หุ้นที่ดีไม่ต้องเท่ แต่อยู่กับเรานานเหมือนแฟนที่ดี

หุ้นที่ดีไม่ต้องเท่ แต่อยู่กับเรานานเหมือนแฟนที่ดี

การลงทุนทุกวันนี้ เต็มไปด้วยเรื่องราวตื่นเต้นที่ทำให้หัวใจเต้นแรง หุ้นตัวไหนกำลังฮอต ตัวไหนขึ้นวันละ 10% ตัวไหนเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำๆ ที่ทุกคนพูดถึงกันทั้งโซเชียล มีข่าวใหม่ๆ ออกมาทุกวันให้ตามไล่ล่า บางคนรู้สึกตื่นเต้นถึงความหวือหวา ความหวังว่าจะรวยเร็ว มันดึงดูดใจได้มากจริงๆ แต่พอเวลาผ่านไปสักพัก หลายคนก็เริ่มถามตัวเองว่า ทำไมพอร์ตถึงขึ้นๆ ลงๆ ไม่ค่อยมั่นคง ทำไมกำไรที่เคยได้มาหายวับไปกับตาในช่วงตลาดปรับตัว หรือบางทีก็รู้สึกเหนื่อยกับการต้องคอยจับตาดูข่าว คอยตัดสินใจซื้อขายตลอดเวลา ที่จริงแล้ว การลงทุนที่ยั่งยืนและทำให้หลายคนร่ำรวยอย่างแท้จริงในระยะยาว มักไม่ได้มาจากความตื่นเต้นชั่วคราวพวกนั้นเลย แต่มาจากสิ่งที่ดูธรรมดา น่าเบื่อเสียด้วยซ้ำ สิ่งที่หลายคนมองข้ามเพราะมันไม่มีแสงสี ไม่มีกระแสฮือฮา แต่กลับเป็นสิ่งที่มั่นคงที่สุด เหมือนแฟนที่ดีที่อยู่เคียงข้างกันไปนานแสนนาน ไม่ได้หล่อเหลาหรือรวยล้นฟ้าแต่แรกเจอ แต่ซื่อสัตย์ ดูแลกันดี และทำให้ชีวิตมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา
หุ้นปันผลคืออะไร ทำไมถึงเหมาะกับคนขี้เกียจเทรดแต่รักรายได้

หุ้นปันผลคืออะไร ทำไมถึงเหมาะกับคนขี้เกียจเทรดแต่รักรายได้

การลงทุน หุ้นปันผลถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับคนที่มองหาความมั่นคงและรายได้ที่เข้ามาเรื่อยๆ โดยไม่ต้องนั่งเฝ้าจอซื้อขายทุกวัน การลงทุนแบบนี้เหมือนกับการเป็นเจ้าของส่วนเล็กๆ ในธุรกิจดีๆ ที่แข็งแรง พอบริษัททำกำไรได้ดี ก็จะแบ่งปันกำไรส่วนหนึ่งกลับมาให้ผู้ถือหุ้นในรูปแบบของเงินปันผล ซึ่งไหลเข้ากระเป๋าเป็นช่วงๆ แบบอัตโนมัติ ทำให้หลายคนเปรียบมันเหมือนต้นไม้ที่ออกผลผลิตให้เก็บกินได้ทุกฤดู โดยไม่ต้องดูแลมากนัก แถมยิ่งถือไว้นาน พลังของการทบต้นก็ยิ่งทำให้ผลตอบแทนเติบโตขึ้นอย่างน่าประทับใจ หุ้นปันผลจึงไม่ใช่แค่การลงทุนเพื่อกำไรระยะสั้น แต่เป็นการสร้างกระแสเงินสดที่ยั่งยืน เหมาะมากกับคนที่อยากให้เงินทำงานให้ตัวเองอย่างเงียบๆ และสร้างความมั่งคั่งไปทีละก้าวในระยะยาว
กราฟหุ้นไม่ได้ยาก แค่ต้องอ่านเหมือนอ่านใจคน

กราฟหุ้นไม่ได้ยาก แค่ต้องอ่านเหมือนอ่านใจคน

ทุกครั้งที่เปิดกราฟหุ้นขึ้นมา สิ่งที่เห็นไม่ใช่แค่เส้นสีเขียวสีแดง หรือแท่งเทียนวิ่งขึ้นลงแบบสุ่ม ๆ แต่สิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ตรงนั้นจริง ๆ คือ “หัวใจ” และ “อารมณ์” ของคนเป็นล้านคนทั่วโลกที่กำลังซื้อขายกันอยู่ในขณะนั้นบางคนกำลังตื่นเต้นสุดขีดเพราะเห็นกำไรเพิ่ม บางคนกำลังตัวสั่นเพราะขาดทุนหนัก บางคนกำลังโลภจัดจนมือสั่นกดซื้อเพิ่ม บางคนกำลังกลัวจนหน้าซีดรีบกดขายหนี ทุกความรู้สึกเหล่านี้… มันถูกถ่ายทอดออกมาเป็น “ราคา” และกลายเป็นรอยบนกราฟที่เราเห็นทุกวันดังนั้น การดูกราฟหุ้นจึงไม่ใช่แค่การดูตัวเลข แต่เป็นการ “อ่านใจคนหมู่มาก” ที่กำลังรวมตัวกันเป็นพายุอารมณ์ขนาดยักษ์ ใครอ่านอารมณ์นั้นออก ก็เหมือนมีแผนที่ลับที่บอกว่า “ตอนนี้คนส่วนใหญ่กำลังโลภจัดแล้ว” หรือ “ตอนนี้ทุกคนกำลังกลัวจนทิ้งของกันหมดแล้ว”และนั่นคือจุดที่เกมการลงทุนเริ่มสนุกจริง ๆ
พอร์ตแดงอย่าพึ่งร้องไห้ วิธีตั้งสติในวันที่ตลาดถล่ม

พอร์ตแดงอย่าพึ่งร้องไห้ วิธีตั้งสติในวันที่ตลาดถล่ม

พอร์ตใครเคยแดงบ้าง เห็นเลขแดงฉานเต็มจอแล้วใจหายแวบ ๆ แบบนี้ ไม่ต้องตกใจนะ เพราะมันคือ ‘พิธีกรรมบังคับ’ ที่นักลงทุนทุกคนบนโลกนี้ต้องเคยผ่านกันหมด แม้แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือเซียนหุ้นไทยที่เรานับถือกันยังเคยเจอวันแบบนี้มาแล้วนับไม่ถ้วน มาดูกันว่าทำไมตลาดถึงถล่ม ทำไมพอร์ตถึงแดงเถือก แล้วที่สำคัญที่สุด… เราจะตั้งสติและผ่านวันที่หน้าจอเป็นสีเลือดนี้ไปยังไง โดยที่ไม่ต้องเสียใจทีหลัง
ลงทุนในหุ้นกับฝากธนาคาร ต่างกันยังไงในยุคดอกเบี้ยขึ้นแรง

ลงทุนในหุ้นกับฝากธนาคาร ต่างกันยังไงในยุคดอกเบี้ยขึ้นแรง

“ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ใครเปิดแอปแบงก์แล้วเห็นดอกเบี้ยเงินฝากพุ่งจาก 0.5% ไป 3% ก็ตาโตกันถ้วนหน้า หลายคนเริ่มคิดว่า ‘แค่นอนกอดเงินฝากก็ได้ดอกดีแล้ว ไปเล่นหุ้นเสี่ยงตายทำไม’ แต่พอถามคนที่รวยจากหุ้นจริง ๆ เขากลับยิ้มแล้วบอกว่า ‘ยิ่งดอกเบี้ยขึ้นแรง ยิ่งเป็นโอกาสทองของคนเล่นหุ้นต่างหาก’ แล้วมันคนละโลกกันยังไง? ฝากเงินนอนหลับสบายจริงหรือ หุ้นมันยังน่ากลัวอยู่ไหมในวันที่ดอกเบี้ยพุ่งขนาดนี้ และสุดท้ายแล้วเงินล้านของเราควรนอนกอดบัญชีธนาคาร หรือควรวิ่งไปกอดหุ้นดี ๆ กันแน่
เริ่มต้นเล่นหุ้นยังไงให้ไม่เหมือนโดดลงบ่อจระเข้

เริ่มต้นเล่นหุ้นยังไงให้ไม่เหมือนโดดลงบ่อจระเข้

หลายคนมองว่าตลาดหุ้นคือสถานที่ที่เงินหายง่ายที่สุดในโลก แต่ความจริงแล้ว มันคือสถานที่ที่ “เงินงอกเงยได้มากที่สุดในโลก” เช่นกัน ถ้าเข้าใจกฎและเล่นให้ถูกวิธี คนที่กลัวหุ้นส่วนใหญ่ไม่ได้กลัวหุ้นหรอก แต่กลัว “ความไม่รู้” ของตัวเองต่างหาก
GDP โตแต่ทำไมเรายังรู้สึกจน คำตอบที่คนทั่วไปไม่อยากฟัง

GDP โตแต่ทำไมเรายังรู้สึกจน คำตอบที่คนทั่วไปไม่อยากฟัง

ทุกเย็นเปิดทีวีหรือเลื่อนฟีดดูข่าว เศรษฐกิจไทยปีนี้โต 4.5% นักวิเคราะห์ยิ้มแย้ม รัฐมนตรีแถลงข่าวว่า “ประเทศกำลังไปได้สวย” นักลงทุนต่างชาติแห่เข้ามา หุ้นขึ้น ตึกสูงผุดเป็นดอกเห็ด นักท่องเที่ยวแน่นเมือง GDP ต่อหัวเราก็แซงหลายประเทศในอาเซียนแล้ว แต่พอถึงสิ้นเดือน ปิดบิลค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนบ้าน ค่าเทอมลูก เงินในบัญชีเหลือแค่หลักร้อยหรือติดลบอีกแล้ว เพื่อน ๆ ก็บ่นเหมือนกันหมด “ทำไมเศรษฐกิจดี แต่เราจนลงวะ?” กับข้าวจานเดิมที่เคย 50 บาท ตอนนี้ 80-90 บาทแล้ว ค่าแรงขึ้นแค่ 300-500 บาท แต่ของกินของใช้ขึ้นพร้อมกันทีละ 20-30% ความรู้สึกมันเลยขัดกันสุด ๆ ตัวเลขบอกว่ารวยขึ้น แต่กระเป๋าตังค์กับความรู้สึกในใจบอกว่าจนลงทุกวัน นี่แหละคือปริศนาคลาสสิกที่คนทั่วโลกถามกันมานาน “GDP โตทำไมเรายิ่งจน” และคำตอบที่แท้จริงเนี่ย มันไม่ได้อยู่ที่เศรษฐกิจไม่โต แต่มันโตแบบที่คนส่วนใหญ่ “ไม่ได้แตะ ไม่ได้จับ ไม่ได้กิน” เลยจริง ๆ คำตอบมันโหด มันตรง และคนส่วนใหญ่ฟังแล้วอาจจะไม่ค่อยอยากเชื่อหรือไม่อยากยอมรับ เพราะมันสะท้อนความจริงของโครงสร้างสังคมและเศรษฐกิจที่ลึกและซับซ้อนกว่าที่ข่าวพาดหัวเคยเล่าให้ฟัง
เศรษฐกิจไทยอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก ปี 2025 นี้ยังรอดไหม

เศรษฐกิจไทยอยู่ตรงไหนในแผนที่โลก ปี 2025 นี้ยังรอดไหม

ปี 2025 นี้ เศรษฐกิจไทยเรามันเหมือนคนที่เคยตัวใหญ่ตัวโตสมัยเด็กๆ เดี๋ยวนี้เริ่มอายุขึ้นเลข 4 อ้วนลงพุงนิดนึง เดินเหินช้ากว่าเพื่อนฝูง แต่ยังหล่อยังเท่ ยังยืนหยัดอยู่กลางเวทีโลกได้แบบไม่ล้มไม่โค่น แค่เหนื่อยหอบกว่าคนอื่นในซอยนิดหน่อย เรายังติดท็อป 30 เศรษฐกิจโลกอยู่สบายๆ นะ แต่เพื่อนบ้านอย่างเวียดนามกำลังวิ่งแซงโค้งมาแบบแรงๆ ส่วนเรานี่เหมือนรถเก๋งญี่ปุ่นเครื่องเดิมๆ ขับชิลๆ แต่เริ่มรู้สึกว่า “เอ๊ะ หรือกูจะแก่แล้ววะ”
เมื่อเงินบาทอ่อนค่า ใครได้ ใครเสีย

เมื่อเงินบาทอ่อนค่า ใครได้ ใครเสีย

เงินบาทอ่อนหมายถึง 1 ดอลลาร์เคยแลกได้ 30 บาท ตอนนี้ต้องใช้ 33 บาทแล้ว มูลค่าบาทเราลดลงเมื่อเทียบเงินต่างชาติ ส่งผลสองด้านชัดเจน ฝั่งส่งออก ท่องเที่ยว คนรับเงินต่างชาติยิ้มกว้าง เพราะได้บาทเพิ่ม แต่ฝั่งนำเข้า ผู้บริโภค คนเป็นหนี้ต่างชาติเจ็บหนัก เพราะทุกอย่างแพงขึ้น ในปี 2025 นี้ บาทผันผวนจากเศรษฐกิจโลกช้า ท่องเที่ยวลด สงครามการค้า เราจะมาดูว่าใครได้ ใครเสีย พร้อมวิธีรับมือแบบเข้าใจง่าย 100%
ดอกเบี้ยขึ้น = เศรษฐกิจดี หรือประชาชนจะจนลงอีก

ดอกเบี้ยขึ้น = เศรษฐกิจดี หรือประชาชนจะจนลงอีก

การขึ้นดอกเบี้ย – ดาบสองคมของเศรษฐกิจ เคยสงสัยไหมว่า ทำไมธนาคารกลางถึงต้อง ขึ้นดอกเบี้ย แล้วมันส่งผลยังไงต่อชีวิตประจำวันของเรา? การขึ้นดอกเบี้ยมักถูกมองว่าเป็นสัญญาณว่า "เศรษฐกิจกำลังดี" หรือบางคนก็กลัวว่า "จะยิ่งจนลง" เพราะต้องจ่ายหนี้แพงขึ้น ความจริงแล้ว การขึ้นดอกเบี้ยเหมือน ดาบสองคม ที่ทั้งช่วยรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะยาว และสร้างความท้าทายให้ประชาชนในระยะสั้น บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกแบบเข้าใจง่าย ว่าการขึ้นดอกเบี้ยทำงานยังไง กระทบใครบ้าง และทำไมมันถึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธนาคารกลางขาดไม่ได้