ซีรีส์ พิษเบ๊บ เดอะซีรีส์ 2 PitBabe The Series 2 2568 หนึ่งปีผ่านไป… เมื่อควันจากการต่อสู้ครั้งเก่าจางลง มูลนิธิบ้านตระกูลเฉินได้กลายเป็นเพียงเศษซากในความทรงจำ เบ๊บและชาลีถอยห่างจากสมรภูมิ มาร่วมสร้างอาณาจักรเล็ก ๆ ของตัวเองภายใต้ชายคาเดียวกัน ขณะที่ชาลีใช้พรสวรรค์ช่วยพีทสร้างสรรค์ “ยาสลายทักษะ” เพื่อเป็นโล่ป้องกันเหล่าอัลฟ่าพิเศษ แต่ความสงบสุขนั้นเปราะบางดุจกระจก เมื่อสนามแข่งต้อนรับ วิลลี่ นักแข่งรุ่นใหม่ผู้ร้อนแรง ที่ไม่ได้ต้องการแค่ชัยชนะบนลู่ แต่ต้องการครอบครองหัวใจของชาลี ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาถูกท้าทายอย่างสาหัส ทว่าภัยคุกคามที่แท้จริงกลับแฝงกายอยู่หลังเงา เมื่อ โทนี่ ผู้ที่ทุกคนลงความเห็นว่าตายไปแล้ว กลับมาพร้อมแผนการชั่วร้ายที่ใหญ่กว่าเดิม ทีม X-Hunter จึงต้องรวมตัวอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์ที่คำราม และบททดสอบของหัวใจที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

ซีรีส์ พิษเบ๊บ เดอะซีรีส์ 2 PitBabe The Series 2 2568 ทุกคนที่ชอบซีรีส์ BL สไตล์แข่งรถผสมแฟนตาซี ถ้าพูดถึง “พิษเบ๊บ เดอะซีรีส์ 2” หรือ Pit Babe The Series 2 นี่คือภาคต่อที่รอคอยกันมานานหลังจากซีซั่นแรกฮิตระเบิด เรื่องนี้ยังคงเล่าเรื่องราวของแก๊งนักแข่งรถที่มีพลังพิเศษแบบอัลฟ่า แต่คราวนี้ดราม่าเข้มข้นขึ้น มีทั้งความรัก ความแค้น และการต่อสู้กับศัตรูเก่าที่กลับมาแบบเซอร์ไพรส์ เรื่องเริ่มต้นหนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์ในซีซั่นแรกที่มูลนิธิบ้านตระกูลเฉินถูกปิดตัวลง “เบ๊บ” และ “ชาลี” ย้ายมาอยู่ด้วยกันแบบคู่รักหวานแหวว ชาลีคอยดูแลเบ๊บที่ยังฝันร้ายจากอดีต เช่น การตายของ “เวย์” และความชั่วร้ายของ “โทนี่” ทำให้ความรักของทั้งคู่แน่นแฟ้นกว่าเดิม แต่ชาลีก็ยุ่งกับการแข่งรถและร่วมมือกับ “พีท” สร้าง “ยาสลายทักษะ” เพื่อช่วยอัลฟ่าพิเศษที่อยากกำจัดเซนส์ของตัวเอง เวลาที่มีให้กันเลยน้อยลง แต่ชาลีเชื่อว่ายานี้จะช่วยให้ทุกคนปลอดภัยจากคนร้ายแบบโทนี่

ฝั่งอื่นๆ ก็มีดราม่า “อลัน” และ “เจฟ” ยังคบกันดี แต่เซนส์ของเจฟเริ่มแปลกๆ ทำให้ร่างกายมีปัญหา ทั้งคู่ช่วยกันดูแลทีม X-Hunter ให้ครองแชมป์ต่อไป “นอร์ธ” เศร้าเพราะ “โซนิค” ย้ายไปเรียนแฟชั่นต่างประเทศ ทุกคนเลยพยายามผลักดันให้นอร์ธกล้าจีบจริงจังสักที

แล้วปัญหาใหญ่มาถึงเมื่อ “วิลลี่” นักแข่งรุ่นใหม่จากทีม ETA โค่นเบ๊บตั้งแต่แมตช์แรก กลายเป็นคิงคนใหม่ เบ๊บสั่นคลอนหนักเพราะถูกท้าทายจากเด็กสดใหม่ แถมวิลลี่ยังรุกจีบชาลีแบบไม่กลัว ทำให้ความรักเบ๊บ-ชาลีเริ่มมีรอยร้าว พีทยังลืมเวย์ไม่ได้ แต่ต้องเจอ “คริส”นักวิจัยที่หน้าตาเหมือนเวย์เป๊ะ เข้ามาร่วมทีมแล็บ ความสัมพันธ์ทั้งคู่ซับซ้อนเพราะคริสตั้งกฎว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมงานสนุกๆ ไม่ผูกพัน

ดราม่าพีคสุดเมื่อเคนตะ (กาฟิวส์ พันธุ์ธัช), วินเนอร์ (ป๊อป ภัทรพล) และดีน (ลี อัสรี) ถูกปล่อยจากคุก แล้วเปิดเผยว่าโทนี่ไม่ได้ตาย โทนี่กลับมาวางแผนชั่วร้ายใหม่ วินเนอร์เลือกอยู่ฝั่งโทนี่เพื่อแก้แค้น แต่เคนตะกับดีนเลือกช่วยทีม X-Hunter คิม (เบนซ์ อัทธ์ธนิน) ดูแลเคนตะและสืบความลับโทนี่ จนเกิดความสัมพันธ์ใหม่ ชาลียอมเสียสละเป็นหนูทดลองยาเพื่อปกป้องทุกคน เรื่องราวเต็มไปด้วยการแข่งรถเดือด ดราม่าความรัก และการต่อสู้อันตราย

สารบัญละคร

พิษเบ๊บ 2 คือซีรีส์ที่อัพเลเวลความเข้มข้นจากซีซั่นแรก มีทั้งโมเมนต์หวาน ดราม่าใจสลาย และเซอร์ไพรส์ที่ทำให้ลุ้นทุกตอน ถ้าชอบแนว BL ผสมแอ็กชันแฟนตาซี เรื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอน ต่อไปนี้คือจุดเด่นของซีรีส์

การแสดงของนักแสดงหลักยังคงดีงาม พาเวล (เบ๊บ) และพูห์ (ชาลี) เคมีเดือดเหมือนเดิม โมเมนต์หวานๆ ดราม่าความรักทำเอาหัวใจเต้นรัว โดยเฉพาะฉากที่ชาลีเสียสละเพื่อเบ๊บ หรือตอนวิลลี่ (มิ้ล) เข้ามาป่วน ทำให้เห็นพัฒนาการตัวละครชัดเจน คู่อื่นๆ อย่างอลัน-เจฟ (สายลับ-ภณ) ก็มีดราม่าเซนส์พิเศษที่น่าติดตาม นอร์ธ-โซนิค (ไมเคิล-ท๊อปเทน) มีโมเมนต์ Friend Zone ที่น่ารักแต่เศร้า พีท-คริส (ปิง-นัท) เพิ่มความซับซ้อนเพราะคริสหน้าตาเหมือนเวย์ ทำให้นึกถึงซีซั่นแรก การนำโทนี่กลับมาแบบเซอร์ไพรส์ก็สร้างความตื่นเต้น การแข่งรถยังคงสนุก ฉากแอ็กชันดี แล็บทดลองยาสลายทักษะเพิ่มธีมแฟนตาซีที่น่าสนใจ

แต่จุดด้อยเพียบเลยอะ บทมี plot holes เยอะ เช่น โทนี่กลับมายังไงไม่ชัดเจน บาง storyline อย่างเคนตะ-คิม (กาฟิวส์-เบนซ์) หรือวินเนอร์ (ป๊อป) รู้สึกไม่สมบูรณ์ เหมือนถูกทิ้งกลางทาง Pace เรื่องช้าบางตอน ดราม่าความรักซ้ำซากแบบงอนแล้วง้อ loop เดิมๆ แฟนๆ บ่นว่าตัดฉากสำคัญออกเยอะ โดยเฉพาะ uncut version ที่ควรมีมากกว่านี้ บริษัท CHANGE2561 ถูกด่าว่าละเลยคู่รอง ปล่อยให้นักแสดงโดน bully ออนไลน์โดยไม่ปกป้อง บางรีวิวจาก MyDramaList บอกว่าเป็น “worst season 2” เพราะ inconsistencies และ unfinished storylines แต่บางคนชอบเพราะ character centric มากขึ้น ชอบพัฒนาการชาลีที่ possessive ขึ้น

โปรดักชันโดยรวมโอเค ภาพสวย เพลงประกอบดี แต่บางตอนรู้สึก filler เยอะ ไม่ค่อยเชื่อมโยงพล็อตหลัก จากรีวิวบน X (Twitter) แฟนไทยและอินเตอร์ผสม บางคนให้ 9/10 เพราะสนุกกว่าซีซั่น 1 บางคน 7/10 เพราะไม่สุดเท่าเดิม IMDb มี episode recaps ที่ชื่นชมดราม่า แต่บ่นเรื่อง pace

คะแนนโดยรวม  7.8/10 ภาคนี้กลับมาด้วยดราม่าเข้มข้นกว่า แต่ก็มีทั้งคนชอบและด่า มีทั้งความหวาน ความเศร้า และจุดหักมุมที่ทำให้อยากตามต่อ ถ้าชอบเรื่องราวที่ตัวละครเติบโตผ่านอุปสรรค เรื่องนี้คือคำตอบ

คะแนนโดยรวมจากแหล่งต่างๆ เฉลี่ยอยู่ที่ 7.7/10 บน MyDramaList (7.8 สำหรับ uncut) ซึ่งถือว่าดีแต่ไม่เป๊ะเท่าซีซั่นแรกที่ได้ 8.0+ บทเรื่องและพล็อตได้ 7/10 เพราะมีจุดเด่นอย่างการนำโทนี่กลับมาและดราม่ายาสลายทักษะที่น่าติดตาม แต่ plot holes เยอะ เช่น การฟื้นคืนชีพโทนี่ไม่ชัด บาง storyline unfinished ทำให้รู้สึกไม่สมบูรณ์ การแสดงได้ 9/10 เพราะนักแสดงหลักอย่างพาเวล-พูห์ เคมีเดือด การพัฒนาตัวละครชาลีที่ possessive ขึ้นน่าปรบมือ คู่อื่นๆ อย่างอลัน-เจฟ หรือพีท-คริส ก็เล่นดี แต่คู่รองอย่างนอร์ธ-โซนิคหรือเคนตะ-คิม ได้ screentime น้อยเกิน

โปรดักชันและภาพได้ 8/10 ฉากแข่งรถสนุก ภาพสวย แสงสีดี แต่ pace ช้าบางตอน เหมือน filler เยอะ เพลงประกอบและเอฟเฟกต์เซนส์พิเศษโอเคแต่ไม่ว้าวเท่าซีซั่นแรก ความสนุกและรีเพลย์ value ได้ 7.5/10 เพราะลุ้นดราม่าความรักได้ แต่บางตอนซ้ำซาก งอน-ง้อ loop เดิม จากรีวิวบน X แฟนๆ ให้ 8-9/10 ถ้าชอบ character development แต่ 5-6/10 ถ้าคาดหวังพล็อตแน่น IMDb มีรีวิวบอกว่าดีแต่ไม่ดีเท่าซีซั่น 1 เพราะ inconsistencies TheReviewGeek ชม ep1 ว่าดราม่าฝันร้ายเบ๊บดี แต่บ่นเรื่อง slow pace

ความตื่นเต้นพุ่งพล่านตั้งแต่ตอนแรก เมื่อเห็นเบ๊บยังฝันร้ายจากอดีตและชาลีคอยดูแล ทำให้รู้สึกอบอุ่นแต่ก็กังวลกับอุปสรรคใหม่ๆ การนำวิลลี่เข้ามาท้าทายทั้งบนสนามและในความรัก สร้างความลุ้นระทึกว่าความสัมพันธ์เบ๊บ-ชาลีจะรอดไหม โมเมนต์หวานๆ อย่างเซอร์ไพรส์วันเกิดหรือการง้อกัน ทำหัวใจพองโต แต่ดราม่าอย่างเซนส์ผิดปกติของเจฟหรือโทนี่กลับมา ทำให้รู้สึกเครียดและอยากดูต่อไม่หยุด การพัฒนาตัวละครอย่างชาลีที่ possessive ขึ้นและเบ๊บที่เปราะบางกว่าเดิม เพิ่มความลึกซึ้ง แต่บางตอน pace ช้า ทำให้รู้สึกหงุดหงิดเหมือนเรื่องยืดเยื้อ

ความผิดหวังเกิดจาก plot holes เช่น การฟื้นคืนชีพโทนี่ที่ไม่ชัดเจน และ storyline คู่รองที่ไม่สมบูรณ์ อย่างเคนตะ-คิมหรือนอร์ธ-โซนิค ทำให้รู้สึกขาดๆ เกินๆ แต่การเสียสละของชาลีในแล็บหรือการต่อสู้ตอนจบ สร้างความสะใจและน้ำตาซึม ความรู้สึกโดยรวมเต็มไปด้วยอารมณ์ผสม ทั้งฟินจากเคมีนักแสดงและเซ็งจากบทที่ไม่สุด แต่ธีมการปกป้องคนรักและไถ่บาป ทำให้รู้สึกอบอุ่นและคิดถึงหลังจบ

พิษเบ๊บ 2 ทิ้งความรู้สึกที่เข้มข้นแต่ไม่สมบูรณ์แบบ มีทั้งความสุขจากโมเมนต์รักและความหงุดหงิดจากจุดด้อย แต่โดยรวมยังคงเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับแฟน BL ที่ชอบดราม่าแฟนตาซี ลองไปสัมผัสแล้วจะเข้าใจ


ซีรีส์ พิษเบ๊บ เดอะซีรีส์ 2 PitBabe The Series 2 2568

ซีรีส์ พิษเบ๊บ เดอะซีรีส์ 2 PitBabe The Series 2 2568

ซีรีส์ พิษเบ๊บ เดอะซีรีส์ 2 PitBabe The Series 2 2568

เรื่องราวเริ่มต้นหนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายในซีซั่นแรกจบนะครับ มูลนิธิบ้านตระกูลเฉินถูกปิดตัวลงไปแล้ว เบ๊บ (เล่นโดยพาเวล นเรศ) และชาลี (พูห์ กฤติน) ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันแบบคู่รักหวานแหวว ชาลีคอยดูแลเบ๊บที่ยังฝันร้ายเกี่ยวกับการตายของเวย์ (นัท ศุภณัฐ) และความชั่วร้ายของโทนี่ (เอส วรฤทธิ์) ในอดีต ทำให้ความรักของทั้งคู่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่เฮ้ย ชาลีไม่ได้แค่อยู่กับเบ๊บอย่างเดียวนะ เขายังยุ่งกับการแข่งรถและร่วมมือกับพีท (ปิง โอบนิธิ) ทำแล็บทดลองสร้าง “ยาสลายทักษะ” เพื่อช่วยอัลฟ่าพิเศษที่อยากกำจัดเซนส์พิเศษของตัวเอง เวลาที่มีให้กันเลยน้อยลง แต่ชาลีเชื่อว่ายานี้จะช่วยให้เบ๊บและทุกคนปลอดภัยจากพวกที่หวังผลประโยชน์แบบโทนี่ เขายอมเสียสละเวลาตัวเองเพื่อพัฒนายาให้สำเร็จ สละขนาดนี้ หวานมากกก

ฝั่งอื่นๆ ก็ไม่แพ้กัน อลัน (สายลับ เหมวิช) และเจฟ (ภณ ธนภณ) ยังคบกันดี๊ดี แม้เซนส์พิเศษของเจฟจะแปลกๆ ทำให้ร่างกายมีปัญหา แต่ทั้งคู่ช่วยกันประคับประคองทีม X-Hunter ให้ครองแชมป์ต่อไป ปัญหาในใจอลันคือตัวเองเป็นคนธรรมดา ร่างกายอ่อนแอ ไม่ปกป้องเจฟได้ นอร์ธ (ไมเคิล เกียรติศักดิ์) เศร้าเพราะโซนิค (ท๊อปเทน ศุภกรณ์) คู่หูย้ายไปเรียนแฟชั่นต่างประเทศ ทีมเลยผลักดันให้นอร์ธกล้าจีบจริงจัง ก้าวข้าม Friend Zone ไป Fan Zone สักที ฮ่าๆ น่ารัก

แต่แล้วดราม่าใหญ่มาถึง วิลลี่ (มิ้ล ณัฐชน) นักแข่งรุ่นใหม่ไฟแรงจากทีม ETA โค่นเบ๊บตั้งแต่แมตช์แรก กลายเป็นคิงคนใหม่ เบ๊บสั่นคลอนหนักเพราะถูกท้าทายจากเด็กสดแซ่บกว่า แถมวิลลี่ยังรุกจีบชาลีแบบไม่กลัว ทำให้ความรักเบ๊บ-ชาลีเริ่มมีปัญหา ลุ้นเลยว่าความรักจะชนะความร้อนแรงของวิลลี่ไหม ขณะเดียวกัน พีทยังลืมเวย์ไม่ได้ แต่ต้องเจอคริส (นัท ศุภณัฐ) นักวิจัยหน้าตาเหมือนเวย์เป๊ะ เข้ามาร่วมทีมแล็บ พีทหลงคริสหนัก แต่คริสตั้งกฎว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมงานสนุกๆ ไม่ผูกพัน ดราม่ามากกก

และพีคสุด เคนตะ (กาฟิวส์ พันธุ์ธัช), วินเนอร์ (ป๊อป ภัทรพล) และดีน (ลี อัสรี) ถูกปล่อยจากคุก แล้วเปิดเผยว่าโทนี่ไม่ได้ตาย โทนี่กลับมาวางแผนชั่วร้ายใหม่ วินเนอร์เลือกอยู่ฝั่งโทนี่แก้แค้น แต่เคนตะกับดีนไถ่บาปช่วยทีม X-Hunter คิม (เบนซ์ อัทธ์ธนิน) ดูแลเคนตะ สืบความลับโทนี่ จนเกิดรักใหม่ไม่คาดคิด ชาลียอมเป็นหนูทดลองยาเพื่อปกป้องทุกคน ลุ้นระทึกมาก

จากนั้นเรื่องเดินต่อแบบไม่ให้พักหายใจ เมื่อแข่งฤดูกาลใหม่ ทีม X-Hunter เจอวิลลี่สูสี เบ๊บแพ้ครั้งแรก ชาลีปลอบยังไง? เจฟเห็นภาพอนาคต เห็นใครกลับมา? คริสเข้ามาแล็บ ทุกคนสงสัยมีอะไรแอบแฝง? เบ๊บแพ้วิลลี่ ทีมปรับแผน นอร์ธขึ้นแทนคิม วิลลี่จีบเบ๊บที่บาร์ เบ๊บหวั่นไหวไหม? โทนี่คัมแบ็ก วางหมากทำลายทีม เจฟสารภาพเซนส์กลับมา อลันโกรธเพราะปิดบัง เบ๊บเจ็บจากรถชน ชาลีดูแลแต่วิลลี่ป่วน!เจฟง้ออลันทุกทาง

ชาลีเซอร์ไพรส์วันเกิดเบ๊บ น่ารัก Night Race เดือด วิลลี่ตามติดเบ๊บ โซนิคอยากถอยเพราะ Friend Zone ชาลีเห็นเบ๊บใกล้ชิดวิลลี่ งอนหนัก พีทหลงคริสแต่สัมพันธ์แค่สนุก เบ๊บ-ชาลีคืนดีหวานน้ำตาลเรียกพี่ ชาลีห่วงขอถอยห่างแต่ดึงดูดกันยิ่งกว่า อลันเครียดเซนส์เจฟ ชาลีรับเซนส์จากเจฟ ร่างกายแย่ เบ๊บอาสาทดลองแทน คิม-เคนตะบุกแล็บโทนี่ เกิดรักใหม่ วิลลี่ลักพาตัวชาลี เจฟน้อยใจอลันป่วยปิดบัง เบ๊บช่วยชาลี ชาลีง้อคืนแหวน นอร์ธ-โซนิคจูบแรก เบ๊บแข่งสนามสุดท้าย ทวงแชมป์ อลันถูกโทนี่สั่งเอาเลือดชาลี ชาลีสูญเสียความจำ เบ๊บใช้รักฟื้น อลันสารภาพหักหลัง? ตอนจบโทนี่คุกคาม เบ๊บ-ชาลีวางแผนแลกเปลี่ยน ลุ้นสูญเสียใหญ่ ความรักทุกคู่ลงเอยยังไง?

สุดยอดเลยใช่ไหมครับ สรุปแล้ว Pit Babe 2 คือซีรีส์ที่ผสมโรแมนติก ดราม่า แอ็กชัน แฟนตาซีได้ลงตัวมาก ตัวละครพัฒนา ดราม่าลุ้นทุกตอน ถ้าชอบ BL แนวนี้ต้องดู

เบื้องหลังซีรีส์สุดฮอต “พิษเบ๊บ เดอะซีรีส์ 2” หรือ Pit Babe The Series 2 ปี 2568 จาก CHANGE2561 หลังจากซีซั่นแรกปังมาก ภาคนี้เขากลับมาด้วยพล็อตเดือดกว่า แต่เบื้องหลังการถ่ายทำนี่สนุกไม่แพ้กัน มีทั้งโมเมนต์ฮาๆ นักแสดงงงๆ และทีมงานสุดทุ่มเท

5444b6f0 ac1a 11ed b67e 95b689a0bb92 webp original
ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม

บทประพันธ์มาจากนิยายของ ALITTLEBIXTH นักเขียน BL ชื่อดังที่เขียน Pit Babe ต้นฉบับปังมาก ดัดแปลงมาเป็นซีรีส์ได้ดี กำกับการแสดงโดย ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม ผู้กำกับมือโปรที่เคยทำซีรีส์ฮิตหลายเรื่อง เขาบอกว่าภาคนี้อยากอัพเลเวลดราม่าและแอ็กชันให้เข้มข้นกว่าเดิม ผลิตโดย CHANGE2561 ค่ายใหญ่ที่ขึ้นชื่อเรื่อง BL คุณภาพ อำนวยการผลิตโดยพี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา และเอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย (ที่เล่นโทนี่ด้วย) พี่ฉอดเน้นว่าอยากให้ซีรีส์สะท้อนธีมความรักและการเสียสละ ในขณะที่เอสช่วยดูแลเรื่องพล็อตแฟนตาซีให้สมจริง

566000004802301
พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา และเอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย

เบื้องหลังการถ่ายทำนี่มันส์มากครับ เริ่มจาก fitting photos ที่ CHANGE2561 ปล่อยออกมาเมื่อธันวาคม 2024 นักแสดงอย่างพาเวล (เบ๊บ) พูห์ (ชาลี) มาฟิตติ้งเสื้อผ้าแข่งรถ ดูหล่อเข้มกว่าเดิม ทีมงานบอกว่าต้องปรับคอสตูมให้เข้ากับพล็อตใหม่ที่มีแล็บทดลองยา มีคลิปเบื้องหลังบน YouTube ชื่อ “Fitting Pit Babe The Series Season 2 (Behind The Scenes)” ที่แสดงโมเมนต์นักแสดงลองเสื้อผ้า ฮากันงงๆ กับเซนส์พิเศษ แล้วยังมีคลิปพิเศษบน IG จาก iQIYI “Pit Babe the Series 2 Behind the scenes IQIYI Special Clip” เมื่อพฤษภาคม 2025 แสดงนักแสดงซ้อมฉากแข่งรถ ใช้รถจริง ถ่ายทำกลางคืนเพื่อ Night Race เดือดๆ

ส่วนเพลงประกอบ OST ก็ปัง มีเพลง “LEVEL UP (OST. PIT BABE The Series 2)” จาก TMC Stage คลิปเบื้องหลังบน YouTube และ IG แสดงนักแสดงร้องเพลง อย่างพูห์ร้อง “ไหนว่าหัวใจอยู่ข้างซ้าย (MY TYPE)” ทีมงานบอกว่าถ่าย MV กลางสนามแข่งจริงเพื่อความสมจริง บน TikTok มีคลิป “Pit Babe Season 2: Behind the Scenes Insights” แสดงโมเมนต์นักแสดงอย่างมิ้ล (วิลลี่) ซ้อมจีบพูห์ ฮามาก ทุกคนง่วงแต่สนุก แล้วยังมี SNEAK PEEK บน IG แสดง CharlieBabe (พูห์-พาเวล) ถ่ายฉากหวานๆ สำหรับ photobook ภาค 2

นักแสดงเล่าว่า ถ่ายฉากแล็บทดลองยากเพราะต้องแสดงอาการเซนส์ผิดปกติ พีท (ปิง) กับคริส (นัท) มีโมเมนต์เบื้องหลังเศร้าๆ เพราะพล็อตลืมคนเก่า บน X มีแฟนๆ แชร์คลิปจากงาน CHANGE2561 OPEN HOUSE ที่นักแสดงมาโปรโมท อย่าง PoohPavel พูดถึงความเหนื่อยแต่สนุก ทีมงานใช้ CG สำหรับเซนส์พิเศษ อย่างหยุดเวลา วิลลี่ ถ่ายหลายเทคมาก

สุดยอดเลยใช่ไหม เบื้องหลัง Pit Babe 2 แสดงให้เห็นความทุ่มเทของทีมงานและนักแสดง ถ้าชอบไปตามคลิปเบื้องหลังบน YouTube และ TikTok นะ รับรองฟิน

นักแสดง

→ เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย รับบท โทนี่

เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย

ศัตรูตัวฉกาจของทีม X-Hunter และกลุ่มอัลฟ่าพิเศษทั้งหมด โทนี่ปรากฏตัวครั้งแรกในซีซั่นแรกในฐานะเจ้าของมูลนิธิบ้านตระกูลเฉิน ที่ใช้เด็กอัลฟ่าพิเศษเป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่ในภาคสองนี้ โทนี่กลับมาอย่างลึกลับหลังจากที่ทุกคนคิดว่าเขาตายไปแล้ว การฟื้นคืนชีพของเขาเป็นปริศนาที่ไม่มีใครรู้คำตอบชัดเจน ทำให้ตัวละครนี้เต็มไปด้วยความลึกลับและแผนการซับซ้อน โทนี่วางหมากทำลายเบ๊บ ชาลี และทีม X-Hunter อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยใช้เคนตะ วินเนอร์ และดีนที่ถูกปล่อยจากคุกมาเป็นเครื่องมือ วินเนอร์กลายเป็นมือขวาคนใหม่เพื่อแก้แค้น ในขณะที่โทนี่คุกคามแล็บทดลองยาสลายทักษะเพื่อครอบครองพลังพิเศษทั้งหมด เอสเล่นบทนี้ได้แบบเยือกเย็นและมีเสน่ห์ร้ายกาจ

การแสดงของเขาสะท้อนความทะเยอทะยานที่ไร้ขีดจำกัด โทนี่ไม่ใช่แค่วายร้ายธรรมดา แต่เป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายที่เกิดจากความโลภและความแค้นสะสม เขากดดันอลันให้กลายเป็นหนอนบ่อนไส้เพื่อเอาเลือดชาลีมาทดลอง และในตอนจบ โทนี่เผชิญหน้ากับเบ๊บและชาลีในแผนแลกเปลี่ยนที่เสี่ยงสูญเสียครั้งใหญ่ ทำให้ตัวละครนี้เป็นแกนหลักที่ขับเคลื่อนดราม่าความรักและการต่อสู้ของทุกคน โทนี่ในภาคนี้พัฒนาให้ร้ายกาจกว่าเดิม โดยเอสเพิ่มเลเยอร์อารมณ์ที่ทำให้คนดูทั้งเกลียดและสงสารในบางมุม การกลับมาของเขาสร้างปรากฏการณ์ให้ซีรีส์ร้อนแรงยิ่งขึ้น

ฉายา “ราชันย์แห่งความมืด”
เหมาะกับโทนี่มากเพราะเขาคือผู้ปกครองโลกมืดของอัลฟ่าพิเศษที่เต็มไปด้วยแผนการชั่วร้ายและการควบคุมชีวิตคนอื่น โทนี่กลับมาจากความตายแบบราชันย์ที่ไม่ยอมแพ้ วางหมากซับซ้อนเพื่อทำลายทีม X-Hunter เริ่มจากปล่อยเคนตะ วินเนอร์ และดีนจากคุก แล้วใช้พวกเขาเป็นหมากในเกมแก้แค้นของตัวเอง เขาคุกคามแล็บยาสลายทักษะเพื่อครอบครองพลังทั้งหมด ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความมืดมิดของความกลัว โทนี่ไม่ใช่แค่วายร้าย แต่เป็นราชันย์ที่ควบคุมทุกอย่างจากเบื้องหลัง กดดันอลันให้หักหลังทีมเพื่อเอาเลือดชาลี และในตอนจบ เขาเผชิญหน้ากับเบ๊บและชาลีในแผนแลกเปลี่ยนที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม ฉายานี้สะท้อนความทะเยอทะยานและความเยือกเย็นที่เอสเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้คนดูรู้สึกถึงอำนาจมืดที่ครอบงำเรื่องราวทั้งหมด

ข้อคิดจากบทโทนี่คือ ความโลภนำมาซึ่งการล่มสลาย
เพราะโทนี่ถูกขับเคลื่อนด้วยความโลภอยากครอบครองพลังอัลฟ่าพิเศษทั้งหมดเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทำให้เขาวางแผนชั่วร้ายที่สุดท้ายนำไปสู่จุดจบของตัวเอง ในซีซั่นสอง โทนี่กลับมาจากความตายแต่ยังยึดติดกับความโลภเดิม ใช้คนอื่นอย่างวินเนอร์เป็นเครื่องมือแก้แค้น คุกคามแล็บและทีม X-Hunter จนทำให้เกิดความสูญเสียและดราม่ามากมาย ข้อคิดนี้สอนว่าความโลภทำให้คนสูญเสียความเป็นมนุษย์ กลายเป็นราชันย์มืดที่ควบคุมทุกอย่างแต่สุดท้ายถูกทำลายโดยแผนของตัวเอง โทนี่กดดันอลันและไล่ล่าชาลีเพื่อเลือดทดลอง แต่แผนแลกเปลี่ยนตอนจบกลับพลิกผันเพราะความรักของเบ๊บและชาลีที่แข็งแกร่งกว่า ทำให้เห็นว่าความโลภไม่เคยชนะความดีและการเสียสละ ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าความทะเยอทะยานที่ไร้ขอบเขตนำไปสู่การล่มสลายเสมอ

→ พาเวล นเรศ พร้อมเผ่าพันธุ์ รับบท เบ๊บ

S 26263955
พาเวล นเรศ พร้อมเผ่าพันธุ์

นักแข่งรถพิทเบ๊บผู้มีเซนส์พิเศษ แต่ยังถูกหลอกหลอนจากฝันร้ายในอดีต เช่น การตายของเวย์และความชั่วร้ายของโทนี่ ทำให้เขายึดติดกับชาลีคนรักที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันแบบแนบแน่น หนึ่งปีหลังมูลนิธิเฉินถูกปิด เบ๊บต้องเผชิญบททดสอบใหม่ เมื่อวิลลี่นักแข่งรุ่นใหม่จากทีม ETA โค่นตำแหน่งคิงของเขาตั้งแต่แมตช์แรก ทำให้เบ๊บสั่นคลอนและสูญเสียความมั่นใจ พาเวลเล่นบทนี้ได้แบบแสดงความเปราะบางทางอารมณ์ได้ดี โดยเฉพาะตอนที่ถูกวิลลี่รุกจีบชาลี ทำให้ความรักของเบ๊บและชาลีเกิดรอยร้าว เบ๊บกลายเป็นเป้าหมายหลักของโทนี่ที่กลับมาจากความตาย วางแผนชั่วร้ายเพื่อทำลายทีม X-Hunter เขาต้องต่อสู้ทั้งบนสนามแข่งและในชีวิตส่วนตัว เช่น ตอนบาดเจ็บจากรถชนลึกลับ ชาลีมาดูแลแต่วิลลี่ป่วนเข้ามา

เบ๊บอาสาเป็นหนูทดลองยาสลายทักษะแทนชาลีเพื่อปกป้องคนรัก แสดงให้เห็นพัฒนาการจากคนที่เคยอ่อนแอเป็นคนเข้มแข็งขึ้น พาเวลเพิ่มเลเยอร์อารมณ์ให้เบ๊บมีทั้งความหวั่นไหวจากคู่แข่งและความมุ่งมั่นทวงบัลลังก์ ในตอนจบ เบ๊บใช้ความรักฟื้นความจำให้ชาลีที่สูญเสียจากเซนส์ผิดปกติ และเผชิญโทนี่ในแผนแลกเปลี่ยนเสี่ยงตาย เบ๊บไม่ใช่แค่นักแข่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความรักและความยุติธรรม ทำให้คนดูรู้สึกผูกพันกับตัวละครนี้ตลอดทั้งเรื่อง การแสดงของพาเวลทำให้เบ๊บมีมิติลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม สร้างปรากฏการณ์ในวงการ BL

ฉายา พิทคิงผู้สั่นคลอน
เหมาะกับเบ๊บมากเพราะเขาเคยเป็นคิงของสนามแข่งพิทเบ๊บ แต่ในภาคสองถูกท้าทายจนสั่นคลอนทั้งกายและใจ จากวิลลี่ที่โค่นตำแหน่งตั้งแต่แมตช์แรก ทำให้เบ๊บสูญเสียความมั่นใจและต้องพิสูจน์ตัวเองใหม่ เบ๊บเผชิญดราม่าจากวิลลี่ที่รุกจีบชาลี ทำให้ความรักสั่นคลอน แต่เขายังคงเป็นพิทคิงที่กลับมาทวงบัลลังก์ในสนามสุดท้ายอย่าง THE HALLOWS SUPER GT STREET THUNDER ด้วยความทุ่มเท ฉายานี้สะท้อนการพัฒนาของเบ๊บจากคิงที่มั่นคงเป็นคนที่สั่นคลอนแต่ลุกขึ้นสู้ พาเวลเล่นได้แบบแสดงความอ่อนแอและความเข้มแข็งผสมกัน ทำให้คนดูเห็นว่าพิทคิงไม่ใช่แค่เร็วแต่ต้องมีหัวใจนักสู้ การสั่นคลอนจากโทนี่ที่กลับมาคุกคามยังทำให้เบ๊บกลายเป็นฮีโร่ที่ปกป้องทีมและความรัก ฉายานี้เน้นธีมการล้มแล้วลุกในซีรีส์

ข้อคิดจากบทเบ๊บคือ ความรักคือพลังในการฟื้นฟู
เพราะเบ๊บใช้ความรักกับชาลีฟื้นตัวจากฝันร้ายอดีตและอุปสรรคใหม่ๆ ในภาคสอง เบ๊บสั่นคลอนจากวิลลี่ที่โค่นตำแหน่งและรุกจีบชาลี แต่ความรักทำให้เขาลุกขึ้นสู้ ทวงบัลลังก์คิงสนามกลับมา เมื่อชาลีสูญเสียความจำจากเซนส์ผิดปกติ เบ๊บใช้ความรักช่วยฟื้นความทรงจำ ข้อคิดนี้สอนว่าความรักไม่ใช่แค่ความหวานแต่เป็นพลังที่ฟื้นฟูจิตใจและร่างกาย ทำให้คนที่อ่อนแอแข็งแกร่งขึ้น เบ๊บอาสาทดลองยาแทนชาลีเพื่อปกป้อง แสดงให้เห็นว่าความรักนำไปสู่การเสียสละ ในตอนจบ เบ๊บและชาลีร่วมมือเผชิญโทนี่ด้วยแผนแลกเปลี่ยน ทำให้เห็นว่าความรักฟื้นฟูไม่ใช่แค่ตัวบุคคลแต่รวมถึงทีมทั้งหมด ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าความรักช่วยฟื้นฟูจากความสูญเสียและทำให้ชีวิตมีพลังใหม่

→ พูห์ กฤติน กิจจารุวรรณกุล รับบท ชาลี

hq720
พูห์ กฤติน กิจจารุวรรณกุล

คู่รักของเบ๊บและนักแข่งรถในทีม X-Hunter ผู้ร่วมพัฒนายาสลายทักษะเพื่อช่วยอัลฟ่าพิเศษกำจัดเซนส์ที่ไม่ต้องการ หนึ่งปีหลังมูลนิธิเฉินถูกปิด ชาลีย้ายมาอยู่กับเบ๊บ คอยดูแลจากฝันร้ายอดีต ทำให้ความรักแน่นแฟ้น แต่เขายุ่งกับแล็บร่วมพีท ทำให้เวลากับเบ๊บน้อยลง ชาลีเชื่อว่ายานี้จะปกป้องทุกคนจากภัยแบบโทนี่ ยอมเสียสละตัวเองเป็นหนูทดลองเพื่อความปลอดภัย พูห์เล่นบทนี้ได้แบบแสดงความ possessive ที่เพิ่มขึ้นจากซีซั่นแรก โดยเฉพาะตอนวิลลี่รุกจีบเบ๊บ ทำให้ชาลีหวั่นไหวและงอนหนักจากภาพบาดตาและแหวนแทนใจ ชาลีรับเซนส์ทำนายอนาคตจากเจฟ ทำให้ร่างกายแย่ลงแต่ยังเริ่มทดลองยาใหม่ เขาเอ่ยปากขอถอยห่างจากเบ๊บเพราะห่วงอันตรายจากโทนี่ที่กลับมา

แต่สุดท้ายดึงดูดกันยิ่งกว่า ชาลีถูกวิลลี่ลักพาตัวเพราะเป็นกุญแจที่โทนี่ต้องการ แต่เบ๊บช่วยกลับมา ชาลีขอโทษและง้อด้วยคำหวานคืนแหวน ให้คำมั่นว่าจะไม่ถอดอีก พูห์เพิ่มมิติให้ชาลีมีทั้งความอ่อนโยนและเข้มแข็ง เช่น ตอนเซอร์ไพรส์วันเกิดเบ๊บหรือเป็นที่ปรึกษาให้เจฟง้ออลัน ชาลีสูญเสียความจำจากเซนส์วิวัฒนาการ แต่เบ๊บใช้รักฟื้น ในตอนจบ ชาลีร่วมแผนแลกเปลี่ยนกับโทนี่ ยอมเสี่ยงเพื่อปกป้องทีม ชาลีไม่ใช่แค่นักแข่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเสียสละเพื่อความรักและเพื่อน ทำให้คนดูผูกพัน การแสดงของพูห์ทำให้ชาลีมีเลเยอร์อารมณ์ที่ซับซ้อน สร้างโมเมนต์หวานและดราม่าที่น่าจดจำตลอดเรื่อง

ฉายา “ผู้พิทักษ์หัวใจ”
เหมาะกับชาลีมากเพราะเขาเป็นผู้ปกป้องความรักและความปลอดภัยของเบ๊บและทีม X-Hunter ด้วยการเสียสละตัวเอง ชาลีพัฒนายาสลายทักษะเพื่อให้อัลฟ่าพิเศษเลือกชีวิตได้โดยไม่ตกเป็นเหยื่อ เขายอมเป็นหนูทดลองยาแม้ร่างกายแย่ลงจากเซนส์ที่รับมาจากเจฟ ชาลีห่วงเบ๊บจากอันตรายของโทนี่ที่กลับมา ขอถอยห่างแต่สุดท้ายปกป้องซึ่งกันและกันยิ่งกว่า ฉายานี้สะท้อนบทบาทของชาลีที่ดูแลเบ๊บจากฝันร้ายอดีตและดราม่าวิลลี่ที่รุกจีบ ทำให้หัวใจของเบ๊บมั่นคง พูห์เล่นได้แบบแสดงความอ่อนโยนและความมุ่งมั่นผสมกัน ชาลีเป็นที่ปรึกษาให้เจฟง้ออลัน แสดงให้เห็นว่าเขาพิทักษ์หัวใจไม่ใช่แค่คู่ตัวเองแต่รวมถึงเพื่อน ในตอนจบ ชาลีร่วมแผนแลกเปลี่ยนกับโทนี่เพื่อปกป้องทุกคน ฉายานี้เน้นธีมการปกป้องที่ทำให้ชาลีกลายเป็นฮีโร่ในเรื่อง

ข้อคิดจากบทชาลีคือ “การเสียสละนำมาซึ่งความแข็งแกร่ง”
เพราะชาลียอมเสียสละเวลาตัวเองพัฒนายาสลายทักษะเพื่อปกป้องเบ๊บและทุกคนจากภัยแบบโทนี่ ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นทั้งกายและใจ ในภาคสอง ชาลีรับเซนส์จากเจฟทำให้ร่างกายแย่แต่ยังยอมเป็นหนูทดลอง ข้อคิดนี้สอนว่าการเสียสละไม่ใช่ความอ่อนแอแต่สร้างความเข้มแข็งภายในและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ชาลียุ่งกับแล็บแต่ยังเซอร์ไพรส์วันเกิดเบ๊บและง้อหลังเข้าใจผิด แสดงให้เห็นว่าการเสียสละนำไปสู่ความหวานที่ทวีคูณ เมื่อถูกวิลลี่ลักพาตัว ชาลีใช้โอกาสนั้นต่อรองเพื่ออิสระ แต่สุดท้ายการเสียสละของเขาช่วยทีมรอดจากโทนี่ ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าการยอมเสียเพื่อคนอื่นทำให้ตัวเองเติบโตและได้รับพลังใหม่ในการต่อสู้

→ สายลับ เหมวิช ขวัญอำไพพันธุ์ รับบท อลัน

สายลับ เหมวิช ขวัญอำไพพันธุ์

หัวหน้าทีม X-Hunter คนธรรมดาไม่มีเซนส์พิเศษ แต่ยังคงคบกับเจฟแบบมั่นคงแม้เซนส์ของเจฟจะผิดปกติทำให้ร่างกายมีปัญหา ทั้งคู่ช่วยกันประคับประคองทีมให้ครองแชมป์แข่งรถต่อไป ปัญหาในใจอลันคือความรู้สึกด้อยที่ร่างกายอ่อนแอปกป้องเจฟไม่ได้ ทำให้เขากังวลตลอดเรื่อง สายลับเล่นบทนี้ได้แบบแสดงความขัดแย้งภายในได้ชัด โดยเฉพาะตอนเจฟสารภาพเซนส์กลับมาและพัฒนาขึ้นจนอันตรายต่อร่างกาย อลันโกรธที่เจฟปิดบังเพราะไม่อยากเป็นภาระ แต่อลันมองว่าคนรักต้องเดินไปพร้อมกันไม่ใช่ภาระ ทำให้เกิดดราม่าปรับความคิด อลันเครียดหนักกับเซนส์ผิดปกติของเจฟจนเกินควบคุม และตัวเองป่วยแต่ปิดบังเจฟกลับ ทำให้เจฟน้อยใจเพราะเคยบอกว่าต้องเชื่อใจกันทุกอย่าง

อลันต้องแก้ตัวกับเจฟแสดงให้เห็นพัฒนาการจากคนกังวลเป็นคนที่เรียนรู้การเปิดใจ อลันผลักดันนอร์ธขึ้นแทนคิมในทีมและเปิดตัวช่างคนใหม่ ช่วยวางแผนหลังเบ๊บแพ้วิลลี่ แต่พีคสุดเมื่ออลันรับเซนส์พิเศษจากโทนี่ที่กลับมา ทำให้ถูกกดดันสั่งเอาเลือดชาลีมาให้เร็วที่สุด อลันกลายเป็นหนอนบ่อนไส้ในทีม X-Hunter ชั่วคราว แต่สุดท้ายถูกเบ๊บจับได้และสารภาพว่านำเลือดชาลีให้โทนี่ ทำให้เกิดคำถามว่าอลันอยู่ฝั่งไหนและทำเพื่ออะไร อลันไม่ใช่แค่นำทีม แต่เป็นสัญลักษณ์ของคนธรรมดาที่ต่อสู้กับข้อจำกัดตัวเอง ทำให้คนดูเห็นมิติของความเปราะบางและความภักดี การแสดงของสายลับทำให้อลันมีเลเยอร์อารมณ์ที่ซับซ้อน สร้างดราม่าที่น่าติดตามตลอดเรื่อง

ฉายา “หัวหน้าผู้ภักดี”
เหมาะกับอลันมากเพราะเขาเป็นหัวหน้าทีม X-Hunter ที่ภักดีต่อทีมและเจฟแม้ตัวเองเป็นคนธรรมดาไม่มีเซนส์พิเศษ อลันประคับประคองทีมให้ครองแชมป์แข่งรถแม้เจฟมีปัญหาสุขภาพจากเซนส์ผิดปกติ เขากังวลปกป้องเจฟไม่ได้แต่ยังผลักดันทีมปรับแผนหลังเบ๊บแพ้วิลลี่ ฉายานี้สะท้อนความภักดีที่อลันแสดงตอนโกรธเจฟปิดบังเซนส์แต่สุดท้ายปรับความคิดเพราะคนรักต้องเดินพร้อมกัน สายลับเล่นได้แบบแสดงความเข้มแข็งผสมความเปราะบาง อลันเปิดตัวช่างคนใหม่และผลักนอร์ธขึ้นทีม แสดงความภักดีต่อทีมทั้งหมด แม้รับเซนส์จากโทนี่และถูกสั่งหักหลัง แต่สุดท้ายสารภาพกับเบ๊บ ทำให้เห็นว่าความภักดีชนะการกดดัน ฉายานี้เน้นธีมความภักดีที่ทำให้อลันกลายเป็นแกนนำที่ทีมขาดไม่ได้

ข้อคิดจากบทอลันคือ “ความภักดีเหนือข้อจำกัด”
เพราะอลันเป็นคนธรรมดาที่ภักดีต่อเจฟและทีมแม้ร่างกายอ่อนแอปกป้องไม่ได้ ทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นจากภายใน ในภาคสอง อลันกังวลเซนส์ผิดปกติของเจฟแต่ช่วยประคับประคองทีมครองแชมป์ ข้อคิดนี้สอนว่าความภักดีไม่ถูกจำกัดด้วยพลังพิเศษหรือร่างกาย แต่มาจากหัวใจที่มุ่งมั่น อลันโกรธเจฟปิดบังแต่ปรับความคิดว่าคนรักต้องเปิดใจ และตัวเองป่วยปิดบังแต่สุดท้ายแก้ตัว แสดงให้เห็นว่าความภักดีนำไปสู่การเติบโต เมื่อรับเซนส์จากโทนี่และถูกสั่งหักหลัง แต่สารภาพกับเบ๊บ ทำให้เห็นว่าความภักดีชนะการควบคุม ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าความภักดีช่วยเอาชนะข้อจำกัดและสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง

→ ภณ ธนภณ เอี่ยมกำชัย รับบท เจฟ

ภณ ธนภณ เอี่ยมกำชัย

สมาชิกทีม X-Hunter คู่รักของอลัน ผู้มีเซนส์พิเศษทำนายอนาคตแต่ในภาคนี้เซนส์เกิดอาการแปลกๆ ทำให้ร่างกายมีปัญหาและอ่อนแอลง ทั้งคู่ยังคบกันดีช่วยกันประคับประคองทีมให้ครองแชมป์แข่งรถ เจฟคิดว่าเซนส์ของตัวเองคุมได้แล้วแต่กลับมาเห็นอนาคตอีกครั้งและพัฒนาขึ้น ทำให้ได้รับความรู้สึกเดียวกันจากวิสัยทัศน์จนอันตรายต่อร่างกาย ภณเล่นบทนี้ได้แบบแสดงความขัดแย้งภายในได้ชัด โดยเฉพาะตอนสารภาพกับอลันและทีมว่าปิดบังเพราะไม่อยากเป็นภาระ แต่อลันโกรธเพราะคนรักต้องเดินไปพร้อมกัน ทำให้เกิดดราม่าง้อกัน เจฟง้ออลันทุกวิถีทางจนไปปรับทุกข์กับชาลีที่ให้คำปรึกษาว่าความสัมพันธ์ต้องตัดสินใจด้วยกัน

เจฟเห็นภาพอนาคตเห็นใครบางคนกลับมา สร้างปริศนาให้ทีม และเซนส์วิวัฒนาการทำให้ชาลีรับไปแล้วร่างกายชาลีแย่ลง เจฟรู้สึกน้อยใจเมื่อรู้ด้วยตัวเองว่าอลันป่วยแต่ปิดบัง แม้เคยบอกว่าต้องเชื่อใจกันทุกอย่าง ทำให้เจฟตั้งคำถามว่าทำไมอลันต้องปิด เจฟไม่ใช่แค่มีพลัง แต่เป็นสัญลักษณ์ของคนที่ต่อสู้กับข้อจำกัดของเซนส์ที่เป็นทั้งพรและคำสาป ทำให้คนดูเห็นมิติของความเปราะบางทางร่างกายและจิตใจ การแสดงของภณทำให้เจฟมีเลเยอร์อารมณ์ที่ซับซ้อน เช่น ตอนเครียดกับเซนส์รุนแรงขึ้นจนเกินควบคุม หรือตอนช่วยทีมวางแผนหลังเบ๊บแพ้วิลลี่ เจฟช่วยเปิดเผยความจริงเรื่องโทนี่กลับมา สร้างดราม่าหักหลังในทีม ทำให้เรื่องราวเข้มข้นยิ่งขึ้น

ฉายา “ผู้ทำนายผู้เปราะบาง”
เหมาะกับเจฟมากเพราะเขาเป็นผู้มีเซนส์ทำนายอนาคตแต่ร่างกายเปราะบางจากอาการผิดปกติที่เกิดขึ้น เจฟเห็นภาพอนาคตเห็นใครบางคนกลับมาสร้างปริศนาให้ทีม แต่เซนส์พัฒนาขึ้นทำให้ได้รับความรู้สึกเดียวกันจนอันตรายต่อร่างกาย ภณเล่นได้แบบแสดงความเปราะบางผสมความเข้มแข็ง เจฟปิดบังเซนส์จากอลันเพราะไม่อยากเป็นภาระ แต่สุดท้ายสารภาพและง้อ แสดงให้เห็นว่าผู้ทำนายไม่ใช่แค่พลังแต่มีความอ่อนแอ เจฟช่วยทีมด้วยวิสัยทัศน์ เช่น เปิดเผยโทนี่กลับมา แต่ร่างกายแย่ลงเมื่อชาลีรับเซนส์ไป ฉายานี้สะท้อนธีมที่เซนส์เป็นทั้งพรและคำสาป ทำให้เจฟกลายเป็นตัวละครที่คนดูสงสารและชื่นชมความพยายามต่อสู้กับข้อจำกัดตัวเอง

ข้อคิดจากบทเจฟคือ “การเปิดใจนำมาซึ่งความเข้าใจ”
เพราะเจฟปิดบังเซนส์ผิดปกติจากอลันเพราะกลัวเป็นภาระ แต่สุดท้ายการสารภาพนำไปสู่ความเข้าใจและปรับความคิดกัน ในภาคสอง เจฟง้ออลันหลังโกรธเรื่องปิดบัง ทำให้เห็นว่าการเปิดใจช่วยแก้ดราม่า ข้อคิดนี้สอนว่าการปิดบังแม้ด้วยเจตนาดีแต่สร้างรอยร้าว การเปิดใจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง เจฟน้อยใจอลันป่วยปิดบังแต่แก้ตัวกัน แสดงให้เห็นว่าความเข้าใจมาจากการสื่อสาร เซนส์ของเจฟที่ผิดปกติทำให้เขาต้องเปิดใจกับทีมเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าการเปิดใจช่วยเอาชนะความเปราะบางและสร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

→ นัท ศุภณัฐ เลาหะพานิช รับบท เวย์/คริส

a0621880 a8f5 11ec 8cc6 97d66415826b original
นัท ศุภณัฐ เลาหะพานิช

นัท ศุภณัฐ เลาหะพานิช รับบทเวย์ในซีซั่นแรกที่ตายไปแล้ว แต่กลับมาในภาคสองในชื่อคริส นักวิจัยหนุ่มจากต่างประเทศที่หน้าตาเหมือนเวย์เป๊ะทุกอย่าง ทำให้ทีม X-Hunter ตกใจและสงสัยว่ามีอะไรแอบแฝง คริสเข้ามาร่วมแล็บพัฒนายาสลายทักษะกับพีทและชาลี แต่ความสัมพันธ์กับพีทกลายเป็นจุดเดือด พีทยังลืมเวย์ไม่ได้และหลงใหลคริสจนถอนตัวไม่ขึ้น คริสตั้งกฎชัดเจนว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมงานที่รักสนุกแต่ไม่คิดผูกพัน ทำให้พีทเจ็บแต่ก็ยอมรับ นัทเล่นบทนี้ได้แบบเย็นชาแต่มีเสน่ห์ลึกลับ ตอนทุกคนเห็นหน้าคริสครั้งแรกก็ช็อกกันทั้งทีม เบ๊บ ชาลี อลัน เจฟ ต่างตามหาความจริงว่าเขาคือเวย์กลับชาติมาเกิดหรือแค่บังเอิญหน้าคล้าย

คริสปฏิเสธทุกข้อสงสัยและยืนยันว่าเป็นคนละคน แต่พฤติกรรมบางอย่างทำให้คนดูยิ่งสงสัย คริสช่วยงานแล็บแต่ก็สร้างความสับสนทางอารมณ์ให้พีทอย่างหนัก จนกลายเป็นหนึ่งในคู่รองที่คนดูฟินและเจ็บแทนตลอดเรื่อง นัทถ่ายทอดความรู้สึกของคริสที่เหมือนตั้งกำแพงป้องกันตัวเองได้ดี ทำให้คนดูรู้สึกว่าเขาอาจซ่อนความเจ็บปวดจากอดีตไว้ เวย์/คริสไม่ใช่แค่ตัวละครปริศนา แต่เป็นตัวจุดชนวนให้พีทต้องเผชิญความจริงว่าต้องปล่อยวางอดีต การแสดงของนัททำให้บทนี้มีมิติลึกซึ้งและกลายเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของซีซั่นสอง

ฉายา “เงาอดีตที่เดินได้”
เหมาะกับคริสมากที่สุด เพราะเขาไม่ใช่เวย์ แต่หน้าตาเหมือนเป๊ะจนกลายเป็นเงาของคนตายที่ยังมีชีวิตเดินอยู่ได้ ทุกครั้งที่คริสปรากฏตัว พีทและคนในทีมต้องสะดุ้งและย้อนนึกถึงเวย์ที่จากไป คริสตั้งกำแพงชัดเจนว่าเป็นแค่เพื่อนร่วมงานสนุกๆ ไม่ผูกมัด แต่สายตาและรอยยิ้มบางมุมทำพีทหลุดเข้าไปในความทรงจำเก่า ฉายานี้สะท้อนความรู้สึกของคนดูที่เห็นคริสแล้วเหมือนเจอเวย์กลับมา แต่ก็รู้ว่าเป็นคนละคน นัทเล่นได้แบบเย็นชาแต่แฝงความเศร้าลึกๆ ทำให้คนดูตั้งคำถามตลอดว่าคริสซ่อนอะไรไว้กันแน่ เงาอดีตที่เดินได้ตัวนี้ทำให้พีทต้องเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็เป็นแรงผลักให้พีทเติบโตและปล่อยวางในที่สุด

ข้อคิดจากบทคริสคือ “การปล่อยวางคือก้าวต่อไปที่แท้จริง”
เพราะคริสที่เหมือนเงาของเวย์ทำให้พีทต้องเผชิญความจริงว่าคนตายไปแล้วจะไม่กลับมา แม้หน้าตาจะเหมือนแค่ไหนแต่ก็เป็นคนละคน พีทหลงใหลคริสจนถอนตัวไม่ขึ้นเพราะยังยึดติดอดีต แต่คริสตั้งกฎชัดเจนว่าไม่ผูกพัน ทำให้พีทเจ็บแต่ก็ค่อยๆ เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ข้อคิดนี้สอนว่าการยึดติดกับสิ่งที่จากไปทำให้เราเจ็บปวดซ้ำๆ การยอมรับว่าบางคนเป็นแค่เงาอดีตจะช่วยให้เราเดินหน้าต่อได้ คริสไม่เคยบอกตรงๆ ว่าเป็นเวย์หรือไม่ แต่การมีอยู่ของเขาคือบทเรียนให้พีทเติบโต ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าการปล่อยวางคนที่จากไปหรือความสัมพันธ์ที่จบแล้วถึงจะเจ็บแต่เป็นทางเดียวที่จะได้เริ่มต้นใหม่

→ ปิง โอบนิธิ ลีลาเวชบุตร รับบท พีท

77d3eb70 bd6f 11ed a563 2f4410ce6996 webp original
ปิง โอบนิธิ ลีลาเวชบุตร

หัวหน้าทีมแล็บพัฒนายาสลายทักษะ ร่วมกับชาลีและต่อมาคริส แต่หัวใจของเขายังคงอยู่กับเวย์ที่ตายไปตั้งแต่ซีซั่นแรก พีททุ่มเททำงานแล็บเพื่อช่วยอัลฟ่าพิเศษกำจัดเซนส์ แต่ชีวิตส่วนตัวคือความโศกเศร้าที่ไม่มีวันหาย เมื่อคริส (นัท ศุภณัฐ) นักวิจัยหน้าเหมือนเวย์เป๊ะเข้ามาร่วมทีม พีทถึงกับช็อกและหลุดเข้าไปในความทรงจำเก่า ปิงเล่นบทนี้ได้แบบแสดงความอ่อนแอและความโหยหาได้สะเทือนใจสุดๆ ตั้งแต่สายตาที่มองคริสแล้วน้ำตาคลอ ไปจนถึงการยอมรับความสัมพันธ์แบบ “เพื่อนร่วมงานที่รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน” ที่คริสตั้งกฎไว้

พีทยอมเจ็บเพื่อแค่ได้อยู่ใกล้เงาอดีต เขาส่งเคนตะไปซ่อนที่บ้านคิมเพื่อปกป้อง และยังคงทำงานแล็บต่อแม้ใจแตกสลาย ทุกครั้งที่คริสเดินเข้ามาในห้องแล็บ พีทจะหยุดทุกอย่างแล้วมองด้วยความหวังลึกๆ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงว่าคริสไม่ใช่เวย์ พีทกลายเป็นตัวละครที่คนดูสงสารและเอาใจช่วยมากที่สุดในซีซั่นนี้ การแสดงของปิงทำให้พีทมีมิติของคนที่รักจนไม่ยอมปล่อย และค่อยๆ เรียนรู้ที่จะก้าวต่อ การเจ็บปวดของเขาคือหัวใจของคู่รองที่คนดูร้องไห้ตามกันทั้งโซเชียล

ฉายา “ผู้ถูกขังในอดีต”
ติดพีทแน่นที่สุด เพราะเขายังคงใช้ชีวิตอยู่ในความทรงจำของเวย์ที่จากไป ทุกวันคือการวนลูปความเจ็บปวดเดิม เมื่อคริสที่หน้าเหมือนเวย์เป๊ะเดินเข้ามา พีทเหมือนได้กุญแจเปิดกรงแต่สุดท้ายก็ยังเลือกขังตัวเองต่อ ปิงเล่นสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังและความเสียใจได้แบบกินใจคนดูสุดๆ พีทยอมรับความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดจากคริส เพียงเพื่อให้ได้อยู่ใกล้เงาของคนที่รัก ฉายานี้สะท้อนสภาพจิตใจของคนที่ยังไม่พร้อมปล่อยวาง ทำให้พีทกลายเป็นตัวละครที่คนดูอยากเข้าไปกอดและบอกให้เขาเดินหน้าต่อสักที

ข้อคิดจากบทพีทคือ “ความรักที่แท้ต้องยอมปล่อยเพื่อให้อีกคนเป็นอิสระ”
เพราะพีทรักเวย์มากจนขังตัวเองไว้ในอดีต แต่เมื่อเจอคริสที่ไม่ใช่เวย์ เขาค่อยๆ เรียนรู้ว่าความรักที่ยึดติดมากเกินไปทำให้ทั้งตัวเองและคนที่อยู่ตรงหน้าเจ็บ พีทยอมเจ็บเพื่อคริสแค่ได้อยู่ใกล้ แต่สุดท้ายต้องยอมรับว่าคริสมีสิทธิ์เลือกชีวิตตัวเอง ข้อคิดนี้สอนว่าความรักที่แท้จริงไม่ใช่การครอบครอง แต่เป็นการให้อิสระและยอมให้อีกคนเดินทางของตัวเอง แม้จะเจ็บแค่ไหน การปล่อยวางคือการรักที่สมบูรณ์ที่สุด พีทในตอนจบเริ่มเห็นแสงสว่างหลังจากยอมปล่อยคริสไป กลายเป็นบทเรียนชีวิตที่คนดูเสียน้ำตากันทั้งประเทศ

→ เบนซ์ อัทธ์ธนิน ธนินภาณุวิวัฒน์ รับบท คิม

42d421a0 5294 11ee a412 dbe94ec3818b webp original
เบนซ์ อัทธ์ธนิน ธนินภาณุวิวัฒน์

นักแข่งรถลูกครึ่งไทย-เกาหลี สมาชิกทีม X-Hunter ที่อดีตเคยอยากเอาชนะเบ๊บแบบสุดตัว แต่สุดท้ายย้ายมาร่วมทีมเพื่อไล่ตามฝันเป็นนักแข่งระดับโลก คิมมีความมั่นใจ ยึดมั่นในศักดิ์ศรี จรรยาบรรณ และความใสสะอาดในการแข่งขัน แต่ในภาคนี้เขากำลังจะย้ายกลับเกาหลีเพื่อไล่ตามความฝันส่วนตัว จนต้องรับหน้าที่ดูแลเคนตะที่เสี่ยงอันตรายหลังถูกปล่อยจากคุก เบนซ์เล่นบทนี้ได้แบบแสดงความจริงจังและทะเยอทะยานได้ดี โดยเฉพาะตอนบุกเข้าแล็บทดลองของโทนี่เพื่อสืบความลับการฟื้นคืนชีพที่ไม่มีใครรู้ ทำให้คิมและเคนตะเกิดความสัมพันธ์แบบไม่เคยคาดคิด

คิมถอดตัวจากทีมแข่งเพื่อให้นอร์ธขึ้นแทน แต่ยังช่วยทีมวางแผนหลังเบ๊บแพ้วิลลี่ คิมเผชิญอันตรายจากโทนี่ที่กลับมาคุกคามอัลฟ่าพิเศษ แต่ยังคงทุ่มเททุกอย่างเพื่อเป้าหมาย คิมไม่ใช่แค่นักแข่ง แต่เป็นสัญลักษณ์ของคนที่เปลี่ยนจากคู่แข่งสู่เพื่อนแท้และพบรักใหม่ท่ามกลางความเสี่ยง การแสดงของเบนซ์ทำให้คิมมีมิติของความมุ่งมั่นที่ผสมความอ่อนโยนต่อเคนตะ เช่น ตอนดูแลเคนตะซ่อนตัวและบุกสืบแล็บ สร้างคู่รองที่คนดูฟินกับดราม่าอย่างลงตัว คิมช่วยทีม X-Hunterต่อสู้แผนชั่วร้ายของโทนี่ ทำให้บทนี้กลายเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนเรื่องราวการไถ่บาปและความสัมพันธ์ใหม่

ฉายา “นักแข่งผู้ไม่ยอมแพ้”
เหมาะกับคิมมากเพราะเขาเคยอยากเอาชนะเบ๊บแต่สุดท้ายย้ายมาร่วมทีม X-Hunter เพื่อไล่ตามฝัน คิมทุ่มเททุกอย่างแม้กำลังจะย้ายกลับเกาหลี แต่รับดูแลเคนตะและบุกสืบแล็บโทนี่ เบนซ์เล่นได้แบบแสดงความมุ่งมั่นและจรรยาบรรณในการแข่งขัน คิมถอดตัวจากทีมเพื่อให้นอร์ธขึ้นแต่ยังช่วยวางแผน ทำให้เห็นว่าเขาไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ฉายานี้สะท้อนการเปลี่ยนจากคู่แข่งสู่สมาชิกทีมที่ช่วยต่อสู้โทนี่ และพบรักกับเคนตะท่ามกลางอันตราย

ข้อคิดจากบทคิมคือ “การเปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งโอกาสใหม่”
เพราะคิมเคยเป็นคู่แข่งเบ๊บแต่ย้ายมาร่วมทีม X-Hunter ทำให้พบมิตรภาพและรักกับเคนตะ คิมยอมบุกแล็บโทนี่เสี่ยงอันตรายเพื่อสืบความจริง ข้อคิดนี้สอนว่าการกล้าเปลี่ยนแปลงแม้จากศัตรูสู่เพื่อนจะนำโอกาสใหม่ทั้งในอาชีพและหัวใจ คิมถอดตัวจากทีมแต่ยังช่วยวางแผน แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนนำไปสู่การเติบโต ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าการเปิดใจเปลี่ยนแปลงจะเปิดประตูสู่สิ่งดีๆ ที่ไม่คาดคิด

→ กาฟิวส์ พันธุ์ธัช กันคำ รับบท เคนตะ

hq720
กาฟิวส์ พันธุ์ธัช กันคำ

ตัวละครที่เคยเป็นมือขวาของโทนี่และทำเรื่องเลวร้ายไว้มากมายในซีซั่นแรก แต่หลังจากถูกจับติดคุกและถูกปล่อยออกมาโดยเงื้อมมือลึกลับ เคนตะเลือกเดินคนละทางกับวินเนอร์ เขาตัดสินใจไถ่บาปด้วยการช่วยทีม X-Hunter แทนที่จะกลับไปเป็นมือขวาโทนี่อีก กาฟิวส์เล่นบทนี้ได้แบบแสดงความรู้สึกผิดและความพยายามเปลี่ยนตัวเองได้สะเทือนใจ ตั้งแต่สายตาที่มองเบ๊บกับชาลีแล้วเต็มไปด้วยความสำนึกผิด ไปจนถึงการยอมเสี่ยงชีวิตบุกเข้าแล็บของโทนี่เพื่อสืบความลับการฟื้นคืนชีพ พีทส่งเคนตะไปซ่อนตัวที่บ้านคิม

ทำให้ทั้งสองต้องอยู่ด้วยกันและค่อยๆ เกิดความสัมพันธ์แบบไม่คาดคิด เคนตะกลายเป็นคนที่คอยปกป้องทีมจากด้านใน ช่วยดีนและทีมต่อสู้กับโทนี่ที่กลับมา เคนตะไม่ใช่แค่อดีตคนร้าย แต่เป็นตัวอย่างของคนที่เลือกไถ่บาปด้วยการกระทำจริง ไม่ใช่แค่คำพูด การแสดงของกาฟิวส์ทำให้เคนตะมีมิติของความเจ็บปวดจากอดีตและความหวังในอนาคต สร้างคู่รองเคนตะ-คิมที่คนดูฟินหนักและร้องไห้ตามการเปลี่ยนแปลงของเขา

ฉายา “มือขวาที่หันหลังให้ความมืด”
ติดเคนตะแน่นที่สุด เพราะเขาเคยเป็นมือขวาคนสำคัญของโทนี่ที่ทำเรื่องเลวร้าย แต่เมื่อมีโอกาสครั้งที่สอง เขากลับเลือกหันหลังให้ความมืดและเดินเข้าหาแสง กาฟิวส์เล่นสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความมุ่งมั่นได้แบบทะลุจอ เคนตะเสี่ยงชีวิตบุกแล็บโทนี่ ซ่อนตัวที่บ้านคิม และช่วยทีม X-Hunter ต่อสู้กับอดีตที่เขาเคยเป็นส่วนหนึ่ง ฉายานี้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้คนดูจากเกลียดกลายเป็นรักและเอาใจช่วยเขาตลอดทั้งเรื่อง

ข้อคิดจากบทเคนตะคือ “การไถ่บาปเริ่มต้นที่การเลือกใหม่”
เพราะเคนตะเคยทำผิดหนักแต่เมื่อถูกปล่อยจากคุก เขาเลือกไม่กลับไปทางเก่า แม้วินเนอร์จะเลือกเป็นมือขวาโทนี่ต่อ เคนตะเลือกช่วยเบ๊บ ชาลี และทีมแทน ข้อคิดนี้สอนว่าอดีตไม่สามารถลบได้ แต่เราสามารถเลือกใหม่ในปัจจุบันเพื่อชดเชยความผิด เคนตะเสี่ยงชีวิตสืบแล็บและปกป้องทีม แสดงให้เห็นว่าการไถ่บาปไม่ใช่แค่ขอโทษ แต่ต้องลงมือทำจริง การเลือกใหม่ของเขานำไปสู่ความรักกับคิมและการยอมรับจากทีม ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าทุกคนมีโอกาสครั้งที่สอง ถ้าเลือกเดินทางที่ถูกต้อง

→ ไมเคิล เกียรติศักดิ์ วัตนวิทย์สกุล รับบท นอร์ธ

20230328163927 C28CF377 37AC 42D1 B4F3 2D39D35A879E
ไมเคิล เกียรติศักดิ์ วัตนวิทย์สกุล

นักแข่งอารมณ์ดีของทีม X-Hunter แต่ในภาคนี้แอบเศร้าคนเดียวหนักมาก เพราะโซนิคคู่หูคนสำคัญย้ายไปเรียนแฟชั่นดีไซน์ที่ต่างประเทศ ทุกคนเลยผลักดันให้นอร์ธใจกล้าก้าวข้ามเฟรนด์โซนสักที ไมเคิลเล่นบทนี้ได้แบบแสดงความเขินและความคิดถึงได้น่ารักสุดๆ ตั้งแต่สายตาที่มองโซนิคแล้วหัวใจเต้นแรง ไปจนถึงการอัพเลเวลฝีมือแข่งรถเพื่อพิสูจน์ตัวเอง หลังคิมถอดตัวออก นอร์ธถูกอลันดันขึ้นมาเป็นตัวจริงแทน ทำให้ต้องจริงจังมากขึ้น แต่ใจยังวนเวียนอยู่ที่โซนิค

เมื่อโซนิคกลับมาและเริ่มถอยห่างเพราะกลัวจมเฟรนด์โซน นอร์ธถึงจุดที่ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ สุดท้ายนอร์ธกลายเป็นคนที่กล้าแสดงออก เคลียร์ใจและก้าวข้ามเฟรนด์โซนสำเร็จ พร้อมจูบแรกที่คนดูกรี๊ดกันทั้งประเทศ นอร์ธไม่ใช่แค่ตัวละครน่ารัก แต่เป็นตัวแทนของคนที่รักมานานและรอจังหวะที่ใช่ การแสดงของไมเคิลทำให้คนดูรู้สึกเหมือนกำลังเอาใจช่วยเพื่อนสนิทที่กำลังสารภาพรัก สร้างโมเมนต์หวานๆ ท่ามกลางดราม่าหนักๆ ของเรื่องได้อย่างลงตัว

ฉายา “เจ้าชายเฟรนด์โซน”
ติดนอร์ธแน่นที่สุด เพราะเขาอยู่ในโซนเพื่อนกับโซนิคมานานจนคนดูลุ้นแทบตาย ไมเคิลเล่นสายตาเขินๆ และความคิดถึงได้แบบทำให้คนดูอยากเข้าไปเขย่าไหล่บอกให้รีบสารภาพซะที นอร์ธเก่งแข่งรถ อารมณ์ดี แต่เรื่องความรักคือช้าและกลัวเสียเพื่อน ฉายานี้สะท้อนช่วงเวลาที่นอร์ธเศร้าคนเดียวเพราะโซนิคย้ายไป และโซนิคเองก็กลัวจมเฟรนด์โซนเหมือนกัน แต่สุดท้ายเจ้าชายคนนี้ก็กลายร่างเป็นเจ้าชายที่กล้าขึ้น สารภาพและจูบแรกสำเร็จ

ข้อคิดจากบทนอร์ธคือ “ความกล้าคือกุญแจที่เปิดประตูเฟรนด์โซน”
เพราะนอร์ธรักโซนิคมานานแต่ไม่กล้าพูด จนโซนิคย้ายไปและเกือบเสียโอกาสตลอดกาล ข้อคิดนี้สอนว่าความรู้สึกดีๆ ที่เก็บไว้มานาน ถ้าไม่กล้าบอกก็อาจกลายเป็นแค่เพื่อนตลอดไป นอร์ธต้องผ่านความกลัวเสียเพื่อนและการอัพเลเวลตัวเอง จนสุดท้ายกลายเป็นคนที่กล้าแสดงออกและได้ความรักสมหวัง ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าบางครั้งแค่ก้าวหนึ่งของความกล้า ก็เปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนได้จริงๆ

→ ท๊อปเทน ศุภกรณ์ เสาร์ขอ รับบท โซนิค

566000003911901
ท๊อปเทน ศุภกรณ์ เสาร์ขอ

ตัวละครที่เคยเป็นคู่หูสุดซี้ของนอร์ธในทีม X-Hunter แต่ย้ายไปเรียนแฟชั่นดีไซน์ที่ต่างประเทศ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ค้างคา โซนิคกลับมาในภาคนี้ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน รักนอร์ธมานานแต่กลัวก้าวข้ามเฟรนด์โซนแล้วเสียเพื่อน ท๊อปเทนเล่นสายตาที่ทั้งคิดถึง ทั้งกลัว และทั้งหวังได้แบบทำให้คนดูใจสลาย ตอนเปิดใจกับอลันว่าไม่อยากจมเฟรนด์โซนอีกแล้ว ถึงขั้นคิดจะถอยห่างและกลับไปต่างประเทศเพื่อ move on

แต่สุดท้ายเมื่อนอร์ธเริ่มกล้า โซนิคก็เปิดใจรับและเคลียร์ทุกอย่างจนกลายเป็นแฟนกันอย่างเป็นทางการ พร้อมจูบแรกที่คนดูกรี๊ดกันทั้งโซเชียล โซนิคไม่ใช่แค่คนที่ย้ายไปเรียน แต่เป็นตัวแทนของคนที่กลัวความเสี่ยงในความรักจนเกือบเสียคนที่รักไปจริงๆ การแสดงของท๊อปเทนทำให้โซนิคมีมิติของความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ใต้รอยยิ้มสดใส สร้างคู่กับนอร์ธที่หวานและจริงใจจนกลายเป็นคู่รองที่คนดูเทคะแนนให้เยอะที่สุดในซีซั่นนี้

ฉายา “เจ้าหญิงที่หนีจากปราสาท”
ติดโซนิคแน่น เพราะเขาคือคนที่หนีความรู้สึกตัวเองด้วยการย้ายไปต่างประเทศ กลัวว่าถ้าบอกนอร์ธแล้วจะเสียทั้งรักทั้งเพื่อน ท๊อปเทนเล่นความลังเลและความกลัวได้แบบละเอียดจนคนดูอยากวิ่งไปกอด โซนิคสร้างปราสาทเฟรนด์โซนไว้รอบตัว แต่สุดท้ายก็ยอมให้เจ้าชายนอร์ธเข้ามาพังกำแพงลง ฉายานี้สะท้อนช่วงเวลาที่โซนิคเกือบกลับไปต่างประเทศจริงๆ เพื่อ move on แต่ความรักที่แท้จริงดึงเขากลับมา ทำให้กลายเป็นเจ้าหญิงที่ได้แฮปปี้เอนดิ้งสมใจคนดู

ข้อคิดจากบทโซนิคคือ “ความกลัวเสียเพื่อนอาจทำให้เสียคนรักไปตลอดกาล”
เพราะโซนิครักนอร์ธมานานแต่กลัวพังความสัมพันธ์จนย้ายไปต่างประเทศและเกือบ move on จริง ข้อคิดนี้สอนว่าความกลัวเป็นกำแพงที่ขวางความสุขของตัวเอง ถ้าไม่กล้าพูดความในใจ วันหนึ่งคนที่รักอาจเดินจากไปจริงๆ โซนิคเกือบเสียโอกาสเพราะสร้างปราสาทเฟรนด์โซน แต่เมื่อทั้งคู่กล้าเปิดใจพร้อมกัน ทุกอย่างก็สวยงาม ข้อคิดนี้โดนใจคนที่เคยแอบรักเพื่อน ว่าบางครั้งแค่กล้าพูด ชีวิตอาจเปลี่ยนไปตลอดกาล

→ ป๊อป ภัทรพล วัลลภศิริ รับบท วินเนอร์

ป๊อป ภัทรพล วัลลภศิริ

ตัวละครที่เป็นอดีตนักแข่งรถใจกากปากเก่งจากทีม Red Racing ไม่เคยชนะเบ๊บได้สักครั้ง ทำให้แค้นสะสมจนกลายเป็นคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะและอยู่รอด หลังจากถูกจับติดคุกในซีซั่นแรก วินเนอร์ถูกปล่อยออกมาพร้อมเคนตะและดีนโดยเงื้อมมือของโทนี่ที่กลับมาจากความตาย แต่ต่างจากเคนตะและดีนที่เลือกไถ่บาป วินเนอร์กลับสวามิภักดิ์โทนี่ทันที กลายเป็นมือขวาคนใหม่เพื่อแก้แค้นทีม X-Hunter ป๊อปเล่นบทนี้ได้แบบแสดงความเจ้าเล่ห์และเจ้าอารมณ์ได้ชัดเจน ตั้งแต่รอยยิ้มเยาะเย้ยตอนเห็นเบ๊บสั่นคลอนจากวิลลี่ ไปจนถึงการช่วยโทนี่วางแผนชั่วร้ายคุกคามแล็บยาสลายทักษะ วินเนอร์กลายเป็นหมากสำคัญที่ทำให้ทีม X-Hunterไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

เขาใช้สัญชาตญาณเอาตัวรอดสูง ทำทุกอย่างโดยไม่สนผลกระทบต่อคนอื่น เช่น ช่วยโทนี่กดดันอลันให้หักหลังทีมเพื่อเอาเลือดชาลี วินเนอร์ไม่ใช่แค่วายร้ายรอง แต่เป็นตัวแทนของคนที่ยอมขายวิญญาณเพื่อแก้แค้นและอยู่รอด การแสดงของป๊อปทำให้วินเนอร์มีมิติของความขี้แพ้ที่ชวนให้คนดูทั้งเกลียดและเข้าใจบ้างในบางฉาก สร้างความตึงเครียดให้เรื่องราวเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ทีม X-Hunterต้องเผชิญหักหลังจากคนที่เคยเป็นคู่แข่ง วินเนอร์ช่วยขับเคลื่อนพล็อตการต่อสู้กับโทนี่ ทำให้บทนี้กลายเป็นส่วนที่คนดูพูดถึงในแง่ของการหักหลังที่โหดร้าย

ฉายา “มือขวาแห่งการแก้แค้น”
ติดวินเนอร์แน่นที่สุด เพราะเขาเคยแพ้เบ๊บทุกครั้งจนแค้นสะสม สุดท้ายเลือกเป็นมือขวาโทนี่เพื่อแก้แค้นและเอาตัวรอด ป๊อปเล่นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และสายตาแค้นได้แบบทำให้คนดูขนลุก วินเนอร์ช่วยโทนี่วางแผนทำลายทีม X-Hunter คุกคามแล็บและกดดันอลัน ฉายานี้สะท้อนสัญชาตญาณเอาตัวรอดที่ทำให้เขาไม่ลังเลหักหลังใครเพื่อเป้าหมาย ทำให้วินเนอร์กลายเป็นวายร้ายที่คนดูเกลียดแต่จำได้แม่น

ข้อคิดจากบทวินเนอร์คือ “การแก้แค้นคือกับดักที่ขังตัวเองไว้”
เพราะวินเนอร์แค้นเบ๊บที่แพ้ทุกครั้งจนยอมร่วมมือโทนี่เพื่อเอาชนะและรอด แต่สุดท้ายแค้นนั้นทำให้เขาเสียอิสรภาพและกลายเป็นเครื่องมือ ข้อคิดนี้สอนว่าการยึดติดแค้นนำไปสู่การล่มสลายของตัวเอง วินเนอร์ใช้สัญชาตญาณเอาตัวรอดแต่เลือกทางผิด ต่างจากเคนตะที่ไถ่บาปและพบรักใหม่ ข้อคิดนี้สะท้อนชีวิตจริงว่าการปล่อยวางแค้นถึงจะนำไปสู่เสรีภาพที่แท้จริง

→ ลี อัสรี วัฒนายากุล รับบท ดีน

ลี อัสรี วัฒนายากุล

ตัวละครที่เคยเป็นหนึ่งในกลุ่มคนร้ายของโทนี่ในซีซั่นแรก หลังถูกจับติดคุกพร้อมเคนตะและวินเนอร์ ดีนถูกปล่อยออกมาโดยเงื้อมมือลึกลับเหมือนกัน แต่เขาเลือกทางคนละขั้วกับวินเนอร์ทันที ดีนกลับไปทำงานที่อู่รถกับอลัน ช่วยทีม X-Hunter อย่างเงียบๆ แต่จริงจัง ลีเล่นบทนี้ได้แบบใช้สายตาและการกระทำแทนคำพูด ตั้งแต่การมองเบ๊บกับชาลีด้วยความสำนึกผิด ไปจนถึงการช่วยปกป้องทีมจากแผนของโทนี่ที่กลับมา

ดีนไม่พูดเยอะ แต่ทุกครั้งที่ลงมือคือการไถ่บาปจริงๆ เขากลับมาเป็นช่างในอู่ ช่วยซ่อมรถและวางแผนให้ทีมแข่ง เขายังคอยสนับสนุนเคนตะที่เลือกทางเดียวกัน ดีนไม่ใช่ตัวละครหลักเสียงดัง แต่เป็นคนที่ทำให้คนดูรู้สึกว่า “บางคนแค่ต้องการโอกาสครั้งที่สอง” การแสดงของลีทำให้ดีนมีมิติของความนิ่งแต่หนักแน่น สร้างความประทับใจแบบไม่ต้องพูดเยอะ กลายเป็นตัวละคร redemption ที่คนดูยกให้เป็นม้ามืดแห่งซีซั่นนี้

ฉายา “ช่างเงียบผู้ไถ่บาป”
ติดดีนแน่น เพราะเขาไม่พูดเยอะ ไม่ดราม่า แต่เลือกไถ่บาปด้วยการกระทำจริง ลีเล่นความนิ่งและสายตาสำนึกผิดได้แบบทำให้คนดูรู้สึกถึงน้ำหนักของความผิดในอดีต ดีนกลับไปทำงานอู่กับอลัน ช่วยทีม X-Hunter อย่างไม่หวังสิ่งตอบแทน ฉายานี้สะท้อนคนที่เคยหลงทางแต่เลือกกลับมาทำสิ่งที่ถูกต้องโดยไม่ต้องประกาศให้ใครรู้ แค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ข้อคิดจากบทดีนคือ “การไถ่บาปไม่ต้องเสียงดัง แค่ลงมือทำจริง”
เพราะดีนเคยทำผิดหนักแต่เมื่อได้โอกาส เขากลับไปทำงานอู่ ช่วยทีม X-Hunter อย่างเงียบๆ ไม่พูดขอโทษยาวๆ แต่ใช้การกระทำพิสูจน์ ข้อคิดนี้สอนว่าการเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ต้องประกาศให้โลกรู้ แค่เริ่มจากสิ่งเล็กๆ อย่างการกลับมาทำงานและช่วยคนที่เคยทำร้าย ดีนไม่เหมือนเคนตะที่ดราม่า แต่เลือกไถ่บาปด้วยความนิ่งและจริงใจ ข้อคิดนี้โดนใจคนที่เคยผิดพลาด ว่าการกระทำที่สม่ำเสมอคือคำขอโทษที่ทรงพลังที่สุด

→ มิ้ล ณัฐชนน ศุภวรวงศ์ รับบท วิลลี่

มิ้ล ณัฐชนน ศุภวรวงศ์

นักแข่งรุ่นใหม่จากทีม ETA ที่โค่นเบ๊บตั้งแต่แมตช์แรก กลายเป็นคิงคนใหม่ของวงการด้วยความเร็วและความสดแซ่บ แต่เบื้องหลังคือปริศนาที่เชื่อมโยงกับโทนี่ วิลลี่มีเซนส์พิเศษหยุดเวลาได้ ทำให้เขาได้เปรียบทั้งบนสนามและในเกมรัก เขารุกจีบชาลีแบบไม่เกรงใจใคร แม้จะรู้ว่าชาลีมีเบ๊บแล้ว มิ้ลเล่นสายตาเจ้าชู้และรอยยิ้มอันตรายได้แบบทำให้คนดูทั้งรักทั้งเกลียด วิลลี่แสร้งเป็นแฟนคลับเบ๊บ ตามติดทุกที่ แต่จริงๆ แล้วถูกโทนี่บังคับด้วยชิพในร่างกาย

สุดท้ายเขาใช้ชาลีเป็นเหยื่อล่อเพื่อต่อรองขอถอดชิพออก วิลลี่ไม่ใช่แค่นักแข่งรุ่นใหม่ แต่เป็นหมากของโทนี่ที่อยากเป็นอิสระ เขาลักพาตัวชาลีและเผยความจริงว่าแค่ต้องการหนีการควบคุม การแสดงของมิ้ลทำให้วิลลี่มีมิติทั้งความเจ้าเล่ห์ ความเปราะบาง และความสิ้นหวัง สร้างตัวละครที่คนดูจากเกลียดกลายเป็นสงสารในพริบตา วิลลี่คือตัวแปรที่ทำให้ความรักเบ๊บ-ชาลีถูกทดสอบหนัก และยังเป็นกุญแจที่เชื่อมทีม X-Hunter กับแผนชั่วร้ายของโทนี่

ฉายา “เด็กแซ่บที่ถูกมัดด้วยโซ่”
ติดวิลลี่แน่น เพราะภายนอกคือเด็กใหม่ไฟแรง สดใส รุกหนัก แต่จริงๆ ถูกโทนี่บังคับด้วยชิพในร่างกาย มิ้ลเล่นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ซ่อนความสิ้นหวังได้แบบทะลุจอ วิลลี่ใช้เซนส์หยุดเวลาเพื่อชนะและรุกจีบชาลี แต่ทุกอย่างคือการแสดงเพื่อเอาตัวรอด เขาลักพาตัวชาลีเพื่อต่อรองขอถอดชิพ ฉายานี้สะท้อนเด็กที่อยากเป็นอิสระแต่ถูกมัดด้วยอดีตและคำสั่ง ทำให้คนดูจากเกลียดกลายเป็นเข้าใจ

ข้อคิดจากบทวิลลี่คือ “เสรีภาพที่แท้ต้องมาจากการต่อสู้เพื่อตัวเอง”
เพราะวิลลี่ถูกโทนี่บังคับด้วยชิพจนทำเรื่องเลวร้าย แต่สุดท้ายเขาเลือกต่อสู้เพื่อถอดชิพออก แม้ต้องใช้ชาลีเป็นเหยื่อล่อ ข้อคิดนี้สอนว่าเสรีภาพไม่ใช่ของที่ใครให้มา แต่ต้องกล้าเสี่ยงและต่อสู้เอง วิลลี่จากเด็กแซ่บที่ดูร้าย กลายเป็นคนที่อยากเริ่มต้นใหม่ การต่อสู้ของเขาทำให้เห็นว่าถึงทางจะผิด แต่ถ้ากลับมาเลือกถูก ก็ยังมีโอกาสได้ชีวิตอิสระ ข้อคิดนี้โดนใจคนที่เคยถูกควบคุมหรือติดอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อยากอยู่