ละคร อุทัยเทวี 2560 (EP.1-26 ตอนจบ) HD END

ณ เมืองบาดาล ธิดาพญานาคตนหนึ่งต้องการอยากจะออกมาพบเจอกลับโลกภายนอก จึงแอบหนีมาเที่ยวยังเมืองมนุษย์ และได้เกิดพบรักกับรุกขเทวดารูปงามที่สิงสถิตอยู่ ณ ต้นไม้ริมสระน้ำ ด้วยความรักที่มีให้แก่กัน ธิดาพญานาคจึงได้ตั้งครรภ์และคลอดลูกออกมาเป็นไข่หนึ่งฟอง นางได้ใช้จึงสไบห่อไข่และพ่นพิษคุ้มครองไข่เอาไว้ก่อนจะกลับลงสู่เมืองบาดาลดังเดิม และหวังว่าลูกของตนจะปลอดภัยจากอันตรายทุกประการแต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ไข่ก็ฝักเป็นเด็กน้อยออกมา แต่ระหว่างที่เด็กน้อยกำลังจะลืมตาดูโลก บังเอิญมีนางคางคกผ่านมาเห็น และแอบกินไข่จนตายด้วยพิษของนางพญานาค เด็กหญิงที่เพิ่งเกิดลืมตามาเห็นนางคางคกก็คิดเอาเองว่านางคางคกเป็นแม่ของตน จึงได้อาศัยอยู่ในซากคางคกเน่าๆนั้นต่อไป จนกระทั่ง มีตายายคู่หนึ่งบังเอิญผ่านมาเห็นเด็กน้อย ก็เข้าช่วยเหลือเลี้ยงดูด้วยความสงสาร และตั้งชื่อให้ว่า “อุทัยเทวี”

ละคร เทพสามฤดู 2560 (EP.1-26 ตอนจบ) HD END

ณ นครอุดม มีท้าวตรีภพเป็นเจ้าผู้ครองเมือง มีพระมเหสี 2 พระองค์ แต่ยังไม่มีพระราชบุตรเพื่อสืบสันตติวงศ์ จึงได้ทำพิธีบวงสรวงต่อพระอิศวรเพื่อขอพระโอรส เมื่อพระอิศวรรับทราบด้วยญาณแล้ว จึงได้ให้ พระพิรุณมาเฝ้า เพื่อเตรียมจุติลงไปยังเมืองมนุษย์ แต่ทว่าพระราหูและนางจินดาเมขลาต้องการเสด็จลงไปด้วย จึงได้ปรึกษากัน โดยฤดูร้อนจะเป็นพระราหู ฤดูฝนเป็นพระพิรุณ ฤดูหนาวเป็นนางจินดาเมขลา

ละคร พระสุธน-มโนห์รา 2563 (EP.1-52 ตอนจบ) HD END

มโนห์รา เป็นธิดาองค์เล็กของท้าวทุมราชผู้เป็นพระยากินนร รูปร่างหน้าตาของพวกเขาเหมือนมนุษย์แต่มีปีกและหางที่ถอดออกได้ นางมโนห์ราและพี่น้องทั้งหกได้ไปเล่นน้ำที่สระน้ำอโนดาต เจอพรานบุญที่ต้องการจับตัวนางกินรี พรานบุญได้จับนางมโนห์ราไปถวายแค่พระสุธน พระสุธนเห็นเข้าก็เกิดหลงรักนางและพานางกลับเมือง และได้อภิเษกกัน

หญิงสาวชาวบ้านเมืองมิถิลา ที่มีใบหน้าเหมือนม้า แต่จิตใจดีงาม ได้ตกหลุมรักลูกชายของกษัตริย์

เรื่องราวของนางแก้วมณีอดีตนางฟ้าบนสวรรค์ที่ถูกสาปให้มาเกิดเป็นหญิงสาวชาวบ้านที่มีใบหน้าเป็นม้า วันหนึ่งพระปิ่นทองพระโอรสของท้าวภูวดลแห่งเมืองมิถิลาได้ออกมาเล่นว่าวด้านนอกพระราชวัง ว่าวพระปิ่นทองเกิดสายป่านขาดลอยไปตกที่ทุ่งนา นางแก้วมณีเห็นจึง เก็บกลับไปไว้ที่บ้าน เมื่อพระปิ่นทองมาขอว่าวคืนนางแก้วได้ขอให้พระปิ่นทองรับตนเองไปเป็นพระมเหสี ด้วยความอยากได้ว่าวคืนพระปิ่นทองจึงตกปากรับคำไปส่งเดช จนในที่สุดนางแก้วมณีก็ได้เข้าไปอยู่ในวังแต่ก็ต้องถูกกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา โดยท้าวภูวดลให้นางแก้วมณีไปตัดเขาพระสุเมรุ ระหว่างทางก็ได้พระฤๅษีช่วยและพระฤๅษีนี้เองเป็นผู้ที่ถอดหน้าม้าและมอบเรือเหาะกับมีดโต้วิเศษไว้ให้ เมื่อได้เขาพระสุเมรุกลับมาท้าวภูวดลสั่งให้พระปิ่นทองเดินทางไปยังเมืองโรมวิถีเพื่ออภิเษกกับเจ้าหญิงทัศมาลี และพระปิ่นทองยังยื่นคำขาดว่าหากกลับมา นางแก้วมณียังไม่มีลูกกับพระองค์ก็จะให้นำตัวไปประหารเสีย

ละคร นางสิบสอง 2562 (EP.1-63 ตอนจบ) END พ่อแม่ยากจนเข็ญใจพาลูกสาว 12 คนไปปล่อยป่า นางยักษ์มาพบ จึงไปเลี้ยงจนโต พอนางสิบสองนางรู้ความจริงว่าเป็นยักษ์ จึงคิดหนีโดยหนีไป

นางสิบสอง เป็นนิทานที่สืบต่อกันมาเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กสิบสองคนที่ต้องผจญภัยในที่ต่าง ๆ เนื่องจาก นนท์และภรรยาของเขาชื่อ พราหมณี ด้วยความที่ลูกเยอะฐานะทางบ้านจึงค่อย ๆ ตกต่ำลง เงินทองที่เก็บไว้ก็หายไปหมดเนื่องจากต้องเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสิบสองคน พ่อของนางสิบสองก็ได้คิดอุบายว่าจะนำลูก ๆ ทั้งสิบสองคนไปปล่อยป่า

ละคร ขวานฟ้าหน้าดำ 2562 (EP.1-37 ตอนจบ) END เทพที่ทำผิดกฎสวรรค์ จึงถูกพระอินทร์ใช้ให้พระอาทิตย์ไปปราบ และสาปให้เกิดบนโลกมนุษย์เพื่อให้ทำความดีชดใช้กรรมชั่วที่ก่อ โดยยังคงมีใบหน้าดำไหม้ติดตัวเพื่อชดใช้กรรม

เรื่องราวเกี่ยวกับชะตากรรมของ “สุทธาเทพ” เทวดาชั้นผู้น้อยซึ่งทำหน้าที่ล้างเท้าให้แก่บรรดาเทวดาผู้มาเข้าเฝ้าพระอิศวรและถูกกลั่นแกล้งเป็นประจำ พระอิศวรจึงได้ประทานขวานฟ้าให้สุทธาเทพใช้เป็นอาวุธป้องกันตัว ทว่าสุทธาเทพกลับใช้อาวุธดังกล่าวเพื่อล้างแค้นและข่มเหงรังแกเทวดาองค์อื่นที่ไม่ยอมสยบต่อตนเอง พระอินทร์ในฐานะผู้ดูแลสรวงสวรรค์จึงใช้ให้พระอาทิตย์ไปปราบสุทธาเทพจนสุทธาเทพพ่ายแพ้และได้รับแผลไหม้เกรียมที่ใบหน้า จากนั้นพระอินทร์จึงสาปซ้ำให้สุทธาเทพจุติลงไปเกิดบนโลกมนุษย์โดยที่ยังคงมีใบหน้าดำไหม้ติดตัวเพื่อชดใช้กรรม ต่อเมื่อทำความดีจนเป็นที่ประจักษ์แล้วเท่านั้นจึงจะกลับมามีใบหน้าปกติตามเดิมและได้ขวานฟ้ากลับคืนไปเป็นสิทธิ์ของตนเองโดยสมบูรณ์

ละครพื้นบ้าน ปลาบู่ทอง 2537 (EP.1-49 ตอนจบ) END เด็กสาวชาวบ้านผู้มีใจเมตตาได้แต่งงานกับกษัตริย์

เรื่องปลาบู่ทองเริ่มขึ้นโดยเศรษฐีทารก (อ่านว่า ทา-ระ-กะ) ผู้มีอาชีพจับปลามีภรรยา 2 คน คนแรกชื่อขนิษฐา มีลูกสาวชื่อ เอื้อย ส่วนคนที่สองชื่อ ขนิษฐี มีลูกสาวชื่อ อ้าย และ อี่

วันหนึ่งเศรษฐีทารกพาขนิษฐาไปจับปลาในคลอง ไม่ว่าจะเหวี่ยงแหไปกี่ครั้งก็ได้มาเพียงปลาบู่ทองที่ตั้งท้องตัวเดียวเท่านั้น จนกระทั่งพลบค่ำเศรษฐีก็ตัดสินใจที่จะเอาปลาบู่ทองที่จับได้เพียงตัวเดียวกลับบ้าน ทว่าขนิษฐาผู้เป็นภรรยาเกิดความสงสารปลาบู่ ขอให้เศรษฐีปล่อยปลาไป เศรษฐีทารกเกิดบันดาลโทสะจึงฟาดนางขนิษฐาจนตายและทิ้งศพลงคลอง

เมื่อกลับถึงบ้านเอื้อยก็ถามหาแม่ เศรษฐีจึงตอบไปว่าแม่ของเอื้อยได้หนีตามผู้ชายไป และจะไม่กลับมาบ้านอีกแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นขนิษฐีผู้เป็นแม่เลี้ยงของเอื้อย และอี่กับอ้ายน้องสาวทั้งสองก็กลั่นแกล้งใช้งานเอื้อยเป็นประจำโดยที่เศรษฐีทารกทำเป็นไม่รับรู้และไม่สนใจ

เอื้อยคิดถึงแม่มากจึงมักไปนั่งร้องไห้อยู่ริมท่าน้ำ และได้พบกับปลาบู่ทองซึ่งเป็นนางขนิษฐากลับชาติมาเกิด เมื่อเอื้อยรู้ว่าปลาบู่ทองเป็นแม่ของตนก็ได้นำข้าวสวยและรำมาโปรยให้ปลาบู่ทองกิน และมาปรับทุกข์ให้ปลาบู่ทองฟังทุกวัน

นางขนิษฐีและลูกสาวเห็นเอื้อยดูมีความสุขขึ้น เมื่อถูกกลั่นแกล้งก็อดทนไม่ปริปากบ่นจึงไปแอบสืบจนพบว่านางขนิษฐาได้มาเกิดเป็นปลาบู่ทอง และได้พบกับเอื้อยทุกวัน ดังนั้นเมื่อเอื้อยกำลังทำงานนางขนิษฐีก็ไปจับปลาบู่ทองมาทำอาหารและขอดเกล็ดทิ้งไว้ในครัว