หมวดหมู่: ละครแนวอิจฉา / ริษยา / แก่งแย่งชิงดี

ขึ้นชื่อว่าสงคราม ไม่เคยมีใครมีความสุขได้อย่างแท้จริง แม้แต่…’ผู้ชนะ’ เอริน (แพนเค้ก เขมนิจ) เข้ามาในบ้านเลิศวราในฐานะภรรยาของอะคร้าว (แจ๊บ เพ็ญเพ็ชร) แต่ดูเหมือนว่าคนในบ้านนี้จะไม่ต้อนรับเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อังกาบ(ดาว ดวงดาว) แม่ของอะคร้าวที่ดูไม่ชอบใจสะใภ้คนนี้เป็นอย่างมาก เอรินจะต้องพิสูจน์ว่าเธอนั้นพร้อมจะต่อสู้เพื่อคนที่เธอรักได้มากแค่ไหน

“ผู้หญิงที่มีมากผัว เธอจะถูกตราหน้าว่าเป็นอีกากี” ตลับ ทาสที่ถูกเจ้านายอย่างมนัสขืนใจ เป็นเหตุให้ธารทิพย์เมียของมนัสเกลียดเธอจนฆ่าลูกของตลับตาย ตลับแค้นใจจึงสลับลูกสาวของธารทิพย์กับลูกสาวของญาติเธอและวางแผนร้าย

เมื่อสูญเสียพ่อผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว ชีวิตของ แววดาว (กัญญา รัตนเพ็ชร์) และ แววเดือน (ศรัณย่า ชุณหศาสตร์) สองพี่น้องก็เปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่เลือกเส้นทางชีวิตที่ต่างกัน
แววดาวหลงระเริงในวงการบันเทิงจนหลงลืมกำพืดตัวเอง ส่วนแววเดือนสานต่องานรับเหมาก่อสร้างของพ่อและทำงานหาเงินอย่างหนักเพื่อมารักษาแม่ที่ป่วยหนัก
เส้นทางของทั้งคู่มาบรรจบกันอีกครั้งเมื่อต่างชอบพอ พฤกษ์ (พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์) นักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกล แต่พฤกษ์กลับชื่นชมในความใจสู้ของแววเดือนจึงมอบหัวใจรักให้ ทำให้ชีวิตของแววดาวยิ่งเหลวแหลก เธอทำได้แม้กระทั่งทำร้ายน้องสาวตัวเอง
แต่ท้ายที่สุด แววดาวก็ต้องไปชดใช้กรรมในคุก ผิดกับแววเดือนที่ประสบความสำเร็จและมีพฤกษ์คอยเป็นแรงใจ

ละคร ไฟสิ้นเชื้อ 2563 ละครแนวดราม่าเข้มข้น ที่สะท้อนความรัก ความแค้น และการแก้แค้น เรื่องราวเริ่มต้นจากการทรยศหักหลัง เมื่อ “อรวี” ถูกสามีที่รักอย่าง “ธาร” หักหลังไปมีความสัมพันธ์กับ “วิชุดา” พี่สาวต่างแม่ที่กลับมาเพื่อแก้แค้น ความเจ็บปวดและความแค้นทำให้ชีวิตของอรวีเปลี่ยนไปตลอดกาล

เนื้อเรื่องที่นำเสนอเกี่ยวกับไฟสวาท เสน่หา และราคะ เรื่องราวบ้านเมืองกำลังเร่งพัฒนาและเปิดรับอารยธรรมจากต่างชาติ ผู้คนในราชสำนักนำความศิวิไลซ์เข้ามาประยุกต์กับความเป็นอยู่ดั้งเดิม ความเจริญนำมาซึ่งการแข่งขัน ชายหนุ่มในวัยฉกรรจ์อยากเข้ารับราชการ ส่วนสตรีล้วนอยากแต่งงานกับชายหนุ่มที่มีหน้าที่การงานดีและได้รับการยกย่องให้เป็นเมียเอก ทว่าในยุคที่ผู้ชายมีภรรยาได้หลายคน การแก่งแย่งเพื่อให้ได้เป็นหนึ่งในใจสามีจึงมีให้เห็นไปทั่ว ไม่เว้นแม้แต่เรือนหอหลังงามของ ขุนราม ศรีจันทร์, พวงทอง และบุหลัน ทั้งสามเป็นเพื่อนรักกัน มีความงามคนละแบบ หลงรักผู้ชายคนเดียวกันคือขุนราม

หมอไสย์เสกของดำใส่ในตัวระพี ทำให้ระพีเป็นบ้า ไม่มีสติ ขุนไวเฝ้าดูแลด้วยความเป็นห่วง รำพึงแค้นที่หมอไสย์พ่อแท้ ๆ ของระพีทำร้ายลูกตัวเอง ตั้งใจคิดบัญชีแค้นครั้งนี้อีก ขุนไวเพิ่งรู้ว่าขุนพิทักษ์และชุ่มยังไม่ตาย รำพึงก็ยังไม่หยุดแค้นขุนพิทักษ์และชุ่ม บ่วงรักบ่วงกรรม ที่พันผูกกันมายังไม่จบสิ้น

ภายใต้หน้ากากของความเจริญรุ่งเรืองแท้จริงแล้ว โรงทอแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยด้านมืดของบรรดาลูกสะใภ้ สไบ (นุ้ย สุจิรา) และ พิกุล (ไอซ์ อภิษฎา) ภรรยาทั้งสองของหย่งเจี้ยน ที่หวังจะโค่นอำนาจจากเหม่ยซือ อีกทั้งหย่งเจี้ยนยังคอยเอารัดเอาเปรียบหย่งชาง น้องชายต่างมารดา จนทำให้ เซี้ยะ (เชียร์ ฑิฆัมพร) เมียของหย่งชางทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมาทวงความยุติธรรมให้กับสามี

ผ่านเวลาบุหงาตั้งท้องสมใจ ยิ่งทำให้นายแสนรักและเห่อลูกในท้องของบุหงามากขึ้น บุหงาใช้มารยา ดึงนายแสนให้อยู่กับตนตลอดเวลา ซ้ำยังคอยพูดจาถากถางนางแก้วให้ช้ำใจ ที่นายแสนไม่เหลียวแล บุหงาตั้งความหวังว่าลูกในท้องต้องเป็นผู้ชายแน่ ๆ นานวันบุหงา ยิ่งท้องใหญ่เทอะทะ นายแสนจากที่เคย เห่อลูกในท้องของบุหงาก็เริ่มที่จะเบื่อหน่าย นายแสนจึงกลับไปหาดวงแก้วที่เรือนใหญ่ เมื่อมีงานที่ไหน ก็มักจะพานางแก้วออกงานแทน สร้างความไม่พอใจให้แก่บุหงาเป็นอย่างยิ่ง