ละคร โอป้าลำซิ่ง 2568 เมื่อแสงสีเสียงของเมืองหลวงเริ่มจางหายไป “เดชชนะ” นักร้องป๊อปผู้เคยโด่งดังต้องกลับคืนสู่บ้านเกิดในแดนอีสานที่เขาจากมา ไม่ใช่ในฐานะซุปตาร์ แต่ในฐานะความหวังสุดท้ายของวงหมอลำเก่าแก่ที่กำลังจะล่มสลาย ท่ามกลางเสียงแคนโหยหวนและฝุ่นควันแห่งความทรงจำ การมาถึงของ “เอกนรี” สาวเมืองกรุงผู้เต็มไปด้วยไอเดียสุดโต่งได้นำพาความวุ่นวายและสีสันใหม่ๆ เข้ามาปั่นป่วนชีวิตของเขา การปะทะคารมที่ดุเด็ดเผ็ดมันกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ไม่คาดคิด เมื่อความรักค่อยๆ ก่อตัวขึ้นท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขัน ความขัดแย้งในครอบครัว และความลับดำมืดในอดีตที่รอวันเปิดเผย พวกเขาจะฟื้นคืนวงหมอลำนี้ให้กลับมาเป็นตำนานได้หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงเพียงแค่บทเพลงที่เลือนหาย

ละคร โอป้าลำซิ่ง 2568 ละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ดราม่า ผสมเพลงลูกทุ่ง เรื่องราวของละคร “โอป้าลำซิ่ง” ย้อนกลับไปในอดีตของ วงคูนแคน วงลูกทุ่งหมอลำชื่อดังจากอำเภอบ้านหนองคูน ที่เคยคึกคักไปด้วยเสียงเพลงและการแสดงสุดมันส์ วงนี้ก่อตั้งโดย “ปู่ดุ่ย” เจ้าของวงผู้มากประสบการณ์ และมี “เอื้อยฟ้า ซูยองฮวา” ฉายา “นางฟ้าหมอลำ” เป็นนักร้องประจำวงที่ทำให้เวทีเดือดทุกครั้ง แต่ด้วยกาลเวลาและกระแสสมัยใหม่ วงคูนแคนก็ค่อยๆ ตกต่ำ จนแทบจะล้มละลาย

เข้าสู่ยุคปัจจุบัน “เดชชนะ” หนุ่มเสียงดีหัวสมัยใหม่ที่เติบโตมาในครอบครัวลูกทุ่ง แต่เลือกทางเดินชีวิตแบบคนเมืองกรุง เดชชนะเป็นนักร้องป๊อปที่กำลังดัง แต่เมื่อเขาได้รับข่าวร้ายว่าวงคูนแคนของครอบครัวกำลังจะยุติกิจกรรม เขาจึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดเพื่อช่วยฟื้นฟูวงเก่าให้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง

ที่บ้านหนองคูน เดชชนะได้พบกับ “เอกนรี” ครีเอทีฟสาวจอมโก๊ะจากเอเจนซี่โฆษณาที่ถูกส่งมาเพื่อช่วยโปรโมตวงลูกทุ่งให้ทันสมัย เอกนรีเป็นสาวกรุงเทพฯ สายแฟชั่นที่ไม่รู้จักเพลงลูกทุ่งมาก่อน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและไอเดียแปลกๆ เธอพร้อมลุยทุกอย่างเพื่อช่วยวงคูนแคน

ทั้งคู่ที่เริ่มต้นด้วยการปะทะคารมแบบไม้เบื่อไม้เมา ต้องจับมือกันสงบศึกเพื่อฟื้นฟูวง โดยนำเสนอไอเดียผสมผสานลูกทุ่งกับโมเดิร์น เช่น การไลฟ์สตรีมมิงการแสดง การทำคลิปไวรัลบนโซเชียลมีเดีย และการรีเมคเพลงเก่าให้เข้ากับยุคดิจิทัล แต่ปัญหาไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อคู่แข่งสำคัญคือ แม่ของเดชชนะ ผู้จัดการวงคู่ปรับที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และยังมีดราม่าครอบครัว ความรักวัยรุ่น และอุปสรรคจากคนในวงที่ยึดติดกับอดีต

สารบัญละคร

ละคร โอป้าลำซิ่ง ไม่ใช่แค่เรื่องรักหวานซึ้ง แต่ยังเต็มไปด้วยมุกฮาแบบอีสานแท้ๆ การแสดงลูกทุ่งที่สมจริง และเพลงประกอบที่ทั้งเก่าและใหม่ผสมกันอย่างลงตัว ผู้ชมจะได้หัวเราะกับความวุ่นวายของคู่พระนาง ร้องไห้กับดราม่าครอบครัว และโยกตามจังหวะลำซิ่งที่ไม่มีกั๊ก ต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องหลักของละคร

ลูกชายนักร้องป๊อปและหมอลำที่ร้างรา

แสงไฟระยิบระยับบนเวทีคอนเสิร์ตในกรุงเทพฯ ส่องสว่างให้ เดชชนะ (โหน ธนากร) หนุ่มหล่อวัย 28 ปี นักร้องป๊อปสุดฮอตที่กำลังร้องเพลงท่ามกลางเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ แต่ท่ามกลางความรุ่งโรจน์ โทรศัพท์จากบ้านเกิดที่บ้านหนองคูน จังหวัดยโสธร ดังขึ้นราวระฆังเตือนภัย ปู่ดุ่ย (บุญส่ง นาคภู่) ผู้ก่อตั้งวงหมอลำคูนแคน บอกข่าวร้ายว่า วงที่เคยรุ่งเรืองในอดีตกำลังจะล้มละลาย ไม่มีงานแสดงเหลือแล้ว

เดชชนะที่เคยหนีออกจากบ้านเพราะขัดแย้งกับ แม่ของเขา (อ้อม-อังคณา) ผู้จัดการวงที่ยึดติดกับวิธีเก่า ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง เก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิดอย่างไม่เต็มใจ ภาพในใจของเขาคือเวทีหมอลำเก่าๆ ฝุ่นจับ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวัยเด็ก

เมื่อถึงบ้านหนองคูน เขาได้พบกับ เอกนรี (เกรซ พัชร์สิตา) สาวเมืองกรุงจอมโก๊ะจากเอเจนซี่โฆษณาที่ถูกส่งมาเพื่อช่วยโปรโมตวง เธอมาพร้อมรองเท้าส้นสูงและกระเป๋าแบรนด์เนม แต่สะดุดล้มตั้งแต่ก้าวแรกที่เจอโคลนหน้าบ้านวง เอกนรีพยายามเต้นลำซิ่งตามเด็กๆ ในหมู่บ้าน แต่ท่าทางผิดเพี้ยนจนเดชชนะหัวเราะลั่นและเรียกเธอว่า “สาวกรุงงี่เง่า” การปะทะคารมครั้งแรกจุดไฟให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่ปรับทันที

ความลับในอดีตและศัตรูที่ซ่อนตัว

ขณะที่เดชชนะและเอกนรีต้องร่วมมือกันฟื้นวงคูนแคน ด้วยไอเดียสมัยใหม่ เช่น การทำคลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” ที่ปู่ดุ่ยเต้นลำซิ่งคู่กับวัยรุ่นจนกลายเป็นกระแส ความวุ่นวายก็เริ่มขึ้นเมื่อ เอื้อยฟ้า ซูยองฮวา (หญิง ธิติกานต์) นักร้องนำในตำนานของวง กลับมาจากกรุงเทพฯ เธอสวยสะกดใจและเสียงหวานราวนางฟ้า แต่เดชชนะรู้ดีว่าเธอเคยเป็นรักแรกของเขาเมื่อสิบปีก่อน

ทว่า เอื้อยฟ้ามีความลับ เธอคือลูกสาวนอกสมรสของปู่ดุ่ยที่ไม่เคยได้รับการยอมรับ และแอบวางแผนร่วมกับ ลุงชัย คู่แข่งเจ้าของวงหมอลำคู่ปรับ เพื่อแย่งชิงวงคูนแคนไปตั้งวงใหม่ เธอเริ่มต้นด้วยการก่อวินาศกรรม เช่น ทำลายอุปกรณ์ถ่ายคลิปไวรัล และปล่อยข่าวลือว่าเดชชนะติดยา ทำให้วงเกือบเสียชื่อเสียง

ในขณะเดียวกัน เอกนรีเริ่มเห็นด้านอบอุ่นของเดชชนะ เมื่อทั้งคู่ไปไลฟ์สตรีมมิงที่ตลาดนัดอีสาน เธอพลั้งปากร้องเพลงคู่กับเขาในเพลง “ลำซิ่งรักเธอ” จนเกิดเคมีหวานซึ้งที่ทำให้ใจเต้นแรง แต่แล้วแม่ของเดชชนะก็เปิดเผยความลับที่ทำให้ทุกอย่างพังทลาย: เดชชนะเคยมีแฟนเก่าชื่อ นรี ซึ่งหน้าตาคล้ายเอกนรีอย่างน่าประหลาด เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เดชชนะกลัวการรักครั้งใหม่

รักที่สั่นคลอนและการทรยศ

ความรู้สึกของเอกนรีที่มีต่อเดชชนะเริ่มชัดเจน เธอตัดสินใจสารภาพรักกลางเวทีลำซิ่งในตอนที่ 8 ท่ามกลางแสงไฟและเสียงเพลง แต่เดชชนะปฏิเสธด้วยน้ำตา เขายังฝังใจกับบาดแผลจากนรี และกลัวว่าเอกนรีจะเจอชะตากรรมเดียวกัน เอกนรีเสียใจแต่ไม่ยอมแพ้ เธอพยายามพิสูจน์ตัวเองด้วยการผลักดันวงต่อไป

แต่แล้วอุบัติเหตุครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เอกนรีเกือบถูกรถชนขณะเดินกลับบ้านหลังซ้อม เดชชนะที่เห็นเหตุการณ์รีบวิ่งเข้าไปช่วย ทำให้เขาตระหนักว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และกลัวการสูญเสียอีกครั้ง เขาขอโทษและเริ่มเปิดใจ แต่ความวุ่นวายยังไม่จบ เมื่อเอื้อยฟ้าปล่อยหมัดเด็ดด้วยการแฮ็กเพจโซเชียลของวง และเผยตัวว่าเป็นลูกสาวของปู่ดุ่ย สร้างความแตกแยกในครอบครัว

การต่อสู้ครั้งสุดท้ายและรักที่ลงตัว

ในช่วงโค้งสุดท้าย เอื้อยฟ้าถูกเปิดโปงโดย รุ่งสุริยา นักร้องรับเชิญที่แฝงตัวมาเป็นสายให้เอกนรี เธอยอมรับว่าเธอทำทุกอย่างเพราะอยากให้ปู่ดุ่ยรักและยอมรับเธอในฐานะลูกสาว ปู่ดุ่ยน้ำตาไหล โอบกอดเอื้อยฟ้าและให้อภัย ทำให้เธอกลับใจมาช่วยวงคูนแคน

ด้านเดชชนะและเอกนรีนำทีมสมาชิกวง รวมถึง อ้น และ พลอย สร้างปรากฏการณ์ด้วยการรีเมคเพลง “โอป้าลำซิ่ง” เป็นเวอร์ชัน EDM ลูกทุ่งผสมที่ฮิตถล่มทลาย แม้แต่แม่ของเดชชนะที่เคยต่อต้านก็ยอมรับในความสามารถของเอกนรี เมื่อลุงชัยพยายามซื้อวงคูนแคน เดชชนะและทีมจัดคอนเสิร์ตใหญ่เพื่อพิสูจน์ว่าวงของพวกเขาจะไม่ยอมแพ้ สุดท้าย ลุงชัยยอมถอยและกลายเป็นพันธมิตร

ในคืนสุดท้ายของคอนเสิร์ตใหญ่ที่กรุงเทพฯ เดชชนะขึ้นเวทีพร้อมกีตาร์ เขาร้องเพลงใหม่ที่แต่งให้เอกนรีชื่อ “รักเธอแบบลำซิ่ง” และคุกเข่าขอเธอแต่งงานต่อหน้าแฟนๆ นับหมื่น เอกนรีน้ำตาไหล พยักหน้ารับคำด้วยรอยยิ้ม ปู่ดุ่ยประกาศแต่งตั้งเดชชนะเป็นผู้จัดการวงคนใหม่ และทุกคนในวงรวมตัวร้องเพลง “ลำซิ่งรักเธอ” ปิดท้ายด้วยความสุขที่อบอวล

โอป้าลำซิ่ง ไม่ใช่แค่ละครลูกทุ่ง แต่เป็นเรื่องราวของการก้าวข้ามอดีต ยอมรับความเปลี่ยนแปลง และรักที่แท้จริงที่เกิดจากความวุ่นวาย ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร

เนื้อเรื่องสดใหม่และครบรส

โอป้าลำซิ่ง เล่าเรื่องราวของ เดชชนะ (โหน ธนากร) นักร้องป๊อปที่ต้องกลับบ้านเกิดเพื่อฟื้นฟูวงหมอลำคูนแคนที่กำลังล้มละลาย เขาได้พบกับ เอกนรี (เกรซ พัชร์สิตา) สาวครีเอทีฟจอมโก๊ะจากเมืองกรุงที่มาพร้อมไอเดียแหวกแนว ทั้งคู่ต้องเผชิญดราม่าครอบครัว คู่แข่ง และความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวท่ามกลางความวุ่นวายของการทำคลิปไวรัลและคอนเสิร์ตลูกทุ่ง

ละครนำวัฒนธรรมหมอลำมาผสานกับโลกโซเชียลมีเดีย เช่น การไลฟ์สตรีมมิงและทำชาเลนจ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้รู้สึกทันสมัยและเข้าถึงคนรุ่นใหม่ โหนและเกรซถ่ายทอดความสัมพันธ์จากคู่กัดสู่คู่รักได้อย่างเป็นธรรมชาติ มุกตลกจากการปะทะคารมและโมเมนต์หวานๆ ในช่วงท้ายทำเอาฟินจิกหมอน

การแสดงเคมีดี นักร้องเด่น

โหน-ธนากร รับบทเดชชนะได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความกวนประสาทในฐานะหนุ่มป๊อปและความอบอุ่นเมื่อต้องเป็นผู้นำวงหมอลำ ฉากร้องเพลงของเขาทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเป็นนักร้องจริงๆ

เกรซ-พัชร์สิตา ขโมยซีนด้วยความโก๊ะกังที่ดูเป็นธรรมชาติ การเต้นลำซิ่งผิดจังหวะในตอนแรกและการพัฒนาตัวละครให้ฉลาดขึ้นในตอนหลังทำให้เอกนรีเป็นตัวละครที่น่าจดจำ

หญิง ธิติกานต์ ในบทเอื้อยฟ้าทั้งร้องเพลงและแสดงได้ทรงพลัง สมฉายา “นางฟ้าหมอลำ” แต่บทของเธอในฐานะตัวร้ายช่วงกลางเรื่องอาจทำให้แฟนๆ รู้สึกขัดใจเล็กน้อย

บุญส่ง นาคภู่ ในบทปู่ดุ่ยคือหัวใจของเรื่อง การแสดงที่อบอุ่นและมุกตลกสไตล์อีสานทำให้ทุกฉากของเขาน่าประทับใจ

คะแนน 8.5/10 (แนะนำให้ดูสำหรับแฟนละครลูกทุ่งและคนที่อยากได้รสชาติใหม่ๆ จากการผสมผสานวัฒนธรรมเก่ากับใหม่)

โอป้าลำซิ่ง เป็นละครที่ครบรสทั้งฮา ซึ้ง และแซ่บตามสไตล์ช่อง 7HD เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบละครที่ผสมวัฒนธรรมไทยกับความทันสมัย ถึงแม้จะมีจุดที่ดราม่ายืดเยื้อไปบ้าง แต่เคมีของคู่พระนาง เพลงประกอบที่ติดหู และมุกตลกสไตล์อีสานทำให้ละครเรื่องนี้เป็นที่พูดถึงในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะคลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” ที่แฟนๆ นำไปเต้นตามใน TikTok

ตั้งแต่ฉากแรกที่ เดชชนะ (โหน ธนากร) ปรากฏตัวในฐานะนักร้องป๊อปสุดเท่บนเวทีกรุงเทพฯ แล้วต้องกลับไปบ้านหนองคูนเพื่อช่วยวงหมอลำคูนแคน รู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปในโลกที่ผสมผสานความเก่ากับใหม่ได้อย่างลงตัว การได้เห็นเวทีหมอลำเก่าๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายอีสาน ทำให้นึกถึงงานวัดสมัยเด็กๆ ที่เคยไปดูการแสดงหมอลำกับครอบครัว ความรู้สึกอบอุ่นและคิดถึงบ้านเกิดโถมเข้ามาทันที

เมื่อ เอกนรี (เกรซ พัชร์สิตา) สาวเมืองกรุงจอมโก๊ะก้าวลงจากรถด้วยส้นสูงแล้วล้มหน้าทิ่มเพราะโคลน อดขำไม่ได้ ความเปิ่นของเธอในฉากเต้นลำซิ่งผิดจังหวะคือจุดเริ่มต้นของความสนุกที่ทำให้อยากดูต่อทุกตอน การปะทะคารมระหว่างเธอกับเดชชนะเหมือนได้ดูเพื่อนคู่กัดที่แอบน่ารัก มันทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเชียร์ให้ทั้งคู่ค่อยๆ เปิดใจให้กัน

สิ่งที่ทำให้ “โอป้าลำซิ่ง” ไม่เหมือนละครลูกทุ่งทั่วไปคือการผสมผสานดราม่าครอบครัวและความรักที่ลึกซึ้ง ฉากที่เดชชนะต้องเผชิญหน้ากับ แม่ของเขา (อ้อม-อังคณา) และความลับเกี่ยวกับแฟนเก่าที่เสียชีวิต ทำให้น้ำตาคลอโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกเจ็บปวดจากการสูญเสียและความกลัวที่จะรักครั้งใหม่ของเดชชนะถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะในตอนที่ 8 เมื่อเอกนรีสารภาพรักกลางเวทีหมอลำ แต่ถูกปฏิเสธ รู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบแน่นตามตัวละคร

แต่ละครไม่ได้ทิ้งให้จมดราม่านานเกินไป ฉากที่ ปู่ดุ่ย (บุญส่ง นาคภู่) โผล่มาแทรกมุกตลกสไตล์อีสาน หรือการแสดงของ เอื้อยฟ้า (หญิง ธิติกานต์) ที่ทั้งร้องเพลงและเล่นร้ายได้สะใจ ช่วยดึงอารมณ์ให้กลับมาสนุกสนาน รู้สึกทั้งร้องไห้และหัวเราะในเวลาเดียวกัน

ละคร โอป้าลำซิ่ง เหมือนได้ไปงานวัดที่มีทั้งเสียงเพลง ดราม่า และความรักที่ครบรส มันทำให้หัวเราะจนท้องแข็ง ร้องไห้จนตาแดง และอยากลุกขึ้นเต้นไปพร้อมกับตัวละคร ถ้าถามว่าควรดูหรือไม่ ขอตอบเลยว่า “ต้องดู” โดยเฉพาะถ้าคุณรักวัฒนธรรมลูกทุ่งและอยากเห็นความรักที่เติบโตท่ามกลางความวุ่นวาย สามารถย้อนดูได้ทาง TrueVisions NOW หรือช่อง 7HD ออนไลน์


ละคร โอป้าลำซิ่ง 2568

ละคร โอป้าลำซิ่ง 2568

ละคร โอป้าลำซิ่ง 2568 EP.1-30 ตอนจบCH7+​​​​​​

ซีน ละคร โอป้าลำซิ่ง 2568

รู้ตัวเมื่อสาย อ้ายมันปึก Ost.โอป้าลำซิ่ง | โหน ธนากร [Official MV]

ละคร โอป้าลำซิ่ง 2568

เปิดตัววงคูนแคนและดราม่าอดีต🎵

เรื่องราวเริ่มที่ วงคูนแคน วงหมอลำสุดปังแห่งอำเภอบ้านหนองคูน ยโสธร ที่เคยดังระเบิดสมัยก่อน เพราะมี ปู่ดุ่ย (บุญส่ง นาคภู่) เจ้าของวงสุดเก๋า และ เอื้อยฟ้า ซูยองฮวา (หญิง ธิติกานต์) นางฟ้าหมอลำที่ร้องเพลง “กราบอกซ้าย อ้ายที่ฮัก” จนคนทั้งหมู่บ้านโยกตาม เพลงนี้แต่งโดย ดำรง (รุ่ง สุริยา) ลูกชายของปู่ดุ่ย ซึ่งเป็นทั้งนักแต่งเพลงและคนรักของเอื้อยฟ้า ดราม่ามาแล้ว เพราะทั้งคู่แอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งจนเอื้อยฟ้าตั้งท้อง

แต่ เอื้อยฟ้าไม่ใช่ตัวเอกแบบหวาน ๆ นะ เธอทะเยอทะยานสุด ๆ หลังคลอดลูกชาย เธอขโมยเนื้อเพลง “กราบอกซ้าย อ้ายที่ฮัก” แล้วหนีไปกรุงเทพฯ กับ วินัย (ณัฐนันท์ คุณวัฒน์) ผู้จัดการวงที่แอบมีอะไรด้วยกัน 😱 ทิ้งลูกชายไว้ที่วงคูนแคน โดยมี อัจฉรา (นฤมล พงษ์สุภาพ) นักร้องมือรองของวงที่เพิ่งคลอดลูกชายของตัวเอง รับเด็กน้อยคนนั้นมาเลี้ยงดูราวกับเป็นลูกแท้ ๆ ของเธอ ใจดีสุด ๆ ไปเลย

25 ปีต่อมา: เดชชนะ vs เอกนรี คู่กัดแห่งยุค 💥

ตัดภาพมาปี 2568 วงคูนแคนที่เคยดังตอนนี้ร่อแร่สุด ๆ ปู่ดุ่ยยังพยายามประคองวงไว้ มี เดชชนะ (โหน ธนากร) และ ต้าร์ (อัครวัฒน์ จุมพลวิวัฒน์) สองหนุ่มที่เติบโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง เดชชนะเป็นลูกของอัจฉรา ส่วนต้าร์เป็นเด็กขี้โรคที่ปู่ดุ่ยเก็บมาเลี้ยง (แต่จริง ๆ คือลูกของเอื้อยฟ้ากับดำรง) ตอนนี้วงมีนักดนตรีรุ่นเก๋าอย่าง ตาแอ๊ด (วีระชัย หัตถโกวิท) และ อ๊อด (ฐิติพล สวัสดิ์ศรี) คอยช่วย ส่วน มยุรี (อังคณา วรรัตนาชัย) เพื่อนบ้านสุดซี้ เป็นผู้จัดการวงที่พยายามกู้สถานการณ์

แต่รายได้วงมันน้อยนิด เดชชนะเลยต้องเปิดร้านกาแฟชื่อ มาแลร์นา เพื่อหาเงินประทังชีวิต แม้ว่ามยุรีจะชวนให้มาเป็นนักร้องของวง แต่เดชชนะปฏิเสธ เพราะเขาอยากหนีชีวิตหมอลำไปใช้ชีวิตแบบคนเมือง ขณะเดียวกันที่กรุงเทพฯ เอกนรี (เกรซ พัชร์สิตา) หลานสาวของวินัย ทำงานเป็น Personal Stylist ให้เซเลบดัง ๆ เธอเติบโตมาแบบรู้สึกไม่ได้รับความรักจากเอื้อยฟ้าและวินัยที่เลี้ยงเธอแบบขอไปที

ชีวิตของเอกนรีเหมือนจะปัง แต่ดันพัง เพราะ อาทร (ภัทรบุตร เขียนนุกูล) แฟนหนุ่มของเธอ คบซ้อนกับ ดาหวัน (พลอยวรินทร์ แสนไชย) สาวที่เดชชนะแอบชอบ เอกนรีโกรธจัด ถ่ายคลิปแฉลงโซเชียล แต่ดาหวันเล่นบทเหยื่อจนกระแสตีกลับ เอกนรีเลยงานพัง ความรักพัง ต้องหนีหัวใจไปพักที่บ้านหนองคูนตามคำชวนของมยุรี เพื่อนซี้สมัยมหาลัย

ความวุ่นวายที่บ้านหนองคูน 😂

เมื่อเอกนรีมาถึงวงคูนแคน เธอเจอ เดชชนะ ที่ไม่ต้อนรับเธอเลย เพราะเขาคิดว่าเอกนรีคือตัวร้ายที่แฉดาหวัน แต่พอทั้งคู่ได้คุยกันก็เริ่มเข้าใจกัน เอกนรีอาสาช่วยปรับลุคให้วงคูนแคน โดยเฉพาะ ต้าร์ ที่ไปมีเรื่องกับคนใหญ่คนโตจนวงไม่มีงาน เอกนรีใช้สกิลสไตลิสต์ ปรับลุคให้เดชชนะและร้านกาแฟมาแลร์นาขายดีจนมีเงินใช้หนี้ 💸 ต้าร์เห็นแล้วตาสว่าง จากที่ไม่เชื่อก็ยอมให้เอกนรีปรับลุคให้เป็น “โอป้าลำซิ่ง” และทำคลิป PR จนดังเปรี้ยงในโซเชียล

แต่ เอื้อยฟ้า ที่ตอนนี้เป็นเจ้าของค่ายเพลงในกรุงเทพฯ เห็นคลิปของต้าร์แล้วคิดว่านี่คือลูกชายของเธอ เธอเลยส่ง แพมมี่ (รัญดภา มันตะลัมพะ) พริตตี้สาวจอมแอ๊บ มาดึงตัวต้าร์ออกจากวงคูนแคนเพื่อไปเป็นนักร้องในค่ายของเธอ งานนี้ดราม่ามาเต็ม เพราะเมื่อเอื้อยฟ้ามาเห็นเดชชนะและต้าร์ร้องเพลงด้วยกัน เธอสับสนว่าใครคือลูกชายตัวจริง แต่สุดท้ายยืนยันว่าต้าร์คือลูกของเธอ

ดราม่าที่ยังไม่จบ และการต่อสู้เพื่อวงคูนแคน 🔥

จากจุดนี้ เรื่องราวเข้มข้นขึ้น เอกนรีช่วยให้วงคูนแคนกลับมาฮอตด้วยไอเดียสมัยใหม่ เช่น ไลฟ์สตรีมมิงการแสดงและทำชาเลนจ์ “โอป้าลำซิ่ง” ที่ไวรัลทั่วโซเชียล แต่เอื้อยฟ้าพยายามทำลายวงด้วยการแฮ็กเพจและปล่อยข่าวลือว่าเดชชนะติดยา 😡 ขณะเดียวกัน เดชชนะเริ่มเปิดใจให้เอกนรี หลังจากที่เขาเกือบสูญเสียเธอจากอุบัติเหตุที่เหมือนชะตากรรมของแฟนเก่า นรี ที่เสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน

ความลับของเอื้อยฟ้าถูกเปิดโปงโดย รุ่งสุริยา ที่แฝงตัวมาเป็นสายให้เอกนรี เอื้อยฟ้ายอมรับว่าเธอทำทุกอย่างเพราะอยากได้การยอมรับจากปู่ดุ่ย สุดท้าย ปู่ดุ่ยให้อภัยและโอบกอดเธอ ทำให้เอื้อยฟ้ากลับใจมาช่วยวง ด้านเดชชนะและเอกนรีนำทีมวงคูนแคน รวมถึง ตาแอ๊ด, อ๊อด, และ มยุรี สร้างปรากฏการณ์ด้วยการรีเมคเพลง “กราบอกซ้าย อ้ายที่ฮัก” เป็นเวอร์ชัน EDM ลูกทุ่งที่ดังเปรี้ยง! แม้แต่ อัจฉรา ที่เคยต่อต้านเอกนรีก็ยอมรับในความสามารถของเธอ

เบื้องหลังละคร โอป้าลำซิ่ง ละครลูกทุ่งที่ผสมความแซ่บ ดราม่า และมุกฮาอีสานจนกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ถ้าพร้อมแล้ว คว้าไมค์ ใส่หมวกฟาง แล้วไปดูกันว่าใครอยู่เบื้องหลังความปังนี้

เริ่มที่คนเขียนเรื่อง ✍️ บทประพันธ์โดย อาริตา

Aritaa6 05 60
อาริตา นักเขียน

คนที่เนรมิตเรื่องราวสุดว้าวของวงคูนแคนคือ อาริตา นักเขียนตัวแม่ที่หยิบกลิ่นอายหมอลำอีสานมาผสมกับดราม่าครอบครัวและความรักแบบทันสมัย เธอคือคนที่ทำให้เราต้องลุ้นว่า เดชชนะ กับ เอกนรี จะรักกันตอนไหน และทำไม เอื้อยฟ้า ต้องแซ่บขนาดนี้! อาริตาคิดพล็อตที่ทั้งสนุกและมีชั้นเชิง ใส่ความเป็นอีสานแท้ ๆ ลงไปจนเรารู้สึกเหมือนไปนั่งดูหมอลำที่บ้านหนองคูนจริง ๆ! ปรบมือให้เลย 👏

คนแปลงเรื่องเป็นละคร 📝 บทโทรทัศน์โดย คนรักแมว
ชื่อนี้ไม่ใช่เล่น ๆ นะ คนรักแมว คือคนที่เอาเรื่องราวของอาริตามาแปลงเป็นบทละครที่เราดูแล้วต้องร้องว้าว เขาใส่มุกตลกสไตล์อีสานเข้าไป เช่น ฉากที่เอกนรีล้มโคลน หรือตอนที่ปู่ดุ่ยแซวเดชชนะจนเราขำกลิ้ง 😹 แถมยังเขียนบทให้มีทั้งดราม่าจี๊ดใจและโมเมนต์หวาน ๆ เช่น ฉากสารภาพรักกลางเวทีลำซิ่ง บอกเลยว่าคนรักแมวทำให้บทมันเป๊ะ ทั้งฮา ทั้งซึ้ง ครบรสสุด ๆ

ผู้กำกับที่ทำให้ทุกฉากปัง 🎥 กำกับการแสดงโดย วศินี คุณะนิติสาร

jvylz 5c
วศินี คุณะนิติสาร

ถ้าไม่มี วศินี คุณะนิติสาร ละครเรื่องนี้จะไม่ลงตัวขนาดนี้แน่นอน เธอคือผู้กำกับที่เนรมิตฉากหมอลำให้ดูสมจริงสุด ๆ ตั้งแต่เวทีไม้เก่า ๆ ที่บ้านหนองคูน ไปจนถึงคอนเสิร์ตใหญ่ตอนจบที่ดูยิ่งใหญ่เหมือนไปดูของจริง วศินีเก่งมากในการดึงเคมีของ โหน ธนากร และ เกรซ พัชร์สิตา ออกมาให้ฟินจิกหมอน และยังใส่ใจรายละเอียด เช่น การถ่ายฉากไลฟ์สตรีมมิงที่เหมือนเรากำลังดู TikTok จริง ๆ สุดยอดไปเลย 🌟

ค่ายที่ทำให้เกิดความปัง 🏢 ผลิตโดย บริษัท เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
ปิดท้ายด้วยทีมใหญ่ เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ค่ายที่อยู่เบื้องหลังละครสุดฮิตมากมาย พวกเขาคือคนที่ทุ่มงบให้ “โอป้าลำซิ่ง” ออกมาอลังการ ตั้งแต่การออกแบบฉากหมู่บ้านอีสานที่สมจริง ไปจนถึงการจ้างนักร้องดังอย่าง หญิง ธิติกานต์ และ รุ่งสุริยา มาร้องเพลงประกอบอย่าง “ลำซิ่งรักเธอ” ที่ติดหูสุด ๆ เทโรทำให้ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ละคร แต่เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้คนทั้งประเทศอยากลุกมาเต้นชาเลนจ์ “โอป้าลำซิ่ง” 💃

เพื่อน ๆ เบื้องหลัง “โอป้าลำซิ่ง” คือการรวมพลังของทีมงานสุดเจ๋งที่ทำให้ละครเรื่องนี้ครบรสทั้งฮา ซึ้ง และแซ่บ ตั้งแต่อาริตาที่คิดเรื่องราว คนรักแมวที่เขียนบท วศินีที่กำกับให้ปัง และเทโรที่เนรมิตให้ออกมาสมบูรณ์ ถ้าชอบละครเรื่องนี้ อย่าลืมไปดูย้อนหลัง

นักแสดง

→ ธนากร ศรีบรรจง รับบท เดชชนะ

hq720
ธนากร ศรีบรรจง

หนุ่มป๊อปหัวใจลูกทุ่ง
เดชชนะคือหนุ่มหล่อวัย 28 ปี ที่เริ่มเรื่องด้วยการเป็นนักร้องป๊อปสุดคูลในกรุงเทพฯ แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อต้องกลับไปบ้านหนองคูนเพื่อช่วยวงหมอลำคูนแคนของ ปู่ดุ่ย ที่กำลังจะเจ๊ง เขาเป็นคนกวนๆ ปากร้ายนิดๆ แต่จริงๆ แล้วใจดีและรักครอบครัวสุดๆ ตอนแรกเดชชนะไม่อยากยุ่งกับวงหมอลำ เพราะอยากมีชีวิตแบบคนเมือง เปิดร้านกาแฟ มาแลร์นา หาเงินเลี้ยงตัวเอง แต่เมื่อเจอ เอกนรี สาวเมืองกรุงจอมโก๊ะ เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป จากคู่กัดกลายเป็นคู่จิ้นที่เคมีลงตัวสุดๆ

เดชชนะมีด้านที่เจ็บปวดจากอดีต เพราะเคยสูญเสียแฟนเก่าชื่อ นรี จากอุบัติเหตุ ทำให้เขาไม่กล้าเปิดใจรักใครใหม่ๆ แต่พอได้ร่วมงานกับเอกนรีและทีมวงคูนแคน เขาก็ค่อยๆ ก้าวข้ามบาดแผลในใจ กลายเป็นผู้นำที่พาวงกลับมาดังด้วยการผสมผสานลูกทุ่งกับความทันสมัย เช่น การร้องเพลง รักเธอแบบลำซิ่ง และทำคลิปไวรัล ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความเท่ ความดื้อ และความอบอุ่นที่ทำให้เราตกหลุมรัก

ฉายา โอป้าลูกทุ่ง
ทำไมถึงเรียกแบบนี้ เพราะเดชชนะคือหนุ่มป๊อปที่กลายมาเป็นสตาร์หมอลำสุดเท่ ผสมความทันสมัยเข้ากับจิตวิญญาณอีสานได้ลงตัวเป๊ะ

ข้อคิด การก้าวข้ามอดีตคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
เดชชนะสอนเราว่าถึงจะมีบาดแผลในใจ แต่ถ้าเราเปิดใจและกล้าลองสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือความฝัน เราจะพบโอกาสที่ทำให้ชีวิตปังยิ่งขึ้น

→ พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์ รับบท เอกนรี

พัชร์สิตา อธิอนันตศักดิ์

สาวเมืองกรุงจอมโก๊ะที่ใจแกร่ง
เอกนรีคือสาวสวยวัย 25 ปี Personal Stylist ที่ทำงานกับเซเลบดังๆ ในกรุงเทพฯ เธอเติบโตมาแบบรู้สึกขาดความรักจาก เอื้อยฟ้า และ วินัย ที่เลี้ยงดูเธอแบบขอไปที ชีวิตของเธอเหมือนจะปัง แต่ดันพังเมื่อ อาทร แฟนหนุ่ม คบซ้อนกับ ดาหวัน เธอเลยถ่ายคลิปแฉลงโซเชียล แต่กลายเป็นโดนตีกลับจนงานและหัวใจพังยับ เอกนรีเลยหนีไปพักใจที่บ้านหนองคูนตามคำชวนของ มยุรี เพื่อนซี้

เมื่อมาถึงวงคูนแคน เอกนรีเจอ เดชชนะ ที่ไม่ต้อนรับเธอ เพราะเข้าใจผิดว่าเธอคือตัวร้ายในดราม่ากับดาหวัน แต่ด้วยความโก๊ะและความสามารถของเธอ เอกนรีเปลี่ยนจากสาวเมืองที่เต้นลำซิ่งผิดจังหวะ กลายเป็นคนที่ช่วยวงคูนแคนให้กลับมาปัง ด้วยไอเดียทันสมัย เช่น ทำคลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” และปรับลุคให้ ต้าร์ กับเดชชนะจนดังเปรี้ยง เธอคือคนที่ไม่ยอมแพ้ แม้จะเจออุปสรรคหนักแค่ไหน ทั้งจากดราม่าครอบครัวของเดชชนะ หรือการถูก เอื้อยฟ้า กลั่นแกล้ง เอกนรีก็สู้ด้วยรอยยิ้มและความฉลาด กลายเป็นสาวที่ขโมยใจเดชชนะและคนดูไปเลย

ฉายา สาวเมืองลำซิ่ง
เอกนรีเริ่มจากสาวกรุงที่ไม่รู้จักหมอลำ แต่สุดท้ายกลายเป็นตัวแม่ที่ทำให้วงคูนแคนปังด้วยไอเดียสมัยใหม่ ผสมความเป็นอีสานได้ลงตัวสุดๆ

ข้อคิด ความล้มเหลวคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
เอกนรีสอนเราว่าไม่ว่าเราจะล้มหนักแค่ไหน ถ้ายังมีใจสู้และกล้าลองใหม่ เราจะหาทางพลิกชีวิตให้ปังได้เสมอ

→ อัครวัฒน์ จุมพลวิวัฒน์ รับบท ต้าร์

5f3fa3674c2436.88575532
อัครวัฒน์ จุมพลวิวัฒน์

หนุ่มขี้โรคผู้ฝันใหญ่
ต้าร์คือหนุ่มน้อยวัย 25 ปีที่เติบโตมาในวงหมอลำคูนแคนของ ปู่ดุ่ย เขาคือลูกชายของ เอื้อยฟ้า และ ดำรง แต่ถูกทิ้งตั้งแต่แรกเกิดให้อัจฉราเลี้ยงดูเหมือนพี่น้องกับ เดชชนะ ต้าร์เป็นคนขี้โรคตั้งแต่เด็ก ร่างกายไม่แข็งแรง แต่ใจใหญ่สุดๆ ฝันอยากเป็นนักร้องดังของวงคูนแคนเพื่อพาวงให้กลับมาปังอีกครั้ง เขามีความมุ่งมั่นแต่ก็ขาดความมั่นใจในตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับปัญหาที่วงไม่มีงานเพราะเขาไปมีเรื่องกับคนใหญ่คนโต

เมื่อ เอกนรี เข้ามาช่วยวง ต้าร์เริ่มจากไม่ไว้ใจ แต่เมื่อเห็นเธอปรับลุคให้เดชชนะและร้านกาแฟมาแลร์นาดังได้ เขาก็ยอมให้ปรับลุคเป็น “โอป้าลำซิ่ง” จนกลายเป็นหนุ่มหล่อที่คลิป PR ไวรัลทั่วโซเชียล ต้าร์แอบชอบ เมญ่า สาวไฮโซเจ้าของสวนอาหาร และหวังว่าการดังจะทำให้เธอหันมาสนใจ แต่ดราม่ามาเต็มเมื่อ เอื้อยฟ้า คิดว่าเขาเป็นลูกชายและส่ง แพมมี่ มาดึงตัวไปค่ายเพลงในกรุงเทพฯ ต้าร์ต้องเผชิญหน้ากับความจริงเรื่องชาติกำเนิดและเลือกว่าจะอยู่กับครอบครัววงคูนแคนหรือตามความฝันในเมืองใหญ่ ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความน่ารัก ความทะเยอทะยาน และความจงรักภักดีที่ทำให้เราอยากเอาใจช่วย

ฉายา โอป้าใจสู้
ต้าร์คือหนุ่มน้อยที่แม้ร่างกายจะอ่อนแอ แต่ใจแกร่งเกินร้อย กลายเป็นโอป้าลำซิ่งที่พร้อมสู้เพื่อฝันและครอบครัว

ข้อคิด ความฝันไม่เคยเล็กถ้าใจใหญ่
ต้าร์สอนเราว่าไม่ว่าเราจะมีข้อจำกัดอะไร ถ้ามีความมุ่งมั่นและครอบครัวที่คอยสนับสนุน ความฝันที่ดูไกลก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม

→ อังคณา วรรัตนาชัย รับบท มยุรี

60f4fa3365a9f8.81910348
อังคณา วรรัตนาชัย

เพื่อนซี้ใจแกร่งของวงคูนแคน
มยุรีคือสาวบ้านหนองคูนวัย 27 ปี เพื่อนข้างบ้านของ เดชชนะ และ ต้าร์ ที่เติบโตมาด้วยกันเหมือนพี่น้อง เธอรับบทเป็นผู้จัดการวงหมอลำคูนแคน ที่พยายามประคองวงให้รอดพ้นจากวิกฤตการเงิน แม้วงจะร่อแร่จนแทบไม่มีงานแสดง มยุรีเป็นคนเข้มแข็ง ฉลาด และพร้อมลุยทุกสถานการณ์ เธอคือคนที่ชวน เอกนรี เพื่อนสนิทสมัยมหาลัยให้มาพักใจที่บ้านหนองคูนหลังจากชีวิตของเอกนรีพังเพราะดราม่าความรัก

มยุรีไม่ใช่แค่ผู้จัดการวง แต่ยังเป็นคนผลักดันให้เดชชนะและต้าร์ก้าวต่อไป เธอพยายามโน้มน้าวให้เดชชนะมาเป็นนักร้องของวง แม้จะถูกปฏิเสธในตอนแรก และยังสนับสนุนไอเดียสมัยใหม่ของเอกนรี เช่น การทำคลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” ที่ช่วยให้วงกลับมาดัง เธอคือตัวละครที่คอยเชื่อมทุกคนในเรื่อง มีความเป็นผู้นำแต่ก็อบอุ่นเหมือนพี่สาวที่แสนดี มยุรีทำให้เราเห็นว่าเพื่อนแท้คือคนที่อยู่ข้างๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ฉายา ผู้จัดการใจสปอร์ต
มยุรีคือสาวแกร่งที่จัดการทุกอย่างในวงคูนแคนด้วยใจที่เปิดกว้าง พร้อมรับทุกความท้าทายแบบสปอร์ตสุดๆ

ข้อคิด เพื่อนแท้คือพลังที่ทำให้เราก้าวต่อ
มยุรีสอนเราว่าการมีเพื่อนที่คอยสนับสนุนและเชื่อในตัวเราเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราผ่านทุกปัญหาได้ ไม่ว่าจะยากแค่ไหน

→ รัญดภา มันตะลัมพะ รับบท แพมมี่

รัญดภา มันตะลัมพะ

พริตตี้จอมแอ๊บผู้ทะเยอทะยาน
แพมมี่คือสาวพริตตี้สวยหวานวัย 24 ปีที่เคยมาสมัครเป็นศิลปินในค่ายเพลงของ เอื้อยฟ้า ในกรุงเทพฯ เธอเป็นคนแอ๊บเก่ง ชอบทำตัวน่ารักเกินจริงเพื่อดึงดูดความสนใจ แต่จริงๆ แล้วทะเยอทะยานและยอมทำทุกอย่างเพื่อก้าวหน้าในวงการ เอื้อยฟ้าส่งเธอไปดึงตัว ต้าร์ หนุ่มโอป้าลำซิ่งที่กำลังดังจากคลิปไวรัลของวงคูนแคน เพื่อมาเป็นนักร้องใหม่ในค่าย

แพมมี่ใช้เสน่ห์และเล่ห์เหลี่ยมเข้าหาต้าร์ เช่น ทำตัวเป็นแฟนคลับตัวยงและชวนไปเดทในเมืองใหญ่ แต่แผนของเธอเริ่มสะดุดเมื่อเจอความจงรักภักดีของต้าร์ต่อครอบครัววงคูนแคน และการแทรกแซงจาก เดชชนะ กับ เอกนรี ที่ปกป้องน้องชาย แพมมี่กลายเป็นตัวร้ายสมทบที่สร้างความวุ่นวาย แต่ในท้ายเรื่อง เธอเริ่มเห็นคุณค่าของความจริงใจและการต่อสู้ด้วยตัวเอง แทนการพึ่งพาเล่ห์เหลี่ยม ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความน่ารักปลอมๆ และการเติบโตที่ทำให้เราทั้งเกลียดทั้งรัก

ฉายา พริตตี้แอ๊บแสบ
แพมมี่คือสาวที่ใช้ความแอ๊บเพื่อสร้างภาพลักษณ์ แต่แสบพอที่จะทำให้ทุกคนในวงคูนแคนต้องระวังตัว

ข้อคิด ความจริงใจชนะเล่ห์เหลี่ยมเสมอ
แพมมี่สอนเราว่าไม่ว่าคุณจะเก่งเรื่องสร้างภาพแค่ไหน แต่ถ้าขาดความจริงใจ สุดท้ายคุณจะพบว่าความสำเร็จที่แท้จริงมาจากการเป็นตัวของตัวเอง

→ โชตินภา แก้วจรูญ รับบท เมญ่า

hq720
โชตินภา แก้วจรูญ

สาวไฮโซที่มากกว่าความสวย
เมญ่าคือสาวสวยวัย 26 ปี เจ้าของสวนอาหารสุดชิคในยโสธร เธอเป็นสาวไฮโซที่มีสไตล์ ดูแพง และใช้ชีวิตแบบคนเมือง แต่ก็มีรากเหง้ามาจากบ้านหนองคูน ทำให้รู้จักวงหมอลำคูนแคนเป็นอย่างดี เมญ่าเป็นที่หมายปองของ ต้าร์ หนุ่มขี้โรคที่แอบรักเธอหัวปักหัวปำ และหวังว่าการเป็นนักร้องดังจะทำให้เธอหันมาสนใจ

ในเรื่อง เมญ่าดูเหมือนจะเย็นชาและไม่สนใจต้าร์ในตอนแรก เพราะมองว่าเขาเป็นแค่เด็กบ้านนอกที่สุขภาพไม่ดี แต่เมื่อเห็นความพยายามของต้าร์ที่ได้รับการปรับลุคเป็น “โอป้าลำซิ่ง” จาก เอกนรี และความทุ่มเทเพื่อวงคูนแคน เธอก็เริ่มมองเขาด้วยสายตาใหม่ เมญ่าไม่ใช่แค่สาวสวยที่เป็นรางวัลของพระเอก แต่เธอมีมิติ เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความจริงใจและความมุ่งมั่น ทำให้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ต้าร์พัฒนาตัวเอง ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความสง่างาม ความเย่อหยิ่งนิดๆ และหัวใจที่อบอุ่นเมื่อได้รู้จักจริงๆ

ฉายา ไฮโซลำซิ่ง
เมญ่าคือสาวไฮโซที่ดูเหมือนจะอยู่คนละโลกกับวงหมอลำ แต่สุดท้ายก็เข้ากับจังหวะลำซิ่งได้อย่างลงตัว

ข้อคิด ความจริงใจชนะใจคนได้มากกว่าหน้าตา
เมญ่าสอนเราว่าความสวยหรือฐานะอาจดึงดูดสายตา แต่ความมุ่งมั่นและความจริงใจของคนที่รักเราจริงๆ คือสิ่งที่ทำให้ใจสั่นได้

→ หญิง ธิติกานต์ รับบท เอื้อยฟ้า

hq720
หญิง ธิติกานต์

นางฟ้าหมอลำผู้ซ่อนความลับ
เอื้อยฟ้าคือสาวสวยวัย 40 ต้นๆ ที่เคยเป็นนักร้องนำของวงคูนแคนในอดีต ด้วยฉายา นางฟ้าหมอลำ เธอทำให้ทุกเวทีลุกเป็นไฟด้วยเพลง กราบอกซ้าย อ้ายที่ฮัก ที่แต่งโดย ดำรง คนรักของเธอ แต่ความทะเยอทะยานทำให้เธอเลือกทิ้งทุกอย่าง หลังคลอดลูกชาย (ต้าร์) เธอขโมยเนื้อเพลงและหนีไปกรุงเทพฯ กับ วินัย ผู้จัดการวงที่แอบมีสัมพันธ์กัน ทิ้งลูกไว้ให้ อัจฉรา เลี้ยง

25 ปีต่อมา เอื้อยฟ้ากลายเป็นเจ้าของค่ายเพลงในเมืองกรุง แต่ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความขมขื่นและความรู้สึกผิดที่ไม่เคยยอมรับลูกชาย เมื่อเห็นคลิปไวรัลของต้าร์ เธอคิดว่าเขาคือลูกของตัวเองและพยายามดึงตัวจากวงคูนแคน ด้วยเล่ห์เหลี่ยม เช่น ส่ง แพมมี่ ไปเกลี้ยกล่อม และแฮ็กเพจวงเพื่อทำลายชื่อเสียง เอื้อยฟ้าดูเหมือนตัวร้าย แต่ลึกๆ แล้วเธอแค่ต้องการการยอมรับจาก ปู่ดุ่ย และอยากชดเชยสิ่งที่เสียไป ในตอนท้าย เธอกลับใจ กลับมาช่วยวงคูนแคน และได้โอบกอดจากปู่ดุ่ย ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความแซ่บ ความเจ็บปวด และการไถ่บาปที่ทำให้เราทั้งหมั่นไส้และสงสาร

ฉายา นางฟ้าตกสวรรค์
เอื้อยฟ้าเคยเป็นนางฟ้าหมอลำที่ทุกคนรัก แต่การตัดสินใจในอดีตทำให้เธอตกจากจุดสูงสุด ก่อนจะหาทางกลับมาสู่แสงสว่าง

ข้อคิด การให้อภัยตัวเองคือจุดเริ่มต้นของการเริ่มใหม่
เอื้อยฟ้าสอนเราว่าความผิดพลาดในอดีตอาจทำร้ายเรา แต่ถ้าเรากล้ายอมรับและขอโทษ การให้อภัยตัวเองจะนำไปสู่การเติบโต

→ รุ่ง สุริยา รับบท ดำรง

hq720
รุ่ง สุริยา

นักแต่งเพลงผู้แบกความเสียใจ
ดำรงคือชายวัยกลางคนที่ในอดีตเป็นนักแต่งเพลงและลูกชายของ ปู่ดุ่ย เจ้าของวงหมอลำคูนแคน เขาคือคนที่แต่งเพลงฮิต กราบอกซ้าย อ้ายที่ฮัก ให้ เอื้อยฟ้า นักร้องนำที่เขารักสุดหัวใจ ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนเอื้อยฟ้าตั้งท้องลูกชาย (ต้าร์) แต่ความฝันพังทลายเมื่อเอื้อยฟ้าขโมยเนื้อเพลงและหนีไปกับ วินัย ผู้จัดการวง ทิ้งลูกไว้ให้ อัจฉรา เลี้ยง ดำรงเสียใจหนักจนถอนตัวจากวงคูนแคนและหายไปจากบ้านหนองคูน

ในช่วงเวลา 25 ปีต่อมา ดำรงกลับมาปรากฏตัวในฐานะนักร้องรับเชิญที่แฝงตัวเป็นสายให้ เอกนรี เพื่อช่วยเปิดโปงแผนร้ายของเอื้อยฟ้าที่พยายามแย่งตัวต้าร์ เขาคือคนที่รู้ความลับของครอบครัวและพยายามปกป้องวงคูนแคนจากเงื้อมมือของอดีตคนรัก ดำรงเป็นตัวละครที่มีทั้งความอบอุ่นของพ่อ ความเสียสละ และความเจ็บปวดจากอดีตที่ยังฝังใจ สุดท้ายเขากลับมาร่วมร้องเพลงกับวงในคอนเสิร์ตใหญ่ ช่วยให้วงคูนแคนกลับมาผงาด ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความสามารถ ความเสียใจ และการให้อภัยที่ทำให้เราน้ำตาคลอ

ฉายา นักแต่งเพลงหัวใจสลาย
ดำรงคือคนที่สร้างสรรค์เพลงฮิตให้วงคูนแคน แต่หัวใจแตกสลายจากความรักและการทรยศในอดีต

ข้อคิด การให้อภัยคือการปลดปล่อยตัวเอง
ดำรงสอนเราว่าการยึดติดกับความเจ็บปวดอาจทำให้เราจม แต่การให้อภัยทั้งผู้อื่นและตัวเองจะช่วยให้เราเดินหน้าต่อไปได้

→ นฤมล พงษ์สุภาพ รับบท อัจฉรา

hq720
นฤมล พงษ์สุภาพ

แม่ใจแกร่งผู้เสียสละ
อัจฉราเป็นหญิงสาววัย 40 ปลายๆ ที่เคยเป็นนักร้องมือรองของวงหมอลำคูนแคนในอดีต เธอคือแม่ของ เดชชนะ และเป็นคนที่รับเลี้ยง ต้าร์ ลูกชายของ เอื้อยฟ้า และ ดำรง หลังจากที่เอื้อยฟ้าทิ้งลูกไว้เมื่อ 25 ปีก่อน อัจฉราตัดสินใจเลี้ยงทั้งสองคนเหมือนลูกแท้ๆ ด้วยความรักและความทุ่มเท แม้ว่าชีวิตของเธอจะไม่ง่าย เธอยังคงเป็นเสาหลักของครอบครัวและวงคูนแคน ต่อสู้เคียงข้าง ปู่ดุ่ย เพื่อรักษาวงไว้ท่ามกลางวิกฤตที่ไม่มีงานแสดง

อัจฉรามีด้านที่เข้มงวดและยึดติดกับวิธีการเก่าๆ ทำให้บางครั้งขัดแย้งกับ เอกนรี ที่นำไอเดียสมัยใหม่เข้ามาเปลี่ยนวง แต่เมื่อเห็นความตั้งใจของเอกนรีและความสำเร็จของวงจากคลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” เธอก็ค่อยๆ เปิดใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลง อัจฉราสะท้อนภาพของแม่ที่รักลูกสุดหัวใจ และพร้อมยอมรับความผิดพลาดเพื่อให้ครอบครัวเดินหน้าต่อ ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความเข้มแข็ง ความอบอุ่น และความเสียสละที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีแม่คนนี้อยู่ในชีวิตจริง

ฉายา แม่นักสู้แห่งคูนแคน
อัจฉราคือผู้หญิงที่สู้เพื่อครอบครัวและวงหมอลำ แม้จะต้องเผชิญความยากลำบาก เธอก็ไม่เคยยอมแพ้

ข้อคิด ความรักของครอบครัวคือพลังที่ยิ่งใหญ่
อัจฉราสอนเราว่าความรักและการเสียสละเพื่อคนที่เรารักสามารถทำให้เราผ่านทุกอุปสรรค และสร้างความผูกพันที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้

→ ณัฐนันท์ คุณวัฒน์ รับบท วินัย

98b95b90 feba 11ed 8add 6b70b32ce5b8 webp original
ณัฐนันท์ คุณวัฒน์

ผู้จัดการจอมเจ้าเล่ห์
วินัยคือชายวัย 40 ปลายๆ ที่เคยเป็นผู้จัดการวงหมอลำคูนแคนในอดีต เขาคือคนที่ทรยศวงโดยแอบมีความสัมพันธ์กับ เอื้อยฟ้า นักร้องนำ และชักชวนให้เธอขโมยเนื้อเพลง กราบอกซ้าย อ้ายที่ฮัก แล้วหนีไปกรุงเทพฯ ด้วยกัน ทิ้ง ต้าร์ ลูกของเอื้อยฟ้าและ ดำรง ไว้ที่วง 25 ปีต่อมา วินัยกลายเป็นหุ้นส่วนของเอื้อยฟ้าในค่ายเพลงที่กรุงเทพฯ และเป็นผู้นำเลี้ยง เอกนรี หลานสาวของเขา แต่ทำแบบขอไปที ไม่ได้ให้ความรักหรือความเอาใจใส่

วินัยเป็นตัวละครที่เจ้าเล่ห์และเห็นแก่ตัว ช่วยเอื้อยฟ้าวางแผนแย่งตัวต้าร์จากวงคูนแคนเพื่อผลประโยชน์ของค่าย เขาใช้เล่ห์เหลี่ยม เช่น การแฮ็กเพจโซเชียลของวงและปล่อยข่าวลือร้ายๆ แต่ลึกๆ แล้ว เขาก็มีความรู้สึกผิดที่ซ่อนอยู่ในใจจากการทรยศวงและครอบครัวเมื่อในอดีต ในตอนท้าย เมื่อความจริงถูกเปิดโปงโดย รุ่งสุริยา วินัยเริ่มเผชิญหน้ากับผลของการกระทำและยอมถอยเพื่อให้วงคูนแคนกลับมาผงาด ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความร้าย ความทะเยอทะยาน และการไถ่บาปที่ทำให้เราทั้งหมั่นไส้และสงสาร

ฉายา ผู้จัดการใจร้าย
วินัยคือคนที่ใช้ความเจ้าเล่ห์บริหารวงและชีวิต แต่สุดท้ายต้องเผชิญหน้ากับผลของการเลือกที่ผิดพลาด

ข้อคิด การกระทำที่เห็นแก่ตัวอาจนำมาซึ่งความเสียใจ
วินัยสอนเราว่าการเลือกทางลัดหรือเห็นแก่ตัวอาจให้ผลดีชั่วคราว แต่ในระยะยาว ความจริงใจและความรับผิดชอบคือสิ่งที่ยั่งยืน

→ พลอยวรินทร์ แสนไชย รับบท ดาหวัน

mtw 20 01
พลอยวรินทร์ แสนไชย

สาวสวยผู้เล่นบทเหยื่อ
ดาหวันคือสาวสวยวัย 24 ปีที่ทั้งน่ารักและมีเสน่ห์ เธอเป็นผู้หญิงที่ เดชชนะ แอบชอบตั้งแต่สมัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ชีวิตของดาหวันพลิกผันเมื่อเธอเข้าไปพัวพันกับ อาทร แฟนหนุ่มของ เอกนรี ซึ่งคบซ้อนกันอย่างลับๆ เมื่อเอกนรีถ่ายคลิปแฉความสัมพันธ์ลงโซเชียล ดาหวันเลือกเล่นบทเหยื่อ ทำตัวเหมือนเป็นฝ่ายถูกทำร้าย ทำให้กระแสตีกลับจนเอกนรีโดนโจมตีทั้งงานและชีวิตส่วนตัว

ในเรื่อง ดาหวันปรากฏตัวเป็นตัวละครที่สร้างความขัดแย้ง โดยเฉพาะกับเดชชนะที่เข้าใจผิดว่าเอกนรีคือตัวร้าย เธอใช้ความน่ารักและภาพลักษณ์ใสๆ เป็นอาวุธ ทำให้คนรอบตัวหลงเชื่อ แต่เมื่อเรื่องราวคลายปม ดาหวันก็เริ่มเผยด้านที่อ่อนแอและความรู้สึกผิดที่ซ่อนอยู่ในใจ เธอเป็นตัวละครที่ไม่ใช่ตัวร้ายเต็มตัว แต่เป็นคนที่เลือกทางผิดเพราะความรักและความต้องการเป็นที่ยอมรับ ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความสวย ความเจ้าเล่ห์ และความเปราะบางที่ทำให้เราทั้งหมั่นไส้และอยากให้เธอเปลี่ยนแปลง

ฉายา สาวหวานจอมดราม่า
ดาหวันคือสาวสวยที่ดูเหมือนหวานใส แต่ซ่อนความแซ่บและดราม่าที่ทำให้ทุกคนต้องปวดหัว

ข้อคิด การเลือกทางที่ซื่อสัตย์ดีกว่าการสร้างภาพ
ดาหวันสอนเราว่าการสร้างภาพหรือเลือกทางลัดอาจทำให้ได้เปรียบในตอนแรก แต่ความจริงใจคือสิ่งที่ทำให้เราได้รับความเคารพในระยะยาว

→ ภัทรบุตร เขียนนุกูล รับบท อาทร

124349314 3427678877349476 4887464776617744997 n
ภัทรบุตร เขียนนุกูล

หนุ่มเจ้าชู้ผู้จุดชนวนดราม่า
อาทรคือหนุ่มหล่อวัย 28 ปี ที่เริ่มเรื่องในฐานะแฟนหนุ่มของ เอกนรี สาวสวย Personal Stylist ในกรุงเทพฯ เขาดูเหมือนเป็นแฟนที่สมบูรณ์แบบ อบอุ่น และสนับสนุนเอกนรีในหน้าที่การงาน แต่ความจริงแล้ว อาทรคือหนุ่มเจ้าชู้ที่แอบคบซ้อนกับ ดาหวัน สาวสวยที่ เดชชนะ แอบชอบ เมื่อความลับแตก เอกนรีถ่ายคลิปแฉลงโซเชียล ทำให้ชีวิตของเธอพังทั้งงานและความรัก ส่วนอาทรเลือกปกป้องดาหวันและปล่อยให้เอกนรีโดนโจมตี

อาทรเป็นตัวละครที่สร้างความขัดแย้งใหญ่ในเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อเดชชนะเข้าใจผิดว่าเอกนรีคือตัวร้าย เขาเป็นคนที่เห็นแก่ตัวและขาดความรับผิดชอบในความสัมพันธ์ แต่ในตอนท้าย อาทรเริ่มตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเองเมื่อเห็นผลกระทบจากการกระทำของเขา ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความหล่อ ความเจ้าชู้ และการเรียนรู้จากความผิดที่ทำให้เราทั้งหมั่นไส้และอยากเห็นเขาเปลี่ยนแปลง

ฉายา เจ้าชู้จอมวายร้าย
อาทรคือหนุ่มหล่อที่ใช้เสน่ห์มัดใจสาว แต่การคบซ้อนทำให้เขาเป็นตัววายร้ายที่จุดชนวนดราม่าในเรื่อง

ข้อคิด ความซื่อสัตย์คือรากฐานของความสัมพันธ์
อาทรสอนเราว่าการไม่ซื่อสัตย์อาจทำให้ได้เปรียบชั่วคราว แต่สุดท้ายจะนำมาซึ่งความเสียใจและเสียความไว้วางใจจากคนรอบตัว

→ บุญส่ง นาคภู่ รับบท ปู่ดุ่ย

บุญส่ง นาคภู่

หัวใจของวงคูนแคน
ปู่ดุ่ยคือชายวัย 60 ปลายๆ ผู้ก่อตั้งวงหมอลำคูนแคนแห่งบ้านหนองคูน เขาคือคนที่ทำให้วงนี้เคยดังสุดๆ ในอดีต ด้วยการปั้นนักร้องอย่าง เอื้อยฟ้า และสนับสนุนลูกชาย ดำรง แต่เมื่อเอื้อยฟ้าทรยศวงโดยขโมยเพลงและทิ้งลูกชาย (ต้าร์) ไว้ ปู่ดุ่ยต้องแบกความเจ็บปวดและพยายามประคองวงไว้ท่ามกลางวิกฤตที่ไม่มีงานแสดง

ในปี 2568 ปู่ดุ่ยยังคงเป็นเสาหลักของวง ดูแล เดชชนะ และต้าร์เหมือนหลานแท้ๆ และทำงานเคียงข้าง อัจฉรา กับทีมนักดนตรีอย่าง ตาแอ๊ด และ อ๊อด เขาดื้อรั้นและยึดติดกับวิธีเก่าๆ ในตอนแรก แต่เมื่อ เอกนรี นำไอเดียสมัยใหม่ เช่น คลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” เข้ามา ปู่ดุ่ยก็ยอมเปิดใจและกลายเป็นดาวเด่นด้วยการเต้นลำซิ่งในคลิปที่ดังทั่วโซเชียล สุดท้าย ปู่ดุ่ยยังแสดงความยิ่งใหญ่ด้วยการให้อภัยเอื้อยฟ้าเมื่อเธอกลับใจ ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความอบอุ่น ความฮา และความเป็นผู้นำที่ทำให้เรายิ้มตามทุกฉาก

ฉายา ปู่ลำซิ่งแห่งคูนแคน
ปู่ดุ่ยคือผู้เฒ่าที่ทั้งใจดีและเก๋า ยังคงโยกได้ในจังหวะลำซิ่งและเป็นหัวใจของวงที่ทุกคนรัก

ข้อคิด การให้อภัยคือพลังของผู้นำ
ปู่ดุ่ยสอนเราว่าการให้อภัยไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นความเข้มแข็งที่ช่วยเยียวยาครอบครัวและนำทุกคนไปข้างหน้า

→ วีระชัย หัตถโกวิท รับบท ตาแอ๊ด

hq720
วีระชัย หัตถโกวิท

นักดนตรีจอมกวนแห่งคูนแคน
ตาแอ๊ดคือชายวัย 60 ต้นๆ นักดนตรีรุ่นเก๋าของวงหมอลำคูนแคนที่อยู่เคียงข้าง ปู่ดุ่ย มาตั้งแต่ยุครุ่งเรือง เขาคือมือแคนและนักดนตรีมากความสามารถที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้เวทีลำซิ่งลุกเป็นไฟ แต่ที่เด่นไม่แพ้ฝีมือคือความขี้เล่นและมุกตลกสไตล์อีสานที่โยนออกมาได้แบบไม่ยั้ง ตาแอ๊ดมักจะแซว เดชชนะ และ ต้าร์ ด้วยมุกกวนๆ ทำให้ทุกคนในวงหัวเราะคิกคัก แม้ในยามที่วงกำลังลำบากไม่มีงานแสดง

ถึงจะดูเป็นคนตลก แต่ตาแอ๊ดมีความจงรักภักดีต่อวงและปู่ดุ่ยสุดๆ เขายืนหยัดเคียงข้างทีมแม้จะเจอวิกฤตจาก เอื้อยฟ้า ที่พยายามทำลายวงด้วยเล่ห์เหลี่ยม เมื่อ เอกนรี เข้ามาช่วยปรับลุคและทำคลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” ตาแอ๊ดก็ร่วมแจมด้วยการโชว์ลีลาแคนในสไตล์ที่ทั้งเก๋าและทันสมัย ช่วยให้วงกลับมาดัง ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความฮา ความเก๋า และความทุ่มเทที่ทำให้ทุกฉากที่เขาอยู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ฉายา แคนกวนแห่งคูนแคน
ตาแอ๊ดคือมือแคนที่ทั้งเก่งและกวน ด้วยมุกตลกและฝีมือที่ทำให้วงคูนแคนขาดเขาไม่ได้

ข้อคิด ความสุขคือพลังที่ทำให้ทีมแข็งแกร่ง
ตาแอ๊ดสอนเราว่าการมอบรอยยิ้มและพลังบวกให้คนรอบตัว แม้ในยามยากลำบาก จะช่วยสร้างความสามัคคีและพาทีมไปข้างหน้าได้

→ ฐิติพล สวัสดิ์ศรี รับบท อ๊อด

sddefault
ฐิติพล สวัสดิ์ศรี

มือกลองจอมซนแห่งคูนแคน
อ๊อดคือหนุ่มวัย 30 ต้นๆ นักดนตรีมือกลองของวงหมอลำคูนแคนที่อยู่เคียงข้าง ปู่ดุ่ย และ ตาแอ๊ด มาตั้งแต่ยุครุ่งเรือง เขาคือตัวตึงแห่งความขี้เล่น ชอบแซวคนในวง โดยเฉพาะ เดชชนะ และ ต้าร์ ด้วยมุกตลกที่ทำให้ทุกคนต้องหัวเราะ แม้วงจะเจอวิกฤตไม่มีงานแสดง อ๊อดก็ยังคงมองโลกในแง่ดีและช่วยสร้างบรรยากาศให้ทีมไม่ท้อ

ถึงจะดูซนและกวน แต่จริงๆ แล้วอ๊อดมีความจงรักภักดีต่อวงสุดๆ เขายืนหยัดเคียงข้างปู่ดุ่ยและทีม แม้จะเจอปัญหาจาก เอื้อยฟ้า ที่พยายามทำลายวงด้วยเล่ห์เหลี่ยม เมื่อ เอกนรี เข้ามากับไอเดียสมัยใหม่ เช่น คลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” อ๊อดก็ร่วมแจมด้วยการโชว์ลีลาตีกลองแบบจัดเต็ม ช่วยให้วงกลับมาดังเปรี้ยง ตัวละครนี้คือส่วนผสมของความฮา ความทุ่มเท และความเป็นเพื่อนที่ทำให้ทุกฉากที่เขาอยู่เต็มไปด้วยพลังบวก

ฉายา มือกลองจอมป่วน
อ๊อดคือหนุ่มที่ตีกลองได้มันส์และป่วนได้ใจ ด้วยความกวนที่ทำให้วงคูนแคนมีชีวิตชีวา

ข้อคิด ความสนุกช่วยให้ทีมผ่านทุกวิกฤต
อ๊อดสอนเราว่าการรักษาความร่าเริงและพลังบวก แม้ในยามยากลำบาก จะช่วยให้ทีมเข้มแข็งและก้าวต่อไปได้


ข้อคิด จากละครสุดแซ่บ โอป้าลำซิ่ง ละครลูกทุ่งที่ผสมความฮา ดราม่า และความรักแบบอีสานแท้ๆ เรื่องนี้ไม่ได้มีแค่เพลงมันส์ๆ หรือโมเมนต์ฟินๆ ของเดชชนะและเอกนรี แต่ยังเต็มไปด้วยข้อคิดดีๆ ที่ใช้ได้จริงในชีวิต ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

การให้อภัยคือพลังของการเริ่มต้นใหม่
จากตัวละครอย่าง ปู่ดุ่ย และ เอื้อยฟ้า เราเห็นว่าความเจ็บปวดจากอดีต เช่น การทรยศของเอื้อยฟ้าที่ทิ้งวงและลูก สามารถเยียวยาได้ด้วยการให้อภัย ปู่ดุ่ยเลือกโอบกอดและให้โอกาสเอื้อยฟ้า ทำให้ครอบครัวกลับมารวมกัน ข้อคิดนี้สอนว่าไม่ว่าใครจะทำผิด ถ้าเรากล้าให้อภัย มันจะช่วยปลดปล่อยทั้งตัวเราและคนอื่น

ความพยายามและความจริงใจชนะทุกอุปสรรค
เอกนรี ที่เริ่มจากสาวเมืองกรุงจอมโก๊ะ ชีวิตพังเพราะดราม่าความรัก แต่เธอไม่ยอมแพ้ ใช้ความสามารถและความจริงใจช่วยวงคูนแคนกลับมาดังด้วยไอเดียสมัยใหม่ ข้อคิดนี้บอกเราว่าต่อให้ล้มหนักแค่ไหน ถ้ามีใจสู้และจริงใจ ทุกอย่างจะพลิกกลับมาได้

ครอบครัวและทีมคือพลังที่ยิ่งใหญ่
วงคูนแคนรอดพ้นวิกฤตได้เพราะทุกคน ไม่ว่าจะเป็น เดชชนะ, ต้าร์, อัจฉรา, หรือแม้แต่ ตาแอ๊ด และ อ๊อด รวมพลังกันต่อสู้ แม้จะเจอเล่ห์เหลี่ยมจาก วินัย และ เอื้อยฟ้า ข้อคิดนี้สอนว่าการมีครอบครัวหรือทีมที่สนับสนุนกันคือสิ่งที่ทำให้เราผ่านทุกปัญหาได้

การผสมผสานเก่าและใหม่สร้างสิ่งมหัศจรรย์
ละครแสดงให้เห็นว่าการนำหมอลำแบบดั้งเดิมมาผสานกับความทันสมัย เช่น การทำคลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” หรือรีเมคเพลงเป็น EDM ลูกทุ่ง ทำให้วงคูนแคกลับมาดัง ข้อคิดนี้บอกเราว่าการเคารพรากเหง้าและเปิดใจรับสิ่งใหม่จะสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่

ความรักที่แท้จริงต้องใช้เวลาและความเข้าใจ
ความรักของ เดชชนะ และ เอกนรี ไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่ค่อยๆ เติบโตจากความขัดแย้งสู่การเข้าใจกัน ข้อคิดนี้สอนว่าในความสัมพันธ์ ความอดทนและการเรียนรู้กันและกันคือกุญแจสู่รักที่ยั่งยืน

เพื่อนๆ โอป้าลำซิ่งไม่ใช่แค่ละครที่ทำให้เราโยกตามจังหวะลำซิ่ง แต่ยังให้ข้อคิดที่ใช้ได้จริงในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการให้อภัย ความพยายาม หรือพลังของครอบครัว 


ถ้า โอป้าลำซิ่ง มี ภาค 2 ละครลูกทุ่งสุดแซ่บที่ผสมความฮา ดราม่า และความรักแบบอีสานแท้ๆ ถ้าภาคแรกปังขนาดนี้ ภาคสองจะต้องยิ่งใหญ่กว่าเดิมแน่นอน มาดูกันว่าถ้ามีภาคต่อ เรื่องราวจะพุ่งไปทางไหน พร้อมความแซ่บ ดราม่า และลำซิ่งที่จัดเต็ม

โอป้าลำซิ่ง ภาค 2 – ลำซิ่งสู่เวทีโลก

วงคูนแคนสู่เวทีสากล

หลังจากคอนเสิร์ตใหญ่ในตอนจบภาคแรก วงคูนแคนกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ เดชชนะ (โหน ธนากร) และ เอกนรี (เกรซ พัชร์สิตา) ตอนนี้แต่งงานกันแล้ว และกลายเป็นคู่รักสุดฮอตที่ดูแลวงคูนแคนเคียงข้าง ปู่ดุ่ย (บุญส่ง นาคภู่) วันหนึ่ง พวกเขาได้รับคำเชิญสุดเซอร์ไพรส์จากงานเทศกาลดนตรีโลกที่เกาหลีใต้ ให้ไปแสดงหมอลำผสม EDM ลูกทุ่งในฐานะตัวแทนประเทศไทย แต่ปัญหาคือวงต้องแข่งขันกับวงดนตรีจากทั่วโลก และมีเวลาเตรียมตัวแค่ 3 เดือน

เดชชนะอยากคว้าโอกาสนี้เพื่อพาวงไปสู่เวทีโลก แต่ อัจฉรา (นฤมล พงษ์สุภาพ) แม่ของเขายังกังวลว่าการเปลี่ยนสไตล์มากเกินไปจะทำให้เสียรากเหง้าอีสาน ต้าร์ (อัครวัฒน์ จุมพลวิวัฒน์) ที่ตอนนี้เป็นนักร้องนำของวง ก็เริ่มรู้สึกกดดันเพราะต้องฝึกทักษะใหม่ๆ เช่น การร้องเพลงผสมภาษาอังกฤษ ส่วน มยุรี (อังคณา วรรัตนาชัย) ผู้จัดการวง ต้องหาทุนสนับสนุนจากสปอนเซอร์ใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การเจอกับ ลลิษา (นักแสดงหน้าใหม่) สาวนักธุรกิจจากกรุงเทพฯ ที่ดูเหมือนจะช่วยวงได้ แต่แอบมีแผนซ่อนไว้

ดราม่าครอบครัวและคู่แข่งใหม่

ขณะที่วงคูนแคนฝึกซ้อมอย่างหนัก เอื้อยฟ้า (หญิง ธิติกานต์) ที่กลับใจในภาคแรก เริ่มรู้สึกว่าเธออยากพิสูจน์ตัวเองมากขึ้น เธอขอเป็นโค้ชร้องเพลงให้ต้าร์ แต่การกลับมาของเธอทำให้ ดำรง (รุ่ง สุริยา) อดีตคนรักและพ่อของต้าร์ รู้สึกอึดอัด เพราะทั้งคู่ยังมีปมในใจที่ยังไม่เคลียร์ นอกจากนี้ ลลิษาเผยตัวว่าเป็นลูกสาวของ วินัย (ณัฐนันท์ คุณวัฒน์) ที่ต้องการแก้แค้นวงคูนแคน โดยแอบวางแผนให้วงเสียชื่อเสียงในงานเทศกาลโลก เช่น ปล่อยคลิปปลอมว่าเดชชนะและเอกนรีมีปัญหาครอบครัว

ด้านความรัก ต้าร์ ยังคงพยายามเอาชนะใจ เมญ่า (โชตินภา แก้วจรูญ) สาวไฮโซที่ตอนนี้เริ่มสนใจเขา แต่ แพมมี่ (รัญดภา มันตะลัมพะ) กลับมาพร้อมบทบาทใหม่เป็นพรีเซ็นเตอร์ของสปอนเซอร์คู่แข่ง และพยายามยั่วยวนต้าร์เพื่อสร้างดราม่า ส่วน ดาหวัน (พลอยวรินทร์ แสนไชย) ที่เคยเป็นสาวที่เดชชนะแอบชอบ ปรากฏตัวในฐานะนักร้องป๊อปที่มาร่วมงานเทศกาลเดียวกัน และพยายามจุดไฟเก่ากับเดชชนะ ทำให้เอกนรีเริ่มหวั่นไหว

ความท้าทายบนเวทีโลก

เมื่อถึงวันงานเทศกาลที่เกาหลีใต้ วงคูนแคนต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งจากทั่วโลก รวมถึงวง K-pop ที่มีแฟนคลับล้นหลาม ตาแอ๊ด (วีระชัย หัตถโกวิท) และ อ๊อด (ฐิติพล สวัสดิ์ศรี) นำความฮาและลีลาการเล่นดนตรีแคนและกลองมาสร้างสีสัน แต่เกิดปัญหาเมื่ออุปกรณ์ดนตรีถูกทำลายโดยทีมของลลิษา เดชชนะและเอกนรีต้องรวมพลังกับทีมเพื่อหาทางแก้ไข โดยใช้ไอเดียผสมผสานการแสดงหมอลำแบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยี AR เพื่อสร้างโชว์ที่ทั้งโลกต้องตะลึง

ในขณะเดียวกัน ดราม่าครอบครัวถึงจุดพีคเมื่อต้าร์รู้ความจริงว่า ลลิษา เป็นน้องสาวของเขาเอง (ลูกของวินัยกับหญิงสาวอื่น) ทำให้เขาต้องตัดสินใจว่าจะช่วยครอบครัวหรือตามความฝันของตัวเอง เดชชนะและเอกนรีก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในความรัก เมื่อดาหวันพยายามแทรกแซง แต่สุดท้ายทั้งคู่ยืนยันความรักด้วยการร้องเพลงคู่ ลำซิ่งรักนิรันดร์ บนเวทีโลก

ชัยชนะและการเริ่มต้นใหม่

ในตอนจบ วงคูนแคนคว้ารางวัลชนะเลิศในงานเทศกาล ด้วยโชว์ที่ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานกับความทันสมัยจนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก ปู่ดุ่ย ประกาศเกษียณและมอบวงให้เดชชนะและต้าร์ดูแลต่อ เอื้อยฟ้าและดำรงเคลียร์ใจกันได้และตัดสินใจช่วยวงในฐานะที่ปรึกษา ลลิษายอมรับความผิดและขอโทษ ส่วนเมญ่าตัดสินใจคบกับต้าร์อย่างจริงจัง ปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตใหญ่ที่บ้านหนองคูน ที่ทุกคนในวง รวมถึง ตาแอ๊ด และ อ๊อด ร่วมร้องเพลง ลำซิ่งสู่ดวงดาว พร้อมแสงไฟและความสุขที่อบอวล


เรื่องลึกลับ ที่เกิดขึ้นในกองถ่ายละคร โอป้าลำซิ่ง ละครลูกทุ่งที่ผสมความแซ่บ ดราม่า และมุกฮาแบบอีสานแท้ๆ แต่ไม่ใช่แค่เรื่องราวในจอที่เข้มข้น เพราะเบื้องหลังกองถ่ายมีเรื่องราวชวนขนลุกที่ทีมงานและนักแสดงเจอกันมา

กองถ่าย โอป้าลำซิ่ง ถ่ายทำที่หมู่บ้านจำลองในจังหวัดยโสธร เพื่อสร้างฉากบ้านหนองคูนให้สมจริง คืนหนึ่งขณะถ่ายฉากคอนเสิร์ตใหญ่ของวงคูนแคน ทีมงานเริ่มได้ยิน เสียงแคนลอยมา จากด้านหลังเวทีเก่าๆ ที่ใช้เป็นพร็อพ ทั้งที่ วีระชัย หัตถโกวิท (ตาแอ๊ด) และทีมดนตรีเก็บเครื่องดนตรีไปแล้ว โหน ธนากร (เดชชนะ) บอกว่าเขาเห็นเงาคล้ายคนใส่ชุดหมอลำเดินผ่านฉาก แต่เมื่อทีมงานไปเช็ก กลับไม่มีใครอยู่

เกรซ พัชร์สิตา (เอกนรี) เล่าว่าตอนถ่ายฉากที่เธอต้องเต้นลำซิ่งผิดจังหวะ เธอรู้สึกเหมือนมีมือเย็นๆ มาจับแขนเหมือนช่วยจัดท่าเต้นให้ เธอคิดว่าเป็นสตันท์ แต่ทีมงานยืนยันว่าไม่มีใครเข้าไปในฉากนั้น ผู้กำกับ วศินี คุณะนิติสาร ถึงกับต้องให้ทีมงานจุดธูปขอขมาก่อนถ่ายต่อ แต่เสียงแคนยังดังขึ้นทุกคืนที่ถ่ายฉากกลางคืน

ระหว่างถ่ายฉากที่ บุญส่ง นาคภู่ (ปู่ดุ่ย) และ นฤมล พงษ์สุภาพ (อัจฉรา) พูดคุยเรื่องอดีตของวงคูนแคน ทีมตากล้องพบภาพแปลกๆ ในฟุตเทจ เป็นรูปของผู้หญิงในชุดหมอลำยืนอยู่ข้างเวทีเก่า แต่ไม่มีนักแสดงหรือทีมงานคนไหนแต่งตัวแบบนั้นในวันถ่ายทำ หญิง ธิติกานต์ (เอื้อยฟ้า) ที่เล่นเป็นตัวร้ายในเรื่อง บอกว่าเธอฝันเห็นผู้หญิงคนเดียวกันนี้มาบอกว่า “อย่าทิ้งเพลงของวง” ทำให้เธอรู้สึกขนลุกทุกครั้งที่ต้องถ่ายฉากร้องเพลง กราบอกซ้าย อ้ายที่ฮัก

ทีมงานเริ่มสงสัยว่านี่อาจเป็นวิญญาณของนักร้องหมอลำในอดีตที่เคยอยู่กับวงคูนแคนสมัยที่ยังไม่ถูกสร้างเป็นละคร รุ่ง สุริยา (ดำรง) เสนอไอเดียให้ทีมงานทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณเหล่านี้ แต่หลังทำบุญ เสียงแคนยิ่งดังชัดขึ้น และมีกลิ่นดอกไม้ลอยมาในกองถ่ายทั้งที่ไม่มีดอกไม้อยู่ใกล้ๆ

เมื่อทีมงานเริ่มถ่ายฉากที่ อัครวัฒน์ จุมพลวิวัฒน์ (ต้าร์) และ อังคณา วรรัตนาชัย (มยุรี) ทำคลิปไวรัล “โอป้าลำซิ่งชาเลนจ์” เพจโซเชียลของกองถ่ายเริ่มมีคอมเมนต์แปลกๆ จากบัญชีที่ไม่มีประวัติ คอมเมนต์ว่า “อย่าลืมรากของหมอลำ” และ “คูนแคนต้องอยู่ต่อ” ซึ่งตรงกับเนื้อเรื่องของละครที่พูดถึงการรักษาวัฒนธรรม ฐิติพล สวัสดิ์ศรี (อ๊อด) เล่าว่าเขาเคยเห็นโทรศัพท์ของทีมงานเปิดเองและเล่นเพลง ลำซิ่งรักเธอ โดยไม่มีใครแตะ

ทีมงานเริ่มสอบถามชาวบ้านแถวนั้น และได้รู้ว่าบริเวณที่ถ่ายทำเคยเป็นที่ตั้งของเวทีหมอลำจริงๆ เมื่อ 30 ปีก่อน ซึ่งมีนักร้องสาวชื่อ นางสาวลำดวน ที่เสียชีวิตกะทันหันระหว่างการแสดง ชาวบ้านเชื่อว่าเธอยังวนเวียนปกป้องวงหมอลำที่เธอรัก วศินี ผู้กำกับ ตัดสินใจเพิ่มฉากพิเศษในละครเพื่อเป็นเกียรติแก่นางสาวลำดวน โดยให้ โชตินภา แก้วจรูญ (เมญ่า) ร้องเพลงเพื่ออุทิศให้วิญญาณนักร้องในอดีต หลังจากนั้น เรื่องลึกลับก็ค่อยๆ หายไป

หลังจากถ่ายทำเสร็จ ทีมงานจัดพิธีใหญ่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณที่อาจยังวนเวียนอยู่ในกองถ่าย ณัฐนันท์ คุณวัฒน์ (วินัย) และ ภัทรบุตร เขียนนุกูล (อาทร) เข้าร่วมพิธีด้วย และเล่าว่าพวกเขารู้สึกเหมือนมีพลังงานบวกแผ่ออกมาหลังพิธีจบ ทีมงานจาก เทโร เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ถึงกับตั้งศาลเล็กๆ ไว้ที่กองถ่ายเพื่อเป็นที่ระลึก และละครก็ออกอากาศได้สำเร็จโดยไม่มีเหตุการณ์แปลกๆ อีก ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่าเสียงแคนที่ดังตอนกลางคืนหายไป และทุกคนเชื่อว่านางสาวลำดวนคงพอใจที่วงคูนแคนในละครได้สืบสานวัฒนธรรมหมอลำต่อ