ละคร กรงกรรม 2562 ละครแนวดราม่าเข้มข้นที่สะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความแค้น และความสัมพันธ์ที่มีแต่ปัญหาของครอบครัวใหญ่ที่มีความขัดแย้งและอคติต่อกัน เรื่องราวของ “เรณู” สาวงามผู้มีเสน่ห์ ที่ใช้มนต์ดำเพื่อเข้ามาในครอบครัวแบ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิไล พี่สาวคนโตของ “ปฐม” ผู้ชายที่เรณูหลงรัก พิไลไม่ยอมรับเรณูและพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดเธอออกไป ความขัดแย้งระหว่างเรณูและพิไลทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ปฐมก็ต้องเผชิญกับความรักที่ลำบากใจระหว่างเรณูและอรพรรณี ลูกสาวเจ้านาย
ละคร กรงกรรม 2562
ฉากเด็ด ละคร กรงกรรม 2562
ฉากเด็ด ละคร กรงกรรม 2562
ปี พ.ศ. 2510 ณ ตลาดอำเภอชุมแสง ในจังหวัดนครสวรรค์ ย้อย เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของกิจการร้านค้าและโรงสี ผู้เจ้ากี้เจ้าการกับทุกเรื่องของทุกคนในครอบครัว ย้อยแต่งงานกับเจ๊กเซ้งและมีลูกชายด้วยกันทั้งหมด 4 คน คือ ปฐม, ประสงค์, กมล และ มงคล
ปฐม ลูกชายคนโต กลับมาเยี่ยมบ้านหลังจากไปเป็นทหารที่ตาคลี เขากลับมาพร้อมกับเรณู หญิงสาวที่ทำอาชีพขายบริการในบาร์ที่ตาคลี ปฐมต้องพาเรณูกลับมาด้วยเพราะเรณูบอกว่าท้องกับเขา ย้อยเห็นลูกชายพาผู้หญิงขายบริการเข้าบ้านก็ไม่พอใจอย่างมาก เพราะปฐมมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ซึ่งก็คือพิไล ลูกสาวเถ้าแก่โรงสีที่ตลาดทับกฤช ซึ่งเพียบพร้อมด้วยหน้าตา ฐานะ และการศึกษา ย้อยไม่อยากให้เรณูอยู่บ้านเดียวกันกับเธอ จึงให้ไปอยู่ที่บ้านในตรอกซึ่งเขาได้จากการรับจำนองมา ย้อยไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวของพิไล จึงไปหาประสงค์ซึ่งบวชอยู่ที่วัด และขอให้เขาสึกออกมาแต่งงานกับพิไลแทนปฐม แม้ว่าประสงค์จะไม่อยากแต่งงาน เพราะเขาแอบชอบจันตา ซึ่งเป็นลูกจ้างร้านสังฆภัณฑ์ของนางป่วยฮวย แต่เขารู้ดีว่าเขาไม่สามารถขัดใจแม่ได้ จึงตอบตกลง
ย้อยจึงไปบอกข่าวกับพิไล แต่พิไลยื่นข้อเสนอว่าขอสินสอดทองหมั้นใหม่ทั้งหมด และให้นางย้อยเป็นคนรับผิดชอบค่าจัดงานด้วย แม้ย้อยจะไม่พอใจแต่ก็ตอบตกลงเพราะไม่อยากเสียหน้า และอยากให้เรณูถูกเปรียบเทียบและกดดันโดยลูกสะใภ้ด้วยกัน เมื่อได้ฤกษ์แต่งงาน ย้อยก็ไล่เรณูไปอยู่ที่บ้านหลังโรงสี และเอาบ้านในตรอกเป็นเรือนหอของประสงค์และพิไล ด้านเรณู หลังจากเรณูย้ายไปอยู่ที่หลังโรงสี ก็สร้างกระท่อมใหม่ขึ้นมาอีกหลังหนึ่งเพื่อไว้ใช้ทำขนมขาย โดยได้ความช่วยเหลือจากเจ๊กเซ้งและกมล
มงคลไปเรียนช่างที่ปากน้ำโพ นั่งรถไฟกลับมาเยี่ยมบ้านที่ชุมแสง บังเอิญเจอวรรณา น้องสาวของเรณู ที่เรียนตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่ที่ปากน้ำโพเหมือนกัน มงคลจีบวรรณาตามประสาคนเจ้าชู้ แต่วรรณาไม่สนใจ วรรณามาตามเรณูกลับบ้านซึ่งอยู่ที่ปากน้ำโพโดยด่วน เพราะเรไร แม่ของเธอ ป่วยหนัก เรณูจึงรีบไปเยี่ยมแม่ทันที หลังจากสั่งเสียกันเสร็จ แม่ของเรณูก็สิ้นลม เรณูจึงต้องอยู่ช่วยจัดงานศพที่บ้าน 3 วัน โดยงานศพถูกจัดขึ้นที่ปากน้ำโพ หลังจากแม่ตาย เรณูก็ตั้งใจว่าจะเอาป๊อก ลูกของเธอซึ่งเกิดจากการถูกพี่เขยข่มขืน ไปอยู่ด้วยกันที่ชุมแสง แต่สุดท้ายป๊อกก็ตัดสินใจอยู่กับหลวงพ่อที่วัดไปก่อน
ย้อยไปที่ทับกฤชและแวะพักที่ปากน้ำโพหนึ่งคืน บังเอิญได้ยินคนในตลาดคุยกันว่าเรณูมีลูกมาก่อนแล้ว ย้อยแค้นใจที่เรณูหลอกลูกชายของเธอ เมื่อกลับไปถึงชุมแสงก็เอากุญแจไปล็อกบ้านหลังโรงสีของเรณู เมื่อเรณูกลับมาจึงเข้าบ้านไม่ได้ เรณูจึงไปขอกุญแจที่ร้านของย้อยก็บอกให้รอวันรุ่งขึ้นจึงจะให้ เรณูจึงขอไปนอนที่บ้านของจันตาหนึ่งคืน แล้วรีบออกมาที่หน้าร้านของย้อยแต่เช้า ทำเหมือนว่าเธอนั้นนอนหน้าบ้านมาทั้งคืนให้ชาวบ้านเห็นใจและไปต่อว่าย้อยว่าใจดำกับคนท้อง หลังจากนั้นไม่นาน เรณูก็ปล่อยข่าวว่าแท้งจากการลื่นล้มเพราะทำงานหนักเกินไป ย้อยได้ยินก็ไม่เชื่อและพยายามคิดหาทางกำจัดเรณูให้เร็วที่สุด
หลังงานแต่งงานของประสงค์และพิไลผ่านพ้นไป ทั้งสองคนก็ไปอยู่ที่บ้านในตรอกของย้อย แต่พิไลทำงานบ้านไม่เป็นสักอย่างเพราะปกตินางพิกุล ผู้เป็นแม่ ทำให้อยู่เสมอ พิไลจึงขอจ้างคนอื่นมาทำงานบ้านแทนทุกอย่าง แม้ประสงค์และย้อยจะไม่พอใจ แต่เมื่อแต่งเข้ามาแล้วก็จำใจต้องหาทางอยู่ด้วยกันให้ได้ ป้อมกับบุญปลูก สองพี่น้อง ซึ่งทำงานอยู่ในร้านย้อย ก็ขยันขันแข็ง และเป็นคนซื่อสัตย์ เป็นที่รู้ดีของย้อย บุญปลูก แอบรักประสงค์อยู่เงียบ ๆ ยิ่งเห็นประสงค์ต้องทำงานบ้านแทนพิไล ก็นึกสงสาร จึงมาช่วยประสงค์กับพิไลทำงานบ้านอยู่บ่อยครั้ง ความรักที่เธอมีต่อไปประสงค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ประนอมกับติ๋ม เพื่อนที่เคยทำงานในบาร์กับเรณู มาธุระที่ชุมแสง เรณูเล่าชีวิตของเธอให้ฟัง ติ๋มฟังเรื่องที่ย้อยรังแกเรณูอย่างไรบ้าง ก็แนะนำให้เรณูไปทำเสน่ห์ใส่ย้อยเหมือนที่เคยทำใส่ปฐม ย้อยรู้ว่าเรณูพาเพื่อนขายบริการมาที่บ้านก็ตามไปด่าทอถึงบ้าน เรณูหลุดปากพูดเรื่องที่ปฐมหลงคนหัวปักหัวปำ ย้อยจึงคิดขึ้นมาได้ว่าเรณูอาจจะทำเสน่ห์ใส่ปฐม ย้อยจึงนั่งเรือไปหาหมอมีที่เกยไชย หมอมีตรวจดูแล้วพบว่าปฐมถูกเสน่ห์จริง แต่ถ้าอยากถอนเสน่ห์จะต้องพาปฐมมาด้วยเท่านั้น เรณูรู้ข่าวว่าย้อยไปหาหมอมีก็กลัวปฐมถูกถอนเสน่ห์ จึงรีบไปหาหมอก้อน คนทำเสน่ห์ให้ ติ๋มจึงแนะนำให้เรณูทำของใส่ย้อยด้วย โดยติ๋มเป็นคนออกเงินให้ เพราะติ๋มเองก็มีความแค้นกับย้อยที่ยึดบ้านของเธอไป ทำให้เธอต้องไปขายบริการที่ตาคลี และอยากให้เรณูแก้แค้นแทนเธอ
นางศรี ลูกค้าประจำของที่ร้าน ถูกใจนิสัยของกมลจึงอยากได้ไปเป็นหลานเขยของเธอ ย้อยกลัวว่ากมลจะไปหาลูกสะใภ้ไม่ดีให้อีก จึงพยายามจับคู่กมลกับเพียงเพ็ญ หลานของนางศรี ลูกสาวคนเล็กของกำนันศร ที่ตำบลฆะมัง แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อแต่งงานแล้วต้องให้กมลไปอยู่ที่ฆะมังด้วย แต่ความจริงแล้วเพียงเพ็ญนั้นรักชอบอยู่กับก้านและได้เสียกันไปแล้ว นางศรีและกำนันศรเพียงต้องการรีบหาทางแยกสองคนนั้นออกจากกัน ด้านกมลนั้นแอบชอบอยู่กับจันตา ย้อยรู้ข่าวจากคนในตลาดว่ากมลอาจจะมีใจให้กับจันตา ก็บังคับให้กมลรีบแต่งงานทันที แม้กมลไม่อยากแต่งงานก็ขัดใจย้อยไม่ได้
ก้านมาซื้อยาให้นางกุ่น ผู้เป็นแม่ ที่ชุมแสง แต่มีเงินไม่พอ บังเอิญกมลมาซื้อยาให้เจ๊กเซ้งพอดี เมื่อเห็นว่าก้านเงินไม่พอค่ายาก็ช่วยออกเงินให้ ทำให้ก้านซาบซึ้งใจ โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้ทราบชื่อกันแล้วแยกย้ายไป ต่อมาก้านแอบไปหาเพียงเพ็ญและรู้ข่าวว่ากำนันศรจะบังคับให้เพียงเพ็ญแต่งงานกับกมล อีกทั้งเพียงเพ็ญยังตั้งท้องลูกของเขาอยู่ด้วย เขาตั้งใจจะฆ่ากมลทิ้งแต่เมื่อไปถึงชุมแสงและทราบว่ากมลคือคนที่เคยออกเงินค่ายาให้แม่ของเขา เขาจึงตัดสินใจไม่ฆ่ากมล แล้วก้านก็ย้ายไปอยู่กับวงดนตรีที่กรุงเทพฯ เพราะก้านมีพรสวรรค์ทางด้านการร้องเพลง ปล่อยให้เพียงเพ็ญแต่งงานกับกมลตามความต้องการของผู้ใหญ่
เมื่อย้อยโดนเรณูทำเสน่ห์ ย้อยก็เอ็นดูเรณูมาก สั่งให้คนไปซื้อขนมของเรณูมากินทุกวัน และยังจ้างเรณูทำขนมมงคลในงานแต่งงานของกมลด้วย ฝ่ายพิไลเมื่อเห็นย้อยเอ็นดูเรณูก็อิจฉา ยิ่งพิไลพยายามยุให้ย้อยเกลียดเรณู ย้อยกลับรักเรณูมากขึ้นไปอีก จนถึงวันงานแต่งงานของกมล ย้อยก็ให้สร้อยทองกับเรณูเพื่อใส่ไปงาน แม้ว่าเรณูบอกว่าจะคืนหลังจบงาน แต่นางย้อยก็บอกว่าให้แล้วให้เลยไม่รับคืน พิไลเห็นว่าผิดปกติอย่างมากและสงสัยว่าย้อยอาจะถูกเรณูทำเสน่ห์ใส่ จึงคิดจะไปหาหมอมีเพื่อหาทางแก้คุณไสย บังเอิญเจอเชิดซึ่งเป็นลูกน้องเก่าของพ่อที่ทำอาชีพรับจ้างขับเรือ พิไลจึงจ้างเชิดขับเรือไปหาหมอมี แต่หมอมีดันป่วยตายกะทันหัน พิไลจึงต้องกลับบ้านมือเปล่า แต่ฝากเชิดหาข่าวเกี่ยวกับหมอคุณไสยเก่ง ๆ มาให้ เชิดไปที่ตาคลีเพื่อสืบข่าว บังเอิญได้เจอกับติ๋มและเล่าเรื่องพิไลกับเรณูให้ฟัง ติ๋มจึงแนะนำหมอบางที่อยู่ท่าน้ำอ้อย ซึ่งเป็นเจ้าแม่ร่างทรงชอบหลอกเก็บเงินแพง ๆ เพื่อเลี่ยงให้เชิดไม่เจอกับหมอก้อน คนทำเสน่ห์ให้เรณู เชิดไปหาหมอบางและได้ความว่าต้องเอาคนถูกคุณไสยมา พิไลยังคิดหาทางพาย้อยไปไม่ได้ จึงหาทางแก้แค้นเรณูโดยให้เชิดไปขโมยสร้อยทองที่ย้อยให้เรณู แต่ย้อยกลับให้สร้อยทองใหม่กับเรณูอีก อีกทั้งยังบอกว่าจะเปิดร้านตัดเสื้อผ้าให้วรรณาเมื่อเรียนจบด้วย พิไลยิ่งอิจฉาและตั้งใจปล่อยข่าวเรื่องที่เรณูทำคุณไสยใส่ย้อยให้กระจายไปทั่วตลาดชุมแสง แต่เรณูก็พยายามทำตัวปกติเพื่อลบล้างข่าวที่เกิดขึ้น
หลังจากแต่งงานเพียงเพ็ญก็แพ้ท้องอย่างหนัก เพียงเพ็ญยังซื่อสัตย์ต่อก้าน จึงอ้างว่าเธฮไม่สบายกลัวกมลติดไข้ จึงขอแยกเตียงนอนกับกมล ซึ่งกมลก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร ฝ่ายก้านหลังจากไปกรุงเทพฯ ไม่นานก็ต้องกลับมาเพราะบังอรส่งข่าวไปว่านางกุ่นป่วยหนัก บังอรเป็นลูกของเจ้าของที่นาในฆะมังที่ก้านและกุ่นไปรับจ้างทำนาให้ บังอรแอบชอบก้านและหวังจะแต่งงานด้วยจึงมาคอยดูแลนางกุ่น นางกุ่นขอให้ก้านตัดใจจากเพียงเพ็ญและแต่งงานกับบังอร กำนันศรต้องการตัดขาดก้านกับเพียงเพ็ญจึงเสนอเงินส่วนหนึ่งให้บังอรรีบจัดงานแต่งงานกับก้านให้เร็วที่สุด แต่ก่อนงานแต่งงานหนึ่งวันนางกุ่นก็สิ้นลม ทำให้งานแต่งงานถูกยกเลิกไป
ฝ่ายเพียงเพ็ญตัดสินใจบอกกมลเรื่องที่เธอท้องมาก่อนแต่งงาน และให้กมลตัดสินใจทำตามใจตัวเองว่าจะเอาอย่างไรต่อไป สุดท้ายทั้งคู่ตัดสินใจไปเซ็นใบหย่ากันเงียบ ๆ ที่อำเภอ กมลบอกกับพ่อแม่ของเพ็ญว่าจะกลับไปเฝ้าพ่อที่กำลังป่วยที่ชุมแสง ส่วนเพ็ญก็หนีออกจากบ้านไปอย่างเงียบ ๆ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ต้องอับอายไปมากกว่านี้
หลังจากเจ๊กเซ้งป่วยมะเร็งปอดไม่นานก็เสียชีวิต งานศพถูกจัดขึ้นที่ปากน้ำโพ ทั้งเรณูและพิไลต่างก็มาช่วยงาน พิไลคิดแค้นเรณูจึงป่าวประกาศให้ทุกคนในงานศพรู้ว่าเรณูทำคุณไสยใส่ย้อย ญาติ ๆ ในงานก็มองเรณูด้วยความรังเกียจ แม้ว่าเรณูจะทำเป็นไม่สนใจ แต่ในใจเธอนั้นรู้สึกเสียใจและละอายใจที่ทำคุณไสยใส่ทั้งปฐมและย้อย ย้อยรู้ความจริงในที่สุด ว่ากมลหย่ากับเพียงเพ็ญแล้ว ย้อยแค้นใจที่ถูกย้อมแมวขาย ที่สำคัญ นึกเวทนากมลเป็นอย่างมาก เพียงเพ็ญเป็นลมหมดสติอยู่ที่สถานีรถไฟ กมลมาเจอเข้า จึงช่วยไว้ และพาไปอยู่ที่บ้านสวนท้ายโรงสี ก้านมาตามหาเพ็ญ กมลจึงฝากก้านทำงานที่โรงสีอยู่กับประสงค์ ก้านกับเพียงเพ็ญได้พบกันในที่สุด กมลให้ก้านทำความดีชนะใจเพียงเพ็ญให้ได้
มงคลคบกับมาลาไม่นานมาลาก็ท้อง มงคลไม่อยากรับผิดชอบและขอให้มาลาไปทำแท้ง แต่มาลาไม่กล้าทำไม่กล้าบอกพ่อแม่ จึงมาหาย้อยเพื่อขอความช่วยเหลือ โดยขอให้วรรณาไปเป็นเพื่อนและเป็นพยานว่าเธอคบกับมงคลจริง เพราะทั้งคู่เคยเรียนอยู่โรงเรียนใกล้ ๆ กันในปากน้ำโพ แต่ย้อยไม่เชื่อและให้มาลาสาบาน มาลาจึงกล่าวสาบานกับเจ้าพ่อชุมแสงว่าถ้าโกหกขอให้มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวัน แต่ถ้าพูดความจริงแล้วไม่ช่วยอะไรขอให้มงคลมีอันเป็นไปแทน ไม่กี่วันต่อมามงคลก็จมน้ำตาย
เรณูจะไปแจ้งข่าวเรื่องการตายของมงคลกับปฐมที่ค่ายทหาร แต่ปฐมพาลูกสาวเจ้านายไปขับรถเล่น จึงฝากเรื่องไว้กับเพื่อนของเขา ระหว่างจะกลับก็มีอาการแพ้ท้อง ปฐมกลับมารู้ข่าวจากเพื่อนว่าเรณูท้องก็ดีใจอย่างมาก ในขณะที่พิไลรู้ข่าวก็คับแค้นใจอย่างหนัก คิดจะพาย้อยไปเอาเสน่ห์ออกให้เร็วขึ้น เพราะกลัวว่าสมบัติที่ตัวเองควรได้จะตกไปอยู่ที่เรณูและลูก
เชิดเห็นติ๋มมาเยี่ยมเรณูที่ชุมแสง จึงรู้ว่าตัวเองถูกหลอกให้ไปหาหมอบางแน่ พิไลจึงสั่งให้เชิดไปเค้นมาว่าเรณูทำคุณไสยที่ไหน แต่ด้วยความแค้นเชิดจึงซ้อมจนติ๋มบาดเจ็บสาหัส ติ๋มจึงรีบไปหาหมอก้อน เพราะกลัวว่าฝั่งเชิดจะมาขอให้เอาของออก แต่หมอก้อนไปทำพิธีที่ต่างจังหวัด ทำให้ทั้งเชิดและติ๋มต่างก็ไม่ได้พบกันหมอก้อน
ด้านจันตา หลังจากกมลแต่งงานไป ปลัดจินกรก็มาสู่ขอจันตากับนางป่วยฮวย แต่ในวันงาน กรองแก้วซึ่งเป็นญาติของปลัด จินกรมาพร้อมกับสามี เมื่อเห็นหน้าจันตาก็ป่าวประกาศว่าจันตาเคยเป็นเมียน้อยของสามีเธอ รวมถึงเคยท้องและทำแท้งมาก่อนด้วย งานแต่งงานจึงต้องยกเลิกกลางคัน ข่าวเรื่องจันตากระจายไปทั่วชุมแสง จันตาเสียใจมากและคิดฆ่าตัวตาย นางป่วยฮวยจึงส่งจันตาไปเรียนเสริมสวยที่ปากน้ำโพอย่างที่เธออยากทำ โดยเรณูและกมลช่วยสมทบทุนให้ กมลดีใจที่จันตากลับมาเป็นโสดอีกครั้ง เขาจึงสารภาพกับย้อยว่าเขารักจันตา และขอแหวนไปหมั้นกับจันตาไว้ก่อน แม้ย้อยจะไม่พอใจนัก แต่ด้วยความรักและสงสารลูกที่เคยบังคับให้แต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่งและทำให้ชีวิตแต่งงานของลูกพังไปแล้วจึงยอมแต่โดยดี
พิไลได้หมอมือดีชื่ออาจารย์สมดี จากทับกฤช จึงไปรับมาเปิดโปงเรื่องที่เรณูทำคุณไสยให้คนทั้งตลาดฟัง เรณูรู้สึกอับอายมาก จึงย้ายไปอยู่พยุหะคีรี พร้อมกับวรรณา และขอให้หมอก้อนเอาคุณไสยออกจากปฐมและย้อย ฝ่ายติ๋มแค้นที่ถูกนายเชิดทำร้ายร่างกาย ไปขอให้หมอบางช่วย แต่หมอบางปฏิเสธเรื่องการทำไสยดำจนถึงแก่ความตาย ติ๋มจึงวานต๋อม พี่ชาย ไปหาหมอเบี้ยว เมื่อทำคุณไสยเสร็จ พิไลทำทุรนทุราย เพ้อว่าจะมีคนมาฆ่าตลอดเวลา จนมีข่าวลือว่าพิไลอาการเหมือนผีเข้าและเรณูเป็นคนทำเพื่อชำระแค้น ติ๋มกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายไปถึงเรณู จึงออกไปประกาศหน้าบ้านย้อยว่าเป็นฝีมือของเธอ ถ้าพิไลอยากหายดีก็ต้องให้พิไลมาคุยกันหน้าบ้าน ไม่เช่นนั้นประสงค์จะโดนไปด้วย ย้อยกลัวว่าประสงค์จะเดือดร้อนจึงเรียกพิไลออกมา และต้องป่าวประกาศเรื่องร้าย ๆ ที่เคยทำไว้ให้คนที่ชุมแสงฟังตามคำสั่งติ๋มเพื่อขอเอาชีวิตรอด ติ๋มจึงเลิกอาฆาตและขอให้หมอเบี้ยวหยุดทำคุณไสย อาจารย์สมดีมาช่วยรักษาพิไลแต่อาการกลับหนักขึ้นไปอีก เพราะฝั่งหมอเบี้ยวต้องการลองวิชาอาคม บวกกับแรงพยาบาทที่มีในใจของพิไลทำให้อาคมแข็งแกร่งมาก อาจารย์สมดีจึงขอให้พิไลคลายความเดือดแค้นและความละโมบในใจออกมาพร้อมกับนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่พักใหญ่จึงจะหายดี เมื่อพิไลได้สติก็ขอกลับไปอยู่ที่ทับกฤชเพราะอายชาวบ้าน โดยอ้างว่าจะขอกลับไปบวชชี
เมื่อเรณูย้ายมาก็เปิดร้านขายข้าวเกรียบปากหม้อเพื่อหารายได้ ติ๋มผ่านมาทำธุระแถวนั้นจึงมาบอกข่าวเรื่องปฐมและลูกสาวเจ้านาย หรืออรพรรณี ได้เสียกันไปแล้ว ทำให้เรณูเสียใจมาก ฝ่ายปฐมปลดทหารก็กลับไปบ้าน พร้อมกับอรพรรณี ปฐมตั้งใจจะมา ตกลงกับเรณูเรื่องลูกและเมียใหม่ของเขา แต่เรณูย้ายไปแล้ว จึงไม่ได้เจอกัน ย้อยไม่ชอบใจอรพรรณีอย่างมาก แต่เมื่อรู้ว่าที่บ้านของอรพรรณีมีฐานะและวางแผนอนาคตของลูกชายเธอไว้อย่างดี ก็ตัดสินใจว่าให้ปฐมกลับไปอยู่ทางบ้านเมียเพราะดูมีอนาคตสดใสกว่าอยู่ที่ชุมแสง ส่วนกมลก็ตัดสินใจไปอยู่กับจันตาที่ปากน้ำโพ ย้อยยกตึกแถวของเธอที่ปากน้ำโพให้เปิดเป็นร้านเสริมสวยของจันตา และตั้งใจว่าจะย้ายไปอยู่ด้วยเพราะใกล้โรงพยาบาลมากกว่าที่ชุมแสง ส่วนประสงค์นั้นให้ดูแลกิจการทั้งหมดที่มีในชุมแสงต่อไป
3 ปีต่อมา ย้อยก็เหมือนมีลูกเล็กอีกคน เพราะมาลาคลอดลูกแล้วมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง ส่วนมาลากลับไปแต่งงานที่เขากะลา ประสงค์แต่งงานกับบุญปลูก กมลแต่งงานกับจันตา วรรณาได้แต่งงานกับปลัดจินกร เรณูรับป๊อกมาอยู่ด้วยกันที่ร้านที่พยุหะคีรี โดยมีกิจการขายขนมไทย ข้าวเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมูที่เป็นไปได้ด้วยดี ฝั่งปฐม แม้จะได้เรียนสูงและไปทำงานในบริษัทของอรพรรณี มีลูกด้วยกัน 1 คน แต่เขาไม่มีความสุขเลย อรพรรณีเที่ยวเล่นทุกวัน เขาลาไปเยี่ยมแม่ที่บ้านและบังเอิญได้พบกับเรณูที่มาเยี่ยมย้อยเช่นกัน ทั้งคู่ได้เจอกันและปรับความเข้าใจกัน
บั้นปลายชีวิต เบาหวานของย้อยกำเริบหนักจนต้องตัดขาทิ้ง ระหว่างพักฟื้น ปฐมตั้งใจขับรถกลับมาเยี่ยมแม่ แต่เกิดอุบัติเหตุรถชนจนบาดเจ็บสาหัส ย้อยได้ยินข่าวก็ช็อกจนขาดใจตายในวัย 51 ปี อรพรรณีได้ยินข่าวอุบัติเหตุเห็นว่ารักษาไปก็ไม่หายเป็นปกติแน่จึงปฏิเสธเรื่องการช่วยเหลือทางการเงินใด ๆ ประสงค์และกมลจึงตัดสินใจจำนองที่ดินที่ย้อยแบ่งให้ปฐมจนหมดเพื่อเป็นค่ารักษา ปฐมรักษาตัวอยู่ 3 ปีก็กลับมาเป็นปกติโดยมีเรณูคอยดูแล ทั้งสองคนช่วยกันขยายกิจการร้านขนมของเรณูจนเปิดโรงงานขนมได้ และอยู่กันอย่างมีความสุข
บทประพันธ์โดย : จุฬามณี
บทโทรทัศน์โดย : ยิ่งยศ ปัญญา
นักแสดง
ราณี แคมเปน รับบท เรณู
จิรายุ ตั้งศรีสุข รับบท กมล (อาซา)
ใหม่ เจริญปุระ รับบท ย้อย
ฐกฤต ตวันพงค์ รับบท ปฐม (เฮียใช้)
ชนาธิป โพธิ์ทองคำ รับบท ประสงค์ (อาตง)
วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ รับบท มงคล (อาสี่)
ปรียากานต์ ใจกันทะ รับบท จันตา
จิตรภาณุ กลมแก้ว รับบท ปลัดจินกร
รินรดา แก้วบัวสาย รับบท วรรณา
พิชชาภา พันธุมจินดา รับบท พิไล
ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ รับบท บุญปลูก
เด่นคุณ งามเนตร รับบท ก้าน
อรเณศ ดีคาบาเลส รับบท เพียงเพ็ญ
ปริญญ์ วิกรานต์ รับบท หลักเซ้ง
กษมา นิสสัยพันธุ์ รับบท กำนันศร
ปริศนา กล่ำพินิจ รับบท นางสมพร (เมียกำนัน)
จรรยา ธนาสว่างกุล รับบท นางศรี (น้องสาวกำนันศร)
ปวีณา ชารีฟสกุล รับบท พิกุล
ณัฐนี สิทธิสมาน รับบท นางแรม
อรรถพล เทศทะวงศ์ รับบท ป้อม
สิรินรัตน์ วิทยพูม รับบท อรพรรณี
อริศรา วงษ์ชาลี รับบท ติ๋ม
อ้อยใจ แดนอีสาน รับบท ประนอม
ปาจรีย์ ณ นคร รับบท หวาน
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท อาจารย์ก้อน
ชลัฏ ณ สงขลา รับบท เชิด
คัดกิ่งรักส์ คิดคิดสะระณัง รับบท เจ้อ๋า (เจ้าของร้านทอง)
ณภัทร ชุ่มจิตตรี รับบท ไอ้หวัง
นิศาชล ต้วมสูงเนิน รับบท บังอร
วราพรรณ หงุ่ยตระกูล รับบท หมุ่ยนี้
วิศรุต หิรัญบุศย์ รับบท ดำ
ดนัย จารุจินดา รับบท หมอสมดี
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ รับบท ป้าเม้า
การัญชิดา คุ้มสุวรรณ รับบท มาลา
อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา รับบท อาม่าร้านสังฆภัณฑ์
ศิรินทรา นิยากร รับบท เรไร
พิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา รับบท อาสิทธิ์
รัดเกล้า อามระดิษ รับบท แย้ม
โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว รับบท สุบิน
โชติรส ชโยวรรณ รับบท กรองแก้ว
โฉมฉาย ฉัตรวิไล รับบท นางลิ้ม
ภคพล ตัณฑ์พาณิชย์ รับบท ป๊อก
สิรีภรณ์ ยุกตะทัต รับบท สายทอง
กุณกนิช คุ้มครอง รับบท นางกุ่น (แม่ก้าน)