สวัสดีทุกคนนน วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องที่กำลังเป็นกระแสสุด ๆ ในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะคนที่รักการท่องเที่ยวญี่ปุ่นหรือกำลังวางแพลนไปแดนปลาดิบ เรื่องมันเกี่ยวกับ คำทำนายแผ่นดินไหวใหญ่ในญี่ปุ่นวันที่ 5 กรกฎาคม 2025 จากมังงะชื่อดัง “อนาคตที่ฉันเห็น” (The Future I Saw) ของนักวาดการ์ตูนหญิงชาวญี่ปุ่น ทัตสึกิ เรียว คุณยายวัย 70 ปีที่เคลมว่าสามารถฝันเห็นอนาคตได้ และคำทำนายนี้มันทำให้คนแตกตื่นกันสุด ๆ จนถึงขั้นยกเลิกทริปเที่ยวญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาเล่าถึงที่มาที่ไปของเรื่องนี้แบบละเอียด พร้อมแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวแบบจัดเต็ม พร้อมแล้วไปกันเลยยย

ที่มาของคำทำนาย มังงะ “อนาคตที่ฉันเห็น”
เริ่มจากจุดกำเนิดของดราม่ากันก่อนเลย คำทำนายนี้มาจากมังงะเรื่อง “อนาคตที่ฉันเห็น” ที่เขียนโดย ทัตสึกิ เรียว ซึ่งตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1999 หรือประมาณ 26 ปีก่อน มังงะเล่มนี้เป็นแนวอัตชีวประวัติผสมจินตนาการ ที่คุณยายทัตสึกิบอกว่าเธอฝันเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้ามาตั้งแต่ปี 1976 แล้วบันทึกไว้ในมังงะ ซึ่งหลาย ๆ เหตุการณ์ที่เธอทำนายไว้ก็เกิดขึ้นจริง เช่น
• แผ่นดินไหวโกเบ ปี 1995 ที่รุนแรงมาก
• แผ่นดินไหวและสึนามิโทโฮคุ ปี 2011 ที่ทำให้เกิดวิกฤตนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ (อันนี้แม่นจนคนขนลุก)
• และล่าสุดบางคนตีความว่าเธอทำนายถึงการระบาดของโควิด-19 ด้วย
ในมังงะฉบับสมบูรณ์ที่ตีพิมพ์ปี 2021 คุณยายทัตสึกิระบุชัดเจนว่า วันที่ 5 กรกฎาคม 2025 จะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น โดยบอกว่าเหตุการณ์นี้จะเกี่ยวข้องกับ การปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล ทำให้เกิด คลื่นสึนามิยักษ์ ที่รุนแรงกว่าสึนามิปี 2011 ถึง 3 เท่า และอาจกระทบไม่แค่ญี่ปุ่น แต่รวมถึงประเทศรอบ ๆ มหาสมุทรแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไต้หวัน คำทำนายนี้เลยกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไทย และเวียดนาม

กระแสตื่นตระหนก นักท่องเที่ยวแคนเซิลทริป
พอคำทำนายนี้ถูกแชร์กระจายในโซเชียลมีเดีย ผลกระทบมันมาเต็ม โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจาก จีน และ ฮ่องกง ที่เป็นกลุ่มใหญ่ของนักท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ต่างพากันยกเลิกทริปกันยกใหญ่ ข้อมูลจากบริษัทท่องเที่ยวในฮ่องกงอย่าง WWPKG บอกว่า ยอดจองทริปไปญี่ปุ่นลดลงถึง 50% ในช่วงวันหยุดอีสเตอร์ และลดลงถึง 83% ในช่วงปลายมิถุนายนถึงต้นกรกฎาคม สายการบินอย่าง Hong Kong Airlines ถึงกับต้องยกเลิกเที่ยวบินไป คาโกชิมะ และ คุมาโมโตะ ในช่วงกรกฎาคม-สิงหาคมเลย
ไม่ใช่แค่ฮ่องกงนะคะ นักท่องเที่ยวจาก ไทย และ เวียดนาม ก็เริ่มลังเล บางคนเลื่อนทริป บางคนยกเลิกไปเลย เพราะกลัวว่าจะเจอภัยพิบัติตามคำทำนาย ในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ TikTok มีวิดีโอเตือนให้คนคิดดี ๆ ก่อนไปญี่ปุ่นเต็มไปหมด และที่ญี่ปุ่นเองก็มีคนตื่นตระหนกไม่แพ้กัน ชาวญี่ปุ่นบางส่วนพากันกักตุนข้าวและอาหารแห้งจนราคาข้าวในซูเปอร์มาร์เก็ตพุ่งไปถึง 4,285 เยน (ราว 980 บาท) ต่อ 5 กิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทัตสึกิออกมาชี้แจง สรุปจะเกิดหรือไม่เกิด?
แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องมันเริ่มดราม่าต่อเมื่อคุณยายทัตสึกิออกหนังสือเล่มใหม่ชื่อ “พินัยกรรมของนางฟ้า” เมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2025 และจู่ ๆ เธอก็แก้คำพูด เธอบอกว่า “ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันที่ 5 กรกฎาคม” และขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนกเกินไป แต่ให้ใช้คำทำนายนี้เป็นแรงกระตุ้นในการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติแทน เธอยังบอกอีกว่า “ฉันเองก็เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินและวางแผนทางหนีทีไล่ไว้เสมอ” และขอให้ทุกคนฟังความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญมากกว่าข่าวลือ
สำนักพิมพ์ของมังงะก็ออกมาช่วยยืนยันว่า เนื้อหาในเล่มนี้มาจากความฝันของคุณยายล้วน ๆ ไม่ได้มีเจตนาทำให้คนแตกตื่น แต่ถึงอย่างนั้น กระแสในโซเชียลก็ยังไม่หยุด หนังสือของทัตสึกิยังคงขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีโปสเตอร์โฆษณาเต็มรถไฟในโตเกียว และยิ่งไปกว่านั้น ช่วงนี้แถว คาโกชิมะ มีแผ่นดินไหวเล็ก ๆ เกิดขึ้นถี่ถึง 300 ครั้ง ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ทำให้คนยิ่งเชื่อว่าคำทำนายอาจจะจริง
มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ แผ่นดินไหวทำนายได้จริงเหรอ
เอาล่ะ มาฟังมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญกันบ้าง นักแผ่นดินไหววิทยาและหน่วยงานอย่าง กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ออกมาฟันธงเลยว่า การทำนายวันและเวลาที่แน่นอนของแผ่นดินไหวเป็นไปไม่ได้ ถึงญี่ปุ่นจะอยู่ใน วงแหวนแห่งไฟ ที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวได้ตลอดเวลา แต่การระบุวันที่แน่นอนแบบนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับเลย อันที่จริง ญี่ปุ่นมีระบบเตือนภัยและการเตรียมพร้อมที่ดีมาก ๆ อยู่แล้ว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง เขาก็พร้อมรับมือสุด ๆ

ส่วน ศ.ดร.ฮิโระคิ คะมะตะ นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเกียวโต บอกว่าแผ่นดินไหวใหญ่ที่อาจเกิดในอนาคต เช่น แผ่นดินไหวร่องลึกนันไก มีโอกาสเกิดได้ในช่วงปี 2030-2040 ซึ่งใกล้เคียงกับกรอบเวลาของคำทำนาย แต่ก็ยังไม่สามารถระบุวันได้แน่นอน
ความคิดเห็นส่วนตัว เชื่อหรือไม่เชื่อ?
เอาจริง ๆ นะทุกคน เรารู้สึก ครึ่ง ๆ กลาง ๆ กับคำทำนายนี้ ด้านหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าคุณยายทัตสึกิเคยทำนายอะไรที่แม่นจนน่าขนลุก เช่น เหตุการณ์ปี 2011 แต่ในอีกด้าน การที่เธอออกมาบอกว่า “ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดอะไรในวันที่ 5 กรกฎาคม” มันก็ทำให้รู้สึกว่า เอ๊ะ สรุปยังไงกันแน่?
ส่วนตัวคิดว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อยู่กับแผ่นดินไหวมาทั้งชีวิต เขามีการเตรียมพร้อมที่ดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนภัย อาคารที่ทนแผ่นดินไหว หรือการฝึกซ้อมอพยพ แต่ด้วยความที่ช่วงนี้แถวคาโกชิมะมีแผ่นดินไหวถี่ ๆ จริง ๆ มันก็อดกังวลไม่ได้นิดนึง โดยเฉพาะถ้าใครวางแพลนไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ อาจจะต้องเช็กข้อมูลดี ๆ และเตรียมกระเป๋าฉุกเฉินไว้ด้วย
ถ้ามองในมุมดี ๆ คำทำนายนี้ก็ทำให้คนตื่นตัวเรื่องภัยพิบัติมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามันทำให้คนตื่นตระหนกจนยกเลิกทริปกันหมด อุตสาหกรรมท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็อาจจะซวยได้ โดยเฉพาะในช่วงที่เงินเยนกำลังอ่อน นักท่องเที่ยวควรจะไปช่วยอุดหนุนกันเยอะ ๆ ด้วยซ้ำ
สถานการณ์ตอนนี้ นักท่องเที่ยวลดลงจริงไหม
จากข้อมูลล่าสุด นักท่องเที่ยวจาก จีนและฮ่องกง ลดลงจริง ประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนใหญ่เพราะกลัวคำทำนายนี้แหละ แต่ถ้ามองภาพรวม นักท่องเที่ยวทุกชาติที่ไปญี่ปุ่นยังคงทำสถิติสูงกว่าปีก่อน ๆ เพราะเงินเยนอ่อนทำให้เที่ยวได้ถูก ดังนั้นถึงจะมีคนแคนเซิลทริปบ้าง แต่ญี่ปุ่นก็ยังเป็นจุดหมายยอดนิยมอยู่ดี
ส่วนในไทย กระแสนี้ก็มีคนพูดถึงเยอะ โดยเฉพาะใน TikTok ที่มีวิดีโอเกี่ยวกับคำทำนายนี้เต็มไปหมด บางคนถึงกับล้มแพลนไปญี่ปุ่นเลย แต่บางคนก็เฉย ๆ เพราะคิดว่า “ญี่ปุ่นแผ่นดินไหวบ่อยอยู่แล้ว” ซึ่งก็จริง
สรุปจะไปญี่ปุ่นดีไหม
ถ้าถามเราว่าเชื่อคำทำนายนี้ไหม เราให้ 50-50 เพราะถึงคำทำนายจะดูน่ากลัว แต่ก็ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน และคุณยายทัตสึกิก็ออกมาบอกแล้วว่าให้เตรียมพร้อมไว้ดีกว่า panic! สิ่งที่เราทำได้คือ
เตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน เผื่อไว้ ใส่น้ำ อาหารแห้ง ไฟฉาย และของจำเป็นอื่น ๆ
เช็กเส้นทางอพยพ ในที่พักหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ไป ติดตามข่าวสาร จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เช่น กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) ซื้อประกันการเดินทาง เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน
สุดท้ายนี้ ถ้าใครมีแพลนไปญี่ปุ่นช่วงนี้ อย่าเพิ่งกลัวจนยกเลิกทริปนะ ญี่ปุ่นยังคงสวยงามและปลอดภัย ถ้าเราเตรียมตัวดี ๆ มาแชร์กันหน่อยว่า ทุกคนคิดยังไงกับคำทำนายนี้? มีใครยกเลิกทริปหรือยังไปต่ออยู่ แล้วถ้า 5 กรกฎาคมไม่มีอะไรเกิดขึ้น ล่ะ