สาวชาวไร่สุดห้าว ชีวิตเรียบง่ายของเธอพลิกผัน เมื่อปู่ผู้มีพระคุณผู้ล่วงลับ ได้สั่งเสียให้เธอไปดัดนิสัย หลานชายคนเดียวของเขา หนุ่มหล่อรวยเอาแต่ใจและก่อเรื่องวุ่นวาย

ละคร บัลลังก์ดอกไม้ 2560 ละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องราวของ “พูดชมพู ฤาชุดา หรือ พุด” เจ้าของไร่ดอกเล็ก ๆ นาม อุ่นรัก ต้องเข้าไปมีเอี่ยวกับตระกูลธุรกิจพันล้านอย่างสัตยารักษ์โดยไม่ตั้งใจ เมื่อ ปู่เล็ก ผู้มีพระคุณผู้ล่วงลับ ขอร้องให้เธอช่วยดัดนิสัย “อนาวินทร์ หรือ วิน สัตยารักษ์” หลานชายคนเดียวของเขา ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความเอาแต่ใจ และร้ายกาจ ให้พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำของตระกูล โดยกำหนดให้สาวห้าวชาวไร่อย่างพุดชมพู มาร่วมบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างสัตยาอสังหา และส่งคุณชายเทวดาอย่างอนาวินทร์ ไปทำงานที่ไร่อุ่นรักเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อแลกกับสิทธิในการรับมรดกเงื่อนไขพินัยกรรมประหลาดนี้ สร้างความไม่พอใจให้อนาวินทร์ ผู้มีปมฝังใจว่าปู่ไม่รัก และทิพนาถ แม่เลี้ยงที่เอาแต่เสวยสุขบนกองเงินของสัตยารักษ์อย่างมาก ทั้งคู่มองว่าพุดชมพูเป็นศัตรูตัวร้ายที่จะมาแย่งสมบัติของตระกูลไป



ละคร บัลลังก์ดอกไม้ 2560

ละคร บัลลังก์ดอกไม้ 2560

ละคร บัลลังก์ดอกไม้ 2560 EP.1-20CH3+

ฉากเด็ดละคร บัลลังก์ดอกไม้

กลัวจะเผลอรักเธอไปสักวัน Ost.บัลลังก์ดอกไม้ | เต้ย จรินทร์พร & มาริโอ้ เมาเร่อ | Official MV ขอบคุณ Ost.บัลลังก์ดอกไม้ | โตโน่ & The Dust | Official MV

ละคร บัลลังก์ดอกไม้ 2560

อนาวินทร์ หนุ่มไฮโซหัวสูงผู้ไม่เคยมองเห็นใครอยู่ในสายตาดูถูกคนอื่นจนเรียกว่าเป็นนิสัยคิดว่าบัลลังก์ทองนั้นจะตกเป็นของเขาแต่พอพินัยกรรมถูกเปิดกลับไม่เป็นตามที่หวังเพราะมันระบุให้ พุดชมพูสาวห้าวเจ้าของไร่ดอกเบญจมาศที่ติดหนี้อดีตผู้นำสัตยารักษ์ต้องมารับภารกิจดัดนิสัยอนาวินทร์ให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ครบหนึ่งปีเขาจึงจะได้สมบัติทั้งหมด! ด้วยเงื่อนไขจากพินัยกรรมประหลาดนี้เองได้ร้อยรัดผูกพันผู้หญิงกระโดกกระเดกและผู้ชายยโสเอาแต่ใจเข้าด้วยกันอย่างไม่มีทางเลือกแม้จะเริ่มต้น…ด้วยความขัดแย้งทว่าเมื่อความรักบังเกิดขึ้นกลางใจพายุร้ายจึงกลายเป็นสายลมอุ่นที่โอบอุ้มดอกไม้ให้เบ่งบานงดงาม

พูดชมพู ฤาชุดา หรือ พุด เจ้าของไร่ดอกเล็ก ๆ นาม อุ่นรัก ต้องเข้าไปมีเอี่ยวกับตระกูลธุรกิจพันล้านอย่างสัตยารักษ์โดยไม่ตั้งใจ เมื่อ ปู่เล็ก ผู้มีพระคุณผู้ล่วงลับ ขอร้องให้เธอช่วยดัดนิสัย อนาวินทร์ หรือ วิน สัตยารักษ์ หลานชายคนเดียวของเขา ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความเอาแต่ใจ และร้ายกาจ ให้พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำของตระกูล โดยกำหนดให้สาวห้าวชาวไร่อย่างพุดชมพู มาร่วมบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างสัตยาอสังหา และส่งคุณชายเทวดาอย่างอนาวินทร์ ไปทำงานที่ไร่อุ่นรักเป็นเวลาหนึ่งปีเพื่อแลกกับสิทธิในการรับมรดกเงื่อนไขพินัยกรรมประหลาดนี้ สร้างความไม่พอใจให้อนาวินทร์ ผู้มีปมฝังใจว่าปู่ไม่รัก และทิพนาถ แม่เลี้ยงที่เอาแต่เสวยสุขบนกองเงินของสัตยารักษ์อย่างมาก ทั้งคู่มองว่าพุดชมพูเป็นศัตรูตัวร้ายที่จะมาแย่งสมบัติของตระกูลไป

 

           เพียงแค่วันแรกที่พุดชมพูเข้ามาอยู่ในบ้านสัตยารักษ์ เธอก็เปิดศึกกับอนาวินทร์ที่โต๊ะอาหารจนบ้านแทบแตก เล่นเอาบรรดาคนรับใช้ที่ไม่เคยเห็นใครกล้าขัดใจคุณชายของบ้านต่างตกตะลึงไปตาม ๆ กัน ยังดีที่พุดชมพูมีทนายหนุ่มประจำตระกูลสัตยารักษ์อย่าง ทรงรบ คอยช่วยดูแล และเบรกเหตุการณ์ไว้ ฝ่ายอนาวินทร์ก็มี การันต์ ลูกกำพร้าที่ปู่เล็กเก็บมาเลี้ยงให้เป็นเพื่อนหลานชาย คอยเป็นเพื่อนคู่คิด และรองรับความโกรธ ขณะที่ทิพนาถก็มี ชวกร หนุ่มคู่ขารุ่นลูกคอยพาไปแก้เซ็งที่บ่อนไฮโซ ซึ่งกลับยิ่งทำให้เธอเครียดหนักเพราะเสียเงินก้อนโต จนต้องหาทางออกโดยการให้ชวกรแอบใช้ตำแหน่งฝ่ายบัญชีของสัตยาอสังหา ซึ่งได้มาด้วยบารมีของทิพนาถ แอบยักยอกเงินออกจากบริษัท

          เมื่อเห็นท่าว่าจะต้องรับศึกหนัก พุดชมพูจึงขอร้องให้ ช่อม่วง เพื่อนซี้สาวนักบัญชีมาทำงานเป็นเลขาของเธอที่สัตยาอสังหา หนอนหนังสือช่างฝันอย่างช่อม่วง จึงได้มาทำงานกับหนุ่มตึ๋ผู้เคร่งเครียดกับงาน และจริงจังกับชีวิตแบบเกินร้อยอย่างทรงรบ เลยกลายเป็นคู่คิดที่เข้าขาแต่ไม่ค่อยเข้าใจกันเท่าไร พุดชมพูเริ่มต้นปฏิวัติสัตยารักษ์ ด้วยการออกกฎให้คนรับใช้มีวันหยุดสัปดาห์ละหนึ่งวัน รวมทั้งไม่ต้องออกมารับใช้เจ้านายหลัง 4 ทุ่ม ทำเอาทั้งอนาวินทร์ และทิพนาถอาละวาดฟาดงวงฟาดงาใหญ่โต แต่พุดชมพูไม่สะทกสะท้าน และอ้างความชอบธรรมจากพินัยกรรมที่ให้เธอเป็นผู้ดูแลบ้านสัตยารักษ์ สองแม่ลูกจึงได้แต่เก็บความโกรธไว้เป็นคลื่นใต้น้ำ และเริ่มวางแผนเล่นงานพุดชมพู อนาวินทร์ให้การันต์สืบเรื่องของพุดชมพู จนได้รู้ความลับว่าเธอกลัวความมืด เขาจึงวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับพุดชมพู และแกล้งดับไฟในห้องจัดเลี้ยงจนมืดสนิท หมายจะได้เห็นผู้บริหารใหม่ที่เขาเรียนกว่า ยัยพุดเน่า นั่งร้องไห้ตัวสั่นงันงก แต่เรื่องกลับผิดคาคเมื่อเพื่อนรักอย่างการันต์เข้าไปช่วยพุดชมพูไว้ไม่ให้ต้องอับอายต่อหน้าพนักงานทั้งบริษัท อนาวินทร์โกรธที่เพื่อนหักหลัง แม้เขาจะให้อภัยการันต์ที่แก้ตัวว่าทำไปเพราะความไม่รู้ว่าไฟจะดับตอนนั้น แต่เรื่องนี้ก็จุดประกายความสงสัยในเจตนาของการันต์

          อนาวินทร์เดินหน้ากวนประสาทผู้คุมกฎบ้านอย่างพุดชมพูต่อ ด้วยการพาสาว ๆ มาเสพสุขที่บ้านไม่ซ้ำหน้า และทุกครั้งเขาจะต้องมาเคาะประตูห้องพุดชมพู ทำเป็นเด็กดีมารายงานตัวอยู่เสมอ พุดชมพูจึงโต้กลับด้วยการจัดฉากเอากล้องวิดีโอพร้อมอุปกรณ์อย่าง โซ่ แส้ กุญแจมือ มาซ่อนแบบไม่เนียนไว้ในห้องอนาวินทร์ทำเอาสาวรายล่าสุดที่อนาวินทร์พามาต้องเปิดแน่บ พร้อมกระจายข่าวลือว่าอนาวินทร์เป็นพวกกามวิตถาร เหตุการณ์นี้ทำให้อนาวินทร์แอบติดกล้องวงจรปิดไว้ในห้อง เพื่อดักจับพุดชมพูที่อาจแอบมาทำอะไรพิสดารในห้องเขาอีก

          ระเบิดลูกต่อมาเกิดขึ้น เมื่ออนาวินทร์จัดงานปาร์ตี้ในบ้านอย่างที่ทำเป็นประจำทุกเดือน เสียงเฮฮาลั่นบ้านจนดึกดื่นนั้น ทำให้ความอดทนของสาวชาวไร่ที่มักเข้านอนแต่หัวค่ำขาดฝึง พุดชมพูสั่งยุติงานปาร์ตี้ทันที การปรากฏตัวของเธอ ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งท่ามกลางชุดสวยหรูของบรรดาเพื่อนฝูงอนาวินทร์ ยังไม่สร้างความแตกตื่น และประหลาดใจเท่ากับอาการใบ้กินของคุณชายของบ้านที่ไม่เคยยอมใคร แม้ วาธิณี หรือ หวาย เพื่อนสาวคนสนิทที่ประกาศกับใครต่อใครว่าเป็นแฟนอนาวินทร์ จะพยายามยุชายหนุ่มให้จัดการกับพุดชมพู แต่ก็ไม่เป็นผล แม้แขกเหรื่อจะวงแตกแยกย้ายกันไปแล้ว แต่ความโกรธที่ถูกหักหน้าก็ยังไม่ลดลง อนาวินทร์ นึกถึงคำยุของการันต์ที่ให้จัดการรวบหัวรวบหางพุดชมพู เพื่อเขาจะได้ทั้งเมียได้ทั้งสมบัติ ความคิดบ้า ๆ เสริมแรงด้วยฉากรักตบจูบในทีวีที่เขาเปิดไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา ทำให้อนาวินทร์เกิดลูกบ้าบุกปล้ำพุดชมพู เจ้าของไร่อุ่นรักต้องเรียกสติชายหนุ่มด้วยการประเคนแจกันฟาดหัวเขาจนเลือดอาบ และก็เป็นเธอเองที่พาหนุ่มพันธุ์หมาบ้าที่กลายเป็นเหมาจ๋อยไปทำแผลที่โรงพยาบาล

          การยอมหักไม่ยอมงอของพุดชมพูอาจจะเป็นที่ถูกใจคนที่เกลียด และกลัวอนาวินทร์ แต่ไม่ใช่สำหรับ ป้านุ่ม คนรับใช้เก่าแก่ของบ้านที่เลี้ยงอนาวินทร์มาตั้งแต่เด็ก หลังเหตุการณ์ทลายปาร์ตี้ ป้านุ่มขอร้องพุดชมพูให้เห็นใจคุณหนูของเธอด้วย เพราะลึก ๆ แล้ว อนาวินทร์เป็นคนขาดความรัก เนื่องจากแม่แท้ ๆ เสียชีวิตตั้งแต่คลอดเขาออกมา ส่วนพ่อก็มาจากไปอีกคนตั้งแต่เขายังเด็ก เหลือก็แต่ปู่เล็กที่มัวยุ่งกับบริษัทจนไม่มีเวลาให้หลานชาย กับแม้เลี้ยงอย่างทิพนาถที่ไม่เคยสนใจใครนอกจากตัวเอง พุดชมพูได้ฟังก็รู้สึกเห็นใจ และเข้าใจคุณหนูอารมณ์ร้ายขึ้นมาบ้าง เธอจึงเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อนในการทำให้คุณชายไฮโซยอมตามเธอไปเป็นคนงานไร่ วันหนึ่งขณะที่อนาวินทร์จะขับรถไปทำงาน พุดชมพูก็จัดแจงยัดเยียดตัวเองไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถ และใช้เวลาตลอดระยะทางจากบ้านถึงสัตยาอสังหาในการเจรจาสงบศึกกับอนาวินทร์ พร้อมแสดงความจริงใจโดยยื่นข้อเสนอว่าหากอนาวินทร์ทำงานที่ไร่ได้ครบสามเดือน เขามีสิทธิขอรางวัลจากเธอหนึ่งอย่าง อนาวินทร์เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไป และดูจริงใจของพุดชมพู จึงตกลงใจลองรับข้อเสนอ 

          สมาชิกไร่อุ่นรักต้อนรับอนาวินทร์ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป สาวใหญ่อารมณ์ดีอย่าง ภัทรา แม่ของพุดชมพู ที่รู้จักลูกสาวดีว่าเก่งพอที่จะเอาชนะอุปสรรคใด ๆ ได้เสมอ ก็ยังอดเป็นกำลังไม่ได้กับการจับคุณชายเทวดามาเป็นคนงานไร่ ข้างฝ่าย จิระ หรือ โจ้ เพื่อนสนิทอีกคนของพุดชมพูนั้น มองอนาวินทร์อย่างไม่ไว้ใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโจ้แอบชอบพุดชมพูมานาน แม้จะรู้ว่าเขาไม่อาจก้าวข้ามความเป็นเพื่อนที่หญิงสาวมอบให้ได้ เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวง และห่วง เมื่ออนาวินทร์เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตพุดชมพู ฝ่ายจิตรา น้าสาวก็อดกรี๊ดกร๊าดกับหน้าตาที่หล่อเหลาของอนาวินทร์ และแอบจับคู่จิ้นให้กับหลานสาวของเธอ

          อนาวินทร์ต้องปรับตัวกับชีวิตชาวไร่ไม่น้อย ทุกครั้งที่เขาดื้อหรืออิดออด พุดชมพูที่จับจุดได้ว่าเขาเป็นพวกไม่ยอมแพ้ ก็จะแกล้งสบประมาทจนชายหนุ่มเกิดลูกฮึดจะเอาชนะ และตกหลุมพรางเจ้าของไร่อยู่เสมอ พุดชมพูเริ่มสังเกตเห็นอีกด้านหนึ่งของอนาวินทร์ วิธีที่เขาปฏิบัติกับแม่ของเธออย่างเคารพ ทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ใช่คนไม่เห็นหัวคนอื่นอย่างที่ใคร ๆ เข้าใจ รวมทั้งการตั้งใจเรียนรู้ และทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออย่างที่ใคร ๆ คิด จะมีก็แต่ความปากเสียเท่านั้นที่อนาวินทร์ดูจะรักษาไว้ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย

          นอกจากพุดชมพู และจิระแล้ว อนาวินทร์ยังมีพี่เลี้ยงคนสำคัญอีกคนหนึ่งคือ ลุงหมาย หัวหน้าชมรมอนุรักษ์กล้วยไม้ป่า ซึ่งดูจะเอ็นดู และเข้าใจคนหนุ่มเลือดร้อนเป็นอย่างดี วันหนึ่งลุงหมายชวนพุดชมพู อนาวินทร์ และจิระไปดูที่ทำการชมรมหลังใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนเขา ตอนเย็นขากลับฝนตกหนัก ทำให้รถติดหล่มโคลน ลุงหมายกับจิระอาสาเดินไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ทิ้งพุดชมพูกับอนาวินทร์ไว้เฝ้ารถ หญิงสาวนั่งมองสายฝนแล้วคิดถึงวันที่พ่อของเธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เธอเล่าเรื่องที่ตัวเองต้องพยายามตั้งหลัก และลุกขึ้นสานฝันของพ่อให้ชายหนุ่มฟัง โดยไม่ได้คิดอะไรมากกว่าแค่อยากแบ่งปันเรื่องในอดีตที่ยังชัดเจนอยู่ในใจ แต่มันทำให้อนาวินทร์มองเธอเปลี่ยนไป เขานึกเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้า และสงสัยว่าเธอเอาความเข้มแข็งแบบนั้นมาจากไหนกันหนอ แม้อนาวินทร์จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ความรู้สึกภายในใจเขาก็สะท้อนออกมา เมื่อเขาถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกออกคลุมหัวให้พุดชมพูไม่เปียกฝน สายฝนที่เริ่มซาสวนทางกับความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อขึ้นในใจของทั้งสองคน

          การตากฝนวันนั้นทำให้อนาวินทร์รู้สึกว่ากำลังจะเป็นไข้ ระหว่างเดินหายากินอยู่ในครัว เขาเห็นพุดชมพูเดินเข้าห้องเก็บของ และถูกจิตราล็อกไว้ในนั้นโดยไม่ตั้งใจ ด้วยความหมั่นไส้ศัตรูคู่กัด อนาวินทร์จึงคิดจะปล่อยพุดชมพูไว้เผชิญกับความมืดที่เธอหวาดกลัว เขากลับเข้าห้องมานอนพัก เพียงเพื่อจะพบว่าตัวเองไม่อาจหลับได้อย่างสบายใจ เขาตัดสินใจเดินไปดูที่ห้องเก็บของ และหัวใจวูบลงเมื่อได้ยินเสียงสะอึ้นเบา ๆ จากภายใน เขารีบหากุญแจมาเปิดประตูให้ แต่ทันทีที่พุดชมพูออกมาได้ เธอกลับคิดว่าเขาจงใจแกล้งเธอ เลยต่อว่าเขาอย่างรุนแรง อนาวินทร์ทั้งโกรธทั้งเจ็บปวด เพราะนี่เป็นอีกครั้งที่ใคร ๆ มักมองว่าเรื่องเลว ๆ ต้องเป็นฝีมือเขา เหมือนในอดีตที่ปู่ตำหนิเขาอย่างรุนแรงในสิ่งที่เขาไม่ได้ทำ กลายเป็นปมสำคัญในใจของอนาวินทร์ ว่าเขาไม่เคยได้รับความเชื่อใจจากใครเลย แต่เย็นวันนั้นเองพุดชมพูได้รู้ความจริงว่าจิตราเป็นคนล็อกเธอไว้ในห้องเก็บของ พุดชมพูรู้สึกผิดที่ต่อว่าอนาวินทร์ทั้งที่เขาเป็นคนช่วยเธอไว้ เธอไปหาอนาวินทร์เพื่อขอโทษเลยได้รู้ว่าชายหนุ่มนอนซมด้วยพิษไข้ถึงขั้นไม่ได้สติ พุดชมพูรีบเช็ดตัวให้ และคอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ จนชายหนุ่มรู้สึกตัว พุดชมพูเอ่ยขอโทษที่เข้าใจเขาผิด ขณะที่อนาวินทร์ก็ขอบคุณที่เธอดูแลเขาอย่างดี แม้จะนอนซมเพราะพิษไข้ ชายหนุ่มก็พอจะรู้ว่าพุดชมพูคอยเช็ดตัวเขาเพื่อลดความร้อนอยู่เกือบทุกชั่วโมง

          ทรงรบกับช่อม่วงต้องมาเยี่ยมพุดชมพูกับอนาวินทร์เกือบทุกสัปดาห์ เพื่อให้ผู้บริหารทั้งสองเซ็นเอกสารของบริษัท วันหนึ่งทั้งสองมาปรากฏตัวที่ไร่อุ่นรักพร้อมวาธิณี ซึ่งเวียนไปหาอนาวินทร์ที่บริษัทหลายครั้ง แต่ไม่เจอตัว เธอจึงตามทนายหนุ่มมาหาอนาวินทร์ถึงไร่ และเริ่มปิดฉากระรานพุดชมพู จิระทั้งรำคาญทั้งหมั่นไส้สาวไฮโซเลยออกมาปะทะคารมกับวาธิณีแทน พุดชมพูอาศัยจังหวะชุลมุนหนีไปประชุมเทศกาลดอกไม้ในตัวเมือง โดยมีอนาวินทร์ติดตามไปด้วย เพียงแต่คราวนี้เขาอาสาเป็นคนขับแทนที่จะนั่งเป็นคุณชายเหมือนทุกครั้ง ชายหนุ่มไปนั่งรอพุดชมพูที่ร้านกาแฟกึ่งแกลลอรี่แห่งหนึ่ง เขาหยุดมองภาพถ่ายใบหนึ่งด้วยความสนใจ ภาพของพุดชมพูในชุดนักเรียนมัธยมยืนกอดช่อเบญจมาศ ในภาพนั้นเธอผมยาว บุคลิกช่างแตกต่างจากพุดชมพูในปัจจุบัน อนาวินทร์มองดวงตาที่ยิ้มสดใสนั้นราวต้องมนต์สะกด แต่แล้วเสียงร้องให้ช่วยจับขโมยก็ปลุกเขาจากภวังค์ อนาวินทร์ช่วยจับตัวขโมยไว้ได้ แต่แล้วก็นึกสะท้อนใจเมื่อสิ่งที่ชายมอซอคนนั้นขโมยมาเป็นแค่กับข้าวถุงหนึ่งเท่านั้น อนาวินทร์จึงควักเงินซื้อข้าวถุงนั้นให้ขโมย โดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาของพุดชมพูแอบมองมุมอ่อนโยนของคุณชายแห่งสัตยารักษ์อยู่

          เมื่อทำงานที่ไร่อุ่นรักครบสามเดือน อนาวินทร์ทวงรางวัลที่พุดชมพูสัญญาว่าจะให้ เขาไม่ได้เอ่ยปากบอกสิ่งที่ต้องการ แต่ก้มลงจูบพุดชมพูในสวนสวยหลังบ้าน ข้างแนวต้นพุดชมพู ต้นไม้ที่อนารินทร์เคยมองว่าไม่มีเสน่ห์ แต่วันนี้มันสวยจับใจ หลังจากคืนนั้น อนาวินทร์ก็คอยตามติดพุดชมพูไม่ห่าง จนจิระเริ่มจับตาอย่างไม่ไว้ใจ เขาพยายามเข้ามาเป็นก้างขวางคอ ไม่ให้ทั้งคู่ได้อยู่กันตามลำพัง จนเริ่มจะผิดใจกับอนาวินทร์ แต่ก็มีบางวันที่สามเส้ากลายเป็นสี่เส้าเมื่อวาธิณีมาร่วมวงด้วย ซึ่งกลับทำให้จิระต้องจัดการกับวาธิณีแทน จนวันหนึ่งที่จิระแอบเห็นพุดชมพูกับอนาวินทร์หยอกล้อกันในเรือนเพาะกล้า จิระเห็นแววตาของพุดชมพูที่มองชายหนุ่มแล้วก็ได้แต่ถอยออกมาเงียบ ๆ คืนนั้นสมาชิกไร่อุ่นรักยกขบวนกันไปร่วมงานเลี้ยงของเพื่อนบ้านลุงหมายหมักเหล้าสาโทไว้โอ่งใหญ่ เหล้าเถื่อนนี่เองเป็นสื่อกลางให้อนาวินทร์กับจิระได้เปิดใจคุยกัน

          ทรงรบกับช่อม่วงทำงานกันอย่างเข้าขา จะขัดขากันบ้างก็เรื่องที่ทรงรบชอบมองช่อม่วงเป็นสาวเพ้อฝันไม่อยู่กับความจริง แถมยังกินจุผิดผู้หญิงทั่วไป แต่ช่อม่วงก็ค่อย ๆ แสดงให้ทรงรบเห็นทีละนิดว่าเธอทั้งฉลาดแถมมีสายตาแหลมคมอ่านคนได้ขาด ช่อม่วงพบหลักฐานว่าชวกรยักยอกเงินบริษัทไปก้อนใหญ่ ทรงรบจึงโทรตามพุดชมพูกลับมาจัดการ พุดชมพูไล่ชวกรออกจากบริษัทโดยไม่บอกอนาวินทร์ เพราะเชื่อว่าทิพนาถน่าจะมีส่วนรู้เห็นจึงไม่อยากให้อนาวินทร์ลำบากใจ ทิพนาถ และชวกรแค้นจัด คิดหาทางกำจัดพุดชมพูออกไปจากสัตยารักษ์ เช่นเดียวกับการันต์ที่เริ่มสังเกตท่าทีของอนาวินทร์กับพุดชมพู แม้การันต์จะโตมากับอนาวินทร์แต่การันต์รู้สึกเก็บกดที่กลายเป็นคนไม่มีตัวตนเมื่ออยู่กับอนาวินทร์ ไม่มีใครเห็นคุณค่าเด็กกำพร้าอย่างเขา เมื่อเทียบกับทายาทสัตยารักษ์ ความอิจฉากลายเป็นความเกลียดชัง เขาเกลียดที่เห็นอนาวินทร์มีความสุข การันต์ยุให้พุดชมพูผิดใจกับอนาวินทร์ด้วยการบอกเธอว่า อนาวินทร์คิดจะหลอกจีบเธอเพื่อให้ได้มรดกง่ายขึ้น ด้านหนึ่งพุดชมพูก็หวั่นไหวกับสิ่งที่ได้ยิน แต่อึกใจหนึ่งเธอเริ่มรู้สึกว่าการันต์ไม่น่าไว้ใจ

          คืนหนึ่งพุดชมพูได้รับโทรศัพท์ด่วนจากจิระ บอกว่าเกิดไฟไหม้ที่โรงเรือนเพาะพันธุ์ไม้ พุดชมพูตกใจมือไม้สั่น เพราะในโรงเรือนนั้นมีต้นไม้ตัวแทนของพ่อผู้ล่วงลับอยู่ อนาวินทร์อาสาขับรถพาเธอกลับไร่ทันทีระหว่างทางก็คอยกุมมือเธอเพื่อให้กำลังใจ เมื่อไปถึงพุดชมพูเข่าอ่อน มองโรงเรือน และต้นไม้ของพ่อที่เหลือแต่ซากด้วยใจสลาย เธอเป็นลมล้มพับไปตรงนั้น อนาวินทร์รีบพาเธอไปโรงพยาบาล และคอยดูเธอไม่ห่าง จิระมาแจ้งว่าตำรวจสงสัยว่าเป็นการวางเพลิง แถมพูดทำนองสงสัยว่าอนาวินทร์เป็นตัวการ อนาวินทร์มีปากเสียงกับจิระจนพุดชมพูต้องระงับศึก และบอกจิระว่า เธอเชื่อใจอนาวิณทร์ว่าจะไม่ทำอะไรลอบกัดแบบนี้

          อนาวินทร์หัวใจพองโตที่หญิงสาวเชื่อใจเขา ระหว่างนั้นทางจังหวัดจัดงานเทศกาลดอกไม้ประจำปี และมีกิจกรรมไฮไลท์เป็นการประกวดหนุ่มดอกไม้ พุดชมพูใช้ไม้เดิมคือสบประมาทอนาวินทร์ จนเขารับคำท้าเข้าประกวด ชายหนุ่มคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ตามที่คุยไว้ ด้วยการเล่นกีตาร์ร้องเพลงที่ฝากความในใจไปถึงพุดชมพู แถมยังประกาศบนเวทีว่าเข้าประกวดในฐานะแฟนเจ้าของไร่อุ่นรัก เล่นเอาตะลึงกันไปทั้งบาง รวมทั้งวาธิณีที่มาดูการประกวดด้วย วาธิณีไปอาละวาดใส่พุดชมพู แต่อนาวินทร์ออกมาปกป้อง และบอกวาธิณีให้เลิกยุ่งกับเขา จิระช่วยลากวาธิณีออกไป และเตือนสติให้เธอยอมรับความจริง ซึ่งลึก ๆ แล้ว เขาก็เดือนตัวเองแบบนั้นเช่นกัน

          อนาวินทร์เกณฑ์คนงานของสัตยาอสังหา สร้างโรงเรือนใหม่ที่เขาออกแบบ และควบคุมงานก่อสร้างด้วยตัวเอง ระหว่างกำลังง่วนกับงานป้านุ่มโทรศัพท์มาหา อนาวินทร์นึกรำคาญที่ป้านุ่มชอบโทรมาถามสารทุกข์สุขดิบเล็ก ๆ น้อย ๆ จึงไม่รับสาย แต่แล้ววันรุ่งขึ้น เขากลับได้รับข่าวร้ายว่าป้านุ่มเสียชีวิต เพราะฝีมือโจรที่บุกเข้าบ้านกลางดึก อนาวินทร์แทบล้มทั้งยืน ป้านุ่มที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่คนสุดท้ายที่เขามี ตำรวจตรวจดูกล้องวงจรปิดหน้าบ้านเห็นคนสวมเจ็กเก็ต และหมวกปิดบังใบหน้าเดินเข้าและออกจากบ้านในเวลาใกล้เคียงกับที่ป้านุ่มเสียชีวิต แต่ หมวดจัตวา เจ้าของคดีแอบกระซิบอนารินทร์ว่าเขาสงสัยคนในบ้านมากกว่า เพราะกล้องวงจรปิดบริเวณถนนใกล้เคียงไม่มีภาพชายคนนี้เลย หลังงานศพป้านุ่ม อนาวินทร์บังเอิญพบลูกค้าคนสำคัญคนหนึ่งของสัตยาอสังหาภายนอกบริษัท ลูกค้าถามถึงข่าวลือที่อนาวินทร์จะทิ้งบริษัทหันไปทำไร่ อนาวินทร์สอบถามที่มาของข่าวลือจนได้รู้ว่า คนใกล้ตัวกำลังจ้องทำลายเขาอยู่

          พุดชมพูเรียกทิพนาถมาทวงถามถึงการใช้หนี้ที่ชวกรโกงบริษัทไป เมื่อชวกรรู้ก็ยิ่งโกรธ และส่งคนไปดักทำร้ายพุดชมพู โชคดีที่ทรงรบ และช่อม่วงอยู่ในเหตุการณ์จึงช่วยกันเอาตัวรอดมาได้ ระหว่างที่ทั้งสามกำลังปรึกษาหาตัวต้นเหตุอยู่นั้น อนาวินทร์เข้ามากับการันต์พร้อมรูปถ่ายหลายใบ ที่การันต์อ้างว่าเป็นหลักฐานว่าพุดชมพูกับทรงรบรู้จักกันมาก่อน ซึ่งเป็นไปได้ว่าทั้งคู่อาจสมคบกันหลอกอนาวินทร์ ทิพนาถกับชวกรเองก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมหลักฐานว่าพุดชมพูยักยอกเงินของบริษัท พุดชมพูพยายามอธิบาย แต่ชายหนุ่มไม่ยอมฟัง แถมไล่พุดชมพูให้เก็บของออกไปจากบ้านสัตยารักษ์ ก่อนไปพุดชมพูมอบจดหมายที่ปู่เล็กเขียนถึงเธอให้อนาวินทร์ไว้อ่าน เพื่อให้เขาเข้าใจเจตนาดีของปู่ และได้รู้ว่าที่จริงแล้ว ปู่รักและเป็นห่วงเขามากแค่ไหน พุดชมพูกลับไร่ด้วยสภาพเหมือนคนใจสลาย เธอยอมรับกับตัวเองแล้วว่าชอบอนาวินทร์ ฝ่ายอนาวินทร์เองก็ไม่ต่างกันนัก เขาคิดถึงพุดชมพู จึงมานั่งย้อนดูภาพในกล้องวงจรปิดที่เขาแอบติดไว้ในห้องเผื่อมันจะมีภาพของพุดชมพูบ้าง แต่เขากลับพบหลักฐานสำคัญว่าใครเป็นคนฆ่าป้านุ่ม

           ทรงรบมาหาอนาวินทร์เพื่อบอกเรื่องสัญญาลับที่พุดชมพูเซ็นไว้ก่อนเข้าทำงานกับสัตยารักษ์ ซึ่งมีเงื่อนไขว่าหากเธอแต่งงานกับอนาวินทร์ เธอจะไม่มีส่วนในสมบัติใด ๆ ของสัตยารักษ์ทั้งสิ้น รวมทั้งอนาวินทร์ยังต้องบริจาคเงินมรดกสามสิบเปอร์เซ็นต์เข้าการกุศลด้วย จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พุดชมพูคิดจะหลอกทายาทของสัตยารักษ์ อนาวินทร์อ่านจดหมายที่ปู่เล็กเขียนถึงพุดชมพู และปฏิญาณกับตัวเองว่า จะต้องเป็นผู้นำสัตยารักษ์แทนปู่ให้ได้ หนึ่งสัปดาห์ต่อมาในที่ประชุมผู้บริหารสัตยาอสังหา อนาวินทร์ประกาศไล่การันต์ออกจากตำแหน่งรองกรรมการ เขาแสดงหลักฐานที่ได้มาจากการว่าจ้างช่อม่วงอย่างลับ ๆ ว่าการันต์มีส่วนในการร่วมกับชากรปลอมแปลงเอกสารเพื่อใส่ร้ายพุดชมพู อนาวินทร์ยังมีข้อมูลว่า การันต์ปล่อยข่าวลือทำลายความน่าเชื่อถือของบริษัท และส่งลูกค้าของสัตยาอสังหาไปให้บริษัทคู่แข่งที่การันต์แอบถือหุ้นไว้ อนาวินทร์ยังเชิญตำรวจมาจับตัวการันต์ฐานฆาตกรรมป้านุ่ม โดยมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่อนารินทร์แอบติดไว้ในห้องนอนของเขาว่าทั้งสองทะเลาะกันก่อนที่ป้านุ่มวิ่งหนีออกจากห้อง และจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา

           หลังจากนั้นไม่กี่วัน การันต์ได้ประกันตัวออกไป เมื่ออนาวินทร์รู้ข่าวก็นึกเป็นห่วงพุดชมพู จึงชวนทรงรบกับช่อม่วงไปที่ไร่ แต่การันต์ไปถึงก่อน และจับตัวพุดชมพูไว้เป็นตัวประกัน เพื่อแลกกับเงินก้อนใหญ่ที่จะใช้หลบไปอยู่ต่างประเทศ และต้องการให้อนาวินทร์ถอนฟ้อง การันต์บอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจฆ่าป้านุ่ม แต่ป้านุ่มแอบได้ยินตอนที่เขาคุยโทรศัพท์เรื่องจ้างคนไปเผาโรงเรือนของพุดชมพู เขาพยายามจะให้เงินแลกกับการปิดปากแต่ป้านุ่มไม่ยอมคุยด้วย การันต์จึงแกล้งให้ป้านุ่มเข้าใจผิดว่าอนาวินทร์กลับมาที่บ้าน เมื่อป้านุ่มมาที่ห้องของอนาวินทร์ก็พบการันต์รออยู่ ป้านุ่มด่าการันต์ที่อกตัญญูต่อบ้านสัตยารักษ์ เขาพลั้งมือฆ่าป้านุ่มเพราะความโกรธ เลยจัดฉากให้ดูเหมือนขโมยเข้าบ้าน ระหว่างนั้น พุดชมพูหลอกดึงความสนใจของการันต์ อนาวินทร์อาศัยจังหวะนั้นโดดเข้ารวบตัวการันต์ไว้ ขณะที่ทรงรบเข้าแย่งปืนไว้ได้ แต่การันต์ใช้มีดที่ซ่อนไว้ฟันอนาวินทร์ โชคดีที่ชายหนุ่มหลบทันจึงไม่โดนจุดสำคัญ การันต์คิดจะซ้ำหมายเอาชีวิตทายาทสัตยารักษ์ แต่ลุงหมายกับชาวบ้านมาช่วยพร้อมปืนหลายกระบอก การันต์จึงสิ้นฤทธิ์

          หลังเหตุการณ์ร้ายคลี่คลาย อนาวินทร์พยายามง้อพุดชมพู เขาเฉลยว่าตัวเองแกล้งหลงเชื่อการันต์ และไล่พุดชมพูออกจากบ้าน เพื่อกันหญิงสาวให้ห่างจากอันตรายระหว่างที่เขาเดินหน้าสืบเรื่องทั้งหมด แม้พุดชมพูจะเชื่อในความหวังดีของชายหนุ่ม แต่ความเจ็บปวดที่เธอได้รับตอนถูกขับไล่ ทำให้เธอกลัวที่จะรักอนาวินทร์แบบเต็มหัวใจ อีกทั้งเธอไม่อยากทำให้อนารินทร์ต้องลำบากใจ กับการเสียมรดกตามเงื่อนไขสัญญาลับ พุดชมพูจึงขอให้อนาวินทร์เลิกติดต่อกับเธอ

          เดือนต่อมา ช่อม่วงกัทรงรบ ซึ่งเพิ่งตกลงเป็นแฟนกัน ชวนพุดชมพูไปเที่ยวทะเล โดยบอกว่าเพิ่งชิงรางวัลแพ็กเกจที่พักพร้อมอาหารมาได้ ภัทราซึ่งเห็นลูกสาวซึมเศร้าเหมือนคนไร้วิญญาณมาตลอด ตั้งแต่บอกปัดอนาวินทร์ จึงช่วยคะยั้นคะยอให้พุดชมพูไปพักผ่อน ช่อม่วงเล่าให้พุดชมพูฟังว่า จิระไปเรียนปริญญาโทด้านเกษตรศาสตร์ และดันนถูกอาจารย์ส่งตัวไปช่วยงานกิจการอาหารปลอดสารพิษที่บ้านของวาธิณี ที่กำลังเริ่มทำเพื่อทดแทนธุรกิจที่ปิดตัวไป

          หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง พุดชมพูกลับมาไร่ด้วยสีหน้าที่สดชื่นขึ้นเล็กน้อย ภัทรามองหน้าช่อม่วงกับทรงรบที่ขับรถมาส่งหญิงสาวอย่างรู้กัน ภัทราให้พุดชมพูไปดูต้นไม้ใหม่ในสวน พุดชมพูเปิดประตูออกไปสวนหลังบ้าน ก็พบกับศาลาไม้ตั้งอยู่กลางแนวต้นพุดชมพู อย่างที่พ่อเธอฝันไว้ แต่ทำไม่สำเร็จ กลางศาลามีช่อดอกเบญจมาศพร้อมการ์ดใบเล็ก ๆ เขียนว่า แต่งงานกันนะ อนาวินทร์ปรากฏตัวขึ้นพร้อมแหวนล้อมเพชร พุดชมพูแกล้งถามว่า ไม่กลัวเสียเงินมรดกหรือ อนาวินทร์ยิ้มรับแล้วตอบว่า มรดกที่มีค่าที่สุดที่ปู่เล็กทิ้งไว้ให้เขาก็คือพุดชมพู และเขาจะรักษามรดกชิ้นนี้ไว้ด้วยหัวใจของเขา ตราบนานเท่านาน

บทประพันธ์โดย : คีตา
บทโทรทัศน์โดย : ทีมเวฟทีวี
กำกับการแสดงโดย : เจนไวยย์ ทองดีนอก
นักแสดง
มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท อนาวินทร์/วิน
จรินทร์พร จุนเกียรติ รับบท พุดชมพู/พุด
กวี ตันจรารักษ์ รับบท ทรงรบ/รบ
มัจฉา โมซิมันน์ รับบท ช่อม่วง/ช่อ
มาวิน ทวีผล รับบท จิระ/โจ้
โชติกา วงศ์วิลาศ รับบท วาธินี/หวาย
ภัทร ฉัตรบริรักษ์ รับบท การันต์
โกสินทร์ ราชกรม รับบท ชวกร/กร
ชนานา นุตาคม รับบท ทิพนาถ/ทิพ
พิมพ์แข กุญชร ณ อยุธยา รับบท ป้านุ่ม
ณัฐฐา ลอยด์ รับบท ภัทรา
ดีใจ ดีดีดี รับบท จิตรา
ญาณี ตราโมท รับบท ลุงหมาย
วราพรรรณ หงุ่ยตระกูล รับบท วิภา
สุเมธ องอาจ รับบท ทรงศักดิ์
เศรษฐา ศิระฉายา รับบท อาทิตย์/ปู่เล็ก
เวนย์ ฟอลโคเนอร์ รับบท วันชัย
สรัลธร คล้ายอุดม รับบท นิลลดา

บัลลังก์ดอกไม้เป็นละครโทรทัศน์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จากบทประพันธ์เรื่องเดียวกันของคีตา ผลิตโดยบริษัท เวฟ ทีวี จำกัด โดยผู้จัดปิยวดี มาลีนนท์ กำกับการแสดงโดย เจนไวยย์ ทองดีนอก นำแสดงโดย มาริโอ้ เมาเร่อ และจรินทร์พร จุนเกียรติ