ละคร เกมล่าทรชน 2564 (EP.1-19 ตอนจบ) HD END

เกมล่าทรชน เจนนรี (ณฐพร เตมีรักษ์) ลูกสาวนายตำรวจ ซึ่งถูกคนร้ายฆ่าตาย เธอต้องกลายเป็นเด็กกำพร้ามาตั้งแต่เด็ก นวล (ขวัญฤดี กลมกล่อม) แม่ของลลิสา (พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) จึงนำเจนนรีมาเลี้ยงไว้ และรักเหมือนลูก เจนนรีกับลลิสา รักและผูกพันกันตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อเติบโต ทั้งสองเข้าฝึกอบรมหน่วยสืบพิเศษ SIC ด้วยกัน โดยมีนนท์ (ปริญ สุภารัตน์) เป็นคนถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ และการใช้อาวุธให้ทั้งสองคน ซึ่งมีฝีมือ สูสี คู่คี่กันทั้งคู่ เมื่อจบหลักสูตร ผู้การขจร (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) ก็ให้เจนนรี และลลิสา ทำงานเป็นสายข่าว สืบคดีของพวกค้ายาเสพติดของนายศักดา (สหจักร บุญธนกิจ) โดยที่นวลไม่รู้ ว่าเจนรีกับลลิสา ทำงานเสี่ยงตาย เพราะเธอกลัวว่าลูกๆ จะมีจุดจบเหมือนกับพ่อของเธอ ลลิสาแอบชอบนนท์ แต่นนท์กลับมีท่าทีสนิทส



ละคร เกมล่าทรชน 2564

ละคร เกมล่าทรชน 2564

ละคร เกมล่าทรชน 2564 EP.1-19

ฉากเด็ด เกมล่าทรชน 2564

เกมล่า Ost.เกมล่าทรชน | มาเรียม เกรย์ | Official MV


เจนนรีกับลลิสาเกิดวันปีเดียวกัน พ่อของทั้งคู่ได้เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ นวลแม่ของลลิสาได้อุปการะเจนนรีไว้เป็นลูกบุญธรรม เจนนรีจึงกลายเป็นพี่สาวของลลิสา และรวีน้องชาย ทั้งสามต่างรักใคร่กันราวกับพี่น้องร่วมสายเลือด

เมื่อเวลาผ่านไปลลิสากับเจนนรีได้เข้าหน่วยฝึกพิเศษของ SIC (Special Investigation Centre) ทั้งคู่ถูกส่งไปฝึกกับสารวัตรนนท์ นายตำรวจหนุ่มผู้เยี่ยมยุทธแห่งกองปราบฯ และเป็นที่ชื่นชมของผู้การขจรผู้บังคับบัญชาในหน่วยงาน นนท์เลือกดารินเป็นผู้ช่วยคนใหม่ สายตำรวจที่ถูกพวกค้ายาฯ สังหารไปก่อนหน้านี้ เหตุการณ์นี้ทำให้นนท์เสียใจมากถึงขึ้นลาออกจากการเป็นตำรวจ แต่ผู้การขจรยังต้องการให้เค้าทำงานต่อไป ท่ามกลางความเห็นชอบของผู้การขจรที่มองเห็นศักยภาพของเจนนรีจึงส่งเธอมาเป็นผู้ช่วยคนใหม่ของนนท์ แต่ลลิสาเข้าใจผิดว่าพี่สาวจะแย่งนนท์ไปจากเธอ จึงหันไปร่วมมือกับผู้กองพงศธรมือปราบคู่ปรับของนนท์ เพื่อคอยแย่งผลงานจากทีมเจนนรี

ระหว่างที่ได้ร่วมงานกันเจนนรีก็ได้เรียนรู้จักตัวตนของสารวัตรนนท์มากขึ้น จนรู้ว่าภายใต้เปลือกนอกที่แข็งกร้าวนั้น นนท์กลับมีจิตใจที่เปราะบางจนเกือบแหลกสลาย เนื่องจากต้องเสียคู่หูอย่างดารินไปในขณะปฏิบัติงาน แต่ชีวิตส่วนตัวเขากลับสันโดษไม่กล้าเปิดใจผูกพันกับใคร เขาก็ยิ่งเฝ้าลงโทษตัวเองด้วยความโดดเดี่ยวมากขึ้น การมาของเจนนรีที่มีแต่ความปารถนาดี ได้เยียวยานนท์ให้เปิดหัวใจตนเองอีกครั้ง จนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจนนรีพัฒนาเป็นความรักไปในที่สุด

ขณะนั้นนนท์มุ่งมั่นอยู่กับการสืบคดีของนายศักดา หัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ซึ่งอยู่เบื้องหลังการตายของดาริน โดยความช่วยเหลือของจ่าชาติที่รู้จักกับโต้งที่เป็นกัปตันที่บาร์นายของศักดา จึงฝากเจนนรีให้เป็นนักร้องที่นั่นเพื่อเป็นสายสืบ ทำให้นนท์ต้องดูแลความปลอดภัยมากขึ้นเพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุร้ายขึ้นซ้ำสอง ความใกล้ชิดของคนทั้งคู่ได้สร้างความอิจฉาให้แก่ลลิสาเป็นอันมาก

ระหว่างที่ภารกิจของเจนนรีกำลังคืบหน้า พงศธรกับลลิสาก็บุ่มบ่ามเข้าจับกุมศักดาจนเสียแผน แถมลลิสายังเกือบถูกศักดาฆ่า โชคดีที่เจนนรีไปช่วยทัน ทว่าเจนนรีกลับบันดาลโทสะยิงศักดาตาย เมื่อรู้ว่ามันคือคนที่ฆ่าพ่อของเธอกับลลิสา การกระทำเกินกว่าเหตุทำให้เจนนรีถูกลงโทษ

นนท์ขอร้องลลิสาให้ช่วยเป็นพยานเข้าข้างเจนนรี เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอพ้นผิด แต่ลลิสาก็ไม่ได้ช่วยให้การเป็นพยานที่ดีต่อเจนนรี สุดท้ายเจนนรีจึงต้องติดคุก ซ้ำร้าย สมุนของศักดาก็ตามมาล้างแค้นครอบครัวของลลิสา จนทำให้นวลถึงแก่ชีวิต ด้วยความแค้น ลลิสาจึงประกาศตัดพี่ตัดน้องกับเจนนรี เจนนรีจึงตัดสินใจบอกเลิกกับนนท์เพราะไม่ต้องการให้เขามาแปดเปื้อนเพราะเธอ

เมื่อเจนนรีได้เข้ามาอยู่ในคุกก็พบว่าตัวเองจะถูกฆ่าโดยนักโทษชั้นดีคนหนึ่ง ผู้ซึ่งได้รับจ้างจากทรงกลดแต่บังเอิญพิณกลับช่วยเธอเอาไว้ ทำให้พิณและเจนนรีรู้จักกันมากขึ้น พิณให้กำลังใจเจนนรีว่าสักวันเธอต้องได้ออกมาจากคุกแน่นอน ในขณะที่นอกคุกนั้นนนท์ต้องการทำให้โลกสวยงามเมื่อเจนนรีออกมา ด้วยการปฏิบัติภารกิจนอกเหนือคำสั่งด้วยการจับตัวไอ้สิงห์ที่เป็นคู่แข่งการค้าของศักดามาลงโทษให้ได้ และขอให้พงศธร ลลิสา และจ่าชาติร่วมปฏิบัติงานนี้ และได้รับความร่วมมือจากสารวัตรเคน ผู้ดูแลความปลอดภัยของอีกฝั่งประเทศ แต่สุดท้ายสิงห์กลับถูกทรงกลดชิงตัวหนีไปได้ เหตุการณ์นี้จึงทำให้นนท์โดนเด้งเข้ากรุไปทำงานเอกสารแทน

ยามนั้นมาวิน น้องชายต่างแม่ของศักดา ก็มารับตำแหน่งหัวหน้าแก๊งแทนที่ศักดา และจับได้ว่าทรงกลดกับจอมขวัญเป็นคนวางแผนฆ่าศักดา จึงจับตัวทั้งคู่ไว้ ทรงกลดให้ริต้ามาช่วยด้วยการถล่มบ้านมาวิน ริต้าพาทรงกลดหนีไปได้แต่จอมขวัญหนีไม่ทันจึงต้องถูกกักตัวไว้ ซึ่งมาวินคิดว่าจะใช้จอมขวัญเพื่อแก้แค้นทรงกลดอยู่แล้ว จึงยอมให้จอมขวัญดูแลบาร์ต่อไป

มาวินได้ตรวจสอบบัญชีต่าง ๆ ของศักดา จึงรู้ว่ามีบัญชีหนึ่งที่ต้องโอนทุกเดือน และเจ้าของบัญชีคืออัญญาซึ่งเป็นลูกที่ไม่ต้องการของศักดานั่นเอง มาวินจึงให้เชนทร์ไปรับอัญญามาเลี้ยงเธอให้ดีที่สุด แต่ด้วยความที่เป็นมาเฟียเลี้ยงหลานไม่เป็นใช้เงินเลี้ยงไม่ได้ให้ความรักเท่าที่ควร จึงทำให้อัญญาเป็นเด็กมีปัญญาใช้เงินตามความพอใจของตัวเอง

เวลาผ่านไป….เจนนรีพ้นโทษออกมาในสภาพคนไร้บ้านเธอถูกลลิสาเสือกไสอย่างไม่ใยดี เจนนรีหมดหนทางเลยไปอยู่กับโต้งอดีตพนักงานในบาร์ของศักดา ซึ่งสนิทกับเธอตั้งแต่สมัยที่ปลอมเป็นนักร้องไปสืบคดี โต้งพาเจนนรีมาทำงานที่ภัตตาคารซึ่งที่นี่ทำให้เจนนรีได้พบกับอัญญา

ทรงกลดรู้เรื่องจากจอมขวัญว่าอัญญาเป็นหลานของมาวิน และจะไปเจอมาวินที่ภัตตาคาร จึงแก้แค้นด้วยการไปลักพาตัว แต่บังเอิญขณะนั้นรวีได้มาหาเจนนรีที่ภัตตาคารด้วย ทั้งสองจึงถูกจับตัวไปพร้อมกัน ทรงกลดให้มาวินนำค่าไถ่มาพร้อมกับเจนนรี เพราะมีแผนจะฆ่าทั้งคู่ แต่เมื่อถึงตาจนเจนนรีสู้ไม่ถอย ทำให้มาวินประทับใจในตัวเจนนรี จึงดึงเธอมาเป็นบอดี้การ์ดให้อัญญา เจนนรีรับปาก โดยสัญญาจะไม่ให้เธอยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด เจนนรีจึงยอมตกลง

ทรงกลดวางแผนที่ต้องการกำจัดไอ้โม่งดำโดนใช้เยื่อล่อคือไอ้โม่งดำอีกคน ซึ่งทั้งหมดเป็นเกมของมาวินที่วางไว้เพื่อกำจัดไอ้โม่งดำเช่นกัน และเมื่อมาวินพร้อมเดินเกมสู้ ส่วนอีกด้านเมื่อวิชาญรู้ว่าตัวเองมีคู่แข่งจึงตั้งการ์ดเตรียมรับมือ เรื่องราวทั้งหมดจะจบเช่นไร เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างวางแผนเกมของตัวเอง ต่างฝ่ายต่างต้องการเป็นใหญ่ จึงทำให้เกิดความโกลาหลขึ้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายคนดีที่ต้องการผดุงคุณธรรม เส้นทางความรักระหว่างเจนนรีกับนนท์ ต้องเกิดการขัดแย้งกัน อีกฝ่ายเป็นตำรวจ อีกฝ่ายทำงานให้กับมาเฟีย นำพามาซึ่งความเป็นไปได้ยากที่ทั้งสองจะกลับมารักกันอีก เมื่อเธอทั้งสองเป็นเหมือนเส้นขนาน การห้ำหั่นจึงบังเกิดขึ้น ติดตามชมละคร เกมล่าทรชน

บทประพันธ์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ
บทโทรทัศน์โดย : ณพุทธ สุศรีฯ/ภชรพา เงินเจือ
กำกับการแสดงโดย : นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช
ผลิตโดย : บริษัท เมตตาและมหานิยม จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : นก ฉัตรชัย เปล่งพานิช

นักแสดง
ปริญ สุภารัตน์ รับบท นนท์
ณฐพร เตมีรักษ์ รับบท เจนนรี
จรณ โสรัตน์ รับบท มาวิน
พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์ รับบท ลลิสา
นรภัท ฐิตะกวิน รับบท รวี
นรวรรณ เศรษฐรัตนพงศ์ รับบท อัญญา
ฉัตรชัย เปล่งพานิช รับบท ขจร
สินจัย เปล่งพานิช รับบท พิณ
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท วิชาญ
แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นซ์ รับบท จอมขวัญ
อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์ รับบท สัณชัย
พิษณุ นิ่มสกุล รับบท พงศธร
ศรัณยู ประชากริช รับบท ทรงกลด
บุญญิสา ผลบารมี รับบท ริต้า
สนธยา ชิตมณี รับบท จ่าชาติ
พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา รับบท สิงห์
ศุภชัย สุวรรณอ่อน รับบท โต้ง
เตชินท์ ปิ่นชาตรี รับบท คำรณ
รัชนาท กัมปนาทแสนยากร รับบท ปกรณ์
ศุภรัตน์ มีปรีชา รับบท เชนทร์
กิตติธัช ประดับ รับบท วรวัฒน์
สหจักร บุญธนกิจ รับบท ศักดา
ขวัญฤดี กลมกล่อม รับบท นวล
ณัฐนี สิทธิสมาน รับบท แม่บ้าน
นรินทร ณ บางช้าง รับบท ป้าใหญ่
สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ รับบท เฮียเต็ก
เรืองฤทธิ์ วิศมล รับบท ยุทธ
ดลกมล ศรัทธาทิพย์ รับบท ลุงดำ
นฤมล พงษ์สุภาพ รับบท แม่ละมุน
สุรินทร คารวุตม์ รับบท สาริน
วีระชัย หัตถโกวิท รับบท หมอเถื่อน

เกมล่าทรชน (Game of Outlaws) เป็นละครโทรทัศน์ไทยแนวดราม่า-แอคชั่น-โรแมนติก เค้าโครงเรื่องเดิมจาก พระจันทร์ลายพยัคฆ์ เรื่องราวความหมางใจของสองพี่น้องจนเกิดเป็นความแค้น และสร้างปมรักสามเส้าที่ยากจะประสาน ท่ามกลางภารกิจตามล่ากลุ่มมาเฟีย ผลิตโดย เมตตาและมหานิยม กำกับการแสดงโดย ฉัตรชัย เปล่งพานิช นำแสดงโดย ปริญ สุภารัตน์, ณฐพร เตมีรักษ์, จรณ โสรัตน์, พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์ ออกอากาศทางช่อง 3 ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 – 22.30 น. เริ่มตอนแรกวันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2564 และออกอากาศคู่ขนานผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Netflix ใน 10 ประเทศ ได้แก่ ลาว, กัมพูชา, เมียนมา, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, บรูไน, สิงคโปร์, มาเลเซีย และติมอร์ตะวันออก

เรื่องราวของ เจนนรี กับ ลลิสา สองพี่น้องที่ตั้งใจเป็นตำรวจเพื่อกลับมาล้างแค้นคนที่ฆ่าพ่อของพวกเธอ พวกเธอจึงได้เข้าไปอยู่ในหน่วยงานของ สารวัตรนนท์ ผู้ที่กำลังตามคดี ศักดา แต่เจนนรีกลับพลาดพลั้งฆ่าศักดา จนตัวเองต้องติดคุกและทำให้แม่ของพวกเธอต้องตาย ลลิสาโกรธเจนนรีมากจนเกิดเป็นรอยร้าวของสองพี่น้องและสร้างแผลใจให้กับทั้งคู่เพราะสารวัตรนนท์ เมื่อเจนนรีพ้นโทษเธอหันหน้าเข้าหาความเลวเมื่อเธอก้าวไปเป็นลูกน้องของ มาวิน น้องชายต่างแม่ของศักดา สงครามการห้ำหั่นจึงเกิดขึ้น

งานสร้าง
การกลับมาประกบคู่กันอีกครั้งของหมาก ปริญ และแต้ว ณฐพร หลังจากที่เคยร่วมงานกันมาแล้วในละครเรื่องรากนครา ซึ่งเรื่องนี้เป็นการพลิกบทบาทเล่นบู๊เต็มตัวครั้งแรกของณฐพร การันตีลายเซ็นความบู๊จัดเต็มโดยผู้จัด-ผู้กำกับพี่นก ฉัตรชัย ที่ร่วมแสดงในเรื่องด้วย และเป็นการร่วมงานกับทางช่อง 3 ครั้งแรกของตูน พิมพ์ปวีณ์ หลังจากหมดสัญญากับทางช่อง 7 ทุกเหตุการณ์ในละครเรื่องนี้เป็นเพียงเหตุการณ์สมมุติ ทั้งชื่อตัวละคร, หน่วยงาน, และเรือนจำที่อยู่ในเรื่องไม่มีอยู่จริง เป็นการเซ็ตฉากขึ้นมาเพื่อถ่ายทำเท่านั้น

บทประพันธ์เรื่องนี้ถูกสร้างเป็นละครมาแล้วถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2553 โดยใช้ชื่อเรื่องพระจันทร์ลายพยัคฆ์ ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2564 ในครั้งนี้ใช้ชื่อเรื่อง เกมล่าทรชน โดยใช้ชื่อเรื่องและชื่อตัวละครตามบทประพันธ์เดิมของณพุทธ สุศรีฯ