ติว พ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539
ขอบเขตการบังคับใช้ พ.ร.บ. วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙
บังคับใช้กับ 1.เจ้าหน้าที่ 2.วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง
เจ้าหน้าที่คือใคร?
มาตรา ๕ “เจ้าหน้าที่” หมายความว่า บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคล ซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางปกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจหรือกิจการอื่นของรัฐหรือไม่ก็ตาม
อำนาจทางปกครองของรัฐ ที่พูดถึงนั้น คือ √อำนาจทางบริหาร ×ไม่เกี่ยวกับ นิติบัญญัติ× หรือตุลาการ×
อำนาจทางปกครองที่เขาพูดถึงนั้น คือส่วนหนึ่งของอำนาจบริหาร
เจ้าหน้าที่ที่จะใช้อำนาจทางปกครอง คือใครบ้าง ?
บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคล
นิติบุคคล เป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนชีวิตจิตใจเหมือนบุคคลธรรมดา แม้ว่านิติบุคคลจะได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางปกครองของรัฐได้ นิติบุคคลก็ไม่อาจจะใช้อำนาจได้ด้วยตนเองได้ ต้องให้บุคคลธรรมดา หรือ คณะบุคคล ใช้อำนาจแทนนิติบุคคล เรียกว่า ผู้แทน หรือ ผู้อำนาจทำการแทน ฉะนั้นในทางปฎิบัติ ผู้ที่ได้รับอำนาจทางปกครองจะมีอยู่ 2 ประเภท ก็คือ บุคคลธรรมดา และ คณะบุคคล แต่ใน พ.ร.บ. แบ่งเป็น 3 ประเภท ก็คือ บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคล
“ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจหรือกิจการอื่นของรัฐหรือไม่ก็ตาม”
สามารถตีความได้ว่า คนที่ใช้อำนาจทางปกครองของรัฐ อาจจะเป็นบุคลากรในภาครัฐก็ได้ หรืออาจจะเป็นบุคลากรในภาคเอกชนก็ได้
มาตรา ๕ ในพระราชบัญญัตินี้
“วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง” หมายความว่า การเตรียมการและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครองหรือกฎ และรวมถึงการดำเนินการใดๆ ในทางปกครองตามพระราชบัญญัตินี้
“การพิจารณาทางปกครอง” หมายความว่า การเตรียมการและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งการปกครอง
ตีความประโยค การเตรียมการและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ในส่วน”วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง”
มันก็คือ เป็นกระบวนการ วิธีพิจารณาทางปกครอง เพื่อทำให้เกิด คำสั่งทางปกครองขึ้น
มาดู “การพิจารณาทางปกครอง” ความหมายเดียวกันกับ “วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง” แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือ “วิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง”นั้น มีเพิ่มมา คือ “และรวมถึงการดำเนินการใดๆ ในทางปกครองตามพระราชบัญญัตินี้”
“คำสั่งทางปกครอง” หมายความว่า
(๑) การใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว เช่น การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การวินิจฉัยอุทธรณ์ การรับรอง และการรับจดทะเบียน แต่ไม่หมายความรวมถึงการออกกฎ (คำสั่งทางปกครองโดยแท้)
(๒) การอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง (คำสั่งทางปกครองโดยกำหนดโดยฝ่ายปกครอง)
คำสั่งทางปกครองแบ่งได้ 2 ประเภท คือ 1.คำสั่งทางปกครองโดยแท้ 2.คำสั่งทางปกครองโดยกำหนดโดยฝ่ายปกครอง
คำสั่งทางปกครอง ดูอย่างไร ?
จะต้องออกโดยเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่จะต้องใช้อำนาจตามกฎหมาย
อำนาจตามกฎหมาย คืออะไร ?
ก็คือ อำนาจทางปกครอง
อำนาจทางปกครอง คืออะไร ?
ก็คือ อำนาจของฝ่ายบริหาร ไม่เกี่ยวกับ นิติบัญญัติ ตุลาการ
การใช้อำนาจตามกฎหมาย
กรณีที่ ๑
มาตรา ๑๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๓๔ ที่ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจให้คำรับรองร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับการเงินเพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เสนอสามารถเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎรได้
กรณีที่ ๑ เป็นคำสั่งทางปกครองหรือไม่ ?
การพิจารณาจะเห็นว่า
“คำสั่งทางปกครอง ต้องออกโดยเจ้าหน้าที่ และเจ้าหน้าที่จะต้องใช้อำนาจตามกฎหมาย”
นายกรัฐมนตรี เป็นเจ้าหน้าที่ ได้เช่นกัน
ใช้อำนาจอะไร ?
แต่อำนาจที่เขาใช้เป็น อำนาจออกกฎหมาย(รับรองร่างพระราชบัญญัติ) เป็นอำนาจทางนิติบัญญัติ(ตรากฎหมาย) ไม่ใช่ อำนาจบริหาร
ฉะนั้นแสดงว่ากรณีนี้ ไม่ใช่คำสั่งทางปกครอง×
ความแตกต่างระหว่าง “คำสั่งทางปกครอง” กับ “กฎ”
กรณีที่ ๒
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ออกใบอนุญาตให้นายดำก่อสร้างอาคารลงบนที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๑๓๒๕ แขวงคันนายาว เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร(เป็นการออกคำสั่งเฉพาะเจาะจง ทั้งบุคคล ทั้งกรณี ตอบ เป็น คำสั่งทางปกครอง)
กรณีที่ ๓
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารฯ ออกคำสั่งให้นายแดง เจ้าของอาคาร เลขที่ ๗๘/๒๓๐ แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร รื้อถอนอาคารดังกล่าว (เป็นการออกคำสั่งเฉพาะเจาะจง ทั้งบุคคล ทั้งกรณี ตอบ เป็น คำสั่งทางปกครอง)
กรณีที่ ๔
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารฯ ออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆของอาคารเลขที่ ๑๒ ถนนพระจันทร์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร (เป็นการออกคำสั่งไม่เจาะจง บุคคล แต่เจาะจงกรณี ตอบ เป็น คำสั่งทางปกครอง)
ถ้าเป็น กฎ จะต้องไม่มีการเจาะจงเลย ไม่ว่าจะเป็น บุคคล หรือ สถานที่ก็ตาม
ข้อยกเว้น การบังคับใช้ พ.ร.บ. นี้
1. ออก”กฎ”
2. มีกฎหมาย เฉพาะกำหนดวิธีปฎิบัติราชการทางปกครองไว้โดยเฉพาะ มาตรา 3
– หลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรม ไม่ตํ่ากว่า วิปกครอง
– มาตราฐานในการปฎิบัติราชการ ไม่ตํ่ากว่า วิปกครอง
3., มีกฎหมาย เฉพาะกำหนดขั้นตอนและระยะเวลาอุทธรณ์หรือโต้แย้งไว้โดยเฉพาะ
4. มาตรา ๔ ทั้งหมด
มาตรา ๓ วิธีปฎิบัติราชการทางปกครองตามกฎหมายต่างๆ ให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายใดกำหนดวิธีการปฎิบัติราชการทางปกครองเรื่องใดไว้โดยเฉพาะและมีหลักเกณฑ์ที่ประกันความเป็นธรรมหรือมีมาตรฐานในการปฎิบัติราชการไม่ตํ่ากว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้
ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับขั้นตอนและระยะเวลาอุทธรณ์หรือโต้แย้งที่กำหนดในกฎหมาย
สรุปใน มาตราที่ ๓ เขาไม่ได้มองแค่ว่ากฎหมายมีการบัญญัติวิธีปฎิบัติราชการทางปกครองแล้ว จะยกเว้น ไม่ใช่ ต้องดูด้วยว่า ขั้นตอนที่กฎหมายเฉพาะได้มีการบัญญัติตํ่ากว่าเกณฑ์ของ พ.ร.บ. วิปกครองหรือไม่ ต้องเอามาเทียบกัน ถ้าตํ่ากว่าให้ใช้ พ.ร.บ. วิปกครอง แต่ถ้ามันสูงกว่าก็ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องเอาพ.ร.บ. วิปกครอง มาบังคับใช้
มาตรา ๔ พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่
(๑) รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี
(๒) องค์กรที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ
(๓) การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีในงานทางนโยบายโดยตรง
(๔) การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกระบวนการพิจารณาคดี การบังคับคดี และการวางทรัพย์
(๕) การพิจารณาวินิจฉัยเรื่องร้องทุกข์และการสั่งการตามกฎหมายว่าด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกา
(๖) การดำเนินงานเกี่ยวกับนโยบายการต่างประเทศ
(๗) การดำเนินงานเกี่ยวกับราชการทหารหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งปฎิบัติหน้าที่ทางยุทธการร่วมกับทหารในการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ
(๘) การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
(๙) การดำเนินงานกิจการขององค์การทางศาสนา
การยกเว้นไม่ให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับแก่การดำเนินกิจการใดหรือกับหน่วยงานใดนอกจากที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามข้อเสนอของคณะกรรมการวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง
เจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจทำการพิจารณาทางปกครอง
มาตรา | เรื่อง |
มาตรา ๑๙ | “เจ้าหน้าที่” จะต้องได้รับการแต่งตั้งโดยชอบด้วยกฎหมาย |
มาตรา ๑๒ | “เจ้าหน้าที่” จะต้องเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนั้น |
มาตรา ๗๕ – มาตรา ๘๔ | บัญญัติที่เกี่ยวกับ “เจ้าหน้าที่” ที่เป็นคณะกรรมการ |
มาตรา ๑๓ และ มาตรา ๑๖ | “เจ้าหน้าที่” และกรรมการในคณะกรรมการที่มีอำนาจดำเนินการพิจารณาทางปกครองมีส่วนได้ส่วนเสีย |
มาตรา ๑๘ | ข้อยกเว้นบทบัญญัติเรื่องความไม่เป็นกลาง |
มาตรา ๑๙ ถ้าปรากฎภายหลังว่าเจ้าหน้าที่หรือกรรมการในคณะกรรมการที่มีอำนาจพิจารณาทางปกครองใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามหรือการแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นเหตุให้ผู้นั้นต้องพ้นจากตำแหน่ง การพ้นจากตำแหน่งเช่นว่านี้ไม่กระทบกระเทือนถึงการใดที่ผู้นั้นได้ปฎิบัติไปตามอำนาจหน้าที่
มาตรา ๑๒ คำสั่งทางปกครองจะต้องกระทำโดยเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนั้น
“เจ้าหน้าที่” จะต้องเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องนั้น
กรณีที่ ๕
การที่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดออกคำสั่งทางปกครองแทนหัวหน้าสำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดในขณะที่ยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งดังกล่าว ต่อมามีคำสั่งแต่งตั่งเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นผู้รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานจัดรูปที่ดินจังหวัดโดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่เจ้าหน้าที่ผู้นั้นออกคำสั่งทางปกครอง คำสั่งทางปกครองดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
(เจ้าหน้าที่ที่ออกคำสั่งทางปกครอง ณ ตอนนั้น จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับแต่งตั้งทางกฎหมายหรืออาจจะเป็นอำนาจที่ได้รับการมอบอำนาจมาอีกทีก็ได้ถึงจะออกคำสั่งทางปกครองได้ แต่ในกรณีนี้ เขาออกคำสั่งทางปกครองแทนหัวหน้าซึ่งยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้ง ถึงแม้ว่าจะมีการแต่งตั้งในภายหลังก็ตาม และมีผลย้อนหลัง แบบนี้ไม่ได้ มันไม่มีกฎหมายมารองรับว่าสามารถทำย้อนหลังได้ เนื่องจากกฎหมายฉบับนี้ เขาบอกตรงๆเลยว่า ณ วันที่ออกคำสั่งทางปกครองจะต้องมีอำนาจแล้ว ไม่มีการย้อนหลังใดๆทั้งสิ้น)
หมวด ๕
คณะกรรมการที่มีอำนาจดำเนินการพิจารณาทางปกครอง
(มาตรา ๗๕-๘๔)
คณะกรรมการไม่ได้เจาะจงว่าจะเป็นใคร คณะกรรมการในที่นี้มาจาก 1.กฎหมายกำหนด 2.กฎ 3.คำสั่ง
คณะกรรมการในที่นี้ หมายถึง คณะกรรมการทุกรูปแบบ ทุกประเภท ไม่ได้เฉพาะเจาะจง
“คณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาท” หมายความว่า คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายที่มีการจัดองค์กรและวิธีพิจารณาสำหรับการวินิจฉัยชี้ขาดสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
สอนโดย: Tutor North