ปริศนาฆ่าเงียบ คดีหมอวิสุทธิ์ฆ่าหั่นศพภรรยา

คดีฆาตกรรมซ่อนเงื่อนสะเทือนขวัญ ที่ นพ.วิสุทธิ์ อดีตแพทย์โรงพยาบาลชื่อดัง ตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพภรรยา จนกลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อ 16 ปีก่อน และต้องต่อสู้ทางคดียาวนานถึง 6 ปี ก่อนที่ศาลฎีกาตัดสินประหารชีวิต นพ.วิสุทธิ์


ปริศนาฆ่าเงียบ คดีหมอวิสุทธิ์ฆ่าหั่นศพภรรยา

ขณะที่คดีของ นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ อดีตสูตินารีแพทย์ สังหารภรรยา คือ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ นั้นเกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 20 – 22 กุมภาพันธ์ 2544 โดยหมอวิสุทธิ์ ได้ว่างแผน หลอก ภรรยา ไปรับประทานอาหารใน ศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ สองต่อสอง โดยหมอวิสุทธิ์ได้ใช้ยานอนหลับผสมในอาหารและเครื่องดื่มให้ผู้ตายกินจนเกิดอาการง่วงนอน มึนงง แล้วประคอง พญ.ผัสพรออกจากห้องอาหารท่ามกลางสาธารณชน

ก่อนนำมากักขังไว้ที่ห้องพัก เลขที่ 318 อาคารวิทยนิเวศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วจึงเริ่มลงมือสังหาร ด้วยของแข็งมีคม จนทำให้ พญ.ผัสพรเสียชีวิต จากนั้นจึงค่อยผ่าตัดแล่ชิ้นเนื้อและอวัยวะ ไปซ่อนเร้นทำลายตามสถานที่ต่าง ๆ พร้อมปลอมหนังสือลางานและจดหมาย ยื่นต่อหัวหน้างาน บิดา มารดา และบุตรชายและบุตรสาว เพื่อให้บุคคลทั้งหมดหลงเชื่อว่า พญ.ผัสพร ไปประกอบศาสนกิจปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ ฝึกจิตใจ


การปิดฉากคดี หมอวิสุทธิ์ จากต้นจนจบ
ในปี 2550 ที่ผ่านมา มีคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่ศาลได้มีคำพิพากษาไปหลายคดี แต่ที่อยู่ในความสนใจที่สุดคงต้องยกให้คดีที่ ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต “ นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ ” อดีตสูตินรีแพทย์ รพ.จุฬาฯ จำเลยคดีฆ่าหั่นศพ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ อดีตสูตินรีแพทย์ รพ.บุรฉัตรไชยากร (รพ.รถไฟ) ภรรยาตัวเอง ปิดฉาก “ คดีพิศวาสฆาตกรรม ” ที่สังคมไทยเฝ้าติดตามมานานกว่า 6 ปี อ่านต่อ

คดีหมอวิสุทธิ์ ฆ่าเมีย โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เป็นคดีที่น่าศึกษา แม้ว่าจะมีการวางแผนฆาตกรรม มาเป็นอย่างดี ไม่พบศพ ไม่มีประจักษ์พยาน ฯลฯ มีแต่พยานวัตถุ พยานพฤติเหตุแวดล้อมกรณี และการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ผู้ต้องหาเป็นนายแพทย์ มีความรู้ ให้การปฎิเสธ แต่ก็ไม่พ้นกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ แต่ก่อน มักจะมีคำพูดเสมอว่า “สู้ความกับผี” ไม่เหมือนสู้ความกับคน สู้ความกับผีไม่มีทางติดคุก เพราะผี แม้จะเป็นประจักษ์พยานโดยตรง ก็ไม่สามารถมาให้การ หรือเบิกความได้ แต่ปัจจุบัน คำกล่าวนี้ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของโลกเราที่ยอมรับและศาลเชื่อและรับฟัง อ่านต่อ