Club Friday The Series 12 ตอน รักในแรงแค้น 2563 “ถ้าคุณอยากได้สามีฉันจริงๆ ถือว่าฉันขายให้คุณก็แล้วกัน”

Club Friday The Series 12 ตอน รักในแรงแค้น 2563 ละครแนวความรักดราม่า ที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดของความรักที่ถูกหลอกลวง ซึ่งนำไปสู่การแก้แค้นที่รุนแรง

เรื่องราวของ “นัน” หญิงสาวสวย เรียบร้อย ช่วยพ่อแม่ดูแลร้านอาหาร จนกระทั่งพ่อแม่เสียชีวิต เธอต้องสู้ชีวิตเพียงลำพัง จนกระทั่งได้พบกับ “เมฆ” นักข่าวหนุ่มที่เข้ามาช่วยเหลือและดูแลเธอ จนทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกัน หลังจากแต่งงาน นันค้นพบว่า เมฆไม่ได้เป็นอย่างที่เขาแสดงออก เขาโกหกเธอมาโดยตลอดว่าไม่มีครอบครัว แต่ความจริงแล้วเขาแต่งงานกับ “ปูน” มาแล้ว และมีลูกด้วยกัน นันรู้สึกถูกหลอกลวงและเสียใจอย่างมาก

ความเจ็บปวดและความแค้นที่สะสมมานาน ทำให้นันตัดสินใจที่จะแก้แค้น เมฆ และ ปูน เธอวางแผนที่จะทำลายชีวิตของทั้งคู่ให้พังทลาย

เรื่องราวเต็มไปด้วยความรัก ความแค้น การหลอกลวง และการแก้แค้น ทำให้ผู้ชมได้ร่วมลุ้นและอินไปกับตัวละคร นักแสดงนำทั้งสามคนสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะพิม ซอนย่า ที่แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดและความแค้นของนันได้อย่างน่าประทับใจ เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในสังคมเกี่ยวกับความรัก การแต่งงาน และการนอกใจ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ



Club Friday The Series 12 ตอน รักในแรงแค้น 2563

เธอกับเขาพบกันในที่ทำงาน จากความใกล้ชิดทั้งเรื่องงาน และการพูดคุยสนิทสนมกันในเรื่องส่วนตัว ทำให้เธอและเขาเริ่มรู้สึกเกินเลยต่อกัน ทั้งที่รู้ดีว่าเขามีภรรยาและลูกสาวตัวเล็กๆ เธอรู้ดีว่า ความสัมพันธ์นี้ไม่ถูกต้อง แต่ก็ยังตัดสินใจไปต่อ จนวันหนึ่งพบว่า มันยากเกินไปแล้วที่จะหยุด

นัน (พิม ซอนย่า คูลลิ่ง) เป็นหญิงสาวสวย เรียบร้อย ช่วยพ่อแม่ดูแลกิจการร้านอาหาร จนกระทั่งพ่อแม่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่ ทำให้ชีวิตเธอเคว้งคว้าง ต้องดูแลกิจการเพียงลำพัง จนกระทั่งเจอ เมฆ (วิลลี่ แมคอินทอช) ซึ่งเป็นนักข่าวที่มาขอถ่ายรูปร้านของเธอไปลงข่าว เมฆ สัมภาษณ์เรื่องราวชีวิตของ นัน ทำให้เขารู้ว่าเธอเพิ่งสูญเสียพ่อแม่ เธออยู่ตัวคนเดียว ทำให้เขาเห็นใจ และจากการที่เขาเป็นนักข่าวทำให้เขามีช่องทางเพื่อช่วยโปรโมตกิจการของนัน นันรู้สึกซึ้งน้ำใจของ เมฆ ที่ช่วยเหลือในยามที่เธอไม่เหลือใคร ดังนั้นไม่นานเธอก็รักเขาและตัดสินใจแต่งงานกัน โดย เมฆ บอกว่าเขาเป็นนักข่าวธรรมดา ไม่มีเงินเก็บมากมาย จึงขอแต่งงานเล็กๆ นัน ไม่ติดขัดเพราะเธอขอแค่จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องก็พอแล้ว โดยในงานแต่งเล็กๆ มีเพียงญาติของนัน แต่ไม่มีพ่อแม่หรือญาติของเมฆเลย เมฆ บอกเขาตัวคนเดียว พ่อแม่เสีย ไม่มีญาติพี่น้อง นัน เชื่อ เมฆ หมด พอแต่งงานแล้ว นัน ก็ให้ เมฆ ช่วยดูแลเรื่องกิจการร้านอาหาร แต่เพราะ เมฆ เป็นนักข่าวจึงไม่ค่อยมีเวลาเพราะต้องเดินทางบ่อยเพื่อติดต่องาน จนกระทั่ง นัน ท้อง ในช่วงนั้น เมฆ บอกกับ นัน ว่าเขาต้องออกกองสัมภาษณ์ มีเหตุผลในการค้างคืน ไม่กลับบ้านบ่อยๆ ปล่อย นัน ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง จนกระทั่งวันคลอด

ในวันที่ นัน จะคลอดลูก นันได้โทรหาเมฆ แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาจาก เมฆ เหมือนเช่นเคยว่ายังติดธุระเรื่องสัมภาษณ์งานสำคัญอยู่ นัน แอบนึกน้อยใจแต่ก็เก็บไว้อยู่เพียงคนเดียวว่า เมฆ ห่วงงานมากกว่ามาเห็นหน้าลูกหรือไง และก็มีผู้หญิงชื่อ ปูน (เข็ม รุจิรา) ซึ่งเป็นระดับอาจารย์ ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยที่มีเกียรติ มาพา นัน ไปที่โรงพยาบาลแทน พร้อมกับประกาศตัวกับ นัน ว่าตัวเอง คือ ภรรยาอีกคนหนึ่งของสามีเธอมานานแล้ว และ ครอบครัวของเขาก็รับรู้

นัน อึ้งเพราะ เมฆ บอกว่าเขาไม่มีพ่อแม่และญาติ แต่ ปูน ได้ยื่นการ์ดแต่งงานระหว่างเธอกับ เมฆ ให้ นัน นันเสียใจมากที่ เมฆ โกหกเธอมาตลอด นันยอมอดทนที่จะไม่ถาม เมฆ เพราะไม่อยากทำลายครอบครัวตัวเอง พร้อมยังคิดว่าเมื่อเขาได้เห็นหน้าลูก เมฆคงเปลี่ยนใจกลับใจมารักและดูแลลูกกลับมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อีกครั้ง

นัน พาลูกกลับบ้านจากโรงพยาบาลตามลำพัง โดย เมฆ ไม่ติดต่ออะไรมาเลย นันเปิดดูสมุดบัญชีแล้วต้องอึ้ง เมื่อเงินเก็บ ถูก เมฆ โอนถ่ายไปเกือบหมด เขาเหลือเงินไว้ให้เธอไม่ถึงแสน ทำให้ นัน ตาสว่างว่าที่ผ่านมา เมฆ ไม่ได้ช่วยเธอเพราะรัก แต่เขาหลอกให้เธอรัก และหลอกเอาเงินจากผู้หญิงชาวสวนอย่างเธอ เขามั่นใจว่าเธอซื่อ ไม่มีความรู้เอาเรื่องเขาได้ นันไม่รู้จะพึ่งใคร เธอได้แต่ร้องไห้กับลูก จนกระทั่งเสียงร้องของลูกทำให้เธอมีสติว่าเธอต้องมีชีวิตสู้ต่อเพื่อลูก ! นันเริ่มตั้งสติหันหน้าพึ่งพระธรรม และเริ่มอ่านกฎหมายเกี่ยวกับครอบครัวว่าเธอสามารถจัดการอะไรกับสามีของเธอได้บ้าง

หลังจากนั้นไม่นาน เมฆ ก็กลับมาหาเธอกับลูก เขาแสดงออกว่าคิดถึงและรักลูกมาก นันหวังว่าลูกจะทำให้เขาเปลี่ยนใจจากทุกอย่างกลับมาอยู่กับเธอและลูก แต่ความหวังเธอพังเมื่อเขาบอกจุดประสงค์ที่เขามา เพื่อขอให้เธอเซ็นใบหย่าให้เขา

นัน อยากกรีดร้องและทำร้าย เมฆ ด้วยความเสียใจ แต่เพราะเธอพึ่งธรรมะจึงมีสติว่าการใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก และการศึกษากฎหมายมาระยะนึง ทำให้ นัน คิดได้ว่า เมฆ ยังไม่เซ็นเอกสารรับรองลูก เธอจึงยื่นข้อเสนอว่าเธอจะเซ็นใบหย่า แต่ เมฆ ต้องเซ็นเอกสารรับรองลูกให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน เมฆ อยากหย่าและรักลูก จึงยอมเซ็นเอกสารรับรองลูก อีกทั้ง นัน ยังเรียกร้องค่าเลี้ยงดูลูก เพราะ เมฆ ขโมยเงินเก็บของนันไป ทำให้นันต้องการเงินจากเมฆ มาเลี้ยงดูลูกตามกฎหมาย เมฆ ยอมทำตาม นัน จึงเซ็นใบหย่าให้เขา เพราะรู้ว่าหัวใจเขาไม่เหมือนเดิม นันขอค่าเลี้ยงดูลูกทุกเดือน ไม่ได้อยากได้เงิน แต่แค่อยากเหนี่ยวรั้งความสัมพันธ์เอาไว้ เพราะเธอกับลูกไม่ผิด

หลังจากการหย่าเรียบร้อย ปูน ก็กลับมาปรากฏตัว เพื่อเอารูปถ่ายวันแต่งงานของปูนกับเมฆ ที่จัดใหญ่โตในโรงแรมหรูกลางกรุงเทพฯ ให้นันดู ให้นันรู้ว่าความจริงแล้ว เมฆ หย่ากับ นัน เพื่อไปแต่งงานกับ ปูน นั่นเอง จากนี้เรื่องระหว่างนันกับเมฆจบแล้ว อย่าพยายามเอาลูกดึง เมฆ กลับมา เพราะอีกไม่นาน ปูน ก็จะมีลูกคนใหม่ให้ เมฆ นันโกรธแค้นและอยากลุกขึ้นอาละวาด แต่สิ่งที่เธอทำจริงๆ ก็คือ สงบนิ่ง และจมอยู่กับความแค้น สิ่งที่นันคิดก็คือ “ทำไมฉันต้องเป็นนางร้าย ในเมื่อฉันเป็นฝ่ายถูก ฉันโดนกระทำ ฉันควรเป็นนางเอก”

โดย นัน คิดว่าสังคมควรรู้ว่าผู้หญิงที่ทำตัวเป็นนางเอกอย่าง ปูน แท้จริงคือตัวร้าย! เธอไปสืบหาข้อมูลของปูน ตั้งใจอยากประจานให้โลกรู้ แต่นันกลับเปลี่ยนใจ เพราะถ้าทำอย่างนั้นเธอก็จะได้แค่ความสะใจ และเธอจะเป็นนางร้าย ตามระรานผู้หญิงคนใหม่ ในสายตาผู้ชาย เธอต้องเป็นนางเอก

นัน จึงเปลี่ยนมาตั้งใจเลี้ยงลูกอย่างดี ศึกษาการส่งออกส้มไปขายต่างประเทศ โดยปรึกษาเกษตรจังหวัดอย่างเป็นรูปธรรม นันต้องการทำให้ เมฆ เห็นว่าชีวิตเธอกำลังจะดีกว่าที่เขาคิด และเธอเริ่มเรียนรู้ศึกษาโซเชียล จนมีเฟซบุ๊กของตัวเอง และเป็นเฟรนด์กับ เมฆ เพื่อสืบหาเรื่องราวของเมฆกับปูน ที่โพสต์รูปอวดทุกเรื่องราวผ่านโซเชียลตลอดเวลา จากนั้นนันยังใช้การที่สามีต้องส่งเงินให้เธอและลูกทุกเดือน เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหารบกวนจิตใจที่ทำให้ผู้หญิงที่ได้สามีของคนอื่นไปอย่าง ปูน ต้องไม่สบายใจกับความหวาดระแวง

นัน โพสต์รูปลูก และเรื่องราวของลูกบนเฟซบุ๊ค เพราะรู้ว่าเมฆต้องเห็น และเมฆกดไล์ค์ ทำให้เธอมั่นใจว่าเขาติดตามชีวิตเธอกับลูกผ่านโซเชียลเช่นกัน

แล้วไม่นานนันก็เห็นรูปที่ ปูน Tag มาว่าอยู่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพเตรียมมีลูก ทำให้นันรู้ว่าปูนพยายามมีลูก แต่กรรมมีจริง ขนาดหาหมอ ปูนก็ยังมีลูกไม่ได้ นันจึงยิ่งส่งความน่ารักของลูกให้เมฆเห็น และเธอคิดว่า เมฆ ควรจะได้รับการรบกวนจิตใจจากการเห็นพัฒนาการของลูก แต่แตะต้องลูกไม่ได้

ปูน คงดูรูปชีวิต นัน ผ่านเฟซบุ๊กของ เมฆ และไม่ยอมแพ้ จึงหาความสุขอื่นมาทดแทนให้ เมฆ โดยการซื้อรถที่เขาอยากได้ และพากันไปเที่ยวพร้อมกับ TAG รูปมาบนหน้าเฟซบุ๊กของเมฆ เพื่อให้นันได้เห็น มันเป็นสงครามประสาทที่ผู้หญิงสองคนต่อสู้กัน

นัน ตัดสินใจพาลูกไปกรุงเทพฯ และพาไปแถวมหาวิทยาลัยที่ปูนสอน เพราะหวังจะดักเจอ เมฆ ให้ เมฆ ได้เห็นลูก แต่นันไม่เจอทั้งปูนและเมฆ โดยนันถามอาจารย์ในมหาวิทยาลัย จึงรู้ว่าปูนสอบชิงทุนเรียนต่อได้ที่ญี่ปุ่น เมฆจึงย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นกับปูน นันใจหายและกอดลูกร้องไห้อีกครั้ง เป็นการตอกย้ำว่า เมฆ ทิ้งเธอกับลูกจริงๆ

นัน พาลูกกลับบ้านสวน เมฆ โทรมาบอกว่าเขายังส่งเงินค่าเลี้ยงดูผ่านการโอนเหมือนเดิม เยื่อใยสุดท้ายของเมฆ ยิ่งทำให้นันเจ็บปวด ยิ่งมองเห็นลูกและสงสารลูก ทำให้เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจและยังอยากเห็นจุดจบของผู้หญิงที่ทำลายครอบครัวของเธอ และความรักในสามีที่เธอยังคงมีอยู่ เธอจึงหันหน้าเข้าวัด สวดมนต์ ตั้งจิต “อยากเห็นจุดจบของปูน” สิ่งที่ นัน ทำทุกอย่าง จึงตั้งใจทำความดี ทำสิ่งดีเพื่อตัวเอง เพื่อลูก และรอวันได้เห็นจุดจบของผู้หญิงที่แย่งสามีเธอ จุดจบของความรักที่มีแต่แรงแค้นนี้จะจบลงยังไง ติดตามชม

บทประพันธ์โดย : ธัญลักษณ์ จุลพงศ์
ควบคุมบทโทรทัศน์โดย : สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา
กำกับการแสดงโดย : ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์
ผลิตโดย : CHANGE 2561
อำนวยการผลิตโดย : สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย

นักแสดง
วิลลี่ แมคอินทอช รับบท เมฆ
พิม-ซอนย่า คูลลิ่ง รับบท นัน
เข็ม-ลภัสสรดา ช่วยเกื้อ รับบท ปูน