ละคร สูตรเสน่หา 2552 ซูเปอร์สตาร์สาวจอมเหวี่ยงที่ต้องมาเรียนทำอาหารกับ เชฟหนุ่มมาดนิ่ง เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงที่กำลังตกต่ำ ความแตกต่างของทั้งคู่ก่อเกิดเป็นความวุ่นวายและเรื่องราวความรักสุดอลเวงที่ตราตรึงใจผู้ชมมาจนถึงปัจจุบัน

ละคร สูตรเสน่หา 2552 ละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ ที่ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ “กิ่งฉัตร” โดยมีเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความทะเยอทะยาน และการค้นพบตัวเองผ่านการทำอาหาร ตัวละครหลักคือ อลิน และ พสุ ซึ่งมีพัฒนาการความสัมพันธ์ที่น่าสนใจท่ามกลางความขัดแย้งและอารมณ์ขัน

เรื่องราวของ “อลิน” ดาราสาวสวยชื่อดังที่มีความมั่นใจสูง เธอใช้ชีวิตหรูหราและเอาแต่ใจตัวเอง ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวร่ำรวย อลินมองว่าการเป็นนักแสดงคือหนทางสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองมากกว่าความรักในอาชีพ เธอจึงไม่ค่อยสนใจความรู้สึกของคนรอบข้างและมักระเบิดอารมณ์เมื่อไม่ได้ดังใจ จนกลายเป็นที่เอือมระอาของทีมงาน เมื่องานแสดงเริ่มลดลง อลินจำใจต้องหันมาทดสอบเป็นพิธีกรรายการทำอาหารเพื่อรักษาชื่อเสียง

ในรายการนี้ อลินได้พบกับ “พสุ” หรือที่รู้จักในชื่อ “ครูกุ๊ก” เชฟหนุ่มมากฝีมือที่เธอจ้างมาเพื่อสร้างภาพลักษณ์ แรกเริ่ม อลินมองว่าพสุเป็นคนน่ารำคาญและไม่ถูกชะตากัน แต่เธอต้องพึ่งพาเขาเพื่อพัฒนาทักษะการทำอาหารและพิชิตเป้าหมายของตัวเอง นั่นคือการเป็นพิธีกรที่ประสบความสำเร็จ และที่สำคัญคือการชนะใจ “อนุชา” นักธุรกิจหนุ่มหล่อในวงการโทรทัศน์ที่เธอใฝ่ฝันจะแต่งงานด้วย อลินจึงทุ่มสุดตัว วางแผนสารพัดเพื่อให้ได้มาซึ่ง “สูตรเสน่หา” ที่จะทำให้เธอสมหวังทั้งในหน้าที่การงานและความรัก

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ร่วมงานกัน ความสัมพันธ์ของอลินและพสุเริ่มพัฒนาจากความขัดแย้งไปสู่ความเข้าใจ พสุที่มีนิสัยตรงไปตรงมาและจริงใจค่อยๆ ทำให้อลินเห็นคุณค่าของตัวเองนอกเหนือจากภาพลักษณ์ภายนอก เรื่องราวเต็มไปด้วยสถานการณ์ชวนหัวเราะ การแข่งขัน และการค้นพบว่าสูตรเสน่หาที่แท้จริงอาจไม่ได้อยู่ที่การเอาชนะใจคนอื่น แต่คือการยอมรับและรักตัวเอง

ละครเรื่องนี้โดดเด่นด้วยเคมีระหว่างแอน ทองประสมและธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ที่ทำให้เกิดกระแส “ครูกุ๊กฟีเวอร์” และ “อลิน” ในหมู่ผู้ชม พร้อมทั้งสะท้อนแง่มุมความรักและการเติบโตอย่างมีเสน่ห์

ละคร สูตรเสน่หา ปี 2552 มีเรื่องราวที่สนุกและเต็มไปด้วยพัฒนาการของตัวละคร ต่อไปนี้คือเนือ้เรื่องแบบครบถ้วน

เรื่องเริ่มต้นด้วย อลิน (แอน ทองประสม) ดาราสาวชื่อดังที่เริ่มเสียกระแส เธอถูกบังคับให้รับงานพิธีกรรายการทำอาหารเพื่อรักษาความนิยม เธอจ้าง พสุ หรือ “ครูกุ๊ก” (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) เชฟหนุ่มฝีมือดีมาเป็นที่ปรึกษา แต่อลินที่ไม่เคยเข้าครัวมาก่อนต้องเผชิญความลำบากและความขัดแย้งกับพสุตั้งแต่แรก เพราะเธอเอาแต่ใจและมองว่าพสุเป็นแค่เครื่องมือในการประสบความสำเร็จ ส่วนพสุก็ไม่ชอบทัศนคติของเธอ ทำให้ทั้งคู่ปะทะกันบ่อยครั้ง

เป้าหมายของอลินคือการใช้รายการนี้พิสูจน์ตัวเองและชนะใจ อนุชา (วิลลี่ แมคอินทอช) โปรดิวเซอร์หนุ่มหล่อที่เธอหลงรักและหวังจะแต่งงานด้วย อลินพยายามฝึกทำอาหารและสร้างภาพลักษณ์ใหม่โดยมีพสุคอยช่วยเหลืออย่างไม่เต็มใจ ระหว่างนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มเปลี่ยนไป พสุที่จริงใจและทุ่มเททำให้อลินค่อยๆ เห็นคุณค่าของการทำงานหนักและความรักในสิ่งที่ทำ แม้เธอจะไม่ยอมรับในตอนแรก

จุดพลิกผันเกิดขึ้นเมื่ออนุชาเริ่มสนใจ ปานแก้ว เพื่อนสนิทของอลินที่แอบชอบอนุชามานาน อลินรู้สึกทรยศและโทษปานแก้ว ทำให้มิตรภาพของทั้งคู่สั่นคลอน ขณะเดียวกัน พสุเริ่มเผยความรู้สึกดีๆ ที่มีต่ออลินผ่านการกระทำ เขาคอยอยู่เคียงข้างเธอในช่วงที่เธอผิดหวังและสับสน โดยเฉพาะเมื่อรายการทำอาหารเกิดปัญหาและเธอเกือบถอนตัว

ในตอนท้าย อลินตระหนักว่าเธอหลงรักพสุ ไม่ใช่อนุชา ความรักของเธอกับพสุเติบโตจากความเข้าใจและการยอมรับข้อบกพร่องของกันและกัน อนุชาเลือกปานแก้ว ทำให้อลินปล่อยวางความฝันเก่าและหันมาสานต่อความสัมพันธ์กับพสุอย่างจริงจัง ละครจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งด้วยฉากที่อลินและพสุทำอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข สะท้อนว่าสูตรเสน่หาที่แท้จริงคือการรักตัวเองและคนรอบข้างอย่างจริงใจ

เรื่องนี้เต็มไปด้วยโมเมนต์น่ารักระหว่างอลินและพสุ รวมถึงดราม่าที่ทำให้เห็นการเติบโตของตัวละคร โดยเฉพาะการที่อลินเปลี่ยนจากคนเห็นแก่ตัวมาเป็นคนที่เข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ถือเป็นละครที่ครบรสทั้งความสนุกและข้อคิด

ละครผสมผสานความโรแมนติก คอมเมดี้ และดราม่าได้อย่างลงตัว เคมีระหว่าง แอน ทองประสม (อลิน) และ ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ (พสุ) เป็นจุดเด่นที่ทำให้ใจเต้นทุกครั้งที่ทั้งคู่มีฉากด้วยกัน โดยเฉพาะการทะเลาะกันในช่วงแรกที่ทั้งฮาและน่ารำคาญไปพร้อมๆ กัน แต่ค่อยๆ กลายเป็นความน่ารักเมื่อทั้งสองเริ่มเข้าใจกันมากขึ้น การได้เห็นอลินเปลี่ยนจากคนเอาแต่ใจมาเป็นคนที่อ่อนโยนและจริงใจขึ้นเรื่อยๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและชื่นใจ

ฉากทำอาหารก็เป็นอีกส่วนที่ทำให้ตื่นเต้นและหิวไปพร้อมกัน ถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกว่ามันเกินจริงไปนิด (เช่น อลินที่ไม่เคยทำอาหารแต่พัฒนาฝีมือเร็วเกินคาด) แต่ก็ยอมรับว่ามันเข้ากับโทนละครที่เน้นความสนุกมากกว่าความสมจริงแบบเป๊ะๆ การได้เห็นพสุสอนอลินทำอาหารด้วยความอดทนและแอบแฝงความห่วงใย ทำให้รู้สึกถึงเคมีที่ค่อยๆ ก่อตัวอย่างเป็นธรรมชาติ

ส่วนดราม่าเรื่องความรักระหว่าง อนุชา และ ปานแก้ว บางทีก็รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย เพราะอลินดูหมกมุ่นกับอนุชามากเกินไปในช่วงแรก แต่เมื่อถึงจุดที่เธอปล่อยวางและเลือกพสุ มันก็ให้ความรู้สึกโล่งใจและสมหวังแทนตัวละคร ฉากจบที่ทั้งคู่ทำอาหารด้วยกันนั้นหวานละมุนมาก เหมือนเป็นรางวัลสำหรับการเดินทางของตัวละครและคนดู

โดยรวมแล้ว ละคร สูตรเสน่หา ให้ความรู้สึกเหมือนได้กินอาหารอร่อยๆ ที่มีทั้งรสหวานจากความรัก รสเปรี้ยวจากความขัดแย้ง และรสเผ็ดจากดราม่า เป็นละครที่ดูแล้วอารมณ์ดี มีข้อคิดเล็กๆ เกี่ยวกับการเติบโตและความรักที่ไม่ต้องสมบูรณ์แบบแต่จริงใจก็พอ และที่สำคัญคืออยากลุกไปเข้าครัวทำอะไรกินทุกครั้งที่ดูจบ



ละคร สูตรเสน่หา 2552

ละคร สูตรเสน่หา 2552

ละคร สูตรเสน่หา 2552 EP.1-22 ตอนจบCH3+​​​​​​

[Soot Sanaeha MV] สูตรเสน่หา – หัวใจตรงกัน

[Soot Sanaeha MV] สูตรเสน่หา – คนธรรมดา

ละคร สูตรเสน่หา 2552

อลิน ดาราสาวเจ้าเสน่ห์ มั่นอกมั่นใจในความแสนสวยแสนดีและร่ำรวยของตนเอง เพราะความมั่นใจนี้ ทำให้อลินมีลักษณะนิสัยที่ทั้งน่าหมั่นไส้ น่าเบื่อและบางครั้งก็ถึงกับน่าเกลียดน่าชัง อลินจริงใจกับความรู้สึกของตัวเองมาก ๆ ตามประสาสาวมั่น เมื่ออลินได้พบกับพสุสุดยอดเชฟที่เธอจ้างมาสร้างภาพ อลินคิดว่าพสุ เป็นคนน่ารำคาญมาก แต่อลินต้องอาศัยพสุเพื่อจะได้เป็นสุดยอดพิธีกร และเพื่อพิชิตหัวใจอนุชา หนุ่มนักธุรกิจวงการโทรทัศน์ เจ้าชายในฝันที่อลินอยากจะแต่งงานด้วย อลินจึงลงทุนด้วยมารยากว่าร้อยเล่มเกวียน จนได้สูตรเสน่หามาครอบครอง

อลิน (แอน ทองประสม) นางเอกสาวแสนสวยเจ้าบทบาทแห่งวงการจอแก้ว ฉายา นางเอกพันหน้า เพราะความเป็นลูกคนเดียว ฐานะร่ำรวย ทำให้อลินใช้ชีวิตหรูเริ่ด เอาแต่ใจตัวเอง การเป็นนักแสดงของอลินนั้นเพียงเพื่อเสริมความโดดเด่น และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองเท่านั้น ดังนั้นอลินจึงไม่แคร์ความรู้สึกของใครต่อใครที่ร่วมงานด้วย พร้อมระเบิดอารมณ์เมื่อไม่ได้ดังใจ จนกลายเป็นที่ระอาของทีมงาน

เมื่องานแสดงลดน้อยลงตามจำนวนปีที่ผ่านและอายุที่เริ่มมากขึ้น อลินจึงจำใจเข้ารับการทดสอบการเป็นพิธีกรรายการทำอาหารด้วยความหงุดหงิดเพราะคู่แข่งคนสำคัญคือดารารัตน์ หรือ หมิง (ปานวาด เหมณี) ดารารุ่นน้องที่กำลังโด่งดังขึ้นมาเที่ยบรัศมีกับเธอ ถ้าไม่เพราะคนคัดเลือกจะไม่ใช่เจ้าของบริษัทอวตาร อย่าง อนุชา หรือ คุณเล็ก (วิลลี่ แมคอินทอช) ชายหนุ่มนักธุรกิจรูปหล่อ ตระกูลดี ความรู้ดี ตรงสเป็คอย่าง เพียงครั้งแรกที่อลินได้พบกับอนุชา หัวใจเธอก็เหมือนถูกหลอมละลาย อลินถึงกับขอบคุณฟ้า ที่ในที่สุดก็ส่งผู้ชายที่เพอร์เฟคตรงหน้า มาเป็นคู่ผู้หญิงแสนสวย แสนดีเลิศล้ำอย่างเธอ

อลินไม่มั่นใจว่าตัวเองจะได้รับคัดเลือกเป็นพิธีกร เพราะอนุชาบอกว่าเขาต้องการพิธีกรสาวที่สามารถทำอาหารเป็น ซ้ำร้ายคุณหญิงอมรา (ดวงตา ตุงคะมณี) ผู้เป็นมารดาของอนุชายังเป็นกรรมการตัดสินในการบันทึกเทปทดสอบครั้งแรก ทำให้ต้องเดือดร้อนถึง ปฏิคม หรือ นายตัวเปี๊ยก (นิธิ สมุทรโคจร) ผู้เปรียบเสมือนลูกไล่ของอลิน ค่าที่ปฏิคมเคยเป็นเด็กในอุปการะของ ครูอนันต์ (เกรียงไกร อุณหะนันทน์) บิดาของหล่อนมาแต่เล็กแต่น้อย ถึงแม้ปฏิคมจะมีความสามารถร่ำเรียนจนจบเป็นทนายความชื่อดังแล้วก็ตาม แต่สำหรับ อลิน เขาก็ยังคงยอมเป็นข้าทาสให้หล่อนเรียกใช้ในทุก ๆ เรื่อง

อลินมีคำสั่งด่วนที่สุดถึงนายตัวเปี๊ยกให้จัดหาครูสอนทำอาหารฝรั่งเศส (ตามที่หล่อนอวดอ้างไว้กับอนุชา) ให้มาสอนที่คอนโดหล่อน เพราะไม่สามารถไปร่ำเรียนตามสถาบันทำอาหารให้กลายเป็นข่าวได้ ปฏิคมจึงจำเป็นต้องขอร้อง พสุ หรือ ครูดิน (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยที่หันมาเอาดีทางด้านการทำอาหารให้ไปช่วยสอนอลิน

พบกันครั้งแรก อลินก็ไม่ชอบหน้านายพสุเท่าไหร่ แต่ต้องจำใจฝืนทนเพราะไม่รู้จะไปหาครูสอนที่ไหน พสุก็ไม่ชอบที่อลินอวดรวยแล้วก็ทำอะไรไม่เป็นเลย พสุยอมสอนเพื่อเห็นแก่ปฏิคมที่ขอร้อง พสุจบการสอนของวันแรกด้วยความเหนื่อยอกเหนื่อยใจ และเมื่อกลับถึงบ้านก็พบว่า นงพะงา (ดวงใจ หทัยกาญจน์) มารดาของตนกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมอาหารให้ วายุ หรือ ลม (นิธิชัย ยศอมรสุนทร) น้องชายต่างมารดาของเขาซึ่งกำลังจัดงานสังสรรค์ที่บ้าน พสุรู้ดีว่าวายุต้องการแกล้งมารดาของตนให้เหน็ดเหนื่อยในการรับใช้อยู่เพียงคนเดียว

พสุตามไปต่อว่าวายุที่ตึกใหญ่ ซึ่งบรรดาพี่ ๆ อยู่กันพร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นนภา หรือ ฟ้า (เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) พี่สาวคนโต เมฆา หรือ เมฆ (สุเมธ องอาจ) พี่ชายคนโต ทั้งสองคนเป็นลูกคุณแม่ใหญ่ อรภา ภรรยาคนแรกซึ่งนอนป่วยด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตกอยู่บนตึกใหญ่ ส่วนวาริน หรือ น้ำ (ดารัณ บุณยศักดิ์) พี่สาวร่วมมารดาของวายุ เป็นลูกที่เกิดจากคุณแม่รอง อรพิน ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของคุณแม่ใหญ่ ส่วนแม่นง มารดาของพสุเป็นเพียงหญิงแม่ครัวฝีมือดีของบ้าน ซึ่งบังเอิญความสวยคมขำ กิริยา มารยาทอันงดงามของเธอเป็นที่ต้องตาเจ้าสัว จนเลื่อนฐานะขึ้นมาเป็นภรรยาอีกคน เป็นเหตุให้คุณแม่รองเจ็บช้ำน้ำใจที่เจ้าสัวหลงภรรยาคนล่าสุดมากกว่า และเมื่อวันหนึ่งอรพินล้มป่วยเสียชีวิตลง จึงถือเป็นเหตุให้ลูก ๆ ของเธอพลอยเกลียดชัง แม่นงและลูกชายไปด้ว

นภาเป็นพี่สาวใหญ่รับภาระควบคุมดูแลทรัพย์สินและปกครองน้อง ๆ โดนมีเมฆารับหน้าที่ดูแลบัญชีทรัพย์สินและการลงทุนของครอบครัว นภาพยายามไกล่เกลี่ยเรื่องวายุ และถามถึงเรื่องความตั้งใจในการทำร้านอาหารของพสุแทน ซึ่งเขาก็บอกว่ายังขาดเงินก้อนที่จะลงทุน พี่ ๆ ทุกคนนิ่งเงียบเพราะไม่มีใครยอมจัดสรรเงินกองกลางให้พสุไปลงทุน ต่างกับที่วายุขอจากกองกลางไปทำธุรกิจแล้วขาดทุนได้เรื่อย ๆ จนล่าสุดพี่ ๆ ยังยอมให้เงินไปอีกห้าล้านเพื่อเปิดร้านเครื่องประดับนำเข้า พสุกลับมาที่บ้าน นงพะงาบอกให้ลูกพยายามอดทนอย่างน้อยบ้านและที่ดินที่อาศัยอยู่เจ้าสัวก็ยกให้นงพะงาและลูกอย่างถูกต้อง นงพะงายังเชื่อมั่นในความยุติธรรมของเจ้าสัวว่าต้องเก็บทรัพย์สินไว้เพื่อลูกของตนไม่น้อย

อลินไปบันทึกเทปทดสอบทำอาหารโดยบังคับให้ครูกุ๊ก (ฉายาที่เธอตั้งให้พสุ) ไปเป็นกำลังใจร่วมลุ้น แต่อ้างกับใคร ๆ ว่าเขาเป็นคนขับรถ อลินผ่านการทดสอบได้เป็นพิธีกรด้วยความสามารถบวกกับความเจ้าเล่ห์ของเธอ ทำให้พสุไม่พอใจ ตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอลินอีก อลินเองไม่แคร์เพราะคิดว่าคงไม่ต้องอาศัยพึ่งพาครูกุ๊กอีกแล้ว

อลินเตรียมตัวเข้าประชุมครั้งแรก หว่านเสน่ห์ใส่อนุชาไม่ยั้ง แต่เมื่อผลการประชุมมีมติว่าอลินต้องทำอาหารเองทุก ๆ เทป รวมทั้งคิดรายการอาหารเองเทปละ 3 อย่าง ทำให้อลินแทบล้มทั้งยืน ยิ่งถูกปรามาสจาก สุวัจน์ ตัวแทนจากสถานีโทรทัศน์ ว่าเธออาจจะไม่รอด อลินจำใจโทรหาครูกุ๊กแต่ชายหนุ่มบอกปัด ปฏิคมเดือดร้อนอีกตามเคย หลังจากเคี่ยวเข็ญให้นายตัวเปี๊ยกบอกจุดอ่อนของครูกุ๊กเพื่อใช้เป็นไม้เด็ดในการง้องอนจนสำเร็จแล้ว พสุจึงยอมไปสอนอลินอีก อลินก็ตั้งหน้าตั้งตาเรียนทำอาหารตามที่ครูกุ๊กกำหนด รวมทั้งบังคับให้ครูกุ๊กวางแผนรายการอาหารแต่ละเทปให้ด้วย มีข้อแม้ว่าต้องหรู อร่อย และดูดี

พสุพบว่าอลินเป็นคนมีความสามารถหากตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างจริงจัง เว้นแต่เธอจะไม่ยอมทำเท่านั้นเอง และยิ่งเมื่อมีแม่เหล็กขั้วใหญ่เป็นแรงดึงดูดอย่างอนุชาด้วยแล้ว อลินบอกว่าเขาน่าจะภูมิใจที่มีลูกศิษย์เป็นดาราดังอย่างเธอ พสุประชดไปว่าลูกศิษย์อย่างนี้ร้อยปีมีมาเกิดสักคน พสุสอนอลินทำอาหารไป แล้วก็ต้องคอยเป็นที่ปรึกษาความรักให้อลินจีบอนุชาด้วย แรก ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่นานวันเข้าพสุกลับรู้สึกฝืนใจ ไม่อยากเห็นอลินรักอนุชา ซึ่งเขารู้ดีมาตลอดว่าเป็นสามีของ โสภิตา (ซอนย่า คูลิ่ง) เพื่อนสนิทของเขาเอง แล้วยังมีลูกสาวน่ารักชื่อ ปูเป้ (แอนนา อนิสา กร้านท์) พสุอยากจะบอกความจริงกับอลิน แต่ก็กลัวความหัวรั้นของอลิน ปฏิคมก็เห็นด้วยที่จะให้อลินรู้ความจริงด้วยตัวเองดีกว่า

อลินให้ปากกาด้ามทองสลักคำว่า COOK กับครูกุ๊กเป็นของขวัญด้วยความขอบคุณจากใจ วันนั้นอลินงัดสุมดบันทึกปกรูปหัวใจฝังเพชรของหล่อน ซึ่งมีแต่รายชื่อชายหนุ่มที่เข้ามาพัวพัน อลินมีคะแนนให้ทุก ๆ คนแต่ไม่มีคนไหนได้มากเท่ากับอนุชา และวันนี้หล่อนตัดสินใจลองใส่ชื่อครูกุ๊ก (ครูจ่าใจโหด) ลงไป น่าสงสารจริง ๆ ที่คะแนนในแต่ละหัวข้อที่ครูกุ๊กได้ ต่ำกว่ามาตรฐานมากมาย

อนุชามอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีแก่อลิน หัวใจเธอเบ่งบานยิ่งกว่าดอกไม้ และพาอลินออกไปทานอาหาร เขาชื่นชมความเก่งอย่างหาตัวจับได้ยากของอลิน โดยไม่รู้ว่าหัวใจของเธอนั้นยินยอมและพร้อมให้เขาจับจองมาตั้งแต่แรกพบแล้ว อนุชาเอ่ยชวนเธอเป็นหุ้นส่วนด้วย อลินตื่นเต้นเข้าใจว่าเขาชวนเป็นหุ้นส่วนชีวิต แต่เมื่อรู้ว่าอนุชาหมายถึงหุ้นในรายการครึ่งหนึ่งเป็นตัวเลขหลักล้าน อลินก็อึ้งไปแต่ก็คิดได้ว่าน่าจะเป็นหนทางให้ได้ใกล้ชิดอนุชามากขึ้น อลินตอบตกลงทันทีจนเขาตกใจ อนุชาไม่รู้ว่าเงินจำนวนนี้น้อยมากหากเทียบกับการลงทุนเพื่อผลกำไรคือตัวเขา

ปฏิคมในฐานะทนายผู้ดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจของอลินรู้เรื่องก็โทรมาโวยว่าอลินกำลังถูกเอาเปรียบเพราะเท่ากับลงทุนเกินครึ่งแต่ผลกำไรกลับได้เพียงครึ่งหลังหักค่าใช้จ่าย แต่เธอกลับบอกว่าอนุชาฉลาดหลักแหลมสมเป็นนักธุรกิจที่เธอใฝ่ฝัน ดีเสียอีกเมื่อเขาแต่งงานกับเธอแล้วจะได้ช่วยบริหารบรรดาทรัพย์สินมหาศาลที่คุณป้าทั้งสามทิ้งไว้ให้ แม้ปฏิคมจะขอให้อลินปรึกษาบิดาแต่อลินไม่สนใจ

พสุมาสอนอลินตามปกติ เมื่อเขาถามถึงเรื่องการร่วมทุนกับอนุชา อลินแว้ดใส่เพราะเชื่อว่าผู้ชายแสนดี ชาติตระกูลก็ดีอย่างคุณเล็กไม่มีวันโกงแน่ อีกอย่างหล่อนแน่ใจแล้วว่าเมื่อร่วมครอบครัวกันแล้วทรัพย์สินหรือผลกำไรต่าง ๆ ก็ต้องตกเป็นของหล่อนอยู่ดี พสุขยับจะบอกความจริงบางเรื่องให้อลินรู้แต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อเห็นหญิงสาวเชื่อมั่นในเนื้อคู่ของตัวเองเป็นที่สุดแล้ว พสุพยายามเตือนไม่ให้หล่อนตัดสินเลือกคู่เพียงเพราะรูปลักษณ์ภายนอกและชาติตระกูลที่ดีเท่านั้น

ปากกาด้ามทองสลักชื่อที่อลินให้เป็นของขวัญพสุเตะตาวายุเมื่อพบกันที่สวนหลังบ้านขณะที่วายุโต้เถียงกับวารินอยู่ พสุพยายามเลี่ยงเมื่อวายุพยายามซักไซ้ที่มาของของขวัญที่พสุบอกว่าลูกศิษย์ให้เพื่อแก้ความเข้าใจว่าเขาได้เงินจากนภา วายุได้ทีเหยียบหยามว่าพสุคงสอนลูกศิษย์สาวมากกว่าทำอาหารถึงได้ของราคาแพงขนาดนี้ และพยายามยื้อแย่งจนเกิดเรื่อง ดีแต่นภาลงมาห้ามทัพทัน พสุกลับบ้านพัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมารดาถึงไม่ยอมย้ายออกจากบ้านเสียที ซ้ำยังขอร้องให้พสุพยายามอดทน และเลี่ยงการประจันหน้ากับวายุ

พสุไปกินข้าวกับปฎิคมที่ศูนย์การค้าอันเป็นที่ตั้งของร้านเครื่องประดับของวายุ และพบกับหมิง ซึ่งเคยมาร่วมงานปาร์ตี้ที่บ้านในฐานะคนรักรายล่าสุดของวายุ ปฏิคมหลบวูบและเล่าให้ฟังถึงวีรกรรมร่วมในอดีตที่อลินใช้ให้เขาส่งปลาเค็มไปให้ดารารัตน์ถึงกองถ่ายตอบแทนที่เคยส่งมีดมาเป็นของขวัญให้อลิน ผลคือปลาเค็มตัวนั้นเป็นอาวุธที่หมิงใช้ฟาดหัวเขาแทน หมิงจำพสุลูกแม่ครัวบ้านวายุและปฏิคมได้ในทันที จึงเล่าให้วายุฟัง วายุติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าแท้จริงลูกศิษย์ที่ให้เสื้อและปากกาพสุคือดาราดังอย่าง อลินนั่นเอง

สปอนเซอร์รายการอยากให้มีเด็กร่วมรายการ พสุพาไปหัดทำเค้กที่ร้านเบเกอรี่ปูเป้ของเพื่อน ทำให้อลินได้รู้จัก โสภิตาและ ปูเป้ ลูกสาวที่พสุเคยเล่าให้ฟังว่าถูกทำให้ตกบันไดทั้งแม่ทั้งลูกจนปูเป้เป็นโรคชักบ่อย ๆ ทั้งนี้เพราะฝีมือแม่ผัวผู้ดีใจร้าย และสามีก็ไม่มีปัญญาปกป้องลูกเมียตัวเอง ทิ้งให้สองแม่ลูกดิ้นรนเพียงลำพัง จะดีอยู่หน่อยก็เพียงมาเยี่ยมเยียนยามลูกเจ็บไข้เท่านั้น

ปูเป้เป็นเด็กปากหวานน่ารักถูกใจอลิน หล่อนจึงเรียนทำเค้กอย่างเป็นสุข โสภิตาล้อว่าเพราะความน่ารักของอลิน (ที่พสุบอกว่าเป็นเพราะผีออก) ทำให้คนใจแข็งอย่างพสุยอมสอนทำอาหารและเอาใจใส่อย่างไม่เคยทำให้ใครมาก่อน พสุเริ่มรู้ใจตัวเอง วายุควงหมิงตั้งใจมาฉีกหน้าอลินและพสุวันบันทึกเทป แต่อลินดัดหลังหมิงด้วยการโปรยเสน่ห์ใส่วายุจนดารารัตน์ทนหึงไม่ไหวต้องรีบลากวายุกลับก่อนจะเผยความจริงเรื่องพสุเป็นครูสอนทำอาหารให้อลิน และแฉกับนักข่าว แต่อลินก็แก้ปัญหาได้อย่างเรียบร้อย หมิงพยายามจะแกล้งอลินหลายหน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้

พสุเริ่มรู้ใจตัวเองว่าหลงรักอลินเข้าเต็มเปา อลินแม้จะเห็นว่าพสุเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด แต่ในใจก็มีแต่อนุชาคนเดียว ดังนั้นเมื่ออนุชาขอแต่งงานโดยขอหมั้นไว้ก่อน อลินมีความสุขมากเล่าถึงชัยชนะที่ได้มาให้ครูกุ๊กฟัง โดยไม่รู้ว่าการทิ้งครูกุ๊กไว้ตามลำพังที่อพาร์ทเม้นต์ระหว่างรอสอนหล่อนนั้น ทำให้เขาได้อ่านสมุดบันทึกรูปหัวใจของหล่อนด้วยความเจ็บปวด ด้วยทิฐิทำให้พสุตัดใจเลิกยุ่งเกี่ยวกับอลินเสียที พสุตั้งใจสอนเป็นครั้งสุดท้าย อลินขอบคุณที่เขาทำให้ทางรักของหล่อนราบรื่นจนมาถึงวันนี้

อลินงงกับการบอกลา แต่ก็หายสงสัยเมื่อเห็นสมุดบันทึกความลับของหล่อนถูกวางทิ้งไว้คั่นหน้าด้วยปากกาด้ามทองที่หล่อนเคยให้เขามานั่นเอง อลินว้าวุ่นใจ พยายามงอนง้อทุกวิธี ไม่ว่าจะมีเล่ห์มารยาเท่าใดขนมาใช้หมดก็ไม่เป็นผล ปฏิคมไม่ยอมช่วยเหลืออีกแล้ว เพราะรู้นิสัยเพี่อนรักดีว่าไม่ยอมเป็นสินค้าให้ผู้หญิงตีค่าเปรียบเทียบได้แน่

อลินพยายามตัดใจไม่ง้อ ประกอบกับหล่อนยุ่งกับการถ่ายทำละคร แต่เจอครูกุ๊กเมื่อไหร่ก็พยายามตามง้อพูดดีด้วย แต่ครูกุ๊กกลับไม่เหลือเยื่อใย เดินหนี ไม่ก็ขับรถหนี อลินได้แต่วิ่งตาม เขากลับทำเหมือนหล่อนไม่มีตัวตน อลินเจ็บจี๊ดในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ยืนน้ำตาไหลมองดูเขาขับรถจากไป เมื่อไม่มีครูกุ๊กอีกแล้ว

อลินพยายามหาครูคนใหม่แต่ก็ไม่ถูกใจ จนนึกถึงโสภิตาขึ้นมาได้จึงตามไปขอให้โสภิตามาสอนแทนครูกุ๊กที่ทิ้งไป เมื่อโสภิตาบอกว่าแปลกใจเพราะเห็นพสุรักอลินออกปานนั้นจะทิ้งไปได้อย่างไรอลินช่างโชคดีที่ได้รับความรักโดยไม่หวังผลตอบแทนจากผู้ชายอย่างพสุ อลินนึกอบอุ่นใจแต่ก็บอกตัวเองว่าหล่อนมีอนุชาแล้ว

วายุกู้เงินนอกระบบจากผู้มีอิทธิพลมากู้สถานการณ์ขาดทุนหนักของร้าน ทำให้พี่ ๆ เข้าใจว่ากิจการเขาดีขึ้นโดยเฉพาะวารินได้ทีเหยียบย่ำพสุโดยยกวายุเข้าข่ม แต่ไม่นานนักเงินก็หมด วายุกลุ้มใจปรึกษากับหมิงซึ่งดวงการแสดงตกเช่นกัน ซ้ำเจ้าหนี้ยังเร่งให้ใช้หนี้ด้วยการข่มขู่ หมิงแนะนำให้เขาเร่งพี่ ๆ เรื่องเปิดพินัยกรรม ซึ่งติดที่คุณแม่ใหญ่นอนป่วยอยู่สิ้นเปลืองค่าดูแลรักษา โดยสภาพแล้วถ้าสิ้นชีวิตลง ก็น่าจะเปิดได้ตามเงื่อนไข วายุโกรธหาว่าหมิงแช่งคุณแม่ใหญ่ที่เขารัก แต่สุดท้ายวายุก็วางแผนฆ่าแม่ใหญ่เอง เพราะโดนทวงหนี้จนไม่รู้จะทำอย่างไร แต่เมื่อพินัยกรรมเปิดขึ้นมา วายุก็ต้องผิดหวังเพราะได้เงินไม่เท่าไหร่ แล้วยังต้องใช้หนี้กองกลางอีก ขณะที่พสุและแม่กลับได้เงินและที่ทางมากมาย วารินโมโหคิดสรุปเอาเองว่านงพะงาแม่ของพสุวางแผนฆ่าแม่ใหญ่เอาสมบัติ ตำรวจเข้ามาสืบสวน หลักฐานมัดตัววายุจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน

ก่อนวันแต่งงานอลินรู้ความจริงโดยบังเอิญว่าอนุชาเป็นพ่อของปูเป้ ก็โมโหมาก อาละวาดจนอนุชากระเจิง ยกเลิกงานแต่งงาน แต่คนอย่างอลินไม่ยอมเสียหน้า บอกกับปฏิคมว่าจะแต่งงานกับพสุแทน เพราะรู้ใจตัวเองว่ารักพสุ ทำเอาปฏิคมเหวอไปเลย เมื่ออลินรู้หัวใจตัวเอง แต่ขณะที่พสุถอดใจจากอลินไปแล้ว ปฏิบัติการตามงอนง้อในแบบของอลินจะเป็นอย่างไร จะสามารถพิชิตใจพสุได้หรือไม่ ก็ติดตามชมใน ละครสูตรเสน่หา

บทประพันธ์โดย : กิ่งฉัตร
บทโทรทัศน์โดย : ณัฐิยา ศิรกรวิไล
กำกับการแสดงโดย : อำไพพร จิตต์ไม่งง
ดำเนินงานสร้างโดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์ บริษัท ละครไท จำกัด
นำแสดงโดย : ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์, แอน ทองประสม, วิลลี่ แมคอินทอช

นักแสดง
ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ รับบท พสุ บริบรรณ (ดิน, ครูกุ๊ก)
แอน ทองประสม รับบท อลิน ทิพยดา (ลิน)
วิลลี่ แมคอินทอช รับบท อนุชา โสพัฒน์ (เล็ก)
ซอนย่า คูลิ่ง รับบท โสภิตา จารุกรณ์ (ตา)
นิธิ สมุทรโคจร รับบท ปฏิคม (คม, นายตัวเปี๊ยก, ทนายหัวปลาเน่า)
ปานวาด เหมมณี รับบท ดารารัตน์ อัศนี (หมิง, กุ๊กกู๋ปลาเค็ม)
นิธิชัย ยศอมรสุนทร รับบท วายุ (ลม)
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท คุณหญิงอมรา โสพัฒน์
ดารัณ บุญยศักดิ์ รับบท วาริน (น้ำ)
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบท นภา (ฟ้า)
ดวงใจ หทัยกาญจน์ รับบท นงพะงา
ปาจารีย์ ณ นคร รับบท เพรียว
สุเมธ องอาจ รับบท เมฆา (เมฆ)
อรหทัย ซื่อศรีสวัสดิ์ รับบท อิศราภรณ์ (อี่)
จุ๊บจิ๊บ เชิญยิ้ม รับบท ลูกเป็ด (ช่างแต่งหน้ากระเทย)
ชมพูนุช กลิ่นจำปา รับบท อ้อน (คนรับใช้คนสนิทของนงพะงา)
ด.ญ.แอนนา อนิสา กร้านท์ รับบท ปูเป้

นักแสดงรับเชิญ
เกรียงไกร อุณหะนันทน์ รับบท ครูอนันต์ (พ่อของอลิน)
ภัณฑิลา ฟูกลิ่น รับบท ฮย็องกึน
ดลรส เดชะประทุมวัน รับบท คุณป้ากลาง
อรศรี บาเล็นซิเอก้า รับบท คุณป้าใหญ่
มารยาท ถายะเดช รับบท คุณป้าเล็ก
ฐิตารีย์ จิตตธีรโรจน์
สโรชา ร่วมเผ่าไทย
ด.ญ.นัดตะวัน ศักดิ์ศิริ รับบท ต้องตา (ปอบเปีย)

เพลงประกอบละคร
เพลง หัวใจตรงกัน ขับร้องโดย ทราย พิราพร (เพลงนำละคร) ฟังเพลงนี้
เพลง คนธรรมดา ขับร้องโดย ชิน ชินวุฒ ฟังเพลงนี้

รางวัล
รางวัลขวัญใจสื่อมวลชน
สาขา ละครยอดเยี่ยม
สาขา ผู้กำกับยอดเยี่ยม : อำไพพร จิตต์ไม่งง
สาขา ดารานำชายยอดเยี่ยม : ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
สาขา ดารานำหญิงยอดเยี่ยม : แอน ทองประสม
ท็อปอวอร์ด 2009
ดารานำชายยอดเยี่ยม สาขาละคร : ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
ดารานำหญิงยอดเยี่ยม สาขาละคร : แอน ทองประสม
In Young Generation Choice 2009 
Best Love Couple in the Scene คู่รักในละคร : ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ และ แอน ทองประสม
Best Love Drama ละครรักแห่งปี
รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2552
บทละครโทรทัศน์ดีเด่น : ณัฐิยา ศิรกรวิไล ละครเรื่องสูตรเสน่หา จากละครไท สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3
ดารานำชายดีเด่น : ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ละครเรื่องสูตรเสน่หา จากละครไท สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3
ดารานำหญิงดีเด่น : แอน ทองประสม ละครเรื่องสูตรเสน่หา จากละครไท สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3
แฮมเบอร์เกอร์อวอร์ดส ครั้งที่ 7 ประจำปี 2552
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม : แอน ทองประสม
รางวัลนาฏราช ครั้งที่ 1 ประจำปี 2552
ลำดับภาพยอดเยี่ยม : สูตรเสน่หา จาก บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด โดย คุณอรรณพ อภิรมยานนท์
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม : แอน ทองประสม จาก ละครเรื่องสูตรเสน่หา
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม : ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ จาก ละครเรื่องสูตรเสน่หา

สูตรเสน่หา เป็นบทประพันธ์ของนักเขียน “กิ่งฉัตร” ซึ่งตีพิมพ์เป็นตอนๆ ในนิตยสารสกุลไทย ได้รับความนิยมมากจนมีภาค 2 ออกมาที่ชื่อ “ค่าของหัวใจ” จากนั้นกิ่งฉัตรได้ขายลิขสิทธิ์ละครให้ทางช่อง 3 โดยได้ค่ายอาละดิน ณ บางกอก เป็นฝ่ายดำเนินการสร้างละคร เดิมศุภลักษณ์ ตงศิริ ผู้บริหารค่ายได้วางตัวพระเอก-นางเอกคือ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง และ คัทลียา แมคอินทอช แต่ไม่ได้สร้าง จนตกมาอยู่ในมือผู้จัด หทัยรัตน์ อมตวณิชย์ แห่งค่ายละครไท ได้พระเอก-นางเอกคือ ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ และ แอน ทองประสม นำแสดง ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ชมอย่างท่วมท้น อันเป็นที่มาของกระแสฟีเวอร์ “ครูกุ๊ก” และ “อลิน” ที่พูดกันติดปาก

ละครโทรทัศน์นี้กำกับการแสดงโดยอำไพพร จิตต์ไม่งง เขียนบทโทรทัศน์โดย ณัฐิยา ศิรกรวิไล เริ่มออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552 จนถึงวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552