ซีรีส์ เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก Boys in love 2568 มันเป็นเรื่องราววุ่นๆ ของวัยรุ่น ม.6 ที่เพิ่งเปิดเทอมใหม่ แล้วหัวใจก็เริ่มหัดรักกันแบบสดใสๆ เรื่องราวของ “เชน” ที่เป็นเด็กเรียนดีเด่น สุดเพอร์เฟกต์ทั้งเรียนทั้งกิจกรรม แต่ไม่ค่อยอินกับชีวิตวัยรุ่นเท่าไหร่ จนมาเจอ “กิต” เพื่อนร่วมรุ่นที่ตรงข้ามกันสุดๆ กิตเป็นพวกขี้เล่น ชอบปาร์ตี้ ไม่ค่อยจริงจัง แต่แล้วทั้งคู่ก็ต้องมาติดกันแบบไม่เต็มใจ เพราะเชนต้องติวกิตให้ผ่านสอบอะไรซักอย่าง เริ่มจากทะเลาะกันก่อน แล้วค่อยๆ เริ่มรู้สึกแปลกๆ ต่อกัน ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งหวั่นไหว จนพัฒนาเป็นความรักแบบ opposites attract สุดคลาสสิก
ส่วนอีกคู่คือ “คิม” ที่กำลังอยู่ในโหมดอยากมีแฟนก่อนจบ ม.6 เพราะเบื่อความเหงา แล้วก็มาเจอ “ม่อน” เด็กใหม่ย้ายมาโรงเรียน คิมตกหลุมรักแบบปุ๊บปั๊บ เลยเดินหน้าจีบเต็มสูบ ใช้ตุ๊กตายีราฟสารภาพรักตอนทัศนศึกษา หวานกันฉ่ำๆ แต่ก็มีดราม่านิดๆ เมื่อแม่ของม่อนมาเป็นครูฝ่ายปกครอง แล้วยังมีเรื่องอดีตของม่อนที่คิมไม่ใช่แฟนคนแรก ต้องมาลุ้นว่าจะผ่านอุปสรรคยังไง
นอกจากสองคู่นี้ ยังมีตัวละครรองอย่าง “เปอร์” กับ “ต้าร์” ที่เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน คอยสร้างสีสัน สนุกสนานไปกับกิจกรรมโรงเรียน เช่น ทัศนศึกษาที่พัทยา สอบกลางภาค ปาร์ตี้ฉลอง กีฬาสี และเตรียมสอบเข้ามหาลัย ส่วนครูอย่าง “ครูแทน” กับ “ครูนัท” ก็คอยดูแลเด็กๆ แบบอบอุ่น เรื่องราวมันไหลไปตามช่วงเวลาในโรงเรียน ตั้งแต่เปิดเทอมแรก จนถึงเทอมสอง มีทั้งโมเมนต์หวาน ฟิน ดราม่าเบาๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ อนาคต และการเติบโต
ซีรีส์เน้นความสดใสของวัยรุ่น ไม่หนักเกินไป แต่ก็มีสาระเกี่ยวกับการสื่อสารในความรัก การยอมรับตัวเอง และมิตรภาพ ถ้าได้ดูแล้วจะรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปสมัยเรียนเลยล่ะ ต่อไปนี้คือจุดเด่นของซีรีส์
จุดเด่นแรกเลยคือเคมีของนักแสดง มิค เมธัส กับ ลูค ภีมสรรค์ ในบทเชนกับกิต มันเข้ากันสุดๆ มิคเล่นเด็กเนิร์ดได้น่ารัก ลูคเล่นพวกขี้เล่นได้มีเสน่ห์ จังหวะจีบกันแบบค่อยเป็นค่อยไป ฟินมาก โดยเฉพาะฉากติวหนังสือที่พัทยา หรือตอนทะเลาะแล้วง้อ โชกุน พุทธิพงษ์ กับ แอสตัน รติภัทร ในคู่คิมกับม่อน ก็ไม่แพ้กัน โชกุนเล่นบทขี้เหงาได้ฮา แอสตันเล่นเด็กใหม่ลึกลับได้น่าค้นหา ฉากสารภาพรักด้วยตุ๊กตายีราฟนี่น่ารักจนยิ้มตามเลย นักแสดงรองอย่างเคน พอล ป๊อด และปาแปง ก็ช่วยเติมสีสัน ทำให้กลุ่มเพื่อนดูสนุกสนานเหมือนจริง
เรื่องมันไหลลื่นดี ไม่ยืดเยื้อ มีกิจกรรมโรงเรียนเป็นแบ็กกราวด์ เช่น ทัศนศึกษา กีฬาสี สอบเข้ามหาลัย ทำให้รู้สึกเหมือนย้อนวัยเรียน ดราม่ามีแต่ไม่หนัก เช่น ปัญหาแม่ครู หรืออดีตแฟนเก่า แต่ซีรีส์เน้นการสื่อสารและแก้ปัญหาแบบผู้ใหญ่ ซึ่งหายากใน BL เก่าๆ การกำกับของวาสุเทพ เกตุเพ็ชร์ ก็ดี ภาพสวย สีสดใส เพลงประกอบ ก็ติดหู
คะแนนโดยรวม 8/10 ซีรีส์นี้เป็น BL ที่ทำให้หัวใจอุ่นๆ ดูแล้วยิ้มได้ตลอด ถ้าชอบแนวโรแมนติกวัยรุ่น แนะนำเลย
เริ่มจากพล็อตและบท คะแนน 7.5/10 เพราะมันสดใส เน้นความรักวุ่นๆ ของวัยรุ่น แต่บางส่วนดู repetitive เช่น ดราม่าอุปสรรคซ้ำๆ ไม่ค่อยลึก แต่จุดเด่นคือการสื่อสารที่ดี ไม่ลากยาว นักแสดงคะแนนเต็ม 9/10 เลย มิค ลูค โชกุน แอสตัน เคมีดีมาก เล่นได้ธรรมชาติ ตัวรองก็ช่วยเสริมไม่ให้เรื่องน่าเบื่อ การกำกับและโปรดักชั่น 8/10 ภาพสวย เพลงดี GMMTV ทำได้มาตรฐาน แต่บางฉากโรงเรียนอาจรู้สึกเก่าไปนิด
ธีมและข้อความ 8.5/10 เพราะสอนเรื่องการยอมรับตัวเอง มิตรภาพ และความรักแบบ healthy ไม่ toxic ซึ่งหายากใน BL เก่าๆ ความบันเทิงและฟิน 9/10 ดูแล้วยิ้มตาม ฟินฉ่ำ แต่ถ้าชอบดราม่าหนักๆ อาจรู้สึกเบาไป
ความรู้สึกหลักคือความสุขที่ล้นออกมา จากการเห็นตัวละครสื่อสารกันตรงๆ ไม่ปล่อยให้ปัญหาค้างคา การพัฒนาความสัมพันธ์ของเชนกับกิตชวนให้หัวใจเต้นแรง ค่อยๆ เปลี่ยนจากตรงข้ามเป็นใกล้ชิด ส่วนคิมกับม่อนนำพาความฟินแบบไม่กั๊ก ฉากสารภาพรักและเดทคู่สร้างรอยยิ้มกว้าง ดราม่านิดๆ เกี่ยวกับอุปสรรคทำให้เรื่องสมจริง แต่ไม่หนักจนอึดอัด กิจกรรมโรงเรียนอย่างทัศนศึกษาและกีฬาสีเติมเต็มความสนุกสนาน เหมือนได้ร่วมเชียร์ไปด้วย เพลงประกอบและภาพสีสดใสยิ่งขยายความรู้สึกเบิกบาน
ซีรีส์ เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก Boys in love 2568
ซีรีส์ เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก Boys in love 2568 EP.1-12 ตอนจบGMMTV OFFICIAL
ซีรีส์ เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก Boys in love 2568 EP.1-12 ตอนจบiQIYI
ซีน ซีรีส์ เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก Boys in love 2568
ซีรีส์ เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก Boys in love 2568
เรื่องราวมันเริ่มต้นที่โรงเรียน ม.6 เปิดเทอมใหม่ พระเอกคนแรก “เชน” (เล่นโดย มิค เมธัส) เป็นเด็กเรียนดีเด่นสุดๆ เก่งทั้งเรียนทั้งกิจกรรม แต่ไม่ค่อยอินกับชีวิตวัยรุ่น ไม่ชอบปาร์ตี้ ไม่ชอบเล่นอะไรบ้าๆ จนมาเจอ “กิต” (ลูค ภีมสรรค์) เพื่อนร่วมรุ่นที่ตรงข้ามกันแบบสุดขั้ว กิตเป็นพวกขี้เล่น ชอบแกล้ง ชอบสนุก แต่เรียนไม่เก่ง เลยต้องให้เชนมาช่วยติว แล้วก็ตัวติดกันแบบไม่เต็มใจ ตอนแรกทะเลาะกันตลอด แต่ยิ่งอยู่ด้วยกัน เชนก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ หัวใจเต้นแรงเวลาเจอกิต อย่างตอนกิตพาไปทำอะไรที่เชนไม่เคยทำ เช่น กินสตรีทฟู้ดตอนดึก หรือเล่นเกมส์อะไรสนุกๆ มันค่อยๆ พัฒนาจากศัตรูกลายเป็น… อะไรซักอย่างที่หวานมาก
ส่วนอีกคู่ “คิม” (โชกุน พุทธิพงษ์) เป็นเด็กขี้เหงา อยากมีแฟนก่อนจบ ม.6 เพราะเบื่อความโสด แล้วก็มาเจอ “ม่อน” (แอสตัน รติภัทร) เด็กใหม่ย้ายมาโรงเรียน คิมตกหลุมรักปุ๊บปั๊บเลย เดินหน้าจีบแบบเต็มสูบ ชวนติว ชวนคุยโทรศัพท์ทุกคืน โมเมนต์ฟินๆ มาเต็ม ตอนทัศนศึกษาที่พัทยา คิมสารภาพรักด้วยตุ๊กตายีราฟ น่ารักมากกก แต่ก็มีดราม่านิดๆ นะ เพราะแม่ม่อนมาเป็นครูฝ่ายปกครอง แล้วม่อนยังมีอดีตว่าคิมไม่ใช่แฟนคนแรก ลุ้นกันเลยว่าจะผ่านไปได้มั้ย
เรื่องมันไหลไปตามกิจกรรมโรงเรียนเลย ตอนแรกๆ หลังเปิดเทอม คิมเจอม่อนแล้วรู้สึกปิ๊ง เชนโดนกิตพาไปผจญภัย จนเชนเริ่มหวั่นไหว ตอนทัศนศึกษา คิมสารภาพรักสำเร็จ แล้วทั้งสองคู่ก็อัพเลเวลความหวาน ชวนติว โทรคุย ใกล้ชิดกันสุดๆ แต่แล้วดราม่ามาเมื่อแม่ม่อนเป็นครู คิมต้องยืนยันว่าจะคบต่อไม่เปลี่ยนใจ กิตก็รุกเชนหนัก ถามตรงๆ ว่าเราเป็นอะไรกัน สุดท้ายเชนตอบยังไง ลุ้นมาก
หลังจากนั้น ทุกคนยังอยู่พัทยา แข่งกันเสิร์ฟความฟิน คิมประกาศจะสวีทกับม่อนให้ทั้งหาดดู กิตยิ้มสดใสกับเชน เพื่อนๆ อย่าง “เปอร์” (เคน กันต์ธีร์) กับ “ต้าร์” (พอล ธนัน) ก็สนุกสุดเหวี่ยง ครูแทน (ปาแปง พรหมพิริยะ) กับครูนัท (ป๊อด ศุภกร) ดีใจเห็นเด็กๆ มีความสุข ถามว่าคู่ไหนทำให้ทะเลหวานที่สุด โอ้ย ฟินฉ่ำ
หลังสอบกลางภาค ทุกคนแฮปปี้ เตรียมเดทคู่ ปาร์ตี้ฉลองปิดภาค สองคู่แข่งกันหวานไม่แผ่ว เปอร์กับต้าร์ก็สนิทกันขึ้น เปิดเทอมสอง คิมอยากเป็นนักเรียนดีเด่น ทำคอนเทนต์โดยมีม่อนซัพพอร์ต เชนกับกิตใกล้ชิดไปอีก ผลัดกันดูแลที่คอนโด ตอนกีฬาสี ทุกคนตื่นเต้น ซ้อมวิ่ง ทำป้าย แต่ м่อนล่ารายชื่อยกเลิกกีฬาสี ทะเลาะกับคิม ลุ้นว่าทำไม м่อนทำแบบนั้น กีฬาปีสุดท้ายจะหวานหรือขม
ตอนใกล้จบ เชนกับกิตไปหาหมอดูเรื่องอนาคต คิมกับม่อนต้องเผชิญอดีตเพราะม่อนสารภาพเรื่องแฟนเก่า ลุ้นคำทำนายและอุปสรรค นับถอยหลังปิดเทอม ทุกคนเตรียมมหาลัย แต่มีปัญหา เชนหงุดหงิดเพราะกิตตัดสินใจไม่ได้ คิมกับม่อนไม่คุยตรงๆ จนเกือบผิดใจ สุดท้ายเรื่องจบด้วยกิตบอกว่ายอมแพ้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องเชนที่ให้แรงใจ คิมสัญญากับม่อนว่าจะไม่ปล่อยมือแม้ห่างไกล บทสรุปความรักทุกคนแฮปปี้เอนดิ้งมาก
เบื้องหลังซีรีส์สุดฮิต “เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก Boys in Love” ซีรีส์นี้ไม่ใช่แค่หน้าจอหวาน แต่เบื้องหลังก็สนุก โหดฮาไม่แพ้กัน ใครที่ดูจบแล้วอยากรู้ว่านักแสดงถ่ายยังไง ผู้กำกับทำอะไรบ้าง มากันเลย
ซีรีส์นี้กำกับโดย “วาสุเทพ เกตุเพ็ชร์” ผู้กำกับมือฉมังที่เคยทำซีรีส์วัยรุ่นหลายเรื่องของ GMMTV เขาเน้นเซ็ตติ้งโรงเรียนให้ดูสดใสจริงๆ ถ่ายทำที่โรงเรียนจริงๆ ในกรุงเทพฯ และพัทยาเพื่อฉากทัศนศึกษา ผลิตโดย GMMTV ล้วนๆ เลยทีมงานบอกว่าต้องการให้เรื่องนี้ feel-good เน้นเคมีนักแสดงและกิจกรรมวัยเรียนจริงๆ การถ่ายทำเริ่มต้นช่วงปลายปี 2567 ใช้เวลาเกือบครึ่งปีกว่าจะเสร็จ เพราะมีฉากกิจกรรมเยอะ เช่น กีฬาสี ทัศนศึกษา ปาร์ตี้ ที่ต้องเซ็ตใหญ่
นักแสดงหลักๆ ลูค ภีมสรรค์ (กิต) กับ มิค เมธัส (เชน) บอกในคลิป behind the scenes ว่าตอนแรกอ่านบทแล้วขำมาก เพราะคู่ตรงข้ามสุดๆ แต่ตอนถ่าย ลูคชอบแกล้งมิคจริงๆ เหมือนในเรื่อง ทำให้เคมีดีงาม โชกุน พุทธิพงษ์ (คิม) กับ แอสตัน รติภัทร (ม่อน) ก็สนุก ฉากสารภาพรักด้วยตุ๊กตายีราฟ ถ่ายหลายเทคเพราะโชกุนเขินจริงๆ แอสตันบอกว่าต้องปรับตัวเพราะเป็นเด็กใหม่ในเรื่องและในกองด้วย นักแสดงรองอย่าง เคน กันต์ธีร์ (เปอร์) พอล ธนัน (ต้าร์) ป๊อด ศุภกร (ครูนัท) และปาแปง พรหมพิริยะ (ครูแทน) คอยสร้างสีสัน กองถ่ายฮาแตกเพราะพวกนี้ชอบเต้น ชอบเล่นเกมส์ระหว่างเบรก
เบื้องหลังแต่ละตอนมีคลิปพิเศษบน YouTube ของ GMMTV เช่น EP.1 เปิดตัวแก๊ง ทีมงานเซ็ตห้องเรียนให้ดูเหมือนโรงเรียนจริงๆ ถ่าย fit check ชุดนักเรียนฮาๆ EP.3 ทัศนศึกษา ถ่ายที่พัทยา ร้อนมากแต่สนุก นักแสดงเล่นน้ำจริงๆ EP.6 พักกลางวันที่ทะเล แข่งเสิร์ฟความฟิน ถ่ายฉากหวานๆ หลายเทคเพราะงดถ่ายไม่ได้ EP.8 เปิดเทอมสอง ถ่ายคอนโดเชนกับกิต ใกล้ชิดจริงๆ EP.9 กีฬาสี โหดสุด ถ่ายซ้อมวิ่ง ทำป้าย นักแสดงหมดแรงแต่ขำกันงด EP.10 ค้นหาตัวเอง ถ่ายหาหมอดู ลุ้นคำทำนาย EP.11 Open House บุกงานมหาลัย สนุกมาก และ Final EP. เสิร์ฟหวานส่งท้าย ถ่ายตอนจบแฮปปี้ ทุกคนน้ำตาซึมเพราะผูกพัน
ยังมีรายการพิเศษหลังจบซีรีส์ด้วยนะ อย่าง Fan Meeting Final EP. เมื่อ 6 ก.ค. 2568 นักแสดงยกทีมมาโชว์ ร้องเพลง แฟนๆ ใจฟูมาก และซีรีส์คว้ารางวัลจาก Asian Television Awards ด้วย สุดปัง เบื้องหลังยังมี outtake ฮาๆ เช่น ลูคลืมบท โชกุนเต้นผิดคิว ทีมงานบอกว่ากองนี้สนุกเพราะนักแสดงรุ่นใหม่ไฟแรง
นักแสดง
→ ลูค ภีมสรรค์ โสตางกูร รับบท กิต
หนุ่มวัยรุ่น ม.หก ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังบวกและความขี้เล่นแบบสุดๆ เขาเป็นคนที่ตรงข้ามกับเชนพระเอกอีกคนแทบทุกด้าน เชนจริงจัง เรียนเก่ง กิตกลับชอบสนุก ชอบแกล้ง ชอบทำอะไรบ้าๆ ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเรียน แต่พอต้องตัวติดกับเชนเพราะต้องติวหนังสือ กิตก็ค่อยๆ พาเชนออกจาก comfort zone ของตัวเอง พาไปทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่เชนไม่เคยลอง เช่น กินอาหารข้างทางตอนดึกหรือเล่นเกมส์อะไรสนุกๆ บุคลิกของกิตคือมีเสน่ห์แบบธรรมชาติ ยิ้มสดใส ดึงดูดคนรอบข้างได้ง่าย แต่ลึกๆ แล้วเขามีด้านอ่อนโยนและจริงจังโดยเฉพาะเรื่องความรัก
ตอนแรกๆ กิตดูเหมือนคนไม่รับผิดชอบ แต่ยิ่งเรื่องดำเนินไป เขาเริ่มรุกหนักกับเชน ทวงถามความสัมพันธ์ว่าตกลงเราเป็นอะไรกัน ทำให้เชนที่เคยเฉยๆ เริ่มหวั่นไหว การพัฒนาตัวละครของกิตน่าติดตามมาก จากหนุ่มขี้เล่นกลายเป็นคนที่ยอมแพ้ทุกอย่างในชีวิตยกเว้นเรื่องเชนที่ให้แรงใจเขา บทบาทของกิตในเรื่องคือตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำให้เชนเปิดใจกับชีวิตวัยรุ่น และยังเป็นส่วนสำคัญในกลุ่มเพื่อนที่สร้างสีสันให้กิจกรรมโรงเรียนอย่างทัศนศึกษา กีฬาสี หรือปาร์ตี้ฉลองปิดภาค กิตช่วยให้เรื่องราวสดใส มีทั้งโมเมนต์ฟินและดราม่าเบาๆ เกี่ยวกับอนาคตและความสัมพันธ์ ทำให้ผู้ชมเห็นการเติบโตจากคนที่ดูไร้สาระกลายเป็นคนที่มีความรับผิดชอบในความรัก สุดท้ายกิตคือตัวแทนของวัยรุ่นที่กล้าแสดงออกและกล้าตามหาความสุขตัวเอง
ฉายาของกิตคือ หนุ่มเสน่ห์ดึงดูดผู้เปลี่ยนแปลง
ฉายานี้เหมาะมากเพราะกิตมีบุคลิกที่สดใส ยิ้มง่าย มีเสน่ห์ที่ทำให้คนรอบข้างอดยิ้มตามไม่ได้ แต่ที่เด่นคือบทบาทในการเปลี่ยนแปลงเชน จากเด็กเรียนจริงจังที่ไม่สนุกกับชีวิตวัยรุ่น กลายเป็นคนที่เปิดใจลองสิ่งใหม่ๆ กิตพาเชนไปผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เชนรู้สึกใกล้ชิดและหวั่นไหว ยิ่งเรื่องดำเนิน กิตยังแสดงด้านจริงจัง รุกหนักไม่ยอมปล่อยมือ ทำให้เชนกำหนดความสัมพันธ์ได้ชัดเจน ฉายานี้สะท้อนว่ากิตไม่ใช่แค่ขี้เล่น แต่เป็นตัวเร่งให้คนอื่นเติบโต โดยเฉพาะในความรักที่ทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดไปอีกขั้น แม้ในกิจกรรมโรงเรียนอย่างพัทยาหรือกีฬาสี กิตยังยิ้มสดใส สร้างบรรยากาศสนุก ทำให้กลุ่มเพื่อนรวมถึงครูๆ มีความสุข ฉายานี้เลยบอกถึงพลังบวกที่กิตนำมาเปลี่ยนชีวิตคนอื่น
ข้อคิดจากกิตคือ ความตรงข้ามอาจนำมาซึ่งความลงตัวที่สวยงาม
ข้อคิดนี้มาจากการที่กิตกับเชนตรงข้ามกันสุดๆ กิตขี้เล่น สนุกสนาน เชนจริงจัง เรียนเก่ง แต่พอตัวติดกัน กิตพาเชนออกจากกรอบ ทำให้เชนเห็นโลกกว้างขึ้นและเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับกิต ข้อคิดนี้สอนว่าความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรค แต่เป็นโอกาสในการเติบโต กิตเองจากคนไม่จริงจังกลายเป็นคนที่ยอมแพ้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องเชน เพราะเชนให้แรงใจเขา ทำให้ทั้งคู่พบความลงตัวในความรัก แม้ต้องเผชิญอนาคตอย่างเลือกมหาลัยหรือปัญหาส่วนตัว แต่การสื่อสารและเข้าใจกันทำให้ผ่านไปได้ ข้อคิดนี้เหมาะกับวัยรุ่นที่กลัวความต่าง เพราะแสดงให้เห็นว่าความตรงข้ามสามารถเติมเต็มกันและสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง เหมือนกิตที่รุกหนัก ทวงถามความสัมพันธ์ จนได้บทสรุปแฮปปี้
→ มิค เมธัส โอภาสเอี่ยมขจร รับบท เชน
หนุ่มวัยรุ่น ม.หก ที่เป็นนักเรียนดีเด่นแบบสุดๆ เก่งทั้งเรื่องเรียนและกิจกรรมโรงเรียน แต่เขาไม่ค่อยอินกับชีวิตวัยรุ่นทั่วไปเลย เหมือนคนที่ติดอยู่ในกรอบของตัวเอง ชอบทำทุกอย่างให้เพอร์เฟกต์แต่ลืมสนุกกับชีวิต เชนเป็นคนจริงจัง เงียบๆ ไม่ชอบปาร์ตี้หรือทำอะไรบ้าๆ จนมาเจอกิตเพื่อนร่วมรุ่นที่ตรงข้ามกันสุดขั้ว กิตพาเชนไปทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่เขาไม่เคยลอง เช่น ขี่จักรยานเล่นตอนฝนตกหรือกินอาหารข้างทางตอนดึก ทำให้เชนเริ่มรู้สึกแปลกๆ หัวใจหวั่นไหวกับกิต ยิ่งตัวติดกันเพราะติวหนังสือ เชนก็ค่อยๆ เปิดใจ สงสัยความรู้สึกตัวเองว่ามันคืออะไร บุคลิกของเชนคือมีเสน่ห์แบบสงบ น่าเชื่อถือ แต่ลึกๆ แล้วเขามีด้านอ่อนไหวและกลัวการเปลี่ยนแปลง
ตอนแรกๆ เชนดูเหมือนคนเย็นชา แต่ยิ่งเรื่องดำเนินไป เขาเริ่มมีความสุขกับการใกล้ชิดกิต ทำกิจกรรมด้วยกัน อัพเลเวลความหวาน จนถึงขั้นไปหาหมอดูเรื่องอนาคตและเลือกมหาลัย บทบาทของเชนในเรื่องคือตัวเอกที่พัฒนาจากคนไม่สนุกกลายเป็นคนที่ยอมรับความรักและมิตรภาพ ช่วยให้กลุ่มเพื่อนอย่างคิม ม่อน เปอร์ ต้าร์ สนุกกับกิจกรรมโรงเรียน เช่น ทัศนศึกษาที่พัทยา กีฬาสี หรือปาร์ตี้ฉลองปิดภาค เชนยังเป็นคนที่ใส่ใจถามกิตเรื่องอนาคต แม้จะหงุดหงิดแต่สุดท้ายก็เข้าใจกัน ทำให้ผู้ชมเห็นการเติบโตจากเด็กเนิร์ดกลายเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิตวัยรุ่นและความสัมพันธ์ที่มั่นคง เชนคือตัวแทนของคนที่กลัวออกจาก comfort zone แต่เรียนรู้ว่าความรักสามารถเปลี่ยนแปลงได้
ฉายาของเชนคือ หนุ่มเพอร์เฟกต์ผู้เปิดใจ
ฉายานี้เหมาะมากเพราะเชนเป็นนักเรียนดีเด่นที่เก่งทุกด้าน แต่ติดกรอบตัวเองจนไม่สนุกกับชีวิตวัยรุ่น จนเจอกิตที่พาเขาออกไปลองสิ่งใหม่ๆ ทำให้เชนค่อยๆ เปิดใจ เริ่มรู้สึกใกล้ชิดและหวั่นไหว ยิ่งอยู่ด้วยกันในกิจกรรมโรงเรียน เชนก็อัพเลเวลความหวาน มีความสุขกับการทำกิจกรรมร่วมกัน ฉายานี้สะท้อนว่าจากคนจริงจังกลายเป็นคนที่ยอมรับความรักและเปลี่ยนแปลง แม้ตอนแรกสงสัยความรู้สึกตัวเอง แต่สุดท้ายเชนกำหนดความสัมพันธ์กับกิตได้ชัดเจน ยังช่วยให้เรื่องราวสดใสผ่านโมเมนต์ฟินในทัศนศึกษา พัทยา หรือกีฬาสี เชนแสดงด้านอ่อนโยน ใส่ใจกิตเรื่องอนาคต ทำให้กลุ่มเพื่อนและครูๆ เห็นการเติบโต ฉายานี้เลยบอกถึงพลังของเชนที่เปลี่ยนจากเพอร์เฟกต์แบบเย็นชาเป็นเพอร์เฟกต์ที่อบอุ่น
ข้อคิดจากเชนคือ การออกจาก comfort zone นำมาซึ่งการเติบโตที่แท้จริง
ข้อคิดนี้มาจากเชนที่เคยติดกรอบตัวเอง จริงจังกับเรียนและกิจกรรมแต่ไม่สนุกกับชีวิต จนเจอกิตที่พาไปลองสิ่งใหม่ๆ ทำให้เชนเริ่มหวั่นไหวและเปิดใจ ข้อคิดนี้สอนว่าการกล้าลองอะไรที่ไม่คุ้นเคยไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็นโอกาสในการค้นหาตัวเอง เชนเองจากคนเฉยๆ กลายเป็นคนที่มีความสุขกับความรักและมิตรภาพ แม้ต้องเผชิญดราม่าเรื่องอนาคตอย่างเลือกมหาลัยหรือปัญหาส่วนตัว แต่การสื่อสารกับกิตทำให้ผ่านไปได้ ข้อคิดนี้เหมาะกับวัยรุ่นที่กลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะแสดงให้เห็นว่าการออกจากกรอบสามารถนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่สวยงาม เหมือนเชนที่ถามกิตเรื่องอนาคตและได้บทสรุปแฮปปี้ ทำให้ชีวิตเต็มเปี่ยมมากขึ้น
→ โชกุน พุทธิพงษ์ จิตบุตร รับบท คิม
หนุ่มวัยรุ่น ม.หก ที่กำลังอยู่ในโหมดตกหลุมรักแบบสุดๆ อยากมีแฟนก่อนจบมัธยมเพราะเบื่อความเหงาและอยากสัมผัสความรักครั้งแรก เขาเป็นคนขยัน มุ่งมั่น แต่มีด้านขี้เหงาและโรแมนติก คิมเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับเชนและกิต ชอบสร้างสีสันในกลุ่มด้วยความสดใสและความพยายามในการจีบ เมื่อเจอม่อนเด็กใหม่ย้ายมาโรงเรียน คิมตกหลุมรักปุ๊บปั๊บเลย เดินหน้าจีบเต็มสูบด้วยวิธีที่น่ารัก เช่น ชวนติวหนังสือ โทรคุยทุกคืน และสารภาพรักด้วยตุ๊กตายีราฟตอนทัศนศึกษาที่พัทยา บุคลิกของคิมคือมีเสน่ห์แบบสดใส ขยัน และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แต่ก็มีด้านดราม่าเมื่อเจออุปสรรค เช่น แม่ของม่อนมาเป็นครูฝ่ายปกครอง ทำให้ต้องพิสูจน์ความจริงใจ คิมย้ำหนักแน่นว่าจะคบต่อไม่เปลี่ยนใจ แม้ทะเลาะกันเรื่องกีฬาสีเพราะม่อนล่ารายชื่อยกเลิกกิจกรรม จนผิดใจกันแต่สุดท้ายก็เข้าใจ
ตอนเปิดเทอมสอง คิมอยากเป็นนักเรียนดีเด่น เลยตั้งใจทำคอนเทนต์สร้างผลงาน โดยมีม่อนคอยให้กำลังใจและซัพพอร์ตทุกเรื่อง บทบาทของคิมในเรื่องคือตัวเอกคู่รองที่ขับเคลื่อนพล็อตโรแมนติก ช่วยให้เรื่องราวสดใสผ่านโมเมนต์ฟินอย่างประกาศสวีทให้ทั้งหาดดู หรือแข่งหวานกับคู่เชนกิต คิมยังเผชิญเรื่องอดีตเมื่อม่อนสารภาพว่าคิมไม่ใช่แฟนคนแรก ทำให้ต้องคิดถึงความจริงและอุปสรรค แต่คิมเลือกสื่อสารตรงๆ นับถอยหลังปิดเทอม คิมมีปัญหาส่วนตัวอย่างไม่ยอมคุยความต้องการตัวเองจนเกือบผิดใจกับม่อน แต่สุดท้ายให้สัญญาว่าจะไม่ปล่อยมือแม้ความสัมพันธ์ห่างไกล คิมคือตัวแทนของวัยรุ่นที่กล้าตามหาความรักและเติบโตผ่านอุปสรรค ทำให้ผู้ชมเห็นการพัฒนาจากคนขี้เหงากลายเป็นคนมั่นคงในความสัมพันธ์และเป้าหมายชีวิต
ฉายาของคิมคือ หนุ่มนักจีบผู้มุ่งมั่น
ฉายานี้เหมาะมากเพราะคิมเป็นคนที่ตกหลุมรักม่อนแบบรวดเร็วและเดินหน้าจีบเต็มสูบไม่แผ่ว ใช้ทุกโอกาสอย่างทัศนศึกษาที่พัทยาในการสารภาพรักด้วยตุ๊กตายีราฟ น่ารักจนผู้ชมยิ้มตาม แต่ที่เด่นคือความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค เช่น เมื่อแม่ม่อนมาเป็นครูฝ่ายปกครอง คิมยืนยันว่าจะคบต่อไม่เปลี่ยนใจ แม้ทะเลาะกันเรื่องกีฬาสีหรือเผชิญอดีตที่ม่อนมีแฟนเก่า คิมยังสื่อสารตรงๆ และให้สัญญาว่าจะไม่ปล่อยมือ ฉายานี้สะท้อนด้านขยันของคิมที่อยากเป็นนักเรียนดีเด่น ทำคอนเทนต์โดยมีม่อนซัพพอร์ต ทำให้ความรักของเขาคืบหน้าและฟินฉ่ำ ยังช่วยสร้างสีสันในกลุ่มเพื่อนผ่านโมเมนต์ประกาศสวีทหรือแข่งหวานกับคู่เชนกิต ฉายานี้เลยบอกถึงพลังบวกที่คิมนำมาสู่เรื่องราวโรแมนติก
ข้อคิดจากคิมคือ ความมุ่งมั่นและซื่อตรงช่วยผ่านอุปสรรคในความรัก
ข้อคิดนี้มาจากคิมที่กล้าจีบม่อนแบบเต็มสูบแม้เจอปัญหา เช่น แม่ม่อนเป็นครูหรืออดีตแฟนเก่า แต่คิมเลือกยืนยันความรู้สึกและสื่อสารตรงๆ ทำให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่ง ข้อคิดนี้สอนว่าความรักไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การไม่ยอมแพ้และเปิดใจคุยกันช่วยแก้ปัญหาได้ คิมเองจากคนขี้เหงากลายเป็นคนมั่นคง สัญญาว่าจะไม่ปล่อยมือแม้ห่างไกลหลังจบมัธยม แม้ทะเลาะเรื่องกีฬาสีหรือไม่คุยความต้องการตัวเอง แต่สุดท้ายการซื่อตรงทำให้ผ่านไป ข้อคิดนี้เหมาะกับวัยรุ่นที่เจออุปสรรคในความรัก เพราะแสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นนำมาซึ่งบทสรุปแฮปปี้ เหมือนคิมที่ทำคอนเทนต์เพื่อเป้าหมายและมีม่อนซัพพอร์ต ทำให้ชีวิตเต็มเปี่ยมมากขึ้น
→ แอสตัน รติภัทร เหลืองวรพันธ์ รับบท ม่อน
ม่อนคือหนุ่มวัยรุ่น ม.หก ที่เพิ่งย้ายมาโรงเรียนใหม่ มีบุคลิกน่ารัก ใจดี แต่แฝงความลึกลับจากอดีต ทำให้ดูน่าค้นหา เขาเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยเปิดเผย แต่เมื่อเจอคิมเพื่อนร่วมชั้นที่ตกหลุมรักและจีบเต็มสูบ ม่อนก็ค่อยๆ เปิดใจ เริ่มจากรู้สึกเหมือนมีรักครั้งใหม่ ชวนติวหนังสือ โทรคุยตลอดเวลา หลังคิมสารภาพรักด้วยตุ๊กตายีราฟตอนทัศนศึกษาที่พัทยา ม่อนตอบรับและปล่อยความฟินแบบไม่กั๊ก แต่ก็มีอุปสรรคเมื่อแม่ของม่อนมาเป็นครูฝ่ายปกครอง ทำให้ความรักต้องพิสูจน์ ม่อนยังทำตรงข้ามกับเพื่อนๆ โดยล่ารายชื่อยกเลิกกีฬาสีเพราะเหตุผลส่วนตัว จนทะเลาะกับคิมและกลุ่มเพื่อนอย่างเชน กิต เปอร์ ต้าร์ แต่สุดท้ายก็อธิบายและเข้าใจกัน
ตอนเปิดเทอมสอง ม่อนคอยให้กำลังใจและซัพพอร์ตคิมที่อยากเป็นนักเรียนดีเด่น ช่วยทำคอนเทนต์และดูแลกัน บทบาทของม่อนในเรื่องคือตัวเอกคู่รองที่นำดราม่าเข้ามา เช่น สารภาพว่าคิมไม่ใช่แฟนคนแรก ทำให้ต้องคิดถึงอดีตและความจริง แต่เลือกสื่อสารตรงๆ นับถอยหลังปิดเทอม ม่อนมีปัญหาส่วนตัวอย่างไม่ยอมคุยความต้องการตัวเองจนเกือบผิดใจกับคิม แต่สุดท้ายให้สัญญาว่าความสัมพันธ์ห่างไกลจะมั่นคงไม่เปลี่ยน ม่อนช่วยให้เรื่องราวสมดุลระหว่างหวานและดราม่า ผ่านโมเมนต์ฟินอย่างร่วมปาร์ตี้ฉลองหรือแข่งเสิร์ฟความหวานที่พัทยา ยังเป็นส่วนสำคัญในกลุ่มเพื่อนและครูแทน ครูนัท ที่เห็นการเติบโต ม่อนคือตัวแทนของวัยรุ่นที่เผชิญอดีตแต่กล้าเปิดใจกับความรักใหม่ ทำให้ผู้ชมเห็นการพัฒนาจากเด็กใหม่ลึกลับกลายเป็นคนที่ซัพพอร์ตและมั่นคงในความสัมพันธ์
ฉายาของม่อนคือ เด็กใหม่ผู้ลึกลับแต่ใจดี
ฉายานี้เหมาะมากเพราะม่อนย้ายมาโรงเรียนใหม่ด้วยบุคลิกน่ารักแต่แฝงความลึกลับจากอดีต เช่น มีแฟนเก่าและเหตุผลส่วนตัวที่อยากยกเลิกกีฬาสี จนทะเลาะกับคิมและเพื่อนๆ แต่ที่เด่นคือด้านใจดีที่ค่อยๆ เผยออกมา เมื่อคิมจีบเต็มสูบ ม่อนเปิดใจตอบรับ ชวนติว โทรคุย สร้างโมเมนต์ฟินหลังสารภาพรักตอนทัศนศึกษา ยังคอยซัพพอร์ตคิมทำคอนเทนต์เพื่อเป็นนักเรียนดีเด่น แม้เจออุปสรรคอย่างแม่เป็นครู ม่อนเลือกสื่อสารและให้สัญญาว่าจะไม่ปล่อยมือ ฉายานี้สะท้อนว่าจากลึกลับกลายเป็นคนที่นำความอบอุ่นมาสู่กลุ่ม ผ่านกิจกรรมพัทยา กีฬาสี หรือปาร์ตี้ฉลอง ทำให้เรื่องราวมีมิติทั้งดราม่าและหวาน ฉายานี้เลยบอกถึงเสน่ห์ของม่อนที่ดึงดูดผู้ชม
ข้อคิดจากม่อนคือ การเผชิญอดีตและสื่อสารตรงๆ ช่วยให้ความรักเติบโต
ข้อคิดนี้มาจากม่อนที่สารภาพเรื่องแฟนเก่าให้คิมฟัง ทำให้ต้องคิดถึงความจริงแต่เลือกเปิดใจคุยกันตรงๆ ข้อคิดนี้สอนว่าอดีตไม่ใช่อุปสรรคถ้าเราซื่อตรงและเข้าใจกัน ม่อนเองจากเด็กใหม่ลึกลับกลายเป็นคนมั่นคง คอยซัพพอร์ตคิมแม้เจอดราม่าแม่เป็นครูหรือทะเลาะเรื่องกีฬาสี แต่การอธิบายเหตุผลส่วนตัวทำให้ผ่านไปได้ นับถอยหลังปิดเทอม ม่อนไม่ยอมคุยความต้องการตัวเองจนเกือบผิดใจ แต่สุดท้ายสัญญาว่าความสัมพันธ์ห่างไกลจะไม่เปลี่ยน ข้อคิดนี้เหมาะกับวัยรุ่นที่กลัวอดีต เพราะแสดงให้เห็นว่าการเผชิญและสื่อสารนำมาซึ่งความรักที่แข็งแกร่ง เหมือนม่อนที่ร่วมกิจกรรมพัทยาและปาร์ตี้ ทำให้ชีวิตเต็มเปี่ยมมากขึ้น
→ เคน กันต์ธีร์ ลิมปิติกรานนท์ รับบท เปอร์
หนุ่มวัยรุ่น ม.หก ที่เป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มของเชน กิต คิม และม่อน มีบุคลิกสนุกสนาน ขยัน และเต็มไปด้วยพลังบวก ชอบกิจกรรมกีฬาและปาร์ตี้แบบสุดเหวี่ยง เปอร์เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเส้นเรื่องหลักของตัวเองแต่คอยสนับสนุนเพื่อนๆ ทำให้บรรยากาศในเรื่องสดใสขึ้น เขามักจะคู่กับต้าร์เพื่อนซี้ คอยสร้างโมเมนต์ฮาๆ และสนุกสนาน เช่น ตอนทัศนศึกษาที่พัทยา เปอร์กับต้าร์เล่นกันสุดเหวี่ยง ขณะที่คู่หลักๆ กำลังฟินกับความรัก เปอร์ช่วยทำให้กลุ่มดูเป็นครอบครัวใหญ่ ตอนหลังเรื่องยุ่งๆ ผ่านไป ทุกคนยังอยู่พัทยา เปอร์ก็ร่วมแข่งเสิร์ฟความฟิน อินกับความรักของเพื่อนๆ อย่างมีความสุข ตอนสอบกลางภาคเสร็จ เปอร์สนุกกับปาร์ตี้ฉลองปิดภาคเรียน สนุกสนานกับทุกโมเมนต์และสนิทกับต้าร์มากขึ้น
ตอนเปิดเทอมสอง เปอร์มีเป้าหมายใหม่ๆ แต่ยังคงตื่นเต้นกับกิจกรรมโรงเรียน เช่น วันงานกีฬาสี เปอร์กับต้าร์ซ้อมวิ่งจนหมดแรง ช่วยกันทำป้ายสนุกสนาน ขณะที่คิมลงแรงเต็มที่แต่ทะเลาะกับม่อนเรื่องยกเลิกกีฬาสี เปอร์คอยเป็นกองกลางช่วยไกล่เกลี่ยและสร้างบรรยากาศดี บทบาทของเปอร์ในเรื่องคือตัวละครรองที่ขับเคลื่อนความสนุกของกลุ่ม ช่วยให้พล็อตไม่หนักเกินไปด้วยโมเมนต์เบาสมอง เช่น ร่วมเดทคู่หลังสอบหรือนับถอยหลังปิดเทอมที่ทุกคนเตรียมตัวเข้ามหาลัย เปอร์ยังเผชิญปัญหาส่วนตัวเบาๆ แต่เลือกสนุกกับชีวิต ทำให้ผู้ชมเห็นมิตรภาพที่แท้จริง เปอร์คือตัวแทนของวัยรุ่นที่ใช้พลังบวกในการสนับสนุนเพื่อนและเติบโตไปด้วยกัน ทำให้เรื่องราวมีสีสันและน่าติดตามตลอดทั้งซีรีส์
ฉายาของเปอร์คือ เพื่อนซี้ผู้พลังบวก
ฉายานี้เหมาะมากเพราะเปอร์เป็นคนที่เต็มเปี่ยมพลังบวก คอยสร้างบรรยากาศสนุกในกลุ่มเพื่อน ไม่ว่าจะทัศนศึกษาที่พัทยาหรือกีฬาสี เปอร์กับต้าร์เล่นกันสุดเหวี่ยง ช่วยให้ทุกคนมีความสุขแม้มีดราม่า แต่ที่เด่นคือด้านสนับสนุนเพื่อนๆ อย่างเชน กิต คิม ม่อน โดยไม่แย่งซีน แต่ทำให้เรื่องสดใส เช่น ตอนปาร์ตี้ฉลองปิดภาค เปอร์สนุกกับทุกโมเมนต์ สนิทกับต้าร์มากขึ้น ยังช่วยไกล่เกลี่ยตอนทะเลาะเรื่องยกเลิกกีฬาสี ฉายานี้สะท้อนว่าจากคนธรรมดาในกลุ่มกลายเป็นตัวเชื่อมมิตรภาพ ทำให้กิจกรรมโรงเรียนน่าจดจำ ฉายานี้เลยบอกถึงเสน่ห์ของเปอร์ที่นำความสดใสมาสู่เรื่องราว
ข้อคิดจากเปอร์คือ มิตรภาพที่แท้จริงคือการสนับสนุนกันในทุกโมเมนต์
ข้อคิดนี้มาจากเปอร์ที่คอยเป็นกองเชียร์ให้เพื่อนๆ ไม่ว่าจะฟินหรือดราม่า เช่น ตอนพัทยาเปอร์สนุกสุดเหวี่ยงขณะที่คู่หลักหวานกัน ข้อคิดนี้สอนว่ามิตรภาพไม่ใช่แค่เล่นสนุก แต่คือการอยู่เคียงข้างในกิจกรรมและปัญหา เปอร์เองจากเพื่อนธรรมดากลายเป็นคนที่ช่วยให้กลุ่มเข้มแข็ง แม้ไม่มีเส้นเรื่องหลักแต่เลือกใช้พลังบวกในการซัพพอร์ต เช่น ซ้อมวิ่งกีฬาสีหรือปาร์ตี้ฉลอง นับถอยหลังปิดเทอม เปอร์ยังสนุกกับชีวิตแม้มีปัญหาส่วนตัว ข้อคิดนี้เหมาะกับวัยรุ่นที่มองข้ามมิตรภาพ เพราะแสดงให้เห็นว่าการสนับสนุนนำมาซึ่งความสุขร่วมกัน ทำให้ชีวิตเต็มเปี่ยมมากขึ้น
→ พอล ธนัน โลหะวัฒนกุล รับบท ต้าร์
หนุ่มวัยรุ่น ม.หก ที่เป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มของเชน กิต คิม และม่อน มีบุคลิกขี้เล่น สนุกสนาน และเต็มไปด้วยพลังงานบวก ชอบกิจกรรมผจญภัยและปาร์ตี้แบบไม่แผ่ว ต้าร์มักจะคู่กับเปอร์เพื่อนซี้ คอยสร้างโมเมนต์ฮาๆ และสดใส เช่น ตอนทัศนศึกษาที่พัทยา ต้าร์กับเปอร์สนุกกันสุดเหวี่ยง ขณะที่คู่หลักกำลังฟินกับความรัก ต้าร์ช่วยทำให้กลุ่มดูเป็นทีมที่เหนียวแน่น ตอนหลังเรื่องยุ่งๆ ผ่านไป ทุกคนยังอยู่พัทยา ต้าร์ก็ร่วมแข่งเสิร์ฟความฟิน อินกับบรรยากาศทะเลอย่างมีความสุข ตอนสอบกลางภาคเสร็จ ต้าร์สนุกกับปาร์ตี้ฉลองปิดภาคเรียน สนุกสนานกับทุกโมเมนต์และสนิทกับเปอร์มากขึ้นไปอีก
ตอนเปิดเทอมสอง ต้าร์มีเป้าหมายใหม่ๆ แต่ยังคงตื่นเต้นกับกิจกรรมโรงเรียน เช่น วันงานกีฬาสี ต้าร์กับเปอร์ซ้อมวิ่งจนหมดแรง ช่วยกันทำป้ายสนุกสนาน ขณะที่คิมลงแรงเต็มที่แต่ทะเลาะกับม่อนเรื่องยกเลิกกีฬาสี ต้าร์คอยเป็นกองกลางช่วยสร้างบรรยากาศดีและไกล่เกลี่ย บทบาทของต้าร์ในเรื่องคือตัวละครรองที่ขับเคลื่อนความสนุกของกลุ่ม ช่วยให้พล็อตไม่เครียดเกินไปด้วยโมเมนต์เบาสมอง เช่น ร่วมเดทคู่หลังสอบหรือนับถอยหลังปิดเทอมที่ทุกคนเตรียมตัวเข้ามหาลัย ต้าร์ยังเผชิญปัญหาส่วนตัวเบาๆ แต่เลือกขี้เล่นเพื่อคลายเครียด ทำให้ผู้ชมเห็นมิตรภาพที่แท้จริง ต้าร์คือตัวแทนของวัยรุ่นที่ใช้ความขี้เล่นในการเชื่อมโยงเพื่อนและเติบโตไปด้วยกัน ทำให้เรื่องราวมีชีวิตชีวาและน่าติดตามตลอดทั้งซีรีส์
ฉายาของต้าร์คือ เพื่อนขี้เล่นผู้เติมพลัง
ฉายานี้เหมาะมากเพราะต้าร์เป็นคนที่ขี้เล่นสุดๆ คอยสร้างโมเมนต์สนุกในกลุ่มเพื่อน ไม่ว่าจะพัทยาหรือกีฬาสี ต้าร์กับเปอร์เล่นกันสุดเหวี่ยง ช่วยให้ทุกคนผ่อนคลายแม้มีดราม่า แต่ที่เด่นคือด้านเติมพลังให้เพื่อนๆ อย่างเชน กิต คิม ม่อน โดยไม่แย่งซีน แต่ทำให้บรรยากาศสดใส เช่น ตอนปาร์ตี้ฉลองปิดภาค ต้าร์สนุกกับทุกโมเมนต์ สนิทกับเปอร์มากขึ้น ยังช่วยไกล่เกลี่ยตอนทะเลาะเรื่องยกเลิกกีฬาสี ฉายานี้สะท้อนว่าจากคนขี้เล่นธรรมดากลายเป็นตัวเชื่อมมิตรภาพ ทำให้กิจกรรมโรงเรียนน่าจดจำ ฉายานี้เลยบอกถึงเสน่ห์ของต้าร์ที่นำความสดชื่นมาสู่เรื่องราว
ข้อคิดจากต้าร์คือ ความขี้เล่นช่วยคลายเครียดและเสริมสร้างมิตรภาพ
ข้อคิดนี้มาจากต้าร์ที่ใช้ความขี้เล่นในการสร้างโมเมนต์สนุก เช่น พัทยาต้าร์เล่นสุดเหวี่ยงขณะที่คู่หลักหวานกัน ข้อคิดนี้สอนว่าความสนุกไม่ใช่เรื่องไร้สาระ แต่คือวิธีคลายเครียดและเชื่อมโยงคน ต้าร์เองจากเพื่อนธรรมดากลายเป็นคนที่ช่วยให้กลุ่มเข้มแข็ง แม้ไม่มีเส้นเรื่องหลักแต่เลือกขี้เล่นเพื่อเติมพลัง เช่น ซ้อมวิ่งกีฬาสีหรือปาร์ตี้ฉลอง นับถอยหลังปิดเทอม ต้าร์ยังสนุกกับชีวิตแม้มีปัญหาส่วนตัว ข้อคิดนี้เหมาะกับวัยรุ่นที่เครียดง่าย เพราะแสดงให้เห็นว่าความขี้เล่นนำมาซึ่งมิตรภาพที่แท้จริง ทำให้ชีวิตเต็มเปี่ยมมากขึ้น
→ ป๊อด ศุภกร ศรีโพธิ์ทอง รับบท ครูนัท
ครูหนุ่มที่ใจดี อบอุ่น และคอยดูแลนักเรียน ม.หก เหมือนพี่ใหญ่ในโรงเรียน มีบุคลิกสงบ ยิ้มแย้ม และเข้าใจวัยรุ่นดี เขาเป็นครูที่ไม่เข้มงวดเกินไปแต่เน้นให้คำปรึกษาและสนับสนุนกิจกรรมเพื่อให้เด็กๆ มีความสุข ครูนัทมักคู่กับครูแทน คอยเฝ้ามองความรักวุ่นๆ ของนักเรียนอย่างเชน กิต คิม ม่อน เปอร์ และต้าร์ โดยไม่แทรกแซงแต่ให้กำลังใจ เช่น ตอนทัศนศึกษาที่พัทยา ครูนัทดีใจมากที่เห็นเด็กๆ สนุกกับความรักและกิจกรรม ร่วมยิ้มสดใสขณะที่คิมประกาศสวีทกับม่อนให้ทั้งหาดดู หรือกิตใช้เวลากับเชนอย่างมีความสุข ครูนัทช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กลุ่ม ตอนหลังเรื่องยุ่งๆ ผ่านไป ครูนัทยังดีใจที่เห็นทุกคนอินกับความรักมากขึ้น
ตอนสอบกลางภาคเสร็จ ครูนัทร่วมสนุกกับปาร์ตี้ฉลองปิดภาคเรียน เห็นสองคู่แข่งกันหวานและเปอร์กับต้าร์สนิทกันมากขึ้น ตอนเปิดเทอมสอง ครูนัทคอยให้คำปรึกษาเรื่องเป้าหมายใหม่ๆ เช่น คิมอยากเป็นนักเรียนดีเด่น ม่อนซัพพอร์ตคิม ครูนัทช่วยดูแลกิจกรรมกีฬาสี เห็นเด็กๆ ตื่นเต้นซ้อมวิ่ง ทำป้าย แต่ก็ช่วยไกล่เกลี่ยตอนทะเลาะเรื่องยกเลิกกีฬาสี ตอนใกล้จบ ครูนัทเฝ้ามองเด็กๆ คิดถึงอนาคต เลือกมหาลัย และแก้ปัญหาส่วนตัว ทำให้เห็นการเติบโต บทบาทของครูนัทในเรื่องคือตัวละครรองที่นำข้อคิดผู้ใหญ่มาสู่พล็อต ช่วยให้เรื่องสมดุลระหว่างโรแมนติกวุ่นๆ และการสอนใจ ผ่านโมเมนต์ฟินและดราม่าเบาๆ ครูนัทคือตัวแทนของครูที่เข้าใจวัยรุ่น กล้าให้พื้นที่แต่คอยเฝ้ามอง ทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นและเห็นคุณค่าของการแนะนำในชีวิตวัยเรียน
ฉายาของครูนัทคือ ครูอบอุ่นผู้คอยเฝ้ามอง
ฉายานี้เหมาะมากเพราะครูนัทเป็นคนที่อบอุ่น ยิ้มแย้ม คอยดูแลเด็กๆ โดยไม่แทรกแซงแต่เฝ้ามองอย่างเข้าใจ เช่น ตอนพัทยา ครูนัทดีใจเห็นเด็กๆ สนุกกับความรัก คิมสวีทกับม่อน กิตยิ้มกับเชน แต่ที่เด่นคือด้านคอยเฝ้ามองการเติบโตของนักเรียน ผ่านกิจกรรมทัศนศึกษา ปาร์ตี้ฉลอง หรือกีฬาสี ครูนัทช่วยให้บรรยากาศดี เห็นเด็กๆ มีความสุขและแก้ปัญหาได้เอง ยังคู่กับครูแทนในการให้คำปรึกษาเรื่องอนาคตและความสัมพันธ์ ฉายานี้สะท้อนว่าจากครูธรรมดากลายเป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้ใหญ่กับวัยรุ่น ทำให้เรื่องมีมิติอบอุ่น ฉายานี้เลยบอกถึงเสน่ห์ของครูนัทที่นำความเข้าใจมาสู่กลุ่ม
ข้อคิดจากครูนัทคือ การให้พื้นที่และเฝ้ามองช่วยให้วัยรุ่นเติบโตอย่างอิสระ
ข้อคิดนี้มาจากครูนัทที่คอยดูแลแต่ไม่แทรกแซง ให้เด็กๆ แก้ปัญหาความรักและกิจกรรมเอง เช่น พัทยาครูนัทดีใจเห็นเด็กๆ มีความสุข ข้อคิดนี้สอนว่าผู้ใหญ่ไม่ต้องควบคุมทุกอย่าง แต่การเฝ้ามองและให้กำลังใจช่วยให้เด็กเรียนรู้ ครูนัทเองจากผู้ดูแลธรรมดากลายเป็นแบบอย่างที่เข้าใจวัยรุ่น แม้เห็นดราม่าอย่างทะเลาะเรื่องกีฬาสีหรือคิดถึงอนาคต แต่เลือกให้พื้นที่ นับถอยหลังปิดเทอม ครูนัทยังเห็นเด็กๆ แก้ปัญหาส่วนตัว ข้อคิดนี้เหมาะกับผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูวัยรุ่น เพราะแสดงให้เห็นว่าการให้อิสระนำมาซึ่งการเติบโตที่แท้จริง ทำให้ชีวิตเต็มเปี่ยมมากขึ้น
→ ปาแปง พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์ รับบท ครูแทน
ครูหนุ่มที่ใจดี สงบ และคอยสนับสนุนนักเรียน ม.หก เหมือนพี่ใหญ่ในโรงเรียน มีบุคลิกยิ้มแย้ม เข้าใจวัยรุ่น และเน้นให้คำปรึกษาโดยไม่เข้มงวดเกินไป ครูแทนมักคู่กับครูนัท คอยเฝ้ามองความรักวุ่นๆ ของนักเรียนอย่างเชน กิต คิม ม่อน เปอร์ และต้าร์ โดยให้พื้นที่แต่พร้อมช่วยเหลือ เช่น ตอนทัศนศึกษาที่พัทยา ครูแทนดีใจมากที่เห็นเด็กๆ สนุกกับกิจกรรมและความรัก ร่วมยิ้มขณะที่คิมประกาศสวีทกับม่อนให้ทั้งหาดดู หรือกิตใช้เวลากับเชนอย่างมีความสุข ครูแทนช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กลุ่ม ตอนหลังเรื่องยุ่งๆ ผ่านไป ทุกคนยังอยู่พัทยา ครูแทนก็ดีใจที่เห็นทุกคนอินกับความรักมากขึ้น
ตอนสอบกลางภาคเสร็จ ครูแทนร่วมสนุกกับปาร์ตี้ฉลองปิดภาคเรียน เห็นสองคู่แข่งกันหวานและเปอร์กับต้าร์สนิทกันมากขึ้น ตอนเปิดเทอมสอง ครูแทนคอยให้คำปรึกษาเรื่องเป้าหมายใหม่ๆ เช่น คิมอยากเป็นนักเรียนดีเด่น ม่อนซัพพอร์ตคิม ครูแทนช่วยดูแลกิจกรรมกีฬาสี เห็นเด็กๆ ตื่นเต้นซ้อมวิ่ง ทำป้าย แต่ก็ช่วยไกล่เกลี่ยตอนทะเลาะเรื่องยกเลิกกีฬาสี ตอนใกล้จบ ครูแทนเฝ้ามองเด็กๆ คิดถึงอนาคต เลือกมหาลัย และแก้ปัญหาส่วนตัว ทำให้เห็นการเติบโต บทบาทของครูแทนในเรื่องคือตัวละครรองที่นำข้อคิดผู้ใหญ่มาสู่พล็อต ช่วยให้เรื่องสมดุลระหว่างโรแมนติกวุ่นๆ และการสอนใจ ผ่านโมเมนต์ฟินและดราม่าเบาๆ ครูแทนคือตัวแทนของครูที่กล้าให้พื้นที่วัยรุ่นแต่คอยเฝ้ามอง ทำให้ผู้ชมรู้สึกอบอุ่นและเห็นคุณค่าของการแนะนำในชีวิตวัยเรียน
ฉายาของครูแทนคือ ครูใจดีผู้ให้คำปรึกษา
ฉายานี้เหมาะมากเพราะครูแทนเป็นคนที่ใจดี ยิ้มแย้ม คอยให้คำปรึกษาเด็กๆ โดยไม่แทรกแซงแต่พร้อมช่วย เช่น ตอนพัทยา ครูแทนดีใจเห็นเด็กๆ สนุกกับความรัก คิมสวีทกับม่อน กิตยิ้มกับเชน แต่ที่เด่นคือด้านให้คำปรึกษาเรื่องอนาคตและความสัมพันธ์ ผ่านกิจกรรมทัศนศึกษา ปาร์ตี้ฉลอง หรือกีฬาสี ครูแทนช่วยให้บรรยากาศดี เห็นเด็กๆ มีความสุขและแก้ปัญหาได้เอง ยังคู่กับครูนัทในการเฝ้ามองการเติบโต ฉายานี้สะท้อนว่าจากครูธรรมดากลายเป็นแบบอย่างที่เข้าใจวัยรุ่น ทำให้เรื่องมีมิติอบอุ่น ฉายานี้เลยบอกถึงเสน่ห์ของครูแทนที่นำความเข้าใจมาสู่กลุ่ม
ข้อคิดจากครูแทนคือ การให้คำปรึกษาที่เหมาะสมช่วยให้วัยรุ่นค้นหาตัวเอง
ข้อคิดนี้มาจากครูแทนที่คอยให้คำปรึกษาแต่ให้พื้นที่เด็กๆ แก้ปัญหาความรักและกิจกรรมเอง เช่น พัทยาครูแทนดีใจเห็นเด็กๆ มีความสุข ข้อคิดนี้สอนว่าผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำที่เหมาะสมไม่ควบคุมทุกอย่าง แต่ช่วยให้เด็กเรียนรู้ ครูแทนเองจากผู้ดูแลธรรมดากลายเป็นแบบอย่างที่เข้าใจวัยรุ่น แม้เห็นดราม่าอย่างทะเลาะเรื่องกีฬาสีหรือคิดถึงอนาคต แต่เลือกให้คำปรึกษา นับถอยหลังปิดเทอม ครูแทนยังเห็นเด็กๆ แก้ปัญหาส่วนตัว ข้อคิดนี้เหมาะกับผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูวัยรุ่น เพราะแสดงให้เห็นว่าการให้คำปรึกษานำมาซึ่งการเติบโตที่แท้จริง ทำให้ชีวิตเต็มเปี่ยมมากขึ้น
หลังจากซีรีส์ “เปิดเทอมใหม่ หัวใจหัดรัก Boys in Loveได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยเรื่องราวโรแมนติกวุ่นๆ ของวัยรุ่น ม.6 ที่เต็มไปด้วยความสดใส มิตรภาพ และอุปสรรคในความรัก แฟนๆ หลายคนต่างเรียกร้องให้มีภาคต่อ หากมีภาค 2 มันจะเป็นยังไง
ในภาค 2 ชื่อว่า “เปิดเทอมใหม่ หัวใจโตขึ้น Boys in Love 2” เรื่องราวจะเริ่มต้นด้วยชีวิตปี 1 ในมหาวิทยาลัยของตัวละครหลัก “เชน” (มิค เมธัส) และ “กิต” (ลูค ภีมสรรค์) ที่เลือกคณะต่างกันแต่พยายามรักษาความสัมพันธ์ทางไกล เชนเข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังในกรุงเทพฯ ด้วยความจริงจังตามสไตล์ แต่ต้องปรับตัวกับชีวิตหอพักและเพื่อนใหม่ที่ทำให้เขารู้สึกเหงา กิตเลือกคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อช่วยงานครอบครัว แต่ความห่างไกลทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยเรื่องเวลาและความเข้าใจผิด เช่น เชนสงสัยว่ากิตมีเพื่อนใหม่ที่สนิทเกินไป จนนำไปสู่ดราม่าทดสอบความมั่นคง ส่วน “คิม” (โชกุน พุทธิพงษ์) และ “ม่อน” (แอสตัน รติภัทร) ก็เผชิญปัญหาคล้ายกัน คิมเข้าเรียนคณะนิเทศศาสตร์ หวังเป็นนักสร้างคอนเทนต์ชื่อดัง แต่ต้องย้ายไปเรียนต่างจังหวัดตามม่อนที่เลือกคณะแพทยศาสตร์ ทำให้ความรักห่างไกลกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ คิมพยายามทำวิดีโอคอนเทนต์เกี่ยวกับความรักทางไกลเพื่อรักษาความสัมพันธ์ แต่เจอดราม่าเมื่อม่อนเครียดกับการเรียนหนักและอดีตแฟนเก่าปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
ตัวละครรองอย่าง “เปอร์” (เคน กันต์ธีร์) และ “ต้าร์” (พอล ธนัน) จะมีบทเด่นขึ้น โดยทั้งคู่เข้าเรียนคณะเดียวกันในคณะกีฬาศาสตร์ กลายเป็นคู่หูที่สร้างสีสันด้วยกิจกรรมชมรมและปาร์ตี้มหาลัย แต่เปอร์เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับต้าร์มากกว่าเพื่อน จนพัฒนาเป็นเส้นเรื่องโรแมนติกใหม่ที่สดใสแต่มีอุปสรรคจากสังคมมหาลัย ครูแทน (ปาแปง พรหมพิริยะ) และครูนัท (ป๊อด ศุภกร) จะกลับมาในบทบาทอาจารย์มหาลัยหรือที่ปรึกษา คอยให้คำแนะนำเด็กๆ ผ่านไลน์กลุ่มเก่า เรื่องราวจะไหลไปตามกิจกรรมมหาลัย เช่น โอเรียนเตชั่น ทริปปี 1 สอบกลางภาค และงานบอลประเพณี ที่นำมาซึ่งโมเมนต์ฟิน ดราม่า และการเติบโต เช่น เชนกับกิตต้องตัดสินใจว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยกันหรือไม่ คิมต้องเลือกระหว่างอาชีพในเมืองกับความรักในต่างจังหวัด และเปอร์ต้าร์ต้องกล้าเปิดใจท่ามกลางเพื่อนใหม่ ภาคนี้จะมีตัวละครใหม่ๆ เข้ามา เช่น เพื่อนมหาลัยที่สร้างความหึงหวงหรือช่วยให้ตัวละครเรียนรู้ตัวเองมากขึ้น โดยเน้นธีมว่าความรักไม่ใช่แค่หวาน แต่ต้องผ่านการทดสอบจากโลกจริงเพื่อโตขึ้น
