“นุ่ม เบา สบาย…ก่อนตายต้องได้ลอง” นี่คือสโลแกนแบรนด์รองเท้าในฝันของ พริม สาวสวยกำพร้าสู้ชีวิตวัย 23 ปีผู้มีความ หลงใหลเรื่องรองเท้าชนิดเข้าเส้นเลือด พริมมุ่งมั่นตั้งใจว่าสักวันเธอจะมีแบรนด์รองเท้าเป็นของตัวเอง เพื่อสานฝันของ พาพร แม่ซึ่งเป็นอดีตช่างเย็บรองเท้าให้สำเร็จ และเพื่อตามหาเขาผู้ชายคนเดียวที่ได้ครอบครองหัวใจของเธอ แม้ว่าเขาจะทิ้งเธอกับแม่ไปตั้งแต่เธอยังไม่เกิดก็ตาม
ละคร เสน่ห์รักนางซิน 2561
พริมอาศัยอยู่กับแม่ตั้งแต่เกิด แม่หาเลี้ยงพริมด้วยอาชีพช่างเย็บรองเท้า ครอบครัวของแม่ทำอาชีพนี้มาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย แม่จึงเป็นช่างเย็บรองเท้าที่มีฝีมือมาก แต่พวกเขาไม่มีโอกาสที่ดี พาพรจึงเป็นได้แค่เจ้าของร้านเย็บรองเท้าริมถนน..แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่พริมใช้ชีวิตกับแม่อย่างมีความสุขเหลือเกิน…
เมื่อแม่จากไปตอนพริมอายุแค่สิบขวบ พริมย้ายไปอาศัยอยู่กับ ลุงฟัก กับ ป้ารำไพ าติแท้ ๆ ที่จังหวัดภูเก็ต จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย พริมกลับเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ พริมเลือกที่จะเรียนที่ ม.ราม เพื่อจะได้หางานทำไปด้วย พริมไม่เคยเกี่ยงงานขอให้ เป็นงานที่สุจริตและเกี่ยวกับรองเท้าพริมทำได้หมด พริมเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้สำหรับลงเรียนคอร์สออกแบบดีไซน์ เพื่อทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง และตอนนี้พริมได้มาทำงานเป็นพนักงานขายรองเท้าอยู่ที่ห้างดังกลางกรุง…
วันหนึ่งพริมทะเลาะกับ แองจี้ เพื่อนร่วมงานตัวแสบ เหตุเพราะนางมัวแต่ก้มแชทมือถือจึงไม่ได้ดูแลลูกค้าที่มายืนรอนานแล้ว พริมก็เลยเข้าไปช่วยให้คำแนะนำแทนจนลูกค้า พอใจสั่งซื้อรองเท้ากับพริมไปหลายคู่ แองจี้หาว่าพริมตั้งใจแย่งลูกค้าก็เลยเรียกก๊วนเพื่อนมารุมพริม งานนี้ร้อนถึง บุสกร และ ปริตา เพื่อนสนิทของพริมที่อยู่แผนกกีฬากับแผนกเสื้อผ้าสตรีต้องรีบมาช่วยเสริมทัพให้พริม ทั้งสองฝ่ายทะเลาะตบตีกันจนวุ่นวายไปทั้งห้าง แต่พวกพริมกลับถูก สมร หัวหน้าแผนกไล่ออกตามคำสั่งของ พัชรา เจ้าของห้างและภรรยาของ บารมี
พริมรู้สึกได้ตั้งแต่มาทำงานแรก ๆ ว่าพัชราไม่ชอบขี้หน้าเธอ แต่พริมก็ไม่เคยรู้ตัวว่าเธอ ไปทำอะไรให้พัชราซึ่งพัชราเองก็ไม่มีเหตุผลเหมือนกันว่า..ทำไมถึงไม่ชอบหน้าเด็กชื่อพริมตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า อาจเป็นเพราะว่าหน้าตาของพริมมีส่วนละม้ายคล้ายใครบางคนที่เธอเกลียดฝังใจ
ทว่าความวุ่นวายของชีวิตพริมยังไม่หมดเพียงเท่านั้น..เพราะจู่ ๆ ลุงฟักโทรมาตามให้พริมรีบลงไปที่ภูเก็ต เพื่อช่วยเกลี่ยกล่อมให้ป้ารำไพยอมลงจากต้นไม้ สาว ๆ อาศัยช่วงว่างงานลงไปภูเก็ตกันด้วย เมื่อไปถึงสามสาวจึงรู้ว่าสาเหตุที่ป้ารำไพทำเช่นนั้น ก็เพราะอยากจะประท้วงให้ลุงฟักหยุดพูดเรื่องไปเที่ยวยุโรป ที่ก่อนหน้านั้นลุงฟักดันเป็นผู้โชคดีที่ได้รางวัลไปทัวร์ยุโรปจากการส่งชิงโชคนานกว่าสองอาทิตย์ เป็นจำนวน 2 ที่ แต่ป้ารำไพยืนกรานไม่ยอมไป เพราะต้องทำหน้าที่คุณแม่บ้านดูแลคฤหาสน์ให้ คุณปรีชา เศรษฐีอารมณ์ดีที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก แต่พริมไม่อยากให้ลุงกับป้าเสียโอกาสดี ๆ ไป พริมกับเพื่อนอาสาจะดูแลคฤหาสน์ให้เอง ป้ารำไพถึงได้ยอม
การได้เข้าไปอยู่ในคฤหาสน์เป็นเสมือนความฝันของพริมและเพื่อน ๆ บุสกรตื่นเต้นกับห้องออกกำลังกายที่มีเครื่องออกกำลังกายครบครัน ตามประสาสาวห้าวรักกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ บุสกรใฝ่ฝันอยากให้น้อง ๆ ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอเติบโตมามีสุขภาพที่ดี และห้องเสื้อผ้าที่มีตู้เสื้อผ้าอลังการดาวล้านดวงก็สร้างความตื่นเต้นให้กับปริตา…สาวอ่อนหวานที่รักเรื่องเสื้อผ้าเพราะแม่ของเธอก็เป็นช่างตัดเสื้อผ้าอยู่ในสลัม
แต่สิ่งที่ทำให้พริมตื่นเต้นได้มากที่สุดก็คือ การ์ดเชิญถึงคุณปรีชาให้ไปร่วมงานเลี้ยงแสดงความยินดีที่ P.Paul บริษัทผลิตรองเท้าชื่อดัง จากฝรั่งเศสจะจับมือกับบริษัทสิ่งทอของประเทศไทยผลิตรองเท้าเพื่อคนไทย ซึ่งงานนี้จะจัดขึ้นที่โรงแรมมุกทะเล..โรงแรมระดับห้าดาวที่อยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์
สาเหตุที่พริมตื่นเต้นเพราะ P.Paul มีนโยบายสนับสนุนดีไซเนอร์รุ่นใหม่ให้ออกแบบรองเท้าให้กับแบรนด์ และมีดีไซเนอร์หน้าใหม่แจ้งเกิดเพราะ P.Paul มาแล้วนับไม่ถ้วน พริมฝันไปไกลว่าอยากให้รองเท้าที่เธอออกแบบไว้ได้รับการสนับสนุนจาก P.Paul ดังนั้น สิ่งแรกที่พริมต้องทำคือ…ทำให้เจ้าของ P.Paul เห็นผลงานออกแบบรองเท้าของเธอให้ได้ และแล้วแผนไปร่วมงานเลี้ยงในฐานะหลานสาว (กำมะลอ) ของคุณปรีชาจึงเกิดขึ้น โดยที่พริมไม่รู้ว่า…ลูกชายตัวจริงของคุณปรีชาเป็นคนสำคัญของงานเลี้ยงนั้น เขาคือ.. ภูรี ชายหนุ่มรูปหล่อบาดใจ ภูรีไม่ได้มีดีแค่ความหล่อแต่เขายังมีดีที่สมอง เป็นเพอร์เฟคท์ชั่นนิสต์ทุกอย่างต้องดีต้องเนี้ยบ ถึงแม้ว่าครอบครัวของเขาที่ฝรั่งเศสจะร่ำรวยระดับเศรษฐี แต่ภูรีก็ไม่เคยหยุดที่จะทำอะไรด้วยตัวเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งธุรกิจที่ภูรีเป็นเจ้าของก็คือ…แบรนด์รองเท้ายี่ห้อ P.Paul นั่นเอง
ภูรีร่วมธุรกิจผลิตรองเท้ากับบริษัทสิ่งทอซึ่งเป็นของครอบครัว อินทัช เพื่อนสนิท รวมถึงโรงแรมมุกทะเลที่จะเป็นสถานที่จัดงานก็เป็นของ ภควัต หนุ่มเพลย์บอยเพื่อนสนิทอีกคนของเขา ภูรีจงใจจัดงานที่ภูเก็ตเพราะเขาอยากจะเชิญปรีชาพ่อของเขามาร่วมงาน ภูรีตั้งใจจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้พ่อเห็นว่า…พ่อไม่เคยมีอิทธิพลกับชีวิตของเขาแม้แต่น้อย ถึงไม่มีพ่อดูแลชีวิตเขาก็ดีได้ แต่วันงาน..ผู้ที่มาร่วมงานแทนพ่อกลับเป็นผู้หญิงสามคน ที่บอกว่าตัวเองเป็นหลานสาวของพ่อ
ภูรีมั่นใจว่าพวกเธอโกหกเพราะพ่อของเขาไม่เคยมีหลาน ภูรีจึงสั่งให้การ์ดไล่พวกเธอออกไปจากงานอย่างไร้เหตุผล แต่พริมไม่ยอมแพ้…ยังไงคืนนี้เธอก็จะต้องอวดผลงานตัวเอง ให้เจ้าของ P.Paul ดูให้ได้ เธอหาทางเข้าไปในงานจนกระทั่งไปพบกับภควัตเจ้าของโรงแรม ภควัตมีท่าทีสนใจในตัวพริม พริมมั่นใจว่าภควัตจะช่วยพาเธอเข้าไปในงานได้แน่ เธอจึงจำใจต้องใช้มารยาหญิงกับภควัตด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ทำให้ภูรีเข้าใจผิดไปว่าพริมเป็นพวกผู้หญิงที่ชอบตะกายดาว หาคนรวย ๆ มาเป็นสปอนเซอร์
เมื่อแผนการอ่อยภควัตไม่สำเร็จ เพราะภควัตต้องรีบไปทำธุระ พริมหงุดหงิดมากจึงเดินออกมายังชายหาด แล้วเธอก็พบว่าอินทัชกำลังร้องไห้ตะโกนบอกท้องฟ้า ถึงความโชคร้ายเรื่องความรัก ก่อนที่อินทัชจะก็เดินลงไปทะเล พริมเข้าใจผิดคิดว่าอินทัชจะฆ่าตัวตายจึงลงไปช่วยอย่างไม่คิดชีวิต ทั้งที่ความจริงแล้วอินทัชจะลงไปงมหาแหวนของอดีตคนรัก เพราะเกิดเสียดายขึ้นมาอย่างกะทันหัน อินทัชยังไม่ทันได้บอกความจริงกับพริม พริมก็ถาโถมถ้อยคำให้กำลังใจอินทัชชุดใหญ่ ทำให้เขารู้สึกดีกับพริมมาก อินชัยจึงยกตำแหน่งว่าที่แม่ของลูกคนใหม่ให้กับพริม
อาการคลั่งไคล้พริมที่อินทัชแสดงให้ภูรีเห็นนั้น ยิ่งทำให้ภูรียิ่งมั่นใจว่าพริมเป็นผู้หญิงตะกายดาว ที่จ้องจะจับผู้ชายรวย ๆ ภูรีเป็นห่วงกลัวว่าปรีชาพ่อของเขาจะตกเป็นเหยื่ออีกคน ภูรีอยากรู้ว่าพริมกับเพื่อน ๆ เป็นใครกันแน่จึงวางแผนให้ภควัตไปโกหกสาว ๆ ว่า ภูรี กับ อินทัช ซึ่งเป็นลูกน้องของเขากำลังถูกมาเฟียประจำถิ่นเล่นงาน เพราะเขาสองคนตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าไปรู้เห็นเรื่องธุรกิจเถื่อนของพวกมันจนต้องหาที่หลบซ่อนตัวชั่วคราว ระหว่างนี้ภูรีกับอินทัชยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ พวกเขาขอหลบไปพักที่บ้านของสาว ๆ ก่อนสักระยะหนึ่ง
ตอนแรกพริมลังเลเพราะไม่ไว้ใจ แต่เมื่อทบทวนว่าเธอมีบุสกรที่มีดีกรีแชมป์เทควันโด้สายดำ อีกอย่างภควัตก็เป็นคนมีชื่อเสียง เขาคงจะไม่กล้าทำเรื่องไม่ดีกับพวกเธอ และอีกเหตุผลที่สำคัญเลยคือ…ภควัตรู้จักกับเจ้าของ P.Paul ถ้าเธอมีน้ำใจกับลูกน้องของภควัต เขาก็อาจจะช่วยให้เธอได้พบกับผู้บริหาร P.Paul ดังนั้นพริมจึงยอมให้หนุ่ม ๆ ไปอยู่ที่คฤหาสน์หรูที่ไร้เงาคนใช้ พริมโกหกว่า…แดดดี๊กับม๊ามี๊ที่อยู่ปารีสต้องการขัดเกลานิสัยเธอกับเพื่อน ๆ ที่ชอบใช้ชีวิตสบายจนเคยตัว จึงสั่งไล่คนใช้ออกให้หมด เพื่อให้พวกเธอเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยตัวเองแล้วกลับไปบริหารธุรกิจพันล้าน หรา !!!!!!!!!!!!!!! …….ภูรีคิดในใจ
การอยู่ร่วมกันระหว่างหลานสาวเจ้าของคฤหาสน์ตัวปลอม กับลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ตัวจริง จึงสร้างความชุลมุนอย่างหนักหน่วง พริมกับเพื่อน ๆ ต้องวางท่าเป็นคุณหนูไฮโซตบตาภูรีกับอินทัช…ซึ่งเป็นเรื่องที่ทรมานสาวโลโซทั้งสามมาก แต่พริมมักจะเห็นว่าภูรีคอยจ้องเดินตามเธอ และชอบถามเรื่องส่วนตัวเธอ ทำให้พริมคิดไปว่าภูรีตามจีบเธอเพราะหวังจะเป็นหนูตกถังข้าวสาร พริมจึงไม่ชอบขี้หน้าภูรีเอาซะเลย เหมือนที่ภูรีก็ตามสืบประวัติของพริมจนรู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของลุงฟักกับป้ารำไพ คนเฝ้าบ้านของพ่อ ตอนนี้พริมยังเรียนอยู่ภูรีคิดไปเองว่าพริมจะต้องเป็นเมียเด็กของพ่อจอมเจ้าชู้ของเขาแน่ ๆ
แต่การที่พริมก็มักจะถามถึงเจ้าของ P.Paul จากภควัต แล้วทุกครั้งที่พริมถาม …ดวงตาของหญิงสาวจะเป็นประกายวิบวับ และเธอก็จะต้องตื่นเต้นเว่อร์ ๆ ทุกครั้งที่ภควัตแกล้งพูดว่าเจ้าของ P.Paul จะไปปรากฏตัวที่ใด ภูรีเคยแอบติดตามสาว ๆ ไป และพบว่าพวกเธอตามไปหาเจ้าของ P.Paul ตามที่ภควัตโกหกจริง ๆ แถมยังแต่งตัวกันสวยเว่อร์ ภูรีจึงเข้าใจไปว่าพริมอยากจับเจ้าของ P.Paul นั่นเอง นั่นหมายความว่าพริมกำลังมาหลอก สวมเขาให้พ่อในระหว่างที่พ่อไม่อยู่ ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพริมกับภูรีจึงไม่ค่อยจะดีนัก เจอหน้ากันทีไรต้องกัดจิกทะลุเนื้อกันทุกที
วันหนึ่งพริมได้พบกับ พงศกร หนุ่มหน้าใสวัย 20 ปีโดยบังเอิญ พงศกรติดใจความสวยของพริม ถึงพริมจะอายุมากกว่าแต่พงศกรไม่แคร์ เพราะเขาเป็นพวกชอบทำอะไรตามใจตัวเอง พงศกรโกหกพริมว่าเขาเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกจึงมาเที่ยวพักผ่อน แต่ความจริงคือเขากลับมาเพื่อหลบซ่อนตัวตามคำสั่งของพัชราแม่ของเขา เนื่องจากพงศกรไปทำ วีรี สาวน้อยโลกสวยวัย 16 ปีตั้งท้อง ครอบครัวของวีรีจะเอาเรื่องพงศกร และถ้าเรื่องนี้ถึงทางการเมื่อไหร่ พงศกรจะต้องเจอโทษหนักตามกฎหมายคุ้มครองเด็กอายุไม่ถึง 18 ปีของประเทศอเมริกา พัชรา กับ วิกกี้ พี่สาวจึงต้องรีบบินไปเคลียร์ปัญหาให้ ซึ่งก็จบปัญหาด้วยการยัดเงินไปหลายล้านบาท
พงศกรเข้าหาพริมในมาดของผู้ชายแสนดี แถมยังแวะเวียนไปตามติดเพื่อจีบพริมให้ได้ แต่พอภูรีเห็นหน้าพงศกร เขาก็ต้องรีบชิ่งหนีหลบทันที เพราะวิกกี้พี่สาวของพงศกรเป็นคู่หมั้นคู่หมายของภูรี ตามที่ผู้ใหญ่จัดการ ทั้ง ๆ ที่ภูรีไม่คิดอะไรและเห็นวิกกี้เป็นแค่น้องสาวเท่านั้น
ภูรีต้องคอยปลอมตัวต่าง ๆ นานาเพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้พงศกรเห็น บ่อยครั้งที่เกือบเอาตัวไม่รอด แต่ก็ได้อินทัชคอยช่วยลุกลามไปจนถึงทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะอินทัชหมั่นไส้ที่พงศกรมาจีบพริม ว่าที่แม่ของลูกที่ตนหมายมั่นปั้นมืออยู่ ทว่าพริมไม่เคยรู้เลยว่าอินทัชมีใจให้เธอ มีเพียงปริตาที่รู้เพราะเธอสนิทกับอินทัช เนื่องจากปริตาตกหลุมรักภควัตอยู่ แต่ปริตาไม่กล้าเผยความในใจ เพราะรู้ตัวเองดีว่า ตัวเองเป็นแค่ลูกช่างตัดเย็บเสื้อผ้าจน ๆ ปริตาไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้เพื่อนรู้ เพราะบุสกรเกลียดขี้หน้าภควัต ส่วนพริมก็หมกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องออกแบบรองเท้า ปริตาจึงมีแค่อินทัชเป็นคนคอยให้คำปรึกษา
วันหนึ่งพงศกรแอบได้ยินพริมคุยกับปริตาเรื่องอยากเจอเจ้าของ P.Paul เขาจึงออกอุบายชวนพริมไปปาร์ตี้ที่เกาะส่วนตัว โดยโกหกว่าปาร์ตี้แห่งนี้มีเจ้าของ P.Paul ไปร่วมด้วย พริมหลงกลยอมไปปาร์ตี้กับพงศกร โดยไม่รู้ว่าพงศกรพาไปมอมยาเพื่อหวังรวบหัวรวบหางพริม แต่เคราะห์พริมยังดีอยู่เพราะภูรีไปช่วยไว้ได้ทัน แต่ระหว่างหนีภูรีและพริมกลับต้องลอยคออยู่กลางทะเลก่อนจะได้ชาวประมงช่วยไว้ ทั้งสองจึงต้องใช้ชีวิตด้วยกันระหว่างที่รอให้มีคนมาช่วย การใช้ชีวิตบนเกาะไม่ได้สร้างความลำบากให้กับคุณหนูกำมะลออย่างพริมเท่าใดนัก เพราะชีวิตจริงของพริมต้องผ่านความลำบากมาอย่างมากมาย พริมแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างน่าทึ่ง ต่างจากภูรีที่แสนจะลำบากเพราะชีวิตเขามีชีวิตที่สุขสบายมาโดยตลอด…การพยายามแสร้งทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองจึงเป็นปัญหามาก แต่ทั้งสองก็ได้ช่วยเหลือและเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
ภูรีถามพริมเรื่องทำไมเธอต้องตามหาเจ้าของ P.Paul พริมตัดสินใจเล่าให้ภูรีฟังเรื่อง ความฝันที่จะสานฝันสร้างรองเท้าของแม่ เพราะแบบรองเท้าเป็นแบบที่พ่อเคยวาดไว้ให้แม่ ก่อนที่พ่อจะทิ้งแม่ไป ซึ่งตอนนี้พ่ออาจจะตายไปแล้วก็ได้ แต่พริมก็อยากทำเพื่อพ่อ ภูรีแปลกใจที่พริมไม่มีความรู้สึกโกรธเกลียดพ่อเลยแม้แต่นิดเดียว พริมบอกว่า… ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง อย่าเพิ่งไปโกรธเกลียดใครถ้ายังไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงของเขา ภูรีจึงเข้าใจพริมมากขึ้น แล้วความรักก็ก่อเกิดขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ
ทะเลแสนเค็มกำลังจะกลายเป็นทะเลแสนหวานสำหรับหัวใจของคนทั้งสอง แต่ทุกอย่างก็ต้องจบลงเมื่อเรือของเพื่อน ๆ ที่มาช่วยพวกเขามีวิกกี้คู่หมั้นของภูรีมาด้วย ! ….เพราะก่อนหน้านั้นบุสกรตามไปเอาเรื่องพงศกรที่คอนโด ขณะเดียวกันวิกกี้ก็ตามมาหาภูรีที่ภูเก็ต บุสกรและปริตาจึงรู้ความลับของหนุ่ม ๆ แล้ววิกกี้ก็ขอตามมาช่วยภูรีด้วย วิกกี้โผเข้าสวมกอดภูรีทันทีที่เห็นหน้า มันบาดเข้าไปในใจของพริม ยิ่งเธอรู้เรื่องจากบุสกรว่าความจริงแล้วภูรีเป็นลูกชายของนายหัวปรีชาเจ้าของคฤหาสน์ นั่นยิ่งสร้างความเสียใจและอับอายให้กับพริมเป็นอย่างมาก
พริมหนีกลับไปกรุงเทพฯ พร้อมกับบุสกรและปริตา โดยที่เธอก็ยังไม่รู้เรื่องที่ภูรีเป็นเจ้าของ P.Paul ภูรีก็เสียใจไม่น้อยที่พริมโกหกเขา…ภูรีจึงไม่คิดจะตามง้อพริม ทั้งที่ใจของเขาร่ำร้องหาเธอเสียเหลือเกิน พริมกับเพื่อน ๆ กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กรุงเทพฯ สามสาวตัดขาดจากหนุ่ม ๆ ทางด้านปริตาเองก็โกรธอินทัชที่อุตส่าห์ไว้ใจเขาถึงยอมเล่าทุกอย่างให้ฟัง ปริตากลายเป็นตัวตลกของเขา ขณะเดียวกันอินทัชก็แปลกใจตัวเอง ที่เขาเกิดความรู้สึกว่าอยากปรับความเข้าใจกับปริตามากกว่าพริม อินทัชยังไม่รู้ใจตัวเองว่าชอบปริตา เขาคิดแต่เพียงว่าอาจเป็นเพราะปริตาเป็นเพื่อนคุยที่ดีของเขา อินทัชไปง้อปริตาพร้อมกับภควัต ทำให้ปริตาใจอ่อนยอมคืนดี แต่ก็ยังไม่ยอมบอกว่าพริมอยู่ที่ไหน
ทางด้านพริมได้ไปสมัครงานกับ มอส เจ้าของออแกไนเซอร์ชื่อดัง แล้วได้ไปจัดงานอีเว้นท์ที่ห้างของบารมี ในงานเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นจากการที่พงศกรตามมาราวีพริม เพราะถึงพริมจะไม่ได้รวยจริง แต่เขาเกิดความรักพริมจริง ๆ ขึ้นมา เมื่ออยู่กับพริมเขาเกิดความอบอุ่นในหัวใจอย่างประหลาด อาจเป็นเพราะว่าพริมเป็นคนเดียวที่กล้าดุด่าตักเตือนเขา ไม่ใช่ตามใจเขาทุกอย่างเหมือนที่ครอบครัวเขาทำ และความวุ่นวายจากการตามง้อพริมของพงศกร ทำให้พริมได้บาดเจ็บ บารมีในฐานะเจ้าของห้าง และเป็นพ่อของพงศกร ก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการพาพริมไปส่งโรงพยาบาล และพาไปส่งที่บ้านพัก ทำให้บารมีได้เห็นรูปวาดรองเท้าที่เขาเคยวาดไว้ เมื่อครั้งยังรักกับพาพร..ผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ บารมีจึงรู้ความจริงว่าพริมคือลูกของพาพร เท่ากับว่าพริมเป็นลูกสาวของเขานั่นเอง !!
แต่บารมีไม่สามารถเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับพริมได้เพราะเขารู้จักพัชราดี ถ้าพัชรารู้เรื่องเข้าชีวิตของพริมจะไม่สงบสุขอีกเลย เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของพาพร ตอนนั้นบารมีถูกจับให้แต่งงานกับพัชราเพราะครอบครัวทั้งสองร่ำรวยเหมือนกัน แต่บารมีไม่ได้รักพัชราเลย เขารักพาพรหญิงสาวจิตใจดีแต่เธอเป็นแค่พนักงานในห้างของเขา ความรักของพวกเขาจึงถูกขัดขวาง จากครอบครัวและพัชรา…ผู้ไม่เคยยอมแพ้ใคร และบารมีก็ไม่ได้เข้มแข็งมากพอที่จะปกป้องคนรัก เขาเลือกที่จะทิ้งพาพรให้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยไม่รู้ว่าพาพรกำลังมีลูก !
หลังจากที่บารมีรู้ว่าพริมคือลูกของเขา บารมีก็แอบให้ความช่วยเหลือพริมมาโดยตลอด บารมีไปขอความช่วยเหลือจากภูรีเรื่องทำฝันของพริมให้เป็นจริง บารมีขอร้องภูรีว่าทุกอย่างต้องเป็นความลับ ภูรียินดีช่วยเพราะใจจริงเขาเองก็ชอบไอเดียในเรื่องดีไซน์รองเท้าของพริมมาตั้งแต่ที่อยู่ภูเก็ต แต่ภูรีไม่เข้าใจว่าทำไมบารมีจะต้องช่วยเหลือพริมมากขนาดนี้ พริมดีใจที่สุดในชีวิตที่ P.Paul ติดต่อให้เธอนำผลงานไปเสนอ อินทัชและภควัตรู้ดีว่า ใครคือเจ้าของ P.Paul แต่ไม่เคยมีใครบอกให้สาว ๆ รู้ตามคำขอของภูรี อินทัชอาสาช่วยสอนพริมใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบกราฟิกแทนที่จะเป็นแค่วาดรูป
บุสกรสาวห้าวมีงานเสริมอีกอย่างที่ภควัตไม่เคยคาดคิด คือเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิ วันหนึ่งบุสกรได้รับแจ้งให้ไปช่วยเก็บศพอุบัติเหตุที่อยู่ใกล้เคียง บุสกรกระชากกุญแจรถของภควัตแล้วจะขับออกไป ภควัตกระโดดขึ้นตามไปด้วยอารมณ์ตกใจ ภควัตก็เลยตกกระไดพลอยโจนได้ไปช่วยบุสกรเก็บศพ แต่แค่เห็นเลือดภควัตก็สลบเหมือด หลังจากนั้นมาบุสกรจึงเรียกภควัตว่า ใจตุ๊ด ภควัตต้องหาโอกาสลบคำสบประมาทนี้ เขายอมไปช่วยบุสกรเก็บศพบ่อย ๆ จนทำให้ภควัตได้รู้จักกับความสุขกับการเสียสละเพื่อคนอื่น แล้วความใกล้ชิดก็ทำให้ภควัตกับบุสกรเริ่มรู้สึกดีต่อกันจนกลายเป็นความรัก
แล้ววันสำคัญของพริมก็มาถึงคือเข้าไปพรีเซนต์รองเท้าที่บริษัท P.Paul โดยที่ภูรีไม่เข้าไป และคอยหลบหน้าพริม แต่โชคร้ายที่วิกกี้มาหาภูรีเข้าพอดี ทำให้พริมรู้ความจริงว่าเจ้าของ P.Paul คือภูรี ภูรีโกหกเธออีกแล้ว !!! ภูรีตามมาขอโทษพริมจนเขาเผลอพูดออกมาว่าบารมีให้เขาช่วยพริม พริมสงสัยว่าทำไมบารมีต้องทำแบบนี้ จึงร่วมมือกับบุสกรและปริตาหาทางสืบ แล้วก็ได้รู้ความจริงจากป้ารำไพ ที่เห็นรูปของบารมีว่า…บารมีเป็นพ่อของเธอ ! และวิกกี้กับพงศกรก็เป็นน้องต่างมารดาของเธอ พริมเคยคิดว่าที่พงศกรเคยบอกว่ารู้สึกอบอุ่นเวลาอยู่ใกล้พริมคงจะไม่ได้เป็นแค่คำหวานเลื่อนลอย แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากสายใยสายสัมพันธ์พี่น้องนั่นเอง พริมรู้สึกแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก เพราะเกิดมาเธอก็ไม่เคยมีพี่น้องเหมือนคนอื่น
ขณะเดียวกันพัชราก็สงสัยว่าบารมีจะเอาพริมเป็นเมียน้อย จึงหาเรื่องวีนบารมีอยู่เสมอ จนบารมีรำคาญหนีไปอยู่ที่คอนโด ทำให้พัชรายิ่งเข้าใจผิดคิดว่าบารมีไปขลุกอยู่กับเมียน้อยพัชรา สั่งให้นักสืบสืบประวัติของพริม พัชราจึงรู้ว่าพริมเป็นลูกสาวของพาพรมารหัวใจของเธอ !! พัชราก็สั่งให้บารมีเลือกระหว่างครอบครัวและนังลูกที่เกิดจากชู้ บารมีกลับเลือกพัชรา เพราะบารมีไม่อยากให้พริมเดือดร้อน แต่พริมไม่เข้าใจความรักที่เคยมีต่อพ่อสลายหายไป พริมกลายเป็นคนเกลียดพ่อไม่อยากแม้จะได้ยินชื่อของเขา พริมนำแฟ้มพรีเซนต์รองเท้าของตัวเองโยนทิ้ง และหยุดความฝันทั้งหมดไว้ให้ตายไปกับศรัทธาในตัวพ่อที่หมดไป
ภูรีสงสารพริมจับใจจึงพยายามจะเข้าไปให้กำลังใจพริม ไม่อยากให้พริมล้มเลิกสิ่งที่ตั้งใจ แต่ยิ่งพริมกับภูรีใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ วิกกี้ก็ยิ่งเสียใจและอาการก็แย่ลงมากขึ้น พัชราก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตพริมจนถึงขั้นขู่จะฆ่า และคิดจะกำจัดพริมที่เป็นมารหัวใจของวิกกี้ เหมือนกับที่ตนเคยกำจัดพาพรมารหัวใจออกไปจากชีวิตของบารมีได้สำเร็จ แม้บารมีจะไม่เคยมีหัวใจรักเธอเลย แต่เธอก็ยังได้ครอบครองบารมีเอาไว้อย่างผู้ชนะ ชีวิตของพริมกำลังตกอยู่ในอันตราย แถมความฝันเรื่องรองเท้าก็ยังมืดมน ความรักก็ยังสับสนยุ่งเหยิง ชีวิตของนางซินคนนี้จะจบอย่างไร ? ทั้งเรื่องหัวใจและความฝันจะพาเธอเดินไปถึงจุดหมายที่หวังไว้ได้หรือไม่ ? ต้องติดตามชมกัน
บทประพันธ์โดย : จันทริกา
บทโทรทัศน์โดย : ณัฐฐา
กำกับการแสดงโดย : รัฐกิตติ์ กิตติรัฐธนะโภคิน
นักแสดง
อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ รับบท ภูรี
พรีม-รณิดา เตชสิทธิ์ รับบท พริม
พีช-พชร จิราธิวัฒน์ รับบท ภควัต
มายด์-ฑาริกา อินสุวรรณ์ รับบท บุสกร
ภณ-ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์ รับบท อินทัช
ลีนา-ลลินา ชูเอ็ทท์ รับบท ปริตา
กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบท บารมี
น้ำฝน-สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ รับบท พัชรา
แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา รับบท วิกกี้
แก๊ป-จักริน ภูริพัฒน์ รับบท พงศกร
พลอย-ภัชธร ธนวัฒน์ รับบท วีรี
เจมส์-ภูวดล เวชวงศา รับบท แจ็ค
ขวัญ-ขวัญฤดี กลมกล่อม รับบท คุณณี
โจม-ศุกล ศศิจุลกะ รับบท คุณอัทธ์
ไก่-สุปราณี เจริญผล รับบท คุณขวัญ
กลิ้ง-กฤตย์ อัทธเสรี รับบท คุณภพ
นง-ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบท พ่อวีรี
ต้น-อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รับบท ชนะ
เอ-อนันต์ บุนนาค รับบท ปรีชา
แวร์ โซว รับบท นิสา
เคน สทรุทเคอร์ รับบท คุณพี
รงค์-จาตุรงค์ โพธาราม รับบท ลุงฟัก
เจเน็ต เขียว รับบท ป้ารำไพ
ครูมืด-ประสาท ทองอร่าม รับบท ลุงดำ
ท็อป-ดารณีนุช ปสุตนาวิน รับบท สมร
แอมแปร์-สุทธาทิพย์ วุฒิชัยประดิษฐ์ รับบท แองจี้
บับเบิล-กรกฏ พวงสวัสดิ์ รับบท มอส
แนนซี่-ดารินา บุญชู รับบท ใบเตย
เป๊ป-เขมิกา สุขประสงค์ดี รับบท นิดหน่อย
เปียเช่อร์ คริสเตนเซ่น รับบท พาพร
เสน่ห์รักนางซิน เป็นละครโทรทัศน์ แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ จากบทประพันธ์ของ จันทริกา ถูกนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์แล้ว 2 ครั้ง
ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2548 ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บทโทรทัศน์โดย ละลิตา ฉันทศาสตร์โกศล, ธนินทร อุชุภาพ, อุมาพร ภูชฎาภิรมย์ กำกับการแสดงโดย พีรพล เธียรเจริญ นำแสดงโดย เขตต์ ฐานทัพ, บัวชมพู ฟอร์ด, อัศนัย เทียนทอง, นาเดีย นิมิตรวานิช, กฤตภาศ ศักดิษฐานนท์, ปวีณา ตันท์ศรีสุโรจน์, เมย์ เฟื่องอารมย์
ครั้งที่สองปี พ.ศ. 2561 ผลิตโดย บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด บทโทรทัศน์โดย ณัฐฐา กำกับการแสดงโดย รัฐกิตติ์ กิตติรัฐธนะโภคิน นำแสดงโดย ธีรเดช เมธาวรายุทธ, รณิดา เตชสิทธิ์, พชร จิราธิวัฒน์, ฑาริกา อินสุวรรณ, ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์, ลลินา ชูเอ็ทท์, พิชชาภา พันธุมจินดา