ละคร เล่ห์มยุรา 2567 ละครแนวโรแมนติกดราม่าเข้มข้น เรื่องราวเริ่มต้นจากปมอดีตอันเลวร้ายที่หล่อหลอมให้ “อินทุอร หรือ อลิซ” มีจิตใจเต็มไปด้วยความแค้น เธอกลับมาเมืองไทยด้วยเป้าหมายทำลายชีวิตและความรักของ “อุรัจวสี หรือ อุ๊” การเดินทางกลับมาของอลิซสร้างรอยร้าวในความสัมพันธ์ระหว่างอุ๊และ “ราเมศร” คู่หมั้นของเธอ อลิซใช้ความฉลาดและเล่ห์เหลี่ยม โดยได้ “ทินกร” ทนายความหนุ่มที่แอบรักเธออย่างสุดหัวใจ ช่วยวางแผนเพื่อแย่งชิงราเมศร
อลิซใช้ปัญหาความเห็นต่างระหว่างอุ๊และราเมศร โดยเฉพาะเรื่องที่อุ๊ไม่ต้องการให้ราเมศรทิ้งอนาคตในฐานะสถาปนิกเพื่อไปเป็นนักวาดรูปอิสระ มาขยายให้กลายเป็นความขัดแย้งใหญ่โต เธอวางแผนร้ายจนราเมศรที่ไม่ทันเกมมารยาหญิงกลายเป็นหมากในแผนการของเธอ ส่วนอุ๊ แม้จะรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ แต่ด้วยนิสัยมั่นใจในตัวเองและอารมณ์ร้อน ทำให้เธอมักกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบในสายตาราเมศร การต่อสู้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมและชิงไหวชิงพริบระหว่างสองสาวจึงเข้มข้นและเต็มไปด้วยอารมณ์
นอกจากนี้ ยังมีตัวละครสมทบอย่าง “กรองแก้ว” และ “นิต้า” ที่เข้ามาเติมเต็มความซับซ้อนของเรื่องราว ความแค้น ความรัก และการหักเหลี่ยมเฉือนคมทำให้ละครเรื่องนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้นและดราม่า
ละครเรื่องนี้เน้นการเล่าเรื่องผ่านปมความแค้นในอดีตที่นำไปสู่การแก้แค้นและการต่อสู้เพื่อครอบครองความรัก เป็นละครที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเข้มข้นและดราม่าหักเหลี่ยมเฉือนคม ต่อไปนี้คือเหตุการณ์สำคัญของละคร
ปมความแค้นของอลิซ
อลิซมีปมในอดีตที่เชื่อมโยงกับอุ๊ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องการแก้แค้น ละครค่อยๆ เผยว่าเหตุการณ์ในอดีตอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์หรือความขัดแย้งในครอบครัว/มิตรภาพที่ทำให้อลิซรู้สึกถูกทรยศหรือสูญเสีย
แผนการของอลิซ
อลิซใช้ความขัดแย้งระหว่างอุ๊และราเมศรเป็นเครื่องมือ โดยเฉพาะประเด็นที่อุ๊ไม่เห็นด้วยกับความฝันของราเมศรที่อยากเป็นนักวาดรูปอิสระ แทนที่จะเป็นสถาปนิกตามที่ครอบครัวคาดหวัง อลิซฉวยโอกาสนี้สร้างความเข้าใจผิด ทำให้ราเมศรเริ่มหันมาสนใจเธอ
ความรักและการเสียสละของทินกร
ทินกรรักอลิซอย่างสุดหัวใจและยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยเธอ แม้ว่าจะรู้ว่าแผนการของเธออาจนำไปสู่ความเจ็บปวด เขากลายเป็นตัวละครที่เพิ่มความซับซ้อนทางอารมณ์ เนื่องจากต้องเลือกระหว่างความรักและศีลธรรม
การเผชิญหน้าของอุ๊และอลิซ
อุ๊ไม่ใช่ผู้หญิงที่ยอมแพ้ง่ายๆ เธอรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ แต่ด้วยนิสัยมั่นใจในตัวเองและอารมณ์ร้อน ทำให้เธอมักตกเป็นรองในสายตาราเมศร การต่อสู้ระหว่างสองสาวนี้เต็มไปด้วยดราม่าและการหักเหลี่ยมที่เข้มข้น
ตัวละครสมทบและปมเพิ่มเติม
กรองแก้ว (ภารดี วงษ์สว่าง) และ นิต้า (นิคิต้า กรรณเกตุ) มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราว โดยเฉพาะการเปิดเผยความลับหรือการกระทำที่อาจเปลี่ยนทิศทางของความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลัก
ละครเน้นการปะทะอารมณ์ระหว่างตัวละคร โดยเฉพาะการแสดงของ แอนน่า กลึคส์ ในบทอลิซที่ร้ายลึกและ ฮาน่า ลีวิส ในบทอุ๊ที่ทั้งแกร่งและเปราะบาง การแสดงของ กิตตน์ก้อง ขำกฤษ และ เมฆ-จุติ ช่วยเพิ่มมิติให้กับความขัดแย้งและความรักที่ซับซ้อน นี้คือจุดเด่นของละคร
เนื้อเรื่องเข้มข้น ชิงไหวชิงพริบ
ละครเน้นเรื่องราวการแก้แค้นและการต่อสู้ทางอารมณ์ อลิซ (แอนน่า) กลับมาเมืองไทยเพื่อทำลายชีวิตและความรักของอุ๊ (ฮาน่า) ด้วยปมแค้นในอดีตที่ยังไม่ถูกเปิดเผยเต็มที่ในช่วงต้นเรื่อง การวางแผนร้ายของอลิซ โดยมีทินกรช่วยเหลือ ทำให้เกิดการหักเหลี่ยมเฉือนคมที่ชวนติดตาม ละครใช้ความขัดแย้งระหว่างตัวละครหลัก เช่น ความเห็นต่างเรื่องอนาคตของราเมศร (อยากเป็นนักวาดรูปอิสระ แต่ถูกอุ๊คัดค้าน) เป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าวในความสัมพันธ์ ซึ่งเพิ่มความเข้มข้นให้กับละคร
การแสดงของนักแสดงนำ
• แอนน่า กลึคส์ ในบทอลิซ ถ่ายทอดความร้ายลึกและเจ้าเล่ห์ได้อย่างน่าประทับใจ กระแสในโซเชียลมีเดียชื่นชมว่าเธอเล่นบทตัวร้ายได้ถึงใจ โดยเฉพาะการแสดงสีหน้าและท่าทางที่สื่อถึงความแค้นและความมุ่งมั่น
• ฮาน่า ลีวิส รับบทอุ๊ เป็นนางเอกที่มีทั้งความแกร่งและเปราะบาง การแสดงของเธอในฉากดราม่าถูกพูดถึงว่าน่าจับตา โดยเฉพาะฉากเผชิญหน้ากับอลิซที่เต็มไปด้วยพลัง
• กิตตน์ก้อง ขำกฤษ (ราเมศร) และ จุติ จำเริญเกตุประทีป (ทินกร) เพิ่มมิติให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะบททินกรที่เป็นตัวละครที่มีความรักที่ซับซ้อนและการเสียสละ ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ ว่าทำให้คนดูอิน
• นักแสดงสมทบ เช่น ภารดี วงษ์สวัสดิ์ (กรองแก้ว) และ นิคิต้า กรรณเกตุ (เบญจพัตร) ช่วยเติมเต็มความเข้มข้นของเรื่อง โดยเฉพาะบทกรองแก้วที่คอยสนับสนุนลูกสาว (อลิซ) และสร้างความดราม่าในครอบครัว
กระแสในโซเชียลมีเดีย
จากข้อมูล เมฆ-จุติ (ทินกร) เผยว่าละครได้รับกระแสดีในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะการแสดงของแอนน่าในบทตัวร้ายที่ถูกพูดถึงอย่างมาก แฟนๆ ชื่นชอบความแซ่บของการปะทะระหว่างตัวละครหลัก และฉากดราม่าที่เข้มข้น นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงความสัมพันธ์นอกจอของแอนน่ากับ โบว์-เมลดา (ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับละครโดยตรง แต่แสดงถึงความอบอุ่นของทีมนักแสดง) ซึ่งช่วยเพิ่มความสนใจในตัวละครและนักแสดง
การเล่าเรื่องและโปรดักชัน
ละครมีจุดเด่นที่การเล่าเรื่องแบบดราม่าจัดเต็ม ตามสไตล์ช่อง 7HD ที่มักเน้นความเข้มข้นและความสนุกแบบครบรส การกำกับของ ชัชวาล ศาสวัตกลูน ได้รับการคาดหวังว่าจะถ่ายทอดบทประพันธ์ของชูวงศ์ ฉายะจินดาได้อย่างสมศักดิ์ศรี ฉากสำคัญ เช่น งานเลี้ยงขอแต่งงานที่ถูกอลิซวางแผนทำลาย ถูกพูดถึงว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ชวนให้คนดูอยากรู้ว่าความแค้นของอลิซจะนำไปสู่จุดจบอย่างไร
คะแนน 7.5/10 (จาก sence9.com)
เล่ห์มยุรา เป็นละครที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดราม่าเข้มข้นและการชิงไหวชิงพริบในสไตล์ละครไทยคลาสสิก ด้วยการแสดงที่แข็งแกร่งของแอนน่า กลึคส์ และฮาน่า ลีวิส รวมถึงเคมีของนักแสดงสมทบ ทำให้ละครมีจุดเด่นในฉากเชือดเฉือนอารมณ์ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่คาดหวังความแปลกใหม่หรือพล็อตที่ซับซ้อนกว่านี้อาจต้องรอติดตามว่าละครจะพัฒนาไปในทิศทางใดในตอนต่อๆ ไป
จุดแข็ง การแสดงของนักแสดงนำ, ความเข้มข้นของดราม่า, กระแสโซเชียลในช่วงเริ่มต้น
ความตื่นเต้นและลุ้นระทึกจากดราม่าเข้มข้น
ละครนำเสนอการต่อสู้ระหว่าง อลิซ และ อุ๊ ที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม โดยเฉพาะฉากที่อลิซวางแผนทำลายความรักของอุ๊และราเมศร เช่น การขัดขวางงานขอแต่งงาน ซึ่งน่าจะทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและลุ้นว่าอลิซจะทำอะไรต่อไป และอุ๊จะรับมืออย่างไร ผู้ชมอาจรู้สึกกดดันและตึงเครียดในฉากที่ตัวละครปะทะกัน ตามสไตล์ละครดราม่าช่อง 7 ที่มักมีจุดพีคในแต่ละตอน
การแสดงของ แอนน่า กลึคส์ ในบทตัวร้ายที่ร้ายลึกและมีมิติ ถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดียว่าเป็นจุดเด่น ทำให้ผู้ชมรู้สึก “แซ่บ” และอินกับความร้ายกาจของตัวละคร ผู้ชมที่ชอบละครแนวแก้แค้นน่าจะรู้สึกสะใจเมื่อเห็นอลิซออกกลอุบาย และอาจรู้สึกเห็นใจอุ๊เมื่อเธอต้องเผชิญสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
อารมณ์ร่วมกับความรักและความเสียสละ
ตัวละครอย่าง ทินกร (เมฆ-จุติ) ที่รักอลิซอย่างสุดหัวใจแต่ต้องช่วยเธอในแผนการร้าย อาจทำให้ผู้ชมรู้สึกซึ้งและเห็นใจกับความรักที่ไม่สมหวังของเขา ฉากที่ทินกรแสดงความเสียสละหรือความขัดแย้งในใจน่าจะเรียกน้ำตาจากผู้ชมที่อินกับดราม่าความรักได้. นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ของอุ๊และราเมศรที่ถูกทดสอบด้วยความเข้าใจผิดอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกทั้งหวานซึ้งในช่วงที่ทั้งคู่รักกัน และหงุดหงิดเมื่อเกิดรอยร้าว
ความสนุกจากเคมีนักแสดงและการปะทะฝีมือ
การปะทะกันระหว่างแอนน่าและฮาน่าในบทสองสาวที่มีบุคลิกต่างกันสุดขั้ว (อลิซเจ้าเล่ห์ vs อุ๊มั่นใจและอารมณ์ร้อน) น่าจะทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกและตื่นเต้นกับการแสดงที่ทรงพลัง ฉากที่ทั้งคู่เผชิญหน้ากันน่าจะเป็นไฮไลต์ที่ชวนให้ลุ้นและพูดถึงในโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ เคมีระหว่างนักแสดงอย่างเมฆ-จุติในบททินกรที่รักอลิซแบบหมดใจก็น่าจะทำให้ผู้ชมรู้สึกประทับใจ
ความรู้สึกคุ้นเคยและคาดเดาได้ในบางส่วน
ผู้ชมที่เคยดูละครแนวชูวงศ์ ฉายะจินดา หรือละครดราม่าแก้แค้นของช่อง 7 อาจรู้สึกว่าพล็อตมีความคุ้นเคย เช่น การแก้แค้นของตัวร้าย หญิงร้ายชิงรัก หรือความขัดแย้งในความรักที่เกิดจากความเข้าใจผิด อาจทำให้รู้สึกว่าเดาทางได้ในบางช่วง แต่ความเข้มข้นของการแสดงและปมดราม่าก็ยังชวนให้ติดตามต่อ
ละคร เล่ห์มยุรา 2567
ละคร เล่ห์มยุรา 2567 EP.1-34 ตอนจบCH7+
ซีน ละคร เล่ห์มยุรา 2567
ละคร เล่ห์มยุรา 2567
เรื่องราวของปมอดีตอันเลวร้าย… หล่อหลอมให้หัวใจของ อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) มีแต่ความแค้น และพร้อมทำทุกอย่างเพื่อทำลายชีวิตรวมถึงความรักของ อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) ลูกผู้พี่ที่เธอแสนเกลียดชัง และตอนนี้ก็ถึงเวลาเปิดเกมแก้แค้นแล้ว…
การเดินทางกลับมาเมืองไทยของอลิซแค่เพียงไม่กี่วันก็สร้างรอยร้าวให้กับชีวิตรักของ อุ๊ และ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) ไม่เว้นแม้แต่ฉากการขอแต่งงานที่ราเมศรตั้งใจก็พังไม่เป็นท่าด้วยแผนการของอลิซ ที่ได้เพื่อนสนิทอย่าง ทินกร (จุติ จำเริญเกตุประทีป) ทนายความหนุ่มที่แอบหลงรักอลิซอย่างหมดใจ คอยช่วยเหลือ
อลิซใช้ปัญหาเล็ก ๆ ที่อุ๊ไม่ต้องการให้ราเมศรทิ้งอนาคตสถาปนิกหนุ่มแล้วมาเป็นนักวาดรูปอิสระ มาขยี้ซ้ำให้กลายเป็นปัญหาใหญ่ จนราเมศรที่ตามไม่ทันมารยาหญิงตกเป็นหมากในเกมนี้ ผิดกับอุ๊ที่รู้ทันอลิซว่าคิดจะแย่งคนรักตัวเอง แต่ด้วยความมั่นและอารมณ์ร้อนทำให้ทุกครั้งที่เกิดปัญหา อุ๊จะกลายเป็นตัวปัญหาสำหรับราเมศร แม้แต่ กรองแก้ว (ภารดี วงษ์สวัสดิ์) แม่ของอุ๊ ก็ดูเหมือนจะเข้าข้างอลิซมากกว่า
อุ๊มีเพื่อนสนิทอย่าง กมลชนก (ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) คอยช่วยหาข่าวและหาจุดอ่อนของฝั่งอลิซ แต่อลิซก็ไม่น้อยหน้า เพราะเธอมีทั้งเพื่อนสนิทอย่าง เบญจพัตร (นิคิต้า กรรณเกตุ) คอยช่วยวางแผน รัฐกร (แอนด์ดรูว์ กรเศก) อาหนุ่มแสนดี หุ้นส่วนสำคัญที่ช่วยบริหารโรงแรมที่ร่วมกันสร้าง รวมถึง มลวิภา (เบญจสิริ วัฒนา) อาสะใภ้ผู้น่าสงสารแต่แสนดีกับอลิซเป็นที่สุด
แล้วเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนก็เกิดขึ้น เมื่ออลิซหลอกล่อจนอุ๊คิดไปไกลว่าโดนสวมเขา ด้วยความขาดสติของอุ๊ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง และคนที่ได้บาดเจ็บหนักที่สุดคือ อลิซ เธอต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไป ทางเดียวที่จะลบล้างความผิดครั้งนี้ได้คือ ราเมศรต้องเลิกกับอุ๊ เพื่อมารับผิดชอบแต่งงานกับอลิซแทน การแต่งงานของราเมศรกับอลิซไม่ได้สร้างความเจ็บปวดแค่อุ๊ แต่ทั้งราเมศรกับทินกรก็เจ็บปวดไม่แพ้กันที่ต้องเสียสละคนที่ตัวเองรักไป ทำให้บรรดาแม่ ๆ อย่าง รุ้งมาศ (นฤมล พงษ์สุภาพ) แม่ของราเมศร และ เสาวนีย์ (ศิริพิชญ์ วิมลโนช) แม่ของทินกร สงสารลูกจับใจ
รุ้งมาศเผลอหลุดปากบอกอุ๊เรื่องที่ราเมศรไม่เคยนอนกับอลิซเลยหลังแต่งงาน ทำให้อุ๊มั่นใจว่าราเมศรยังรักเธออยู่ ขณะเดียวกันเธอได้รู้ความจริงที่ว่า แม่ของอลิซใส่ร้ายแม่ของเธอว่าเป็นชู้กับพ่อของอลิซ ทำให้อุ๊เจ็บใจ และคิดว่าถึงเวลาที่เธอต้องเอาคืนให้สาสม
หลังแต่งงานอลิซไม่ได้มีความสุขเลย เพราะเธอได้แต่ตัว แต่ไม่เคยได้หัวใจของราเมศรแม้แต่น้อย แถมปัญหายังถาโถมไม่หยุด ตั้งแต่โรงแรมของอลิซประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่ประจักษ์ (สุเชาว์ พงศ์วิไล) ผู้เป็นปู่ กลับไม่ยื่นมือช่วยเหลือ อลิซกับรัฐกรจึงจำต้องขายหุ้นโรงแรมให้นักลงทุน และความโชคร้ายก็คือ ที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่เข้ามาดูแลและควบคุมโรงแรมแทนนักลงทุนก็คืออุ๊นั่นเอง
ปัญหาในชีวิตอลิซเริ่มบานปลาย เมื่ออุ๊มีหลักฐานว่าอลิซอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์วุ่นวายในงานเลี้ยงที่ราเมศรจะขอเธอแต่งงาน อุ๊แฉเรื่องทั้งหมดให้ราเมศรรู้ และขู่จะเอาคลิปกล้องวงจรปิดไปให้ตำรวจ แต่ทินกรกลับยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวเพื่อผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ อลิซซึ้งใจมาก แต่มันก็แค่นั้น เพราะคนที่เธอรักคือราเมศร ไม่ใช่ทินกร ความรักหลายเส้าของทั้งสี่จะจบลงอย่างไร และใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังปมความแค้นทั้งหมดนี้
ติดตามชมการเชือดเฉือนอารมณ์ด้วยเล่ห์ ไฟแค้น และกลลวง ในละคร เล่ห์มยุรา
บทประพันธ์โดย : ชูวงศ์ ฉายะจินดา
บทโทรทัศน์โดย : ตุณย์
กำกับการแสดงโดย : ชัชวาล ศาสวัตกลูน
ผลิตโดย : บริษัท สกาย เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด
ควบคุมการผลิตโดย : อี๊ฟ พุทธธิดา ศิระฉายา
นักแสดงใน เล่ห์มยุรา
→ กิตตน์ก้อง ขำกฤษ รับบท ราเมศร

ราเมศร เป็นตัวละครที่มีความฝันและความรักที่จริงใจ แต่ต้องเผชิญกับการถูกดึงเข้าไปในเกมแก้แค้นของ อลิซ และความขัดแย้งกับ อุ๊ คาแร็กเตอร์ของเขาเป็นส่วนผสมของความมุ่งมั่น ความซื่อตรง และความเปราะบาง ทำให้เป็นตัวละครที่น่าติดตามว่าสุดท้ายจะเลือกยืนหยัดเคียงข้างความรักหรือหลงทางในเล่ห์เหลี่ยมของตัวร้าย การแสดงของกิตตน์ก้องจะช่วยให้ราเมศรเป็นตัวละครที่มีมิติและสร้างอารมณ์ร่วมให้ผู้ชมได้ดี
พื้นฐานตัวละคร
ราเมศร เป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถและมีอนาคตในสายงานสถาปนิก แต่มีความฝันอยากเป็นนักวาดรูปอิสระ ซึ่งเป็นจุดที่สร้างความขัดแย้งในเรื่อง เขาเป็นคู่หมั้นของ อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) และกลายเป็นเป้าหมายในแผนการแก้แค้นของ อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) ราเมศรเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์ ถูกดึงเข้าสู่เกมชิงไหวชิงพริบระหว่างสองสาว โดยที่เขาเองอาจไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ
บุคลิกและลักษณะเด่น
มุ่งมั่นและมีความฝัน ราเมศรมี passion ในด้านศิลปะและอยากเป็นนักวาดรูป ซึ่งแสดงถึงความเป็นคนที่มีอุดมคติและต้องการทำตามหัวใจของตัวเอง แม้ว่าจะขัดแย้งกับความคาดหวังของคนรอบข้าง รวมถึงอุ๊ที่อยากให้เขาเป็นสถาปนิกต่อไป
เขามีความจริงใจในความรักต่ออุ๊ แต่ด้วยความที่ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ ทำให้เขากลายเป็นหมากในแผนการของเธอ ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและรอยร้าวในความสัมพันธ์ อ่อนไหวทางอารมณ์ ราเมศรจะเป็นตัวละครที่แสดงออกถึงความขัดแย้งภายใน เมื่อต้องเลือกระหว่างความรัก ความฝัน และแรงกดดันจากสถานการณ์รอบตัว
บทบาทในเรื่อง
ราเมศรเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงปมดราม่าระหว่าง อุ๊ และ อลิซ เขาเป็นเป้าหมายที่อลิซต้องการแย่งชิงเพื่อทำลายอุ๊ โดยใช้ความขัดแย้งเรื่องความฝันของเขาเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเข้าใจผิด ความสัมพันธ์ของเขากับอุ๊ถูกทดสอบผ่านเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ และการตัดสินใจของเขาจะมีผลต่อทิศทางของเรื่อง เช่น การเลือกยืนหยัดเคียงข้างอุ๊หรือหลงกลอลิซ
การแสดงของกิตตน์ก้อง ขำกฤษ
กิตตน์ก้อง เป็นนักแสดงที่ได้รับการยอมรับจากผลงานในละครช่อง 7 เช่น เพลิงปริศนา และ ขวางทางปืน ซึ่งเขาแสดงถึงความสามารถในการถ่ายทอดบทบาทที่ต้องเผชิญความกดดันและความรักที่ซับซ้อน ในบทราเมศร เขาจะนำเสนอตัวละครที่มีทั้งความอบอุ่นและความเปราะบางได้ดี โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแสดงความขัดแย้งภายในใจหรือฉากรักกับอุ๊
ราเมศรเป็นตัวละครที่ขับเคลื่อนความขัดแย้งหลักของเรื่อง เพราะเขาเป็นจุดศูนย์กลางที่ทั้งอุ๊และอลิซต้องการครอบครอง การตัดสินใจของเขาจะมีผลต่อความสัมพันธ์และการแก้แค้นของตัวละครอื่น เขายังเป็นตัวแทนของ “ผู้ชายที่ต้องเลือก” ซึ่งเป็นบทบาทยอดนิยมในละครดราม่าไทย ทำให้ผู้ชมจะรู้สึกทั้งเห็นใจและหงุดหงิดกับการตัดสินใจของเขาในบางช่วงของเรื่อง
→ ฮาน่า ลีวิส รับบท อุรัจวสี (อุ๊)

อุรัจวสี หรือ อุ๊ (รับบทโดย ฮาน่า ลีวิส) เป็นนางเอกที่มีความมั่นใจ แข็งแกร่ง แต่มีจุดอ่อนจากอารมณ์ร้อนและความประมาท เธอต้องต่อสู้เพื่อปกป้องความรักกับราเมศรจากเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ พร้อมเผชิญปมแค้นในอดีต คาแร็กเตอร์ของอุ๊ผสมผสานความเข้มแข็งและความเปราะบาง ทำให้เป็นตัวละครที่น่าติดตาม การแสดงของฮาน่า ลีวิสจะถ่ายทอดทั้งพลังและอารมณ์ได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในฉากดราม่าและการปะทะกับตัวร้าย
พื้นฐานตัวละคร
อุรัจวสี หรือ อุ๊ เป็นนางเอกของเรื่อง คู่หมั้นของ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) ซึ่งเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งในละคร เธอต้องเผชิญกับการแก้แค้นของ อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) ที่พยายามทำลายชีวิตและความรักของเธอ อุ๊มีปมในอดีตที่เชื่อมโยงกับอลิซ ซึ่งเป็นสาเหตุของความแค้นที่ทำให้อลิซกลับมาแก้แค้น แม้ว่ารายละเอียดของปมนี้จะยังไม่ถูกเปิดเผยเต็มที่ในช่วงแรกของละคร
บุคลิกและลักษณะเด่น
มั่นใจและแข็งแกร่ง อุ๊เป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเอง มีความกล้าและพร้อมเผชิญหน้ากับความท้าทาย เธอรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ แต่บางครั้งความมั่นใจนี้อาจทำให้เธอประมาทหรือเสียเปรียบในสายตาคนรอบข้าง โดยเฉพาะราเมศร อุ๊มีนิสัยหุนหันพลันแล่นและอารมณ์ร้อน ซึ่งอาจทำให้เธอตัดสินใจผิดพลาดหรือตกหลุมพรางของอลิซได้ง่ายขึ้น คุณลักษณะนี้ทำให้ตัวละครของเธอมีทั้งความแข็งแกร่งและความเปราะบาง
อุ๊รักราเมศรอย่างจริงใจและพยายามปกป้องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เธอไม่ยอมให้อลิซแย่งราเมศรไปง่ายๆ ซึ่งนำไปสู่การปะทะฝีปากและการต่อสู้ทางอารมณ์ที่เข้มข้น อุ๊คัดค้านความฝันของราเมศรที่อยากเป็นนักวาดรูปอิสระ เพราะต้องการให้เขายึดมั่นในอาชีพสถาปนิก ซึ่งแสดงถึงความเป็นคนที่ยึดมั่นในความมั่นคง แต่ก็อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในความสัมพันธ์
บทบาทในเรื่อง
อุ๊เป็นตัวละครที่ต้องต่อสู้เพื่อรักษาความรักและปกป้องตัวเองจากแผนการร้ายของอลิซ เธอเป็นเป้าหมายหลักของการแก้แค้น ซึ่งทำให้เธอต้องเผชิญทั้งความกดดันทางอารมณ์และสถานการณ์ที่ท้าทาย การปะทะกับอลิซเป็นจุดเด่นของตัวละคร โดยเฉพาะฉากที่ทั้งคู่ต้องใช้ไหวพริบและอารมณ์ในการต่อสู้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นไฮไลต์ที่ชวนผู้ชมลุ้น
อุ๊ยังมีบทบาทในการคลายปมความแค้นในอดีต ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์หรือเหตุการณ์ที่ทำให้อลิซเกลียดชังเธอ การพัฒนาการของเธอน่าจะรวมถึงการเรียนรู้จากความผิดพลาดและการเติบโตทางอารมณ์
การแสดงของฮาน่า ลีวิส
ฮาน่า ลีวิส เป็นนักแสดงที่ได้รับการยอมรับจากผลงานในละครช่อง 7 เช่น มังกรเจ้าพระยา และ กุหลาบตัดเพชร เธอมีความสามารถในการถ่ายทอดบทนางเอกที่ทั้งแกร่งและเปราะบาง ซึ่งเหมาะกับคาแร็กเตอร์ของอุ๊
ในบทยุ๊ เธอจะนำเสนอทั้งความเข้มแข็งในฉากปะทะกับอลิซ และความอ่อนไหวในฉากดราม่ากับราเมศร การแสดงของเธอถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดียว่าเป็นจุดเด่น โดยเฉพาะเคมีกับ แอนน่า กลึคส์ ในฉากต่อสู้ทางอารมณ์ กระแสในโซเชียลมีเดียชื่นชมว่าเธอสามารถถ่ายทอดความ “แซ่บ” และความเข้มข้นของนางเอกที่ไม่ยอมแพ้ได้ดี ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและลุ้นไปกับตัวละคร
อุ๊เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวในฐานะนางเอกที่ต้องต่อสู้กับตัวร้ายอย่างอลิซ ความแข็งแกร่งและจุดอ่อนของเธอเป็นตัวขับเคลื่อนดราม่า โดยเฉพาะการปะทะกับอลิซที่ชวนให้ผู้ชมลุ้นว่าเธอจะปกป้องความรักได้หรือไม่ ตัวละครของเธอยังเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดเผยปมในอดีตที่เชื่อมโยงกับความแค้นของอลิซ ซึ่งอาจนำไปสู่จุดพลิกผันในเรื่อง การต่อสู้เพื่อรักษาความรักและศักดิ์ศรีของอุ๊ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ผู้ชมอาจรู้สึกทั้งเห็นใจและชื่นชม โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก
→ แอนน่า กลึคส์ รับบท อินทุอร (อลิซ)

อินทุอร หรือ อลิซ (รับบทโดย แอนน่า กลึคส์) เป็นตัวละครที่ฉลาด เจ้าเล่ห์ และเต็มไปด้วยความแค้น เธอใช้เสน่ห์และไหวพริบในการวางแผนทำลายชีวิตของอุ๊ โดยมีเป้าหมายแย่งชิงราเมศร คาแร็กเตอร์ของเธอผสมผสานความร้ายกาจและความเปราะบางจากปมในอดีต ทำให้เป็นตัวละครที่น่าติดตามและสร้างสีสันให้กับละคร การแสดงของแอนน่า กลึคส์ได้รับการชื่นชมว่าถ่ายทอดความ “แซ่บ” และความเข้มข้นของตัวร้ายได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในฉากปะทะกับอุ๊
พื้นฐานตัวละคร
อินทุอร หรือ อลิซ เป็นหญิงสาวที่กลับมาเมืองไทยด้วยเป้าหมายเพื่อแก้แค้น อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) โดยมุ่งทำลายชีวิตและความรักของอุ๊กับ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) คู่หมั้นของเธอ อลิซมีปมในอดีตที่เป็นแรงผลักดันให้เกิดความแค้น ซึ่งยังไม่ถูกเปิดเผยเต็มที่ในช่วงแรกของละคร แต่คาดว่าเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์หรือเหตุการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกถูกทรยศหรือสูญเสีย
บุคลิกและลักษณะเด่น
ฉลาดและเจ้าเล่ห์ อลิซเป็นตัวละครที่มีความเฉลียวฉลาดและวางแผนเก่ง เธอใช้เล่ห์เหลี่ยมและไหวพริบในการสร้าง สถานการณ์เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ โดยเฉพาะการแย่งชิงราเมศรจากอุ๊ เยือกเย็นแต่เต็มไปด้วยความแค้น อลิซมีบุคลิกที่สงบและควบคุมตัวเองได้ดีในหน้าฉาก แต่ภายในเต็มไปด้วยความโกรธและความปรารถนาที่จะแก้แค้น ซึ่งทำให้เธอเป็นตัวร้ายที่น่ากลัวและมีมิติ
มีเสน่ห์และยั่วยวน อลิซใช้เสน่ห์ของตัวเองเป็นอาวุธในการดึงดูดราเมศรและสร้างความสับสนในความสัมพันธ์ของเขากับอุ๊ ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ทั้งน่าหลงใหลและอันตราย แม้ว่าจะดูแข็งแกร่งและร้ายลึก แต่ปมในอดีตของอลิซจะเผยให้เห็นด้านที่เปราะบางหรือเหตุผลที่สมเหตุสมผลสำหรับความแค้น ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจในบางมุม
บทบาทในเรื่อง
อลิซเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของความขัดแย้งในละคร เธอวางแผนทำลายความสัมพันธ์ของอุ๊และราเมศร โดยใช้ความขัดแย้งเรื่องความฝันของราเมศร (อยากเป็นนักวาดรูปอิสระ แต่ถูกอุ๊คัดค้าน) เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างรอยร้าว เธอได้รับความช่วยเหลือจาก ทินกร (จุติ จำเริญเกตุประทีป) ทนายหนุ่มที่รักเธออย่างสุดหัวใจ ซึ่งทำให้แผนการของเธอยิ่งซับซ้อนและมีพลัง
การปะทะกับอุ๊เป็นไฮไลต์ของตัวละคร โดยเฉพาะฉากที่ทั้งคู่ใช้ไหวพริบและอารมณ์ในการต่อสู้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดที่ชวนให้ผู้ชมลุ้นและตื่นเต้น
การแสดงของแอนน่า กลึคส์
แอนน่า กลึคส์ เป็นนักแสดงที่ได้รับการยอมรับจากผลงานในละครช่อง 7 เช่น เกมรักทรยศ และ รอยรักรอยบาป เธอมีความสามารถในการถ่ายทอดบทตัวละครที่มีความซับซ้อนและอารมณ์เข้มข้น ซึ่งเหมาะกับบทอลิซ
ในบทยุ๊ กระแสในโซเชียลมีเดียชื่นชมว่าแอนน่าสามารถถ่ายทอดความร้ายลึกและเสน่ห์ของอลิซได้อย่าง “ถึงใจ” โดยเฉพาะในฉากที่ต้องปะทะกับ ฮาน่า ลีวิส (อุ๊) ซึ่งเป็นจุดเด่นของละคร การแสดงของเธอเน้นสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียงที่แสดงถึงความเจ้าเล่ห์และความแค้น ทำให้ผู้ชมรู้สึกทั้งชื่นชมและ “หมั่นไส้” ตัวละครนี้ในเวลาเดียวกัน
อลิซเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเรื่องราว ด้วยเป้าหมายการแก้แค้นที่ทำให้เกิดความขัดแย้งทั้งในด้านความรักและดราม่า การกระทำของเธอเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์ของอุ๊และราเมศร ความสัมพันธ์ของเธอกับทินกรเพิ่มมิติให้ตัวละคร เพราะความรักที่ทินกรมีต่อเธออาจทำให้เกิดความขัดแย้งภายในของอลิซในภายหลัง ตัวละครของเธอเป็นตัวแทนของ “ตัวร้ายที่มีมิติ” ซึ่งทำให้ผู้ชมทั้งเกลียดและอยากรู้ว่าเรื่องราวของเธอจะจบลงอย่างไร
→ จุติ จำเริญเกตุประทีป รับบท ทินกร

ทินกร (รับบทโดย จุติ จำเริญเกตุประทีป) เป็นตัวละครที่มีความภักดี ฉลาด และเต็มไปด้วยความรักที่ไม่สมหวังต่ออลิซ เขามีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ช่วยในแผนการแก้แค้น แต่ความขัดแย้งภายในและความรักที่ทุ่มเททำให้เขาเป็นตัวละครที่มีมิติและน่าสนใจ คาแร็กเตอร์ของเขาผสมผสานความเข้มแข็งในฐานะทนายความและความเปราะบางจากความรัก การแสดงของจุติคาดว่าจะถ่ายทอดความรู้สึกที่ซับซ้อนของทินกรได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในฉากดราม่าที่เกี่ยวข้องกับอลิซ
พื้นฐานตัวละคร
ทินกร เป็นทนายความหนุ่มที่มีความสามารถและทุ่มเท เขาเป็นผู้ช่วยสำคัญของ อลิซ ในแผนการแก้แค้น อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) เพื่อทำลายความรักของอุ๊และ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) สิ่งที่ทำให้ทินกรโดดเด่นคือความรักอันสุดหัวใจที่มีต่ออลิซ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เขายอมทำตามแผนการของเธอ แม้ว่าอาจขัดต่อศีลธรรมหรือนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เจ็บปวด
บุคลิกและลักษณะเด่น
ซื่อสัตย์และทุ่มเท ทินกรเป็นคนที่มีความภักดีและยอมเสียสละเพื่อคนที่เขารัก โดยเฉพาะอลิซ เขายอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยเธอ แม้จะรู้ว่าแผนการของอลิซอาจไม่ถูกต้อง ในฐานะทนายความ ทินกรมีความเฉลียวฉลาดและมีบทบาทสำคัญในการวางแผนให้อลิซ เขาเป็นคนที่คิดอย่างรอบคอบ แต่บางครั้งความรักอาจทำให้เขาตัดสินใจด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล
มีความขัดแย้งภายใน ทินกรต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างความรักที่เขามีต่ออลิซและความรู้สึกผิดที่อาจเกิดจากการช่วยเหลือในแผนการร้าย ซึ่งทำให้ตัวละครของเขามีมิติและน่าสนใจ อ่อนไหวและเปราะบาง ความรักที่ไม่สมหวังของทินกรทำให้เขาเป็นตัวละครที่อาจเรียกความเห็นใจจากผู้ชม โดยเฉพาะในฉากที่ต้องเผชิญกับความจริงว่าอลิซอาจไม่ได้รักเขาตอบในแบบที่เขาต้องการ
บทบาทในเรื่อง
ทินกรเป็นตัวละครที่สนับสนุนแผนการแก้แค้นของอลิซ โดยใช้ความรู้และทักษะในฐานะทนายความเพื่อช่วยให้แผนของเธอสำเร็จ เช่น การหาข้อมูลหรือจัดการสถานการณ์ที่เอื้อต่อเป้าหมายของอลิซ เขายังเป็นตัวละครที่เพิ่มความซับซ้อนทางอารมณ์ให้กับเรื่องราว เพราะความรักที่เขามีต่ออลิซทำให้เกิดคำถามว่าเขาจะเลือกยึดมั่นในความรักหรือหันไปยึดหลักศีลธรรม
การแสดงของจุติ จำเริญเกตุประทีป
จุติ จำเริญเกตุประทีป เป็นนักแสดงที่ได้รับการยอมรับจากผลงานในละครช่อง 7 เช่น เพลิงปริศนา และ ขวางทางปืน เขามีความสามารถในการถ่ายทอดบทบาทที่ต้องแสดงอารมณ์ซับซ้อนและความขัดแย้งภายใน ซึ่งเหมาะกับบททินกร
ในบททินกร กระแสในโซเชียลมีเดีย (เช่น การสัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวของละคร) ชื่นชมว่าเขาสามารถถ่ายทอดความรักที่ทุ่มเทและความเจ็บปวดของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแสดงความเสียสละหรือความขัดแย้งในใจ การแสดงของเขาจะสร้างเคมีที่ดีกับ แอนน่า กลึคส์ (อลิซ) โดยเฉพาะในฉากที่แสดงถึงความรักที่ไม่สมหวัง ซึ่งอาจเป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินและเห็นใจ
ทินกรเป็นตัวละครที่เพิ่มมิติให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในด้านอารมณ์และความขัดแย้งภายใน ความรักของเขาต่ออลิซทำให้เขาเป็นมากกว่าผู้ช่วยในแผนการแก้แค้น แต่เป็นตัวละครที่มีเรื่องราวส่วนตัวที่น่าสนใจ เขายังเป็นตัวเชื่อมระหว่างตัวละครหลักอื่นๆ โดยเฉพาะอลิซและอุ๊ การตัดสินใจของเขาจะมีผลต่อทิศทางของแผนการแก้แค้นและความสัมพันธ์ในเรื่อง ตัวละครของทินกรเป็นตัวแทนของ “ความรักที่เสียสละ” ซึ่งเป็นบทบาทยอดนิยมในละครดราม่าไทย ทำให้ผู้ชมอาจรู้สึกทั้งชื่นชมและเห็นใจเขา
→ ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ รับบท กมลชนก

กมลชนก หรือ ก้อย (รับบทโดย ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นเพื่อนสนิทของนางเอกอุ๊ คอยช่วยเหลือในการต่อสู้กับแผนการแก้แค้นของอลิซ เธอมีบุคลิกที่ภักดี ฉลาด และอาจมีพลังที่เพิ่มสีสันให้กับเรื่อง การแสดงของคะน้าคาดว่าจะถ่ายทอดความสดใสและความทุ่มเทของกมลชนกได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ตัวละครนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวและสร้างความสมดุลในเกมชิงไหวชิงพริบของละคร
พื้นฐานตัวละคร
กมลชนก หรือ ก้อย เป็นเพื่อนสนิทของ อุ๊ ซึ่งมีบทบาทในการช่วยเหลือและสนับสนุนนางเอกในการต่อสู้กับแผนการแก้แค้นของ อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) ที่พยายามทำลายความรักของอุ๊กับ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) เธอเป็นตัวละครที่อยู่ในฝั่งของนางเอก คอยช่วยหาข้อมูลและจุดอ่อนของฝั่งอลิซ เพื่อให้อุ๊สามารถรับมือกับเล่ห์เหลี่ยมของศัตรูได้
บุคลิกและลักษณะเด่น
ภักดีและไว้วางใจได้ กมลชนกเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และทุ่มเทให้กับอุ๊ เธอพร้อมยืนเคียงข้างและช่วยเหลือในทุกสถานการณ์ ทำให้เป็นตัวละครที่ผู้ชมอาจรู้สึกชื่นชอบในความเป็นเพื่อนแท้ ในฐานะผู้ช่วยของอุ๊ กมลชนกมีบทบาทในการสืบหาข้อมูลหรือวิเคราะห์สถานการณ์ ซึ่งแสดงถึงความเฉลียวฉลาดและการมีส่วนร่วมในเกมชิงไหวชิงพริบของเรื่อง
มีชีวิตชีวาและเพิ่มสีสัน จากประวัติการแสดงของริญญารัตน์ที่มักรับบทตัวละครที่มีความแซ่บหรือมีมิติ (เช่น บทตัวร้ายหรือตัวละครที่เหวี่ยงในละครอื่นๆ) กมลชนกอาจมีบุคลิกที่ร่าเริงหรือมีพลัง ซึ่งช่วยเพิ่มความสนุกให้กับฉากที่เธอปรากฏ
บทบาทในเรื่อง
กมลชนกเป็นตัวละครที่สนับสนุนอุ๊ในการต่อสู้กับอลิซ โดยเฉพาะในด้านการหาข้อมูลหรือจุดอ่อนของฝั่งตรงข้าม เธอเปรียบเสมือน “กองหนุน” ที่ช่วยให้อุ๊สามารถรับมือกับแผนการร้ายได้ เธออาจมีฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวละครฝั่งอลิซ เช่น เบญจพัตร (นิคิต้า กรรณเกตุ) เพื่อนสนิทของอลิซ ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะฝีปากหรือการแข่งขันที่ชวนลุ้น
ในฐานะตัวละครสมทบ กมลชนกอาจมีเรื่องราวส่วนตัวหรือปมเล็กๆ ที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวละคร เช่น ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นหรือบทบาทในเหตุการณ์สำคัญของเรื่อง
การแสดงของริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ (คะน้า)
ริญญารัตน์ หรือ คะน้า เป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงตั้งแต่ปี 2558 โดยเริ่มจากงานนางแบบและการประกวด (เช่น Jaymart Miss Mobile 2014) ก่อนผันตัวมาเป็นนักแสดงของช่อง 7HD เธอมีผลงานเด่น เช่น มัสยา (บทพิณทิพย์), นางร้าย (บทปรางทิพย์), หลงกลิ่นจันทน์ (บทสิรินญา), และ เล่ห์รักบุษบา (บทแพร) ซึ่งมักรับบทตัวร้ายหรือตัวละครที่มีมิติ
ในบท กมลชนก คะน้าจะเปลี่ยนจากบทตัวร้ายที่ถนัดมาเป็นตัวละครฝั่งนางเอก ซึ่งจะแสดงให้เห็นความสามารถในการถ่ายทอดบทบาทที่สดใสและภักดี การแสดงของเธอคาดว่าจะเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับตัวละคร โดยอาจมีทั้งฉากดราม่าและฉากที่เพิ่มสีสันให้กับเรื่อง กระแสในโซเชียลมีเดีย เช่น การพูดถึงผลงานของคะน้าในละครอื่นๆ แสดงว่าเธอได้รับการยอมรับในความสามารถด้านการแสดง โดยเฉพาะบทบาทที่ต้องใช้พลังและอารมณ์ ซึ่งอาจสะท้อนในบทกมลชนกด้วย
กมลชนกเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับฝั่งของอุ๊ ทำให้การต่อสู้กับอลิซสมดุลมากขึ้น เธอเปรียบเสมือน “เพื่อนคู่ใจ” ที่คอยสนับสนุนทั้งในด้านข้อมูลและกำลังใจ การมีตัวละครอย่างกมลชนกช่วยเพิ่มความหลากหลายในเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวละครฝั่งตรงข้าม เช่น เบญจพัตร ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะที่สนุกสนาน ตัวละครของเธอยังอาจมีบทบาทในการเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปมในอดีตของอุ๊และอลิซ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางของเรื่อง
→ นิคิต้า กรรณเกตุ รับบท เบญจพัตร

เบญจพัตร หรือ นิต้า (รับบทโดย นิคิต้า กรรณเกตุ) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นเพื่อนสนิทของตัวร้ายอย่างอลิซ คอยช่วยเหลือในแผนการแก้แค้นและเพิ่มสีสันให้กับเรื่องด้วยบุคลิกที่ภักดีและอาจมีความแซ่บ เธอมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนดราม่าและการปะทะกับฝั่งนางเอก การแสดงของนิคิต้าคาดว่าจะถ่ายทอดความมีชีวิตชีวาและความเจ้าเล่ห์ของเบญจพัตรได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ตัวละครนี้เป็นส่วนที่ช่วยเติมเต็มความเข้มข้นของ เล่ห์มยุรา
พื้นฐานตัวละคร
เบญจพัตร หรือ นิต้า เป็นเพื่อนสนิทของ อลิซ ตัวร้ายหลักของเรื่อง ซึ่งมีเป้าหมายแก้แค้น อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) โดยทำลายความรักของอุ๊กับ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) ในฐานะตัวละครฝั่งอลิซ เบญจพัตรมีบทบาทช่วยเหลือและสนับสนุนแผนการของอลิซ โดยอาจมีส่วนร่วมในเล่ห์เหลี่ยมหรือการหาข้อมูลเพื่อใช้ต่อสู้กับฝั่งนางเอก
บุคลิกและลักษณะเด่น
ภักดีต่ออลิซ เบญจพัตรเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์และยอมทำตามคำสั่งหรือแผนการของอลิซ เธออาจมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับอลิซในด้านความเจ้าเล่ห์หรือความมุ่งมั่น ทำให้เป็นตัวละครที่เสริมความแข็งแกร่งให้ฝั่งตัวร้าย มีสีสันและอาจมีความแซ่บ จากผลงานที่ผ่านมาของนิคิต้า ซึ่งมักรับบทตัวละครที่มีพลังหรือมีบุคลิกเด่นชัด เบญจพัตรจะมีลักษณะที่ร่าเริง หรือมีท่าทีที่ท้าทายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับฝั่งนางเอก เช่น กมลชนก (ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) เพื่อนของอุ๊
ในฐานะผู้ช่วยของอลิซ เบญจพัตรจะมีความสามารถในการช่วยวางแผนหรือหาทางจัดการกับอุปสรรค ซึ่งอาจทำให้เธอมีบทบาทในฉากชิงไหวชิงพริบที่เข้มข้น แม้ว่าเบญจพัตรจะอยู่ในฝั่งตัวร้าย แต่ตัวละครสมทบในละครช่อง 7 มักมีมิติ เช่น การตั้งคำถามถึงการกระทำของตัวเอง หรือการมีปมส่วนตัวที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจในภายหลัง
บทบาทในเรื่อง
เบญจพัตรเป็นตัวละครที่สนับสนุนแผนการแก้แค้นของอลิซ โดยช่วยในการสืบข้อมูล การสร้างสถานการณ์ หรือการเผชิญหน้ากับตัวละครฝั่งนางเอก เธอเปรียบเสมือน “กองหนุน” ที่ทำให้ฝั่งของอลิซมีพลังมากขึ้น เธอจะมีฉากปะทะกับ กมลชนก (เพื่อนของอุ๊) ซึ่งอาจเป็นฉากที่เพิ่มความสนุกและความตึงเครียดให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะการแข่งขันทางวาจาหรือการหักเหลี่ยม
เบญจพัตรมีส่วนในเหตุการณ์สำคัญ เช่น การช่วยอลิซขัดขวางความสัมพันธ์ของอุ๊และราเมศร หรือการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปมในอดีตของตัวละครหลัก
การแสดงของนิคิต้า กรรณเกตุ
นิคิต้า กรรณเกตุ เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เริ่มมีผลงานในวงการละครช่อง 7HD เช่น มนต์รักหนองผักกะแยง และ เล่ห์รักบุษบา เธอมักรับบทตัวละครที่มีบุคลิกเด่นชัดและมีพลัง ซึ่งเหมาะกับบทเบญจพัตรที่ต้องแสดงถึงความแซ่บและความมุ่งมั่นในฝั่งตัวร้าย
ในบท เบญจพัตร นิคิต้าจะถ่ายทอดความเป็นเพื่อนที่ภักดีและมีความเจ้าเล่ห์ได้อย่างน่าจับตา การแสดงของเธอจะเพิ่มสีสันให้กับฉากที่ต้องปะทะกับตัวละครฝั่งนางเอก โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแสดงอารมณ์หรือท่าทีท้าทาย กระแสในโซเชียลมีเดียแสดงถึงความสนใจในตัวนักแสดงสมทบอย่างนิคิต้า ซึ่งอาจช่วยให้ตัวละครเบญจพัตรได้รับความสนใจจากผู้ชม
เบญจพัตรเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับฝั่งของอลิซ ทำให้การต่อสู้กับอุ๊มีความสมดุลและเข้มข้นมากขึ้น เธอเปรียบเสมือน “เพื่อนคู่ใจ” ของตัวร้ายที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับเกมชิงไหวชิงพริบ การมีตัวละครอย่างเบญจพัตรช่วยสร้างความหลากหลายในเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวละครฝั่งนางเอก เช่น กมลชนก ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะที่สนุกและน่าติดตาม
เธอยังอาจมีส่วนในปมสำคัญของเรื่อง เช่น การช่วยเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความแค้นของอลิซ หรือการมีบทบาทในเหตุการณ์ที่เปลี่ยนทิศทางของพล็อต
→ แอนด์ดรูว์ กรเศก รับบท รัฐกร

รัฐกร (รับบทโดย แอนด์ดรูว์ กรเศก) เป็นตัวละครสมทบที่จะมีบทบาทในการสนับสนุนหรือเชื่อมโยงตัวละครหลักใน เล่ห์มยุรา ด้วยบุคลิกที่มีความจริงจัง มีพลัง หรือมีสีสัน เขาจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับเรื่องราว การแสดงของแอนด์ดรูว์จะถ่ายทอดตัวละครนี้ให้มีมิติและน่าจดจำ โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งหรือการขับเคลื่อนพล็อต
พื้นฐานตัวละคร
รัฐกร เป็นตัวละครสมทบใน เล่ห์มยุรา ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับการแก้แค้นของ อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) ที่พยายามทำลายความรักของ อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) กับ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) โดยมี ทินกร (จุติ จำเริญเกตุประทีป) เป็นผู้ช่วยของอลิซ
จากบริบทของละคร รัฐกรจะเป็นตัวละครที่เกี่ยวข้องกับวงโคจรของตัวละครหลัก เช่น เป็นเพื่อน ญาติ หรือคนที่มีส่วนในเหตุการณ์สำคัญของเรื่อง อาจอยู่ในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง (ฝั่งนางเอกหรือตัวร้าย) หรือเป็นตัวละครที่เป็นกลางและมีบทบาทในการขับเคลื่อนพล็อต
บุคลิกและลักษณะเด่น
มีบทบาทสนับสนุน รัฐกรเป็นตัวละครที่ช่วยเหลือตัวละครหลัก เช่น เป็นเพื่อนหรือผู้ให้คำปรึกษาของราเมศร หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับฝั่งของอุ๊หรืออลิซในบางสถานการณ์ จากการที่แอนด์ดรูว์มักรับบทตัวละครที่มีพลังและมีมิติในผลงานก่อนหน้า รัฐกรจะมีบุคลิกที่เด่นชัด เช่น เป็นคนตรงไปตรงมา มีอารมณ์ขัน หรือมีท่าทีที่ท้าทาย
ตัวละครสมทบในละครช่อง 7 มักมีปมเล็กๆ หรือเรื่องราวส่วนตัวที่เชื่อมโยงกับตัวละครหลัก รัฐกรมีบทบาทที่เกี่ยวข้องกับปมในอดีตของอุ๊หรืออลิซ หรืออาจมีส่วนในความขัดแย้งที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนขึ้น จากสไตล์การแสดงของแอนด์ดรูว์ รัฐกรเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่อง เช่น มีบทพูดที่เฉียบคม หรือมีปฏิสัมพันธ์ที่สร้างความบันเทิงในฉากที่ปรากฏ
บทบาทในเรื่อง
รัฐกรจะมีส่วนในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก เช่น อาจเป็นเพื่อนของราเมศรที่ให้คำแนะนำเรื่องความรัก หรือเป็นคนที่รู้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปมในอดีตของอลิซและอุ๊ เขามีฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวละครสมทบอื่นๆ เช่น กมลชนก (ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ) หรือ เบญจพัตร (นิคิต้า กรรณเกตุ) ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะหรือการช่วยเหลือที่ขับเคลื่อนเรื่องราว
ในฐานะตัวละครสมทบ รัฐกรมีบทบาทในการช่วยคลายปมหรือสร้างความขัดแย้งในบางช่วงของเรื่อง เช่น การเปิดเผยความจริงบางอย่างหรือการมีส่วนในเหตุการณ์ที่เปลี่ยนทิศทางของพล็อต
การแสดงของแอนด์ดรูว์ กรเศก
แอนด์ดรูว์ กรเศก เป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์ในละครช่อง 7HD เช่น มังกรเจ้าพระยา, เพลิงปริศนา, และ หลงกลิ่นจันทน์ เขามักรับบทตัวละครที่มีพลังและมีบทบาทเด่นในฐานะตัวละครสมทบ เช่น ตัวละครที่มีความมุ่งมั่นหรือมีบุคลิกที่สร้างความประทับใจ
ในบท รัฐกร แอนด์ดรูว์จะถ่ายทอดตัวละครที่มีทั้งความจริงจังและความมีชีวิตชีวา การแสดงของเขาจะช่วยให้รัฐกรเป็นตัวละครที่น่าจดจำ โดยเฉพาะในฉากที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครหลักหรือสมทบอื่นๆ กระแสในโซเชียลมีเดีย แสดงถึงความสนใจในทีมนักแสดงของ เล่ห์มยุรา ซึ่งรวมถึงแอนด์ดรูว์ที่อาจได้รับการพูดถึงในบทบาทที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่อง
รัฐกรจะเป็นตัวละครที่ช่วยเชื่อมโยงหรือขยายความขัดแย้งในเรื่อง เช่น การให้ข้อมูลสำคัญ การเป็นตัวกลางในความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก หรือการมีส่วนในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับปมแค้นของอลิซ เขาช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่นๆ ซึ่งอาจสร้างทั้งความตึงเครียดและความสนุก
→ ศิริพิชญ์ วิมลโนช รับบท เสาวนีย์

เสาวนีย์ (รับบทโดย ศิริพิชญ์ วิมลโนช) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นแม่ของทินกร คอยแสดงความห่วงใยและสนับสนุนลูกชายในช่วงที่เขาต้องเผชิญกับความรักที่ไม่สมหวังและการมีส่วนในแผนการแก้แค้นของอลิซ เธอมีส่วนสำคัญในปมอดีตที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของตัวละครหลัก ซึ่งช่วยขับเคลื่อนดราม่า การแสดงของศิริพิชญ์จะถ่ายทอดความอบอุ่นและความเข้มแข็งของตัวละครนี้ได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้เสาวนีย์เป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มความลึกซึ้งให้กับ เล่ห์มยุรา
พื้นฐานตัวละคร
เสาวนีย์ เป็นแม่ของ ทินกร ทนายความหนุ่มที่รัก อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) อย่างสุดหัวใจและช่วยเหลือเธอในแผนการแก้แค้น อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) เสาวนีย์มีบทบาทในฐานะตัวละครผู้ใหญ่ที่แสดงถึงความรักและความห่วงใยต่อลูกชาย เธอเป็นตัวละครที่อยู่ในวงโคจรของความขัดแย้งหลัก โดยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับปมในอดีตหรือความสัมพันธ์ของตัวละครอื่นๆ เช่น ความขัดแย้งระหว่างครอบครัวของอลิซและอุ๊
บุคลิกและลักษณะเด่น
ความรักและความห่วงใยในฐานะแม่ เสาวนีย์เป็นแม่ที่รักและสงสารลูกชายอย่างทินกร โดยเฉพาะเมื่อเห็นเขาต้องเจ็บปวดจากความรักที่ไม่สมหวังและการเสียสละเพื่ออลิซ เธอจะมีลักษณะที่อบอุ่นและแสดงถึงความเป็นห่วงลูก ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจ
จากบทบาทของศิริพิชญ์ในผลงานอื่นๆ ที่มักเล่นเป็นตัวละครที่มีความแข็งแกร่งหรือมีมิติ เสาวนีย์อาจมีด้านที่เข้มแข็งในการปกป้องครอบครัว หรืออาจมีท่าทีที่เด็ดขาดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อลูกชาย มีส่วนในปมดราม่า เสาวนีย์มีบทบาทที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น ความจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตของครอบครัว ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนาเรื่องราว
บทบาทในเรื่อง
สนับสนุนทางอารมณ์ เสาวนีย์มีบทบาทสำคัญในฐานะแม่ที่คอยปลอบโยนและให้กำลังใจทินกรเมื่อเขาต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากการช่วยอลิซในแผนการแก้แค้น เธออาจมีฉากที่แสดงความเห็นใจหรือพยายามชี้แนะให้ลูกชายเลือกทางที่ถูกต้อง
เสาวนีย์มีส่วนในปมที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างครอบครัวของอลิซและอุ๊ เช่น การถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้ ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ทำให้อลิซแค้นอุ๊ การปรากฏตัวของเธอในฉากสำคัญน่าจะช่วยเผยความจริงหรือขับเคลื่อนดราม่า ในฐานะตัวละครผู้ใหญ่ เสาวนีย์ช่วยเพิ่มมิติให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์ครอบครัวและผลกระทบจากความแค้นของตัวละครรุ่นลูก
การแสดงของศิริพิชญ์ วิมลโนช
ศิริพิชญ์ วิมลโนช (ชื่อเล่น: กีตาร์) เป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงตั้งแต่สมัยเป็นนักร้องในชมรมดนตรีสากล สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (C.U.Band) เธอจบการศึกษาจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีผลงานละคร เช่น ป่านางเสือ, เงือกสาวแห่งอันดามัน, และ เจ้าสัวมั่วนิ่ม
ในบท เสาวนีย์ ศิริพิชญ์จะถ่ายทอดความเป็นแม่ที่ทั้งอบอุ่นและเข้มแข็งได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเธอจะเน้นอารมณ์ของความห่วงใยและความเจ็บปวดเมื่อเห็นลูกชายต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก จากกระแสในโซเชียลมีเดียและการโปรโมตละคร นักแสดงสมทบอย่างศิริพิชญ์ได้รับการคาดหวังว่าจะช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับฉากดราม่าของครอบครัว
เสาวนีย์เป็นตัวละครที่เพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับเรื่อง โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูก เธอช่วยให้ผู้ชมเห็นผลกระทบของความแค้นและความรักที่ไม่สมหวังของทินกรในมุมมองของครอบครัว เธอมีส่วนในปมสำคัญของเรื่อง เช่น การถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในอดีต ซึ่งอาจเป็นกุญแจในการคลายปมแค้นระหว่างอลิซและอุ๊
การปรากฏตัวของเสาวนีย์ในฉากที่เกี่ยวข้องกับทินกรและตัวละครอื่นๆ ช่วยเสริมความสมดุลให้กับเรื่องราว และอาจสร้างความรู้สึกเห็นใจจากผู้ชมเมื่อเห็นความเจ็บปวดของครอบครัว
→ ภารดี วงษ์สวัสดิ์ รับบท กรองแก้ว
กรองแก้ว (รับบทโดย ภารดี วงษ์สวัสดิ์) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นแม่ของอุ๊ คอยแสดงความรักและความห่วงใย แต่การตัดสินใจที่อาจดูเหมือน “ผิดฝั่ง” โดยการเข้าข้างอลิซในบางครั้ง ทำให้เธอเป็นตัวละครที่เพิ่มความขัดแย้งและดราม่าให้กับเรื่อง เธอยังอาจมีส่วนในปมในอดีตที่เป็นต้นเหตุของความแค้น การแสดงของภารดีจะถ่ายทอดความเป็นแม่ที่มีทั้งความอบอุ่นและข้อบกพร่องได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้กรองแก้วเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความลึกซึ้งให้กับ เล่ห์มยุรา
พื้นฐานตัวละคร
กรองแก้ว เป็นแม่ของ อุ๊ นางเอกของเรื่อง ซึ่งต้องเผชิญกับการแก้แค้นของ อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) ที่พยายามทำลายความรักของอุ๊กับ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) เธอเป็นตัวละครผู้ใหญ่ที่มีส่วนในความขัดแย้งหลักของเรื่อง โดยเฉพาะผ่านการตัดสินใจที่อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ของตัวละครรุ่นลูก โดยเฉพาะอุ๊และอลิซ
บุคลิกและลักษณะเด่น
รักลูกแต่ตัดสินใจผิดพลาด กรองแก้วเป็นแม่ที่รักและห่วงใยอุ๊ เธอดูเหมือนจะเข้าข้างอลิซในบางสถานการณ์ ซึ่งอาจเป็นเพราะความเข้าใจผิดหรือการถูกครอบงำโดยอลิซ คุณลักษณะนี้อาจทำให้ผู้ชมรู้สึกทั้งเห็นใจและหงุดหงิดกับการตัดสินใจของเธอ
กรองแก้วอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับปมแค้นในอดีตที่ทำให้อลิซเกลียดชังอุ๊ เช่น การถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้หรือมีส่วนในเหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดให้ครอบครัวของอลิซ ซึ่งทำให้เธอเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน ในฐานะตัวละครผู้ใหญ่ กรองแก้วจะมีทั้งความเข้มแข็งในฐานะแม่และความเปราะบางเมื่อต้องเผชิญกับผลกระทบจากอดีตหรือการกระทำของลูกสาวและตัวร้าย
บทบาทในเรื่อง
สนับสนุนหรือขัดแย้งกับอุ๊ กรองแก้วมีบทบาทสำคัญในฐานะแม่ของอุ๊ แต่การที่เธอดูเหมือนจะเข้าข้างอลิซในบางครั้ง ทำให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัว ซึ่งอาจเป็นจุดที่เพิ่มความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอุ๊ กรองแก้วจะมีส่วนในปมสำคัญของเรื่อง เช่น การเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ในอดีตที่นำไปสู่ความแค้นของอลิซ การปรากฏตัวของเธออาจช่วยเปิดเผยความจริงที่เปลี่ยนทิศทางของเรื่อง
ตัวละครที่เพิ่มดราม่า การตัดสินใจของกรองแก้วที่อาจดูเหมือน “ผิดฝั่ง” ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนความขัดแย้ง โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับอุ๊และราเมศร ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกอินหรือไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเธอ
การแสดงของภารดี วงษ์สวัสดิ์
ภารดี วงษ์สวัสดิ์ เป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการละครไทย โดยมีผลงานเด่นในละครช่อง 7HD เช่น ป่านางเสือ, เงือกสาวแห่งอันดามัน, และ เจ้าสัวมั่วนิ่ม เธอมักรับบทตัวละครผู้ใหญ่ที่มีความซับซ้อน เช่น แม่ที่มีทั้งความรักและความขัดแย้ง ซึ่งเหมาะกับบทกรองแก้ว
ในบท กรองแก้ว ภารดีจะถ่ายทอดความเป็นแม่ที่ทั้งอบอุ่นและมีข้อบกพร่องได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเธอจะเน้นอารมณ์ของความห่วงใย ความรู้สึกผิด และความพยายามปกป้องครอบครัว จากกระแสในโซเชียลมีเดีย นักแสดงสมทบอย่างภารดีได้รับการคาดหวังว่าจะช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับฉากดราม่าของครอบครัว
กรองแก้วเป็นตัวละครที่เพิ่มความซับซ้อนให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์ครอบครัวและผลกระทบจากปมในอดีต การที่เธอดูเหมือนจะเข้าข้างอลิซในบางครั้ง ทำให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์กับอุ๊ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนดราม่า
เธอจะมีส่วนในปมสำคัญของเรื่อง เช่น การถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในอดีต ซึ่งอาจเป็นกุญแจในการคลายปมแค้นระหว่างอลิซและอุ๊ การปรากฏตัวของกรองแก้วในฉากที่เกี่ยวข้องกับอุ๊และตัวละครอื่นๆ ช่วยสร้างความรู้สึกเห็นใจหรือความขัดแย้งให้กับผู้ชม ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้ในเรื่อง
→ นฤมล พงษ์สุภาพ รับบท รุ้งมาศ

รุ้งมาศ (รับบทโดย นฤมล พงษ์สุภาพ) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นแม่ของราเมศร คอยแสดงความรักและความห่วงใยต่อลูกชาย แต่การตัดสินใจของเธออาจส่งผลต่อความขัดแย้งในเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อราเมศรต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ถูกจำยอมโดยอลิซ เธอยังอาจมีส่วนในปมอดีตที่เป็นต้นเหตุของความแค้น การแสดงของนฤมลจะถ่ายทอดความเป็นแม่ที่มีทั้งความอบอุ่นและความซับซ้อนได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้รุ้งมาศเป็นตัวละครที่เพิ่มความลึกซึ้งและดราม่าให้กับ เล่ห์มยุรา
พื้นฐานตัวละคร
รุ้งมาศ เป็นแม่ของ ราเมศร พระเอกของเรื่อง ซึ่งมีความสัมพันธ์รักกับ อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) แต่ถูกขัดขวางโดย อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) ที่มีแผนแก้แค้น รุ้งมาศเป็นตัวละครผู้ใหญ่ที่อยู่ในวงโคจรของความขัดแย้งหลัก โดยมีส่วนในปมดราม่าที่เกี่ยวข้องกับความรักของราเมศรและการตัดสินใจที่ส่งผลต่อครอบครัว
เธอเป็นตัวละครที่แสดงถึงความรักและความห่วงใยต่อลูกชาย แต่การตัดสินใจของเธออาจนำไปสู่ความขัดแย้งหรือผลกระทบต่อเรื่องราว โดยเฉพาะเมื่อราเมศรต้องเผชิญสถานการณ์ที่ซับซ้อนจากแผนการของอลิซ
บุคลิกและลักษณะเด่น
รักและห่วงใยลูกชาย รุ้งมาศเป็นแม่ที่รักและสงสารราเมศรอย่างสุดหัวใจ โดยเฉพาะเมื่อเห็นเขาต้องเจ็บปวดจากความรักที่ถูกขัดขวางหรือสถานการณ์ที่เกิดจากเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ เธอจะมีลักษณะอบอุ่นและแสดงความเห็นใจต่อลูก ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมรู้สึกซึ้งและเห็นใจ
จากบทบาทของนฤมลในผลงานอื่นๆ ที่มักเล่นเป็นตัวละครที่มีมิติและมีความเข้มแข็ง รุ้งมาศอาจมีด้านที่เด็ดเดี่ยวในการปกป้องครอบครัว หรืออาจตัดสินใจในแบบที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของราเมศรและอุ๊ เช่น การสนับสนุนหรือคัดค้านบางสถานการณ์
อาจเกี่ยวข้องกับปมในอดีต รุ้งมาศอาจมีส่วนในปมอดีตที่เชื่อมโยงกับความแค้นของอลิซ เช่น การถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ทำให้อลิซสูญเสียสิ่งสำคัญ ซึ่งอาจทำให้เธอเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนและมีบทบาทในปมดราม่าหลัก
บทบาทในเรื่อง
สนับสนุนทางอารมณ์ รุ้งมาศมีบทบาทในฐานะแม่ที่คอยปลอบโยนและให้กำลังใจราเมศรเมื่อเขาต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากความรักที่ถูกขัดขวาง โดยเฉพาะเมื่ออลิซหลอกล่อให้เกิดความเข้าใจผิดจนนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรง และราเมศรต้องตัดสินใจรับผิดชอบโดยการแต่งงานกับอลิซ ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้ทั้งราเมศรและครอบครัว
การตัดสินใจของรุ้งมาศอาจส่งผลต่อทิศทางของเรื่อง เช่น การสนับสนุนราเมศรในบางสถานการณ์ หรือการมีส่วนในปมอดีตที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของอุ๊และอลิซ เธอมีฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวละครอื่น เช่น กรองแก้ว (ภารดี วงษ์สวัสดิ์) แม่ของอุ๊ หรือ เสาวนีย์ (ศิริพิชญ์ วิมลโนช) แม่ของทินกร
การที่รุ้งมาศสงสารลูกชายและอาจมีส่วนในเหตุการณ์ที่ทำให้ราเมศรต้องเสียสละความรัก ช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่แสดงถึงความเจ็บปวดของครอบครัว
การแสดงของนฤมล พงษ์สุภาพ
นฤมล พงษ์สุภาพ (ชื่อเล่น: ก้อย) เป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์ยาวนานในวงการบันเทิงตั้งแต่ปี 2538 โดยเริ่มจากละคร ไอ้คุณผี และมีผลงานเด่น เช่น แก้วหน้าม้า (รับบทนางเอก), รักเดียวของเจนจิรา, สามีเงินผ่อน, สาปซ่อนรัก, และ พรหมลิขิต ปัจจุบันเป็นนักแสดงอิสระที่มีความสามารถในการถ่ายทอดบทบาทที่หลากหลาย ตั้งแต่บทนางเอกไปจนถึงบทตัวละครผู้ใหญ่ที่มีมิติ
ในบท รุ้งมาศ นฤมลจะถ่ายทอดความเป็นแม่ที่ทั้งอบอุ่นและมีความขัดแย้งภายในได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเธอน่าจะเน้นอารมณ์ของความรัก ความเจ็บปวด และความพยายามปกป้องครอบครัว โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแสดงความเห็นใจต่อราเมศร
จากบทสัมภาษณ์ในแหล่งข้อมูล นฤมลเคยระบุว่าเมื่ออายุมากขึ้น เธอเริ่มได้รับบทที่ตรงกับคาแร็กเตอร์มากขึ้น เช่น บทแม่หรือตัวละครที่มีมิติ ซึ่งเหมาะกับบทรุ้งมาศที่ต้องแสดงทั้งความรักและความซับซ้อน
รุ้งมาศเป็นตัวละครที่เพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับเรื่อง โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกชาย เธอช่วยให้ผู้ชมเห็นผลกระทบของความแค้นของอลิซในมุมมองของครอบครัวราเมศร การที่เธอสงสารลูกชายและอาจมีส่วนในปมอดีตที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของอุ๊และอลิซ ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนดราม่าและอาจมีบทบาทในการคลายปมสำคัญ
การปรากฏตัวของรุ้งมาศในฉากที่เกี่ยวข้องกับราเมศรและตัวละครอื่นๆ เช่น กรองแก้วหรือเสาวนีย์ ช่วยสร้างความสมดุลและความเข้มข้นให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่แสดงถึงความเจ็บปวดของครอบครัว
→ สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท ประจักษ์

ประจักษ์ (รับบทโดย สุเชาว์ พงษ์วิไล) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นปู่ของอลิซ ผู้อาวุโสที่มีอำนาจในครอบครัวและธุรกิจ แต่การตัดสินใจของเขา เช่น การไม่ช่วยเหลืออลิซในเรื่องโรงแรม ทำให้เกิดความขัดแย้งใหม่ในเรื่อง เขายังอาจมีส่วนในปมอดีตที่เป็นต้นเหตุของความแค้น การแสดงของสุเชาว์จะถ่ายทอดความเข้มงวดและความซับซ้อนทางอารมณ์ของประจักษ์ได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ตัวละครนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนดราม่าและเพิ่มความลึกซึ้งให้กับ เล่ห์มยุรา
พื้นฐานตัวละคร
ประจักษ์ เป็นปู่ของ อลิซ ตัวร้ายหลักของเรื่องที่วางแผนแก้แค้น อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) โดยพยายามทำลายความรักของอุ๊กับ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) เขาเป็นตัวละครผู้ใหญ่ที่มีบทบาทในครอบครัวของอลิซ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมที่อลิซบริหาร ประจักษ์มีส่วนในปมอดีตที่เป็นต้นเหตุของความแค้นของอลิซ เช่น การเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวของอลิซและอุ๊แตกแยก ซึ่งอาจรวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องชู้สาวระหว่างครอบครัวทั้งสองฝ่าย
บุคลิกและลักษณะเด่น
เข้มงวดและมีอำนาจ ในฐานะปู่และผู้อาวุโสในครอบครัว ประจักษ์จะมีบุคลิกที่เข้มงวดและมีอิทธิพลในเรื่องธุรกิจและการตัดสินใจของครอบครัว จากข้อมูล เขาไม่ยื่นมือช่วยเหลือเมื่อโรงแรมของอลิซประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง ซึ่งแสดงถึงความเด็ดขาดหรืออาจมีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่ต้องการสนับสนุนหลานสาว
ประจักษ์มีมุมมองที่ขัดแย้งกับอลิซในบางเรื่อง เช่น การจัดการธุรกิจหรือการกระทำที่เกี่ยวข้องกับแผนการแก้แค้น ซึ่งอาจทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีมิติ ไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสที่สนับสนุนหลานสาวอย่างเต็มที่ ในฐานะตัวละครรุ่นพ่อ/ปู่ ประจักษ์จะมีความรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตที่นำไปสู่ความแค้นของอลิซ เช่น การถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในความสัมพันธ์ที่ทำให้ครอบครัวของอลิซต้องเจ็บปวด ซึ่งอาจทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีความรู้สึกผิดหรือความลับที่ซ่อนอยู่
บทบาทในเรื่อง
บทบาทในธุรกิจและครอบครัว ประจักษ์มีส่วนในธุรกิจโรงแรมของครอบครัว ซึ่งประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง เขาปฏิเสธที่จะช่วยเหลืออลิซ ส่งผลให้เธอและ รัฐกร (แอนด์ดรูว์ กรเศก) ต้องขายหุ้นโรงแรมให้นักลงทุน และที่น่าตกใจคือที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่เข้ามาควบคุมโรงแรมคือ อุ๊ ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น
ประจักษ์เป็นตัวละครที่รู้ความจริงเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างครอบครัวของอลิซและอุ๊ เช่น ข้อกล่าวหาว่า กรองแก้ว (ภารดี วงษ์สวัสดิ์) แม่ของอุ๊ เป็นชู้กับพ่อของอลิซ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อลิซแค้น การปรากฏตัวของเขาน่าจะช่วยเปิดเผยความจริงบางส่วนในตอนท้าย
การตัดสินใจของประจักษ์ที่ไม่ช่วยเหลืออลิซในเรื่องธุรกิจ และการมีส่วนในปมอดีต ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนความขัดแย้งทั้งในด้านครอบครัวและธุรกิจ ซึ่งอาจนำไปสู่จุดเปลี่ยนในเรื่องราว
การแสดงของสุเชาว์ พงษ์วิไล
สุเชาว์ พงษ์วิไล เป็นนักแสดงอาวุโสที่มีประสบการณ์ยาวนานในวงการบันเทิงกว่า 40 ปี เริ่มจากละครเวทีและภาพยนตร์ เช่น กิเลสคน (2520), สวัสดีคุณครู (2521), และ น้ำพุ (2527) เขามีความสามารถในการรับบทที่หลากหลาย ทั้งบทพระเอก บทพ่อ และบทร้าย โดยเฉพาะบทตัวละครที่มีความซับซ้อนและมีมิติ
ในบท ประจักษ์ สุเชาว์จะถ่ายทอดความเป็นผู้อาวุโสที่มีทั้งความเข้มงวดและความลึกซึ้งทางอารมณ์ได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเขาจะเน้นสีหน้าและน้ำเสียงที่แสดงถึงอำนาจ ความรู้สึกผิด หรือความขัดแย้งภายใน โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรมและปมในอดีต
ประจักษ์เป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความซับซ้อนให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในด้านธุรกิจและปมครอบครัว การตัดสินใจของเขาที่ไม่ช่วยเหลืออลิซในเรื่องโรงแรมเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดความขัดแย้งใหม่ เมื่ออุ๊กลายเป็นที่ปรึกษาการลงทุน ซึ่งนำไปสู่การปะทะที่รุนแรงขึ้น
เขายังมีส่วนในปมอดีตที่เป็นรากฐานของความแค้นของอลิซ ซึ่งอาจเป็นกุญแจสำคัญในการคลายปมหรือการเผชิญหน้าระหว่างตัวละครหลักในตอนท้าย การปรากฏตัวของประจักษ์ในฉากที่เกี่ยวข้องกับอลิซและตัวละครอื่นๆ เช่น กรองแก้ว (แม่ของอุ๊) หรือ รุ้งมาศ (แม่ของราเมศร) ช่วยสร้างความสมดุลและความเข้มข้นให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่แสดงถึงผลกระทบของความแค้นต่อครอบครัว
→ เบญจสิริ วัฒนา รับบท มลวิภา

มลวิภา (รับบทโดย เบญจสิริ วัฒนา) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นแม่ของอลิซ คอยสนับสนุนลูกสาวในแผนการแก้แค้น แต่มีความซับซ้อนจากปมในอดีตที่อาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างครอบครัวของอลิซและอุ๊ เธอช่วยเพิ่มมิติทางอารมณ์และดราม่าให้กับเรื่อง โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์ครอบครัวและผลกระทบจากความแค้น การแสดงของเบญจสิริจะถ่ายทอดความเป็นแม่ที่มีทั้งความรักและความขัดแย้งได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้มลวิภาเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนความเข้มข้นของ เล่ห์มยุรา
พื้นฐานตัวละคร
มลวิภา เป็นแม่ของ อลิซ ตัวร้ายหลักของเรื่องที่วางแผนแก้แค้น อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) โดยพยายามทำลายความรักของอุ๊กับ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) เธอเป็นตัวละครผู้ใหญ่ที่อยู่ในครอบครัวของอลิซ และจะมีความเกี่ยวข้องกับปมในอดีตที่เป็นต้นเหตุของความแค้นของลูกสาว เช่น ข้อกล่าวหาเรื่องชู้สาวหรือเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวของอลิซต้องเจ็บปวด
บุคลิกและลักษณะเด่น
รักและสนับสนุนลูกสาว มลวิภาจะเป็นแม่ที่รักและสนับสนุนอลิซอย่างเต็มที่ โดยอาจเห็นด้วยหรือมีส่วนในแผนการแก้แค้นของลูกสาว ซึ่งทำให้เธอเป็นตัวละครที่มีความภักดีต่อครอบครัว แต่การกระทำของเธออาจนำไปสู่ความขัดแย้งกับตัวละครอื่น
จากบทบาทของเบญจสิริในผลงานอื่นๆ ที่มักรับบทตัวละครที่มีมิติ มลวิภามีทั้งความเข้มแข็งในฐานะแม่และความเปราะบางจากความรู้สึกผิดหรือความเจ็บปวดในอดีต โดยเฉพาะถ้าเธอมีส่วนในเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความแค้นของอลิซ ในฐานะแม่ของอลิซและลูกสะใภ้ของ ประจักษ์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) มลวิภามีบทบาทในธุรกิจโรงแรมของครอบครัว หรือมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของอลิซในบางสถานการณ์
บทบาทในเรื่อง
สนับสนุนอลิซในแผนการแก้แค้น มลวิภาเป็นตัวละครที่สนับสนุนหรือช่วยเหลืออลิซในแผนการทำลายความรักของอุ๊และราเมศร เช่น การให้คำแนะนำหรือช่วยจัดการสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม ซึ่งประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง
มลวิภาอาจมีส่วนในปมอดีตที่เป็นรากฐานของความแค้นของอลิซ เช่น การถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ที่ทำให้ครอบครัวของอุ๊และอลิซแตกแยก เธออาจรู้ความจริงบางอย่างที่ยังไม่ถูกเปิดเผย ซึ่งอาจมีบทบาทสำคัญในตอนท้าย การที่มลวิภาสนับสนุนอลิซหรือมีส่วนในปมอดีตทำให้เธอเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนความขัดแย้ง โดยเฉพาะในฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวละครฝั่งนางเอก เช่น กรองแก้ว (ภารดี วงษ์สวัสดิ์) แม่ของอุ๊ หรือ รุ้งมาศ (นฤมล พงษ์สุภาพ) แม่ของราเมศร
การแสดงของเบญจสิริ วัฒนา
เบญจสิริ วัฒนา เป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิง โดยมีผลงานในละครช่อง 7HD เช่น เงือกสาวแห่งอันดามัน และ เจ้าสัวมั่วนิ่ม เธอมักรับบทตัวละครที่มีมิติ เช่น แม่ที่มีทั้งความรักและความขัดแย้ง ซึ่งเหมาะกับบทยุภา
ในบท มลวิภา เบญจสิริจะถ่ายทอดความเป็นแม่ที่ทั้งสนับสนุนลูกสาวและมีความซับซ้อนทางอารมณ์ได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเธอจะเน้นอารมณ์ของความรัก ความรู้สึกผิด หรือความขัดแย้งภายใน โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับปมอดีตหรือการปกป้องครอบครัว
มลวิภาเป็นตัวละครที่เพิ่มมิติให้กับครอบครัวของอลิซ โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกสาว การสนับสนุนอลิซในแผนการแก้แค้นทำให้เธอเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งหลัก และช่วยให้ผู้ชมเห็นมุมมองของฝั่งตัวร้าย เธอจะมีส่วนในปมอดีตที่เป็นรากฐานของความแค้นของอลิซ เช่น การถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในเหตุการณ์ที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก ซึ่งอาจเป็นกุญแจในการคลายปมในตอนท้าย
การปรากฏตัวของมลวิภาในฉากที่เกี่ยวข้องกับตัวละครอื่นๆ เช่น กรองแก้ว (แม่ของอุ๊) หรือประจักษ์ (ปู่ของอลิซ) ช่วยสร้างความตึงเครียดและความลึกซึ้งให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่แสดงถึงผลกระทบของความแค้นต่อครอบครัว
→ สมมาตร ไพรหิรัญ รับบท โอฬาร

โอฬาร (รับบทโดย สมมาตร ไพรหิรัญ) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นพ่อของอลิซ ตัวร้ายหลักของเรื่อง มีส่วนในความขัดแย้งทั้งในด้านธุรกิจโรงแรมและปมแค้นในอดีต เขามีบุคลิกเข้มงวด มีอำนาจ และอาจมีความรู้สึกผิดหรือความซับซ้อนจากเหตุการณ์ในอดีต การกระทำของเขา เช่น การไล่อุ๊ออกจากงาน ช่วยขับเคลื่อนดราม่าและเพิ่มความตึงเครียดให้กับเรื่อง การแสดงของสมมาตรจะถ่ายทอดความเข้มงวดและมิติทางอารมณ์ของโอฬารได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ตัวละครนี้เป็นส่วนสำคัญที่เพิ่มความลึกซึ้งให้กับ เล่ห์มยุรา
พื้นฐานตัวละคร
โอฬาร เป็นพ่อของ อลิซ ตัวร้ายหลักของเรื่องที่วางแผนแก้แค้น อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) โดยพยายามทำลายความรักของอุ๊กับ ราเมศร (กิตตน์ก้อง ขำกฤษ) เขาเป็นตัวละครผู้ใหญ่ที่อยู่ในครอบครัวของอลิซ และมีส่วนสำคัญในปมอดีตที่เป็นต้นเหตุของความแค้น โอฬารอาจมีบทบาทในธุรกิจโรงแรมของครอบครัว ซึ่งประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง และอาจเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีต เช่น ข้อกล่าวหาเรื่องชู้สาวที่ทำให้ครอบครัวของอลิซและอุ๊แตกแยก
บุคลิกและลักษณะเด่น
เข้มงวดและมีอิทธิพล ในฐานะพ่อของอลิซและสามีของ มลวิภา (เบญจสิริ วัฒนา) โอฬารจะมีบุคลิกที่เข้มงวดและมีอำนาจในครอบครัว เขาอาจเป็นตัวละครที่มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ โดยเฉพาะในเรื่องธุรกิจหรือการสนับสนุนแผนการของลูกสาว
จากข้อมูลในเรื่องย่อ โอฬารมีส่วนในความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นโรงแรม และอาจรู้ข้อมูลลับเกี่ยวกับการซื้อขายบ้าน ซึ่งแสดงถึงบทบาทของเขาในฐานะตัวละครที่ขับเคลื่อนดราม่าผ่านการกระทำที่ส่งผลต่อตัวละครอื่น เช่น การไล่อุ๊ออกจากงานเมื่อเธอขัดขวางการทำสัญญา
อาจมีความขัดแย้งภายใน โอฬารอาจมีด้านที่ซับซ้อน เช่น ความรู้สึกผิดจากเหตุการณ์ในอดีต หรือความขัดแย้งกับอลิซหรือมลวิภาในเรื่องการจัดการธุรกิจหรือแผนการแก้แค้น ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวละครที่มีมิติ
บทบาทในเรื่อง
สนับสนุนครอบครัวและธุรกิจ โอฬารมีบทบาทในธุรกิจโรงแรมของครอบครัว ซึ่งเผชิญปัญหาขาดสภาพคล่อง เขาจะมีส่วนในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นหรือทรัพย์สิน เช่น การทำสัญญาซื้อขายบ้านของ ประจักษ์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ซึ่งถูกขัดขวางโดยอุ๊
โอฬารมีส่วนสำคัญในความขัดแย้งเมื่อเขารู้ข้อมูลลับเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นโรงแรม และแสดงความโกรธเมื่ออุ๊ฉีกสัญญาและขัดขวางการซื้อขาย ส่งผลให้เขาไล่อุ๊ออกจากงาน ซึ่งเป็นจุดที่เพิ่มความตึงเครียดในเรื่อง
ในฐานะพ่อของอลิซ โอฬารจะรู้ความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เกิดความแค้น เช่น ข้อกล่าวหาว่า กรองแก้ว (ภารดี วงษ์สวัสดิ์) แม่ของอุ๊ เป็นชู้ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับตัวเขาเอง การปรากฏตัวของเขาน่าจะช่วยเปิดเผยความจริงบางส่วนในตอนท้าย
การแสดงของสมมาตร ไพรหิรัญ
สมมาตร ไพรหิรัญ (ชื่อเล่น: เปี๊ยก) เป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงมากว่า 40 ปี เริ่มจากละครเวทีและภาพยนตร์ เช่น กิเลสคน (2520) และ น้ำพุ (2527) เขามีผลงานละครโทรทัศน์มากมาย เช่น หนึ่งในร้อย (2525), ลองของ (2548), เล่ห์ลับสลับร่าง (2560), และ ดวงใจเทวพรหม (2567) ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการรับบทที่หลากหลาย ตั้งแต่พระเอกไปจนถึงตัวละครผู้ใหญ่ที่มีมิติ
ในบท โอฬาร สมมาตรจะถ่ายทอดความเป็นพ่อที่มีทั้งความเข้มงวดและความซับซ้อนทางอารมณ์ได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเขาน่าจะเน้นสีหน้าและน้ำเสียงที่แสดงถึงอำนาจ ความโกรธ หรือความรู้สึกผิด โดยเฉพาะในฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับอุ๊หรือตัวละครอื่นๆ เช่น การไล่อุ๊ออกจากงาน
จากการโปรโมตละครในงาน iQIYI iJOY TH 2025 และข้อมูลจากแหล่งข่าว สมมาตรได้รับการยอมรับในฐานะนักแสดงรุ่นใหญ่ที่ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับฉากดราม่า ซึ่งน่าจะทำให้บทโอฬารเป็นที่จดจำ
โอฬารเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนความขัดแย้งในเรื่อง โดยเฉพาะผ่านการตัดสินใจที่ส่งผลต่อธุรกิจโรงแรมและความสัมพันธ์ของตัวละคร เช่น การไล่อุ๊ออกจากงานเมื่อเธอขัดขวางสัญญา ซึ่งเป็นจุดที่เพิ่มความตึงเครียดในเกมแก้แค้นของอลิซ
เขามีส่วนในปมอดีตที่เป็นรากฐานของความแค้นของอลิซ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องชู้สาว การปรากฏตัวของเขาจะช่วยเปิดเผยความจริงที่เป็นกุญแจสำคัญในการคลายปม การมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น เช่น มลวิภา (แม่ของอลิซ), ประจักษ์ (ปู่ของอลิซ), หรือ กรองแก้ว (แม่ของอุ๊) ช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับฉากดราม่า โดยเฉพาะในแง่ของความขัดแย้งระหว่างครอบครัว
→ จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ รับบท มนัส

มนัส (รับบทโดย จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ) เป็นตัวละครสมทบที่มีบทบาทเป็นพ่อของราเมศร คอยแสดงความรักและความห่วงใยต่อลูกชาย แต่การตัดสินใจของเขาอาจส่งผลต่อความขัดแย้งในเรื่อง โดยเฉพาะเมื่อราเมศรต้องเผชิญกับเล่ห์เหลี่ยมของอลิซ เขายังอาจมีส่วนในปมอดีตที่เป็นต้นเหตุของความแค้น การแสดงของจิรกิตติ์จะถ่ายทอดความเป็นพ่อที่มีทั้งความอบอุ่นและความซับซ้อนได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้มนัสเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความลึกซึ้งและดราม่าให้กับ เล่ห์มยุรา
พื้นฐานตัวละคร
มนัส เป็นพ่อของ ราเมศร พระเอกของเรื่อง ซึ่งมีความรักกับ อุรัจวสี หรือ อุ๊ (ฮาน่า ลีวิส) แต่ถูกขัดขวางโดย อินทุอร หรือ อลิซ (แอนน่า กลึคส์) ที่วางแผนแก้แค้นเพื่อทำลายความรักของทั้งคู่ ในฐานะสามีของ รุ้งมาศ (นฤมล พงษ์สุภาพ) มนัสเป็นตัวละครผู้ใหญ่ที่มีบทบาทในครอบครัวของราเมศร และอาจมีส่วนในปมอดีตที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างครอบครัวของอุ๊และอลิซ เช่น ข้อกล่าวหาเรื่องชู้สาวที่เป็นต้นเหตุของความแค้น
บุคลิกและลักษณะเด่น
รักและห่วงใยครอบครัว มนัสในฐานะพ่อของราเมศรจะเป็นตัวละครที่แสดงถึงความรักและความห่วงใยต่อลูกชาย โดยเฉพาะเมื่อราเมศรต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากความรักที่ถูกขัดขวางโดยแผนการของอลิซ เขามีลักษณะที่อบอุ่นแต่ก็เข้มงวดในฐานะผู้นำครอบครัว
จากผลงานที่ผ่านมาของจิรกิตติ์ ซึ่งมักรับบทตัวละครที่มีมิติ มนัสอาจมีด้านที่เด็ดเดี่ยวในการปกป้องครอบครัว หรืออาจมีความรู้สึกผิดหรือความลับเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของอลิซและอุ๊
มีบทบาทในธุรกิจหรือความขัดแย้ง มนัสมีส่วนในธุรกิจหรือการตัดสินใจที่ส่งผลต่อสถานการณ์ในเรื่อง เช่น การสนับสนุนราเมศรในด้านการงาน หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น เช่น โอฬาร (สมมาตร ไพรหิรัญ) หรือ ประจักษ์ (สุเชาว์ พงษ์วิไล) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโรงแรม
บทบาทในเรื่อง
สนับสนุนราเมศรในฐานะพ่อ มนัสมีบทบาทในฐานะพ่อที่คอยให้คำแนะนำหรือสนับสนุนราเมศรเมื่อเขาต้องเผชิญกับความขัดแย้งในความรัก โดยเฉพาะเมื่อราเมศรถูกครอบงำโดยอลิซจนต้องแต่งงานกับเธอ ซึ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับอุ๊และครอบครัว
มนัสรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีตที่เป็นสาเหตุของความแค้นของอลิซ เช่น ข้อกล่าวหาว่า กรองแก้ว (ภารดี วงษ์สวัสดิ์) แม่ของอุ๊ เป็นชู้ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับครอบครัวของเขา เขาอาจมีบทบาทในการเปิดเผยความจริงที่ช่วยคลายปมในตอนท้าย
การที่มนัสอยู่ในครอบครัวของราเมศรทำให้เขาเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับความขัดแย้ง โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องลูกชายหรือการเผชิญหน้ากับตัวละครฝั่งของอลิซ เช่น มลวิภา (เบญจสิริ วัฒนา) หรือ โอฬาร
การแสดงของจิรกิตติ์ สุวรรณภาพ
จิรกิตติ์ สุวรรณภาพ (ชื่อเล่น: วาม) เป็นนักแสดงที่มีประสบการณ์ในวงการบันเทิงตั้งแต่ปี 2540 โดยเริ่มจากละคร รักนี้คือฝัน และมีผลงานเด่น เช่น เจ้าสัวมั่วนิ่ม, เงือกสาวแห่งอันดามัน, ป่านางเสือ, และ เล่ห์รักบุษบา เขามักรับบทตัวละครที่มีมิติ เช่น พ่อหรือตัวละครผู้ใหญ่ที่มีความซับซ้อน
ในบท มนัส จิรกิตติ์จะถ่ายทอดความเป็นพ่อที่ทั้งอบอุ่นและเข้มงวดได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงของเขาจะเน้นอารมณ์ของความห่วงใย ความรู้สึกผิด หรือความเด็ดขาดในฉากที่ต้องปกป้องครอบครัว โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับราเมศรและความขัดแย้งในเรื่อง
มนัสเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับครอบครัวของราเมศร โดยเฉพาะในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อและลูกชาย เขาช่วยให้ผู้ชมเห็นผลกระทบของความแค้นของอลิซในมุมมองของครอบครัวพระเอก เขาอาจมีส่วนในปมอดีตที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องชู้สาว ซึ่งเป็นรากฐานของความแค้นของอลิซ การปรากฏตัวของเขาน่าจะช่วยเปิดเผยความจริงที่เป็นกุญแจในการคลายปม
การมีปฏิสัมพันธ์กับตัวละครอื่น เช่น รุ้งมาศ (แม่ของราเมศร), กรองแก้ว (แม่ของอุ๊), หรือ โอฬาร (พ่อของอลิซ) ช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับฉากดราม่า โดยเฉพาะในฉากที่แสดงถึงผลกระทบของความขัดแย้งต่อครอบครัว