ละคร เพลิงไพร 2566 ละครแนวโรแมนติกดราม่าแอ็คชั่น เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ “วิน” เดินทางมาที่ดงเย็นเพื่อตามหา “นิชา” น้องสาวของเขา ซึ่งปฏิเสธที่จะกลับไปบริหารธุรกิจของครอบครัว เพราะเธอใฝ่ฝันอยากเป็นนักอนุรักษ์ป่าที่ศูนย์วนารักษ์ ที่ดงเย็น วินได้พบกับ “พิม” ครูสาวอาสาแห่งภูแสนหล้า เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบและพยายามจีบ แต่พิมกลับไม่สนใจ ในขณะเดียวกัน “ลูกหว้า” ลูกสาวของ “พรานย้อย” กลับรู้สึกชอบวินตั้งแต่แรกเห็น แม้ว่า “ไท” หนุ่มวนารักษ์จะแอบรักลูกหว้าอยู่ก็ตาม
ความขัดแย้งเริ่มทวีความรุนแรงเมื่อ “สันต์” เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ถูกฆาตกรรม นิชาค้นพบคลิปหลักฐานที่บ่งชี้ว่า “อำนาจ” พ่อของพิมและพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายครั้งนี้ รองเวท หัวหน้าศูนย์วนารักษ์พยายามแจ้งเรื่องนี้ต่อตำรวจ แต่ไม่มีใครรับคดี ยกเว้น ชาติ นายตำรวจน้ำดีที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อความยุติธรรม อย่างไรก็ตาม เรื่องราวยิ่งซับซ้อนเมื่อนิชาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอำนาจ ทำให้วินต้องเผชิญกับความสูญเสียและความแค้น
ความขัดแย้งและการต่อสู้
เมื่อวินถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ฆ่าอำนาจ เขาต้องหลบหนีการจับกุม โดยมีลูกหว้าและพรานย้อยคอยช่วยเหลือ ในขณะที่ชาติและ พลอย เพื่อนของพิม พยายามหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของวิน ความรักระหว่างวินและพิมต้องเผชิญกับความเข้าใจผิดและอุปสรรค เมื่อพิมเชื่อว่าวินเป็นคนฆ่าพ่อของเธอ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น
ต่อมา หลังจากการตายของ เอกภาพ ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ “นพ” เข้ามารับช่วงต่อธุรกิจของเอกภาพและเริ่มเข้ามาดูแลพิม พร้อมแสดงท่าทีว่าชอบเธอ ทำให้วินตัดสินใจถอยห่างเพื่อโฟกัสกับภารกิจของเขา วินรวมทีมที่ชื่อว่า “เพลิงไพร” เพื่อต่อสู้กับกลุ่มคนที่รุกรานผืนป่าและทำร้ายชาวบ้าน รวมถึงการต่อสู้เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับนิชาและผู้อื่นที่ได้รับผลกระทบจากอำนาจและผู้มีอิทธิพล
ละคร “เพลิงไพร” นำเสนอประเด็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการปกป้องผืนป่าจากการรุกรานและการค้ายาเสพติดที่ใช้ป่าเป็นแหล่งซ่อนตัว ควบคู่ไปกับเรื่องราวความรักที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและการเสียสละ ตัวละครหลักอย่างวินต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากระหว่างความรักและหน้าที่ ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของละคร
ในส่วนลึกของป่าดงเย็นที่เขียวขจีและเต็มไปด้วยความลับ เรื่องราวของความรัก ความแค้น และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมได้ทอผสานกันเป็นละครสุดเข้มข้น “เพลิงไพร” เรื่องราวที่เปี่ยมด้วยไฟแห่งอารมณ์ ผ่านตัวละครที่ต้องเผชิญหน้ากับโชคชะตาอันโหดร้ายและการต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่รัก
ลมรักพัดพาในดงเย็น
ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่โอบล้อมด้วยผืนป่าเขียวขจี วิน (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) หนุ่มเมืองกรุงที่มีชีวิตหรูหรา เดินทางมาด้วยภารกิจเดียว พานิชา น้องสาวหัวรั้นของเขากลับบ้าน นิชา (อภิสรา วงศ์ทัศนีโย) หลงรักป่าดงเย็นและเลือกที่จะเป็นนักอนุรักษ์ที่ศูนย์วนารักษ์ แทนการบริหารธุรกิจของครอบครัว แต่เมื่อวินก้าวสู่หมู่บ้าน เขากลับสะดุดใจกับ พิม (เกศรินทร์ น้อยผึ้ง) ครูสาวอาสาผู้มีดวงตาใสราวน้ำค้างและหัวใจที่มุ่งมั่นเพื่อเด็กๆ ในภูแสนหล้า
วินพยายามจีบพิมด้วยเสน่ห์แบบหนุ่มเมือง แต่พิมกลับเย็นชาต่อเขา ในขณะเดียวกัน ลูกหว้า (อังคณา วรรัตนาชัย) ลูกสาวพรานย้อย (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) ผู้รู้จักป่าดุจหลังมือ กลับหลงรักวินตั้งแต่แรกพบ หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งที่เห็นเขา แต่ ไท (สุกฤษฏิ์ สงแก้ว) หนุ่มวนารักษ์ที่รักลูกหว้ามานาน ต้องกลั้นใจเมื่อเห็นเธอมองวินด้วยแววตาแห่งรัก
ท่ามกลางรักสามเส้าที่เริ่มก่อตัว ความสงบของดงเย็นถูกทำลายเมื่อ สันต์ (จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ถูกพบเป็นศพในป่าลึก นิชาค้นพบคลิปวิดีโอที่เผยว่า อำนาจ (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) พ่อค้ายาเสพติดผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่ อาจอยู่เบื้องหลังการฆาตกรรม รองเวท (ธนายง ว่องตระกูล) หัวหน้าศูนย์วนารักษ์ พยายามแจ้งความ แต่ไม่มีตำรวจคนใดกล้าต่อกรกับอำนาจ ยกเว้น ชาติ (ชนกันต์ พูนศิริวงศ์) นายตำรวจหนุ่มน้ำดีจากเมืองหลวงที่เข้ามาสืบคดี และพบกับ พลอย (พรทิวา สาครจันทร์) รักแรกในวัยเด็กที่กลายเป็นลูกสาวผู้ใหญ่บ้านสิงห์ (นึกคิด บุญทอง) ความรู้สึกเก่าๆ ของทั้งคู่เริ่มฟื้นคืน
ไฟแห่งแค้นที่ลุกโหม
โชคชะตาเล่นตลกเมื่อนิชาต้องเผชิญหน้ากับความตาย เธอถูกลอบสังหารโดย เชน (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ลูกน้องของ เอกภาพ (ตฤณ เศรษฐโชค) ผู้มีอิทธิพลที่วางแผนทำเหมืองแร่ทองคำในผืนป่า วินมาถึงที่เกิดเหตุช้าเกินไป เหลือเพียงร่างไร้วิญญาณของน้องสาวที่เขารักสุดหัวใจ ความโศกเศร้าพลิกเป็นความแค้นเมื่อวินรู้ว่าเอกภาพคือพ่อของพิม ความรักที่เคยหวานชื่นในใจเขากลายเป็นเปลวไฟแห่งความเกลียดชัง
ไม่นาน เอกภาพถูกฆ่าตายในสถานการณ์ลึกลับ และหลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่วิน เขากลายเป็นผู้ต้องสงสัยและต้องหลบหนีการจับกุม ลูกหว้าและพรานย้อยยื่นมือช่วยเหลือเขา ขณะที่ชาติและพลอยพยายามหาหลักฐานเพื่อล้างมลทินให้วิน พิมที่เสียใจกับการตายของพ่อ เชื่อมั่นว่า วินคือฆาตกร ความรักระหว่างทั้งคู่แตกสลายกลายเป็นความขมขื่น เธอปฏิเสธที่จะฟังคำแก้ตัวของเขา
เพลิงไพร ผู้พิทักษ์แห่งป่า
เมื่อความยุติธรรมจากกฎหมายดูเหมือนจะไม่มีอยู่จริง วินตัดสินใจรวมตัวกับไท ลูกหว้า และพรานย้อย ก่อตั้งกลุ่มลับที่ชื่อ “เพลิงไพร” เพื่อต่อสู้กับกลุ่มบุกรุกป่าและค้ายา พวกเขาใช้ความรู้ในป่าและทักษะการต่อสู้แบบกองโจร ปกป้องชาวบ้านจากไฟป่าและการรุกรานของอำนาจและพวกพ้อง การต่อสู้ของเพลิงไพรไม่เพียงเพื่อหยุดยั้งการทำลายธรรมชาติ แต่ยังเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับนิชาและผู้บริสุทธิ์ที่ต้องสูญเสีย
ในขณะเดียวกัน นพ (พงศ์สิรี บรรลือวงศ์) ผู้สืบทอดธุรกิจของเอกภาพ เข้ามาดูแลพิมและแสดงท่าทีรักเธอ ทำให้วินเข้าใจผิดและถอยห่าง เขามุ่งหน้าสู่ภารกิจของเพลิงไพรอย่างเต็มตัว ครั้งหนึ่ง วินลักพาตัวพิมเพื่ออธิบายความจริง แต่เธอยังคงโกรธแค้นเขา ความเครียดทำให้พิมป่วยหนัก วินแอบพาเธอไปโรงพยาบาล และในช่วงเวลานั้นเอง หัวใจของทั้งคู่เริ่มคลายปม แต่รอยร้าวยังคงฝังลึก
ชาติและพลอยต้องเผชิญหน้ากับอันตรายเช่นกัน เมื่อเชนและกลุ่มนายทุนตามล่าชาติที่เข้าใกล้ความจริงมากเกินไป พลอยยืนเคียงข้างชาติ ช่วยรวบรวมหลักฐานที่สำคัญ และความรักของทั้งคู่ยิ่งแน่นแฟ้นท่ามกลางพายุแห่งอันตราย
ความลับและจุดหักมุม
เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ความลับที่ซ่อนอยู่ในป่าดงเย็นค่อยๆ เปิดเผย:
→ การตายของนิชาไม่ใช่ฝีมือของอำนาจโดยตรง แต่เป็นเชนที่ได้รับคำสั่งจากเอกภาพ เพื่อปกป้องผลประโยชน์จากเหมืองแร่ ทำให้วินโทษพิมผิดมาตลอด
→ การตายของเอกภาพเกิดจากคนในเงามืดที่จัดฉากให้วินตกเป็นผู้ต้องสงสัย สร้างความเข้าใจผิดครั้งใหญ่
→ นพไม่ใช่แค่ผู้สืบทอดธุรกิจ แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายใหญ่ที่เชื่อมโยงอำนาจกับนักการเมืองระดับสูง
→ พิมค้นพบความจริงอันโหดร้ายว่าพ่อของเธอมีส่วนในอาชญากรรม เธอต้องต่อสู้กับความเจ็บปวดในใจเพื่อเลือกทางที่ถูกต้อง
ความจริงเหล่านี้ทำให้วินและพิมต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเอง ขณะที่ทีมเพลิงไพรต้องเผชิญศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าที่เคย
ไฟสุดท้ายแห่งเพลิงไพร
ในตอนท้ายอันแสนตื่นเต้น ทีมเพลิงไพรนำโดยวินวางแผนโจมตีฐานที่มั่นของอำนาจ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของขบวนการค้ายาและการบุกรุกป่า ชาติรวบรวมตำรวจน้ำดีเข้าร่วมปฏิบัติการ เกิดการต่อสู้สุดระทึกใจ โดยเฉพาะฉากที่ชาติดวลเดือดกับเชนบนรถบรรทุก ชาติได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่รอดชีวิตได้ด้วยความช่วยเหลือจากพลอย ส่วนวินต้องเผชิญหน้ากับนพและ ผู้กำกับไพศาล (จตุรงค์ โกลิมาศ) หัวหน้าใหญ่ของเครือข่าย
ด้วยความกล้าหาญและการวางแผนอย่างรอบคอบ ทีมเพลิงไพรทลายเครือข่ายของอำนาจได้สำเร็จ อำนาจ เชน และนพถูกจับกุมหรือกำจัด วินพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ และชาติฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ เขาและพลอยเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันอย่างมีความสุข
ส่วนวินและพิม หลังจากความเข้าใจผิดทั้งหมดถูกคลี่คลาย พิมขอโทษวินที่เคยตัดสินเขาผิด ความรักของทั้งคู่ฟื้นคืนจากกองเพลิงแห่งความแค้น พวกเขายืนเคียงข้างกันที่ขอบผืนป่าดงเย็น สัญญาว่าจะปกป้องมันต่อไป หมู่บ้านดงเย็นกลับคืนสู่ความสงบ ชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง ขณะที่ทีมเพลิงไพรกลายเป็นตำนานของผู้พิทักษ์ป่า
“เพลิงไพร” ไม่ใช่แค่ละครรักดราม่า แต่เป็นการสะท้อนปัญหาสังคมไทยจริงๆ อย่างการทุจริต การบุกรุกป่า และค้ายาเสพติด ผ่านตัวละครที่สมจริงและฉากแอ็กชันที่ตื่นเต้น ละครเรื่องนี้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งที่สมน้ำสมเนื้อ แต่ทิ้งคำถามให้ผู้ชมคิดถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร
เนื้อเรื่อง การผสมผสานที่ลงตัวแต่ไม่ไร้ที่ติ
“เพลิงไพร” เล่าเรื่องราวของ วิน หนุ่มเมืองกรุงที่เข้ามาในป่าดงเย็นเพื่อตามหาน้องสาว นิชา ซึ่งมุ่งมั่นทำงานอนุรักษ์ป่า แต่การเดินทางครั้งนี้พาเขาสู่รักแรกพบกับ พิม ครูสาวอาสาที่ต่อมาเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวของ เอกภาพ ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เรื่องราวพลิกผันเมื่อนิชาถูกลอบสังหาร และวินถูกกล่าวหาว่าฆ่าเอกภาพ เขาต้องหลบหนีและก่อตั้งทีม เพลิงไพร เพื่อต่อสู้กับกลุ่มค้ายาและบุกรุกป่า นำโดย อำนาจ พ่อค้ายาเสพติด และเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงนักการเมือง ควบคู่ไปกับการแก้ไขความเข้าใจผิดในความรักกับพิม และการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของ ชาติ ตำรวจน้ำดี และ พลอย ลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน
พล็อตเรื่องทำได้ดีในช่วงแรกด้วยการนำเสนอประเด็นสังคม เช่น การค้ายาเสพติด การบุกรุกป่า และการคอร์รัปชัน ซึ่งสะท้อนปัญหาจริงในสังคมไทย ฉากแอ็กชันในป่าถูกถ่ายทอดอย่างตื่นเต้น โดยเฉพาะฉากต่อสู้และการซุ่มโจมตีของทีมเพลิงไพร อย่างไรก็ตาม ช่วงครึ่งหลังของละครเริ่มเน้นดราม่าความรักที่ซ้ำซาก เช่น ความเข้าใจผิดระหว่างวินและพิมที่ยืดเยื้อเกินจำเป็น ทำให้บางตอนรู้สึกสูญเสียความเข้มข้นของประเด็นหลัก การแก้ปมในตอนจบทำได้สมบูรณ์และให้ความรู้สึกสะใจ แต่บางส่วนอาจดูเร่งรีบเกินไป โดยเฉพาะการเปิดเผยตัวละครร้ายตัวจริง
การแสดง นักแสดงนำพลังดี สมทบเสริมแกร่ง
เอส-กันตพงศ์ ในบทวิน ถ่ายทอดความเป็นเพลย์บอยที่เปลี่ยนมาเป็นนักสู้ได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะฉากดราม่าที่แสดงความโกรธและความสูญเสียจากการตายของนิชา ปูเป้-เกศรินทร์ ในบทพิม แสดงถึงความแข็งแกร่งและความเปราะบางของตัวละครได้ดี แต่บางฉากที่ต้องแสดงความโกรธแค้นดูแข็งไปเล็กน้อย บอส-ชนกันต์ ในบทชาติ เป็นจุดเด่นด้วยการแสดงที่เป็นธรรมชาติและน่าเอาใจช่วย โดยเฉพาะในฉากแอ็กชันและความสัมพันธ์กับพลอย (มิ้นท์-พรทิวา) ซึ่งเคมีของทั้งคู่ช่วยชูให้เรื่องราวด้านตำรวจมีความน่าสนใจ
นักแสดงสมทบอย่าง สุรศักดิ์ ชัยอรรถ (พรานย้อย) และ อังคณา วรรัตนาชัย (ลูกหว้า) เพิ่มความอบอุ่นและความเป็นชุมชนให้เรื่องราว ส่วนตัวร้ายอย่าง เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ (อำนาจ) และ จตุรงค์ โกลิมาศ (ผู้กำกับไพศาล) สร้างความน่าเกลียดชังได้ดีเยี่ยม ทำให้ผู้ชมอยากเห็นจุดจบของตัวละครเหล่านี้
การกำกับและงานภาพ ฉากป่าสวยงาม แอ็กชันจัดเต็ม
การกำกับของ สพัฌ วิไชยเมธา โดดเด่นในการนำเสนอฉากแอ็กชันในป่า โดยใช้มุมกล้องและการตัดต่อที่ทำให้รู้สึกถึงความตื่นเต้นและอันตราย ฉากป่าดงเย็นถ่ายทอดความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างน่าประทับใจ ช่วยเสริมประเด็นการอนุรักษ์ป่าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดนตรีประกอบเข้ากับอารมณ์ โดยเฉพาะในฉากต่อสู้และดราม่า แม้ว่าบางฉากจะใช้เพลงซ้ำบ่อยจนรู้สึกจำเจ
อย่างไรก็ตาม การตัดต่อบางช่วงดูไม่ลื่นไหล โดยเฉพาะการสลับฉากระหว่างดราม่ากับแอ็กชันที่บางครั้งขาดการเชื่อมโยง ทำให้ผู้ชมอาจรู้สึกสะดุด การใช้ CGI ในบางฉาก เช่น ไฟป่า ดูไม่สมจริงเท่าที่ควร ซึ่งอาจลดอรรถรสลงเล็กน้อย
ประเด็นและข้อคิด: สะท้อนสังคมได้คมคาย
จุดเด่นของ “เพลิงไพร” คือการหยิบยกประเด็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การค้ายาเสพติด และการคอร์รัปชันมาเล่าผ่านเรื่องราวที่เข้าถึงง่าย การนำเสนอการต่อสู้ของทีมเพลิงไพรเพื่อปกป้องป่าจากการบุกรุกและการทำลายล้าง ทำให้ผู้ชมตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ ตัวละครอย่างชาติและนิชาเป็นสัญลักษณ์ของความหวังในระบบยุติธรรมที่ยังมีคนดีอยู่
อย่างไรก็ตาม ละครบางครั้งให้ความสำคัญกับดราม่าความรักมากเกินไป จนประเด็นสังคมถูกลดบทบาทในบางช่วง โดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างวินและพิมที่ยืดเยื้อเกินจำเป็น กระนั้น ตอนจบที่เน้นการเยียวยาและการปกป้องป่าก็ยังคงทิ้งข้อคิดที่สร้างแรงบันดาลใจ
คะแนนรวม 8.2/10 (สนุก ตื่นเต้น และมีข้อคิด สำหรับแฟนละครที่อยากสัมผัสความเข้มข้นของการต่อสู้เพื่อผืนป่าและเรื่องราวความรักที่พลิกผัน โดยรวมแล้ว “เพลิงไพร” เป็นละครที่ให้ทั้งความบันเทิงและข้อคิดเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม)
เพลิงไพร 2566 เป็นละครที่ผสมผสานแอ็กชัน ดราม่า และประเด็นสังคมได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวเข้มข้นและฉากต่อสู้ในบรรยากาศป่าเขียวขจี การแสดงของนักแสดงนำและสมทบช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวได้ดี ขณะที่งานภาพและการกำกับนำเสนอความสวยงามของธรรมชาติได้น่าประทับใจ อย่างไรก็ตาม ความยืดเยื้อของดราม่าความรักและการตัดต่อที่ไม่ลื่นไหลในบางช่วงทำให้ละครเสียจังหวะไปบ้าง
ความตื่นเต้นจากฉากแอ็กชันและผืนป่า
ตั้งแต่ตอนแรกที่ได้เห็นฉากป่าดงเย็นอันเขียวขจี ความรู้สึกแรกคือความตื่นตาตื่นใจ ภาพป่าที่ถ่ายทอดออกมาเหมือนพาเข้าไปอยู่ในนั้นจริงๆ กลิ่นอายของธรรมชาติและความลึกลับของป่าทำให้รู้สึกเหมือนกำลังผจญภัยไปกับตัวละคร ฉากแอ็กชัน โดยเฉพาะการต่อสู้ของทีม “เพลิงไพร” ที่นำโดยวิน (กันตพงศ์) ในการต่อกรกับกลุ่มค้ายาและผู้บุกรุกป่า ทำให้อะดรีนาลีนพุ่งพล่าน ฉากที่ทีมซุ่มโจมตีหรือการไล่ล่าบนรถบรรทุกในตอนท้ายเป็นอะไรที่ทำให้ลุ้นจนนั่งไม่ติด โดยเฉพาะฉากที่ชาติ (ชนกันต์) เผชิญหน้ากับเชน (วัชรบูล) ผมแทบหยุดหายใจ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจอันตรายนี้
ความสะเทือนใจจากความสูญเสียและความรัก
หนึ่งในช่วงเวลาที่กระทบใจมากที่สุดคือตอนที่นิชา (อภิสรา) น้องสาวของวิน ถูกฆ่าตาย การแสดงของกันตพงศ์ในฉากที่วินพบศพน้องสาวทำเอาน้ำตาคลอ ความเจ็บปวดและความโกรธแค้นที่ถ่ายทอดผ่านแววตาของเขาทำให้รู้สึกถึงความสูญเสียอย่างลึกซึ้ง ในขณะเดียวกัน ความรักระหว่างวินและพิม (เกศรินทร์) ที่เริ่มต้นด้วยความหวานชื่นแต่ต้องพังทลายเพราะความเข้าใจผิด ทำให้รู้สึกหงุดหงิดและเห็นใจทั้งคู่ ความยืดเยื้อของปมความแค้นที่พิมเชื่อว่าวินฆ่าพ่อของเธอ (เอกภาพ) บางครั้งทำให้รู้สึกอึดอัด แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนเรื่องราว
ในทางกลับกัน ความรักของชาติและพลอย (พรทิวา) เป็นเหมือนแสงสว่างในความมืด เคมีของทั้งคู่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นธรรมชาติ ทุกครั้งที่ทั้งสองอยู่ด้วยกัน อดยิ้มไม่ได้ รู้สึกเหมือนได้พักจากความหนักหน่วงของเรื่องราว ฉากที่พลอยคอยอยู่เคียงข้างชาติในยามที่เขาต้องเผชิญอันตราย ทำให้รู้สึกถึงพลังของความรักที่มั่นคง
ความหวังและข้อคิดจากประเด็นสังคม
สิ่งที่ทำให้ “เพลิงไพร” ไม่ใช่แค่ละครทั่วไปคือประเด็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การได้เห็นตัวละครอย่างนิชาและทีมเพลิงไพรต่อสู้เพื่อปกป้องป่าจากการบุกรุกและค้ายา ทำให้รู้สึกชื่นชมและได้รับแรงบันดาลใจ ประเด็นการคอร์รัปชันและอิทธิพลมืดที่ครอบงำระบบยุติธรรมสะท้อนความจริงในสังคมได้อย่างคมคาย ทุกครั้งที่ชาติยืนหยัดต่อสู้กับระบบที่ไม่เป็นธรรม ผมรู้สึกถึงความหวังว่ายังมีคนดีที่พร้อมสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
ตอนท้ายที่ทีมเพลิงไพรทลายเครือข่ายของอำนาจ (เฉลิมพร) และผู้กำกับไพศาล (จตุรงค์) ได้สำเร็จ เป็นเหมือนการปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหมด ภาพที่วินและพิมยืนเคียงข้างกันที่ขอบผืนป่า พร้อมสัญญาว่าจะปกป้องมันต่อไป ทำให้รู้สึกถึงความสมหวังและการเยียวยา มันเหมือนเป็นการย้ำเตือนว่าการต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยุติธรรมนั้นคุ้มค่า แม้จะต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา
ละคร เพลิงไพร มีความตื่นเต้นในฉากแอ็กชัน ความสะเทือนใจจากความสูญเสีย ไปจนถึงความอบอุ่นจากความรักและความหวังจากข้อคิดเรื่องสิ่งแวดล้อม ละครเรื่องนี้ทำให้ทั้งลุ้น เสียน้ำตา และยิ้มได้ในเวลาเดียวกัน แม้จะมีข้อบกพร่องเล็กน้อย แต่ความเข้มข้นของเรื่องราว การแสดงที่ทรงพลัง และภาพป่าที่สวยงามทำให้มันเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืม
ละคร เพลิงไพร 2566
ละคร เพลิงไพร 2566 EP.1-17 ตอนจบCH7+
ฉากเด็ด ละคร เพลิงไพร 2566
วิน เดินทางมาดงเย็น เพื่อตาม นิชา น้องสาว กลับไปบริหารธุรกิจที่พ่อแม่ทิ้งไว้ แต่นิชาไม่สนใจ เธออยากเป็นนักอนุรักษ์ป่าที่ศูนย์วนารักษ์ วินได้พบกับ พิม ครูสาวแห่งภูแสนหล้า เขาชอบเธอตั้งแรกพบจึงคอยตามจีบ แต่แล้วชีวิตของเขากลับต้องพลิกผัน เมื่อน้องสาว ถูกผู้มีอิทธิพลสั่งฆ่า และผู้ต้องสงสัยคือพ่อของผู้หญิงที่เขารัก ความแค้น ความรัก ความตาย !
ละคร เพลิงไพร 2566
จุดเริ่มต้นของรักและปมเดือด
เรื่องเปิดมาด้วย วิน (กันตพงศ์) หนุ่มเพลย์บอยจากเมืองกรุง เดินทางมาป่าดงเย็นเพื่อตาม นิชา (อภิสรา วงศ์ทัศนีโย) น้องสาวสุดหัวรั้นให้กลับไปบริหารธุรกิจครอบครัว แต่ นิชา บอกเลยว่าไม่เอา เธออยากเป็นนักอนุรักษ์ป่าที่ศูนย์วนารักษ์ งานนี้วินเลยต้องอยู่ในป่านานหน่อย แล้วก็ได้เจอกับ พิม (เกศรินทร์) ครูสาวอาสาสุดสวยแห่งภูแสนหล้า วินตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นเลย ตามจีบแบบสุดพลัง แต่พิมนี่สิ เย็นชาใส่สุดๆ เพราะหมกมุ่นกับการสอนเด็กๆ ละครเริ่มมาก็ปักหมุดรักแล้วนะทุกคน
แต่ มีตัวแปรมาซะงั้น ลูกหว้า (อังคณา วรรัตนาชัย) ลูกสาวของ พรานย้อย (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) ชาวบ้านที่รู้จักป่าดงเย็นดีสุดๆ เห็นวินแล้วใจสั่นเลย อยากได้วินเป็นแฟน แต่ ไท (สุกฤษฏิ์ สงแก้ว) หนุ่มวนารักษ์ที่แอบรักลูกหว้ามานานก็ไม่ยอมแพ้ งานนี้รักสามเส้าเริ่มเดือดแล้ว
แล้วปมใหญ่ก็มา สันต์ (จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ถูกฆ่าตายแบบลึกลับ นิชาดันไปเจอคลิปหลักฐานที่ชี้ว่า อำนาจ (เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์) พ่อค้ายาเสพติดตัวท็อปของพื้นที่น่าจะอยู่เบื้องหลัง รองเวท (ธนายง ว่องตระกูล) หัวหน้าศูนย์วนารักษ์รีบแจ้งตำรวจ แต่ไม่มีใครกล้าจับคดี เพราะอำนาจอิทธิพลโหดมาก ยกเว้น ชาติ (ชนกันต์) ตำรวจหนุ่มน้ำดีจากกรุงเทพฯ ที่ยื่นมือเข้ามาจัดการ งานนี้ชาติเจอกับ พลอย (พรทิวา) ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านสิงห์ (นึกคิด บุญทอง) ซึ่งเป็นรักแรกของเขา เคมีคู่นี้หวานจนมดขึ้นจอเลย
ความสูญเสียที่จุดไฟแค้น
เรื่องเริ่มเข้มข้นเมื่ออำนาจรู้ว่าทีมวนารักษ์มีหลักฐานเด็ด สั่งลูกน้องเก็บทุกคนที่รู้ความลับ นิชาดันไปมีเรื่องกับ เอกภาพ (ตฤณ เศรษฐโชค) เจ้าพ่อที่วางแผนทำเหมืองแร่ทองคำในป่า เธอขู่จะเปิดเผยคลิปหลักฐาน งานนี้ เชน (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ลูกน้องตัวแสบของเอกภาพ ได้รับคำสั่งให้กำจัดนิชา นิชาถูกลักพาตัวและฆ่าตายอย่างโหดร้าย วินมาถึงช้าเกินไป เจอแค่น้องสาวที่กลายเป็นศพ ฉากนี้กันตพงศ์เล่นดีมาก ทำเอาน้ำตาคลอเลย
วินโกรธจนขาดสติ คิดว่าเอกภาพคือคนสั่งฆ่า และยิ่งช็อกเมื่อรู้ว่าพิมคือลูกสาวของเอกภาพ จากรักหวานๆ กลายเป็นแค้นทันที วินตัดสัมพันธ์กับพิมแบบไม่ใยดี แล้วสัญญาจะล้างแค้นให้ได้ แต่เรื่องพลิกเมื่อเอกภาพถูกฆ่าตายในวันเดียวกับที่เจอวิน และหลักฐานทุกอย่างชี้ว่า วินคือฆาตกร พิมเสียใจหนัก คิดว่าวินฆ่าพ่อตัวเอง ความรักพังพินาศ วินกลายเป็นผู้ต้องหา ต้องหลบหนีตำรวจ ลูกหว้าและพรานย้อยช่วยไว้ ส่วนชาติและพลอยพยายามหาหลักฐานพิสูจน์ว่า วินไม่ผิด งานนี้พลอยก็คอยปลอบพิม แต่พิมยังโกรธวินสุดๆ
ทีมเพลิงไพรลุกเป็นไฟ
วินที่หมดหวังกับความยุติธรรม ตัดสินใจรวมทีมสุดเดือดชื่อ “เพลิงไพร” มีไท ลูกหว้า พรานย้อย และชาวบ้านที่พร้อมสู้ ทีมนี้เหมือนกองโจรในป่า ต่อสู้กับพวกค้ายาและคนที่รุกรานผืนป่าแบบไม่ยั้ง ฉากแอ็กชันนี่มันส์มาก ลุ้นทุกวินาทีเลย โดยเฉพาะตอนที่ทีมซุ่มโจมตีฐานของอำนาจ ฝั่งชาติก็ไม่น้อยหน้า ตามสืบคดีจนเกือบเจอความจริง แต่ถูกเชนและพวกตามล่า โชคดีที่มีพลอยคอยซัพพอร์ต คู่นี้หวานท่ามกลางความเดือดจริงๆ
เรื่องซับซ้อนขึ้นเมื่อ นพ (พงศ์สิรี บรรลือวงศ์) โผล่มาเป็นคนรับช่วงธุรกิจจากเอกภาพ เขาเข้ามาดูแลพิมและเหมือนจะแอบชอบเธอ วินเห็นแล้วยิ่งเจ็บใจ ตัดสินใจถอยห่างเพื่อโฟกัสภารกิจ แต่ก็มีโมเมนต์ที่วินลักพาตัวพิมมาคุย พยายามอธิบายว่าเขาไม่ได้ฆ่าเอกภาพ แต่พิมยังโกรธจัด ไม่ยอมฟัง จนพิมเครียดหนักถึงขั้นป่วย วินแอบพาไปโรงพยาบาล ฉากนี้เริ่มเห็นแววว่ารักของทั้งคู่ยังมีหวัง แต่ก็ยังตึงๆ อยู่
ที่สำคัญ นพไม่ใช่แค่คนรับช่วงต่อ แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายใหญ่ที่โยงไปถึงนักการเมือง! งานนี้ทีมเพลิงไพรต้องเจอศัตรูที่โหดกว่าที่คิด
ความยุติธรรมและรักที่สมหวัง
มาถึงจุดพีค วินและชาติวางแผนโจมตีฐานใหญ่ของอำนาจ ชาติเจอกับเชนบนรถบรรทุก ดวลกันเดือดสุดๆ เชนแทงชาติล้มลงรถ เลือดอาบเลย ทุกคนลุ้นว่าชาติจะรอดมั้ย วินและไทช่วยไว้ทันและส่งโรงพยาบาล ทีมเพลิงไพรยังต้องสู้ต่อกับนพและ ผู้กำกับไพศาล (จตุรงค์ โกลิมาศ) หัวหน้าใหญ่ของขบวนการ
ในตอนท้าย ทุกอย่างระเบิดความมันส์ ทีมเพลิงไพรบุกฐานของอำนาจ ชาติที่ฟื้นตัวแล้วนำตำรวจน้ำดีมาช่วย ฉากแอ็กชันนี่สุดยอด ลุ้นจนตัวโก่ง วินเผชิญหน้ากับนพและไพศาล สุดท้ายทีมเพลิงไพรชนะ อำนาจ เชน นพ และพวกถูกจับหรือจัดการเรียบ วินพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ได้ฆ่าเอกภาพ แต่เป็นการจัดฉากของเครือข่ายเพื่อโยนความผิด
ส่วนปมรัก วินและพิมเคลียร์ใจกันได้ พิมรู้ความจริงว่าพ่อตัวเองมีส่วนในอาชญากรรม เธอขอโทษวินที่เข้าใจผิด ความรักของทั้งคู่กลับมาหวานชื่น พิมตัดสินใจร่วมกับวินปกป้องผืนป่า ฝั่งชาติและพลอยก็แฮปปี้ ได้ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข เรื่องจบด้วยภาพวินและพิมยืนเคียงข้างกันที่ขอบป่าดงเย็น สัญญาจะดูแลธรรมชาติต่อไป ชาวบ้านดงเย็นกลับมาสงบสุข และทีมเพลิงไพรกลายเป็นตำนาน
ละครเรื่องนี้มันส์มาก ฉากแอ็กชันในป่าทำดีสุดๆ เหมือนหลุดเข้าไปในหนังบู๊เลย การแสดงของกันตพงศ์และชนกันต์คือเด่นมาก โดยเฉพาะฉากดราม่าที่วินเสียใจกับการตายของน้องสาว น้ำตาไหลเลย คู่ชาติ-พลอยก็หวานจนอยากให้มีเรื่องต่อ ส่วนวิน-พิม ถึงจะดราม่ายืดไปหน่อย แต่ตอนจบก็สมน้ำสมเนื้อ ละครยังสอดแทรกประเด็นดีๆ เรื่องการปกป้องป่า การต่อสู้กับคอร์รัปชัน และความยุติธรรม ทำให้ดูแล้วได้ทั้งความมันส์และข้อคิด
เบื้องหลังสุดเจ๋งของละครแอ็กชันเดือด เพลิงไพร ปี 2566 ละครที่ทำเอาแฟนๆ ลุ้นตัวโก่งทั้งรักทั้งแค้นทั้งปกป้องป่า ใครดูแล้วยังไม่หายติดงอมแงม บอกเลยว่าวันนี้เราจะเจาะลึกทีมงานเบื้องหลังที่ทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นตำนานน้ำดี
เริ่มจากบทประพันธ์: สถาพร สุชาติ + เจษฎา ปลอดแก้ว – คู่หูบทเข้มที่สะท้อนสังคม

บทประพันธ์ของ เพลิงไพร มาจากปลายปากกาของสองเซียนตัวพ่อเลยนะ สถาพร สุชาติ และ เจษฎา ปลอดแก้ว สถาพร สุชาติ นี่คือราชินีบทละครไทยที่เขียนเรื่องดราม่าแซ่บๆ มาเพียบ ส่วนเจษฎา ปลอดแก้ว ก็เสริมทีมด้วยไอเดียเข้มข้น สร้างเรื่องราวเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ยอมสละชีวิตปกป้องผืนป่า ท่ามกลางค้ายาและอิทธิพลมืด สะท้อนปัญหาสังคมไทยจริงๆ 100% ละครนี้บทแน่นมาก ไม่ใช่แค่บู๊เดือด แต่มีข้อคิดเรื่องอนุรักษ์ป่าและความยุติธรรมที่ทำให้คนดูน้ำตาซึมและลุกขึ้นสู้ตาม ทีมนี้เคยเขียนหลายเรื่องฮิต ช่อง 7 เลยคว้ามาเพื่อเอาใจแฟนละครหลังข่าวให้มันส์ไม่หยุด
บทโทรทัศน์ วุฒิ ภูมิน + พิชัย – ปรับบทให้เข้ากับยุคสมัย สนุกแบบไทยๆ
ต่อมาที่ บทโทรทัศน์ โดย วุฒิ ภูมิน และ พิชัย สองนักเขียนที่ทำให้บทประพันธ์ดิบๆ กลายเป็นละครที่ดูง่ายแต่ลึกซึ้ง วุฒิ ภูมิน นี่แหละที่เก่งเรื่องดราม่าความรักแบบพลิกผัน ส่วนพิชัย เสริมด้วยฉากแอ็กชันที่เร้าใจ พวกเขาปรับบทให้เข้ากับปี 2566 โดยใส่ประเด็นคอร์รัปชันและบุกรุกป่าที่กำลังเป็นข่าวร้อนๆ ทำให้ละครไม่ล้าสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายละครไทยคลาสสิกจากเวอร์ชันเก่า (ปี 2537) ผลคือ เรตติ้งพุ่งแตะ 4.3 เฉลี่ย แฟนๆ ชมกันกระหน่ำว่าบทนี้ “น้ำดี” สะท้อนสังคมได้คมคาย ไม่ยืดเยื้อแบบละครบางเรื่อง ทีมเขียนบทค่ายนี้ดังเรื่องละครหลังข่าวช่อง 7 มาหลายปีแล้ว งานคุณภาพชัวร์
กำกับการแสดง สพัฌ วิไชยเมธา – ผู้กำกับมือฉมังที่ทำให้ป่าดงเดือด

มาถึงหัวใจหลัก กำกับการแสดงโดย สพัฌ วิไชยเมธา พี่สพัฌคนนี้คือโปรเฟสชันนัลตัวจริง กำกับละครแอ็กชันช่อง 7 มาหลายเรื่อง เก่งเรื่องฉากบู๊ในป่าที่ทำให้ดูแล้วลุ้นสุดๆ! ใน “เพลิงไพร” พี่สพัฌยกกองไปถ่ายทำจริงๆ ที่อ่างเก็บน้ำห้วยปรือและป่าดงเย็น บรรยากาศธรรมชาติแท้ๆ ไม่มี CGI หลอกตา นักแสดงอย่างเอส-กันตพงศ์ (วิน) กับปูเป้-เกศรินทร์ (พิม) เล่าว่ากองถ่ายโหดมาก แต่พี่สพัฌคอยดูแลแบบมือโปร ทำให้ฉากไล่ล่าและต่อสู้ดูสมจริงแบบหนังฮอลลีวูด ผลงานก่อนหน้านี้ของพี่สพัฌก็ฮิตเพียบ อย่างละครแนวสืบสวนดราม่า ทำให้ละครนี้ได้รางวัลชมเชยเรื่องงานกำกับจากแฟนๆ เต็มโซเชียลเลย
ผลิตโดย บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด – ค่ายยักษ์ใหญ่ที่ทำให้ช่อง 7 ปังทั้งปี
สุดท้าย ผลิตโดย บริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด ค่ายละครยักษ์ใหญ่แห่งวิกหมอชิต (ช่อง 7) ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2527 ค่ายนี้ดังเรื่องละครฟอร์มยักษ์ ปี 2566 ผลิตเพลิงไพรคู่กับเภตรานฤมิตและแผนลวงบ่วงมารยา – รัวๆ จนค่ายอื่นต้องหันมอง มีเดีย สตูดิโอ มีทีมงานมือโปร รวบรวมนักเขียนดัง นักแสดงแม่เหล็กอย่างบอส-ชนกันต์ (ชาติ) และมิ้นท์-พรทิวา (พลอย) และงบประมาณจัดเต็มสำหรับฉากป่าและแอ็กชัน พวกเขายังผลักดันดาวรุ่งจากโครงการ 7HD NEW STARS ทำให้ละครมีทั้งคุณภาพและสดใหม่ ช่อง 7 ชมว่าปีนั้นละครค่ายนี้ช่วยดันเรตติ้งทั้งปี สุขไม่มีวันหยุดจริงๆ
สรุปแล้ว “เพลิงไพร” ไม่ใช่แค่ละครบู๊มันส์ แต่เบื้องหลังคือทีมงานสุดยอดที่ผสมบทเข้ม กำกับโหด และผลิตคุณภาพจากมีเดีย สตูดิโอ ทำให้ละครสะท้อนสังคมได้ลึกซึ้งและสนุกจนเรตติ้งทะลุ
นักแสดง
→ กันตพงศ์ บำรุงรักษ์ รับบท วิน

วินคือหนุ่มเพลย์บอยจากเมืองกรุงที่ชีวิตสบายๆ แต่ต้องมาป่าดงเย็นเพื่อตามน้องสาวนิกาที่อยากเป็นนักอนุรักษ์ป่าแทนการกลับไปบริหารธุรกิจครอบครัว เขาเริ่มต้นด้วยการตกหลุมรักพิมครูสาวอาสาตั้งแต่แรกพบ แต่ชีวิตพลิกผันเมื่อน้องสาวถูกฆ่าจากผู้มีอิทธิพลที่เป็นพ่อของพิม วินเลยกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าพ่อของพิม ต้องหลบหนีและรวมทีมเพลิงไพรเพื่อต่อสู้กับขบวนการค้ายาและบุกรุกป่า สุดท้ายเขาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้และกลับมาคืนดีกับพิมพร้อมปกป้องผืนป่าร่วมกัน
ฉายาของวิน คือหัวหน้าทีมเพลิงไพร
เพราะเขาเป็นผู้นำที่รวบรวมชาวบ้านและวนารักษ์เพื่อต่อต้านความชั่วร้ายในป่า
ข้อคิดจากตัวละครนี้ คือความยุติธรรมต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง
เพราะวินแสดงให้เห็นว่ากฎหมายบางครั้งไม่พอ ต้องยืนหยัดปกป้องสิ่งที่ถูกต้องด้วยมือของตัวเอง
→ เกศรินทร์ น้อยผึ้ง รับบท พิม

พิมคือครูสาวอาสาแห่งภูแสนหล้าในป่าดงเย็น สวย ใจดี และทุ่มเทให้กับการสอนเด็กๆ ในชุมชน เธอคือคนที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ อยากให้เด็กๆ ได้รับการศึกษาและมีชีวิตที่ดี แต่ชีวิตของพิมไม่ได้ง่ายๆ เพราะเธอคือลูกสาวของ เอกภาพ เจ้าพ่อที่มีส่วนในธุรกิจมืดอย่างเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งตัวพิมเองไม่รู้เรื่องนี้เลยตอนแรก เธอเจอกับ วิน (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) หนุ่มเพลย์บอยที่มาตามจีบ แต่พิมเย็นชาใส่ เพราะโฟกัสที่งานมากกว่า
เรื่องราวเริ่มเดือดเมื่อวินถูกกล่าวหาว่าฆ่าพ่อของเธอหลังจากที่น้องสาวของวิน นิชา ถูกฆ่าตาย พิมเข้าใจผิดว่าวินคือฆาตกร ทำให้ความรักที่กำลังจะก่อตัวกลายเป็นความแค้นสุดขีด เธอโกรธและเจ็บปวดมาก แต่ยิ่งเรื่องดำเนินไป พิมเริ่มค้นพบความจริงว่าพ่อของเธอมีส่วนในอาชญากรรม เธอต้องเผชิญกับความขัดแย้งในใจระหว่างความรักต่อพ่อและความถูกต้อง สุดท้ายพิมเลือกยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ขอโทษวิน และตัดสินใจร่วมกับเขาเพื่อปกป้องผืนป่าดงเย็น กลายเป็นนางเอกที่ทั้งแกร่งและมีพัฒนาการที่น่าจับตา
ฉายาของพิม ครูใจแกร่งแห่งภูแสนหล้า
เพราะพิมไม่ใช่แค่นางเอกที่สวย แต่เธอยังเป็นครูที่มุ่งมั่นและกล้าต่อสู้เพื่อความยุติธรรม แม้จะต้องเผชิญความจริงอันโหดร้ายเกี่ยวกับครอบครัวตัวเอง
ข้อคิดจากพิม การยอมรับความจริงคือก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลง
พิมสอนเราว่าการเผชิญหน้ากับความจริง แม้จะเจ็บปวดแค่ไหน ก็เป็นหนทางสู่การเติบโตและการทำในสิ่งที่ถูกต้อง
→ ชนกันต์ พูนศิริวงศ์ รับบท ผู้กองชาติ

ผู้กองชาติคือตำรวจหนุ่มไฟแรงจากกรุงเทพฯ ที่ถูกส่งมาประจำที่ป่าดงเย็นเพื่อสืบคดีใหญ่เกี่ยวกับ อำนาจ พ่อค้ายาเสพติดตัวท็อปและการฆาตกรรมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เขาคือคนที่ยึดมั่นในความยุติธรรม ไม่ยอมก้มหัวให้อิทธิพลมืด แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับระบบคอร์รัปชันที่หนักหน่วง ชาติตั้งใจสืบหาความจริงเพื่อล้างมลทินให้ วิน ที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าคน และปกป้องชาวบ้านจากขบวนการร้าย
นอกจากความเท่ในหน้าที่แล้ว ชาติยังมีมุมหวานๆ กับ พลอย ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านที่เป็นรักแรกของเขา ทั้งคู่เจอกันอีกครั้งที่ดงเย็น และความสัมพันธ์ก็ค่อยๆ ฟื้นคืนท่ามกลางความวุ่นวาย ชาติต้องเจอกับอันตรายหลายครั้ง โดยเฉพาะฉากเดือดที่เขาดวลกับ เชน ลูกน้องตัวร้ายจนเกือบไม่รอด แต่ความมุ่งมั่นและการสนับสนุนจากพลอยทำให้เขายืนหยัดต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย สุดท้ายชาติช่วยทีมเพลิงไพรทลายเครือข่ายค้ายาและได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับพลอย
ฉายาของผู้กองชาติ ตำรวจเหล็กแห่งดงเย็น
เพราะชาติคือตำรวจที่แข็งแกร่งทั้งกายและใจ ไม่หวั่นแม้ต้องเผชิญหน้ากับอิทธิพลใหญ่โตในป่า
ข้อคิดจากผู้กองชาติ ความยุติธรรมต้องมาก่อนความกลัว
ชาติสอนเราว่าการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะต้องเผชิญอันตรายหรือแรงกดดัน ก็คุ้มค่าถ้าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี
→ พรทิวา สาครจันทร์ รับบท พลอย

พลอยคือลูกสาวของ ผู้ใหญ่สิงห์ หัวหน้าหมู่บ้านในป่าดงเย็น เธอเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกและเป็นสาวสวยที่มีหัวใจอบอุ่น มุ่งมั่นช่วยเหลือชุมชน พลอยเป็นเพื่อนสนิทของ พิม ครูสาวอาสา และเป็นรักแรกของ ผู้กองชาติ ตำรวจน้ำดีที่เข้ามาสืบคดีในดงเย็น เมื่อทั้งคู่เจอกันอีกครั้ง ความรู้สึกเก่าๆ ก็ฟื้นคืน ทำให้เกิดโมเมนต์หวานๆ ท่ามกลางความวุ่นวายของคดีฆาตกรรมและการบุกรุกป่า
พลอยไม่ได้แค่เป็นนางรองที่สวย แต่เธอยังเป็นคนที่คอยสนับสนุนชาติในภารกิจสืบสวน เธอช่วยหาหลักฐานเพื่อล้างมลทินให้ วิน และคอยเตือนสติพิมเมื่อความแค้นทำให้พิมตัดสินใจผิดพลาด แม้จะอยู่ในสถานการณ์อันตราย พลอยก็ไม่เคยทิ้งชาติ โดยเฉพาะตอนที่ชาติเกือบไม่รอดจากการดวลกับ เชน ลูกน้องตัวร้าย เธอยืนเคียงข้างและให้กำลังใจเสมอ สุดท้ายเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย พลอยได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับชาติ เป็นคู่ที่ทำให้คนดูยิ้มตาม
ฉายาของพลอย กำลังใจแห่งดงเย็น
เพราะพลอยคือคนที่คอยเป็นแรงสนับสนุนให้ทั้งชาติและพิม ช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากในป่าได้
ข้อคิดจากพลอย การเป็นกำลังใจให้คนที่รักสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด
พลอยสอนเราว่าการอยู่เคียงข้างและให้การสนับสนุนในยามที่คนที่เรารักต้องเผชิญปัญหา สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงและความหวังได้
→ สุกฤษฏิ์ สงแก้ว รับบท ไท

ไทคือหนุ่มวนารักษ์แห่งป่าดงเย็น ทำงานที่ศูนย์วนารักษ์และรู้จักป่าเหมือนหลังมือ เขาคือคนที่ทุ่มเทให้กับการปกป้องธรรมชาติและชาวบ้านในชุมชน แต่ที่เด่นสุดคือหัวใจของเขา เพราะไทแอบรัก ลูกหว้า ลูกสาวของพรานย้อยมานานแล้ว และรักแบบจริงจังมาก ถึงขนาดพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกหว้ามีความสุข แต่ปัญหาคือลูกหว้าดันไปหลงรัก วิน พระเอกของเรา ทำให้ไทต้องเจ็บปวดกับรักข้างเดียว
ถึงจะอกหัก ไทก็ไม่ยอมแพ้ เขายังคงเป็นเพื่อนที่ดีและเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีม เพลิงไพร ที่วินก่อตั้งเพื่อต่อสู้กับพวกค้ายาและผู้บุกรุกป่า ไทลงสนามเคียงบ่าเคียงไหล่กับวินและพรานย้อย ช่วยปกป้องป่าและชาวบ้านจากอิทธิพลมืดของ อำนาจ และ เชน ความกล้าหาญและความเสียสละของไททำให้เขาเป็นตัวละครที่คนดูต้องยกนิ้วให้ แม้ว่าความรักของเขาจะไม่สมหวัง แต่เขาก็เลือกที่จะเดินหน้าต่อและทำเพื่อชุมชน
ฉายาของไท นักสู้ใจสลายแห่งดงเย็น
เพราะไทคือหนุ่มที่ต่อสู้เพื่อป่าและชุมชนอย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่าหัวใจจะเจ็บปวดจากรักที่ไม่สมหวัง
ข้อคิดจากไท ความรักที่แท้จริงคือการให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
ไทสอนเราว่าการรักใครสักคนไม่จำเป็นต้องได้ครอบครอง แค่ได้เห็นคนที่รักมีความสุขและทำเพื่อสิ่งที่ถูกต้องก็เพียงพอแล้ว
→ อังคณา วรรัตนาชัย รับบท ลูกหว้า

ลูกหว้าคือลูกสาวของ พรานย้อย ชาวบ้านผู้เชี่ยวชาญด้านป่าในดงเย็น เธอเป็นสาวน้อยที่เติบโตมากับธรรมชาติ มีความสดใสและจิตใจดี แต่หัวใจของเธอกลับต้องสั่นไหวเมื่อได้เจอกับ วิน พระเอกสุดหล่อที่เดินทางมาป่า เธอตกหลุมรักวินตั้งแต่แรกเห็นและไม่กลัวที่จะแสดงออกถึงความรู้สึกนั้น แม้ว่า ไท หนุ่มวนารักษ์ที่แอบรักเธอมานานจะคอยดูแลเธออยู่ข้างๆ
เมื่อเรื่องราวเข้มข้นขึ้น ลูกหว้าเลือกยืนเคียงข้างวินตอนที่เขาถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนและต้องหลบหนี เธอยอมเสี่ยงชีวิตช่วยวินและเข้าร่วมทีม เพลิงไพร เพื่อต่อสู้กับพวกค้ายาและผู้บุกรุกป่าเคียงข้างพ่อของเธอและคนอื่นๆ ความกล้าหาญของลูกหว้าทำให้เธอไม่ใช่แค่สาวน้อยน่ารัก แต่เป็นนักสู้ที่พร้อมลุยเพื่อปกป้องชุมชนและคนที่เธอรัก แม้ว่าสุดท้ายความรักของเธอกับวินจะไม่สมหวัง แต่ลูกหว้าก็ยิ้มได้และยังคงเดินหน้าช่วยเหลือป่าดงเย็นต่อไป
ฉายาของลูกหว้า สาวนักสู้แห่งป่าดงเย็น
เพราะลูกหว้าไม่ใช่แค่สาวน้อยที่รักใคร่ แต่ยังกล้าลงสนามสู้เพื่อปกป้องผืนป่าและคนที่เธอห่วงใย
ข้อคิดจากลูกหว้า รักแท้คือการให้โดยไม่หวังอะไรกลับมา
ลูกหว้าสอนเราว่าการรักใครสักคนคือการสนับสนุนและยืนเคียงข้างเขา แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้สมหวัง แต่การได้เห็นคนที่รักมีความสุขก็เพียงพอแล้ว
→ วัชรบูล ลี้สุวรรณ รับบท เชน

เชนคือลูกน้องคนสนิทของ เอกภาพ เจ้าพ่อที่วางแผนทำเหมืองแร่ทองคำในป่าดงเย็น เขาเป็นมือขวาที่ทั้งโหดและซื่อสัตย์ต่อเจ้านายแบบสุดๆ ไม่ว่าจะได้รับคำสั่งอะไร เชนพร้อมลงมือโดยไม่ลังเล โดยเฉพาะภารกิจสกปรกอย่างการกำจัดคนที่ขวางทาง เขาคือคนที่ลงมือฆ่า นิชา น้องสาวของวิน ด้วยวิธีโหดร้ายเพื่อปกป้องความลับของเอกภาพ ทำให้เกิดความแค้นครั้งใหญ่ที่จุดชนวนให้วินตั้งทีม เพลิงไพร
เชนไม่ใช่แค่ตัวร้ายธรรมดา เขาคือคนที่เย็นชาและเด็ดขาด ฉากที่เขาดวลกับ ผู้กองชาติ บนรถบรรทุกคือเดือดสุดๆ แสดงให้เห็นว่าเชนพร้อมสู้ตายเพื่อเจ้านายและเป้าหมายของตัวเอง สุดท้ายเขาก็ต้องเผชิญจุดจบจากน้ำมือของทีมเพลิงไพร แต่ก่อนจะไป เชนสร้างความวุ่นวายและความเสียหายไว้เยอะมาก ทำให้คนดูอย่างเราอยากตะโกนว่า “ลงโทษมันซะ”
ฉายาของเชน มือสังหารเงาแห่งดงเย็น
เพราะเชนคือตัวร้ายที่ทำงานในเงามืด ลงมือโหดและรวดเร็วราวกับเงาที่ไม่มีใครจับได้
ข้อคิดจากเชน ความภักดีที่ผิดทางนำไปสู่หายนะ
เชนสอนเราว่าการทุ่มเทให้กับคนหรือเป้าหมายที่ผิดศีลธรรมอาจทำให้เราต้องจ่ายราคาแพง และทำร้ายผู้อื่นโดยไม่จำเป็น
→ สิรินทร์ ก่อเกียรติ รับบท ทิพย์

ทิพย์เป็นตัวละครสมทบในชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของเรื่อง เธอคือสาวน้อยที่มีความสดใสและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในชุมชนภูแสนหล้า แม้ว่าบทของทิพย์จะไม่ได้มีส่วนสำคัญในปมหลักของเรื่องอย่างการต่อสู้กับขบวนการค้ายาของ อำนาจ หรือการปกป้องป่าของทีม เพลิงไพร แต่เธอช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับบรรยากาศของหมู่บ้าน
ทิพย์มักปรากฏในฉากที่เกี่ยวข้องกับชาวบ้าน เช่น การช่วยเหลือในงานชุมชนหรือการพูดคุยกับตัวละครหลักอย่าง พิม และ ลูกหว้า เธอเป็นเหมือนตัวแทนของคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตท่ามกลางความวุ่นวายของเรื่องราวใหญ่ๆ ในป่า ทิพย์นำความน่ารักและความเป็นมิตรมาสู่เรื่อง ทำให้คนดูรู้สึกถึงความอบอุ่นของชุมชน
ฉายาของทิพย์ สาวน้อยรอยยิ้มแห่งดงเย็น
เพราะทิพย์คือตัวละครที่นำความสดใสและรอยยิ้มมาสู่ชุมชน ช่วยให้บรรยากาศในเรื่องไม่หนักจนเกินไป
ข้อคิดจากทิพย์ ความสุขอยู่ที่การใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
ทิพย์สอนเราว่าในท่ามกลางความขัดแย้งและปัญหาใหญ่ๆ การทำหน้าที่ของตัวเองและมอบรอยยิ้มให้คนรอบข้างก็มีค่ามากพอแล้ว
→ สมิตพงศ์ สกุลพงศ์ชัย รับบท ไม้

ไม้คือชาวบ้านในชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวใน เพลิงไพร เขาคือคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางป่าเขียวขจี แต่เมื่อภัยคุกคามอย่างขบวนการค้ายาของ อำนาจ และการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ เข้ามา ไม้ไม่ยอมอยู่นิ่ง เขาเลือกเข้าร่วมทีม เพลิงไพร ที่นำโดย วิน และ พรานย้อย เพื่อปกป้องผืนป่าและชุมชนของเขา ไม้เป็นตัวละครที่แสดงถึงความกล้าหาญของคนตัวเล็กๆ ที่พร้อมสู้เพื่อสิ่งที่รัก
แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจากอิทธิพลมืด เขามักปรากฏในฉากที่ทีมเพลิงไพรรวมตัวกันวางแผนหรือลงมือปฏิบัติการ ช่วยเพิ่มความสมจริงและแสดงถึงพลังของชุมชนที่รวมใจกัน
ฉายาของไม้ นักสู้เงียบแห่งดงเย็น
เพราะไม้คือชาวบ้านที่อาจไม่พูดมาก แต่ทุ่มเทเต็มที่ในการต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิดและผืนป่าด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น
ข้อคิดจากไม้ พลังของคนตัวเล็กสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
ไม้สอนเราว่าไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้ามีใจที่อยากปกป้องสิ่งที่รักและยืนหยัดเพื่อความถูกต้อง ก็สามารถมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้
→ ณัฐชนน ภูวนนท์ รับบท คิม

คิมคือหนึ่งในชาวบ้านของชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของความขัดแย้งใน เพลิงไพร เขาคือตัวละครที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ป่า ใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความผูกพันกับชุมชนและธรรมชาติ คิมมักปรากฏในฉากที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของชาวบ้าน หรือในช่วงที่ทีม เพลิงไพร ซึ่งนำโดย วิน และ พรานย้อย รวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับขบวนการค้ายาของ อำนาจ และการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ แม้ว่าบทของคิมจะไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนหลัก แต่เขาช่วยเสริมสร้างความรู้สึกของความเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และแสดงให้เห็นว่าแม้แต่คนธรรมดาก็มีส่วนในการปกป้องบ้านเกิดจากภัยคุกคาม
ฉายาของคิม เงาสนับสนุนแห่งดงเย็น
เพราะคิมคือชาวบ้านที่อาจไม่โดดเด่น แต่คอยสนับสนุนทีมเพลิงไพรและชุมชนด้วยความมุ่งมั่นในแบบของเขา
ข้อคิดจากคิม ทุกคนมีส่วนช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
คิมสอนเราว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้นำหรือมีบทบาทใหญ่ แค่การทำหน้าที่ของตัวเองในชุมชนและยืนหยัดเคียงข้างคนที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องก็มีคุณค่ามากแล้ว
→ เกษรา วัฒนสังข์ รับบท มิ้น

มิ้นคือสาวน้อยในชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวใน เพลิงไพร เธอเป็นตัวละครที่สะท้อนความเป็นชาวบ้านธรรมดา ใช้ชีวิตท่ามกลางป่าเขียวขจีและมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน มิ้นมักปรากฏในฉากที่แสดงถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน เช่น การช่วยงานชุมชนหรือการพูดคุยกับตัวละครอย่าง พิม หรือ ลูกหว้า แม้ว่าบทของมิ้นจะไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนปมหลักของเรื่อง เช่น การต่อสู้กับขบวนการค้ายาของ อำนาจ หรือการปกป้องป่าของทีม เพลิงไพร แต่เธอก็ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกของความเป็นชุมชนที่อบอุ่นและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มิ้นนำความสดใสและความเป็นมิตรมาสู่เรื่อง ทำให้คนดูรู้สึกถึงความมีชีวิตของหมู่บ้าน
ฉายาของมิ้น ดอกไม้สดใสแห่งดงเย็น
เพราะมิ้นคือตัวละครที่เปรียบเสมือนดอกไม้ที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาและสีสันให้กับชุมชนท่ามกลางความขัดแย้ง
ข้อคิดจากมิ้น ความเรียบง่ายคือความสุขที่แท้จริง
มิ้นสอนเราว่าการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและมีส่วนร่วมในชุมชน แม้จะเป็นเพียงบทบาทเล็กๆ ก็สามารถสร้างความสุขและความหมายให้กับชีวิตได้
→ ณัฐภัทร จิรภาวสุทธิ์ รับบท เม่น

เม่นคือหนึ่งในชาวบ้านแห่งชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของความขัดแย้งใน เพลิงไพร เขาคือตัวแทนของคนในชุมชนที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่มีความมุ่งมั่น เมื่อภัยคุกคามจากขบวนการค้ายาของ อำนาจ และการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ เข้ามา เม่นเลือกที่จะไม่นิ่งเฉย เขาเข้าร่วมทีม เพลิงไพร ที่นำโดย วิน และ พรานย้อย เพื่อปกป้องผืนป่าและบ้านเกิด เม่นมักปรากฏในฉากที่ทีมเพลิงไพรรวมตัววางแผนหรือลงมือปฏิบัติการ ด้วยความกล้าหาญและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เขาช่วยเสริมสร้างภาพของชุมชนที่พร้อมสู้เพื่อความถูกต้อง แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจากอิทธิพลมืด
ฉายาของเม่น นักสู้ตัวเล็กแห่งดงเย็น
เพราะเม่นคือชาวบ้านที่อาจดูธรรมดา แต่มีหัวใจแกร่งและพร้อมสู้เพื่อปกป้องชุมชนของเขา
ข้อคิดจากเม่น ทุกคนมีพลังเปลี่ยนแปลงได้ถ้าร่วมมือกัน
เม่นสอนเราว่าไม่ว่าจะมีบทบาทเล็กแค่ไหน การรวมพลังกับคนอื่นเพื่อต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้องสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้
→ พงศ์สิรี บรรลือวงศ์ รับบท นพ

นพคือตัวละครที่โผล่มาในช่วงครึ่งหลังของเรื่อง หลังจากที่ เอกภาพ เจ้าพ่อที่วางแผนทำเหมืองแร่ทองคำในป่าดงเย็นถูกฆ่าตาย เขาเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจของเอกภาพและดูเหมือนจะเป็นคนที่สุภาพและน่าไว้วางใจในตอนแรก นพเข้าไปดูแล พิม ลูกสาวของเอกภาพ และแสดงท่าทีเหมือนจะชอบเธอ ทำให้ วิน พระเอกของเราคิดว่านพอาจเป็นคู่แข่งในเรื่องความรัก แต่เดี๋ยวก่อน เพราะนพไม่ใช่แค่คนรับช่วงต่อธรรมดาๆ เขาคือส่วนหนึ่งของเครือข่ายใหญ่ที่เชื่อมโยงกับ อำนาจ พ่อค้ายาเสพติดและนักการเมืองที่คอยสนับสนุนขบวนการมืด นพมีบทบาทในการปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มนี้ และกลายเป็นศัตรูสำคัญของทีม เพลิงไพร ในช่วงท้าย สุดท้ายเขาก็ต้องเผชิญจุดจบเมื่อทีมเพลิงไพรและผู้กองชาติทลายเครือข่ายได้สำเร็จ
ฉายาของนพ เงามืดแห่งเครือข่าย
เพราะนพคือตัวละครที่ซ่อนความร้ายกาจไว้ใต้หน้ากากของความสุภาพ และเป็นส่วนสำคัญในเครือข่ายอาชญากรรมที่ลึกซึ้ง
ข้อคิดจากนพ ความโลภนำไปสู่การทำลายตัวเอง
นพสอนเราว่าการยึดติดกับผลประโยชน์และเลือกทางที่ผิดศีลธรรมจะนำไปสู่จุดจบที่เลวร้าย ไม่ว่าจะดูเหมือนมีอำนาจแค่ไหนก็ตาม
→ ณัฏฐริณีย์ กรรณสูต รับบท โสพิศ

โสพิศคือตัวละครสมทบในชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของความขัดแย้งใน เพลิงไพร เธอเป็นสาวที่มีความลึกลับเล็กๆ และมีบทบาทเชื่อมโยงกับปมในครอบครัวและชุมชน โสพิศมักปรากฏในฉากที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของชาวบ้าน หรือในเหตุการณ์ที่โยงไปถึงตัวละครหลักอย่าง พิม หรือ พลอย แม้ว่าบทของเธอจะไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนปมหลักอย่างการต่อสู้กับขบวนการค้ายาของ อำนาจ หรือการปกป้องป่าของทีม เพลิงไพร แต่โสพิศช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับบรรยากาศของหมู่บ้าน เธอเป็นเหมือนตัวแทนของคนในชุมชนที่อาจรู้หรือสัมผัสถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตและมีส่วนร่วมในแบบของตัวเอง
ฉายาของโสพิศ เงาลึกลับแห่งดงเย็น
เพราะโสพิศคือตัวละครที่มีความลึกลับนิดๆ และช่วยเติมมิติให้กับเรื่องราวของชุมชนด้วยการปรากฏตัวในจังหวะที่เหมาะสม
ข้อคิดจากโสพิศ การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนคือการมีคุณค่า
โสพิศสอนเราว่าแม้จะมีบทบาทเล็กน้อยในเรื่องใหญ่ แต่การอยู่ในชุมชนและทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเงียบๆ ก็ช่วยสร้างความสมดุลและความหมายให้กับทุกคนรอบข้าง
→ ตฤณ เศรษฐโชค รับบท เอกภาพ

เอกภาพคือเจ้าพ่อที่มีอิทธิพลในพื้นที่ดงเย็น เขาคือพ่อของ พิม นางเอกของเรา แต่พิมไม่รู้เลยว่าพ่อของตัวเองมีด้านมืด เอกภาพวางแผนทำเหมืองแร่ทองคำที่รุกรานผืนป่า ทำให้เขาขัดแย้งกับ นิชา น้องสาวของวินที่เป็นนักอนุรักษ์ป่า เมื่อนิชาค้นพบหลักฐานที่อาจทำลายแผนของเขา เอกภาพสั่งให้ เชน ลูกน้องคนสนิทกำจัดนิชา ซึ่งนำไปสู่การฆาตกรรมที่จุดชนวนความแค้นของ วิน และทำให้เขาเข้าใจผิดว่าพิมรู้เห็นด้วย ต่อมาเอกภาพเองก็ถูกฆ่าตายอย่างลึกลับ และการตายของเขาทำให้วินกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เรื่องราวยิ่งซับซ้อนเมื่อเปิดเผยว่าเอกภาพเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายใหญ่ที่โยงไปถึง อำนาจ และนักการเมือง ตัวละครนี้คือตัวร้ายที่สร้างความขัดแย้งครั้งใหญ่ แม้ว่าจะอยู่ในเรื่องไม่นานแต่ก็ทิ้งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่
ฉายาของเอกภาพ เจ้าพ่อเงามืดแห่งดงเย็น
เพราะเอกภาพคือผู้มีอิทธิพลที่ควบคุมทุกอย่างจากในเงา และเป็นตัวจุดชนวนความวุ่นวายในป่าดงเย็น
ข้อคิดจากเอกภาพ อำนาจที่ใช้ในทางที่ผิดนำไปสู่หายนะ
เอกภาพสอนเราว่าการใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่สนใจผลกระทบต่อผู้อื่นหรือธรรมชาติ จะนำไปสู่ความพินาศทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง
→ นึกคิด บุญทอง รับบท ผู้ใหญ่สิงห์

ผู้ใหญ่สิงห์คือหัวหน้าหมู่บ้านแห่งดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของ เพลิงไพร เขาคือพ่อของ พลอย สาวที่เป็นรักแรกของ ผู้กองชาติ และเป็นผู้นำที่ได้รับความเคารพจากชาวบ้าน ในฐานะผู้ใหญ่บ้าน เขาคอยดูแลชุมชนให้สงบสุขท่ามกลางความขัดแย้งจากขบวนการค้ายาของ อำนาจ และการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ ผู้ใหญ่สิงห์ยืนหยัดในความถูกต้องและพยายามปกป้องชาวบ้านจากอิทธิพลมืด เขามักปรากฏในฉากที่ให้คำแนะนำหรือช่วยประสานงานกับตัวละครหลักอย่าง วิน และทีม เพลิงไพร แม้ว่าจะไม่ได้ลงสนามต่อสู้เอง แต่บทบาทของเขาคือการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในชุมชน และเป็นกำลังใจให้พลอยในช่วงที่ต้องเผชิญความวุ่นวาย ผู้ใหญ่สิงห์คือตัวแทนของผู้นำที่ทั้งเข้มแข็งและมีความเมตตา
ฉายาของผู้ใหญ่สิงห์ เสาหลักแห่งดงเย็น
เพราะผู้ใหญ่สิงห์คือผู้นำที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน คอยยึดเหนี่ยวและปกป้องทุกคนด้วยความมุ่งมั่น
ข้อคิดจากผู้ใหญ่สิงห์ ผู้นำที่ดีต้องนำด้วยใจและความยุติธรรม
ผู้ใหญ่สิงห์สอนเราว่าการเป็นผู้นำไม่ใช่แค่การสั่งการ แต่ต้องดูแลชุมชนด้วยความเมตตาและยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง แม้ในยามที่เผชิญภัยคุกคาม
→ อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รับบท ผอ.สุรสิทธิ์

ผอ.สุรสิทธิ์คือผู้อำนวยการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการป่าในพื้นที่ดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของ เพลิงไพร เขาคือตัวแทนของระบบราชการที่ต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งใหญ่ในเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ ที่วางแผนทำเหมืองแร่ทองคำ หรือขบวนการค้ายาของ อำนาจ ผอ.สุรสิทธิ์มักปรากฏในฉากที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในระดับบริหาร หรือการประสานงานกับตัวละครหลักอย่าง รองเวท หัวหน้าศูนย์วนารักษ์ และทีม เพลิงไพร ที่นำโดย วิน แม้ว่าบทของเขาจะไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนหลัก แต่ผอ.สุรสิทธิ์ช่วยเพิ่มมิติให้กับการต่อสู้ระหว่างความยุติธรรมและอิทธิพลมืด ด้วยท่าทีที่ทั้งน่าเกรงขามและมีส่วนในการสนับสนุนการปกป้องผืนป่า
ฉายาของผอ.สุรสิทธิ์ ผู้พิทักษ์เงียบแห่งระบบ
เพราะผอ.สุรสิทธิ์คือผู้บริหารที่ทำงานในเงา ช่วยสนับสนุนความยุติธรรมและการปกป้องป่าโดยไม่ต้องลงสนามเอง
ข้อคิดจากผอ.สุรสิทธิ์ การตัดสินใจที่ถูกต้องต้องมาก่อนผลประโยชน์
ผอ.สุรสิทธิ์สอนเราว่าผู้ที่อยู่ในตำแหน่งบริหารต้องยึดมั่นในความถูกต้องและประโยชน์ของส่วนรวม แม้ว่าจะต้องเผชิญแรงกดดันจากอิทธิพลภายนอก
→ ธนายง ว่องตระกูล รับบท รองเวท

รองเวทคือหัวหน้าศูนย์วนารักษ์ในป่าดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นศูนย์กลางของ เพลิงไพร เขาคือคนที่มุ่งมั่นปกป้องผืนป่าจากการบุกรุกและขบวนการค้ายา รองเวทเป็นผู้นำที่ทั้งเข้มแข็งและมีอุดมการณ์ เมื่อ สันต์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ถูกฆ่าตาย และ นิชา ค้นพบคลิปหลักฐานที่ชี้ว่า อำนาจ พ่อค้ายาเสพติดมีส่วนเกี่ยวข้อง รองเวทไม่ลังเลที่จะนำเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจ แม้ว่าจะถูกขัดขวางโดยระบบที่คอร์รัปชัน เขาทำงานร่วมกับ วิน และทีม เพลิงไพร รวมถึงสนับสนุน ผู้กองชาติ ในการสืบสวน รองเวทมักปรากฏในฉากที่วางแผนต่อสู้หรือให้คำแนะนำแก่ทีมวนารักษ์ เป็นตัวละครที่แสดงถึงความรับผิดชอบและความกล้าที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยุติธรรม
ฉายาของรองเวท ผู้พิทักษ์ป่าแห่งดงเย็น
เพราะรองเวทคือผู้นำที่ยืนหยัดปกป้องผืนป่าด้วยหัวใจและความมุ่งมั่น ไม่หวั่นแม้อิทธิพลมืด
ข้อคิดจากรองเวท การปกป้องสิ่งที่รักต้องใช้ความกล้าและความรับผิดชอบ
รองเวทสอนเราว่าการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง เช่น การรักษาสิ่งแวดล้อม ต้องอาศัยความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอุปสรรคและความรับผิดชอบต่อหน้าที่
→ เฉลิมพร พุ่มพันธ์วงศ์ รับบท อำนาจ

อำนาจคือพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ครองอิทธิพลในป่าดงเย็น เขาคือตัวร้ายตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายใน เพลิงไพร ไม่ว่าจะเป็นการค้ายาที่ทำลายชุมชนหรือการข่มขู่ชาวบ้าน อำนาจมีเครือข่ายที่โยงไปถึงนักการเมืองและตำรวจอย่าง ผู้กำกับไพศาล ทำให้เขาแทบจะอยู่เหนือกฎหมาย เมื่อ นิชา นักอนุรักษ์ป่าค้นพบหลักฐานที่อาจเปิดโปงเขา อำนาจสั่งเก็บทุกคนที่รู้ความลับ รวมถึงนิชา ซึ่งจุดชนวนให้ วิน ตั้งทีม เพลิงไพร เพื่อล้างแค้นและปกป้องป่า อำนาจเป็นตัวละครที่เย็นชา ฉลาด และโหดร้าย ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวคือความกดดันที่ทำให้คนดูรู้สึกถึงพลังของอิทธิพลมืด สุดท้ายเขาต้องเผชิญจุดจบเมื่อทีมเพลิงไพรและ ผู้กองชาติ รวมพลังทลายเครือข่ายของเขา
ฉายาของอำนาจ ราชาอิทธิพลแห่งดงเย็น
เพราะอำนาจคือบอสใหญ่ที่ควบคุมทุกอย่างในป่าดงเย็น ด้วยอิทธิพลที่แข็งแกร่งและน่าสะพรกลัว
ข้อคิดจากอำนาจ อำนาจที่ใช้ในทางที่ผิดย่อมพังทลาย
อำนาจสอนเราว่าการใช้พลังและอิทธิพลเพื่อทำร้ายผู้อื่นและทำลายสิ่งแวดล้อมจะนำไปสู่ความล่มสลาย ไม่ว่าจะดูเหมือนแข็งแกร่งแค่ไหน
→ ฉัตรวัต รัตนวงศ์ รับบท เข้ม

เข้มคือลูกน้องคนสนิทของ อำนาจ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในป่าดงเย็น เขาคือตัวละครที่ช่วยเสริมความน่ากลัวให้กับขบวนการมืดใน เพลิงไพร เข้มมักปรากฏในฉากที่ต้องลงมือทำภารกิจสกปรก ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ชาวบ้านหรือช่วยปกป้องผลประโยชน์ของอำนาจ เขาเป็นคนที่เด็ดขาดและพร้อมทำตามคำสั่งเจ้านายโดยไม่ลังเล ทำให้เขาเป็นภัยคุกคามต่อทีม เพลิงไพร ที่นำโดย วิน และ ผู้กองชาติ แม้ว่าบทของเข้มจะไม่ใช่ตัวร้ายหลัก แต่เขาช่วยเพิ่มความตึงเครียดในฉากแอ็กชันและทำให้คนดูรู้สึกถึงความกดดันจากอิทธิพลของฝั่งร้าย สุดท้ายเข้มต้องเผชิญจุดจบเมื่อทีมเพลิงไพรทลายเครือข่ายของอำนาจลงได้
ฉายาของเข้ม เงามืดของอำนาจ
เพราะเข้มคือลูกน้องที่ทำงานในเงา ช่วยขับเคลื่อนแผนร้ายของอำนาจด้วยความภักดีและความโหด
ข้อคิดจากเข้ม การเลือกข้างที่ผิดอาจนำไปสู่จุดจบ
เข้มสอนเราว่าการทุ่มเทให้กับเป้าหมายที่ผิดศีลธรรม ไม่ว่าจะด้วยความภักดีหรือผลประโยชน์ จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายในที่สุด
→ จตุรงค์ โกลิมาศ รับบท ผกก.ไพศาล

ผกก.ไพศาลคือผู้กำกับการตำรวจที่ดูเหมือนจะเป็นผู้พิทักษ์กฎหมาย แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นหัวหน้าใหญ่ของเครือข่ายคอร์รัปชันในป่าดงเย็น เขาทำงานร่วมกับ อำนาจ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ และมีส่วนในขบวนการที่ปกป้องผลประโยชน์จากยาเสพติดและการบุกรุกป่า ไพศาลใช้ตำแหน่งของตัวเองเพื่อข่มขู่และขัดขวางการสืบสวนของ ผู้กองชาติ และทำให้ วิน กลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม ผกก.ไพศาลคือตัวละครที่ฉลาดและเจ้าเล่ห์ ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวคือความกดดันที่ทำให้คนดูรู้สึกถึงพลังของอิทธิพลมืดในระบบ สุดท้ายเมื่อทีม เพลิงไพร และผู้กองชาติรวมพลังกัน ไพศาลต้องเผชิญจุดจบที่สมกับการกระทำของเขา
ฉายาของผกก.ไพศาล เงามืดในเครื่องแบบ
เพราะผกก.ไพศาลคือตำรวจที่ใช้ตำแหน่งในทางที่ผิด ซ่อนความชั่วร้ายไว้ใต้หน้ากากของความยุติธรรม
ข้อคิดจากผกก.ไพศาล อำนาจที่ใช้ในทางที่ผิดจะนำไปสู่ความล่มสลาย
ผกก.ไพศาลสอนเราว่าการใช้อำนาจและตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่สนใจความถูกต้อง จะนำไปสู่จุดจบที่เลวร้าย
→ สุรจิต บุญญานนท์ รับบท สารวัตรกำจร

สารวัตรกำจรคือตำรวจที่มีบทบาทในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนคดีในป่าดงเย็น เขาเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งใหญ่ใน เพลิงไพร ไม่ว่าจะเป็นขบวนการค้ายาของ อำนาจ หรือการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ สารวัตรกำจรมักปรากฏในฉากที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของตำรวจ โดยเฉพาะการประสานงานกับ ผู้กองชาติ ที่พยายามทลายเครือข่ายคอร์รัปชัน แม้ว่าบทของเขาจะไม่ใช่ตัวหลัก แต่สารวัตรกำจรช่วยแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในระบบราชการที่บางครั้งถูกกดดันจากอิทธิพลมืดอย่าง ผกก.ไพศาล เขาคือตัวละครที่สะท้อนความพยายามในการรักษาความยุติธรรม แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ซับซ้อน
ฉายาของสารวัตรกำจร เงายุติธรรมแห่งดงเย็น
เพราะสารวัตรกำจรคือตำรวจที่ทำงานเพื่อความถูกต้องในเงามืดของระบบที่เต็มไปด้วยอุปสรรค
ข้อคิดจากสารวัตรกำจร การยึดมั่นในความถูกต้องต้องใช้ความอดทน
สารวัตรกำจรสอนเราว่าการทำงานเพื่อความยุติธรรมในระบบที่เต็มไปด้วยแรงกดดันต้องอาศัยความมุ่งมั่นและความอดทนเพื่อให้เกิดผล
→ สุรศักดิ์ ชัยอรรถ รับบท พรานย้อย

พรานย้อยคือชาวบ้านผู้เชี่ยวชาญด้านป่าในดงเย็น เขาคือพ่อของ ลูกหว้า สาวน้อยที่หลงรักวิน และเป็นคนที่รู้จักป่าเหมือนหลังมือ ใน เพลิงไพร พรานย้อยเป็นที่เคารพของชุมชน เพราะความรู้และความกล้าหาญของเขา เมื่อ วิน ถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนและต้องหลบหนี พรานย้อยไม่ลังเลที่จะช่วยปกป้องและให้ที่พักพิง เขายังเข้าร่วมทีม เพลิงไพร เพื่อต่อสู้กับขบวนการค้ายาของ อำนาจ และปกป้องผืนป่าจากการบุกรุกของ เอกภาพ พรานย้อยมักปรากฏในฉากที่ใช้ความรู้เรื่องป่านำทางทีม หรือลงมือในภารกิจแอ็กชัน เขาคือตัวละครที่ผสมผสานความเข้มแข็งและความอบอุ่นของพ่อที่ห่วงลูกสาวและชุมชน
ฉายาของพรานย้อย ผู้รู้ใจป่าแห่งดงเย็น
เพราะพรานย้อยคือคนที่เข้าใจป่าดงเย็นอย่างลึกซึ้ง และใช้ความรู้เพื่อปกป้องทั้งชุมชนและธรรมชาติ
ข้อคิดจากพรานย้อย ความรู้และความกล้าสามารถปกป้องสิ่งที่รักได้
พรานย้อยสอนเราว่าการใช้ความรู้และประสบการณ์ ผสานกับความกล้าที่จะลงมือทำ สามารถปกป้องสิ่งที่เราห่วงใยอย่างชุมชนและธรรมชาติได้อย่างมีพลัง
→ พัชร์ลิตา จิระพิทักษ์ชัย รับบท กวาง

กวางคือสาวน้อยในชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของความขัดแย้งใน เพลิงไพร เธอเป็นตัวละครที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวบ้านในป่าเขียวขจี มีความสดใสและเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น กวางมักปรากฏในฉากที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของชาวบ้าน เช่น การช่วยงานชุมชนหรือการพูดคุยกับตัวละครอย่าง พิม หรือ ลูกหว้า แม้ว่าบทของกวางจะไม่ใช่ตัวขับเคลื่อนปมหลักอย่างการต่อสู้กับขบวนการค้ายาของ อำนาจ หรือการปกป้องป่าของทีม เพลิงไพร แต่เธอช่วยเสริมสร้างความรู้สึกของความเป็นชุมชนที่เข้มแข็งและอบอุ่น กวางคือตัวแทนของคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตท่ามกลางความวุ่นวาย แต่ยังคงรักษาความสดใสและความเป็นมิตร
ฉายาของกวาง รอยยิ้มแห่งชุมชนดงเย็น
เพราะกวางคือสาวน้อยที่นำความสดใสและรอยยิ้มมาสู่ชุมชน ช่วยให้เรื่องราวมีแง่มุมที่เบาสบายท่ามกลางความตึงเครียด
ข้อคิดจากกวาง ความสุขอยู่ในความเป็นมิตรและการอยู่ร่วมกัน
กวางสอนเราว่าการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนและมอบความเป็นมิตรให้คนรอบข้าง แม้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก สามารถสร้างความสุขและความหวังได้
→ พรสวรรค์ สุขจิตร รับบท กระติ๊บ
กระติ๊บคือสาวน้อยแห่งชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของความขัดแย้งใน เพลิงไพร เธอเป็นตัวละครที่นำความสดใสและความเป็นชาวบ้านมาเติมเต็มเรื่องราว ด้วยนิสัยร่าเริงและเป็นมิตร กระติ๊บมักปรากฏในฉากที่แสดงถึงวิถีชีวิตประจำวันของชุมชน เช่น การช่วยงานหมู่บ้านหรือการพูดคุยกับตัวละครอย่าง พิม หรือ ลูกหว้า แม้ว่าบทของเธอจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปมหลักอย่างการต่อสู้กับขบวนการค้ายาของ อำนาจ หรือการปกป้องป่าของทีม เพลิงไพร แต่กระติ๊บช่วยสร้างบรรยากาศของความเป็นชุมชนที่อบอุ่นและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เธอคือตัวแทนของคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางความวุ่นวาย
ฉายาของกระติ๊บ ดาวรุ่งแห่งดงเย็น
เพราะกระติ๊บคือสาวน้อยที่เปี่ยมไปด้วยความสดใสและพลังบวก ราวกับดาวดวงเล็กที่ส่องแสงในชุมชน
ข้อคิดจากกระติ๊บ ความร่าเริงสามารถสร้างพลังบวกให้ผู้อื่น
กระติ๊บสอนเราว่าการรักษาความสดใสและแบ่งปันรอยยิ้มให้คนรอบข้าง แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก สามารถสร้างความหวังและกำลังใจให้กับชุมชนได้
→ ธนภัทร ขจรชัยกุล รับบท โต้ง

โต้งคือหนึ่งในลูกน้องของ อำนาจ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่ครองอิทธิพลในป่าดงเย็น ใน เพลิงไพร เขาคือตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนแผนร้ายของเจ้านาย ทำงานเคียงข้าง เชน และ เข้ม ในการจัดการภารกิจสกปรก ไม่ว่าจะเป็นการข่มขู่ชาวบ้านหรือช่วยปกป้องผลประโยชน์ของขบวนการค้ายา โต้งเป็นตัวละครที่ดูแข็งกร้าวและภักดีต่ออำนาจ มักปรากฏในฉากแอ็กชันที่ทีม เพลิงไพร ต้องเผชิญหน้า เขาคือตัวร้ายสมทบที่เพิ่มความตึงเครียดให้กับเรื่องราว แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวร้ายหลัก แต่การปรากฏตัวของโต้งช่วยให้เห็นภาพของเครือข่ายอิทธิพลมืดที่แข็งแกร่ง สุดท้ายเมื่อทีมเพลิงไพรและ ผู้กองชาติ ทลายเครือข่ายของอำนาจ โต้งก็ต้องเผชิญจุดจบที่สมกับการกระทำของเขา
ฉายาของโต้ง มือขวาแห่งความโกลาหล
เพราะโต้งคือลูกน้องที่ช่วยสร้างความวุ่นวายในป่าดงเย็น ด้วยความภักดีและความดุดันที่สนับสนุนแผนร้ายของอำนาจ
ข้อคิดจากโต้ง การเลือกทางที่ผิดมีราคาที่ต้องจ่าย
โต้งสอนเราว่าการตัดสินใจเข้าร่วมกับสิ่งที่ผิดศีลธรรม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม สุดท้ายจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เลวร้ายและไม่คุ้มค่า
→ วณิชน์ญา พรพนาฤทธิชัย รับบท กระเจี๊ยบ
กระเจี๊ยบคือสาวน้อยแห่งชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของความขัดแย้งใน เพลิงไพร เธอเป็นตัวละครที่สะท้อนความเป็นชาวบ้านด้วยความร่าเริงและมีชีวิตชีวา กระเจี๊ยบมักปรากฏในฉากที่แสดงถึงวิถีชีวิตประจำวันของชุมชน เช่น การช่วยงานหมู่บ้านหรือพูดคุยกับตัวละครอย่าง พิม หรือ ลูกหว้า แม้ว่าบทของเธอจะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปมหลักอย่างการต่อสู้กับขบวนการค้ายาของ อำนาจ หรือการปกป้องป่าของทีม เพลิงไพร แต่กระเจี๊ยบช่วยเพิ่มความสมจริงและความอบอุ่นให้กับบรรยากาศของหมู่บ้าน เธอคือตัวแทนของคนในชุมชนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและมอบพลังบวกให้คนรอบข้าง
ฉายาของกระเจี๊ยบ แสงเล็กๆ แห่งดงเย็น
เพราะกระเจี๊ยบคือสาวน้อยที่เปรียบเหมือนแสงสว่างเล็กๆ ที่ช่วยให้ชุมชนมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ข้อคิดจากกระเจี๊ยบ ความสุขเล็กๆ สามารถสร้างความแตกต่างได้
กระเจี๊ยบสอนเราว่าการใช้ชีวิตอย่างร่าเริงและเป็นมิตร แม้จะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในชุมชน สามารถสร้างพลังบวกและความสุขให้กับคนรอบข้างได้
→ สุกัลย์ ประสานพานิช รับบท เข่ง
เข่งคือชาวบ้านในชุมชนดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของความขัดแย้งใน เพลิงไพร เขาคือตัวแทนของคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตท่ามกลางป่าเขียวขจี และมีความผูกพันกับชุมชนอย่างลึกซึ้ง เมื่อภัยคุกคามจากขบวนการค้ายาของ อำนาจ และการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ เข้ามา เข่งเลือกที่จะไม่นิ่งเฉย เขาเข้าร่วมทีม เพลิงไพร ที่นำโดย วิน และ พรานย้อย เพื่อปกป้องผืนป่าและบ้านเกิด เข่งมักปรากฏในฉากที่ทีมเพลิงไพรรวมตัวกันวางแผนหรือลงมือปฏิบัติการ ด้วยความกล้าและความมุ่งมั่น เขาช่วยเสริมภาพของชุมชนที่รวมใจกันต่อสู้ แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจากอิทธิพลมืด
ฉายาของเข่ง นักสู้แห่งเงาป่า
เพราะเข่งคือชาวบ้านที่อาจไม่โดดเด่น แต่ยืนหยัดสู้เพื่อปกป้องป่าดงเย็นด้วยใจที่มุ่งมั่น
ข้อคิดจากเข่ง การรวมพลังกันคือกุญแจสู่ชัยชนะ
เข่งสอนเราว่าไม่ว่าจะเป็นคนตัวเล็กแค่ไหน ถ้าร่วมมือกับชุมชนเพื่อต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้
→ อภิสรา วงศ์ทัศนีโย รับบท นิชา

นิชาคือตัวละครที่มีบทบาทสำคัญใน เพลิงไพร เธอเป็นน้องสาวของ วิน พระเอกของเรา และเป็นนักอนุรักษ์ป่าที่เต็มไปด้วยอุดมการณ์ เธอเลือกที่จะมาทำงานในป่าดงเย็นเพื่อปกป้องธรรมชาติ แทนที่จะกลับไปบริหารธุรกิจครอบครัวตามที่พี่ชายอยากให้ทำ นิชาค้นพบหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับขบวนการค้ายาของ อำนาจ และการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ ซึ่งเป็นความลับที่อาจทำลายเครือข่ายอิทธิพลมืด แต่ความกล้าหาญของเธอก็ทำให้เธอต้องจ่ายราคาแพง เมื่อ เชน ลูกน้องของเอกภาพได้รับคำสั่งให้กำจัดเธอ การตายของนิชาคือจุดชนวนที่ทำให้วินตั้งทีม เพลิงไพร เพื่อล้างแค้นและปกป้องป่า แม้ว่านิชาจะอยู่ในเรื่องเพียงช่วงสั้นๆ แต่เธอคือตัวละครที่จุดไฟให้เรื่องราวทั้งหมด
ฉายาของนิชา ไฟแห่งการอนุรักษ์
เพราะนิชาคือคนที่จุดประกายการต่อสู้เพื่อปกป้องป่าดงเย็นด้วยความมุ่งมั่นและความกล้า
ข้อคิดจากนิชา ความกล้าในการยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้องมีพลังเปลี่ยนแปลง
นิชาสอนเราว่าการต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งที่รัก แม้จะต้องเผชิญอันตราย สามารถสร้างแรงบันดาลใจและผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ให้กับคนรอบข้าง
→ สุรวุฑ ไหมกัน รับบท ผู้การเดชา

ผู้การเดชาคือผู้บังคับบัญชาตำรวจที่มีบทบาทสำคัญใน เพลิงไพร เขาคือผู้บังคับการที่ดูแลคดีใหญ่เกี่ยวกับขบวนการค้ายาในป่าดงเย็น ซึ่งโยงไปถึง อำนาจ พ่อค้ายาเสพติด และ ผกก.ไพศาล ตำรวจคอร์รัปชัน ผู้การเดชาเป็นตัวแทนของความยุติธรรมในระบบที่เต็มไปด้วยการทุจริต เขาคอยสนับสนุน ผู้กองชาติ ในการสืบสวนและทลายเครือข่ายอิทธิพลมืด แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอก ผู้การเดชามักปรากฏในฉากที่วางกลยุทธ์หรือสั่งการในภารกิจสำคัญ ช่วยให้ทีม เพลิงไพร และผู้กองชาติมีพลังมากขึ้นในการต่อสู้ เขาคือตัวละครที่แสดงถึงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในการรักษาความถูกต้องในระบบ
ฉายาของผู้การเดชา เสาหลักแห่งความยุติธรรม
เพราะผู้การเดชาคือผู้นำในเครื่องแบบที่ยืนหยัดเพื่อความถูกต้องและสนับสนุนการต่อสู้กับความชั่วร้ายในป่าดงเย็น
ข้อคิดจากผู้การเดชา ความยุติธรรมต้องได้รับการปกป้องจากผู้นำที่เข้มแข็ง
ผู้การเดชาสอนเราว่าการเป็นผู้นำในระบบที่ซับซ้อนต้องใช้ทั้งความกล้าและความมุ่งมั่นเพื่อปกป้องความถูกต้อง แม้จะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคใหญ่
→ จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ รับบท สันต์

สันต์คือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในป่าดงเย็น หมู่บ้านที่เป็นฉากหลักของ เพลิงไพร เขาคือคนที่ทุ่มเทให้กับการปกป้องผืนป่า ทำงานเคียงข้าง รองเวท หัวหน้าศูนย์วนารักษ์ สันต์เป็นคนกล้าหาญและมีอุดมการณ์ เมื่อเขาค้นพบเบาะแสเกี่ยวกับขบวนการค้ายาของ อำนาจ และการบุกรุกป่าจาก เอกภาพ สันต์พยายามนำความจริงไปเปิดโปง แต่ความกล้าของเขากลับนำมาซึ่งโศกนาฏกรรม เขาถูก เชน ลูกน้องของเอกภาพฆ่าตายอย่างโหดร้าย ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของปมใหญ่ในเรื่อง การตายของสันต์เป็นแรงผลักดันให้ นิชา และ วิน ลุกขึ้นสู้ และนำไปสู่การก่อตั้งทีม เพลิงไพร เพื่อล้างแค้นและปกป้องป่า สันต์คือตัวละครที่แสดงถึงความเสียสละเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง
ฉายาของสันต์ วีรบุรุษแห่งป่าดงเย็น
เพราะสันต์คือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เสียสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนป่าและเปิดโปงความชั่วร้าย
ข้อคิดจากสันต์ ความกล้าในการทำสิ่งที่ถูกต้องสร้างแรงบันดาลใจ
สันต์สอนเราว่าการยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม แม้จะต้องแลกด้วยสิ่งที่มีค่า สามารถจุดประกายให้คนอื่นสานต่อภารกิจเพื่อสิ่งที่ถูกต้องได้
ข้อคิดสำคัญจากละคร เพลิงไพร ปี 2566 ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่แอ็กชันเดือดและดราม่าความรัก แต่ยังเต็มไปด้วยข้อคิดที่สะท้อนปัญหาสังคมไทยจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องการอนุรักษ์ป่า การต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม และหัวใจของมนุษย์ท่ามกลางความขัดแย้ง
ละครเรื่องนี้เริ่มต้นจากป่าดงเย็นที่เป็นจุดกำเนิดของความรัก ความแค้น และความตาย ตัวละครอย่างวิน พิม ชาติ และพลอยต้องยืนหยัดเพื่ออุดมการณ์ของตัวเอง ท่ามกลางอันตรายจากการรุกรานป่าและขบวนการค้ายาเสพติด โดยเดิมพันทั้งชีวิตและหัวใจ ข้อคิดที่ชัดเจนคือ การปกป้องสิ่งที่รักต้องแลกด้วยความกล้าหาญและการเสียสละ เหมือนที่ทีมเพลิงไพรรวมพลังกันต่อสู้กับอิทธิพลมืด แสดงให้เห็นว่าปัญหาสังคมอย่างการทุจริตและการทำลายธรรมชาติไม่สามารถแก้ได้ด้วยตัวคนเดียว แต่ต้องอาศัยความสามัคคีและความมุ่งมั่น
อีกข้อคิดที่โดดเด่นคือ ความเข้าใจผิดสามารถเปลี่ยนรักเป็นแค้น แต่การให้อภัยคือหนทางสู่การเยียวยา ผ่านความสัมพันธ์ของวินและพิมที่พลิกผันจากรักแรกพบกลายเป็นศัตรูเพราะปมครอบครัว แต่สุดท้ายทั้งคู่เลือกคลายปมและรวมใจกันปกป้องป่า มันสะท้อนว่าความแค้นจากความเข้าใจผิดมักนำไปสู่ความสูญเสีย แต่การยอมรับความจริงและให้อภัยจะนำไปสู่ความสงบและความหวัง
นอกจากนี้ ละครยังสอนว่า ความยุติธรรมต้องมาก่อนอำนาจและผลประโยชน์ส่วนตัว ผ่านตัวละครอย่างผู้กองชาติที่ยืนหยัดสู้กับระบบคอร์รัปชัน แม้จะเสี่ยงชีวิต มันเตือนใจว่าการต่อสู้เพื่อสิ่งถูกต้อง แม้จะยากลำบาก แต่จะนำมาซึ่งชัยชนะที่แท้จริงสำหรับชุมชนและสังคม
ถ้า เพลิงไพร ปี 2566 มีภาค 2 จะเดือดขนาดไหน หลังจากที่ภาคแรกจบแบบสะใจ ทีมเพลิงไพรทลายเครือข่ายอำนาจและปกป้องป่าดงเย็นได้สำเร็จ มาดูกันว่าภาค 2 จะพาเราไปเจออะไรบ้าง
เรื่องราวในภาค 2 เริ่มต้น 3 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก วิน (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) และ พิม (เกศรินทร์ น้อยผึ้ง) แต่งงานกันและตั้งศูนย์อนุรักษ์ป่าดงเย็นอย่างเต็มตัว โดยมี ผู้กองชาติ (ชนกันต์ พูนศิริวงศ์) และ พลอย (พรทิวา สาครจันทร์) คอยสนับสนุนในฐานะที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยและการพัฒนาชุมชน ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบสุข แต่เงามืดใหม่กำลังคืบคลานเข้ามา
ภัยคุกคามใหม่คือ นายทุนข้ามชาติ ที่นำโดย ศรัณย์ ตัวร้ายหน้าใหม่ที่มีความแค้นส่วนตัวกับวิน ศรัณย์เคยเป็นหุ้นส่วนเก่าของ เอกภาพ และสูญเสียทุกอย่างเมื่อเครือข่ายถูกทลายในภาคแรก เขากลับมาพร้อมแผนการใหญ่: เปลี่ยนป่าดงเย็นให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดยใช้เงินและอิทธิพลซื้อตัวชาวบ้านและเจ้าหน้าที่บางส่วน รวมถึงปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้งในชุมชน ศรัณย์ยังจ้าง กานต์ อดีตทหารรับจ้างที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ เพื่อจัดการกับทีมเพลิงไพร
ในขณะเดียวกัน ลูกหว้า (อังคณา วรรัตนาชัย) ที่ยังเจ็บปวดจากรักที่ไม่สมหวังในภาคแรก เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เธอตัดสินใจฝึกฝนตัวเองและกลายเป็นนักอนุรักษ์ป่าที่แข็งแกร่ง ร่วมมือกับ ไท (สุกฤษฏิ์ สงแก้ว) ที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าทีมวนารักษ์ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มซับซ้อนเมื่อไทสารภาพรักกับลูกหว้า ขณะที่ลูกหว้าต้องเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองเมื่อวินขอให้เธอช่วยในภารกิจสำคัญ
ปมดราม่าที่ยิ่งใหญ่คือการค้นพบว่า นิชา น้องสาวของวินที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้ว อาจยังมีชีวิตอยู่ เธอถูกจับตัวไปโดยเครือข่ายของศรัณย์และถูกบังคับให้ทำงานเป็นนักวิจัยเพื่อหาแร่ธาตุหายากในป่า วินและพิมต้องเสี่ยงทุกอย่างเพื่อช่วยนิชา ขณะที่ต้องปกป้องชุมชนจากแผนร้ายของศรัณย์ ฉากแอ็กชันเดือดๆ เกิดขึ้นเมื่อทีมเพลิงไพรต้องบุกเข้าไปในฐานลับของกานต์ในหุบเขา ซึ่งเต็มไปด้วยกับดักและการต่อสู้สุดระทึก
ในด้านความรัก วินและพิมต้องเผชิญบททดสอบเมื่อศรัณย์พยายามใช้ความลับในอดีตของพิมเกี่ยวกับครอบครัวของเธอมาสร้างรอยร้าว ขณะที่ชาติและพลอยต้องตัดสินใจว่าจะยอมทิ้งชีวิตในเมืองเพื่ออยู่ที่ดงเย็นถาวรหรือไม่ ส่วนลูกหว้าและไทจะต้องเผชิญหน้ากับคำถามว่า ความรักจะช่วยเยียวยาความเจ็บปวดในอดีตได้หรือเปล่า
เรื่องราวลึกลับที่เกิดขึ้นในเบื้องหลังกองถ่ายละคร เพลิงไพร ปี 2566 ทางช่อง 7HD ละครเรื่องนี้ถ่ายทำในป่าจริงๆ และมีเรื่องราวสุดหลอนที่ทีมงานและนักแสดงเจอกันมา บอกเลยว่าไม่ใช่แค่ในจอที่เดือด แต่หลังกล้องก็มีอะไรที่ทำให้ขนลุก อยากรู้ว่าเกิดอะไรบ้าง
เสียงกระซิบในป่ายามค่ำ
กองถ่ายเพลิงไพรเลือกโลเคชันเป็นป่าเขียวขจีในจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อให้ได้ฟีลป่าดงเย็นที่สมจริง แต่ระหว่างถ่ายฉากแอ็กชันตอนกลางคืน ที่ วิน (กันตพงศ์ บำรุงรักษ์) และ ผู้กองชาติ (ชนกันต์ พูนศิริวงศ์) ต้องหนีการตามล่าของ เชน (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) ทีมงานหลายคนได้ยิน เสียงกระซิบ ลอยมาจากในป่า คล้ายคนพูดคุยกันเบาๆ แต่เมื่อส่องไฟไปดู กลับไม่พบอะไรเลย ผู้กำกับถึงกับต้องหยุดถ่ายชั่วคราวเพราะนักแสดงบางคนรู้สึกขนลุก โดยเฉพาะ ปูเป้-เกศรินทร์ (รับบทพิม) ที่บอกว่าเหมือนมีคนมองเธอจากในเงามืด ชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า ป่านี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนโบราณ อาจมีวิญญาณวนเวียนอยู่
เงาลางร้ายในกล้อง
ในฉากที่ นิชา (อภิสรา วงศ์ทัศนีโย) ถูกฆ่าตาย ทีมงานต้องถ่ายซ้ำหลายรอบเพราะกล้องจับภาพ เงาดำ ที่เคลื่อนไหวในพื้นหลังได้ ทั้งที่บริเวณนั้นไม่มีนักแสดงหรือทีมงานยืนอยู่ ตอนแรกคิดว่าเป็นเงาต้นไม้ แต่เมื่อเช็คฟุตเทจซ้ำ เงานั้นมีลักษณะคล้ายคนเดินผ่าน และที่หลอนกว่านั้นคือมันปรากฏในฟุตเทจแค่บางช็อตเท่านั้น ตฤณ เศรษฐโชค (รับบทเอกภาพ) เล่าว่าเขารู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ทุกครั้งที่ถ่ายฉากนี้ และทีมงานบางคนถึงกับขอทำพิธีขอขมาที่กองถ่ายเพื่อความสบายใจ
อุปกรณ์ถ่ายทำล่มปริศนา
ระหว่างถ่ายฉากที่ทีม เพลิงไพร รวมตัวกันวางแผนในกระท่อมของ พรานย้อย (สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) อุปกรณ์ถ่ายทำอย่างไฟสปอตไลต์และไมโครโฟนเริ่มมีปัญหาแบบไม่มีสาเหตุ ไฟกระพริบเองทั้งที่แบตเตอรี่เต็ม และไมค์จับเสียงรบกวนแปลกๆ คล้ายคนเดินเหยียบใบไม้แห้ง แม้ว่าทุกคนในกองจะอยู่นิ่งๆ ทีมงานเทคนิคตรวจสอบแล้วไม่พบปัญหาทางเทคนิค สุดท้ายต้องจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่า และหลังจากนั้นอุปกรณ์ก็กลับมาใช้งานได้ปกติ ทำเอาทีมงานเชื่อว่าอาจมีสิ่งลี้ลับคอยปกป้องพื้นที่ป่านี้
ความฝันประหลาดของนักแสดง
มิ้นท์-พรทิวา (รับบทพลอย) และ อังคณา (รับบทลูกหว้า) เล่าว่าพวกเธอฝันเหมือนกันในคืนเดียวกันขณะพักอยู่ในที่พักใกล้กองถ่าย ในฝันทั้งคู่เห็นผู้หญิงใส่ชุดพื้นเมืองยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่และชี้ไปที่จุดหนึ่งในป่า เช้าวันต่อมา ทีมงานพบรอยเท้าประหลาดใกล้จุดที่ถ่ายทำ ซึ่งชาวบ้านบอกว่าเป็นบริเวณที่เคยมีศาลเก่าแก่ตั้งอยู่ก่อนจะถูกรื้อทิ้งเมื่อหลายปีก่อน เรื่องนี้ทำให้นักแสดงและทีมงานตัดสินใจทำบุญถวายของให้ศาลเพื่อความสบายใจ