‘ทาวดี’ นางพญานาคีตกอยู่ในห้วงรักกับพระทอง แต่พระทองหนีไปกับ ‘ปรางค์อุษา’ มนุษย์ผู้หญิงที่เขาตกหลุมรัก ทาวดีถูกจองจำในผารุ้ง และถูกลงโทษให้ต้องตาย ด้วยอัญมณีแห่ง ‘สร้อยนาคี’ หากออกไปตามหาพระทอง เวลาผ่านไป ทาวดีออกจากผารุ้งเพื่อไปตามความรักคืน พร้อมตามหาอัญมณีแห่งสร้อยนาคี… เพื่อกำจัดมันให้สิ้นก่อนคำสาปนั้นจะเป็นจริง ! เรื่องราวความรัก ความผิดหวัง ความแค้น ข้ามภพข้ามชาติ และโศกนาฏกรรมความรักของ ทาวดี นางนาคีผู้มีบารมีแกร่งกล้า แต่กลับมีมิจฉาทิฐิที่ยึดมั่นในความรัก จนเกิดเป็นความแค้นแบบข้ามภพข้ามชาติ
ละคร สร้อยนาคี 2566
ฉากเด็ด ละคร สร้อยนาคี 2566
อังกาบ (แคทรียา อิงลิช) แค้นใจที่ เจตน์ (อานัส ฬาพานิช) หนีไปแต่งงานกับ กานดา (สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา) ญาติห่าง ๆ ที่มีสถานะไม่ต่างจากคนรับใช้ในบ้าน ที่หมู่บ้านในหุบเขาของจังหวัดเพชรบูรณ์ อังกาบตามไป
แก้แค้น ระหว่างเดินทางกลับรถเกิดอุบัติเหตุพังยับเยิน แต่ร่างกายอังกาบไม่เป็นอะไร ร่างของเธอถูกนำเข้ากรุงเทพฯ แต่วิญญาณของเธอถูกทาวดีนำไปยังผารุ้ง
ทาวดี (ทิสานาฏ ศรศึก) นางนาคีแห่งนาคนคร ถูก เมฆา (ดอม เหตระกูล) จองจำไว้ในผารุ้ง เพราะตระบัดสัตย์ ไม่ยอมเข้าหอกับตน แต่กลับทอดกายให้ พระทอง (วรพล จินตโกศล) มนุษย์หนุ่มที่เรือแตกกลางทะเล ทาวดีกราบทูลเท็จต่อท้าวนาคาธิบดีว่าต้องการปฏิบัติธรรมและเป็นพรหมจรรย์ ท้าวนาคาธิบดีเป็นผู้ฝักใฝ่ในทางธรรม จึงมอบ “สร้อยนาคี” ให้ทาวดีไว้ป้องกันตัว
เมฆาสร้างอุบายแก้แค้นส่ง ปรางค์อุษา (ณัฐฌา บุญปอง) มาตามหาพระทอง ทั้งสองรักกันในทันทีและได้เสียกัน ในขณะที่ทาวดีไปบำเพ็ญเพียรที่ถ้ำทอง ทำทาวดีโกรธมาก ออกจากถ้ำทองมาฆ่าปรางค์อุษา แต่เมฆายกกองทัพมาช่วย ระหว่างต่อสู้กันนั้นพระทองกระชากสร้อยนาคีของทาวดีขาด อัญมณีร่วงลงสู่พื้นทรายแล้วหายไปทันที พระทองกับปรางค์อุษาว่ายน้ำหนีไปกลางทะเล แล้วก็ตัดสินใจกลั้นใจตายด้วยกัน เมฆาจองจำทาวดีไว้ในผารุ้ง และสาปว่าหากทาวดีหนีออกไปตามหาพระทองนางจะต้องตายด้วยสร้อยนาคีจากน้ำมือของพระทอง ชายที่นางรักเท่าชีวิต
ทาวดีใช้เวลานับพันปีบำเพ็ญเพียรในผารุ้งจนบารมีแก่กล้า จนสบโอกาสที่ได้พบกับอังกาบ ทาวดีต่อรองขอใช้ร่างอังกาบเพื่อตามหาพระทอง ในช่วงเวลาเดียวกันพ่อแม่ของอังกาบขอให้ หลวงพ่อดำ (รอง เค้ามูลคดี) ช่วยพาวิญญาณของอังกาบกลับมา หลวงพ่อดำช่วยอังกาบได้ แต่ขณะที่จะหลุดจากผารุ้งนั้น ทาวดีก็ตามติดมายังโลกมนุษย์ เมฆาอยู่ในร่างของมนุษย์โดยวิธีโอปปาติกะ ใช้ชื่อว่า คงคา มีอาชีพเป็นวิศวกร ด้วยความเป็นห่วง เหมือนหมาย (ศิรประภา สุขดำรงค์) ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ คงคาจึงเร่งปฏิบัติธรรมเพื่ออัญเชิญอัญมณีจากสร้อยนาคีมาเป็นอาวุธของตนก่อนที่ทาวดีจะได้ไป
อังกาบแม้จะรอดชีวิตแต่ดวงจิตที่ยังคิดแค้นกานดากับเจตน์ กลับเป็นดวงจิตที่เปิดรับจิตแห่งมารของทาวดีได้อย่างลงตัว อังกาบขอให้ทาวดีช่วยกำจัดกานดากับลูกในท้อง เธอยอมให้ทาวดีใช้ร่างชั่วคราว แลกเปลี่ยนกับการได้เข้าพิธีแต่งงานกับเจตน์ แต่ทาวดีกลับทำร้ายกานดาไม่ได้ ทาวดีสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างจากครรภ์ของกานดา
คืนวันแต่งงานเจตน์ไม่ยอมหลับนอนกับอังกาบ ทำให้เธอเสียใจมาก ยอมให้ทาวดีใช้ร่างของเธอเพื่อจะได้เป็นภรรยาของผู้ชายที่เธอรัก เธอคิดเพียงว่าหลังจากนี้จะหาทางกำจัดทาวดีให้ได้ อังกาบใช้ชีวิตกับเจตน์ไม่กี่วัน เจตน์ก็พากานดากับลูกกลับมาอยู่บ้าน อังกาบตัดสินใจกลับมาอยู่บ้าน และหาหมออาคมมากำจัดทาวดี แต่ก็พ่ายแพ้ทาวดีหมด ทาวดีทำร้ายอังกาบด้วยการนำวิญญาณของอังกาบไปจองจำไว้ในผารุ้ง และเธอก็ใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ในร่างของอังกาบ ทาวดีในร่างของอังกาบสั่งทุบศาลพระภูมิ แล้วให้สร้างศาลพญานาคขึ้นแทน โดยให้ ปุรเสน (ฐปนัท สัตยานุรักษ์) นาคเสนาผู้ซื่อสัตย์ มาสถิตแล้วคอยช่วยเหลือคนที่มาสักการะขอพร ยิ่งทาวดีช่วยคนตกทุกข์ได้ยากมากเท่าใด บารมีของทาวดีก็เพิ่มพูนขึ้นเท่านั้น
20 ปีผ่านไป บารมีที่ทาวดีช่วยเหลือผู้คนทำให้ร่างของอังกาบยังสวยสง่าไม่เปลี่ยนแปลง บุณิกา (ณัฐฌา บุญปอง) ลูกสาวของเจตน์กับกานดา เติบโตเป็นสาว ลูกชายของเหมือนหมาย เป็นหนุ่มหล่อ เรียนจบด้านการออกแบบเครื่องประดับ เขามีชื่อว่า ภุชงค์ (วรพล จินตโกศล) คืนหนึ่งเกิดอาเพศ ภุชงค์ฝันว่าจับมือหญิงสาวดิ่งลงสู่ก้นบึ้งทะเล เมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็ตัดสินใจกลับเมืองไทย อาเพศในคืนนั้นทำให้ทาวดีรับรู้ได้ว่าคนที่รอคอยมานานแสนนานนั้นใกล้จะปรากฏตัวแล้ว
ด้วยความที่ทาวดีเชื่อว่าบุณิกาคือปรางค์อุษา และด้วยบุพเพสันนิวาส บุณิกาก็ได้พบกับภุชงค์ ซึ่งก็คือพระทอง แม้กระทั่งในชาติภพปัจจุบันบุณิกากับภุชงค์ก็ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกเจอ ทาวดีผู้เฝ้ารอคนรักและการแก้แค้นมานานแสนนาน และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่นางนาคีได้พบกับคนที่เฝ้ารอ
แม้เธอจะรอคอยความรัก แต่ชีวิตหลายพันปีนั้นกลับอยู่ได้ด้วยความแค้น ศึกแห่งความรักและความแค้นของนางพญานาคีกับมนุษย์กำลังเริ่มต้น แต่จะลงเอยอย่างไร ติดตามค้นหาคำตอบไปพร้อมกันในละคร สร้อยนาคี
บทประพันธ์โดย : แรเงา
บทโทรทัศน์โดย : ภาคย์รพี
กำกับการแสดงโดย : ธีระศักดิ์ พรหมเงิน
ผลิตโดย : บริษัท มุมใหม่ จำกัด
นักแสดง
ทิสานาฏ ศรศึก รับบท ทาวดี
ณัฐฌา บุญปอง รับบท บุณิกา/ปรางค์อุษา
วรพล จินตโกศล รับบท ภุชงค์/พระทอง
แคทรียา อิงลิช รับบท อังกาบ
ดอม เหตระกูล รับบท คงคา/เมฆา
อานัส ฬาพานิช รับบท เจตน์
สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา รับบท กานดา
ณทรรศชัย จรัสมาส รับบท คัมภีร์
เฌอลีนน์ สตาฟฟี่ รับบท เอลิสา
ภัทรพงศ์ เวศกามี รับบท วิธาน
ฐปนัท สัตยานุรักษ์ รับบท ปุรเสน
รอง เค้ามูลคดี รับบท หลวงพ่อดำ
ทัช ณ ตะกั่วทุ่ง รับบท ธำรง
ศิริพิชญ์ วิมลโนช รับบท ชลาลัย
ปภัสรา เตชะไพบูลย์ รับบท คุณหญิงอร่าม
ปราบ ยุทธพิชัย รับบท บำรุง
ปัทมา ปานทอง รับบท เทียนส่อง
ตวงสิทธิ์ เรียมจินดา รับบท โอฬาร
ศิรประภา สุขดำรง รับบท เหมือนหมาย
ธิติวัฒน์ ธนวัฒน์ภัทร์กุล รับบท บุญยงค์