเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงเข้าขัดขวาง พิศาลผลักเครือมาศกลิ้งตำลงมาจากบันไดจากนั้นเขาก็วิ่งหนีไป คธากลับมาถึงพอดีจึบขับรถไล่ตามแต่เวรกรรมมีจริง พิศาลขับรถประสานงากับรถบรรทุกเสียชีวิตในทันที ส่วนเครือมาศผกามาลินพาส่งโรงพยาบาลช่วยชีวิตไว้ได้ทันแต่เด็กในท้องเสียชีวิต เรื่องนี้รู้กันเพียงเธอกับเครือมาศเท่านั้นที่จะเก็บไว้เป็นความลับสุดชีวิต แม้เครือมาศจะยังไม่อภัยให้ผกามาลินร้อยเปอร์เซ็นต์ เธอจึงต้องทำคะแนนให้แม่ผัวยอมรับเธอให้ได้ แต่ทั้งนี้เธอก็ต้องปรับความเข้าใจคธาเช่นกัน เขายังติดใจเรื่องเธอกับมิ่งขวัญอีกหรือไม่ แล้วมณีฉายลูกสาวเธอจะเป็นอย่างไร รังสรรค์จะได้บทสรุปของผู้ชายเจ้าชู้แบบไหน
กำกับโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง
ประพันธ์โดย อาริตา
บทโทรทัศน์ : ส่องหล้า
นักแสดง
รุจิรา ช่วยเกื้อ รับบทเป็น ผกามาลิน
ทฤษฎี สหวงษ์ รับบทเป็น คธา
ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ รับบทเป็น มิ่งขวัญ
จริยา แอนโฟเน่ รับบทเป็น เครือมาศ
พิตต้า ณ พัทลุง รับบทเป็น คลีทอง
รอน บรรจงสร้าง รับบทเป็น พิศาล
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ รับบทเป็น นลินี
สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ รับบทเป็น ชาญ
รุ้งทอง ร่วมทอง รับบทเป็น พรรษา
ปาจรีย์ ณ นคร รับบทเป็น กรุณา
อเล็ก เรนเดลล์ รับบทเป็น สาโรจน์
บัวปริ่มน้ำ เป็นละครโทรทัศน์แนวดราม่า ผลิตโดยบริษัท เมคเกอร์กรุ๊ป จำกัด จากบทประพันธ์ของ อาริตา บทโทรทัศน์โดย ส่องหล้า กำกับการแสดงโดย อำไพพร จิตต์ไม่งง ออกอากาศทุกวันจันทร์– วันอังคาร เวลา 20.30 – 22.30 น. ทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 นำแสดงโดย จริยา แอนโฟเน่, ลภัสรดา ช่วยเกื้อ, ทฤษฎี สหวงษ์ และนักแสดงชั้นนำอีกมากมาย เริ่มตอนแรกวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2549-13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 และถูกนำกลับมาสร้างใหม่ ในปี พ.ศ. 2562 นำแสดงโดย เมทินี กิ่งโพยม , เขมนิจ จามิกรณ์ และ จิรายุ ตันตระกูล
