ปดิวรัดา ปมปัญหาจากพันธสัญญาในอดีต ที่หนุ่มสาวคนสองคนต้องมาใช้ชีวิตคู่ฉันสามีภรรยากัน ริน ระพี (ราณี แคมเปน) หญิงสาวที่ต้องการเพียงเพื่อตอบแทนผู้มีพระคุณจึงจำยอมสวมรอยเป็นเจ้าสาวแต่งงาน กับ ศรัณย์ ศิวเวทย์ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) ปลัดหนุ่มรูปงามที่มีหัวใจเย็นชาเพราะบอบช้ำจากความรักครั้งเก่า แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าถูกครอบครัวเจ้าสาวสลับตัวย้อมแมวขาย แต่เขาก็ตั้งใจจะไม่คืนเจ้าสาวคนนี้ให้ใคร เพราะความใกล้ชิดทำให้เขาได้ประจักษ์ถึงความงดงามและเพียบพร้อมของหญิงสาวผู้เป็น “ภรรยา” ความรักของเขาและเธอจึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นอย่างแผ่วเบา ทว่าความรักมักต้องพบกับบททดสอบ เมื่อ ดวงสวาท เสริมสาคร (ณัฐวรา วงศ์วาสนา) คนรักเก่าของเขาหวนกลับมาโหมถ่านไฟให้คุเชื้อ ขณะที่เธอก็ต้องเก็บความรู้สึกผิดกับความลับที่เธอปิดซ่อนไว้ จนท
ละคร ปดิวรัดา 2559
ละคร ปดิวรัดา 2559 EP.1-16CH3+
ฉากเด็ด ละคร ปดิวรัดา 2559
เพลงรักจากฉัน Ost.ปดิวรัดา | โบ สุนิตา | Official MV
ใครคือดวงตะวันของเธอ Ost.ปดิวรัดา | เต็น ธีรภัค | Official MV
ปดิวรัดา อ่านว่า ปะ-ดิ-วะ-รัด-ดา แปลว่า ภรรยาผู้ซื่อสัตย์และภักดีต่อสามี
ย้อนกลับไปพุทธศักราช 2502 บ้านบำรุงประชากิจ ประกอบด้วยผู้นำครอบครัวคือ ท่านเจ้าคุณบำรุงประชากิจ และคุณหญิงเพ็ญแข มีบุตรสาวสาวสองคนคือ บราลี บำรุงประชากิจ และ บุรณี บำรุงประชากิจ สองศรีพี่น้องสาวสวยแห่งพระนคร ในงานสโมสรเต้นรำ ศรัณย์ ศิวะเวทย์ ได้พา ดวงสวาท เสริมสาคร บุตรสาวคหบดี เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนสาวข้างบ้านที่เติบโตมาด้วยกัน ระหว่างเต้นรำ บราลี และดวงสวาทเกิดชนกันจนมีปากเสียง ศรัณย์กับ พณิช ชวาลา หนุ่มใหญ่แฟนของบราลี จึงต้องเข้ามาห้ามศึกระหว่างสองสาวก่อนจะแยกย้ายกันไป โดยไม่มีใครรู้ว่าชะตาชีวิตจะต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกันอย่างไม่อาจเลี่ยงในไม่ช้า วันนั้นศรัณย์เอ่ยปากขอแต่งงานกับดวงสวาท แต่ดวงสวาทจำต้องปฏิเสธเพราะเธอกำลังจะแต่งงานกับ คุณชายนริศ ผู้สูงศักดิ์ ทำให้ศรัณย์เสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะแหวนหมั้นที่เขานำมาหมั้นเธอ ได้มาจากเงินรางวัลนำจับเสือผินที่แหกคุก ออกมาปล้นฆ่าชาวบ้าน
ละคร ปดิวรัดา 2559
คุณหญิงเพ็ญแขเลี้ยงดูบุตรสาวทั้งสองมาด้วยความรักความเอาใจใส่ ด้วยฐานะบริบูรณ์ พูนสุข บราลี และบุรณีแทบไม่ต้องหยิบจับอะไรเพราะมีบริวารคอยดูแล บราลีนั้นเมื่อเรียนจบ เธอก็ใช้เวลาสนุกสนานเพลิดเพลินกับการเข้างานสังคม ส่วนบุรณีก็มุ่งมั่นอยากสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ และกลับมาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย วิชาการบ้านการเรือนที่คุณหญิงเพ็ญแขสั่งสมมาจึงตกไปอยู่กับ รินระพี เด็กสาวรับใช้คนสนิทของคุณหญิงเพ็ญแข
เมื่อ 22 ปีก่อนมีหญิงคนยากชื่อ เรียง อุ้มทารกน้อยมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านบำรุงประชากิจ พร้อมสร้อยทองกับพระ และกระดาษเขียนลายมือโย้เย้สั้น ๆ ว่า รินระพี ท่านเจ้าคุณ กับ คุณหญิงเพ็ญแขเมตตาทารกน้อย จึงรับเลี้ยงไว้ด้วยความสงสาร และให้ความรักการศึกษา ทัดเทียมกับบุตรสาวแท้ ๆ ของตน คุณหญิงเพ็ญแขถ่ายทอดวิชาเย็บปักถักร้อย การจัดดอกไม้ การทำอาหารให้ริน รินระพีเป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง และเอาใจใส่ดูแลปรนนิบัติเจ้าคุณกับคุณหญิง และคุณหนูทั้งสองเป็นอย่างดีจนเป็นที่รักใคร่ของเจ้านายทั้งสี่ ชีวิตของรินระพีจึงมีความสุขตามอัตภาพ มาจนถึงวันหนึ่ง ที่เหมือนสายอสุนีบาตฟาดลงกลางชีวิตของรินระพี
เมื่อปลัดศรัณย์อกหักสาหัส จากดวงสวาทหญิงสาวข้างบ้านที่เขารักมาตั้งแต่เด็ก คุณหญิงแก้ว นิติศาสตร์ธำรง จึงคิดจะใช้ความรักครั้งใหม่เยียวยาหัวใจของศรัณย์ จึงส่งจดหมายมาหาเจ้าคุณบำรุงประชากิจ เพื่อทวงสัญญาที่เจ้าคุณบำรุงประชากิจเคยมีไว้กับ เจ้าคุณนิติศาสตร์ธำรง ว่าจะให้บุตรชาย และบุตรสาวของทั้งสองฝ่ายแต่งงานกัน ซึ่งเมื่อครั้งในอดีตนั้นเจ้าคุณนิติศาสตร์ธำรง ร่ำรวยมีอำนาจวาสนา และฐานะมั่งคั่ง แต่ไม่กี่ปีหลังจากนั้น เจ้าคุณนิติศาสตร์ธำรงถูกโกงจนล้มละลาย และตัดสินใจปลิดชีวิตตนเอง คุณหญิงแก้วสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องหอบหิ้วเด็กชายศรัณย์ไปฝากไว้กับหลวงพ่อที่นับถือ ศรัณย์ขยันขันแข็ง ได้ร่ำเรียนจนจบปริญญารัฐศาสตรบัณฑิต และเข้ารับราชการเป็นปลัดอำเภอ ที่จังหวัดราชบุรี
เมื่อได้รับจดหมายทวงถามสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างเจ้าคุณบำรุงกับเจ้าคุณนิติ คุณหญิงเพ็ญแขถึงกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องตกระกำลำบากเป็นภรรยาข้าราชการบ้านนอกจน ๆ เธอจึงออกอุบายวางแผนสลับตัว รินระพี สาวใช้ กับคุณหนูบราลี ตัวจริงเสียเลย ! ค่ำนั้นรินระพีตกปากรับคำขอของคุณหญิงเพ็ญแขด้วยความกล้ำกลืน แต่ด้วยสำนึกในพระคุณที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย คุณหญิงเพ็ญแขให้รินระพีสัญญาว่าจะเก็บความลับนี้ไว้กับตัว แม้แต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันกับศรัณย์ไปกี่สิบปีก็ห้ามบอกกับใครเป็นเด็ดขาด
ศรัณย์เองเมื่อขัดแม่ไม่ได้ จึงได้ขอย้ายตัวเองไปอยู่จังหวัดทางภาคใต้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแดน อันตราย เพราะในขณะนั้นมี เสือขาว และสมุน ที่ออกอาละวาด และปล้นสดมภ์ทรัพย์สินชาวบ้าน อีกทั้งว่ากันว่าเสือขาว และโจรก๊กนี้มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ศรัณย์หวังเพียงว่าบ้านบำรุงประชากิจจะไม่กล้าส่งลูกสาวมายังดินแดนอันตรายแห่งนี้ แต่ผิดคาดเมื่อบ้านบำรุงประชากิจได้ส่ง รินระพี ที่ในชื่อใหม่ว่า บราลี บำรุงประชากิจ เดินทางมาปักษ์ใต้เพื่อเข้าพิธีแต่งงานกับปลัดศรัณย์ เมื่อแรกพบ รินระพีรู้สึกว่าปลัดหนุ่มตรงหน้า มองเธอด้วยสายตาตกตะลึง แล้วแปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม มุมปากประดับด้วยรอยยิ้มหมิ่น เหมือนรู้ว่ารินระพีไม่ใช่บราลีตัวจริง โดยมี ชรัตน์ รพิพันธุ์ เพื่อนสนิทที่เดินทางมาร่วมงานแต่ง ยืนยันว่ารินระพีไม่ใช่บราลีแน่นอน
ศรัณย์แยกห้องนอนกับรินระพีตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอ รินได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าได้ทดแทน บุญคุณผู้มีพระคุณอย่างดีที่สุดที่เธอทำได้ เพราะหลังจากแต่งงาน รินต้องพบกับความโดดเดี่ยวในความต่างบ้านต่างเมือง และศรัณย์ผู้เป็นสามีก็ไม่มีให้แม้แต่ความรัก ความเมตตา จะมีก็แต่ความเย็นชา และเมินเฉย รินก็ใช้ความอดทน และเข้มแข็งของเธอรับมือกับศรัณย์ มีเพียง อรุณฤกษ์ ไกรสีห์ พี่ชายข้างบ้าน บำรุงประชากิจที่เติบโตมาด้วยกัน และแอบหลงรักรินอยู่คอยปลอบใจ
เมื่ออาศัยอยู่ในบ้านของศรัณย์ รินดูแลบ้านเรือนได้อย่างเรียบร้อยไม่มีที่ติ ตกแต่งบ้านจนสวยงามสะอาดตา ข้าวปลาอาหารที่เคยเป็นฝีมือของ แม่สาย แม่ครัวพื้นที่ซึ่งศรัณย์บอกว่า ทำจนตายก็ไม่ได้ดี กลายเป็นอาหารรสเลิศถูกปากด้วยฝีมือของริน เสื้อผ้าของศรัณย์ก็ถูกซัก รีดอบร่ำจนหอมกรุ่น รินเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของคุณหญิงแก้ว ศรัณย์เองที่ถึงแม้จะทำเย็นชาใส่ริน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกพึงใจกับความสวยงามสบายตา สบายใจ ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน เวลาว่างนอกจากงานบ้าน รินแปลงที่ดินโล่งข้างบ้านให้กลายเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์ หอมหวลไปด้วยกลิ่นมะลิ และกุหลาบ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่รินชอบ
ถ้าไม่นับความเย็นชามึนตึงที่ศรัณย์แสดงกับริน ดูเหมือนรินจะมีความสุขดีกับชีวิตเรียบง่ายที่มีคุณหญิงแก้ว และงานบ้านเป็นเครื่องปัดเป่าความเหงา แต่รินสงบสุขไม่ได้นานเมื่อ ดวงสวาท คนรักเก่าของศรัณย์ กลายมาเป็นแขกประจำของบ้าน ดวงสวาทเพิ่งเลิกรากับคุณชายนริศที่มารู้ภายหลังว่าความจริงแล้ว คุณชายนริศมีแต่เปลือกหามีทรัพย์สินเงินทองอย่างที่หวังไม่ ดวงสวาทเองก็ยังรักศรัณย์อยู่ไม่น้อย เลยตามมาแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวศรัณย์ราวกับไม่เห็นรินผู้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในสายตา แถมยังบอกรินว่าเอาเข้าจริงแล้วรินต่างหากที่เป็นเมียน้อยของเธอ เพราะเธอได้เสียกับศรัณย์ก่อนหน้านี้แล้ว ! !
เมื่อเสือขาวเหิมเกริมหนัก ทางการได้มีคำสั่งจับตายเสือขาวทำให้ศรัณย์ต้องออกปราบปรามเสือขาว และพรรคพวกเสือขาวอย่างจริงจัง ศรัณย์ยิงเสือบาง สมุนมือขวาของเสือขาว เสียชีวิต สร้างความเคียดแค้นให้กับเสือขาวเป็นอย่างยิ่ง ! คืนหนึ่ง….ลูกน้องของศรัณย์มาส่งข่าวว่าเสือขาววางแผนจะเข้าปล้นหมู่บ้าน ศรัณย์จึง วางแผนออกไปซุ่มเตรียมจับเสือขาว รินเป็นห่วงศรัณย์ เดินออกไปส่งศรัณย์ที่หน้าประตูบ้าน ศรัณย์เอ็นดูที่รินแสดงความเป็นห่วงใยในตัวเขา เขาแกล้งเดินชน และแอบหอมแก้มริน ทำเอารินใจสั่นไปทั้งคืน
ศรัณย์ออกตามล่าเสือขาวเข้าไปในป่าไปจนถึงเย็นอีกวันก็ยังไม่มีข่าวคราว รินได้แต่สวดมนต์ขอพรพระเงียบ ๆ เพราะเกรงว่าจะทำให้คุณหญิงแก้วเป็นกังวลใจ ดวงสวาทเข้ามาถามหาศรัณย์ พอรินบอกว่าศรัณย์ไปตามล่าเสือขาวยังไม่กลับ ดวงสวาทร้องตีโพยตีพายขึ้นว่า ที่สโมสรลือกันว่าปลัดโดนยิงพรุน คงต้องเป็นศรัณย์แน่แท้ คุณหญิงแก้วได้ยินดังนั้นก็เป็นลมไปทันที ศรัณย์ดวลปืนกับเสือขาว เสือขาวได้ใช้คาถาอาคมพรางตัวจนศรัณย์เพลี่ยงพล้ำถูกเสือขาวยิงบาดเจ็บ ศรัณย์ให้แม่แก้ว และรินกลับพระนคร เพราะที่นี่ไม่ปลอดภัยแต่รินก็ดื้อ และอยู่เฝ้าดูแลศรัณย์ จนความรักค่อย ๆ ก่อเกิดขึ้นทีละน้อย
บราลี ซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บารนี แต่งงานกับพณิช และได้ย้ายมาอยู่ปักษ์ใต้ ไม่ไกลนักจากบ้านของริน รินกับบารนีแสร้งสวมบทบาทพี่สาวน้องสาวที่จากกันมานานภายใต้การจับตามองของศรัณย์ แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ทุกครั้งที่รินสบตากับศรัณย์ รินต้องรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ใจคอไม่ดี กลัวศรัณย์รู้ความจริงว่าเธอแค่ตัวแทนของบราลีเท่านั้น ศรัณย์พบว่าพณิชทำธุรกิจการค้าลักลอบส่งข้าว และสินค้าออกนอกประเทศอย่างผิดกฎหมายซึ่งมีความผิดรุนแรง เขาเห็นว่าพณิชเป็นน้องเขยของริน จึงให้รินไปเตือนบารนีก่อนที่ทางการจะลงมือปราบขั้นเด็ดขาด รินกำลังจะไปเตือนบารนี แต่บารนีแย่งขอร้องรินตามที่พณิชสั่งมา ให้ศรัณย์รับสินบน และอำนวยความสะดวกให้กับการส่งข้าวเถื่อนของพณิช รินอึกอัก และบอกปฏิเสธ ทำให้บารนีโกรธจัด บารนีหาทางทำลายรินโดยไม่ทันคิดถึงผลเสียที่จะตามมาอย่างใหญ่หลวง บารนีเรียกดวงสวาทมาพบแล้วเล่าความลับของรินทั้งหมด ว่าแท้จริงนั้นรินไม่ใช่บราลี บุตรีเจ้าคุณบำรุงประชากิจ หากเป็นเพียงเด็กสาวรับใช้ที่ครอบครัวเธอเก็บมาเลี้ยงเท่านั้น
ในงานเลี้ยงประจำจังหวัดเมื่อทุกคนมารวมตัวกัน ดวงสวาทวางแผนที่จะแฉเรื่องราว กำมะลอลวงโลกของครอบครัวบำรุงประชากิจ และทำให้รินได้อับอายจนไม่กล้าสู้หน้าศรัณย์ได้อีก แต่บังเอิญว่าชรัตน์ได้เห็นสร้อยคอที่รินให้ศรัณย์ใส่ไว้คุ้มครองขณะออกไปปราบเสือขาว สร้อยเส้นนั้นเป็นสร้อยที่คุณพระพิจารณ์เคยให้กับแม่เรียง แม่ของรินไว้ ! ดวงสวาทจะทำสำเร็จตามแผนกระชากหน้ากากรินอย่างที่เธอวางไว้หรือไม่ สร้อยทองที่ติดตัวรินมาตั้งแต่ถูกนำมาทิ้งไว้หน้าบ้านบำรุงประชากิจ จะพิสูจน์ว่า แท้จริงแล้วรินคือใคร และเสือขาวที่แค้นฝังลึกปลัดศรัณย์ถึงกับประกาศกร้าว มึงตาย กูไม่ตาย จะกลับมา ล้างแค้นปลัดศรัณย์ให้ตายตกกันไปข้าง ความรักที่ค่อย ๆ งอกงาม และเติบโตอย่างงดงามในใจของปลัดศรัณย์ และริน จะเอาชนะอุปสรรคมากมาย ที่ถาโถมเข้าใส่สามีภรรยาคู่นี้จนชีวิตคู่ต้องพังทลายหรือไม่ ร่วมกันพิสูจน์รักแท้ของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็น ปดิวรัดา ภรรยาที่ซื่อสัตย์ และจงรักภักดีต่อสามี
บทประพันธ์โดย : สราญจิตต์
บทโทรทัศน์โดย : นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์
กำกับการแสดงโดย : สมจริง ศรีสุภาพ
ผลิตโดย : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด
นักแสดง
จิรายุ ตั้งศรีสุข รับบท ศรัณย์ ศิวะเวทย์
ราณี แคมเปน รับบท ริน ระพี / ริน รพิพันธ์ / บราลี บำรุงประชากิจ / บราลี ศิวะเวทย์
จินตหรา สุขพัฒน์ รับบท คุณหญิงแก้ว ศิวะเวทย์
สาวิตรี สามิภักดิ์ รับบท คุณหญิงเพ็ญแข บำรุงประชากิจ
ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี รับบท เจ้าคุณบำรุงประชากิจ
ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ รับบท เสือขาว
อัศนัย เทียนทอง รับบท อรุณฤกษ์ ไกรสิห์
พิมพ์ทอง วชิราคม รับบท บราลี / บารนี บำรุงประชากิจ
กฤตฎ์ อมรชัยฤกษ์ รับบท ชรัตน์ รพิพันธุ์
อารดา อารยวุฒิ รับบท บุรณี บำรุงประชากิจ
พศิน เรืองวุฒิ รับบท พณิช ชวาลา
วิทวัส สิงห์ลำพอง รับบท ม.ร.ว. นริศ กรมนุราช
รอน บรรจงสร้าง รับบท เสนอ
ดารณีนุช ปสุตนาวิน รับบท แม่สาย
วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล รับบท นายเสริม
สมมาตร ไพรหิรัญ รับบท คุณพระพิจารณ์
นัฏฐา ลอยด์ รับบท ช้องนาง
ณัฐวรา วงศ์วาสนา รับบท ดวงสวาท เสริมสาคร
สุรศักดิ์ ชัยอรรถ รับบท มหินทร์ เสริมสาคร (พ่อดวงสวาท)
กรองทอง รัชตะวรรณ รับบท นิจ เสริมสาคร (แม่ดวงสวาท)
สมภพ เบญจาธิกุล รับบท ท่านผู้ว่าฯ
ปริศนา กล่ำพินิจ รับบท ภรรยาผู้ว่าฯ
ศุกล ศศิจุลกะ รับบท นายอำเภอปิยะ
ปิยะ วิมุกตายน รับบท สารวัตร
ธนายง ว่องตระกูล รับบท โชติ
ศานติ สันติเวชกุล รับบท กำนันคล้าย
จอย ชวนชื่น รับบท น้อย (เมียกำนันคล้าย)
เรืองฤทธิ์ วิสมล รับบท เสือบาง
วิฑูรย์ ลิ่วลักษณ์ รับบท เสือกิจ
อิชย์ชยาภา เมธิชัยวราภาคย์ รับบท นิ่ม (ลูกสาวกำนันคล้าย)
นิรุติ สาวสุดชาติ รับบท เสือชิน
วุฒิวัฒน์ ฐิติจรัสธนโชติ รับบท ขุน
วิสุทธิ์ ชาวบางพรหม รับบท เปิ่น
ชยพล อินทร์วงศ์ รับบท เสือสิง
ศรัจจันทร์ พลอยบุศต์ รับบท พู่
รตวรรณ ออมไธสง รับบท แจ๋ว
สุทธาทิพย์ วุฒิชัยประดิษฐ์ รับบท จิ้มลิ้ม
นักแสดงรับเชิญ
ทนงศักดิ์ ศุภการ รับบท เจ้าคุณนิติศาสตร์ธำรง
สุปราณี เจริญผล รับบท เรียง
วิยะดา อุมารินทร์ รับบท รื่น
ชาตรี ชมพู รับบท ใบ (พ่อเสือบาง)
กฤตกร ทองแสง รับบท เสือผิน
ด.ช.กันตพงศ์ เจริญสุข รับบท อรุณฤกษ์ (ตอนเด็ก)
ด.ญ.กุลฑีรา ยอดช่าง รับบทเป็น ริน ระพี (ตอนเด็ก)
งานสร้าง
ละครเรื่องปดิวรัดา เป็นละครแนวย้อนยุค ชื่อ ปดิวรัดา เป็นสร้อยพระนามของ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ที่ได้สมญานามนี้จากพระองค์ท่านดูแลทุกสิ่งทุกอย่างของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่เนื้อหาละครไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราชวงศ์ โดยได้ใช้เนื้อหาจากนิยายของสราญจิตต์ ซึ่งมีเนื้อหาไม่ยาวแต่นำมาแต่งเพิ่ม ขยายความ อย่างบทของดวงสวาท ได้เพิ่มเนื้อหาภูมิหลังตัวละคร เพิ่มความลึกของตัวละคร และมีการสร้างตัวละครใหม่ อย่าง เสือขาว ซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับพระเอก
ผู้สร้างละคร สมจริง ศรีสุภาพ คัดเลือกนักแสดงจิรายุ ตั้งศรีสุข ให้มาเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่ดูหน้าเด็ก ให้เห็นอีกด้านหนึ่ง ส่วนราณี แคมเปน เห็นว่าเหมาะกับบทบาทนี้
สำหรับ สถานที่ถ่ายทำ ได้ลงทุนสร้างฉาก อย่างห้องนอนต้องสร้างฉากขึ้นมา เพราะบ้านโบราณจะเล็ก และในเรื่องมีเงื่อนไขห้องสองห้องต้องต่อกัน เนื้อเรื่องสถานที่อยู่ทางภาคใต้ แต่ได้ใช้สถานที่แถบสวนยางจังหวัดปราจีนบุรี ป่าดิบชื้นไปแถวกาญจนบุรี แต่ก็ต้องจัดฉากเพิ่มเติม เช่นเอามอสไปเกาะต้นไม้ ในฉากพิธีแต่งงาน ถ่ายทำที่สตูดิโอช่อง 3 หนองแขม ซึ่งเป็นฉากห้องนอนของพระเอกและนางเอกในเรื่อง เนื่องจาก ไม่สามารถหาสถานที่ที่ตรงตามความต้องการได้ และในฉากบู๊ ที่ปลัดศรัณย์ ปลอมตัวเป็นคนขายกาแฟเพื่อล่อจับเสือ หรือโจรที่แหกคุกหนีมา ฉากนี้ถ่ายทำกันที่ลำลูกกาคลอง 12 ส่วนในฉากของ 2 ตอนสุดท้าย ถ่ายทำใน 3 จังหวัด คือที่โรงถ่าย จังหวัดนนทบุรี กับฉากปล้นเมืองสงขลา ต่อด้วยฉากลักพาตัว ถ่ายทำที่บางช้าง ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และฉากปะทะระหว่างเสือขาวกับปลัดศรัณย์ ถ่ายทำที่จังหวัดชลบุรี โดยในการถ่ายทำฉากบู๊ได้ให้จิรายุ ทั้งเรียนต่อยมวย ยิงปืนสั้น ปืนยาว เรียนคิวบู๊ ทั้งในและนอกประเทศ
ส่วนเสื้อผ้าหน้าผมในเรื่องย้อนไป พ.ศ. 2500 ส่วนใหญ่เสื้อผ้าตัดใหม่
การตอบรับ
ด้านเสียงวิจารณ์ นิมิต ประชาชื่น ชื่นชมการกำกับการแสดงว่า กำกับการแสดงที่รู้สึกได้ถึงความตั้งใจจนได้ภาพและฉากที่ ออกมาสวยงาม มติชนออนไลน์ ชื่นชม นันทวรรณ รุ่งวงศ์พาณิชย์ ผู้เขียนบทโทรทัศน์ ที่ทำให้ละครมีรสชาติทุกรส นอกจากนี้ความพิถีพิถันของผู้จัดที่ให้รายละเอียดกับทุกสิ่งอัน ส่วนนักแสดงทั้งนักแสดงหลักและสมทบ เล่นดีมีคุณภาพ รวมถึงพระนางที่แรก ๆ ถูกวิจารณ์หนักเรื่องรูปลักษณ์ คุณสมบัติผิดจากบทประพันธ์ไปมาก แต่สุดท้ายก็พิสูจน์แล้วว่ามันอยู่ที่ฝีมือ