ซีรีส์ ศรีอโยธยา ภาค 2 2562 (EP.1-20 ตอนจบ) END ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยในยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชอย่างเข้มข้น สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยในยุคนั้น รวมถึงความพยายามของพระองค์ในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้น

ภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง “ศรีอโยธยา”  เป็นผลงานกำกับของ หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล เป็น “การจำลองภาพอดีต” ของ “ราชอาณาจักรศรีอยุธยาตอนปลาย” นับตั้งแต่ แผ่นดิน “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกฐ” (พ.ศ.๒๒๒๓ – ๒๒๗๕) อันเป็นยุคสมัย ที่ถือกันว่าเป็นยุคที่ “กรุงศรีอยุธยา” เจริญรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดในระยะหลัง ทั้งทางด้านศิลปะวัฒนะธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี วรรณกรรม และการศาสนาฯลฯ เนื่องจากปราศจากภาวะสงครามภายนอกประเทศ นานนับกว่า ๑๐๐ ปี นับเป็นยุคสมัยที่เป็น “แบบอย่าง” ของราชประเพณีในราชสำนัก “รัตนโกสินทร์ตอนต้น”

ลมปัดลมเป่า Ost.ภาพยนตร์ซีรีส์ “ศรีอโยธยา 2” [Official MV]

ภาพยนตร์ซีรีส์ ศรีอโยธยา ภาค 2 2562

ภาพยนตร์จะดำเนินเรื่องโดยมี “ข้อเท็จจริง” ตามประวัติศาสตร์ เป็น “ฉากหลัง” โดยมุ่งนำเสนอสาเหตุแห่งการสูญเสียราชอาณาจักรในครั้งนั้น โดยมี “ข้อมูล” ทางประวัติศาสตร์จาก “พงศาวดาร” และ “จดหมายเหตุ” หลายฉบับเป็นบรรทัดฐาน รวมทั้งแสดงให้เห็น “การกอบกู้ชาติ” โดย “พระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช ผู้ทรงพระปรีชาสามารถแห่งแผ่นดิน” ที่ทรงสามารถขับไล่กองทัพพม่าออกจาก “สยามประเทศ” ได้ภายในระยะเวลาเพียง ๘ เดือน หลังจากเสียพระมหานครแล้ว จึงทรงย้ายราชธานีสถาปนา “กรุงธนบุรี” เป็นราชธานีขึ้นในปี พ.ศ.๒๓๑๐ นั่นเอง ฉะนั้น “ตัวละครสำคัญ” ที่เคยมี “พระองค์จริง” หรือ มี “ตัวตนจริง” ใน ประวัติศาสตร์ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องปรากฏ “พระองค์จริง” หรือ “ปรากฏตัวจริง” ในภาพยนตร์ เพื่อ “ความน่าเชื่อ” และ “ความสมจริง” ใน ภาพยนตร์ “อิงประวัติศาสตร์” เรื่องนี้

ภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่องนี้ มิได้มุ่งหวังให้ผู้ชมได้มี “ความรู้” ใน “ประวัติศาสตร์ชาติไทย” และ “ความบันเทิงใจ” เพียงอย่างเดียว แต่มี “จุดมุ่งหมายอันยิ่งใหญ่” เพื่อทำให้ “ผู้ชม” ได้ตระหนักถึง “ความรัก” และ“ความภักดีในแผ่นดิน” อันเป็นบ้านเกิดแห่งตน และ“ สำนึก” ใน “บุญคุณของบรรพบุรุษแต่โบราณ” ที่ท่าน “ยอมสละ” เลือดเนื้อ และ “ชีวิต” เพื่อรักษา “แผ่นดิน” รักษาความเป็น “ชาติไทย” เอาไว้ เพื่อให้ลูกหลานได้มีชีวิตอยู่กันอย่างผาสุก

ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะดำเนินเรื่องผ่านยุคปัจจุบัน จากมุมมองของ ตัวละคร 4 คน คือ ดร.พิมาน ขัติยมงคล (อนันดา เอเวอริ่งแฮม) อาจารย์สอนวิชาโบราณคดี , วายุ เกรียงไกรฤทธิ์ ดารานักร้อง (จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร) , รองศาสตราจารย์ ม.ล.พวงแก้ว อุทัยวงษ์ อาจารย์สอนประวัติศาสตร์ (รัดเกล้า อามระดิษ) และ ดร.อาคม พงษ์อยุธย์ นักโบราณคดี (อาณัตพล ศิริชุมแสง) ซึ่งชะตากรรมได้นำพาทั้ง 4 มีชีวิตเข้ามาพัวพันในเหตุการณ์ลึกลับอันน่าพิศวง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนต้อง “ค้นหา” ข้อเท็จจริงอันยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์และ “ค้นพบ ความจริงในอดีตชาติของตนเอง”

หลังจากภาพยนตร์ซีรีส์ ศรีอโยธยา ภาค 1 โดยกลุ่มทรู กวาดรางวัลทรงคุณค่าในประเทศมากที่สุดถึง 42 รางวัล และได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ด้วยการสร้างชื่อเสียงในเวทีประกวดต่างประเทศ โดยการคว้ารางวัลจากงาน เอเชียน เทเลวิชั่น อวอร์ดส์ ครั้งที่ 23 ที่ประเทศมาเลเซีย เและงานรางวัลระดับโลกในเทศกาล New York Festival World’s Best Television & Films Award ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นับเป็นก้าวแรกของความสำเร็จในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ซีรีส์ที่แสดงให้ชาวโลกได้ประจักษ์ถึงศิลปวัฒนธรรม และจิตวิญญาณแห่งความเป็นชนชาติไทยในรูปแบบการถ่ายทำระดับสากล เพื่อเป็นการเพิ่มอรรถรสของภาพยนตร์ซีรีส์ ศรีอโยธยา ภาค 2 ผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ของ ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล จึงได้จัดงานแถลงข่าว เปิดตัวภาพยนตร์ซีรีส์ ศรีอโยธยา ภาค 2 ณ Iconluxe Hall ชั้น ๑ Iconsiam

ภายในงานได้รับเกียรติจากผู้บริหารกลุ่มทรู โดย คุณพีรธน เกษมศรี ณ อยุธยา หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนต์และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ผู้กำกับการแสดง พร้อมด้วยทัพนักแสดง อนันดา เอเวอริ่งแฮม, โดนัท-มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล, พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช, แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์, ตั๊ก-บงกช เบญจรงคกุล, ฮัท-จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร, อ้น-สราวุธ มาตรทอง, ผู้พันเบิร์ด-พันเอกวันชนะ สวัสดี, นก-สินจัย เปล่งพานิช, ม.ล.สราลี กิติยากร, ก้อง-ปิยะ เศวตพิกุล, นก-ชลิดา เถาว์ชาลี, แจ๊บ-เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล ฯลฯ ที่เดินขบวนเข้ามาในงานอย่างงามสง่า จากนั้นร่วมชมวีทีอาร์ภาพยนตร์ซีรีส์ซึ่งเป็นความสำเร็จของการทำงานในระยะเวลา 4 ปี

รายชื่อนักแสดง
ม.ล.สราลี กิติยากร สวมบทเป็น กรมหลวงอภัยนุชิต (พระพันวัสสาใหญ่)
สินจัย เปล่งพานิช สวมบทเป็น กรมหลวงพิพิธมนตรี (พระพันวัสสาน้อย)
วรนุช ภิรมย์ภักดี สวมบทเป็น เจ้าฟ้าสังวาล
พิมดาว พานิชสมัย สวมบทเป็น เจ้าฟ้ารุจจาเทวี
ศรราม เทพพิทักษ์ สวมบทเป็น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ปกรณ์ ลัม สวมบทเป็น เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ
อนันดา เอเวอริ่งแฮม สวมบทเป็น พระพิมานสถานมงคล
ธีรภัทร สัจจกุล สวมบทเป็น สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
นพชัย ชัยนาม สวมบทเป็น สมเด็จพระเจ้าเอกทัศ
เขมนิจ จามิกรณ์ สวมบทเป็น บุษบาบรรณ์
รัดเกล้า อามาระดิษ สวมบทเป็น กรมหมื่นพิมลภักดี
จิรวิชญ์ พงษ์ไพจิตร สวมบทเป็น เจ้าฟ้าสุทัศขัติยราชกุมาร
ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ สวมบทเป็น พระยาพิชัยชาญฤทธิ์
สรวิศ บุญมาก สวมบทเป็น กรมหมื่นเสพภักดี
รฐา โพธิ์งาม สวมบทเป็น เจ้าจอมราตรี
เพ็ญเพ็ชร เพ็ญกุล สวมบทเป็น สมเด็จพระเจ้าอุทุมพร
ปิยะ เศวตพิกุล สวมบทเป็น พระกำนัลนารีสังข์
ทิน โชคกมลกิจ สวมบทเป็น พระเจ้าอลองพญา
อาณัตพล ศิริชุมแสง สวมบทเป็น หลวงไกร
วิวิศน์ บวรกีรติขจร สวมบทเป็น กรมหมื่นสุนทรเทพ
อภิสร สุขวัฒนาศัย สวมบทเป็น กรมหมื่นเทพพิพิธ
ชินมิษ บุนนาค สวมบทเป็น คุณบุนนาค
ภัทรพงศ์ เวศกามี สวมบทเป็น กรมหมื่นจิตรสุนทร
นิภาภรณ์ ฐิติธนการ สวมบทเป็น เจ้าจอมแข