ละคร เงาใจ 2558 (EP.1-14 ตอนจบ) HD END

าทิต (ยุทธนา เปื้องกลาง) ลูกชายเพียงคนดียวของ พ่อเลี้ยงวิทย์ (พิศาล อัครเศรณี) ผู้มีฐานะร่ำรวยมากในภาคเหนือ ซึ่งเป็นทั้งเจ้าของไร่ส้มและไร่ชา ด้วยความที่สุขภาพของวาทิตไม่ดีมาตั้งแต่เด็กและยังมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ วาทิตจึงได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากพ่อเลี้ยงวิทย์และคำเอื้อง (อำภา ภูษิต) แม่นมที่รักวาทิตเหมือนลูกแท้ ๆ ของตัวเอง และยังมีกินรี (อริสรา ทองบริสุทธิ์) ลูกสาวของกิจจา (ดิลก ทองวัฒนา) คอยดูแลอีกด้วย

เงาใจ(Rerun) HIGHLIGHT
เงาในหัวใจ – เป๊กซ์ zeal feat.หนูนา หนึ่งธิดา【OFFICIAL MV】

ละคร เงาใจ 2558 

เมทินี (วรรณรท สนธิไชย) คือหญิงสาวที่วาทิตหลงรักมาตั้งแต่เด็ก แต่หญิงสาวกับรู้สึกกับวาทิตเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น หญิงสาวอยู่กับมณี (สาวิตรี สามิภักดิ์) ผู้เป็นแม่และไมตรี (ณัฐชา จันทพันธ์) น้องชาย มีอาชีพรับจัดส่งดอกไม้ ซึ่งครอบครัวของหญิงสาวรู้จักและสนิทสนมกับครอบครัวของวาทิตเป็นอย่างดี

อังกูร (นาวิน เยาวพลกุล) ลูกพี่ลูกน้องกับวาทิต ชายหนุ่มเป็นหลานชายแท้ ๆ ของพ่อเลี้ยงวิทย์ อังกูรรักเมทินีเช่นเดียวกันกับวาทิต แต่มีความมั่นใจมากกว่าว่าเมทินีรักเขา ไม่ได้รักวาทิต และคิดที่จะขอเมทินีแต่งงาน แต่เมทินียังไม่รับปากเพราะเธอเองก็ไม่แน่ใจว่ารักอังกูร

รุทร (ยุทธนา เปื้องกลาง) พี่น้องฝาแฝดกับวาทิต ลูกชายของแรม (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) แต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเขามีพี่น้องฝาแฝด เพราะแรมไม่ได้บอก ถึงแม้จะยังติดต่อและส่งข่าวคราวถึงพ่อเลี้ยงวิทย์อยู่ก็ตาม รุทรยังเก็บเอาความช้ำจาก แพร (เจนสุดา ปานโต) คนรักเก่าตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมมาด้วยกันที่ชิงหนีไปแต่งงาน ทำให้รุทรหมดศรัทธาในความรัก และถึงแม้จะมีบุษบัน (สกาวใจ พูนสวัสดิ์) แม่ม่ายสาวสวยมาติดพันชอบพอก็ไม่ทำให้รุทรสนใจ แต่กลับเป็นอนุวัตร (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์) เพื่อนสนิทของรุทรเสียมากกว่าที่รู้สึกชอบบุษบัน แต่ก็ทำเป็นยียวนกวนประสาทใส่เธออยู่เสมอ

รุทรให้อนุวัตรมาส่งดอกเสี้ยนให้กับเมทินีแทนเขา ทำให้อนุวัตรได้ปะทะคารมกับทิปปี้ (วิชญาณี เปียกลิ่น) เพื่อนสนิทของเมทินี ส่วนรุทรเดินดูงานโดยรอบจนได้มาเจอกับเมทินีที่จัดดอกไม้อยู่ รุทรชอบในความน่ารักสดใสของเมทินี จึงถ่ายรูปเก็บเอาไว้หลายอิริยาบทโดยที่เมทินีไม่รู้ตัว

ไมตรีเจอกับวาริน (ณัฐจารี หรเวชกุล) น้องสาวของรุทรทีไรมักมีเรื่องด้วยกันทุกที จนวันหนึ่งไมตรีมีเรื่องกับพวกเด็กช่างกลและไมตรีพลั้งทำปืนปากกาของเด็กช่างกลลั่นโดนเจ้าของปืนเอง ตำรวจพาตัวทุกคนไปที่โรงพัก พ่อแม่ของเด็กช่างกลเรียกค่าเสียหายยี่สิบล้านบาท มณีและเมทินีกลุ้มใจมากเป็นทุกข์อย่างหนัก คิดขายบ้านขายร้านแต่เงินยังไม่พอ อังกูรจึงยื่นมือเข้ามาอาสาช่วยเหลืออีกแรงแต่ก็ยังไม่ถึงยี่สิบล้าน พ่อเลี้ยงวิทย์เห็นว่าครอบครัวของเมทินีกำลังลำบากจึงเข้ามาช่วยเหลือ โดยมีข้อแม้ให้เมทินีแต่งงานกับวาทิต เพราะรู้ว่าวาทิตรักเมทินีมากและยังเป็นการสร้างความสุข ช่วยต่อชีวิตให้กับวาทิต อีกด้วย ซึ่งเมทินีจำยอมแต่งงานกับวาทิตเพื่อต้องการนำเงินไปช่วยไมตรี

งานแต่งงานของวาทิตกับเมทินีถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ วาทิตดูจะมีความสุขมากในขณะที่อังกูรเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำ ส่วนกินรีไม่ได้สนใจวาทิตที่ได้แต่งงานกับเมทินีเท่าไหร่นักเพราะเธอหลงรักอังกูรและจะทำให้อังกูรลืมเมทินีให้ได้ ผิดกับกิจจาผู้เป็นพ่อที่รู้สึกไม่พอใจที่แผนการล้มเหลวเพราะอยากให้ลูกสาวแต่งงานกับวาทิตเพื่อครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหมด

อนุวัติเอารูปงานแต่งงานของวาทิตมาให้รุทรดูด้วยความสงสัย เพราะว่าวาทิตกับรุทรนั้นหน้าเหมือนกันยังกับแกะ รุทรเลยเอาเรื่องไปถามแรม ผู้เป็นแม่ก็ได้ความจริงว่ารุทรนั้นมีน้องชายฝาแฝดคือวาทิต แต่แรมได้ยกวาทิตให้เป็นลูกบุญธรรมของพ่อเลี้ยงวิทย์เจ้านายเก่าของเธอหลังจากที่คลอดได้ไม่นานเพราะวาทิตเป็นโรคหัวใจและแรมเองก็ลำบากเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมาแรมกับพ่อเลี้ยงวิทย์ส่งข่าวให้กันตลอด แต่แรมขอเอาไว้ว่าไม่อยากไปเจอวาทิตเพราะพ่อเลี้ยงวิทย์ก็เลี้ยงดูวาทิตไม่ผิดไปจากลูกของเขาเอง

อังกูรแกล้งป่วยให้เมทินีมาหาและคิดจะปลุกปล้ำจนวาทิตเข้ามาเห็น วาทิตโกรธจัดและขอเคลียร์กับอังกูร อังกูรพูดจาเป็นนัยให้รู้ว่าเขากับเมทินีมีอะไรกันแล้วก่อนที่จะมาแต่งงาน วาทิตโกรธมากจนหอบหนักแต่ก็ยังหยิบปืนขึ้นมาเล็งอังกูร ทำเอาอังกูรผงะที่เห็นวาทิตเอาจริง แต่ยังไม่ทันเหนี่ยวไกวาทิตก็เกิดเจ็บหน้าอกทรุดตัวลงนั่งหอบ จะหยิบยาพ่นออกมาแต่กระเด็นไปที่อังกูร วาทิตร้องขอยาแต่อังกูรไม่ให้แถมเตะให้ห่างออกไป วาทิตกลั้นใจครั้งสุดท้ายฝืนยิงอังกูรและตัวเองก็สลบไป

พ่อเลี้ยงวิทย์พาวาทิตมาที่บ้านของแรมเพื่อให้แรมดูแล และให้รุทรปลอมตัวเป็นวาทิตเพื่อเข้าไปสืบหาว่าใครเป็นคนทำร้ายวาทิต และคอยขัดขวางอังกูรกับเมทินีไม่ให้ได้ใกล้ชิดกัน พ่อเลี้ยงวิทย์ให้เวลารุทรได้เรียนรู้การเป็นวาทิต แต่ด้วยคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน ทำให้รุทรมีปัญหากับการเป็นวาทิตไม่ใช่น้อยทซึ่งพ่อเลี้ยงวิทย์ได้หาทางแก้โดยการบอกกับทุกคนว่าวาทิตความจำเสื่อมเป็นช่วง ๆ

ถึงแม้ว่ารุทรจะพยายามทำตัวเองให้เหมือนกับวาทิตมากแค่ไหน แต่ยังไงก็ไม่เหมือนกับวาทิตที่เมทินีเคยรู้จัก เมทินีจึงคิดทดสอบรุทรในคราบของวาทิตในหลายๆอย่างแต่ถึงแม้จะเห็นถึงความแตกต่างแต่ก็ไม่สามารถให้คำตอบกับตัวเองได้ว่า วาทิตที่เห็นอยู่ตอนนี้ถ้าไม่ใช่วาทิตแล้วจะเป็นใคร เช่นเดียวกับกินรีที่สงสัยในความต่างแต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้และไม่ได้ระแคะระคายเลยว่าวาทิตจะมีพี่น้องฝาแฝด ทุกสิ่งทุกอย่างเต็มไปด้วยความวุ่นวายต่างฝ่ายต่างจับผิดกันและกัน รุทรพยายามจับผิดเมทินีกับอังกูร ในขณะที่เมทินีเองก็หาเรื่องจับผิดรุทร เพราะเธอมั่นใจว่ายังไงรุทรก็ไม่ใช่วาทิต แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นโดยที่เจ้าตัวไม่ทันได้สังเกตนั่นคือความรู้สึกดีดีที่ทั้งรุทรและเมทินีมีให้แก่กันมากขึ้นทุก ๆ วัน

อังกูรและกิจจาร่วมมือกันกำจัดพ่อเลี้ยงวิทย์ โดยการจ้างมือปืนมาทำร้ายและใส่ความรุทร แต่ที่จริงแล้วพ่อเลี้ยงวิทย์ยังไม่ตายโดยรุทรพาไปหลบซ่อนตัว และเขาก็ยอมโดนปรักปรำเพื่อหาหลักฐานมัดตัวอังกูรให้แน่นจนดิ้นไม่หลุด

เมทินีเสียใจมากที่รุทรกลายเป็นคนร้ายและเธอมั่นใจแล้วว่ารุทรไม่ใช่ว่าทิต รุทรขอให้เมทินีเชื่อใจเขาและพามาหาแรมที่บ้านพร้อมกลับพาไปเจอวาทิต เมทินีร้องไห้ด้วยความสงสารวาทิตและรู้สึกผิดเพราะที่ผ่านมาเธอรู้ตัวดีว่าเขาพยายามทำให้เธอทุกอย่างแต่เธอไม่ได้สนใจมันมากนักเพราะเมทินีไม่ได้รักวาทิตแบบชู้สาวและไม่อยากทำอะไรตอบกลับจนทำให้วาทิตรู้สึกมากกับเธอไปกว่าที่เป็นอยู่ เพราะมันก็มากเกินพอแล้ว

อังกูรเห็นว่าทรัพย์สมบัติทุกอย่างกำลังจะตกเป็นของเขา ชายหนุ่มจึงคิดกำจัดกิจจาทิ้งและกินรีเป็นรายต่อไป กินรีมาได้ยินทั้งหมดจึงรู้ตัวว่าถูกหลอกใช้จึงมาหารุทรและสารภาพความจริงทุกอย่างด้วยความสำนึกผิดพร้อมจะเป็นพยานเอาผิดอังกูร ความจริงทุกอย่างจะเปิดเผยอย่างไร บทสรุปของคนชั่วอย่างอังกูรจะเป็นแบบไหน? และความรักที่วุ่นวายระหว่างเมทินีและวาทิตตัวปลอมจะเป็นอย่างไร? จะเป็นเพียงเงาในใจหรือจะกลายเป็นคนในหัวใจได้จริง ๆ ติดตามชมกันต่อได้ใน ละครเงาใจ

บทประพันธ์โดย : ชูวงศ์ ฉายะจินดา
กำกับการแสดงโดย : พิศาล อัครเศรณี

นักแสดง
ยุทธนา เปื้องกลาง รับบท รุทร/วาทิต
วรรณรท สนธิไชย รับบท เมทินี
นาวิน เยาวพลกุล รับบท อังกูร
อริสรา ทองบริสุทธิ์ รับบท บุษบัน
พิศาล อัครเศรณี รับบทเป็น พ่อเลี้ยงวิทย์
ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์ รับบทเป็น อนุวัตร
สกาวใจ พูนสวัสดิ์ รับบทเป็น บุษบัน
วิชญาณี เปียกลิ่น รับบทเป็น ทิปปี้
ณัฐชา จันทพันธ์ รับบทเป็น ไมตรี
ณัฐจารี หรเวชกุล รับบทเป็น วาริน
ดิลก ทองวัฒนา รับบทเป็น กิจจา
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบทเป็น แรม
สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบทเป็น มณี
เจนสุดา ปานโต รับบทเป็น แพร
อำภา ภูษิต รับบทเป็น คำเอื้อง
ศิระ แพทย์รัตน์ รับบทเป็น ชาติ

เงาใจ เป็นบทประพันธ์ของ ชูวงศ์ ฉายะจินดา ถูกนำมาสร้างแง่คิดเป็นละครโทรทัศน์มาแล้ว 2 ครั้ง โดยนำมาสร้างเป็นละครโทรทัศน์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2544 ผลิตโดย บริษัท ดาราวิดีโอ จำกัด นำแสดงโดย ดนุพร ปุณณกันต์ และ สุวนันท์ คงยิ่ง ออกอากาศทุกวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.20–22.20 น. ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2544 – 16 กันยายน พ.ศ. 2544

และครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2558 ผลิตโดย เอ็กแซ็กท์-ซีเนริโอ และเมจิก อิฟ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โดย พิยดา จุฑารัตนกุล เป็นผู้จัด กำกับการแสดงโดย พิศาล อัครเศรณี นำแสดงโดย ยุทธนา เปื้องกลาง และ วรรณรท สนธิไชย ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20–22.20 น. ทางช่องวัน โดยออกอากาศตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2558 – 16 มีนาคม พ.ศ. 2558