ละคร อีสา รวีช่วงโชติ 2556 ในม่านหมอกแห่งกาลเวลา ย้อนรอยไปสู่สยามประเทศยุคต้นรัชกาลที่ 6 ณ ใจกลางวังหลวงอันวิจิตรตระการตา เรื่องราวของหญิงสาวกำพร้าผู้หนึ่งนาม “อีสา” ได้เริ่มต้นขึ้น เธอเติบโตภายใต้ร่มเงาของ”หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี” โดยหารู้ไม่ว่าโชคชะตาได้ขีดเขียนเส้นทางอันคดเคี้ยวไว้ให้เธอแล้ว จากหม่อมวัยเยาว์ที่ต้องพลัดพรากจากบุตรในครรภ์ สู่ชีวิตอิสระอันโลดโผนภายใต้ชื่อ “อุษา” นางละครผู้เลอโฉม และเจ้าของไนต์คลับที่มากรัก ทว่าเบื้องหลังความเร่าร้อนนั้น กลับเต็มไปด้วยบาดแผลแห่งหัวใจ โศกนาฏกรรม และสายสัมพันธ์ที่ถูกซ่อนเร้น… เธอจะค้นพบความหมายของชีวิตและความสุขที่แท้จริงได้หรือไม่ ในเมื่อทุกย่างก้าวล้วนถูกพันธนาการด้วยอดีตอันเจ็บปวด

ละคร อีสา รวีช่วงโชติ 2556 ละครแนวความรักดราม่าพีเรียด เรื่องราวเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 6 หลังการเลิกทาส “อีสา หรือ อุษา”  เป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตในวังของ “หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี รวีวาร” หลังจากแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก อีสาถูกเลี้ยงดูโดย “ป้าเจิม” ซึ่งทำงานในโรงครัวของวัง อีสาเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนของสังคมชั้นสูง ภายใต้การปกครองของ “หม่อมพริ้ม” เมียเอกของท่านชาย และหม่อมอื่น ๆ เช่น “หม่อมลำดวน” และ”หม่อมนิ่ม”

อีสาเป็นเด็กสาวที่มีความสวยงาม มีพรสวรรค์ในการร้องรำ และมีนิสัยเจ้าอารมณ์ อ่อนไหวง่าย เธอแอบชื่นชมท่านชายตั้งแต่วัยเด็ก เมื่ออายุ 16 ปี หม่อมนิ่มและหม่อมน้อยถวายตัวอีสาให้ท่านชาย ทำให้เธอกลายเป็นเมียน้อย ความสัมพันธ์นี้จุดชนวนความบาดหมางกับหม่อมพริ้ม ซึ่งมองว่าอีสาเป็นภัยต่อสถานะของตน อีสาคลอดลูกชายให้ท่านชาย แต่เด็กถูกยกให้หม่อมพริ้มเลี้ยงเป็นหม่อมราชวงศ์รวีช่วงโชติ โดยอีสาไม่มีสิทธิ์ในตัวลูก

เมื่อเวลาผ่านไป อีสาออกจากวังและใช้ชีวิตอย่างโลดโผน เธอมีความสัมพันธ์กับชายหลายคน รวมถึง “สมศักดิ์” ซึ่งเป็นรักที่ลึกซึ้งแต่เต็มไปด้วยอุปสรรค อีสากลายเป็นสาวใหญ่ชื่ออุษา อายุ 40 ปี เปิดไนท์คลับและมีชื่อเสียงในหมู่นักเที่ยว เธอร่ำรวยแต่ชีวิตเต็มไปด้วยความขัดแย้ง โดยเฉพาะกับ “โสภิตพิไล”  ลูกสาวที่แท้จริงของเธอ ซึ่งเข้าใจว่าอีสาเป็นเพียงญาติห่าง ๆ และรู้สึกไม่พอใจในพฤติกรรมของอีสา

เรื่องราวดำเนินไปด้วยความซับซ้อนของความรัก ความแค้น และการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี อีสาต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบาก รวมถึงความขัดแย้งกับหม่อมพริ้มและโสภิตพิไล ซึ่งนำไปสู่จุดไคลแมกซ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์และบทสรุปของโชคชะตา ละครสะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยกิเลส ความรัก โลภ โกรธ หลง และการต่อสู้เพื่อหาความหมายในชีวิต

สารบัญละคร

เรื่องราวเน้นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี การแข่งขันระหว่างหม่อมต่าง ๆ และความบาดหมางระหว่างอีสากับหม่อมพริ้ม การเติบโตของอีสาจากเด็กกำพร้าสู่สาวแรกรุ่นที่ถวายตัวให้ท่านชาย และกลายเป็นสาวใหญ่ที่เข้มแข็งแต่เต็มไปด้วยปมในใจ ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของละคร

จุดเริ่มต้น ชีวิตในวัง
อีสา (หรือสา) เกิดในสมัยรัชกาลที่ 6 หลังการเลิกทาสไม่นาน แม่ของสาเสียชีวิตจากภาวะตกเลือดหลังคลอดเพียงไม่กี่วัน ป้าเจิม (รัญญา ศิยานนท์) ซึ่งทำงานในโรงครัวของวังหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี รวีวาร รับเลี้ยงสา สาเติบโตในวังท่ามกลางสังคมชั้นสูงที่มีความซับซ้อน หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) มีภรรยาหลายคน ได้แก่ หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) เมียเอก, หม่อมลำดวน (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี), หม่อมนิ่ม (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) และหม่อมน้อย หม่อมทุกคนแข่งขันกันเพื่อให้กำเนิดลูกชายที่จะสืบทอดตราประจำตระกูลรวีวาร เนื่องจากท่านชายมีแต่ลูกสาว

เมื่อสาอายุ 16 ปี เธอสวยสะพรั่งและมีพรสวรรค์ในการร้องรำ ป้าเจิมพาสาไปฝากกับหม่อมนิ่มและหม่อมน้อยเพื่อฝึกรำ ในงานฉลองพระชนม์มายุครบ 4 รอบ (46 ปี) ของท่านชาย สาได้รำเป็นนางรจนาในตอน “นางรจนาเสี่ยงพวงมาลัย” และโปรยเสน่ห์จนท่านชายหลงใหล สาคล้องพวงมาลัยให้ท่านชาย และคืนนั้นสากลายเป็นหม่อมของท่านชาย

ชีวิตในฐานะหม่อมและโศกนาฏกรรม
ท่านชายหลงใหลสามาก เข้าบรรทมกับสาทุกคืน ทำให้หม่อมอื่น ๆ โดยเฉพาะหม่อมพริ้มอิจฉา สาตั้งครรภ์และคลอดลูกชายตามที่หวัง แต่หม่อมพริ้มขอเลี้ยงลูกชายของสา โดยอ้างว่าสาน้ำนมเป็นพิษและท่านชายต้องการให้สาคอยปรนนิบัติ สายอมให้ลูกชายไป โดยลูกชายได้รับการตั้งชื่อว่า หม่อมราชวงศ์รวีช่วงโชติ (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) และถูกเลี้ยงเป็นลูกของหม่อมพริ้ม สาไม่มีสิทธิ์ในตัวลูก

ท่านชายสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันในคืนที่บรรทมกับสา ทำให้วังแตกสลาย หม่อมพริ้มไม่ต้องการรับภาระเลี้ยงดูหม่อมอื่น ๆ และบ่าวไพร่ สั่งให้ทุกคนออกจากวัง เหลือเพียงป้าเจิมและสาที่ยังอยู่ในวังเพื่อเลี้ยงคุณชายรวีช่วงโชติและลูกสาวของหม่อมพริ้ม 3 คน รวมถึงคุณหญิงโสภาพรรณวดี (เต็มฟ้า กฤษณายุทธ)

ชีวิตนอกวังและความสัมพันธ์ใหม่
หม่อมพริ้มขายที่ดินรอบตำหนักใหญ่และปล่อยบ้านเล็กให้เช่า สาได้พบสมศักดิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) หนุ่มรูปงามที่มาเช่าบ้าน สมศักดิ์หว่านเสน่ห์ใส่สา แต่จริง ๆ แล้วเขาหลงรักคุณหญิงโสภาพรรณวดี ลูกสาวคนโตของหม่อมพริ้ม สาเสียใจแต่ยอมเป็นแม่สื่อให้สมศักดิ์ โดยส่งจดหมายรักและนัดพบระหว่างสมศักดิ์กับคุณหญิงโสภา

คุณหญิงโสภาหนีตามสมศักดิ์โดยมีสาคอยจัดการ หม่อมพริ้มโกรธมาก ประกาศตัดแม่ตัดลูกและขู่จับสากับสมศักดิ์เข้าคุก สมศักดิ์ผิดหวังเมื่อรู้ว่าคุณหญิงโสภาถูกตัดออกจากตระกูล ทำให้เขาไม่สามารถเกาะกินสมบัติได้ตามแผน ในช่วงสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ สมศักดิ์หางานไม่ได้ คุณหญิงโสภาและสาต้องอดอยาก สาคลอดลูกสาวชื่อ โสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) คุณหญิงโสภารับเลี้ยงโสภิตพิไลเป็นลูกเพื่อไม่ให้เป็นเด็กกำพร้า

ชีวิตนักร้องละครและความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
สาเห็นคณะละครชาตรีมาแสดงจึงสมัครเป็นนางเอก สำรวย (รัดเกล้า อามระดิษ) นักร้องจากคณะละครเห็นความสามารถของสา ชวนสาไปแสดงด้วย สากลับมาเป็นสาวสวยทรงเสน่ห์ สมศักดิ์เริ่มห่างจากคุณหญิงโสภาและหันมาติดพันสา วันหนึ่งสาเห็นหม่อมพริ้มมาชมละครจึงตกใจและลาออกจากคณะ

สมศักดิ์แอบมีความสัมพันธ์กับสาในคืนที่บรรยากาศเป็นใจ สาพยายามตีตัวออกห่างและพบวิทย์ (กันต์ดนย์ อะคาซาน) นักดนตรีในหลุมหลบภัย วิทย์ชวนสาเล่นละครชายจริงหญิงแท้ สายอมรับและย้ายคุณหญิงโสภา สมศักดิ์ และโสภิตพิไลไปอยู่กับป้าแป้น (ไปรมา รัชตะ) ที่คลองบางกอกน้อยเพื่อหนีสมศักดิ์

สมศักดิ์แอบมาหาสาและค้างคืนด้วยกัน คุณหญิงโสภาเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกันจึงเสียใจและฆ่าตัวตาย สาตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับวิทย์เพื่อหนีสมศักดิ์ สมศักดิ์เสียใจ ดื่มเหล้าจนเมาและตกน้ำตายที่เดียวกับคุณหญิงโสภา

ชีวิตใหม่และความร่ำรวย
สาย้ายไปอยู่กับวิทย์ แต่ชีวิตไม่ราบรื่นเพราะวิภา (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) พี่สาวของวิทย์รังเกียจสา วิทย์ไม่ยอมทำงานนอกจากเล่นไวโอลิน สาเริ่มเบื่อหน่ายและพบเซกิ (ณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา) พลเรือนญี่ปุ่นที่หลงรักสา เซกิมอบเงินก้อนใหญ่ให้สาก่อนกลับญี่ปุ่นเมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม สาเลิกกับวิทย์และกลับไปอยู่กับป้าแป้น

สาในวัย 40 ปี ใช้ชื่อ อุษา เปิดไนต์คลับด้วยเงินจากเซกิ ทำให้ร่ำรวยและมีชื่อเสียงในหมู่นักเที่ยว เธอมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับประธาน (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) หุ้นส่วนที่หวังเงินของสา แต่สาไม่เคยไว้ใจเขา โสภิตพิไล ลูกสาวแท้ ๆ ของสา กลับจากโรงเรียนประจำและเข้าใจว่าสาเป็นญาติห่าง ๆ โสภิตเกรงใจสาที่เลี้ยงดูแต่ไม่พอใจอาชีพเจ้าของไนต์คลับของสา ทำให้อับอายต่อเพื่อนฝูง

การพบลูกชายและความขัดแย้ง
สาพบหม่อมราชวงศ์รวีช่วงโชติ ลูกชายของตนที่เติบโตเป็นผู้พิพากษา สาดีใจและพยายามตีสนิทโดยชวนคุณชายมาที่ไนต์คลับ คุณชายถูกชะตากับสาและชื่นชมน้ำเสียงของเธอ ไม่รังเกียจที่สาทำงานในที่ที่คนดูถูก หม่อมพริ้มรู้ว่าคุณชายรวีติดพันสา จึงไปหาสาและห้ามไม่ให้สาบอกความจริงว่าสาเป็นแม่ของชายรวี สาให้คำสาบานว่าจะไม่บอก หม่อมพริ้มเห็นโสภิตพิไลและสงสัยว่าเป็นลูกของใคร สาจึงโกหกว่าสภิตเป็นลูกของคุณหญิงโสภา หม่อมพริ้มเสียใจที่คิดถึงลูกสาวที่จากไป

โศกนาฏกรรมของโสภิตพิไล
ประธานเมาและลวนลามโสภิตพิไล สาโมโหจนยิงประธานตายเพื่อปกป้องโสภิต สาถูกจับและไม่ยอมบอกเหตุผลเพื่อรักษาชื่อเสียงของโสภิต โสภิตรู้ว่าสาอาจถูกประหารจึงตัดสินใจเป็นพยานในศาล โดยเล่าความจริงทั้งหมด คุณชายรวี ผู้พิพากษาในคดีนี้ ยกฟ้องสา ทำให้สาเป็นอิสระ

หม่อมพริ้มกลัวสาจะแย่งคุณชายรวี จึงบอกโสภิตว่า สาไม่ใช่ญาติแต่เป็นบ่าวที่ชักนำให้แม่ของเธอหนีตามผู้ชาย โสภิตโกรธและเกลียดสา สาเสียใจที่ถูกพรากจากลูกทั้งสองและเกือบฆ่าตัวตาย แต่คิดถึงพระรัตนตรัยจึงหยุด

การบวชชีและการกลับมา
สาบวชเป็นชีเพื่อสงบจิตใจ แต่ไม่นานกิเลสก็ทำให้สาสึกออกมา สากลับไปกราบหม่อมพริ้มและเยี่ยมโสภิตที่หม่อมพริ้มรับเลี้ยงในฐานะหลานสาว โสภิตยังเย็นชากับสา คุณชายรวีรู้ว่าสาเป็นหม่อมของพ่อและยังคงดีกับสาต่อไป สาชวนใจสว่าง (ภัณฑิลา ปานสิริธนาโชติ) หลานสาวของป้าแป้นมาอยู่ด้วย และเลิกทำไนต์คลับ หันมาเปิดร้านทำผมตัดเสื้อเพื่อให้โสภิตไม่อับอาย

ความรักและการขัดขวาง
โสภิตมีความรักกับชิษณุ ลูกชายของคุณหญิงศุภลักษณ์ (ลูกสาวของหม่อมพริ้ม) สารู้ว่าโสภิตเป็นลูกสาวของตนและมีศักดิ์เป็นน้าแท้ ๆ ของชิษณุ จึงบอกความจริงกับคุณชายรวี โดยมีป้าแป้นเป็นพยาน คุณชายรวีบอกชิษณุ ทำให้ชิษณุเสียใจและหนีไปโคราช โสภิตตามไปและพบชิษณุกับคนรักเก่า เธอเสียใจ ดื่มเหล้าจนเกือบถูกทหารจีไอพาตัว แต่ปรมัตถ์ช่วยไว้ คุณชายรวีบอกความจริงว่าโสภิตเป็นลูกของสา ทำให้โสภิตช็อก

จุดไคลแมกซ์และบทสรุป
โสภิตประชดสาด้วยการยอมเป็นอนุภรรยาของ “ท่าน” เจ้านายของนายพลสันทนา (ภูธเนศ หงษ์มานพ) นายพลสันทนาหลงรักสาและให้เงินสาเปิดไนต์คลับอีกครั้ง คุณหญิงเฉิดฉวีรู้เรื่องจึงเป็นศัตรูกับสา คุณชายรวีจำใจแต่งงานกับสวาทโฉม ลูกสาวของนายพลสันทนาและคุณหญิงเฉิดฉวี เพื่อรักษาฐานะของตระกูลรวีวาร ทั้งสองไม่รักกันแต่แต่งงานเพราะหน้าที่

ยายเจิมป่วยหนักและหลุดปากว่าสาเป็นแม่ของชายรวี คุณชายรวีถามความจริงจากคุณหญิงศรีลักษณาและยอมรับสาโดยไม่รังเกียจ ยังคงรักหม่อมพริ้มเหมือนเดิม โสภิตหนีไปอยู่กับ “ท่าน” สาและคุณชายรวีพยายามห้ามแต่ไม่สำเร็จ หม่อมพริ้มด่าสาว่าเป็นตัวทำลายชื่อเสียงตระกูล

อีสาเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยกิเลส ความรัก ความเสียสละ และความผิดพลาด การแสดงของวรนุช ภิรมย์ภักดีถ่ายทอดการเติบโตของสาตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัย 40 ได้อย่างสมจริง ความสัมพันธ์ระหว่างสา หม่อมพริ้ม และโสภิตพิไลสะท้อนถึงความขัดแย้งในครอบครัวและการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร

เนื้อเรื่อง
ละคร อีสา รวีช่วงโชติ นำเสนอเรื่องราวที่เข้มข้นและซับซ้อน ผ่านชีวิตของตัวละครหลัก อีสา หรือ อุษา (วรนุช ภิรมย์ภักดี) เด็กกำพร้าที่เติบโตในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี และต้องเผชิญกับโชคชะตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความแค้น และการเสียสละ เนื้อเรื่องสะท้อนถึงกิเลสตัณหาและผลจากเลือกของตัวละครในบริบทสังคมไทยยุคเปลี่ยนผ่าน

อีสาไม่ใช่ตัวละครที่สมบูรณ์แบบ เธอมีทั้งความอ่อนแอและความเข้มแข็ง มีกิเลสและความเสียสละ ทำให้ตัวละครมีมิติและน่าสนใจ ความขัดแย้งในวังระหว่างหม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) และอีสา รวมถึงปมความสัมพันธ์ระหว่างอีสากับลูก ๆ (คุณชายรวีและโสภิตพิไล) สร้างความตึงเครียดและดึงดูดให้ติดตาม ละครถ่ายทอดบรรยากาศสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ดี สะท้อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่น การเลิกทาส ความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น และผลกระทบจากสงครามเศรษฐกิจ

การแสดง
การแสดงคือจุดแข็งที่สุดของละครเรื่องนี้ โดยเฉพาะนักแสดงนำ

→ วรนุช ภิรมย์ภักดี (อีสา/อุษา): วรนุชถ่ายทอดตัวละครอีสาได้อย่างยอดเยี่ยม ตั้งแต่สาวน้อยวัย 16 ที่สดใสและเปี่ยมเสน่ห์ ไปจนถึงสาวใหญ่ในวัย 40 ที่เต็มไปด้วยปมในใจและความเข้มแข็ง การแสดงของเธอทั้งด้านอารมณ์และภาษากายทำให้ผู้ชมเชื่อในตัวละคร
→ สินจัย เปล่งพานิช (หม่อมพริ้ม): สินจัยแสดงบทหม่อมพริ้มได้ทรงพลัง เป็นทั้งตัวร้ายที่น่าเห็นใจและผู้นำครอบครัวที่ปกป้องชื่อเสียงตระกูลอย่างเข้มแข็ง การปะทะอารมณ์ระหว่างวรนุชและสินจัยในหลายฉากเป็นไฮไลต์ของเรื่อง
→ มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ (โสภิตพิไล): มนชนกถ่ายทอดความเจ็บปวดและความสับสนของโสภิตได้ดี โดยเฉพาะฉากที่รู้ว่าอีสาคือแม่แท้ ๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความขัดแย้งในใจของตัวละคร
→ ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ (สมศักดิ์): ณวัฒน์แสดงบทสมศักดิ์ได้น่าหมั่นไส้และน่าสงสารในเวลาเดียวกัน ทำให้ตัวละครนี้มีมิติ
→ นักแสดงสมทบ: นักแสดงอย่าง รัญญา ศิยานนท์ (ป้าเจิม), ปนัดดา วงศ์ผู้ดี (หม่อมลำดวน), และไปรมา รัชตะ (ป้าแป้น) ช่วยเติมเต็มเรื่องราวให้สมบูรณ์

โปรดักชัน
→ งานภาพและฉาก: ละครทำฉากในวังและยุคสมัยรัชกาลที่ 6 ได้สวยงามและสมจริง การออกแบบฉากในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงระวีและไนต์คลับของอุษาในยุคหลังสงครามสะท้อนความแตกต่างของช่วงเวลาได้ดี
→ เครื่องแต่งกาย: เครื่องแต่งกายของตัวละคร โดยเฉพาะชุดของหม่อมและชุดรำของอีสาในวัยสาว มีความประณีตและเหมาะสมกับยุคสมัย ชุดของอุษาในวัย 40 ปีสะท้อนความเป็นสาวใหญ่ที่มีเสน่ห์ได้ดี
→ ดนตรีประกอบ: เพลงประกอบและดนตรีช่วยเสริมอารมณ์ได้ดี โดยเฉพาะฉากรำของอีสาและฉากดราม่าที่เน้นความเศร้าและความขัดแย้ง

การกำกับและบทโทรทัศน์
สันต์ ศรีแก้วหล่อกำกับฉากดราม่าและการปะทะอารมณ์ได้ดี โดยเฉพาะฉากที่อีสาต้องเผชิญหน้ากับหม่อมพริ้ม หรือฉากที่โสภิตพิไลรู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิด บทมีการดัดแปลงจากบทประพันธ์ให้ทันสมัยและเข้มข้นขึ้น แต่ยังคงรักษาแก่นของเรื่องไว้ บทสนทนามีความเป็นธรรมชาติและสะท้อนบุคลิกของตัวละคร เช่น ความเย่อหยิ่งของหม่อมพริ้มและความเจ้าอารมณ์ของอีสา

คะแนนรวม 8.5/10 (จาก sence9.com)

อีสา รวีช่วงโชติ เป็นละครที่ทรงพลังด้วยการแสดงชั้นยอดของวรนุช ภิรมย์ภักดีและสินจัย เปล่งพานิช เนื้อเรื่องที่เข้มข้นและสะท้อนความเป็นมนุษย์ทำให้ละครน่าติดตาม แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องในเรื่องความยืดเยื้อและตอนจบที่ค้างคา ละครเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบละครพีเรียดดราม่าที่เต็มไปด้วยปมขัดแย้งและการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี

หากชื่นชอบละครที่เน้นตัวละครหญิงเข้มแข็งและเรื่องราวที่มีทั้งความรักและโศกนาฏกรรม ละครเรื่องนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถหาดูย้อนหลังได้ทางแพลตฟอร์มสตรีมมิง 

ความตื่นเต้นและความลุ้นในช่วงเริ่มต้น
ในช่วงแรกของละคร ผู้ชมจะรู้สึกตื่นเต้นกับการนำเสนอชีวิตในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี ซึ่งเต็มไปด้วยความซับซ้อนและการแข่งขันระหว่างหม่อมต่าง ๆ การที่อีสา เด็กสาวกำพร้าที่เติบโตในวัง กลายเป็นที่โปรดปรานของท่านชายตั้งแต่อายุ 16 ปี ทำให้รู้สึกลุ้นว่าเธอจะก้าวผ่านความท้าทายในสังคมชั้นสูงได้อย่างไร การรำของอีสาในงานฉลองพระชนม์ของท่านชายเป็นฉากที่สวยงามและน่าประทับใจ สร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความสามารถและเสน่ห์ของตัวละคร

ความเห็นใจและสะเทือนใจกับโชคชะตาของอีสา
เมื่อเรื่องดำเนินไป ผู้ชมจะเริ่มรู้สึกเห็นใจอีสาอย่างมาก เธอต้องสูญเสียลูกชาย (หม่อมราชวงศ์รวีช่วงโชติ) ให้หม่อมพริ้มเลี้ยง และต่อมาเผชิญกับการสูญเสียท่านชายอย่างกะทันหัน ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ชีวิตของเธอพลิกผัน การที่อีสาต้องออกจากวังและเผชิญกับความยากลำบากในโลกภายนอก รวมถึงการถูกทรยศในความรักโดยสมศักดิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนใจและอยากเอาใจช่วยให้เธอผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้

ความขัดแย้งและความตึงเครียดจากปมดราม่า
ละครเต็มไปด้วยปมขัดแย้งที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกตึงเครียดและอินไปกับเรื่องราว โดยเฉพาะการปะทะระหว่างอีสากับหม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) ซึ่งเป็นตัวแทนของอำนาจและศักดิ์ศรีในวัง ฉากที่ทั้งสองเผชิญหน้ากันสร้างความรู้สึกเข้มข้นและลุ้นระทึก ผู้ชมอาจรู้สึกทั้งโกรธและเห็นใจหม่อมพริ้มในเวลาเดียวกัน เพราะเธอทำทุกอย่างเพื่อปกป้องชื่อเสียงตระกูล นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของอีสากับโสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) ลูกสาวที่ไม่รู้ว่าอีสาคือแม่แท้ ๆ ทำให้เกิดความรู้สึกหดหู่เมื่อเห็นความเข้าใจผิดและความเจ็บปวดของทั้งคู่

ความหลงใหลและความน่าสะพรึงกลัวของกิเลส
การที่อีสามีชีวิตที่โลดโผน ตั้งแต่การเป็นนางละคร ไปจนถึงการเป็นเจ้าของไนต์คลับในวัย 40 ปี ทำให้ผู้ชมรู้สึกหลงใหลในตัวตนของเธอที่ทั้งสวยงามและกล้าได้กล้าเสีย แต่ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของเธอกับชายหลายคน (สมศักดิ์, วิทย์, เซกิ, นายพลสันทนา) และการตัดสินใจที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม เช่น การตายของคุณหญิงโสภาและสมศักดิ์ ทำให้รู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของกิเลสและผลลัพธ์ที่ตามมา ผู้ชมอาจรู้สึกทั้งชื่นชมและกังวลต่อการเลือกของอีสา

ความประทับใจในฉากดราม่าและการแสดง
การแสดงของวรนุช ภิรมย์ภักดีในบทอีสาเป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกทึ่ง เธอถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงของตัวละครจากสาวน้อยไร้เดียงสาสู่สาวใหญ่ที่เต็มไปด้วยปมในใจได้อย่างน่าประทับใจ ฉากที่อีสาต้องเผชิญหน้ากับความจริงว่าโสภิตพิไลเกลียดเธอ หรือฉากที่เธอยิงประธานเพื่อปกป้องโสภิต ทำให้ผู้ชมรู้สึกน้ำตาคลอและอินไปกับความเสียสละของเธอ การปะทะคารมระหว่างวรนุชและสินจัยในบทหม่อมพริ้มเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่ทำให้รู้สึกขนลุกและชื่นชมฝีมือการแสดง

ความรู้สึกค้างคาและครุ่นคิดในตอนจบ
ตอนจบของละครอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกค้างคาและครุ่นคิด เพราะปมความสัมพันธ์ระหว่างอีสากับโสภิตพิไลและหม่อมพริ้มไม่ได้รับการคลี่คลายอย่างสมบูรณ์ ผู้ชมอาจรู้สึกเสียใจที่โสภิตเลือกหนีไปเป็นอนุภรรยาของ “ท่าน” และยังคงโกรธอีสาโดยไม่รู้ความจริงทั้งหมด ในขณะเดียวกัน การที่คุณชายรวี (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ยอมรับอีสาในฐานะแม่แท้ ๆ และยังคงรักหม่อมพริ้ม ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจและเห็นถึงมิติของความเมตตา อย่างไรก็ตาม ผู้ชมอาจรู้สึกว่าตอนจบเปิดกว้างเกินไป และอยากเห็นการสมานฉันท์ที่ชัดเจนกว่านี้

ความรู้สึกต่อบริบททางประวัติศาสตร์
ละครถ่ายทอดบรรยากาศของยุคสมัยรัชกาลที่ 6 และช่วงเปลี่ยนผ่านหลังสงครามได้อย่างน่าสนใจ ผู้ชมจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปสัมผัสชีวิตในวัง การแบ่งชนชั้น และผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ฉากที่อีสากลายเป็นนางละครหรือเจ้าของไนต์คลับทำให้รู้สึกถึงความก้าวหน้าของผู้หญิงในยุคนั้น แม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยการถูกตีตราจากสังคม

โดยรวมแล้ว ละคร อีสา รวีช่วงโชติ ทำให้ผู้ชมรู้สึกทางอารมณ์ ที่มีทั้งความตื่นเต้น ลุ้นระทึก สะเทือนใจ และครุ่นคิดถึงชีวิตของตัวละคร ละครเรื่องนี้ไม่เพียงแต่ให้ความบันเทิง แต่ยังชวนให้ฉุกคิดถึงผลของการตัดสินใจ ความรัก ความเสียสละ และการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีในสังคมที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด ผู้ชมอาจรู้สึกชื่นชมความแข็งแกร่งของอีสา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าใจกับโศกนาฏกรรมที่เธอต้องเผชิญ


ละคร อีสา รวีช่วงโชติ 2556

ละคร อีสา รวีช่วงโชติ 2556

ละคร อีสา รวีช่วงโชติ 2556 EP.1-38 ตอนจบone31​​​​​​

ละคร อีสา รวีช่วงโชติ 2556 EP.1-38 ตอนจบGMM25Thailand​​​​​​

อีสา (Ost.อีสา รวีช่วงโชติ) – แก้ม วิชญาณี 【OFFICIAL MV

รักแรกพบ (Ost.อีสา รวีช่วงโชติ) – คิว สุวีระ บุญรอด 【OFFICIAL MV】

ละคร อีสา รวีช่วงโชติ 2556

🎬 ย้อนยุคไปสมัยรัชกาลที่ 6 กับชีวิตสุดดราม่าของอีสา
ละครเรื่องนี้พาเราย้อนกลับไปยุคหลังเลิกทาส เรื่องราวของ อีสา หรือ อุษา (รับบทโดย นุ่น วรนุช) สาวน้อยกำพร้าที่ชีวิตพลิกผันจากเด็กในครัวของวัง กลายเป็นหม่อมของ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) และต้องเจอกับดราม่าหนัก ๆ ที่ทำให้เราน้ำตาแตก 😭

เริ่มจากจุดเริ่มต้นของอีสา
อีสากำพร้าตั้งแต่เด็ก แม่เสียเพราะตกเลือด ป้าเจิม (รัญญา ศิยานนท์) เลี้ยงดูมาในวังของท่านชาย ซึ่งมี หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) เป็นเมียเอกสุดยิ่งใหญ่ และหม่อมคนอื่น ๆ อีกเพียบ เช่น หม่อมลำดวน (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) และหม่อมนิ่ม (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) ทุกคนในวังแข่งกันสุดฤทธิ์เพื่อให้กำเนิดลูกชาย เพราะท่านชายมีแต่ลูกสาว 🥳

อีสากับโชคชะตาที่พีคสุด ๆ
พออีสาอายุ 16 สวยปิ๊ง ป้าเจิมเลยพาไปฝึกรำกับหม่อมนิ่ม งานฉลองวันเกิดท่านชาย 4 รอบ (46 ปี) อีสาได้รำเป็นนางรจนา โชว์สเต็ปโปรยเสน่ห์จนท่านชายหลงหัวปักหัวปำ! คืนนั้นแหละ อีสากลายเป็นหม่อมของท่านชายไปเลย 💃 แต่ชีวิตไม่ได้สวยงามขนาดนั้น เพราะหม่อมพริ้มและหม่อมคนอื่น ๆ อิจฉาอีสาสุด ๆ 😤

ดราม่าพุ่ง ลูกชายถูกพราก
อีสาตั้งท้องและคลอดลูกชายตามฝัน แต่หม่อมพริ้มขอเลี้ยงเด็กเป็นลูกตัวเอง อีสาน้ำนมเป็นพิษ แถมท่านชายก็หลงอีสาหนักมาก เลยยอมให้ลูกไป อีสาเลยต้องเสียลูกชาย (คุณชายรวีช่วงโชติ) ไปแบบเจ็บปวด 😢 แต่เรื่องยังไม่จบ ท่านชายดันสิ้นพระชนม์ในคืนที่อยู่กับอีสา วังแตก! หม่อมพริ้มสั่งให้ทุกคนออกจากวัง เหลือแค่อีสากับป้าเจิมที่ต้องอยู่เลี้ยงคุณชายรวีและลูกสาวของหม่อมพริ้ม

ชีวิตนอกวัง ดราม่าหนักยิ่งกว่า
อีสาออกจากวัง เจอ สมศักดิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) หนุ่มหล่อที่มาหว่านเสน่ห์ แต่ดันไปปิ๊ง คุณหญิงโสภา (เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) ลูกสาวหม่อมพริ้ม อีสาแอบชอบสมศักดิ์ แต่รู้ตัวว่าท้องลูกท่านชาย เลยยอมเป็นแม่สื่อให้ทั้งคู่ เรื่องวุ่นวายสุดเมื่อคุณหญิงโสภาหนีตามสมศักดิ์ โดยมีอีสาคอยช่วย หม่อมพริ้มโกรธจัด ตัดแม่ตัดลูก และขู่จับอีสากับสมศักดิ์เข้าคุก 😱

โศกนาฏกรรมมาเต็ม
สมศักดิ์หลอกพาคุณหญิงโสภาเพราะหวังสมบัติตระกูล แต่สุดท้ายล้มเหลว ช่วงสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ ทุกคนอดอยาก อีสาคลอดลูกสาวชื่อ โสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) คุณหญิงโสภารับเลี้ยงเด็ก อีสาหันไปเป็นนางละครชาตรี สวยปังจนได้เป็นนางเอก แต่สมศักดิ์ยังตามตื๊อ และในคืนที่อารมณ์พาไป อีสากับสมศักดิ์ลักลอบมีความสัมพันธ์กัน 😲 คุณหญิงโสภารู้เข้า เสียใจจนฆ่าตัวตาย สมศักดิ์ก็เมาตกน้ำตายตามไป โอ้โห ดราม่าสุด

อีสากับชีวิตใหม่ในฐานะอุษา
อีสาแต่งงานกับ วิทย์ (กันต์ดนย์ อะคาซาน) นักดนตรี แต่ชีวิตไม่รุ่ง เพราะวิภา พี่สาววิทย์รังเกียจ อีสาเลยเลิกกับวิทย์ ไปเจอ เซกิ (ณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา) พลเรือนญี่ปุ่นที่ให้เงินก้อนโตก่อนกลับญี่ปุ่น อีสาเลยใช้เงินเปิดไนต์คลับ กลายเป็น อุษา สาวใหญ่สุดแซ่บวัย 40 คลับปัง คนแน่นทุกวัน แต่ชีวิตก็ยังวุ่นเมื่อเจอ ประธาน (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) หุ้นส่วนที่หวังเงินและแอบปิ๊งโสภิตพิไล ลูกสาวของอีสา

ปมดราม่าพีคสุด
อีสาเจอ คุณชายรวีช่วงโชติ (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) ลูกชายตัวเองที่โตเป็นผู้พิพากษา เธอพยายามตีสนิทแต่ไม่กล้าบอกว่าตัวเองคือแม่ เพราะหม่อมพริ้มห้ามไว้ โสภิตพิไลที่คิดว่าอีสาเป็นแค่ญาติห่าง ๆ ก็เริ่มไม่พอใจอาชีพเจ้าของไนต์คลับของอีสา เรื่องพีคสุดเมื่อประธานเมาลวนลามโสภิต อีสาโมโหคว้าปืนยิงประธานตาย 😱 อีสาถูกจับ แต่โสภิตเป็นพยานช่วยในศาล ซึ่งผู้พิพากษาคือคุณชายรวี สุดท้ายคดีถูกยกฟ้อง อีสาเป็นอิสระ แต่หม่อมพริ้มกลัวอีสาจะแย่งลูกชาย เลยบอกโสภิตว่าอีสาคือบ่าวที่ทำให้แม่เธอหนีตามผู้ชาย โสภิตโกรธเกลียดอีสาเลย

ตอนจบสุดสะเทือนใจ
อีสาเสียใจที่ถูกโสภิตเกลียด เกือบฆ่าตัวตาย แต่คิดถึงพระรัตนตรัยเลยบวชเป็นชี แต่ก็ทนไม่ไหว สึกออกมา อีสากลับไปวังเพื่อกราบหม่อมพริ้มและเยี่ยมโสภิต แต่โสภิตยังเย็นชา คุณชายรวีรู้ว่าอีสาคือหม่อมของพ่อ และยังคงเมตตาเธอ อีสาเลิกทำไนต์คลับ หันมาเปิดร้านทำผมเพื่อให้โสภิตไม่อาย แต่โสภิตประชดด้วยการยอมเป็นอนุภรรยาของ “ท่าน” เจ้านายของ นายพลสันทนา (ภูธเนศ หงษ์มานพ) ที่หลงรักอีสาด้วย! คุณชายรวีต้องแต่งงานกับสวาทโฉมเพื่อตระกูล แต่ไม่มีความสุข สุดท้าย คุณชายรู้ว่าอีสาคือแม่แท้ ๆ แต่ก็ยังรักหม่อมพริ้มเหมือนเดิม อีสาพยายามช่วยโสภิต แต่เรื่องจะจบยังไง ต้องไปดูเองนะ 😜

ละครเรื่องนี้คือสุดยอดดราม่าพีเรียด การแสดงของนุ่น วรนุชและพี่นก สินจัย คือระดับเทพ ฉากรำของอีสา ฉากปะทะอารมณ์ ทำเอาน้ำตาไหลพราก 😭 เนื้อเรื่องเข้มข้น มีทั้งรัก แค้น เสียสละ และโศกนาฏกรรม แต่อาจจะมีบางช่วงยืด ๆ และตอนจบค้างคานิดนึง ใครชอบละครที่อินหนัก ๆ ต้องไปดูเลย

เบื้องหลังความปังของละครสุดดราม่า “อีสา รวีช่วงโชติ” (2556) มาดูกันว่าใครเป็นคนเนรมิตละครเรื่องนี้ให้กลายเป็นตำนาน 

เริ่มที่ต้นกำเนิดของเรื่อง

%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2001
หม่อมหลวงศรีฟ้า ลดาวัลย์

ละคร อีสา รวีช่วงโชติ มาจาก บทประพันธ์ ของ สีฟ้า หรือ หม่อมหลวงศรีฟ้า ลดาวัลย์ นั่นเอง 📖 เธอคือสุดยอดนักเขียนที่สร้างเรื่องราวสุดเข้มข้น ผสมความพีเรียด ดราม่า และกิเลสตัณหาได้แบบถึงใจ เรื่องนี้พาเราย้อนไปสมัยรัชกาลที่ 6 ชีวิตของอีสาที่เต็มไปด้วยรัก แค้น และโศกนาฏกรรม เรียกว่าบทต้นฉบับปังมากกก 😍

คนแปลงบทให้ลงจอ

line 490517431911476 01
ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์

จากบทประพันธ์สุดยอด ต้องยกให้ ศิริลักษณ์ ศรีสุคนธ์ ที่มาปรับเป็น บทโทรทัศน์ ให้เข้ากับละครทีวี ✍️ เธอเก่งสุด ๆ ในการถ่ายทอดความดราม่าและตัวละครที่มีมิติ อย่างอีสา (นุ่น วรนุช) และหม่อมพริ้ม (นก สินจัย) ที่ปะทะกันจนไฟลุก บทสนทนาในเรื่องนี้คือทั้งคมคายและอินมาก ทำเอาเรานั่งลุ้นตัวโก่งทุกตอน 🔥

ผู้กำกับที่ทำให้ทุกฉากปัง

1 9
สันต์ ศรีแก้วหล่อ

มากันที่ สันต์ ศรีแก้วหล่อ ผู้กำกับตัวพ่อ 🎥 เขาคือคนที่เนรมิตให้ละครเรื่องนี้มีทั้งความสวยงามแบบพีเรียดและความเข้มข้นของดราม่า ฉากรำของอีสาในวัง หรือฉากปะทะอารมณ์ระหว่างอีสากับหม่อมพริ้ม คือจัดเต็ม สันต์เค้นการแสดงจากนักแสดงได้แบบสุดพลัง ทำเอาผู้ชมน้ำตาแตกไปหลายรอบเลย 😭

บิ๊กบอสแห่งการผลิต

DSCF8285
ถกลเกียรติ วีรวรรณ

เบื้องหลังความสำเร็จนี้ต้องยกเครดิตให้ ถกลเกียรติ วีรวรรณ และ นิพนธ์ ผิวเณร สองโปรดิวเซอร์ใหญ่ที่ควบคุมการผลิต 👑 ทั้งคู่เป็นหัวเรือใหญ่ที่ทำให้ทุกอย่างเป๊ะปัง ตั้งแต่ฉาก costume ไปจนถึงการคัดเลือกนักแสดง งานนี้เลยออกมาคุณภาพคับจอ

230206120219695
นิพนธ์ ผิวเณร

และที่ขาดไม่ได้คือ บริษัท เอ็กแซ็กท์-ซีนริโอ จำกัด ค่ายยักษ์ใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องละครพีเรียดสุดปัง 🏰 พวกเขาจัดเต็มทั้งโปรดักชันและรายละเอียด ทำเอาละครเรื่องนี้กลายเป็นตำนานที่แฟน ๆ ยังพูดถึงจนถึงทุกวันนี้

“อีสา รวีช่วงโชติ” ปังไม่ไหวเพราะทีมงานระดับเทพ จากบทประพันธ์ของ สีฟ้า ที่เข้มข้น สู่บทโทรทัศน์ของ ศิริลักษณ์ ที่ดราม่าจัดเต็ม กำกับโดย สันต์ ศรีแก้วหล่อ ที่เนรมิตทุกฉากให้ตราตรึง และอำนวยการผลิตโดย ถกลเกียรติ กับ นิพนธ์ จาก เอ็กแซ็กท์-ซีนริโอ ทีมนี้คือที่สุดของวงการละครไทย 🙌 ใครที่ยังไม่ได้ดู ต้องไปหาดูย้อนหลังเลยนะ รับรองติดงอมแงม 😍

นักแสดง

→ วรนุช ภิรมย์ภักดี รับบท สา (อุษาวดี)

dFQROr7oWzulq5Fa3zPd16fRkgVSaML7CGK8fA1jMwYlKFRgv7ceor4g6iIUmsqE5nK
วรนุช ภิรมย์ภักดี

นุ่น วรนุช ในบท อีสา หรือ อุษาวดี คือตัวละครที่พีคสุดในละครพีเรียดดราม่าสมัยรัชกาลที่ 6 อีสาเริ่มจากสาวน้อยกำพร้าที่เติบโตในวังของหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี ด้วยความสวยปิ๊งและพรสวรรค์ในการรำ อายุแค่ 16 ปี เธอก็โปรยเสน่ห์จนท่านชายหลงรัก กลายเป็นหม่อม 😍 แต่ชีวิตไม่ได้สวยหรู เพราะอีสาต้องเจอดราม่าหนัก ๆ ตั้งแต่เสียลูกชายให้หม่อมพริ้ม ไปจนถึงออกจากวัง กลายเป็นนางละคร และสุดท้ายเป็น อุษา สาวใหญ่เจ้าของไนต์คลับสุดแซ่บวัย 40 💃

อีสาเป็นตัวละครที่มี มิติสุด ๆ เธอทั้งสวย ฉลาด กล้าได้กล้าเสีย แต่ก็อ่อนไหว เจ้าอารมณ์ และตกหลุมรักง่าย ทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความผิดพลาดและโศกนาฏกรรม เช่น การสูญเสียคุณหญิงโสภาและความสัมพันธ์ที่พังกับโสภิตพิไล ลูกสาวแท้ ๆ ที่ไม่รู้ว่าเธอคือแม่ 😭 อีสาต้องต่อสู้กับกิเลส ความรัก และการพยายามไถ่บาป แถมยังต้องรับมือกับความเกลียดชังจากหม่อมพริ้มและสังคมที่ตีตราว่าเธอต่ำต้อย เรียกว่าชีวิตดราม่าจัดเต็ม แต่ก็ยังสู้ไม่ถอย

ฉายา “นางพญาแห่งกิเลส”
เพราะเธอคือตัวแทนของผู้หญิงที่ทั้งงดงามและเปราะบาง เธอมีเสน่ห์ที่ดึงดูดทุกคน แต่ก็ตกเป็นทาสของความรักและกิเลสซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะรักท่านชาย สมศักดิ์ หรือแม้แต่เซกิ อีสาคือสาวแกร่งที่กล้าทำตามใจ แต่ก็ต้องจ่ายราคาแพงจากความหลงผิด 🔥

ข้อคิด “การยอมรับความผิดพลาดคือก้าวแรกสู่การเปลี่ยนแปลง”
จากชีวิตของอีสา ข้อคิดที่ได้คือ ไม่ว่าเราจะพลาดหรือหลงทางไปไกลแค่ไหน ถ้าเรากล้ายอมรับความผิดและพยายามแก้ไข ชีวิตก็ยังมีโอกาสเริ่มใหม่ได้ อีสาพยายามไถ่บาปด้วยการปกป้องโสภิตพิไลและยอมเสียสละเพื่อลูก ๆ แม้จะต้องเจ็บปวดที่ไม่ได้รับการยอมรับ เธอยังคงสู้ต่อ แม้จะบวชชีแล้วสึกออกมา แต่สุดท้ายก็เลือกเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการเลิกทำไนต์คลับเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของลูกสาว ข้อคิดนี้สอนให้เรากล้าที่จะเผชิญหน้ากับอดีตและก้าวไปข้างหน้า 💪

อีสา (นุ่น วรนุช) คือตัวละครที่ทั้งแซ่บ ดราม่า และน่าสงสาร ฉายา “นางพญาแห่งกิเลส” เพราะชีวิตเธอคือการต่อสู้ระหว่างความรักและความผิดพลาด ส่วนข้อคิดคือ “ยอมรับความผิดเพื่อเริ่มใหม่”

→ สินจัย เปล่งพานิช รับบท หม่อมพริ้ม

104a0af0 778f 11ed bdcb 6d447a591595 webp original
สินจัย เปล่งพานิช

พี่นก สินจัย ในบท หม่อมพริ้ม คือตัวละครที่ทรงพลังสุด ๆ ในละครพีเรียดดราม่าสมัยรัชกาลที่ 6 หม่อมพริ้มเป็น เมียเอก ของ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) เธอคือผู้นำของวังที่มีทั้งความสง่างามและความเข้มแข็ง เป็นผู้หญิงที่ยึดมั่นในเกียรติยศและชื่อเสียงของตระกูลรวีวารเหนือสิ่งอื่นใด 👑

หม่อมพริ้มต้องรับมือกับการแข่งขันในวังจากหม่อมอื่น ๆ และดราม่าสุดเข้มเมื่อ อีสา (นุ่น วรนุช) สาวน้อยกำพร้าที่กลายเป็นหม่อมของท่านชายและคลอดลูกชาย ซึ่งหม่อมพริ้มขอมาเลี้ยงเป็น คุณชายรวีช่วงโชติ เพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเอง เธอทั้งรักและหวงแหนคุณชายรวีราวกับลูกแท้ ๆ แต่เมื่อท่านชายสิ้นพระชนม์ วังแตกสลาย หม่อมพริ้มต้องบริหารจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง และยังต้องเผชิญหน้ากับอีสาที่กลับมาในฐานะ อุษา สาวใหญ่เจ้าของไนต์คลับ 😱

หม่อมพริ้มเป็นตัวละครที่มี มิติลึกซึ้ง เธอเป็นทั้งตัวร้ายที่น่าเห็นใจและแม่ที่ปกป้องลูก ๆ อย่างสุดชีวิต การปะทะกับอีสาในหลายฉากคือพีคสุด เธอเข้มงวด เย่อหยิ่ง แต่ก็มีมุมอ่อนไหว โดยเฉพาะเมื่อเสีย คุณหญิงโสภา ลูกสาวที่หนีตามผู้ชาย และเมื่อรู้ว่า โสภิตพิไล เป็นลูกของโสภา เธอก็อยากรับมาเลี้ยงเพื่อชดเชยความผิดในอดีต เรียกว่าหม่อมพริ้มคือตัวละครที่ทั้งน่าเกรงขามและน่าสงสาร 😢

ฉายา “ราชินีแห่งศักดิ์ศรี”
เพราะเธอคือสัญลักษณ์ของความสง่างามและการปกป้องเกียรติตระกูล ไม่ว่าสถานการณ์จะหนักแค่ไหน เธอก็ยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งเพื่อรักษาชื่อเสียงของตระกูลรวีวาร แม้ว่าจะต้องเสียสละความสัมพันธ์กับลูกสาวหรือทำร้ายจิตใจอีสาก็ตาม เธอคือราชินีที่ไม่มีวันยอมแพ้ 👸

ข้อคิด “ความยึดมั่นในเกียรติยศอาจทำให้สูญเสียความรัก”
จากตัวละครหม่อมพริ้ม ข้อคิดที่ได้คือ การยึดติดกับชื่อเสียงและศักดิ์ศรีมากเกินไปอาจทำให้เราสูญเสียความสัมพันธ์ที่สำคัญ หม่อมพริ้มปกป้องตระกูลจนถึงขั้นตัดขาดคุณหญิงโสภา และห้ามอีสาเปิดเผยว่าเป็นแม่ของคุณชายรวีและโสภิตพิไล สิ่งนี้ทำให้เธอต้องสูญเสียโอกาสในการสมานฉันท์กับคนที่เธอรัก ข้อคิดนี้เตือนใจว่า บางครั้งการปล่อยวางและให้อภัยอาจนำมาซึ่งความสุขที่ยิ่งใหญ่กว่า 💖

หม่อมพริ้ม (พี่นก สินจัย) คือตัวละครที่ทั้งเข้มแข็งและน่าเห็นใจ ฉายา “ราชินีแห่งศักดิ์ศรี” เพราะเธอปกป้องตระกูลด้วยชีวิต! ข้อคิดคือ “อย่ายึดติดกับเกียรติยศจนเสียความรัก” การแสดงของพี่นกคือระดับตำนาน ฉากปะทะกับนุ่น วรนุชคือไฟลุก

→ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ รับบท หม่อมเจ้าโชติช่วงรวี

IMG 8941
ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์

พี่ธีรพงศ์ในบท หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ท่านชาย คือตัวละครที่เป็นจุดศูนย์กลางของวังและความดราม่าในละครพีเรียดสมัยรัชกาลที่ 6 ท่านชายเป็นเจ้าแห่งวังรวีวาร ผู้สูงศักดิ์ สง่างาม และมีเสน่ห์สุด ๆ 😎 เขามีเมียเอกอย่าง หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) และหม่อมอื่น ๆ อีกเพียบ เช่น หม่อมลำดวน (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) และหม่อมนิ่ม (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) แต่ท่านชายยังไม่มี ลูกชาย ที่จะสืบทอดตระกูล ทำให้ทุกคนในวังลุ้นกันตัวโก่ง

ท่านชายเป็นคนที่มี บุคลิกหล่อเหลาและอ่อนโยน แต่ก็เปราะบางในเรื่องความรัก เมื่อเจอ อีสา (นุ่น วรนุช) สาวน้อยวัย 16 ที่รำสวย ๆ ในงานฉลองวันเกิดครบ 4 รอบ (46 ปี) ของเขา ท่านชายก็หลงหัวปักหัวปำเลย 💖 อีสากลายเป็นหม่อมที่ท่านชายโปรดปรานสุด ๆ ถึงขั้นไปนอนด้วยทุกคืน จนทำให้หม่อมพริ้มและหม่อมอื่น ๆ อิจฉาหนักมาก 😤 แต่ชีวิตของท่านชายก็จบลงแบบช็อกคนดู เมื่อสิ้นพระชนม์กะทันหันในคืนที่อยู่กับอีสา ทำเอาวังแตกและกลายเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมในเรื่อง 😢

ถึงบทของท่านชายจะไม่ได้ยาวมาก แต่ก็เป็นตัวละครที่ ทรงอิทธิพล เพราะทุกการกระทำของเขาส่งผลต่อชะตากรรมของตัวละครอื่น ๆ โดยเฉพาะอีสาและคุณชายรวีช่วงโชติ ลูกชายที่เกิดจากอีสา

ฉายา “เจ้าชายแห่งเสน่ห์”
เพราะหม่อมเจ้าโชติช่วงระวีคือหนุ่มหล่อสุดพลังที่มีเสน่ห์ดึงดูดทุกคนในวัง 😍 ไม่ว่าจะเป็นหม่อมพริ้มที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเขา หรืออีสาที่ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็น ความสง่างามและความอ่อนโยนของท่านชายทำให้ทุกคนหลงใหล แต่เสน่ห์นี้ก็มาพร้อมกับความเปราะบางที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม 💔

ข้อคิด “ความหลงใหลอาจนำพาความสูญเสีย”
จากตัวละครหม่อมเจ้าโชติช่วงระวี ข้อคิดที่ได้คือ ความหลงใหลในความรักหรือกิเลส ถ้าไม่ควบคุมให้ดี อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เจ็บปวด ท่านชายหลงรักอีสาจนลืมความรับผิดชอบต่อวังและหม่อมอื่น ๆ สุดท้ายการสิ้นพระชนม์ของเขาทำให้วังแตกสลายและคนที่รักเขาต้องเผชิญกับความยากลำบาก ข้อคิดนี้เตือนใจว่า ความรักต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ มิฉะนั้นอาจทำร้ายทั้งตัวเองและคนรอบข้าง 💡

หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (พี่ธีรพงศ์) คือตัวละครที่หล่อ สง่า และมีเสน่ห์จัดเต็ม ฉายา “เจ้าชายแห่งเสน่ห์” เพราะเขาดึงดูดทุกคน แต่ความหลงใหลของเขาก็พาดราม่ามาเต็ม ข้อคิดคือ “ความหลงใหลที่ขาดการควบคุมอาจนำไปสู่ความสูญเสีย” การแสดงของพี่ธีรพงศ์คือปังมาก ถึงบทจะสั้นแต่จำได้ทุกฉาก

→ ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ รับบท สมศักดิ์

ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์

ณวัฒน์ในบท สมศักดิ์ คือตัวละครที่ทำให้คนดูทั้งรักทั้งหมั่นไส้ 😤 สมศักดิ์เป็นหนุ่มหล่อสุดชาร์มที่โผล่เข้ามาในชีวิตของ อีสา (นุ่น วรนุช) ตอนที่เธอออกจากวังมาอยู่ในโลกภายนอก เขาเป็นผู้เช่าบ้านใกล้วังที่หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) ปล่อยให้เช่า สมศักดิ์มีปากหวาน หว่านเสน่ห์เก่งสุด ๆ จนอีสาแอบเคลิ้ม 😍 แต่ความจริงคือสมศักดิ์ไม่ได้ปิ๊งอีสา เขากลับไปหลงรัก คุณหญิงโสภาพรรณวดี (เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) ลูกสาวคนโตของหม่อมพริ้ม เพราะหวังเกาะตระกูลใหญ่เพื่อสมบัติ 🤑

สมศักดิ์ชวนคุณหญิงโสภาหนีตามกัน โดยมีอีสาคอยเป็นแม่สื่อ แต่แผนพังเมื่อหม่อมพริ้มตัดแม่ตัดลูกและขู่จับเข้าคุก 😱 สมศักดิ์เลยต้องจำใจเลี้ยงดูคุณหญิงโสภาในช่วงสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งเขาหางานไม่ได้ ชีวิตย่ำแย่สุด ๆ อีสาพยายามเคี่ยวเข็ญให้เขาสู้ แต่สมศักดิ์กลับยิ่งแย่ แถมยังแอบมีความสัมพันธ์กับอีสาในคืนที่อารมณ์พาไป😲 ผลคือคุณหญิงโสภาเสียใจจนฆ่าตัวตาย และสมศักดิ์เองก็จมดิ่ง ดื่มเหล้าจนเมาตกน้ำตาย 💔

สมศักดิ์เป็นตัวละครที่ มีมิติ ทั้งน่าสงสารและน่าหงุดหงิด เขาเป็นคนที่ดูเหมือนดีแต่ปาก มีความทะเยอทะยานแต่ขาดความรับผิดชอบ ทำให้ชีวิตพังและพาคนอื่นพังไปด้วย

ฉายา “หนุ่มหวานปากร้าย”
เพราะสมศักดิ์คือหนุ่มหล่อที่ใช้คำหวานและรอยยิ้มดึงดูดทุกคน แต่เบื้องหลังคือความเจ้าเล่ห์ที่หวังผลประโยชน์ 😏 คำพูดของเขาทำให้อีสาและคุณหญิงโสภาเคลิ้ม แต่การกระทำของเขากลับนำพาโศกนาฏกรรม ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ทั้งมีเสน่ห์และอันตราย

ข้อคิด “คำหวานที่ไร้ความจริงใจนำมาซึ่งความเจ็บปวด”
จากตัวละครสมศักดิ์ ข้อคิดที่ได้คือ การใช้คำหวานหรือการหลอกลวงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวอาจทำให้คนอื่นเสียใจและทำร้ายตัวเองในที่สุด สมศักดิ์หว่านเสน่ห์เพื่อเกาะตระกูลใหญ่ แต่เมื่อแผนล้มเหลว เขากลับไม่รับผิดชอบต่อคุณหญิงโสภาและทำร้ายอีสาด้วยการทรยศ สุดท้ายเขาต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า ข้อคิดนี้เตือนใจว่า ความจริงใจในความสัมพันธ์สำคัญกว่าคำพูดสวยหรู 💡

สมศักดิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) คือหนุ่มหล่อที่หวานปากแต่ใจร้าย ฉายา “หนุ่มหวานปากร้าย” เพราะเขาใช้เสน่ห์หลอกคน แต่สุดท้ายพังทั้งตัวเองและคนอื่น ข้อคิดคือ “คำหวานที่ไร้ความจริงใจนำมาซึ่งความเจ็บปวด” การแสดงของณวัฒน์คือดีมาก ทำให้เราทั้งหมั่นไส้และสงสาร

→ ภูธเนศ หงษ์มานพ รับบท นายพลสันทนา

670d5630 4f62 11ed 9559 ffab4fbac5c9 webp original
ภูธเนศ หงษ์มานพ

กัปตัน ภูธเนศในบท นายพลสันทนา คือตัวละครที่โผล่มาในช่วงครึ่งหลังของละคร เรียกว่าเป็น บิ๊กบอส ที่ทรงอิทธิพลสุด ๆ ในยุคเปลี่ยนแปลงการปกครองสมัยรัชกาลที่ 6 นายพลสันทนาเป็นนายทหารใหญ่ที่มีอำนาจวาสนา ใกล้ชิดกับ ท่านผู้นำ และมีภรรยาคือ คุณหญิงเฉิดฉวี อยู่แล้ว แต่พอมาเจอ อีสา (นุ่น วรนุช) หรือ อุษา สาวใหญ่เจ้าของไนต์คลับสุดแซ่บวัย 40 เขาก็หลงเสน่ห์แบบหัวปักหัวปำ 😍 นายพลถึงขั้นให้อีสาเป็น อนุภรรยา และสนับสนุนเงินให้เธอเปิดไนต์คลับใหม่เพื่อจะได้แวะมาหาง่าย ๆ 💸

แต่นายพลสันทนาไม่ได้มีแค่ความหลงสาว เขายังมีบทบาทสำคัญในฐานะคนกลางที่ช่วย ท่าน (เจ้านายของเขา) ซึ่งอยากได้ โสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) ลูกสาวของอีสา มาเป็นอนุภรรยา นายพลเลยกลายเป็นตัวละครที่ทั้งมีพลังและซับซ้อน มีทั้งความเจ้าเล่ห์และความหลงใหลในอีสา แต่ก็เป็นคนที่ยึดมั่นในอำนาจและผลประโยชน์ของตัวเอง เรียกว่าเป็นตัวละครที่ น่าจับตา และทำให้คนดูทั้งหมั่นไส้และทึ่งในเวลาเดียวกัน 😎 การแสดงของกัปตันในบทนี้ปังมาก จนเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 6 เลยนะ

ฉายา “ขุนศึกเจ้าเสน่ห์”
เพราะนายพลสันทนาคือทหารใหญ่ที่มีทั้งอำนาจและเสน่ห์แพรวพราว 😏 เขาใช้ความหล่อและอิทธิพลดึงดูดอีสาได้อยู่หมัด แม้ว่าจะมีเมียอยู่แล้วก็ตาม แต่ความเจ้าเล่ห์ของเขาก็ทำให้เกิดดราม่าในเรื่องเยอะมาก เรียกว่าเป็นขุนศึกที่ทั้งน่าเกรงขามและน่าหลงใหลสุด ๆ

ข้อคิด “อำนาจและความหลงใหลอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง”
จากตัวละครนายพลสันทนา ข้อคิดที่ได้คือ การมีอำนาจและปล่อยตัวตามความหลงใหลโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบอาจสร้างความขัดแย้งและความเจ็บปวดให้คนรอบข้าง นายพลหลงรักอีสาจนยอมให้เธอเป็นอนุภรรยา แต่การที่เขาช่วยท่านผู้นำหาโสภิตพิไลมาเป็นอนุภรรยาอีกคน ทำให้เกิดความบาดหมางกับอีสาและคุณหญิงเฉิดฉวีภรรยาของเขา ข้อคิดนี้เตือนใจว่า การใช้พลังอำนาจและความปรารถนาต้องสมดุลกับความรับผิดชอบต่อความรู้สึกของคนอื่น 💡

นายพลสันทนา (กัปตัน ภูธเนศ) คือตัวละครที่ทั้งหล่อ มีอำนาจ และเจ้าเล่ห์ ฉายา “ขุนศึกเจ้าเสน่ห์” เพราะเขาใช้เสน่ห์และพลังดึงดูดอีสา แต่ก็พาดราม่ามาเต็ม! ข้อคิดคือ “อำนาจและความหลงใหลต้องควบคุม มิฉะนั้นจะพาความขัดแย้ง” การแสดงของกัปตันคือสุดยอด ฉากที่ปะทะกับอีสาคือพีค

→ ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ รับบท ประธาน

75768884b14813dfa50a54ddff7c4976
ปฏิภาณ ปฐวีกานต์

ปฏิภาณในบท ประธาน คือตัวละครที่โผล่มาในช่วงหลังของละคร และเป็นตัวละครที่ทำให้คนดูต้องร้อง “อะไรกันเนี่ย” 😲 ประธานเป็น หุ้นส่วนหนุ่ม ของ อุษา (นุ่น วรนุช) หรืออีสาในวัย 40 ปีที่เปิดไนต์คลับสุดแซ่บ เขาเป็นหนุ่มหล่อ มีสไตล์ และดูเหมือนจะเป็นนักธุรกิจที่เก่ง แต่จริง ๆ แล้วลึก ๆ เขาคือคนเจ้าเล่ห์ที่หวังเกาะ เงิน และ ความสำเร็จ ของอีสา 🤑

ประธานแอบมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับอีสา แต่ใจจริงเขาไม่ได้รักเธอเลย แถมยังไปปิ๊ง โสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) ลูกสาวของอีสาที่กำลังแตกเนื้อสาว 😏 อีสารู้ทันและพยายามกีดกัน แต่เรื่องพีคสุดคือตอนที่ประธานเมาแล้วลวนลามโสภิตพิไล อีสาโมโหจัดถึงขั้นคว้าปืนยิงประธานจนถึงแก่ความตาย 🔫💥 เรียกว่าประธานเป็นตัวละครที่ จุดชนวนดราม่า สุด ๆ ทำให้เกิดปมใหญ่ในเรื่อง และเป็นตัวละครที่คนดูทั้งหมั่นไส้และรู้สึกว่า “สมน้ำหน้า” เมื่อเขาต้องจบแบบนั้น การแสดงของปฏิภาณในบทนี้คือปังมาก ทำให้เราทั้งรำคาญและติดตามทุกการกระทำของเขา

ฉายา “หนุ่มเจ้าเล่ห์แห่งไนต์คลับ”
เพราะประธานคือหนุ่มหล่อที่ใช้เสน่ห์และความฉลาดในการทำธุรกิจเพื่อหวังผลประโยชน์จากอีสา 😈 เขาดูดี ดูมีสเน่ห์ แต่ลึก ๆ คือเจ้าเล่ห์สุด ๆ ที่พร้อมหักหลังและมองข้ามจริยธรรมเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยเฉพาะการที่กล้าลวนลามโสภิตพิไล ทำให้เขาเป็นตัวร้ายที่คนดูจดจำ

ข้อคิด “ความโลภและไร้ศีลธรรมนำไปสู่จุดจบที่เลวร้าย”
จากตัวละครประธาน ข้อคิดที่ได้คือ การปล่อยให้ความโลภและกิเลสครอบงำโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้าย ประธานหวังเกาะความร่ำรวยของอีสาและยังกล้ามองโสภิตพิไลในทางที่ผิด สุดท้ายเขาต้องจบชีวิตลงเพราะการกระทำของตัวเอง ข้อคิดนี้เตือนใจว่า การทำอะไรโดยขาดความเคารพและจริยธรรมอาจนำไปสู่ความหายนะทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง 💡

ประธาน (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) คือตัวละครที่ทั้งหล่อและเจ้าเล่ห์ ฉายา “หนุ่มเจ้าเล่ห์แห่งไนต์คลับ” เพราะเขาใช้เสน่ห์หวังตักตวงผลประโยชน์ แต่สุดท้ายพังเพราะความโลภ! ข้อคิดคือ “ความโลภและไร้ศีลธรรมนำไปสู่จุดจบที่เลวร้าย” การแสดงของปฏิภาณคือดีมาก ทำให้คนดูหมั่นไส้สุด ๆ

→ ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รับบท เซกิ

ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา

ณัฏฐ์ในบท เซกิ คือตัวละครที่โผล่มาในช่วงครึ่งหลังของละคร และเป็นตัวละครที่เพิ่มสีสันให้เรื่องราวสุด ๆ เซกิเป็น พลเรือนญี่ปุ่น ที่ทำงานในบริษัทญี่ปุ่นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นยุคที่สงครามโลกกำลังเข้มข้น เขาเจอกับ อีสา (นุ่น วรนุช) ในหลุมหลบภัย และตกหลุมรักเธอแบบหัวปักหัวปำ 😍 เซกิคือหนุ่มหล่อ สุภาพ มีสไตล์ และร่ำรวย เขามอบความสุข ความสนุก และความมั่งคั่งให้อีสาในช่วงที่เธอกำลังย่ำแย่จากการเลิกกับ วิทย์ (กันต์ดนย์ อะคาซาน)

เซกิหลงรักอีสาจนยอมมอบ เงินก้อนใหญ่ ให้เธอก่อนที่เขาจะต้องกลับญี่ปุ่นเมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม เงินนี้แหละที่ทำให้อีสากลายเป็น อุษา สาวใหญ่เจ้าของไนต์คลับสุดแซ่บ 💃 เซกิเป็นตัวละครที่ มีมิติ เพราะเขาไม่ใช่แค่หนุ่มรวยที่หลงสาว เขายังมีความจริงใจและความเสียสละ แม้ว่าจะปรากฏในเรื่องไม่นาน แต่การกระทำของเขามีผลต่อชีวิตของอีสาอย่างมาก เรียกว่าเป็นตัวละครที่ทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่นใจและแอบเชียร์ให้อีสามีความสุขกับเขานะ 😊 การแสดงของณัฏฐ์ในบทนี้คือดีมาก ทำให้เซกิเป็นที่จดจำแม้บทจะสั้น

ฉายา “หนุ่มญี่ปุ่นใจทอง”
เพราะเซกิคือหนุ่มต่างชาติที่มีทั้งเสน่ห์และจิตใจดี 😎 เขาหลงรักอีสาด้วยความจริงใจและยอมมอบทุกอย่างให้เธอโดยไม่หวังผลตอบแทน แม้จะต้องจากไปในที่สุด ความใจดีและความรักของเขาทำให้อีสามีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ เรียกว่าเป็นหนุ่มในฝันที่คนดูต้องหลงรัก

ข้อคิด “ความรักที่แท้จริงคือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน”
จากตัวละครเซกิ ข้อคิดที่ได้คือ ความรักที่แท้จริงคือการให้ด้วยใจโดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน เซกิรักอีสาด้วยความจริงใจ เขามอบเงินก้อนใหญ่ให้เธอเพื่อให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้น แม้ว่าตัวเองจะต้องกลับญี่ปุ่นและไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน ข้อคิดนี้สอนให้เรารู้ว่า การรักใครสักคนคือการอยากเห็นเขามีความสุข แม้ว่าเราจะไม่ได้อะไรกลับมาก็ตาม 💖

เซกิ (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา) คือหนุ่มญี่ปุ่นที่ทั้งหล่อ ใจดี และจริงใจ ฉายา “หนุ่มญี่ปุ่นใจทอง” เพราะเขามอบความรักและโอกาสให้อีสาด้วยใจบริสุทธิ์ ข้อคิดคือ “ความรักที่แท้จริงคือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน” การแสดงของณัฏฐ์คือปังมาก ถึงบทจะสั้นแต่ทำให้คนดูจำได้

→ กันต์ดนย์ อะคาซาน รับบท วิทย์

feabf05c 8d64 45fd 8307 a151c8151f0e
กันต์ดนย์ อะคาซาน

กันต์ดนย์ในบท วิทย์ คือตัวละครที่โผล่มาในช่วงกลางเรื่องของละครพีเรียดสุดเข้มข้นนี้ วิทย์เป็น หนุ่มนักดนตรี สุดศิลปินที่เจอกับ อีสา (นุ่น วรนุช) ในหลุมหลบภัยช่วงสงคราม เขาเป็นหนุ่มหล่อ สุขุม และมีหัวใจศิลปินเต็มตัว เอาแต่เล่นไวโอลินและทำงานในคณะละคร 🎻 วิทย์ตกหลุมรักอีสาและชวนเธอมาเล่นละครแบบ “ชายจริงหญิงแท้” กับคณะละครใหม่ของเขา ซึ่งอีสาก็ตอบตกลง เพราะอยากหนีจาก สมศักดิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ที่ตามตื๊อเธอไม่หยุด 😅

วิทย์กลายเป็นสามีของอีสาเมื่อทั้งคู่จดทะเบียนสมรสกันเพื่อให้อีสาหลุดพ้นจากสมศักดิ์ แต่ชีวิตคู่ไม่สวยงามอย่างที่คิด เพราะ วิภา (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) พี่สาวของวิทย์รังเกียจอีสา แถมวิทย์เองก็เป็นศิลปินที่ไม่ยอมทำงานหาเลี้ยงชีพแบบจริงจัง เอาแต่สีไวโอลินไปวัน ๆ ทำให้อีสาเริ่มเบื่อหน่าย 😣 สุดท้ายเมื่ออีสาเจอ เซกิ (ณัฐ เทพหัสดิน ณ อยุทธยา) หนุ่มญี่ปุ่นที่มอบความสุขและเงินทองให้ อีสาก็ตัดสินใจเลิกกับวิทย์และย้ายออกไป วิทย์เลยกลายเป็นตัวละครที่ น่าสงสาร และดูเหมือนจะเป็นคนดี แต่ขาดความรับผิดชอบและความมุ่งมั่น ทำให้ชีวิตคู่พัง การแสดงของกันต์ดนย์ในบทนี้ทำให้เรารู้สึกถึงความเปราะบางของตัวละครได้ดี แม้ว่าบทจะไม่เด่นเท่าตัวหลัก

ฉายา “ศิลปินหัวใจเปราะ”
เพราะวิทย์คือหนุ่มนักดนตรีที่เต็มไปด้วยอารมณ์ศิลปินและความรักที่จริงใจต่ออีสา แต่หัวใจที่เปราะบางและการขาดความรับผิดชอบทำให้เขาไม่สามารถรักษาความรักหรือชีวิตคู่ไว้ได้ 😢 เขาคือศิลปินที่หลงอยู่ในโลกของตัวเอง จนลืมดูแลคนรอบข้าง

ข้อคิด “ความรักต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ”
จากตัวละครวิทย์ ข้อคิดที่ได้คือ ความรักเพียงอย่างเดียวไม่พอ ถ้าขาดความรับผิดชอบต่อชีวิตและคนที่รัก อาจทำให้ความสัมพันธ์พังทลาย วิทย์รักอีสาด้วยใจจริง แต่การที่เขาไม่ยอมทำงานหนักหรือปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ทำให้อีสาต้องเผชิญความยากลำบากและเลือกเดินจากไป ข้อคิดนี้เตือนใจว่า การรักใครสักคนต้องแสดงออกด้วยการกระทำและความมุ่งมั่น ไม่ใช่แค่ความรู้สึก💡

วิทย์ (กันต์ดนย์ อะคาซาน) คือหนุ่มศิลปินที่รักอีสาแต่ชีวิตพังเพราะขาดความรับผิดชอบ ฉายา “ศิลปินหัวใจเปราะ” เพราะเขามีหัวใจรักแต่เปราะบางเกินไป ข้อคิดคือ “ความรักต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ” การแสดงของกันต์ดนย์ทำให้เราสงสารวิทย์สุด ๆ ถึงบทจะไม่เยอะแต่ก็มีเสน่ห์

→ นิธิดล ป้อมสุวรรณ รับบท ม.ร.ว.รวีช่วงโชติ

00 A5B2453481C9E480
นิธิดล ป้อมสุวรรณ

นิธิดลในบท คุณชายรวี คือตัวละครที่เป็น ลูกชายแท้ ๆ ของ อีสา (นุ่น วรนุช) แต่ถูกเลี้ยงโดย หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) ในวังของ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี คุณชายคือหนุ่มหล่อ สุขุม และฉลาดสุด ๆ เขาเติบโตมาในฐานะทายาทตระกูลรวีวาร เรียนจบกฎหมายจากฝรั่งเศส และกลายเป็น ผู้พิพากษา ที่เที่ยงธรรม 😎

ในเรื่อง คุณชายรวีปรากฏตัวช่วงหลังตอนที่อีสากลายเป็น อุษา เจ้าของไนต์คลับแล้ว เขาได้เจอกับอีสาที่ไนต์คลับและรู้สึกถูกชะตา ชื่นชมน้ำเสียงและความสามารถของเธอ โดยไม่รู้เลยว่าเธอคือ แม่แท้ ๆ 😢 คุณชายเป็นคนใจกว้าง ไม่รังเกียจอีสาที่ทำงานกลางคืน และยังแสดงความเมตตาต่อเธอ เขายังมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้พิพากษาในคดีที่อีสาถูกจับเพราะยิง ประธาน (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) และเมื่อรู้ความจริงว่าโสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) เป็นลูกของอีสา คุณชายก็พยายามช่วยปกป้องเธอจากชะตากรรมเลวร้าย

แต่ชีวิตคุณชายก็ไม่แฮปปี้ไปซะหมด เพราะเขาต้องแต่งงานกับ สวาทโฉม เพื่อรักษาตำแหน่งตระกูลโดยไม่มีความรัก และเมื่อรู้ว่าอีสาคือแม่แท้ ๆ จากป้าเจิมที่ป่วยหนัก คุณชายก็ยอมรับความจริงโดยไม่รังเกียจ และยังคงรักหม่อมพริ้มเหมือนแม่เลี้ยง เรียกว่าคุณชายคือตัวละครที่ มีมิติ เป็นทั้งหนุ่มผู้ดีที่มีหัวใจเมตตาและต้องแบกรับหน้าที่หนักอึ้ง การแสดงของนิธิดลทำให้คุณชายดูสง่างามและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน 😍

ฉายา “คุณชายใจทอง”
เพราะคุณชายรวีคือหนุ่มผู้ดีที่มีหัวใจบริสุทธิ์ 😇 เขาไม่ตัดสินคนจากสถานะ อย่างการที่เขายอมรับอีสาแม้เธอจะเป็นเจ้าของไนต์คลับ และเมื่อรู้ว่าเธอคือแม่แท้ ๆ เขาก็แสดงความเมตตาและความเข้าใจ ยังคงรักหม่อมพริ้มเหมือนเดิม ความใจกว้างและความดีของเขาทำให้เขาเป็นคุณชายที่คนดูหลงรัก 💖

ข้อคิด “ความเมตตาและความเข้าใจสามารถเยียวยาความเจ็บปวด”
จากตัวละครคุณชายรวี ข้อคิดที่ได้คือ การมีความเมตตาและเข้าใจผู้อื่นสามารถช่วยเยียวยาความเจ็บปวดและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีได้ คุณชายไม่รังเกียจอีสาและยอมรับเธอในฐานะแม่แท้ ๆ โดยไม่โกรธหรือตัดสิน แม้จะรู้ว่าเธอเคยเป็นหม่อมและมีชีวิตที่ซับซ้อน เขายังคงทำหน้าที่ปกป้องโสภิตพิไลและรักษาความรักต่อหม่อมพริ้ม ข้อคิดนี้สอนให้เรามีใจกว้างและมองคนด้วยความเข้าใจ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน 💡

คุณชายรวี (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) คือหนุ่มผู้ดีที่มีทั้งความฉลาดและหัวใจเมตตา ฉายา “คุณชายใจทอง” เพราะเขาไม่ตัดสินคนและยอมรับอีสาด้วยความรัก ข้อคิดคือ “ความเมตตาและความเข้าใจเยียวยาความเจ็บปวดได้” การแสดงของนิธิดลคือปังมาก ทำให้เราอินกับความดีของเขา

→ เต็มฟ้า กฤษณายุธ รับบท ม.ร.ว.โสภาพรรณวดี (หญิงโสภา)

4DQpjUtzLUwmJZZSDbXuomQ16WGICk4eSaLfLuJXNBI6
เต็มฟ้า กฤษณายุธ

เต็มฟ้าในบท หญิงโสภา คือตัวละครที่เป็น ลูกสาวคนโต ของ หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) และ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ในวังตระกูลรวีวาร หญิงโสภาเป็นสาวผู้ดี สวยสง่า และมีศักดิ์สูง แต่หัวใจของเธอกลับเปราะบางและโหยหาความรัก 😢 เธอเติบโตในวังที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความกดดันจากหม่อมพริ้มที่หวังให้ลูกสาวรักษาศักดิ์ศรีตระกูล

เรื่องราวของหญิงโสภาพลิกผันเมื่อเธอได้เจอกับ สมศักดิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) หนุ่มหล่อปากหวานที่มาหว่านเสน่ห์ โดยมี อีสา (นุ่น วรนุช) เป็นแม่สื่อ หญิงโสภาตกหลุมรักสมศักดิ์จนยอมหนีตามเขาไป แม้ว่าหม่อมพริ้มจะวางแผนให้เธอแต่งงานกับลูกชายของญาติท่านชาย 😱 การหนีตามรักครั้งนี้ทำให้หม่อมพริ้มโกรธจัด ถึงขั้นตัดแม่ตัดลูก และขู่จะจับสมศักดิ์กับอีสาเข้าคุก

ชีวิตนอกวังของหญิงโสภาไม่สวยงามอย่างที่ฝัน เพราะสมศักดิ์หวังเกาะตระกูลเพื่อสมบัติ แต่เมื่อทุกอย่างพัง เขาก็หางานไม่ได้ในช่วงสงครามเศรษฐกิจตกต่ำ หญิงโสภาต้องอดอยากและรับเลี้ยง โสภิตพิไล ลูกสาวของอีสาในฐานะแม่บุญธรรม แต่ดราม่าสูงสุดคือเมื่อเธอรู้ว่าสมศักดิ์แอบมีความสัมพันธ์กับอีสา 💔 ความเจ็บปวดจากการถูกหักหลังโดยคนที่รักทั้งสองคน ทำให้หญิงโสภาตัดสินใจจบชีวิตตัวเองอย่างน่าเศร้า 😭 ตัวละครหญิงโสภาเป็นสาวผู้ดีที่ น่าสงสาร และเต็มไปด้วยความเปราะบาง การแสดงของเต็มฟ้าทำให้เราอินและน้ำตาแตกกับชะตากรรมของเธอ

ฉายา “เจ้าหญิงแห่งโศกนาฏกรรม”
เพราะหญิงโสภาเริ่มต้นด้วยความสวยสง่าและศักดิ์สูงเหมือนเจ้าหญิงในวัง แต่ชีวิตของเธอกลับจบลงด้วยโศกนาฏกรรมจากการตัดสินใจที่ผิดพลาดและความเปราะบางของหัวใจ 😢 ความรักที่เธอทุ่มเทให้สมศักดิ์นำพาเธอสู่ความสูญเสีย ทำให้เธอเป็นตัวละครที่คนดูทั้งรักและสงสาร

ข้อคิด “ความรักที่ขาดการไตร่ตรองอาจนำไปสู่ความเจ็บปวด”
จากตัวละครหญิงโสภา ข้อคิดที่ได้คือ การตัดสินใจในเรื่องความรักต้องใช้ทั้งหัวใจและสติ เพราะถ้าปล่อยให้ความรักนำทางโดยไม่ไตร่ตรอง อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เจ็บปวด หญิงโสภายอมหนีตามสมศักดิ์ด้วยความรัก แต่ไม่รู้ว่าเขาเจ้าเล่ห์ และเมื่อถูกหักหลัง เธอเลือกจบชีวิตเพราะรับความเจ็บปวดไม่ไหว ข้อคิดนี้เตือนใจว่า ความรักต้องสมดุลด้วยการคิดให้รอบคอบเพื่อป้องกันความเสียใจ 💡

หญิงโสภา (เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) คือสาวผู้ดีที่ชีวิตพังเพราะรักผิดคน ฉายา “เจ้าหญิงแห่งโศกนาฏกรรม” เพราะเธอสวยสง่าแต่จบด้วยความเศร้า ข้อคิดคือ “ความรักที่ขาดการไตร่ตรองอาจนำไปสู่ความเจ็บปวด” การแสดงของเต็มฟ้าคือสุดยอด ทำเอาน้ำตาแตกทุกฉาก

→ มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ รับบท หญิงโสภิตภิไล

page
มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ

มนชนกในบท หญิงโสภิตพิไล คือตัวละครที่เป็น ลูกสาวแท้ ๆ ของ อีสา (นุ่น วรนุช) แต่ถูกเลี้ยงโดย คุณหญิงโสภาพรรณวดี (เต็มฟ้า กฤษณายุทธ) และต่อมาโดย หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) ในฐานะหลานสาว โสภิตพิไลคือสาวน้อยที่เติบโตมาด้วยความสวย ฉลาด และมีความเป็นกุลสตรี แต่ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความเจ็บปวดจากชาติกำเนิดที่ไม่ชัดเจน 😢

โสภิตคิดว่าอีสาคือ ญาติห่าง ๆ ที่เลี้ยงดูเธอ แต่แอบไม่ชอบใจที่อีสาทำงานเป็นเจ้าของไนต์คลับ ทำให้เธอต้องอายเพื่อน ๆ เธอเรียนจบมัธยมจากโรงเรียนประจำและกลับมาอยู่กับอีสา แต่ชีวิตยิ่งวุ่นเมื่อเจอกับ ประธาน (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) ที่ลวนลามเธอจนอีสาต้องยิงประธานตายเพื่อปกป้อง 😱 โสภิตพยายามช่วยอีสาในศาล แต่เมื่อรู้ความจริงจากหม่อมพริ้มว่าอีสาคือ แม่แท้ ๆ และเคยเป็นบ่าวที่ทำให้คุณหญิงโสภาต้องหนีตามผู้ชาย โสภิตโกรธและเกลียดอีสาสุด ๆ

ความเจ็บปวดทำให้โสภิตตัดสินใจประชดด้วยการยอมเป็น อนุภรรยา ของ “ท่าน” เจ้านายของ นายพลสันทนา (ภูธเนศ หงษ์มานพ) แม้ว่าอีสาและ คุณชายรวี (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) พี่ชายของเธอจะพยายามห้าม โสภิตพิไลเป็นตัวละครที่ น่าสงสาร และเต็มไปด้วยความขัดแย้งในใจ เธอทั้งรักและเกลียดอีสา และต้องเผชิญกับชะตากรรมที่โหดร้ายจากความเข้าใจผิด การแสดงของมนชนกคือสุดยอด ทำเอาเราน้ำตาแตกกับความเจ็บปวดของโสภิต 😭

ฉายา “สาวน้อยใจแตกสลาย”
เพราะโสภิตพิไลคือสาวน้อยที่เริ่มต้นด้วยความสดใสและความหวัง แต่ชีวิตของเธอต้องแตกสลายจากความจริงที่ว่าแม่แท้ ๆ คืออีสา ผู้หญิงที่เธอเคยดูถูก 😢 ความเจ็บปวดและความสับสนทำให้เธอเลือกทางเดินที่ผิด และกลายเป็นตัวละครที่คนดูทั้งสงสารและอยากให้เธอได้สมหวัง

ข้อคิด “การตัดสินใจจากความโกรธอาจนำไปสู่ความเสียใจ”
จากตัวละครโสภิตพิไล ข้อคิดที่ได้คือ การตัดสินใจที่มาจากความโกรธหรือความเข้าใจผิดอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เจ็บปวดและแก้ไขไม่ได้ โสภิตเลือกเป็นอนุภรรยาเพื่อประชดอีสาและทุกคน เพราะความโกรธที่รู้ว่าอีสาคือแม่แท้ ๆ และเคยทำให้ชีวิตคุณหญิงโสภาพัง แต่การตัดสินใจนี้ทำให้เธอต้องเผชิญชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งขึ้น ข้อคิดนี้เตือนใจว่า ควรสงบใจและไตร่ตรองก่อนตัดสินใจใหญ่ ๆ เพื่อไม่ให้เสียใจในภายหลัง 💡

หญิงโสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) คือสาวน้อยที่ชีวิตเต็มไปด้วยความสับสนและดราม่า ฉายา “สาวน้อยใจแตกสลาย” เพราะหัวใจของเธอต้องเจ็บปวดจากความจริงและการตัดสินใจที่ผิด ข้อคิดคือ “การตัดสินใจจากความโกรธอาจนำไปสู่ความเสียใจ” การแสดงของมนชนกคือปังมาก ทำเอาน้ำตาไหลทุกฉาก

→ ภัณฑลา ปานสิริธนาโชติ รับบท ใจสว่าง

15c842f0 8b16 11ec 8bb4 9f8ea3fea836 webp original
ภัณฑิลา ปานสิริธนาโชติ

ภัณฑลาในบท ใจสว่าง คือตัวละครที่เหมือนแสงสว่างในความมืดของละครเรื่องนี้ ✨ ใจสว่างเป็น หลานสาวของป้าแป้น (ไปรมา รัชตะ) หญิงชาวสวนใจดีที่อาศัยอยู่แถวคลองบางกอกน้อย เธอเป็นสาวน้อยที่ สดใส ใจดี และฉลาด เรียนมหาวิทยาลัยในคณะเดียวกับ โสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) และมี คุณชายรวี (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) เป็นอาจารย์! ใจสว่างเข้ามาในเรื่องช่วงหลัง เมื่อ อีสา (นุ่น วรนุช) ชวนเธอมาอยู่ด้วยกันที่บ้านเพื่อเป็นเพื่อนและช่วยปรับทุกข์เรื่องโสภิตพิไล

ใจสว่างเป็นตัวละครที่ น่ารักและมีจิตใจดี เธอรู้ความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของโสภิตพิไลและพยายามช่วยอีสาให้สมหวังกับลูกสาว เธอยังเป็นคนที่ให้กำลังใจคุณชายรวีเมื่อเขาต้องเผชิญกับชีวิตแต่งงานที่ไม่มีความสุขกับสวาทโฉม ใจสว่างเหมือนเป็น เพื่อนแท้ และคนที่คอยเชื่อมโยงทุกคนในเรื่องด้วยความเมตตาและความเข้าใจ การแสดงของภัณฑลาทำให้ใจสว่างเป็นตัวละครที่คนดูรู้สึกอบอุ่นและอยากเอาใจช่วย 😊

ฉายา “นางฟ้าแห่งความเมตตา”
เพราะใจสว่างคือตัวละครที่เปี่ยมไปด้วยความใจดีและความบริสุทธิ์ 😇 เธอเหมือนแสงสว่างที่เข้ามาช่วยเหลืออีสาและคนรอบข้างด้วยความเมตตา ไม่ตัดสินใคร และคอยเป็นกำลังใจให้ทุกคนในยามยาก เรียกว่าเป็นนางฟ้าที่ทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่นใจสุด ๆ

ข้อคิด “ความเมตตาและการเป็นผู้ฟังที่ดีสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้อื่นได้”
จากตัวละครใจสว่าง ข้อคิดที่ได้คือ การมีเมตตาและการเป็นผู้ฟังที่ดีสามารถสร้างความแตกต่างในชีวิตของคนอื่นได้ ใจสว่างคอยอยู่เคียงข้างอีสาในช่วงที่เธอเสียใจเรื่องโสภิตพิไล และให้กำลังใจคุณชายรวีในยามที่เขาท้อแท้ ความใจดีและการไม่ตัดสินของเธอช่วยเยียวยาความเจ็บปวดของคนรอบข้าง ข้อคิดนี้สอนให้เราเป็นคนที่พร้อมสนับสนุนและเข้าใจผู้อื่น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้น 💖

ใจสว่าง (ภัณฑลา ปานสิริธนาโชติ) คือสาวน้อยที่เป็นแสงสว่างในละคร ฉายา “นางฟ้าแห่งความเมตตา” เพราะเธอใจดีและคอยช่วยเหลือทุกคน ข้อคิดคือ “ความเมตตาและการเป็นผู้ฟังที่ดีสามารถเปลี่ยนชีวิตผู้อื่นได้”! การแสดงของภัณฑลาคือสุดยอด ทำเอาเรารู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เห็นใจสว่าง

→ รัญญา ศิยานนท์ รับบท เจิม

00 A5B591786C1E480
รัญญา ศิยานนท์

รัญญา ศิยานนท์ในบท ป้าเจิม คือตัวละครที่เป็นเหมือน แม่บุญธรรม และผู้พิทักษ์ของ อีสา (นุ่น วรนุช) ในละครพีเรียดสุดเข้มข้นนี้ ป้าเจิมเป็นหญิงสาวใช้ในวังของ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ทำงานอยู่ในโรงครัว และเป็นคนที่เลี้ยงดูอีสาตั้งแต่เด็กหลังจากแม่ของอีสาเสียชีวิตเพราะตกเลือด 😢 เธอรักอีสาเหมือนลูกแท้ ๆ คอยปกป้อง ดูแล และให้คำแนะนำในทุกช่วงชีวิตของอีสา

ป้าเจิมเป็นคน ใจดี มีความภักดี และรู้เรื่องราวทุกอย่างในวัง รวมถึงความลับว่า คุณชายรวีช่วงโชติ (นิธิดล ป้อมสุวรรณ) เป็นลูกชายแท้ ๆ ของอีสา เธออยู่เคียงข้างอีสาแม้ในช่วงที่อีสาต้องออกจากวัง และยังคงช่วยดูแลคุณชายรวีในวังของ หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) ในช่วงท้ายของเรื่อง เมื่อป้าเจิมป่วยหนักและใกล้ตาย เธอหลุดปากบอกความจริงเรื่องชาติกำเนิดของอีสากับคุณชายรวี ทำให้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ป้าเจิมคือตัวละครที่ อบอุ่น และเป็นเสาหลักทางใจให้อีสาและคนดู การแสดงของรัญญาคือสุดยอด ทำเอาเรารู้สึกถึงความรักและความเสียสละของป้าเจิมได้เต็ม ๆ 😭

ฉายา “ผู้พิทักษ์ใจแม่”
เพราะป้าเจิมคือคนที่คอยปกป้องและดูแลหัวใจของอีสาในทุกสถานการณ์ 😇 ไม่ว่าโลกจะโหดร้ายแค่ไหน เธอก็อยู่เคียงข้างอีสา คอยให้กำลังใจและรักษาความลับของลูก ๆ อีสา ราวกับเป็นแม่บุญธรรมที่ทั้งอบอุ่นและแข็งแกร่ง เรียกว่าเป็นตัวละครที่คนดูต้องยกนิ้วให้ 💖

ข้อคิด “ความรักและความภักดีสามารถเป็นพลังให้ผู้อื่นยืนหยัดได้”
จากตัวละครป้าเจิม ข้อคิดที่ได้คือ ความรักและความภักดีที่มอบให้ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนสามารถเป็นพลังให้คนที่เรารักก้าวผ่านความยากลำบากได้ ป้าเจิมรักและปกป้องอีสาเหมือนลูก และยอมเก็บความลับเรื่องคุณชายรวีเพื่อรักษาความสงบในวัง ความเสียสละของเธอช่วยให้อีสามีที่พึ่งในยามลำบาก ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นคุณค่าของการเป็นที่พึ่งและสนับสนุนคนที่เรารักอย่างจริงใจ 💡

ป้าเจิม (รัญญา ศิยานนท์) คือตัวละครที่อบอุ่นและเป็นเสาหลักของอีสา ฉายา “ผู้พิทักษ์ใจแม่” เพราะเธอคอยปกป้องและให้กำลังใจอีสาในทุกช่วงชีวิต ข้อคิดคือ “ความรักและความภักดีเป็นพลังให้ผู้อื่นยืนหยัดได้” การแสดงของรัญญาคือปังมาก ทำเอาน้ำตาคลอทุกฉากที่ป้าเจิมอยู่

→ สกาวใจ พูนสวัสดิ์ รับบท วิภา

%E0%B8%AD%E0%B9%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A1 %E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%88 12
สกาวใจ พูนสวัสดิ์

สกาวใจในบท วิภา คือตัวละครที่โผล่มาในช่วงครึ่งหลังของละครพีเรียดสุดเข้มข้นนี้ และเป็นตัวละครที่เพิ่มความดราม่าให้เรื่องได้แบบสุด 😤 วิภาคือ พี่สาวของวิทย์ (กันต์ดนย์ อะคาซาน) หนุ่มนักดนตรีที่แต่งงานกับ อีสา (นุ่น วรนุช) เธอเป็นสาวที่มีนิสัย เข้มงวดและหัวสูง คอยดูแลน้องชายอย่างใกล้ชิด และมองว่าตัวเองต้องรักษามาตรฐานของครอบครัว

เมื่ออีสาเข้ามาเป็นเมียของวิทย์ วิภาไม่ปลื้มสุด ๆ 😣 เธอรังเกียจอีสาเพราะรู้ประวัติว่าอีสาเคยเป็นหม่อมในวังและมีชีวิตที่ซับซ้อน แถมตอนนั้นทั้งอีสาและวิทย์ต่างก็ไม่มีงานทำ วิทย์เอาแต่สีไวโอลิน ส่วนอีสาก็ดูไม่เหมาะสมในสายตาของวิภา ทำให้เธอแสดงท่าทีดูถูกและเย็นชากับอีสาตลอดเวลา การกระทำของวิภายิ่งทำให้ชีวิตคู่ของอีสากับวิทย์ย่ำแย่ จนสุดท้ายอีสาตัดสินใจเลิกกับวิทย์และย้ายออกไป 😢

วิภาเป็นตัวละครที่ มีมิติ เธอไม่ได้ร้ายแบบสุดโต่ง แต่เป็นคนที่ยึดมั่นในศักดิ์ศรีและความเหมาะสมของครอบครัว ซึ่งทำให้คนดูทั้งหมั่นไส้และเข้าใจมุมของเธอ การแสดงของสกาวใจคือปังมาก ทำให้วิภาดูเป็นพี่สาวที่ทั้งน่ากลัวและมีเหตุผลในแบบของตัวเอง 😎

ฉายา พี่สาวสายเข้ม”
เพราะวิภาคือพี่สาวที่เข้มงวดและปกป้องน้องชายแบบสุดตัว 😤 เธอยึดมั่นในศักดิ์ศรีครอบครัวและพร้อมตีกรอบทุกคนให้อยู่ในมาตรฐานของเธอ การที่เธอรังเกียจอีสาทำให้เกิดดราม่าในเรื่อง แต่ก็แสดงถึงความรักที่มีต่อวิทย์ในแบบของเธอ เรียกว่าเป็นตัวละครที่เข้มสุด ๆ

ข้อคิด “การตัดสินคนจากอคติอาจทำลายความสัมพันธ์”
จากตัวละครวิภา ข้อคิดที่ได้คือ การตัดสินคนจากอคติหรือมาตรฐานของตัวเองโดยไม่เปิดใจอาจทำลายความสัมพันธ์ที่ดีได้ วิภารังเกียจอีสาเพราะประวัติและสถานะของเธอ โดยไม่พยายามเข้าใจหรือให้โอกาส ซึ่งยิ่งทำให้ชีวิตคู่ของวิทย์แย่ลงและนำไปสู่การเลิกรา ข้อคิดนี้เตือนใจว่า การเปิดใจและมองคนด้วยความเมตตาจะช่วยรักษาความสัมพันธ์และป้องกันความขัดแย้ง💡

วิภา (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) คือพี่สาวที่เข้มงวดและยึดมั่นในศักดิ์ศรี ฉายา “พี่สาวสายเข้ม” เพราะเธอปกป้องน้องชายและตีกรอบทุกคนแบบสุด ข้อคิดคือ “การตัดสินคนจากอคติอาจทำลายความสัมพันธ์” การแสดงของสกาวใจคือดีมาก ทำให้เราทั้งหมั่นไส้และเข้าใจวิภา

→ รัดเกล้า อามระดิษ รับบท สำรวย

artist artist photo cover 1413 1729487430
รัดเกล้า อามระดิษ

รัดเกล้าในบท สำรวย คือตัวละครที่โผล่มาเพิ่มสีสันให้ละครพีเรียดสุดเข้มข้นนี้ในช่วงที่ อีสา (นุ่น วรนุช) ผันตัวมาเป็นนางละคร! สำรวยเป็น นักแสดงจากคณะละครร้อง ที่มีทั้งความสามารถและความมั่นใจ เธอเป็นสาวที่มีสไตล์ เก่ง และมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง 😎 เมื่อสำรวยได้เห็นอีสาแสดงในคณะละครชาตรี เธอทึ่งในความสวยและความสามารถของอีสา เลยชวนอีสามาร่วมงานในคณะละครร้องด้วยกัน ซึ่งอีสาก็ตอบตกลงเพราะอยากหาเงินและหนีจากความวุ่นวายในชีวิต โดยเฉพาะจาก สมศักดิ์ (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์) ที่ตามตื๊อไม่หยุด 😅

สำรวยเป็นตัวละครที่ สดใสและเป็นมิตร เธอเหมือนเป็นเพื่อนที่คอยสนับสนุนอีสาในช่วงที่ชีวิตกำลังย่ำแย่ ถึงบทของสำรวยจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่เธอก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้อีสากลับมามีความมั่นใจและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะนางละคร! การแสดงของรัดเกล้าคือปังสุด ๆ ทำให้สำรวยเป็นตัวละครที่คนดูรู้สึกชอบและอยากเห็นมากขึ้น 😍

ฉายา “สาวละครสุดเปรี้ยว”
เพราะสำรวยคือสาวนักแสดงที่เต็มไปด้วยพลังและความมั่นใจ💃 เธอมีเสน่ห์แพรวพราวบนเวทีและเป็นคนที่กล้าคิดกล้าทำ การชวนอีสามาร่วมงานแสดงถึงความใจกว้างและสายตาเฉียบคมของเธอที่มองเห็นศักยภาพในตัวอีสา เรียกว่าเป็นสาวเปรี้ยวที่คนดูต้องหลงรัก

ข้อคิด “การมองเห็นคุณค่าในผู้อื่นสามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ”
จากตัวละครสำรวย ข้อคิดที่ได้คือ การมองเห็นคุณค่าและศักยภาพในตัวผู้อื่นสามารถเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างได้ สำรวยเห็นความสามารถของอีสาและชวนเธอมาร่วมงาน ซึ่งไม่เพียงช่วยให้อีสามีรายได้และโอกาสใหม่ แต่ยังทำให้คณะละครของสำรวยปังยิ่งขึ้น ข้อคิดนี้สอนให้เราเปิดใจมองเห็นจุดเด่นของคนอื่นและให้โอกาส ซึ่งอาจนำไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน 💡

สำรวย (รัดเกล้า อามระดิษ) คือสาวนักแสดงที่เปรี้ยวและใจกว้าง ฉายา “สาวละครสุดเปรี้ยว” เพราะเธอมีพลังและเสน่ห์ที่ทำให้ทุกคนหลง ข้อคิดคือ “การมองเห็นคุณค่าในผู้อื่นสามารถสร้างโอกาสใหม่ ๆ” การแสดงของรัดเกล้าคือดีมาก ถึงบทจะสั้นแต่ทำให้สำรวยน่าจดจำ

→ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี รับบท หม่อมลำดวน

564000006708001
ปนัดดา วงศ์ผู้ดี

ปนัดดา วงศ์ผู้ดีในบท หม่อมลำดวน คือหนึ่งในตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับวังของ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ในละครพีเรียดสุดปังนี้ หม่อมลำดวนเป็น หม่อมคนที่สอง ในวัง รองจาก หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) และอยู่เคียงข้างหม่อมคนอื่น ๆ อย่างหม่อมนิ่มและหม่อมน้อย เธอเป็นสาวที่มี ความสง่างาม แต่ก็เต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน อยากให้กำเนิด ลูกชาย เพื่อเป็นทายาทสืบทอดตระกูลรวีวาร เพราะท่านชายมีแต่ลูกสาวจากหม่อมทุกคน 😤

หม่อมลำดวนอยู่ในวังที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความอิจฉา โดยเฉพาะเมื่อ อีสา (นุ่น วรนุช) สาวน้อยกำพร้าที่กลายเป็นหม่อมใหม่ของท่านชายและได้รับความโปรดปรานสุด ๆ หม่อมลำดวนเลยรู้สึกถูกคุกคามตำแหน่งของตัวเอง และเมื่ออีสาคลอดลูกชาย (คุณชายรวีช่วงโชติ) หม่อมลำดวนยิ่งรู้สึกเสียเปรียบ แต่เมื่อท่านชายสิ้นพระชนม์ วังแตกสลาย หม่อมลำดวนและหม่อมคนอื่น ๆ ต้องออกจากวังไป ตัวละครของเธอจึงค่อย ๆ จางหายไปจากเรื่อง แต่บทบาทในช่วงต้นคือจุดเริ่มต้นของดราม่าในวัง 😱

หม่อมลำดวนเป็นตัวละครที่ มีมิติ เธอไม่ใช่ตัวร้ายแบบเต็มตัว แต่เป็นผู้หญิงที่พยายามรักษาตำแหน่งและศักดิ์ศรีของตัวเองในระบบวังที่โหดร้าย การแสดงของปนัดดาทำให้หม่อมลำดวนดูทั้งน่าเกรงขามและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน 😎

ฉายา “สาววังผู้ทะเยอทะยาน”
เพราะหม่อมลำดวนคือสาวในวังที่เปี่ยมไปด้วยความสง่างามและความมุ่งมั่น 😏 เธออยากเป็นที่หนึ่งในใจท่านชายและอยากให้กำเนิดลูกชายเพื่อยกระดับสถานะของตัวเอง แต่ความทะเยอทะยานนี้ก็ทำให้เธอต้องเผชิญกับความอิจฉาและความกดดันในวัง เรียกว่าเป็นตัวละครที่ทั้งสวยและแซ่บ

ข้อคิด “ความทะเยอทะยานที่มากเกินไปอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง”
จากตัวละครหม่อมลำดวน ข้อคิดที่ได้คือ ความทะเยอทะยานที่มากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์กับผู้อื่นอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความทุกข์ หม่อมลำดวนมุ่งมั่นอยากได้ตำแหน่งและความรักจากท่านชาย แต่การแข่งขันในวังทำให้เกิดความอิจฉาและความตึงเครียด ซึ่งส่งผลให้ชีวิตของเธอและคนรอบข้างยุ่งยาก ข้อคิดนี้เตือนใจว่า ความทะเยอทะยานต้องสมดุลด้วยความเคารพและความเข้าใจผู้อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง 💡

หม่อมลำดวน (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) คือสาววังที่สวยและทะเยอทะยาน ฉายา “สาววังผู้ทะเยอทะยาน” เพราะเธอมุ่งมั่นอยากได้ใจท่านชายและตำแหน่งในวัง ข้อคิดคือ “ความทะเยอทะยานที่มากเกินไปอาจนำไปสู่ความขัดแย้ง” การแสดงของปนัดดาคือปังมาก ทำให้หม่อมลำดวนดูทั้งสง่าและน่าสงสาร

→ ลักขณา วัธนวงส์ศิริ รับบท หม่อมนิ่ม

unnamed 5
ลักขณา วัธนวงส์ศิริ

ลักขณาในบท หม่อมนิ่ม คือหนึ่งในตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นให้วังของ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ในละครพีเรียดสุดปังนี้ หม่อมนิ่มเป็น หม่อมคนที่สาม ในวัง รองจาก หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) และ หม่อมลำดวน (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) เธอเป็นสาวที่มี ความอ่อนหวานและเงียบขรึม แต่ก็ซ่อนความหวังและความทะเยอทะยานไว้ในใจ เพราะในวังที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน หม่อมนิ่มก็อยากให้กำเนิด ลูกชาย เพื่อเป็นทายาทตระกูลรวีวาร เหมือนหม่อมคนอื่น ๆ  😤

หม่อมนิ่มมีบทบาทสำคัญในช่วงต้นเรื่อง โดยเฉพาะตอนที่ ป้าเจิม (รัญญา ศิยานนท์) พา อีสา (นุ่น วรนุช) มาฝากให้ฝึกรำกับเธอและหม่อมน้อย อีสาได้แสดงความสามารถด้านการรำจนกลายเป็นที่โปรดปรานของท่านชาย ซึ่งทำให้หม่อมนิ่มและหม่อมคนอื่น ๆ เกิดความอิจฉา 😱 เมื่ออีสากลายเป็นหม่อมและคลอดลูกชาย (คุณชายรวีช่วงโชติ) ความตึงเครียดในวังยิ่งพุ่งปรี๊ด และเมื่อท่านชายสิ้นพระชนม์ วังแตกสลาย หม่อมนิ่มก็ต้องออกจากวังไปพร้อมหม่อมคนอื่น ๆ ทำให้บทของเธอค่อย ๆ จางลง แต่การปรากฏตัวของเธอในช่วงต้นคือส่วนสำคัญที่จุดชนวนดราม่าในวัง การแสดงของลักขณาคือสุดยอด ทำให้นึกถึงสาววังที่ทั้งอ่อนหวานและมีไฟในตัว 😎

ฉายา “สาววังเงียบแต่แซ่บ”
เพราะหม่อมนิ่มคือสาวที่ดูอ่อนหวาน เงียบขรึม แต่ลึก ๆ แล้วมีความทะเยอทะยานและไฟในการแข่งขันไม่แพ้ใคร 😏 เธออาจจะไม่แสดงออกชัดเจนเหมือนหม่อมพริ้มหรือหม่อมลำดวน แต่ความหวังที่จะได้เป็นที่รักของท่านชายและมีลูกชายทำให้เธอเป็นตัวละครที่แซ่บเงียบ ๆ และน่าจับตามอง

ข้อคิด “ความเงียบไม่ได้แปลว่าไร้พลัง แต่ต้องรู้จักใช้ให้ถูกจังหวะ”
จากตัวละครหม่อมนิ่ม ข้อคิดที่ได้คือ การเป็นคนเงียบขรึมหรือไม่แสดงออกมากไม่ได้แปลว่าไม่มีพลังหรือความทะเยอทะยาน แต่ต้องรู้จักใช้พลังนั้นให้ถูกจังหวะและเหมาะสม หม่อมนิ่มเลือกที่จะอยู่ในเงาและไม่ปะทะตรง ๆ แต่ความหวังของเธอก็ทำให้เกิดความตึงเครียดในวัง ข้อคิดนี้สอนให้เราใช้ความสามารถและความมุ่งมั่นอย่างชาญฉลาด เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งหรือทำร้ายตัวเองและผู้อื่น 💡

หม่อมนิ่ม (ลักขณา วัธนวงส์ศิริ) คือสาววังที่ดูอ่อนหวานแต่ซ่อนความแซ่บไว้ในใจ ฉายา “สาววังเงียบแต่แซ่บ” เพราะเธอเงียบขรึมแต่มีความทะเยอทะยาน ข้อคิดคือ “ความเงียบไม่ได้แปลว่าไร้พลัง แต่ต้องใช้ให้ถูกจังหวะ” การแสดงของลักขณาคือปังมาก ทำให้หม่อมนิ่มดูมีเสน่ห์และน่าจดจำ

→ อริศรา วงษ์ชาลี รับบท บัว

78e41e20c70b1617d4c9904de1a19905 1557630283
อริศรา วงษ์ชาลี

อริศราในบท บัว คือตัวละครที่มาเติมสีสันและความดราม่าให้กับวังของ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ในละครพีเรียดสุดเข้มข้นนี้ บัวเป็น สาวใช้ในวัง ที่ทำงานในโรงครัวเคียงข้าง ป้าเจิม (รัญญา ศิยานนท์) เธอเป็นสาวที่ ขยัน ซื่อสัตย์ แต่ก็มีความ ซุกซนและปากกล้า นิด ๆ ทำให้เป็นตัวละครที่ดูมีชีวิตชีวาและน่ารักในแบบชาวบ้าน 😄

บัวปรากฏตัวในช่วงต้นเรื่อง โดยเฉพาะตอนที่ อีสา (นุ่น วรนุช) ยังเป็นสาวน้อยกำพร้าที่เติบโตในวัง เธอเป็นเพื่อนคนสนิทของอีสา คอยช่วยเหลือและเป็นกำลังใจในชีวิตประจำวันของอีสาในวังที่เต็มไปด้วยความกดดันจาก หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) และหม่อมคนอื่น ๆ บัวมักจะมีท่าทีขี้เล่นและพูดจาตรง ๆ ซึ่งทำให้คนดูรู้สึกถึงความสดใสท่ามกลางดราม่าหนัก ๆ ของเรื่อง 😜 เมื่ออีสากลายเป็นหม่อมและต่อมาเจอดราม่าต่าง ๆ บัวก็ยังคงเป็นตัวละครที่คอยอยู่เคียงข้างในช่วงต้น ๆ ก่อนที่บทของเธอจะค่อย ๆ จางลงเมื่อเรื่องดำเนินไป การแสดงของอริศราทำให้บัวเป็นตัวละครที่ดู น่ารักและเป็นธรรมชาติ มาก ๆ ทำเอาคนดูยิ้มได้ทุกครั้งที่เธอโผล่มา 😍

ฉายา “สาวใช้จอมซน”
เพราะบัวคือสาวใช้ในวังที่ทั้งขยันและซุกซน 😈 เธอมีนิสัยร่าเริง ปากกล้า และมักจะพูดหรือทำอะไรที่ทำให้บรรยากาศในวังดูมีสีสันขึ้นมา ความซนและความจริงใจของเธอทำให้เธอเป็นที่รักของทั้งอีสาและคนดู เรียกว่าเป็นตัวละครที่ขโมยซีนได้แบบเนียน ๆ

ข้อคิด “ความจริงใจและรอยยิ้มสามารถเป็นแสงสว่างในยามยาก”
จากตัวละครบัว ข้อคิดที่ได้คือ ความจริงใจและความร่าเริงสามารถเป็นพลังบวกที่ช่วยให้คนรอบข้างรู้สึกดีขึ้นได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก บัวอาจเป็นแค่สาวใช้ในวัง แต่ความสดใสและการเป็นเพื่อนที่ดีของเธอช่วยให้อีสามีกำลังใจในช่วงที่ชีวิตเต็มไปด้วยความกดดัน ข้อคิดนี้สอนให้เราใช้ความจริงใจและรอยยิ้มเพื่อเป็นกำลังใจให้คนรอบตัว แม้เราจะอยู่ในตำแหน่งเล็ก ๆ ก็ตาม 💖

บัว (อริศรา วงษ์ชาลี) คือสาวใช้ที่ซนและน่ารักสุด ๆ ฉายา “สาวใช้จอมซน” เพราะเธอนำความสดใสและรอยยิ้มมาสู่วัง ข้อคิดคือ “ความจริงใจและรอยยิ้มเป็นแสงสว่างในยามยาก” การแสดงของอริศราคือดีมาก ทำให้บัวเป็นตัวละครที่คนดูหลงรัก

→ ไปรมา รัชตะ รับบท แป้น

ct 20220227022005459
ไปรมา รัชตะ

ไปรมาในบท ป้าแป้น คือตัวละครที่เป็นเหมือนลมใต้ปีกให้ อีสา (นุ่น วรนุช) ในช่วงครึ่งหลังของละครพีเรียดสุดเข้มข้นนี้ ป้าแป้นเป็น หญิงชาวสวน ที่อาศัยอยู่แถวคลองบางกอกน้อย เธอเป็นคน ใจดี อัธยาศัยดี และมีนิสัย อบอุ่น เหมือนแม่บ้านในละครที่คอยต้อนรับทุกคนด้วยรอยยิ้ม 😊 ป้าแป้นเป็น ย่าของใจสว่าง (ภัณฑลา ปานสิริธนาโชติ) สาวน้อยที่เป็นเพื่อนของโสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ)

ป้าแป้นโผล่มาในช่วงที่อีสาออกจากวังและเผชิญชีวิตยากลำบาก เธอให้ที่พักพิงและความช่วยเหลือแก่อีสาด้วยความเต็มใจ โดยไม่สนใจอดีตที่ซับซ้อนของอีสา ไม่ว่าจะเป็นการเป็นหม่อมหรือนางละคร ป้าแป้นยังคอยเป็นที่ปรึกษาและให้กำลังใจอีสาในช่วงที่ต้องรับมือกับความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงกับ โสภิตพิไล ลูกสาวของเธอ ถึงบทของป้าแป้นจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่เธอคือตัวละครที่ สร้างความอบอุ่น และเป็นเหมือนบ้านที่อีสากลับมาได้เสมอ การแสดงของไปรมานั้นปังมาก ทำให้ป้าแป้นเป็นตัวละครที่คนดูรู้สึกเหมือนได้เจอย่าหรือยายที่แสนดี 😍

ฉายา “ย่าชาวสวนใจงาม”
เพราะป้าแป้นคือหญิงชาวสวนที่ใจดีสุด ๆ 😇 เธอเปิดบ้านและหัวใจต้อนรับอีสาด้วยความเมตตา ไม่ตัดสินใคร และคอยเป็นที่พึ่งให้ทุกคน ราวกับเป็นย่าที่แสนอบอุ่นในละคร ความใจดีของเธอทำให้คนดูรู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่เห็น

ข้อคิด “ความเมตตาที่ไม่มีเงื่อนไขสร้างที่พักใจให้ผู้อื่น”
จากตัวละครป้าแป้น ข้อคิดที่ได้คือ ความเมตตาที่มอบให้โดยไม่มีเงื่อนไขสามารถเป็นที่พักใจและพลังให้คนที่กำลังลำบากได้ ป้าแป้นไม่เคยถามถึงอดีตของอีสา แต่เลือกที่จะช่วยเหลือและให้กำลังใจด้วยใจบริสุทธิ์ การกระทำของเธอช่วยให้อีสามีกำลังใจในการต่อสู้กับชีวิต ข้อคิดนี้สอนให้เราเป็นคนที่พร้อมเปิดใจช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ตัดสิน เพื่อสร้างความหวังและความอบอุ่นให้โลกนี้ 💖

ป้าแป้น (ไปรมา รัชตะ) คือย่าชาวสวนที่ใจดีและอบอุ่นสุด ๆ ฉายา “ย่าชาวสวนใจงาม” เพราะเธอเป็นที่พึ่งของอีสาด้วยความเมตตา ข้อคิดคือ “ความเมตตาที่ไม่มีเงื่อนไขสร้างที่พักใจให้ผู้อื่น”การแสดงของไปรมาคือสุดยอด ทำเอาเรารู้สึกเหมือนได้เจอย่าที่แสนดี

→ จอย ชวนชื่น รับบท หวน

0cdbbe02 c70b 47d2 802f eac21b4ceeb3
จอย ชวนชื่น

จอย ชวนชื่นในบท หวน คือตัวละครที่มาเติมสีสันและความขบขันให้กับละครพีเรียดสุดเข้มข้นนี้ หวนเป็น สาวใช้ในวัง ของ หม่อมเจ้าโชติช่วงระวี (ธีรพงศ์ เหลียวรักษ์วงศ์) ทำงานในโรงครัวเคียงข้าง ป้าเจิม (รัญญา ศิยานนท์) และ บัว (อริศรา วงษ์ชาลี) เธอเป็นสาวที่ ขี้เล่น ขี้แซว และมีนิสัย ปากกล้า ทำให้เป็นตัวละครที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในวังที่เต็มไปด้วยดราม่าและการแข่งขันของบรรดาหม่อมอย่าง หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช) และ หม่อมลำดวน (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) 😅

หวนมักจะอยู่ในฉากที่เกี่ยวกับ อีสา (นุ่น วรนุช) ตอนที่เธอยังเป็นสาวน้อยกำพร้าในวัง เธอชอบแซวและหยอกล้ออีสากับบัว ทำให้เกิดโมเมนต์น่ารัก ๆ ท่ามกลางความกดดันจากเหล่าหม่อม ถึงแม้ว่าบทของหวนจะไม่ใช่ตัวหลักและปรากฏในช่วงต้นเรื่องเป็นส่วนใหญ่ แต่เธอก็เป็นตัวละครที่ น่ารักและมีเสน่ห์ ช่วยให้คนดูได้ยิ้มและผ่อนคลายจากดราม่าหนัก ๆ การแสดงของจอย ชวนชื่นคือปังมาก ทำให้หวนเป็นสาวใช้ที่ดูมีชีวิตชีวาและขโมยซีนได้ทุกครั้งที่โผล่มา 😜

ฉายา “สาวใช้จอมแซว”
เพราะหวนคือสาวใช้ที่ปากกล้าและขี้แซวสุด ๆ 😈 เธอมักจะโยนมุกหรือแซวเพื่อน ๆ ในวังอย่างอีสาและบัว ทำให้บรรยากาศในโรงครัวดูครึกครื้นและสนุกสนาน ความขี้เล่นของเธอคือจุดเด่นที่ทำให้คนดูต้องหลงรักและจำเธอได้

ข้อคิด “ความร่าเริงสามารถเป็นพลังบวกในสถานการณ์ที่ตึงเครียด”
จากตัวละครหวน ข้อคิดที่ได้คือ ความร่าเริงและอารมณ์ขันสามารถเป็นพลังบวกที่ช่วยคลายความตึงเครียดให้คนรอบข้างได้ แม้ว่าหวนจะเป็นแค่สาวใช้ในวัง แต่การแซวและความขี้เล่นของเธอช่วยให้อีสาและคนอื่น ๆ ได้ยิ้มและผ่อนคลายในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ข้อคิดนี้สอนให้เราใช้ความร่าเริงและมุมมองบวกเพื่อสร้างรอยยิ้มให้คนรอบตัว แม้ในสถานการณ์ที่หนักหนา 💖

หวน (จอย ชวนชื่น) คือสาวใช้ที่ขี้แซวและนำความสนุกมาสู่วัง ฉายา “สาวใช้จอมแซว” เพราะเธอปากกล้าและทำให้ทุกคนยิ้มได้ ข้อคิดคือ “ความร่าเริงเป็นพลังบวกในสถานการณ์ตึงเครียด” การแสดงของจอยคือสุดยอด ถึงบทจะสั้นแต่ทำให้หวนน่าจดจำ

→ สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัตน์ รับบท พร

bd7846f0 60ca 11ed 8a7e c1297aa48775 webp original
สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัตน์

สุมนรัตน์ในบท พร คือตัวละครที่มาเติมสีสันให้กับช่วงครึ่งหลังของละครพีเรียดสุดเข้มข้นนี้ พรเป็น สาวใช้ในบ้านของอีสา (นุ่น วรนุช) ตอนที่อีสากลายเป็น อุษา สาวใหญ่เจ้าของไนต์คลับสุดแซ่บวัย 40 เธอเป็นสาวที่ ขยัน ซื่อสัตย์ และมีนิสัย ร่าเริง คอยช่วยงานในบ้านและดูแลความเรียบร้อยให้อีสา โดยเฉพาะในช่วงที่อีสาต้องรับมือกับดราม่าหนัก ๆ เกี่ยวกับ โสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) ลูกสาวที่ไม่รู้ว่าอีสาคือแม่แท้ ๆ 😢

พรเป็นตัวละครที่ไม่ได้มีบทเด่นมาก แต่เธอคือ ตัวแทนของคนธรรมดา ที่คอยสนับสนุนตัวละครหลักอย่างเงียบ ๆ เธอมักจะอยู่ในฉากที่อีสาต้องจัดการกับความวุ่นวายในชีวิต เช่น การเผชิญหน้ากับ ประธาน (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) หรือการพยายามสานสัมพันธ์กับโสภิตพิไล พรเป็นเหมือนเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจได้ ช่วยให้บ้านของอีสาดูมีชีวิตชีวาและอบอุ่นขึ้น การแสดงของสุมนรัตน์ทำให้พรเป็นตัวละครที่ น่ารักและเป็นธรรมชาติ ทำเอาเรารู้สึกว่าเธอเหมือนคนในครอบครัวที่คอยช่วยเหลืออีสาแบบไม่มีเงื่อนไข 😊

ฉายา “สาวใช้ใจแกร่ง”
เพราะพรคือสาวใช้ที่ไม่เพียงแค่ทำงานหนัก แต่ยังมีจิตใจที่เข้มแข็งและซื่อสัตย์ 💪 เธออยู่เคียงข้างอีสาในช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วยดราม่าและความซับซ้อน โดยไม่เคยบ่นหรือทิ้งไปไหน ความมุ่งมั่นและความจงรักภักดีของเธอทำให้คนดูต้องยกนิ้วให้

ข้อคิด “ความซื่อสัตย์และการทำงานหนักเป็นรากฐานของความไว้วางใจ”
จากตัวละครพร ข้อคิดที่ได้คือ ความซื่อสัตย์และการทำงานอย่างทุ่มเทสามารถสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างได้ พรอาจเป็นแค่สาวใช้ แต่ความตั้งใจทำงานและความจงรักภักดีต่ออีสาทำให้เธอเป็นที่พึ่งที่สำคัญในบ้าน ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นคุณค่าของการทำงานหนักและการรักษาความซื่อสัตย์ เพราะมันจะนำไปสู่ความเคารพและความรักจากคนรอบตัว 💖

พร (สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัตน์) คือสาวใช้ที่ขยันและใจแกร่ง ฉายา “สาวใช้ใจแกร่ง” เพราะเธอซื่อสัตย์และคอยสนับสนุนอีสาในทุกสถานการณ์! ข้อคิดคือ “ความซื่อสัตย์และการทำงานหนักเป็นรากฐานของความไว้วางใจ” การแสดงของสุมนรัตน์คือดีมาก ทำให้พรเป็นตัวละครที่อบอุ่นและน่ารัก


มาถึงช่วงสุดท้ายของ “อีสา รวีช่วงโชติ” (2556) ละครพีเรียดสุดดราม่าที่พาเราดำดิ่งสู่โลกของความรัก ความแค้น และโศกนาฏกรรมในสมัยรัชกาลที่ 6 จากชีวิตของ อีสา (นุ่น วรนุช) สาวน้อยกำพร้าที่กลายเป็นหม่อม สู่นางละคร และเจ้าของไนต์คลับสุดแซ่บ ไปจนถึงตัวละครสุดปังอย่าง หม่อมพริ้ม (สินจัย เปล่งพานิช), คุณชายรวี (นิธิดล ป้อมสุวรรณ), โสภิตพิไล (มนชนก แสงฉายเพียงเพ็ญ) และคนอื่น ๆ ที่เติมเต็มเรื่องราวให้เข้มข้น เราได้เห็นทั้งความรักที่ผิดหวัง ความทะเยอทะยานที่นำไปสู่ความสูญเสีย และความเมตตาที่เยียวยาหัวใจ 😭✨

ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ดราม่าจัดเต็ม แต่ยังสอนให้เราเห็นว่า กิเลสและความรัก ถ้าไม่สมดุลด้วยสติและความรับผิดชอบ อาจพาเราไปสู่จุดจบที่เจ็บปวด แต่ในขณะเดียวกัน ความจริงใจและการให้อภัยก็สามารถเปลี่ยนชีวิตได้! หวังว่าการเม้าท์ตัวละครทั้งหมดจะทำให้ทุกคนอินและอยากย้อนไปดูใหม่ 😍