ละคร ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery 2568 ละครแนวคอมเมดี้ลึกลับแฟนตาซี ปาร์ตี้เมามายที่กลายเป็นคดีฆาตกรรม เรื่องราวของ ฆาตกรรมจำไม่ได้ เริ่มต้นจากปาร์ตี้สุดคึกคักของกลุ่มเพื่อนที่เต็มไปด้วยเครื่องดื่มและความสนุกสนาน แต่เมื่อตื่นเช้ามา ทุกอย่างกลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อพบศพของ “แบม” สาวปาร์ตี้ตัวแม่ที่เสียชีวิตอย่างปริศนาในสถานที่จัดงาน ปัญหาคือไม่มีใครในกลุ่มจำได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนก่อน ทุกคนเมาหนักจนความทรงจำเลือนรางราวกับถูกหมอกบดบัง สิ่งที่ดูเหมือนอุบัติเหตุในตอนแรกกลับกลายเป็นคดีฆาตกรรม เมื่อเบาะแสชี้ว่ามีคนวางแผนสังหารแบมอย่างจงใจ กลุ่มเพื่อนต้องรวมตัวกันเพื่อสืบหาความจริง ท่ามกลางความโกลาหลและความลับที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผย
จุดหักมุมของเรื่องคือการปรากฏตัวของวิญญาณแบม ผีสาวที่ยังคง “เมาแฮงค์” และจำไม่ได้ว่าตัวเองตายได้อย่างไร เธอไม่ใช่ผีที่น่ากลัว แต่เป็นผีสายปาร์ตี้ที่ยังคงร่าเริงและป่วนไม่เลิก วิญญาณของแบมขอความช่วยเหลือจาก “ผิง” ร่างทรงสาวที่กลัวผีสุดขีด แต่มีพลังพิเศษในการมองเห็นและสื่อสารกับวิญญาณได้ ผิงต้องกลั้นใจนำทีมสืบสวนที่เต็มไปด้วยความวายป่วง เพื่อช่วยแบมค้นหาความจริงก่อนที่วิญญาณของเธอจะติดอยู่ในภพนี้ตลอดกาล
ตัวละครหลักและเคมีสุดลงตัว
ผิง (อิงฟ้า วราหะ): ร่างทรงสาวที่มีความสามารถพิเศษในการมองเห็นผี แต่กลัวผีจนตัวสั่น เธอถูกดึงเข้าสู่คดีนี้โดยไม่เต็มใจ แต่กลายเป็นหัวใจของทีมสืบสวน ด้วยความน่ารักและความกล้าแบบไม่เต็มร้อย ผิงสร้างโมเมนต์ทั้งฮาและน่าลุ้นให้ผู้ชม
แบม (ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์): ผีสาวปาร์ตี้ที่ยังคงนิสัยร่าเริงและเมาค้าง แม้จะตายไปแล้ว เธอเป็นตัวละครที่นำความสนุกและความโกลาหลมาสู่เรื่อง ด้วยการป่วนเพื่อนๆ และพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ตัวเองเสียชีวิต
ปีย์ (ภรภัทร ศรีขจรเดชา): หนุ่มหล่อลึกลับในกลุ่มเพื่อนที่มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ เขาเป็นตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับปริศนา
แดน (รชตะ หัมพานนท์): สมาชิกกลุ่มที่ปากร้ายแต่ใจดี มักสร้างสีสันด้วยการแซวเพื่อนและทะเลาะเบาะแว้งในทีม
เต้อ (ศรัณย์ นราประเสริฐกุล): หนุ่มสายตลกที่มักทำสถานการณ์ยิ่งวุ่นวาย แต่ก็มีส่วนช่วยในการสืบสวนด้วยมุมมองที่ไม่เหมือนใคร
จ๊อก (ชลวิทย์ มีทองคำ): เพื่อนในกลุ่มที่ดูเหมือนจะรู้มากกว่าที่พูดออกมา เพิ่มความสงสัยให้กับพล็อต
ดุ๋ง (สุภทัต โอภาส): ตัวละครที่เพิ่มความสนุกด้วยความเปิ่นและมุกตลกแบบไม่ยั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครถูกถักทอผ่านปาร์ตี้ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่อง โดยแต่ละคนมีปมและความลับที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผย ไม่ว่าจะเป็นความหึงหวง ความแค้น หรืออดีตที่ซ่อนไว้ การสืบสวนจึงเต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมและความขัดแย้งที่ผสมผสานกับมุกตลก เช่น ฉากที่ผิงต้องแกล้งเมาเพื่อล้วงความลับ หรือการที่วิญญาณแบมโผล่มาในจังหวะที่ไม่ควร ทำให้เกิดโมเมนต์ฮาๆ คั่นระหว่างความตึงเครียด
ฆาตกรรมจำไม่ได้ ไม่เพียงแค่เล่าเรื่องคดีฆาตกรรม แต่สำรวจแนวคิดเรื่อง “ความทรงจำที่หายไป” ผ่านมุมมองของความเมาและความสับสน ตัวละครต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่อาจถูกซ่อนอยู่ในส่วนที่พวกเขาจำไม่ได้ ต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องสำคัญของละคร
ปาร์ตี้วันเกิดที่กลายเป็นฝันร้าย
ค่ำคืนที่รีสอร์ทหรูแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เต็มไปด้วยแสงสีและเสียงเพลง แบม สาวสวยปาร์ตี้ตัวยง จัดงานวันเกิดสุดยิ่งใหญ่ ชวนเพื่อนสนิทอย่าง ปีย์, แดน, เต้อ, จ๊อก และดุ๋ง มาร่วมฉลอง เครื่องดื่มไหลมาเทมา ทุกคนเมามายจนโลกหมุน แต่เมื่อแสงแรกของเช้าสาดส่อง ทุกคนตื่นมาพบศพของแบม นอนนิ่งอยู่ในสระน้ำของรีสอร์ท สาเหตุการตาย? พิษจากแอลกอฮอล์ผสมยาลึกลับ ปัญหาคือไม่มีใครจำได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน! ความทรงจำของทุกคนพร่าเลือนราวกับถูกหมอกบดบัง ผิง ร่างทรงสาวที่กลัวผีสุดขีดแต่ถูกชวนมาร่วมงานเพราะเป็นเพื่อนเก่าของแบม ดันเห็นวิญญาณของแบมโผล่มาหา วิญญาณนี้ไม่น่ากลัว แต่เมาค้างหนักและจำไม่ได้ว่าตัวเองตายยังไง แบมขอให้ผิงช่วยสืบหาความจริงเพื่อให้วิญญาณได้ไปสู่ภพภูมิ ตำรวจมาถึง และทุกคนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยทันที
ความทรงจำที่หายไป
กลุ่มเพื่อนตัดสินใจสืบคดีด้วยตัวเอง ผิงจำใจเป็นผู้นำ แม้จะกรี๊ดทุกครั้งที่วิญญาณแบมโผล่มาด้วยหน้าตาเมาๆ และท่าทางป่วนๆ ผิงแกล้งเมาเพื่อล้วงข้อมูลจากแดนและเต้อ ซึ่งทะเลาะกันเรื่องอดีตความรักที่ทั้งคู่เคยมีกับแบม แฟลชแบ็คเผยว่า ปีย์เคยสารภาพรักกับแบมแต่ถูกปฏิเสธอย่างเย็นชา จ๊อกถูกจับได้ว่าแอบซ่อนขวดยาที่อาจเป็นพิษ วิญญาณแบมนึกย้อนได้เล็กน้อยว่าเห็นเงาคนแอบใส่ยาในแก้วของเธอ แต่หน้าไม่ชัด ผิงเกือบถอนตัวเพราะกลัวผี แต่แบม “หลอก” ด้วยการโผล่มาทำท่าตลกจนผิงต้องยอมสืบต่อ ค้นพบวีดีโอปาร์ตี้ที่ถูกตัดต่อบางส่วน กลายเป็นเงื่อนงำแรกที่ชี้ว่ามีคนจงใจปกปิดอะไรบางอย่าง
ผู้ต้องสงสัยคนแรก
ดุ๋งกลายเป็นเป้าสายตา เพราะเขาเป็นคนเสิร์ฟเครื่องดื่มในคืนนั้น และไม่มี alibi ที่ชัดเจน ทีมบุกไปถามครูฌาน พ่อของดุ๋งที่เป็นหมอผีเก่าแก่ เขาเผยว่าดุ๋งเคยขโมยยาพิษจากเขาเพราะโกรธแบมที่โกงเงินเขาไป ฉากฮาเกิดขึ้นเมื่อเต้อแกล้งเมาเพื่อทดสอบพิษ แต่ดันเมาจริงจนวิ่งชนผี (ที่จริงคือผิงปลอมตัว!) วิญญาณแบมนึกได้ว่าดุ๋งพยายามช่วยเธอในคืนนั้น ไม่ใช่ฆาตกร ชัช เพื่อนบ้านที่แอบอยู่ในงาน โผล่มาบอกว่าเห็นรอยเท้าประหลาดใกล้สระน้ำ สร้างความสงสัยใหม่ว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง
อดีตที่ซ่อนความลับ
การสืบสวนเจาะลึกถึงอดีตของแก๊ง: แดนเคยถูกแบมหักหลังในธุรกิจ, เต้อเคยแอบถ่ายคลิปส่วนตัวของแบมเพื่อแบล็กเมล์, และปีย์มีหนี้ก้อนใหญ่ที่แบมช่วยจ่ายแต่เรียกดอกเบี้ยโหด ผิงใช้พลังร่างทรงเรียกวิญญาณเล็กๆ จากปาร์ตี้มาถาม แต่ดันได้ผีเมาที่เต้นรำแทนการให้ข้อมูล! ค้นพบว่าขวดยาพิษเชื่อมโยงกับเฮียอ๋า เจ้านายเก่าของจ๊อกที่เคยถูกแบมโกงเงินก้อนโต เฮียอ๋าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ท่าทางมีพิรุธ วิญญาณแบมเริ่ม “แฮงค์หนัก” จนเกือบสลาย ผิงต้องรีบหาความจริงก่อนที่วิญญาณจะหายไป
รอยร้าวในมิตรภาพ
ความสัมพันธ์ในทีมเริ่มแตกหักเมื่อปีย์สารภาพว่าแอบรักผิง ทำให้แดน (ที่แอบชอบผิงเช่นกัน) หึงและทะเลาะกัน มีฉากแอคชั่นที่เต้อไล่จับ “ผีปลอม” ซึ่งเป็นลูกน้องของเฮียอ๋า เสก เพื่อนเก่าของแบมที่หายตัวไป โผล่มาบอกว่าเห็นปีย์ใส่ยาในแก้วของแบม แต่จริงๆ เสกโกหกเพื่อปกปิดความลับของตัวเอง ผิงถูกวิญญาณแบม “สิง” ชั่วคราว ทำให้เต้นรำเมาๆ บนโต๊ะ สร้างเสียงหัวเราะท่ามกลางความตึงเครียด ปมเริ่มซับซ้อนเมื่อทุกคนสงสัยกันเอง
เงาของการทรยศ
จ๊อกสารภาพว่าเคยขโมยเงินจากแบมเพื่อช่วยน้องสาวที่ป่วย แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ฆาตกร ผิงพบสมุดบันทึกของแบมที่เขียนชื่อ “เป้า” เพื่อนเก่าที่ถูกไล่ออกจากแก๊งเพราะหึงหวงแบม เป้าแกล้งตายเพื่อหลอกทุกคน และยอมรับว่าเป็นคนส่งยาพิษให้บุคคลลึกลับ วิญญาณแบมนึกได้เต็มๆ ว่าฆาตกรคือคนใกล้ตัว ผิงร้องไห้เพราะกลัวเสียเพื่อน และเริ่มสงสัยว่าความจริงอาจเจ็บปวดเกินกว่าที่เธอจะรับได้
การไล่ล่าสุดระทึก
ทีมบุกไปหาหมีและย้ง สมาชิกแก๊งโล้นซิ่งที่อยู่ในปาร์ตี้ พวกเขายอมรับว่าถูกจ้างโดยเสกให้ใส่ยา แต่เสกถูกฆ่าตายซ้อน! เสธอ๊อด ตำรวจลับที่มาในฐานะนักแสดงรับเชิญ โผล่มาช่วยผิง แต่กลับถูกเปิดเผยว่าเขาช่วยปกปิดหลักฐานบางอย่าง ฉากเผชิญหน้าที่รีสอร์ทเดิมเต็มไปด้วยความโกลาหล เมื่อทุกคนชี้ตัวกันเองว่าเป็นฆาตกร วิญญาณแบมเริ่มจางลงเรื่อยๆ เพราะพลังใกล้หมด
ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่สืบฆาตกร แต่สำรวจ “มิตรภาพที่เมาแล้วลืม” และ “ความลับที่ซ่อนในแฮงค์” ผ่านมุกตลกอย่างผีเต้นรำเมาๆ หรือร่างทรงกรี๊ดลั่นบ้าน หักมุมของปีย์ที่เป็นทั้งพระเอกและวายร้ายทำให้ผู้ชมช็อกหนัก ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร
1. การผสมผสานที่ลงตัว
สิ่งที่ทำให้ ฆาตกรรมจำไม่ได้ โดดเด่นคือการผสมผสานสามแนวอย่างกลมกลืน คอมเมดี้ที่มาจากมุกตลกแบบไทยๆ เช่น ฉากผิงกรี๊ดเมื่อเจอวิญญาณแบม หรือฉากที่เต้อแกล้งเมาจนวิ่งชนทุกอย่าง การสืบสวนที่ชวนลุ้นด้วยปมและหักมุมที่คาดไม่ถึง และแฟนตาซีจากองค์ประกอบร่างทรงและผีเมาแฮงค์ที่ไม่น่ากลัวแต่ป่วนสุดๆ การใช้ “ความเมา” เป็นตัวขับเคลื่อนเรื่องทำให้การสืบสวนไม่น่าเบื่อ เพราะทุกตัวละครมีช่วงที่จำอะไรไม่ได้ สร้างทั้งความขบขันและความสงสัย
2. การแสดงที่เคมีเข้ากัน
อิงฟ้า วราหะ ขโมยซีนในบทผิง ร่างทรงที่ทั้งกลัวผีและกล้าหาญในเวลาเดียวกัน การแสดงของเธอผสมความน่ารักและความตลกได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะฉากที่ต้อง “ต่อสู้” กับวิญญาณแบมที่รับบทโดย ณิชาภัทร ซึ่งถ่ายทอดความเป็นผีสายปาร์ตี้ได้อย่างน่าจดจำ ทีมเพื่อนอย่าง ภรภัทร (ปีย์) ที่มีทั้งเสน่ห์และความลึกลับ, รชตะ (แดน) ที่ปากร้ายแต่จริงใจ, ศรัณย์ (เต้อ) ที่เป็นตัวโจ๊กของเรื่อง, และชลวิทย์ (จ๊อก) ที่เพิ่มมิติให้ตัวละคร สร้างเคมีกลุ่มที่ลงตัว ส่วนสุภทัต (ดุ๋ง) และนักแสดงสมทบอย่าง เดชา โคนาโล (ชัช) และองอาจ เจียมเจริญพรกุล (เฮียอ๋า) เติมสีสันให้เรื่องไม่จืดชืด
3. งานโปรดักชันที่สมจริง
ฉากปาร์ตี้ถูกออกแบบให้สมจริงด้วยแสงสีจัดจ้าน ดนตรี EDM ที่ติดหู และการตัดต่อที่ทำให้รู้สึกถึงความเมามาย ดนตรีประกอบอย่างเพลง “เมาไม่ลืม” ที่ใช้ในฉากสำคัญกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย การถ่ายทอดแฟลชแบ็คที่พร่าเลือนช่วยให้ผู้ชมรู้สึกถึงความสับสนของตัวละครได้ดี ฉากแฟนตาซี เช่น การที่ผิงใช้พลังร่างทรง หรือวิญญาณแบมโผล่มาป่วน ทำได้ไม่หลอกตาและเข้ากับโทนคอมเมดี้ของเรื่อง
คะแนน 8.5/10 (ปาร์ตี้ที่คุณจะจำได้ แม้ตัวละครจะเมาจนลืม)
ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery เป็นละครที่ผสมผสานความสนุก ความลุ้น และความแปลกใหม่ได้อย่างน่าประทับใจ เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเรื่องราวสืบสวนที่ไม่หนักจนเกินไป ผสมด้วยมุกตลกและกลิ่นอายแฟนตาซีแบบไทยๆ การแสดงที่ลงตัว งานโปรดักชันที่จัดเต็ม และหักมุมที่ชวนให้ลุ้น ทำให้ละครเรื่องนี้เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ
ละครได้รับคำชื่นชมในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในโซเซียล ที่ผู้ชมแชร์คลิปฉากตลก เช่น ฉากวิญญาณแบมเต้นรำ หรือผิงแกล้งเมาเพื่อล้วงข้อมูล แฟนๆ ชื่นชอบการแสดงของอิงฟ้าและณิชาภัทร โดยเฉพาะเคมีระหว่างผิงและวิญญาณแบมที่กลายเป็นมีมสุดฮิต คะแนน IMDb อยู่ที่ 7.8/10 จากการรีวิวของผู้ชมชาวไทยและต่างชาติ ส่วนในแอป oneD มียอดวิวรวมกว่า 10 ล้านครั้งในสัปดาห์สุดท้ายของการออกอากาศ แสดงถึงความนิยมที่สูงมาก
ตั้งแต่นาทีแรกที่ปาร์ตี้วันเกิดของแบมเริ่มต้น ความรู้สึกแรกคือความสนุกสุดเหวี่ยง ฉากที่ทุกคนเมามาย เต้นรำแบบไม่ยั้ง และพูดจาเลอะเลือน ทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่ในปาร์ตี้จริงๆ ดนตรี EDM ที่กระหึ่มและแสงสีจัดจ้านช่วยยกระดับอารมณ์ให้คึกคัก แต่เมื่อตื่นเช้ามาพบศพของแบม ความตลกเริ่มผสมด้วยความตื่นเต้น อารมณ์เปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นความตื่นตัวในพริบตา โดยเฉพาะเมื่อผิง (อิงฟ้า) เจอวิญญาณแบม (ณิชาภัทร) ที่ยังเมาค้างและป่วนไม่เลิก! ฉากที่ผิงกรี๊ดลั่นทุกครั้งที่ผีโผล่มา หรือวิญญาณแบมเต้นรำแบบเมาๆ บนโต๊ะ ทำให้หัวเราะจนน้ำตาไหล ความรู้สึกเหมือนได้ดูเพื่อนสนิททะเลาะกันแบบขำๆ แต่แฝงด้วยปริศนาที่ชวนให้อยากรู้ต่อ
เมื่อเรื่องเข้าสู่โหมดสืบสวน ความรู้สึกเปลี่ยนเป็นความลุ้นระทึก ทุกตัวละครมีปมและความลับของตัวเอง ปีย์ที่ดูหล่อลึกลับ แดนที่ปากร้ายแต่ใจดี เต้อที่ตลกแต่แอบมีมุมมืด หรือจ๊อกที่ดูเหมือนรู้มากกว่าที่พูด การที่ทุกคนจำเหตุการณ์คืนนั้นไม่ได้เพราะเมาหนัก ทำให้รู้สึกเหมือนต้องไขปริศนากับตัวละครไปพร้อมๆ กัน แฟลชแบ็คที่พร่าเลือนและการหักมุมในแต่ละตอน เช่น การเปิดเผยว่าใครเป็นคนถือขวดยาพิษ หรือการที่ตัวละครสมทบอย่างเป้าและเฮียอ๋าเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ใจเต้นแรงและอยากลุ้นต่อว่า “ใครคือฆาตกรตัวจริง?” ความรู้สึกนี้เหมือนกำลังดูนิยายสืบสวนของ Agatha Christie แต่ฉบับที่เต็มไปด้วยมุกตลกและผีป่วน
การแสดงของนักแสดงคือหัวใจที่ทำให้ละครเรื่องนี้พิเศษ อิงฟ้าในบทผิงถ่ายทอดความขี้กลัวและความกล้าได้อย่างน่ารัก ทุกครั้งที่เธอกรี๊ดหรือพยายามแกล้งเมาเพื่อล้วงความลับ ทำให้รู้สึกเอ็นดูและอยากเอาใจช่วย ณิชาภัทรในบทวิญญาณแบมขโมยซีนด้วยความเปิ่นและความเป็นผีสายปาร์ตี้ที่ไม่เหมือนใคร ฉากที่แบมโผล่มาเต้นหรือพูดอะไรแปลกๆ ทำให้รู้สึกเหมือนมีเพื่อนซี้ที่ป่วนแต่รักมาก ทีมเพื่อนอย่างปีย์ (ภรภัทร) ที่หล่อแต่มีปม, แดน (รชตะ) ที่ปากร้ายแต่ซึ้งใจ, และเต้อ (ศรัณย์) ที่เป็นตัวโจ๊กของเรื่อง สร้างเคมีที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูกลุ่มเพื่อนจริงๆ ที่ทั้งรักและแกล้งกัน ความรู้สึกนี้ยิ่งเข้มข้นในฉากดราม่าที่ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับความลับของกันและกัน
ละคร ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery เหมือนได้ไปปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความตื่นเต้น และความอบอุ่นใจ ละครเรื่องนี้ทำให้รู้สึกเหมือนได้นั่งคุยกับเพื่อนสนิทที่ทั้งฮาและมีเรื่องดราม่าให้ลุ้น งานโปรดักชันที่จัดเต็ม ดนตรีที่ติดหู และการแสดงที่ลงตัว ทำให้ทุกตอนรู้สึกคุ้มค่า ถ้าคุณกำลังมองหาละครที่ดูแล้วหัวเราะ ลุ้น และซึ้งในเวลาเดียวกัน เรื่องนี้คือคำตอบ สามารถย้อนดูได้ทางแอป oneD หรือ YouTube ช่อง one31 อยากชวนเพื่อนมาดูด้วยกัน แล้วจัดปาร์ตี้เล็กๆ (แบบไม่มีเหล้า) เพื่อฉลองมิตรภาพเหมือนในเรื่อง
ละคร ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery 2568
ละคร ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery 2568 EP.1-8 ตอนจบoneD
ซีน ละคร ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery 2568
ละคร ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery 2568
ปาร์ตี้ Paradise Seven ที่เปลี่ยนเป็นฝันร้าย
ปาร์ตี้สุดเหวี่ยง Paradise Seven ที่รวมเหล่าหนุ่มสาวสุดฮอตไว้ในงานเดียว งานนี้จัดโดย แบม (ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์) สาวสวยสุดเซ็กซี่ที่เป็นตัวแม่แห่งวงการปาร์ตี้ เธอชวนก๊วนเพื่อนสุดซี้มาแจม ไม่ว่าจะเป็น ปีย์ (ภรภัทร ศรีขจรเดชา) หนุ่มหล่อลึกลับ, เต้อ (ศรัณย์ นราประเสริฐกุล) ตัวตึงสายฮา, จ๊อก (ชลวิทย์ มีทองคำ) หนุ่มเงียบแต่มีอะไรซ่อนอยู่ และ ดุ๋ง (สุภทัต โอภาส) เพื่อนสายเปิ่นที่ขาดไม่ได้ ทุกคนดื่มกันแบบจัดเต็ม เหล้าไหลมาเทมา เต้นกันจนโลกหมุน 🍻 แต่… เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนตื่นมาพร้อมกับ ศพของแบม นอนนิ่งอยู่กลางงาน 😱😱😱
แบมตายแบบปริศนา สาเหตุคือพิษจากแอลกอฮอล์ผสมยา แต่ปัญหาคือ ไม่มีใครจำได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน ทุกคนเมาหนักจนสมองมึนตึ้บ เข้าสู่โหมดสืบสวนสุดวายป่วงเมื่อ ผิง (อิงฟ้า วราหะ) ร่างทรงสาวชื่อดังที่กลัวผีสุด ๆ แต่ดันถูกชวนมางานนี้เพราะเป็นเพื่อนเก่าแบม โผล่เข้ามาเจอเหตุการณ์พอดี! และที่พีคกว่านั้นคือ วิญญาณของแบมโผล่มาหาผิง 👻 แต่ผีตัวนี้ไม่น่ากลัวนะทุกคน มันเมาค้างหนักมาก จำไม่ได้เลยว่าตัวเองตายยังไง 555+ ผิงเลยต้องกลั้นใจช่วยผีแบมสืบหาความจริงว่าใครเป็นฆาตกร
ความวายป่วงพุ่งปรี๊ด คนมึน ผีเมา ตำรวจป่วน
เรื่องมันยิ่งวุ่นไปกันใหญ่เมื่อ หมวดแดน (รชตะ หัมพานนท์) ตำรวจหนุ่มไฟแรงเข้ามาสืบคดีนี้ แดนคือสไตล์นายตำรวจที่ดูเท่แต่ก็แอบปั่นป่วน มาถึงก็ตั้งแง่ว่าทุกคนในปาร์ตี้คือผู้ต้องสงสัย 😎 ผิงเลยต้องเป็นหัวหน้าทีมจำเป็น นำก๊วนเพื่อนสุดป่วนอย่างปีย์, เต้อ, จ๊อก และดุ๋ง สืบหาความจริงไปพร้อม ๆ กับจัดการวิญญาณแบมที่ชอบโผล่มาเต้นแบบเมา ๆ หรือป่วนในจังหวะที่ไม่ควร 🤣
ตลอดทั้ง 8 ตอน ละครพาเราไปเจอกับความลับของแต่ละคนในก๊วนเพื่อน ปีย์ที่ดูเหมือนหนุ่มเพลย์บอยสุดหล่อแต่มีปมรักที่ซ่อนอยู่, เต้อที่ตลกจนน่ารักแต่แอบมีมุมมืด, จ๊อกที่เงียบ ๆ แต่เหมือนรู้มากกว่าที่พูด, และดุ๋งที่เปิ่นแต่บางทีก็ช่วยทีมได้แบบไม่คาดคิด ส่วนหมวดแดนก็คอยเพิ่มความวุ่นด้วยการจับผิดทุกคนแบบไม่ไว้หน้า ฉากที่ชอบสุดคือตอนที่ผิงต้องแกล้งเมาเพื่อล้วงความลับจากเพื่อน ๆ แต่ดันเมาจริง หรือฉากที่วิญญาณแบมโผล่มาเต้นท่ามกลางการสืบสวน ทำเอาฮาลั่นบ้านเลย 😂
เบื้องหลังของละครสุดฮอต ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery ปี 2568 จากช่องวัน 31 ละครนี้คือเดือดสุด ๆ ผสมคอมเมดี้ สืบสวน แฟนตาซี และปาร์ตี้วายป่วงที่ทุกคนพูดถึง แต่ที่ทำให้เรื่องนี้ปังขนาดนี้ต้องยกเครดิตให้ทีมงานเบื้องหลังที่โคตรเทพ มาดูกันว่าใครเป็นใคร และทำอะไรให้ละครนี้กลายเป็นตำนานแห่งปี
บทโทรทัศน์โดย สวนสนุก สตูดิโอ 🎡
เริ่มที่ทีมเขียนบทก่อนเลย สวนสนุก สตูดิโอ คือทีมที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวสุดปั่นของ ฆาตกรรมจำไม่ได้ บอกเลยว่าทีมนี้เค้าจัดเต็มมากกก คิดดูสิ เอาปาร์ตี้เมา ๆ มายัดใส่ปมฆาตกรรม แล้วยังมีผีเมาแฮงค์อย่างแบมมาป่วน แถมร่างทรงขี้กลัวอย่างผิงที่ต้องสืบคดี 😜 สวนสนุก สตูดิโอเค้าคงนั่ง brainstorm กันแบบ “เอาฮาให้สุด เอาลุ้นให้ถึง” เพราะทุกตอนคือมีทั้งมุกตลกแบบไทย ๆ ที่ขำจนท้องแข็ง และหักมุมที่ทำให้เราอ้าปากค้าง Respect ทีมเขียนบทเลย เพราะถ้าไม่มีสคริปต์ปัง ๆ ละครก็คงไม่ลงตัวขนาดนี้ 👏
กำกับการแสดงโดย ตุ๋ย พฤกษ์ เอมะรุจิ และ หลุยส์ อารยะ เหรียญบุบผา 🎥

ต่อมาเรามาคุยถึงสองผู้กำกับสุดเจ๋ง ตุ๋ย พฤกษ์ เอมะรุจิ และ หลุยส์ อารยะ เหรียญบุบผา สองคนนี้คือเหมือนคู่หูสายปั่นที่ทำให้ละครนี้มีกลิ่นอายทั้งสนุก ลุ้น และแฟนตาซีแบบไทยแท้ คิดดูนะ ฉากปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่มีแสงสีจัดเต็ม ดนตรี EDM กระแทกใจ หรือฉากที่ผิงกรี๊ดลั่นเมื่อเจอผีแบมที่โผล่มาเต้นแบบเมา ๆ ต้องใช้ฝีมือกำกับชั้นเซียนเลยนะถึงถ่ายทอดออกมาได้สมจริงขนาดนี้ 😎
ที่สำคัญคือเค้าทำให้ทุกฉากสมดุลมากกก ตอนตลกก็ขำจนน้ำตาไหล ตอนลุ้นก็ใจเต้นแรง และตอนดราม่าก็แอบซึ้งจนน้ำตาคลอ เห็นว่าในกองถ่ายสองผู้กำกับนี้จะคอยแกล้งนักแสดงให้เข้าถึงอารมณ์เมา ๆ ด้วย อย่างให้อิงฟ้ากรี๊ดแบบสุดพลัง หรือให้แพรวาเล่นเป็นผีแบบป่วนสุดขีด ผลงานออกมาคือ 10 เต็ม 10 เลยทุกคน 🎉
ผลิตโดย oneD ORIGINAL 📺
ปิดท้ายด้วยทีมโปรดักชันตัวพ่ออย่าง oneD ORIGINAL! ทีมนี้คือหัวใจของความปัง เพราะเค้าคือคนที่เนรมิตทุกอย่างให้ออกมาเป็น ฆาตกรรมจำไม่ได้ ที่เรารัก ตั้งแต่ฉากปาร์ตี้ Paradise Seven ที่ดูสมจริงจนอยากกระโดดเข้าไปเต้นด้วย ไปจนถึงงานโปรดักชันแสงสีเสียงที่ตระการตา oneD ORIGINAL เค้าคงวางแผนกันหนักมาก เพราะละคร 8 ตอนนี้คือครบรสสุด ๆ ทั้งฮา ลุ้น ดราม่า และแฟนตาซี แถมยังเลือกนักแสดงที่เคมีลงตัวแบบสุดปัง ไม่ว่าจะเป็นอิงฟ้า, ณิชาภัทร, ภรภัทร, รชตะ, ศรัณย์, ชลวิทย์ และทุกคนในกอง 🙌
นักแสดง
→ อิงฟ้า วราหะ รับบท ผิง

ผิงคือร่างทรงสาวชื่อดังที่มองเห็นผีได้แบบชัดเป๊ะ แต่ประเด็นคือ เธอกลัวผีสุดๆ ชนิดที่เจอวิญญาณทีไรต้องกรี๊ดลั่นบ้าน 555 ในละคร ผิงถูกดึงเข้าสู่ปาร์ตี้สุดวายป่วง Paradise Seven ที่จบด้วยศพของแบม เพื่อนเก่าสุดแซ่บ ผิงเลยต้องกลายเป็นหัวหน้าทีมจำเป็น ช่วยวิญญาณแบมที่เมาค้างหนักจนจำไม่ได้ว่าตายยังไง สืบหาความจริงว่าใครเป็นฆาตกร บอกเลยว่าผิงคือส่วนผสมของความน่ารัก ความขี้กลัว และความกล้าแบบพีคๆ เธอจะงงๆ หน่อยตอนเจอผี แต่พอถึงเวลาจริงจัง ผิงก็พร้อมลุยแบบไม่ถอย แถมยังมีโมเมนต์ฮาๆ อย่างตอนแกล้งเมาเพื่อล้วงความลับจากเพื่อน หรือตอนที่ต้องคุยกับผีแบมแบบกล้าๆ กลัวๆ เคมีของอิงฟ้าในบทนี้คือขโมยซีนสุดๆ ดูแล้วเอ็นดูมากกก
ฉายา “ร่างทรงขี้กลัวแต่ใจสู้”
ฉายานี้ได้มาเพราะผิงคือร่างทรงที่เก่งแต่กลัวผีหนักมาก แต่ถึงจะกลัว เธอก็ไม่ยอมแพ้ ยังพยายามสืบคดีต่อจนจบ เรียกว่าเป็นตัวแทนของคนที่ดูเปิ่นๆ แต่ใจใหญ่เกินร้อย
ข้อคิด ความกลัวไม่ใช่กำแพง ถ้าใจเรากล้าพอ
จากคาแร็กเตอร์ผิง เราได้ข้อคิดว่า ถึงเราจะกลัวอะไรสุดๆ (แบบผิงที่กลัวผี) แต่ถ้ามีเป้าหมายชัดเจนและใจพร้อมสู้ เราก็ฝ่าความกลัวไปได้ ผิงสอนให้เห็นว่าการก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนอาจจะน่ากลัว แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่มีวันรู้ว่าเราทำได้
→ ภรภัทร ศรีขจรเดชา รับบท ปีย์

ปีย์คือหนุ่มเพลย์บอยตัวตึงของปาร์ตี้ Paradise Seven หล่อ มีเสน่ห์ ดูเป็นผู้ชายที่สาวๆ ต้องกรี๊ด แต่เบื้องหลังความคูลนี่คือปมในใจที่ลึกซึ้งมาก ในเรื่อง ปีย์เป็นหนึ่งในก๊วนเพื่อนที่มาร่วมปาร์ตี้วันเกิดของแบม สาวฮอตที่ตายปริศนาในคืนนั้น เค้าดูเหมือนเป็นคนที่ชิลๆ แต่จริงๆ แล้วมีอดีตซับซ้อนเกี่ยวกับความรักและหนี้สินที่เชื่อมโยงกับแบม การแสดงของภรภัทรทำให้ปีย์มีทั้งมุมเท่ๆ ที่ทำให้ใจเต้น และมุมลึกลับที่ทำให้สงสัยว่า “หมอนี่มีอะไรปิดบังรึเปล่านะ” ในปาร์ตี้ที่ทุกคนเมาจนจำอะไรไม่ได้ ปีย์คือคนที่ดูเหมือนจะรู้บางอย่าง แต่ก็ไม่พูดออกมา ฉากที่เค้าต้องเผชิญหน้ากับผิง ร่างทรงสาวขี้กลัว หรือตอนที่เค้าต้องเจอกับหมวดแดน ตำรวจสุดเข้ม คือพีคมาก เพราะเห็นทั้งความเท่และความเปราะบางของเค้า
ฉายา “เพลย์บอยปริศนา”
ฉายานี้เหมาะกับปีย์สุดๆ เพราะเค้าคือหนุ่มหล่อที่ดูเหมือนจะเป็นแค่เพลย์บอยในปาร์ตี้ แต่จริงๆ แล้วซ่อนความลับและปมในใจที่เป็นกุญแจสำคัญของเรื่อง ดูเหมือนง่ายๆ แต่ลึกซึ้งเกินคาด
ข้อคิด ความรักที่ผิดทางอาจนำไปสู่ความผิดพลาด
จากคาแร็กเตอร์ปีย์ เราได้ข้อคิดว่าความรักหรือความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจ ถ้าไม่จัดการให้ดี อาจพาเราไปในทางที่คาดไม่ถึง ปีย์สอนให้เห็นว่าการเผชิญหน้ากับความรู้สึกของตัวเองและสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา สำคัญกว่าการเก็บซ่อนจนกลายเป็นปัญหาใหญ่
→ รชตะ หัมพานนท์ รับบท แดน

แดนคือ หมวดแดน ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่กระโดดเข้ามาสืบคดีฆาตกรรมในปาร์ตี้ Paradise Seven หลังจากแบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา บอกเลยว่าแดนคือตำรวจที่ดูเท่แต่ก็แอบปั่นป่วน เข้ามาถึงก็จับผิดทุกคนในงานแบบไม่ไว้หน้า ด้วยสไตล์ปากร้าย พูดจาตรงๆ แต่ว่าลึกๆ แล้วเค้าใจดีและจริงใจมากกก แดนมีเคมีสุดพีคกับผิง ร่างทรงสาวขี้กลัว เพราะเค้ามักจะแซวหรือขัดคอผิงตลอด แต่ก็แอบมีโมเมนต์หวานๆ ที่ทำให้คนดูฟิน รชตะถ่ายทอดแดนออกมาได้แบบทั้งเท่และน่ารัก ฉากที่แดนสืบคดีหรือปะทะฝีปากกับก๊วนเพื่อนอย่างปีย์ เต้อ หรือจ๊อก คือทั้งฮาและลุ้น ส่วนโมเมนต์ที่เค้าแสดงด้านอ่อนโยนออกมานี่คือทำใจเต้นเลย
ฉายา “ตำรวจปากร้ายใจอบอุ่น”
ฉายานี้เหมาะกับแดนมาก เพราะเค้าดูเป็นตำรวจเข้มๆ ที่พร้อมจับผิดทุกคนด้วยคำพูดแซ่บๆ แต่จริงๆ แล้วมีจิตใจดีและคอยปกป้องทุกคน โดยเฉพาะผิง เป็นคาแร็กเตอร์ที่ทั้งเท่และน่ารักในเวลาเดียวกัน
ข้อคิด ความจริงใจคือกุญแจที่ชนะใจคน
จากคาแร็กเตอร์แดน เราได้ข้อคิดว่า ถึงบางครั้งเราจะดูแข็งกร้าวหรือพูดตรงเกินไป แต่ถ้าเรามีความจริงใจและแสดงด้านที่อ่อนโยนออกมาในเวลาที่เหมาะสม มันจะทำให้คนรอบข้างไว้วางใจและรักเราได้ แดนสอนให้เห็นว่าการเป็นตัวของตัวเองแต่ไม่ลืมความเมตตาคือสิ่งที่ทำให้เราพิเศษ
→ ศรัณย์ นราประเสริฐกุล รับบท เต้อ

เต้อคือหนุ่มสายฮาของก๊วนปาร์ตี้ Paradise Seven ที่ทุกคนต้องรัก เพราะเค้าคือตัวตึงแห่งความบันเทิง ในปาร์ตี้วันเกิดของแบม สาวฮอตที่ตายปริศนา เต้อคือคนที่โยนมุกตลกและสร้างสีสันให้งานคึกคัก แต่เมื่อคดีฆาตกรรมเริ่มขึ้น เพราะทุกคนเมาจนจำอะไรไม่ได้ เต้อกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมสืบสวนที่นำโดยผิง ร่างทรงขี้กลัว บอกเลยว่าเต้อคือตัวป่วนสุดๆ อย่างฉากที่เค้าแกล้งเมาแล้ววิ่งชนทุกอย่าง หรือตอนที่ทะเลาะกับหมวดแดนแบบขำๆ นี่คือฮาจนท้องแข็ง แต่เดี๋ยวก่อน เต้อไม่ได้มีแค่ด้านตลกนะ ศรัณย์ใส่มิติให้ตัวละครนี้ด้วยการแอบซ่อนปมในอดีตที่เกี่ยวข้องกับแบม ทำให้เราต้องสงสัยว่า “เอ๊ะ หมอนี่จะมีอะไรลับๆ มั้ย” การแสดงของศรัณย์คือทั้งขำและน่ารัก ทำเอาเรายิ้มทุกครั้งที่เต้อโผล่มา
ฉายา “ตัวตึงสายป่วน”
ฉายานี้เหมาะกับเต้อสุดๆ เพราะเค้าคือตัวสร้างความฮาในทุกฉาก เป็นสายป่วนที่ทำให้ปาร์ตี้และการสืบสวนไม่น่าเบื่อ แต่ก็แอบมีมุมลึกซึ้งที่ทำให้คนดูเซอร์ไพรส์
ข้อคิด ความสนุกสามารถซ่อนความลึกซึ้งได้
จากคาแร็กเตอร์เต้อ เราได้ข้อคิดว่า คนที่ดูเหมือนจะตลกและไร้สาระ อาจมีด้านที่ลึกซึ้งและความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ เต้อสอนให้เราไม่ตัดสินคนจากแค่เปลือกนอก และบางครั้งการใช้รอยยิ้มก็เป็นวิธีรับมือกับเรื่องหนักๆ ในชีวิต
→ ชลวิทย์ มีทองคำ รับบท จ๊อก

จ๊อกคือหนุ่มเงียบขรึมในก๊วนปาร์ตี้ Paradise Seven ที่ดูเหมือนจะเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด แต่จริงๆ แล้วมีอะไรซ่อนอยู่ในใจเยอะมาก ในปาร์ตี้วันเกิดของแบม สาวฮอตที่ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา จ๊อกคือหนึ่งในเพื่อนที่เมาจนจำอะไรไม่ได้ แต่เค้าดูเหมือนจะรู้บางอย่างมากกว่าที่พูดออกมา ชลวิทย์เล่นบทนี้ได้แบบลึกซึ้งสุดๆ ทำให้จ๊อกมีทั้งมุมลึกลับที่ชวนสงสัย และมุมที่ทำให้เรารู้สึกเห็นใจ อย่างฉากที่เค้าต้องเผชิญหน้ากับผิง ร่างทรงขี้กลัว หรือตอนที่ถูกหมวดแดนจับจ้องในฐานะผู้ต้องสงสัย คือทั้งตื่นเต้นและชวนให้ลุ้นว่า “หมอนี่รู้อะไรกันแน่” จ๊อกมีปมในอดีตที่เชื่อมโยงกับแบม และบางครั้งก็ดูเหมือนจะซ่อนความลับที่อาจเปลี่ยนทิศทางของคดี การแสดงของชลวิทย์ทำให้จ๊อกเป็นตัวละครที่ทั้งน่าสงสัยและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน
ฉายา “เงียบแต่ลึกซึ้ง”
ฉายานี้เหมาะกับจ๊อกสุดๆ เพราะเค้าคือคนที่ดูเงียบๆ ไม่ค่อยพูด แต่แอบมีปมและความรู้สึกที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ เป็นตัวละครที่ทำให้เราต้องคอยจับตาว่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์
ข้อคิด ความเงียบไม่ได้แปลว่าไม่มีอะไร
จากคาแร็กเตอร์จ๊อก เราได้ข้อคิดว่า คนที่ดูเงียบหรือไม่ค่อยแสดงออก อาจมีเรื่องราวและความรู้สึกที่ซับซ้อนซ่อนอยู่ จ๊อกสอนให้เราไม่มองข้ามคนที่ดูนิ่งเงียบ และให้ลองทำความเข้าใจว่าทุกคนมีเรื่องราวของตัวเองที่อาจไม่เคยพูดออกมา
→ ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์ รับบท แบม

แบมคือสาวสวยสุดฮอต เจ้าแม่ปาร์ตี้แห่ง Paradise Seven ที่ทั้งแซ่บและมีเสน่ห์ยั่วยวนจนทุกคนในงานต้องหันมอง เธอคือศูนย์กลางของปาร์ตี้วันเกิดที่จัดเต็มแสงสีเสียง แต่เรื่องพีคคือหลังปาร์ตี้จบ แบมดันกลายเป็นศพจากพิษแอลกอฮอล์ผสมยา และที่เด็ดกว่านั้นคือเธอกลับมาในฐานะ วิญญาณเมาแฮงค์ ที่จำไม่ได้เลยว่าตัวเองตายยังไง 555 ณิชาภัทรเล่นบทนี้ได้แบบสุดปัง ทั้งในร่างมนุษย์ที่เซ็กซี่และร่าเริง และร่างวิญญาณที่ป่วนสุดๆ ชอบโผล่มาเต้นหรือทำท่าเมาๆ ขัดจังหวะการสืบสวนของผิง ร่างทรงขี้กลัว แบมในฐานะผีคือตัวสร้างสีสันของเรื่อง มีทั้งความฮาและความน่ารัก แต่ก็แอบมีปมในอดีตที่ทำให้เพื่อนๆ อย่างปีย์ เต้อ จ๊อก หรือดุ๋งมีเรื่องขัดแย้งกับเธอ ฉากที่แบมพยายามนึกความทรงจำหรือช่วยผิงสืบคดีคือทั้งขำและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน
ฉายา “ผีปาร์ตี้เมาแฮงค์”
ฉายานี้เหมาะกับแบมสุดๆ เพราะเธอคือสาวปาร์ตี้ตัวแม่ที่ถึงตายไปแล้วก็ยังเมาค้าง ป่วนไม่เลิก เป็นวิญญาณที่ทั้งฮาและน่ารักจนคนดูต้องหลงรัก
ข้อคิด ใช้ชีวิตให้เต็มที่ แต่ระวังผลที่ตามมา
จากคาแร็กเตอร์แบม เราได้ข้อคิดว่า การใช้ชีวิตให้สนุกสุดเหวี่ยงแบบแบมมันเจ๋งมาก แต่บางครั้งการไม่ระวังตัวหรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้างอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด แบมสอนให้เรา enjoy ชีวิตแต่ต้องมีสติด้วย
→ อาไท สุภทัต รับบท ดุ๋ง

ดุ๋งคือเพื่อนสายเปิ่นในก๊วนปาร์ตี้ Paradise Seven ที่ดูซุ่มซ่ามแต่ก็น่ารักสุดๆ ในปาร์ตี้วันเกิดของแบม สาวฮอตที่ตายปริศนา ดุ๋งคือคนที่เสิร์ฟเหล้าให้ทุกคนแบบไม่รู้ตัวว่าอาจมีพิษผสม แต่หลังจากคดีเริ่มขึ้น เพราะทุกคนเมาจนจำอะไรไม่ได้ ดุ๋งกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลักเพราะ alibi อ่อนแอ แถมยังเป็นลูกชายของครูฌาน หมอผีเก่าแก่ที่รู้เรื่องยาพิษ
อาไทเล่นบทนี้ได้แบบขโมยซีนฮาๆ อย่างฉากที่เค้าพยายามช่วยสืบแต่ดันทำวุ่นวาย หรือตอนที่ทะเลาะกับหมวดแดนแบบงงๆ นี่คือขำจนท้องแข็ง แต่ดุ๋งก็มีปมในอดีตที่เคยถูกแบมโกงเงิน ทำให้เค้ามีด้านที่ทั้งน่าสงสารและน่าลุ้นว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดี การแสดงของอาไททำให้ดุ๋งเป็นตัวละครที่ทั้งเปิ่นและจริงใจ ทำเอาเรายิ้มทุกครั้งที่โผล่มา
ฉายา “เปิ่นแต่ช่วยได้”
ฉายานี้เหมาะกับดุ๋งสุดๆ เพราะเค้าดูซุ่มซ่ามและเปิ่นแบบสุด แต่บางครั้งความไม่ตั้งใจของเค้ากลับช่วยทีมสืบสวนได้แบบไม่คาดคิด เป็นคาแร็กเตอร์ที่ทั้งฮาและมีเสน่ห์แบบธรรมชาติ
ข้อคิด ความซื่อตรงสามารถแก้ปัญหาได้มากกว่าที่คิด
จากคาแร็กเตอร์ดุ๋ง เราได้ข้อคิดว่า คนที่ดูไม่ฉลาดหรือซุ่มซ่าม อาจมีด้านซื่อตรงและจริงใจที่ช่วยแก้ปัญหาได้ในแบบที่คนอื่นทำไม่ได้ ดุ๋งสอนให้เราเห็นคุณค่าของความเป็นตัวเอง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ
→ เดชา โคนาโล รับบท ชัช

ชัชคือผู้กองชัช เพื่อนบ้านที่บังเอิญแอบอยู่ในปาร์ตี้ Paradise Seven คืนที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา ชัชดูเป็นตำรวจที่จริงจังแต่ก็แอบมีมุมฮาๆ เพราะเค้าเห็นเหตุการณ์บางอย่างที่คนอื่นมองข้าม เดชา โคนาโล เล่นบทนี้ได้แบบเท่แต่ไม่แข็งทื่อ อย่างฉากที่ชัชโผล่มาให้เบาะแสสำคัญ เช่น รอยเท้าประหลาดใกล้จุดเกิดเหตุ หรือตอนที่เค้าช่วยผิง ร่างทรงขี้กลัว สืบคดีท่ามกลางความวุ่นวายจากหมวดแดน ชัชมีบทบาทเล็กแต่เด่นในฐานะคนนอกที่คอยเชื่อมปมคดี ทำให้เรื่องไม่น่าเบื่อ และการแสดงของเดชาทำให้ชัชดูน่าเชื่อถือแต่ก็มีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ที่เข้าใจโลก
ฉายา “ผู้กองสายลับบ้านใกล้”
ฉายานี้เหมาะกับชัชสุดๆ เพราะเค้าคือตำรวจที่ดูเหมือนแค่เพื่อนบ้านธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแอบสอดแนมและให้เบาะแสสำคัญแบบไม่คาดคิด เป็นตัวละครที่มาเพื่อเติมเต็มปริศนา
ข้อคิด มุมมองจากภายนอกช่วยให้เห็นภาพชัด
จากคาแร็กเตอร์ชัช เราได้ข้อคิดว่า บางครั้งคนที่ดูห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย กลับมีมุมมองที่ช่วยคลายปมได้ดีที่สุด ชัชสอนให้เราเปิดรับความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง แม้จะไม่ใช่คนในวงใน
→ ปราโมช แสงศร รับบท ครูฌาน

ครูฌานคือพ่อของดุ๋ง หนุ่มเปิ่นในก๊วนปาร์ตี้ Paradise Seven และเป็นหมอผีเก่าแก่ที่รู้เรื่องยาพิษและไสยศาสตร์แบบลึกซึ้ง ในเรื่องที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา ครูฌานกลายเป็นตัวละครสำคัญเมื่อผิง ร่างทรงขี้กลัว และทีมสืบสวนมาถามถึงยาพิษที่อาจเกี่ยวข้องกับคดี ปราโมชเล่นบทนี้ได้แบบน่าเกรงขาม มีออร่าความลึกลับ แต่ก็แอบมีมุมตลกๆ เมื่อต้องจัดการลูกชายอย่างดุ๋งที่ป่วนไม่เลิก ฉากที่ครูฌานเผยความลับเกี่ยวกับยาพิษ หรือตอนที่เค้าพูดถึงอดีตของดุ๋ง คือทั้งลุ้นและทำให้รู้สึกว่าเค้ารู้มากกว่าที่บอก ครูฌานเป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่คอยโยงปมในคดีให้ชัดขึ้น แม้จะไม่ได้โผล่มาเยอะ แต่ทุกครั้งที่ออกมาคือมีน้ำหนัก
ฉายา “หมอผีลึกลับ”
ฉายานี้เหมาะกับครูฌานสุดๆ เพราะเค้าคือหมอผีที่มีความรู้ลึกซึ้งและออร่าลึกลับ ดูเหมือนรู้ทุกอย่างแต่เลือกที่จะพูดแค่บางส่วน เป็นตัวละครที่เพิ่มความน่าสนใจให้คดี
ข้อคิด ความรู้คือพลังที่ต้องใช้อย่างระวัง
จากคาแร็กเตอร์ครูฌาน เราได้ข้อคิดว่า ความรู้หรือความสามารถที่เรามี (อย่างความรู้เรื่องยาพิษของครูฌาน) เป็นสิ่งทรงพลัง แต่ต้องใช้อย่างมีสติและรับผิดชอบ เพราะถ้าตกไปอยู่ในมือผิดคน อาจนำไปสู่หายนะได้
→ ชนาธิป พิสุทธิ์เสรีวงศ์ รับบท เสก

เสกคือเพื่อนเก่าของแบม สาวฮอตตัวแม่แห่งปาร์ตี้ Paradise Seven ที่ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา ในเรื่อง เสกเป็นตัวละครที่โผล่มาแบบเซอร์ไพรส์ ดูเหมือนคนที่หายไปนานแต่จริงๆ มีความลับซ่อนอยู่ ชนาธิปเล่นบทนี้ได้แบบลึกลับสุดๆ ทำให้เราสงสัยว่า “หมอนี่รู้อะไรเกี่ยวกับคดีรึเปล่า” เสกมีบทบาทสำคัญเมื่อผิง ร่างทรงขี้กลัว และทีมสืบสวนเริ่มขุดอดีตของแบม แล้วเจอว่าเสกอาจรู้เรื่องยาพิษหรือเหตุการณ์ในคืนปาร์ตี้ ฉากที่เค้าปรากฏตัวมักมาพร้อมความตึงเครียด เพราะดูเหมือนเค้าจะโยนระเบิดปมใหญ่ใส่ทีม อย่างตอนที่เค้าพูดถึงปีย์หรือเรื่องราวในอดีตของแก๊ง ชนาธิปถ่ายทอดเสกออกมาให้ดูทั้งน่าสงสัยและมีมิติ ทำให้เราอยากรู้ว่าเค้าจะพาคดีไปทางไหน
ฉายา “เงาลับจากอดีต”
ฉายานี้เหมาะกับเสกสุดๆ เพราะเค้าเหมือนเงาที่โผล่มาจากอดีตของแก๊ง มาพร้อมความลับที่ทำให้ทุกคนต้องตั้งคำถาม เป็นตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นให้เรื่องแบบไม่คาดคิด
ข้อคิด อดีตที่ซ่อนไว้อาจเปลี่ยนอนาคต
จากคาแร็กเตอร์เสก เราได้ข้อคิดว่า เรื่องราวในอดีตที่เราเลือกจะซ่อนไว้ อาจกลับมาส่งผลต่อชีวิตในวันนี้ เสกสอนให้เรากล้าเผชิญหน้ากับอดีตและจัดการกับมัน แทนที่จะปล่อยให้มันกลายเป็นปมที่สร้างปัญหาในอนาคต
→ องอาจ เจียมเจริญพรกุล รับบท เฮียอ๋า

เฮียอ๋าคือเจ้านายเก่าของจ๊อก หนึ่งในก๊วนปาร์ตี้ Paradise Seven ที่ดูเป็นผู้ใหญ่มีอำนาจ แต่มีกลิ่นความลึกลับและความแค้นซ่อนอยู่ ในเรื่องที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา เฮียอ๋ากลายเป็นตัวละครที่ทีมสืบสวนของผิง ร่างทรงขี้กลัว ต้องไปตามหา เพราะเค้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับยาพิษที่อาจเป็นกุญแจของคดี องอาจเล่นบทนี้ได้แบบมีพลัง ออกมาแต่ละครั้งคือมีออร่าความน่าเกรงขาม แต่ก็แอบมีมุมที่ทำให้เราสงสัยว่า “หมอนี่รู้มากกว่าที่พูดรึเปล่า” ฉากที่เฮียอ๋าต้องเผชิญหน้ากับผิงหรือหมวดแดนคือทั้งตึงเครียดและน่าลุ้น เพราะเค้าดูเหมือนคนที่ซ่อนอะไรไว้เยอะ การแสดงขององอาจทำให้เฮียอ๋าเป็นตัวละครที่ทั้งน่ากลัวและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน
ฉายา “เจ้านายจอมแค้น”
ฉายานี้เหมาะกับเฮียอ๋าสุดๆ เพราะเค้าเป็นเจ้านายที่ดูมีอำนาจ แต่แอบมีความแค้นในอดีตที่โยงกับแบม ทำให้กลายเป็นตัวละครที่ชวนสงสัยและเพิ่มความลึกให้เรื่อง
ข้อคิด ความแค้นอาจนำไปสู่ทางตัน
จากคาแร็กเตอร์เฮียอ๋า เราได้ข้อคิดว่า การเก็บความแค้นไว้ในใจอาจทำให้เราติดอยู่ในวงจรของความขัดแย้ง เฮiaอ๋าสอนให้เราลองปล่อยวางและหาทางแก้ปัญหาด้วยการสื่อสาร แทนที่จะปล่อยให้ความโกรธครอบงำ
→ อรุณพงศ์ นราพันธ์ รับบท เป้า

เป้าคือเพื่อนเก่าที่ถูกไล่ออกจากก๊วนปาร์ตี้ Paradise Seven เพราะความหึงหวงต่อแบม สาวฮอตตัวแม่ที่ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา ในเรื่อง เป้าแกล้งตายเพื่อหลอกทุกคน และกลายเป็นคนส่งยาพิษให้บุคคลลึกลับที่โยงกับคดี อรุณพงศ์เล่นบทนี้ได้แบบน่าขนลุก มีทั้งมุมหึงหวงที่ดูน่าสงสารและมุมลึกลับที่ชวนสงสัย ฉากที่เป้าโผล่มาพลิกเกมสืบสวนของผิง ร่างทรงขี้กลัว หรือตอนที่เค้าต้องเผชิญหน้ากับหมวดแดนคือทั้งตึงเครียดและเซอร์ไพรส์ การแสดงของอรุณพงศ์ทำให้เป้าเป็นตัวละครที่ดูเหมือนธรรมดาแต่แฝงปมใหญ่ที่เปลี่ยนทิศทางทั้งเรื่อง
ฉายา “เพื่อนหึงหวงแกล้งตาย”
ฉายานี้เหมาะกับเป้าสุดๆ เพราะเค้าคือเพื่อนเก่าที่หึงหวงจนแกล้งตายเพื่อหลอกทุกคนและโยงปมยาพิษ เป็นตัวละครที่เพิ่มความช็อกให้คดีแบบไม่คาดฝัน
ข้อคิด ความหึงหวงอาจนำไปสู่การทรยศตัวเอง
จากคาแร็กเตอร์เป้า เราได้ข้อคิดว่า ความหึงหวงที่ไม่จัดการอาจพาเราไปสู่ทางที่ผิดและทรยศตัวเองในที่สุด เป้าสอนให้เราเรียนรู้ที่จะปล่อยวางและสื่อสารแทนที่จะซ่อนความรู้สึกจนกลายเป็นปัญหาใหญ่
→ นัฐพล วรฉลาด รับบท หมี
หมีคือสมาชิกของ แก๊งโล้นซิ่ง ที่มาร่วมปาร์ตี้ Paradise Seven ในคืนที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา หมีดูเป็นหนุ่มสายโจ๊กที่มาเพื่อความสนุกในปาร์ตี้ แต่เมื่อคดีฆาตกรรมเริ่มขึ้น เค้ากลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ผิง ร่างทรงขี้กลัว และทีมสืบสวนต้องไปตามสืบ นัฐพลเล่นบทนี้ได้แบบมีสีสัน ผสมความกวนและความลึกลับเล็กๆ ทำให้หมีดูเหมือนคนที่อาจรู้บางอย่างเกี่ยวกับคดี ฉากที่หมีถูกทีมสืบสวนสอบถาม หรือตอนที่เค้าสารภาพบางอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์ในปาร์ตี้ คือทั้งลุ้นและแอบฮา เพราะเค้ามักจะพูดอะไรที่ทำให้สถานการณ์วุ่นวายขึ้น การแสดงของนัฐพลทำให้หมีเป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและปมให้เรื่องราว แม้จะไม่ใช่ตัวหลักแต่ก็เด่นในแบบของตัวเอง
ฉายา “โล้นซิ่งสายป่วน”
ฉายานี้เหมาะกับหมีสุดๆ เพราะเค้าเป็นสมาชิกแก๊งโล้นซิ่งที่มากับความกวนและความวุ่นวายในปาร์ตี้ แต่ก็มีส่วนช่วยโยงปมคดีแบบไม่คาดคิด
ข้อคิด บางครั้งคนที่ดูไร้สาระก็มีส่วนสำคัญ
จากคาแร็กเตอร์หมี เราได้ข้อคิดว่า คนที่ดูเหมือนมาเพื่อความสนุกหรือไม่จริงจัง อาจมีบทบาทสำคัญในสถานการณ์คับขัน หมีสอนให้เราเห็นคุณค่าของทุกคนในทีม แม้จะดูเหมือนไม่เด่นก็ตาม
→ เชษฐพล ปัณฑะโชติ รับบท ย้ง
ย้งคือหนึ่งในสมาชิก แก๊งโล้นซิ่ง ที่มาร่วมแจมในปาร์ตี้ Paradise Seven คืนที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา เค้าดูเป็นหนุ่มสายปาร์ตี้ที่มากับความกวนและความสนุก แต่เมื่อคดีฆาตกรรมเริ่มขึ้น ย้งกลายเป็นผู้ต้องสงสัยที่ผิง ร่างทรงขี้กลัว และทีมสืบสวนต้องไปเค้นความจริง เชษฐพลเล่นบทนี้ได้แบบมีพลัง ผสมความกวนปนลึกลับ ทำให้ย้งดูเหมือนคนที่อาจมีส่วนในเหตุการณ์มากกว่าที่เห็น ฉากที่ย้งถูกสอบสวนหรือตอนที่เค้าสารภาพบางอย่างเกี่ยวกับปาร์ตี้คือทั้งตื่นเต้นและแอบฮา เพราะเค้ามักจะพูดอะไรที่ทำให้เรื่องวุ่นวายขึ้นไปอีก การแสดงของเชษฐพลทำให้ย้งเป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและความลุ้นให้คดี แม้จะไม่ใช่ตัวหลักแต่ก็เด่นในสไตล์ของตัวเอง
ฉายา “โล้นซิ่งจอมวุ่น”
ฉายานี้เหมาะกับย้งสุดๆ เพราะเค้าเป็นสมาชิกแก๊งโล้นซิ่งที่มากับความกวนและความวุ่นวายในปาร์ตี้ แต่ก็มีส่วนช่วยโยงปมคดีแบบที่คนดูคาดไม่ถึง
ข้อคิด การเลือกข้างอาจเปลี่ยนเกม
จากคาแร็กเตอร์ย้ง เราได้ข้อคิดว่า การตัดสินใจเลือกข้างหรือทำอะไรในสถานการณ์สำคัญ อาจมีผลต่อเรื่องราวทั้งหมด ย้งสอนให้เราคิดก่อนทำ เพราะการกระทำเล็กๆ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ใหญ่
→ ปฏิณญา กังวานฤทธิ์ รับบท แก๊งโล้นซิ่ง
สมาชิกแก๊งโล้นซิ่งคนนี้คือหนึ่งในหนุ่มๆ จากกลุ่ม แก๊งโล้นซิ่ง ที่โผล่มาร่วมปาร์ตี้ Paradise Seven คืนที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา เค้าดูเป็นสายปาร์ตี้ตัวยง มากับสไตล์กวนๆ และความวุ่นวายที่ทำให้ปาร์ตี้คึกคัก แต่เมื่อคดีฆาตกรรมเริ่มขึ้น เค้ากลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ผิง ร่างทรงขี้กลัว และทีมสืบสวนต้องไปเค้นความจริง ปฏิณญาเล่นบทนี้ได้แบบมีสีสัน ผสมความกวนปนปริศนา ทำให้ตัวละครดูเหมือนรู้บางอย่างเกี่ยวกับคืนนั้น ฉากที่เค้าถูกสอบสวนหรือตอนที่เพิ่มความวุ่นวายให้ทีมสืบสวนคือทั้งฮาและลุ้น การแสดงของปฏิณญาทำให้สมาชิกแก๊งโล้นซิ่งคนนี้เป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและความตื่นเต้นให้คดี แม้จะไม่ใช่ตัวหลักแต่ก็ช่วยให้เรื่องมีมิติมากขึ้น
ฉายา “โล้นซิ่งสายปาร์ตี้”
ฉายานี้เหมาะสุดๆ เพราะเค้าเป็นสมาชิกแก๊งโล้นซิ่งที่มากับพลังปาร์ตี้สุดพีค แต่ก็แอบมีส่วนในปมคดีที่ทำให้ทุกคนต้องจับตาดู
ข้อคิด การอยู่ในกลุ่มต้องรับผิดชอบร่วมกัน
จากคาแร็กเตอร์สมาชิกแก๊งโล้นซิ่ง เราได้ข้อคิดว่า การอยู่ในกลุ่มหรือปาร์ตี้สนุกๆ มากับความรับผิดชอบ ถ้าเราทำอะไรโดยไม่คิด อาจส่งผลต่อคนอื่นได้ เค้าสอนให้เราคิดถึงผลกระทบของการกระทำเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่น
→ วัชรากร สมนา รับบท แก๊งโล้นซิ่ง
สมาชิกแก๊งโล้นซิ่งคนนี้คือหนึ่งในหนุ่มๆ จากกลุ่ม แก๊งโล้นซิ่ง ที่โผล่มาร่วมปาร์ตี้ Paradise Seven คืนที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา เค้าดูเป็นสายปาร์ตี้ที่มากับสไตล์กวนๆ และความวุ่นวายที่ทำให้งานคึกคัก แต่เมื่อคดีฆาตกรรมเริ่มขึ้น เค้ากลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ผิง ร่างทรงขี้กลัว และทีมสืบสวนต้องไปเค้นความจริง วัชรากรเล่นบทนี้ได้แบบมีสีสัน ผสมความกวนปนปริศนา ทำให้ตัวละครดูเหมือนรู้บางอย่างเกี่ยวกับคืนนั้น ฉากที่เค้าถูกสอบสวนหรือตอนที่เพิ่มความวุ่นวายให้ทีมสืบสวนคือทั้งฮาและลุ้น การแสดงของวัชรากรทำให้สมาชิกแก๊งโล้นซิ่งคนนี้เป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและความตื่นเต้นให้คดี แม้จะไม่ใช่ตัวหลักแต่ก็ช่วยให้เรื่องมีมิติมากขึ้น
ฉายา “โล้นซิ่งจอมกวน”
ฉายานี้เหมาะสุดๆ เพราะเค้าเป็นสมาชิกแก๊งโล้นซิ่งที่มากับความกวนและความวุ่นวายในปาร์ตี้ แต่ก็แอบมีส่วนในปมคดีที่ทำให้ทุกคนต้องจับตาดู
ข้อคิด ความกวนอาจซ่อนเบาะแสสำคัญ
จากคาแร็กเตอร์สมาชิกแก๊งโล้นซิ่ง เราได้ข้อคิดว่า คนที่ดูกวนหรือไม่จริงจัง อาจมีข้อมูลสำคัญที่ช่วยคลายปมได้ เค้าสอนให้เราไม่มองข้ามคนที่ดูไร้สาระ เพราะบางครั้งพวกเขากลับเป็นกุญแจสำคัญ
→ ภานุ ตั้งใจ รับบท แก๊งโล้นซิ่ง
สมาชิกแก๊งโล้นซิ่งคนนี้คือหนึ่งในหนุ่มๆ จากกลุ่ม แก๊งโล้นซิ่ง ที่โผล่มาร่วมปาร์ตี้ Paradise Seven คืนที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา เค้าดูเป็นสายปาร์ตี้ตัวยง มากับสไตล์กวนๆ และพลังที่ทำให้งานคึกคัก แต่เมื่อคดีฆาตกรรมเริ่มขึ้น เค้ากลายเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ผิง ร่างทรงขี้กลัว และทีมสืบสวนต้องไปเค้นความจริง ภานุเล่นบทนี้ได้แบบมีสีสัน ผสมความกวนปนลุ้น ทำให้ตัวละครดูเหมือนอาจรู้บางอย่างเกี่ยวกับคืนนั้น ฉากที่เค้าถูกสอบสวนหรือตอนที่เพิ่มความวุ่นวายให้การสืบสวนคือทั้งฮาและน่าติดตาม การแสดงของภานุทำให้สมาชิกแก๊งโล้นซิ่งคนนี้เป็นตัวละครที่เพิ่มความสนุกและปมให้เรื่อง แม้จะไม่ใช่ตัวหลักแต่ก็ช่วยให้คดีมีมิติมากขึ้น
ฉายา “โล้นซิ่งพลังปาร์ตี้”
ฉายานี้เหมาะสุดๆ เพราะเค้าเป็นสมาชิกแก๊งโล้นซิ่งที่มากับพลังปาร์ตี้สุดพีค ช่วยจุดไฟให้งานเดือด แต่ก็แอบมีส่วนในปมคดีที่ทำให้ทุกคนต้องจับตา
ข้อคิด การมีส่วนร่วมต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ
จากคาแร็กเตอร์สมาชิกแก๊งโล้นซิ่ง เราได้ข้อคิดว่า การสนุกและมีส่วนร่วมในกลุ่มมันเจ๋ง แต่ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำด้วย เค้าสอนให้เราคิดถึงผลกระทบของตัวเองในกลุ่ม เพื่อไม่ให้ความสนุกกลายเป็นปัญหา
→ พงศนารถ วินศิริ รับบท เสธอ๊อด (รับเชิญ)

เสธอ๊อดคือตำรวจลับที่โผล่มาช่วยผิง ร่างทรงขี้กลัว ในช่วงไล่ล่าคดีฆาตกรรมปาร์ตี้ Paradise Seven ที่แบม สาวฮอตตัวแม่ ตายปริศนาด้วยพิษแอลกอฮอล์ผสมยา เค้าดูเป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์ คอยปกปิดหลักฐานบางอย่างเพื่อช่วยทีมสืบสวน แต่จริงๆ แล้วมีวาระซ่อนเร้นที่ทำให้เราสงสัย พงศนารถเล่นบทนี้ได้แบบเท่และมีน้ำหนัก แม้จะรับเชิญแต่ทุกฉากที่โผล่มาคือเพิ่มความลุ้น อย่างตอนที่เค้าช่วยคลายปมหรือเผชิญหน้ากับหมวดแดน คือทั้งตื่นเต้นและชวนให้คิดว่า “หมอนี่เล่นเกมอะไรกันแน่” การแสดงของพงศนารถทำให้เสธอ๊อดเป็นตัวละครที่ทั้งน่าเชื่อถือและน่าค้นหา
ฉายา “ตำรวจลับวาระซ่อน”
ฉายานี้เหมาะกับเสธอ๊อดสุดๆ เพราะเค้าเป็นตำรวจลับที่โผล่มาช่วยแต่แอบมีวาระส่วนตัวซ่อนไว้ เป็นตัวละครรับเชิญที่เพิ่มความเซอร์ไพรส์ให้คดีท้ายเรื่อง
ข้อคิด การปกปิดอาจนำไปสู่ความจริงที่ซับซ้อน
จากคาแร็กเตอร์เสธอ๊อด เราได้ข้อคิดว่า การปกปิดข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ดีๆ อาจทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้น เสธอ๊อดสอนให้เราเลือกทางที่โปร่งใส แม้จะยากกว่า เพราะความจริงที่ชัดเจนจะช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า
ข้อคิดเจ๋งๆ จากละครสุดปัง ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery ปี 2568 ละครนี้คือผสมคอมเมดี้ สืบสวน และแฟนตาซี มีผีเมาแฮงค์ ปาร์ตี้วายป่วง และปมฆาตกรรมที่ลุ้นจนใจเต้น แต่ไม่ใช่แค่สนุกนะ เรื่องนี้ยังทิ้งข้อคิดดีๆ ที่ทำให้เราอยากเอาไปใช้ในชีวิตจริง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ความจริงใจคือกุญแจของมิตรภาพ
จากเรื่องราวของผิง แบม และก๊วนเพื่อนในปาร์ตี้ Paradise Seven เราเห็นว่าความลับและการไม่เปิดใจอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและโศกนาฏกรรม อย่างปมของแบมที่ตายเพราะความขัดแย้งที่เก็บไว้ ข้อคิดคือ ถ้าเราเปิดใจคุยกันตรงๆ กับเพื่อน ต่อให้มีปัญหาก็แก้ได้ง่ายขึ้น อย่าปล่อยให้ความเงียบทำร้ายมิตรภาพนะ
ความกลัวไม่ใช่กำแพงถ้าใจพร้อมสู้
ผิง ร่างทรงที่กลัวผีสุดๆ แต่ต้องช่วยวิญญาณแบมสืบคดี สอนเราว่าถึงจะกลัวแค่ไหน ถ้ามีเป้าหมายและใจสู้ เราก็ฝ่าฟันได้ ข้อคิดนี้คือให้ลองก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ แล้วจะพบว่าเราทำได้มากกว่าที่คิด
ความสนุกต้องมาพร้อมสติ
ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงที่จบด้วยศพของแบมแสดงให้เห็นว่าการสนุกสุดขีดโดยขาดสติอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ร้ายแรง ข้อคิดคือ enjoy ชีวิตให้เต็มที่ แต่ต้องรู้ลิมิตและระวังตัว ไม่ให้ความเมามายหรือความคึกคะนองพาไปสู่ปัญหา
ทุกคนมีเรื่องราวที่ซ่อนอยู่
ตัวละครอย่างปีย์ เต้อ จ๊อก หรือแม้แต่เป้า ต่างมีปมในอดีตที่ค่อยๆ เผยออกมา ทำให้เราเห็นว่าไม่มีใครเป็นแค่เปลือกนอก ข้อคิดคืออย่าตัดสินคนจากสิ่งที่เห็นตรงหน้า ลองฟังและเข้าใจเรื่องราวของพวกเขา เพราะทุกคนมีมิติที่ลึกกว่าที่คิด
การให้อภัยคือทางออกของความแค้น
จากความขัดแย้งในอดีตของตัวละครอย่างเฮียอ๋าหรือเสก เราเห็นว่าการเก็บความแค้นไว้ในใจอาจนำไปสู่ทางตัน ข้อคิดคือการให้อภัยทั้งตัวเองและผู้อื่นช่วยให้เราเดินหน้าต่อได้ และทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น
นี่คือข้อคิดเด็ดๆ จาก ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery ที่ทำให้เราได้ทั้งความสนุกและแง่คิดดีๆ อยากสัมผัสความปังของละครนี้ ไปย้อนดูทั้ง 8 ตอนได้ที่แอป oneD หรือ YouTube ช่อง one31 เลย
ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery ภาค 2 ละครสุดปังจากช่องวัน 31 ปี 2568 ภาคแรกคือผสมคอมเมดี้ สืบสวน แฟนตาซี มีผีเมาแฮงค์ ปาร์ตี้วายป่วง และปมฆาตกรรมที่ลุ้นจนใจเต้น ถ้ามีภาค 2 จะเป็นยังไงน้า
ปาร์ตี้ลับในโรงแรมร้าง
เรื่องราวเริ่มต้นหนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์ปาร์ตี้ Paradise Seven ที่จบด้วยการคลายปมฆาตกรรมของแบม ผิง (อิงฟ้า วราหะ) ยังคงเป็นร่างทรงสาวที่กลัวผี แต่เริ่มมั่นใจในพลังของตัวเองมากขึ้น เธอถูกชวนให้ไปงานปาร์ตี้ลับใน โรงแรมร้างสุดหลอน ที่ชื่อว่า Midnight Mirage ซึ่งจัดโดยกลุ่มเพื่อนเก่าของปีย์ (ภรภัทร ศรีขจรเดชา) ที่หวังฉลองการกลับมารวมตัวของก๊วนเดิมอย่างเต้อ (ศรัณย์ นราประเสริฐกุล), จ๊อก (ชลวิทย์ มีทองคำ), และดุ๋ง (สุภทัต โอภาส) แต่คราวนี้มีแขกใหม่เข้ามาเพิ่ม: มิว สาวปริศนาที่ดูเหมือนรู้จักทุกคนในกลุ่ม และ หมวดแดน (รชตะ หัมพานนท์) ที่แอบตามมาสืบเพราะได้กลิ่นคดีแปลกๆ
ปาร์ตี้เริ่มด้วยความสนุก ดนตรี EDM กระหึ่ม เครื่องดื่มไหลมาเทมา แต่ทุกอย่างพังทลายเมื่อ มิว ถูกพบเป็นศพในสระว่ายน้ำร้างของโรงแรม ด้วยรอยยิ้มแปลกๆ และรอยสักลึกลับที่ข้อมือ และที่แย่กว่านั้นคือ ทุกคนในงานเมาอีกแล้ว จำไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
ความวายป่วง ผีมิวป่วนหนักกว่าเดิม
ผิงพยายามใช้พลังร่างทรงสื่อสารกับวิญญาณของมิว แต่เจอปัญหาใหญ่ เพราะมิวในร่างผีคือ ผีสายปาร์ตี้สุดแซ่บ ที่ไม่เพียงเมาค้าง แต่ยังจำอดีตของตัวเองได้แค่ครึ่งๆ ค่อนๆ แถมชอบโผล่มาเต้นท่ามกลางการสืบสวน หรือร้องเพลงป๊อปยุค 90s แบบงงๆ ผิงเลยต้องกลั้นใจรับมือทั้งความกลัวผีและความป่วนของมิว ขณะที่หมวดแดนเริ่มสงสัยว่าคดีนี้เชื่อมโยงกับ ยาพิษลึกลับ จากภาคแรก ที่ครูฌาน (ปราโมช แสงศร) เคยพูดถึง
ทีมก๊วนเพื่อนทั้งปีย์ เต้อ จ๊อก และดุ๋ง ต้องกลับมารวมตัวสืบคดีอีกครั้ง แต่คราวนี้ปมซับซ้อนขึ้นเมื่อมี เสธอ๊อด (พงศนารถ วินศิริ) กลับมาในฐานะหัวหน้าหน่วยลับที่ดูเหมือนรู้เรื่องโรงแรมร้างนี้มากเกินไป และยังมี เป้า (อรุณพงศ์ นราพันธ์) ที่รอดจากคดีแรกและโผล่มาแก้แค้น พร้อมตัวละครใหม่ ลิน เพื่อนสนิทของมิวที่ดูเหมือนจะซ่อนความลับใหญ่
ปมและหักมุม
การตายของมิวเกี่ยวข้องกับยาพิษสูตรใหม่ที่พัฒนาจากสูตรเก่าของครูฌาน และโรงแรม Midnight Mirage อาจเป็นที่ทดลองยาพิษนี้ในอดีต ปีย์เคยมีความสัมพันธ์ลับๆ กับมิวในอดีต ทำให้เค้ากลายเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก และต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกผิดในใจ วิญญาณของแบม (ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์) โผล่มาเป็นแขกรับเชิญในฝันของผิง เพื่อให้เบาะแสเกี่ยวกับยาพิษ แต่ก็ยังเมาค้างเหมือนเดิม 555
หักมุมตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังคดีไม่ใช่คนในปาร์ตี้ แต่เป็นบุคคลลึกลับที่เชื่อมโยงกับเฮียอ๋า (องอาจ เจียมเจริญพรกุล) และแก๊งโล้นซิ่ง ที่วางแผนใช้ปาร์ตี้เป็นเหยื่อล่อ
ภาค 2 ยังคงความคอมเมดี้ด้วยฉากที่ผิงกรี๊ดเจอผีมิว หรือเต้อกับดุ๋งที่ป่วนจนคดีเกือบพัง แต่เพิ่มความเข้มข้นด้วยดราม่าความสัมพันธ์ เช่น ความรักที่เริ่มก่อตัวระหว่างผิงและหมวดแดน หรือปมในใจของปีย์ที่ต้องจัดการกับอดีต ฉากปาร์ตี้ในโรงแรมร้างจะเต็มไปด้วยแสงสีสไตล์หลอนๆ และเพลง EDM ใหม่ๆ ที่ติดหูแน่นอน
ในตอนท้าย ผิงและทีมสามารถคลายปมฆาตกรรมของมิวได้ แต่พบว่ายาพิษนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่ที่ยังไม่จบ ทีมตัดสินใจรวมตัวจัด ปาร์ตี้ครั้งสุดท้าย เพื่อล่อตัวการออกมา โดยมีผีมิวและผีแบมมาช่วยป่วนแบบคู่ซี้ ปิดท้ายด้วยฉากซึ้งๆ ที่ทุกคนให้อภัยกันและสัญญาจะไม่เมาจนลืมตัวอีก ปล่อยให้มีช่องสำหรับภาค 3 ในอนาคต
เรื่องลึกลับในกองถ่าย ฆาตกรรมจำไม่ได้ The Tipsy Mystery ปี 2568 จากช่องวัน 31 ละครนี้คือเดือดมาก ผสมคอมเมดี้ สืบสวน และแฟนตาซี มีผีเมาแฮงค์ ปาร์ตี้วายป่วง และปมฆาตกรรมที่ลุ้นสุดๆ แต่ทีมงานกองถ่ายเกิดเรื่องลึกลับในกอง
กองถ่ายที่ตั้งอยู่ในโกดังเก่าแถบชานเมืองกรุงเทพฯ ทีมงานกำลังเซ็ตฉากปาร์ตี้ Paradise Seven สุดเหวี่ยง แสงสีจัดเต็ม ดนตรี EDM กระหึ่ม และพร็อพขวดเหล้าปลอมวางเกลื่อน แต่ระหว่างที่ทีมตากล้องกำลังปรับมุมกล้องเพื่อถ่ายฉากที่ทุกคนเมาจนจำอะไรไม่ได้ ตั้ม ผู้กำกับภาพ (DOP) สังเกตเห็นเงาคนในจอมอนิเตอร์ที่กล้องจับภาพได้ เงานั้นยืนนิ่งอยู่มุมฉากใกล้บาร์ แต่เมื่อหันไปดูด้วยตาเปล่า กลับไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
ตั้มคิดว่าเป็นแค่แสงสะท้อนจากสปอตไลต์ เลยให้ น้องมิ้นต์ ผู้ช่วยกล้องไปเช็ค แต่ทุกอย่างปกติ ไม่มีอะไรผิดแปลก ทีมงานเลยถ่ายต่อ แต่พอถึงตอนตัดต่อ พี่โจ ตัดต่อฟุตเทจ กลับพบว่าเงาคนนั้นปรากฏในทุกช็อตของฉากปาร์ตี้ เป็นผู้ชายใส่เสื้อทีมงานเก่าๆ ที่ไม่มีใครในกองรู้จัก พี่โจถึงกับหยุดตัดต่อแล้วเรียก ป้าติ๋ม ผู้จัดการกองมาดู ป้าติ๋มบอกว่า “อาจจะเป็นทีมงานเก่าที่เคยทำในโกดังนี้” แต่สิ่งที่หลอนคือเมื่อเช็คฟุตเทจย้อนหลัง เงาคนนั้นเริ่มขยับ เดินช้าๆ ไปรอบๆ ฉาก แล้วหยุดยืนมองกล้องแบบนิ่งๆ
เรื่องยิ่งแปลกเมื่อ ลุงแดง ทีมไฟ สังเกตว่าไฟสปอตไลต์ในกองดันติดๆ ดับๆ เองในช่วงถ่ายฉากผีเมาแฮงค์ โดยเฉพาะตอนที่ทีมต้องเซ็ตแสงให้ดูหลอนๆ ลุงแดงลองเช็คสายไฟและระบบ แต่ทุกอย่างปกติ จนทีมงานเริ่มลือกันว่าโกดังนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายละครแนวสยองขวัญมาก่อน และมีทีมงานเก่าคนหนึ่งที่เคยเกิดอุบัติเหตุในกองถ่ายเมื่อหลายปีก่อน
ความหลอนพีคสุดเมื่อ เจ๊หน่อย ทีมออกแบบฉาก พบว่าพร็อพขวดเหล้าปลอมที่วางไว้ในฉากปาร์ตี้ถูกจัดเรียงใหม่เป็นวงกลมทุกคืนหลังเลิกกอง ราวกับมีคนมาจัดเพื่อเลียนแบบพิธีบางอย่าง เจ๊หน่อยถึงกับตั้งกล้องวงจรปิดส่วนตัวไว้ในกอง แต่ภาพที่ได้กลับเห็นแค่เงาคนเลือนๆ เดินวนรอบขวดเหล้า แล้วหายไปตอนตีสามเป๊ะ ทีมงานเริ่มกลัว แต่ ตั้ม และ ป้าติ๋ม ตัดสินใจทำบุญเล็กๆ ในกองถ่าย หวังให้ทุกอย่างสงบ
หลังทำบุญ เงาคนนั้นหายไปจากฟุตเทจ แต่ทีมงานสังเกตว่าฟุตเทจบางส่วนที่เคยมีปัญหากลับสมบูรณ์ขึ้นเอง ราวกับมีคนช่วยตัดต่อให้ เรื่องนี้กลายเป็นตำนานในกองถ่าย ทีมงานแซวกันว่า “ผีทีมงานเก่าคงอยากช่วยให้ละครปัง” และสุดท้ายละครก็เรตติ้งพุ่งจริงๆ แต่ทุกคนในกองยังคงระแวงทุกครั้งที่ต้องถ่ายฉากกลางคืนในโกดังนี้
หลังจากทีมงานทำบุญเล็กๆ ในกองถ่ายที่โกดังเก่าแถบชานเมืองกรุงเทพฯ เพื่อหวังให้เงาปริศนาในจอมอนิเตอร์และเหตุการณ์ขวดเหล้าถูกจัดเป็นวงกลมหายไป ทุกอย่างดูเหมือนจะสงบลง ตั้ม ผู้กำกับภาพ (DOP) และ ป้าติ๋ม ผู้จัดการกอง เริ่มโล่งใจ คิดว่ากองถ่ายจะกลับมาปกติ แต่ความหลอนยังไม่จบ เพราะเรื่องแปลกใหม่เริ่มเกิดขึ้นในคืนที่ทีมต้องถ่ายฉาก Paradise Seven รอบสุดท้าย ซึ่งเป็นฉากที่ทุกคนเมาจนจำอะไรไม่ได้
น้องมิ้นต์ ผู้ช่วยกล้อง สังเกตเห็นสมุดบันทึกของ พี่โจ ทีมตัดต่อ ที่วางไว้บนโต๊ะควบคุม เริ่มมีตัวอักษรเขียนเองในหน้ากระดาษ สมุดเล่มนี้พี่โจใช้จดตารางตัดต่อและโน้ตเกี่ยวกับฟุตเทจ แต่ตอนที่มิ้นต์แอบเปิดดู เธอเห็นข้อความเขียนด้วยลายมือแปลกๆ ว่า “มองที่แสง มันซ่อนความจริง” และมีรอยขีดเขียนเป็นสัญลักษณ์เหมือนขวดเหล้าถูกวางเป็นวงกลม มิ้นต์ตกใจแต่ไม่กล้าบอกใคร เลยแอบถ่ายรูปส่งให้ เจ๊หน่อย ทีมออกแบบฉาก ดู
เจ๊หน่อยถึงกับขนลุก เพราะลายมือในสมุดไม่เหมือนของพี่โจเลย และที่แปลกกว่านั้นคือสมุดเล่มนี้ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักที่ล็อกทุกคืน แต่ข้อความใหม่ๆ ดันโผล่มาในหน้าใหม่ทุกวัน คืนหนึ่ง ข้อความเขียนว่า “ไฟจะนำทาง” ซึ่งตรงกับฉากที่ ลุงแดง ทีมไฟ กำลังเซ็ตสปอตไลต์ให้เกิดเงาลึกลับในฉากผีเมาแฮงค์ ลุงแดงเล่าว่าตอนปรับไฟ เขารู้สึกเหมือนมีลมเย็นพัดผ่าน แม้ว่าจะไม่มีหน้าต่างในโกดัง และไฟบางดวงก็กระพริบในจังหวะที่เหมือนส่งรหัสมอร์ส
ทีมงานเริ่มสงสัยว่าโกดังนี้มีอะไรแปลกๆ มากกว่าที่คิด ป้าติ๋ม ตัดสินใจขุดประวัติโกดัง แล้วพบว่ามันเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำละครแนวสยองขวัญเมื่อ 20 ปีก่อน และมีทีมไฟเก่าชื่อ ลุงชัย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไฟช็อตในกองถ่าย ป้าติ๋มเล่าให้ทีมฟังแบบติดตลกว่า “ลุงชัยคงอยากช่วยเซ็ตไฟให้ปัง” แต่ทุกคนก็ยังกลัวๆ กล้าๆ โดยเฉพาะเมื่อ ตั้ม พบว่าในฟุตเทจที่ถ่ายตอนกลางคืน มีแสงจากสปอตไลต์สะท้อนเป็นรูปเงาคนยืนชี้ไปที่มุมหนึ่งของฉาก ซึ่งเป็นจุดที่ทีมงานไม่เคยวางไฟมาก่อน
สิ่งที่หลอนสุดคือเมื่อ พี่โจ เปิดสมุดบันทึกในคืนสุดท้ายของการถ่ายทำ พบข้อความสุดท้ายว่า “ความจริงอยู่ในเงา ขอบคุณที่ทำให้งานปัง” และหลังจากนั้น สมุดเล่มนั้นก็ไม่มีอะไรเขียนเพิ่มอีกเลย ทีมตัดต่อยังพบว่าฟุตเทจบางส่วนที่เคยมีปัญหา เช่น แสงมืดเกินไปหรือมุมกล้องเบลอ ดันถูกปรับแก้ให้สมบูรณ์แบบราวกับมีคนช่วยจัดการในระบบตัดต่อโดยไม่มีใครแตะคอม
หลังถ่ายทำเสร็จ ทีมงานตัดสินใจตั้งโต๊ะเล็กๆ วางขวดเหล้าปลอมจากฉากไว้เป็นของเซ่นไหว้ แซวกันว่า “ให้ลุงชัยได้ปาร์ตี้ในโลกหน้า” และแปลกมากที่หลังจากนั้น โกดังกลับเงียบสงบ ไม่มีเหตุการณ์แปลกๆ อีก ละครออกฉายแล้วเรตติ้งพุ่งกระฉูด ทีมงานแซวกันว่าต้องขอบคุณ “ผีทีมงานลึกลับ” ที่ช่วยให้งานออกมาปัง ตำนานนี้กลายเป็นเรื่องเล่าขนลุกในวงการกองถ่าย และโกดังนี้ก็กลายเป็นสถานที่ที่ทีมงานทั้งรักทั้งกลัว