ละคร ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่ง 2568 ณ ชายแดนสองหมู่บ้านคู่แค้นอย่างจางปางและโจงโปง เรื่องราวความบาดหมางที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นกำลังจะถูกท้าทายด้วยหัวใจสองดวง ‘บักแซ่บ’ แห่งบ้านจางปางและ ‘อีแหลม’ แห่งบ้านโจงโปง สองคู่กัดที่ชีวิตผูกพันอยู่กับรถสองแถวคู่ใจและการแข่งขันแย่งชิงผู้โดยสารที่ไม่มีใครยอมใคร ทุกวันคือศึกแห่งศักดิ์ศรี แต่ภายใต้เปลวไฟแห่งความชิงชัง กลับมีบางสิ่งบางอย่างก่อตัวขึ้นเงียบๆ เมื่อแผนการจับคู่สุดอลหม่านของสองยายเริ่มขึ้น พร้อมกับปมปริศนาของสมบัติโบราณที่รอการไขความจริง ทั้งคู่จะสามารถหยุดยั้งสงครามระหว่างสองหมู่บ้านและเปลี่ยนความแค้นให้กลายเป็นความรักได้หรือไม่

ละคร ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่ง 2568 ละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ดราม่า เรื่องราวเกิดขึ้นในหมู่บ้านจางปางและหมู่บ้านโจงโปง สองหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้กันแต่ถูกแบ่งแยกด้วยป่ารกทึบและความบาดหมางที่สืบทอดกันมานานนับสิบปี ความขัดแย้งนี้เริ่มตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ต่อเนื่องมาถึงรุ่นพ่อแม่ และส่งต่อถึงรุ่นลูก โดยมีสาเหตุจากปมปริศนาในอดีตที่ยังไม่ได้รับการคลี่คลาย ชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านถูกสั่งห้ามไม่ให้คบค้าสมาคมหรือมีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน ทำให้เกิดการแข่งขันและการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง

ตัวละครหลักของเรื่องคือ “บักแซ่บ” จากหมู่บ้านจางปาง และ “อีแหลม” จากหมู่บ้านโจงโปง ทั้งสองเป็นตัวแทนของรุ่นใหม่ที่ต้องสานต่อความบาดหมางจากรุ่นก่อน เรื่องราวยิ่งเข้มข้นเมื่อทั้งคู่ต้องแข่งขันกันในฐานะคนขับรถสองแถว โดยบักแซ่บขับรถสองแถวสีฟ้า “ส้วนซิ่ง” ของผู้ใหญ่ส้วน และอีแหลมขับรถสองแถวสีแดง “หลอยแลน” ของผู้ใหญ่หลอย การแข่งขันแย่งลูกค้าและเส้นทางทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่กัดที่ปะทะกันอย่างดุเดือด

ทว่าเรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อบักแซ่บและอีแหลมเริ่มพัฒนาความรู้สึกดีๆ ต่อกัน จากคู่กัดกลายเป็นคู่จิ้นในโลกโซเชียล โดยได้รับแรงสนับสนุนจากสองยายที่วางแผนให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่รักกำมะลอเพื่อแก้ไขความขัดแย้งระหว่างสองหมู่บ้าน อย่างไรก็ตาม ความรักของทั้งคู่ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะจาก “ไอลดา” และ “โอบนิธิ” ที่พยายามขัดขวางความสัมพันธ์ของทั้งสอง รวมถึงความไม่พอใจจากชาวบ้านที่ยังยึดติดกับความบาดหมางในอดีต

นอกจากคู่ของบักแซ่บและอีแหลมแล้ว ละครยังมีคู่รองอย่าง “หมู่แจ๊ส”  และ “ครูสาลี่” ที่ช่วยเพิ่มสีสันและความฟินให้กับเรื่องราว ละครดำเนินไปด้วยการผสมผสานความตลกแบบฉบับอีสาน ความดราม่าจากปมขัดแย้งในอดีต และความโรแมนติกที่ค่อยๆ เบ่งบานท่ามกลางความวุ่นวาย

ละครนำเสนอวัฒนธรรมและสำเนียงอีสานที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานความตลกและความแซ่บของตัวละคร ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสความสนุกที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสัมพันธ์แบบคู่กัดที่พัฒนาเป็นความรักระหว่างบักแซ่บและอีแหลมสร้างความฟินให้กับผู้ชม โดยเฉพาะการปะทะคารมและฉากหวานๆ ที่ลงตัว ความบาดหมางระหว่างสองหมู่บ้านและปริศนาในอดีตทำให้ผู้ชมลุ้นว่าเรื่องราวจะคลี่คลายอย่างไร ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของละคร

จุดเริ่มต้น
ละครเล่าเรื่องราวของสองหมู่บ้านที่เป็นศัตรูกันมานานนับสิบปี ได้แก่ หมู่บ้านจางปาง และ หมู่บ้านโจงโปง ซึ่งถูกแบ่งแยกด้วยป่ารกทึบและความบาดหมางที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น สาเหตุของความขัดแย้งเกิดจากเหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน เมื่อ กำนันทอง จากจางปางและ กำนันเงิน จากโจงโปงถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของสมบัติโบราณของหมู่บ้าน ทำให้ทั้งสองฝ่ายโทษกันและกัน ชาวบ้านถูกสั่งห้ามคบค้าหรือมีความสัมพันธ์ข้ามหมู่บ้านเด็ดขาด

ตัวเอกของเรื่องคือ บักแซ่บ (สมิธ ภาสวิชญ์) หนุ่มจอมซ่าจากจางปาง และ อีแหลม (เดนิส เจลีลชา) สาวแสบจากโจงโปง ทั้งสองเป็นนักขับรถสองแถวคู่แข่ง บักแซ่บขับรถสองแถวสีฟ้า “ส้วนซิ่ง” ภายใต้การดูแลของ ผู้ใหญ่ส้วน (โย่ง เชิญยิ้ม) ส่วนอีแหลมขับรถสองแถวสีแดง “หลอยแลน” ของ ผู้ใหญ่หลอย (ปุ๊ มนตรี) การแข่งขันแย่งลูกค้าและเส้นทางทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่กัดที่ปะทะกันไม่หยุดหย่อน

การพัฒนาความสัมพันธ์และปมขัดแย้ง
เรื่องราวเริ่มวุ่นวายเมื่อ ยายทอง (ตวง สาวิกา) และ ยายเงิน (จิ๋ม มยุรฉัตร) สองยายจอมแสบจากทั้งสองหมู่บ้าน วางแผนจับคู่ให้บักแซ่บและอีแหลมเพื่อยุติความบาดหมาง โดยหวังว่าความรักจะเป็นสะพานเชื่อมสองหมู่บ้านเข้าด้วยกัน ทั้งสองถูกจับให้ร่วมงานในงานประจำปีของจังหวัด ซึ่งทำให้พวกเขาเริ่มเห็นมุมดีๆ ของกันและกัน จากคู่กัดกลายเป็นคู่จิ้นในโลกโซเชียล โดยมีแฟนคลับตั้งชื่อคู่ให้ว่า “แซ่บแหลม”

อย่างไรก็ตาม ความรักของทั้งคู่ไม่ได้ราบรื่น ไอลดา (ผักไผ่ ปารีณา) สาวไฮโซจากเมืองกรุงที่แอบชอบบักแซ่บ และ โอบนิธิ (ยูโด ธรรม์ธัช) หนุ่มหล่อจากโจงโปงที่หวังครองใจอีแหลม พยายามขัดขวางความสัมพันธ์ของทั้งสอง ไอลดาคอยยุยงให้ชาวจางปางเกลียดอีแหลม ส่วนโอบนิธิพยายามทำให้บักแซ่บเข้าใจผิดในตัวอีแหลม นอกจากนี้ ชาวบ้านทั้งสองฝ่ายยังต่อต้านความรักของทั้งคู่ โดยเฉพาะผู้ใหญ่ส้วนและผู้ใหญ่หลอยที่ยึดติดกับความแค้นในอดีต

ในขณะเดียวกัน คู่รองอย่าง หมู่แจ๊ส (เต้ ชยพัทธ์) หนุ่มขี้เล่นจากจางปาง และ ครูสาลี่ (ลิซ่า อลิซา) ครูสาวจากโจงโปง ก็เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์แบบคู่กัดที่น่ารัก กลายเป็นอีกหนึ่งคู่ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่องราว

ปมลับในอดีตและจุดพลิกผัน
เมื่อเรื่องราวดำเนินไป บักแซ่บและอีแหลมเริ่มสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงของความบาดหมางระหว่างสองหมู่บ้าน ด้วยความช่วยเหลือจากยายทองและยายเงิน พวกเขาค้นพบว่า สมบัติโบราณ ที่หายไปไม่ได้ถูกขโมยโดยกำนันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ถูกซ่อนไว้โดย หลวงตาโพธิ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสองหมู่บ้านแย่งชิงกันจนแตกแยก สมบัตินี้ถูกเก็บไว้ในถ้ำลับกลางป่าที่เป็นเขตแดนระหว่างสองหมู่บ้าน

การค้นพบนี้ทำให้บักแซ่บและอีแหลมตัดสินใจร่วมมือกันเพื่อนำสมบัติกลับคืนมาและเปิดเผยความจริงต่อชาวบ้าน แต่พวกเขาต้องเผชิญกับอุปสรรคจากไอลดาและโอบนิธิที่พยายามขัดขวางและฉวยโอกาสครอบครองสมบัติเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ในฉากไคลแมกซ์ บักแซ่บและอีแหลมต้องแข่งรถสองแถวเพื่อปกป้องสมบัติและนำความจริงมาสู่แสงสว่าง

ละครได้รับความนิยมอย่างมากด้วยเรตติ้งตอนจบที่สูงถึง 3.3 ทั่วประเทศ และ 4.9 ในกรุงเทพฯ ผู้ชมชื่นชอบเคมีของคู่พระนาง สมิธ ภาสวิชญ์ และ เดนิส เจลีลชา รวมถึงความตลกและความแซ่บของตัวละครที่ผสมผสานสำเนียงอีสานได้อย่างลงตัว ปมขัดแย้งในอดีตและการคลี่คลายที่สมเหตุสมผลทำให้เรื่องราวน่าติดตาม ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร

เนื้อเรื่องและโครงสร้าง
ละครเล่าเรื่องราวของ หมู่บ้านจางปาง และ หมู่บ้านโจงโปง ที่เป็นศัตรูกันมานานหลายสิบปี เนื่องจากความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสมบัติโบราณที่หายไปในอดีต ตัวเอกคือ บักแซ่บ (สมิธ ภาสวิชญ์) หนุ่มจอมซ่าจากจางปาง และ อีแหลม (เดนิส เจลีลชา) สาวแสบจากโจงโปง ซึ่งเป็นคู่กัดที่แข่งขันกันในฐานะนักขับรถสองแถว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาจากการปะทะคารมไปสู่ความรักที่ช่วยคลายปมขัดแย้งระหว่างสองหมู่บ้าน ควบคู่ไปกับเรื่องราวของตัวละครสมทบอย่าง หมู่แจ๊ส (เต้ ชยพัทธ์) และ ครูสาลี่ (ลิซ่า อลิซา) ที่เพิ่มสีสันให้กับละคร

ละครผสมผสานความตลกแบบฉบับอีสานเข้ากับดราม่าที่มีน้ำหนัก โดยเฉพาะปมความขัดแย้งในอดีตที่ค่อยๆ คลี่คลายอย่างมีเหตุผล ทำให้ผู้ชมทั้งหัวเราะและลุ้นไปกับการแก้ไขปัญหา การแข่งขันระหว่างบักแซ่บและอีแหลม รวมถึงการค้นหาความจริงเกี่ยวกับสมบัติโบราณ ทำให้ละครมีจังหวะที่สนุกและไม่น่าเบื่อ ตัวละครแต่ละตัวมีคาแรกเตอร์ชัดเจน เช่น ยายทองและยายเงินที่เป็นตัวแสบแต่แฝงความอบอุ่น หรือตัวร้ายอย่าง ไอลดา (ผักไผ่ ปารีณา) และ โอบนิธิ (ยูโด ธรรม์ธัช) ที่สร้างความตึงเครียดได้อย่างดี

การแสดงและเคมีของนักแสดง
การแสดงของนักแสดงนำและสมทบเป็นหนึ่งในจุดแข็งของละคร:

สมิธ ภาสวิชญ์ (บักแซ่บ): สมิธถ่ายทอดความเป็นหนุ่มอีสานจอมซ่าได้อย่างเป็นธรรมชาติ การพูดสำเนียงอีสานและอารมณ์ขันของเขาทำให้ตัวละครมีเสน่ห์และน่าจดจำ

เดนิส เจลีลชา (อีแหลม): เดนิสแสดงบทสาวแสบได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะฉากปะทะคารมกับบักแซ่บที่ทั้งตลกและชวนฟิน เคมีของทั้งคู่กลายเป็นจุดขายหลักของละคร

นักแสดงสมทบ: เต้ ชยพัทธ์และลิซ่า อลิซานำเสนอคู่รองที่ทั้งน่ารักและไม่แย่งซีนคู่หลัก ส่วนนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง โย่ง เชิญยิ้ม (ผู้ใหญ่ส้วน) และ ปุ๊ มนตรี (ผู้ใหญ่หลอย) เพิ่มความขบขันและความอบอุ่นให้กับเรื่องราว

เคมีระหว่างนักแสดงนำและสมทบช่วยยกระดับละคร โดยเฉพาะฉากที่บักแซ่บและอีแหลมเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นคู่รัก ซึ่งชวนให้ผู้ชมลุ้นและฟินไปด้วย

การกำกับและงานภาพ
การกำกับของ ภริษา สิงหวัฒนกูล ทำได้ดีในการถ่ายทอดกลิ่นอายวัฒนธรรมอีสานผ่านฉากต่างๆ เช่น ตลาดนัด งานบุญ และการแข่งรถสองแถว งานภาพใช้โทนสีสันสดใส สะท้อนความมีชีวิตชีวาของชุมชนชนบท ประกอบกับดนตรีประกอบที่ผสมผสานดนตรีอีสานเข้ากับป๊อปสมัยใหม่ ทำให้ละครมีเอกลักษณ์

คะแนน 8.5/10 (จาก sence9.com)

ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่ง เป็นละครที่ครบรสทั้งความสนุก ความโรแมนติก และข้อคิดเกี่ยวกับความสามัคคี การนำเสนอวัฒนธรรมอีสานที่สนุกสนานและเคมีของนักแสดงทำให้ละครเรื่องนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมจำนวนมาก แม้จะมีข้อด้อยในเรื่องความยืดเยื้อของพล็อตบางส่วนและการแสดงของตัวละครร้ายที่ขาดมิติ แต่โดยรวมแล้วเป็นละครที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความบันเทิงแบบครบรส

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ชื่นชอบละครโรแมนติก คอมเมดี้ที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่น และเรื่องราวความรักที่พัฒนาจากคู่กัดสู่คู่รัก

ความสนุกสนานที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอีสาน
ตั้งแต่ตอนแรกที่ได้ดู ละครเรื่องนี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้นั่งรถสองแถวไปเที่ยวหมู่บ้านชนบทที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา การนำเสนอวัฒนธรรมอีสานผ่านสำเนียง การแต่งตัว และฉากงานบุญ ทำให้รู้สึกใกล้ชิดและอบอุ่นราวกับได้กลับไปเยือนบ้านเกิด การปะทะคารมระหว่าง บักแซ่บ (สมิธ ภาสวิชญ์) และ อีแหลม (เดนิส เจลีลชา) เต็มไปด้วยความแซ่บและมุกตลกที่เป็นธรรมชาติ ทุกครั้งที่ทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องแย่งลูกค้าหรือแข่งรถสองแถว ต้องยิ้มและหัวเราะออกมาดังๆ เพราะความขี้เล่นและความแสบของทั้งคู่ช่างลงตัว

ฉากที่ทำให้รู้สึกสนุกสุดๆ คือการแข่งรถสองแถว “ส้วนซิ่ง” และ “หลอยแลน” ที่ทั้งตื่นเต้นและชวนขำ การแทรกมุกตลกแบบอีสาน เช่น การแซวกันด้วยคำพูดพื้นบ้าน หรือการแสดงออกของ ผู้ใหญ่ส้วน (โย่ง เชิญยิ้ม) และ ผู้ใหญ่หลอย (ปุ๊ มนตรี) ทำให้รู้สึกเหมือนได้นั่งฟังญาติผู้ใหญ่เล่าเรื่องขำๆ ในงานบุญหมู่บ้าน ดนตรีประกอบที่ผสมผสานจังหวะหมอลำกับป๊อปสมัยใหม่ยิ่งเพิ่มอารมณ์คึกคัก ทำให้อยากลุกขึ้นเต้นตามทุกครั้งที่ได้ยิน

ความฟินจากเคมีคู่พระนางและคู่รอง
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้หัวใจพองโตคือเคมีระหว่างบักแซ่บและอีแหลม จากคู่กัดที่ปะทะกันด้วยวาจาและการแข่งขัน กลายเป็นคู่รักที่ค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกอย่างเป็นธรรมชาติ ฉากที่ทั้งคู่เริ่มมองเห็นมุมน่ารักของกันและกัน เช่น ตอนที่บักแซ่บแอบช่วยอีแหลมซ่อมรถ หรือตอนที่อีแหลมแอบยิ้มเมื่อเห็นบักแซ่บทำอะไรโก๊ะๆ ทำให้รู้สึกฟินและลุ้นให้ทั้งคู่ลงเอยกันเร็วๆ การที่ทั้งคู่ถูกจับคู่โดย ยายทอง (ตวง สาวิกา) และ ยายเงิน (จิ๋ม มยุรฉัตร) ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนมีกองเชียร์คอยลุ้นอยู่ข้างๆ

คู่รองอย่าง หมู่แจ๊ส (เต้ ชยพัทธ์) และ ครูสาลี่ (ลิซ่า อลิซา) ก็ไม่น้อยหน้า ความสัมพันธ์แบบขี้เล่นของทั้งคู่ให้อารมณ์เหมือนเพื่อนสนิทที่แอบชอบกัน ฉากที่หมู่แจ๊สพยายามจีบครูสาลี่ด้วยมุกตลก หรือตอนที่ครูสาลี่แกล้งทำเป็นไม่สนใจแต่แอบยิ้ม ทำให้รู้สึกอบอุ่นและอยากเอาใจช่วย การที่ละครมีทั้งคู่หลักและคู่รองที่เคมีลงตัว ทำให้รู้สึกเหมือนได้ดูความรักที่หลากหลายและเต็มไปด้วยสีสัน

ความตื่นเต้นจากปมดราม่าและการคลี่คลาย
นอกจากความสนุกและความฟิน ละครยังพาให้รู้สึกลุ้นระกับปมความขัดแย้งระหว่าง หมู่บ้านจางปาง และ หมู่บ้านโจงโปง การที่ทั้งสองหมู่บ้านมีปมบาดหมางจากสมบัติโบราณที่หายไป ทำให้รู้สึกอยากรู้ว่าความจริงคืออะไร ฉากที่บักแซ่บและอีแหลมร่วมมือกันค้นหาความจริงในถ้ำลับกลางป่าทำให้ใจเต้นแรงราวกับดูหนังผจญภัย การปรากฏตัวของ หลวงตาโพธิ์ ที่มาเฉลยปมในตอนท้ายให้ความรู้สึกสะใจและโล่งใจ เพราะทุกอย่างถูกคลี่คลายอย่างสมเหตุสมผล

อย่างไรก็ตาม บางช่วงของละครทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย โดยเฉพาะการกระทำของตัวละครร้ายอย่าง ไอลดา (ผักไผ่ ปารีณา) และ โอบนิธิ (ยูโด ธรรม์ธัช) ที่พยายามขัดขวางความรักของพระนาง การที่ทั้งคู่ดูจงใจร้ายเกินไปบางครั้งทำให้รู้สึกว่าไม่สมจริง แต่เมื่อถึงตอนที่ทั้งสองยอมรับผิดและขอโทษในตอนจบ ก็ให้ความรู้สึกว่าเรื่องราวจบลงด้วยความสมบูรณ์

ความประทับใจในข้อคิดและตอนจบ
สิ่งที่ทำให้รู้สึกประทับใจที่สุดคือข้อคิดที่ละครสอดแทรกเกี่ยวกับความสามัคคีและการให้อภัย การที่ความรักของบักแซ่บและอีแหลม รวมถึงหมู่แจ๊สและครูสาลี่ กลายเป็นสะพานเชื่อมสองหมู่บ้านที่เคยเป็นศัตรูกัน ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ ฉากงานแต่งงานในตอนจบที่รถสองแถว “ส้วนซิ่ง” และ “หลอยแลน” จอดเคียงข้างกันเป็นสัญลักษณ์ของความปรองดอง ทำให้รู้สึกน้ำตาซึมด้วยความปลื้มปิติ

ละครยังทำให้รู้สึกชื่นชมการนำเสนอวัฒนธรรมอีสานที่ทั้งสนุกและเข้าถึงง่าย ผู้ชมที่ไม่ใช่คนอีสานก็สามารถเข้าใจและซึมซับความสวยงามของวัฒนธรรมผ่านตัวละครและฉากต่างๆ ได้อย่างดี การแสดงของนักแสดงทุกคน โดยเฉพาะสมิธ ภาสวิชญ์และเดนิส เจลีลชา ทำให้รู้สึกเหมือนได้รู้จักบักแซ่บและอีแหลมตัวจริง

ละคร ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่ง เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความฟิน ละครเรื่องนี้พาให้รู้สึกเหมือนได้นั่งรถสองแถวไปผจญภัยในโลกที่เต็มไปด้วยสีสันของอีสาน ความรักที่ค่อยๆ เบ่งบานท่ามกลางความขัดแย้งทำให้รู้สึกหวังว่าความรักและความเข้าใจสามารถแก้ไขทุกปัญหาได้ แม้บางช่วงจะรู้สึกว่ายืดเยื้อหรือตัวร้ายดูเกินจริงไปบ้าง แต่โดยรวมแล้ว ละครเรื่องนี้เป็นความบันเทิงที่ครบรสและน่าจดจำ

ละคร ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่ง 2568

ละคร ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่ง 2568

เปิดตัวดราม่าสองหมู่บ้านคู่แค้น
ละครพาเราไปรู้จัก หมู่บ้านจางปาง และ หมู่บ้านโจงโปง สองหมู่บ้านที่เป็นอริกันมานานนนนแบบนับสิบปี มีป่ารกๆ กั้นกลางเหมือนกำแพงเลย เรื่องนี้เริ่มจากความแค้นตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย ชาวบ้านทั้งเด็กยันคนแก่ถูกสั่งห้ามคบกัน ห้ามค้าขาย ห้ามแม้แต่จะมองหน้ากัน ถึงไม่ถึงขั้นฆ่ากันตาย แต่ก็ตีกันด้วยวาจาและศักดิ์ศรีแบบดุเดือดมากกก ความรู้สึกตอนดูคือเหมือนได้ย้อนไปสมัยละครพื้นบ้านที่หมู่บ้านเป็นศัตรูกัน แต่เพิ่มความโมเดิร์นด้วยมุกตลกและสำเนียงอีสานที่ฟังแล้วขำกลิ้ง บอกเลยว่าเปิดตัวได้น่าสนใจสุดๆ อยากรู้เลยว่าทำไมสองหมู่บ้านนี้ถึงเกลียดกันขนาดนี้

รถสองแถวสุดซิ่ง ปะทะสุดเดือด
ละครพาเราไปเจาะลึกธุรกิจรถสองแถวของทั้งสองหมู่บ้าน! ฝั่งจางปางมี พ่อส้วน (โย่ง เชิญยิ้ม) เจ้าของรถสองแถว ส้วนซิ่ง สายสีฟ้า สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ ส่วนฝั่งโจงโปงมี พ่อหลอย (ปุ๊ มนตรี) เจ้าของรถสองแถว หลอยแลน สายสีแดง สองคู่นี้คือศัตรูตัวฉกาจ รถสองแถวของทั้งคู่ต้องแย่งเส้นทาง แย่งลูกค้า ใช้ทุกวิธีตั้งแต่ลดราคายันแอบแซะกันในงานบุญ แต่ยุคนี้คนเริ่มใช้รถส่วนตัวมากขึ้น ธุรกิจรถสองแถวเลยซบเซา รายได้ตกฮวบจนบางวันแทบไม่พอน้ำมัน แต่ทั้งสองหมู่บ้านก็ยังยอมกันไม่ได้ เพราะศักดิ์ศรีมันค้ำคอ ฉากนี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้เห็นการแข่งขันสุดดุเดือดแบบในชีวิตจริง ผสมความตลกที่พ่อส้วนกับพ่อหลอยแซะกันจนเราขำน้ำตาไหล

อีแหลม สาวแซ่บแห่งโจงโปง
 เราได้เจอกับนางเอกของเรา อีแหลม (เดนิส เจลีลชา) ลูกสาวคนเล็กของ พ่อหลอย และ เจ๊โซเฟีย เจ้าแม่เงินกู้ แหลมเป็นสาวแซ่บที่รักการไลฟ์สดขายของออนไลน์กับเพื่อนสนิท แกงเปรอะ และ ข้าวเบือ ขายทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้ายันขนม แหลมมี ยายลิซ่า อดีตนางรำเป็นที่ปรึกษา ซึ่งบอกเลยว่ายายคนนี้แซ่บไม่แพ้หลาน! แต่พ่อหลอยดันให้แหลมมาดูแลบริษัทรถสองแถวทั้งที่เธอไม่ถนัด แหลมเลยต้องจำใจรับหน้าที่ ความรู้สึกตอนดูคือชอบความเป็นสาวยุคใหม่ของแหลมมาก เธอมีฝันเป็นของตัวเอง ไม่ได้อยากทำตามที่พ่อสั่ง แต่ก็ต้องยอมเพื่อครอบครัว ตัวละครนี้ทำให้รู้สึกเอาใจช่วยสุดๆ

บักแซ่บ หนุ่มซ่าจากจางปาง
ฝั่งพระเอก บักแซ่บ (สมิธ ภาสวิชญ์) โผล่มาในตอนที่ 4  แซ่บเป็นลูกชายคนเดียวของ พ่อส้วน และ แอน ลูกสาว ยายสอย เพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพฯ ฝันอยากเปิดร้านอาหารอีสานแบบโอมากาเสะ แต่พ่อส้วนดึงตัวมาดูแลรถสองแถว ส้วนซิ่ง ทันที! แซ่บกับแหลมคือคู่กัดตั้งแต่เด็ก โตมาเจอกันก็ยังแซะกันไม่เลิก ความรู้สึกตอนดูคือเคมีของทั้งคู่มันปังมากกก สมิธเล่นเป็นหนุ่มอีสานได้แบบถึงใจ ส่วนเดนิสก็แซ่บสมชื่อ ฉากที่ทั้งคู่เจอกันครั้งแรกในรอบหลายปีแล้วปะทะคารมคือขำกลิ้ง แต่ก็แอบเห็นว่าแซ่บกับแหลมมีความฝันเหมือนกัน คืออยากทำธุรกิจของตัวเอง ไม่ได้อยากสานต่อกงสีแบบผู้ใหญ่สั่ง ทำให้รู้สึกว่าทั้งคู่น่าจะเข้ากันได้ถ้าไม่กัดกันซะก่อน

ปะทะเดือด การตลาดสุดครีเอต
จุดพีคของความวายป่วง แซ่บกลับมาบ้านก็เริ่มคิดโปรโมชั่นใหม่ๆ ให้รถสองแถวส้วนซิ่ง เช่น แจกน้ำดื่มฟรี หรือติดสติกเกอร์ลายรถสุดคูล พอแหลมรู้ว่าลูกค้าถูกแย่งไปก็ไม่ยอม! หยุดไลฟ์ขายของแล้วหันมาวางแผนการตลาดให้หลอยแลนเต็มสูบ ทั้งสองฝ่ายจัดงานเปิดตัวรถสองแถวโฉมใหม่พร้อมกัน แซ่บกับแหลมขึ้นเวทีปะทะคารมแบบไฟแล่บ แต่เรื่องดันบานปลายกลายเป็นยกพวกตีกันทั้งผู้บริหารยันคนขับรถ งานพังเละเทะ แถมกลายเป็นคลิปไวรัลในโซเชียล ฉากนี้คือสุดมากกก ความรู้สึกตอนดูคือทั้งขำทั้งลุ้น การปะทะของแซ่บกับแหลมมันเหมือนดูคู่กัดในชีวิตจริง แต่ก็แอบเห็นเคมีน่ารักๆ ที่ทำให้ใจฟู

ป๋าสวาท ศูนย์รวมใจสองหมู่บ้าน
 ละครแนะนำตัวละครสำคัญ ป๋าสวาท นายก อบต. ที่เป็นเหมือนศูนย์รวมความศรัทธาของทั้งสองหมู่บ้าน ป๋าคนนี้เป็นที่รักเพราะแจกงบพัฒนาทั้งจางปางและโจงโปงให้เจริญเท่าเทียมกัน ชาวบ้านที่ปกติไม่ถูกกันเลยมารวมตัวกันได้เฉพาะในงานบุญที่ป๋าสวาทจัด ความรู้สึกตอนดูคือป๋าสวาทเหมือนเป็นตัวละครที่มาเชื่อมรอยร้าวของสองหมู่บ้าน แต่ก็แอบรู้สึกว่าเขามีอะไรลึกลับๆ ซ่อนอยู่ ละครเริ่มปูปมให้เราอยากรู้ว่าเขาจะมีบทบาทยังไงต่อไป

แผนจับคู่ของป๋าสวาท
ป๋าสวาทเป็นพ่อม่าย มีลูกสองคนคือ โอบนิธิ และ ไอลดา เขาวางแผนให้ลูกทั้งคู่แต่งงานกับแซ่บและแหลมในอนาคต ซึ่งพ่อส้วนและพ่อหลอยก็เห็นด้วย แต่ ยายสอย และ ยายลิซ่า กลับรู้สึกไม่ไว้ใจป๋าสวาท เหมือนมีอะไรแปลกๆ ซ่อนอยู่ ความรู้สึกตอนดูคือเริ่มสงสัยป๋าสวาทแล้วล่ะ เขาดูดีเกินไปหน่อยรึเปล่า? แล้วทำไมสองยายถึงไม่ชอบเขา? เริ่มมีปมลับให้ลุ้นแล้ววว

ความลับในอดีตของสองยาย
ละครพาเราไปรู้จัก ยายสอย และ ยายลิซ่า คู่กัดตั้งแต่สาวๆ ทั้งคู่ไม่เห็นด้วยกับความบาดหมางของสองหมู่บ้าน เพราะจำได้ว่าสมัยก่อนทั้งสองหมู่บ้านเคยไปมาหาสู่กัน จนเกิดเรื่องแย่งที่ดินรกร้างป่ากลางหมู่บ้าน ทำให้เกิดความขัดแย้งยาวนานถึงทุกวันนี้ สองยายอยากเห็นทั้งสองหมู่บ้านคืนดีกัน ความรู้สึกตอนดูคือชอบที่ละครเริ่มปูเรื่องอดีต ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมสองหมู่บ้านถึงเป็นศัตรูกัน แล้วก็เอาใจช่วยสองยายที่อยากให้ทุกคนปรองดอง

แผนจับคู่สุดแซ่บของสองยาย
จุดเปลี่ยนของเรื่อง ยายสอยและยายลิซ่าเห็นแซ่บกับแหลมทะเลาะกันทั้งในตลาดและในโซเชียล แต่กลับรู้สึกว่าเคมีของทั้งคู่มันน่ารักมากกก ทั้งสองเหมือนเติมเต็มกันได้ดี สองยายเลยเกิดไอเดียสุดปัง อยากจับคู่ให้แซ่บกับแหลมเป็นคู่รัก เพื่อหวังว่าจะช่วยให้สองหมู่บ้านคืนดีกันได้! แถมยังไม่อยากให้หลานต้องแต่งกับลูกของป๋าสวาท ความรู้สึกตอนดูคือกรี๊ดดด สองยายนี่คือ MVP ของเรื่องเลย ไอเดียจับคู่แซ่บกับแหลมมันช่างแซ่บสมชื่อ ทำให้รู้สึกฟินและลุ้นว่าทั้งคู่จะรักกันได้มั้ย

ดราม่ามาเต็ม รักต้องห้าม
ดราม่ามาเต็ม แผนจับคู่ของสองยายทำให้ชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านไม่พอใจ โดยเฉพาะ โอบนิธิ และ ไอลดา ที่พยายามทำทุกอย่างให้แซ่บกับแหลมเลิกคบกัน งานนี้ทั้งสองต้องเจออุปสรรคเพียบ ความรู้สึกตอนดูคือลุ้นสุดๆ แซ่บกับแหลมจะฝ่าดราม่าความรักต้องห้ามไปได้มั้ย? แล้วป๋าสวาทจะมีบทบาทอะไรในเรื่องนี้? ละครทิ้งปมไว้ให้อยากดูต่อแบบสุดๆ

บอกเลยว่า ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่ง ละครผสมความฮาแบบอีสานแท้ๆ กับความฟินของคู่พระนาง แซ่บแหลม ได้ลงตัวสุดๆ การแสดงของ สมิธ ภาสวิชญ์ และ เดนิส เจลีลชา คือเคมีดีงามจนต้องกรี๊ด ตัวละครสมทบอย่างสองยาย ยายสอย และ ยายลิซ่า ก็ขโมยซีนไปเต็มๆ ส่วนปมดราม่าความขัดแย้งสองหมู่บ้านและป๋าสวาททำให้อยากรู้ว่าเรื่องจะไปต่อยังไง ข้อเสียเล็กๆ คือบางฉากการแข่งรถสองแถวดูเกินจริงไปนิด แต่โดยรวมคือสนุก ครบรส ดูแล้วติดงอม

เบื้องหลังละครสุดแซ่บแห่งปี 2568 ผู้บ่าวสุดซ่าส์กะอีหล่าขาซิ่ง ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่สนุก ฟิน ครบรส แต่เบื้องหลังการทำงานของทีมงานก็เดือดไม่แพ้กัน อยากรู้มั้ยว่าใครเป็นคนเนรมิตความแซ่บนี้ให้เราได้ดู

บทประพันธ์โดย พลัง – ต้นกำเนิดความแซ่บ
เริ่มที่คนแรกเลย พลัง ผู้เขียนบทประพันธ์ของละครเรื่องนี้ บอกเลยว่าชื่อนี้การันตีความปัง พลังคือคนที่คิดเรื่องราวสุดครีเอตของ หมู่บ้านจางปาง และ หมู่บ้านโจงโปง ที่เป็นคู่แค้นกันมานานนับสิบปี ความรู้สึกตอนรู้ว่าเป็นผลงานของพลังคือกรี๊ดดด เพราะเขาเก่งมากในการสร้างพล็อตที่ผสมวัฒนธรรมอีสาน ความตลก และดราม่าได้ลงตัวสุดๆ คิดดูสิ เรื่องราวของ บักแซ่บ และ อีแหลม ที่จากคู่กัดกลายเป็นคู่จิ้น มันเริ่มจากไอเดียของพลังนี่แหละ ต้องยกนิ้วให้เลย เพราะเขาทำให้ละครมีกลิ่นอายอีสานแท้ๆ แต่ดูง่าย เข้าถึงคนทุกวัย ถ้าไม่มีพลัง ละครเรื่องนี้คงไม่แซ่บขนาดนี้แน่นอน

บทโทรทัศน์โดย ณัฏฐพล เกษบุญชู & ภัทรนันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา – คนเติมความฟิน
ต่อมาเรามาพูดถึงสองนักเขียนบทโทรทัศน์สุดเจ๋ง ณัฏฐพล เกษบุญชู และ ภัทรนันทน์ อิศรางกูร ณ อยุธยา สองคนนี้คือคนที่หยิบเรื่องราวของพลังมาปรุงให้กลายเป็นบทละครที่เราดูแล้วฟินจนตัวแตก บอกเลยว่างานนี้เขาทั้งคู่ใส่ใจมากกก ฉากปะทะคารมระหว่าง แซ่บ กับ แหลม ที่ทำให้เราขำกลิ้ง หรือฉากหวานๆ ที่ทำให้ใจเต้นตึกตัก ล้วนมาจากฝีมือของสองคนนี้ ความรู้สึกตอนดูคือรู้สึกได้ถึงความพยายามที่เขาจะทำให้ทุกฉากมีทั้งมุกตลกแบบอีสานแท้ๆ และความดราม่าที่ไม่หนักเกินไป เช่น ฉากที่แซ่บกับแหลมเริ่มเห็นใจกัน หรือฉากที่ ยายสอย กับ ยายลิซ่า วางแผนจับคู่ให้หลาน ทุกอย่างมันลงตัวเพราะบทที่เขียนมาดีมาก ต้องปรบมือรัวๆ ให้ทีมเขียนบทที่ทำให้ละครมีชีวิตชีวาแบบนี้

กำกับการแสดงโดย ภริษา สิงหวัฒนกูล – ผู้กำกับสายแซ่บ
มาถึงหัวเรือใหญ่ ภริษา สิงหวัฒนกูล ผู้กำกับการแสดงของเรื่องนี้ ต้องบอกว่าเธอคือคนที่ทำให้ทุกฉากในละครมันปังสุดๆ ภริษาคือคนที่เนรมิตให้ หมู่บ้านจางปาง และ โจงโปง มีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ผ่านงานภาพที่สวยงาม โทนสีสดใส และการถ่ายทอดวัฒนธรรมอีสานที่ดูแล้วรู้สึกเหมือนได้ไปนั่งรถสองแถวด้วยตัวเอง ความรู้สึกตอนดูคือชอบมากกกที่ภริษาทำให้ทุกฉากมีพลัง ไม่ว่าจะเป็นฉากแข่งรถสองแถว ส้วนซิ่ง ปะทะ หลอยแลน ที่ตื่นเต้นสุดๆ หรือฉากที่แซ่บกับแหลมเริ่มฟินกันที่ทำให้เรากรี๊ดหน้าจอ! เธอยังเก่งในการดึงเคมีของนักแสดงออกมา เช่น การแสดงของ สมิธ ภาสวิชญ์ และ เดนิส เจลีลชา ที่ดูเป็นคู่กัดสุดน่ารัก บอกเลยว่าถ้าไม่มีภริษา ละครคงไม่ครบรสขนาดนี้ สุดยอดไปเลยยย

ควบคุมการผลิตโดย อาร์ต พลังธรรม กล่อมทองสุข – เจ้าพ่อโปรดักชัน

ต่อมาเรามาคุยถึง อาร์ต พลังธรรม กล่อมทองสุข คนที่ควบคุมการผลิตทั้งหมด บอกเลยว่านี่คือคนที่ทำให้ทุกอย่างในละครมันเป๊ะปัง อาร์ตคือคนที่ดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การเลือกโลเคชัน การออกแบบฉาก ไปจนถึงการจัดการทีมงานให้ทำงานออกมาได้สมบูรณ์แบบ ความรู้สึกตอนดูคือรู้สึกได้ถึงความใส่ใจในรายละเอียด เช่น ฉากตลาดนัดที่ดูสมจริงสุดๆ หรือรถสองแถวที่ออกแบบมาให้มีสไตล์เฉพาะตัว แม้แต่ดนตรีประกอบที่ผสมความเป็นหมอลำกับป๊อปสมัยใหม่ก็ลงตัวสุดๆ อาร์ตทำให้ละครเรื่องนี้มีคุณภาพระดับพรีเมียมเลยล่ะ ต้องยกนิ้วให้ที่ทำให้ทุกอย่างออกมาดูแพงและน่าติดตาม

ผลิตโดย ค่าย รักละคร – ค่ายที่การันตีความปัง
ปิดท้ายด้วย ค่ายรักละคร ค่ายที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของละครเรื่องนี้ ค่ายรักละครขึ้นชื่อเรื่องการทำละครที่ครบรส ทั้งดราม่า คอมเมดี้ และโรแมนติก และเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ความรู้สึกตอนรู้ว่าเป็นผลงานของค่ายนี้คือมั่นใจเลยว่าต้องปัง เพราะเขามีประวัติทำละครที่ทั้งสนุกและมีคุณภาพ เช่น การคัดเลือกนักแสดงที่เหมาะสมอย่าง สมิธ ภาสวิชญ์, เดนิส เจลีลชา, โย่ง เชิญยิ้ม, และ ปุ๊ มนตรี ที่ทำให้ตัวละครทุกตัวมีชีวิต แถมค่ายนี้ยังใส่ใจในรายละเอียดของวัฒนธรรมอีสาน ทำให้คนดูอย่างเรารู้สึกเหมือนได้สัมผัสชีวิตในหมู่บ้านจริงๆ! บอกเลยว่ารักละครคือค่ายที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

นักแสดง

→ ภาสวิชญ์ บูรณนัติ รับบท แซ่บ

บักแซ่บ คือหนุ่มสุดซ่าจากหมู่บ้านจางปาง ลูกชายคนเดียวของพ่อส้วน (โย่ง เชิญยิ้ม) และแอน (พาเมล่า เบาว์เด้น) เจ้าของรถสองแถวส้วนซิ่ง สายสีฟ้า แซ่บเพิ่งเรียนจบจากกรุงเทพฯ ด้วยความฝันอยากเปิดร้านอาหารอีสานสไตล์โอมากาเสะ แต่ต้องจำใจกลับมาช่วยธุรกิจรถสองแถวของครอบครัวตามคำสั่งพ่อ ตัวละครนี้เป็นหนุ่ม Gen ใหม่ รักอิสระ มีความคิดสร้างสรรค์เต็มเปี่ยม เขาคิดโปรโมชั่นสุดล้ำให้ส้วนซิ่ง เช่น แจกน้ำฟรี หรือติดสติกเกอร์ลายรถสุดคูล เพื่อแย่งลูกค้ากับหลอยแลนของแหลม คู่กัดตลอดกาลจากหมู่บ้านโจงโปง

แซ่บมีนิสัยขี้เล่น มั่นใจ แถมปากแซ่บสมชื่อ ปะทะคารมกับแหลมได้แบบไม่มีใครยอมใคร แต่ใต้ความซ่านี้ เขามีความรับผิดชอบและหัวใจที่อบอุ่น โดยเฉพาะตอนที่เริ่มเห็นใจแหลมและช่วยเหลือกันในช่วงหลัง ทำให้เราเห็นว่าแซ่บไม่ใช่แค่หนุ่มซ่าธรรมดา แต่เป็นคนที่มีความฝันและพร้อมต่อสู้เพื่อครอบครัวและความรัก ความรู้สึกตอนดูแซ่บคือชอบมากที่เขาเป็นตัวละครที่มีมิติ ทั้งฮา ทั้งน่ารัก และมีพัฒนาการจากคู่กัดของแหลมกลายเป็นคนที่ทำให้ใจฟู

ฉายา พ่อหนุ่มส้วนซิ่ง
เพราะเขาคือตัวแทนของรถสองแถวส้วนซิ่งที่มาพร้อมความซ่าและความครีเอต ทุกครั้งที่แซ่บขับรถหรือคิดแผนแย่งลูกค้า ต้องบอกเลยว่าเขาคือดาวเด่นที่ทำให้รถสองแถวสีฟ้าดูมีสไตล์สุดๆ ฉายานี้เหมาะกับความเป็นหนุ่มสุดคูลที่ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง และมีเสน่ห์แบบอีสานแท้ๆ

ข้อคิด ความฝันต้องมาก่อน แต่ครอบครัวคือที่หนึ่ง
ข้อคิดที่ได้จากแซ่บคือถึงเราจะมีความฝันเป็นของตัวเอง แต่บางครั้งการทำเพื่อครอบครัวก็สำคัญไม่แพ้กัน แซ่บยอมพักความฝันเรื่องร้านอาหารเพื่อช่วยพ่อดูแลธุรกิจรถสองแถว แม้จะไม่เต็มใจในตอนแรก แต่สุดท้ายเขาก็ทุ่มสุดตัวและยังหาวิธีใส่ความฝันของตัวเองเข้าไปในงานที่ทำ ทำให้เห็นว่าถ้าเรามีใจและความพยายาม เราสามารถสมดุลระหว่างหน้าที่และความฝันได้ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าแซ่บเป็นตัวละครที่ให้แรงบันดาลใจ โดยเฉพาะคนที่กำลังลังเลระหว่างทำตามใจตัวเองหรือทำเพื่อคนที่รัก

→ เดนิส เจลีลชา คัปปุน รับบท แหลม

อีแหลม คือสาวแสบแห่งหมู่บ้านโจงโปง ลูกสาวคนเล็กของพ่อหลอย (มนตรี เจนอักษร) เจ้าของรถสองแถวหลอยแลน สายสีแดง และเจ๊โซเฟีย (ฝน ธนสุนทร) เจ้าแม่เงินกู้ มีพี่สาวคือครูสาลี่ (อลิซา แอน ไฮน์ส) แหลมเป็นสาวยุคใหม่ที่รักการไลฟ์สดขายของออนไลน์กับเพื่อนสนิทอย่างเปรอะ (ภีมพล พาณิชย์ธำรง) และข้าวเบือ (ปรียารินท์ รวีพุฒิพงศ์) ขายทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้ายันขนม โดยมียายลิซ่า (ดวงตา ตุงคะมณี) อดีตนางรำเป็นที่ปรึกษา แต่พ่อหลอยดันมอบหน้าที่ให้แหลมมาดูแลบริษัทรถสองแถว ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เธอถนัดเลย

แหลมมีนิสัยมั่นใจ ปากจัด ปะทะคารมเก่ง โดยเฉพาะกับบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) คู่กัดจากหมู่บ้านจางปางที่เป็นศัตรูกัน เธอไม่ยอมแพ้ใครง่ายๆ และฉลาดในการคิดกลยุทธ์แย่งลูกค้าสองแถว แต่ใต้ความแซ่บนี้ แหลมมีด้านที่อ่อนโยนและมุ่งมั่น เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวและพิสูจน์ตัวเอง แถมเมื่อได้ใกล้ชิดกับแซ่บมากขึ้น เธอก็เริ่มเผยมุมน่ารักที่ทำให้ใจฟู ความรู้สึกตอนดูแหลมคือชอบมากที่เธอเป็นสาวแกร่งแต่มีหัวใจอ่อนโยน การแสดงของเดนิสทำให้แหลมดูมีชีวิต ทั้งแซ่บ ทั้งน่ารัก และน่าติดตามทุกฉาก

ฉายา สาวแซ่บแห่งหลอยแลน
เพราะเธอคือตัวแทนของรถสองแถวหลอยแลนที่มาพร้อมความมั่นใจและความแสบสันต์ ทุกครั้งที่แหลมขึ้นขับรถหรือปะทะคารมกับแซ่บ เธอคือดาวเด่นที่ทำให้รถสีแดงดูมีสไตล์และพลังสุดๆ ฉายานี้เหมาะกับความเป็นสาวอีสานที่ทั้งเก่งและมีเสน่ห์แพรวพราว

ข้อคิด ความกล้าที่จะเป็นตัวเองนำไปสู่ความสำเร็จ
ข้อคิดที่ได้จากแหลมคือการกล้าที่จะเป็นตัวเองและยืนหยัดเพื่อสิ่งที่รัก แหลมรักการไลฟ์สดและอยากมีธุรกิจของตัวเอง แต่เมื่อต้องรับหน้าที่ดูแลรถสองแถว เธอก็ทุ่มสุดตัวและใส่ความครีเอตของตัวเองเข้าไป เช่น การคิดแคมเปญเจ๋งๆ เพื่อแข่งกับส้วนซิ่ง สิ่งนี้สอนว่าเราสามารถนำความเป็นตัวเองมาใช้ในงานที่อาจไม่ใช่สิ่งที่เราอยากทำได้ และความกล้าที่จะแสดงออกจะพาเราไปสู่ความสำเร็จ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าแหลมเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากทำตามฝันแต่ต้องเจอหน้าที่ที่ไม่ถนัด

→ ชยพัทธ์ คงทรัพย์ รับบท หมู่แจ๊ส

หมู่แจ๊ส คือหนุ่มขี้เล่นจากหมู่บ้านจางปาง เพื่อนสนิทของบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) ที่คอยช่วยเหลือในธุรกิจรถสองแถวส้วนซิ่ง สายสีฟ้า หมู่แจ๊สเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความร่าเริง มีมุกตลกให้ได้ขำในทุกฉาก และเป็นเหมือนสีสันของหมู่บ้าน ถึงจะดูชิลๆ ไม่ค่อยจริงจัง แต่เขามีความจริงใจและพร้อมยืนเคียงข้างเพื่อนและคนที่รัก โดยเฉพาะกับครูสาลี่ (อลิซา แอน ไฮน์ส) ครูสาวจากหมู่บ้านโจงโปงที่กลายเป็นคู่รักสุดน่ารักของเขา

ความสัมพันธ์ของหมู่แจ๊สกับครูสาลี่เริ่มจากความเป็นคู่กัดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความขี้เล่น เขามักจะแกล้งจีบครูสาลี่ด้วยมุกแป๊กๆ แต่ก็แอบหวานจนทำให้คนดูต้องยิ้มตาม หมู่แจ๊สยังมีด้านที่ทุ่มเท เมื่อต้องช่วยบักแซ่บในภารกิจแย่งลูกค้ารถสองแถวหรือแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้าน ความรู้สึกตอนดูหมู่แจ๊สคือชอบมากที่เขาเป็นตัวละครที่ทำให้ทุกฉากสดใส การแสดงของชยพัทธ์ทำให้หมู่แจ๊สดูเป็นเพื่อนที่ทุกคนอยากมี ด้วยความตลกและหัวใจที่อบอุ่น

ฉายา หนุ่มจอมกวนแห่งจางปาง
เพราะเขาคือตัวตึงเรื่องความกวนและมุกตลกที่ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านยิ้มได้ ทุกครั้งที่หมู่แจ๊สโผล่มา ไม่ว่าจะแกล้งครูสาลี่หรือช่วยบักแซ่บคิดแผนแซ่บๆ เขาจะมาพร้อมพลังบวกที่ทำให้ฉากนั้นสนุกขึ้นทันที ฉายานี้เหมาะกับความเป็นหนุ่มอีสานที่ทั้งขี้เล่นและมีเสน่ห์สุดๆ

ข้อคิด ความจริงใจคือกุญแจสู่ใจคน
ข้อคิดที่ได้จากหมู่แจ๊สคือความจริงใจสามารถชนะใจคนได้ แม้ว่าหมู่แจ๊สจะดูเป็นคนกวนๆ ไม่ค่อยจริงจัง แต่ความจริงใจที่เขามีต่อครูสาลี่และเพื่อนๆ ทำให้ทุกคนรักเขา อย่างฉากที่เขาพยายามจีบครูสาลี่ด้วยความเป็นตัวเอง หรือตอนที่ยืนหยัดเคียงข้างบักแซ่บในช่วงวิกฤต แสดงให้เห็นว่าการเป็นตัวของตัวเองและจริงใจกับคนรอบข้างคือสิ่งที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าไม่ต้องพยายามเป็นคนอื่น แค่จริงใจก็ทำให้เราเป็นที่รักได้

→ อลิซา แอน ไฮน์ส รับบท สาลี่

ครูสาลี่ คือครูสาวสวยจากหมู่บ้านโจงโปง พี่สาวของอีแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และลูกสาวของพ่อหลอย (มนตรี เจนอักษร) กับเจ๊โซเฟีย (ฝน ธนสุนทร) เธอเป็นครูประจำโรงเรียนในหมู่บ้านที่มีความรับผิดชอบและใจดี ทุกคนในโจงโปงรักและเคารพเธอ แต่สาลี่ไม่ใช่แค่ครูเรียบร้อยธรรมดา เธอมีด้านขี้เล่นและมุมแซ่บที่โผล่ออกมาเมื่อเจอกับหมู่แจ๊ส (ชยพัทธ์ คงทรัพย์) หนุ่มจอมกวนจากหมู่บ้านจางปางที่กลายเป็นคู่รักสุดน่ารักของเธอ

ความสัมพันธ์ของสาลี่กับหมู่แจ๊สเริ่มจากความเป็นคู่กัดที่เต็มไปด้วยความสนุก เธอมักจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจมุกแป๊กๆ ของหมู่แจ๊ส แต่แอบยิ้มเมื่อเขาไม่เห็น สาลี่ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยน้องสาวอย่างแหลมและสนับสนุนให้สองหมู่บ้านที่เป็นศัตรูกันคืนดี เธอเป็นตัวละครที่ทั้งฉลาด อ่อนโยน และมีเสน่ห์แบบสาวอีสานยุคใหม่ ความรู้สึกตอนดูสาลี่คือชอบมากที่เธอเป็นตัวละครที่สมดุล ทั้งน่ารัก น่าเคารพ และมีมุมตลกที่ทำให้ใจฟู การแสดงของอลิซาทำให้สาลี่ดูเป็นครูสาวที่ทั้งน่าเอ็นดูและมีพลังบวก

ฉายา ครูสาวใจดีแห่งโจงโปง
เพราะเธอคือครูที่ทุกคนในหมู่บ้านรัก ด้วยความใจดีและรอยยิ้มที่ทำให้ทุกคนหลง ทุกครั้งที่สาลี่โผล่มาในฉาก ไม่ว่าจะสอนเด็กๆ หรือแกล้งหมู่แจ๊ส เธอมาพร้อมพลังงานบวกที่ทำให้ทุกคนยิ้มตาม ฉายานี้เหมาะกับความเป็นสาวอีสานที่ทั้งสวย ฉลาด และมีหัวใจอบอุ่น

ข้อคิด ความอ่อนโยนและความเข้มแข็งไปด้วยกันได้
ข้อคิดที่ได้จากสาลี่คือความอ่อนโยนและความเข้มแข็งสามารถอยู่ในคนคนเดียวกันได้ สาลี่เป็นครูที่ใจดีและอ่อนโยนกับทุกคน แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เข้มแข็งเมื่อต้องปกป้องน้องสาวหรือยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง อย่างฉากที่เธอช่วยแหลมแก้ปัญหา หรือตอนที่แกล้งหมู่แจ๊สแต่ยังคงความน่ารัก ทำให้เห็นว่าเราสามารถเป็นคนที่ทั้งใจดีและหนักแน่นในเวลาเดียวกัน ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าสาลี่เป็นตัวอย่างของการเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในแบบของตัวเอง

→ โย่ง เชิญยิ้ม รับบท พ่อส้วน

พ่อส้วน คือผู้ใหญ่บ้านแห่งหมู่บ้านจางปาง และเจ้าของธุรกิจรถสองแถว ส้วนซิ่ง สายสีฟ้า ที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ เขาเป็นสามีของแอน (พาเมล่า เบาว์เด้น) และพ่อของบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) พ่อส้วนเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความจริงจังในเรื่องศักดิ์ศรีและการแข่งขัน โดยเฉพาะกับพ่อหลอย (มนตรี เจนอักษร) ผู้ใหญ่บ้านโจงโปง เจ้าของรถสองแถวหลอยแลน สายสีแดง ซึ่งเป็นคู่แค้นตลอดกาลของเขา ทั้งสองคนนี้ปะทะกันด้วยวาจาและกลยุทธ์แย่งลูกค้าตลอดเวลา ทำให้เกิดฉากฮาๆ ที่ดูแล้วต้องขำจนท้องแข็ง

ถึงพ่อส้วนจะดูแข็งกร้าวและยึดมั่นในความเป็นอริกับหมู่บ้านโจงโปง แต่เขาก็มีด้านที่รักครอบครัวสุดๆ เขาพยายามผลักดันให้แซ่บสานต่อธุรกิจรถสองแถว แม้ว่าลูกชายจะฝันอยากเปิดร้านอาหารอีสานก็ตาม ความดื้อรั้นของพ่อส้วนมาพร้อมความตลกและความอบอุ่น โดยเฉพาะในฉากที่เขาแอบเผยมุมน่ารักต่อแอนหรือแซ่บ ทำให้เห็นว่าเขาไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่บ้านที่ดุ แต่เป็นพ่อที่ทุ่มเทเพื่อครอบครัว ความรู้สึกตอนดูพ่อส้วนคือชอบมากที่โย่ง เชิญยิ้มเล่นได้ทั้งฮาและจริงใจ ทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นขวัญใจที่ดูแล้วยิ้มตามทุกครั้ง

ฉายา เจ้าพ่อส้วนซิ่ง
เพราะเขาไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่บ้าน แต่คือหัวเรือใหญ่ของรถสองแถวส้วนซิ่งที่ครองใจชาวจางปาง ทุกครั้งที่พ่อส้วนออกมาประกาศศักดาหรือคิดแผนแซงหน้าหลอยแลน ความมุ่งมั่นและความแซ่บของเขาทำให้ฉายานี้เหมาะสุดๆ เหมือนเป็นตำนานแห่งวงการรถสองแถวเลยล่ะ

ข้อคิด ความยึดมั่นต้องมาพร้อมความยืดหยุ่น
ข้อคิดที่ได้จากพ่อส้วนคือการยึดมั่นในสิ่งที่เชื่อต้องมาพร้อมความยืดหยุ่น พ่อส้วนยึดมั่นในศักดิ์ศรีและความเป็นอริกับหมู่บ้านโจงโปง แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาก็เริ่มเปิดใจและเห็นค่าของครอบครัวและความสัมพันธ์มากขึ้น อย่างฉากที่เขาแอบยอมรับความสามารถของแซ่บหรือแสดงความรักต่อแอน ทำให้เห็นว่าเราสามารถรักษาคุณค่าของตัวเองไว้ได้ แต่การยอมรับและปรับตัวจะทำให้ชีวิตสมดุลและมีความสุขมากขึ้น ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าพ่อส้วนเป็นตัวละครที่สอนให้เรารู้จักสมดุลระหว่างความดื้อรั้นและการเปิดใจ

→ มนตรี เจนอักษร รับบท พ่อหลอย

พ่อหลอย คือผู้ใหญ่บ้านแห่งหมู่บ้านโจงโปง และเจ้าของธุรกิจรถสองแถว หลอยแลน สายสีแดง ที่สืบทอดมานานตั้งแต่รุ่นปู่ เขาเป็นสามีของเจ๊โซเฟีย (ฝน ธนสุนทร) เจ้าแม่เงินกู้ และเป็นพ่อของแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) กับครูสาลี่ (อลิซา แอน ไฮน์ส) พ่อหลอยเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความจริงจังในเรื่องศักดิ์ศรีและการแข่งขัน โดยเฉพาะกับพ่อส้วน (โย่ง เชิญยิ้ม) ผู้ใหญ่บ้านจางปาง เจ้าของรถสองแถวส้วนซิ่ง สายสีฟ้า ซึ่งเป็นคู่แค้นตัวฉกาจของเขา ทั้งสองมักปะทะกันด้วยวาจาและกลยุทธ์แย่งลูกค้า ทำให้เกิดฉากฮาๆ ที่ดูแล้วต้องยิ้มตาม

ถึงพ่อหลอยจะดูดุและยึดมั่นในความเป็นอริกับหมู่บ้านจางปาง แต่เขาก็มีด้านที่รักครอบครัวมากๆ เขามอบหมายให้แหลมมาดูแลธุรกิจรถสองแถว แม้ว่าลูกสาวจะอยากทำธุรกิจไลฟ์สดออนไลน์มากกว่า ความเข้มงวดของพ่อหลอยมาพร้อมความตั้งใจให้ครอบครัวมีอนาคตที่ดี และเขายังมีมุมน่ารักในฉากที่แอบแสดงความห่วงใยต่อแหลมและโซเฟีย ทำให้เห็นว่าเขาเป็นพ่อที่ทั้งเข้มแข็งและอบอุ่น ความรู้สึกตอนดูพ่อหลอยคือชอบมากที่มนตรี เจนอักษรเล่นได้ทั้งดุและตลก ทำให้ตัวละครนี้มีมิติและน่าจดจำ

ฉายา เจ้าพ่อหลอยแลน
เพราะเขาไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่บ้าน แต่คือผู้นำตัวจริงของรถสองแถวหลอยแลนที่ครองใจชาวโจงโปง ทุกครั้งที่พ่อหลอยออกโรงเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีหรือวางแผนสู้กับส้วนซิ่ง ความมุ่งมั่นและความแกร่งของเขาทำให้ฉายานี้เหมาะสมสุดๆ เหมือนเป็นตำนานแห่งวงการรถสองแถวของฝั่งโจงโปงเลย

ข้อคิด ความรับผิดชอบคือรากฐานของความสำเร็จ
ข้อคิดที่ได้จากพ่อหลอยคือความรับผิดชอบต่อครอบครัวและชุมชนคือรากฐานที่ทำให้ทุกอย่างมั่นคง พ่อหลอยทุ่มเทให้กับธุรกิจรถสองแถวและหมู่บ้านโจงโปง แม้จะต้องเผชิญการแข่งขันที่ดุเดือด อย่างฉากที่เขาสอนแหลมให้รับผิดชอบธุรกิจหรือยืนหยัดปกป้องชื่อเสียงของหมู่บ้าน ทำให้เห็นว่าเมื่อเรามีความรับผิดชอบ ไม่ว่าเจออุปสรรคอะไรก็สามารถก้าวผ่านได้ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าพ่อหลอยเป็นตัวอย่างของผู้นำที่ทั้งเข้มแข็งและน่าเคารพ

→ ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์ รับบท โอบนิธิ

โอบนิธิ คือลูกชายของป๋าสวาท (สมชาย ศักดิกุล) นายก อบต. ที่เป็นศูนย์รวมใจของทั้งหมู่บ้านจางปางและโจงโปง เขาเป็นพี่ชายของไอลดา (ปารีณา บุศยศิริ) และถูกวางตัวให้เป็นคู่หมายของอีแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) ตามแผนของพ่อและผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้าน โอบนิธิเป็นหนุ่มหล่อ มาดนิ่ง มีความเป็นผู้นำ และดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบ แต่เขามีด้านที่ซับซ้อนและแอบเก็บงำความรู้สึก โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่ายายสอยและยายลิซ่าพยายามจับคู่แหลมกับบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) แทน

โอบนิธิเป็นตัวละครที่ดูสุขุม แต่มีความมุ่งมั่นและพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษาความสัมพันธ์และชื่อเสียงของครอบครัว เขามักจะแสดงออกด้วยความเยือกเย็น แต่เมื่อเจอสถานการณ์ที่ท้าทาย เช่น การแข่งขันเพื่อแหลมหรือความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้าน เขาจะเผยด้านที่แข็งกร้าวและเด็ดเดี่ยวออกมา ความรู้สึกตอนดูโอบนิธิคือชอบที่ธรรม์ธัชเล่นได้นิ่งแต่มีพลัง ทำให้ตัวละครนี้ดูมีมิติและน่าค้นหา เป็นหนุ่มที่ทั้งหล่อและมีปมลับให้อยากติดตาม

ฉายา หนุ่มมาดนิ่งแห่งอบต
 เพราะเขาคือตัวแทนของความสุขุมและความเป็นผู้นำที่สืบทอดจากป๋าสวาท ทุกครั้งที่โอบนิธิปรากฏตัว ไม่ว่าจะในงานบุญหรือการประชุมหมู่บ้าน เขามักจะมาพร้อมมาดนิ่งๆ ที่ดูน่าเกรงขามแต่แฝงด้วยเสน่ห์ ฉายานี้เหมาะกับความเป็นหนุ่มหล่อที่ทั้งเท่และมีออร่าผู้ใหญ่

ข้อคิด ความอดทนคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
ข้อคิดที่ได้จากโอบนิธิคือความอดทนและการควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญในการเผชิญหน้ากับความท้าทาย โอบนิธิมักเผชิญสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น การถูกคาดหวังจากพ่อให้แต่งงานกับแหลม หรือการต้องรับมือกับความขัดแย้งเมื่อแหลมเริ่มใกล้ชิดกับแซ่บ แต่เขายังคงนิ่งและพยายามหาทางแก้ปัญหาด้วยสติ อย่างฉากที่เขาแสดงความมุ่งมั่นเพื่อครอบครัว ทำให้เห็นว่าการอดทนและควบคุมตัวเองช่วยให้เราก้าวผ่านอุปสรรคได้ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าโอบนิธิเป็นตัวอย่างของคนที่ใช้ความนิ่งเพื่อรับมือกับปัญหา

→ ปารีณา บุศยศิริ รับบท ไอลดา

ไอลดา คือลูกสาวของป๋าสวาท (สมชาย ศักดิกุล) นายก อบต. ที่เป็นศูนย์รวมใจของทั้งหมู่บ้านจางปางและโจงโปง เธอเป็นน้องสาวของโอบนิธิ (ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์) และถูกวางตัวให้เป็นคู่หมายของบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) ตามแผนของพ่อและผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหมู่บ้าน ไอลดาเป็นสาวไฮโซจากเมืองกรุงที่ทั้งสวย มั่นใจ และมีสไตล์ เธอมีความทะเยอทะยานและอยากได้สิ่งที่ต้องการ โดยเฉพาะหัวใจของแซ่บ ซึ่งทำให้เธอไม่ถูกชะตากับอีแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และพยายามขัดขวางความสัมพันธ์ของแซ่บกับแหลม

ไอลดามีด้านที่ดูเย่อหยิ่งและเจ้าเล่ห์ แต่ก็มีมุมที่เปราะบาง เธอทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งความรักและการยอมรับจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะจากพ่อและแซ่บ อย่างฉากที่เธอยุยงชาวบ้านให้ต่อต้านแหลม หรือฉากที่พยายามเข้าใกล้แซ่บด้วยวิธีต่างๆ ทำให้เห็นว่าเธอเป็นตัวละครที่ซับซ้อนและมีแรงจูงใจลึกๆ ความรู้สึกตอนดูไอลดาคือชอบที่ปารีณาเล่นได้ถึงบทสาวไฮโซที่ทั้งแซ่บและมีปม ทำให้เราทั้งหมั่นไส้และแอบสงสารในบางจังหวะ

ฉายา สาวไฮโซจอมวางแผน
เพราะเธอคือสาวเมืองกรุงที่มาพร้อมความมั่นใจและแผนการอันแยบยล ทุกครั้งที่ไอลดาออกโรง เธอมักจะมีแผนเด็ดๆ เพื่อครองใจแซ่บหรือก่อกวนแหลม ทำให้ฉายานี้เหมาะกับความเป็นสาวแซ่บที่ทั้งสวยและฉลาดในแบบของเธอ

ข้อคิด การยอมรับตัวเองนำไปสู่ความสุขที่แท้จริง
ข้อคิดที่ได้จากไอลดาคือการยอมรับตัวเองและความรู้สึกที่แท้จริงจะทำให้เราเป็นอิสระ ไอลดามักพยายามทำตัวให้สมบูรณ์แบบเพื่อให้คนอื่นยอมรับ โดยเฉพาะแซ่บและพ่อของเธอ แต่การที่เธอยึดติดกับภาพลักษณ์หรือสิ่งที่อยากได้ ทำให้เธอต้องเจอกับความผิดหวัง อย่างฉากที่เธอเริ่มตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเองในช่วงท้าย ทำให้เห็นว่าถ้าเราเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองและปล่อยวาง เราจะพบความสุขที่แท้จริง ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าไอลดาเป็นตัวละครที่สอนให้เราเห็นค่าของการเป็นตัวเอง

→ พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา รับบท ยายสอย

ยายสอย คือคุณยายสุดแสบแห่งหมู่บ้านจางปาง แม่ของแอน (พาเมล่า เบาว์เด้น) และยายของบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) เธอเป็นตัวละครที่มีความขี้เล่น ปากแซ่บ และเป็นคู่กัดตลอดกาลกับยายลิซ่า (ดวงตา ตุงคะมณี) จากหมู่บ้านโจงโปง ถึงจะทะเลาะกันบ่อย แต่ทั้งคู่แอบมีความหวังลึกๆ ที่อยากเห็นสองหมู่บ้านที่เป็นศัตรูกันมานานกลับมาคืนดี ยายสอยเป็นคนที่มีความทรงจำดีเกี่ยวกับอดีตสมัยที่จางปางและโจงโปงยังไปมาหาสู่กัน และเธอพยายามผลักดันให้แซ่บกับแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) ได้ลงเอยกัน เพื่อหวังว่าเป็นสะพานเชื่อมสองหมู่บ้าน

ยายสอยมีนิสัยร่าเริง ฉลาด และมีไหวพริบ เธอมักจะออกไอเดียสุดครีเอต เช่น การจับคู่แซ่บกับแหลม ซึ่งทำให้เกิดโมเมนต์ทั้งฮาและน่ารักในเรื่อง แม้จะดูแสบและขี้แซว แต่ยายสอยก็มีด้านที่อบอุ่นและรักครอบครัวสุดๆ ความรู้สึกตอนดูยายสอยคือชอบมากที่พิมพ์แขเล่นได้ทั้งตลกและซึ้ง ทำให้ตัวละครนี้เหมือนคุณยายในชีวิตจริงที่ทั้งน่ารักและมีพลังบวกเต็มเปี่ยม

ฉายา ยายแสบแห่งจางปาง
เพราะเธอคือคุณยายที่มาพร้อมความแซ่บและไหวพริบที่ไม่มีใครเทียบ ทุกครั้งที่ยายสอยปะทะคารมกับยายลิซ่าหรือออกไอเดียจับคู่ให้หลาน เธอจะทำให้ทุกฉากเต็มไปด้วยความสนุกและรอยยิ้ม ฉายานี้เหมาะกับความเป็นยายสุดแซ่บที่เป็นตำนานของหมู่บ้านจางปาง

ข้อคิด ความหวังและความพยายามเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง
ข้อคิดที่ได้จากยายสอยคือความหวังและความพยายามสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นได้ ยายสอยไม่เคยยอมแพ้กับความฝันที่อยากเห็นสองหมู่บ้านคืนดีกัน แม้ว่าจะต้องเผชิญความขัดแย้งที่ฝังรากลึก เธอยังคงวางแผนและผลักดันให้แซ่บกับแหลมรักกัน อย่างฉากที่เธอร่วมมือกับยายลิซ่าทำให้เห็นว่าความหวังและการลงมือทำคือพลังที่ยิ่งใหญ่ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่ายายสอยเป็นแรงบันดาลใจให้เราไม่ยอมแพ้กับเป้าหมายที่สำคัญ

→ ดวงตา ตุงคะมณี รับบท ยายลิซ่า

ยายลิซ่า คือคุณยายสุดแสบแห่งหมู่บ้านโจงโปง ยายของอีแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และครูสาลี่ (อลิซา แอน ไฮน์ส) อดีตเคยเป็นนางรำชื่อดัง ทำให้เธอมีเสน่ห์และความมั่นใจแบบเต็มเปี่ยม เธอเป็นคู่กัดตลอดกาลกับยายสอย (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) จากหมู่บ้านจางปาง แต่ทั้งคู่แอบมีความหวังลึกๆ ที่อยากเห็นสองหมู่บ้านที่เป็นศัตรูกันมานานกลับมาคืนดีกัน ยายลิซ่ามีความทรงจำดีเกี่ยวกับสมัยที่จางปางและโจงโปงเคยไปมาหาสู่กัน และเธอเป็นคนริเริ่มไอเดียจับคู่แซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) กับแหลมเพื่อหวังให้ความรักของทั้งคู่เป็นสะพานเชื่อมสองหมู่บ้าน

ยายลิซ่ามีนิสัยร่าเริง ปากแซ่บ และฉลาดเป็นกรด เธอมักจะออกไอเดียสุดครีเอตและแกล้งแซวยายสอยจนเกิดฉากฮาๆ แต่ใต้ความแสบนั้น เธอมีหัวใจที่อบอุ่นและรักครอบครัวมาก โดยเฉพาะการสนับสนุนแหลมให้ทำตามความฝันและช่วยผลักดันให้สองหมู่บ้านปรองดอง ความรู้สึกตอนดูยายลิซ่าคือชอบมากที่ดวงตาเล่นได้ทั้งตลกและน่ารัก ทำให้ตัวละครนี้เหมือนคุณยายในฝันที่ทั้งแซ่บและมีพลังบวกเต็มเปี่ยม

ฉายา นางรำแซ่บแห่งโจงโปง
 เพราะเธอคืออดีตนางรำที่ยังคงมีเสน่ห์และความแซ่บไม่เคยลด ทุกครั้งที่ยายลิซ่าปรากฏตัว ไม่ว่าจะปะทะคารมกับยายสอยหรือวางแผนจับคู่ให้หลาน เธอมาพร้อมพลังงานที่ทำให้ทุกฉากสนุกและมีชีวิต ฉายานี้เหมาะกับความเป็นคุณยายที่ทั้งสง่างามและแสบสันต์ในแบบอีสานแท้ๆ

ข้อคิด ความรักและความเข้าใจเปลี่ยนโลกได้
ข้อคิดที่ได้จากยายลิซ่าคือความรักและความเข้าใจสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ดูยากให้เป็นไปได้ ยายลิซ่าไม่ยอมแพ้ต่อความบาดหมางระหว่างสองหมู่บ้าน และใช้ความรักของแซ่บกับแหลมเป็นเครื่องมือในการเชื่อมความสัมพันธ์ อย่างฉากที่เธอร่วมมือกับยายสอยเพื่อผลักดันให้หลานรักกัน ทำให้เห็นว่าการมองเห็นคุณค่าของความรักและความเข้าใจสามารถละลายความขัดแย้งได้ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่ายายลิซ่าเป็นแรงบันดาลใจให้เรามองโลกด้วยความหวังและใจที่เปิดกว้าง

→ ปรียารินท์ รวีพุฒิพงศ์ รับบท ข้าวเบือ

ข้าวเบือ คือเพื่อนสนิทของอีแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และแกงเปรอะ (ภีมพล พาณิชย์ธำรง) จากหมู่บ้านโจงโปง เธอเป็นสาวน้อยหน้าใสที่มีนิสัยร่าเริง ชอบความสนุก และเป็นกำลังสำคัญในทีมไลฟ์สดขายของออนไลน์ของแหลม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ขนม หรือของกระจุกกระจิก ข้าวเบือช่วยสร้างบรรยากาศให้ทุกการไลฟ์เต็มไปด้วยความคึกคัก ด้วยความขี้เล่นและไหวพริบของเธอ เธอมักจะโยนมุกตลกหรือแซวแหลมในระหว่างการถ่ายทอดสด ทำให้คนดูออนไลน์หลงรักทีมนี้สุดๆ

ถึงจะดูเป็นสาวชิลๆ แต่ข้าวเบือมีด้านที่จริงใจและซื่อสัตย์ต่อเพื่อน เธอคอยสนับสนุนแหลมในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยคิดไอเดียโปรโมตของหรือการรับมือกับดราม่าระหว่างหมู่บ้านโจงโปงและจางปาง อย่างฉากที่เธอช่วยแหลมจัดการกับคู่แข่งในโซเชียลมีเดีย หรือตอนที่แซวแหลมเรื่องแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) ทำให้เกิดโมเมนต์น่ารักๆ ที่ดูแล้วยิ้มตาม ความรู้สึกตอนดูข้าวเบือคือชอบมากที่เธอเป็นตัวละครที่สดใสและเพิ่มพลังบวกให้ทุกฉาก การแสดงของปรียารินท์ทำให้ข้าวเบือดูเป็นเพื่อนที่ทุกคนอยากมี

ฉายา สาวน้อยไลฟ์สดแห่งโจงโปง
เพราะเธอคือดาวเด่นในทีมไลฟ์สดของแหลม ด้วยรอยยิ้มและความสดใสที่ทำให้ทุกการขายของออนไลน์น่าติดตาม ทุกครั้งที่ข้าวเบือโผล่มาในฉากไลฟ์ เธอจะมาพร้อมมุกตลกและพลังงานที่ทำให้คนดูอยากกดซื้อของทันที ฉายานี้เหมาะกับความเป็นสาวเปรี้ยวที่ทั้งน่ารักและมีเสน่ห์แบบอีสาน

ข้อคิด เพื่อนแท้คือพลังที่ทำให้เราก้าวต่อไป
ข้อคิดที่ได้จากข้าวเบือคือเพื่อนแท้คือคนที่คอยอยู่ข้างๆ และช่วยให้เราเดินหน้าต่อได้ไม่ว่าจะเจออะไร ข้าวเบือเป็นมากกว่าแค่เพื่อนที่ช่วยแหลมไลฟ์สด เธอคอยให้กำลังใจและช่วยแก้ปัญหาในวันที่แหลมเจอดราม่าหรือท้อแท้ อย่างฉากที่เธอช่วยแหลมคิดคอนเทนต์ใหม่ๆ หรือคอยแซวให้แหลมยิ้มได้ ทำให้เห็นว่าเพื่อนที่ดีคือคนที่ทำให้เรารู้สึกไม่เคยเดียวดาน ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าข้าวเบือเป็นตัวละครที่สะท้อนมิตรภาพที่แท้จริง

→ ชณันภัสร์ ตันติธนินทร์พร รับบท หมัด

หมัด คือหนุ่มน้อยจากหมู่บ้านโจงโปง เพื่อนสนิทของอีแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และข้าวเบือ (ปรียารินท์ รวีพุฒิพงศ์) เขาเป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกให้กับทีมไลฟ์สดขายของออนไลน์ของแหลม ไม่ว่าจะช่วยถือกล้อง ถือของ หรือโยนมุกขำๆ ระหว่างไลฟ์ หมัดมีนิสัยขี้เล่น เป็นกันเอง และมักจะเป็นตัวป่วนเล็กๆ ที่ทำให้ทุกคนในทีมยิ้มได้ เขามักจะคอยแซวแหลมเรื่องบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) หรือช่วยคิดไอเดียแปลกๆ เพื่อเพิ่มยอดขายในโซเชียลมีเดีย

ถึงจะเป็นตัวละครสมทบ แต่หมัดมีบทบาทที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่ทีมโจงโปงต้องแข่งขันกับทีมจางปาง อย่างฉากที่เขาช่วยแหลมและข้าวเบือจัดการดราม่าบนโซเชียล หรือตอนที่แกล้งแซ่บจนเกิดโมเมนต์ฮาๆ ทำให้เห็นว่าเขาคือเพื่อนที่ไว้ใจได้และเพิ่มความครึกครื้นให้เรื่อง ความรู้สึกตอนดูหมัดคือชอบมากที่ชณันภัสร์เล่นได้เป็นธรรมชาติ ทำให้ตัวละครนี้ดูเป็นเพื่อนซี้ที่ทั้งกวนและน่ารักสุดๆ

ฉายา หนุ่มป่วนแห่งโจงโปง
เพราะเขาคือตัวตึงเรื่องความกวนและมุกตลกที่ทำให้ทุกฉากมีสีสัน ทุกครั้งที่หมัดโผล่มา ไม่ว่าจะช่วยแหลมไลฟ์สดหรือแกล้งแซ่บ เขาจะมาพร้อมพลังงานที่ทำให้ทุกคนต้องขำ ฉายานี้เหมาะกับความเป็นหนุ่มอีสานที่ทั้งขี้เล่นและมีเสน่ห์แบบบ้านๆ

ข้อคิด ความสนุกทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น
ข้อคิดที่ได้จากหมัดคือการนำความสนุกมาใช้ในชีวิตช่วยให้ทุกอย่างดูง่ายขึ้น หมัดอาจไม่ได้มีบทบาทใหญ่ในเรื่อง แต่ความขี้เล่นและทัศนคติบวกของเขาทำให้ทีมไลฟ์สดของแหลมมีพลังและผ่านอุปสรรคไปได้ อย่างฉากที่เขาช่วยสร้างบรรยากาศให้การไลฟ์สดสนุก หรือตอนที่ทำให้แหลมยิ้มได้ในวันที่เครียด ทำให้เห็นว่าการมองโลกในแง่ดีและเพิ่มความสนุกให้กับงานหรือเพื่อนฝูงคือสิ่งที่สร้างความแตกต่าง ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าหมัดเป็นตัวละครที่สอนให้เราหาความสุขในเรื่องเล็กๆ

→ รอง เคัามูลคดี รับบท หลวงตาเชื่อม

หลวงตาเชื่อม คือพระภิกษุผู้เป็นที่พึ่งทางใจของทั้งหมู่บ้านจางปางและโจงโปง เขาเป็นพระที่มีเมตตา สุขุม และเต็มไปด้วยปัญญา ในละคร หลวงตาเชื่อมทำหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งระหว่างสองหมู่บ้านที่เป็นอริกันมานานหลายสิบปี อย่างพ่อส้วน (โย่ง เชิญยิ้ม) และพ่อหลอย (มนตรี เจนอักษร) ที่ไม่ลงรอยกัน หลวงตาเชื่อมมักจะให้คำแนะนำที่ลึกซึ้งและช่วยให้ทุกคนมองเห็นหนทางสู่ความปรองดอง

ถึงจะเป็นตัวละครที่ดูนิ่งและสงบ แต่หลวงตาเชื่อมก็มีมุมขี้เล่นเล็กๆ เช่น การแซวชาวบ้านเบาๆ หรือการให้คำแนะนำที่แฝงด้วยอารมณ์ขัน ทำให้ตัวละครนี้มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ใจดีที่ทุกคนเคารพรัก อย่างฉากที่หลวงตาเชื่อมช่วยแนะนำแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) และแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) ให้เข้าใจกัน ทำให้เห็นว่าเขาเป็นเหมือนกาวใจที่เชื่อมโยงทุกคน ความรู้สึกตอนดูหลวงตาเชื่อมคือรู้สึกอบอุ่นและได้แง่คิดดีๆ การแสดงของรอง เคัามูลคดีทำให้ตัวละครนี้ดูน่าเกรงขามแต่ก็น่ารักในเวลาเดียวกัน

ฉายา พระเมตตาแห่งสองหมู่บ้าน
เพราะหลวงตาคือสัญลักษณ์ของความเมตตาและความสงบที่คอยเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งจางปางและโจงโปง ทุกครั้งที่หลวงตาโผล่มา เขาจะมาพร้อมรอยยิ้มอบอุ่นและคำพูดที่ทำให้ทุกคนใจเย็นลง ฉายานี้เหมาะกับความเป็นพระผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยความรักและปัญญา

ข้อคิด ความเมตตาคือสะพานสู่ความสามัคคี
ข้อคิดที่ได้จากหลวงตาเชื่อมคือความเมตตาและการให้อภัยสามารถสร้างความสามัคคีได้ หลวงตาเชื่อมมักจะใช้คำพูดที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและความปรารถนาดีเพื่อคลายปมขัดแย้งระหว่างสองหมู่บ้าน อย่างฉากที่เขาคุยกับยายสอย (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) และยายลิซ่า (ดวงตา ตุงคะมณี) เพื่อให้ทั้งคู่มองเห็นอดีตในมุมใหม่ ทำให้เห็นว่าการมองโลกด้วยใจที่เมตตาจะช่วยให้ทุกปัญหาคลี่คลาย ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าหลวงตาเชื่อมเป็นตัวละครที่สอนให้เรามีจิตใจที่กว้างขวางและให้อภัยผู้อื่น

→ เรืองฤทธิ์ วิสมล รับบท หมอยง

หมอยง คือหมอประจำหมู่บ้านจางปาง ที่มีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพชาวบ้าน แต่ไม่ใช่หมอใจดีธรรมดาๆ นะ เพราะเขามีด้านที่ดูลึกลับและเป็นตัวร้ายเล็กๆ ที่เพิ่มความตื่นเต้นให้เรื่อง หมอยงเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานและแอบวางแผนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างหมู่บ้านจางปางและโจงโปง เขามักจะเลือกข้างที่ทำให้ตัวเองได้เปรียบ และบางครั้งก็ยุยงให้สถานการณ์ระหว่างสองหมู่บ้านตึงเครียดยิ่งขึ้น

ถึงจะดูเป็นตัวละครที่เจ้าเล่ห์ แต่หมอยงก็มีมุมที่แสดงให้เห็นว่าเขาคือคนที่มีความสามารถและฉลาดมาก อย่างฉากที่เขาคอยให้คำแนะนำทางการแพทย์ที่ดูน่าเชื่อถือ หรือตอนที่แอบวางหมากเพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเองในหมู่บ้าน ทำให้เห็นว่าเขาเป็นตัวละครที่มีมิติและน่าติดตาม ความรู้สึกตอนดูหมอยงคือทั้งหมั่นไส้และทึ่งในความฉลาด การแสดงของเรืองฤทธิ์ทำให้ตัวละครนี้ดูมีพลังและน่าจับตาในทุกฉาก

ฉายา หมอเจ้าเล่ห์แห่งจางปาง
เพราะเขาคือหมอที่ไม่ใช่แค่รักษาคน แต่ยังมีแผนการแซ่บๆ ที่ทำให้เรื่องราวเข้มข้น ทุกครั้งที่หมอยงโผล่มา เขาจะมาพร้อมความเจ้าเล่ห์ที่แฝงด้วยความฉลาดและเสน่ห์แบบร้ายๆ ฉายานี้เหมาะกับความเป็นตัวละครที่ทั้งเก่งและมีเล่ห์เหลี่ยมในแบบของเขา

ข้อคิด ความฉลาดต้องใช้ในทางที่ถูกต้อง
ข้อคิดที่ได้จากหมอยงคือความฉลาดและความสามารถจะมีค่าก็ต่อเมื่อใช้ในทางที่สร้างสรรค์ หมอยงเป็นตัวละครที่ฉลาดและมีไหวพริบ แต่การที่เขาเลือกใช้ความสามารถเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือสร้างความขัดแย้ง ทำให้เห็นว่าความฉลาดที่ใช้ผิดทางอาจนำไปสู่ปัญหา อย่างฉากที่เขายุยงให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างหมู่บ้าน ทำให้เราเห็นว่าถ้าเขาใช้ความสามารถเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ผลลัพธ์อาจดีกว่านี้ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าหมอยงเป็นตัวละครที่สอนให้เราเลือกใช้ความสามารถอย่างมีคุณธรรม

→ พาเมล่า เบาว์เด้น รับบท แอน

แอน คือภรรยาของพ่อส้วน (โย่ง เชิญยิ้ม) และแม่ของบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) ลูกชายสุดหล่อแห่งหมู่บ้านจางปาง เธอเป็นลูกสาวของยายสอย (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) และมีอดีตเป็นนักร้องสาวสุดฮอตที่เคยขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงแข่งกับเจ๊โซเฟีย (ฝน ธนสุนทร) จากหมู่บ้านโจงโปง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความบาดหมางระหว่างสองหมู่บ้าน แอนในปัจจุบันเป็นสาวใหญ่ที่ยังคงความสวยและมีเสน่ห์แบบฉบับอีสานแท้ เธอมีนิสัยร่าเริง ใจกว้าง และรักครอบครัวสุดๆ แต่ก็มีมุมดราม่าที่ทำให้เราซึ้งเมื่อเธอพยายามปกป้องแซ่บจากความขัดแย้งของหมู่บ้าน

แอนเป็นตัวละครที่ผสมทั้งความสนุกและความอบอุ่น เธอมักจะออกไอเดียสนับสนุนให้แซ่บทำตามความฝันอยากเปิดร้านอาหารอีสานแบบโอมากาเสะ แม้ว่าจะต้องขัดใจพ่อส้วน อย่างฉากที่เธอย้อนเล่าถึงอดีตการแข่งขันร้องเพลง หรือตอนที่ช่วยแซ่บหาทางประสานรอยร้าวระหว่างจางปางและโจงโปง ทำให้เห็นว่าเธอเป็นแม่ที่ทั้งแซ่บและเข้าใจลูก ความรู้สึกตอนดูแอนคือชอบมากที่พาเมล่านำเสนอตัวละครนี้ได้ทั้งตลกและซึ้ง ทำให้แอนเป็นแม่ที่ทุกคนอยากกอด

ฉายา แม่แซ่บแห่งจางปาง
เพราะเธอคือสาวใหญ่ที่ยังคงความสวยและพลังงานล้นเหลือเหมือนสมัยเป็นนักร้องดัง ทุกครั้งที่แอนปรากฏตัว เธอจะมาพร้อมออร่าที่ทำให้ทุกคนต้องหันมอง และความเป็นแม่ที่ทั้งรักและปกป้องลูกสุดใจ ฉายานี้เหมาะกับความเป็นตัวแม่ที่ทั้งสวยและแซ่บในแบบฉบับของเธอ

ข้อคิด ความรักของแม่คือพลังที่ยิ่งใหญ่
ข้อคิดที่ได้จากแอนคือความรักของแม่เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่และไม่มีเงื่อนไข แอนคอยสนับสนุนแซ่บให้ทำตามความฝัน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความขัดแย้งในครอบครัวหรือระหว่างหมู่บ้าน อย่างฉากที่เธอยืนหยัดเคียงข้างแซ่บเมื่อเขาต้องเผชิญแรงกดดันจากพ่อส้วน ทำให้เห็นว่าแม่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีความสุข ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าแอนเป็นตัวละครที่สะท้อนความรักอันยิ่งใหญ่ของแม่ที่ทุกคนสัมผัสได้

→ ฝน ธนสุนทร รับบท โซเฟีย

เจ๊โซเฟีย คือภรรยาของพ่อหลอย (มนตรี เจนอักษร) และแม่ของอีแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) กับครูสาลี่ (อลิซา แอน ไฮน์ส) แห่งหมู่บ้านโจงโปง เธอเป็นเจ้าแม่เงินกู้ที่ทั้งฉลาดและเก่งเรื่องการเงิน ทำให้ทุกคนในหมู่บ้านทั้งรักทั้งเกรง เจ๊โซเฟียมีอดีตเป็นนักร้องหมอลำชื่อดังที่เคยแข่งขันกับแอน (พาเมล่า เบาว์เด้น) จากหมู่บ้านจางปาง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สองหมู่บ้านกลายเป็นศัตรูกัน เธอมีนิสัยตรงไปตรงมา ปากแซ่บ และมักจะออกไอเดียเด็ดๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจรถสองแถวหลอยแลนของครอบครัวแข่งขันกับส้วนซิ่งได้

ถึงจะดูดุและเข้มงวด แต่เจ๊โซเฟียรักครอบครัวสุดหัวใจ เธอพยายามสนับสนุนแหลมให้รับช่วงต่อธุรกิจรถสองแถว แม้ว่าจะรู้ว่าแหลมอยากทำธุรกิจไลฟ์สดมากกว่า อย่างฉากที่เจ๊โซเฟียให้คำแนะนำแหลมด้วยความห่วงใย หรือตอนที่แซวพ่อหลอยจนเกิดโมเมนต์น่ารัก ทำให้เห็นว่าเธอเป็นทั้งแม่ที่เข้มแข็งและภรรยาที่มีเสน่ห์ ความรู้สึกตอนดูเจ๊โซเฟียคือชอบมากที่ฝน ธนสุนทรเล่นได้ทั้งแซ่บและอบอุ่น ทำให้ตัวละครนี้เป็นตัวแม่ที่ทุกคนต้องยกนิ้วให้

ฉายา เจ้าแม่เงินกู้แห่งโจงโปง
เพราะเธอคือสาวใหญ่ที่ครองใจชาวบ้านด้วยความเก่งเรื่องการเงินและความแซ่บที่ไม่มีใครเทียบ ทุกครั้งที่เจ๊โซเฟียปรากฏตัว เธอจะมาพร้อมออร่าความเป็นผู้นำและเสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนต้องยอม ฉายานี้เหมาะกับความเป็นตัวแม่ที่ทั้งฉลาดและมีพลังสุดๆ

ข้อคิด ความเข้มแข็งและความรักต้องไปด้วยกัน
ข้อคิดที่ได้จากเจ๊โซเฟียคือความเข้มแข็งและความรักคือสิ่งที่ทำให้ครอบครัวมั่นคง เจ๊โซเฟียอาจดูเป็นสาวแกร่งที่จัดการทุกอย่างได้อย่างเป๊ะ แต่ความรักที่เธอมีต่อแหลม สาลี่ และพ่อหลอยคือพลังที่ทำให้เธอทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว อย่างฉากที่เธอยอมปรับตัวเพื่อสนับสนุนความฝันของแหลม ทำให้เห็นว่าการผสมความเข้มแข็งเข้ากับความรักคือสูตรสำเร็จของการเป็นผู้นำครอบครัว ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าเจ๊โซเฟียเป็นตัวละครที่สอนให้เราเห็นค่าของการดูแลคนที่รักด้วยหัวใจ

→ สมชาย ศักดิกุล รับบท ป๋าสวาท

ป๋าสวาท คือ นายก อบต. ที่เป็นที่รักและศรัทธาของทั้งหมู่บ้านจางปางและโจงโปง เขาคือพ่อของโอบนิธิ (ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์) และไอลดา (ปารีณา บุศยศิริ) และเป็นพ่อม่ายที่สูญเสียภรรยามานาน ป๋าสวาทมีภาพลักษณ์ของผู้นำที่ใจดีและยุติธรรม คอยพัฒนาทั้งสองหมู่บ้านให้เจริญเท่าเทียมกัน จนกลายเป็นศูนย์รวมใจที่ทำให้ชาวบ้านจากสองหมู่บ้านที่เป็นอริกันมาร่วมงานบุญที่เขาจัดได้ แต่เบื้องหลังความสมบูรณ์แบบนั้น ป๋าสวาทมีปมลับที่ทำให้ยายสอย (พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา) และยายลิซ่า (ดวงตา ตุงคะมณี) รู้สึกว่าเขามีอะไรไม่ชอบมาพากล

ป๋าสวาทมีแผนจับคู่โอบนิธิกับอีแหลม (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และไอลดากับบักแซ่บ (ภาสวิชญ์ บูรณนัติ) เพื่อหวังผลบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งของสองหมู่บ้าน เขาเป็นตัวละครที่ฉลาด มาดนิ่ง และมีเล่ห์เหลี่ยมที่ซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้มอบอุ่น อย่างฉากที่เขาคุยกับผู้ใหญ่บ้านทั้งสองหรือจัดการงานบุญ ทำให้เห็นว่าเขาเป็นผู้นำที่ทุกคนเคารพ แต่ก็มีด้านที่ลึกลับชวนให้สงสัย ความรู้สึกตอนดูป๋าสวาทคือทั้งทึ่งและลุ้น การแสดงของสมชายทำให้ตัวละครนี้ดูมีพลังและน่าค้นหาเหมือนผงชูรสที่เติมรสชาติให้ละคร

ฉายา นายกปริศนาแห่งสองหมู่บ้าน
เพราะเขาเป็นผู้นำที่ทุกคนศรัทธา แต่แฝงด้วยความลับที่ทำให้เราต้องจับตาดูทุกการเคลื่อนไหว ทุกครั้งที่ป๋าสวาทปรากฏตัว เขาจะมาพร้อมออร่าของผู้นำที่ทั้งน่าเกรงขามและชวนสงสัย ฉายานี้เหมาะกับความเป็นตัวละครที่ทั้งทรงพลังและมีปมให้ขุด

ข้อคิด ความเป็นผู้นำต้องมากับความจริงใจ
ข้อคิดที่ได้จากป๋าสวาทคือความเป็นผู้นำที่ดีต้องมาพร้อมความจริงใจและความโปร่งใส ป๋าสวาทอาจเป็นผู้นำที่เก่งและเป็นที่รัก แต่ปมลับที่เขาซ่อนไว้ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจจากบางคน อย่างฉากที่ยายสอยและยายลิซ่าสงสัยในตัวเขา ทำให้เห็นว่าการเป็นผู้นำที่แท้จริงต้องสร้างความไว้วางใจด้วยความจริงใจ ข้อคิดนี้ทำให้รู้สึกว่าป๋าสวาทเป็นตัวละครที่สอนให้เราเห็นความสำคัญของความซื่อสัตย์ในการนำพาคนอื่น

→ ฑิฆัมพร เหมะ รับบท ครีมชีส

ภีมพล พาณิชย์ธำรง รับบท เปรอะ
หฤษพล สมจิตรนา รับบท ตาเขียว
สุขสันต์ ไชยมาตร รับบท อาจารย์โต๊ด

• Facebook
• X
• Line