ละคร วันทอง 2564 ละครแนวโรแมนติกดราม่า ที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมไทยสุดคลาสสิก “ขุนช้าง ขุนแผน” โดยนำเสนอมุมมองใหม่ผ่านตัวละคร “วันทอง” ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงสองใจมากว่า 200 ปี ละครเรื่องนี้เล่าเรื่องราวการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีของผู้หญิง และชวนผู้ชมตั้งคำถามถึงความจริงเบื้องหลังตำนานรักสามเส้านี้
เรื่องราวของ “นางวันทอง” หญิงสาวรูปงามแห่งเมืองสุพรรณ ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญการไต่สวนจาก “พระพันวษา” หลังเกิดศึกชิงตัวเธอระหว่าง “ขุนแผน” และ “ขุนช้าง” สองชายหนุ่มที่เคยเป็นเพื่อนรักแต่กลายเป็นคู่แข่งเพราะหลงรักเธอคนเดียวกัน
วันทองถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นหญิงสองใจ เพราะเธอเคยใช้ชีวิตสมรสกับทั้งขุนช้างและขุนแผนในช่วงเวลาที่ต่างกัน ด้วยเหตุนี้ พระพันวษาจึงยื่นคำขาดให้เธอต้องเลือกว่าจะอยู่กับใครเพื่อยุติความขัดแย้ง แต่เมื่อวันทองไม่สามารถเลือกได้ด้วยเหตุผลที่ซับซ้อนทั้งความรักและหน้าที่ พระพันวษาโกรธจัดและสั่งประหารชีวิตเธอทันที
เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม วันทองขอโอกาสสุดท้ายในการเล่าเรื่องราวของเธอจากมุมมองของตัวเอง เผยให้เห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ในความรักอันซับซ้อนนี้ ละครดำเนินเรื่องผ่านการย้อนอดีต แสดงให้เห็นชีวิตของวันทองตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เธอพบรักกับขุนแผน ชายหนุ่มรูปงามที่เธอรักสุดหัวใจ แต่ต่อมาถูกขุนช้าง เพื่อนสนิทของขุนแผนที่หลงรักเธออย่างลึกซึ้ง ใช้เล่ห์กลแย่งตัวไป เรื่องราวยิ่งทวีความเข้มข้นเมื่อขุนแผนกลับมาทวงคืนเธอ ส่งผลให้เกิดการต่อสู้และโศกนาฏกรรมมากมาย
ตลอดทั้งเรื่อง วันทองพยายามทำหน้าที่แม่และภรรยาที่ดี โดยไม่ปรารถนาจะเป็น “เมียเอก” หรือยึดติดกับผู้ชายคนใดคนหนึ่ง แต่สังคมกลับตัดสินเธอจากมุมมองที่คับแคบ ละครชวนให้ผู้ชมไตร่ตรองว่า “วันทองสองใจจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงเหยื่อของความโลภและความไม่รู้จักพอของชายทั้งสอง?”
จุดเด่นของละคร วันทอง 2564
ละคร “วันทอง” 2564 ต่างจากวรรณคดีดั้งเดิม โดยนำเสนอการตีความใหม่ที่เน้นพลังหญิงและการต่อสู้เพื่อตัวเอง ในตอนจบ วันทองไม่ยอมจำนนต่อคำตัดสิน เธอเล่าเรื่องราวของตัวเองอย่างทรงพลังจนสะเทือนใจผู้ชม และแม้จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมได้ทั้งหมด แต่ละครทิ้งคำถามสำคัญไว้ให้ผู้ชมตีความถึงความยุติธรรมและค่านิยมของสังคม
เรื่องนี้กำกับโดย สันต์ ศรีแก้วหล่อ และเขียนบทโดยทีมนักเขียนฝีมือดีอย่าง พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์ และคณะ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 และได้รับความนิยมอย่างสูงด้วยเรตติ้งที่พุ่งถึง 7.8 ในตอนจบ ถือเป็นหนึ่งในละครที่ประสบความสำเร็จที่สุดของช่องวัน 31 ในปีนั้น
ต่อไปนี้คือเนื้อหาของละคร “วันทอง” ปี 2564 ฉบับย่อแบบครบรส โดยไม่ต้องเกริ่นยาว แต่จะเล่าเหตุการณ์สำคัญ ๆ และตอนจบให้ฟังแบบชัด ๆ
จุดเริ่มต้น
วันทอง (ใหม่-ดาวิกา) เป็นสาวงามแห่งเมืองสุพรรณ เธอตกหลุมรัก ขุนแผน (ป้อง-ณวัฒน์) ชายหนุ่มรูปงามที่มีเสน่ห์ ทั้งสองรักกันมากและแต่งงานกัน แต่ด้วยความที่ขุนแผนเป็นนักรบและมีนิสัยเจ้าชู้ เขามักจากบ้านไปทำศึกนาน ๆ ระหว่างนั้น ขุนช้าง (ชาคริต แย้มนาม) เพื่อนสนิทของขุนแผนที่แอบรักวันทองมานาน ฉวยโอกาสนี้ใช้เล่ห์กลหลอกวันทองว่าขุนแผนตายแล้วในศึกสงคราม และขอวันทองแต่งงานด้วย
วันทองเสียใจมากและจำใจยอมแต่งกับขุนช้างเพื่อให้ลูกในท้อง (ลูกของขุนแผน) มีพ่อ ต่อมาขุนแผนกลับมาและรู้ความจริง เขาโกรธจัด บุกไปชิงวันทองคืนจากขุนช้าง เกิดการต่อสู้กันครั้งใหญ่ ขุนช้างแพ้ แต่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขาพยายามแย่งวันทองกลับมาอีกหลายครั้ง สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเมื่อวันทองถูกมองว่า “สองใจ” เพราะอยู่กับทั้งสองคนในช่วงเวลาต่างกัน
จุดพีค
เรื่องถึงหู พระพันวษา (พันเอก วันชนะ) ผู้มีอำนาจสูงสุดในเมือง เขาเรียกตัววันทองมาสอบสวนและสั่งให้เธอเลือกว่าจะอยู่กับขุนแผนหรือขุนช้าง เพื่อยุติความวุ่นวาย วันทองปฏิเสธที่จะเลือก โดยบอกว่าเธอไม่ได้รักใครแบบสุดหัวใจอีกต่อไปแล้ว เธอแค่พยายามทำหน้าที่แม่ของลูก และไม่ต้องการให้ผู้ชายคนใดครอบครองเธอ พระพันวษาโกรธมากที่วันทองไม่ยอมทำตามคำสั่ง จึงตัดสินให้เธอต้องถูกประหาร
การต่อสู้เพื่อตัวเอง
ก่อนถูกประหาร วันทองขอโอกาสเล่าเรื่องราวจากมุมมองของเธอ เธอย้อนอดีตให้ทุกคนฟังว่าเธอถูกลิขิตให้อยู่ในรักสามเส้านี้โดยไม่เต็มใจ เธอรักขุนแผนจริง แต่ถูกขุนช้างหลอก และเมื่อขุนแผนกลับมา เธอก็พยายามรักษาครอบครัวไว้เพื่อลูก วันทองชี้ว่าความโลภและการแย่งชิงของผู้ชายทั้งสองต่างหากที่ทำลายชีวิตเธอ ไม่ใช่ความสองใจของเธอ
ถึงแม้วันทองจะเล่าเรื่องได้สะเทือนใจแค่ไหน พระพันวษาก็ไม่เปลี่ยนคำตัดสิน เธอถูกประหารในที่สุด แต่ก่อนตาย วันทองทิ้งคำพูดสุดท้ายว่า “ข้าจะไม่ยอมให้ใครตัดสินชีวิตข้าอีก” และขอให้คนรุ่นหลังตัดสินใจเองว่าความจริงคืออะไร หลังวันทองตาย ขุนแผนและขุนช้างต่างเสียใจ แต่ก็ยังคงโทษกันและกันต่อไป โดยไม่มีใครได้ครอบครองเธอจริง ๆ
ละครจบแบบโศกนาฏกรรมผสมแง่คิด วันทองตาย แต่เธอได้พิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่แค่หญิงสองใจอย่างที่สังคมตราหน้า เธอเป็นเหยื่อของความรักและอำนาจของผู้ชายในยุคนั้น ละครทิ้งคำถามให้คนดูว่า “ถ้าคุณเป็นวันทอง คุณจะเลือกอะไร?” และสะท้อนถึงความอยุติธรรมในสังคมที่ตัดสินผู้หญิงจากมุมมองชายเป็นใหญ่
ต่อไปนี้คือรีวิวละคร “วันทอง” ปี 2564 แบบครบรส ทั้งข้อดี ข้อด้อย และความรู้สึกโดยรวมจากมุมมองที่เป็นกลาง แต่เต็มไปด้วยข้อมูล เพื่อให้คุณเห็นภาพชัด ๆ
ภาพรวม
“ละคร วันทอง 2564” เป็นละครที่หยิบวรรณคดี “ขุนช้าง ขุนแผน” มาตีความใหม่ในมุมมองของนางวันทอง โดยเน้นประเด็นพลังหญิง (Female Empowerment) และตั้งคำถามถึงค่านิยมเก่า ๆ ในสังคมไทย ออกอากาศทางช่องวัน 31 ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2564 นำแสดงโดย ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ (วันทอง), ป้อง-ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ (ขุนแผน), และ ชาคริต แย้มนาม (ขุนช้าง) ผลงานกำกับของ สันต์ ศรีแก้วหล่อ ที่เคยฝากผลงานดัง ๆ มาแล้ว
(ข้อดี)
การตีความใหม่ที่ทันสมัย
ละครชูจุดเด่นด้วยการเล่าเรื่องจากมุมมองวันทอง แทนที่จะโฟกัสแค่ขุนช้าง-ขุนแผนแบบดั้งเดิม ทำให้ตัวละครวันทองมีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่หญิงสองใจ แต่เป็นผู้หญิงที่ต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีและลูก แถมยังท้าทายการตัดสินของสังคมชายเป็นใหญ่ได้อย่างแหลมคม
นักแสดงเคมีดีเยี่ยม
→ ใหม่-ดาวิกา ถ่ายทอดวันทองได้ทั้งสวยสง่าและเข้มแข็ง ฉากดราม่าที่ต้องเล่าเรื่องชีวิตตัวเองก่อนตายคือพีคมาก น้ำตาแตกกันทั้งบ้าน
→ ป้อง-ณวัฒน์ ในบทขุนแผนหล่อเหลา มีเสน่ห์แบบเจ้าชู้แต่ก็อบอุ่น เป็นขุนแผนที่คนดูทั้งรักทั้งหมั่นไส้
→ ชาคริต แย้มนาม เล่นขุนช้างได้น่าสงสารและน่าหงุดหงิดในเวลาเดียวกัน ทำให้เห็นความรักที่บิดเบี้ยวของตัวละครนี้ชัดเจน
โปรดักชันสุดปัง
งานภาพสวย คอสตูมอลังการตามยุคสมัย ฉากต่อสู้ของขุนแผนกับขุนช้างทำได้ตื่นเต้นสมจริง ประกอบกับเพลงประกอบอย่าง “สองใจ” ที่ขับร้องโดย ดา เอ็นโดรฟิน ยิ่งเพิ่มอารมณ์ให้ละครได้ดี
เรตติ้งพุ่ง
กระแสดีตั้งแต่ต้นจนจบ ตอนจบทำเรตติ้งได้ถึง 7.8 สะท้อนว่าคนดูอินและติดตามเยอะมาก
(ข้อด้อย)
เนื้อเรื่องยืดเยื้อบางช่วง
บางตอนมีการย้อนอดีตเยอะเกินไป ทำให้รู้สึกเนือย โดยเฉพาะช่วงกลางเรื่องที่โฟกัสชีวิตวันทองกับขุนช้างนานเกินจนคนดูอาจเบื่อ
ตัวละครรองไม่เด่น
นอกจากสามตัวหลัก (วันทอง, ขุนแผน, ขุนช้าง) ตัวละครอื่น ๆ เช่น พระพันวษาหรือตัวละครสมทบแทบไม่มีบทบาทเด่น ทำให้โลกของเรื่องดูแคบไปหน่อย
ตอนจบอาจไม่ถูกใจทุกคน
การที่วันทองตายตามคำสั่งพระพันวษา แม้จะมีพลังในการเล่าเรื่องตัวเองก่อนตาย แต่บางคนรู้สึกว่ามันยังไม่ให้ความยุติธรรมกับวันทองเต็มที่ เหมือนเธอยังเป็นเหยื่อของระบบอยู่ดี
คะแนนจากใจ(sence9.com ) 8/10
แนะนำให้ดูถ้าชอบละครพีเรียดที่มีมิติตัวละครลึก ๆ แต่ถ้าชอบตอนจบแฮปปี้ อาจต้องทำใจนิดนึง
“ละคร วันทอง” 2564 เป็นละครที่กล้าแหวกขนบวรรณคดีเดิม ๆ และทำสำเร็จในแง่การนำเสนอมุมมองใหม่ที่น่าสนใจ เหมาะกับคนที่ชอบละครดราม่าเข้มข้นผสมแง่คิดสังคม งานภาพและการแสดงคือจุดแข็งที่ทำให้ดูเพลิน แม้จะมีช่วงยืดเยื้อบ้าง แต่โดยรวมแล้วคุ้มค่าที่จะดู โดยเฉพาะถ้าคุณอยากเห็นวันทองในเวอร์ชันที่ไม่ใช่แค่ “ผู้หญิงสองใจ” แต่เป็นนักสู้ที่ท้าทายโชคชะตา
ต่อไปนี้คือความรู้สึกส่วนตัว ละคร วันทอง” ปี 2564 แบบเล่าจากใจ ไม่มีฟิลเตอร์ แต่ยังคงอิงจากเนื้อหาของละครให้คุณสัมผัสได้ถึงอารมณ์จริง ๆ ที่เกิดขึ้นตอนดู
ตอนเริ่มดูครั้งแรก ต้องยอมรับว่าตื่นเต้นมาก เพราะ “ขุนช้าง ขุนแผน” เป็นวรรณคดีที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก แต่พอรู้ว่าละครจะเล่าผ่านมุมมองของวันทอง แทนที่จะโฟกัสแค่ผู้ชายสองคนเหมือนเดิม มันทำให้รู้สึกสดใหม่และอยากรู้ว่าเขาจะเล่ายังไง
ช่วงแรก – อินสุด ๆ
ตอนที่วันทอง (ใหม่-ดาวิกา) ตกหลุมรักขุนแผน (ป้อง-ณวัฒน์) คือฟินมากเลย เคมีของทั้งคู่ดีมาก ป้องในบทขุนแผนหล่อแบบมีเสน่ห์สุด ๆ ส่วนใหม่ก็สวยหวาน ดูเป็นคู่รักที่สมบูรณ์แบบ แต่พอดูไปถึงจุดที่ขุนช้าง (ชาคริต) เริ่มใช้เล่ห์กลหลอกวันทองว่าขุนแผนตาย เริ่มรู้สึกหงุดหงิดแทนวันทองเลย รู้สึกสงสารเธอที่ต้องจำใจแต่งงานกับขุนช้างทั้งที่ใจยังรักขุนแผนอยู่ อารมณ์ตอนนี้คือทั้งโมโหทั้งเห็นใจ
ช่วงกลาง – ลุ้นระทึกแต่ก็มีเบื่อบ้าง
พอขุนแผนกลับมาแล้วบุกไปชิงวันทองคืนจากขุนช้าง ฉากต่อสู้มันมาก สะใจสุด ๆ ที่เห็นขุนแผนสู้เพื่อคนที่รัก แต่หลังจากนั้นที่วันทองต้องวนเวียนอยู่ระหว่างสองคนนี้ บางทีก็รู้สึกว่าเรื่องยืดไปหน่อย โดยเฉพาะช่วงที่วันทองอยู่กับขุนช้างนาน ๆ รู้สึกว่ามันเนือย ๆ เหมือนอยากให้ข้ามไปจุดพีคเร็ว ๆ
ช่วงท้าย – ดราม่าน้ำตาแตก
ฉากที่วันทองถูกเรียกไปไต่สวนโดยพระพันวษา แล้วเธอขอเล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองก่อนถูกประหาร คือพีคสุดของเรื่องเลย ใหม่-ดาวิกาเล่นได้ถึงมาก ๆ น้ำตาไหลตามไม่รู้ตัว รู้สึกสะเทือนใจที่วันทองพยายามอธิบายว่าเธอไม่ใช่คนสองใจ แต่เป็นเหยื่อของสถานการณ์และความเห็นแก่ตัวของผู้ชายทั้งสองคน คำพูดของเธอที่บอกว่า “ข้าจะไม่ยอมให้ใครตัดสินชีวิตข้าอีก” มันทรงพลังมาก ถึงแม้สุดท้ายเธอจะตาย แต่รู้สึกว่าเธอชนะในแง่ที่ได้บอกเล่าความจริงของตัวเอง
ตอนจบ – ค้างคาแต่ทิ้งแง่คิด
ตอนวันทองถูกประหาร รู้สึกเศร้าและอึน ๆ เพราะลึก ๆ ก็แอบหวังว่าเธอจะรอดหรือได้ชีวิตใหม่ แต่พอคิดอีกที การตายของเธอก็เหมือนเป็นการปลดปล่อยจากวงจรบ้าบอของขุนแผนกับขุนช้าง มันทำให้คิดเยอะเลยว่า ถ้าเป็นเรา จะเลือกอะไรในสถานการณ์แบบนี้? แล้วสังคมสมัยก่อนมันโหดร้ายกับผู้หญิงจริง ๆ
โดยรวมแล้ว “ละคร วันทอง” 2564 ทำให้รู้สึกหลากอารมณ์มาก ตั้งแต่ฟิน สงสาร โมโห ลุ้น ไปจนถึงสะเทือนใจ เป็นละครที่ดูแล้วไม่จบแค่ความบันเทิง แต่ได้แง่คิดกลับมาด้วย โดยเฉพาะเรื่องความยุติธรรมและการตัดสินคนอื่นจากมุมมองแคบ ๆ ชอบที่ละครกล้าฉีกกรอบเดิม ๆ ของวันทองให้ดูเป็นคนจริง ๆ ที่มีทั้งจุดแข็งและความเปราะบาง แม้จะมีบางช่วงที่รู้สึกยืด แต่ภาพรวมคือประทับใจและคุ้มค่าที่ได้ดู
ละคร วันทอง 2564
สตรีผู้อุทิศตนเพื่อ 2 บทบาท คือเมียและแม่ กลับถูกตราหน้าว่าเป็นหญิง 2 ใจ มากว่า 200 ปี เร็ว ๆ นี้ ความจริง นางวันทองสองใจ รักขุนแผน ขุนช้าง มีคำตอบ พร้อมมุมมองใหม่ของ วันทอง ที่คนทั้งแผ่นดินจะต้องได้รับรู้
การเล่าเรื่องผ่านตัวละครวันทอง ที่สื่อให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เธอต้องการจะทำหน้าที่แม่และเมียที่ดี โดยไม่ต้องการใช้ชีวิตในฐานะเมียเอก แต่ทำไมกลับถูกสังคมประณาม ชวนทุกคนตั้งคำถามว่าการที่วันทองถูกตราหน้ามากว่า 200 ปี นั้นความจริงเป็นเช่นไร ? เรื่องราวการลุกขึ้นสู้เพื่อศักดิ์ศรีของผู้หญิงทุกคน ร่วมค้นหาไปพร้อม ๆ กัน ว่าจริงหรือที่ วันทอง สองใจ หรือเพราะความไม่รู้จักพอของชาย 2 คน
ละครเรื่อง วันทอง ได้ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมอมตะสุดคลาสสิก ขุนช้าง ขุนแผน โดยได้ถูกนำมาตีความใหม่ ตำนานบทใหม่ของ วันทอง ที่คุณอาจไม่เคยรู้ กับการลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี ที่ใคร ๆ ต่างตราหน้าว่าเธอเป็นหญิงสองใจ
ดัดแปลงจากวรรณคดี : ขุนช้างขุนแผน
บทโทรทัศน์โดย : พิมพ์มาดา พัฒนอลงกรณ์, พิมสิรินทร์ พงษ์วานิชสุข, จุติมา แย้มศิริ
กำกับการแสดงโดย : สันต์ ศรีแก้วหล่อ
อำนวยการผลิตโดย : ถกลเกียรติ วีรวรรณ, นิพนธ์ ผิวเณร
นักแสดง
ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ รับบท วันทอง
ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท ขุนแผน
ชาคริต แย้มนาม รับบท ขุนช้าง
ตงตง กฤษกร กนกธร รับบท พลายงาม/พระไวย
เฌอเบลล์ ลัลณ์ลลิน เตจะสา เวศซ์ รับบท บัวคลี่
เบญ เรวิญานันท์ ทาเกิด รับบท ลาวทอง
ลิลลี่ ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ รับบท น้อย
เฟรช อริศรา วงษ์ชาลี รับบท สายทอง
ก้อย กรกช แข็งขัน รับบท แก้วกิริยา
เบิร์ด พันเอกวันชนะ สวัสดี รับบท พระพันวษา
นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์ รับบท พระสุริยงเทวี
ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี รับบท เทพทอง
จุ๋ม อุทุมพร ศิลาพันธุ์ รับบท ศรีประจัน
เจี๊ยบ ปวีณา ชารีฟสกุล รับบท ทองประศรี
รอง เค้ามูลคดี รับบท ขรัวตาจู