ละคร เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน 2560 ในสมรภูมิที่ไร้ซึ่งกฎเกณฑ์ มีเพียงเสียงระเบิดและคาวเลือด… ร้อยเอกภูริช หัวหน้าหน่วยกระทิงผู้กร้าวแกร่ง ไม่เคยคิดว่าหัวใจของเขาจะถูกปลุกให้เต้นแรงอีกครั้ง ณ ชายแดนอันแสนอันตรายที่เต็มไปด้วยควันปืนและยาเสพติด เขาได้พบกับ พญ.นภัสชล แพทย์อาสาผู้เปี่ยมด้วยหัวใจเมตตา สองเส้นทางที่ต่างกันสุดขั้วโคจรมาบรรจบกัน ก่อเกิดเป็นความรักที่งดงามท่ามกลางเปลวเพลิงสงคราม แต่แล้ว… โชคชะตาก็ไม่เคยใจดีกับพวกเขา เมื่ออุปสรรคจากทั้งภารกิจและความขัดแย้งที่ซ่อนเร้นกำลังจะเข้ามาทดสอบความรักของทั้งสอง… หรือแท้จริงแล้ว… เส้นทางของพวกเขากำลังจะถึงจุดจบ

ละคร เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน 2560 ละครแนวโรแมนติกแอ็คชั่นดราม่า ละครเริ่มต้นด้วยฉากการประชุมการค้าครั้งใหญ่ที่โรงแรมหรูในเกาะภูเก็ต ซึ่งรวบรวมนักลงทุนและผู้แทนการค้าจากนานาชาติ อย่างไรก็ตาม การประชุมถูกขัดขวางโดย “ริกเตอร์” นายทหารรับจ้างต่อต้านทุนนิยมสุดโต่งที่แฝงตัวมาในฐานะบอดี้การ์ด พร้อมลูกน้องกว่า 10 คน ริกเตอร์และกลุ่มของเขาจับผู้เข้าร่วมประชุมเป็นตัวประกันและเรียกร้องเงินมหาศาลเพื่อแลกกับชีวิตของเหยื่อ

“ร้อยเอก ภูริช สัตตกมลพันธ์” หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” แห่งกองทัพบก พร้อมด้วยเพื่อนทหารจากสามเหล่าทัพ ได้แก่ “เรือเอก จิรวัติ” จากกองทัพเรือ, “ร.ต.อ. คณินทร์” จากหน่วย ป.ป.ส., และ “เรืออากาศเอก กรัณย์” จากหน่วยคอมมานโดอากาศโยธิน ร่วมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วง ริกเตอร์และสมุนถูกกำจัด แต่ริกเตอร์เลือกจบชีวิตตัวเองด้วยการระเบิดพลีชีพ

หลังภารกิจ ภูริชได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ค่ายทหารชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร หน่วยกระทิงของเขาต้องรับมือกับปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า การลักลอบขนยาเสพติด และการค้ามนุษย์ นอกจากภารกิจทหารแล้ว ภูริชและทีมยังช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่ชาวบ้านและทหารเผชิญโรคภัยต่างๆ ในระหว่างนี้ ภูริชได้พบกับ “พญ.นภัสชล เรืองโรจนทรัพย์” อายุรแพทย์อาสาที่มาช่วยรักษาชาวบ้าน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อนภัสชลช่วยชีวิตภูริชจากการบาดเจ็บสาหัสในปฏิบัติการทลายโรงงานยาบ้า

ความขัดแย้งและพัฒนาการของตัวละคร

เรื่องราวซับซ้อนขึ้นเมื่อนภัสชลและ “วริสา”  แพทย์อีกคน ถูกจับเป็นตัวประกันโดย “ผู้กองชยิน” ลูกชายผู้นำเก่ารัฐลาซะ ภูริชต้องนำทีมบุกช่วยเหลือ พร้อมเผชิญหน้ากับการต่อสู้ที่ดุเดือด ในภารกิจนี้ ภูริชต้องดวลปืนกับหัวหน้าแก๊งยาว้าแดงเพื่อช่วย “จ่ามี” ลูกน้องที่ถูกจับตัวไป แม้จะสำเร็จแต่ตัวเขาเองได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบเสียชีวิต นภัสชลกลายเป็นกำลังใจสำคัญที่ช่วยให้ภูริชฟื้นตัว

ด้านความรัก ความสัมพันธ์ระหว่างภูริชและนภัสชลต้องเผชิญอุปสรรคจาก “พิมพ์รวีย์” ลูกสาว “นายพลอนุชิต” ที่แอบรักภูริช และ “นายชนะ” อดีตคนรักของนภัสชลที่พยายามกลับมาคืนดี ความขัดแย้งในความรักและหน้าที่ทำให้เรื่องราวเต็มไปด้วยอารมณ์และความตึงเครียด

สารบัญละคร

ละครเน้นการผสมผสานระหว่างฉากแอ็คชั่นที่เข้มข้นและเรื่องราวความรักที่ลึกซึ้ง ตัวละครหลักอย่างร้อยเอกภูริชแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความเสียสละของทหารไทย ขณะที่นภัสชลสะท้อนจิตวิญญาณของแพทย์อาสาที่ทุ่มเทเพื่อผู้อื่น ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของละคร

ภารกิจแรกในเงื้อมมือแห่งความตาย

เรื่องราวเริ่มต้นในโรงแรมหรูบนเกาะภูเก็ต สถานที่จัดการประชุมการค้าระดับนานาชาติที่เต็มไปด้วยนักลงทุนและผู้แทนจากทั่วโลก แต่แล้วความสงบสุขก็ถูกทำลายเมื่อ ริกเตอร์ นายทหารรับจ้างผู้ต่อต้านทุนนิยมสุดโต่ง พร้อมลูกน้องติดอาวุธบุกยึดสถานที่ จับผู้เข้าร่วมประชุมเป็นตัวประกันและเรียกร้องเงินค่าไถ่มหาศาล ร้อยเอก ภูริช สัตตกมลพันธ์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” ผู้มีสายตาคมกริบและหัวใจเด็ดเดี่ยว นำทีมทหารจากสามเหล่าทัพเรือเอก จิรวัติ (อรรคพันธ์ นะมาตร์) จากกองทัพเรือ, ร.ต.อ. คณินทร์ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) จาก ป.ป.ส., และ เรืออากาศเอก กรัณย์ จากคอมมานโดอากาศโยธินเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือ

ด้วยความชาญฉลาดและกลยุทธ์อันเฉียบแหลม ทีมของภูริชสามารถกำจัดกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้สำเร็จ แต่ริกเตอร์เลือกปิดฉากชีวิตด้วยการระเบิดตัวเอง ทิ้งไว้เพียงควันและความสูญเสีย ภารกิจนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายของภูริช

ชายแดน: สมรภูมิและจุดเริ่มต้นของความรัก

หลังชัยชนะ ภูริชถูกส่งตัวไปประจำการที่ค่ายทหารชายแดนไทย-พม่า พื้นที่ที่เต็มไปด้วยความโหดร้ายของการค้ายาเสพติด การตัดไม้ทำลายป่า และการค้ามนุษย์ หน่วยกระทิงของเขาต้องเผชิญศัตรูที่มองไม่เห็นและภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ในเงามืดของป่าเขา ท่ามกลางความโกลาหลนั้น ภูริชได้พบกับ พญ.นภัสชล เรืองโรจนทรัพย์ (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) อายุรแพทย์อาสาผู้มีหัวใจเปี่ยมด้วยความเมตตา เธอมาที่ชายแดนเพื่อรักษาชาวบ้านที่ขาดแคลนการดูแลทางการแพทย์

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นจากเหตุการณ์ที่ภูริชได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการบุกทลายโรงงานยาบ้า นภัสชลใช้ทักษะทางการแพทย์ช่วยชีวิตเขาไว้ มือที่เคยจับปืนของภูริชเริ่มสัมผัสถึงความอบอุ่นจากหัวใจของนภัสชล ขณะที่เธอเองก็เริ่มเห็นความกล้าหาญและความเสียสละในตัวเขา ความรักค่อยๆ ก่อตัวขึ้นท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดและควันปืน

อุปสรรค: ความรักที่ถูกท้าทาย

ทว่า ความรักของทั้งคู่ไม่ได้ราบรื่น พิมพ์รวีย์ (ปราณวรินทร์ ปามี) ลูกสาวนายพลอนุชิต (ธนายง ว่องตระกูล) ผู้หลงรักภูริชอย่างลึกซึ้ง พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ได้หัวใจของเขา เธอใช้ทั้งอำนาจและเสน่ห์เพื่อแทรกแซงความสัมพันธ์ของเขาและนภัสชล ขณะเดียวกัน นายชนะ (ดนัย สมุทรโคจร) อดีตคนรักของนภัสชล ปรากฏตัวขึ้นเพื่อขอโอกาสคืนดี เขานำความทรงจำเก่าๆ มาทำให้หัวใจของนภัสชลสั่นคลอน

ความขัดแย้งทวีความรุนแรงเมื่อนภัสชลและ วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) แพทย์อาสาอีกคน ถูกจับเป็นตัวประกันโดย ผู้กองชยิน (หลุยส์ เอสดาร์ซัน) ลูกชายผู้นำเก่ารัฐลาซะ ภูริชนำทีมบุกช่วยเหลือด้วยความมุ่งมั่น เขาต้องเผชิญหน้ากับแก๊งยาว้าแดงในสมรภูมิที่เต็มไปด้วยอันตราย ในภารกิจนี้ เขาเกือบเสีย จ่ามี (ปราบ ยุทธพิชัย) ลูกน้องคนสนิท และตัวเขาเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด นภัสชลยืนหยัดเคียงข้างเขา ใช้ทุกความรู้เพื่อดึงเขากลับมาจากความตาย

จุดไคลแมกซ์: การเสียสละเพื่อชาติ

เมื่อภารกิจถึงจุดวิกฤต ภูริชต้องเผชิญการตัดสินใจที่ยากลำบากระหว่างหน้าที่เพื่อชาติและความรักที่มีต่อนภัสชล เขาเลือกยึดมั่นในอุดมการณ์ของทหาร ปกป้องความมั่นคงของชาติและช่วยเหลือทีมของเขา แม้ว่าจะต้องแลกด้วยความเจ็บปวดในใจ นภัสชลเข้าใจและยอมรับการตัดสินใจของเขา เธอตระหนักว่าความรักที่แท้จริงคือการสนับสนุนซึ่งกันและกัน แม้ในยามที่ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสีย

ละครเรื่องนี้โดดเด่นด้วยฉากแอ็คชั่นที่สมจริงและเข้มข้น เช่น การต่อสู้ในป่าและการบุกช่วยตัวประกัน ผสมผสานกับความโรแมนติกที่ลึกซึ้งระหว่างภูริชและนภัสชล มิตรภาพระหว่างเพื่อนทหารในหน่วยกระทิงและความเสียสละเพื่อชาติเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ผู้ชมประทับใจ ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร

เนื้อเรื่อง เข้มข้นและชวนติดตาม

“เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน” เริ่มต้นด้วยภารกิจช่วยตัวประกันในโรงแรมหรูที่ภูเก็ต ซึ่งถูกยึดโดยนายทหารรับจ้างชื่อ ริกเตอร์ ร้อยเอก ภูริช สัตตกมลพันธ์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” นำทีมทหารจากสามเหล่าทัพจัดการสถานการณ์ได้อย่างน่าตื่นเต้น หลังภารกิจ ภูริชถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนไทย-พม่า พื้นที่ที่เต็มไปด้วยปัญหายาเสพติด การตัดไม้ และการค้ามนุษย์ ที่นั่น เขาได้พบกับ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) แพทย์อาสาผู้ทุ่มเท ความรักของทั้งคู่ค่อยๆ เบ่งบานท่ามกลางอันตรายและความขัดแย้งจากตัวละครอย่าง พิมพ์รวีย์ (ปราณวรินทร์ ปามี) และ นายชนะ (ดนัย สมุทรโคจร) ที่เพิ่มความซับซ้อนให้เรื่องราว

จุดเด่นของเนื้อเรื่องคือการผสมผสานฉากแอ็คชั่นที่สมจริง เช่น การต่อสู้ในป่าและการบุกช่วยตัวประกัน กับดราม่าความรักที่ลึกซึ้ง การเล่าเรื่องมีความสมดุลระหว่างความตื่นเต้นและอารมณ์ ทำให้ผู้ชมลุ้นทั้งภารกิจและความสัมพันธ์ของตัวละคร อย่างไรก็ตาม บางช่วงของละครอาจรู้สึกยืดเยื้อ โดยเฉพาะฉากดราม่าความรักที่บางครั้งดูซ้ำซากและคาดเดาได้

การแสดง นักแสดงนำทรงพลัง

ศุกลวัฒน์ คณารศ ในบทภูริช ถ่ายทอดความเป็นทหารหนุ่มได้อย่างน่าเชื่อถือ ทั้งความแข็งแกร่งในฉากแอ็คชั่นและความอ่อนโยนในฉากรัก ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ รับบทนภัสชลได้อย่างสมบูรณ์แบบ เธอแสดงถึงความเข้มแข็งและความเมตตาของแพทย์อาสาได้อย่างน่าประทับใจ เคมีระหว่างทั้งคู่เป็นจุดแข็งที่ทำให้ฉากโรแมนติกน่าจดจำ นักแสดงสมทบอย่าง อรรคพันธ์ นะมาตร์, ศรัณย์ ศิริลักษณ์ และ ปราบ ยุทธพิชัย ก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้หน่วยกระทิง โดยเฉพาะฉากมิตรภาพที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ตัวละครอย่างพิมพ์รวีย์และนายชนะบางครั้งถูกนำเสนอในลักษณะที่ดูเป็นสูตรสำเร็จของตัวร้ายในความรัก ทำให้ขาดมิติในบางช่วง การแสดงของนักแสดงบางคนในบทสมทบรองลงมาอาจดูแข็งไปบ้าง แต่ไม่กระทบต่อภาพรวมมากนัก

การผลิต คุณภาพสูงในฉากแอ็คชั่น

งานกำกับของ สยาม น่วมเศรษฐี และการควบคุมของ ธงชัย ประสงค์สันติ ทำให้ละครมีคุณภาพการผลิตที่น่าพอใจ ฉากแอ็คชั่นถูกออกแบบอย่างประณีต ทั้งการยิงปืน การต่อสู้ และการระเบิด ที่ดูสมจริงและน่าตื่นเต้น ฉากที่ถ่ายทำในป่าและพื้นที่ชายแดนช่วยเพิ่มบรรยากาศความสมจริง การตัดต่อและมุมกล้องในฉากต่อสู้ทำได้ดีเยี่ยม สร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชม

คะแนนโดยรวม 8/10 (ละครเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวเข้มข้นที่มาพร้อมความรักและความเสียสละ)

“เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน” เป็นละครที่ประสบความสำเร็จในการผสมผสานแอ็คชั่น โรแมนติก และดราม่าเข้าด้วยกัน การแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงนำ ฉากแอ็คชั่นที่สมจริง และประเด็นที่สร้างแรงบันดาลใจ ทำให้ละครเรื่องนี้เป็นที่จดจำในชุด “ภารกิจรัก” แม้จะมีจุดด้อยในเรื่องจังหวะและการพัฒนาตัวละครบางตัว

ความตื่นเต้นจากฉากแอ็คชั่นที่สมจริง
ตั้งแต่นาทีแรกของละคร ฉากการบุกช่วยตัวประกันในโรงแรมหรูที่ภูเก็ตทำให้หัวใจเต้นแรง ร้อยเอก ภูริช สัตตกมลพันธ์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) และหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” นำทีมเผชิญหน้ากับริกเตอร์ ตัวร้ายที่เต็มไปด้วยความอันตราย การยิงปืน การต่อสู้ และการระเบิดในฉากนี้ชวนให้ลุ้นระทึกจนแทบลืมหายใจ ความรู้สึกตื่นเต้นนี้ยังคงดำเนินต่อไปเมื่อเรื่องราวย้ายไปที่ชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเต็มไปด้วยสมรภูมิป่าเขาและภารกิจเสี่ยงตาย การได้เห็นภูริชและทีมของเขาต่อสู้กับแก๊งยาว้าแดงหรือทลายโรงงานยาบ้า ทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่ในสนามรบจริงๆ ทุกครั้งที่มีกระสุนพุ่งหรือระเบิดดังขึ้น ความรู้สึกของความกลัวและความหวังปะปนกันอย่างลงตัว

ความอบอุ่นและหวานซึ้งจากความรัก
ท่ามกลางความโหดร้ายของสงคราม ความรักระหว่าง ภูริช และ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) เป็นเหมือนแสงสว่างที่ทำให้ใจพองโต ฉากที่นภัสชลช่วยชีวิตภูริชจากการบาดเจ็บสาหัส หรือตอนที่ทั้งคู่ค่อยๆ เปิดใจให้กันในพื้นที่ทุรกันดารของชายแดน ทำให้รู้สึกถึงความหวานและความอบอุ่น เคมีระหว่างศุกลวัฒน์และภัทรศยาที่ถ่ายทอดออกมาทำให้รู้สึกเหมือนได้เห็นความรักที่บริสุทธิ์และมั่นคง แม้จะมีอุปสรรคจาก พิมพ์รวีย์ (ปราณวรินทร์ ปามี) และ นายชนะ (ดนัย สมุทรโคจร) ที่พยายามขัดขวาง แต่ความรู้สึกที่ได้เห็นทั้งคู่ฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อกันและกันนั้นช่างน่าประทับใจ มันทำให้รู้สึกว่าความรักที่แท้จริงคือการยอมรับและสนับสนุนกันในทุกสถานการณ์

ความประทับใจจากมิตรภาพและความเสียสละ
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้หัวใจอิ่มเอมคือมิตรภาพของหน่วยกระทิง การได้เห็น จิรวัติ (อรรคพันธ์ นะมาตร์), คณินทร์ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์), กรัณย์ และ จ่ามี (ปราบ ยุทธพิชัย) ร่วมต่อสู้และปกป้องกันและกัน สร้างความรู้สึกอบอุ่นและชื่นชมในความผูกพันของเพื่อนทหาร ฉากที่พวกเขายอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือกัน โดยเฉพาะเมื่อจ่ามีถูกจับตัวไปและภูริชต้องบุกช่วย ทำให้รู้สึกถึงพลังของความสามัคคีและความเสียสละ นอกจากนี้ การที่ละครสะท้อนถึงความทุ่มเทของทหารและแพทย์อาสาที่ทำงานเพื่อชาติและชุมชน ทำให้เกิดความรู้สึกเคารพและซาบซึ้งในบทบาทของพวกเขา

ความตึงเครียดและน้ำตาจากดราม่า
ละครไม่ได้มีเพียงความตื่นเต้นและความหวานเท่านั้น แต่ยังมีช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกตึงเครียดและน้ำตาคลอ ฉากที่นภัสชลและวริสาถูกจับเป็นตัวประกัน หรือตอนที่ภูริชได้รับบาดเจ็บสาหัสจนเกือบเสียชีวิต ทำให้รู้สึกกังวลและหวาดกลัวไปกับตัวละคร การที่ภูริชต้องเลือกระหว่างหน้าที่และความรักสร้างความรู้สึกหน่วงในใจ แต่เมื่อเห็นนภัสชลยืนหยัดเคียงข้างเขาและยอมรับการตัดสินใจของเขา ความรู้สึกนั้นก็กลายเป็นความซาบซึ้งในความรักที่แข็งแกร่งของทั้งคู่

บางครั้ง ดราม่าจากตัวละครอย่างพิมพ์รวีย์และนายชนะอาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะการขัดขวางของพวกเขาดูเป็นสูตรสำเร็จที่พบได้ในละครทั่วไป แต่เมื่อเรื่องราวคลี่คลายและตัวละครเหล่านี้ยอมรับความจริง ความรู้สึกก็เปลี่ยนเป็นความโล่งใจและเห็นใจในที่สุด

ละคร “เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน” จะพาไปพบกับความตื่นเต้นจากฉากต่อสู้ ความหวานซึ้งจากความรัก ความอบอุ่นจากมิตรภาพ และความซาบซึ้งจากความเสียสละ ละครเรื่องนี้ทำให้รู้สึกทั้งลุ้นระทึก หัวใจเต้นแรง และน้ำตาคลอในเวลาเดียวกัน แม้ว่าบางช่วงอาจรู้สึกว่าดราม่ายืดเยื้อไปบ้าง แต่ภาพรวมแล้ว มันเป็นประสบการณ์ที่ครบรสและน่าจดจำ การแสดงของ ศุกลวัฒน์ คณารศ และ ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ รวมถึงทีมนักแสดงสมทบ ทำให้รู้สึกผูกพันกับตัวละครและอยากเอาใจช่วยพวกเขาจนถึงตอนสุดท้าย

ละครเรื่องนี้ไม่เพียงมอบความบันเทิง แต่ยังจุดประกายความรักชาติและความชื่นชมในผู้ที่เสียสละเพื่อผู้อื่น เป็นละครที่ทำให้รู้สึกอิ่มเอมและอยากแนะนำให้คนอื่นได้สัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตัวเอง


ละคร เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน 2560

ละคร เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน 2560

ละคร เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน 2560 EP.1-10 ENDCH7+

ตรงนี้…ที่หัวใจ Ost.เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน ซีรีส์ภารกิจรัก | ไอซ์ ศรัณยู [Official MV]

ละคร เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน 2560

เปิดฉาก ภารกิจสุดระทึกในภูเก็ต

เรื่องเปิดด้วยภารกิจสุดตื่นเต้นที่โรงแรมหรูในภูเก็ต ที่มีการประชุมการค้าระดับโลก แต่ดันถูก ริกเตอร์ หัวหน้าแก๊ง Black Iron ผู้ก่อการร้ายสุดโหด บุกยึดและจับตัวประกัน ร้อยเอก ภูริช สัตตกมลพันธ์ (ศุกลวัฒน์ คณารศ) หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” จากกองทัพบก ควงทีมสุดยอดทหารอย่าง เรือเอก จิรวัติ (อรรคพันธ์ นะมาตร์) จากกองทัพเรือ, ร.ต.อ. คณินทร์ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) จาก ป.ป.ส., และ เรืออากาศเอก กรัณย์ (มิกค์ ทองระย้า) จากกองบิน 23 ออกปฏิบัติการช่วยตัวประกัน ฉากนี้คือยิงกันสนั่น ระเบิดตู้มต้าม สุดท้ายทีมกระทิงจัดการริกเตอร์ได้ แต่เขาดันระเบิดตัวเองจบชีวิตแบบดราม่าไปเลย ลุ้นจนเหงื่อออก

ชีวิตทหารที่ชายแดน เจอรักท่ามกลางปืน

หลังภารกิจ ภูริชถูกส่งไปประจำการที่ค่ายทหารชายแดนไทย-พม่า โซนทุรกันดารสุดๆ ที่นี่เต็มไปด้วยปัญหาการค้ายาเสพติด ตัดไม้ทำลายป่า และค้ามนุษย์ เรียกว่าท้าทายสุดๆ ที่นี่เอง ภูริชได้เจอกับ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) หมอสาวสุดเก่งที่มาช่วยรักษาชาวบ้านฟรีกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เธอเป็นทั้งอายุรแพทย์และศัลยแพทย์ ฉลาดและใจดีสุดๆ แต่แรกๆ ทั้งสองคนนี่ปะทะคารมกันบ่อยมาก เพราะนภัสชลชอบไปยุ่งกับงานทหารของภูริช ฮ่าๆ

แต่นอกจากนภัสชลแล้ว ยังมี วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) หมอสาวอีกคนที่แอบปลื้มภูริชหนักมาก เธออิจฉานภัสชลแบบสุดๆ เพราะนภัสชลทั้งเก่งและได้ใจชาวบ้าน วริสาดันเล่นแง่ ทำร้ายนภัสชลหลายครั้ง แต่ทุกครั้งภูริชก็โผล่มาช่วยได้ทันแบบพระเอกสุดๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าวริสาแอบร้าย

ปฏิบัติการทลายยาบ้า เกือบไม่รอด

มาถึงภารกิจเดือดๆ ภูริชและหน่วยกระทิงต้องตามล่าโรงงานยาบ้าในป่าลึกติดชายแดน พอเจอเป้าหมายก็จัดเต็มบุกทลาย! แต่ดันเกิดดราม่าเมื่อ จ่ามี (ปราบ ยุทธพิชัย) ลูกน้องคนสนิทถูกคนร้ายจับตัวไป ภูริชไม่รอช้า บุกเดี่ยวไปช่วย เขาจัดการหัวหน้าแก๊งว้าแดงได้ แต่ตัวเองถูกยิงสาหัส ตอนนี้คือลุ้นสุดๆ วริสาขอผ่าตัดช่วยภูริช แต่ดันพลาดเกือบทำให้เขาตาย โชคดีที่นภัสชลเข้ามาแก้สถานการณ์ทัน ช่วยชีวิตภูริชไว้ได้แบบฉลาดสุดๆ

ภูริชถูกส่งไปรักษาตัวที่กรุงเทพฯ มี แม่ปีย์ (กชกร นิมากรณ์) และ ภีรชา (บารมิตา สาครจันทร์) น้องสาวคอยดูแล แถมยังมี พิมพ์รวีย์ (ปราณวรินทร์ ปามี) ลูกสาวนายพลอนุชิต (ธนายง ว่องตระกูล) ผู้บัญชาการของภูริช มาดูแลในฐานะพยาบาล แอบเอาใจสุดๆ เพราะแอบชอบเขา ตอนนี้ภูริชเริ่มรู้ว่านภัสชลคือคนที่ช่วยชีวิตเขา และหัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรงให้เธอแล้ว

สงครามที่เมืองลาซะ รักและอันตราย

เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อเกิดการสู้รบที่เมืองเผ่าลาซะ นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) และลูกชาย ลาชิ (นันทศัย พิศลยบุตร) พยายามยึดอำนาจจาก นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) ที่มีลูกชายสองคนคือ ผู้กองชยิน (หลุยส์ เอสดาร์ซัน) และ เตโช (พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์) คอยปกป้องฐานที่มั่น ลาแปวางแผนซื้อพิมพ์เขียวระเบิดนำวิถีจาก วาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) นายหน้าค้าอาวุธ โดยใช้เส้นสายจากวริสา ลูกสาวของเขา

เมื่อข่าวนี้รั่วถึงนายพลอาเช เขาสั่งให้ชยินและ ซาเยร์ (พีรวัชร์ เหราบัตย์) ลักพาตัวลูกสาวของวาริสเพื่อต่อรอง แต่ดันจับผิดตัว วริสาและนภัสชลถูกจับไปทั้งคู่ เพราะไม่รู้ว่าใครคือลูกสาววาริส งานนี้กองทัพส่งภูริชไปช่วยตัวประกัน โดยนภัสชลคือลูกสาวเอกอัครราชทูตไทยประจำนอร์เวย์ ภูริชปลอมตัวเป็น มองเทร์ มี จาโป (วิทยา เจตะภัย) และ กีซา (กิ๊ฟ ชวนชื่น) ชาวพื้นเมืองนำทาง และได้ ฐิติ (อรุชา โตสวัสดิ์) อดีตตำรวจสุดเก๋ากับ เล่าซาง (จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ) ช่วยพาไปถึงฐานของชยิน

การหนีตายและรักที่ผลิบาน

ภูริชบุกช่วยนภัสชลสำเร็จ ขโมยพิมพ์เขียวอาวุธมาได้ ส่วนวริสาหนีไปกับวาริส พ่อของเธอ นภัสชลและภูริชต้องหนีการไล่ล่าผ่านป่าหลายวันหลายคืน ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักกัน! แต่เมื่อหนีรอดมาถึงค่ายทหาร เรื่องดราม่าก็มา นภัสชลวิ่งไปกอด กรัณย์ เพื่อนของภูริชที่เธอสนิทเหมือนพี่ชาย ภูริชเข้าใจผิดคิดว่าเขาคือแฟนของเธอ เลยทำตัวเย็นชาใส่นภัสชล แม้ว่ากรัณย์จะบอกแล้วว่าเธอเหมือนน้องสาว งานนี้ทั้งสองเลยมีกำแพงในใจ แถมยังมี พิมพ์รวีย์ ที่พยายามแทรกกลาง และ นายชนะ (ดนัย สมุทรโคจร) แฟนเก่าของนภัสชลที่โผล่มาขอคืนดี เพิ่มดราม่าให้รักของทั้งคู่ยิ่งซับซ้อน

รักแท้และภารกิจเพื่อชาติ

เรื่องถึงจุดพีคเมื่อภูริชต้องกลับไปรบที่ชายแดน เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจนนอนโคม่า นภัสชลไปเยี่ยมด้วยใจที่แตกสลาย ร้องไห้ขอให้เขาฟื้น เธอยอมยกโทษทุกอย่างเพื่อให้ได้เขากลับมา และปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น! ภูริชฟื้นขึ้นมา และทั้งคู่เคลียร์ใจกันได้ นภัสชลและภูริชตัดสินใจแต่งงานกัน โดยมีครอบครัวและเพื่อนทหารอย่างจิรวัติ, คณินทร์, กรัณย์ และจ่ามี ร่วมยินดี ด้านพิมพ์รวีย์ยอมถอยเพื่อให้ทั้งคู่สมหวัง ส่วนนายชนะก็จากไปเงียบๆ

“เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน” คือละครที่ครบรสมาก มีทั้งแอ็คชั่นที่ลุ้นจนนั่งไม่ติด ดราม่าความรักที่บีบหัวใจ และมิตรภาพของทีมกระทิงที่ทำให้รู้สึกอบอุ่น การแสดงของ ศุกลวัฒน์ และ ภัทรศยา คือเคมีลงตัวสุดๆ ฉากในป่าและการต่อสู้คือสมจริงมาก ถ้าชอบละครที่ทั้งมันส์ หวาน และซึ้ง เรื่องนี้คือต้องดู

เบื้องหลังละคร เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน ปี 2560 ละครในชุด “ภารกิจรัก” เรื่องนี้คือมันส์ครบรส ทั้งแอ็คชั่น ดราม่า ความรัก เรียกว่าจัดเต็ม อยากรู้มั้ยว่าใครคือคนที่ทำให้ละครเรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้

เริ่มที่ต้นกำเนิดสุดเจ๋ง
ละครเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นจาก บทประพันธ์ โดย อักษรา นักเขียนที่ปั้นเรื่องราวสุดเข้มข้นนี้ออกมา นิยายของอักษรานี่คือต้นฉบับที่ทำให้เราตื่นเต้นไปกับภารกิจของทหารหนุ่มและหมอสาว อักษราวางโครงเรื่องให้มีทั้งความมันส์ของการต่อสู้และความหวานของรักแท้ท่ามกลางสมรภูมิ เรียกว่าคิดมาแบบครบสูตรเลย

บทโทรทัศน์สุดปัง

01
เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์

จากนิยายสุดเจ๋ง ต้องยกความดีความชอบให้ เบญจมาศ ดาลหิรัญรัตน์ ที่มาแปลงเรื่องให้เป็น บทโทรทัศน์ สุดลื่นไหล เบญจมาศนี่คือคนที่ทำให้ตัวละครอย่าง ร้อยเอก ภูริช และ พญ.นภัสชล มีชีวิตขึ้นมาบนจอ บทพูดแต่ละฉากนี่ทั้งคม ทั้งซึ้ง ผสมความดราม่าและแอ็คชั่นได้ลงตัวสุดๆ เหมือนเอาความรู้สึกจากนิยายมาใส่ภาพให้เราเห็นชัดๆ งานนี้ต้องปรบมือรัวๆ ให้เลย

กำกับการแสดงสุดเทพ

17958 002
สยาม น่วมเศรษฐี

ต่อมา ต้องพูดถึง สยาม น่วมเศรษฐี ผู้กำกับที่ควบคุมทุกฉากให้เป๊ะปัง สยามคือคนที่ทำให้ฉากยิงกันในป่าหรือฉากช่วยตัวประกันดูสมจริงจนนั่งไม่ติด ไม่ว่าจะเป็นฉากแอ็คชั่นที่ระเบิดตู้มต้าม หรือฉากรักหวานๆ ที่ทำให้ใจฟู สยามจัดมุมกล้องและจังหวะได้แบบมือโปร ดูแล้วรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ เลยล่ะ

บอสใหญ่ที่ควบคุมทุกอย่าง

ธงชัย ประสงค์สันติ

และคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมดคือ ธงชัย ประสงค์สันติ ผู้ควบคุมการผลิต บอกเลยว่า พี่ธงชัยคือสมองหลักที่ทำให้ทุกอย่างลงล็อก ตั้งแต่การเลือกนักแสดง การจัดการฉากแอ็คชั่นสุดอลัง ไปจนถึงการดูแลให้ทุกส่วนของละครเป๊ะ งานนี้ถ้าไม่มีพี่ธงชัย ละครอาจจะไม่ครบรสขนาดนี้แน่นอน

ทีมโปรดักชั่นสุดปัง
สุดท้าย ต้องให้เครดิต บริษัท พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด ที่ลงมือผลิตละครเรื่องนี้ ทีมนี้คือตัวจริงในการเนรมิตฉากชายแดน ป่าทึบ และโรงแรมสุดหรูให้ออกมาสมจริง การเลือกนักแสดงอย่าง ศุกลวัฒน์ คณารศ, ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ, และทีมทหารสุดเท่ งานนี้คือลงตัวทุกอย่าง

“เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน” ไม่ได้มีดีแค่นักแสดงหรือเนื้อเรื่องนะ แต่ทีมเบื้องหลังนี่แหละที่ทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นตำนาน ตั้งแต่ อักษรา ที่เขียนนิยายสุดมันส์, เบญจมาศ ที่แปลงเป็นบทโทรทัศน์สุดปัง, สยาม น่วมเศรษฐี ที่กำกับแบบเทพ, ธงชัย ประสงค์สันติ ที่คุมทุกอย่างให้เป๊ะ และ พอดีคำ เอ็นเทอร์เทนเมนต์ ที่เนรมิตทุกอย่างให้สมบูรณ์ ทีมนี้คือ MVP จริงๆ

นักแสดง

→ ศุกลวัฒน์ คณารศ รับบท ร้อยเอกภูริช

hq720
ศุกลวัฒน์ คณารศ

ร้อยเอก ภูริช คือหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” จากกองทัพบก หนุ่มทหารที่ทั้งเท่ กล้าหาญ และมีหัวใจเพื่อชาติสุดๆ เขาคือผู้นำที่พร้อมลุยทุกภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัวประกันจากผู้ก่อการร้ายในโรงแรมที่ภูเก็ต หรือการทลายโรงงานยาบ้าที่ชายแดนไทย-พม่า ภูริชเป็นคนที่เด็ดเดี่ยว คิดเร็ว ทำเร็ว และไม่เคยยอมแพ้ แม้จะต้องเจอกับสถานการณ์สุดเสี่ยงตายอย่างการบุกเดี่ยวช่วย จ่ามี ลูกน้องที่ถูกจับ หรือการช่วย พญ.นภัสชล จากการถูกลักพาตัว

แต่นอกจากความแข็งแกร่ง ภูริชยังมีมุมที่อบอุ่นและอ่อนโยน โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับนภัสชล หมอสาวที่ขโมยหัวใจเขาไป เขาเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก แต่ก็มีโมเมนต์งงๆ เข้าใจผิดว่านภัสชลรัก กรัณย์ เพื่อนสนิท ทำให้เกิดดราม่านิดๆ แต่สุดท้ายเขาก็พิสูจน์ว่ารักแท้ของเขาคือการปกป้องและเสียสละเพื่อคนที่รักและชาติ ศุกลวัฒน์ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดปัง ทั้งฉากบู๊ที่ดุดันและฉากรักที่ทำให้คนดูฟินจนจิกหมอน

ฉายา “กระทิงเหล็ก”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ภูริช ต้องเป็น กระทิงเหล็ก เพราะเขาแข็งแกร่งเหมือนเหล็กกล้าในสนามรบ และเป็นผู้นำหน่วยกระทิงที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเจอศัตรูหนักแค่ไหน เขาก็ยืนหยัดได้แบบไม่หวั่น

ข้อคิด ความเสียสละเพื่อส่วนรวมคือเกียรติยศสูงสุด
จากตัวละครภูริช เราได้ข้อคิดว่าการเสียสละเพื่อชาติและคนที่รักคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกหน้าที่เหนือความรัก หรือการเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ภูริชสอนเราว่าความกล้าหาญและความรับผิดชอบคือหัวใจของผู้นำที่แท้จริง

→ ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ รับบท พ.ญ.นภัสชล

hq720
ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ

พญ.นภัสชล คือหมอสาวสุดสตรองที่เป็นทั้งอายุรแพทย์และศัลยแพทย์ เธอเลือกทิ้งความสะดวกสบายในเมืองเพื่อมาทำงานกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่ชายแดนไทย-พม่า ช่วยรักษาชาวบ้านในพื้นที่ทุรกันดารแบบฟรีๆ นภัสชลคือคนที่ทุ่มเทสุดใจ มีความเมตตา และเก่งมากๆ เธอไม่กลัวที่จะลงมือช่วยคนไข้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน แม้จะต้องเสี่ยงชีวิต เช่น ตอนที่ช่วยชีวิต ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) จากการบาดเจ็บสาหัสในภารกิจทลายโรงงานยาบ้า

แต่ความเก่งของเธอก็มาพร้อมความดื้อนิดๆ เพราะบางทีเธอก็แอบไปยุ่งกับงานทหารของภูริช จนมีปากเสียงกันบ่อยๆ แต่ก็เป็นจุดที่ทำให้ทั้งคู่เริ่มสนิทกัน ความรักของนภัสชลและภูริชค่อยๆ ก่อตัวท่ามกลางอันตราย โดยเฉพาะตอนที่เธอถูกลักพาตัวในเมืองลาซะ และภูริชต้องเสี่ยงตายเพื่อช่วยเธอ นภัสชลยังต้องเผชิญดราม่าจาก วริสา ที่อิจฉา และ นายชนะ แฟนเก่าที่พยายามกลับมาทวงใจ แต่เธอก็ยืนหยัดด้วยหัวใจที่มั่นคง ภัทรศยาเล่นบทนี้ได้แบบสุดปัง ทำให้เรารู้สึกถึงทั้งความเข้มแข็งและความอ่อนโยนของนภัสชล

ฉายา “หมอใจเพชร”
ถ้าจะตั้งฉายาให้พญ.นภัสชล ต้องเป็น หมอใจเพชร เพราะเธอมีหัวใจที่แข็งแกร่งเหมือนเพชร กล้าทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนอื่น และยังคงยิ้มได้แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

ข้อคิด ความเมตตาคือพลังที่เปลี่ยนชีวิต
จากตัวละครนภัสชล เราได้ข้อคิดว่าความเมตตาและการทุ่มเทเพื่อผู้อื่นสามารถสร้างความแตกต่างได้ แม้ในที่ที่อันตราย เธอเลือกช่วยเหลือชาวบ้านและยืนหยัดเคียงข้างคนที่รัก สอนให้เรารู้ว่าการให้โดยไม่หวังผลตอบแทนคือสิ่งที่ทำให้โลกนี้สวยงาม

→ ปราณวรินทร์ ปามี รับบท พิมพ์วรีย์

1394566
ปราณวรินทร์ ปามี

พิมพ์วรีย์คือลูกสาวของ นายพลอนุชิต (ธนายง ว่องตระกูล) ผู้บัญชาการหน่วยของ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) เธอเป็นสาวสวย มีเสน่ห์ และมีความมั่นใจสูง แต่ที่เด่นสุดคือความรักที่เธอมีให้กับภูริชแบบสุดหัวใจ ในละคร เธอปรากฏตัวในฐานะพยาบาลที่คอยดูแลภูริชตอนเขาบาดเจ็บและนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อชนะใจเขา ไม่ว่าจะเป็นการดูแลอย่างใกล้ชิดหรือใช้ความเป็นลูกสาวนายพลเพื่อเข้าใกล้

แต่ว่าด้วยความที่ภูริชมีใจให้ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) พิมพ์วรีย์เลยกลายเป็นตัวละครที่สร้างดราม่าในเรื่องความรัก เธอแอบหวงและพยายามแทรกแซงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ บางครั้งก็ดูเหมือนจะร้ายนิดๆ แต่ถ้ามองลึกๆ เธอแค่เป็นคนที่รักมากและอยากได้สิ่งที่หวัง ถึงแม้จะทำผิดวิธีไปบ้าง สุดท้ายเธอก็ยอมรับความจริงและถอยออกมาแบบมีศักดิ์ศรี ปราณวรินทร์ถ่ายทอดบทนี้ได้ดีมาก ทำให้เรารู้สึกทั้งหมั่นไส้และสงสารพิมพ์วรีย์ในเวลาเดียวกัน

ฉายา “สาวหวงรัก”
ถ้าจะตั้งฉายาให้พิมพ์วรีย์ ต้องเป็น สาวหวงรัก เพราะเธอทุ่มเททุกอย่างเพื่อปกป้องความรักของตัวเอง แม้ว่าจะต้องเจอกับความผิดหวังก็ตาม

ข้อคิด การยอมรับความจริงคือการก้าวไปข้างหน้า
จากตัวละครพิมพ์วรีย์ เราได้ข้อคิดว่าบางครั้งการรักใครสักคนอาจไม่ได้สมหวัง แต่การยอมรับความจริงและปล่อยวางคือหนทางที่จะทำให้เราเติบโตและพบความสุขที่แท้จริงของตัวเอง

→ บารมิตา สาครจันทร์ รับบท ภีรชา

ptpr5j7c9dkJbg8waJq4 o
บารมิตา สาครจันทร์

ภีรชาคือ น้องสาว ของ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) พระเอกสุดเท่ของเรา เธอเป็นสาวน้อยที่สดใส มีความรักและห่วงใยพี่ชายแบบสุดๆ ในละคร เราจะเห็นภีรชาคอยเป็นกำลังใจให้ภูริช โดยเฉพาะตอนที่เขาต้องเผชิญภารกิจหนักๆ หรือตอนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบที่ชายแดนแล้วถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ภีรชาจะอยู่เคียงข้างพี่ชาย ร่วมกับ แม่ปีย์ (กชกร นิมากรณ์) แม่ของทั้งคู่ คอยดูแลและให้กำลังใจ

ถึงบทของภีรชาจะไม่ใช่ตัวหลักที่ขับเคลื่อนเรื่อง แต่เธอก็เป็นเหมือนตัวแทนของครอบครัวที่อบอุ่น ทำให้เราเห็นว่าภูริชไม่ได้สู้เพียงลำพัง เธอมีนิสัยน่ารัก อ่อนโยน และเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี บารมิตาเล่นบทนี้ได้แบบเป็นธรรมชาติมาก ทำให้เรารู้สึกถึงความรักในครอบครัวและความผูกพันระหว่างพี่น้องที่อบอุ่นหัวใจ

ฉายา “น้องสาวใจแกร่ง”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ภีรชา ต้องเป็น น้องสาวใจแกร่ง เพราะถึงเธอจะดูอ่อนโยน แต่เธอก็มีหัวใจที่แข็งแกร่ง คอยสนับสนุนพี่ชายในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะตอนที่เขาต้องเผชิญความเป็นความตาย

ข้อคิด ครอบครัวคือพลังที่ยิ่งใหญ่
จากตัวละครภีรชา เราได้ข้อคิดว่าครอบครัวคือที่พักพิงและกำลังใจที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายแค่ไหน การมีครอบครัวที่คอยสนับสนุนจะช่วยให้เราผ่านพ้นทุกอย่างได้

→ อธิชนัน ศรีเสวก รับบท วริสา

223010013010045
อธิชนัน ศรีเสวก

วริสาคือหมอสาวที่ทำงานร่วมกับ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) ในหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่ชายแดนไทย-พม่า เธอเป็นคนเก่ง มีความสามารถ แต่ลึกๆ แล้วมีมุมที่อิจฉานภัสชลหนักมาก เพราะนภัสชลทั้งเก่ง ได้ใจชาวบ้าน และยังสนิทกับ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ที่วริสาแอบปลื้มอยู่ วริสาพยายามทำตัวเด่นและเข้าใกล้ภูริช แต่ความอิจฉาทำให้เธอแอบร้าย ถึงขั้นวางแผนทำร้ายนภัสชลหลายครั้ง แต่ทุกครั้งภูริชก็โผล่มาช่วยไว้ได้แบบไม่รู้ตัวว่าเธอร้าย

เรื่องยิ่งพีคเมื่อวริสาถูกจับตัวไปพร้อมนภัสชลในเหตุการณ์เมืองลาซะ เพราะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นลูกสาวของ วาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) พ่อของเธอที่เป็นนายหน้าค้าอาวุธ วริสาเลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งใหญ่ในเรื่อง สุดท้ายเธอหนีไปกับพ่อ แต่ก็ทิ้งรอยดราม่าไว้เยอะ อธิชนันเล่นบทนี้ได้แบบทำให้คนดูหมั่นไส้ แต่ก็แอบสงสาร เพราะวริสาคือคนที่ปล่อยให้ความอิจฉาครอบงำจนทำผิด อธิชนันถ่ายทอดความซับซ้อนของตัวละครนี้ได้ดีมาก

ฉายา “เงาร้ายแห่งความรัก”
ถ้าจะตั้งฉายาให้วริสา ต้องเป็น เงาร้ายแห่งความรัก เพราะเธอเหมือนเงาที่คอยตามรบกวนความรักของภูริชและนภัสชล ด้วยความอิจฉาและความต้องการเอาชนะ

ข้อคิด อย่าปล่อยให้ความอิจฉาครอบงำใจ
จากตัวละครวริสา เราได้ข้อคิดว่าความอิจฉาสามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาดและทำร้ายทั้งตัวเองและผู้อื่น การควบคุมอารมณ์และยอมรับความสามารถของคนอื่นจะช่วยให้เราเติบโตได้ดีกว่า

→ กชกร นิมากรณ์ รับบท ปรียาพร

ca36bc10 3f12 11ee bd18 430f416b26c8 webp original
กชกร นิมากรณ์

ปรียาพร หรือ แม่ปีย์ คือ คุณแม่ ของ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) และ ภีรชา (บารมิตา สาครจันทร์) เธอเป็นแม่ที่ทั้งใจดีและเข้มแข็ง คอยเป็นกำลังใจให้ลูกๆ โดยเฉพาะภูริชที่ต้องออกไปทำภารกิจเสี่ยงตายในฐานะหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” ในละคร เราเห็นแม่ปีย์ปรากฏตัวในช่วงที่ภูริชได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบที่ชายแดนไทย-พม่า เธอเดินทางมาดูแลลูกชายที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ พร้อมกับภีรชา แสดงให้เห็นถึงความรักและความห่วงใยที่ไม่มีเงื่อนไข

แม่ปีย์เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีบทบาทในแนวหน้าของเรื่อง แต่เธอคือพลังเงียบที่คอยสนับสนุนครอบครัวให้มั่นคง เธอมีความอ่อนโยนแต่ก็แฝงด้วยความเข้มแข็งของแม่ที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อลูก กชกร นิมากรณ์ถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้เรารู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักของแม่ที่แท้จริง

ฉายา “หัวใจของครอบครัว”
ถ้าจะตั้งฉายาให้แม่ปีย์ ต้องเป็น หัวใจของครอบครัว เพราะเธอคือศูนย์กลางที่เชื่อมโยงและให้กำลังใจทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าสถานการณ์จะหนักแค่ไหน

ข้อคิด ความรักของแม่คือพลังที่ไม่มีวันหมด
จากตัวละครปรียาพร เราได้ข้อคิดว่าความรักของแม่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่และไม่มีเงื่อนไข ไม่ว่าจะเผชิญความยากลำบากแค่ไหน การมีแม่ที่คอยสนับสนุนจะทำให้เรามีกำลังใจก้าวต่อไป

→ ธนายง ว่องตระกูล รับบท นายพลอนุชิต

ธนายง ว่องตระกูล

นายพลอนุชิตคือผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) เขาคือทหารระดับสูงที่มีความเข้มงวดและเด็ดขาดในการบริหารงาน เป็นผู้นำที่ดูแลภารกิจสำคัญๆ เช่น การจัดการปัญหายาเสพติดที่ชายแดนไทย-พม่า หรือการช่วยตัวประกันในเมืองลาซะ นายพลอนุชิตมีบุคลิกที่น่าเกรงขาม สุขุม และมีวิสัยทัศน์ในการปกป้องชาติ แต่ก็มีมุมที่เป็นพ่อที่ห่วงใย พิมพ์วรีย์ (ปราณวรินทร์ ปามี) ลูกสาวของเขา ซึ่งแอบชอบภูริช

ในเรื่อง เขาคอยสั่งการและสนับสนุนหน่วยกระทิงของภูริชให้ทำภารกิจสำเร็จ แม้ว่าจะไม่ได้ลงสนามเอง แต่การตัดสินใจของเขามีผลต่อทิศทางของเรื่องมาก ธนายง ว่องตระกูลถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสมบูรณ์แบบ ทำให้เราเห็นทั้งความเข้มแข็งของผู้นำและความอบอุ่นของพ่อในตัวนายพลอนุชิต

ฉายา “นายพลใจเหล็ก”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ นายพลอนุชิต ต้องเป็น นายพลใจเหล็ก เพราะเขาเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยว และมีจิตใจที่มุ่งมั่นในการปกป้องชาติและทีมของเขา

ข้อคิด ความรับผิดชอบคือรากฐานของผู้นำ
จากตัวละครนายพลอนุชิต เราได้ข้อคิดว่าผู้นำที่ดีต้องมีความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าที่ ทีม หรือครอบครัว การตัดสินใจที่เด็ดขาดและมีเป้าหมายเพื่อส่วนรวมคือสิ่งที่ทำให้ผู้นำได้รับความเคารพ

→ อรรคพันธ์ นะมาตร์ รับบท เรือเอก จิรวัติ

171301a0 49b2 11eb 9b6d 3fdf37c2e48e original
อรรคพันธ์ นะมาตร์

เรือเอก จิรวัติคือทหารจากกองทัพเรือ และเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมสุดยอดทหารหัวกะทิที่ร่วมปฏิบัติภารกิจกับ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ในหน่วยรบพิเศษ เขาเป็นเพื่อนรักของภูริช รวมถึง ร.ต.อ. คณินทร์ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) และ เรืออากาศเอก กรัณย์ (มิกค์ ทองระย้า) จิรวัติปรากฏตัวตั้งแต่ฉากแรกในภารกิจช่วยตัวประกันจากผู้ก่อการร้าย ริกเตอร์ ที่โรงแรมในภูเก็ต เขาคือคนที่ไว้ใจได้ มีความสามารถในการต่อสู้ และเป็นกำลังสำคัญของทีม

ถึงแม้จิรวัติจะไม่ได้มีบทเด่นเท่าภูริช แต่เขาเป็นตัวละครที่แสดงถึงความภักดีและมิตรภาพที่แท้จริง เขาคอยสนับสนุนเพื่อนๆ ในทุกภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสู้รบที่ชายแดนหรือการช่วยเหลือตัวประกันในเมืองลาซะ จิรวัติมีบุคลิกที่เป็นกันเอง แต่ก็จริงจังเมื่อถึงเวลาลงสนาม อรรคพันธ์ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบลงตัว ทำให้เรารู้สึกถึงความเป็นเพื่อนที่พร้อมลุยไปด้วยกันในทุกสถานการณ์

ฉายา “เพื่อนแท้แห่งสมรภูมิ”
ถ้าจะตั้งฉายาให้จิรวัติ ต้องเป็น เพื่อนแท้แห่งสมรภูมิ เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ยืนเคียงข้างทีมในทุกการต่อสู้ พร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อภารกิจและมิตรภาพ

ข้อคิด มิตรภาพที่แท้จริงคือการอยู่เคียงข้างกัน
จากตัวละครจิรวัติ เราได้ข้อคิดว่ามิตรภาพที่แท้จริงคือการสนับสนุนกันและกันในยามยาก ไม่ว่าจะเจอสถานการณ์ไหน เพื่อนที่ดีจะคอยเคียงข้างและช่วยเหลือเสมอ

→ ศรัณย์ ศิริลักษณ์ รับบท ร.ต.อ. คณินทร์

X4epQuUfBt7Y0MveWMo6
ศรัณย์ ศิริลักษณ์

ร.ต.อ. คณินทร์ คือตำรวจจากหน่วยป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมสุดยอดทหารหัวกะทิที่ทำงานร่วมกับ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ), เรือเอก จิรวัติ (อรรคพันธ์ นะมาตร์), และ เรืออากาศเอก กรัณย์ (มิกค์ ทองระย้า) เขาเข้าร่วมภารกิจแรกสุดระทึกในการช่วยตัวประกันจากผู้ก่อการร้าย ริกเตอร์ ที่โรงแรมในภูเก็ต คณินทร์เป็นคนที่ฉลาด มีความสามารถในการวางแผน และเด็ดเดี่ยวในสนามรบ

ถึงแม้บทของคณินทร์จะไม่ใช่ตัวหลัก แต่เขาเป็นส่วนสำคัญของทีมที่ช่วยให้ภารกิจสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการสู้รบที่ชายแดนหรือการต่อสู้กับแก๊งค้ายา เขามีบุคลิกที่ดูสุขุมแต่ก็พร้อมลุยเมื่อถึงเวลา เป็นเพื่อนที่ไว้ใจได้และคอยสนับสนุนทีมในทุกสถานการณ์ ศรัณย์ ศิริลักษณ์ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเนียนๆ ทำให้คณินทร์เป็นตัวละครที่ดูเท่และมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง

ฉายา “สมองกลแห่งทีม”
ถ้าจะตั้งฉายาให้คณินทร์ ต้องเป็น สมองกลแห่งทีม เพราะเขาเป็นคนที่ใช้ความฉลาดและการวางแผนช่วยทีมในภารกิจสุดหิน เป็นเหมือนมันสมองที่ขาดไม่ได้ของหน่วย

ข้อคิด ความฉลาดและทีมเวิร์คคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
จากตัวละครคณินทร์ เราได้ข้อคิดว่าการใช้ความฉลาดควบคู่กับการทำงานเป็นทีมสามารถนำพาไปสู่ชัยชนะได้ แม้จะเจอสถานการณ์ยากลำบาก การวางแผนดีและความสามัคคีคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างสำเร็จ

→ มิกค์ ทองระย้า รับบท เรืออากาศเอก กรัณย์

hq720
มิกค์ ทองระย้า

เรืออากาศเอก กรัณย์ คือทหารจากกองบิน 23 สังกัดหน่วย ALPHA JET และเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมทหารหัวกะทิที่ลุยภารกิจเคียงข้าง ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ), เรือเอก จิรวัติ (อรรคพันธ์ นะมาตร์), และ ร.ต.อ. คณินทร์ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์) เขาเข้าร่วมภารกิจสุดมันส์ตั้งแต่ฉากแรกที่ต้องช่วยตัวประกันจากผู้ก่อการร้าย ริกเตอร์ ในโรงแรมที่ภูเก็ต กรัณย์เป็นคนที่มีความสามารถสูง เท่ และมีบุคลิกที่เป็นกันเอง ทำให้เป็นที่รักของเพื่อนๆ ในทีม

นอกจากนี้ กรัณย์ยังมีบทบาทในเรื่องราวความรักของภูริชและ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) เพราะเขาสนิทกับนภัสชลเหมือนน้องสาว แต่ดันทำให้ภูริชเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นแฟนของเธอ สร้างโมเมนต์ดราม่านิดๆ แต่กรัณย์ก็เคลียร์ให้ทุกอย่างชัดเจนด้วยความเป็นเพื่อนที่ดี มิกค์ ทองระย้าถ่ายทอดบทนี้ได้แบบลงตัว ทั้งความเท่ในฉากแอ็คชั่นและความอบอุ่นในฉากมิตรภาพ

ฉายา “พี่ชายแห่งทีม”
ถ้าจะตั้งฉายาให้กรัณย์ ต้องเป็น พี่ชายแห่งทีม เพราะเขาเป็นเหมือนพี่ใหญ่ที่ทั้งเท่ ไว้ใจได้ และคอยดูแลทุกคนในทีม รวมถึงเป็นที่พึ่งของนภัสชลในฐานะพี่ชาย

ข้อคิด ความชัดเจนในมิตรภาพช่วยลดความเข้าใจผิด
จากตัวละครกรัณย์ เราได้ข้อคิดว่าการสื่อสารและความชัดเจนในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพหรือความรัก เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันความเข้าใจผิดและรักษาความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้น

→ วัลวิภา โยคะกุล รับบท คุณหญิงพิมพ์แข

hq720
วัลวิภา โยคะกุล

คุณหญิงพิมพ์แขคือตัวละครที่มีความสง่างามและมีสถานะทางสังคมสูง เธอเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงกับครอบครัวของ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และมีความสัมพันธ์กับ ท่านทูตอนันต์ (ตฤณ เศรษฐโชค) และ คุณหญิงวลัยพรรณ (สุธิตา เกตานนท์) ในฐานะที่อยู่ในแวดวงชนชั้นสูง คุณหญิงพิมพ์แขปรากฏตัวในช่วงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญ เช่น การช่วยเหลือตัวประกันในเมืองลาซะ ซึ่งนภัสชลถูกลักพาตัว เธอแสดงถึงความเป็นผู้นำที่มีความสุขุมและเด็ดเดี่ยว

ถึงบทของเธอจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่คุณหญิงพิมพ์แขคือตัวแทนของความเข้มแข็งและความสง่างามในยามที่สถานการณ์ตึงเครียด เธอมีบุคลิกที่น่าเกรงขาม แต่ก็แฝงด้วยความอบอุ่นและความห่วงใยต่อคนรอบข้าง วัลวิภา โยคะกุลถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้คุณหญิงพิมพ์แขดูมีพลังและมีเสน่ห์ในแบบของสาวใหญ่

ฉายา “ราชินีแห่งความสง่า”
ถ้าจะตั้งฉายาให้คุณหญิงพิมพ์แข ต้องเป็น ราชินีแห่งความสง่า เพราะเธอมีทั้งความสง่างามและความเข้มแข็งที่ทำให้ทุกคนในเรื่องยอมรับและเคารพ

ข้อคิด ความสง่างามคือความแข็งแกร่งภายใน
จากตัวละครคุณหญิงพิมพ์แข เราได้ข้อคิดว่าความสง่างามไม่ได้มาจากรูปลักษณ์หรือสถานะเท่านั้น แต่มาจากความเข้มแข็งภายในใจและการยืนหยัดในสถานการณ์ยากลำบาก

→ หลุยส์ เอสดาร์ซัน รับบท ผู้กองชยิน

หลุยส์ เฮสดาร์ซัน

ผู้กองชยินคือลูกชายของ นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) และเป็นกำลังสำคัญในการปกป้องฐานที่มั่นของรัฐลาซะ เขาเป็นทหารที่เด็ดเดี่ยว มีความสามารถในการต่อสู้ และทุ่มเทเพื่อครอบครัวและอำนาจของพ่อ แต่ในละคร เขาคือตัวร้ายที่เพิ่มความตึงเครียดให้เรื่องราว เพราะเขาได้รับคำสั่งให้ลักพาตัว พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และ วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) เพื่อใช้เป็นตัวประกันต่อรองพิมพ์เขียวอาวุธจาก วาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) โดยมี ซาเยร์ (พีรวัชร์ เหราบัตย์) ทหารคู่ใจคอยช่วย

ชยินมีบุคลิกที่เย็นชาและมุ่งมั่น แต่ก็มีความภักดีต่อเป้าหมายของครอบครัว เขาเป็นตัวละครที่ทำให้เราเห็นด้านมืดของความขัดแย้งในเมืองลาซะ และเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ต้องเผชิญ หลุยส์ เอสดาร์ซันถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดปัง ทำให้ชยินดูทั้งน่ากลัวและมีเสน่ห์ในแบบตัวร้ายที่ไม่ธรรมดา

ฉายา “เงามืดแห่งลาซะ”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ผู้กองชยิน ต้องเป็น เงามืดแห่งลาซะ เพราะเขาเหมือนเงามืดที่คอยสร้างความวุ่นวายและความท้าทายให้กับตัวเอกในสงครามเมืองลาซะ

ข้อคิด ความภักดีที่ผิดทางอาจนำไปสู่ความสูญเสีย
จากตัวละครชยิน เราได้ข้อคิดว่าความภักดีต่อเป้าหมายหรือครอบครัวนั้นดี แต่ถ้าเลือกทางที่ผิด เช่น การทำร้ายผู้อื่น อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เสียหาย การเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องสำคัญกว่าการยึดติดกับเป้าหมายโดยไม่สนใจผลกระทบ

→ พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์ รับบท เตโช

e27b088847f554bf9cbea3e1d0fd444d
พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์

เตโชคือลูกชายของ นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) และเป็นน้องชายของ ผู้กองชยิน (หลุยส์ เอสดาร์ซัน) ในเมืองลาซะ เขาเป็นทหารที่ช่วยพ่อและพี่ชายปกป้องฐานที่มั่นจากฝั่งของ นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) ที่พยายามยึดอำนาจ เตโชเป็นตัวละครที่มีความภักดีต่อครอบครัวและเป้าหมายของฝั่งตัวเอง เขามีส่วนร่วมในภารกิจสำคัญ เช่น การจัดการกับการลักพาตัวประกันเพื่อต่อรองพิมพ์เขียวอาวุธ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และ วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก)

ถึงบทของเตโชจะไม่เด่นเท่าชยิน แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฝั่งของนายพลอาเชดูแข็งแกร่งและน่ากลัว เตโชมีบุคลิกที่จริงจังและมุ่งมั่น พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของครอบครัว พรหมพิริยะถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเนียนๆ ทำให้เตโชดูเป็นตัวละครที่มีความน่าเกรงขามและเพิ่มความเข้มให้กับความขัดแย้งในเรื่อง

ฉายา “นักรบเงียบแห่งลาซะ”
ถ้าจะตั้งฉายาให้เตโช ต้องเป็น นักรบเงียบแห่งลาซะ เพราะเขาเป็นนักรบที่ทำงานในเงามืดของพี่ชายและพ่อ คอยสนับสนุนภารกิจด้วยความมุ่งมั่นโดยไม่ต้องเด่นเป็นตัวหลัก

ข้อคิด ความภักดีต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ
จากตัวละครเตโช เราได้ข้อคิดว่าความภักดีต่อครอบครัวหรือเป้าหมายนั้นสำคัญ แต่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา การเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องจะช่วยให้ความภักดีนั้นมีคุณค่ามากขึ้น

→ วันชัย เผ่าวิบูล รับบท นายพลลาแป

นายพลลาแปคือผู้นำฝ่ายตรงข้ามในสงครามเมืองลาซะ และเป็นพ่อของ ลาชิ (นันทศัย พิศลยบุตร) เขาคือตัวร้ายที่มุ่งมั่นจะยึดอำนาจจาก นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) เพื่อควบคุมรัฐลาซะ ลาแปเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง ฉลาด และไม่ลังเลที่จะใช้ทุกวิธีเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ รวมถึงการสั่งซื้อพิมพ์เขียวระเบิดนำวิถีจาก วาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) นายหน้าค้าอาวุธ โดยใช้เส้นสายจาก วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) ลูกสาวของวาริส

เขาเป็นตัวละครที่เย็นชาและเด็ดขาด สร้างความตึงเครียดให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะเมื่อสั่งให้ลักพาตัว พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และวริสาเพื่อใช้เป็นตัวประกัน ทำให้ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ต้องเผชิญภารกิจสุดหิน วันชัย เผ่าวิบูลถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดยอด ทำให้ลาแปดูน่าเกรงขามและเป็นตัวร้ายที่น่าจดจำ

ฉายา “จอมวางแผนแห่งลาซะ”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ นายพลลาแป ต้องเป็น จอมวางแผนแห่งลาซะ เพราะเขาเป็นคนที่วางกลยุทธ์อย่างแยบยลเพื่อควบคุมสถานการณ์และครองอำนาจในสงครามเมืองลาซะ

ข้อคิด ความทะเยอทะยานที่ไร้ศีลธรรมนำไปสู่ความล้มเหลว
จากตัวละครนายพลลาแป เราได้ข้อคิดว่าความทะเยอทะยานเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าขาดศีลธรรมและทำร้ายผู้อื่นเพื่อเป้าหมาย อาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้และความสูญเสียในท้ายที่สุด

→ นันทศัย พิศลยบุตร รับบท ลาชิ

52ec7d70 28a4 11eb bed4 0972e345f90c original
นันทศัย พิศลยบุตร

ลาชิคือลูกชายของ นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) ผู้นำฝ่ายที่พยายามยึดอำนาจในเมืองลาซะจาก นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) เขาเป็นทหารหนุ่มที่ภักดีต่อพ่อและเป้าหมายของครอบครัวอย่างสุดใจ ลาชิมีส่วนร่วมในแผนการของฝั่งตัวเอง โดยเฉพาะการจัดการกับพิมพ์เขียวอาวุธนำวิถีที่พ่อของเขาต้องการซื้อจาก วาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) เขาทำหน้าที่เป็นกำลังสำคัญในปฏิบัติการต่างๆ ช่วยพ่อวางกลยุทธ์เพื่อครองเมืองลาซะ

ถึงแม้บทของลาชิจะไม่ใช่ตัวร้ายหลัก แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฝั่งของนายพลลาแปดูน่ากลัวและแข็งแกร่ง ลาชิมีบุคลิกที่จริงจัง มุ่งมั่น และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว แม้ว่าจะต้องอยู่ในแนวทางที่ผิด นันทศัย พิศลยบุตรถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเนียนๆ ทำให้ลาชิดูเป็นตัวละครที่มีพลังและเพิ่มความตึงเครียดให้กับความขัดแย้งในเรื่อง

ฉายา “ลูกเสือของลาแป”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ลาชิ ต้องเป็น ลูกเสือของลาแป เพราะเขาเหมือนเสือหนุ่มที่คอยวิ่งตามคำสั่งของพ่ออย่างนายพลลาแป ด้วยความมุ่งมั่นและพลังที่เต็มเปี่ยม

ข้อคิด ความภักดีต้องสมดุลกับความถูกต้อง
จากตัวละครลาชิ เราได้ข้อคิดว่าความภักดีต่อครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องสมดุลกับการเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะการตามเป้าหมายที่ผิดอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ทำร้ายทั้งตัวเองและผู้อื่น

→ ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์ รับบท นายพลอาเช

1410958698 1 o
ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์

นายพลอาเชคือผู้นำของฝ่ายที่ปกป้องฐานที่มั่นในเมืองลาซะ และเป็นพ่อของ ผู้กองชยิน (หลุยส์ เอสดาร์ซัน) และ เตโช (พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์) เขาคือคนที่ต่อสู้เพื่อรักษาอำนาจของตัวเองในเมืองลาซะจาก นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) ที่พยายามยึดครอง อาเชเป็นผู้นำที่ฉลาด มีวิสัยทัศน์ และเด็ดขาด เขาสั่งให้ชยินและ ซาเยร์ (พีรวัชร์ เหราบัตย์) ลักพาตัว พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และ วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) เพื่อใช้เป็นตัวประกันต่อรองพิมพ์เขียวอาวุธจาก วาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์)

ถึงแม้จะเป็นตัวละครฝ่ายตรงข้ามของพระเอก อาเชก็มีมุมที่แสดงถึงความเป็นพ่อที่รักลูกและมุ่งมั่นปกป้องผลประโยชน์ของฝั่งตัวเอง เขามีบุคลิกที่นิ่ง สุขุม แต่เต็มไปด้วยอำนาจ ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดยอด ทำให้อาเชดูเป็นผู้นำที่ทั้งน่ากลัวและน่านับถือในเวลาเดียวกัน

ฉายา “ราชสีห์แห่งลาซะ”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ นายพลอาเช ต้องเป็น ราชสีห์แห่งลาซะ เพราะเขาเหมือนสิงโตที่ยิ่งใหญ่และทรงพลัง คอยปกป้องฐานที่มั่นของตัวเองด้วยความเด็ดขาดและน่าเกรงขาม

ข้อคิด การเป็นผู้นำต้องมีทั้งความเข้มแข็งและความยุติธรรม
จากตัวละครนายพลอาเช เราได้ข้อคิดว่าการเป็นผู้นำที่ดีต้องมีความเข้มแข็งในการตัดสินใจ แต่ต้องควบคู่ไปกับความยุติธรรม เพราะการใช้อำนาจโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง

→ เวนซ์ ฟอลโคเนอร์ รับบท นายวาริส

เวนย์ ฟอลโคเนอร์

นายวาริสคือพ่อค้าอาวุธสุดเจ้าเล่ห์ที่เป็นตัวละครสำคัญในความขัดแย้งของเมืองลาซะ เขาคือพ่อของ วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) และเป็นนายหน้าที่จัดการซื้อขายพิมพ์เขียวระเบิดนำวิถีให้กับ นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) เพื่อใช้ในสงครามยึดอำนาจ วาริสเป็นคนฉลาด วางแผนเก่ง และมีเส้นสายมากมาย ทำให้เขาเป็นตัวละครที่อันตรายและคาดเดายาก

ในเรื่อง เขาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลักพาตัว พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และวริสา ลูกสาวของตัวเอง เพราะฝั่งของ นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) เข้าใจผิดว่านภัสชลเป็นลูกสาวของเขา วาริสใช้ความวุ่นวายนี้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง แต่สุดท้ายเขาก็หนีไปพร้อมวริสา เวนซ์ ฟอลโคเนอร์ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดปัง ทำให้วาริสดูเป็นตัวร้ายที่ทั้งเจ้าเล่ห์และมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง

ฉายา “พ่อมดแห่งอาวุธ”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ นายวาริส ต้องเป็น พ่อมดแห่งอาวุธ เพราะเขาเหมือนพ่อมดที่เสกความวุ่นวายผ่านการค้าอาวุธ ด้วยความฉลาดและเล่ห์เหลี่ยมที่ทำให้ทุกคนต้องระวัง

ข้อคิด การใช้ความฉลาดในทางที่ผิดอาจนำไปสู่หายนะ
จากตัวละครนายวาริส เราได้ข้อคิดว่าความฉลาดและความสามารถนั้นมีพลังมาก แต่ถ้าใช้ในทางที่ผิด เช่น การทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่สนใจผู้อื่น อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ทำร้ายทั้งตัวเองและคนรอบข้าง

→ พีรวัชร์ เหราบัตย์ รับบท ซาเยร์

ecf06280 3616 11ec 9c56 fff3e983ef5d webp original
พีรวัชร์ เหราบัตย์

ซาเยร์คือทหารคู่ใจของ ผู้กองชยิน (หลุยส์ เอสดาร์ซัน) และเป็นลูกน้องคนสนิทของ นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) ในสงครามเมืองลาซะ เขาคือมือขวาที่ไว้ใจได้ ช่วยดำเนินการตามแผนของฝ่ายตัวเองที่ต้องปกป้องฐานที่มั่นจาก นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) ซาเยร์มีส่วนสำคัญในภารกิจลักพาตัว พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และ วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) เพื่อใช้เป็นตัวประกันต่อรองพิมพ์เขียวอาวุธ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งใหญ่ในเรื่อง

ซาเยร์เป็นตัวละครที่มีความภักดีสูง ดุดัน และพร้อมปฏิบัติตามคำสั่ง เขามีบุคลิกที่เย็นชาและเน้นการลงมือทำมากกว่าพูด ทำให้เป็นตัวละครที่ดูน่ากลัวและเพิ่มความตึงเครียดให้กับฉากแอ็คชั่น พีรวัชร์ เหราบัตย์ถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเนียนๆ ทำให้ซาเยร์ดูเป็นทหารที่ทั้งแข็งแกร่งและน่าเกรงขาม

ฉายา “เงามืดของชยิน”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ซาเยร์ ต้องเป็น เงามืดของชยิน เพราะเขาเหมือนเงาที่ตามติดผู้กองชยิน คอยปฏิบัติภารกิจสำคัญด้วยความเงียบขรึมและเด็ดขาด

ข้อคิด ความภักดีต้องมาพร้อมการไตร่ตรอง
จากตัวละครซาเยร์ เราได้ข้อคิดว่าความภักดีต่อผู้นำหรือทีมนั้นสำคัญ แต่ต้องมีการไตร่ตรองถึงสิ่งที่ถูกต้อง เพราะการทำตามคำสั่งโดยไม่คิดอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ทำร้ายผู้อื่น

→ ดนัย สมุทรโคจร รับบท ชนะ

ดนัย สมุทรโคจร

ชนะคือหนุ่มนักธุรกิจที่เป็น แฟนเก่า ของ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) เขาโผล่เข้ามาในช่วงท้ายของเรื่อง ตอนที่นภัสชลและ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) กำลังมีความรักที่ซับซ้อนเพราะความเข้าใจผิด ชนะเป็นคนที่ดูดี มีเสน่ห์ และมีความมั่นใจในตัวเอง เขาพยายามกลับมาทวงใจนภัสชล โดยหวังจะสานต่อความสัมพันธ์จากอดีต ซึ่งทำให้เกิดโมเมนต์ดราม่าที่คนดูต้องลุ้นว่าใครจะได้ใจนางเอกไป

ถึงแม้ว่าชนะจะดูเหมือนเป็นตัวละครที่เข้ามาขัดขวางรักแท้ของพระนาง แต่เขาก็มีมุมที่แสดงถึงความจริงใจในความรู้สึกของตัวเอง สุดท้ายเมื่อเห็นว่านภัสชลเลือกภูริช เขาก็ยอมถอยออกมาแบบเงียบๆ ดนัย สมุทรโคจรถ่ายทอดบทนี้ได้แบบเนียนๆ ทำให้ชนะเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน

ฉายา “หนุ่มเก่าหัวใจรั้น”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ ชนะ ต้องเป็น หนุ่มเก่าหัวใจรั้น เพราะเขาเป็นแฟนเก่าที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และพยายามสู้เพื่อความรัก แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความผิดหวัง

ข้อคิด การปล่อยวางคือการให้โอกาสตัวเอง
จากตัวละครชนะ เราได้ข้อคิดว่าบางครั้งการยอมปล่อยวางความรักที่ไม่ใช่ของเราคือการให้โอกาสตัวเองได้พบกับความสุขใหม่ๆ และเคารพการตัดสินใจของคนที่เรารัก

→ ปราบ ยุทธพิชัย รับบท จ่ามี

556000002625701
ปราบ ยุทธพิชัย

จ่ามีคือทหารในหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” ภายใต้การนำของ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) เขาเป็นลูกน้องที่ภักดีสุดๆ และเป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจของหัวหน้า ถึงจะไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่จ่ามีคือคนที่คอยสนับสนุนทีมในทุกภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสู้รบที่ชายแดนไทย-พม่า หรือการทลายโรงงานยาบ้าในป่าลึก จ่ามีมีบุคลิกที่จริงใจ กล้าหาญ และมีมุมขี้เล่นที่ทำให้คนดูรู้สึกเอ็นดู

จุดพีคของจ่ามีคือตอนที่เขาถูกคนร้ายจับตัวไปในภารกิจทลายโรงงานยาบ้า ทำให้ภูริชต้องบุกเดี่ยวไปช่วย สะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันและความไว้วางใจระหว่างหัวหน้าและลูกน้อง ปราบ ยุทธพิชัยถ่ายทอดบทนี้ได้แบบลงตัว ทำให้จ่ามีเป็นตัวละครที่ทั้งเท่ในฉากแอ็คชั่นและอบอุ่นในฉากทีมเวิร์ค

ฉายา “ลูกน้องใจแกร่ง”
ถ้าจะตั้งฉายาให้จ่ามี ต้องเป็น ลูกน้องใจแกร่ง เพราะเขาเป็นทหารที่ใจสู้ ภักดี และพร้อมลุยเคียงข้างหัวหน้าทุกสถานการณ์

ข้อคิด ความภักดีและทีมเวิร์คคือหัวใจของความสำเร็จ
จากตัวละครจ่ามี เราได้ข้อคิดว่าความภักดีต่อทีมและการทำงานร่วมกันคือสิ่งที่ทำให้ภารกิจสำเร็จ ไม่ว่าจะเผชิญสถานการณ์ยากแค่ไหน ความสามัคคีคือพลังที่ขับเคลื่อนทุกอย่าง

→ ตฤณ เศรษฐโชค รับบท ท่านทูตอนันต์

hq720
ตฤณ เศรษฐโชค

ท่านทูตอนันต์คือเอกอัครราชทูตไทยประจำนอร์เวย์ และเป็นพ่อของ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) เขาคือตัวละครที่มีสถานะสูงในวงการการทูต มีบุคลิกที่สุขุม น่าเกรงขาม และเปี่ยมด้วยความรับผิดชอบ ในละคร เขามีบทบาทสำคัญเมื่อนภัสชลถูกลักพาตัวในเมืองลาซะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่าง นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) และ นายพลอาเช (ฐาปกรณ์ ดิษยนันทน์) ที่เกี่ยวข้องกับพิมพ์เขียวอาวุธจาก วาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์)

ถึงบทของท่านทูตอนันต์จะไม่ใช่ตัวหลัก แต่เขาคือตัวแทนของความเป็นพ่อที่ห่วงใยลูกสาวและผู้นำที่มีความมุ่งมั่นในการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ เขาแสดงถึงความสุขุมและความฉลาดในการรับมือกับสถานการณ์ที่ซับซ้อน ตฤณ เศรษฐโชคถ่ายทอดบทนี้ได้แบบลงตัว ทำให้ท่านทูตอนันต์ดูเป็นตัวละครที่น่านับถือและมีพลัง

ฉายา “ราชทูตใจนิ่ง”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ ท่านทูตอนันต์ ต้องเป็น ราชทูตใจนิ่ง เพราะเขาเป็นผู้นำที่สงบและมั่นคง แม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดที่สุด

ข้อคิด ความสุขุมคือกุญแจในการแก้ปัญหา
จากตัวละครท่านทูตอนันต์ เราได้ข้อคิดว่าการรักษาความสุขุมและการคิดอย่างรอบคอบในสถานการณ์วิกฤตสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในบทบาทผู้นำหรือพ่อ

→ สุธิตา เกตานนท์ รับบท คุณหญิงวลัยพรรณ

สุธิตา เกตานนท์

คุณหญิงวลัยพรรณคือแม่ของ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และภรรยาของ ท่านทูตอนันต์ (ตฤณ เศรษฐโชค) เอกอัครราชทูตไทยประจำนอร์เวย์ เธอเป็นสตรีที่มีความสง่างาม ใจดี และมีจิตใจที่เข้มแข็ง ในละคร เธอปรากฏตัวในช่วงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลักพาตัวของนภัสชลในเมืองลาซะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งใหญ่เกี่ยวกับพิมพ์เขียวอาวุธ คุณหญิงวลัยพรรณแสดงถึงความเป็นแม่ที่ห่วงใยลูกสาวสุดหัวใจ และในขณะเดียวกันก็รักษาความนิ่งสงบในฐานะภรรยาของทูต

ถึงบทของเธอจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่คุณหญิงวลัยพรรณคือตัวแทนของความเป็นแม่ที่ทั้งอ่อนโยนและแข็งแกร่ง เธอคอยสนับสนุนครอบครัวในยามวิกฤต สุธิตา เกตานนท์ถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เรารู้สึกถึงความรักและความมุ่งมั่นของตัวละครนี้

ฉายา “มารดาแห่งความสงบ”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ คุณหญิงวลัยพรรณ ต้องเป็น มารดาแห่งความสงบ เพราะเธอคือแม่ที่ทั้งรักลูกและรักษาความนิ่งสงบได้แม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด

ข้อคิด ความรักของแม่คือพลังที่มั่นคง
จากตัวละครคุณหญิงวลัยพรรณ เราได้ข้อคิดว่าความรักของแม่คือพลังที่มั่นคงและสามารถเป็นที่พึ่งให้ครอบครัวได้ในทุกสถานการณ์ การแสดงความรักด้วยความนิ่งและหนักแน่นคือสิ่งที่ทรงพลัง

→ วิลลี่ แมคอินทอช รับบท มิสเตอร์เจสัน

hq720
วิลลี่ แมคอินทอช

มิสเตอร์เจสันคือตัวละครที่ปรากฏตัวในฐานะบุคคลลึกลับที่มีบทบาทในวงการค้าอาวุธระหว่างประเทศ เขาเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับ นายวาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) พ่อค้าอาวุธที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเมืองลาซะ มิสเตอร์เจสันมีบุคลิกที่สุขุม เฉลียวฉลาด และมีเสน่ห์แบบเฉพาะตัว เขาเป็นเหมือนตัวเชื่อมที่ทำให้แผนการซื้อขายพิมพ์เขียวระเบิดนำวิถีระหว่าง นายพลลาแป (วันชัย เผ่าวิบูล) และวาริสดำเนินไป ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จุดชนวนความวุ่นวายในเรื่อง

ถึงแม้ว่าบทของมิสเตอร์เจสันจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่เขาคือตัวละครที่เพิ่มมิติให้กับความซับซ้อนของสงครามและการเมืองในละคร วิลลี่ แมคอินทอชถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดปัง ทำให้มิสเตอร์เจสันดูเป็นคนที่มีออร่าและความลึกลับที่น่าค้นหา

ฉายา “เงาลึกลับแห่งสงคราม”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ มิสเตอร์เจสัน ต้องเป็น เงาลึกลับแห่งสงคราม เพราะเขาเหมือนเงาที่เคลื่อนไหวในโลกของการค้าอาวุธ คอยควบคุมสถานการณ์จากเบื้องหลังอย่างแนบเนียน

ข้อคิด ความลับอาจนำมาซึ่งความวุ่นวาย
จากตัวละครมิสเตอร์เจสัน เราได้ข้อคิดว่าการทำงานในเงามืดหรือเก็บซ่อนความลับอาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่ใหญ่ขึ้น ความโปร่งใสและการทำสิ่งที่ถูกต้องจะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้

→ วิทยา เจตะภัย รับบท จาโป

วิทยา เจตะภัย

จาโปคือหนึ่งในลูกน้องของ นายวาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) พ่อค้าอาวุธตัวแสบที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเมืองลาซะ เขาเป็นมือปืนที่ทำงานให้วาริส คอยจัดการภารกิจสกปรกต่างๆ รวมถึงการช่วยดำเนินการในแผนการซื้อขายพิมพ์เขียวระเบิดนำวิถี ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของความวุ่นวายในเรื่อง จาโปมีส่วนในเหตุการณ์ที่ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) และ วริสา (อธิชนัน ศรีเสวก) ถูกจับเป็นตัวประกัน ทำให้ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) ต้องเผชิญภารกิจสุดหิน

จาโปมีบุคลิกที่ดุดัน ขี้โมโห และดูเป็นคนที่พร้อมลงมือทุกเมื่อ เขาเป็นตัวละครที่เพิ่มความตึงเครียดให้กับฉากแอ็คชั่น ถึงบทจะไม่เด่นมาก แต่ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ฝั่งตัวร้ายดูน่ากลัว วิทยา เจตะภัยถ่ายทอดบทนี้ได้แบบจัดเต็ม ทำให้จาโปเป็นตัวละครที่ทั้งน่ากลัวและน่าจดจำ

ฉายา “มือปืนจอมโหด”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ จาโป ต้องเป็น มือปืนจอมโหด เพราะเขาเป็นนักฆ่าที่ดุร้ายและพร้อมปฏิบัติการทุกเมื่อตามคำสั่งของวาริส

ข้อคิด การใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก
จากตัวละครจาโป เราได้ข้อคิดว่าการใช้ความรุนแรงและการทำตามคำสั่งที่ผิดศีลธรรมอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เสียหาย การเลือกใช้สติและความสงบในการแก้ปัญหาจะดีกว่าการใช้กำลัง

→ กิ๊ฟ ชวนชื่น รับบท กีซา

hq720
กิ๊ฟ ชวนชื่น

กีซาคือตัวละครที่อยู่ในฝั่งของ นายวาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) พ่อค้าอาวุธตัวแสบ เขาเป็นลูกน้องที่คอยช่วยงานวาริสในปฏิบัติการค้าอาวุธและภารกิจสุดวายป่วงในเมืองลาซะ แม้ว่าจะอยู่ในฝั่งตัวร้าย แต่กีซาไม่ใช่คนที่ดูน่ากลัวเหมือน จาโป (วิทยา เจตะภัย) หรือคนอื่นๆ ในทีม เพราะเขามีมุมที่ตลก ขี้แกล้ง และดูเป็นคนที่ไม่ค่อยจริงจังเท่าไหร่ เขามักจะสร้างโมเมนต์ที่ทำให้คนดูขำได้ เช่น การพูดจาแบบกวนๆ หรือการทำอะไรที่ดูงงๆ ในภารกิจ

ถึงบทของกีซาจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่เขาคือตัวละครที่ช่วยผ่อนคลายความเข้มข้นของฉากแอ็คชั่นและดราม่าในละคร กิ๊ฟ ชวนชื่นถ่ายทอดบทนี้ได้แบบสุดปัง ด้วยสไตล์การแสดงที่เป็นธรรมชาติ ทำให้กีซาดูเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน

ฉายา “ตัวตบมุกแห่งลาซะ”
ถ้าจะตั้งฉายาให้ กีซา ต้องเป็น ตัวตบมุกแห่งลาซะ เพราะเขาเหมือนตัวตลกที่โผล่มาเพิ่มความสนุกและความฮาให้กับฝั่งตัวร้ายในเมืองลาซะ

ข้อคิด อารมณ์ขันช่วยให้ชีวิตผ่านพ้นช่วงยากลำบาก
จากตัวละครกีซา เราได้ข้อคิดว่าอารมณ์ขันและมุมมองที่ผ่อนคลายสามารถช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่หนักหนา การยิ้มได้คือพลังที่ยิ่งใหญ่


ข้อคิดเด็ดๆ จากละคร “เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน” ปี 2560 บอกเลยว่าละครนี้ไม่ใช่แค่แอ็คชั่นมันส์ๆ หรือรักหวานๆ เท่านั้น แต่ยังมีข้อคิดดีๆ ที่เอาไปใช้ในชีวิตได้จริง มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ละครนี้สอนใจเรา

1. ความเสียสละเพื่อส่วนรวมคือเกียรติยศ
จากตัวละครอย่าง ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) เราเห็นว่าการเสียสละเพื่อชาติและคนที่รักคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการเสี่ยงชีวิตในภารกิจหรือการเลือกหน้าที่เหนือความรัก ข้อคิดนี้สอนว่าการทำเพื่อผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า

2. ความรักที่แท้จริงต้องมากับความเข้าใจ
ความรักของ ภูริช และ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) เต็มไปด้วยความเข้าใจผิดและอุปสรรค แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็พิสูจน์ว่ารักแท้คือการยอมรับและสนับสนุนกัน ข้อคิดนี้บอกเราว่าความรักที่ดีต้องมีการสื่อสารและความเข้าใจเพื่อฝ่าฟันทุกปัญหา

3. ความเมตตาคือพลังที่เปลี่ยนแปลง
นภัสชล ในฐานะหมอที่ช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ทุรกันดาร สอนเราว่าความเมตตาและการช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนสามารถสร้างความแตกต่างได้ แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ความเมตตาคือสิ่งที่ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น

4. มิตรภาพและทีมเวิร์คคือกุญแจสู่ชัยชนะ
ทีมกระทิงของ ภูริช รวมถึง จิรวัติ (อรรคพันธ์ นะมาตร์), คณินทร์ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์), กรัณย์ (มิกค์ ทองระย้า) และ จ่ามี (ปราบ ยุทธพิชัย) แสดงให้เห็นว่าการทำงานเป็นทีมและความภักดีต่อกันคือพลังที่ทำให้ภารกิจสำเร็จ ข้อคิดนี้บอกเราว่าการรวมพลังกันจะช่วยให้เราผ่านทุกอุปสรรคได้

5. ความภักดีต้องสมดุลกับความถูกต้อง
ตัวละครฝั่งตัวร้ายอย่าง ผู้กองชยิน (หลุยส์ เอสดาร์ซัน), เตโช (พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์), และ ซาเยร์ (พีรวัชร์ เหราบัตย์) แสดงให้เห็นว่าความภักดีต่อครอบครัวหรือเป้าหมายนั้นดี แต่ถ้าเลือกทางที่ผิดอาจนำไปสู่ความเสียหาย ข้อคิดนี้สอนให้เราคิดก่อนทำและเลือกสิ่งที่ถูกต้อง

6. การปล่อยวางนำไปสู่ความสงบ
ตัวละครอย่าง ชนะ (ดนัย สมุทรโคจร) และ พิมพ์วรีย์ (ปราณวรินทร์ ปามี) สอนเราว่าการยอมปล่อยวางความรักที่ไม่สมหวังคือการให้โอกาสตัวเองได้พบกับความสุขใหม่ๆ การยอมรับความจริงช่วยให้ใจเราสงบและก้าวต่อไปได้

7. ความสุขุมและความยุติธรรมคือคุณสมบัติของผู้นำ
จาก นายพลอนุชิต (ธนายง ว่องตระกูล) และ ท่านทูตอนันต์ (ตฤณ เศรษฐโชค) เราเห็นว่าผู้นำที่ดีต้องมีความสุขุมและตัดสินใจอย่างยุติธรรม ข้อคิดนี้บอกเราว่าการเป็นผู้นำต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและรักษาความถูกต้อง

8. อารมณ์ขันช่วยให้ผ่านพ้นช่วงยาก
กีซา (กิ๊ฟ ชวนชื่น) ตัวละครที่เพิ่มความฮาให้เรื่อง สอนเราว่าอารมณ์ขันและมุมมองที่ผ่อนคลายสามารถช่วยให้เรารับมือกับสถานการณ์ที่หนักหนาได้ การยิ้มได้คือพลังที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น


ถ้า เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน มีภาค 2 ล่ะจะเป็นยังไง บอกเลยว่าเราจะใส่ความมันส์ ดราม่า และความฟินให้ครบรสเหมือนเดิม แต่เพิ่มสเกลให้ยิ่งใหญ่ขึ้น มาดูกันว่า ร้อยเอก ภูริช, พญ.นภัสชล, และตัวละครสุดปังทั้งหลายไปในทิศทางไหน 

 เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน ภาค 2 – ภารกิจรักข้ามพรมแดน

จุดเริ่มต้น

เรื่องราวเริ่มต้น 3 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) และ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) แต่งงานกันแล้วและย้ายไปใช้ชีวิตที่เมืองเล็กๆ ใกล้ชายแดนไทย-ลาว ภูริชยังคงเป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ “กระทิง” ส่วนนภัสชลทำงานเป็นหมอในโรงพยาบาลสนามช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่น แต่ความสงบสุขของทั้งคู่ต้องสั่นคลอนเมื่อ นายวาริส (เวนซ์ ฟอลโคเนอร์) พ่อค้าอาวุธที่หนีรอดจากภาคแรก กลับมาพร้อมแผนการแก้แค้น เขาร่วมมือกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่วางแผนก่อวินาศกรรมในภูมิภาคอาเซียน โดยมีเป้าหมายคือการขโมยเทคโนโลยีอาวุธลับจากประเทศไทย

ความขัดแย้งหลัก

วาริสจ้าง ซาเยร์ (พีรวัชร์ เหราบัตย์) อดีตมือขวาของ นายพลอาเช ที่รอดชีวิตจากสงครามเมืองลาซะ มาช่วยดำเนินการ ซาเยร์สร้างกลุ่มกองกำลังรับจ้างที่รวมตัวละครใหม่สุดโหดอย่าง ลิน (นักแสดงหน้าใหม่) สายลับสาวจากจีนที่มีทักษะการต่อสู้และการจารกรรมระดับเทพ ภารกิจของพวกเขาคือขโมย “พิมพ์เขียวดาวเทียมควบคุมอาวุธ” ที่กองทัพไทยพัฒนาขึ้น ซึ่งซ่อนอยู่ในฐานลับใกล้ชายแดน

ภูริชได้รับมอบหมายให้ปกป้องพิมพ์เขียวนี้ และต้องเรียกทีมกระทิงเก่ากลับมารวมตัวอีกครั้ง รวมถึง เรือเอก จิรวัติ (อรรคพันธ์ นะมาตร์), ร.ต.อ. คณินทร์ (ศรัณย์ ศิริลักษณ์), เรืออากาศเอก กรัณย์ (มิกค์ ทองระย้า) และ จ่ามี (ปราบ ยุทธพิชัย) แต่คราวนี้ทีมต้องเผชิญศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเดิม และยังมีสายลับภายในที่คอยส่งข้อมูลให้วาริส ทำให้ภารกิจเต็มไปด้วยความระทึก

ดราม่าความรัก

ในด้านความรัก ภูริชและนภัสชลต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่เมื่อ ชนะ (ดนัย สมุทรโคจร) แฟนเก่าของนภัสชล กลับมาปรากฏตัวในฐานะนักธุรกิจที่ให้ทุนสนับสนุนโรงพยาบาลของนภัสชล แต่แท้จริงแล้วเขามีวาระซ่อนเร้นที่เกี่ยวข้องกับวาริส ความใกล้ชิดของชนะทำให้นภัสชลเริ่มสงสัยในความรู้สึกของตัวเอง ขณะที่ภูริชต้องต่อสู้ทั้งในสนามรบและในใจเพื่อรักษาความรักของทั้งคู่

ในขณะเดียวกัน พิมพ์วรีย์ (ปราณวรินทร์ ปามี) ลูกสาวของ นายพลอนุชิต (ธนายง ว่องตระกูล) กลับมาพร้อมบทบาทใหม่ในฐานะเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่ต้องทำงานร่วมกับภูริช เธอยังคงมีใจให้เขา ทำให้เกิดที่เพิ่มดราม่าให้เรื่องราว

จุดพีคของเรื่อง

จุดพีคของภาคนี้คือการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ในป่าชายแดนไทย-ลาว เมื่อทีมกระทิงต้องบุกฐานลับของวาริสที่ซ่อนอยู่ในถ้ำใต้ภูเขา ซาเยร์และลินวางกับดักสุดอันตราย รวมถึงการใช้เทคโนโลยีโดรนติดอาวุธที่ควบคุมโดย AI ทำให้ทีมกระทิงต้องใช้ทั้งความกล้าและสติปัญญาในการต่อสู้ ขณะเดียวกัน นภัสชลถูกจับตัวไปอีกครั้งโดยวาริสเพื่อใช้ข่มขู่ภูริช ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งสำคัญระหว่างหน้าที่และความรัก

ในตอนท้าย ทีมกระทิงสามารถทำลายฐานของวาริสได้สำเร็จ แต่ต้องแลกด้วยการบาดเจ็บสาหัสของ จ่ามี ที่เกือบเสียชีวิตเพื่อปกป้องทีม ภูริชและนภัสชลเคลียร์ความเข้าใจผิดกันได้ และตัดสินใจย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองที่สงบสุข โดยมี ท่านทูตอนันต์ (ตฤณ เศรษฐโชค) และ คุณหญิงวลัยพรรณ (สุธิตา เกตานนท์) คอยสนับสนุน ส่วนวาริสและซาเยร์หนีรอดไปได้แบบฉิวเฉียด ทิ้งปมให้คนดูต้องลุ้นต่อว่าพวกเขาจะกลับมาแก้แค้นในอนาคตหรือไม่


เรื่องราวสุดหลอนที่เกิดขึ้นในเบื้องหลังกองถ่ายละครแอ็คชั่นสุดมันส์ เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน บอกเลยว่านอกจากฉากต่อสู้เดือดๆ และรักหวานๆ ในจอแล้ว หลังกล้องยังมีเรื่องลึกลับที่ทำให้ทีมงานและนักแสดงขนลุกกันมาแล้ว มาดูกันว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นในกองถ่ายนี้บ้าง

เงาทหารในป่าลึก

จุดเริ่มต้นของความหลอน

ละคร “เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน” มีฉากแอ็คชั่นในป่าชายแดนเยอะมาก ซึ่งทีมงานต้องไปถ่ายทำในป่าจริงๆ ที่จังหวัดกาญจนบุรีและเชียงราย เรื่องราวลึกลับเริ่มขึ้นเมื่อทีมงานไปถ่ายฉากที่ ร้อยเอก ภูริช (ศุกลวัฒน์ คณารศ) และทีมกระทิงบุกทลายโรงงานยาบ้าในป่าลึก คืนหนึ่งขณะที่ทีมถ่ายทำฉากกลางคืนในป่าชายแดนเชียงราย ทีมงานบางคนเริ่มสังเกตเห็น เงาดำ รูปร่างเหมือนทหารในชุดยุทโธปกรณ์ เดินไปมาอยู่ไกลๆ บริเวณขอบป่า

ตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นนักแสดงตัวประกอบที่สวมบททหาร แต่เมื่อเช็คแล้ว ตัวประกอบทุกคนอยู่ในฉากและไม่มีใครเดินไปบริเวณนั้นเลย สิ่งที่ทำให้ขนลุกยิ่งกว่าคือ กล้องที่ตั้งไว้จับภาพมุมกว้างจับภาพเงานั้นได้แบบชัดเจน แต่เมื่อย้อนดูฟุตเทจ เงานั้นหายไปจากกล้องทุกตัวยกเว้นกล้องตัวเดียวที่ไม่ได้เปิดบันทึก

เหตุการณ์ประหลาดต่อเนื่อง

ความหลอนไม่ได้จบแค่นั้น ในคืนต่อมา ขณะที่ถ่ายฉากที่ จ่ามี (ปราบ ยุทธพิชัย) ถูกจับตัวในโรงงานยาบ้า ทีมงานได้ยิน เสียงฝีเท้าหนักๆ เดินรอบกองถ่าย และบางครั้งมีเสียงเหมือนคนกระซิบในภาษาที่ฟังไม่รู้เรื่อง ทีมงานบางคนถึงกับรู้สึกเหมือนมีคนจ้องจากในป่าตลอดเวลา กิ๊ฟ ชวนชื่น ผู้รับบท กีซา ถึงกับเล่าว่าตอนถ่ายฉากของเขาในป่า รู้สึกเหมือนมีคนมาแตะไหล่ แต่เมื่อหันกลับไป กลับไม่มีใครอยู่

ที่พีคสุดคือตอนถ่ายฉากที่ พญ.นภัสชล (ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ) ถูกจับตัวในเมืองลาซะ ซึ่งถ่ายในโกดังร้างที่ออกแบบให้เหมือนฐานทัพ ทีมงานไฟแสงสว่างเจอปัญหาไฟดับเองซ้ำๆ เฉพาะบริเวณที่ถ่ายฉากของนภัสชล และมีครั้งหนึ่งที่กล้องจับภาพ เงาคนยืนนิ่ง ในมุมมืดของโกดัง แต่เมื่อทีมงานเดินไปตรวจสอบ กลับไม่พบอะไรเลย

ทีมงานบางส่วนเริ่มสงสัยว่าสถานที่ถ่ายทำอาจมี วิญญาณของทหารเก่า หรือคนที่เคยอยู่ในพื้นที่นั้นมาก่อน เพราะสถานที่ถ่ายทำหลายแห่งเคยเป็นสมรภูมิหรือพื้นที่ที่มีความขัดแย้งในอดีต ผู้กำกับเลยตัดสินใจทำพิธีขอขมาก่อนถ่ายทำต่อ โดยเชิญพระมาทำพิธีและตั้งศาลชั่วคราวที่กองถ่าย หลังจากนั้นเหตุการณ์ประหลาดก็ลดลง แต่ทีมงานบางคนยังเล่าว่าบางคืนยังได้ยินเสียงฝีเท้าในป่าอยู่ดี

ที่น่าสนใจคือ ศุกลวัฒน์ คณารศ ผู้รับบทภูริช เล่าว่าตอนถ่ายฉากที่เขาต้องตะโกนสั่งการในป่า เขารู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกมั่นใจเกินปกติ เหมือนมีคนคอยสนับสนุนอยู่ข้างหลัง ส่วน ภัทรศยา ก็บอกว่าตอนถ่ายฉากที่ถูกจับตัว เธอรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แปลกๆ แม้ว่าจะอยู่ในโกดังที่อากาศเย็น ทีมงานบางคนถึงกับแซวว่า “อาจจะมีวิญญาณทหารที่อยากปกป้องนางเอก”