ละคร แรมพิศวาส 2550 “กลีบผกา” แม่ค้าที่ใช้มนต์ดำทำเสน่ห์ “คุณพจน์” คหบดีผู้มั่งคั่ง จนเขาหลงใหลและทิ้งภรรยาที่แท้จริงคือ “เพ็ญจันทร์” กลีบผกาวางแผนร้ายเพื่อครอบครองสมบัติ โดยฆ่าและใส่ร้ายคนอื่น ๆ “นบ” ลูกชายของกลีบผกาจากสามีเก่า เติบโตขึ้นและตกหลุมรัก “เดือนแรม” โดยไม่รู้ว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน ความลับค่อย ๆ ถูกเปิดเผย ละครเรื่องนี้เต็มไปด้วยความรัก ความแค้น และไสยศาสตร์ที่เข้มข้น

ละคร แรมพิศวาส 2550 ละครแนวพีเรียดดราม่าสุดเข้มข้นที่ออกอากาศทางช่อง 3 ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ อัจฉรียา บอกเล่าเรื่องราวความรัก ความแค้น และการใช้คุณไสยในยุคสมัยรัชกาลที่ 8 (ราว พ.ศ. 2485)

เรื่องราวเริ่มต้นที่ “พจน์ศิรินทร์” คหบดีใหญ่แห่งบ้านเดือนเต็มดวงในจังหวัดนครปฐม ซึ่งมีภรรยาคือ “คุณเพ็ญจันทร์” ทั้งสองรักกันดี แต่ชีวิตของพวกเขาต้องเปลี่ยนไปเมื่อ “ประพืด” บ่าวคนสนิทพาคุณพจน์ไปพบกับ “กลีบผกา” แม่ค้าขายขนมสาวสวยที่มีความทะเยอทะยานอยากมีชีวิตสุขสบาย กลีบผกาใช้เสน่ห์และร่วมมือกับ “ยายอุ่น” แม่หมอพื้นบ้าน ทำยาเสน่ห์ใส่คุณพจน์จนเขาหลงรักเธอหัวปักหัวปำ และหันหลังให้เพ็ญจันทร์ทันที

กลีบผกาไม่หยุดเพียงแค่นั้น เธอยังวางยาพิษเพื่อกำจัด “นายหมาย” สามีของตัวเองที่มีลูกชายด้วยกันชื่อ “นบ” แต่โชคดีที่เพ็ญจันทร์มาช่วยนายหมายไว้ได้ทัน ทำให้เขารอดชีวิตและสำนึกในบุญคุณของเธอ ต่อมา กลีบผกาเข้ามาอยู่ในบ้านคุณพจน์สำเร็จ และใส่ร้ายว่าเพ็ญจันทร์มีชู้กับนายหมาย ส่งผลให้คุณพจน์ขับไล่เพ็ญจันทร์ที่กำลังตั้งท้องไปอยู่ที่เรือนบ่าวไพร่กับ ย่าเยื้อน แม่นมของเธอ เพ็ญจันทร์คลอดลูกสาวชื่อ “เดือนแรม” และต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก

กลีบผกานำนบมาอยู่ด้วยในบ้าน โดยอ้างว่าเป็นหลานห่างๆ และคุณพจน์ก็ดูแลนบเหมือนลูกหลาน ส่งเสียให้เรียนโรงเรียนกฎหมาย โดยนบไม่รู้ความจริงว่ากลีบผกาคือแม่แท้ๆ ต่อมา หลังจากคุณพจน์ประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีลูกได้ กลีบผกาเริ่มวางยาคุณพจน์อย่างช้าๆ เพื่อหวังครอบครองสมบัติทั้งหมด เธอยังลักลอบมีสัมพันธ์กับชายอื่น เช่น ประพืด และ นายลอย คนสวน เพื่อให้ได้ลูกชายสืบสกุลตามความต้องการของ คุณนายเรไร แม่ของคุณพจน์ โดยมีลูกสาวสองคนคือ แน่งน้อย และ หนึ่งฤทัย และลูกชายชื่อ มาโปรด ซึ่งเกิดจากนายหมาย

ด้านเดือนแรมเติบโตขึ้นและเรียนวิชานวดจากย่าเยื้อน เธอแอบนวดให้คุณพจน์จนอาการดีขึ้น แต่กลีบผกากลัวความลับจะเปิดเผย จึงพยายามกำจัดทุกคนที่ขวางทาง รวมถึงสั่งฆ่าปิดปากคนที่รู้ความจริง เช่น ยายอุ่น และวางแผนกำจัดเพ็ญจันทร์กับเดือนแรม เรื่องราวซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อ นบ และ เดือนแรม เริ่มมีความรู้สึกดีต่อกัน โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพี่น้องต่างมารดา ขณะที่ หม่อมหลวงสุภาพชาย เพื่อนของนบ และ หนึ่งฤทัย ก็เข้ามาพัวพันในความสัมพันธ์นี้

จุดไคลแม็กซ์เกิดขึ้นเมื่อคุณพจน์ต้องผ่าตัดและต้องการเลือด แต่ไม่มีลูกคนใดของกลีบผกาที่กรุ๊ปเลือดตรงกับเขา นอกจากเดือนแรม ซึ่งเผยให้เห็นว่าเธอคือลูกแท้ๆ ของคุณพจน์และเพ็ญจันทร์ ความจริงเริ่มเปิดเผย นบรู้ว่านายหมายคือพ่อแท้ๆ ของเขา และกลีบผกาคือผู้บงการทุกอย่าง สุดท้าย คุณพจน์รอดชีวิตและขอให้กลีบผกาสารภาพความจริง เพื่อหยุดวงจรความชั่วร้ายในบ้านเดือนเต็มดวง

ละครเรื่องนี้เต็มไปด้วยการชิงไหวชิงพริบ ความรักที่ซับซ้อน และการใช้คุณไสย โดยเฉพาะ “ว่านราคะ” ที่กลีบผกาใช้ ซึ่งกลายเป็นที่พูดถึงอย่างมากในหมู่ผู้ชม นำแสดงโดย หน่อย บุษกร (กลีบผกา), ธนากร โปษยานนท์ (คุณพจน์), จินตหรา สุขพัฒน์ (เพ็ญจันทร์), ภัทรพล ศิลปาจารย์ (นบ), และ ณปภา ตันตระกูล (เดือนแรม) เรื่องราวที่เต็มไปด้วยดราม่า ความแค้น และการหักเหลี่ยมชิงไหว ต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องแบบครบถ้วน

เรื่องเริ่มต้นที่ คุณพจน์ศิรินทร์ คหบดีหนุ่มแห่งบ้านเดือนเต็มดวงในนครปฐม ซึ่งแต่งงานกับ คุณเพ็ญจันทร์ ภรรยาที่รักกันดี วันหนึ่ง ประพืด บ่าวคนสนิทพาคุณพจน์ไปเจอกับ กลีบผกา แม่ค้าขายขนมสาวสวยที่มีความทะเยอทะยาน กลีบผกาใช้ยาเสน่ห์จาก ยายอุ่น แม่หมอพื้นบ้าน ทำให้คุณพจน์หลงรักเธอจนถอนตัวไม่ขึ้น และหันหลังให้เพ็ญจันทร์ทันที กลีบผกายังวางยาพิษ นายหมาย สามีของเธอที่มีลูกชายชื่อ นบ แต่เพ็ญจันทร์ช่วยนายหมายไว้ได้ทัน เขาจึงรอดตายและสำนึกบุญคุณเธอ

กลีบผกาเข้ามาอยู่ในบ้านคุณพจน์สำเร็จ โดยใส่ร้ายว่าเพ็ญจันทร์มีชู้กับนายหมาย คุณพจน์โกรธมากจึงขับไล่เพ็ญจันทร์ที่กำลังท้องไปอยู่เรือนบ่าวไพร่กับ ย่าเยื้อน แม่นม เพ็ญจันทร์คลอดลูกสาวชื่อ เดือนแรม และใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก กลีบผกานำนบมาอยู่ด้วยในฐานะหลานห่างๆ โดยนบไม่รู้ว่าเธอคือแม่แท้ๆ คุณพจน์ส่งเสียให้เขาเรียนโรงเรียนกฎหมาย ต่อมา คุณพจน์ประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีลูกได้ กลีบผกาจึงเริ่มวางยาเขาอย่างช้าๆ เพื่อหวังครองสมบัติทั้งหมด เธอยังลักลอบมีสัมพันธ์กับ ประพืด และ นายลอย คนสวน เพื่อให้ได้ลูกชายตามความต้องการของ คุณนายเรไร แม่ของคุณพจน์ ซึ่งต่อมาเธอมีลูกสาวสองคนคือ แน่งน้อย และ หนึ่งฤทัย และลูกชายชื่อ มาโปรด ที่เกิดจากนายหมาย

เดือนแรม โตขึ้นและเรียนวิชานวดจากย่าเยื้อน เธอแอบนวดให้คุณพจน์จนอาการดีขึ้น แต่กลีบผกากลัวความลับแตก จึงสั่งฆ่าปิดปากคนที่รู้ความจริง เช่น ยายอุ่น และวางแผนกำจัดเพ็ญจันทร์กับเดือนแรม ความสัมพันธ์ในเรื่องซับซ้อนขึ้นเมื่อ นบ กับ เดือนแรม เริ่มรักกัน โดยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นพี่น้องต่างมารดา ขณะที่ หม่อมหลวงสุภาพชาย เพื่อนของนบ และ หนึ่งฤทัย ก็เข้ามาพัวพันในรักสี่เส้านี้

จุดพลิกผันสำคัญเกิดขึ้นเมื่อคุณพจน์ต้องผ่าตัดและต้องการเลือดด่วน แต่ลูกของกลีบผกาคนใดก็ตาม (แน่งน้อย, หนึ่งฤทัย, มาโปรด) กลับมีกรุ๊ปเลือดไม่ตรงกับเขา มีเพียง เดือนแรม ที่กรุ๊ปเลือดตรงกัน กลายเป็นหลักฐานว่าเธอคือลูกแท้ๆ ของคุณพจน์กับเพ็ญจันทร์ ความจริงเริ่มเปิดเผย นบค้นพบว่านายหมายคือพ่อแท้ๆ และกลีบผกาคือแม่ที่ทิ้งเขาไป กลีบผกาถูกเปิดโปงว่าเป็นผู้บงการทุกอย่าง ทั้งการใช้ยาเสน่ห์ วางยาพิษ และฆ่าคนตาย

ในตอนท้าย คุณพจน์รอดชีวิตจากการผ่าตัด เขาขอให้กลีบผกาสารภาพทุกอย่างต่อหน้าทุกคน กลีบผกาพยายามหนีแต่สุดท้ายถูกจับได้ เธอต้องเผชิญผลกรรมจากสิ่งที่ทำ นบ และ เดือนแรม เสียใจที่รู้ว่าตนเป็นพี่น้องกัน จึงตัดสินใจแยกทางกันในฐานะครอบครัว เพ็ญจันทร์ กลับมาอยู่เคียงข้างคุณพจน์ ส่วนกลีบผกาถูกส่งตัวไปรับโทษตามกฎหมาย บ้านเดือนเต็มดวงกลับมาสงบสุขอีกครั้ง แต่รอยแผลในใจของทุกคนยังคงอยู่

ละครจบลงด้วยโทนสะท้อนถึงผลของความโลภและการใช้คุณไสยที่นำมาซึ่งความพินาศ โดยเฉพาะ “ว่านราคะ” ที่กลีบผกาใช้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่บิดเบี้ยวและการทำลายล้างในเรื่องนี้

ละคร “แรมพิศวาส” ปี 2550 เป็นละครพีเรียดดราม่าที่ออกอากาศทางช่อง 3 ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ อัจฉรียา ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในยุคนั้น ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น การแสดงที่ทรงพลัง และการนำเสนอประเด็นคุณไสยที่ชวนขนลุก

(จุดเด่น)

เนื้อเรื่องเข้มข้นและซับซ้อน ละครเรื่องนี้เต็มไปด้วยการหักมุมและปมปริศนา ตั้งแต่การใช้ยาเสน่ห์ของ กลีบผกา (หน่อย บุษกร) ไปจนถึงการเปิดเผยความสัมพันธ์ลับระหว่างตัวละคร เช่น ความจริงว่า นบ และ เดือนแรม เป็นพี่น้องกัน หรือการทรยศของคนใกล้ตัวอย่าง ประพืด เรื่องราวดำเนินไปแบบคาดเดาไม่ได้ ทำให้คนดูต้องลุ้นทุกตอน

การแสดงระดับเทพ นักแสดงนำอย่าง หน่อย บุษกร ในบทกลีบผกา ถือเป็นไฮไลต์ของเรื่อง เธอถ่ายทอดความร้ายกาจ ทะเยอทะยาน และเสน่ห์อันตรายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ธนากร โปษยานนท์ (คุณพจน์) และ จินตหรา สุขพัฒน์ (เพ็ญจันทร์) ก็แสดงได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะฉากดราม่าที่ต้องเผชิญความเจ็บปวดจากการทรยศ ส่วนนักแสดงรุ่นใหม่ในตอนนั้นอย่าง ภัทรพล ศิลปาจารย์ (นบ) และ ณปภา ตันตระกูล (เดือนแรม) ก็เคมีดี แสดงความรักต้องห้ามได้กินใจ

บรรยากาศพีเรียดสมจริง ฉากในยุครัชกาลที่ 8 (พ.ศ. 2485) ถูกถ่ายทอดผ่านบ้านเรือน เสื้อผ้า และวิถีชีวิตได้อย่างลงตัว สร้างความรู้สึกย้อนยุคที่ชวนดื่มด่ำ โดยเฉพาะบ้านเดือนเต็มดวงที่กลายเป็นฉากหลักของความขัดแย้ง

ประเด็นคุณไสยที่แปลกใหม่ การนำ “ว่านราคะ” และพิธีกรรมไสยศาสตร์มาเป็นแกนเรื่อง ทำให้ละครมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ฉากทำยาเสน่ห์หรือวางยาพิษของกลีบผกาชวนขนลุกและน่าจดจำ

(จุดด้อย)

บางปมยืดเยื้อเกินไป ด้วยความที่เป็นละครยาว เรื่องบางส่วน เช่น การที่ คุณพจน์ ถูกกลีบผกาหลอกอยู่นาน หรือความสัมพันธ์รักสี่เส้าของนบ-เดือนแรม-หม่อมหลวงสุภาพชาย-หนึ่งฤทัย อาจรู้สึกยืดเยื้อสำหรับผู้ชมบางคน

ตัวละครรองเยอะจนรก ตัวละครอย่าง แน่งน้อย, มาโปรด, นายลอย, หรือ คุณนายเรไร มีบทเยอะแต่บางครั้งไม่ส่งผลต่อเรื่องหลักมากนัก ทำให้คนดูอาจสับสนหรือรู้สึกว่าไม่จำเป็น

ตอนจบคาดเดาได้ แม้จะมีจุดไคลแม็กซ์เรื่องกรุ๊ปเลือดที่พีค แต่การลงเอยที่กลีบผกาถูกจับและครอบครัวกลับมาสมานฉันท์นั้นค่อนข้างสูตรสำเร็จแบบละครไทยยุคนั้น อาจไม่แปลกใหม่สำหรับผู้ชมที่ชอบอะไรหักมุมกว่านี้

คะแนน 8/10 (จาก sence9.com)

“แรมพิศวาส” เป็นละครที่ครบรสทั้งดราม่า ความรัก ความแค้น และความลึกลับ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเรื่องราวแบบพีเรียดที่มีกลิ่นอายไสยศาสตร์ผสมอยู่ การแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะหน่อย บุษกร ถือเป็นหัวใจที่ทำให้ละครน่าติดตาม แม้จะมีจุดที่ยืดเยื้อหรือสูตรสำเร็จไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นละครที่อยู่ในความทรงจำของแฟนๆ ช่อง 3 ในยุค 2000s ได้ดี คะแนนจากความเห็นส่วนตัวคือ 8/10 เพราะความเข้มข้นและการแสดงที่ยอดเยี่ยม แต่หักคะแนนเล็กน้อยจากความยืดเยื้อและตอนจบที่ไม่เซอร์ไพรส์เท่าที่ควร

โดยรวมแล้ว “ละคร แรมพิศวาส” ได้อารมณ์มีทั้งความสนุก ลุ้น สะใจ สงสาร และตื่นเต้นปนกันไป บรรยากาศพีเรียดผสมไสยศาสตร์ทำให้รู้สึกแปลกใหม่ในยุคนั้น การแสดงของนักแสดงทุกคน โดยเฉพาะหน่อย บุษกร ที่รับบทตัวร้ายได้ถึงพริกถึงขิง ยิ่งทำให้อินและจดจำได้ดี ถ้าชอบละครดราม่าเข้มๆ ที่มีกลิ่นอายความลึกลับ เรื่องนี้ให้ความรู้สึกที่ครบรสและคุ้มค่ากับการดู แม้บางจังหวะอาจรู้สึกยืดเยื้อหรือเดาทางได้บ้าง แต่ก็ยังเป็นประสบการณ์ที่สนุกและติดตา

ตั้งแต่ต้นเรื่อง ความทะเยอทะยานของ กลีบผกา ที่ใช้ยาเสน่ห์และเล่ห์เหลี่ยมเพื่อครองใจ คุณพจน์ ทำให้รู้สึกตื่นเต้นว่าตัวร้ายจะไปได้ไกลแค่ไหน การหักเหลี่ยมชิงไหวและปมลับที่ค่อยๆ เปิดเผย เช่น ความสัมพันธ์ของตัวละครหรือการทรยศในครอบครัว ชวนให้ลุ้นจนนั่งไม่ติด

ตัวละครกลีบผกา (หน่อย บุษกร) แสดงได้ร้ายกาจและน่าหมั่นไส้มากๆ ทุกครั้งที่เธอวางแผนกำจัดคนอื่นหรือใส่ร้าย เพ็ญจันทร์ ทำให้รู้สึกทั้งโกรธทั้งสะใจ โดยเฉพาะฉากที่เธอใช้ “ว่านราคะ” หรือพิธีกรรมไสยศาสตร์ ซึ่งทั้งน่ากลัวและชวนให้อยากเห็นเธอได้รับผลกรรม

ชีวิตของ เพ็ญจันทร์ และ เดือนแรม ที่ต้องเผชิญความอยุติธรรม ถูกขับไล่ และใช้ชีวิตยากลำบาก ชวนให้รู้สึกสงสารสุดๆ โดยเฉพาะฉากดราม่าที่เพ็ญจันทร์ต้องทนเห็นสามีหลงผู้หญิงอื่น หรือเดือนแรมที่ต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เป็นอะไรที่บีบหัวใจมาก

ความสัมพันธ์ระหว่าง นบ และ เดือนแรม ที่เริ่มจากความบริสุทธิ์แต่กลายเป็นโศกนาฏกรรมเมื่อรู้ว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน ทำให้รู้สึกทั้งอินทั้งเศร้า เคมีของทั้งคู่ชวนให้เชียร์ แต่ก็ต้องลุ้นว่าความจริงจะทำลายทุกอย่างยังไง

ฉากที่เกี่ยวกับคุณไสย เช่น การทำยาเสน่ห์หรือวางยาพิษ มีบรรยากาศชวนขนลุกและลึกลับ ผสมกับความเชื่อแบบโบราณที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนไปอยู่ในยุคนั้นจริงๆ

พอใจแต่ก็มีขัดใจนิดๆ ตอนจบ ตอนท้ายที่ความจริงเปิดเผยและตัวร้ายอย่างกลีบผกาได้รับผลกรรมนั้นให้ความรู้สึกสะใจ แต่บางคนอาจรู้สึกว่ามันลงเอยแบบสูตรสำเร็จเกินไป ครอบครัวกลับมาสมานฉันท์ง่ายๆ ซึ่งอาจไม่สมจริงหรือเข้มข้นเท่าที่คาดหวัง



ละคร แรมพิศวาส 2550

ละคร แรมพิศวาส 2550

ละคร แรมพิศวาส 2550 EP.1-19 ENDCH3+​​​​

จันทร์ของเธอ Ost.แรมพิศวาส


ละคร แรมพิศวาส 2550

แรมพิศวาส เรื่องราวของ กลีบผกา แม่ค้าขายขนม ทำเสน่ห์คุณไสยให้ คุณพจน์ คหบดีใหญ่ลุ่มหลง และยังใส่ร้ายว่า เพ็ญจันทร์ ภรรยาของคุณพจน์ มีชู้กับประพืด บ่าวคนสนิท เธอจึงถูกไล่ให้ไปอยู่กับ ย่าเยื้อน ที่เรือนบ่าวไพร่ ทั้งที่ตัวเองกำลังตั้งท้อง จนคลอดลูกสาว ออกมาชื่อ “เดือนแรม”

ช่วงรัชกาลที่ 8 ราวพุทธศักราช 2485 พจน์ศิรินทร์ คหบดีใหญ่เจ้าของบ้านเดือนเต็มดวง แห่งนครปฐม มีภรรยาคือ คุณเพ็ญจันทร์ ทั้งคู่รักกันมาก แต่พอ ประพืด บ่าวคนสนิทพามาเจอ กลีบผกา แม่ค้าขายขนมแสนสวย ทำให้คุณพจน์หมดรักเพ็ญจันทร์ทันที เพราะความทะเยอทะยานอยากสบาย กลีบผกาจึงให้ ยายอุ่น แม่หมอพื้นบ้านทำยาเสน่ห์ใส่คุณพจน์จนหลงหัวปักหัวปำ และวางยาเบื่อกำจัด นายหมาย สามีของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่มีลูกชายด้วยกันคือ นบ โชคดีที่เพ็ญจันทร์ผ่านมาเห็น จึงตามหมอชาวบ้านมาช่วยชีวิตนายหมายไว้ได้ทัน ทำให้นายหมายสำนึกบุญคุณของเพ็ญจันทร์เสมอมา

เมื่อกลีบผกาเข้ามาอยู่ในบ้านคุณพจน์สำเร็จ ไม่เพียงแต่สร้างความชอกช้ำใจให้เพ็ญจันทร์ ซ้ำร้ายยังใส่ความว่าคบชู้สู่ชายกับ นายหมาย คุณพจน์เลยขับไล่เพ็ญจันทร์ให้ไปอยู่กับ ย่าเยื้อน แม่นมของเพ็ญจันทร์ที่เรือนบ่าวทั้ง ๆ ที่กำลังตั้งท้องอยู่ ทำให้เพ็ญจันทร์ต้องอยู่อย่างทุกข์ยากลำบาก จนคลอดลูกสาวชื่อว่า เดือนแรม กลีบผกากลับไปรับ นบ มาอยู่ด้วย โดยอ้างว่าเป็นหลานห่าง ๆ คุณพจน์จึงดูแลนบเหมือนลูกหลาน ส่งเสียให้เรียนโรงเรียนกฎหมาย ส่วนตัวนบเองก็คิดว่ากลีบผกาคือน้าจริง ๆ เพราะถูกสอนให้เรียกน้ามาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งคุณพจน์พากลีบผกาไปเที่ยวหัวหิน แต่ขากลับเกิดประสบอุบัติเหตุ ทำให้คุณพจน์ไม่สามารถมีลูกได้อีกเลย กลีบผกา จึงวางยาฆ่าปิดปากหมอเกริกเกรียงไกร ที่รักษาคุณพจน์ เพราะรู้ว่า คุณนายเรไร แม่ของคุณพจน์อยากได้หลานชายสืบสกุล และสมบัติทั้งหมดต้องตกทอดที่หลานชายเท่านั้น
กลีบผกาเฝ้าปรนนิบัติคุณพจน์เป็นอย่างดี โดยไม่มีใครรู้ว่ากลีบผกากำลังวางยาให้คุณพจน์ตายลงอย่างช้า ๆ เพื่อครอบครองสมบัติทั้งหมดเอง แต่เนื่องจากกลีบผกายังไม่มีลูกชายสืบสกุลสักที จึงแอบลักลอบเป็นชู้กับประพืด จนมีลูกสาวให้คุณพจน์คนแรกคือ แน่งน้อย แต่เพราะอยากได้ลูกผู้ชายมากกว่า กลีบผกาจึงลักลอบคบชู้กับ นายลอย คนสวนที่เข้ามาอยู่ใหม่ จนมีลูกสาวด้วยกันชื่อ หนึ่งฤทัย โดยกลีบผกากลัวประพืดจะเปิดโปงความจริงจึงสั่งให้นายลอยไปดักฆ่า โชคดีที่นายหมายผ่านมาช่วยประพืดไว้ซะก่อน ทางด้านกลีบผกายังอยากได้ลูกชายมาก จึงยอมเสี่ยงที่จะมีลูกกับนายหมายอีกครั้ง โดยให้แหวนเป็นของกำนัล ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ เธอได้ลูกชายสมใจจึงตั้งชื่อว่า มาโปรด

เมื่อเดือนแรมเริ่มรู้ความ และได้รับการถ่ายทอดวิชาจับเส้นกับการนวดมาจากย่าเยื้อน เดือนแรมจึงมีฝีมือด้านการนวดมาก และมักไปนวดให้กับคุณนายเรไรเสมอ ทำให้คุณนายเรไรเอ็นดูเดือนแรมทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเดือนแรมเป็นหลานแท้ ๆ ของตนเพียงคนเดียว เวลาล่วงเลยไปหลายปียาพิษที่กลีบผกาให้คุณพจน์กินทุกวัน เริ่มสะสมจนคุณพจน์มีอาการคล้ายจะเป็นอัมพาต เดือนแรมเห็นเข้าจึงแอบมานวดให้คุณพจน์เป็นประจำจนอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้กลีบผกาไม่พอใจมาก จึงสั่งให้หนึ่งฤทัยคอยกลั่นแกล้งเดือนแรมอยู่เสมอ

วันหนึ่งนบได้พบกับนายหมายผู้เป็นพ่อแท้ ๆ แต่เขากลับจำไม่ได้ นายหมายเองก็ไม่กล้าบอกความจริง แต่นายหมายยังแอบมาพบนบบ่อย ๆ พร้อมทั้งสอนวิชามวยไทยให้ กระทั่งเดือนแรมได้ยินข่าวลือจากพวกบ่าวว่านบอาจจะเป็นลูกแท้ ๆ ของกลีบผกากับนายหมาย จึงรีบไปบอกนบ ทำให้นบโกรธมาก หนึ่งฤทัยเห็นนบเริ่มเหินห่างกับเดือนแรมเลยให้ ธำรง เพื่อนชายที่มาติดพันตัวเองอยู่หาทางกำจัดเพ็ญจันทร์และเดือนแรม โดยแกล้งหลอกว่าจะยอมเอาตัวเข้าแลกเป็นรางวัล แต่เพ็ญจันทร์กับเดือนแรมก็แคล้วคลาดมาได้ เพราะนบช่วยไว้ทัน ทำให้นบได้มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกับเดือนแรม ทั้งคู่จึงรู้ว่าต่างมีใจให้กัน และเมื่อธำรงมาทวงสัญญากับหนึ่งฤทัย แต่หนึ่งฤทัยกลับบ่ายเบี่ยง ธำรงโมโหจึงปลุกปล้ำหนึ่งฤทัย เจิม บ่าวคนสนิทของกลีบผกามาเห็นเข้าจึงได้ทีข่มขู่เอาเงิน ด้วยความโมโหหนึ่งฤทัยเลยพลั้งมือฆ่าเจิมและใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือของเดือนแรม คุณพจน์โกรธมากเลยส่งเดือนแรมเข้าคุก นบพยายามหาทางช่วยเดือนแรมให้พ้นผิด คุณนายเรไรเลยเข้ามาเป็นพยานให้จนเดือนแรมหลุดคดี

ทุกชีวิตในบ้านของคุณพจน์ดูมีแต่ความวุ่นวายไม่หยุดหย่อน จนกระทั่งคุณพจน์ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนและต้องการเลือดเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีลูกคนไหนของกลีบผกาที่มีกรุ๊ปเลือดตรงกับคุณพจน์ นอกจากเดือนแรมที่คุณพจน์เข้าใจผิดมาตลอดว่าเป็นลูกชู้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่นายหมายรู้ความจริงว่ามาโปรดเป็นลูกชายอีกคนของตน กลีบผกาจึงสั่งให้นายลอยไปฆ่าปิดปาก โชคดีที่นบกับสุภาพชายเข้ามาช่วยไว้ได้จึงรีบนำตัวนายหมายส่งโรงพยาบาล เพราะนายหมายเสียเลือดมาก นบจึงอาสาที่จะให้เลือดนายหมายเอง ทำให้รู้ว่ากรุ๊ปเลือดของนบกับมาโปรดรวมทั้งนายหมายเป็นกรุ๊ปเดียวกัน กลีบผกากลัวความลับทุกอย่างจะถูกเปิดเผย จึงให้ยายอุ่นวางยาเบื่อให้คุณพจน์กิน แต่คุณพจน์รอดมาได้ กลีบผกาจึงให้นายลอยฆ่ายายอุ่นเพื่อปิดปากเรื่องราวทุกอย่าง เรื่องราวจะลงเอยอย่างไรติดตามในละคร แรมพิศวาส

บทประพันธ์ :อัจฉรียา
บทโทรทัศน์ :ประไพศรี ศรีนาทม
ผลิตโดย :โพลีพลัส
ผู้กำกับ :คนโพอิน

นักแสดง

→ ภัทรพล ศิลปาจารย์ รับบท นบ

นบ เป็นตัวละครที่เปรียบเสมือนเหยื่อของโชคชะตาและความโลภของกลีบผกา เขาเริ่มต้นด้วยความไร้เดียงสา แต่ต้องเติบโตผ่านความเจ็บปวดและการค้นหาความจริง บทนี้แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งภายในใจของชายหนุ่มที่ต้องเลือกระหว่างความรักและศีลธรรม ซึ่งภัทรพลถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริงและน่าจดจำในละครเรื่องนี้

ภูมิหลัง นบเป็นลูกชายของ กลีบผกา (หน่อย บุษกร) และ นายหมาย แต่ถูกเลี้ยงดูโดยไม่รู้ความจริงว่าแม่แท้ๆ ของเขาคือกลีบผกา ซึ่งอ้างว่านบเป็นหลานห่างๆ เพื่อปกปิดอดีตของตัวเอง เขาเติบโตในบ้านเดือนเต็มดวงของ คุณพจน์ศิรินทร์ ซึ่งรับเลี้ยงและส่งเสียให้เรียนโรงเรียนกฎหมาย โดยมองนบเหมือนลูกหลานในบ้าน

บุคลิกภาพ ซื่อสัตย์และจริงใจ นบเป็นคนหนุ่มที่มีจิตใจดี ซื่อตรง และมีความมุ่งมั่นในการเรียนและการใช้ชีวิต เขาไม่เคยสงสัยในตัวกลีบผกาและเชื่อในสิ่งที่ถูกปลูกฝังมา มีความรับผิดชอบ เขาตั้งใจเรียนกฎหมายเพื่อตอบแทนบุญคุณคุณพจน์ และพยายามเป็นคนดีในสายตาคนรอบข้าง

อ่อนไหวและเปราะบางทางอารมณ์ โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับความรักและความจริงที่โหดร้ายเกี่ยวกับครอบครัวของเขา

ความสัมพันธ์
กับเดือนแรม: นบตกหลุมรัก เดือนแรม (ณปภา ตันตระกูล) ลูกสาวของเพ็ญจันทร์ โดยไม่รู้ว่าเธอคือพี่สาวต่างมารดา ความรักของทั้งคู่เริ่มจากความบริสุทธิ์และการช่วยเหลือกัน แต่กลายเป็นโศกนาฏกรรมเมื่อความจริงเปิดเผย

กับกลีบผกา: เขาเคารพกลีบผกาในฐานะญาติผู้ใหญ่ แต่ไม่เคยรู้ว่าเธอคือแม่แท้ๆ และเป็นคนวางแผนทำลายชีวิตคนอื่น รวมถึงพ่อแท้ๆ ของเขา

กับคุณพจน์: นบมองคุณพจน์เป็นเหมือนพ่อบุญธรรม และรู้สึกผูกพันอย่างมาก

พัฒนาการในเรื่อง
ตอนแรก นบเป็นหนุ่มที่ไร้เดียงสาและมองโลกในแง่ดี แต่เมื่อเรื่องราวคืบหน้า เขาค้นพบความจริงว่านายหมายคือพ่อแท้ๆ และกลีบผกาคือแม่ที่ทิ้งเขาไป ทำให้เกิดความขัดแย้งในใจ ความรักกับเดือนแรมกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อรู้ว่าเป็นพี่น้องกัน เขาต้องเผชิญความเจ็บปวดและตัดสินใจปล่อยวางเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในฐานะครอบครัว

สุดท้าย นบกลายเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้น หลังจากผ่านการทรยศและการสูญเสีย เขายังคงยึดมั่นในความดีและช่วยเปิดโปงความชั่วร้ายของกลีบผกา

จุดเด่นของการแสดง ภัทรพล ศิลปาจารย์ ถ่ายทอดบทนบได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะการแสดงอารมณ์ที่ต้องเปลี่ยนจากความรักหวานซึ้งไปสู่ความเจ็บปวดเมื่อรู้ความจริง เขาสามารถทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจและเอาใจช่วยตัวละครนี้ได้ดี เคมีกับ ณปภา ตันตระกูล (เดือนแรม) ก็ลงตัวมาก สร้างความรู้สึกอินให้กับความรักต้องห้ามของทั้งคู่

→ ณปภา ตันตระกูล รับบท เดือนแรม

เดือนแรมเป็นตัวละครที่เปี่ยมไปด้วยความหวังและความอดทน เธอเป็นสัญลักษณ์ของความดีที่ต่อสู้กับความชั่วร้ายในเรื่อง ผ่านชีวิตที่เริ่มจากความยากลำบากสู่การค้นพบตัวตนและการทวงคืนสิ่งที่เป็นของเธอ บทนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงที่ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ซึ่งณปภาสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบและน่าจดจำใน “แรมพิศวาส”

เดือนแรมเป็นลูกสาวของ คุณพจน์ศิรินทร์ และ เพ็ญจันทร์ เกิดในช่วงที่แม่ถูกขับไล่ออกจากบ้านใหญ่ไปอยู่เรือนบ่าวไพร่ หลังจาก กลีบผกา ใส่ร้ายว่าเพ็ญจันทร์มีชู้ เธอเติบโตในสภาพยากจนภายใต้การเลี้ยงดูของ ย่าเยื้อน แม่นม และแม่ของเธอ โดยไม่รู้ตัวว่าเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณพจน์ จนกระทั่งความจริงเปิดเผยในภายหลัง

บุคลิกภาพเข้มแข็งและอดทน เดือนแรมเป็นคนที่สู้ชีวิต แม้จะต้องเผชิญความยากลำบากตั้งแต่เด็ก เธอไม่เคยยอมแพ้และพยายามช่วยเหลือแม่ให้มีชีวิตที่ดีขึ้น จิตใจดีและเห็นอกเห็นใจ เธอมีความเมตตาและมักช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะการเรียนวิชานวดจากย่าเยื้อน และแอบใช้วิชานี้ช่วยรักษาคุณพจน์โดยไม่หวังผลตอบแทน

บริสุทธิ์และซื่อตรง เดือนแรมมีความไร้เดียงสาในช่วงแรก โดยเฉพาะในเรื่องความรัก แต่เมื่อเผชิญความจริง เธอก็แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยวในการยอมรับ

ความสัมพันธ์
กับเพ็ญจันทร์: เดือนแรมรักและผูกพันกับแม่มาก เธอเป็นกำลังใจให้เพ็ญจันทร์ที่ต้องทนทุกข์จากการถูกสามีทิ้ง และพยายามปกป้องแม่จากอันตราย

กับนบ: เธอตกหลุมรัก นบ (ภัทรพล ศิลปาจารย์) โดยไม่รู้ว่าเขาเป็นพี่ชายต่างมารดา ความรักของทั้งคู่เริ่มจากความใกล้ชิดและการช่วยเหลือกัน แต่กลายเป็นความเจ็บปวดเมื่อความจริงปรากฏ

กับคุณพจน์: เดือนแรมไม่รู้ว่าคุณพจน์คือพ่อแท้ๆ ในตอนแรก เธอแอบนวดให้เขาเพื่อรักษาอาการป่วย ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คุณพจน์เริ่มสงสัยในตัวเธอ

พัฒนาการในเรื่อง
จากเด็กสาวไร้เดียงสาสู่หญิงสาวที่เข้มแข็ง ในช่วงแรก เดือนแรมเป็นเพียงเด็กสาวที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายในเรือนบ่าวไพร่ แต่เมื่อต้องเผชิญกับการถูกกลีบผกาคุกคามและความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิด เธอเติบโตเป็นคนที่กล้าหาญและยืนหยัดเพื่อครอบครัว

จุดเปลี่ยนสำคัญ ฉากที่เธอต้องบริจาคเลือดให้คุณพจน์เพื่อช่วยชีวิตเขา และพบว่าเธอคือลูกสาวแท้ๆ เป็นจุดไคลแม็กซ์ที่ทำให้เดือนแรมกลายเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดโปงกลีบผกา

การยอมรับความจริง เมื่อรู้ว่านบคือพี่ชาย เธอต้องเผชิญความเสียใจอย่างหนัก แต่เลือกที่จะปล่อยวางความรักเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในฐานะครอบครัว

จุดเด่นของการแสดง ณปภา ตันตระกูล ถ่ายทอดบทเดือนแรมได้อย่างน่าประทับใจ เธอแสดงถึงความอ่อนโยนและความเข้มแข็งได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะฉากดราม่าที่ต้องร้องไห้หรือเผชิญหน้ากับความจริง ซึ่งทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจและเอาใจช่วย

เคมีกับ ภัทรพล ศิลปาจารย์ (นบ) สร้างความรู้สึกอินให้กับความรักที่บริสุทธิ์แต่ต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรม

→ กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์ รับบท สุภาพชาย

สุภาพชายเป็นตัวละครที่เปี่ยบเสมือนแสงสว่างในความมืดของเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความแค้นและการทรยศ เขานำเสนอความรักที่บริสุทธิ์และความเป็นมิตรที่จริงใจ ท่ามกลางความขัดแย้งของตัวละครอื่นๆ บทนี้แม้จะไม่ใช่ตัวเอกหลัก แต่ก็มีส่วนช่วยขับเคลื่อนเรื่องให้สมบูรณ์ และกฤตภาศสามารถถ่ายทอดความเป็น “สุภาพบุรุษ” ออกมาได้อย่างน่าประทับใจใน “แรมพิศวาส”

สุภาพชายเป็น หม่อมหลวง ลูกชายของ หม่อมราชวงศ์ประกิจ และ คุณนายชดช้อย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ คุณพจน์ศิรินทร์ และ เพ็ญจันทร์ เขามีชาติกำเนิดสูงศักดิ์และได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี เขาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ และเป็นเพื่อนสนิทของ นบ (ภัทรพล ศิลปาจารย์) ซึ่งทำให้เขาได้เข้ามาพัวพันกับครอบครัวบ้านเดือนเต็มดวง

บุคลิกภาพสุภาพและอบอุ่น ตามชื่อ “สุภาพชาย” เขามีบุคลิกที่สุภาพ อ่อนโยน และมีมารยาทดีสมกับเป็นลูกผู้ดีเก่า มั่นใจและมีเสน่ห์ในฐานะนายร้อยตำรวจและหม่อมหลวง เขามีความมั่นใจในตัวเอง และมีเสน่ห์ที่ดึงดูดคนรอบข้าง โดยเฉพาะตัวละครหญิงในเรื่อง

ซื่อสัตย์และจริงจัง สุภาพชายเป็นคนที่มีความตั้งใจในความรักและมิตรภาพ เขาแสดงออกถึงความจริงใจต่อคนที่เขาห่วงใย

ความสัมพันธ์
กับเดือนแรม: สุภาพชายตกหลุมรัก เดือนแรม (ณปภา ตันตระกูล) หลังจากได้พบเธอผ่านการมาเยี่ยมบ้านเดือนเต็มดวงบ่อยๆ เขาชื่นชมความเข้มแข็งและจิตใจดีของเธอ และพยายามดูแลเธอในฐานะคนรัก

กับนบ: เขาเป็นเพื่อนสนิทของนบ และไม่รู้ว่าเพื่อนของเขาก็รักเดือนแรมเช่นกัน ทำให้เกิดความสัมพันธ์รักสามเส้าที่ซับซ้อน

กับหนึ่งฤทัย: หนึ่งฤทัย (ลูกสาวของกลีบผกา) แอบชอบสุภาพชาย ซึ่งนำไปสู่ความอิจฉาริษยาและการกลั่นแกล้งเดือนแรม แต่สุภาพชายไม่ได้สนใจเธอในเชิงชู้สาว

พัฒนาการในเรื่อง
สุภาพชายเริ่มต้นด้วยบทบาทของชายหนุ่มที่เข้ามาเป็นตัวแปรในความรักของนบและเดือนแรม เขาพยายามแสดงความรู้สึกต่อเดือนแรมอย่างเปิดเผย แต่ไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเธอกับนบ

เมื่อความจริงเปิดเผยว่าเดือนแรมและนบเป็นพี่น้องกัน สุภาพชายกลายเป็นตัวละครที่ช่วยเยียวยาความรู้สึกของเดือนแรม และมีส่วนสนับสนุนให้ครอบครัวกลับมาสมานฉันท์

เขายังคงรักษาความเป็นสุภาพบุรุษไว้ตลอดเรื่อง ไม่แสดงความเห็นแก่ตัวหรือขัดแย้งกับเพื่อนอย่างรุนแรง แม้จะอยู่ในสถานการณ์รักสามเส้า

จุดเด่นของการแสดง กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์ ถ่ายทอดบทสุภาพชายได้อย่างเหมาะสม เขานำเสนอภาพลักษณ์ของชายหนุ่มที่มีทั้งความสง่างามและความอ่อนโยน ซึ่งเข้ากับคาแร็กเตอร์ของหม่อมหลวงนายร้อยตำรวจ การแสดงของเขาในฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับความรักที่ไม่สมหวัง หรือการเป็นเพื่อนที่คอยสนับสนุนนบนั้น แสดงถึงความลึกซึ้งทางอารมณ์ได้ดี ทำให้ตัวละครนี้เป็นที่จดจำในฐานะ “พระรอง” ที่มีเสน่ห์

→ โสภิตสุดา อิทธิเมธินทร์ รับบท แน่งน้อย

แน่งน้อยเป็นตัวละครที่สะท้อนถึงผลกระทบของการเลี้ยงดูและความโลภของกลีบผกา เธอเป็นเด็กสาวที่ถูกหลอกใช้โดยไม่รู้ตัว และกลายเป็นเครื่องมือในแผนร้ายของแม่ บทนี้แม้จะไม่ใช่ตัวหลัก แต่ก็มีส่วนช่วยสร้างความขัดแย้งและดราม่าในเรื่อง โดยโสภิตสุดาสามารถถ่ายทอดความเย่อหยิ่งและความเปราะบางของแน่งน้อยออกมาได้อย่างลงตัวใน “แรมพิศวาส”

แน่งน้อยเป็นลูกสาวคนโตของ กลีบผกา (หน่อย บุษกร) ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์ของกลีบผกากับชายอื่น (ไม่ใช่คุณพจน์ศิรินทร์) โดยกลีบผกาอ้างว่าเธอเป็นลูกที่เกิดจาก คุณพจน์ เพื่อหวังให้ลูกสาวมีสถานะในบ้านเดือนเต็มดวง เธอเติบโตในบ้านใหญ่ภายใต้การเลี้ยงดูของกลีบผกา และถูกปลูกฝังให้เชื่อว่าเธอเป็นลูกสาวที่ถูกต้องตามกฎหมายของครอบครัวนี้

บุคลิกภาพหยิ่งยโสและทะนงตัว แน่งน้อยมีนิสัยหยิ่งผยองและมั่นใจในสถานะของตัวเอง เธอมองตัวเองเป็นคุณหนูของบ้าน และดูถูกคนที่มีฐานะต่ำกว่า เช่น เดือนแรม และ เพ็ญจันทร์ ขี้อิจฉาและเอาแต่ใจ เธอมักแสดงความอิจฉาริษยาเมื่อเห็นคนอื่นได้รับความสนใจ โดยเฉพาะเมื่อ นบ หรือคนอื่นในบ้านให้ความสำคัญกับเดือนแรม

ขาดความยั้งคิด แน่งน้อยมักทำอะไรตามอารมณ์ โดยได้รับอิทธิพลจากแม่ของเธอ ทำให้บางครั้งเธอมีส่วนร่วมในแผนร้ายของกลีบผกาโดยไม่รู้ตัวถึงผลกระทบ

ความสัมพันธ์
กับกลีบผกา: แน่งน้อยรักและเชื่อฟังแม่ของเธอมาก เธอมองกลีบผกาเป็นแบบอย่าง และมักทำตามคำสั่งของแม่โดยไม่ตั้งคำถาม แม้ว่าบางครั้งจะเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม

กับหนึ่งฤทัย: ในฐานะพี่สาวของ หนึ่งฤทัย (น้องสาวที่เกิดจากกลีบผกาเช่นกัน) แน่งน้อยมักแข่งขันและเปรียบเทียบกับน้องสาว โดยเฉพาะในเรื่องความสวยและการได้รับความรักจากคนรอบข้าง

กับเดือนแรม: เธอเกลียดและดูถูกเดือนแรม เพราะมองว่าเป็นลูกของบ่าวที่ต่ำต้อย และอิจฉาที่เดือนแรมได้รับความสนใจจาก นบ และคนอื่นๆ ในบ้าน

กับนบ: แน่งน้อยแอบชอบ นบ (ภัทรพล ศิลปาจารย์) ซึ่งเธอเติบโตมาด้วยกันในฐานะญาติ แต่เมื่อเห็นนบสนใจเดือนแรม เธอก็ยิ่งแสดงความไม่พอใจและพยายามขัดขวาง

พัฒนาการในเรื่อง
ในช่วงแรก แน่งน้อยเป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในบ้านใหญ่ เธอไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเอง และเชื่อว่าตัวเองเป็นลูกสาวที่ถูกต้องของครอบครัว

เมื่อความจริงเริ่มเปิดเผย โดยเฉพาะตอนที่พบว่า เดือนแรม คือลูกสาวแท้ๆ ของคุณพจน์ และกรุ๊ปเลือดของเธอและน้องๆ ไม่ตรงกับคุณพจน์ แน่งน้อยเริ่มสับสนและโกรธแค้น

สุดท้าย เมื่อกลีบผกาถูกจับได้และความลับแตก แน่งน้อยต้องเผชิญกับความจริงว่าเธอไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของครอบครัวนี้ และต้องยอมรับชะตากรรมที่เปลี่ยนไปหลังจากแม่ของเธอได้รับผลกรรม

จุดเด่นของการแสดง โสภิตสุดา อิทธิเมธินทร์ ถ่ายทอดบทแน่งน้อยได้อย่างน่าจดจำ เธอแสดงถึงความหยิ่งยโสและความเอาแต่ใจของตัวละครนี้ออกมาได้ชัดเจน โดยเฉพาะฉากที่ต้องปะทะอารมณ์กับเดือนแรมหรือแสดงความอิจฉาอย่างเปิดเผย

การแสดงของเธอช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวละครรอง ทำให้แน่งน้อยเป็นที่พูดถึงในฐานะ “ตัวร้ายรอง” ที่เสริมความเข้มข้นให้กับเรื่อง

→ พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์ รับบท หนึ่งฤทัย

หนึ่งฤทัยเป็นตัวละครที่สะท้อนถึงผลกระทบจากการเลี้ยงดูของกลีบผกา เธอถูกหล่อหลอมให้มีความทะเยอทะยานและขี้อิจฉา แต่ก็มีความเปราะบางที่ซ่อนอยู่เมื่อต้องเผชิญความจริง บทนี้แม้จะไม่ใช่ตัวหลัก แต่ก็ช่วยเสริมความขัดแย้งและดราม่าในเรื่อง โดยพิมพ์อักษิพรสามารถถ่ายทอดความซับซ้อนของหนึ่งฤทัยออกมาได้อย่างน่าประทับใจใน “แรมพิศวาส”

หนึ่งฤทัยเป็นลูกสาวคนเล็กของ กลีบผกา (หน่อย บุษกร) ซึ่งเกิดจากความสัมพันธ์ของกลีบผกากับชายอื่น (ไม่ใช่คุณพจน์ศิรินทร์) แต่ถูกเลี้ยงดูในบ้านเดือนเต็มดวงโดยอ้างว่าเป็นลูกของ คุณพจน์ เพื่อให้มีสถานะในครอบครัว เธอเติบโตมาพร้อมกับ แน่งน้อย พี่สาวของเธอ และถูกปลูกฝังให้เชื่อว่าเธอเป็นคุณหนูของบ้านใหญ่

บุคลิกภาพอ่อนหวานแต่เจ้าเล่ห์ หนึ่งฤทัยมีภาพลักษณ์ภายนอกที่อ่อนโยนและน่ารัก แต่ซ่อนความเจ้าเล่ห์และความทะเยอทะยานไว้ เธอมักใช้เสน่ห์เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ขี้อิจฉาและอยากเด่นเธอมักเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น โดยเฉพาะ แน่งน้อย และ เดือนแรม และไม่ชอบเมื่อมีใครมาแย่งความสนใจจากเธอ

ตามใจตัวเองหนึ่งฤทัยมักทำตามอารมณ์และความต้องการของตัวเอง โดยได้รับอิทธิพลจากกลีบผกา ทำให้บางครั้งเธอมีส่วนร่วมในแผนการร้ายของแม่โดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว

ความสัมพันธ์
กับกลีบผกา: หนึ่งฤทัยรักและเชื่อฟังแม่มาก เธอมองกลีบผกาเป็นผู้หญิงที่เก่งและประสบความสำเร็จ และมักทำตามคำสั่งของแม่เพื่อรักษาสถานะของตัวเองในบ้าน

กับแน่งน้อย: ในฐานะน้องสาว เธอทั้งรักทั้งแข่งขันกับแน่งน้อย บางครั้งทั้งคู่ขัดแย้งกันในเรื่องความสนใจจากคนในบ้านหรือเรื่องส่วนตัว

กับเดือนแรม: หนึ่งฤทัยเกลียดและดูถูก เดือนแรม (ณปภา ตันตระกูล) เพราะมองว่าเป็นลูกของบ่าวที่ต่ำต้อย และอิจฉาที่เดือนแรมได้รับความสนใจจาก นบ และ สุภาพชาย

กับสุภาพชาย: หนึ่งฤทัยแอบชอบ หม่อมหลวงสุภาพชาย (กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์) และพยายามเข้าใกล้เขา แต่สุภาพชายสนใจเดือนแรมมากกว่า ทำให้เธอยิ่งโกรธและพยายามขัดขวางความสัมพันธ์ของทั้งคู่

พัฒนาการในเรื่อง
ในช่วงแรก หนึ่งฤทัยเป็นเด็กสาวที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในบ้านใหญ่ เธอไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเอง และมองตัวเองเป็นคุณหนูที่มีสิทธิ์เหนือคนอื่น

เมื่อ เดือนแรม เข้ามามีบทบาทในบ้านมากขึ้น และได้รับความสนใจจากนบและสุภาพชาย หนึ่งฤทัยเริ่มแสดงความอิจฉาและร่วมมือกับกลีบผกาในการกลั่นแกล้งหรือขัดขวางเดือนแรม

ในตอนท้าย เมื่อความจริงเปิดเผยว่าเธอและแน่งน้อยไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณพจน์ (ผ่านการตรวจกรุ๊ปเลือด) และกลีบผกาถูกจับได้ หนึ่งฤทัยต้องเผชิญกับการสูญเสียสถานะและความจริงที่โหดร้ายเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ

จุดเด่นของการแสดง พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์ ถ่ายทอดบทหนึ่งฤทัยได้อย่างเหมาะสม เธอแสดงถึงความน่ารักแบบเด็กสาวที่มีทั้งความอ่อนหวานและความเจ้าเล่ห์ได้ดี โดยเฉพาะฉากที่ต้องแสดงความอิจฉาหรือความเสียใจ การปะทะอารมณ์กับตัวละครอื่น เช่น เดือนแรม หรือแน่งน้อย ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครนี้ ทำให้หนึ่งฤทัยเป็นที่จดจำในฐานะตัวละครรองที่สร้างสีสันให้กับเรื่อง

→ โกสินทร์ ราชกรม รับบท มาโปรด

มาโปรดเป็นตัวละครที่สะท้อนถึงความบริสุทธิ์ที่ถูกบดบังด้วยความโลภและเล่ห์เหลี่ยมของกลีบผกา เขาไม่ได้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องมากนัก แต่ช่วยเสริมให้เห็นภาพครอบครัวที่แตกสลายจากความลับและการหลอกลวง บทนี้เป็นบทที่เรียบง่ายแต่มีความหมายในบริบทของเรื่อง โดยโกสินทร์ ราชกรม ถ่ายทอดออกมาได้อย่างพอเหมาะพอดีใน “แรมพิศวาส”

มาโปรดเป็นลูกชายคนเดียวของ กลีบผกา (หน่อย บุษกร) เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างกลีบผกากับ นายหมาย (สามีเก่าของกลีบผกา) แต่ถูกเลี้ยงดูในบ้านเดือนเต็มดวงโดยอ้างว่าเป็นลูกของ คุณพจน์ศิรินทร์ เพื่อให้มีสถานะและสิทธิ์ในมรดกเขาเติบโตในฐานะลูกชายคนเล็กของครอบครัว ร่วมกับพี่สาวสองคนคือ แน่งน้อย และ หนึ่งฤทัย

บุคลิกภาพอ่อนแอและพึ่งพา มาโปรดมีนิสัยที่อ่อนโยนและขาดความเด็ดขาด เขามักอยู่ภายใต้อิทธิพลของกลีบผกาและถูกแม่ควบคุมอย่างเต็มที่ ขาดความทะเยอทะยานแตกต่างจากพี่สาวทั้งสอง มาโปรดไม่ได้แสดงความทะเยอทะยานหรือความเจ้าเล่ห์ เขาดูเหมือนเป็นลูกชายที่เชื่อฟังและไม่ค่อยมีบทบาทในการวางแผนร้ายเหมือนกลีบผกา

เงียบขรึม มาโปรดไม่ใช่ตัวละครที่พูดมากหรือเด่นในเรื่อง เขามักเป็นเงาในครอบครัวที่ถูกบงการโดยแม่

ความสัมพันธ์
กับกลีบผกา: มาโปรดรักและเคารพแม่มาก เขาเชื่อฟังคำสั่งของกลีบผกาโดยไม่ตั้งคำถาม และมองว่าแม่ทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของครอบครัว

กับแน่งน้อยและหนึ่งฤทัย: เขามีความสัมพันธ์แบบพี่น้องทั่วไปกับพี่สาวทั้งสอง แต่ไม่ได้มีบทบาทขัดแย้งหรือแข่งขันกับพวกเธออย่างชัดเจน

กับคุณพจน์: มาโปรดถูกเลี้ยงดูให้เชื่อว่าคุณพจน์คือพ่อแท้ๆ และมีความผูกพันในฐานะลูกชาย แต่ความสัมพันธ์นี้ถูกตั้งคำถามเมื่อความจริงเริ่มเปิดเผย

พัฒนาการในเรื่อง
ในช่วงแรก มาโปรดเป็นเด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตตามคำสั่งของกลีบผกา เขาไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเอง และไม่มีส่วนร่วมในแผนร้ายของแม่มากนัก

เมื่อเรื่องดำเนินไปและความลับเกี่ยวกับครอบครัวแตกออก (โดยเฉพาะตอนที่กรุ๊ปเลือดของเขาและพี่สาวไม่ตรงกับคุณพจน์) มาโปรดเริ่มเผชิญกับความสับสนและความจริงที่ว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณพจน์

ในตอนท้าย เมื่อกลีบผกาถูกจับได้และครอบครัวแตกสลาย มาโปรดต้องยอมรับชะตากรรมใหม่ของเขา ซึ่งเขาไม่มีส่วนในการแก้ไขสถานการณ์หรือเปลี่ยนแปลงอะไรได้มาก

จุดเด่นของการแสดง โกสินทร์ ราชกรม ถ่ายทอดบทมาโปรดได้อย่างเหมาะสม เขานำเสนอภาพลักษณ์ของชายหนุ่มที่ดูอ่อนแอและถูกบงการได้ดี โดยไม่ต้องแสดงอารมณ์ที่หวือหวามากนัก ซึ่งสอดคล้องกับคาแร็กเตอร์ที่เงียบขรึมและเป็นเพียงหมากในเกมของกลีบผกา

บทของมาโปรดอาจไม่เด่นเท่าตัวละครอื่น แต่โกสินทร์สามารถทำให้ตัวละครนี้มีมิติในฐานะลูกชายที่ไร้เดียงสาและต้องรับผลจากความชั่วร้ายของแม่

→ ธนากร โปษยานนท์ รับบท พจน์ศิรินทร์

พจน์ศิรินทร์เป็นตัวละครที่เปรียบเสมือนเหยื่อของความโลภและไสยศาสตร์ เขาเริ่มต้นด้วยความมั่นคงและความรักต่อครอบครัว แต่ถูกกลีบผกาครอบงำจนสูญเสียทุกอย่าง ก่อนจะกลับมาแก้ไขในตอนท้าย บทนี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของมนุษย์และพลังของการไถ่บาป โดยธนากร โปษยานนท์ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจและเป็นที่จดจำใน “แรมพิศวาส”

คุณพจน์เป็นคหบดีหนุ่มแห่งบ้านเดือนเต็มดวงในจังหวัดนครปฐม เป็นลูกชายของ คุณนายเรไร และมีฐานะร่ำรวยในยุครัชกาลที่ 8 (ราว พ.ศ. 2485) เขาแต่งงานกับ เพ็ญจันทร์ (จินตหรา สุขพัฒน์) ภรรยาคนแรกที่รักกันดีและมีลูกสาวชื่อ เดือนแรม แต่ต่อมาถูก กลีบผกา (หน่อย บุษกร) ใช้ยาเสน่ห์จนหลงใหลและทิ้งเพ็ญจันทร์ไป

บุคลิกภาพใจดีและมีเมตตา ในช่วงแรก คุณพจน์เป็นคนอบอุ่น ใจดี และรักครอบครัว เขาดูแลเพ็ญจันทร์และคนในบ้านอย่างดี รวมถึงรับเลี้ยง นบ (ลูกของกลีบผกา) และส่งเสียให้เรียนกฎหมาย อ่อนไหวและเปราะบาง: หลังจากถูกยาเสน่ห์ของกลีบผกา คุณพจน์กลายเป็นคนที่ขาดสติและตัดสินใจผิดพลาด เช่น ขับไล่เพ็ญจันทร์ออกจากบ้านโดยเชื่อคำใส่ร้าย

มีเกียรติและสำนึกผิด: เมื่อกลับมามีสติในช่วงท้ายเรื่อง เขาแสดงความรับผิดชอบและพยายามแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดไป

ความสัมพันธ์
กับเพ็ญจันทร์: คุณพจน์รักเพ็ญจันทร์อย่างจริงใจในตอนแรก แต่เมื่อถูกกลีบผกาครอบงำ เขากลับหันหลังให้เธอและขับไล่เธอออกจากบ้าน ต่อมาเมื่อความจริงเปิดเผย เขารู้สึกผิดและพยายามไถ่โทษ

กับกลีบผกา: เขาหลงรักกลีบผกาอย่างหัวปักหัวปำจากฤทธิ์ยาเสน่ห์ และยอมรับเธอเป็นภรรยาในบ้าน โดยไม่รู้ว่าเธอวางยาเขาและวางแผนครองสมบัติ

กับเดือนแรม: คุณพจน์ไม่รู้ว่าเดือนแรม (ณปภา ตันตระกูล) คือลูกสาวแท้ๆ จนกระทั่งเธอบริจาคเลือดช่วยชีวิตเขา ความสัมพันธ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่อง

กับนบ: เขาดูแลนบ (ภัทรพล ศิลปาจารย์) เหมือนลูกหลาน และส่งเสียให้เรียนหนังสือ โดยไม่รู้ว่านบคือลูกของกลีบผกากับนายหมาย

พัฒนาการในเรื่อง
จากชายหนุ่มที่มั่นคงสู่เหยื่อของยาเสน่ห์: ในช่วงแรก คุณพจน์เป็นหัวหน้าครอบครัวที่น่าเกรงขาม แต่หลังจากถูกกลีบผกาใช้ยาเสน่ห์ เขากลายเป็นคนที่อ่อนแอและถูก操控 ทำร้ายคนที่เขารักโดยไม่รู้ตัว

จุดเปลี่ยนจากอุบัติเหตุ: หลังประสบอุบัติเหตุจนไม่สามารถมีลูกได้ และถูกกลีบผกาวางยาเรื่อยๆ สุขภาพของเขาทรุดโทรม แต่การที่นวดโดยเดือนแรมช่วยให้เขาค่อยๆ ฟื้นตัว

การกลับมามีสติและแก้ไขอดีต: ในตอนท้าย เมื่อความจริงเปิดเผยผ่านการตรวจกรุ๊ปเลือดและการสารภาพของกลีบผกา คุณพจน์ตื่นจากภวังค์ เขาขอโทษเพ็ญจันทร์และยอมรับเดือนแรมเป็นลูกสาว พร้อมจัดการให้กลีบผกาได้รับผลกรรม

จุดเด่นของการแสดง ธนากร โปษยานนท์ ถ่ายทอดบทคุณพจน์ได้อย่างยอดเยี่ยม เขาแสดงถึงความอบอุ่นของชายหนุ่มที่รักครอบครัวในช่วงแรก ความหลงใหลที่ไร้สติเมื่อถูกยาเสน่ห์ และความสำนึกผิดในตอนท้ายได้อย่างสมจริง ฉากดราม่าที่ต้องเผชิญหน้ากับเพ็ญจันทร์หรือการค้นพบความจริงเกี่ยวกับลูกสาวแท้ๆ แสดงถึงความลึกซึ้งทางอารมณ์ ทำให้คนดูทั้งสงสารและเอาใจช่วย

→ จินตหรา สุขพัฒน์ รับบท เพ็ญจันทร์

เพ็ญจันทร์เป็นตัวละครที่เปี่ยบเสมือนสัญลักษณ์ของความดีและความอดทน เธอผ่านการทดสอบจากโชคชะตาที่โหดร้าย แต่ไม่เคยสูญเสียศรัทธาในความยุติธรรม บทนี้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงที่ยืนหยัดเพื่อครอบครัว และจินตหรา สุขพัฒน์ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้งและน่าจดจำใน “แรมพิศวาส” ทำให้เพ็ญจันทร์เป็นตัวละครที่คนดูรักและเห็นใจมากที่สุดคนหนึ่งในเรื่อง

เพ็ญจันทร์เป็นภรรยาคนแรกของ คุณพจน์ศิรินทร์ (ธนากร โปษยานนท์) คหบดีแห่งบ้านเดือนเต็มดวง เธอเป็นผู้หญิงเรียบร้อยและมีฐานะดีก่อนแต่งงาน รักและซื่อสัตย์ต่อสามี ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปเมื่อ กลีบผกา (หน่อย บุษกร) ใช้ยาเสน่ห์ทำให้คุณพจน์หลงรัก และใส่ร้ายว่าเธอมีชู้กับ นายหมาย จนถูกขับไล่ออกจากบ้านใหญ่ขณะตั้งท้องลูกสาวชื่อ เดือนแรม

บุคลิกภาพอ่อนโยนและใจดี เพ็ญจันทร์มีจิตใจดีงามและอ่อนโยน เธอรักคุณพจน์และครอบครัวอย่างจริงใจ และยังช่วยเหลือคนอื่น เช่น การช่วยชีวิตนายหมายจากพิษของกลีบผกา เข้มแข็งและอดทนแม้จะถูกทรยศและต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในเรือนบ่าวไพร่ เพ็ญจันทร์ไม่เคยยอมแพ้ เธอเลี้ยงดูลูกสาวด้วยความรักและพยายามปกป้องครอบครัว

มีความหวัง เพ็ญจันทร์เชื่อมั่นว่าสักวันความจริงจะปรากฏ และเธอจะได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็น

ความสัมพันธ์
กับคุณพจน์: เพ็ญจันทร์รักคุณพจน์อย่างสุดหัวใจ แต่เมื่อเขาถูกยาเสน่ห์และหันไปหกลีบผกา เธอต้องทนทุกข์กับการถูกทิ้งและใส่ร้าย ต่อมาเมื่อคุณพจน์สำนึกผิด เธอให้อภัยและกลับมาอยู่เคียงข้างเขา

กับเดือนแรม: เธอรักและปกป้อง เดือนแรม (ณปภา ตันตระกูล) ลูกสาวของเธออย่างสุดชีวิต และเป็นกำลังใจให้ลูกในยามยากลำบาก

กับกลีบผกา: เพ็ญจันทร์เป็นศัตรูโดยตรงของกลีบผกา เธอรู้ถึงความร้ายกาจของอีกฝ่าย แต่ไม่มีพลังต่อสู้ในช่วงแรก จนกว่าความจริงจะเปิดเผย

กับย่าเยื้อน: ย่าเยื้อน แม่นมของเธอเป็นผู้ช่วยและที่พึ่งสำคัญในช่วงที่ถูกขับไล่ เธอพึ่งพาย่าเยื้อนทั้งการเลี้ยงลูกและการใช้ชีวิต

พัฒนาการในเรื่อง
จากภรรยาที่มีความสุขสู่ผู้ถูกทอดทิ้ง: ในตอนแรก เพ็ญจันทร์เป็นภรรยาที่มีความสุขในบ้านใหญ่ แต่เมื่อกลีบผกาเข้ามา เธอถูกขับไล่และต้องเผชิญความยากลำบากขณะตั้งท้อง

การต่อสู้เพื่อลูก: เพ็ญจันทร์ทุ่มเทเลี้ยงเดือนแรมและพยายามปกป้องเธอจากแผนร้ายของกลีบผกา แม้จะไม่มีอำนาจในบ้าน เธอก็ไม่ยอมจำนน

การทวงคืนความยุติธรรม: ในตอนท้าย เมื่อความจริงเปิดเผยว่าเดือนแรมคือลูกสาวแท้ๆ ของคุณพจน์ และกลีบผกาถูกจับได้ เพ็ญจันทร์ได้กลับมามีที่ยืนในครอบครัว เธอให้อภัยคุณพจน์และช่วยเยียวยาครอบครัวที่แตกสลาย

จุดเด่นของการแสดง จินตหรา สุขพัฒน์ ถ่ายทอดบทเพ็ญจันทร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอแสดงถึงความอ่อนโยนของภรรยาที่รักสามีในช่วงแรก ความเจ็บปวดจากการถูกทรยศ และความเข้มแข็งของแม่ที่ปกป้องลูกได้อย่างน่าประทับใจฉากดราม่า เช่น การร้องไห้เมื่อถูกขับไล่ หรือการเผชิญหน้ากับกลีบผกา แสดงให้เห็นถึงพลังการแสดงที่ทำให้คนดูสงสารและเอาใจช่วย

→ บุษกร พรวรรณะศิริเวช รับบท กลีบผกา

กลีบผกาเป็นตัวละครที่เปี่ยบเสมือนตัวแทนของความโลภและความชั่วร้าย เธอใช้ไสยศาสตร์และเล่ห์เหลี่ยมทำลายทุกอย่างเพื่อตัวเอง แต่สุดท้ายต้องพังทลายเมื่อความจริงปรากฏ บทนี้เป็นนางร้ายที่เข้มข้นและท้าทาย ซึ่งหน่อย บุษกร ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบจนกลายเป็นไฮไลต์ของ “แรมพิศวาส” และเป็นที่พูดถึงในหมู่ผู้ชมอย่างมาก

กลีบผกาเริ่มต้นเป็นแม่ค้าขายขนมธรรมดา มีสามีชื่อ นายหมาย และมีลูกชายชื่อ นบ แต่เธอมีความทะเยอทะยานอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เธอได้พบกับ คุณพจน์ศิรินทร์ (ธนากร โปษยานนท์) ผ่าน ประพืด บ่าวคนสนิท และใช้ยาเสน่ห์จาก ยายอุ่น แม่หมอพื้นบ้าน เพื่อมัดใจคุณพจน์จนเขาทิ้ง เพ็ญจันทร์ ภรรยาคนแรก

บุคลิกภาพเจ้าเล่ห์และร้ายกาจ กลีบผกาเป็นคนฉลาด หัวไว และไม่ลังเลที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมหรือวิธีการชั่วร้ายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ เธอวางแผนทุกอย่างอย่างรอบคอบ ทะเยอทะยานและโลภ เธอปรารถนาความมั่งคั่งและอำนาจ ถึงขั้นยอมฆ่าคนและทำลายครอบครัวเพื่อครองสมบัติของบ้านเดือนเต็มดวง

มีเสน่ห์และเย่อหยิ่ง กลีบผกาใช้ความสวยและเสน่ห์เป็นอาวุธ เธอมั่นใจในตัวเองและมองคนอื่นต่ำกว่า โดยเฉพาะเพ็ญจันทร์และเดือนแรม

ความสัมพันธ์
กับคุณพจน์: กลีบผกาครอบงำคุณพจน์ด้วยยาเสน่ห์ “ว่านราคะ” และกลายเป็นภรรยาคนใหม่ของเขา เธอวางยาเขาเรื่อยๆ เพื่อให้อ่อนแอและควบคุมสมบัติได้ง่ายขึ้น

กับเพ็ญจันทร์: เธอเกลียดและมองเพ็ญจันทร์ (จินตหรา สุขพัฒน์) เป็นศัตรูคู่แค้น ใส่ร้ายว่าเพ็ญจันทร์มีชู้เพื่อกำจัดเธอออกจากบ้าน

กับนบ: กลีบผกาเป็นแม่แท้ๆ ของ นบ (ภัทรพล ศิลปาจารย์) แต่ปิดบังความจริงและเลี้ยงเขาในฐานะหลานห่างๆ โดยไม่มีความรักแบบแม่ลูก

กับลูกๆ (แน่งน้อย, หนึ่งฤทัย, มาโปรด): เธอมีลูกสาวสองคน (แน่งน้อย และ หนึ่งฤทัย) และลูกชายหนึ่งคน (มาโปรด) จากชายอื่น แต่เลี้ยงดูพวกเขาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือรักษาอำนาจในบ้าน

กับนายหมายและคนอื่น: เธอพยายามฆ่านายหมาย สามีเก่า และลักลอบมีสัมพันธ์กับ ประพืด และ นายลอย เพื่อให้ได้ลูกชายตามความต้องการของ คุณนายเรไร

พัฒนาการในเรื่อง
จากแม่ค้าสู่เจ้าแม่บ้านใหญ่: กลีบผกาเริ่มต้นด้วยการใช้ยาเสน่ห์มัดใจคุณพจน์ และค่อยๆ กำจัดทุกคนที่ขวางทาง เช่น วางยานายหมาย ฆ่ายายอุ่น และพยายามกำจัดเพ็ญจันทร์กับเดือนแรม

จุดสูงสุดของอำนาจ: หลังคุณพจน์ประสบอุบัติเหตุและไม่สามารถมีลูกได้ เธอควบคุมบ้านได้เต็มที่ แต่เริ่มวางยาเขาเพื่อเร่งให้ตายและครองสมบัติ

จุดจบของความชั่วร้าย: เมื่อเดือนแรมบริจาคเลือดช่วยคุณพจน์ และความจริงเรื่องกรุ๊ปเลือดเปิดเผยว่าเธอไม่ใช่แม่ของลูกที่แท้จริงในบ้าน คุณพจน์ตื่นจากยาเสน่ห์ กลีบผกาถูกจับได้และต้องรับโทษตามกฎหมาย

จุดเด่นของการแสดง หน่อย บุษกร ถ่ายทอดบทกลีบผกาได้อย่างยอดเยี่ยม เธอแสดงถึงความร้ายกาจ เสน่ห์ และความทะเยอทะยานได้สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะฉากที่ใช้ยาเสน่ห์หรือเผชิญหน้ากับเพ็ญจันทร์ ซึ่งทำให้คนดูทั้งหมั่นไส้และทึ่งการแสดงของเธอในฉากดราม่าตอนท้าย ที่ต้องยอมรับความพ่ายแพ้และเผชิญผลกรรม แสดงถึงความลึกซึ้งและพลังที่ทำให้กลีบผกาเป็นนางร้ายที่น่าจดจำ

→ ดวงตา ตุงคะมณี  รับบท คุณนายเรไร

คุณนายเรไรเป็นตัวละครที่สะท้อนถึงผู้ใหญ่ที่ยึดติดกับค่านิยมเก่าและภาพลักษณ์ของตระกูล เธอมีส่วนทำให้ความขัดแย้งในเรื่องรุนแรงขึ้นจากการไม่ตรวจสอบความจริง แต่สุดท้ายก็ยอมรับความผิดพลาดและช่วยเยียวยาครอบครัว บทนี้เป็นบทที่เสริมมิติให้กับเรื่อง และดวงตา ตุงคะมณี ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจใน “แรมพิศวาส” ทำให้คุณนายเรไรเป็นตัวละครที่ทั้งน่าเกรงขามและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน

คุณนายเรไรเป็นแม่หม้ายของคหบดีผู้ล่วงลับ และเป็นมารดาของ คุณพจน์ศิรินทร์ (ธนากร โปษยานนท์) เธอมีฐานะดีและเป็นผู้ดูแลบ้านเดือนเต็มดวงในจังหวัดนครปฐมในยุครัชกาลที่ 8 เธอเป็นผู้หญิงที่มีอำนาจในครอบครัว และหวังให้ลูกชายมีทายาทสืบสกุล โดยเฉพาะลูกชาย เพื่อรักษามรดกและเกียรติยศของตระกูล

บุคลิกภาพ เข้มงวดและอนุรักษนิยม: คุณนายเรไรมีทัศนคติแบบเก่า เชื่อในเรื่องศักดิ์ศรีของตระกูล และมักตัดสินคนจากชาติกำเนิดและสถานะ เธอเข้มงวดกับคนในบ้านและมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน รักลูกแต่ขาดการควบคุม: เธอรักคุณพจน์มาก แต่ไม่สามารถควบคุมการตัดสินใจของเขาได้ โดยเฉพาะเมื่อเขาถูก กลีบผกา ครอบงำด้วยยาเสน่ห์

เย่อหยิ่งและเผด็จการ คุณนายเรไรมักมองคนอื่นต่ำกว่า และชอบสั่งการโดยไม่ฟังความเห็นผู้อื่น เธอให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของครอบครัวมากกว่าความจริงใจ

ความสัมพันธ์
กับคุณพจน์: เธอรักและหวังดีต่อลูกชาย แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่เขาทิ้ง เพ็ญจันทร์ (จินตหรา สุขพัฒน์) เพื่อไปอยู่กับกลีบผกา อย่างไรก็ตาม เธอไม่มีพลังมากพอจะหยุดเขา

กับกลีบผกา: คุณนายเรไรไม่ชอบกลีบผกาในตอนแรก เพราะมองว่าเป็นผู้หญิงต่ำต้อย แต่เมื่อกลีบผกาให้กำเนิด มาโปรด (ลูกชาย) เธอก็ยอมรับกลีบผกาในฐานะสะใภ้ เพราะต้องการทายาทชาย

กับเพ็ญจันทร์: เธอเคยรักและเอ็นดูเพ็ญจันทร์ในฐานะสะใภ้ แต่เมื่อเพ็ญจันทร์ถูกใส่ร้ายและขับไล่ออกไป คุณนายเรไรไม่ได้ช่วยเหลือหรือปกป้อง ทำให้ความสัมพันธ์นี้ขาดสะบั้น

กับหลานๆ (แน่งน้อย, หนึ่งฤทัย, มาโปรด): เธอรักหลานๆ โดยเฉพาะมาโปรดที่เป็นผู้ชาย แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณพจน์

พัฒนาการในเรื่อง
จากผู้มีอำนาจสู่ผู้ถูกหลอก: ในช่วงแรก คุณนายเรไรดูเหมือนเป็นคนควบคุมบ้าน แต่เมื่อกลีบผกาเข้ามา เธอกลับถูกหลอกให้เชื่อว่าแน่งน้อย, หนึ่งฤทัย, และมาโปรด เป็นหลานแท้ๆ และยอมรับสถานการณ์โดยไม่สงสัย

การเผชิญความจริง: เมื่อความจริงเปิดเผยผ่านการตรวจกรุ๊ปเลือดว่าเดือนแรม (ณปภา ตันตระกูล) คือหลานสาวแท้ๆ และกลีบผกาหลอกทุกคน คุณนายเรไรต้องยอมรับความผิดพลาดที่ไม่ปกป้องเพ็ญจันทร์

การยอมรับและปรับตัว: ในตอนท้าย เธอต้อนรับเพ็ญจันทร์และเดือนแรมกลับสู่ครอบครัว และสนับสนุนการลงโทษกลีบผกา แม้จะเสียหน้าที่ถูกหลอกมานาน

จุดเด่นของการแสดง
ดวงตา ตุงคะมณี ถ่ายทอดบทคุณนายเรไรได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอแสดงถึงความเข้มงวดและความเย่อหยิ่งของผู้หญิงสูงศักดิ์ในยุคเก่าได้ดี โดยเฉพาะน้ำเสียงและท่าทางที่แสดงถึงอำนาจ ฉากที่ต้องเผชิญความจริงและแสดงความเสียใจที่ถูกหลอก แสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งทางอารมณ์ ทำให้คนดูเข้าใจความซับซ้อนของตัวละครนี้

→ วรวุฒิ นิยมทรัพย์ รับบท นายหมาย

นายหมายเป็นตัวละครที่เปรียบเสมือนเหยื่อของความโลภและเล่ห์เหลี่ยมของกลีบผกา เขาเป็นคนธรรมดาที่ถูกชะตาชีวิตเล่นงาน แต่ยังคงรักษาความดีและความซื่อสัตย์ไว้ บทนี้แม้ไม่ใช่ตัวหลัก แต่ช่วยเพิ่มมิติให้กับเรื่อง โดยวรวุฒิ นิยมทรัพย์ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจใน “แรมพิศวาส” ทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจและจดจำตัวละครนี้ในฐานะพ่อที่เงียบขรึมแต่เต็มไปด้วยความรักที่ซ่อนอยู่

นายหมายเป็นสามีคนแรกของ กลีบผกา (หน่อย บุษกร) ก่อนที่เธอจะทิ้งเขาไปเพื่อหวังชีวิตที่ดีกว่า เขาเป็นคนธรรมดา ฐานะยากจน และมีลูกชายด้วยกันชื่อ นบ (ภัทรพล ศิลปาจารย์) หลังจากถูกกลีบผกาทิ้ง เขากลายเป็นคนรับใช้ในบ้านเดือนเต็มดวง และมีบทบาทในครอบครัวของ คุณพจน์ศิรินทร์

บุคลิกภาพซื่อสัตย์และจิตใจดี นายหมายเป็นคนเรียบง่าย ซื่อตรง และไม่มีความทะเยอทะยาน เขารักกลีบผกาและลูกชายอย่างจริงใจในตอนแรก แต่ต้องยอมรับเมื่อเธอเปลี่ยนไปอ่อนแอและยอมจำนน เขาขาดความเข้มแข็งในการต่อสู้กับโชคชะตา และมักยอมรับสถานการณ์โดยไม่โต้แย้ง แม้จะรู้ว่าถูกกลีบผกาทรยศ

มีความกตัญญู หลังจากรอดชีวิตจากการถูกกลีบผกาวางยา เขาสำนึกในบุญคุณของ เพ็ญจันทร์ (จินตหรา สุขพัฒน์) ที่ช่วยเขาไว้ และพยายามตอบแทนด้วยความซื่อสัตย์

ความสัมพันธ์
กับกลีบผกา: นายหมายรักกลีบผกาในฐานะภรรยา แต่เธอกลับวางยาพิษเพื่อกำจัดเขาเมื่อเขาเป็นอุปสรรคต่อแผนการของเธอ ความสัมพันธ์นี้จบลงด้วยการทรยศ

กับนบ: เขาเป็นพ่อแท้ๆ ของนบ แต่ไม่สามารถเปิดเผยความจริงได้เพราะกลีบผกานำนบไปเลี้ยงในฐานะหลาน เขารักลูกชายเงียบๆ และเฝ้ามองจากระยะไกล

กับเพ็ญจันทร์: หลังจากเพ็ญจันทร์ช่วยชีวิตเขาไว้ เขากลายเป็นคนที่เคารพและภักดีต่อเธอ แม้จะถูกใส่ร้ายว่าเป็นชู้กัน เขาก็ไม่เคยทรยศน้ำใจของเธอ

กับคุณพจน์: เขาทำงานรับใช้คุณพจน์ด้วยความซื่อสัตย์ และไม่เคยรู้สึกแค้นแม้คุณพจน์จะหลงกลีบผกาและทิ้งเพ็ญจันทร์

พัฒนาการในเรื่อง
จากสามีสู่คนถูกทิ้ง: ในช่วงแรก นายหมายเป็นสามีที่ถูกกลีบผกาทิ้งเพื่อไปหาคุณพจน์ เขาพยายามใช้ชีวิตต่อไปด้วยการทำงานในบ้านเดือนเต็มดวง

จุดเปลี่ยนจากพิษ: เมื่อกลีบผกาวางยาพิษเพื่อฆ่าเขา เขาเกือบตาย แต่รอดมาได้เพราะเพ็ญจันทร์ช่วยไว้ ทำให้เขาเริ่มเห็นความชั่วร้ายของอดีตภรรยา

การเปิดเผยความจริง: ในตอนท้าย เมื่อนบรู้ว่านายหมายคือพ่อแท้ๆ เขาได้กลับมามีส่วนในชีวิตของลูกชาย แม้จะเป็นการยอมรับที่สายเกินไป เขายังคงเป็นคนที่เงียบขรึมและไม่เรียกร้องอะไร

จุดเด่นของการแสดง วรวุฒิ นิยมทรัพย์ ถ่ายทอดบทนายหมายได้อย่างสมจริง เขานำเสนอภาพของชายธรรมดาที่อ่อนแอแต่มีจิตใจดีได้ดี โดยเฉพาะฉากที่ต้องแสดงความเจ็บปวดจากการถูกทรยศ หรือความสำนึกในบุญคุณของเพ็ญจันทร์ การแสดงของเขาในฉากที่เผชิญหน้ากับกลีบผกา หรือการมองนบด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักแต่พูดไม่ได้ ทำให้คนดูรู้สึกสงสารและเห็นใจ