ละคร เชลยศักดิ์ 2553 (EP.1-27 ตอนจบ) HD END


ละคร เชลยศักดิ์ 2553

ก่อนสิ้นลมหายใจสุดท้าย ม.จ.ไตรศักดิ์ สันตติวงศ์ ท่านพ่อของอลิสาและอติศักดิ์ ได้ฝากฝังให้ช่วยสะสางความแค้นระหว่างตระกูลอัศวราชกับสันตติวงศ์ ม.จ.ไตรศักดิ์ถูกพระยาสวามิภักดิ์ราชใส่ร้ายว่าเป็นกบฎจนต้องหนีความอัปยศมาอยู่ที่ม่อนผาหลวง อติศักดิ์กับอลิสารับคำท่านพ่ออย่างแข็งขัน

หลังสงครามโลกครั้งที่สองจบฉากลง ร้อยโทโยธิน อัศวรัช ลูกชายพระยาสวามิภักดิ์ราชกลายเป็นวีรบุรุษเสรีไทยที่มีอนาคตรุ่งเรือง มีภิรมยาลูกสาวรัฐมนตรีราชฤทธิ์เป็นคู่หมั้น แต่พระยาสวามิภักดิ์ราชผู้พ่อกลับกำลังผจญปัญหาบริษัทเดินเรือทะเลกำลังล่มสลาย อติศักดิ์ถือโอกาสเข้าซื้อหุ้นบริษัท พร้อมเสนอให้เงินกอบกู้บริษัท พระยาสวามิภักดิ์ราชจำยอมรับเงื่อนไขให้โยธินไปเป็นเชลยที่ม่อนผาหลวงเป็นเวลาหนึ่งปี

โยธินได้แต่กัดฟันข่มศักดิ์ศรีตามอติศักดิ์ ไปอยู่ม่อนผาหลวงโดย โกหกภิรมยาว่าไปทำการค้าให้พ่อที่ทางเหนือ ฝ่ายสันตติวงศ์ได้โอกาสแก้แค้นสมใจ ทั้งอติศักดิ์และอลิสาต่างหาโอกาสกดขี่โยธินในฐานะเชลย แต่ความเก่งกาจและความมีเมตตากลับเอาชนะใจคนงานที่ม่อนผาหลวงได้ ไม่ว่าอลิสาจะกลั่นแกล้งอะไร โยธินก็เอาชนะอลิสาได้เสมอ ทำให้อานนท์ชื่นชมโยธินเป็นอย่างมาก

อติศักดิ์จึงสั่งให้โยธินเป็นครูของอานนท์ อลิสามักจะเย้ยหยันที่โยธินโกหกปกปิดภิรมยา เรื่องที่เป็นเชลยของสันตติวงศ์ โยธินเสียดสีว่า อลิสาไม่มีวันเข้าใจ เพราะเป็นคนไม่รู้จักความรัก อลิสาโกรธแกล้งสั่งให้โยธินไปส่งจดหมายที่เชียงรัฐโดยใช้เวลาวันเดียว อลิสาอยากให้โยธินรู้ว่า ตนมีคู่รักคือเจ้าขวัญฟ้าแห่งแคว้นเชียงรัฐ อลิสามั่นใจในรักของขวัญฟ้า โดยไม่รู้ว่า ขวัญฟ้าแม้จะรักอลิสาแต่ก็เป็นหนุ่มเจ้าสำราญเจ้าชู้กับผู้หญิงไปทั่ว มีเมียนับไม่ถ้วนอยู่ในคุ้มหลวง และยังมีอินทร์วิไล ญาติสาวที่เจ้าแม่หวังยกเป็นลูกสะใภ้ และแม้แต่สีโบสาวใช้คนสนิทของอลิสาก็เคยเป็นเมียขวัญฟ้า

อลิสาหมั่นไส้ความเย่อหยิ่งของโยธินจึงแกล้งใช้โยธิน ไปรับหีบเสื้อผ้าในเมือง โยธินเจอฝนตกหนักเดินทางอย่างลำบาก แต่เมื่อนำหีบเสื้อผ้ามาส่ง อลิสากลับสั่งให้ทิ้งไปอย่างไม่ไยดีแม้ชุดจะเปื้อนเพียงเล็กน้อย ความตรากตรำทำให้โยธินล้มเจ็บลง อลิสาเริ่มรู้สึกผิด แต่โยธินหยิ่งทรนงไม่รับความสงสารจากศัตรู

อติศักดิ์แกล้งโยธินหนักขึ้นโดยเชิญรมต.ราชฤทธิ์พร้อมศรีสว่างภรรยาและภิรมยามาเที่ยวม่อนผาหลวง ที่สุดภิรมยาก็ได้พบโยธิน โยธินได้แต่อ้ำอึ้งและอับอาย ภิรมยารู้แต่เพียงโยธินเป็นแขกของอติศักดิ์ ขวัญฟ้ามาม่อนผาหลวง อลิสาจึงจัดงานต้อนรับทุกคน เพราะภิรมยาบังคับทำให้โยธินต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วย ภิรมยาจัดให้โยธินเต้นรำกับอลิสา ส่วนตัวเองไปเต้นรำกับขวัญฟ้า ขวัญฟ้าอยู่เที่ยวกับรมต.เพื่อหวังผลประโยชน์ ภิรมยารบเร้าให้โยธินร่วมเดินทางเที่ยวเมืองเหนือด้วยกัน โยธินจึงถูกอลิสาเยาะหยันไปตลอดทาง จนลืมสังเกตว่าขวัญฟ้าเริ่มสนิทสนมกับภิรมยา

สีโบแอบมาหาเจ้าขวัญฟ้า ขวัญฟ้าไม่ไยดีสีโบ สีโบจึงขู่จะบอกอลิสาว่าขวัญฟ้าเคยได้ตนเป็นเมียมาก่อน ขวัญฟ้าต้องใช้เสน่ห์ปิดปากสีโบไปก่อน ภิรมยาแอบมาหาโยธินที่บ้านพักเจอจดหมายของพระยาสวามิภักดิ์ราชจึงรู้สถานะที่แท้จริงของโยธินว่าเป็นเชลย ภิรมยาโกรธมากจึงถอนหมั้นจากโยธินและไปหาขวัญฟ้าแทน

งานเลี้ยงและการท่องเที่ยวจบลง อติศักดิ์กลับไปกรุงเทพฯ พบว่าพระยาสวามิภักดิ์ราชป่วยจึงอนุญาตให้โยธินไปเยี่ยมพ่อที่กรุงเทพฯ ได้ โยธินได้ข่าวภิรมยาแต่งงานกับขวัญฟ้าอย่างใจด้านชา ขวัญฟ้าจำใจแต่งงานกับภิรมยาเพราะทำภิรมยาท้อง ภิรมยาหงุดหงิดที่ขวัญฟ้าเย็นชา พาลหึงอลิสาโยนของขวัญจากอลิสาทิ้งไป ทำให้ขวัญฟ้าโกรธมากแต่เพราะอิทธิพลของรมต. ขวัญฟ้าต้องยอมรับภิรมยามาอยู่เชียงรัฐแม้จะตัดใจจากอลิสาไม่ได้ สีโบแค้นที่ขวัญฟ้าแต่งงานกับภิรมยาจึงบุกไปเชียงรัฐเสนอแผนการลักพาตัวอลิสา โดยขวัญฟ้าต้องยอมรับสีโบกลับเป็นเมียตามเดิม

ขวัญฟ้าทำตามแผนสีโบปลอมจดหมายภิรมยาให้อลิสามาพบ ฝ่ายอติศักดิ์รู้สึกสังหรณ์ใจขอร้องให้โยธินกลับไปม่อนผาหลวงดูแลอลิสาแทน แต่โยธินไปไม่ทันการณ์ ขวัญฟ้าจับอลิสาและอานนท์ไปไว้ที่ผาปู่เจ้าแล้ว อลิสาเจ็บใจที่สีโบทรยศแต่ก็พยายามหาทางหนี โดยให้อานนท์แอบติดรถคนของขวัญฟ้าไปที่คุ้มหลวงบอกภิรมยาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น อานนท์เสร็จธุระจากภิรมยาแล้วบังเอิญเจอกับโยธินที่ตามมาที่เชียงรัฐ โยธินนัดแนะแผนการหนีกับอานนท์ ขวัญฟ้าพยายามปลุกปล้ำอลิสาแต่ไม่สำเร็จ อานนท์เข้ามาขวางเสียก่อน ตกดึกโยธินแอบเข้าผาปู่เจ้าโดยมีภิรมยาตามมาด้วย

ภิรมยาไปหาขวัญฟ้าแต่เจออินทร์วิไลเสียก่อน ทั้งสองตบตีกันจนภิรมยาแท้งลูก ด้วยความโกรธภิรมยาจึงยิงอินทร์วิไลเสียชีวิต โยธินเข้าไปช่วยอลิสาแต่พบขวัญฟ้าขวาง ขวัญฟ้าจะยิงโยธิน อลิสาคว้าปืนมาได้เล็งที่ขวัญฟ้า สีโบถือมีดถลันมาจะแทงอลิสา ขวัญฟ้าเข้าขวางจึงถูกสีโบแทงตาย สีโบเสียใจมากที่พลาดแทงจนขวัญฟ้าตาย จึงใช้มีดเล่มนั้นเองฆ่าตัวตายตาม

โยธินพาอลิสากับอานนท์หนีออกมา พวกเชียงรัฐตามมาติด ๆ ทั้งสามจึงต้องไต่ลงผา ลุยน้ำข้ามฝั่งอย่างลำบากลำบนจนเจอพวกอติศักดิ์ โยธินพาอลิสากับอานนท์มาพักบ้านชาวไร่ พวกเชียงรัฐมาค้นบ้าน ทั้งสองต้องหลบไปแอบในคอกวัวยิ่งทำให้สนิทสนมกัน ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไป จนเดินทางกลับมาถึงม่อนผาหลวงได้อย่างปลอดภัย

อติศักดิ์ตัดสินใจฉีกสัญญาเชลยทิ้งเพื่อทดแทนที่โยธินไปช่วยอลิสา โยธินกลับโกรธที่อติศักดิ์กับอลิสาตัดสินใจโดยไม่คิดถาม โยธินพาลกับอลิสาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โยธินประชดขี่ม้าออกจากม่อนผาหลวงในวันรุ่งขึ้นเลยโดยไม่ร่ำลาใคร ระหว่างทางอลิสาขี่ม้าตามมาทำให้โยธินใจอ่อนลง ทั้งสองบอกความในใจกัน โยธินให้สัญญาว่าจะกลับมาม่อนผาหลวงอีกครั้งในฐานะอื่นที่ไม่ใช่ เชลย อลิสาสัญญาว่าจะรอคอยจนถึงวันนั้น..

บทประพันธ์โดย : ดวงดาว (หม่อมเจ้าหญิงสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร)
บทโทรทัศน์โดย : คาจา นาลันทา
กำกับการแสดงโดย : ชูศักดิ์ สุธีรธรรม
ผู้ช่วยผู้กำกับการแสดงโดย : สันติ ต้อยปาน, ปกหญิง อินทรัตน์
ผู้จัดโดย : วรายุธ มิลินทจินดา
ผลิตโดย : บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด

นักแสดง
แอน ทองประสม รับบท ม.ร.ว.อลิสา สันตติวงศ์ 
พัชฎะ นามปาน รับบท ร้อยโทโยธิน อัศวรัช 
รินลณี ศรีเพ็ญ รับบท ภิรมยา 
โกสินทร์ ราชกรม รับบท เจ้าขวัญฟ้า 
ดอม เหตระกูล รับบท ม.ร.ว.อติศักดิ์ สันตติวงศ์ 
สินิทรา บุญยศักดิ์ รับบท สีโบ 
สกาวใจ พูนสวัสดิ์ รับบท อินทร์วิไล 
เกรียงไกร อุณหะนันท์ รับบท รัฐมนตรีราชฤทธิ์ 
กาญจนา จินดาวัฒน์ รับบท ศรีสว่าง 
สมมาตรา ไพรหิรัญ รับบท เจ้าพ่อ 
รัญญา ศิยานนท์ รับบท เจ้าแม่ 
ดิลก ทองวัฒนา รับบท พระยาสวามิภักดิ์ราช 
สมภพ เบญจาธิกุล รับบท ม.จ.ไตรศักดิ์ สันตติวงศ์ 
ด.ช.กฤชพล จารุศักดิ์ รับบท อานนท์ 
สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์ รับบท เฒ่าเหมย 
เวนซ์ ฟอลโคเนอร์ รับบท หนานเมือง 
อัฒพล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา รับบท อากู๋ 
ชูศักดิ์ สุธีรธรรม รับบท หนานมี 

เชลยศักดิ์ เป็นบทประพันธ์ของ “ดวงดาว” หรือ หม่อมเจ้าสวาสดิ์วัฒโนดม ประวิตร เป็นเรื่องราวคำสั่งเสียสุดท้ายของพ่อที่มีต่อลูกทั้งสอง อลิสา – อติศักดิ์ สันตติวงศ์ ทำให้ทั้งคู่จงใจนำทายาทแห่งตระกูลคู่แค้น ร้อยโทโยธิน อัศวรัช ถอดเกียรติชายชาติทหารมาจองจำในฐานะ ‘เชลย’ แห่งม่อนผาหลวงเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม ทว่าในความแค้นยังมีความรักที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ ทั้งคู่จะยอมรับมันหรือไม่ในเมื่อหนี้แค้นยังไม่จบสิ้น

บทประพันธ์นี้มีการนำมาสร้างเป็นภาพนยตร์และละครโทรทัศน์อีกหลายต่อหลายครั้ง สร้างเป็นภาพยนตร์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2502[1] และนำกลับมาสร้างใหม่ในปี พ.ศ. 2524 นอกจากนี้ยังเป็นละครโทรทัศน์อีก 3 ครั้ง ได้แก่ ในปี พ.ศ. 2522 ทางช่อง 3 (นิรุตติ์ ศิริจรรยา และ พิราวรรณ ประสพศาสตร์) ในปี พ.ศ. 2534 ทางช่อง 7 (ลิขิต เอกมงคล และจินตหรา สุขพัฒน์) และในปี พ.ศ. 2553 ทางช่อง 3 (พัชฏะ นามปาน และ แอน ทองประสม