คนไทยเมื่อได้ยินคำว่า “ผี” ก็มักจะนึกไปถึงพวกผีเปรต ผีกระสือ ผีแม่นาค หรือผีปีศาจ อะไรทำนองนั้น ซึ่งก็เลยทำให้เวลาพูดว่า “ศาสนาผี” ก็เลยนึกว่าเป็นเรื่องของการไปนับถือผีเปรต ผีกระสือ หรือผีแม่นาค หรือศาสนาบูชาปีศาจ หรือศาสนาบูชาซาตาน ซึ่งไม่ใช่เลย แต่ “ผี” ของ “ศาสนาผี” ที่ว่านี้ก็คือวิญญาณของธรรมชาติ วิญญาณของบรรพบุรุษ หรือวิญญาณของวัตถุที่เชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
ลักษณะของศาสนาผี
ศาสนานี้มีลักษณะเป็นสรรพเทวนิยม และแบบลักษณ์พหุเทวนิยม-วิญญาณนิยม ซึ่งรวมบทบาทหมอผี อันมีพื้นฐานมาจากความความเชื่อความศรัทธาของชนชาติชาวไทที่เชื่อว่ามีผีหรือเทพสิงสถิตย์อยู่ทุกในทุกๆที่
ความเชื่อนี้กลุ่มชาติพันธุ์ลาวประมาณ 30.7% นับถือ และชาวไทกลุ่มอื่นๆที่มีการนับถือทั่วไปตามแต่ละท้องถิ่น กลมกลืนไปกับศาสนาใหม่ที่เผยแพร่เข้ามาในดินแดนแถบประเทศไทย โดยมีประเพณีคล้ายคลึงกันระหว่างคนอีสานคนไทยและกลุ่มชาติพันธุ์ไทในประเทศหลายประเทศในทางปฏิบัติ แต่ทั้งนี้การนับถือศาสนาผีหาได้ปรากฏเฉพาะชาวไทไม่
ชาวขมุและมอญ-เขมรอื่นๆ ตลอดจนกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง-เมี่ยน ทิเบต-พม่า และกลุ่มชาติพันธุ์อื่นของลาวก็มีการนับถือผีในลักษณะใกล้เคียงกัน
ผี เป็นเทพารักษ์สิ่งปลูกสร้างหรือพื้นที่ของสถานที่ สิ่งหรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ ผียังเป็นวิญญาณบรรพบุรุษและวิญญาณอื่นที่ปกปักษ์ผู้คน และยังมีวิญญาณมุ่งร้าย เทพารักษ์สถานที่ เช่น ผีวัด และหลักเมือง มีการเฉลิมฉลองด้วยการชุมนุมของชุมชนและการถวายอาหาร การแปลงเทพเจ้าฮินดูรวมอยู่ในรายการเทพเจ้าด้วย เทพเจ้ามิใช่ฮินดูพื้นเมืองเรียก ผีแถน ผีแถนพบทั่วไป บางตนเชื่อมโยงกับธาตุสากล คือ สวรรค์ ดิน ไฟและน้ำ
ความเชื่อวิญญาณสามสิบสองตนที่เรียก ขวัญ
ชาวไทยังเชื่อวิญญาณสามสิบสองตนที่เรียก ขวัญ ซึ่งปกปักษ์ร่างกาย และมีการประกอบพิธีกรรมบายศรี ระหว่างโอกาสสำคัญหรือเวลาที่มีความวิตกกังวลเพื่อผูกมัดวิญญาณกับร่างกาย และเชื่อว่าหากวิญญาณเหล่านี้ไม่อยู่กับตัวจะนำพาความเจ็บป่วยหรืออันตรายมา พิธีกรรมบายศรีเรียกขวัญทั้งสามสิบสองกลับมาเพื่อให้สุขภาพ ความมั่งคั่งและความเป็นอยู่ดีของผู้เข้ารับพิธี มีการผูกสายฝ้ายรอบเอวของผู้เข้าร่วมพิธีเพื่อรักษาวิญญาณให้อยู่กับที่ มักมีการดำเนินพิธีกรรมเพื่อต้อนรับแขก ก่อนและหลังการเดินทางยาว และเป็นพิธีกรรมรักษาหรือหลังฟื้นตัวจากความเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังเป็นพิธีกรรมศูนย์กลางในการแต่งงานลาวลุ่ม และพิธีการตั้งชื่อเด็กแรกเกิด
การบูชาผีในชีวิตประจำวัน
ในชีวิตประจำวัน คนส่วนมากเคารพผีที่สถิตอยู่ในเรือนเจ้าที่และเรือนปู่ย่า (ศาลตาปู่) และเชื่อว่าปกป้องบริเวณใกล้เคียงจากอันตราย การถวายดอกไม้ธูปเทียน และมีการขอการคุ้มครองและความช่วยเหลือจากวิญญาณระหว่างการเปลี่ยนแปลงหรือช่วงยากลำบาก เทพเจ้าธรรมชาติมีเทพเจ้าที่สถิตอยู่ในต้นไม้ ภูเขาและป่า วิญญาณชั่วร้าย (ผีเผต) มีขวัญของคนชั่วในชาติก่อนหรือตายโหง เช่น ผีปอบ และผีดิบเทพเจ้าที่สัมพันธ์กับบางงสถานที่เช่น ครัวเรือน แม่น้ำหรือป่ามิได้ดีหรือชั่วในตัวเอง และบางครั้งของถวายจะรับประกันการช่วยหลือเกื้อกูลในกิจการของมนุษย์
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ความคิดเห็น เกี่ยวกับ ศาสนาผี ความเชื่อที่ถูกลืมเลือน
การขุดค้นที่บ้านเชียง จะเห็นได้ว่าการทำศพในยุคก่อนมีอารยธรรมอินเดียเข้ามา จะมีการเอาศพมาใส่ในภาชนะรูปทรงคล้ายน้ำเต้าซึ่งตรงกับความเชื่อในเอเชียอาคเนว่าพวกตนได้เกิดมาจากน้ำเต้าซึ่งมีตำนานของมันอยู่ลองไปศึกษาดู และภาชนะนั้นเองจะมีการเขียนหรือแกะลวดลายเป็นเส้นวนคล้ายจอมขวัญบนหัวของคนเรา ซึ่งเป็นความเชื่อว่าขวัญของคนตายจะขึ้นไปอยู่กับแถนหรือผีสูงสุดบนฟ้าซึ่งต่อมาพัฒนามาเป็นโกฎใส่กะดูกหรือโกฎใส่ศพพระเจ้าแผ่นดินในปัจจุบัน และไม่ต้องแปลกใจทำไมเราตบหัวคนอินเดียเบาๆแล้วเขาไม่โกรธแต่คนไทยดันโกรธ เพราะคนไทยถือเรื่องขวัญมาก่อนและขวัญที่สำคันที่สุดคือบนหัว ซึ่งคนไทยสมัยนี้บางคนยังไม่รู้ที่มาที่ไปของวัฒนธรรมตัวเองด้วยซ้ำ ขออภัยหากพิมผิดพอดีรีบและจำตัวสะกดไม่ค่อยได้เพราะเป็นคำที่ไม่ค่อยได้ใช้ในชีวิตจิง
ศาสนาผีมีอยู่ทั่วโลก ในยุโรปก่อนที่จะนับถือศาสนาคริสท์ ก็นับถือผีมาก่อน ต่อมารับศาสนาคริสท์ก็ค่อยจางไป ทุกวันนี้ฝรั่งเองก็ยังเชื่อเรื่องผีอยู่ ดูจากหนังฮอลลี่วู้ดสร้างหนังผีออกมาตลอด
คำว่า ผี เป็นคำไทเดิม หมายถึง เทวดา นั้นแหล่ะ
แต่พอรับความเชื่อฮินดูเข้ามา ก็ยกย่องเทวดาให้สูง กดผีให้ต่ำลง
ความเชื่อเรื่องผีของคนเรา มันมีมาคู่มนุษย์ทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าศาสนาใดๆก็ยังมีคนเชื่อเรื่องภูตผีเช่นเดิม เพียงแต่ว่าจะเชื่อแบบใหน เชื่อแล้วจะต้องงมงายเซ่นไหว้บูชากันหรือไม่ก็เท่านั้น หรือเชื่อแล้วทำบุญอุทิศกุศลไปให้อย่างหลังนี้พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ อย่างแรกสอนอย่าให้พากันงมงาย
ผมว่าการปราบนาคของพระพุทธเจ้าไม่ใช้การปราบศาสนาผีของศาสนาพุทธ แต่ผมมองว่ามันเป็นการแต่งเรื่องข่มศาสนาพราหมณ์มากกว่า เหมือนกับการแต่งมหากาฬของอินเดียที่มีการแต่งเรื่องข่ม ตัวอย่าง เช่น การแต่งเรื่องข่มกันของผู้นับถือ พระนารายณ์ กับ ผู้นับถือ ศิวะ และผู้ที่นับถือผีก็เป็นแค่ชนเผ่าต่างๆ ที่อยู่บริเวณภาคอีสานและภาคเหนือและลาว และชนเผ่าเหล่านี้ก็ไม่มีอำนาจมากพอที่จะต่อรองกับพวกอาณาจักรใหญ่ๆได้เลยและที่สำคัญศาสนาผีไม่มีนาค
บางเผ่าพึ่งย้ายเข้ามาสมัย ร. 3 ร. 5 เอง คุณควรจะมองอีกมุม มุมที่ไม่ใช้ทั้งของคุณหรือของดังเดิม แต่มองทั้งหลายๆมุมที่แตกต่าง จากมุมมองของลูกหลานคนที่นับถือผีและชนเผ่าในภาคอีสาน