ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี 2563 ละครแนวรักโรแมนติกคอมเมดี้ เรื่องราวเริ่มต้นที่ “เธียรวัฒน์” สถาปนิกหนุ่มหล่อ ปากร้าย และรักสันโดษ ผู้ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนแม้จะเป็นที่หมายปองของสาว ๆ ในบริษัท เขามีบุคลิกเย็นชาและมุ่งมั่นในหน้าที่การงาน จนกระทั่งสถานการณ์บางอย่างบังคับให้เขาต้องแต่งงานแบบหลอก ๆ กับ “เมย” น้องสาวต่างพ่อแม่ที่มีนิสัยร่าเริง สดใส และดูเหมือนจะใช้ชีวิตแบบไร้สาระในสายตาของเธียร เมยแอบหลงรักเธียรมานานตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม และการแต่งงานครั้งนี้เหมือนฝันที่เป็นจริงสำหรับเธอ
การแต่งงานของทั้งคู่เกิดจากความจำเป็น โดยมีปมเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัททีพีซีและการซื้อหุ้นโดยพ่อของญาดา คู่แข่งที่ตามตื๊อเธียรอย่างไม่ลดละ เธียรต้องการรักษาความลับของการแต่งงานนี้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทและตัวเขาเอง ขณะที่เมยต้องเผชิญกับความท้าทายในการทำงานร่วมกับเธียรในบริษัทเดียวกัน พร้อมกับจัดการกับความรู้สึกของตัวเองที่ต้องซ่อนไว้
เมื่อทั้งสองเริ่มใช้ชีวิตด้วยกัน ความแตกต่างในนิสัยนำไปสู่ความขัดแย้งและสถานการณ์ชวนขำ เธียรเห็นเมยเป็นเพียง “น้องสาวกะโหลกกะลา” ที่ไม่เหมาะจะเป็นภรรยาคนงามพร้อมตามที่เขาคาดหวัง ส่วนเมยพยายามพิสูจน์ตัวเองทั้งในเรื่องงานและความรัก เรื่องราวซับซ้อนยิ่งขึ้นเมื่อ “ญาดา” และ “พลเดช” คู่แข่งในเรื่องความรัก เข้ามาแทรกแซง สร้างความเข้าใจผิดและความวุ่นวายในความสัมพันธ์ของเธียรและเมย
ตลอดทั้งเรื่อง เมยพยายามพิชิตใจเธียรด้วยความจริงใจและความสามารถของเธอ ขณะที่เธียรเริ่มมองเห็นด้านที่น่ารักและความเก่งกาจของเมยมากขึ้น ความสัมพันธ์ที่เริ่มจากสัญญาการแต่งงานหลอก ๆ ค่อย ๆ พัฒนาเป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้ง แต่ทั้งคู่ต้องเผชิญกับอุปสรรคทั้งจากครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และความลับที่อาจถูกเปิดเผย
อกเกือบหักแอบรักคุณสามี เป็นละครที่ประสบความสำเร็จด้วยพล็อตเรื่องที่สนุกสนาน การแสดงที่ยอดเยี่ยม และการเล่าเรื่องที่ทำให้ผู้ชมอินไปกับการเดินทางของความรักระหว่างเธียรและเมย เรื่องราวของการเปลี่ยนจากความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยความจำเป็นไปสู่รักแท้ ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของละคร
สัญญาแห่งรักที่เริ่มจากความจำเป็น
ในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายของธุรกิจและความฝัน เมย สาวน้อยร่าเริง เปี่ยมไปด้วยพลังบวก ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในฐานะมัณฑนากรของบริษัททีพีซี หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งที่นึกถึง เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มหล่อ ปากร้าย และเย็นชา ผู้เป็นรุ่นพี่ที่เธอแอบรักมาตั้งแต่สมัยมัธยม เมยมองเขาเป็นดั่งดวงดาวที่อยู่ไกลเกินเอื้อม แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อสถานการณ์บีบคั้นให้ทั้งคู่ต้องผูกมัดด้วยสัญญาการแต่งงานหลอก ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัทจากเงื้อมมือของ พ่อของญาดา หญิงสาวผู้มุ่งมั่นจะครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเธียร
เมยตกลงเข้าพิธีแต่งงานด้วยหัวใจที่เต้นรัวด้วยความหวัง ขณะที่เธiaรเห็นเธอเป็นเพียง “น้องสาวกะโหลกกะลา” ที่ไม่เหมาะจะเป็นภรรยาคนงามในฝันของเขา การใช้ชีวิตร่วมกันในคอนโดหรูของเธียรจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้งและเสียงหัวเราะจากความต่างของทั้งคู่
เรื่องราว การเดินทางของหัวใจท่ามกลางความวุ่นวาย
การเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตา
เมยพยายามทำตัวให้สมกับเป็นภรรยาที่ดีในสายตาของเธียร เธอตื่นเช้ามาทำอาหารเช้า แต่กลับทำครัวพังจนควันโขมง เธiaรยิ้มเยาะด้วยสายตาเหยียดหยาม แต่ก็อดไม่ได้ที่จะช่วยเก็บกวาดความวุ่นวายที่เธอก่อขึ้น ที่บริษัท เมยต้องเผชิญหน้ากับ ญาดา หญิงสาวที่ทั้งสวยและฉลาด ผู้ใช้ทุกวิถีทางเพื่อแย่งชิงหัวใจของเธียร ญาดามองเมยเป็นเพียงเด็กสาวไร้เดียงสาที่ไม่คู่ควร และพยายามทำให้เมยรู้สึกต่ำต้อยทุกครั้งที่มีโอกาส
ในขณะเดียวกัน พลเดช เพื่อนสนิทของเธiaรที่แอบรักเมย มักจะคอยอยู่เคียงข้างเธอในยามที่เธียรเย็นชา เขาเป็นเหมือนแสงสว่างในวันที่เมยรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า แต่หัวใจของเมยกลับยึดมั่นอยู่ที่เธiaรเพียงคนเดียว เธอเขียนกลอนรักลับ ๆ ถึงเขาลงในสมุดบันทึก โดยไม่รู้เลยว่าวันหนึ่งกลอนเหล่านั้นจะเปลี่ยนโชคชะตาของเธอ
ความรักที่เริ่มผลิบาน
เมื่อเมยได้รับมอบหมายให้ทำงานออกแบบโปรเจกต์ใหญ่เคียงข้างเธียร เธอทุ่มเทสุดใจเพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่แค่เด็กสาวไร้สาระ เธียรเริ่มมองเห็นแววตาที่มุ่งมั่นและความสามารถที่ซ่อนอยู่ในตัวเมย ฉากที่ทั้งคู่ต้องนอนคุยกันถึงดึกเพื่อแก้ไขแบบบ้าน ทำให้หัวใจของเธียรเริ่มสั่นไหว เขาเริ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เมยมอบให้ แม้ว่าจะพยายามปฏิเสธความรู้สึกนั้น
แต่ความรักของทั้งคู่ไม่ได้ราบรื่น ญาดาใช้ความสัมพันธ์ทางธุรกิจของพ่อเธอเพื่อกดดันเธียร และสร้างความเข้าใจผิด เช่น การทำให้เธียรคิดว่าเมยแอบคบกับพลเดช ความลับเรื่องการแต่งงานหลอก ๆ ก็เกือบถูกเปิดเผยเมื่อญาดาค้นพบหลักฐานบางอย่าง ทำให้เมยและเธียรต้องร่วมมือกันปกป้องทั้งบริษัทและความสัมพันธ์ของพวกเขา
ปมดราม่าและการคลี่คลาย
เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ความลับเริ่มถูกเปิดเผยทีละน้อย เมยรู้สึกเจ็บปวดเมื่อเธียรปฏิเสธความรู้สึกของเธอในตอนแรก เขายังคงยึดติดกับภาพของภรรยาในอุดมคติที่ต่างจากเมยโดยสิ้นเชิง แต่เมื่อเมยตัดสินใจถอยห่างเพื่อให้เขาได้เลือกสิ่งที่ต้องการจริง ๆ เธียรกลับรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ เขาค้นพบสมุดบันทึกกลอนรักของเมย และตระหนักว่าเธอรักเขาด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์มาโดยตลอด
ในขณะเดียวกัน ปมครอบครัวของเมยและความขัดแย้งในบริษัทก็ทวีความรุนแรง พ่อของญาดาพยายามยึดบริษัททีพีซี และญาดายังคงไม่ยอมแพ้ในการแย่งชิงเธียร แต่ด้วยความกล้าหาญและความฉลาดของเมย เธอช่วยเธียรปกป้องบริษัทได้สำเร็จ ทำให้เขามองเธอในมุมใหม่
รักแท้ที่เบ่งบานจากสัญญา
ในช่วงเวลาที่ทุกอย่างเกือบพังทลาย เธียรตัดสินใจเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเอง เขาเขียนกลอนตอบกลับไปยังเมยในฉากที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและน้ำตาแห่งความสุข เขาสารภาพรักต่อหน้าเธอ โดยยอมรับว่าเธอคือคนที่เขาต้องการใช้ชีวิตด้วย การแต่งงานที่เริ่มจากสัญญาหลอก ๆ กลายเป็นความผูกพันที่แท้จริง ญาดาและพ่อของเธอต้องยอมถอยเมื่อแผนการของพวกเขาล้มเหลว ส่วนพลเดชยอมรับความพ่ายแพ้ในความรักและกลายเป็นเพื่อนที่ดีของทั้งคู่
ละครจบลงด้วยภาพของเมยและเธียรที่ยืนเคียงข้างกันในงานแต่งงานที่จัดขึ้นใหม่ด้วยความรักที่ทั้งคู่เลือกกันเอง หัวใจของทั้งสองเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน ขณะที่กลอนรักที่เมยเคยเขียนกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่มีวันจางหาย
อกเกือบหักแอบรักคุณสามี เป็นละครที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความโรแมนติก เรื่องราวของการแต่งงานหลอก ๆ ที่พัฒนาเป็นความรักแท้ท่ามกลางอุปสรรคต่าง ๆ ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับการเดินทางของความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขัน ดราม่า และความอบอุ่นใจ ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร
เคมีคู่พระนางที่ลงตัว
เคมีระหว่าง ปริญ สุภารัตน์ และ นิษฐา จิรยั่งยืน เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ละครเรื่องนี้โดดเด่น การแสดงของทั้งคู่ถ่ายทอดความรู้สึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นฉากกุ๊กกิ๊กที่ทำให้คนดูฟิน เช่น ฉากที่เมยพยายามทำตัวน่ารักแต่ถูกเธียรแซว หรือฉากดราม่าที่ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเอง โดยเฉพาะฉากกลอนรักที่เมยเขียนถึงเธียรกลายเป็นไฮไลต์ที่แฟน ๆ พูดถึงอย่างมาก
การผสมผสานแนวโรแมนติกและคอมเมดี้
ละครทำได้ดีในการสร้างสมดุลระหว่างความสนุกและความดราม่า ฉากตลกจากความต่างของนิสัยระหว่างเมยที่ร่าเริงกับเธียรที่เย็นชา เช่น ฉากที่เมยทำครัวพังหรือพยายามทำงานให้ถูกใจเธียร ทำให้ผู้ชมได้หัวเราะ ขณะเดียวกัน ฉากดราม่าก็สะท้อนความรู้สึกของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะการที่เมยต้องต่อสู้กับความรู้สึกที่ไม่สมหวังในตอนแรก
ตัวละครสนับสนุนที่เพิ่มสีสัน
ตัวละครสมทบ เช่น คุณนายศจี (ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้เป็นแม่ของเธียร หรือ พลเดช (เน๋ง ศรัณย์) เพื่อนสนิทของเธียรที่แอบรักเมย ช่วยเพิ่มมิติให้เรื่องราว คุณนายศจีมักสร้างรอยยิ้มด้วยความเป็นแม่ที่ทั้งเข้มงวดและน่ารัก ส่วนญาดาในฐานะตัวร้ายก็แสดงได้น่าหมั่นไส้สมบทบาท ทำให้ผู้ชมลุ้นและอินไปกับความขัดแย้ง
การนำเสนอที่ทันสมัย
ละครนำเสนอชีวิตการทำงานของสถาปนิกและมัณฑนากรได้อย่างน่าสนใจ การออกแบบฉากในบริษัทและโปรเจกต์งานออกแบบช่วยเพิ่มความสมจริง นอกจากนี้ การใช้กลอนรักเป็นสื่อกลางในความสัมพันธ์ของเมยและเธียรยังเป็นกิมมิกที่แปลกใหม่และน่าจดจำ
คะแนน 8.5/10 (จาก sence9.com)
อกเกือบหักแอบรักคุณสามี เป็นละครที่ครบรสและเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวรักโรแมนติกผสมความตลก การแสดงของคู่พระนางและตัวละครสมทบช่วยยกระดับให้ละครน่าติดตาม แม้ว่าจะมีจุดด้อยในเรื่องพล็อตที่คาดเดาได้และจังหวะที่ช้าบ้าง แต่จุดเด่นอย่างเคมีของนักแสดงและการเล่าเรื่องที่ผสมผสานอารมณ์ได้ดีทำให้ละครเรื่องนี้เป็นหนึ่งในละครที่ประสบความสำเร็จในปี 2563 การเดินทางของเมยและเธียรจากสัญญาการแต่งงานสู่รักแท้สร้างทั้งรอยยิ้มและน้ำตาให้ผู้ชม โดยเฉพาะฉากจบที่อบอุ่นและสมหวัง
ตั้งแต่ฉากแรกที่เมยและเธียรต้องเผชิญหน้ากันในสถานการณ์การแต่งงานแบบไม่เต็มใจ ความรู้สึกสนุกสนานเกิดขึ้นทันที การปะทะคารมระหว่างเมยที่ร่าเริงสดใสและเธียรที่เย็นชาและปากร้ายสร้างเสียงหัวเราะได้อย่างเป็นธรรมชาติ ฉากที่เมยพยายามทำตัวให้เข้ากับชีวิตคู่ในคอนโดของเธียร เช่น การทำอาหารเช้าที่พังไม่เป็นท่า หรือการพยายามทำงานให้ถูกใจเขา ทำให้รู้สึกถึงความน่ารักและความพยายามของเมย ซึ่งชวนให้ยิ้มตามทุกครั้ง
เคมีระหว่างปริญและนิษฐาทำให้หัวใจฟู โดยเฉพาะฉากที่เมยแอบเขียนกลอนรักถึงเธียร หรือฉากที่ทั้งคู่ต้องทำงานออกแบบร่วมกัน ความรู้สึกฟินเกิดขึ้นเมื่อเห็นเมยค่อย ๆ ละลายกำแพงในใจของเธียร ผ่านความจริงใจและความสามารถของเธอ ฉากเหล่านี้ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเชียร์เพื่อนสนิทให้สมหวังในความรัก
เมื่อเรื่องราวเข้มข้นขึ้นด้วยปมของ ญาดา (ก้อย รัชวิน) และ พลเดช (เน๋ง ศรัณย์) ที่เข้ามาสร้างความขัดแย้ง ความรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นระทึกก็เพิ่มขึ้น ญาดาในบทตัวร้ายที่พยายามแย่งชิงเธียรสร้างความรู้สึกหมั่นไส้และอยากให้เมยเอาชนะใจเขาให้ได้ ส่วนพลเดชที่แอบรักเมยทำให้รู้สึกสงสารและลุ้นว่าเขาจะยอมรับความจริงได้อย่างไร การที่ความลับเรื่องการแต่งงานหลอก ๆ เกือบถูกเปิดเผยยิ่งเพิ่มความรู้สึกกดดันและอยากรู้ว่าทั้งคู่จะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้หรือไม่
ในช่วงที่เมยรู้สึกเสียใจจากความเย็นชาของเธียร หรือเมื่อเธียรปฏิเสธความรู้สึกของเธอ ความรู้สึกสะเทือนใจเกิดขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง การที่เมยต้องซ่อนความรักที่เธอมีต่อเธียรมานานทำให้รู้สึกเห็นใจและอยากปลอบโยนเธอ ฉากที่เมยตัดสินใจถอยห่างเพื่อให้เธียรได้เลือกสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ เป็นช่วงที่น้ำตาคลอ เพราะมันสะท้อนถึงความเสียสละและความรักที่แท้จริง
เมื่อถึงจุดที่เธียรตระหนักถึงความรู้สึกของตัวเองและสารภาพรักกับเมยผ่านกลอนตอบกลับ ความรู้สึกอบอุ่นและสมหวังพุ่งพล่าน ฉากที่ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกันในงานแต่งงานที่จัดขึ้นด้วยความรักแท้เป็นช่วงเวลาที่ทำให้หัวใจเต้นแรงและรู้สึกเหมือนได้ร่วมเฉลิมฉลองความรักของพวกเขา การที่เรื่องราวจบลงด้วยความสุขทำให้รู้สึกเติมเต็มและยิ้มได้อย่างเต็มที่
ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี พาไปพบกับความสนุก ความฟิน ความลุ้น และความซึ้ง ละครเรื่องนี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้สัมผัสความรักที่เติบโตจากความไม่ลงรอยสู่ความผูกพันที่ลึกซึ้ง การแสดงของปริญและนิษฐาทำให้ตัวละครมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะความน่ารักของเมยและความเปลี่ยนแปลงในใจของเธียรที่ค่อย ๆ เปิดเผย กลอนรักที่เป็นสัญลักษณ์ของความรู้สึกของทั้งคู่ยิ่งเพิ่มความโรแมนติกที่ยากจะลืม
ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี 2563
ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี 2563
ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี 2563 EP.1-20 ตอนจบCH3+
ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี 2563 EP.1-15 ตอนจบWETV
Highlight อกเกือบหักแอบรักคุณสามี 2563
ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี 2563
เมื่อสถาปนิกหนุ่มสุดหล่อ ปากร้าย ไม่สนใจสาว ๆ คนไหน แม้จะเป็นที่หมายปองของสาวทั้งบริษัท กับน้องสาวต่างพ่อแม่ ที่มีความร่าเริง น่ารัก สดใส แต่มีเหตุจำเป็นต้องมาแต่งงานกันแบบหลอก ๆ และทั้งคู่ต่างไม่รู้เลยว่าการแต่งงานครั้งนี้จะนำพาทั้งคู่ไปเจอกับรักแท้ได้หรือไม่
ละครเรื่องนี้สร้างจากนิยายของนาวาร้อยกวี นำแสดงโดย หมาก ปริญ รับบท เธียรวัฒน์ หรือ เธียร สถาปนิกหนุ่มหล่อ ปากร้าย รักสันโดษ ไม่สนสาว ๆ แม้ว่าสาวทั้งบริษัทจะกรี๊ดเขาหนักมาก และนางเอกของเรา มิว นิษฐา รับบท นทีริน หรือ เมย สาวมัณฑนากรสุดน่ารัก ร่าเริง สดใส แต่ในสายตาเธียร เธอคือ “ยัยกะโหลกกะลา” ที่เอาแต่เฮฮาไปวัน ๆ 😂
เรื่องมันเริ่มจาก เมย ที่แอบปิ๊ง เธียร มาตั้งแต่สมัยมัธยม ฝันของเธอคือได้ใกล้ชิดพี่ชายคนนี้ แต่ฝันมันดันเป็นจริงแบบไม่คาดคิด เมื่อทั้งคู่ต้องมาแต่งงานกันแบบหลอก ๆ โอ้โห งานนี้มันเกิดจากอะไร? มาดูกัน
จุดเริ่มต้นของความวายป่วง
เรื่องมันเริ่มเมื่อ คุณศจี (รับบทโดย ตุ๊ก ดวงตา) แม่ของเธียร ซึ่งเอ็นดูเมยเหมือนลูกสาวแท้ ๆ รู้ว่าเธียรไปมีสัมพันธ์กับ ญาดา (ก้อย รัชวิน) สาวสวยที่จริง ๆ แล้วมีสามีแล้ว และสามีคนนั้นคือ พลเดช (เน๋ง ศรัณย์) นักการเมืองโหด ๆ ที่ขู่จะฆ่าเธียรให้ตาย 😱 คุณศจีเลยบังคับให้เธียรจดทะเบียนสมรสกับเมยเพื่อตัดปัญหา แสดงให้พลเดชเห็นว่าเธียรไม่ยุ่งกับญาดาแล้ว ส่วนเมยที่แอบรักเธียรอยู่แล้วก็ตกลงทันที เพราะอยากปกป้องพี่ชายสุดหล่อของเธอ
แต่งานแต่งครั้งนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ นะทุกคน มันมีปมใหญ่เกี่ยวกับบริษัท ทีพีซี ที่เธียรทำงานอยู่ เพราะ ธาดา พ่อของญาดา อยากยึดหุ้นบริษัทนี้ การแต่งงานของเธียรและเมยเลยต้องเป็นความลับสุดยอด ห้ามบอกใครในบริษัทเด็ดขาด แต่… ญาดาจะยอมให้เรื่องจบง่าย ๆ ได้ยังไง เธอยังตามตื๊อเธียรไม่เลิก แถมยังโดนพลเดชทำร้ายทั้งกายและใจ โอ้ย ดราม่าสุด
ชีวิตแต่งงานที่วุ่นวายสุด ๆ
หลังแต่งงาน เมยย้ายมาอยู่คอนโดเดียวกับเธียร งานนี้คือความวายป่วงยกกำลังสิบ เธียรยังคงเย็นชา ดุเมยตลอด ขนาดเมยพยายามเป็นภรรยาที่ดี ทำอาหารให้ ดูแลเสื้อผ้า ดูแล สโนว์ แมวสุดรักของเธียร แต่เจ้า โอยัวะ หมาน้อยของเมยดันไปทะเลาะกับสโนว์ตลอด ทำเอาเธียรยิ่งโมโห 😂 เมยพยายามสุด ๆ แต่เธียรกลับมองว่าเธอทำอะไรก็ไม่ดีพอ แถมยังสั่งให้เมยห้ามบอกใครเรื่องแต่งงานในบริษัท
แต่ความวายมันยังไม่จบ บริษัท แฮมม็อค ที่เมยทำงานอยู่ต้องย้ายไปรวมกับ ทีพีซี ทำให้เมยต้องเจอเธียรทั้งที่บ้านและที่ทำงาน เธียรโหดสุด ๆ เรียกประชุมวันแรกก็สั่งงานหนักเลย เพื่อน ๆ ในทีมอย่าง ตุ่ม, กั้ง, กบ และ ชาติ ต่างโอดโอย แต่เมยก็สู้ไม่ถอย ขณะเดียวกัน ญาดายังตามมาราวีเธียรถึงที่ทำงาน เมยต้องออกโรงปะทะกับญาดาเพื่อปกป้องสามีของตัวเอง สู้ค่ะ น้องเมย
ปมรักสามเส้าและความลับที่เกือบแตก
เรื่องมันยิ่งซับซ้อนเมื่อ ข้าวฟ่าง (พิชชาภา) สาวบัญชีที่แอบชอบเธียร เริ่มสงสัยความสัมพันธ์ของเมยและเธียร แถมหนุ่ม ๆ ในบริษัทอย่างกบและชาติก็มาจีบเมย ทำให้เธียรเริ่มหงุดหงิด (เอ๊ะ หรือจะหึง?) 😏 ส่วนญาดา หลังจากหย่ากับพลเดช ก็ยิ่งทุ่มสุดตัวเพื่อแย่งเธียรคืน เธอถึงขั้นป่าวประกาศเรื่องแต่งงานของเธียรและเมยให้ทุกคนในบริษัทรู้ งานนี้เพื่อน ๆ ของเธียรอย่าง เบียร์, ตูน, น็อต และหัวหน้า เชษฐ์ ถึงกับอึ้ง แถมเรื่องนี้ยังไปถึงหู บารมี ประธานทีพีซี ทำให้ปมธุรกิจซับซ้อนยิ่งขึ้น
ความรักที่เริ่มผลิบานท่ามกลางความวุ่นวาย
จุดพีคของเรื่องคือตอนที่เมยเริ่มพิสูจน์ตัวเองในงานมัณฑนากร เธอทุ่มเทสุด ๆ ช่วยแก้ไขโปรเจกต์ใหญ่ของบริษัท ทำให้เธียรเริ่มมองเห็นความสามารถและความน่ารักของเมย ฉากที่ทั้งคู่ต้องทำงานด้วยกันถึงดึก เริ่มมีโมเมนต์หวาน ๆ กลอนรักที่เมยแอบเขียนถึงเธียรกลายเป็นสะพานเชื่อมใจ โอ้ยยย ฟินมากกก 😍 แต่ก็ยังมีดราม่าเมื่อญาดาและธาดายังพยายามขัดขวาง และความลับเรื่องแต่งงานเกือบถูกเปิดเผย
หลังจากผ่านดราม่ามากมาย เธียรเริ่มตระหนักว่าเขาตกหลุมรักเมยเข้าแล้ว เขาค้นพบสมุดกลอนรักของเมย และตัดสินใจตอบกลับด้วยกลอนของเขาเองในฉากที่ทำเอาน้ำตาไหล 😭 สุดท้ายทั้งคู่เปิดใจให้กัน การแต่งงานที่เริ่มจากความจำเป็นกลายเป็นรักแท้ ญาดาและธาดาต้องยอมถอย ส่วนพลเดชก็หายไปจากชีวิตของทุกคน เมยและเธียรจัดงานแต่งงานใหม่ด้วยความรักที่แท้จริง ปิดจบด้วยความฟินสุด ๆ
ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี คือครบรสสุด ๆ มีทั้งความฮาจากการปะทะคารม ความฟินจากเคมีหมาก-มิว ความดราม่าจากปมรักและธุรกิจ และความอบอุ่นจากตอนจบที่สมหวัง ใครยังไม่ดู ต้องไปหาดูย้อนหลังทาง WeTV หรือ CH3+ นะ สนุกทุกตอนเลย
เบื้องหลังละครสุดปัง อกเกือบหักแอบรักคุณสามี ปี 2563 มาดูกันเลยว่าใครเป็นคนเนรมิตละครเรื่องนี้ให้กลายเป็นที่รักของแฟน ๆ ทั่วบ้านทั่วเมือง
บทประพันธ์โดย นาวาร้อยกวี
เริ่มต้นที่ นาวาร้อยกวี ผู้เขียนนิยายต้นฉบับที่เป็นจุดกำเนิดของความฟินทั้งหมด 📖 นิยายเรื่องนี้มันปังมากจนถูกหยิบมาทำเป็นละคร เนื้อเรื่องที่ผสมความรัก ดราม่า และความฮาแบบลงตัวสุด ๆ ต้องยกเครดิตให้คนนี้เลย นาวาร้อยกวีเค้าเขียนให้เมยกับเธียรมีเคมีที่ทำให้เราหัวใจเต้นตึกตัก ใครอ่านนิยายแล้วมาดูละคร บอกเลยว่าฟินไม่แพ้กัน 😍
บทโทรทัศน์โดย ปณธี
ต่อมาเรามี ปณธี คนที่แปลงนิยายสุดปังให้กลายเป็นบทละครที่ลงจอแล้วคนดูติดหนึบ ✍️ บทของปณธีคือเด็ดมากกก คำพูดของเธียรที่ปากร้ายแต่แอบหวาน หรือกลอนรักของเมยที่ทำเอาเราน้ำตาคลอ มันมาจากฝีมือคนนี้แหละ ทุกฉากทุกตอนถูกถ่ายทอดออกมาแบบครบรส ทั้งฮา ทั้งซึ้ง ทั้งลุ้น ปณธีเค้าจัดให้เต็มที่เลยทุกคน 👏
กำกับการแสดงโดย แอ้ว-อำไพพร จิตต์ไม่งง
มาถึงตัวพ่อตัวแม่แห่งวงการกำกับ พี่แอ้ว อำไพพร จิตต์ไม่งง คือผู้กำกับที่ทำให้ทุกฉากในละครมันปังปุริเย่ 🎬 ไม่ว่าจะฉากกุ๊กกิ๊กที่เมยพยายามเอาใจเธียร หรือฉากดราม่าที่ญาดามาตอแย พี่แอ้วกำกับออกมาได้แบบถึงอารมณ์สุด ๆ ทุกคนเคยมั้ย? ดูแล้วรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในคอนโดของเมยกับเธียรเลย นี่แหละฝีมือพี่แอ้วที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง 💥
ควบคุมการผลิตโดย แอน ทองประสม
และที่ขาดไม่ได้ พี่แอน ทองประสม ตัวแม่แห่งวงการละครไทย 😎 ในฐานะผู้ควบคุมการผลิต พี่แอนคือคนที่คอยดูแลทุกอย่างให้เป๊ะปัง ตั้งแต่การคัดเลือกนักแสดง การจัดฉาก ไปจนถึงการทำให้ทุกอย่างลงตัว พี่แอนเค้ามีสายตาเฉียบมากกก คัดหมาก ปริญ กับมิว นิษฐามาเล่นคู่กันจนเคมีพุ่งกระจาย แถมยังทำให้ละครมีกลิ่นอายทั้งทันสมัยและอบอุ่น ต้องยกนิ้วให้พี่แอนเลย 🙌
ผลิตโดย บริษัท ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่องนี้ผลิตโดย ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ค่ายที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำละครคุณภาพ 🎥 ค่ายนี้เค้าจัดเต็มทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นงานโปรดักชัน ฉากบริษัททีพีซีที่ดูสมจริง หรือคอนโดของเธียรที่หรูสุด ๆ แถมยังเลือกนักแสดงสมทบอย่าง ตุ๊ก ดวงตา, ก้อย รัชวิน, และ เน๋ง ศรัณย์ มาสร้างสีสันให้เรื่องราวปังยิ่งขึ้น บอกเลยว่าทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์เค้าทำการบ้านมาดีมาก
นักแสดง
→ หมาก-ปริญ สุภารัตน์ รับบท เธียร
เธียรคือสถาปนิกหนุ่มสุดหล่อแห่งบริษัททีพีซี หน้าตาดีจนสาวๆ ในออฟฟิศกรี๊ดกันทั้งบาง แต่เขาคือหนุ่มรักสันโดษ ปากร้ายสุดๆ มองความรักเป็นเรื่องวุ่นวาย ไม่สนใจสาวคนไหนเลย โดยเฉพาะ เมย ที่เขาเห็นเป็นแค่น้องสาวกะโหลกกะลา เธียรมีเป้าหมายชัดเจนในเรื่องงาน มุ่งมั่น ทุ่มเท และเข้มงวดสุดๆ จนเพื่อนร่วมงานถึงกับโอดโอย แต่เบื้องหลังความเย็นชานั้น เขามีหัวใจที่อบอุ่นและซ่อนความเปราะบางไว้ลึกๆ
เรื่องราวมันเริ่มวายป่วงเมื่อเธียรต้องแต่งงานหลอกๆ กับเมย เพราะปมดราม่ากับ ญาดา และ พลเดช ที่ทำให้เขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด เธียรเลยจำใจยอมแต่งเพื่อปกป้องตัวเองและบริษัท แต่ยิ่งอยู่กับเมย เขาก็เริ่มเห็นความน่ารัก ความจริงใจ และความสามารถของเธอ จากหนุ่มเย็นชาที่ตั้งกำแพงสูง เขาค่อยๆ ละลายลง กลายเป็นคนที่กล้าเปิดใจให้ความรัก ฉากที่เขาเขียนกลอนตอบเมยคือจุดพีคที่ทำให้คนดูใจสั่นสุดๆ การแสดงของหมากคือสุดยอดมาก ถ่ายทอดทั้งความเย็นชา ความอบอุ่น และการเปลี่ยนแปลงของเธiaรได้แบบลงตัว
ฉายา หนุ่มปากร้ายใจละลาย”
เพราะเธียรคือคนที่ปากร้าย ดุเมยตลอด แต่ลึกๆ แล้วหัวใจเขาค่อยๆ ละลายเมื่อเจอความจริงใจของเมย หมากเล่นได้แบบทำให้เราอยากตีเธียรตอนแรก แต่สุดท้ายก็หลงรักตอนที่เขาเริ่มแสดงความอ่อนโยน
ข้อคิด “อย่าปิดใจให้ความรัก เพราะบางครั้งคนที่ใช่อาจอยู่ใกล้กว่าที่คิด”
จากตัวละครเธียร เราได้เห็นว่าเขาเริ่มต้นด้วยการปิดกั้นตัวเองจากความรักเพราะคิดว่ามันไม่สำคัญ แต่เมื่อเขาได้รู้จักเมยมากขึ้น เขาก็พบว่าความรักที่แท้จริงสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ ข้อคิดนี้สอนให้เราเปิดใจให้โอกาสคนรอบตัว เพราะบางทีคนที่เรามองข้ามอาจเป็นคนที่ทำให้ชีวิตเราสมบูรณ์ก็ได้
→ มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน รับบท เมย
เมยคือสาวมัณฑนากรจากบริษัทแฮมม็อค ร่าเริง สดใส เต็มไปด้วยพลังบวก แต่ในสายตาของ เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มสุดหล่อ เธอคือ “ยัยกะโหลกกะลา” ที่ดูเหมือนจะใช้ชีวิตไปวันๆ แต่จริงๆ แล้วเมยเป็นคนที่มีความสามารถและหัวใจที่ยิ่งใหญ่ เธอแอบรักเธียรตั้งแต่สมัยมัธยม และเมื่อโชคชะตานำพาให้ทั้งคู่ต้องแต่งงานหลอกๆ เพื่อปกป้องเธียรจากดราม่ากับญาดาและพลเดช เมยก็ทุ่มสุดตัวเพื่อเป็นภรรยาที่ดี แม้ว่าจะโดนเธียรดุบ่อยแค่ไหนก็ตาม
เมยพยายามพิสูจน์ตัวเองทั้งในเรื่องงานและความรัก เธอทุ่มเทกับงานออกแบบ ช่วยแก้ปัญหาโปรเจกต์ใหญ่ของบริษัท และยังดูแลทั้งเธียรและเจ้า โอยัวะ หมาน้อยของเธอ แม้ว่าจะต้องปะทะกับเจ้า สโนว์ แมวสุดรักของเธียรจนวุ่นวาย การแสดงของมิว นิษฐาคือสุดยอดมาก เธอถ่ายทอดความน่ารัก ความเปิ่น และความจริงใจของเมยได้แบบลงตัว ฉากที่เมยเขียนกลอนรักลับๆ ถึงเธียร หรือฉากที่เธอเสียใจเมื่อถูกเข้าใจผิดคือทำให้คนดูน้ำตาคลอ เมยคือตัวละครที่ทำให้เราอยากเชียร์ให้เธอสมหวังสุดๆ
ฉายา “สาวร่าเริงหัวใจแกร่ง”
เมยได้ฉายานี้เพราะเธอคือสาวที่ยิ้มสู้ทุกสถานการณ์ แม้ว่าจะเจอเธียรเย็นชา หรือโดนญาดากดดัน เธอก็ยังคงมองโลกในแง่ดีและสู้ต่อไปด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง มิวนำเสนอคาแรคเตอร์นี้ได้แบบทำให้เราอยากกอดเมยไว้แน่นๆ
ข้อคิด: “ความจริงใจและความพยายามจะชนะใจคนได้เสมอ”
จากตัวละครเมย เราได้เห็นว่าเธอใช้ความจริงใจและความพยายามในการพิสูจน์ตัวเอง ไม่ว่าจะในงานหรือความรัก แม้ว่าจะถูกมองข้ามในตอนแรก แต่สุดท้ายความดีและความตั้งใจของเธอก็ทำให้เธียรเปิดใจ ข้อคิดนี้สอนให้เราเชื่อมั่นในตัวเองและไม่ยอมแพ้ เพราะความพยายามที่มาจากใจจะนำไปสู่ความสำเร็จได้
→ ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ รับบท ญาดา
ญาดาคือสาวสวย สุดมั่น ฉลาด และเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ แต่เธอคือตัวร้ายที่ทำให้คนดูหมั่นไส้สุดๆ เธอหลงรัก เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มหล่อแห่งบริษัททีพีซี และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อแย่งเขามาครอบครอง แม้ว่าตัวเองจะมีสามีแล้วอย่าง พลเดช นักการเมืองสุดโหด ญาดาคือตัวจุดชนวนดราม่าของเรื่อง เพราะความสัมพันธ์ของเธอกับเธียรนำไปสู่การแต่งงานหลอกๆ ระหว่างเธียรและเมย เธอไม่ยอมถอยง่ายๆ ตามตื๊อเธียรถึงที่ทำงาน ปะทะกับเมยแบบไฟลุก และยังมีปมดราม่ากับพ่อของตัวเองอย่าง ธาดา ที่อยากยึดบริษัททีพีซี
แต่ญาดาก็ไม่ใช่แค่ตัวร้ายธรรมดา เธอมีมุมที่ทำให้คนดูแอบสงสาร เพราะชีวิตคู่กับพลเดชเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทั้งกายและใจ การแสดงของก้อย รัชวินคือสุดยอดมาก เธอถ่ายทอดความร้ายกาจ ความมั่นใจ และความเปราะบางของญาดาได้แบบลงตัว ฉากที่ญาดาปะทะกับเมยหรือฉากที่เธอเสียใจเมื่อรู้ว่าเธียรไม่เลือกเธอคือทำให้เราทั้งเกลียดทั้งสงสารในเวลาเดียวกัน
ฉายา “สาวแซ่บใจร้าย”
ญาดาได้ฉายานี้เพราะเธอคือสาวสวยที่มาพร้อมความมั่นใจและความร้ายแบบจัดเต็ม การกระทำของเธอทั้งตามตื๊อเธียรและหาเรื่องเมยคือแซ่บสะใจ แต่ก็ทำให้คนดูอยากเขวี้ยงรองเท้าใส่จอ ก้อยเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เราจำญาดาได้ไม่มีลืม
ข้อคิด “ความรักที่ยึดติดมากเกินไปอาจนำมาซึ่งความเจ็บปวด”
จากตัวละครญาดา เราได้เห็นว่าเธอยึดติดกับความรักที่มีต่อเธiaรจนทำให้ตัวเองและคนรอบข้างต้องเจ็บปวด การที่เธอพยายามควบคุมทุกอย่างโดยไม่ยอมปล่อยวางนำไปสู่ความทุกข์ทั้งในชีวิตคู่และครอบครัว ข้อคิดนี้สอนให้เราเรียนรู้ที่จะรักอย่างเข้าใจและยอมรับความจริง เพราะบางครั้งการปล่อยวางคือทางออกที่ดีที่สุด
→ เจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ รับบท กั้ง
กั้งคือเพื่อนร่วมทีมของ เมย ในบริษัทแฮมม็อค สาวเปิ่นๆ ขี้เล่น และร่าเริงสุดๆ เธอคือตัวละครที่คอยสร้างสีสันให้กับกลุ่มเพื่อนในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการแซวเมยเรื่องความรัก หรือโอดโอยเมื่อเจอความโหดของ เธียรวัฒน์ หัวหน้าสถาปนิกสุดเข้มจากบริษัททีพีซี กั้งเป็นเหมือนเพื่อนซี้ที่อยู่เคียงข้างเมยในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะตอนเมยต้องเผชิญดราม่ากับญาดา หรือตอนที่ต้องลุยงานหนักในบริษัทที่เพิ่งควบรวมกัน
เจี๊ยบ ลลนา ถ่ายทอดตัวละครกั้งออกมาได้แบบน่ารักและเป็นธรรมชาติสุดๆ เธอทำให้กั้งกลายเป็นตัวละครที่ดูแล้วรู้สึกเหมือนมีเพื่อนจริงๆ ฉากที่กั้งกับตุ่มรวมหัวกันแซวเมย หรือตอนที่เธอช่วยเมยแก้ปัญหางานคือขำและอบอุ่นมาก กั้งอาจจะไม่ได้มีบทเด่นเท่าพระนาง แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัว เธอคือตัวขโมยซีนที่ทำให้คนดูยิ้มได้เสมอ
ฉายา “สาวขี้แซวใจดี”
กั้งได้ฉายานี้เพราะเธอคือเพื่อนที่ขี้แซว ชอบหยอกเมยเรื่องความรัก แต่หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความจริงใจและความเป็นห่วงเพื่อน เจี๊ยบเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่ากั้งคือเพื่อนที่อยากมีในชีวิตจริง
ข้อคิด “มิตรภาพที่จริงใจคือพลังที่ทำให้เราผ่านทุกปัญหาได้”
จากตัวละครกั้ง เราได้เห็นว่าเธอเป็นเพื่อนที่คอยสนับสนุนเมยในทุกช่วงของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องหัวใจ การที่กั้งอยู่เคียงข้างและคอยให้กำลังใจสอนให้เราเห็นคุณค่าของมิตรภาพที่แท้จริง เพื่อนดีๆ สามารถช่วยให้เราผ่านช่วงเวลายากลำบากได้เสมอ
→ โอม-คณิน สแตนลีย์ รับบท กบ
กบคือหนุ่มในทีมมัณฑนากรของบริษัทแฮมม็อค เพื่อนร่วมงานของ เมย ที่ทั้งขี้เล่น สนุกสนาน และมีหัวใจที่แสนดี เขาคือตัวละครที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับทีม ไม่ว่าจะเป็นการแซวเมยแบบขำๆ หรือช่วยเหลือเพื่อนเมื่อเจอปัญหาในงาน แต่ที่เด่นสุดคือกบแอบมีใจให้เมย แม้ว่าจะรู้ว่าเมยแอบรัก เธียรวัฒน์ อยู่แล้วก็ตาม กบเลยกลายเป็นหนุ่มที่ทั้งน่ารักและน่าสงสาร เพราะรักที่เขาให้เมยมันเป็นรักข้างเดียว
โอม คณิน ถ่ายทอดตัวละครกบออกมาได้แบบน่ารักและเป็นธรรมชาติสุดๆ เขาทำให้กบเป็นหนุ่มที่ดูชิลๆ แต่ก็มีความจริงใจซ่อนอยู่ ฉากที่กบพยายามเข้าใกล้เมย หรือตอนที่เขาเลือกยอมถอยเพื่อให้เมยมีความสุขคือทำให้คนดูรู้สึกทั้งเอ็นดูและซึ้ง โอมเล่นได้แบบทำให้กบเป็นตัวละครที่อยู่ในใจคนดู แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวหลักก็ตาม
ฉายา “หนุ่มขี้เล่นหัวใจป๋า”
กบได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นคนที่ขี้เล่น ชอบแซวเพื่อน แต่ก็มีหัวใจที่กว้างขวาง พร้อมยอมเสียสละเพื่อความสุขของคนที่รัก โอมถ่ายทอดความน่ารักและความจริงใจของกบได้แบบที่ทำให้เราอยากมีเพื่อนแบบนี้ในชีวิต
ข้อคิด “รักแท้คือการยอมให้คนที่เรารักมีความสุข แม้ว่าจะไม่ใช่กับเรา”
จากตัวละครกบ เราได้เห็นว่าเขารักเมยด้วยความจริงใจ แม้ว่าสุดท้ายจะรู้ว่าเมยรักเธียร เขาก็เลือกยอมถอยและสนับสนุนเธอ ข้อคิดนี้สอนให้เราเข้าใจว่ารักที่แท้จริงไม่ใช่การครอบครอง แต่คือการอยากเห็นคนที่เรารักมีความสุข ไม่ว่าเขาจะเลือกใคร
→ ภูมิ-ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา รับบท พลเดช
พลเดชคือตัวร้ายตัวจริงของเรื่อง เขาคือสามีของ ญาดา และเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลและความโหดในระดับสิบ ดุดันและน่ากลัวสุดๆ พลเดชคือคนที่จุดชนวนดราม่าครั้งใหญ่ เพราะเขาโกรธแค้นเมื่อรู้ว่าญาดาไปมีสัมพันธ์กับ เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มหล่อ เขาขู่จะฆ่าเธiaรจนทำให้เกิดการแต่งงานหลอกๆ ระหว่างเธียรและเมยเพื่อปกป้องชีวิต พลเดชไม่ใช่แค่ตัวร้ายที่ข่มขู่คนอื่น แต่เขายังทำร้ายญาดาทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้คนดูรู้สึกทั้งกลัวและหมั่นไส้ไปพร้อมกัน
ภูมิ ณัฏฐ์ ถ่ายทอดตัวละครพลเดชออกมาได้แบบจึ้งมาก สายตาและน้ำเสียงของเขาทำให้รู้สึกถึงความน่ากลัวและพลังของตัวละครนี้ ฉากที่พลเดชเผชิญหน้ากับเธียรหรือตอนที่เขาทำร้ายญาดาคือลุ้นจนตัวเกร็ง แม้ว่าพลเดชจะเป็นตัวร้าย แต่ภูมิก็ทำให้ตัวละครนี้มีมิติ ไม่ได้ร้ายแบบแบนๆ แต่มีปมในใจที่ทำให้เราอยากรู้ว่าเขาจะลงเอยยังไง
ฉายา “นักการเมืองจอมโหด”
พลเดชได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นนักการเมืองที่ทั้งโหดและน่ากลัว ใช้พลังอำนาจในการควบคุมทุกอย่างรอบตัว ภูมิเล่นบทนี้ได้แบบทำให้คนดูรู้สึกถึงความกดดันและพลังร้ายของพลเดชในทุกฉาก
ข้อคิด “การใช้อำนาจและความรุนแรงไม่เคยแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง”
จากตัวละครพลเดช เราได้เห็นว่าเขาใช้อำนาจและความรุนแรงเพื่อควบคุมญาดาและข่มขู่คนอื่น แต่สุดท้ายสิ่งนี้กลับนำไปสู่ความล้มเหลวในชีวิตคู่และความสัมพันธ์ของเขา ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการแก้ปัญหาด้วยความเข้าใจและการสื่อสารจะดีกว่าการใช้ความรุนแรงที่ทำร้ายทั้งตัวเองและคนรอบข้าง
→ ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์ รับบท เบียร์
เบียร์คือหนึ่งในแก๊งเพื่อนสนิทของ เธียรวัฒน์ หนุ่มสถาปนิกสุดหล่อที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เขาคือหนุ่มขี้เล่น สนุกสนาน และเป็นสีสันของกลุ่มเพื่อนที่คอยแซวและช่วยเหลือเธiaรในทุกสถานการณ์ เบียร์ทำงานในบริษัททีพีซีเหมือนกัน และมักจะปรากฏตัวในฉากที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน อย่างตอนที่เขาตื่นเต้นสุดๆ เมื่อรู้ว่าเธียรแอบแต่งงานกับเมย หรือตอนที่เขาและเพื่อนๆ อย่างตูนและน็อตนั่งเม้าท์มอยเรื่องดราม่าของเพื่อนสนิท คาแรคเตอร์ของเบียร์คือเพื่อนที่ชิลๆ ใจดี และพร้อมโยนมุกตลกให้ทุกคนขำ
ฟรอยด์ ณัฏฐพงษ์ ถ่ายทอดตัวละครเบียร์ออกมาได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ เขาทำให้เบียร์กลายเป็นเพื่อนที่ทุกคนอยากมี ด้วยความขี้เล่นและความเป็นกันเอง ฉากที่เบียร์แซวเธียรเรื่องเมยคือขำกลิ้ง และฉากที่เขาคอยให้กำลังใจเพื่อนคืออบอุ่นมาก แม้ว่าเบียร์จะไม่ใช่ตัวหลัก แต่ทุกครั้งที่โผล่มา เขาก็ขโมยซีนด้วยความสนุกและพลังบวก
ฉายา “เพื่อนซี้มุกเด็ด”
เบียร์ได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทที่มาพร้อมมุกตลกและความขี้เล่นที่ทำให้ทุกคนในแก๊งหัวเราะได้เสมอ ฟรอยด์เล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าเบียร์คือตัวแทนของเพื่อนที่คอยสร้างรอยยิ้มในกลุ่ม
ข้อคิด “รอยยิ้มและความสนุกสนานช่วยทำให้ทุกสถานการณ์ดีขึ้น”
จากตัวละครเบียร์ เราได้เห็นว่าเขานำความสนุกและพลังบวกมาให้เพื่อนๆ ไม่ว่าจะในช่วงเวลาที่ตึงเครียดหรือสนุกสนาน ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการมีทัศนคติที่ดีแล
→ โบ-ธนากร ชินกูล รับบท ตูน
ตูนคือหนึ่งในสมาชิกแก๊งเพื่อนสนิทของ เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มหล่อจากบริษัททีพีซี เขาคือหนุ่มขี้เล่น ใจดี และเป็นเหมือนกาวใจของกลุ่มเพื่อนที่คอยสร้างความสนุกและความสมดุล ไม่ว่าจะเป็นการแซวเธียรเรื่องความรัก หรือนั่งเม้าท์มอยกับ เบียร์ และ น็อต เกี่ยวกับดราม่าการแต่งงานลับๆ ของเธียรกับเมย ตูนมักจะปรากฏตัวในฉากที่เต็มไปด้วยความครึกครื้น ช่วยให้บรรยากาศในกลุ่มเพื่อนดูผ่อนคลายและสนุกสนาน
โบ ธนากร ถ่ายทอดตัวละครตูนออกมาได้แบบเป็นธรรมชาติสุดๆ เขาทำให้ตูนกลายเป็นเพื่อนที่ดูชิลๆ แต่ก็มีความน่าเชื่อถือในฐานะคนที่คอยสนับสนุนเพื่อน ฉากที่ตูนนั่งคุยกับแก๊งเพื่อนหรือแซวเธียรเรื่องเมยคือขำและอบอุ่นมาก แม้ว่าตูนจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่เขาก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เรื่องราวมีสีสันและรู้สึกเหมือนได้นั่งอยู่ในวงเพื่อนจริงๆ
ฉายา “เพื่อนชิลใจป๋า”
ตูนได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดูชิลๆ สบายๆ แต่ก็มีหัวใจที่กว้างขวาง คอยอยู่เคียงข้างและสร้างรอยยิ้มให้เพื่อนๆ โบเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าตูนคือเพื่อนที่ทุกคนอยากมีในกลุ่ม
ข้อคิด “การเป็นเพื่อนที่คอยสนับสนุนคือสิ่งที่ทำให้มิตรภาพยั่งยืน”
จากตัวละครตูน เราได้เห็นว่าเขาคอยเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กลุ่มเพื่อนเหนียวแน่น ด้วยความสนุกสนานและการสนับสนุนเพื่อนในทุกสถานการณ์ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการเป็นเพื่อนที่ดีไม่จำเป็นต้องเด่น แต่แค่คอยอยู่ข้างๆ และให้กำลังใจก็เพียงพอที่จะสร้างมิตรภาพที่ยาวนาน
→ โมสต์-วิศรุต หิมรัตน์ รับบท น๊อต
น็อตคือหนึ่งในสมาชิกแก๊งเพื่อนสนิทของ เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มหล่อจากบริษัททีพีซี เขาคือหนุ่มขี้เล่น มีความสนุกสนาน และเป็นตัวสร้างสีสันให้กลุ่มเพื่อน ร่วมกับ เธียร และ ตูน น็อตมักจะโผล่มาในฉากที่เต็มไปด้วยความครึกครื้น อย่างตอนที่แก๊งเพื่อนนั่งเม้าท์เรื่องการแต่งงานลับๆ ของเธียรกับเมย หรือตอนที่แซวเธียรจนทุกคนขำกลิ้ง เขาเป็นเพื่อนที่คอยเติมพลังบวกให้กลุ่ม ไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนก็ทำให้ทุกคนยิ้มได้
โมสต์ วิศรุต ถ่ายทอดตัวละครน็อตออกมาได้แบบเป็นธรรมชาติและน่ารักสุดๆ เขาทำให้น็อตกลายเป็นเพื่อนที่ดูชิล มีมุกตลก และเป็นที่รักของทุกคนในแก๊ง ฉากที่น็อตโยนมุกหรือแซวเธiaรเรื่องเมยคือขำมาก และทำให้รู้สึกเหมือนได้นั่งอยู่ในวงเพื่อนจริงๆ แม้ว่าน็อตจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่เขาก็ช่วยเพิ่มความสนุกและทำให้เรื่องราวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ฉายา “เพื่อนมุกแป้กขวัญใจ”
น็อตได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ชอบโยนมุกตลก แม้ว่าบางทีอาจจะแป้ก แต่ก็ทำให้ทุกคนในกลุ่มรักและเอ็นดู โมสต์เล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าน็อตคือตัวละครที่ขาดไม่ได้ในแก๊งเพื่อน
ข้อคิด “ความสนุกและรอยยิ้มจากเพื่อนคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีสีสัน”
จากตัวละครน็อต เราได้เห็นว่าเขาคอยสร้างความสนุกและรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆ ไม่ว่าจะในสถานการณ์ที่ตึงเครียดหรือชิลๆ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการเป็นคนที่นำพลังบวกมาให้คนรอบข้างสามารถสร้างความทรงจำดีๆ และทำให้มิตรภาพแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
→ มะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร รับบท เชษฐ
เชษฐ์คือหัวหน้าแผนกสถาปนิกของบริษัททีพีซี หนุ่มใหญ่ที่ดูเป็นผู้ใหญ่สุดในทีม มีความน่าเกรงขามและเป็นมืออาชีพตัวจริง เขาคือคนที่คอยดูแลความเรียบร้อยในที่ทำงาน และเป็นคนที่รู้ความลับเรื่องการแต่งงานหลอกๆ ของ เธียรวัฒน์ และ เมย ก่อนใครหลายๆ คน เชษฐ์มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงเรื่องราวในบริษัท โดยเฉพาะเมื่อมีดราม่าจาก ธาดา พ่อของญาดาที่พยายามยึดหุ้นบริษัท เขาจะปรากฏตัวในฉากที่ต้องใช้ความนิ่งและความเฉียบคมในการจัดการปัญหา แต่ก็แอบมีมุมขี้แซวที่ทำให้คนดูยิ้มได้
มะตูม เตชินท์ ถ่ายทอดตัวละครเชษฐ์ออกมาได้แบบเป๊ะมาก เขาทำให้เชษฐ์ดูเป็นหัวหน้าที่ทั้งเข้มงวดและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ฉากที่เชษฐ์ต้องคุยกับ บารมี ประธานบริษัท หรือตอนที่เขาคอยจับตาดูสถานการณ์ในทีมคือดูน่าเชื่อถือสุดๆ แม้ว่าเชษฐ์จะไม่ได้มีซีนเยอะเท่าพระนาง แต่ทุกครั้งที่โผล่มา เขาก็เพิ่มความสมจริงและความน่าสนใจให้กับเรื่องราว
ฉายา “หัวหน้าหล่อเนียบ”
เชษฐ์ได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นหัวหน้าที่ทั้งหล่อและดูเนียบ มีความเป็นผู้นำที่ควบคุมสถานการณ์ได้อยู่หมัด มะตูมเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าเชษฐ์คือคนที่ทุกทีมอยากมี
ข้อคิด “ความเป็นผู้นำที่ดีคือการรู้จักรับฟังและจัดการปัญหาด้วยสติ”
จากตัวละครเชษฐ์ เราได้เห็นว่าเขาเป็นหัวหน้าที่คอยดูแลทีมและแก้ปัญหาด้วยความนิ่งและรอบคอบ แม้จะเจอดราม่าในบริษัท ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการเป็นผู้นำที่ดีต้องรู้จักควบคุมอารมณ์และใช้สติในการตัดสินใจ เพื่อให้ทุกคนในทีมไว้วางใจ
→ แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา รับบท ข้าวฟ่าง
ข้าวฟ่างคือสาวสวยในแผนกบัญชีของบริษัททีพีซี เธอเป็นตัวละครที่มีความมั่นใจและแอบมีมุมร้ายนิดๆ เพราะเธอแอบปิ๊ง เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มหล่อที่ทุกคนในออฟฟิศกรี๊ด เมื่อรู้ว่า เมย ดูเหมือนจะใกล้ชิดกับเธียรเกินไป ข้าวฟ่างเลยกลายเป็นสายสืบตัวยง คอยจับตามองและหาเรื่องเมยแบบเนียนๆ เธอชอบโผล่มาในฉากที่เพิ่มความตึงเครียดเล็กๆ ให้กับเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการแซวเมยแบบมีนัยยะ หรือพยายามตีสนิทเธiaรเพื่อหวังชนะใจเขา
แพร์ พิชชาภา ถ่ายทอดตัวละครข้าวฟ่างออกมาได้แบบน่ารักแต่ก็แอบร้ายสมบทบาท เธอทำให้ข้าวฟ่างดูเป็นสาวมั่นที่มีความทะเยอทะยานในความรัก ฉากที่ข้าวฟ่างพยายามเข้าใกล้เธียรหรือแอบเหวี่ยงใส่เมยคือทั้งขำทั้งลุ้น แม้ว่าข้าวฟ่างจะไม่ใช่ตัวร้ายหลักอย่างญาดา แต่เธอก็เพิ่มรสชาติให้เรื่องราวด้วยความหึงเงียบและความพยายามที่ทำให้คนดูรู้สึกหมั่นไส้นิดๆ
ฉายา:”สาวบัญชีสายสืบ”
ข้าวฟ่างได้ฉายานี้เพราะเธอเป็นสาวในแผนกบัญชีที่คอยสอดส่องพฤติกรรมของเมยและเธiaรแบบเนียนๆ เหมือนนักสืบตัวน้อย แพร์เล่นบทนี้ได้แบบทำให้เราทั้งขำทั้งอยากแซวข้าวฟ่างกลับ
ข้อคิด “ความรักที่แท้จริงไม่จำเป็นต้องแข่งขันหรือแย่งชิง”
จากตัวละครข้าวฟ่าง เราได้เห็นว่าเธอพยายามแข่งขันเพื่อให้ได้ใจเธียร แต่สุดท้ายความรักที่แท้จริงไม่ได้มาจากการสอดส่องหรือการเอาชนะผู้อื่น ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการรักใครสักคนควรมาจากความจริงใจและการยอมรับความรู้สึกของกันและกัน ไม่ใช่การพยายามแย่งชิง
→ แพรว-คณิตกุล เนตรบุตร รับบท ตุ่ม
ตุ่มคือสาวมัณฑนากรจากบริษัทแฮมม็อค เพื่อนซี้ของ เมย ที่ทั้งร่าเริง ขี้แซว และมีพลังบวกเต็มเปี่ยม เธอเป็นหนึ่งในทีมทำงานที่ต้องย้ายไปรวมกับบริษัททีพีซี ซึ่งทำให้ต้องเจอกับความโหดของ เธียรวัฒน์ หัวหน้าสถาปนิกสุดเข้ม ตุ่มมักจะโผล่มาในฉากที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ร่วมกับ กั้ง คอยแซวเมยเรื่องความรัก หรือช่วยกันบ่นเมื่อเจองานหนัก เธอเป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเมย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เมยต้องรับมือกับดราม่าจากญาดา หรือตอนที่ต้องลุยงานโปรเจกต์ใหญ่
แพรว คณิตกุล ถ่ายทอดตัวละครตุ่มออกมาได้แบบน่ารักและเป็นธรรมชาติสุดๆ เธอทำให้ตุ่มกลายเป็นเพื่อนที่ทั้งขี้เล่นและจริงใจ ฉากที่ตุ่มกับกั้งรวมหัวแซวเมย หรือตอนที่เธอช่วยเมยแก้ปัญหางานคือทั้งขำทั้งอบอุ่น ตุ่มอาจจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่ทุกครั้งที่โผล่มา เธอก็เพิ่มรอยยิ้มและความครึกครื้นให้กับเรื่องราวได้เสมอ
ฉายา “เพื่อนซี้พลังบวก”
ตุ่มได้ฉายานี้เพราะเธอเป็นเพื่อนที่เต็มไปด้วยพลังบวก ชอบแซวและสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนในทีม แพรวเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าตุ่มคือเพื่อนที่อยากมีในชีวิตจริง
ข้อคิด “เพื่อนที่จริงใจและพลังบวกช่วยให้ทุกวันสดใสขึ้น”
จากตัวละครตุ่ม เราได้เห็นว่าเธอคอยนำความสนุกและกำลังใจมาให้เมยและทีม ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร เธอก็ยังยิ้มสู้ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการมีเพื่อนที่มอบพลังบวกและอยู่เคียงข้างสามารถทำให้เราผ่านช่วงเวลายากๆ ได้ และทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น
→ ตุ๊ก-ดวงตา ตุงคะมณี รับบท ศจี
คุณศจีคือคุณแม่ของ เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มหล่อ และเป็นตัวละครที่ทั้งเข้มงวดและอบอุ่นสุดๆ เธอเป็นแม่ที่รักลูกชายมาก และเมื่อรู้ว่าเธียรไปพัวพันกับ ญาดา จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเพราะ พลเดช คุณศจีเลยตัดสินใจเด็ดขาด บังคับให้เธียรแต่งงานหลอกๆ กับ เมย เพื่อปกป้องลูกชายและบริษัททีพีซี แต่ที่เด็ดกว่านั้นคือคุณศจีเอ็นดูเมยเหมือนลูกสาวแท้ๆ คอยสนับสนุนและให้กำลังใจเมยตลอด ทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่ทั้งน่าเกรงขามและน่ารักในเวลาเดียวกัน
ตุ๊ก ดวงตา ถ่ายทอดตัวละครคุณศจีออกมาได้แบบสมบูรณ์แบบ เธอทำให้คุณศจีดูเป็นแม่ที่ทั้งเข้มแข็งและมีหัวใจที่อบอุ่น ฉากที่คุณศจีคุยกับเมยด้วยความรักหรือตอนที่เธอดุเธียรแบบเข้มๆ คือทั้งซึ้งทั้งขำ คุณศจีคือตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวให้เข้มข้นและเติมความอบอุ่นให้ครอบครัวในเรื่องนี้
ฉายา “คุณแม่ใจแกร่ง”
คุณศจีได้ฉายานี้เพราะเธอเป็นแม่ที่เข้มแข็ง กล้าตัดสินใจเด็ดขาดเพื่อปกป้องคนที่รัก ตุ๊ก ดวงตาเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าคุณศจีคือแม่ที่ทุกคนอยากมี
ข้อคิด “ความรักของครอบครัวคือพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
จากตัวละครคุณศจี เราได้เห็นว่าเธอทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธียรและสนับสนุนเมยด้วยความรัก ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าความรักและความห่วงใยจากครอบครัวสามารถเป็นแรงผลักดันให้เราผ่านอุปสรรคได้ และการเป็นคนที่คอยสนับสนุนคนที่เรารักคือสิ่งที่สร้างความผูกพันที่แข็งแกร่ง
→ หมวย-อัญษนา บุรานันท์ รับบท ประภา
ประภาคือเพื่อนสนิทของ คุณศจี แม่ของเธียรวัฒน์ และเป็นคนที่เลี้ยงดู เมย ราวกับเป็นแม่บุญธรรม เธอคือตัวละครที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ใจดี และคอยสนับสนุนเมยในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือความรัก ประภาสนิทกับคุณศจีมาก และมีส่วนสำคัญในการช่วยจัดงานแต่งงานหลอกๆ ระหว่างเมยและเธียรเพื่อปกป้องทั้งคู่จากดราม่าของญาดาและพลเดช เธอมักปรากฏในฉากที่เต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย คอยให้คำแนะนำและกำลังใจให้เมย โดยเฉพาะเมื่อเมยต้องเผชิญกับความเย็นชาของเธียร
หมวย อัญษนา ถ่ายทอดตัวละครประภาออกมาได้แบบนุ่มนวลและอบอุ่นสุดๆ เธอทำให้ประภาดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเข้าใจและใจกว้าง ฉากที่ประภาคุยกับเมยเรื่องความรัก หรือตอนที่เธอช่วยประสานงานในครอบครัวคือซึ้งมาก ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนได้เห็นแม่ที่แสนดี ประภาเป็นตัวละครที่ช่วยเติมความอบอุ่นให้เรื่องราว และทำให้ครอบครัวของเมยและเธiaรสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
ฉายา “แม่บุญธรรมใจดี”
ประภาได้ฉายานี้เพราะเธอเป็นเหมือนแม่บุญธรรมที่คอยดูแลเมยด้วยความรักและความห่วงใย หมวย อัญษนาเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าประภาคือคนที่ทุกครอบครัวอยากมี
ข้อคิด “ความรักและการสนับสนุนจากผู้ใหญ่คือรากฐานของความแข็งแกร่ง”
จากตัวละครประภา เราได้เห็นว่าเธอคอยเป็นที่พึ่งให้เมยด้วยความรักและคำแนะนำที่จริงใจ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการมีผู้ใหญ่ที่เข้าใจและสนับสนุนสามารถช่วยให้เรามีความมั่นใจและก้าวผ่านอุปสรรคในชีวิตได้ การให้กำลังใจจากใจคือสิ่งที่สร้างความแข็งแกร่งให้คนรอบข้าง
→ โย่ง-อนุสรณ์ มณีเทศ รับบท ริ
ริคือพี่ชายของ เธียรวัฒน์ สถาปนิกหนุ่มหล่อ และเป็นสามีของ ม่น ในครอบครัวของเรื่องนี้ เขาคือพี่ใหญ่ใจดีที่คอยดูแลน้องชายและสนับสนุนทุกคนในครอบครัว ริมีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดงานแต่งงานหลอกๆ ระหว่างเธียรและเมย ซึ่งเกิดจากความจำเป็นเพื่อปกป้องน้องชายจากดราม่าของญาดาและพลเดช เขาเป็นตัวละครที่ดูนิ่งๆ สุขุม แต่ก็มีมุมขี้เล่นและอบอุ่นที่ทำให้ครอบครัวรู้สึกสมบูรณ์ ริมักปรากฏในฉากที่เต็มไปด้วยความรักของครอบครัว เช่น ตอนที่เขาร่วมมือกับคุณศจีและประภาเพื่อจัดการงานแต่ง หรือตอนที่แซวเธียรแบบพี่ชายสายฮา
โย่ง อนุสรณ์ ถ่ายทอดตัวละครริออกมาได้แบบน่ารักและสมจริงสุดๆ เขาทำให้ริดูเป็นพี่ชายที่ทั้งน่าเชื่อถือและเป็นที่พึ่งของทุกคน ฉากที่ริช่วยประสานงานในครอบครัวหรือแซวน้องชายคือทั้งอบอุ่นทั้งขำ ริอาจจะไม่ได้มีซีนเด่นเท่าพระนาง แต่เขาคือตัวละครที่ช่วยเติมความสมดุลและความรู้สึกของครอบครัวให้กับเรื่องราว
ฉายา “พี่ใหญ่ใจดี”
ริได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นพี่ชายที่ใจดี คอยดูแลและสนับสนุนน้องชายกับครอบครัวด้วยความรัก โย่งเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าริคือพี่ชายในฝันที่ทุกคนอยากมี
ข้อคิด “ครอบครัวคือที่พึ่งที่แข็งแกร่งในทุกสถานการณ์”
จากตัวละครริ เราได้เห็นว่าเขาเป็นพี่ชายที่คอยอยู่เคียงข้างเธียรและช่วยเหลือครอบครัวในทุกเรื่อง ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าครอบครัวที่เข้มแข็งและสนับสนุนกันคือพลังที่ช่วยให้เราผ่านทุกปัญหาได้ การเป็นที่พึ่งให้กันและกันคือสิ่งที่ทำให้ครอบครัวยั่งยืน
→ สายไหม-มณีรัตน์ ธรรมมณีวงศ์ รับบท ม่น
ม่นคือพี่สะใภ้ของ เธียรวัฒน์ และภรรยาของ ริ พี่ชายของเขา เธอเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ขี้เล่น และมีพลังบวกที่ทำให้ครอบครัวดูสมบูรณ์ ม่นมีบทบาทสำคัญในการช่วยจัดงานแต่งงานหลอกๆ ระหว่างเธียรและเมย ร่วมกับคุณศจีและประภา เพื่อปกป้องเธียรจากดราม่าของญาดาและพลเดช เธอมักปรากฏในฉากครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เช่น ตอนที่แซวเมยเรื่องความรัก หรือช่วยประสานงานในงานแต่ง ม่นเป็นเหมือนพี่สาวที่ทั้งใจดีและคอยสร้างรอยยิ้มให้ทุกคน
สายไหม มณีรัตน์ ถ่ายทอดตัวละครม่นออกมาได้แบบน่ารักและเป็นธรรมชาติสุดๆ เธอทำให้ม่นดูเป็นพี่สะใภ้ที่ทั้งน่ารักและเข้าถึงง่าย ฉากที่ม่นแซวเมยหรือช่วยจัดการงานในครอบครัวคือทั้งขำทั้งอบอุ่น ม่นอาจจะไม่ได้มีบทเด่นเท่าพระนาง แต่เธอคือตัวละครที่ช่วยเติมความครึกครื้นและความรู้สึกของครอบครัวให้เรื่องราว
ฉายา “พี่สะใภ้สายฮา”
ม่นได้ฉายานี้เพราะเธอเป็นพี่สะใภ้ที่ทั้งขี้เล่นและมีมุกตลกที่ทำให้ทุกคนในครอบครัวยิ้มได้ สายไหมเล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าม่นคือคนที่ทำให้บ้านเต็มไปด้วยความสุข
ข้อคิด “ความสนุกสนานในครอบครัวช่วยสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่ง”
จากตัวละครม่น เราได้เห็นว่าเธอนำความสนุกและพลังบวกมาให้ครอบครัว คอยแซวและสร้างรอยยิ้มในทุกสถานการณ์ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการมีทัศนคติที่ร่าเริงและการเป็นคนที่ทำให้คนรอบข้างมีความสุขสามารถสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวที่อบอุ่นและยั่งยืนได้
→ หนู-สุรศักดิ์ ชัยอรรถ รับบท ธาดา
ธาดาคือพ่อของ ญาดา และเป็นตัวร้ายที่ทรงพลังในเรื่องนี้ เขาคือผู้มีอิทธิพลในวงการธุรกิจที่พยายามยึดหุ้นของบริษัททีพีซี ซึ่งเป็นที่ทำงานของ เธiaรวัฒน์ ธาดาเป็นคนเจ้าแผนการ ฉลาด และดูน่าเกรงขาม เขาไม่พอใจที่ญาดามีปัญหาชีวิตคู่กับ พลเดช และพยายามควบคุมทุกอย่าง รวมถึงใช้ความสัมพันธ์ของญาดากับเธียรเป็นเครื่องมือในการจัดการบริษัท ธาดามักปรากฏในฉากที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด โดยเฉพาะเมื่อเขาวางแผนร้ายหรือเผชิญหน้ากับตัวละครอื่น
หนู สุรศักดิ์ ถ่ายทอดตัวละครธาดาออกมาได้แบบน่าทึ่งมาก เขาทำให้ธาดาดูเป็นตัวร้ายที่มีทั้งความน่าเกรงขามและความลึกลับ ฉากที่ธาดาคุยกับญาดาหรือตอนที่เขาพยายามกดดันบริษัททีพีซีคือทำให้คนดูรู้สึกถึงพลังและความร้ายกาจ ธาดาไม่ใช่ตัวร้ายที่โผงผาง แต่เป็นคนที่ใช้สมองและอำนาจในการเคลื่อนเกม ทำให้เขาเป็นตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นให้เรื่องราว
ฉายา “นักวางแผนร้ายลึก”
ธาดาได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นตัวร้ายที่ฉลาดและวางแผนทุกอย่างแบบรอบคอบ หนู สุรศักดิ์เล่นบทนี้ได้แบบทำให้เรารู้สึกว่าธาดาคือคนที่คาดเดาไม่ได้และน่ากลัวในแบบของตัวเอง
ข้อคิด “การใช้อำนาจเพื่อควบคุมผู้อื่นอาจนำไปสู่ความสูญเสีย”
จากตัวละครธาดา เราได้เห็นว่าเขาพยายามควบคุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลูกสาวหรือธุรกิจ แต่สุดท้ายการใช้อำนาจและแผนการร้ายกลับทำให้เขาต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการเคารพความรู้สึกและอิสรภาพของผู้อื่นจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีกว่าการพยายามบงการทุกอย่าง
→ กล้วย-ฐานุพงศ์ ศักดิ์ธนาวัฒน์ รับบท สาธิต
สาธิตคือตัวละครที่ปรากฏตัวในบทบาทสมทบของเรื่องนี้ เขาเป็นตัวละครที่เพิ่มมิติให้กับเรื่องราวของบริษัททีพีซีและปมดราม่าต่างๆ สาธิตมีลักษณะที่ค่อนข้างเงียบขรึมและดูมีอะไรซ่อนอยู่ในใจ ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาเป็นตัวละครที่คาดเดาได้ยาก เขามักจะโผล่มาในฉากที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในบริษัทหรือปมธุรกิจที่เชื่อมโยงกับ ธาดา และ ญาดา ซึ่งทำให้เรื่องราวดูซับซ้อนและน่าติดตามมากขึ้น แม้ว่าสาธิตจะไม่ได้มีบทบาทเด่นเท่าตัวละครหลักอย่างเธียรหรือเมย แต่เขาก็ช่วยเติมเต็มปมในเรื่องให้สมบูรณ์
กล้วย ฐานุพงศ์ ถ่ายทอดตัวละครสาธิตออกมาได้แบบน่าสนใจ เขาทำให้สาธิตดูเป็นคนที่ทั้งนิ่งและมีเสน่ห์ในแบบลึกลับ ฉากที่สาธิตปรากฏตัวมักจะเพิ่มความตึงเครียดเล็กๆ หรือช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวให้ไปต่อ กล้วยเล่นได้แบบทำให้เราอยากรู้ว่าเบื้องหลังของสาธิตมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง แม้ว่าบทจะไม่เยอะ แต่ก็ทิ้งความประทับใจให้คนดูได้
ฉายา “เงาลึกลับแห่งทีพีซี”
สาธิตได้ฉายานี้เพราะเขาเป็นตัวละครที่เหมือนเงาในบริษัททีพีซี ปรากฏตัวแบบเงียบๆ แต่มีบทบาทที่ทำให้คนดูต้องจับตา กล้วยเล่นบทนี้ได้แบบทำให้สาธิตดูมีอะไรในตัวที่น่าค้นหา
ข้อคิด “การทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเงียบๆ ก็สร้างผลกระทบได้”
จากตัวละครสาธิต เราได้เห็นว่าเขาเป็นคนที่ทำงานในเงาและมีส่วนช่วยให้เรื่องราวดำเนินไป แม้จะไม่เด่นเท่าคนอื่น ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี แม้จะอยู่เบื้องหลัง ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและมีส่วนสำคัญในภาพรวมได้
ข้อคิดจากละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี
ความรักที่แท้จริงต้องใช้ความจริงใจและความพยายาม
จากเรื่องราวของ เมย ที่แอบรัก เธียร มานานและพยายามพิสูจน์ตัวเองทั้งในเรื่องงานและความรัก เราได้เห็นว่าความจริงใจและความทุ่มเทของเธอค่อยๆ ละลายหัวใจของเธียรได้ ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าถ้าเรารักใครสักคน การแสดงออกด้วยความจริงใจและไม่ยอมแพ้จะทำให้ความรักนั้นเติบโตได้
ครอบครัวและมิตรภาพคือพลังที่ช่วยให้เราผ่านอุปสรรค
ตัวละครอย่าง คุณศจี ประภา ริ และ ม่น แสดงให้เห็นถึงความรักและการสนับสนุนในครอบครัว ส่วนเพื่อนๆ อย่าง กั้ง ตุ่ม และ กบ ก็คอยอยู่เคียงข้างเมย ข้อคิดนี้บอกเราว่าการมีครอบครัวและเพื่อนที่ดีคือสิ่งที่ทำให้เรามีแรงสู้ต่อ ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร
การยึดติดหรือใช้ความรุนแรงไม่เคยแก้ปัญหา
จากตัวละครอย่าง ญาดา และ พลเดช เราเห็นว่าการยึดติดกับความรักหรือการใช้อำนาจและความรุนแรงนำไปสู่ความเจ็บปวดและความสูญเสีย ข้อคิดนี้สอนให้เราเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและแก้ปัญหาด้วยความเข้าใจ แทนการพยายามควบคุมทุกอย่าง
การทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี แม้อยู่เบื้องหลัง ก็สร้างผลกระทบได้
ตัวละครสมทบอย่าง เชษฐ์ หรือ สาธิต แสดงให้เห็นว่าการทำงานอย่างทุ่มเทและรับผิดชอบ แม้จะไม่ได้เป็นตัวเด่น ก็มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราว ข้อคิดนี้สอนให้เรายอมรับและภูมิใจในบทบาทของตัวเอง เพราะทุกคนมีคุณค่าในแบบของตัวเอง
พลังบวกและรอยยิ้มช่วยเปลี่ยนบรรยากาศได้
ตัวละครอย่าง เบียร์ ตูน และ น็อต นำความสนุกและรอยยิ้มมาให้กลุ่มเพื่อนและคนรอบข้าง ข้อคิดนี้สอนให้เราเห็นว่าการมีทัศนคติที่ดีและการมอบพลังบวกให้คนอื่นสามารถทำให้ทุกสถานการณ์ดีขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง
ละคร อกเกือบหักแอบรักคุณสามี ไม่ได้มีแค่ความฟินจากเคมีของเมยและเธียร แต่ยังเต็มไปด้วยข้อคิดที่ทำให้เรานำไปใช้ในชีวิตจริงได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก มิตรภาพ ครอบครัว หรือการทำงาน ไปตามดูย้อนหลังได้ที่ WeTV หรือ CH3+ นะ รับรองว่าคุณจะได้ทั้งความสนุกและข้อคิดดีๆ
