ตำนานคำสาปสภานักเรียนรุ่น 68…จะมีคน ‘หายตัว’ จริงหรือ?

ตำนานคำสาปสภานักเรียนรุ่น 68
ตำนานคำสาปสภานักเรียนรุ่น 68

เรื่องสุดหลอนที่น้องนักเรียนคนหนึ่งเธอเจอมากับตัวเอง เรื่องนี้เกี่ยวกับ ตำนานสภานักเรียนรุ่น 68 ที่เค้าลือกันว่าเป็นคำทำนายสุด creepy ในโรงเรียนของเธอเลย 

สวัสดีทุกคน วันนี้เราจะมาพูดถึง ตำนานหลอน ๆ ในโรงเรียนไทย เรื่อง สภานักเรียนรุ่น 68 ที่โรงเรียนไทยเนี่ยขึ้นชื่อเรื่องเล่าขนลุกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนเก่าแก่หรือโรงเรียนใหม่ ๆ มักจะมีเรื่องลึกลับให้เมาท์กันเสมอ เราไปเจาะลึกตำนานอื่น ๆ ที่คล้าย ๆ กัน พร้อมวิเคราะห์ว่าเรื่องไหนน่าจะจริง เรื่องไหนน่าจะแต่ง มาดูกันเลย

เรื่องราวเริ่มจากอะไร

คือแบบ…เธอไปเจอเอกสารเก่า ๆ ในห้องเก็บของโรงเรียนโดยบังเอิญ เป็นกระดาษโบราณที่มีลายมือเขียนด้วยหมึกสีดำ สีแดง บ้าง สีน้ำเงินบ้าง อ่านแล้วขนลุกเลย เขียนไว้ว่า “สภานักเรียนรุ่นที่ 68 จะต้องมีคนหายตัวไปหนึ่งคน เพื่อเป็นตัวตายตัวแทน” โห อะไรกันเนี่ย? แล้วที่หลอนกว่านั้นคือ โรงเรียนเราตอนนี้อยู่ในยุค สภานักเรียนรุ่นที่ 68 พอดีเลย

ยังไม่จบแค่นั้น มีสมุดจดเล่มเก่าของสภานักเรียนที่เขียนถึงคำทำนายนี้ด้วย คล้าย ๆ เป็นบันทึกลับ ในนั้นบอกว่า “ตัวตายตัวแทนจะถูกเลือกเมื่อคำสาปเริ่มทำงาน” แล้วมีคนพยายามเผาสมุดเล่มนี้แต่…เผามันไม่ได้ สมุดไม่ไหม้เลย หลอนสุด ๆ ไปเลยใช่มั้ย

แถมยังมีเรื่องเล่าจากป้าคนหนึ่งที่อยู่แถวโรงเรียน ป้าเค้าพูดถึง “เพื่อนที่กำลังจะถูกลืม” อะไรสักอย่าง ฟังแล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังซ่อนอยู่ในเงามืดเลย

นักเรียนรุ่นพี่เคยเล่าเรื่องที่แบบคล้ายกันมาก แต่นึกๆดูมันเหมือนนิยายซะมากกว่า

โรงเรียนเก่าแก่อายุกว่า 70 ปี ซ่อนความลับที่ไม่มีใครกล้าเอ่ยถึงเอาไว้ ทุก ๆ ปี สภานักเรียนของโรงเรียนจะถูกเลือกขึ้นมาเพื่อดูแลกิจการต่าง ๆ คำทำนายเก่าแก่ที่ถูกจารึกไว้ในสมุดต้องสาปมันเรียกร้อง “ตัวตายตัวแทน”

หลังจากนั้นรุ่นพี่ก็เล่าอดีตของตัวเองที่พบเจอมา

กระดาษแห่งคำสาป
“มิว! มิว! มาดูอะไรนี่เร็ว!” เสียงของไอซ์ เพื่อนสนิทของมิว เด็กสาว ม.5 ที่เพิ่งได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภานักเรียนรุ่นที่ 44 ดังลั่นจากห้องเก็บของเก่าหลังตึกเรียน A มิวที่กำลังจัดเอกสารประชุมอยู่รีบวิ่งตามไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ในห้องเก็บของที่เต็มไปด้วยฝุ่นและกลิ่นอับ ไอซ์ยื่นกระดาษสีเหลืองขาดวิ่นให้มิวดู มันเป็นกระดาษเก่า ๆ ที่มีลายมือเขียนด้วยหมึกสีดำ สีแดง และสีน้ำเงินปนกัน ข้อความบนนั้นทำให้หัวใจของมิวเต้นแรงขึ้น

“สภานักเรียนรุ่นที่ 44 จะต้องมีคนหายตัวไปหนึ่งคน เพื่อเป็นตัวตายตัวแทน เพื่อรักษาความสมดุลของโรงเรียนนี้”

“อะไรเนี่ย? หลอกกันเล่นหรือเปล่า?” มิวพยายามหัวเราะกลบความกลัว แต่แววตาของไอซ์บอกว่ามันไม่ใช่เรื่องล้อเล่น “ฉันเจอมันในกล่องเก่า ๆ ข้างในนั่น…แล้วก็เจอนี่ด้วย” ไอซ์หยิบสมุดปกหนังสีดำเล่มหนาออกมา หน้าปกมีรอยขีดข่วนเหมือนถูกกรงเล็บขูด และเมื่อเปิดออก หน้าแรกเขียนไว้ว่า

“ตัวตายตัวแทนจะถูกเลือกเมื่อคำสาปเริ่มทำงาน”

มิวรู้สึกหนาวสันหลังวาบ เธอพยายามปิดสมุด แต่เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้มือของเธอสั่น “นี่มัน…เหมือนในหนังสยองขวัญเลย ไอซ์ เอาไปคืนที่เดิมเถอะ” แต่ไอซ์ส่ายหัว “ฉันได้ยินจากรุ่นพี่ว่าเคยมีคนพยายามเผาสมุดเล่มนี้…แต่มันไม่ไหม้!”

เสียงกระซิบจากเงามืด
คืนนั้น มิวนอนไม่หลับ เธอฝันถึงเงาคนที่ยืนอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่หน้าศาลพระภูมิ เงานั้นไม่มีใบหน้า แต่มีเสียงกระซิบว่า “เพื่อนที่กำลังจะถูกลืม…” เมื่อตื่นขึ้น มิวพบว่ามีรอยขีดข่วนเล็ก ๆ ที่แขนของเธอ เธอแน่ใจว่าไม่ได้ทำร้ายตัวเอง…หรือมันเกิดขึ้นในฝัน?

วันต่อมา ที่ประชุมสภานักเรียนรุ่นที่ 44 มีสมาชิก 12 คน รวมมิวและไอซ์ด้วย แต่ทุกคนเริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ มีคนได้ยินเสียงฝีเท้าในห้องประชุมตอนกลางคืน ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ โต๊ะของสมาชิกคนหนึ่งชื่อ “ต้า” เด็กหนุ่มเงียบ ๆ ที่ไม่ค่อยพูด เริ่มมีรอยขีดข่วนเหมือนในสมุดต้องสาป และบางครั้งเพื่อน ๆ ก็จำไม่ได้ว่าเขาเคยพูดอะไรในที่ประชุม

“มิว…เธอรู้สึกมั้ย? เหมือนต้ามัน…แปลก ๆ” ไอซ์กระซิบขณะที่ทั้งสองเดินผ่านตึกเรียนเก่า “เหมือนเขาอยู่ตรงนั้น แต่ก็เหมือน…ไม่อยู่” มิวพยักหน้า เธอเริ่มสังเกตว่าต้ามักจะนั่งเงียบ ๆ มองไปที่หน้าต่าง และบางครั้งเหมือนมีเงาอีกคนยืนอยู่ข้างหลังเขา

ป้าลึกลับและความลับที่ถูกฝัง
วันหนึ่ง ขณะที่มิวและไอซ์แอบกลับไปที่ห้องเก็บของเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม พวกเธอเจอป้าแก่ ๆ คนหนึ่งนั่งอยู่หน้าศาลพระภูมิ ป้ามีผมขาวโพลนและดวงตาที่เหมือนมองทะลุหัวใจ “พวกแกกำลังยุ่งกับของที่ไม่ควรยุ่ง…” ป้าพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เพื่อนที่กำลังจะถูกลืม…มันกำลังมาแล้ว”

“ป้าคะ! ป้ารู้เรื่องคำสาปนี่ใช่มั้ย? บอกเราที!” มิวถามด้วยความกล้า แต่ป้าส่ายหัว “คำสาปนี้เริ่มเมื่อ 68 ปีก่อน…ตอนที่สภานักเรียนรุ่นแรกทำผิดสัญญากับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของที่นี่ เพื่อรักษาโรงเรียนไว้ ต้องมีตัวตายตัวแทนทุก ๆ รุ่น” ป้าชี้ไปที่สมุดในมือของไอซ์ “สมุดนั้น…มันเลือกแล้ว”

เมื่อมิวและไอซ์เปิดสมุดดูอีกครั้ง หน้าสุดท้ายมีชื่อเขียนด้วยลายมือที่ไม่เคยเห็นมาก่อน: “ธนภัทร” ซึ่งเป็นชื่อจริงของต้า!

การเผชิญหน้ากับคำสาป
มิว ไอซ์ และสมาชิกสภานักเรียนคนอื่น ๆ ตัดสินใจรวมตัวกันเพื่อหยุดคำสาปนี้ พวกเขาไปขอคำแนะนำจากครูใหญ่ แต่ครูใหญ่ดูเหมือนจะรู้เรื่องนี้มาก่อนและพยายามเปลี่ยนเรื่อง “อย่ายุ่งกับของเก่า ๆ เลยลูก มันเป็นแค่เรื่องเล่า” แต่แววตาของครูใหญ่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

คืนหนึ่ง สภานักเรียนแอบจัดพิธีที่ศาลพระภูมิเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พวกเขานำสมุดต้องสาปไปด้วย หวังว่าจะทำลายมันได้ แต่เมื่อจุดไฟ สมุดกลับไม่ไหม้! เงาดำ ๆ ปรากฏขึ้นรอบ ๆ ศาล และเสียงกระซิบดังขึ้น: “ตัวตายตัวแทน…ต้องถูกเลือก”

ในขณะนั้น ต้าที่เงียบมาตลอดจู่ ๆ ก็ลุกขึ้นและเดินเข้าไปในเงามืดใต้ต้นมะขามใหญ่ มิวพยายามวิ่งตาม แต่เหมือนมีกำแพงล่องหนขวางไว้ เมื่อเงามืดจางลง ต้าหายไปแล้ว! สมุดต้องสาปที่วางอยู่บนพื้นเปิดออกเอง และชื่อของต้าถูกขีดฆ่าด้วยหมึกแดง

ความทรงจำที่ถูกลืม
วันรุ่งขึ้น สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือ…ไม่มีใครในสภานักเรียนจำต้าได้เลย แม้แต่รูปถ่ายกลุ่มของสภานักเรียนก็มีแค่ 11 คน ไม่มีต้าอยู่ในนั้น! มิวและไอซ์พยายามบอกทุกคนว่าเคยมีสมาชิกคนที่ 12 แต่ไม่มีใครเชื่อ “พวกเธอคงฝันไป” เพื่อนคนหนึ่งพูดพร้อมหัวเราะ

มิวยังคงฝันถึงต้าในทุกคืน เขายืนอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่และพูดว่า “ขอบคุณที่พยายามช่วย…แต่มันจบแล้ว” สมุดต้องสาปถูกเก็บกลับไปที่ห้องเก็บของ และป้าลึกลับก็หายตัวไปเหมือนไม่เคยมีตัวตน

คำสาปที่ยังคงอยู่
หลายเดือนผ่านไป สภานักเรียนรุ่นที่ 44 ยังคงทำหน้าที่ต่อไป แต่ทุกคนรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจโดยไม่รู้สาเหตุ มิวยังคงพยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับต้าและคำสาปนี้ แต่ยิ่งค้น เธอยิ่งเจอแต่คำถามที่ไม่มีคำตอบ สิ่งเดียวที่แน่ชัดคือ สมุดต้องสาปยังคงอยู่ในห้องเก็บของ รอวันที่สภานักเรียนรุ่นใหม่ อีกสมัยจะมาถึง…และคำสาปจะตื่นขึ้นอีกครั้ง

ฟังจบแล้วเราก็เริ่มวิเคราะห์มันเป็นเรื่องจริงมั้ย

เรื่องนี้มันอาจจะเป็นแค่ ตำนานเมือง ที่โรงเรียนแต่งขึ้นมาเพื่อหลอกเด็ก ๆ ให้กลัวก็ได้ หรืออาจจะเป็นเรื่องจริงที่ถูกส่งต่อกันมานานจนกลายเป็นความลึกลับ! ลองมาดูมุมต่าง ๆ กัน

มันเป็นแค่เรื่องแต่งหรือเปล่า?
ตำนานแบบนี้ในโรงเรียนมีเยอะแยะเลยเนาะ เช่น เรื่องผีในห้องน้ำชั้นสาม หรือเก้าอี้ต้องสาปอะไรแบบนั้น อาจจะเป็นสภานักเรียนรุ่นก่อน ๆ ที่อยากแกล้งรุ่นน้อง เลยเขียนคำทำนายนี้ขึ้นมาเพื่อความสนุก หรืออาจจะเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีโรงเรียนที่อยากสร้างความตื่นเต้นให้สภานักเรียนรุ่นใหม่ ๆ

คำสาปตัวตายตัวแทนคืออะไร?
คำว่า “ตัวตายตัวแทน” ฟังดูเหมือนเป็นพิธีกรรมเก่า ๆ ที่ต้องมีคนเสียสละเพื่อปกป้องอะไรบางอย่าง เช่น ปกป้องโรงเรียนจากคำสาป หรือรักษาความสมดุลอะไรสักอย่าง ในหลาย ๆ วัฒนธรรม เช่น ในนิทานพื้นบ้านไทย เรื่อง “สังข์ทอง” หรือ “ไกรทอง” ก็มีเรื่องของการเสียสละเพื่อแก้คำสาปเหมือนกัน ถ้าเรื่องนี้เป็นคำสาปจริง ๆ มันอาจจะเชื่อมโยงกับความเชื่อเรื่องผีหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่โรงเรียนนี้เคยบูชา เช่น ศาลพระภูมิ หรือผีปู่ย่าประจำโรงเรียน

สมุดที่เผาไม่ได้?
อันนี้คือจุดที่หลอนสุด สมุดที่เผาไม่ได้มันเหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างปกป้องอยู่ ในนิยายหรือหนังสยองขวัญ สมุดแบบนี้มักจะเป็น “วัตถุต้องสาป” ที่เก็บความลับหรือพลังงานบางอย่างไว้ ถ้ามันเผาไม่ได้จริง อาจจะต้องลองตรวจสอบว่าใครเป็นคนเขียนสมุดเล่มนี้ หรือมันถูกสร้างขึ้นมาเมื่อไหร่? หรือบางทีมันอาจจะเป็นแค่สมุดที่เคลือบสารกันไฟ? (แต่ก็ยังหลอนอยู่ดี)

ป้าที่พูดถึง “เพื่อนที่กำลังจะถูกลืม”
ป้าคนนี้คือตัวละครลึกลับสุด ๆ อาจจะเป็นอดีตครู อดีตนักเรียน หรือคนที่รู้ประวัติของโรงเรียนนี้ดี “เพื่อนที่กำลังจะถูกลืม” อาจจะหมายถึงคนที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสภานักเรียนรุ่นในอดีต แล้วหายตัวไปจริง ๆ หรืออาจจะเป็นสัญลักษณ์ของคนที่ถูกเลือกเป็น “ตัวตายตัวแทน” แล้วถูกลืมโดยทุกคน

เราว่าตำนานนี้มันน่าสนใจมากเลย มันเหมือนเป็นปริศนาที่รอให้เราไปไข ถ้าเป็นเรื่องจริงก็น่ากลัว แต่ถ้าเป็นเรื่องแต่งก็ต้องยอมใจคนที่คิดพล็อตนี้ขึ้นมาเลย สุดยอดมาก ถ้าสมุดเล่มนั้นเผาไม่ได้จริง ๆ มันอาจจะมีอะไรลึกลับซ่อนอยู่จริง ๆ แต่ถ้าให้เดา เราว่ามันอาจจะเป็นแค่เรื่องเล่าที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อสร้างสีสันให้โรงเรียน

มีตำนานในโรงเรียนไทย แบบนี้อีกไหม

โรงเรียนไทยหลายแห่งมีตำนานเกี่ยวกับ คำสาป หรือ เรื่องลี้ลับ ที่มักจะผูกโยงกับสถานที่เก่า ๆ หรือเหตุการณ์ในอดีต มาดูตัวอย่างเด็ด ๆ กัน

“ครูวิภา” โรงเรียนรัฐบาลชื่อดัง
มีเรื่องเล่าจากโรงเรียนรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่งเกี่ยวกับ ครูวิภา คุณครูที่เสียชีวิตในโรงเรียนเมื่อนานมาแล้ว ว่ากันว่าวิญญาณของครูยังคงวนเวียนอยู่ในตึกเรียนเก่า โดยเฉพาะห้องสมุดหรือห้องเรียนชั้นบนสุด นักเรียนหลายคนเล่าว่าได้ยินเสียงครูวิภาสอนหนังสือตอนกลางคืน หรือเห็นเงาคนยืนที่หน้าต่างตึกเรียนตอนดึก ๆ มีบางคนบอกว่า ถ้าอ่านหนังสือในห้องสมุดตอนดึกแล้วหลับ จะฝันถึงครูวิภาที่มาบอกว่า “เรียนจบหรือยัง?”

ความเหมือนกับสภานักเรียนรุ่น 68 เรื่องนี้มีกลิ่นอายของ “สิ่งลี้ลับ” ที่ผูกโยงกับประวัติของโรงเรียน และมีตัวละครลึกลับ (เหมือนป้าที่เล่าเรื่อง “เพื่อนที่ถูกลืม” ในเรื่องของคุณ)

ความคิดเห็น เรื่องนี้อาจจะเป็นตำนานที่แต่งขึ้นเพื่อเตือนนักเรียนให้ตั้งใจเรียน หรืออาจจะมีเค้าโครงจากเหตุการณ์จริง เช่น ครูที่เสียชีวิตในโรงเรียน แต่ถูกขยายความจนหลอน

“ห้องน้ำชั้น 7” โรงเรียนที่เคยเป็นเรือนจำ
โรงเรียนมัธยมชื่อดังในจังหวัดระนองที่เคยเป็นเรือนจำเก่ามีเรื่องเล่าสุดหลอนเกี่ยวกับ ห้องน้ำหญิงชั้น 7 ของตึกเรียน A นักเรียนคนหนึ่งเล่าว่าได้ยิน เสียงโซ่ลากพื้น ในห้องน้ำตอนกลางคืน ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ บางคนบอกว่าเป็นวิญญาณของนักโทษเก่าที่ถูกประหารในสมัยที่สถานที่นี้ยังเป็นเรือนจำ ทางโรงเรียนทำบุญหลายครั้ง แต่ก็ยังมีคนเจอเหตุการณ์หลอน ๆ อยู่เรื่อย ๆ

ความเหมือนกับสภานักเรียนรุ่น 68 มีกลิ่นอายของ “คำสาป” หรือ “วิญญาณ” ที่ผูกกับประวัติเก่าของสถานที่ คล้ายกับสมุดต้องสาปที่เผาไม่ได้ในเรื่องของคุณ

ความคิดเห็น โรงเรียนที่เคยเป็นสถานที่อื่นมาก่อน เช่น สุสานหรือเรือนจำ มักจะมีเรื่องเล่าหลอน ๆ แบบนี้ อาจจะเป็นเพราะนักเรียนจินตนาการจากประวัติของสถานที่ หรืออาจมีอะไรจริง ๆ ก็ได้

“ต้นไม้ใหญ่ต้องสาป”
บนโซเซียลมีคนเล่าว่าโรงเรียนหลายแห่งในไทยมีตำนานเกี่ยวกับ ต้นไม้ใหญ่ ในโรงเรียน เช่น ต้นมะขามหรือต้นไทร ที่ว่ากันว่าเป็นที่สิงของวิญญาณ ถ้าใครไปทำอะไรไม่ดี เช่น เตะต้นไม้หรือปัสสาวะใต้ต้นไม้ จะเจอดี มีเรื่องเล่าหนึ่งว่า นักเรียนที่ตัดกิ่งต้นไม้ใหญ่ในโรงเรียนป่วยหนักโดยไม่ทราบสาเหตุ และต้องทำพิธีขอขมาเพื่อให้หาย

ความเหมือนกับสภานักเรียนรุ่น 68 มีความเชื่อเรื่อง “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” หรือ “คำสาป” ที่ถ้าทำผิดกฎจะมีผลร้าย คล้ายกับการที่ต้องมี “ตัวตายตัวแทน” ในเรื่องของคุณ

ความคิดเห็น เรื่องต้นไม้ต้องสาปนี่เป็นความเชื่อพื้นบ้านของไทยที่พบได้ทั่วไป มักจะผูกกับความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในธรรมชาติ อาจจะไม่ใช่คำสาปจริง ๆ แต่เป็นวิธีที่โรงเรียนใช้สอนเด็ก ๆ ให้เคารพสิ่งแวดล้อม

“เก้าอี้ต้องสาปในห้องเรียน”
อีกตำนานที่พบในหลายโรงเรียนคือ เก้าอี้หรือโต๊ะเรียนที่ถูกสาป เช่น โรงเรียนแห่งหนึ่งมีเก้าอี้ตัวหนึ่งที่ถ้าใครนั่งจะรู้สึกหนัก ๆ ที่ไหล่ หรือฝันร้ายตลอดคืน บางคนเล่าว่าเก้าอี้ตัวนี้เคยเป็นของนักเรียนที่เสียชีวิตในโรงเรียน แล้ววิญญาณยังผูกติดอยู่

ความเหมือนกับสภานักเรียนรุ่น 68 มี “วัตถุต้องสาป” (เหมือนสมุดที่เผาไม่ได้) และมีเรื่องของ “คนที่หายไป” หรือเสียชีวิตที่ผูกกับตำนาน

ความคิดเห็น เรื่องนี้ฟังดูเป็นการแต่งเรื่องเพื่อสร้างความตื่นเต้นให้เด็ก ๆ อาจจะเริ่มจากเหตุการณ์จริง เช่น นักเรียนที่เสียชีวิต แล้วถูกขยายความจนกลายเป็นตำนาน

“พิธีจบการศึกษาที่หายไป”
มีเรื่องเล่าจากโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งว่า ในวันถ่ายรูปหมู่พิธีจบการศึกษาชั้น ม.3 เพื่อนในห้องอยากให้เพื่อนที่โคม่าในโรงพยาบาลมาร่วมถ่ายรูปด้วย เลยนำโต๊ะเรียนของเพื่อนคนนั้นมาวางไว้ในแถวถ่ายรูป แต่หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ทุกคนในรูปกลับเห็นเงาคนยืนอยู่ที่โต๊ะตัวนั้น ว่ากันว่าเพื่อนคนนั้นเสียชีวิตในวันเดียวกัน และวิญญาณอาจจะมาถ่ายรูปหมู่ด้วย

ความเหมือนกับสภานักเรียนรุ่น 68 มีความเชื่อเรื่อง “คนที่หายไป” หรือ “เพื่อนที่ถูกลืม” คล้ายกับคำทำนายของคุณที่พูดถึงการสูญเสียคนในสภานักเรียน

ความคิดเห็น เรื่องนี้หลอนมากและให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการไว้อาลัยเพื่อนที่จากไป อาจจะเป็นเรื่องจริงที่ถูกเล่าต่อจนกลายเป็นตำนาน หรืออาจเป็นการแต่งเรื่องเพื่อเตือนใจเรื่องมิตรภาพ


ตำนานโรงเรียนไทยเนี่ยมันสนุกและหลอนจริง ๆ เรื่องสภานักเรียนรุ่น 68 นี่น่าสนใจมาก เพราะมันมีทั้งสมุดต้องสาป คำทำนาย และป้าลึกลับที่เหมือนรู้ความลับอะไรสักอย่าง ตำนานอื่น ๆ ที่เล่ามาก็หลอนไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเรื่องห้องน้ำชั้น 7 กับเก้าอี้ต้องสาป ส่วนตัวเราว่าตำนานพวกนี้อาจจะเริ่มจากเรื่องจริงนิด ๆ แล้วถูกแต่งเติมให้หลอนขึ้น แต่บางเรื่องก็ให้ความรู้สึกว่า “เอ๊ะ มันอาจจะมีอะไรจริง ๆ นะ!”


แชร์ให้เพื่อน