ละคร ไทรโศก 2553 (EP.1-17 ตอนจบ) HD END

ไทรโศก ผืนดินสองพันไร่กลายเป็นมรดกเลือดที่ต้องสาบผู้คนแห่งบ้านไทรโศกถึงสามรุ่น เพราะความมักมากในทรัพย์สินและกามารมณ์ จาก พระยาธีระรัตน์ ผู้เป็นเจ้าบ้านจนกลายเป็นอัมพาต กิติ ทายาทผู้เดียวที่เป็นใบ้เพราะถูกวางยาพิษ จนถึง ยิ่งยง หนุ่มอาภัพผู้เติบโตมาโดยไม่รู้กระทั่งชาติกำเนิดของตน และตกเป็นเป้าสังหารของบรรดาผู้คนที่หมายปองมรดกแห่งไทรโศก



ละคร ไทรโศก 2553

ละคร ไทรโศก 2553

ละคร ไทรโศก 2553 EP.1-17

ไทรโศก – สายตาคู่นั้น เพลงประกอบละคร ไทรโศก กมลชนก ชายโดม

ละคร ไทรโศก 2553

ผืนดินสองพันไร่กลายเป็นมรดกเลือดที่ต้องสาบผู้คนแห่งบ้านไทรโศกถึงสามรุ่น เพราะความมักมากในทรัพย์สินและกามารมณ์ จาก พระยาธีระรัตน์ ผู้เป็นเจ้าบ้านจนกลายเป็นอัมพาต กิติ ทายาทผู้เดียวที่เป็นใบ้เพราะถูกวางยาพิษ จนถึง ยิ่งยง หนุ่มอาภัพผู้เติบโตมาโดยไม่รู้กระทั่งชาติกำเนิดของตน และตกเป็นเป้าสังหารของบรรดาผู้คนที่หมายปองมรดกแห่งไทรโศก

เหนือคุ้งน้ำแห่งไทรโศกบ้านของ พระยาธีระรัตน์ (ดิลก ทองวัฒนา) ได้รับการขนานนามจากชาวบ้านว่า ไทรโศก พระยาธีระรัตน์มีบุตรชายหนึ่งคนชื่อ กิติ (วรวุฒิ นิยมทรัพย์) ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อ เยื้อน (สันติสุข พรหมศิริ) เพื่อนร่วมสาบานของพระยาธีระรัตน์ พาลูกสาวมาที่บ้านไทรโศก ด้วยคดีฆ่าเมียและชู้ตาย โดยให้พระยาธีระรัตน์รับเลี้ยง บานเย็น (กมลชนก เขมะโยธิน) พร้อมทั้งโอนโฉนดที่ดินสองพันกว่าไร่ให้กับพระยาธีระรัตน์ โดยให้สาบานว่าจะส่งเสียเลี้ยงดูบานเย็นเป็นอย่างดี และมอบที่ดินบางส่วนให้บานเย็นหลังจากที่บานเย็นโตจนออกเรือนแล้ว หลังจากพระยาธีระรัตน์รับปาก เยื้อนก็ฆ่าตัวตาย

พระยาธีระรัตน์ขึ้นมาอยู่ที่พระนครและได้ส่งลูกชายไปเรียนเมืองนอก บานเย็นจบแค่มัธยมต้นก็ออกจากโรงเรียนมาเป็นคนรับใช้พระยาธีระรัตน์ เพราะคุณหญิงชังว่าบานเย็นคือลูกสาวเยื้อนที่เคยเป็นคนรักเก่าของตนที่ถอนหมั้นไปแต่งกับแม่ของบานเย็น

พระยาธีระรัตน์เสวยสุขได้ไม่นานก็ป่วยเป็นอัมพาตจึงกลับไปที่ไทรโศก โดยมีบานเย็น เพิ่ม (รอน บรรจงสร้าง) ลูกเลี้ยง รวมทั้ง หวิน (ปวันรัตน์ นาคสุริยะ) แม่ครัวและลูกชายชื่อ ดำ (ภูริ หิรัญญพฤกษ์) กิติกลับจากเมืองนอกโดยที่เรียนไม่จบอะไรเลย และยังทำตัวเป็นหนุ่มสังคม เที่ยวเตร่สุดท้ายก็ทำ อุษา (สุวัจนี ไชยมุสิก) ท้อง พระยาธีระรัตน์จึงเรียก เจน (ภานุเดช วัฒนสุชาติ) ทนายความประจำตระกูลจัดการพินัยกรรมโดยสั่งให้บานเย็นจดทะเบียนสมรสกับกิติและมีทายาทด้วยกัน จึงจะยกนาสองพันไร่ให้ ส่วนดอกผลจากไร่นาให้คุณหญิงแต่พอเลี้ยงครอบครัวแต่ละเดือน

คุณหญิงจัดงานแต่งให้บานเย็นและกิติ โดยคุณหญิงวางอุบายให้อุษามอมเหล้า ใบ้ (ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ) หนุ่มกำพร้าที่ ยายอ่อน (พิสมัย วิไลศักดิ์) หมอตำแยนำมาเลี้ยงแต่เล็กและมาเข้าหอแทนกิติ บานเย็นตั้งท้องและคลอดลูกเป็นผู้ชายพร้อมกันกับอุษาซึ่งเป็นผู้ชายชื่อ อ๊อดหรือเกียรติกร (พิเชษฐไชย ผลดี) คุณหญิงพา ท่านเจ้าคุณยงยศฤงคาร (เกรียงไกร อุณหนันท์) มาตามหาลูกที่ไทรโศกเห็นลูกบานเย็นจึงตั้งชื่อว่า อู๊ด หรือ ยิ่งยง (พัชฎะ นามปาน) และพาไปที่พระนครทันที โดยไม่ให้บานเย็นไปยุ่งเกี่ยวเด็ดขาด เพราะจะไปในฐานะน้องของอ๊อด

บานเย็นบังเอิญได้พบทารกกำพร้าจึงรับเลี้ยงและตั้งชื่อว่า ไทรงาม (จิตตาภา แจ่มปฐม) ผ่านไป 20 ปี อู๊ดจบวิศวะจุฬา ไปงานรับปริญญา เด่นดาว (คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์) หลานเจ้าคุณยงยศศฤงคาร แต่ถูกไทรงามซึ่งเรียนจบแพทย์ศาสตร์มาดึงตัวไปรู้จักกับเพื่อน ๆ โดยคิดว่าเป็น ดำ (ภูริ หิรัญพฤกษ์) ดำก็ทักเด่นดาวผิดเพราะเข้าใจว่าเป็นไทรงาม จึงทำให้ทั้งคู่รู้จักกันโดยบังเอิญ

อ๊อดหลงรักเด่นดาวแต่แรกเห็นจึงเร่งรัดพ่อแม่ให้ไปขอเด่นดาว เจ้าคุณยงยศฯ เข้าใจว่าทุกคนมาขอหลานสาวให้อู๊ด แต่เมื่อรู้ว่าเป็นอ๊อด เด่นดาวจึงปฏิเสธและได้พาเด่นดาวไปอยู่บ้านไทรโศก ทั้งหมดจึงยกโขยงตามอู๊ดไปที่ไทรโศก รวมทั้ง ทนต์ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) นักโทษเพิ่งพ้นโทษมาจากคุก ก็ตามไปแก้แค้นเจ้าคุณยงยศฯ ที่ไทรโศกด้วย อ๊อดมาเจอไทรงามก็หลงรักไทรงามอีก แต่จริงจังกว่าเด่นดาว ทำให้ อัมพริกา (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) ลูกสาว เสี่ยโอ (ศานติ สันติเวชกุล) เหน็บเจ็บ ๆ หลายครั้ง

เจ้าคุณฯ ตั้งแต่เจอไทรงามก็สงสัยเฝ้าถามคนที่อยู่ไทรโศกอย่าง เฟื้อ คนสนิท จนพบความจริงจากเจนว่าไทรงามคือหลานสาวที่เกิดจาก ฉัตรพงศ์ ลูกชายคนเดียวกับสาวใช้ที่พากันหนีออกจากบ้านเมื่อ 24 ปีก่อน อุษาได้เจอกับทนต์สามีเก่าจึงร่วมมือกันใช้สมุนไพรพิษต้มให้คุณหญิงกับกิติดื่มเพื่อให้เป็นอัมพาต อ๊อดหึงอู๊ดกระทั่งวางแผนกับอุษาและทนต์ฉุดไทรงามมาเป็นเมียแต่เรื่องกลับเป็นว่าอ๊อดข่มขืนอัมพริกาแทน อุษารู้ว่าแผนแตกจึงมาบอกทนต์ กิติเห็นทั้งคู่เป็นชู้กัน ทนต์จึงทำร้ายกิติแล้วกรอกยาทำให้เป็นอัมพาตพูดไม่ได้ทันที

เพราะความริษยาอุษาจึงแสร้งบีบน้ำตาขอร้องไทรงามให้เลิกคบกับอู๊ดเพราะแท้จริงแล้วไทรงามกับอู๊ดเป็นแม่ลูกเดียวกัน พร้อมกับขอให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับเพราะไม่อยากให้อู๊ดเสียใจ ไทรงามจะแต่งงานกับอ๊อดและขอให้บานเย็นสบายใจว่าเธอทำด้วยความเต็มใจ อู๊ดบอกกับเด่นดาวว่าเขารักเธอแบบพี่ชาย ทำให้เธอกระโดดน้ำคิดฆ่าตัวตายแต่ดำช่วยไว้ทันและมีสร้อยขาดติดมือดำมา เจ้าคุณฯ เข้ามาประกาศกลางงานแต่งงานของอ๊อดกับไทรงามว่าไทรงามคือหลานสาวตระกูลยงยศศฤงคาร โดยมีหลักฐานคือสร้อย 3 เส้น อยู่กับเจ้าคุณฯ เด่นดาวและไทรงาม

คุณหญิงเจอจดหมายที่กิติเขียนว่าที่ตนเองมีสภาพแบบนี้เพราะโดนอุษาและชู้ทำร้าย คุณหญิงจึงไล่อุษาออกจากบ้าน เธอโกรธจัดจึงผลักคุณหญิงหัวฟาดพื้นหมดสติ กิติเห็นแต่ทำอะไรไม่ได้จึงช็อกตายคาเตียง อุษาจับคุณหญิงกรอกยาเหมือนที่เคยทำกับกิติ ทนต์ อ๊อด เสี่ยโอ รวมหัวกันวางแผนล้างแค้นตระกูลธีระรัตน์และยงยศศฤงคาร ด้วยการปล้นบ้านของทั้งสองตระกูลในวันสงกรานต์ ทนต์กับอุษาปล้นบ้านคุณหญิงเสร็จจะเผาบ้าน แต่ก็ต้องตะลึงเมื่อคุณหญิงลุกขึ้นสู้ แล้วบอกอุษาว่าสมุนไพรพิษที่แท้แล้วคือน้ำชาธรรมดา อู๊ดเข้ามาช่วยคุณหญิงและบอกความจริงว่าพ่อแม่ที่แท้จริงคือใคร ก่อนจะหมดลมหายใจคาตักอู๊ด ขณะที่อุษาก็ตายคากองเพลิงไป

ทนต์ซ้อมเจ้าคุณฯ ที่ทำให้ตระกูลตนล่มจม พร้อมทั้งลวนลามเด่นดาวเพื่อทรมานเจ้าคุณฯ เล่น เจ้าคุณฯ ทนไม่ไหวจึงบอกทนต์ว่ากล้าข่มขืนลูกตนเองเชียวหรือ เจ้าคุณฯ โพล่งต่อว่าผู้หญิงที่ทนต์รักคือแม่ของเด่นดาวที่ไม่เคยมีอะไรกับ ฉัตรพงษ์ จังหวะนั้นเองอู๊ดยกพวกบุกเข้ามา เสี่ยโอ อ๊อด ทนต์ยิงใส่พวกอู๊ด เสี่ยโอกับอ๊อดหนีไปได้ ขณะที่ทนต์โดนใบ้ยิงสาหัส ทนต์เสียใจหนักเมื่อรู้ความจริงจากเฟื้อน้าแท้ ๆ ว่าเจ้าคุณฯ ไม่ได้เป็นคนทำตระกูลล่มจม แต่คนที่ทำคือพ่อของทนต์ที่ติดพนันจนล้มละลาย

เด่นดาวเข้ามากราบเท้าเรียกทนต์ว่าพ่อ ทนต์ละอายใจจึงฆ่าตัวตาย เจนเปิดพินัยกรรมคุณหญิงที่ฝากไว้โดยบอกว่าขอยกมรดกทั้งหมดของตนให้กับอู๊ด อ๊อดโผล่มากลางงานประกาศว่าเมื่อเขาไม่ได้อะไรเลย อู๊ดก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน จึงใช้ปืนยิงอู๊ดไม่ยั้ง เรื่องราววุ่น ๆ จะจบลงอย่างไร ติดตามชมได้ใน ละครไทรโศก

บทประพันธ์โดย : จำลักษณ์
บทโทรทัศน์โดย : ปารดา กันตพัฒนกุล
ผู้กำกับแสดงโดย : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ผู้จัดโดย : วรายุธ มิลินทจินดา / ธิติมา สังขพิทักษ์
ผลิตโดย : บริษัท โนพรอบเล็ม จำกัด

นักแสดง
พัชฎะ นามปาน รับบท ยิ่งยง
จิตตาภา แจ่มปฐม รับบท ไทรงาม
ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ รับบท ใบ้
กมลชนก เขมะโยธิน รับบท บานเย็น
คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์ รับบท เด่นดาว
ภูริ หิรัญพฤกษ์ รับบท ดำ
วรวุฒิ นิยมทรัพย์ รับบท กิติ
สุวัจนี ไชยมุสิก รับบท อุษา
พิเชษฐไชย ผลดี รับบท เกียรติกร
พิมพ์อักรษร วินโกมินทร์ รับบท อัมพริกา
ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ รับบท ทนต์
รอน บรรจงสร้าง รับบท เพิ่ม
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับบท หวิน
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท คุณหญิงธีระรัตน์
ภานุเดช วัฒนสุชาติ รับบท ทนายเจน
พิสมัย วิไลศักดิ์ รับบท ยายอ่อน
อรสา พรหมประทาน รับบท อุไร
ศานติ สันติเวชกุล รับบท เสี่ยโอ
ดิลก ทองวัฒนา รับบท พระยาธีระรัตน์
สันติสุข พรหมศิริ รับบท เยื้อน
ดารัณ บุญยศักดิ์ รับบท สมบุญ
เกรียงไกร อุณหนันท์ รับบท เจ้ายงยศ

ไทรโศก เป็นภาพยนตร์ไทย ฟิล์ม 35 มม. จากบทประพันธ์ของ จำลักษณ์ กำกับการแสดงโดย วิจิตร คุณาวุฒิ สร้างโดย แหลมทองภาพยนตร์ นำแสดงโดย มิตร ชัยบัญชา, โสภา สถาพร, รักชนก จินดาวรรณ, บุศรา นฤมิตร, อดุลย์ ดุลยรัตน์, บุษกร สาครรัตน์ เข้าฉายเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ฉายครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์เฉลิมกรุง

สร้างใหม่ในปี พ.ศ. 2524 กำกับการแสดงโดย น้อยเศวต สร้างโดย ศรีเศวตภาพยนตร์ นำแสดงโดย เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์, พอเจตน์ แก่นเพชร, ดวงใจ หทัยกาญจน์, นาวี สุวรรณทัพ, ลักษณ์ อภิชาติ, ประจวบ ฤกษ์ยามดี, เมตตา รุ่งรัตน์, สุพรรณี จิตต์เที่ยง เข้าฉายเมื่อ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2524 ออกอากาศในรายการ แกะกล่องหนังไทย ทาง ทีวีไทย เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สร้างเป็นละครโทรทัศน์ ใน ช่อง 7 กำกับการแสดงโดย ภราดร เล็กประเสริฐ นำแสดงโดย บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์, เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์, ชไมพร จตุรภุช, พิศมัย วิไลศักดิ์, ชุติมา นัยนา, จามิน เหมพิพัฒน์, ดาริน กรสกุล, สมชาย สามิภักดิ์, ปัทมา ปานทอง, ไปรมา รัชตะ, อำนวย ศิริจันทร์, น้ำเงิน บุญหนัก, ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา, ผจญ ดวงขจร, คมสัน พงษ์สุธรรม ปิดกล้องปี พ.ศ. 2534 แต่ไม่ได้ออกอากาศ

และในปี พ.ศ. 2553 ใน ช่อง 3 กำกับการแสดงโดย ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผลิตโดยบริษัท โนพรอบเล็ม จำกัด จัดโดย วรายุธ มิลินทจินดา และ ธิติมา สังขพิทักษ์ บทโทรทัศน์โดย ปารดา กันตพัฒนกุล นำแสดงโดย พัชฏะ นามปาน, จิตตาภา แจ่มปฐม, คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์, ภูริ หิรัญพฤกษ์, พิเชษฐ์ไชย ผลดี, พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์, กมลชนก เขมะโยธิน, ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติ, สุวัจนี ไชยมุสิก, วรวุฒิ นิยมทรัพย์, ดวงตา ตุงคะมณี, รอน บรรจงสร้าง, ปวันรัตน์ นาคสุริยะ, เกรียงไกร อุณหะนันท์ ออกอากาศทุกวันพุธ–พฤหัสบดี เวลา 20.30 น