ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี 2564 ละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องราวเกิดขึ้นใน ตำบลดอนแจ่ม หมู่บ้านเล็กๆ ที่ดูเหมือนถูกลืมและไม่มีใครสนใจ แต่ที่นี่กลับเต็มไปด้วยสีสันและความวุ่นวายจากความขัดแย้งระหว่างสองผู้นำชุมชนคู่กัดอย่าง “ผู้ใหญ่สันต์” และ “กำนันศรี” แม้ว่าทั้งสองจะไม่ลงรอยกันและมักปะทะคารมในทุกโอกาส แต่ทั้งคู่มีเป้าหมายร่วมกันคือการพัฒนาตำบลดอนแจ่มให้เจริญรุ่งเรืองและยั่งยืน โดยมีคนรุ่นใหม่อย่าง โอ่ง ลูกชายของกำนันศรี และ วิว หลานสาวของผู้ใหญ่สันต์ คอยช่วยผลักดันแนวคิดใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาดอนแจ่มไม่ได้ราบรื่นอย่างที่หวัง เมื่อ เฮียย้ง (เกริก ชิลเลอร์) เจ้าของโรงสีและนายทุนผู้มีอิทธิพลในชุมชน ไม่พอใจที่แผนการพัฒนาของผู้ใหญ่สันต์และกำนันศรีขัดต่อผลประโยชน์ส่วนตัวของเขา เขาจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมต่างๆ รวมถึงการยุยงชาวบ้านให้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความขัดแย้งและความโกลาหลในชุมชน
ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี โดดเด่นด้วยการผสมผสานความสนุกสนานแบบซิทคอมเข้ากับเรื่องราวที่ให้แง่คิดเกี่ยวกับการพัฒนาท้องถิ่นและการต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม การปะทะคารมระหว่างผู้ใหญ่สันต์และกำนันศรีสร้างเสียงหัวเราะ ในขณะที่ความสัมพันธ์ของตัวละครรุ่นใหม่ เช่น โอ่งและวิว เพิ่มความน่ารักและความสดใสให้กับเรื่องราว ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของละคร
ในหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อ ดอนแจ่ม ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางท้องนาเขียวขจี เรื่องราวของความรัก ความขัดแย้ง และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมได้เริ่มต้นขึ้น ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี นำเสนอชีวิตของชาวบ้านที่เต็มไปด้วยสีสัน ผ่านตัวละครหลักอย่าง ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี สองผู้นำที่ทั้งรักและรบกันในเวลาเดียวกัน
ดอนแจ่มและสองผู้นำคู่กัด
แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงบนตำบลดอนแจ่ม หมู่บ้านที่เงียบสงบแต่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ในศาลาวัดประจำหมู่บ้าน ผู้ใหญ่สันต์ (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) ชายร่างกำยำผู้มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ยืนแย้งกับ กำนันศรี (สุจิรา อรุณพิพัฒน์) หญิงแกร่งที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่น ทั้งสองเป็นผู้นำของดอนแจ่ม แต่ความเห็นไม่เคยลงรอย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการซ่อมถนน การจัดงานบุญ หรือแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเลือกสีทาศาลา
“ถ้าผู้ใหญ่คิดจะทำอะไรโดยไม่ปรึกษากำนัน หมู่บ้านนี้ก็พังแน่!” กำนันศรีตวาด ขณะที่ผู้ใหญ่สันต์ยิ้มเยาะ “กำนันก็อย่าคิดว่าตัวเองรู้ดีทุกเรื่องสิ!” ความขัดแย้งของทั้งคู่กลายเป็นที่เล่าขานของชาวบ้าน แต่เบื้องหลังการปะทะคารมนั้น มีความห่วงใยต่อดอนแจ่มซ่อนอยู่
ในขณะเดียวกัน โอ่ง (นภัทร อินทร์ใจเอื้อ) ลูกชายของกำนันศรี หนุ่มไฟแรงที่เพิ่งกลับจากเมืองกรุง และ วิว (ภาลฎา ฐิตะวชิระ) หลานสาวของผู้ใหญ่สันต์ สาวน้อยจิตใจดีที่รักหมู่บ้านของเธอ ต่างพยายามนำแนวคิดใหม่ๆ มาพัฒนาดอนแจ่ม ทั้งสองเริ่มจากความไม่ลงรอย แต่การทำงานร่วมกันทำให้หัวใจของทั้งคู่เริ่มใกล้ชิดกันมากขึ้น
เงามืดแห่งอดีต
เงามืดเริ่มก่อตัวเมื่อ กำนันพงษ์ อดีตกำนันของดอนแจ่ม ซึ่งเสียชีวิตไปอย่างมีเงื่อนงำ กลายเป็นปริศนาที่ทุกคนอยากรู้ความจริง โอ่งและวิวเริ่มสืบหาเบาะแสและพบว่า เฮียย้ง (เกริก ชิลเลอร์) เจ้าของโรงสีและนายทุนผู้มีอิทธิพลในดอนแจ่ม อาจอยู่เบื้องหลังการตายของกำนันพงษ์ เฮียย้งต้องการยึดที่ดินของกำนันพงษ์เพื่อขยายอิทธิพลของตัวเอง และเขาไม่ยอมให้ใครมาขัดขวาง
“ถ้าพวกแกยังสอดมือเรื่องนี้ อย่าหวังว่าจะมีชีวิตสงบสุขในดอนแจ่ม!” เฮียย้งข่มขู่โอ่งและวิวเมื่อทั้งสองเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น แต่ทั้งคู่ไม่ยอมถอย พวกเขาค้นพบเอกสารที่ดินที่พิสูจน์ว่าเฮียย้งฉ้อโกงกำนันพงษ์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า
วิกฤตหนี้สินและแชร์มหารวย
ในดอนแจ่ม ความเดือดร้อนไม่ได้มาจากเฮียย้งเพียงคนเดียว ครูมะลิ (หมวย ชวนชื่น) ครูประจำหมู่บ้านที่ทุกคนไว้ใจ กลายเป็นหัวหอกของ แชร์มหารวย ซึ่งหลอกลวงชาวบ้านให้ลงเงินจนสูญเสียทรัพย์สิน เบื้องหลังคือแผนของเฮียย้งที่ใช้ครูมะลิเป็นหุ่นเชิดเพื่อทำให้ชาวบ้านเป็นหนี้และยอมจำนนต่อเขา
“เราจะปล่อยให้ชาวบ้านเดือดร้อนแบบนี้ไม่ได้!” ผู้ใหญ่สันต์ตะโกนในที่ประชุมหมู่บ้าน ขณะที่กำนันศรีเสนอให้ใช้เงินกองทุนหมู่บ้านและที่ดินของกำนันพงษ์มาช่วยเหลือ ทั้งสองร่วมมือกันครั้งแรก โดยมีโอ่งและวิวคอยสนับสนุน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการขัดขวางจากลูกน้องของเฮียย้ง
ในระหว่างนั้น ความรักของผู้ใหญ่สันต์และกำนันศรีเริ่มผลิบาน เมื่อ ฉัตร (ต้น ตระการ) อดีตสามีของกำนันศรี กลับมาพยายามรื้อฟื้นความสัมพันธ์ แต่กำนันศรีตระหนักว่าใจของเธอได้มอบให้ผู้ใหญ่สันต์ไปแล้ว ส่วนโอ่งและวิวก็เริ่มมองเห็นกันและกันในแง่มุมใหม่ ผ่านการต่อสู้เพื่อดอนแจ่ม
ไคลแมกซ์ในงานบุญประจำปี
เมื่อถึงงานประจำปีของดอนแจ่ม ซึ่งเป็นงานที่ทุกคนรอคอย ความตึงเครียดถึงจุดสูงสุด เฮียย้งที่ถูกตำรวจตามล่าหลังหลักฐานการฆาตกรรมกำนันพงษ์ถูกเปิดเผย ตัดสินใจวางแผนแก้แค้น เขาจ้างมือปืนเพื่อจัดการผู้ใหญ่สันต์และกำนันศรีในคืนงานบุญ
ท่ามกลางแสงไฟและเสียงเพลงของ ดอนแจ่มแบนด์ ที่โอ่งและวิวตั้งขึ้น เกิดเหตุวุ่นวายเมื่อมือปืนยิงพลาดและกระสุนพุ่งเข้าหาครูมะลิ เธอล้มลงด้วยบาดแผลสาหัส ชาวบ้านตกตะลึง แต่เหตุการณ์นี้กลายเป็นจุดเปลี่ยน เมื่อครูมะลิสารภาพว่าเธอถูกเฮียย้งบังคับให้หลอกลวงชาวบ้าน และขอโทษทุกคนก่อนจะสิ้นใจ
“ถึงเวลาที่ดอนแจ่มต้องลุกขึ้นสู้!” โอ่งตะโกน ปลุกใจชาวบ้านให้รวมพลังต่อสู้ ชาวดอนแจ่มร่วมมือกับตำรวจจับกุมเฮียย้งและลูกน้องของเขาได้สำเร็จ
ดอนแจ่มที่แจ่มสมชื่อ
เมื่อฝุ่นควันจางลง ดอนแจ่มกลับมาสงบสุขอีกครั้ง เฮียย้งถูกนำตัวไปรับโทษในข้อหาฆาตกรรมและฉ้อโกง ชาวบ้านที่เคยเป็นหนี้ได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนหมู่บ้านและการประมูลที่ดินของกำนันพงษ์ ผู้ใหญ่สันต์และกำนันศรีตกลงคืนดีกัน และในค่ำคืนหนึ่งใต้แสงจันทร์ ทั้งสองสารภาพรักต่อกัน ขณะที่ชาวบ้านแอบยิ้มอย่างรู้ทัน
โอ่งและวิวกลายเป็นคู่รักที่ร่วมกันผลักดันให้ดอนแจ่มเป็นหมู่บ้านต้นแบบด้านเกษตรอินทรีย์และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ดอนแจ่มแบนด์ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี และงานเลี้ยงใหญ่ครั้งสุดท้ายในละครปิดฉากด้วยเสียงหัวเราะและความหวังของทุกคนในหมู่บ้าน
ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี โดดเด่นด้วยการนำเสนอความขัดแย้งที่ตลกขบขันควบคู่ไปกับประเด็นสังคม เช่น การต่อสู้กับอิทธิพลนายทุน การจัดการหนี้สิน และความสำคัญของความสามัคคีในชุมชน ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร
เนื้อเรื่องและการเล่าเรื่อง
ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี นำเสนอเรื่องราวของ ตำบลดอนแจ่ม หมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยสีสันจากความขัดแย้งระหว่าง ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี สองผู้นำที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากัน แต่ทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกันคือการพัฒนาชุมชนให้เจริญรุ่งเรือง ละครเล่าถึงการต่อสู้กับอิทธิพลของ เฮียย้ง (เกริก ชิลเลอร์) นายทุนผู้ชั่วร้าย พร้อมทั้งปัญหาในชุมชน เช่น หนี้สินจากแชร์มหารวย และปริศนาการตายของกำนันพงษ์ ควบคู่ไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่
จุดเด่นของการเล่าเรื่องคือการผสมผสานความตลกแบบซิทคอมเข้ากับดราม่าที่สะท้อนปัญหาสังคม เช่น การฉ้อโกง อิทธิพลมืด และความเหลื่อมล้ำในชนบท ละครใช้ความขัดแย้งระหว่างผู้ใหญ่สันต์และกำนันศรีเป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องราว สร้างเสียงหัวเราะได้อย่างเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ค่อยๆ เผยความลับและปมดราม่าที่ทำให้ผู้ชมติดตามจนจบ
การแสดงและตัวละคร
การแสดงของนักแสดงนำถือเป็นจุดแข็งสำคัญ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทองและสุจิรา อรุณพิพัฒน์ ถ่ายทอดบท ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี ได้อย่างสมบทบาท การปะทะคารมของทั้งคู่เต็มไปด้วยพลังและเคมีที่ลงตัว ทำให้ฉากทะเลาะกันกลายเป็นไฮไลต์ของละคร นอกจากนี้ นภัทร อินทร์ใจเอื้อ และ ภาลฎา ฐิตะวชิระ ในบท โอ่ง และ วิว ก็เพิ่มความสดใสและความหวังให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะการแสดงถึงความมุ่งมั่นของคนรุ่นใหม่ที่อยากพัฒนาชุมชน
นักแสดงสมทบอย่าง เกริก ชิลเลอร์ (เฮียย้ง) และ หมวย ชวนชื่น (ครูมะลิ) ก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเกริกที่ถ่ายทอดความร้ายกาจของตัวร้ายได้อย่างน่าจดจำ ส่วนนักแสดงรุ่นใหญ่ เช่น เจี๊ยบ ศักราช (กำนันพงษ์) และ ต้น ตระการ (ฉัตร) ช่วยเพิ่มมิติให้กับเรื่องราว ทำให้ตัวละครทุกตัวมีบทบาทที่ชัดเจน
การกำกับและงานสร้าง
งานกำกับของ พงษ์ศักดิ์ ฉิมเจริญ ทำได้ดีในการรักษาสมดุลระหว่างความตลกและดราม่า การตัดต่อและจังหวะของละครทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกเบื่อ แม้ว่าบางตอนอาจยืดเยื้อในฉากคอมเมดี้ การถ่ายภาพเน้นความงามของท้องนาและวิถีชีวิตชนบท ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและสมจริง เพลงประกอบและดนตรี เช่น เพลงของ ดอนแจ่มแบนด์ ช่วยเสริมอารมณ์และเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับละคร
อย่างไรก็ตาม งานสร้างมีจุดอ่อนเล็กน้อยในด้านฉากแอ็กชัน เช่น ฉากการต่อสู้ในงานประจำปี ซึ่งดูไม่สมจริงและขาดความตื่นเต้นเมื่อเทียบกับละครแอ็กชันสมัยใหม่ นอกจากนี้ การออกแบบเครื่องแต่งกายบางชุดดูเกินจริงไปบ้างสำหรับบริบทของหมู่บ้านชนบท
คะแนน 8/10 (จาก sence9.com)
ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี เป็นละครที่ครบรส เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบความสนุกสนานผสมผสานกับข้อคิดดีๆ เรื่องราวของดอนแจ่มและตัวละครที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจะทำให้ผู้ชมทั้งหัวเราะและซาบซึ้ง การแสดงที่ยอดเยี่ยมและประเด็นที่สะท้อนสังคมทำให้ละครเรื่องนี้โดดเด่นในหมู่ละครไทยปี 2564 ถึงแม้จะมีจุดอ่อนในด้านงานสร้างบางส่วน แต่โดยรวมแล้วเป็นละครที่ควรค่าแก่การรับชม
ตั้งแต่ฉากแรกที่ผู้ใหญ่สันต์และกำนันศรีปะทะคารมกันในศาลาวัด ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความสนุกและรอยยิ้มที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว การโต้เถียงของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเฉลียวฉลาดและมุกตลกที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูเพื่อนบ้านสองคนที่ทั้งรักทั้งแกล้งกัน การแสดงของศักดิ์สิทธิ์ แท่งทองและสุจิรา อรุณพิพัฒน์นั้นช่างลงตัว เหมือนทั้งคู่เกิดมาเพื่อบทนี้โดยเฉพาะ ทุกครั้งที่ทั้งสองปรากฏตัวพร้อมกัน ใจก็ลุ้นว่าครั้งนี้จะมีมุกอะไรมาทำให้หัวเราะอีก
ฉากคอมเมดี้ในหมู่บ้าน เช่น การประชุมวุ่นวายหรือการแข่งขันเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างชาวบ้าน ช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและชวนให้รู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของดอนแจ่ม ความรู้สึกนี้เหมือนการได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดในชนบท ที่ทุกคนรู้จักกันและมีเรื่องให้เมาท์ไม่หยุด
นอกเหนือจากความตลก ละครยังมอบความรู้สึกอบอุ่นผ่านความสัมพันธ์ของตัวละคร โดยเฉพาะความรักที่ค่อยๆ ก่อตัวระหว่างผู้ใหญ่สันต์และกำนันศรี แม้ว่าทั้งคู่จะเริ่มต้นด้วยการเป็นคู่กัด แต่การได้เห็นพัฒนาการของความรู้สึก จากการขัดแย้งสู่การเข้าใจและห่วงใยกัน ทำให้รู้สึกหัวใจพองโต ฉากที่ทั้งสองเริ่มเปิดใจ เช่น การที่ผู้ใหญ่สันต์แอบช่วยกำนันศรีในยามยาก หรือกำนันศรีที่แอบยิ้มเมื่อเห็นความดีของผู้ใหญ่สันต์ ชวนให้รู้สึกหวานในใจและลุ้นให้ทั้งคู่สมหวัง
ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของ โอ่ง (นภัทร อินทร์ใจเอื้อ) และ วิว (ภาลฎา ฐิตะวชิระ) ก็เพิ่มความสดใสให้กับเรื่องราว การได้เห็นคนรุ่นใหม่ที่พยายามพัฒนาดอนแจ่มด้วยแนวคิดใหม่ๆ ทำให้รู้สึกถึงพลังและความหวัง เหมือนได้เห็นอนาคตของชุมชนที่กำลังผลิบาน ความน่ารักของทั้งคู่ โดยเฉพาะฉากที่ทั้งสองเริ่มสนิทกันจากการทำงานร่วมกัน ชวนให้รู้สึกเหมือนกำลังดูเพื่อนสนิทที่ค่อยๆ กลายเป็นคู่รัก
ละครไม่ได้มีเพียงความตลกและความรัก แต่ยังมีปมดราม่าที่ทำให้ใจเต้นแรง โดยเฉพาะเรื่องราวเกี่ยวกับการตายของ กำนันพงษ์ และการต่อสู้กับ เฮียย้ง (เกริก ชิลเลอร์) นายทุนจอมวายร้าย การได้เห็นโอ่งและวิวสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของกำนันพงษ์ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูหนังสืบสวนสอบสวนที่มีเดิมพันสูง ทุกครั้งที่ตัวละครเข้าใกล้ความจริง ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลและลุ้นว่าพวกเขาจะปลอดภัยหรือไม่
ฉากไคลแมกซ์ในงานประจำปีของดอนแจ่ม ที่มีการยิงกันและการเผชิญหน้ากับเฮียย้ง ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและใจจดใจจ่อ แม้ว่าฉากแอ็กชันอาจดูไม่สมจริงในบางจังหวะ แต่ความรู้สึกของการลุ้นให้ชาวดอนแจ่มเอาชนะอิทธิพลมืดได้นั้นทรงพลังมาก การได้เห็นชาวบ้านรวมพลังกันต่อสู้เพื่อปกป้องหมู่บ้าน ทำให้รู้สึกซาบซึ้งถึงความสามัคคีและพลังของชุมชน
ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี จะพาไปสัมผัสทั้งเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น ความตื่นเต้น และข้อคิดดีๆ ละครเรื่องนี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้กลับไปใช้ชีวิตในหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความท้าทาย แม้ว่าบางฉากอาจดูเกินจริงหรือยืดเยื้อไปบ้าง แต่โดยรวมแล้ว มันคือประสบการณ์ที่ครบรสและน่าจดจำ เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากหัวเราะ ซาบซึ้ง และได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของชุมชนเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจ
ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี 2564
ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี 2564 EP.1-40 ตอนจบONED
ฉากHIGHLIGHT ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี 2564
คิดอะไรอยู่ – กัน x สไมล์ (Feat. แท่ง, นุ้ย, อินเตอร์) | ost. ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี【OFFICIAL MV】
คู่กัด (เพลงประกอบละคร ผู้ใหญ่สันต์กำนันศรี) – ตรี ชัยณรงค์ x ข้าวทิพย์ ธิดาดิน【MUSIC VIDEO
ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี 2564
ดอนแจ่มและสองผู้นำสุดปัง 💥
ไปรู้จัก ตำบลดอนแจ่ม หมู่บ้านในชนบทที่ดูเงียบๆ แต่จริงๆ แล้ววุ่นวายสุดๆ เพราะมีสองผู้นำคู่กัดอย่าง ผู้ใหญ่สันต์ (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) และ กำนันศรี (สุจิรา อรุณพิพัฒน์) คู่นี้คือแบบ… ขัดกันทุกเรื่อง 😅 ตั้งแต่เรื่องถนนในหมู่บ้านจะซ่อมยังไง ไปจนถึงงานบุญจะจัดแบบไหน เรียกว่าปะทะคารมทุกวัน แต่ลึกๆ นะ ทุกคนรู้ว่าทั้งคู่รักหมู่บ้านนี้สุดๆ และอยากให้ดอนแจ่มเจริญรุ่งเรือง
ในหมู่บ้านยังมีตัวละครเด็ดๆ อีก เช่น โอ่ง (นภัทร อินทร์ใจเอื้อ) ลูกชายสุดหล่อของกำนันศรี ที่เพิ่งกลับจากเมืองกรุง กับ วิว (ภาลฎา ฐิตะวชิระ) หลานสาวจอมแสบของผู้ใหญ่สันต์ สองคนนี้คือตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่อยากเปลี่ยนแปลงหมู่บ้านให้ปังกว่าเดิม! แต่… มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะมีตัวร้ายอย่าง เฮียย้ง (เกริก ชิลเลอร์) เจ้าของโรงสีและนายทุนสุดโหด ที่คอยขัดขวางทุกอย่าง 😈
ปมปริศนาและดราม่ามาเต็ม 🕵️♂️
เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้นเมื่อเราได้รู้ว่า กำนันพงษ์ (เจี๊ยบ ศักราช) อดีตกำนันของดอนแจ่ม ไม่ได้ตายธรรมดา โอ่งกับวิวเริ่มสงสัยว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล และเริ่มสืบจนเจอว่าเฮียย้งอาจอยู่เบื้องหลัง 😱 เฮียย้งนี่คือตัวร้ายตัวจริงเลยนะทุกคน อยากยึดที่ดินของกำนันพงษ์มาเป็นของตัวเองเพื่อขยายโรงสี และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา โอ่งกับวิวเลยต้องแอบสืบแบบลุ้นระทึก โดนขู่ โดนตามล่า แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมถอย
ในขณะเดียวกัน ดอนแจ่มก็เจอปัญหาใหญ่เมื่อ ครูมะลิ (หมวย ชวนชื่น) ครูประจำหมู่บ้านที่ทุกคนไว้ใจ หลอกชาวบ้านด้วย แชร์มหารวย 😩 ชาวบ้านลงเงินกันไปเพียบ สุดท้ายกลายเป็นหนี้ท่วมหัว และเดาได้เลยว่าเบื้องหลังคือเฮียย้งที่บงการครูมะลิให้ทำแบบนี้เพื่อควบคุมหมู่บ้าน ผู้ใหญ่สันต์กับกำนันศรีเลยต้องจับมือกันครั้งแรกเพื่อช่วยชาวบ้าน ฉากนี้คือแบบ… ฟีลอบอุ่นสุดๆ เห็นสองคู่กัดเริ่มไว้ใจกันแล้ว ใจมันเริ่มจิ้น 😜
ความรักเริ่มผลิบาน ท่ามกลางความวายป่วง 💕
ระหว่างที่ดอนแจ่มวุ่นวาย ผู้ใหญ่สันต์กับกำนันศรีเริ่มมีโมเมนต์หวานๆ ให้เราได้จิกหมอน เช่น ฉากที่ผู้ใหญ่สันต์แอบช่วยกำนันศรีจัดการปัญหา หรือฉากที่กำนันศรีแอบยิ้มเมื่อเห็นผู้ใหญ่สันต์ทำดี ทุกคนนนน เคมีของสองคนนี้คือที่สุด 😍 แต่ ดราม่าก็มาเมื่อ ฉัตร (ต้น ตระการ) อดีตสามีของกำนันศรีโผล่มา ฉัตรพยายามจะง้อกำนันศรี แต่สุดท้ายกำนันศรีก็เลือกหัวใจตัวเอง… และใช่ค่ะ มันคือผู้ใหญ่สันต์ ฉากสารภาพรักใต้แสงจันทร์นี่คือน้ำตาจะไหลเลย
ส่วนโอ่งกับวิวก็ไม่น้อยหน้า จากที่เคยขัดแย้งกันเพราะพ่อแม่เป็นคู่กัด สองคนนี้เริ่มสนิทกันจากการทำงานเพื่อหมู่บ้าน เช่น การตั้ง ดอนแจ่มแบนด์ เพื่อโปรโมตวัฒนธรรมและหาเงินช่วยชุมชน ฉากที่ทั้งคู่จับมือกันครั้งแรกนี่คือแบบ… กรี๊ดดด 😆
ไคลแมกซ์สุดเดือดในงานประจำปี 🔥
มาถึงจุดพีคของเรื่องแล้วทุกคน ในงานประจำปีของดอนแจ่ม ที่ทุกคนรอคอย เฮียย้งที่รู้ตัวว่าถูกตำรวจตามล่าจากหลักฐานที่โอ่งกับวิวหาได้ ตัดสินใจเล่นใหญ่! เขาจ้างมือปืนมาจัดการผู้ใหญ่สันต์กับกำนันศรี 😱 ฉากนี้คือลุ้นจนตัวเกร็งเลย ทุกคนในงานกำลังสนุกกับดอนแจ่มแบนด์ แต่จู่ๆ ก็มีเสียงปืนดังขึ้น โชคดีที่มือปืนยิงพลาด แต่กระสุนไปโดน ครูมะลิ แทน 😢 ครูมะลิก่อนตายสารภาพว่าเธอถูกเฮียย้งบังคับให้หลอกชาวบ้าน และขอโทษทุกคน ฉากนี้คือน้ำตาไหลเลยทุกคน
แต่ ชาวดอนแจ่มไม่ยอมให้เรื่องจบแบบนี้ โอ่งตะโกนปลุกใจทุกคนให้ลุกขึ้นสู้ ชาวบ้านรวมพลังกับตำรวจ จนจับเฮียย้งและลูกน้องได้สำเร็จ หลักฐานการฆาตกรรมกำนันพงษ์และการฉ้อโกงถูกส่งถึงศาล เฮียย้งต้องรับโทษสมที่ทำ
ดอนแจ่มแจ่มสมชื่อ 🎉
หลังจากจัดการเฮียย้งได้ ดอนแจ่มก็กลับมาสงบสุข ชาวบ้านที่เป็นหนี้ได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนหมู่บ้านและที่ดินของกำนันพงษ์ ผู้ใหญ่สันต์กับกำนันศรีตกลงคบกันอย่างเป็นทางการ ฉากที่ทั้งคู่จับมือกันในงานเลี้ยงหมู่บ้านคือแบบ… ฟินสุดๆ 😍 โอ่งกับวิวก็กลายเป็นคู่รักสุดน่ารัก ช่วยกันผลักดันให้ดอนแจ่มเป็นหมู่บ้านต้นแบบด้านเกษตรอินทรีย์และการท่องเที่ยว งานเลี้ยงใหญ่ปิดท้ายด้วย ดอนแจ่มแบนด์ ที่ทุกคนร้องเต้นกันอย่างมีความสุข
ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี คือละครที่ครบทุกอารมณ์เลย มีทั้งขำจนท้องแข็ง ดราม่าจนน้ำตาไหล และโมเมนต์รักที่ทำให้ใจฟู การแสดงของนักแสดงทุกคนคือสุดยอด โดยเฉพาะศักดิ์สิทธิ์กับสุจิรา ที่เคมีลงตัวสุดๆ ละครยังสอนเรื่องความสามัคคี การต่อสู้กับความอยุติธรรม และพลังของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนชุมชนได้ ดูจบแล้วรู้สึกอยากไปเยี่ยมดอนแจ่มจริงๆ เลย 😄
เบื้องหลังละครสุดปัง ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี ละครเรื่องนี้คือแบบ… ครบรสสุดๆ มีทั้งขำ ดราม่า และความฟิน และที่สำคัญ ทีมงานเบื้องหลังคือสุดยอดฝีมือเลย อยากรู้มั้ยว่าใครเป็นคนเนรมิตตำบลดอนแจ่มให้มีชีวิตขึ้นมา
ทีมเขียนบท รวมพลังนักเขียนสุดเจ๋ง ✍️
เริ่มที่ทีมเขียนบทก่อนเลย ละครเรื่องนี้ได้ทีมนักเขียนระดับเทพถึง 5 คนมาร่วมกันปั้นเรื่องราวสุดวายป่วงของดอนแจ่ม นำทีมโดย เชษฐ์ สงวนนาม, กรณิภา ดวงมุสิทธิ์, มนต์เทพ หงษ์แก้ว, อรรถพล ปานดี, และ ฐานิตา วัชวงค์ โอ้โห… ชื่อนี้คือการันตีความปังเลยนะ 😎
ทีมเขียนบทชุดนี้คือคนที่ทำให้เราได้เห็นการปะทะคารมสุดฮาของ ผู้ใหญ่สันต์ กับ กำนันศรี และปมดราม่าลุ้นระทึกอย่างเรื่องของ เฮียย้ง และแชร์มหารวย เขาใส่ทั้งความตลกแบบซิทคอม ความรักแบบจิกหมอน และข้อคิดดีๆ เกี่ยวกับชุมชนลงไปในบทได้อย่างลงตัว ทุกคนเคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมฉากทะเลาะกันถึงขำขนาดนั้น? หรือทำไมฉากสารภาพรักถึงฟินจับใจ? นี่แหละฝีมือของทีมนักเขียนที่เคมีเข้ากันสุดๆ 👏
ผู้กำกับ พี่พงษ์ศักดิ์ ฉิมเจริญ ผู้ปั้นดอนแจ่มให้มีชีวิต 🎬
ต่อมาเรามาคุยถึงผู้กำกับคนเก่ง พงษ์ศักดิ์ ฉิมเจริญ กัน พี่เขาคือคนที่เนรมิตให้ตำบลดอนแจ่มมีกลิ่นอายชนบทแบบสมจริง แต่ก็มีสีสันแบบที่เราดูแล้วอยากไปเที่ยวเลย 😍 การกำกับของพี่พงษ์ศักดิ์คือเด็ดมาก ทุกฉากคือสมดุลระหว่างความตลกและดราม่าได้เป๊ะ อย่างเช่น ฉากที่ผู้ใหญ่สันต์กับกำนันศรีปะทะคารมกัน เขาจะจับจังหวะให้มันขำแต่ไม่ล้น หรือฉากดราม่าที่ครูมะลิสารภาพความจริง เขาก็ทำให้เราน้ำตาซึมได้จริงๆ
ที่สำคัญ พี่พงษ์ศักดิ์เก่งมากในการดึงเคมีนักแสดงออกมา อย่างคู่ของศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง กับ สุจิรา อรุณพิพัฒน์ นี่คือแบบ… เคมีลงตัวจนเราต้องกรี๊ด 😆 และฉากหมู่บ้านที่ถ่ายท่ามกลางท้องนา เขาก็เลือกมุมกล้องที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น เหมือนเราได้ไปนั่งอยู่ในดอนแจ่มจริงๆ! ปรบมือให้พี่เขาดังๆ เลยทุกคน 👏
ผู้อำนวยการสร้าง บิ๊กบอสแห่งความปัง 💼

มาถึงเบื้องหลังตัวท็อปอย่างผู้อำนวยการสร้าง ถกลเกียรติ วีรวรรณ และ นิพนธ์ ผิวเณร สองบิ๊กบอสจาก เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ สองคนนี้คือตำนานวงการละครไทยเลยนะ 😲 เขาคือคนที่ทำให้ละครช่องวันมีคุณภาพระดับพรีเมียม และสำหรับ ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี พวกเขาก็ทุ่มเทสุดตัวเพื่อให้ทุกอย่างออกมาดี ตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดง การออกแบบฉาก ไปจนถึงการเลือกเพลงประกอบอย่าง ดอนแจ่มแบนด์ ที่ทำให้ละครมีเอกลักษณ์

ถกลเกียรติกับนิพนธ์คือคนที่คอยดูภาพรวมทั้งหมด ทำให้แน่ใจว่าละครเรื่องนี้จะทั้งสนุกและมีสาระ เขาคงนั่งคุยกันว่า “เอาให้คนดูขำจนท้องแข็ง แต่ก็ต้องมีข้อคิดให้คนดูเอาไปคิดต่อด้วย” และผลลัพธ์คือละครที่ครองใจคนดู
ทีมสร้าง เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ ที่สุดของวงการ 🏆
ปิดท้ายด้วยทีมผู้สร้าง เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัทที่อยู่เบื้องหลังละครดังๆ มากมายของช่องวัน ทีมนี้คือมืออาชีพตัวจริง เขาดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบฉากหมู่บ้านที่ให้ฟีลชนบทแท้ๆ การเลือกนักแสดงสมทบที่ทำให้ทุกตัวละครมีสีสัน ไปจนถึงงานตัดต่อที่ทำให้ละครไหลลื่น ไม่มีสะดุด อย่างฉากงานประจำปีของดอนแจ่มที่วุ่นวายสุดๆ นั่นคือฝีมือของทีมนี้ที่ทำให้เราลุ้นจนนั่งไม่ติด
ถึงแม้ว่าบางฉากแอ็กชันอาจจะดูไม่เนียนเป๊ะ 100% แต่โดยรวมแล้ว เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ สร้าง ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี ออกมาได้แบบที่เรียกว่าครบเครื่อง มีทั้งความสนุก ความฟิน และข้อคิดดีๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า “นี่แหละละครไทยที่เรารัก” 😍
ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี จะไม่ปังขนาดนี้ถ้าไม่มีทีมงานสุดยอดพวกนี้ ทีมเขียนบทที่รังสรรค์เรื่องราวให้ครบรส ผู้กำกับพงษ์ศักดิ์ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ผู้อำนวยการสร้างถกลเกียรติและนิพนธ์ที่ควบคุมให้ทุกอย่างเป๊ะ และทีมเดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ที่ทำให้ดอนแจ่มมีชีวิต ทีมนี้คือตัวจริงแห่งวงการละครเลยทุกคน 👏
นักแสดง
→ แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง รับบท สันต์

ผู้ใหญ่สันต์คือผู้นำของตำบลดอนแจ่ม หมู่บ้านชนบทที่เต็มไปด้วยสีสัน เขาเป็นคนที่มีสองบุคลิกชัดเจนมาก ด้านหนึ่งคือผู้นำที่ทุ่มเท รักชาวบ้าน และอยากเห็นดอนแจ่มเจริญก้าวหน้า อีกด้านคือหนุ่มขี้เล่น ชอบแกล้งและปะทะคารมกับ กำนันศรี (สุจิรา อรุณพิพัฒน์) แบบที่ดูแล้วต้องยิ้มตามทุกครั้ง
สันต์เป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง อย่างตอนที่ชาวบ้านเจอปัญหาแชร์มหารวยหรือการข่มขู่จากเฮียย้ง เขาจะลุยแก้ปัญหาทันที ไม่ยอมให้ใครมารังแกชาวดอนแจ่ม แต่ที่ทำให้ตัวละครนี้พิเศษคือความอบอุ่นและความเป็นมนุษย์ เขามีทั้งมุมจริงจังและมุมตลกขบขัน โดยเฉพาะฉากที่แอบเขินกำนันศรีนี่คือฟินสุดๆ ทำเอาใจเต้นเลย
พี่แท่งถ่ายทอดบทนี้ได้แบบลงตัวสุดๆ การแสดงของเขาทำให้เราเห็นทั้งความเป็นผู้นำและความน่ารักของสันต์ ฉากที่ปะทะคารมกับกำนันศรีคือเคมีดีมาก ดูแล้วรู้สึกเหมือนทั้งคู่แอบชอบกันตั้งแต่แรกเลยนะ
ฉายาของ สันต์ “ผู้นำจอมแกล้ง”
ทำไมถึงเรียกแบบนี้ เพราะสันต์คือผู้นำที่จริงจังแต่ก็ขี้แกล้งสุดๆ โดยเฉพาะกับกำนันศรี เขาจะมีมุกมาแซวตลอด แต่ลึกๆ การแกล้งนั้นคือวิธีแสดงความห่วงใยแบบผู้ชายสายซน ฉายานี้เลยเหมาะสุดๆ
ข้อคิดจาก สันต์ “ความรักและความเข้าใจสามารถละลายความขัดแย้งได้”
จากตัวละครสันต์ เราเห็นว่าเขาเริ่มต้นด้วยการเป็นคู่กัดกับกำนันศรี แต่เมื่อทั้งคู่เริ่มเปิดใจและทำงานร่วมกัน ความขัดแย้งก็กลายเป็นความรักและความสามัคคี ข้อคิดนี้สอนให้เรารู้ว่า ไม่ว่าเราจะขัดแย้งกับใคร ถ้าเรายอมฟังและเข้าใจกัน ทุกอย่างก็จะดีขึ้นได้
→ นุ้ย สุจิรา อรุณพิพัฒน์ รับบท ศรี

กำนันศรีคือผู้นำหญิงแกร่งแห่งตำบลดอนแจ่ม เธอเป็นสาวมั่น ใจดี และทุ่มเทให้กับชาวบ้านสุดๆ เธอมุ่งมั่นอยากให้หมู่บ้านเจริญรุ่งเรือง แต่ก็เป็นคู่กัดตัวยงของ ผู้ใหญ่สันต์ (ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง) ฉากที่ทั้งคู่ปะทะคารมกันคือแบบ… ฮากระจาย แต่ลึกๆ แล้วกำนันศรีมีมุมอ่อนโยน โดยเฉพาะตอนที่เริ่มเปิดใจให้ผู้ใหญ่สันต์ โมเมนต์เหล่านี้คือฟินมาก ทำเอาจิกหมอนเลย
ศรีเป็นตัวละครที่ฉลาดและเข้มแข็ง อย่างตอนที่ต้องแก้ปัญหาแชร์มหารวยหรือต่อสู้กับอิทธิพลของเฮียย้ง เธอจะลุยเต็มที่ ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายดอนแจ่ม แต่ที่ทำให้ตัวละครนี้พิเศษคือความเป็นมนุษย์ เธอมีทั้งมุมเข้มแข็งและมุมเปราะบาง เช่น ฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับอดีตสามีอย่างฉัตร หรือตอนที่แอบยิ้มให้ผู้ใหญ่สันต์ ทำเอาคนดูใจละลาย
พี่นุ้ยถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดยอด การแสดงของเธอทำให้กำนันศรีทั้งแซ่บและมีเสน่ห์ ฉากที่ต้องแสดงความเป็นผู้นำหรือแอบเขินนี่คือเป๊ะทุกอารมณ์ ดูแล้วรู้สึกว่าเธอคือกำนันศรีตัวจริง
ฉายาของ ศรี “กำนันสาวใจแกร่ง”
ฉายานี้เหมาะสุดๆ เพราะศรีคือผู้นำหญิงที่ทั้งเข้มแข็งและใจดี เธอพร้อมลุยทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการจัดการนายทุนหรือปกป้องชาวบ้าน แต่ก็มีมุมหวานๆ ที่ทำให้ทุกคนหลงรัก
ข้อคิดจาก ศรี “ความเข้มแข็งที่แท้จริงมาจากการยอมรับและก้าวต่อไป”
จากกำนันศรี เราเห็นว่าเธอเผชิญทั้งปัญหาในชุมชนและเรื่องราวในอดีต เช่น การกลับมาของอดีตสามี แต่เธอก็เลือกที่จะยอมรับและเดินหน้าต่อไป ข้อคิดนี้สอนให้เรารู้ว่า ไม่ว่าเจออะไร ความเข้มแข็งคือการยอมรับความจริงและหาทางแก้ไขอย่างมุ่งมั่น
→ กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ รับบท โอ่ง

โอ่งคือลูกชายสุดหล่อของ กำนันศรี หนุ่มไฟแรงที่เพิ่งกลับจากเมืองกรุงมาช่วยพัฒนา ตำบลดอนแจ่ม เขาคือตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยไอเดียเจ๋งๆ อย่างการตั้ง ดอนแจ่มแบนด์ หรือผลักดันเกษตรอินทรีย์ให้หมู่บ้านปังขึ้น โอ่งเป็นคนกล้าหาญ มุ่งมั่น และไม่ยอมให้อิทธิพลร้ายอย่าง เฮiaย้ง มาทำลายชุมชนได้
แต่ที่ทำให้โอ่งน่ารักคือมุมขี้เล่นและความสัมพันธ์กับ วิว (ภาลฎา ฐิตะวชิระ) จากที่เคยขัดแย้งกันเพราะพ่อแม่เป็นคู่กัด โอ่งกับวิวค่อยๆ สนิทกันผ่านการทำงานเพื่อหมู่บ้าน ฉากที่ทั้งคู่เริ่มแอบชอบกันนี่คือแบบ… ฟินจนต้องจิกหมอนเลยนะ กัน นภัทร ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบทั้งเท่และน่ารัก โดยเฉพาะฉากที่ต้องสืบปมการตายของกำนันพงษ์ ทำเอาลุ้นจนตัวเกร็ง
ฉายาของ โอ่ง “หนุ่มรุ่นใหม่หัวใจดอนแจ่ม”
ฉายานี้เหมาะสุดๆ เพราะโอ่งคือคนรุ่นใหม่ที่นำไอเดียทันสมัยมาพัฒนาหมู่บ้าน แต่หัวใจของเขาก็ผูกพันกับดอนแจ่มแบบสุดๆ เป็นทั้งหนุ่มหล่อและหนุ่มที่รักชุมชน
ข้อคิดจาก โอ่ง “คนรุ่นใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนได้ด้วยความมุ่งมั่น”
จากตัวละครโอ่ง เราเห็นว่าเขาไม่ยอมให้ความท้าทายอย่างอิทธิพลของเฮียย้งหรือปัญหาในหมู่บ้านมาหยุดเขาได้ เขาใช้ความรู้และพลังของคนรุ่นใหม่ผลักดันให้ดอนแจ่มดีขึ้น ข้อคิดนี้สอนว่าไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ถ้ามีใจและลงมือทำ เราก็เปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัวได้
→ สไมล์ ภาลฎา ฐิตะวชิระ รับบท วิว

วิวคือหลานสาวสุดจี๊ดของ ผู้ใหญ่สันต์ สาวน้อยแห่งตำบลดอนแจ่มที่มาพร้อมความสดใสและความกล้าหาญ เธอเป็นคนรุ่นใหม่ที่รักหมู่บ้านและอยากเห็นดอนแจ่มพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตั้ง ดอนแจ่มแบนด์ หรือผลักดันไอเดียใหม่ๆ อย่างเกษตรอินทรีย์ วิวคือคนที่ไม่ยอมให้อิทธิพลร้ายอย่าง เฮียย้ง มาทำลายชุมชนได้
ที่ทำให้วิวเป็นตัวละครที่น่ารักสุดๆ คือความแสบซนผสมความจริงใจ เธอเริ่มต้นด้วยการขัดแย้งกับ โอ่ง (นภัทร อินทร์ใจเอื้อ) เพราะพ่อแม่ของทั้งคู่เป็นคู่กัด แต่เมื่อได้ทำงานร่วมกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ค่อยๆ กลายเป็นความรัก ฉากที่วิวแอบเขินโอ่งนี่คือแบบ… ใจฟูสุดๆ ต้องจิกหมอนเลยนะ สไมล์ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเป๊ะ ทั้งความน่ารักและความมุ่งมั่น โดยเฉพาะฉากที่สืบปมการตายของกำนันพงษ์ ทำเอาลุ้นจนนั่งไม่ติด
ฉายาของ วิว “สาวน้อยพลังบวก”
ฉายานี้เหมาะกับวิวสุดๆ เพราะเธอคือสาวน้อยที่เต็มไปด้วยพลังบวกและความสดใส ไม่ว่าจะเจอปัญหาใหญ่แค่ไหน เธอก็พร้อมลุยและนำรอยยิ้มมาสู่ดอนแจ่ม
ข้อคิดจาก วิว “ความกล้าที่จะลงมือทำสามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้”
จากตัวละครวิว เราเห็นว่าเธอไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทาย ไม่ว่าจะเป็นการสู้กับเฮียย้งหรือการผลักดันไอเดียใหม่ๆ ให้หมู่บ้าน ข้อคิดนี้สอนว่า ถ้าเรากล้าที่จะเริ่มต้นและลงมือทำ ไม่ว่าฝันจะใหญ่แค่ไหนก็เป็นไปได้
→ เต๋า ภูศิลป์ วารินรักษ์ รับบท เต้

เต้คือหนุ่มน้อยในตำบลดอนแจ่มที่มาพร้อมความฝันอยากเป็นนักร้องชื่อดัง เขาเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยพลังบวกและความร่าเริง เป็นหนึ่งในสมาชิกของ ดอนแจ่มแบนด์ ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงในงานหมู่บ้านหรือการช่วยเพื่อนๆ อย่าง โอ่ง และ วิว ผลักดันไอเดียใหม่ๆ เพื่อพัฒนาดอนแจ่ม เต้คือตัวละครที่ทำให้ทุกฉากมีชีวิตชีวา
ที่ทำให้เต้น่าจดจำคือความจริงใจและความมุ่งมั่น เขาอาจจะไม่ได้เป็นตัวเอกหลัก แต่ทุกครั้งที่โผล่มา เต้จะนำรอยยิ้มและความสนุกมาด้วย อย่างฉากที่เขาแสดงในงานประจำปีของหมู่บ้านคือแบบ… ทำให้อยากลุกขึ้นเต้นตามเลย เต๋า ภูศิลป์ ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ การร้องเพลงและความขี้เล่นของเขาทำให้เต้เป็นตัวละครที่ทุกคนรัก
ฉายาของ เต้ “นักร้องจอมซน”
ฉายานี้เหมาะกับเต้สุดๆ เพราะเขาเป็นหนุ่มที่รักการร้องเพลงและมีความซนแบบน่ารัก มักจะสร้างความครึกครื้นให้กับดอนแจ่มเสมอ
ข้อคิดจาก เต้ “ความฝันและพลังบวกสามารถสร้างความสุขให้คนรอบข้าง”
จากตัวละครเต้ เราเห็นว่าเขามุ่งมั่นกับความฝันในการเป็นนักร้อง และใช้พลังบวกนั้นช่วยสร้างความสามัคคีในชุมชน ข้อคิดนี้สอนว่า ถ้าเราทำตามฝันด้วยใจและแบ่งปันความสุขให้คนอื่น ทุกอย่างรอบตัวจะดีขึ้น
→ ฮาย ชุติมา สิงห์ใจชื่น รับบท ข้าว

ข้าวคือสาวน้อยในตำบลดอนแจ่มที่เต็มไปด้วยความร่าเริงและความฝัน เธอเป็นหนึ่งในสมาชิกของ ดอนแจ่มแบนด์ วงดนตรีที่ช่วยสร้างสีสันให้กับหมู่บ้าน ข้าวมีนิสัยน่ารัก ชอบร้องเพลง และมักจะเป็นตัวเชื่อมโยงความสนุกในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นงานบุญหรือกิจกรรมหมู่บ้าน เธอมักจะโผล่มาเติมพลังบวกให้ทุกคน
ที่ทำให้ข้าวโดดเด่นคือความจริงใจและความเป็นกันเอง เธออาจจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัว ข้าวจะนำรอยยิ้มและความสดชื่นมาให้ อย่างฉากที่เธอร้องเพลงในงานประจำปีของดอนแจ่มคือแบบ… ทำให้อยากลุกขึ้นร้องตามเลย ฮาย ชุติมา ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ ความน่ารักและพลังของเธอทำให้ข้าวกลายเป็นตัวละครที่ทุกคนหลงรัก
ฉายาของ ข้าว “นักร้องสาวรอยยิ้ม”
ฉายานี้เหมาะกับข้าวสุดๆ เพราะเธอคือสาวน้อยที่รักการร้องเพลงและมักจะมาพร้อมรอยยิ้มสดใส ช่วยเติมความสุขให้กับดอนแจ่มในทุกโอกาส
ข้อคิดจาก ข้าว “ความสุขเล็กๆ สามารถสร้างพลังใหญ่ให้ชุมชน”
จากตัวละครข้าว เราเห็นว่าเธอใช้ความร่าเริงและความสามารถในการร้องเพลงเพื่อสร้างความสามัคคีและรอยยิ้มให้กับคนรอบตัว ข้อคิดนี้สอนว่า แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ อย่างการแบ่งปันความสุข ก็สามารถทำให้ชุมชนเข้มแข็งขึ้นได้
→ น้องอินเตอร์ รุ่งรดา รุ่งลิขิตเจริญ รับบท วุ้น

วุ้นคือเด็กน้อยสุดน่ารักแห่งตำบลดอนแจ่ม เธอเป็นตัวละครที่เหมือนแสงสว่างเล็กๆ ในหมู่บ้าน นำความสดใสและรอยยิ้มมาสู่ทุกคน โดยเฉพาะ ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี ที่เหมือนเป็นครอบครัวของเธอ วุ้นมักจะโผล่มาในฉากที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น อย่างตอนที่วิ่งเล่นในหมู่บ้านหรือพูดอะไรน่ารักๆ ที่ทำให้ผู้ใหญ่ใจละลาย
ถึงวุ้นจะเป็นเด็ก แต่เธอก็มีบทบาทที่ช่วยเชื่อมโยงคนในชุมชน ด้วยความไร้เดียงสาและความจริงใจ เธอทำให้ทุกคนรอบตัวรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางความวุ่นวายในดอนแจ่ม อย่างฉากที่วุ้นคุยกับผู้ใหญ่สันต์หรือกำนันศรีนี่คือแบบ… ทำเอาน้ำตาจะไหลเพราะความน่ารัก น้องอินเตอร์ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ การแสดงของน้องคือทำให้วุ้นกลายเป็นขวัญใจของทุกคนในละคร
ฉายาของ วุ้น “นางฟ้าตัวน้อย”
ฉายานี้เหมาะกับวุ้นสุดๆ เพราะเธอเหมือนนางฟ้าตัวเล็กที่นำความสุขและความบริสุทธิ์มาสู่ดอนแจ่ม ทุกครั้งที่โผล่มา ทุกคนต้องยิ้มตาม
ข้อคิดจาก วุ้น “ความบริสุทธิ์ของเด็กสามารถเตือนใจผู้ใหญ่ให้มองโลกในแง่ดี”
จากตัวละครวุ้น เราเห็นว่าเธอใช้ความไร้เดียงสาและรอยยิ้มช่วยเยียวยาความขัดแย้งและความเครียดในชุมชน ข้อคิดนี้สอนว่า บางครั้งมุมมองที่เรียบง่ายและใจที่บริสุทธิ์สามารถทำให้ทุกคนรอบตัวรู้สึกดีขึ้นได้
→ เกริก ชิลเลอร์ รับบท เฮียย้ง

เฮียย้งคือตัวร้ายตัวพ่อแห่งตำบลดอนแจ่ม เขาคือเจ้าของโรงสีและนายทุนหน้าเลือดที่หวงผลประโยชน์ของตัวเองสุดๆ เมื่อ ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี พยายามพัฒนาหมู่บ้าน เฮียย้งก็ออกมาขัดขวางเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการปั่นหัวชาวบ้านให้ต่อต้าน หรือวางแผนร้ายๆ เพื่อกำจัดคู่แข่ง อย่างตอนที่เขาสั่งลูกน้องทำลายหลักฐานเกี่ยวกับการตายของกำนันพงษ์ หรือแม้แต่จับ โอ่ง เป็นตัวประกันในงานประจำปี ฉากพวกนี้คือแบบ… ลุ้นจนตัวเกร็งเลย
เฮียย้งเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และความโหด เขาคือตัวแทนของคนที่เห็นแก่ตัวและไม่สนใจความเดือดร้อนของชุมชน แต่ที่ทำให้ตัวละครนี้เด่นคือความลึกซึ้งที่เกริก ชิลเลอร์ใส่ลงไป การแสดงของเขาทำให้เฮiaย้งทั้งน่ากลัวและน่าหมั่นไส้ โดยเฉพาะฉากที่แค้นผู้ใหญ่สันต์กับกำนันศรี ทำเอาคนดูรู้สึกว่า “เฮียย้งนี่ร้ายจริงๆ”
ฉายาของ เฮียย้ง “นายทุนจอมวายร้าย”
ฉายานี้เหมาะสุดๆ เพราะเฮียย้งคือตัวร้ายที่ใช้ทั้งเงินและอิทธิพลเพื่อครองดอนแจ่ม เป็นนายทุนที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง
ข้อคิดจาก เฮียย้ง “ความเห็นแก่ตัวอาจนำไปสู่จุดจบ”
จากตัวละครเฮียย้ง เราเห็นว่าเขาทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการขัดขวางการพัฒนาหมู่บ้านหรือทำร้ายคนอื่น สุดท้ายการกระทำของเขาก็นำไปสู่ปัญหาและการถูกจับกุม ข้อคิดนี้สอนว่า ความเห็นแก่ตัวอาจทำให้เราชนะในระยะสั้น แต่ในระยะยาวจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดี
→ ตั้ม วราวุธ โพธิ์ยิ้ม รับบท ยอร์ช

ยอร์ชคือลูกน้องตัวแสบของ เฮiaย้ง นายทุนจอมวายร้ายแห่งตำบลดอนแจ่ม เขาคือตัวละครที่เพิ่มความป่วนและความฮาให้กับเรื่อง ด้วยนิสัยขี้แกล้งและเจ้าเล่ห์เล็กๆ ยอร์ชมักจะถูกเฮiaย้งส่งไปทำภารกิจร้ายๆ เช่น แอบทำลายแผนของ ผู้ใหญ่สันต์ กับ กำนันศรี หรือไปปั่นหัวชาวบ้าน แต่ส่วนใหญ่ยอร์ชจะทำพลาดจนกลายเป็นเรื่องตลก อย่างฉากที่เขาพยายามข่มขู่ชาวบ้านแต่โดนแกล้งคืนนี่คือขำจนท้องแข็งเลย
ถึงยอร์ชจะอยู่ในฝั่งตัวร้าย แต่เขาก็มีมุมที่น่ารักและดูไม่ร้ายกาจขนาดเฮiaย้ง ทำให้คนดูรู้สึกหมั่นไส้แบบขำๆ มากกว่าน่ากลัว ตั้ม วราวุธ ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดยอด ความเป็นนักแสดงสายคอมเมดี้ของเขาทำให้ยอร์ชกลายเป็นตัวละครที่ทุกครั้งที่โผล่มานี่คือต้องมีรอยยิ้มแน่นอน
ฉายาของ ยอร์ช “ลูกน้องจอมป่วน”
ฉายานี้เหมาะกับยอร์ชสุดๆ เพราะเขาเป็นลูกน้องที่ทั้งแสบและป่วน มักจะสร้างวีรกรรมที่ทำให้เรื่องวุ่นวาย แต่ก็ขำจนคนดูอดใจรักไม่ได้
ข้อคิดจาก ยอร์ช “การเลือกข้างที่ถูกต้องสำคัญกว่าการทำตามคำสั่ง”
จากตัวละครยอร์ช เราเห็นว่าเขาเลือกทำงานให้เฮiaย้ง ซึ่งนำไปสู่ความวุ่นวายและปัญหา ข้อคิดนี้สอนว่า การเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องและยึดมั่นในความดีจะทำให้ชีวิตและคนรอบตัวดีขึ้น แทนที่จะตามคำสั่งที่ผิดๆ
→ มิ้วส์ อรภัสญาน์ สุกใส รับบท ยาหยี

ยาหยีคือสาวแสบในทีมของ เฮียย้ง นายทุนตัวร้ายแห่งตำบลดอนแจ่ม เธอเป็นตัวละครสมทบที่เพิ่มความเผ็ดให้กับฝั่งตัวร้าย ด้วยนิสัยเจ้าเล่ห์และความมั่นใจสุดๆ ยาหยีมักจะถูกส่งไปช่วยแผนร้ายของเฮiaย้ง ไม่ว่าจะเป็นการยุยงชาวบ้านหรือแอบขัดขวางแผนของ ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี ถึงจะอยู่ในฝั่งร้าย แต่ยาหยีมีมุมขี้เล่นและความเป็นสาวแซ่บที่ทำให้คนดูรู้สึกหมั่นไส้แบบขำๆ
ที่ทำให้ยาหยีเด่นคือสไตล์การแสดงที่เปรี้ยวและมั่นใจ อย่างฉากที่เธอออกมาแซวหรือปั่นหัวชาวบ้านนี่คือแบบ… ทำเอาต้องยิ้มตาม มิ้วส์ อรภัสญาน์ ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบลงตัวสุดๆ เธอทำให้ยาหยีเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ในแบบตัวร้าย แต่ก็ไม่น่ากลัวจนเกินไป ทุกครั้งที่โผล่มานี่คือเพิ่มสีสันให้เรื่องแน่นอน
ฉายาของ ยาหยี
“สาวแสบแห่งดอนแจ่ม”
ฉายานี้เหมาะกับยาหยีสุดๆ เพราะเธอคือสาวแซ่บที่มาพร้อมความแสบและความมั่นใจ คอยปั่นป่วนดอนแจ่มในสไตล์ที่ทั้งร้ายและน่ารัก
ข้อคิดจาก ยาหยี “การใช้ความสามารถในทางที่ผิดอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ดี”
จากตัวละครยาหยี เราเห็นว่าเธอมีทั้งความฉลาดและเสน่ห์ แต่เลือกใช้มันในทางที่ช่วยเฮียย้งทำร้ายชุมชน ข้อคิดนี้สอนว่า ถ้าเราใช้ความสามารถของตัวเองในทางที่ถูกต้อง เราจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นได้
→ ตี๋ ดอกสะเดา รับบท ไก่

ไก่คือชาวบ้านสุดป่วนแห่งตำบลดอนแจ่ม เขาเป็นตัวละครที่เหมือนตัวแทนความสนุกของหมู่บ้าน มักจะโผล่มาในฉากที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและมุกตลก ด้วยนิสัยขี้เล่นและขี้แกล้งนิดๆ ไก่ชอบสร้างวีรกรรมที่ทำให้ทุกคนต้องปวดหัว แต่ก็อดขำไม่ได้ อย่างฉากที่เขาวิ่งไปช่วย ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี แบบงงๆ หรือตอนที่ไปยุ่งกับแผนของ เฮียย้ง จนทุกอย่างพังพินาศ เรียกว่าทุกครั้งที่ไก่โผล่มานี่คือรับประกันความฮา
ถึงจะเป็นตัวละครสมทบ แต่ไก่คือสีสันที่ขาดไม่ได้ในดอนแจ่ม ความตลกและความเป็นธรรมชาติของเขาทำให้คนดูรู้สึกเหมือนมีเพื่อนบ้านสุดแสบอยู่ในชีวิตจริง ตี๋ ดอกสะเดา ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเป๊ะสุดๆ ด้วยประสบการณ์ในวงการตลกที่ยาวนานตั้งแต่สมัยเป็นมือกลองให้คณะเด๋อ ดอกสะเดา ทำให้ทุกมุกของไก่คือลงตัว ดูแล้วต้องยิ้มตามแน่นอน
ฉายาของ ไก่ “จอมป่วนแห่งดอนแจ่ม”
ฉายานี้เหมาะกับไก่สุดๆ เพราะเขาเป็นชาวบ้านที่คอยสร้างความวุ่นวายแบบน่ารัก มุกตลกและการกระทำของเขาคือส่วนผสมที่ทำให้ดอนแจ่มครึกครื้นตลอดเวลา
ข้อคิดจาก ไก่ “ความสนุกและรอยยิ้มสามารถเชื่อมโยงทุกคนในชุมชน”
จากตัวละครไก่ เราเห็นว่าเขาใช้ความขี้เล่นและความตลกช่วยให้คนในดอนแจ่มมีรอยยิ้ม แม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ข้อคิดนี้สอนว่า การมอบความสุขให้คนรอบตัว แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ ก็สามารถสร้างความสามัคคีและทำให้ชุมชนอบอุ่นขึ้นได้
→ จตุรงค์ โพธาราม รับบท สุวิทย์

สุวิทย์คือชาวบ้านสุดแสบแห่งตำบลดอนแจ่ม เขาเป็นตัวละครที่มาพร้อมความขี้เล่นและนิสัยชอบแกล้งคนอื่นแบบน่ารักๆ สุวิทย์มักจะโผล่มาในฉากที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นการประชุมหมู่บ้านที่ปั่นป่วน หรือการช่วย ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี ในแบบที่ดูงงๆ แต่สุดท้ายก็ช่วยได้จริง อย่างฉากที่เขาไปยุ่งกับแผนของ เฮiaย้ง แล้วทำให้ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องตลกนี่คือขำจนต้องกดหยุดหายใจเลย
ถึงจะเป็นตัวละครสมทบ แต่สุวิทย์คือตัวแทนของชาวบ้านที่ทำให้ดอนแจ่มมีชีวิตชีวา เขามีความเป็นเพื่อนบ้านที่ทุกคนรู้จัก ด้วยมุกตลกและความเป็นกันเอง จตุรงค์ โพธาราม ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเป๊ะสุดๆ ด้วยความเป็นมืออาชีพสายคอมเมดี้ของเขา ทุกครั้งที่สุวิทย์โผล่มานี่คือรับประกันว่าจะต้องมีรอยยิ้ม
ฉายาของ สุวิทย์ “ตัวแสบประจำหมู่บ้าน”
ฉายานี้เหมาะกับสุวิทย์สุดๆ เพราะเขาเป็นชาวบ้านที่ทั้งขี้แกล้งและป่วน แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบที่ทำให้ทุกคนอดใจรักไม่ได้
ข้อคิดจาก สุวิทย์ “ความสนุกสนานช่วยให้ชุมชนอบอุ่นขึ้น”
จากตัวละครสุวิทย์ เราเห็นว่าเขานำความตลกและความเป็นกันเองมาสู่ดอนแจ่ม ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายแม้ในสถานการณ์ตึงเครียด ข้อคิดนี้สอนว่า การสร้างรอยยิ้มและความสนุกให้คนรอบตัวสามารถช่วยกระชับความสัมพันธ์ในชุมชนได้
→ วรินทราย เจียรนันทรานนท์ รับบท เจี๊ยบ
เจี๊ยบคือตัวละครสมทบในตำบลดอนแจ่ม เธอเป็นสาวน้อยที่มีความเป็นกันเองและเข้ากับทุกคนในหมู่บ้านได้ดี เจี๊ยบมักจะโผล่มาในฉากที่เกี่ยวกับชุมชน เช่น งานบุญ งานประชุมหมู่บ้าน หรือตอนที่ช่วย ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี จัดการปัญหาต่างๆ เธอมีนิสัยร่าเริงและใจดี ช่วยเชื่อมโยงตัวละครอื่นๆ ในเรื่องให้เข้ากัน อย่างฉากที่เจี๊ยบช่วยงานในหมู่บ้านหรือแอบแซวเพื่อนๆ นี่คือแบบ… ทำให้รู้สึกเหมือนมีเพื่อนบ้านน่ารักๆ จริงๆ
ถึงเจี๊ยบจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่เธอก็เพิ่มความอบอุ่นให้กับเรื่อง ด้วยความสดใสและการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน วรินทรายถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ การแสดงของเธอทำให้เจี๊ยบดูเหมือนเพื่อนที่ทุกคนอยากมี ทุกครั้งที่โผล่มานี่คือช่วยเติมรอยยิ้มให้กับดอนแจ่ม
ฉายาของ เจี๊ยบ “สาวน้อยเพื่อนบ้าน”
ฉายานี้เหมาะกับเจี๊ยบสุดๆ เพราะเธอคือสาวน้อยที่เป็นเหมือนเพื่อนบ้านแสนดี มีความเป็นกันเองและคอยช่วยเหลือทุกคนในดอนแจ่ม
ข้อคิดจาก เจี๊ยบ “การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนคือการช่วยเหลือด้วยใจ”
จากตัวละครเจี๊ยบ เราเห็นว่าเธอมีส่วนร่วมในกิจกรรมของหมู่บ้านด้วยความเต็มใจ แม้จะเป็นบทบาทเล็กๆ แต่ก็ช่วยให้ชุมชนเข้มแข็ง ข้อคิดนี้สอนว่า การช่วยเหลือผู้อื่นด้วยใจ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีได้
→ องุ่น ดวลเพลงชิงทุน รับบท องุ่น

องุ่นคือสาวน้อยแห่งตำบลดอนแจ่มที่มาพร้อมความร่าเริงและความน่ารัก เธอเป็นตัวละครสมทบที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับหมู่บ้าน มักจะโผล่มาในฉากงานบุญ งานประจำปี หรือตอนที่ชาวบ้านมารวมตัวกัน ด้วยนิสัยขี้เล่นและเป็นกันเอง องุ่นคือตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่รักชุมชนและพร้อมช่วยเหลือทุกคน อย่างฉากที่เธอช่วยงานในหมู่บ้านหรือร้องเพลงกับ ดอนแจ่มแบนด์ นี่คือแบบ… ทำให้รู้สึกถึงความครึกครื้นของดอนแจ่ม
ถึงจะเป็นบทเล็ก แต่องุ่นคือตัวละครที่ช่วยเชื่อมโยงความอบอุ่นของชุมชน น้ององุ่น ดวลเพลงชิงทุน ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ ด้วยความที่เธอมีพื้นฐานจากเวทีร้องเพลง ความสดใสและพลังของน้องทำให้องุ่นกลายเป็นตัวละครที่คนดูจดจำ ทุกครั้งที่โผล่มานี่คือเหมือนมีน้องสาวตัวน้อยอยู่ในจอเลย
ฉายาของ องุ่น “น้องเล็กพลังใหญ่”
ฉายานี้เหมาะกับองุ่นสุดๆ เพราะถึงจะเป็นตัวละครสมทบ แต่เธอนำพลังบวกและความสดใสมาสู่ดอนแจ่มได้แบบเต็มเปี่ยม
ข้อคิดจาก องุ่น “ทุกคนมีส่วนช่วยทำให้ชุมชนน่าอยู่”
จากตัวละครองุ่น เราเห็นว่าเธออาจจะมีบทบาทเล็กๆ แต่การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของหมู่บ้านด้วยใจทำให้ทุกอย่างมีชีวิตชีวา ข้อคิดนี้สอนว่า ไม่ว่าเราจะมีบทบาทใหญ่หรือเล็ก การช่วยเหลือชุมชนด้วยความตั้งใจก็สร้างความแตกต่างได้
ข้อคิดดีๆ จากละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี
ความสามัคคีคือพลังที่ยิ่งใหญ่
ใน ตำบลดอนแจ่ม เราเห็นชาวบ้าน รวมถึง ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี ร่วมมือกันต่อสู้กับอิทธิพลของ เฮียย้ง และแก้ปัญหาแชร์มหารวย ไม่ว่าจะเจออุปสรรคหนักแค่ไหน เมื่อทุกคนจับมือกัน ทุกอย่างก็เป็นไปได้ ข้อคิดนี้สอนว่า ถ้าเรารวมพลังกับคนรอบตัว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ อยากให้ลองเอาไปใช้ในชุมชนหรือที่ทำงาน รับรองปัง
ความรักและความเข้าใจละลายความขัดแย้ง
ผู้ใหญ่สันต์ กับ กำนันศรี เริ่มต้นจากคู่กัดที่ทะเลาะกันทุกวัน แต่เมื่อทั้งคู่เริ่มเปิดใจและเข้าใจกัน ความขัดแย้งก็กลายเป็นความรัก ข้อคิดนี้สอนว่า ถ้าเรายอมฟังและมองในมุมของคนอื่น ปัญหาหรือการทะเลาะกันก็จะคลายลงได้ ลองเอาไปใช้กับเพื่อนหรือครอบครัวดูนะ ช่วยได้เยอะเลย
คนรุ่นใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงชุมชนได้
โอ่ง และ วิว คือตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่นำไอเดียเจ๋งๆ อย่างเกษตรอินทรีย์และ ดอนแจ่มแบนด์ มาพัฒนาหมู่บ้าน แม้จะเจออุปสรรคจาก เฮียย้ง แต่ทั้งคู่ก็ไม่ยอมถอย ข้อคิดนี้สอนว่า ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ ถ้ามีใจและลงมือทำ ความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัวก็เป็นจริงได้
ความเห็นแก่ตัวนำไปสู่จุดจบ
เฮียย้ง คือนายทุนที่เห็นแก่ตัว ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่สุดท้ายเขาก็ต้องรับผลจากสิ่งที่ทำ ข้อคิดนี้สอนว่า การทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงคนอื่นอาจทำให้เราชนะในตอนแรก แต่ในระยะยาวจะนำไปสู่ความล้มเหลว อยากให้ทุกคนยึดความดีและคิดถึงส่วนรวมด้วยนะ
ความสุขเล็กๆ สร้างชุมชนที่อบอุ่น
ตัวละครอย่าง วุ้น ไก่ หรือ องุ่น อาจมีบทบาทเล็กๆ แต่ความน่ารักและพลังบวกของพวกเขาช่วยให้ดอนแจ่มเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ข้อคิดนี้สอนว่า การแบ่งปันความสุข ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็สามารถทำให้ชุมชนหรือคนรอบตัวเราน่าอยู่ขึ้นได้ ลองยิ้มให้เพื่อนหรือช่วยเหลือคนใกล้ตัวดูนะ เปลี่ยนบรรยากาศได้จริง
ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี ไม่ได้มีแค่ความสนุก แต่ยังให้ข้อคิดที่เอาไปใช้ในชีวิตได้จริง ตั้งแต่เรื่องความสามัคคี ความรัก การเปลี่ยนแปลง ไปจนถึงการทำดีและแบ่งปันความสุข ดูแล้วทั้งยิ้มทั้งซึ้ง แถมได้แรงบันดาลใจเต็มๆ ถ้ายังไม่ได้ดู ต้องไปตามดูนะ
ละคร ผู้ใหญ่สันต์ กำนันศรี จินตนาการว่าถ้ามีภาค 2 จะเป็นยังไง จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง
ในภาค 2 เรื่องราวอาจต่อยอดจากความสำเร็จของดอนแจ่มในภาคแรก หลังจากกำจัดเฮียย้งได้ ผู้ใหญ่สันต์ และ กำนันศรี อาจจะเริ่มเป็นคู่รักอย่างเป็นทางการ แต่ก็ยังคงมีมุมคู่กัดที่ขาดไม่ได้ เพราะนี่คือเสน่ห์ของทั้งคู่ ตำบลดอนแจ่มอาจเจอความท้าทายใหม่ เช่น นายทุนหน้าใหม่ที่เข้ามาพร้อมแผนร้ายที่ซับซ้อนกว่าเดิม หรือปัญหาภายในหมู่บ้านอย่างการแข่งขันระหว่างกลุ่มชาวบ้านที่เห็นต่างเรื่องการพัฒนา
โอ่ง และ วิว ที่ตอนนี้กลายเป็นคู่รัก อาจต้องเผชิญบททดสอบ เช่น การเลือกว่าจะอยู่ช่วยหมู่บ้านต่อหรือตามฝันของตัวเองในเมืองใหญ่ พร้อมกับการนำทีมคนรุ่นใหม่เช่น เต้ (ภูศิลป์ วารินรักษ์) และ ข้าว (ชุติมา สิงห์ใจชื่น) ผลักดันโปรเจกต์ใหม่ๆ อย่างการทำท่องเที่ยวชุมชนหรือสร้างแบรนด์สินค้าดอนแจ่มให้ดังไปทั่วประเทศ ตัวละครเด็กน้อยอย่าง วุ้น (รุ่งรดา รุ่งลิขิตเจริญ) อาจโตขึ้นนิดนึงและมีบทบาทในการช่วยแก้ปัญหาด้วยความน่ารักและไอเดียเด็กๆ
ส่วนตัวร้ายอาจไม่ใช่แค่นายทุน แต่เป็นปัญหาที่ทันสมัยขึ้น เช่น การหลอกลวงออนไลน์ที่ทำให้ชาวบ้านสูญเสียเงิน หรือการแข่งขันจากหมู่บ้านข้างเคียงที่อยากแย่งชื่อเสียงของดอนแจ่ม ทุกอย่างจะยังคงความครบรสทั้งฮา ดราม่า และฟิน พร้อมเน้นความสามัคคีและพลังของชุมชนเหมือนเดิม
ถ้ามีภาค 2 ข้อคิดอาจเน้นที่การปรับตัวในยุคใหม่ โดยที่ยังรักษาคุณค่าของชุมชนไว้ เช่น “การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องไม่ทิ้งรากเหง้าของตัวเอง” ดอนแจ่มอาจต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับโลกสมัยใหม่ แต่ก็ต้องรักษาความเป็นหมู่บ้านที่อบอุ่นและสามัคคีเอาไว้