ละคร สาวน้อย 2555 “นิด” เด็กกำพร้าที่อาศัยในชุมชนแออัด ใช้ชีวิตยากลำบากแต่จิตใจดีและมองโลกในแง่ดี ได้พบกับ “สรรค์” ชายหนุ่มรวยที่สูญเสียความทรงจำจากอุบัติเหตุ นิดช่วยดูแลเขา จนทั้งคู่ตกหลุมรักกัน อย่างไรก็ตาม ความรักของทั้งสองเผชิญอุปสรรคจากครอบครัวสรรค์ที่ไม่ยอมรับนิด เพราะความยากจนและสถานะกำพร้าของเธอ นิดต้องต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเองและปกป้องความรัก ขณะที่สรรค์เรียนรู้ที่จะยอมรับอดีตและเริ่มต้นใหม่

ละคร สาวน้อย 2555 ละครแนวโรแมนติกดราม่า “สรรค์” บุตรชายของ “พระชาญชลาศัย” เสนาบดีกระทรวงการคลัง หลังจากเรียนจบจากต่างประเทศ ได้เดินทางกลับมาเมืองไทย พร้อมกับได้หมั้นหมายกับ “สุวลี” ในวันหมั้น สรรค์ได้รู้ความจริงว่าพ่อมีภรรยาใหม่คือ “มารศรี” ทำให้สรรค์ทะเลาะกับพ่อและออกจากบ้าน ระหว่างทาง สรรค์ถูกดักทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำ และได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านในชุมชนริมน้ำ

สรรค์ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในชุมชนริมน้ำ โดยมีชื่อใหม่ว่า “เสียม” “นิด” เด็กสาวกำพร้าที่อาศัยอยู่ในชุมชน ได้เข้ามาดูแลและช่วยเหลือสรรค์ ความใกล้ชิดทำให้สรรค์และนิดเกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกัน แต่ความรักของสรรค์และนิดต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ทั้งจากครอบครัวของสรรค์ที่ไม่ยอมรับนิด และจากมารศรีที่พยายามทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่

“ธนา” เพื่อนสนิทของสรรค์ ก็เข้ามามีบทบาทในเรื่องราวความรักครั้งนี้ด้วย นิดต้องพิสูจน์ตัวเอง ว่าเธอคู่ควรกับสรรค์ ในที่สุด สรรค์ก็สามารถฟื้นความทรงจำได้ และได้กลับไปเผชิญหน้ากับอดีตของตนเอง สรรค์และนิดฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนได้ครองรักกันในที่สุด ส่วนมารศรีได้รับผลกรรมที่ก่อไว้

ละคร สาวน้อย 2555 เป็นละครที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยบทบาทการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงทุกคน และเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและน่าประทับใจ

ประเด็นสำคัญ
• ละครเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของชนชั้นในสังคม
• นำเสนอเรื่องราวของความรักที่แท้จริง ซึ่งสามารถเอาชนะอุปสรรคได้ทุกอย่าง
• การต่อสู้ชีวิตของเด็กกำพร้า ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา
• การแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดง โดยเฉพาะสน ยุกต์ และวรรณรท สนธิไชย
• เนื้อเรื่องที่เข้มข้น และมีฉากดราม่าที่น่าประทับใจ

เนื้อหาของละคร สาวน้อย 2555

จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
“สรรค์” (สน ยุกต์ ส่งไพศาล) บุตรชายของเสนาบดีกระทรวงการคลัง “พระชาญชลาศัย” (เกรียงไกร อุณหนันท์) กลับจากต่างประเทศพร้อมคู่หมั้น “สุวลี” (บุษกร ตันตินภา) ในวันหมั้น สรรค์พบว่าพ่อมีภรรยาใหม่คือ “มารศรี” (บงกช คงมาลัย) นักร้องในไนท์คลับ ทำให้เขาโกรธมากและออกจากบ้าน ระหว่างทาง สรรค์ถูกทำร้ายจนสูญเสียความทรงจำ และได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านในชุมชนริมน้ำ

ชีวิตใหม่ในชุมชน
สรรค์ใช้ชีวิตใหม่ในชื่อ “เสียม” และได้รับการดูแลจาก “นิด” (วรรณรท สนธิไชย) เด็กสาวกำพร้าผู้มีจิตใจดี ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่เกิดความรัก แต่ความแตกต่างทางฐานะและอดีตของสรรค์เป็นอุปสรรคใหญ่ “ธนา” (ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) เพื่อนสนิทของสรรค์ ก็เข้ามามีบทบาทในเรื่องราวความรักครั้งนี้ด้วย

อุปสรรคและความขัดแย้ง
ครอบครัวของสรรค์ไม่ยอมรับนิด และพยายามกีดกันทั้งคู่ออกจากกัน มารศรีวางแผนร้ายเพื่อทำลายความสัมพันธ์ของสรรค์และนิด และหวังที่จะได้สมบัติของพระชาญชลาศัย ชีวิตของนิดต้องเจอกับความยากลำบากมากมาย เธอต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเธอคู่ควรกับสรรค์ สรรค์ต้องต่อสู้กับความทรงจำที่หายไป

การคลี่คลายและบทสรุป
ในที่สุด สรรค์ก็ฟื้นความทรงจำ และเผชิญหน้ากับอดีตของเขา สรรค์และนิดฝ่าฟันอุปสรรค และได้ครองรักกันในที่สุด มารศรีได้รับผลกรรมที่ก่อไว้ ละครจบลงด้วยความสุขของพระนาง ละครเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของชนชั้นในสังคม และความรักที่แท้จริงที่สามารถเอาชนะอุปสรรคได้ทุกอย่าง

“นิด” เป็นตัวละครที่สร้างความประทับใจอย่างมาก ด้วยความเข้มแข็ง จิตใจดี และไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา การที่เธอสามารถยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ทำให้ผู้ชมรู้สึกชื่นชมและเอาใจช่วย
“สรรค์” ก็เป็นตัวละครที่มีมิติ การที่เขาต้องเผชิญกับการสูญเสียความทรงจำและการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของตัวละคร

ความรักระหว่างสรรค์และนิดเป็นความรักที่บริสุทธิ์และจริงใจ แม้จะมีความแตกต่างทางฐานะและอุปสรรคมากมาย แต่ทั้งคู่ก็ยังคงรักและซื่อสัตย์ต่อกัน ความรักของพวกเขาทำให้ผู้ชมรู้สึกซาบซึ้งและมีความหวัง

ละครเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำและความอยุติธรรมในสังคม การที่นิดต้องถูกดูถูกและกีดกันเพราะฐานะยากจน ทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจเธอ การกระทำของตัวละครอย่างมารศรีนั้นทำให้เกิดความรู้สึกถึงผลของการกระทำที่ไม่ดี ว่าท้ายที่สุดแล้วก็จะได้รับผลของการกระทำนั้นๆ

โดยรวมแล้ว “ละคร สาวน้อย 2555” เป็นละครที่สร้างความรู้สึกหลากหลายให้กับผู้ชม ทั้งความสุข ความเศร้า ความประทับใจ และความสะเทือนใจ ละครเรื่องนี้ยังคงเป็นที่จดจำและพูดถึงจนถึงปัจจุบัน ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นและนักแสดงที่ยอดเยี่ยม


ละคร สาวน้อย 2555

ละคร สาวน้อย 2555

ละคร สาวน้อย 2555

สรรค์ บุตรคนเดียวของ พระชาญชลาศัย เสนาบดีกระทรวงการคลัง สรรค์มีความสามารถในการวาดภาพสีน้ำมัน หลังจากเรียนจบจากฟิลิปปินส์ เขาเดินทางกลับมาเมืองไทยพร้อมกับได้หมั้นหมายกับ สุวลี คืนวันหมั้น สรรค์ได้รู้ความจริงว่า พ่อมีภรรยาใหม่ คือ มารศรี นักร้องไนท์คลับ ซึ่งมารศรีได้กลายเป็นสาเหตุให้สรรค์ต้องมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับพระชาญชลาศัย ด้วยความน้อยใจ สรรค์จึงหนีไปอยู่กับ บุญมา เพื่อนสนิท แต่ระหว่างทางสรรค์โดนดักทำร้ายจนทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ

เมื่อสรรค์รู้สึกตัวก็พบว่า ตนเองอยู่ที่ท่าเรือข้ามฟากเกาะสีชัง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเถ้าแก่ย่านท่าเรือ และได้ตั้งชื่อใหม่ให้เขาว่า เสียม เสียมทำงานเป็นจับกังในเรือ วันหนึ่งเรือแล่นผ่านเกาะสีชัง เสียมได้ยินเสียงเพลงอันไพเราะและเกิดหลงใหลในความงดงามของเกาะสีชัง จึงแอบหนีลงจากเรือและว่ายน้ำไปที่เกาะสีชังทันที ระหว่างที่เสียมกำลังว่ายน้ำเขาเกิดหมดแรงไปเสียก่อน แต่ก่อนที่เขาจะหมดสติจมลงไปใต้ท้องทะเล นิด หญิงสาวชาวเกาะมาพบเข้า และได้ให้ความช่วยเหลือจนปลอดภัย

เสียมหลงรักนิดตั้งแต่แรกพบจึงขออาศัยอยู่ด้วย แต่เขาเปรียบเหมือนคนพเนจร จึงทำให้ นิ่ม แม่ของนิดและเนื่อง พี่ชาย รวมถึงเชิดชายหนุ่มที่หลงรักนิดมานาน รู้สึกไม่พอใจที่เสียมมาอาศัยอยู่ด้วย พวกเค้าจึงคอยตั้งแง่กับเสียมตลอดเวลา แต่ด้วยความดีของเสียม จึงเอาชนะใจของพวกเขาได้

สิ่งที่ทำให้เสียมประหลาดใจ คือการค้นพบว่า ตนเองมีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษ และสามารถวาดรูปได้อย่างงดงาม ด้วยเหตุนี้เสียมจึงตั้งใจวาดรูปนิดและตั้งชื่อรูปนี้ว่า สาวน้อย เขาได้มอบรูปนี้ให้กับเธอในวันแต่งงาน ทั้งคู่ใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขบนเกาะสีชัง

แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อพระชาญชลาศัยรู้ว่าสรรค์ความจำเสื่อม และอาศัยอยู่ที่เกาะสีชัง จึงรีบตามมาพบสรรค์และพากลับไปรักษาที่กรุงเทพฯ แต่สรรค์ไม่ยอมถ้าไม่มีนิดกลับไปด้วย เพราะเหตุนี้พระชาญชลาศัยจึงจำใจยอมพานิดไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน

ผลการรักษาทำให้ความทรงจำของสรรค์กลับคืนมา แต่โชคร้ายที่ความทรงจำของสรรค์ตอนที่อยู่เกาะสีชังกลับหายไป แม้กระทั่งนิดหญิงสาวที่สรรค์รักสุดหัวใจเขาก็จำเธอไม่ได้ สุวลีกังวลว่าสักวันหนึ่งสรรค์จะจำนิดได้หากทั้งคู่ได้อยู่ใกล้ชิดกัน เธอจึงออกอุบายให้นิดไปทำงานเป็นข้ารับใช้ของ คุณหญิงมะลิ ภรรยาของ พระยาธรรมนูญ

ระหว่างที่นิดเป็นข้ารับใช้ เธอรู้ว่า คุณหญิงมะลิแอบคบชู้กับ หลวงจินดา เธอจึงคิดจะนำเรื่องนี้ไปบอกพระยาธรรมนูญ แต่ไม่ทันจะได้บอกนิดก็ถูกคุณหญิงมะลิจับได้ และหาเรื่องใส่ความ ทำให้เธอมีความผิดต้องติดคุก ทำให้นิดได้พบกับชดนางละคร ซึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังในอดีต ในคุกนี้เองนิดกับชดกลายเป็นเพื่อนที่รู้ใจ เพราะทั้งคู่รักในเสียงเพลงและการแสดงเหมือนกัน

จากนั้นไม่นาน แก้ว เพื่อนสนิทของนิดที่พยายามหาทางช่วยให้นิดพ้นโทษ ได้นำความจริงที่คุณหญิงมะลิคบชู้ไปบอกกับพระยาธรรมนูญ เมื่อพระยาธรรมนูญรู้ความจริงจึงช่วยให้นิดและชดพ้นโทษออกมา พร้อมกับจัดตั้งคณะละครของชดให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง จากนั้นไม่นานนิดก็กลายเป็นนางเอกสาวพราวเสน่ห์ ผู้คนต่างชื่นชมและเรียกขานเธอว่า วนิดา

เมื่อมีพร้อมทั้งชื่อเสียงและเงินทองเธอจึงกลับมาหาสรรค์อีกครั้ง เพื่อทวงชายอันเป็นที่รักคืนมาจากสุวลี ในเมื่อสุวลีทั้งสวยและฉลาด เธอหรือจะยอมเป็นผู้พ่ายแพ้ เมื่อไม่มีใครยอมใคร

สร้างโดย เอ็กแซ็กท์และซีเนริโอ
กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย สุรสิทธิ์
บทโทรทัศน์โดย วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน

นักแสดง
ยุกต์ ส่งไพศาล รับบทเป็น สรรค์ / เสียม
วรรณรท สนธิไชย รับบทเป็น นิด / วนิดา
ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รับบทเป็น ธนา
รัชชานนท์ สุขประกอบ รับบทเป็น บุญมา
บงกช คงมาลัย รับบทเป็น มารศรี
บุษกร ตันติภนา รับบทเป็น สุวลี
อาณัตพล ศิริชุมแสง รับบทเป็น เชิด
ชนิดาภา พงศ์ศิลป์พิพัฒน์ รับบทเป็น แก้ว
เกรียงไกร อุณหะนันทน์ รับบทเป็น พระชาญชลาศัย
อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ รับบทเป็น แม่ผิน
ศันสนีย์ วัฒนานุกูล รับบทเป็น นิ่ม
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับบทเป็น ยายแส
อริศรา วงษ์ชาลี รับบทเป็น ชด
พงศ์สิรี บรรลือวงศ์ รับบทเป็น เนื่อง
ปวีณ์สุดา จันทร์เกษ รับบทเป็น รตี
ชมพูนุช ปิยธรรมชัย รับบทเป็น ทับทิม
สิรินทร์ ก่อเกียรติ รับบทเป็น ช่อผกา
วาสิฎฐี ศรีโลฟุ้ง รับบทเป็น คุณหญิงมะลิ
เรืองฤทธิ์ วิสมล รับบทเป็น สิน
เกริกเกียรติ พันธุ์พิพัฒน์ รับบทเป็น พระยาธรรมนูญ
สาริน บางยี่ขัน รับบทเป็น แม้น
วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ รับบทเป็น พระยากีรติ
ปวริสา ศิริวัฒน์ รับบทเป็น คุณหญิงบัวผัน
ธิติกานต์ บวรศิรมนต์ รับบทเป็น อนงค์

นักแสดงรับเชิญ
วิศิษฐ์ ยุติยงค์
สมเจต พยัฆโส รับบทเป็น เถ้าแก่ย่านท่าเรือ
เลอวิทย์ สังข์สิทธิ์ รับบทเป็น เสวก
อัศนัย ยั่งยืน
ปิยะ วิมุกตายน รับบทเป็น หลวงจินดา
ชาตรี ชมพู รับบทเป็น พ่อเลี้ยงของแก้ว
ชนม์ณกานต์ จิตรีขันธ์
ธัญญรัศม์ ไตรสุทธิวงษ์ รับบทเป็น พิศมัย
สุรธน บู่สามสาย รับบท สมพร
ด.ช.กฤต ศิริสวัสดิ์ (โชกุน) รับบทเป็น เกล้า (ลูกของแก้ว)
ด.ช.ทัศน์พล วิวิธวรรธน์ (ปีเตอร์แพน) รับบท สรรค์/เสียม (วัยเด็ก)
ด.ช.สุทธินันท์ เทียนสุวรรณ (สกาย) รับบท ธนา (วัยเด็ก)
ด.ช.ภัทรกร ประเสริฐเศรษฐ์ (กาย) รับบท ธนง (ลูกชายของธนา)
ด.ญ.สุพิชชา มงคลจิตตานนท์ (แพร) รับบท วารี (ลูกบุญธรรมวนิดา)
ด.ญ.ชนิกานต์ ตังกบดี (พรีม) รับบท แก้ว (วัยเด็ก)
ด.ญ.นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล (มิว) รับบท นิด/วนิดา (วัยเด็ก)

รางวัลและการเสนอชื่อเข้าชิง

รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 4 เข้าชิงทั้งหมด 3 สาขารางวัล ดังนี้
รางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม กำกับศิลป์ โดย จิรเดช ทัศนศร
รางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยม กำกับภาพ โดย สมบัติ ผลัดมูล
รางวัลเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม เครื่องแต่งกาย โดย นพดล เตโช

รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 27 เข้าชิงทั้งหมด 1 สาขารางวัล ดังนี้
นักแสดงสมทบหญิงดีเด่น บงกช คงมาลัยฃ

สาวน้อย เป็นบทประพันธ์ของ อาษา ขอจิตต์เมตต์ ที่เคยสร้างมาแล้วทั้งภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ โดยครั้งแรกในรูปแบบภาพยนตร์ในปี พ.ศ. 2501 สร้างโดย ดาราไทยฟิล์ม ของ สุรัสน์ พุกกะเวส กำกับการแสดงโดย ส.อาสนจินดา นำแสดงโดย ชรินทร์ งามเมือง, ทรงศรี เทวคุปต์ และสุรสิทธิ์ สัตยวงษ์ มีเพลงประกอบที่มีชื่อคือ เพลงสีชัง ประพันธ์โดย สง่า อารัมภีร ขับร้องโดยหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ฉายวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย

ในปี พ.ศ. 2524 ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งที่ 2 เป็นภาพยนตร์ 35 มม. พากย์เสียงในฟิล์ม สร้างโดย ณัฐพงศ์ภาพยนตร์ โดย ณัฐพงศ์ ทองศิริ เป็นผู้อำนวยการสร้าง กำกับการแสดงโดย พันคำ นำแสดงโดย จารุณี สุขสวัสดิ์, ไกรสร แสงอนันต์, ปิยะ ตระกูลราษฎร์, อำภา ภูษิต, ส.อาสนจินดา, เพ็ญพักตร์ ศิริกุล ออกฉายครั้งแรกวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 ที่โรงภาพยนตร์แกรนด์-พาราไดซ์-ศรีย่าน-นครหลวงรามา-พอลลี่-พระโขนงรามา-สเตลลา

สาวน้อยถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 3 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2531 ทางช่อง 5 นำแสดงโดย เศรษฐ์ ชุมศิลป์, มนันยา ไชยนันท์, เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2545 ทางช่อง 7 เอชดี สร้างโดย ดาราวิดีโอ กำกับการแสดงโดย จรูญ ธรรมศิลป์ บทโทรทัศน์โดย ศัลยา นำแสดงโดย ณัฐวุฒิ สกิดใจ, ทราย เจริญปุระ, ดิลก ทองวัฒนา, ณัฏฐริณีย์ กรรณสูต, น้ำทิพย์ เสียมทอง

และครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2555 ทางช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี หรือ โมเดิร์นไนน์ทีวี สร้างโดย เอ็กแซ็กท์และซีเนริโอ กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย สุรสิทธิ์ บทโทรทัศน์โดย วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน นำแสดงโดย ยุกต์ ส่งไพศาล, วรรณรท สนธิไชย และบุษกร ตันติภนา ออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 – 21.30 น. เริ่มออกฉายวันแรกวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555–25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555