ละคร กรรมหรือพรหมลิขิต Is It Destiny 2566 (EP.1-4 ตอนจบ) END

ความรัก และความผูกพันธ์ ของผู้หญิงในยุคที่อะไรๆ ก็ก้าวไปไกลจนตามไม่ทัน แต่ความเชื่อในเรื่องของ Destiny หรือพรหมลิขิต ยังเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจของผู้หญิงทุกคน ทุกยุคทุกสมัย ความหวังที่จะได้พบกับใครสักคน ที่บางสิ่งบางอย่างลิขิตให้ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป มีคนเคยพูดเอาไว้ว่า “”ถ้าเดินผ่าน เรียกว่า บังเอิญ แต่ถ้าคว้าเอาไว้ได้ เรียกว่า พรหมลิขิต””ทุกคนเราจึงต้องใช้ความพยายามทำให้ความบังเอิญนั้นกลายเป็นพรหมลิขิตให้ได้


ละคร กรรมหรือพรหมลิขิต Is It Destiny 2566

ละคร กรรมหรือพรหมลิขิต Is It Destiny 2566

ละคร กรรมหรือพรหมลิขิต Is It Destiny 2566 EP.1-4VIU

ละคร กรรมหรือพรหมลิขิต Is It Destiny 2566 EP.1-4ONED

ฉากเด็ด ละคร กรรมหรือพรหมลิขิต Is It Destiny 2566

ฉากเด็ด ละคร กรรมหรือพรหมลิขิต Is It Destiny 2566

มีคนเคยพูดไว้… “ถ้าเดินผ่าน เรียกว่า บังเอิญ แต่ถ้าคว้าเอาไว้ได้ เรียกว่า พรหมลิขิต” อย่าเชื่อใน “พรหมลิขิต” จนไม่คิดหน้าคิดหลัง เพราะสิ่งนี้อาจเป็น “กรรม” …ก็เป็นได้

ความรักและความผูกพันของผู้หญิงในยุคที่อะไร ๆ ก็ก้าวไปไกลจนตามไม่ทัน แต่ความเชื่อในเรื่องของ Destiny หรือพรหมลิขิต ยังเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจของผู้หญิงทุกคน ทุกยุคทุกสมัย ความหวังที่จะได้พบกับใครสักคน ที่บางสิ่งบางอย่างลิขิตให้ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดไป

เบล (เจนิส เจณิสตา) สาวน้อยน่ารัก ที่เริ่มต้นความรักกับผู้หญิงด้วยกัน แต่ดูเหมือนจะไม่ Work เท่าไหร่ เพราะพอมีความรักกับผู้หญิงทีไรก็ต้องถูกหลอกเสมอ เบล จึงเลือกเปิดใจใหม่ ต่อจากนี้เธอจะคบผู้หญิงก็ได้ ผู้ชายก็ดี จนได้ไปเจอ ทาม (แบงค์ อาทิตย์) ผู้ชายที่มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ทำให้เธอมั่นใจว่า เขาคือ Destiny ของเธอ

แรก ๆ อุปสรรคของความรักอันยิ่งใหญ่ของเบลก็คือ ป๊า พ่อผู้รักลูกสาวมากกว่าลูกชาย และมีความตั้งใจที่บอกกับลูกสาวว่า ชีวิตนี้ไม่ต้องมีแฟน ไม่ต้องแต่งงานก็ได้ ป๊าเลี้ยงได้ เพราะป๊ามีเงิน

แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เบลยิ่งรู้สึกต้องการพื้นที่ส่วนตัวของเธอเพิ่มมากขึ้น และด้วยความที่ทามแสดงออกว่าน้อยใจที่ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อของเธอ ทำให้เบลตัดสินใจที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับทามเพื่อพิสูจน์ใจ

ความสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยนไป เบลเริ่มจับได้ว่าทามแอบไปมีผู้หญิงคนนั้นคนนี้ โดยให้เหตุผลว่าก็เมื่อทางบ้านของเบลไม่ยอมให้สถานะกับเขา เราสองคนก็ต้องคบกันไปแบบคนไม่มีสถานะ และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ทามต้องมีคนอื่น

แต่เพราะความเชื่อของเบลก็คือ ทามนี่แหละคือ Destiny เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีปัญหาหรืออุปสรรคอะไร ไม่ว่าจะเลิกกันไปกี่ครั้ง เบลก็จะวนกลับไปหาทามทุกครั้ง และเมื่อไหร่ก็ตามที่ทามใช้คำว่าอยากเจอ เบลก็จะต้องไปในทันที และมีความสัมพันธ์กับทามอย่างที่ทามต้องการเสมอ

จนเมื่อเบลเริ่มเจ็บปวดและเสียใจกับการยอมรับสถานะที่ไม่มีสถานะแบบนี้ต่อไปไม่ไหว จึงตั้งคำถามว่า “ตกลงแล้ว เราเป็นอะไรกัน” ทามก็จะบ่ายเบี่ยง และอ้างว่า ให้เบลไปหาวิธีทำให้พ่อของเบลยอมรับเขาให้ได้ก่อน

แต่ในที่สุดเบลก็รู้ความจริงว่า พ่อของเบลไม่ใช่ปัญหา การยอมรับว่าเราเป็นคนรักกันต่างหาก ที่ทำไมมันถึงยากเย็นขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอก็ยังตัดใจไปจากเขาไม่ได้ เบลยังคงยอมทำทุกอย่าง ทุ่มเททั้งตัวและหัวใจ แม้แต่ต้องทำสิ่งที่ผิดก็ยอม จนแม้แต่ไม่เหลืออะไรในชีวิต ลืมรักตัวเอง ลืมคนที่รักเบลมากอย่างป๊า แต่ทำเพื่อคนที่ไม่รักเบลเท่าไหร่อย่างทาม

มีคนเคยพูดเอาไว้ว่า “ถ้าเดินผ่านเรียกว่าบังเอิญ แต่ถ้าคว้าเอาไว้ได้เรียกว่าพรหมลิขิต” ทุกคนจึงต้องใช้ความพยายามทำให้ความบังเอิญนั้นกลายเป็นพรหมลิขิตให้ได้ แต่รักครั้งนี้จะเป็นกรรมหรือพรหมลิขิตกันแน่ ?

เขียนบทโดย : ทิชา
ควบคุมบทโทรทัศน์โดย : พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา
กำกับการแสดงโดย : ชู บุญธร กิติพัฒฑากรณ์
ผลิตโดย : CHANGE2561
อำนวยการผลิตโดย : พี่ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา, เอส วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย

นักแสดง
เจนิส เจณิสตา พรหมผดุงชีพ
แบงค์ อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์
มิว ลักษณ์นารา เปี้ยทา
ดุ๊ก ภาณุเดช วัฒนสุชาติ
ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ