ละคร เด็กเจนแซ่บ TASTE 2568 ละครแนวดราม่าชีวิตวัยรุ่น เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นในยุคสมัยใหม่ที่หมกมุ่นกับการสร้างตัวตนและ “เทสต์” (รสนิยม) เพื่อยกระดับสถานะทางสังคมในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและความกดดันจากโซเชียลมีเดีย ซีรีส์นี้นำเสนอผ่านมุมมองของตัวละครหลัก “แบมบี้” เด็กสาวธรรมดาที่รู้สึกว่าตัวเองเป็น “เบี้ยล่าง” ในสังคมที่รายล้อมไปด้วยคนที่มีรสนิยมโดดเด่นและมีอิทธิพล เธอตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยการดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ “เทสต์” ที่สังคมยอมรับว่า “ใช่” และกลายเป็น “Someone” ที่มีตัวตน
จุดเริ่มต้น
แบมบี้ใช้ชีวิตธรรมดาๆ ท่ามกลางสังคมที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และรสนิยม เธอรู้สึกด้อยค่าและถูกกดทับโดยคนรอบข้างที่ดูเหมือนจะมี “เทสต์” ที่เหนือกว่า เธอจึงตัดสินใจพลิกเกมชีวิตด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้เข้ากับมาตรฐานของสังคม
การเปลี่ยนแปลง
การเดินทางของแบมบี้พาเธอเข้าสู่โลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เช่น โลกแฟชั่นและวงการโซเชียลมีเดีย เธอได้พบกับเพื่อนใหม่ ตัวละครที่มีสไตล์และบุคลิกที่หลากหลาย เช่น ดีเซล , เพียว , ดรีม , และ โตเกียว ซึ่งแต่ละคนมีบทบาทในการผลักดันหรือท้าทายการเปลี่ยนแปลงของเธอ
การไล่ล่าความสำเร็จและการยอมรับในสังคมทำให้แบมบี้ต้องเผชิญกับ “ราคาที่ต้องจ่าย” เธอต้องเผชิญหน้ากับด้านมืดในจิตใจของตัวเอง ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน และการตัดสินใจที่อาจเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล ซีรีส์ตั้งคำถามว่า การมี “เทสต์” ที่สมบูรณ์แบบนั้นคุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องแลกมาหรือไม่
แบมบี้ได้พบกับชายหนุ่มที่เธอรู้สึกถูกชะตา ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต แต่เส้นทางที่เธอเลือกไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เธอต้องต่อสู้กับอุปสรรคทั้งจากคนรอบข้างและภายในใจตัวเอง เพื่อรักษาความสัมพันธ์และเป้าหมายที่ตั้งไว้
ธีมหลักของละคร
→ การค้นหาตัวตน ซีรีส์สำรวจความกดดันของวัยรุ่นเจนใหม่ในการสร้างตัวตนในยุคโซเชียลมีเดีย ที่ทุกคนต่างแข่งขันเพื่อเป็นที่ยอมรับ
→ ราคาของความสำเร็จ การมีรสนิยมที่ดีหรือการเป็นคนดังในสังคมมักมาพร้อมกับการเสียสละ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ ความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง หรือศีลธรรม
→ ความสัมพันธ์และมิตรภาพ การเผชิญหน้ากับเพื่อนใหม่และคอนเนคชันในสังคมที่แตกต่าง ทำให้ตัวละครต้องเรียนรู้การจัดการกับความขัดแย้งและความรู้สึกของตัวเอง
ซีรีส์ได้รับการการันตีโดยทีมผู้สร้างจาก Hormones วัยว้าวุ่น นำโดยโปรดิวเซอร์ ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการเล่าเรื่องวัยรุ่นที่สมจริงและลึกซึ้ง การคัดเลือกนักแสดงจากผู้สมัครหลักพันคน เหลือเพียง 8 นักแสดงนำที่เหมาะสมกับบทบาท ทำให้ตัวละครมีความหลากหลายและมีเอกลักษณ์
การนำเสนอประเด็นร่วมสมัย เช่น การติดเกม, ความกดดันจากโซเชียลมีเดีย, และการค้นหาคุณค่าในตัวเอง ผ่านมุมมองของตัวละครที่หลากหลาย เช่น โตเกียว ที่สะท้อนปัญหาการรักตัวเอง และ ดีเซล ที่แสดงถึงชีวิตวัยรุ่นที่ดูสมบูรณ์แบบแต่มีความขัดแย้งภายใน
ซีรีส์ TASTE เด็กเจนแซ่บ นำเสนอเรื่องราวที่ทั้งแซ่บ สนุก และสะท้อนสังคมวัยรุ่นในยุคปัจจุบันได้อย่างคมคาย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวที่ผสมผสานดราม่า มิตรภาพ และการเติบโตของตัวละคร ต่อไปนี้คือเนื้อหาสำคัญของซีรีส์
“แบมบี้ หาหนทางในการมีเทสต์”
ในเมืองที่แสงสีของโซเชียลมีเดียสว่างไสวราวกับดวงดาวยามค่ำคืน แบมบี้ (มาเบล สุชาดา) เด็กสาวผู้มีชีวิตเรียบง่ายราวผืนผ้าใบที่ยังไร้สีสัน กลับรู้สึกเหมือนเงามืดท่ามกลางฝูงชนที่เปล่งประกายด้วย “เทสต์” หรือรสนิยมอันเจิดจรัส เธอเปรียบดั่ง เบี้ยล่าง ในเกมแห่งสังคมที่ทุกคนต่างแข่งขันกันด้วยภาพลักษณ์อันสมบูรณ์แบบ คำพูดกระซิบกระซาบจากโลกออนไลน์และสายตาที่มองเธอด้วยความเฉยชาดูเหมือนจะตอกย้ำว่า เธอคือคนที่ “ธรรมดาเกินไป”
ทว่าในส่วนลึกของหัวใจ แบมบี้ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา เธอจุดไฟแห่งความฝันขึ้นในอก และตัดสินใจก้าวออกจากกรอบของตัวเองเพื่อตามหา “เทสต์” ที่จะทำให้โลกยอมรับว่าเธอคือ “คนที่ใช่” ดั่งผีเสื้อที่เริ่มผลัดใบจากรังไหม แบมบี้มุ่งมั่นเปลี่ยนแปลงตัวเอง เริ่มจากการเลือกเสื้อผ้าที่สะท้อนตัวตนในแบบที่เธออยากเป็น การก้าวเข้าสู่แวดวงสังคมที่ไม่เคยสัมผัส และการทอสายใยแห่ง คอนเนคชัน ใหม่ๆ ที่อาจเป็นกุญแจสู่ประตูแห่งโอกาส
ในหนทางที่เต็มไปด้วยแสงและเงานี้ แบมบี้ได้พบกับตัวละครที่เข้ามาเติมสีสันให้ชีวิตของเธอราวตัวละครในนิยายที่มีชีวิต
• ดีเซล (ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน) ชายหนุ่มที่เหมือนมีออร่าของความสมบูรณ์แบบ แต่ซ่อนปริศนาไว้ในแววตา เขาเป็นทั้งแรงบันดาลใจและปมปริศนาที่แบมบี้ต้องเผชิญ
• เพียว (โทนี่ อันโทนี่) ผู้ที่มีความมั่นใจและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ ราวกับดวงดาวที่ส่องสว่างในยามที่ทุกคนจับตามอง
• ดรีม (ชาร์เลท วาศิตา) หญิงสาวที่เปี่ยมด้วยความฝันและพลัง ราวสายลมที่พัดพาแบมบี้ให้กล้าที่จะบิน
• โตเกียว (ปัณณวิชญ์ สิริเกียรติวาณิชย์) ผู้ที่เหมือนสะพานเชื่อมระหว่างโลกที่แบมบี้เคยรู้จักและโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย
แต่ละคนเปรียบเสมือนกระจกที่สะท้อนแง่มุมที่แตกต่างกันของชีวิตวัยรุ่นในยุคที่ทุกย่างก้าวถูกตัดสินด้วยสายตาของผู้อื่น การเดินทางของแบมบี้ในตอนนี้เปรียบดั่งบทแรกของนิยายที่เต็มไปด้วยความหวังและคำถาม เธอจะสามารถค้นพบ “เทสต์” ที่แท้จริงของตัวเองได้หรือไม่? หรือโลกที่เธอปรารถนาจะกลายเป็นเพียงภาพลวงตาที่นำพาเธอไปสู่เงามืดของจิตใจ
“เทสต์…ที่ต้องแลก”
ในโลกที่แสงสว่างของโซเชียลมีเดียฉายฉานราวกับตะวันยามเที่ยงวัน แบมบี้ (มาเบล สุชาดา) เด็กสาวผู้เคยเป็นเพียงเงาในมุมมืดของสังคม กำลังก้าวย่างสู่ดินแดนใหม่ที่ทั้งงดงามและโหดร้าย ราวกับนางเอกในนิยายที่เริ่มเขียนบทชีวิตของตัวเองใหม่ เธอใฝ่ฝันถึง “เทสต์” อันสมบูรณ์แบบ รสนิยมที่ไม่เพียงทำให้โลกมองเห็นเธอ แต่ทำให้เธอกลายเป็นดวงดาวที่ไม่มีใครมองข้าม
ทว่า หนทางสู่ความฝันนั้นมิใช่พรมแดงที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันเป็นเขาวงกตที่เต็มไปด้วยหนามแห่งการตัดสินใจและเงามืดแห่งการเสียสละ แบมบี้ต้องเผชิญหน้ากับ ความกดดัน จากสายตานับร้อยบนโลกออนไลน์ คำวิจารณ์ที่เหมือนลมหนาวที่พัดผ่าน และการแข่งขันที่ดุเดือดราวกับสนามรบที่ทุกคนต่างช่วงชิงตำแหน่งแห่งความเป็นหนึ่ง เธอต้องเลือกระหว่างการยอมจำนนต่อตัวตนเดิมที่เงียบงัน หรือการเสี่ยงทุกสิ่งเพื่อกลายเป็นคนที่สังคมยกย่องว่า “ใช่”
ในตอนนี้ ชีวิตของแบมบี้เปรียบดั่งผืนผ้าใบที่เริ่มมีสีสันจาก เพื่อนใหม่ และ ความสัมพันธ์ ที่ซับซ้อนราวเส้นด้ายที่พันกันยุ่งเหยิง ดีเซล (ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน) ยังคงเป็นปริศนาที่ทั้งดึงดูดและน่าสะพรึงกลัว ด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความลับบางอย่างไว้ เพียว (โทนี่ อันโทนี่) และ ดรีม (ชาร์เลท วาศิตา) นำพาความท้าทายและมิตรภาพที่ทั้งหวานชื่นและขมขื่น ส่วน โตเกียว (ปัณณวิชญ์ สิริเกียรติวาณิชย์) ราวกับกระจกที่สะท้อนความเปราะบางของตัวตนที่แบมบี้พยายามสร้าง
ท่ามกลางแสงสีของโลกใหม่นี้ ซีรีส์ได้ทอประเด็นอันหนักแน่นลงในเนื้อเรื่อง การยินยอม หรือ Consent/No Consent—ราวกับเป็นบทเรียนที่ถูกสลักลงในหัวใจของวัยรุ่นยุคใหม่ แบมบี้ต้องเผชิญหน้ากับคำถามที่ยากยิ่ง เธอจะยอมให้โลกกำหนดขอบเขตของตัวเอง หรือจะยืนหยัดปกป้องความเป็นตัวตนของเธอ? ทุกการตัดสินใจในความสัมพันธ์และการกระทำของเธอเหมือนการเดินบนเส้นลวดบางๆ ระหว่างความฝันและความจริง
“แบมบี้เข้าสู่โลกแฟชั่น”
ในเมืองที่ทุกสายตาจับจ้องไปยังความงามอันเลิศเลอและรสนิยมที่เจิดจรัส แบมบี้ (มาเบล สุชาดา) เด็กสาวผู้เคยเป็นเพียงเงาในมุมมืดของสังคม กำลังก้าวสู่ดินแดนใหม่ โลกแห่งแฟชั่นที่ทั้งเย้ายวนและเต็มไปด้วยแสงสว่างอันเจิดจ้า ราวกับนางเอกในนิยายที่ผลักประตูบานใหญ่เพื่อเผชิญหน้ากับโชคชะตา โลกนี้คือเป้าหมายที่เธอใฝ่ฝัน ที่ที่ “เทสต์” อันสมบูรณ์แบบจะเปลี่ยนเธอจากเด็กสาวธรรมดาให้กลายเป็นดวงดาวที่ทุกคนต้องแหงนมอง
ทว่า โลกแฟชั่นมิใช่เพียงผืนผ้าสีสันและแสงไฟระยิบระยับ มันเป็นเขาวงกตที่เต็มไปด้วยความคาดหวังและการตัดสินจากสายตานับพัน ในย่างก้าวแรกของการเดินทางนี้ แบมบี้ได้พบกับ คุณดวงตะวัน (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ดีไซเนอร์ชื่อดังผู้เปรียบดั่งแสงตะวันในยามที่เมฆหมอกแห่งความสับสนปกคลุมใจของเธอ คุณดวงตะวันไม่เพียงเป็นที่ปรึกษา แต่ยังเป็นกระจกเงาที่สะท้อนตัวตนที่แท้จริงของแบมบี้ ด้วยคำพูดที่เปี่ยมด้วยปัญญาและความเมตตา “อย่าปลอมในสิ่งที่ไม่ได้เป็น” ประโยคนี้ราวกับระฆังที่ดังก้องในใจของเด็กสาว ทำให้เธอเริ่มตั้งคำถามถึงหน้ากากที่เธอสวมใส่
ในห้วงขณะที่แบมบี้หมกมุ่นอยู่กับการรังสรรค์ภาพลักษณ์ใหม่ เสื้อผ้าที่ระยิบระยับ การแต่งหน้าที่ไร้ที่ติ และท่วงท่าที่สง่างาม ความสงสัยเริ่มก่อตัวขึ้นในจิตใจราวเงามืดที่คืบคลาน เธอกำลังสร้างตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง หรือเพียงแค่สวมบทบาทเพื่อให้เข้ากับโลกที่โหดร้ายนี้? ทุกย่างก้าวในโลกแฟชั่นเหมือนการเดินบนเส้นด้ายบางๆ ระหว่างความฝันและความจริง
ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของเธอกับ ดีเซล (ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน) เริ่มทอเป็นเส้นด้ายที่ทั้งงดงามและเปราะบาง เขาคือชายหนุ่มที่เหมือนมีทุกอย่าง รอยยิ้มที่มัดใจ สไตล์ที่สะกดทุกสายตา แต่ในแววตาของเขานั้นซ่อนปริศนาที่แบมบี้ยังไม่อาจหยั่งถึง ดีเซลกลายเป็นทั้งแรงผลักดันและบททดสอบในชีวิตของเธอ ราวกับเป็นตัวละครที่เข้ามาเขย่าหัวใจและความมุ่งมั่นของนางเอกอย่างไม่ทันตั้งตัว
ท่ามกลางผืนผ้าและแสงไฟของโลกแฟชั่น เพื่อนใหม่ของแบมบี้ เพียว (โทนี่ อันโทนี่), ดรีม (ชาร์เลท วาศิตา), และ โตเกียว (ปัณณวิชญ์ สิริเกียรติวาณิชย์) ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของภาพชีวิตที่กำลังถูกวาดขึ้น แต่ละคนเปรียบดั่งสีสันที่แตกต่างบนผืนผ้าใบของเธอ บางครั้งเป็นแรงบันดาลใจ บางครั้งเป็นกระจกที่สะท้อนข้อบกพร่องของตัวเอง
“ดีเซลและความรุนแรง”
ในเมืองที่แสงสว่างของโลกโซเชียลมีเดียฉายฉาน แต่เงามืดของจิตใจมนุษย์ยังคงซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบงัน แบมบี้ (มาเบล สุชาดา) เด็กสาวผู้กำลังต่อสู้เพื่อค้นหา “เทสต์” อันสมบูรณ์แบบในโลกที่ตัดสินกันด้วยภาพลักษณ์ กลับต้องเผชิญหน้ากับพายุที่รุนแรงกว่าที่เธอเคยจินตนาการ ในตอนนี้ เรื่องราวหันเหสู่ ดีเซล (ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน) ชายหนุ่มที่เปรียบดั่งดวงดาวเจิดจรัสในสายตาของทุกคน แต่เมื่อม่านแห่งความสมบูรณ์แบบถูกเปิดออก เขาคือปริศนาที่เต็มไปด้วยรอยร้าวและความขัดแย้งภายในราวกับกระจกที่แตกสลายแต่ยังคงสะท้อนแสงอันเจ็บปวด
ดีเซลคือจุดเปลี่ยนในชีวิตของแบมบี้ ดั่งลมพายุที่พัดเข้ามาโดยไร้คำเตือน เขาคือผู้ที่มีทุกอย่าง รอยยิ้มที่มัดใจ, สไตล์ที่สะกดทุกสายตา, และเสน่ห์ที่เหมือนจะควบคุมโลกได้ทั้งใบ แต่ภายใต้หน้ากากแห่งความสมบูรณ์แบบนั้น ซ่อนความโศกเศร้าและความโกรธที่รอวันระเบิด เรื่องราวในตอนนี้เปรียบดั่งนิยายที่เจาะลึกเข้าไปในหัวใจของเขา เผยให้เห็น “เมล็ดพันธุ์ที่พ่อแม่ปลูก” รากฐานของการเลี้ยงดูที่หล่อหลอมตัวตนของเขา ทว่าบางครั้ง เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นกลับบ่มเพาะเป็น “ผลไม้พิษ” ที่ไม่เพียงทำร้ายตัวเขาเอง แต่ยังแผ่อันตรายไปยังผู้คนรอบข้าง
แบมบี้ ซึ่งเคยมองดีเซลเป็นแรงบันดาลใจและสะพานสู่ความฝัน ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ทั้งรุนแรงและซับซ้อนราวกับพายุที่โหมกระหน่ำ เธอถูกดึงเข้าสู่ความสัมพันธ์ที่เหมือนด้ายบางๆ ที่พร้อมจะขาดสะบั้นทุกเมื่อ ความใกล้ชิดกับดีเซลกลายเป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคาม ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับคำถามที่หนักหน่วง: เธอจะยอมให้ตัวเองถูกพายุของเขาพัดพาไป หรือจะยืนหยัดเพื่อปกป้องหัวใจของตัวเอง?
ท่ามกลางความโกลาหลนี้ เรื่องราวได้ทอประเด็นอันลึกซึ้งลงในเนื้อผ้าแห่งนิยาย การเลี้ยงดูและผลกระทบของครอบครัว ที่หล่อหลอมพฤติกรรมของวัยรุ่น ดั่งเงาที่ทอดยาวจากอดีตสู่ปัจจุบัน ดีเซลคือตัวอย่างของเด็กหนุ่มที่ถูกกดดันจากรากเหง้าที่เขาไม่อาจหลีกหนี และผลกระทบนั้นไม่เพียงเปลี่ยนแปลงตัวเขา แต่ยังสั่นคลอนความสัมพันธ์ของเขากับแบมบี้และผู้คนรอบตัว ราวกับระลอกคลื่นที่กระเพื่อมออกไปในบึงแห่งชีวิต
ซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่เรื่องราวของวัยรุ่นที่ตามหา “เทสต์” หรือรสนิยม แต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์สังคมร่วมสมัยที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และการยอมรับผ่านโซเชียลมีเดีย ตัวละครอย่างแบมบี้ต้องเผชิญหน้ากับด้านมืดของตัวเองและสังคม รวมถึงประเด็นเช่น การยินยอม (Consent), การเลี้ยงดู, และการค้นหาคุณค่าในตัวเอง ต่อไปนี้คือ จุดเด่นของซีรีส์
บทละครที่สมจริงและคมคาย
ผู้วิจารณ์จากโพสต์บนโซเวียล ชื่นชมว่า TASTE เด็กเจนแซ่บ มีบทละครที่ “real” และประณีต โดยทุกตอนถูกออกแบบมาเพื่อส่งมอบประเด็นทางสังคมที่มีคุณค่า เช่น การยินยอม (Consent/No Consent), การเลี้ยงดูที่ส่งผลต่อพฤติกรรมวัยรุ่น และการรักตัวเอง ตัวอย่างเช่น ในตอนที่ แบมบี้ได้บทเรียนจาก คุณดวงตะวัน (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ว่า “อย่าปลอมในสิ่งที่ไม่ได้เป็น” ซึ่งช่วยให้เธอเริ่มตั้งคำถามถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
การแสดงที่ทรงพลัง
นักแสดงทั้ง 8 คน (มาเบล สุชาดา, ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน, ชาร์เลท วาศิตา, โทนี่ อันโทนี่, บูม สหรัฐ, โอเบย์ ปัณณวิชญ์, แซม พฤฒิชัย, นินน่า ญาณิน) ได้รับการคัดเลือกจากผู้สมัครนับพัน ทำให้ตัวละครมีความหลากหลายและสมจริง โดยเฉพาะ ภูวินทร์ ในบท ดีเซล ที่ได้รับคำชมจากโพสต์บนโซเซียล ว่าการแสดงในตอนที่ 4 มีความ “น่าทึ่ง” และสร้าง “impact” ด้วยฉากที่แสดงถึงความรุนแรงและความขัดแย้งภายใน
การสะท้อนสังคมวัยรุ่นยุคใหม่
ซีรีส์นี้ตีแผ่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวัยรุ่นเจนใหม่ได้อย่างถึงเครื่อง เช่น ความกดดันจากโซเชียลมีเดีย, การแข่งขันเพื่อสร้างตัวตน, และผลกระทบจากการเลี้ยงดู ตัวอย่างในตอนที่มีการวิเคราะห์ว่า “เมล็ดพันธุ์ที่พ่อแม่ปลูก” อาจนำไปสู่ “ผลไม้พิษ” ที่สร้างอันตรายต่อสังคม ซึ่งเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่ลึกซึ้ง
การผลิตที่มีคุณภาพ
การันตีโดยทีมผู้สร้าง Hormones วัยว้าวุ่น และการกำกับที่ผสมผสานมุมมองของผู้กำกับสองคน ทำให้ซีรีส์มีทั้งความสนุกและสาระ ฉากและการถ่ายทำถูกออกแบบอย่างประณีต โดยเฉพาะการใช้สัญญะในงานภาพและโปสเตอร์ที่สะท้อนตัวละครหลักอย่างแบมบี้
คะแนนรวม 8.5/10 (จาก sence9.com)
TASTE เด็กเจนแซ่บ เป็นซีรีส์ที่ผสมผสานความสนุก ความแซ่บ และสาระได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราววัยรุ่นที่สะท้อนสังคมยุคใหม่ ด้วยบทที่คมคาย การแสดงที่ทรงพลัง และการผลิตที่มีคุณภาพ ซีรีส์นี้สามารถดึงดูดผู้ชมทั้งในแง่ความบันเทิงและการตั้งคำถามถึงคุณค่าในตัวเอง ถึงแม้ว่าเรตติ้งทางโทรทัศน์จะไม่สูงมาก แต่กระแสในโซเชียลมีเดียและการตอบรับจากผู้ชมออนไลน์แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในแง่วัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมของผู้ชม
แนะนำสำหรับ
ผู้ที่ชื่นชอบซีรีส์วัยรุ่นแนว Hormones วัยว้าวุ่น หรือ The Underclass
ผู้ที่สนใจประเด็นสังคม เช่น โซเชียลมีเดีย, การค้นหาตัวตน, และความกดดันของวัยรุ่นZ
ผู้ที่ต้องการความบันเทิงที่ผสมผสานดราม่า มิตรภาพ และความแซ่บ
ตื่นเต้นและลุ้นตาม (Excited and Engaged)
ซีรีส์นี้ถูกโปรโมตว่า “แซ่บทะลุจอ” และจากโพสต์บนโซเซียลระบุว่าตอนที่ 1 และ 2 สร้างกระแสอย่างมาก ติดอันดับ 1 และ 3 บนโซเซียล Trends ด้วยยอดพูดถึง 265.5K ครั้งในตอนแรก ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นกับการเล่าเรื่องที่รวดเร็วและเข้มข้น โดยเฉพาะการเดินทางของ แบมบี้ ที่พยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้มี “เทสต์” ที่สังคมยอมรับ ฉากที่เกี่ยวข้องกับโลกแฟชั่นและโซเชียลมีเดียในตอนที่ 3 ทำให้ผู้ชมรู้สึกลุ้นว่าตัวละครจะพัฒนาไปในทิศทางใด
สะเทือนใจและสะท้อนตัวเอง (Emotional and Relatable)
ซีรีส์นี้ตีแผ่ประเด็นที่ใกล้ตัววัยรุ่น เช่น ความกดดันจากโซเชียลมีเดีย, การค้นหาคุณค่าในตัวเอง, และการเผชิญหน้ากับความขัดแย้งภายใน ตอนที่ 3 ที่แบมบี้ได้บทเรียนจาก คุณดวงตะวัน ว่า “อย่าปลอมในสิ่งที่ไม่ได้เป็น” ทำให้ผู้ชมบางคนรู้สึกสะท้อนใจ โดยเฉพาะคนที่เคยรู้สึกด้อยค่าในสังคมที่มีการเปรียบเทียบสูง นอกจากนี้ ตอนที่ 4 ซึ่งเน้นประเด็นความรุนแรงและผลกระทบจากการเลี้ยงดู (เปรียบเทียบเป็น “เมล็ดพันธุ์ที่พ่อแม่ปลูก” นำไปสู่ “ผลไม้พิษ”) ได้รับคำชมว่าสร้าง “impact” ที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและสะเทือนใจ
ทึ่งและชื่นชมการแสดง (Impressed)
การแสดงของนักแสดงนำ โดยเฉพาะ ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน (ดีเซล) และ มาเบล สุชาดา (แบมบี้) ได้รับคำชมอย่างมากจากผู้ชมบนโซเซียล โดยเฉพาะในตอนที่ภูวินทร์แสดงฉากที่มีความรุนแรงและความขัดแย้งภายในได้อย่าง “น่าทึ่ง” นักแสดงทั้ง 8 คนที่ถูกคัดเลือกจากผู้สมัครนับพัน ทำให้ตัวละครมีความสมจริงและหลากหลาย ผู้ชมรู้สึกประทับใจกับเคมีระหว่างตัวละคร เช่น ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างแบมบี้และดีเซล
รู้สึกได้สาระและข้อคิด (Thought-Provoking)
ซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่ยังนำเสนอประเด็นทางสังคมที่มีน้ำหนัก เช่น การยินยอม (Consent/No Consent) ในตอนที่ 2, การรักตัวเองผ่านตัวละครอย่าง โตเกียว, และผลกระทบจากการเลี้ยงดูในตอนที่ 4 ผู้ชมรู้สึกว่าซีรีส์นี้ให้มากกว่าความสนุก โดยกระตุ้นให้คิดถึงปัญหาในชีวิตจริง เช่น ความกดดันจากโซเชียลมีเดียและการพยายามเป็น “Someone” ในสายตาคนอื่น
แซ่บและสนุกจนหยุดดูไม่ได้ (Addictive and Spicy)
การโปรโมตว่า “แซ่บทะลุจอ” สอดคล้องกับความรู้สึกของผู้ชมที่พบว่าซีรีส์นี้มีดราม่าที่เข้มข้นและพล็อตที่ชวนติดตาม การผสมผสานระหว่างความสนุก, มิตรภาพ, และความขัดแย้งทำให้ผู้ชมรู้สึกอยากดูต่อไปเรื่อยๆ คลิปบางส่วนใน TikTok ได้รับยอดวิว 140.4K ครั้งใน 5 ชั่วโมง แสดงถึงความนิยมและการมีส่วนร่วมของผู้ชม
TASTE เด็กเจนแซ่บ จะพาผู้ชมตามไปกับการเดินทางของแบมบี้ที่พยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้มี “เทสต์” ที่สังคมยอมรับ ซีรีส์นี้ทำให้รู้สึกทั้งสนุก แซ่บ และสะเทือนใจในเวลาเดียวกัน ผ่านการเล่าเรื่องที่สมจริงและประเด็นที่เกี่ยวข้องกับวัยรุ่นยุคใหม่ เช่น ความกดดันจากโซเชียลมีเดียและการค้นหาคุณค่าในตัวเอง การแสดงที่ทรงพลัง โดยเฉพาะจากภูวินทร์และมาเบล ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและอยากเอาใจช่วยตัวละคร แม้ว่าจะมีข้อจำกัดเรื่องจำนวนตอนหรือเรตติ้งที่ไม่สูงนัก แต่กระแสในโซเชียลมีเดียและการตอบรับจากผู้ชมออนไลน์แสดงให้เห็นว่าซีรีส์นี้สามารถสร้างความประทับใจและจุดประกายการถกเถียงในประเด็นสำคัญได้ คุณสามารถรับชมย้อนหลังแบบ UNCUT ได้ทางแอป oneD
ละคร เด็กเจนแซ่บ TASTE 2568
ละคร เด็กเจนแซ่บ TASTE 2568 EP.1-4oneD
ซีน ละคร เด็กเจนแซ่บ TASTE 2568
ละคร เด็กเจนแซ่บ TASTE 2568
สมัยนี้ถ้าคุณไม่มี “Taste” หรือรสนิยมที่ปัง ๆ คุณอาจจะรู้สึกเหมือนเป็น Nobody ในสังคมที่ทุกคนพยายาม Shine ด้วยสไตล์ของตัวเอง
ซีรีส์ TASTE เด็กเจนแซ่บ เลยพาเราดำดิ่งสู่โลกของวัยรุ่นที่หมกมุ่นกับการสร้าง Identity และ Lifestyle ที่ทำให้คนอื่นต้อง Wow 😎 เรื่องนี้เล่าผ่าน แบมบี้ (รับบทโดย มาเบล สุชาดา) สาวน้อยธรรมดาที่รู้สึกว่าเธอคือ Underdog ในสังคมที่เต็มไปด้วยคนที่มี Taste สุดปัง แต่แบมบี้ไม่ได้ยอมแพ้ เธอตัดสินใจ Flip the Game และ Level Up ตัวเองเพื่อให้กลายเป็น Someone ที่ทุกคนต้องจับตามอง 👀
👉 Starting Point ชีวิตธรรมดาในโลกที่ไม่ธรรมดา
แบมบี้คือสาวน้อยที่ใช้ชีวิตแบบ Lowkey ในสังคมที่ทุกคนเหมือนมี Superpower เรื่องรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว การโพสต์ IG หรือการสร้าง Personal Brand ที่ทำให้คนอื่นต้องตะลึง 😲 เธอรู้สึกเหมือนเป็น เบี้ยล่าง ท่ามกลางเหล่า Influencers และคนที่ดูมี Class สุด ๆ แบมบี้เลยแบบ “Enough is Enough” เธอตัดสินใจ Transform ตัวเองเพื่อให้ได้ Taste ที่สังคมมองว่า “ใช่” 💅 เป้าหมายของเธอคือการก้าวขึ้นไปยืนใน Spotlight และเป็นที่ยอมรับในวงการที่ทุกคนอยากเข้า
👉 The Glow-Up Journey การเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อม Drama
การตัดสินใจครั้งนี้พาแบมบี้เข้าสู่โลกใหม่ที่เต็มไปด้วย New Friends, New Vibes, และ New Opportunities เธอได้เจอกับ Connections ที่อาจจะเป็น Game-Changer ในชีวิต เช่น เพื่อนใหม่ที่มีสไตล์สุดปังอย่าง ดีเซล (ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน), ดรีม (ชาร์เลท วาศิตา), เพียว (โทนี่ อันโทนี่), และ โตเกียว (ปัณณวิชญ์ สิริเกียรติวาณิชย์) แต่ละคนมี Character Arc ที่ทำให้เรื่องนี้มีสีสันสุด ๆ🌈
แต่เดี๋ยว การจะมี Taste ที่สมบูรณ์แบบมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น 😅 แบมบี้ต้องเจอกับ Challenges ที่ไม่เคยคาดคิด เช่น การก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่นที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน การสร้าง Image ที่ดูแพง และที่สำคัญคือการเผชิญหน้ากับ Dark Side ในจิตใจของตัวเอง 😱 เธอเริ่มสงสัยว่า “ฉันกำลังทำสิ่งนี้เพื่อตัวเองหรือเพื่อให้คนอื่นยอมรับ?” และที่หนักกว่านั้นคือ เธอต้อง Pay a Price เพื่อให้ได้ Lifestyle ที่ฝันถึง มันคุ้มมั้ย? อันนี้ต้องไปดูในซีรีส์เองนะ 👀
ซีรีส์นี้ไม่ได้แค่ให้ความบันเทิงแบบ Spicy Drama เท่านั้น แต่ยัง Throw Shade ใส่สังคมที่หมกมุ่นกับ Image และ Social Status มันทำให้เราคิดว่า การที่เราพยายามเป็น Icon หรือมี Taste ที่ปัง ๆ นั้น มันอาจจะทำให้เราสูญเสีย Authenticity หรือความเป็นตัวเองไปรึเปล่า? 🤔 และนี่คือสิ่งที่ทำให้ TASTE เด็กเจนแซ่บ แตกต่างจากซีรีส์วัยรุ่นทั่วไป เพราะมัน Deep และ Relatable สุด ๆ
นักแสดงในเรื่องนี้คือ Next Level จริง ๆ มาเบล ในบทแบมบี้คือตัวแทนของสาว ๆ ที่อยาก Glow Up ส่วน ภูวินทร์ ในบทดีเซลคือหนุ่มที่ดู Perfect แต่มี Inner Conflict ที่ทำให้คนดูต้องร้อง “ว้าว” 😮 นอกจากนี้ยังมี ชาร์เลท, โทนี่, และคนอื่น ๆ ที่เพิ่ม Flavor ให้เรื่องนี้แซ่บยิ่งขึ้น ทีมแคสติ้งเค้าคัดจากผู้สมัครนับพันคนเลยนะ บอกเลยว่า On Point ทุกคน
ทุกตอนคือ Rollercoaster ของอารมณ์ ตั้งแต่ฉากที่แบมบี้พยายาม Fit In กับสังคมใหม่ ไปจนถึงฉาก Emotional ที่ทำให้เราน้ำตาซึม 😢
ถ้าคุณดู TASTE เด็กเจนแซ่บ คุณจะรู้สึกทั้ง Fun, Drama, และ Real Talk ที่ทำให้คุณต้องหยุดคิด คุณจะ Root สำหรับแบมบี้ที่พยายาม Slay ในโลกที่โหดร้าย และอาจจะร้องไห้ไปกับปมของตัวละครอย่างดีเซล 😭 ซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่ Entertainment แต่ยังเป็น Mirror ที่สะท้อนชีวิตวัยรุ่นยุคนี้ได้แบบ Spot On
ถ้าคุณพร้อมจะ Dive เข้าไปในโลกของ Taste และ Drama แล้ว ไปดูเลยที่ ช่องวัน 31 หรือสตรีมย้อนหลังแบบ UNCUT ได้ที่ แอป oneD 📺 และอย่าลืมบอกด้วยนะว่าคุณ Stan ตัวละครไหน และตอนไหนที่ทำให้คุณ Screaming 😍
งานสร้าง The Big Reveal at ปรากฏการณ์ one สนั่นจอ 2025 LINEUP
TASTE เด็กเจนแซ่บ ถูกเปิดตัวครั้งแรกในงาน “ปรากฏการณ์ one สนั่นจอ 2025 LINEUP” ที่ เมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 🥳 งานนี้จัดโดย ช่องวัน 31 เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปี และโชว์ Lineup คอนเทนต์สุดปังสำหรับปี 2025 งานนี้มาใน Concept ที่ว่า “The Limitless one Above & Beyond” ซึ่งบอกเลยว่า Vibes มันยิ่งใหญ่สมชื่อ TASTE ถูกนำเสนอในฐานะ oneD Original ที่จะฉีกทุกกฎของวงการบันเทิงไทย 😎
👉 Two Years in the Making ใช้เวลาสร้าง 2 ปี
พี่ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร บอสใหญ่แห่งการผลิต บอกในงานว่าโปรเจกต์นี้ใช้เวลาเตรียมงานถึง 2 ปี 😲 แบบนี้มันไม่ใช่แค่ซีรีส์ธรรมดานะทุกคน แต่เป็น Passion Project ที่ทีมงานทุ่มสุดตัว ตั้งแต่การเขียนบท, การออกแบบตัวละคร, ไปจนถึงการสร้าง World ที่สะท้อนชีวิตวัยรุ่นยุคนี้ ทุกอย่างคือ Meticulous และ On Point
👉 Casting Process From Thousands to Eight การคัดนักแสดง กว่า 1000 คน เหลือ 8 คน
และที่ Mind-Blowing กว่านั้นคือ กระบวนการคัดเลือกนักแสดง ออม-อธิศ อาสนจินดา หนึ่งในทีมคัดเลือกนักแสดง โพสต์ผ่าน Social Media ว่าโปรเจกต์นี้มีคนสมัครเข้ามาคัดเลือก หลักพันคน 😱 แต่สุดท้ายคัดจนเหลือแค่ 8 นักแสดงนำ ที่ Perfect Fit กับบทบาท นั่นคือ มาเบล สุชาดา (แบมบี้), ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน (ดีเซล), ชาร์เลท วาศิตา (ดรีม), โทนี่ อันโทนี่ (เพียว), สหรัฐ เทียมปาน (หม่อง), ปัณณวิชญ์ สิริเกียรติวาณิชย์ (โตเกียว), พฤฒิชัย รวยฟูพันธ์ (น้ำแข็ง), และ ญาณิน โอภาสสถาวร (ลูกจัน) บอกเลยว่า Cast นี้คือ Elite Squad ที่ทำให้เรื่องนี้มี Chemistry สุดปัง
กำกับการแสดงโดย : เอิง นฤกร นทกุล และ ตั๋ง พนิช พงษ์พานิช
บทละครโทรทัศน์ กรกวิน เชษฐพยัคฆ์ ,นฤกร นทกุล ,พนิช พงษ์พานิช
ผู้จัดละคร ถกลเกียรติ วีรวรรณ , นิพนธ์ ผิวเณร
โปรดิวเซอร์ควบคุมงานสร้างโดย : ปิง เกรียงไกร วชิรธรรมพร
บริษัทผู้ผลิต เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ , ทาดา เอ็นเทอร์เทนเมนท์ , ห้าคูณหกเฮาส์
เบื้องหลังความปังของ TASTE เด็กเจนแซ่บ 2568 กันแบบจัดเต็ม ถ้าคุณอยากรู้ว่าโปรเจกต์นี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง ทีมงานสุดยอดขนาดไหน และทำไมถึงกลายเป็นซีรีส์ที่ทุกคนพูดถึง ไปดูกันว่าเบื้องหลังความสำเร็จของ TASTE มีอะไรบ้าง
เราจะพาไปส่องเบื้องหลังของซีรีส์ที่มาแรงสุด ๆ อย่าง TASTE เด็กเจนแซ่บ งานนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ นะ เพราะทีมงานที่อยู่เบื้องหลังคือระดับ ตัวพ่อตัวแม่ ของวงการบันเทิงไทยเลย 😲 มาดูกันว่าใครเป็นใคร และแต่ละคนมีส่วนทำให้ซีรีส์นี้แซ่บทะลุจอได้ยังไง

1. ผู้กำกับ เอิง-นฤกร นทกุล และ ตั๋ง-พนิช พงษ์พานิช – คู่หูสายวัยรุ่น
เริ่มที่ ผู้กำกับ กันก่อนเลย TASTE เด็กเจนแซ่บ ได้สองผู้กำกับสุดเจ๋งมานำทีมคือ พี่เอิง-นฤกร นทกุล และ พี่ตั๋ง-พนิช พงษ์พานิช 😍 ทั้งสองคนนี้คือมือทองที่เข้าใจหัวใจวัยรุ่นสุด ๆ เพราะเคยฝากผลงานในโปรเจกต์ดัง ๆ มาแล้ว โดยเฉพาะงานที่เล่าถึงชีวิตวัยรุ่นแบบสมจริง

→ พี่เอิง เค้าขึ้นชื่อเรื่องการกำกับที่เก็บรายละเอียดทุกอารมณ์ของตัวละคร ทำให้คนดูรู้สึก อิน ไปกับทุกฉาก ไม่ว่าจะเป็นฉากดราม่าน้ำตาแตก หรือฉากแซ่บ ๆ ที่ทำให้ใจเต้น 💔
→ พี่ตั๋ง มากับสไตล์ที่ทันสมัยและมีพลัง ฉากแฟชั่นในตอนที่ 3 หรือฉากที่ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับความขัดแย้งในตอนที่ 4 นี่คือฝีมือพี่ตั๋งที่ทำให้ทุกอย่างดู ปัง และ ทรงพลัง
คู่หูนี้ทำงานกันแบบ เคมีลงตัว ทำให้ TASTE มีทั้งความสนุก ความลึกซึ้ง และความแซ่บที่กลมกล่อม เรียกว่าเป็น สูตรสำเร็จ ที่ทำให้คนดูติดหนึบเลย 😜
2. บทละคร กรกวิน เชษฐพยัคฆ์, นฤกร นทกุล, พนิช พงษ์พานิช – บทที่แซ่บและจริง
ต่อมาที่ บทละคร ซึ่งเป็นหัวใจของซีรีส์เลย งานนี้ได้สามนักเขียนสุดยอดคือ กรกวิน เชษฐพยัคฆ์, พี่เอิง-นฤกร นทกุล (ที่กำกับด้วย), และ พี่ตั๋ง-พนิช พงษ์พานิช (กำกับและเขียนบทด้วย) 😲 ทีมเขียนบทชุดนี้คือ สุดยอด เพราะเค้าสร้างเรื่องราวที่ทั้ง สนุก และ สะท้อนสังคม ได้แบบลงตัว
→ กรกวิน นักเขียนหน้าใหม่ที่มาพร้อมไอเดียสดใหม่ ทำให้เรื่องราวของ แบมบี้ และเพื่อน ๆ มีความ ทันสมัย และพูดถึงประเด็นที่วัยรุ่นเจอจริง ๆ เช่น ความกดดันจากโซเชียลมีเดีย หรือการค้นหาตัวตน
→ พี่เอิง และ พี่ตั๋ง ใส่ประสบการณ์จากงานกำกับลงไปในบท ทำให้ทุกฉากมี มิติ และ อารมณ์ ที่ถึงใจคนดู เช่น บทสนทนาของ คุณดวงตะวัน ในตอนที่ 3 ที่บอกว่า “อย่าปลอมในสิ่งที่ไม่ได้เป็น” หรือฉากดราม่าหนัก ๆ ในตอนที่ 4 ที่พูดถึงปมครอบครัวและความรุนแรง
บทของ TASTE ถูกยกย่องในโซเชียลว่าสมจริงและมี ข้อคิด ที่ทำให้คนดูต้องนั่งทบทวนชีวิต แบบนี้แหละที่เรียกว่า บทคุณภาพ 👏
3. ผู้จัดละคร ถกลเกียรติ วีรวรรณ และ นิพนธ์ ผิวเณร – ตำนานวงการทีวี

มาถึง ผู้จัดละคร ที่เป็นเหมือน เสาหลัก ของโปรเจกต์นี้ พี่ถกลเกียรติ วีรวรรณ และ พี่นิพนธ์ ผิวเณร จาก เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ คือคนที่ทำให้ TASTE เกิดขึ้นมาได้ 😎 ทั้งสองคนนี้คือตำนานของวงการทีวีไทยเลยนะ
→ พี่ถกลเกียรติ คือคนที่อยู่เบื้องหลังละครและรายการดัง ๆ มานับไม่ถ้วน เค้ารู้วิธีทำให้โปรเจกต์ใหญ่ ๆ ปังและเข้าถึงคนดูทุกวัย

→ พี่นิพนธ์ ก็เป็นมือฉมังที่ช่วยควบคุมทิศทางให้ทุกอย่างเป๊ะปัง การที่ทั้งสองคนมาร่วมงานกันใน TASTE ทำให้โปรเจกต์นี้มี ความน่าเชื่อถือ และ คุณภาพ ที่การันตีได้เลย
4. โปรดิวเซอร์ ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร – หัวใจของความแซ่บ
หัวเรือใหญ่ที่ควบคุมงานทั้งหมดคือ พี่ปิง-เกรียงไกร วชิรธรรมพร 😍 พี่ปิงคือโปรดิวเซอร์ที่ทุกคนในวงการรู้จัก เพราะเค้าคือคนที่อยู่เบื้องหลัง Hormones วัยว้าวุ่น งานนี้พี่ปิงบอกในงานเปิดตัวว่า TASTE ใช้เวลาเตรียมงานถึง 2 ปี 😲 ตั้งแต่การพัฒนาเรื่องราว การออกแบบตัวละคร ไปจนถึงการคัดเลือกนักแสดง ทุกอย่างผ่านการ ขัดเกลา มาอย่างดีเพื่อให้ได้ซีรีส์ที่ สมบูรณ์แบบ

พี่ปิงยังบอกว่า TASTE ไม่ใช่แค่เรื่องราวของวัยรุ่นที่อยากมีรสนิยมปัง ๆ แต่เป็นการตั้งคำถามถึง คุณค่า และ ราคาที่ต้องจ่าย เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ด้วยวิสัยทัศน์ของพี่ปิง ซีรีส์นี้เลยมีทั้ง ความสนุก และ สาระ ที่ทำให้คนดูต้องร้องว้าว 🙌
5. บริษัทผู้ผลิต เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์, ทาดา เอ็นเทอร์เทนเมนท์, ห้าคูณหกเฮาส์
ปิดท้ายด้วย บริษัทผู้ผลิต ที่เป็นเหมือน พลังขับเคลื่อน ของโปรเจกต์นี้ TASTE เด็กเจนแซ่บ เกิดจากความร่วมมือของสามยักษ์ใหญ่ในวงการ
→ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัทที่อยู่เบื้องหลังละครและรายการดัง ๆ ของช่องวัน 31 งานนี้เค้ามาเพื่อยกระดับ oneD Original ให้เป็นที่จดจำ
→ ทาดา เอ็นเทอร์เทนเมนท์ ทีมที่เชี่ยวชาญเรื่องคอนเทนต์วัยรุ่น ช่วยให้ TASTE มีความสดใหม่และเข้าถึง Gen Z ได้แบบสุด ๆ
→ ห้าคูณหกเฮาส์ ทีมงานที่ช่วยเติมความ ครีเอทีฟ และ สไตล์ ให้ซีรีส์นี้มี เอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร
ทั้งสามบริษัทนี้รวมพลังกันทำให้ TASTE มี Production Value ที่ปังสมชื่อ ตั้งแต่งานภาพ ดนตรี ไปจนถึงฉากแฟชั่นที่สวยจนต้องกรี๊ด 😍
TASTE เด็กเจนแซ่บ ไม่ได้แค่เป็นซีรีส์วัยรุ่นธรรมดา แต่เป็น ผลงานชิ้นโบแดง ที่ทีมงานทุ่มเทสุดตัว จากการกำกับของ พี่เอิง และ พี่ตั๋ง ที่ทำให้ทุกฉากมีพลัง บทละครจาก กรกวิน, พี่เอิง, และ พี่ตั๋ง ที่ทั้งแซ่บและลึกซึ้ง การควบคุมโดย พี่ถกลเกียรติ, พี่นิพนธ์, และ พี่ปิง ที่การันตีคุณภาพ และการรวมพลังของ เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์, ทาดา เอ็นเทอร์เทนเมนท์, และ ห้าคูณหกเฮาส์ ทำให้ TASTE เป็นซีรีส์ที่ทั้ง สนุก และ มีสาระ 😍
นักแสดง
→ สุชาดา สอนพันธ์ รับบท แบมบี้

สาวน้อยผู้ตามหา “เทสต์” สุดปัง
แบมบี้ คือตัวละครหลักของ TASTE เด็กเจนแซ่บ ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของวัยรุ่น Gen Z ที่รู้สึกว่า “ตัวเองไม่ปังพอ” ในโลกที่ทุกคนหมกมุ่นกับ ภาพลักษณ์ และ รสนิยม 😢 เธอเริ่มต้นในฐานะสาวน้อยธรรมดา ๆ ที่รู้สึกเหมือนเป็น เบี้ยล่าง ในสังคมที่เต็มไปด้วยคนที่มี สไตล์ และ ออร่า สุดเจิดจ้า แต่แบมบี้ไม่ยอมแพ้ เธอตัดสินใจ พลิกเกม เพื่อ Glow Up ตัวเองให้กลายเป็นสาวที่มี “เทสต์” ที่ทุกคนต้องยอมรับ 💅
คาแร็คเตอร์ในละคร
แบมบี้เป็นเด็กสาวที่เต็มไปด้วย ความฝัน และ ความพยายาม เธอพยายามเปลี่ยนตัวเองผ่านการแต่งตัว, การเข้าสังคม, และการสร้าง คอนเนคชัน ใหม่ ๆ เพื่อให้เข้ากับโลกแฟชั่นและโซเชียลมีเดีย แต่ที่ทำให้เธอ Relatable สุด ๆ คือการที่เธอต้องเผชิญหน้ากับ ความกดดัน จากสังคมและ ความสงสัยในตัวเอง ว่า “ฉันกำลังทำเพื่อตัวเองจริง ๆ หรือแค่เพื่อให้คนอื่นยอมรับ?” 😓
ตลอดทั้งเรื่อง แบมบี้ต้องเจอกับ ดราม่า และ บททดสอบ ที่ทำให้เธอเติบโต เช่น การเผชิญหน้ากับ ดีเซล (ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน) ที่เป็นทั้งแรงบันดาลใจและจุดเปลี่ยนในชีวิตของเธอ ตัวละครนี้มีความ ลึกซึ้ง และสะท้อนชีวิตวัยรุ่นที่ต้องต่อสู้เพื่อหา ตัวตน ในโลกที่ตัดสินกันด้วยภาพลักษณ์ 🌟
ฉายาเด็ด “สาวน้อย Glow Up” ✨
เพราะแบมบี้คือตัวแทนของคนที่กล้าลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเอง จากสาวธรรมดาให้กลายเป็นสาวที่มี สไตล์ และ ความมั่นใจ แม้ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ฉายานี้มาจากการที่เธอพยายาม อัปเกรด ตัวเองในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นหรือการเข้าสังคม เพื่อให้ได้ “เทสต์” ที่ปังสุด ๆ
ข้อคิดจากแบมบี้ “อย่าปลอมในสิ่งที่ไม่ได้เป็น”
หนึ่งใน บทเรียนสุดลึกซึ้ง ที่แบมบี้ได้เรียนรู้ (และเราคนดูก็ได้ซึมซับไปด้วย) คือคำสอนจาก คุณดวงตะวัน (ศิรพันธ์ วัฒนจินดา) ในตอนที่บอกว่า “อย่าปลอมในสิ่งที่ไม่ได้เป็น” 🧠 ข้อคิดนี้คือ Real Talk ที่ตีแผ่ชีวิตวัยรุ่นยุคนี้เลย แบมบี้เริ่มต้นด้วยการพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับ มาตรฐาน ของสังคม เช่น การแต่งตัวให้ดูแพงหรือการพยายาม Fit In กับกลุ่มคนที่มี รสนิยม สูง แต่ยิ่งเธอพยายาม เธอก็ยิ่งพบว่า การเป็นตัวเอง สำคัญกว่าการพยายามเป็นคนที่สังคมอยากให้เป็น 😌
ข้อคิดนี้ทำให้เราต้องหยุดคิดว่า บางครั้งการที่เราพยายาม ตามกระแส หรือสร้าง ภาพลักษณ์ เพื่อให้คนอื่นยอมรับ อาจทำให้เราสูญเสีย ตัวตนที่แท้จริง ไป แบมบี้สอนเราว่า การค้นหา “เทสต์” ที่แท้จริงคือการยอมรับตัวเอง และกล้าที่จะ แตกต่าง โดยไม่ต้องกลัวสายตาคนอื่น 💪
ทำไมแบมบี้ถึงเป็นตัวละครที่ต้องจับตา
การแสดงของมาเบล สุชาดา สอนพันธ์ หรือ มาเบล (ที่รู้จักในวงการว่า Mabelz จากวง PiXXiE และมีฉายาว่า มิ้นท์) นำพาคาแร็คเตอร์ของแบมบี้มาโลดแล่นได้แบบ สมจริง เธอถ่ายทอดความ เปราะบาง และ ความมุ่งมั่น ของแบมบี้ได้แบบที่คนดูต้อง Root ให้เธอตลอดทั้งเรื่อง แฟน ๆ บนโซเชียลบอกว่า “มาเบลเล่นเป็นแบมบี้ได้เหมือนจริงมาก รู้สึกถึงความพยายามและความสับสนในตัวละครเลย” 😍
แบมบี้คือตัวแทนของวัยรุ่นที่รู้สึกว่า “ฉันยังไม่ดีพอ” ซึ่งเป็นความรู้สึกที่หลายคนเคยเจอ การที่เธอพยายามเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับสังคมคือสิ่งที่ทำให้คนดู อิน และอยากเอาใจช่วย
อันโทนี่ บุยเซอเรท์ รับบท เพียว
ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา รับบท ดรีม
ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน รับบท ดีเซล
สหรัฐ เทียมปาน รับบท หม่อง
ปัณณวิชญ์ สิริเกียรติวาณิชย์ รับบท โตเกียว
พฤฒิชัย รวยฟูพันธ์ รับบท น้ำแข็ง
ญาณิน โอภาสสถาวร รับบท ลูกจัน
วฤณ ตรีนุภาพ รับบท เจย์
ศิรพันธ์ วัฒนจินดา รับบท คุณดวงตะวัน
ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์ รับบท คุณธารา
อภิวิชญ์ เรียร์ดอน รับบท เนม
ปริยา วงษ์ระเบียบ รับบท แม่แบมบี้
ทศพล ศิริวิวัฒน์ รับบท พ่อแบมบี้
ด.ญ. ปุณณิตา บุตตโคตร รับบท แบมบี้ (เด็ก)
ญาณัษมา ธานิฏฐ์ รับบท พี่แตง
วิศรุจณ์ จันทจร รับบท กันเนอร์
กรินทร์ อ่องชุ่ม รับบท ตูนเอลี่
ญาทิชาพัฒน์ หาญเบญจพงศ์ รับบท พี่ปิ่น
กัญญาวีร์ สองเมือง รับบท คิมิยา อิสราณี