สวัสดีทุกคน เราจะมาพูดถึงเรื่องราวนึงที่อ่านแล้วแบบ… โอ้โห เจ็บจี๊ดเลย เป็นเรื่องของคนที่รู้สึกว่า “รู้สึกตัวเองดีได้ไม่เท่าคนเก่าเค้าเลย” อ่านแล้วมันสะเทือนใจมาก วันนี้เราจะมาเล่าบทความนี้ให้ฟังแบบสรุปให้ละเอียด แบบ อ่านแล้วมันจุกอก เป็นเรื่องของน้องคนนึงที่คบกับแฟนมา 1 ปีแล้ว แต่รู้สึกว่าตัวเองเหมือน “ไม่ดีพอ” เมื่อเทียบกับแฟนเก่าของแฟนตัวเอง โอ๊ย มันคืออะไรกันเนี่ย มาดูกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ความสัมพันธ์ตอนนี้เป็นยังไง
น้องเค้าบอกว่าแฟนเค้าคนนี้เนี่ย จริงๆ ก็ดีมากนะ เงินเดือนออก แฟนให้ถือเงินทั้งหมดเลย แถมวันหยุดก็พาไปกินของอร่อย ไปเที่ยวที่ที่เราอยากไป ฟังดูเหมือนแฟนในฝันเลยใช่มั้ย แต่ ปัญหามันอยู่ที่ว่า… เทศกาลสำคัญๆ เช่น วันวาเลนไทน์ วันครบรอบ แฟนเค้าไม่เคยให้ของขวัญอะไรเลย ยกเว้นวันเกิดที่ได้บ้าง แล้วยิ่งไปกว่านั้น แฟนไม่ค่อยลงรูปคู่ในโซเชียลเลย ถ้าไม่บอกให้ลงก็คือไม่ลง แบบ… เฮ้ย ฉันล่องหนรึเปล่าเนี่ย?
ความเจ็บปวดจากการเปรียบเทียบ
ทีนี้ มาถึงจุดพีคของเรื่อง น้องเค้าไปเจอ “ความทรงจำ” ในเฟซบุ๊กของแฟน แล้วแบบ… ช็อก แฟนเค้าลงรูปแฟนเก่าแทบทุกคนเลย แถมดูจากโพสต์เก่าๆ เนี่ย แฟนคนนี้ดูเหมือนจะคลั่งรักแฟนเก่ามากกก วันครบรอบลงรูปหวานๆ เทศกาลต่างๆ มีของขวัญให้ตลอด แถมแฟนเก่าก็หน้าตาดีสุดๆ น้องเลยเริ่มรู้สึกว่า “ทำไมแฟนเก่าได้แบบนั้น แต่พอเป็นฉัน ทำไมมันเหมือนฉันต้องร้องขอทุกอย่าง?” แม้แต่เรื่องบนเตียงก็เดือนละแค่ 2-3 ครั้ง ซึ่งน้องรู้สึกว่ามันน้อยไป แถมทุกอย่างที่ทำเพื่อแฟน เช่น ซื้อของที่แฟนชอบ คิดถึงแฟนก่อนตลอด สุดท้ายน้องรู้สึกว่า “ฉันดีไม่พองั้นเหรอ?”
ความรู้สึกของน้อง
น้องเค้าบอกว่าเค้าทุ่มเทให้แฟนมาก อยากได้อะไรน้องก็ยอมให้หมด แต่รู้สึกว่าแฟนไม่เคยให้อะไรกลับมาเลย นอกจากเงินหรือพาไปเที่ยวบ้าง แต่มันเหมือนขาด “ความรู้สึก” อ่ะ ทุกอย่างที่อยากได้จากแฟน เช่น การลงรูป การให้ของขวัญ กลายเป็นต้องร้องขอ แถมยังรู้สึกว่าแฟนเก่าดูดีกว่าในทุกๆ ด้าน ทั้งหน้าตา ทั้งความรักที่แฟนเคยให้ น้องเลยเริ่มสงสัยในตัวเองว่า “ฉันดีไม่พอรึเปล่า?”
เอาล่ะทุกคน อ่านเรื่องนี้จบแล้วรู้สึกยังไงบ้าง? ส่วนตัวเรานะ อ่านแล้วมันเจ็บใจแทนเลย เราจะมาเม้าท์กันต่อว่าเราคิดอะไรกับเรื่องนี้บ้าง
การเปรียบเทียบคือสิ่งที่ทำร้ายเราเอง
ก่อนอื่นเลย อยากบอกน้องว่า การที่เราไปเปรียบเทียบตัวเองกับแฟนเก่าของแฟนเนี่ย มันเหมือนเราเอาตัวเองไปทิ่มแทงใจตัวเองเลย โซเชียลมีเดียมันหลอกลวงนะทุกคน สิ่งที่เราเห็นใน “ความทรงจำ” ของแฟน อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของความสัมพันธ์นั้นก็ได้ บางทีแฟนเก่าอาจจะเคยมีปัญหากัน แต่แฟนเลือกโพสต์แค่โมเมนต์ดีๆ ก็ได้ แล้วอีกอย่าง การที่แฟนเคยคลั่งรักแฟนเก่า ไม่ได้แปลว่าเค้าไม่รักน้องนะ แต่อาจจะเป็นเพราะเค้าเปลี่ยนไป หรือความสัมพันธ์ตอนนี้มันต่างจากเมื่อก่อน
การสื่อสารคือกุญแจ
จากที่อ่านมา เราคิดว่าน้องอาจจะต้องลองคุยกับแฟนตรงๆ เลย แบบว่า “เฮ้ย ที่รัก ฉันรู้สึกว่าเราอยากได้ความหวานจากเธอนะ อย่างเช่นลงรูปคู่บ้าง หรือมีอะไรเซอร์ไพรส์ในวันสำคัญบ้าง” เพราะบางทีแฟนอาจจะไม่รู้ว่าน้องต้องการอะไร ผู้ชายบางคน (หรือบางทีก็ผู้หญิง) อาจจะไม่ได้อ่อนไหวเรื่องพวกนี้ ถ้าไม่บอกเค้าก็อาจจะไม่รู้ว่ามันสำคัญกับเรา แถมเรื่องที่แฟนไม่ค่อยลงรูป ลองชวนเค้าคุยดูว่าน้องรู้สึกยังไง แล้วบอกสิ่งที่อยากได้จากเค้าให้ชัดเจน
ความรักต้องให้ใจทั้งสองฝ่าย
อีกอย่างที่เราคิดคือ ความรักมันต้องสมดุลนะ น้องบอกว่าเค้าทุ่มเทให้แฟนทุกอย่าง แต่รู้สึกว่าไม่ได้อะไรกลับมาเลย อันนี้มันอาจจะเป็นสัญญาณว่าแฟนอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของน้องมากพอ หรือเค้าอาจจะไม่รู้ว่าน้องต้องการอะไรแบบนี้จริงๆ ถ้าคุยแล้วยังไม่ดีขึ้น อาจจะต้องถามตัวเองว่า “ความสัมพันธ์นี้มันทำให้เรามีความสุขจริงๆ มั้ย?” เพราะน้องสมควรได้รับความรักที่ทำให้รู้สึกมั่นใจและมีความสุข ไม่ใช่รู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอ
อย่าปล่อยให้โซเชียลมีเดียมากำหนดคุณค่า
สุดท้าย เรื่องที่แฟนเก่าหน้าตาดี หรือแฟนลงรูปแฟนเก่าเยอะๆ อย่าให้มันมากระทบใจน้องเลย ความสวยงามมันไม่ได้วัดกันที่หน้าตา หรือจำนวนรูปในโซเชียลนะ แต่เป็นเรื่องของความมั่นใจและความรักที่เรามีให้ตัวเอง น้องบอกว่าแฟนดีมากในหลายๆ ด้าน ลองโฟกัสที่สิ่งดีๆ ที่เค้ามอบให้ แล้วคุยกันเพื่อปรับความเข้าใจ อาจจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้
สรุป เรื่องนี้มันสะท้อนความรู้สึกของคนที่อยู่ในความสัมพันธ์แล้วรู้สึกว่า “ฉันดีไม่พอ” ซึ่งเราเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเคยรู้สึกแบบนี้บ้าง เราแนะนำว่าน้องควรลองคุยกับแฟนแบบเปิดใจ และที่สำคัญ ต้องรักตัวเองให้มากๆ ด้วย
ถ้าเพื่อนๆ มีประสบการณ์หรือคำแนะนำอะไร อย่าลืมกดแชร์ด้วยน้าไว้เจอกันใหม่
