ละคร สาปกระสือ 2561
ตำนานผีกระสือ ความเฮี้ยนที่ยังเล่าขานสืบต่อกันมา หลายคนสงสัยว่ามีอยู่จริงหรือไม่ หรือเป็นแค่ความเชื่อของชาวบ้านกันแน่…
ชีวิตของนลินต้องพลิกผัน เมื่อทำผิดครั้งร้ายแรงกับสมบัติของชาติ เธอได้เป็นทายาทสืบทอดสมบัติมหาศาลของยายเพียร พร้อมกับคำสาปในอดีตชาติที่หวนคืนมา ทำให้นลินต้องกลายร่างเป็นกระสือ ถูกชาวบ้านรุมประณามและใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน ตฤณฤทธิ์ หนุ่มนักโบราณคดีผู้มีอดีตผูกพันกับนลิน ได้ช่วยปกป้องเธอ และค้นหาคำตอบอันนำไปสู่การไขปมลึกลับ เพื่อช่วยให้นลินหลุดพ้นจากคำสาปชั่วกัปชั่วกัลป์
นลิน หญิงสาวที่ทำงานอยู่กรมศิลปากรและ พนิช แฟนของนลินนำเงินไปเล่นการพนันจนเป็นหนี้ก้อนใหญ่ จึงหลอกใช้นลินขโมยวัตถุโบราณไปขาย เธอได้รับการติดต่อจาก ชลันตี มาตามนลินกลับไปรับมรดกที่บ้านเกิดของแม่ ซึ่งยายเพียรกำลังป่วยหนัก นลินเข้าไปหายายเพียรตอนเช้าแต่พบว่ายายเพียรเสียชีวิตแล้ว นลินฝันประหลาดถึงหญิงคนหนึ่งที่กำลังร่ายรำอยู่ในสถานที่ลึกลับ และเริ่มรู้สึกตึง ๆ รอบคอตลอดเวลา พฤติกรรมก็เริ่มเปลี่ยนไป ชอบใช้ชีวิตกลางคืนมากกว่ากลางวัน ตาสู้แสงไม่ได้ และยิ่งไปกว่านั้นคือเริ่มมีข่าวลือประหลาด ๆ เกิดขึ้นว่ามีคนเห็นดวงไฟลอยวนไปมารอบ ๆ บริเวณที่นลินอาศัยอยู่ พอรุ่งเช้าก็จะพบคราบเลือดตามราวแขวนเสื้อหรือสถานที่ต่าง ๆ บ้างก็มีสัตว์ล้มตายในลักษณะที่ไส้หรือเครื่องในหายไป ตฤณฤทธิ์ นักวิจัยหนุ่ม ผู้สนใจเกี่ยวกับกระสือ ลงพื้นที่เพื่อวิจัย และได้มาหาข้อมูลที่ทำงานของนลิน พบว่านลินมีอาการแปลกประหลาดบางอย่างที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เขากำลังวิจัย แต่ไม่คิดว่าเธอจะเกี่ยวข้องกับมัน
นลิน รู้ตัวว่ากลายเป็นทายาทกระสือไปแล้ว จนคืนหนึ่งนลินในร่างกระสือเกี่ยวถูกหนามพุทราที่ชาวบ้านปลูกไว้ ชาวบ้านพากันถืออาวุธออกมาจะทำร้าย แต่ตฤณฤทธิ์เห็นเข้าจึงรีบเข้าไปช่วยนลินไว้ได้ ตฤณฤทธิ์ตกใจมากในตอนแรกเมื่อรู้ว่าเธอคือกระสือจริง ๆ แต่ต่อมาเขากลับเห็นใจอย่างบอกไม่ถูก ทำให้นลินเริ่มไว้ใจตฤณฤทธิ์และเปิดใจเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้เขาฟัง บุรัณย์ หาทางพิสูจน์ว่านลินเป็นกระสือ แอบเอากล้องไปซ่อนไว้ในบ้าน และพบว่ามีคนในบ้านนี้ที่ถอดหัวกับไส้ออกได้จริง ๆ จึงเอาคลิปนี้ไปออกข่าวทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โต นลินถูกตามล่าตัวจากคนในหมู่บ้าน ตฤณฤทธิ์จึงพานลินเข้าไปหาหลวงปู่คำ ซึ่งธุดงค์อยู่กลางป่า เพื่อหาวิธีที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากคำสาปนี้ได้
วิธีแรกคือต้องบำเพ็ญเพียรตลอดชีวิต แต่หลวงปู่เลี่ยงที่จะไม่พูดถึงวิธีที่สอง ขณะที่นลินบำเพ็ญเพียรอยู่ในป่านั้น ปัณรีก็สร้างเรื่องให้ชาวบ้านเข้าใจนลินผิดว่าที่หนีไปนั้นเป็นเพราะนลินได้ขโมยวัตถุโบราณที่พลเพิ่มเก็บไว้ไป แต่เพราะปัณรีเคยผูกกรรมร่วมกับนลินมาก่อน ปัณรีจึงได้กลายเป็นกระสือไปโดยไม่รู้ตัว และเริ่มมีชาวบ้านตายอย่างแปลกประหลาด ตฤณฤทธิ์คิดว่าเป็นฝีมือนลิน นลินปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือเธอ แต่ตฤณฤทธิ์ไม่เชื่อ ทั้งสองจึงทะเลาะกันใหญ่โต นลินตัดสินใจออกเป็นกระสืออีกครั้งเพื่อสืบหาความจริง จนเจอปัณรีที่กำลังกินไส้ชายคนหนึ่งที่ถูกฆ่า ขณะที่ชาวบ้านและพวกพลเพิ่มตามมาเจอก็คิดว่านลินเป็นคนฆ่าชายคนนั้น แต่นลินหนีไปได้เสียก่อน และได้พบกับชลันตีจึงเล่าว่าที่นลินต้องอยู่ในสภาพนี้เพราะตระกูลของเธอถูกสาป เพราะกรรมที่นลินก่อขึ้นเองจากการขโมยสมบัติของแผ่นดิน
ซึ่งในอดีต อาณาจักรเมืองโบราณ นลินคือสาวิตราณี ที่เป็นนางรำและนางสนมของเจ้าเมือง ซึ่งโปรดปรานเธอมาก แต่เธอมีคนรักอยู่แล้วคือสิงหล องครักษ์ที่รับใช้ใกล้ชิด รุจิเทวี ริษยาสาวิตราณีจึงนำเรื่องนี้ไปฟ้องเจ้าเมือง สาวิตราณีไหวตัวทัน จึงขโมยสมบัติของเจ้าเมืองเพื่อเป็นทุน เจ้าเมืองตามจับได้ สาวิตราณีกลับถูกนำมาลงโทษประหารชีวิตอย่างทรมานต่อหน้าสิงหล พราหมณ์ทำพิธีเผาร่างสาวิตราณีด้วยไฟอาคม ไหม้จนเหลือหัวกับไส้ อีกทั้งวิญญาณยังถูกพราหมณ์ที่ทำพิธีสาปแช่ง โดยแกะสลักภาพของสาวิตราณีเป็นปีศาจที่มีแต่หัวกับไส้อยู่บนแท่นหินนั้น พร้อมกับสลักคำสาปเพื่อจองจำให้ลูกหลานหรือคนที่ผูกเวรผูกกรรมกับสาวิตราณีต้องอยู่อย่างทุกข์ทรมานเช่นนี้ไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ตฤณฤทธิ์และนลินตัดสินใจเดินทางไปที่ปราสาทโบราณเพื่อแก้คำสาป แต่จะแก้ไขได้สำเร็จหรือไม่ คำสาปที่รอการหลุดพ้นจะจบอย่างไร
บทประพันธ์ : อาณาจินต์
บทโทรทัศน์โดย : อาณาจินต์
กำกับการแสดงโดย : ภูมิภัทร์ สังวาลย์วรกุล
นักแสดง
กฤษฎา พรเวโรจน์ รับบท ตฤณฤทธิ์/สิงหล
ชลิตา ส่วนเสน่ห์ รับบท นลิน/สาวิตราณี
นภัสกร มิตรธีรโรจน์ รับบท พลเพิ่ม/เจ้าเมือง
อธิชนัน ศรีเสวก รับบท ปัณรี/รุจิเทวี
ชานนท์ ทิพกนก รับบท พณิช
พุทธิพงษ์ คล้ำจีนภาณุวงศ์ รับบท บุรัณย์
อัจจิมา โกสุมา รับบท มธุรส
จุฬาลักษณ์ จุฬานนท์ รับบท อชินี
ลลิตา ไพศาล รับบท ฉัตรฉาย
เวนย์ ฟอลโคเนอร์ รับบท กำนันสิน
สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบท ยายเพียร
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท ชลันตี
ไปรมา รัชตะ รับบท โฉมศรี
พิมจันทร์ พิชยะสูตร รับบท กวิตา
ปราบปฎล สุวรรณบาง รับบท ฌาน
ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล รับบท ดิษย์
ปวีณา ชารีฟสกุล รับบท ศันสนีย์
รัชนีกร พันธ์มณี รับบท นรา
จรรยา ธนาสว่างกุล รับบท นวล
พสุ สิงห์อุสาหะ รับบท วิศวัต
ชาคริยา เดชมาก รับบท ชลพร
ธงธง มกจ๊ก รับบท เจ๊หวี
ดวงฤดี บุญบำรุง รับบท ชมพู่
เขาทราย แกแล็คซี่ รับบท นายเบา