ละคร ลมไพรผูกรัก 2561 (EP.1-7 ตอนจบ) END เรื่องราวของ อิสระ เจ้าหน้าที่หน่วยจัดการต้นน้ำ ผู้เสียสละได้ทุกสิ่งเพื่อหน้าที่ยกเว้น ปภาพินธ์ หญิงสาวที่หักอกเขาอย่างไม่มีชิ้นดี

ลมไพรผูกรัก My Hero วีรบุรุษสุดที่รัก อิสร์ (ท็อป จรณ) เจ้าหน้าที่ป่าไม้เสน่ห์แรงกับ ปอนด์ (ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์) อดีตแฟนสาวที่เคยหักอกเขา แต่ด้วยเหตุการณ์พาไปทำให้ปอนด์ต้องมาขอความช่วยเหลือจากอิสร์ถึงที่ทำการเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เพื่อให้ช่วยตามหา ปิ๊ก (เบสท์ วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล) น้องชายที่ทะเลาะกับเธอ แล้วหนีออกจากบ้านมาหาอิสร์แต่เกิดหลงป่า แถมดันไปเจอพวกตัดไม้ทำลายป่าจับถ่วงน้ำ อิสร์เลยท้าพนันกับปอนด์ว่าถ้าเขาตามหาปิ๊กเจอ ปอนด์ต้องแต่งงานกับเขาทันที

ละคร ลมไพรผูกรัก 2561


ละคร ลมไพรผูกรัก 2561

ละคร ลมไพรผูกรัก 2561

ละคร ลมไพรผูกรัก 2561 EP.1-7CH3+

ซีนละคร ละคร ลมไพรผูกรัก 2561

ฉันไม่รู้ Ost.ลมไพรผูกรัก | ส้ม มารี | Official MV

นอกจากเธอ Ost.ลมไพรผูกรัก | ท็อป จรณ โสรัตน์ | Official MV


ปภาพินธ์ เดินทางเข้าไปที่หน่วยจัดการต้นน้ำ ในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เพื่อตามมหา ปียวัช หรือ ปิ๊ก นักศึกษาหนุ่ม น้องชายคนเดียวของเธอ ที่หลงป่าไปกับเพื่อนอีกคน เขาหายไปหลายวันแล้ว โดยไม่มีใครรู้ว่าชะตากรรมของเขาจะเป็นเช่นไร พนัส หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำ มอบหมายให้ อิสระ ซึ่งเป็นผู้ช่วย เข้าช่วยค้นหา อิสระมั่นใจว่าเขาสามารถค้นหาเด็กหนุ่มได้แน่นอน เพราะเขารู้จักผืนป่านี้ราวกับเป็นเส้นลายมือของตัวเอง แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดคือ เขาจะได้พบกับหญิงสาวที่ยึดครองหัวใจเขามาอย่างยาวนานแม้จนกระทั่งปัจจุบัน ปภาพินธ์ หญิงสาวที่หักอกเขาอย่างยับเยินเมื่อ 5 ปีก่อนนั่นเอง

เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ปภาพินธ์เคยปฏิเสธที่จะคบหากับอิสระ เพียงเพราะอิสระเลือกที่จะทำงานป่าไม้ แทนที่จะทำงานในเมืองอย่างที่ปภาพินธ์ต้องการ ความห่างไกล และด้วยยังสนุกกับการใช้ชีวิตโสด ทำให้ปภาพินธ์บอกเลิกกับอิสระ สร้างบาดแผลที่เจ็บลึกขึ้นในใจของอิสระตลอดมา และการกลับมาเจอกันในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสเดียวที่อิสระจะแก้แค้นด้วยท่าทีเย็นชา อิสระยื่นข้อเสนอกับเธอว่าถ้าเขาหาน้องชายของเธอคืนมาได้ เธอจะต้องแต่งงานกับเขา ปภาพินธ์ไม่มีทางเลือก เธอสังเกตได้ว่าบัดนี้ อิสระไม่ใช่อิสระคนเดิมที่เคยอ่อนโยน สุภาพนุ่มนวลเหมือนเมื่อ 5 ปีก่อน อิสระคนนี้ท่าทีเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยวี่แววที่ต้องการเอาชนะ ทำให้เธอรู้สึกชิงชังกับการฉวยโอกาส บีบคั้นคนที่ไม่มีทางเลือกอย่างเธอ แต่ที่สุดเธอก็จำใจต้องตอบตกลง

อิสระนำทีมพา คณา ลูกน้องคนสนิท บรรจง และพัฒน์ ลูกน้องที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กัน เข้าป่าตามหาปิยวัชทันทีในเช้ามืดวันรุ่งขึ้น โดยปภาพินธ์ขอไปด้วย ระหว่างทางที่ค้นหา พวกเขาพบร่องรอยของการตัดไม้ทำลายป่าเป็นของแถม แต่ภารกิจตามหาคนหายทำให้พวกเขาต้องเดินหน้าต่อไปอย่างเร่งรีบ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ปภาพินธ์เห็นหญิงสาวชาวป่าคนหนึ่ง (ชบาไพร) ปรากฏตัวขึ้น ปภาพินธ์ชี้ให้อิสระดู แต่อิสระนิ่งเฉยทำเหมือนผู้หญิงคนนั้นไม่มีตัวตน ปภาพินธ์ไม่เชื่อว่าอิสระจะไม่เห็นชบาไพร และตาเธอต้องไม่ฝาดแน่นอน

เมื่อชบาไพรปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ปภาพินธ์ ก็แอบติดตามไปจนได้รับอุบัติเหตุ ลื่นล้มหมดสติไป ในระหว่างหมดสติ ปภาพินธ์ฝันถึงเสือโคร่งตัวหนึ่ง จ้องมองนิ่ง และพยายามจะไล่ตะครุบเธอ ปภาพินธ์กรีดร้องและได้สติขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกโล่งอก และเต็มไปด้วยความหวาดกลัวแม้ว่าจะเป็นเพียงความฝันเท่านั้น หลังจากนั้นไม่นานอิสระก็ค้นหาปิ๊ก น้องของปภาพินธ์ จนเจอและบอกให้เธอเลิกเพ้อเจ้อถึงผู้หญิงที่ชื่อชบาไพรเสียที

อิสระ ส่งปภาพินธ์ และปิ๊ก ออกจากป่าไปพร้อมกับลูกน้อง หลังจากนั้น อิสระก็รีบกลับไปตามร่องรอยของ พ่อค้าไม้เถื่อน ชบาไพรปรากฏตัวต่อหน้าอิสระ และช่วยชี้เบาะแสเรื่องคนร้าย แต่น่าเสียดาย พวกนั้นขนเลื่อยยนต์ และหลักฐานทุกอย่างหนีหายไปได้หวุดหวิด เมื่อหมดหน้าที่ ชบาไพรก็หายเข้าป่าไปอีกครั้ง อิสระมาทวงสัญญา และยื่นคำขาดขอปภาพินธ์แต่งงานด้วยท่าทีแข็งกร้าว ปภาพินธ์รู้สึกชิงชังที่โดนบีบบังคับ เธอขอยืดเวลาไปก่อน และขอเวลาคบหาดูใจกันอีกที ปภาพินธ์วางแผนที่จะทำตัวร้ายกาจมาก ๆ เพื่อทำให้อิสระทนไม่ได้ และเป็นฝ่ายบอกเลิกไปเอง อิสระตอบตกลง ยอมยืดเวลาที่จะแต่งงานออกไป แต่มีข้อแม้ว่าปภาพินธ์ต้องไปหาที่พักใกล้ ๆ กับเขา

อิสระหาบ้านพักป่าไม้ที่อยู่ใกล้เขาที่สุดให้ปภาพินธ์ และในคืนแรกของการเข้าพัก เหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับปภาพินธ์อีกครั้ง เพราะจู่ ๆ เธอก็ได้ยินเสียงคำรามของเสือแว่วเข้ามา ทั้ง ๆ ที่ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้ยิน เมื่อปภาพินธ์ออกไปยืนที่ระเบียงก็มองเห็นชบาไพร หญิงสาวชาวป่าคนเดิม มายืนมองเธอและเดินหายไปในป่า เธอตัดสินใจที่จะวิ่งตามไป แต่แล้วเสือตัวหนึ่งก็โผล่ออกมา ปภาพินธ์ตกใจเป็นลมพับไป อิสระตามมาพบ และนำเธอไปปฐมพยาบาล ทุกคนยืนยันว่าเธอน่าจะตาฝาดไปเพราะไม่มีร่องรอยของเสือ และเธอก็ไม่ได้มีร่องรอยโดนทำร้ายเลยแม้แต่ปลายเล็บ

ปภาพินธ์เริ่มแผนร้ายของเธอด้วยการทำตัวแย่ ๆ ร้ายกาจ ทำทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับนิสัยจริง เธอเริ่มเรียกร้องโวยวายต้องการเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้อิสระรำคาญ แต่อิสระก็พยายามจัดให้ทุกอย่างด้วยท่าทีเย็นชา และยโสเช่นเดิม ปุ้ม ลูกคนงานซึ่งมีหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน แอบชอบอิสระ เมื่อรู้ว่าปภาพินธ์เป็นใคร ปุ้มจึงตั้งตัวเป็นศัตรูคอยกลั่นแกล้ง ก่อความรำคาญใจให้อยู่ตลอดเวลา ครั้งหนึ่งปุ้มหลอกปภาพินธ์ให้ไปเล่นน้ำตก โดยหลอกให้ไปเล่นในวังน้ำวน จนปภาพินธ์โดนน้ำดูดไหลไปที่หน้าผา แต่แล้วชบาไพร หญิงชาวป่าลึกลับ ก็ปรากฏตัวและช่วยปภาพินธ์เอาไว้

ชบาไพร แต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามิดชิด มีผ้าปิดบังใบหน้าราวกับว่ากำลังปกปิดอะไรบางอย่าง หลังจากทำแผลให้ปภาพินธ์เสร็จ ชบาไพรก็หายเข้าป่าไปอีกครั้ง ปภาพินธ์เล่าเรื่องชบาไพรให้อิสระฟัง อิสระนิ่งเฉย ขณะที่ปุ้มบอกว่าชบาไพรไม่ใช่คน แต่เป็นพวกผีไพรที่อยู่ในป่า แต่ปภาพินธ์กลับเชื่อความรู้สึกตัวเอง เธอเชื่อว่าชบาไพรมีตัวตน และต้องสืบเรื่องของผู้หญิงลึกลับคนนี้ให้ได้ คณา ลูกน้องคนสนิทของอิสระ เล่าตำนานเรื่องบ้านลับแลในป่าให้ปภาพินธ์ฟังว่า บ้านลับแลซ่อนตัวอยู่ที่ผาเวียงวัง จุดชมวิวที่สวยมากแห่งหนึ่งของผืนป่า แต่ยากที่จะเดินทางไปถ้าไม่มีคนชำนาญป่านำทาง คนในบ้านลับแลเป็นพวกกึ่งผีกึ่งคน ไม่ค่อยปรากฏตัวให้ใครเห็น พวกตัดไม้ทำลายป่ามักจะโดนเล่นงานอยู่บ่อย ๆ คณาเชื่อว่าผู้หญิงที่ชื่อชบาไพรอาจเป็นคนบ้านลับแล

อิสระได้รับทราบจากสายว่ามีคำสั่งล็อตใหญ่เข้ามาในพื้นที่ที่เขารับผิดชอบ และคนที่เขาสงสัยว่าเป็นตัวการคือ อดีตผู้แทนราษฎรคนหนึ่งชื่อไกรสร โดยมีลูกน้องชื่อ ทัศน์ หัวคะแนนคนสำคัญ คอยช่วยเหลือ การชิต แฟนของปภาพินธ์ กลับมาจากต่างประเทศ เมื่อรู้ข่าวว่าปภาพินธ์จะต้องแต่งงานกับอิสระ ก็ไม่พอใจและพยายามกลับมาขอคืนดีกับปภาพินธ์ ปภาพินธ์ได้โอกาสเลยแกล้งทำเป็นหวานกับกรรชิตเพื่อยั่วให้อิสระโกรธ แต่อิสระนิ่งเก็บอารมณ์ ทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเมื่อใกล้วันแต่งงานเข้ามา ปภาพินธ์ต้องการเอาชนะ อยากจะทำให้อิสระเจ็บปวดที่สุด เธอจึงแกล้งวางแผนให้อิสระพาไปเที่ยวผาเวียงวัง โดยมีกรรชิตไปด้วย และวางแผนไว้ว่าจะให้กรรชิตพาหนีการแต่งงาน ขบวนเดินป่าออกเดินทาง โดยมีเป้าหมายที่ผาเวียงวัง ระหว่างทาง อิสระพบร่องรอยพวกตัดไม้ทำลายป่าอีกครั้ง เขาปลีกตัวออกไปลาดตระเวน… และถ่ายคลิปลงในมือถือเอาไว้เป็นหลักฐานได้สำเร็จ

ส.ส.ไกรสร และกลุ่มผู้ร้ายรู้ตัว จึงตามไล่ล่าขบวนเดินป่า อิสระกับพวกมัวแต่สาละวนกับการยิงต่อสู้กับพวกตัดไม้ ปภาพินธ์ได้โอกาสจึงบอกให้กรรชิตพาเธอหนีไป แต่ด้วยความไม่ชำนาญเส้นทางทำให้ทั้งคู่หลงเข้าไปในป่าลึกกว่าเดิม เมื่ออยู่ด้วยกัน สองต่อสองในป่าทุรกันดาร ปภาพินธ์จึงได้เรียนรู้สัญชาตญาณเบื้องลึกของกรรชิต เมื่อใช้ชีวิตในเมืองเขาดูเป็นผู้ชายที่เหนือกว่าคนอื่นด้วยฐานะ และทรัพย์สินนอกกาย แค่เมื่อต้องเผชิญชีวิตในป่าโดยไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก กรรชิตกลายเป็นคนที่เธอไม่สามารถพึ่งพาอะไรได้เลย แถมยังเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวจนปภาพินธ์รู้สึกได้ ในวันที่หมอกลงจัด ปภาพินธ์ และกรรชิตเกิดพลัดหลงกัน ปภาพินธ์หายไป ขณะที่อิสระสะกดรอยตาม และมาช่วยกรรชิตที่กำลังขวัญเสียเอาไว้ได้ แต่แล้วพวกคนร้ายก็ตามมาทันอีกครั้ง

อิสระพากรรชิต และลูกน้องหนีการตามไล่ล่า คนร้ายต้องการคลิปในมือถือซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ เมื่อจวนตัว อิสระก็ขว้างมือถือทิ้ง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่แอบเอาซิมของเครื่องเก็บซ่อนไว้กับตัว จากนั้นก็พาทุกคนออกจากป่าสำเร็จ อิสระเอาภาพวิดีโอนั้นให้พนัสดู แต่เขาก็ต้องประหลาดใจที่พนัสตำหนิเขาอย่างรุนแรง อิสระโกรธและไม่เข้าใจ มุมมองที่เขามีต่อพนัสเริ่มมีความเคลือบแคลงสงสัย อิสระพบร่องรอยการเข้ามาค้นของในบ้านพักของเขา เขามั่นใจว่าคนร้ายเข้ามาค้นหาซิมนั้นแน่นอน อิสระสงสัยว่าพนัสจะรู้เห็นเป็นใจ แต่เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ไม่มีเรื่องอะไรด่วนเท่ากับการเข้าป่าอีกครั้งเพื่อตามหาปภาพินธ์ที่หายไป แต่แล้วขณะกำลังจะเข้าป่า อิสระก็โดนลอบยิงอยู่ในอาการโคม่า

ปภาพินธ์หลงป่า และเริ่มจับไข้ เสียงคำรามของเสือดังใกล้เข้ามาและก่อนที่จะสลบไป เสือตัวนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วพุ่งตรงเข้าหาเธอ เมื่อฟื้นขึ้นมาอีกครั้งปภาพินธ์พบว่าชบาไพรช่วยเธอไว้ และเธออยู่ในหมู่บ้านลับแลที่ซ่อนตัวอยู่กลางหมอกหนาทึบ บรรยากาศของหมู่บ้านเต็มไปด้วยความลึกลับ น่าสะพรึงกลัว ชบาไพรบอกปภาพินธ์เรื่องอิสระโดนยิงอยู่ในอาการโคม่า เป็นตายเท่ากัน โดยชบาไพรล่วงรู้เหตุการณ์จากการเพ่งกสิณ

เมื่อปภาพินธ์รีบโทร. ไปเช็กเหตุการณ์ก่อนแบตฯ จะหมด ก็ปรากฏว่าเรื่องที่ชบาไพรบอกเป็นความจริง ปภาพินธ์ตกใจไม่คาดว่าเธอกำลังจะสูญเสียอิสระไป เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเธอขาดเขาไม่ได้ และนั่นก็แสดงว่าเธอกำลังรักเขานั่นเอง ปภาพินธ์ต้องการหนีออกจากหมู่บ้านเพื่อไปหาอิสระ แต่ทุกครั้งที่ก้าวพ้นเขตหมู่บ้าน ก็จะพบกับเสือโคร่งที่เฝ้ามองเธออยู่ทุกฝีก้าว เธอจึงกลับมหาชบาไพรอีกครั้ง

ชบาไพร บอกว่าอิสระอยู่ในภาวะสมองตาย ทำให้จิตของเขาอยู่ในมิติหลังความตาย ทางเดียวที่จะช่วยอิสระให้ฟื้น ก็คือต้องใช้ความรักไปช่วยดึงให้เขาหลุดออกมาก่อนที่จะสายเกินไป และนั่นก็คือปภาพินธ์จะต้องทำให้ตัวเองอยู่ในสภาวะสมองตายเช่นกัน ด้วยการกินสมุนไพรเมืองลับแล ปภาพินธ์ตัดสินใจกินสมุนไพรและดิ่งจิตของเธอไปยังมิติหลังความตาย เธอพบว่าอิสระกำลังตกอยู่ในวงล้อมของหญิงที่เป็นกิเลสด้านมืดของผู้ชายและยังไม่อยากกลับไป ปภาพินธ์เข้าไปกระชากให้อิสระหลุดออกมา ทำให้หญิงสาวเหล่านั้นกลายเป็นปีศาจตรงเข้ามารมทำร้าย แต่แล้วทันใดเสือโคร่งตัวนั้นก็ปรากฏตัว และพาอิสระขี่หลังเสือ พุ่งทะยานออกจากมิติหลังความตาย แต่ในนาทีสุดท้ายนั้นเอง ปภาพินธ์กลับหลุดตกจากหลังเสือ หายไปในความมืด

อิสระฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล เขาจำเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างสภาวะความเป็นความตายได้ และรู้สึกเป็นห่วงปภาพินธ์ซึ่งบัดนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน นอกจากสัญญาณโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายที่เธอมาจากในป่าก่อนแบตฯ จะหมด อิสระรีบออกเดินทางเข้าป่าทันที ส.ส.ไกรสร และทัศน์ ทราบถึงการเข้าป่าของอิสระก็รีบจัดขบวนออกไปตามไล่ล่าอีกครั้ง อิสระต่อสู้และหนีเอาตัวรอด แต่ก็โดนตามไล่ล่าไม่ลดละ แต่ก่อนที่อิสระจะจนมุม ชบาไพร และคนในหมู่บ้านลับแลก็เข้ามาช่วย และพาหลบหนีหายไปในม่านหมอกหนาทึบ ส.ส.ไกรสร และพวกย่ามใจคิดว่าอิสระตายแล้วจึงพากันกลับออกจากป่าไป

ชบาไพร พาอิสระมาพบปภาพินธ์ โดยปภาพินธ์ยังคงนอนไม่ได้สติ จิตของเธอยังกลับมาในมิติปัจจุบันไม่ได้อิสระปฐมพยาบาล และส่งเสียงเรียกและสารภาพความรู้สึกทั้งหมด ว่าการที่เขายื่นคำขาด บังคับให้เธอแต่งงานด้วย แม้ในครั้งแรก จะทำเพื่อแก้แค้น แต่ลึก ๆ ในใจ ตลอด 5 ปีที่ปภาพินธ์ทิ้งไป เขายังคงลืมเธอไม่ได้ และเมื่อเจอกันอีกครั้ง เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะได้ปภาพินธ์คืนกลับมา ทั้งหมดนี้ก็เพราะ เขารักเธอนั่นเอง และแล้ว ความรักความจริงใจก็กลายเป็นสายใยที่ช่วยฉุดรั้งให้ปภาพินธ์ฟื้นขึ้นมาได้สำเร็จ ทั้งคู่รู้ความในใจของกันและกันในที่สุด

อิสระ เล่าว่า ชบาไพร และคนในบ้านลับแล เป็นโรคเรื้อน สังคมรังเกียจ พวกเขาจึงพากันมาซ่อนตัวกันอยู่ในป่า ทำตัวลึกลับ เมื่ออิสระรู้เรื่องก็คอยช่วยเหลือ ส่งยา และสิ่งของจำเป็นให้อยู่เป็นประจำโดยไม่บอกใคร ส่วนชบาไพรนั้นเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถพิเศษ ล่วงรู้อนาคต และแปลงร่างเป็นเสือได้ ชบาไพรจึงคอยช่วยเหลืออิสระในการคุ้มครองป่า และคอยช่วยเหลือยามที่อิสระมีภยันตราย อิสระพาปภาพินธ์กลับออกมาจากป่า เขาเป็นห่วงหลักฐานที่เก็บซ่อนไว้กับสัมภาระในรถ และสิ่งที่เขากลัวนั้นกลายเป็นความจริง ซิมซึ่งมีภาพวิดีโอหลักฐาน หายไปจากแว่นกันแดดที่เขาเอาซ่อนไว้ อิสระเชื่อว่าต้องเป็นฝีมือของพนัส หัวหน้าของเขา

และแล้ว จู่ ๆ ก็เกิดไฟป่าลุกลามใกล้เข้ามา อิสระรีบไปช่วยดับไฟ แต่ก็พบว่านี่คือแผนลวงของผู้ร้าย อิสระเสียท่า ถูกทัศน์เอาปืนจ่อหัว ชบาไพรซึ่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้ารีบมาบอกปภาพินธ์ให้รีบไปช่วยอิสระ และขณะที่อิสระกำลังจะเสียที พนัสก็เข้ามาช่วยเขาไว้ได้ทันโดยปภาพินธ์เป็นคนไปขอความช่วยเหลือ พนัสยิงทัศน์ที่แขนจนปืนหลุดมือ ยอมให้จับกุม อิสระรอดมาได้ พนัสบอกอิสระว่าคนที่เป็นสายให้กับขบวนการตัดไม้คือ คณา โดยคณาเป็นคนที่แอบเข้าไปค้นหาซิมในบ้านพักของอิสระ แต่หลักฐานที่อิสระได้มาก็เพียงพอที่จะทำให้ตัวการทุกคนโดนจับเข้าคุกทั้งหมด รวมทั้ง ส.ส.ไกรสร

ข่าวการจับ ส.ส.ไกรสร และพวก กลายเป็นข่าวดัง อิสระกลายเป็นวีรบุรุษผู้ปกป้องผืนป่า ความชื่นชมจากสังคม และคำชมเชยจากหน่วยงานต้นสังกัด ไม่ทำให้อิสระปลื้มใจเท่ากับรอยยิ้มจากปภาพินธ์เพียงคนเดียว ตอนนี้เธอเข้าใจเขา เข้าใจงานที่เขาทำ และประทับใจในความเสียสละของเขาและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทุกคน เธอบอกเขาว่าเธอพร้อมจะอยู่เคียงข้าง และเป็นกำลังใจให้กับเขาตลอดไป เพราะเขาไม่เพียงเป็นวีรบุรุษผู้ปกป้องป่า แต่เขาเป็นวีรบุรุษตัวจริงของเธอด้วยเช่นกัน

บทประพันธ์โดย : อุธิยา
กำกับการแสดงโดย : ตระกูล อรุณสวัสดิ์
ผลิตโดย : บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด

นักแสดง
จรณ โสรัตน์ รับบท อิสระ
ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์ รับบท ปภาพินธ์/ปอนด์
ธนากร โปษยานนท์ รับบท พนัส
สรวิชญ์ สุบุญ รับบท ดร.ชาติ
รณเดช วงศาโรจน์ รับบท กรรชิต
เกียรติกมล ล่าทา รับบท ไกรสร
หรรษา จึงวิวัฒนวงศ์ รับบท เก๋
กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข รับบท โอม
นิภาภรณ์ ฐิติธนการ รับบท เจน
ศุภชัย สุวรรณอ่อน รับบท อาร์ม
นลิน โฮเลอร์ รับบท ปุ้ม
วิชยุตม์ ลิ่มรัตนะมงคล รับบท ปิยวัช
กีรติ ศิวะเกื้อ รับบท คณา
ดลกมล ศรัทธาทิพย์ รับบท ลุงบรรจง
ณภัทร ชุ่มจิตศรี รับบท พัฒน์
ธวัชชัย คชาอนันท์ รับบท น้าออด
โชคชัย เจริญสุข รับบท พี่เจิม
ณัฐพล วิริยะชัย รับบท บุ้ง
ปราปต์ ปราปต์ปฎล รับบท ทัศน์