ละคร มนตราลายหงส์ 2561 ละครแนวโรแมนติกดราม่าแอ็คชั่นที่ผสมผสานความตื่นเต้นเข้ากับเรื่องราวแห่งความฝันและการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม เรื่องราวของ “มนตราลายหงส์” เริ่มต้นจากความฝันอันงดงามของ “พัสกร” นักเต้นหนุ่มฝีมือฉกาจผู้มีจิตใจเมตตา พัสกรเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน พ่อของเขาเป็นครูสอนเต้นที่เสียชีวิตไปพร้อมกับความฝันในการก่อตั้งโรงเรียนสอนเต้นเพื่อเด็กด้อยโอกาส เพื่อสานต่อมรดกอันล้ำค่านี้ พัสกรจึงตัดสินใจเปิด “โรงเรียนหงส์เหิน” สถานที่แห่งการบินทะยานของจิตวิญญาณผ่านท่วงท่าการเต้นรำที่สง่างามดั่งนกหงส์ เขาใช้เงินเก็บและความสามารถทั้งหมดที่มี เพื่อสร้างพื้นที่ให้เด็กยากไร้อย่างเด็กชายปั้น แตงกวา และน้ำฝน ได้เรียนรู้ศิลปะการเต้น ซึ่งไม่เพียงแต่พัฒนาทักษะ แต่ยังปลูกฝังวินัย ความมั่นใจ และโอกาสในชีวิต
พิธีเปิดโรงเรียนหงส์เหินกลายเป็นจุดเริ่มต้นของพายุแห่งความวุ่นวาย ขณะที่พัสกรกำลังแสดงโชว์เต้นสุดอลังการเพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จ ทันใดนั้นเหตุระเบิดครั้งรุนแรงก็เกิดขึ้น สร้างความเสียหายให้กับอาคารและบาดเจ็บล้มตายหลายราย รวมถึง “ขวัญกมล” แม่ค้าที่ใกล้ชิดกับพัสกร และ “แหวนพลอย” หญิงสาวผู้เป็นเพื่อนสนิทที่ถูกดึงเข้าสู่เหตุการณ์โดยบังเอิญ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนการร้ายจากผู้มีอิทธิพลที่ต้องการขัดขวางความฝันของพัสกร เนื่องจากที่ดินของโรงเรียนตั้งอยู่ในย่านที่เหล่ามิจฉาชีพต้องการยึดครองเพื่อผลประโยชน์มืดมน
จากจุดพลิกผันนี้ พัสกรต้องเผชิญกับความสิ้นหวังที่ถาโถม เขาได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ แต่แทนที่จะยอมแพ้ พัสกรเลือกที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่ เขาตั้งทีมเต้นขึ้นอีกครั้ง โดยรวบรวมเด็กนักเรียนเก่าและใหม่เข้าด้วยกัน ท่ามกลางอุปสรรคที่ถาโถมจากทั้งภายในและภายนอก “จันทิมา” ครูสอนเต้นอาวุโสผู้เคยสนิทสนมกับพัสกรในวัยเยาว์ กลายเป็นเสาหลักที่คอยให้คำปรึกษาและกำลังใจ ขณะที่ “เต้” ชายหนุ่มลึกลับที่ดูเหมือนจะเป็นมิตร แต่กลับถูกสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด สร้างความตึงเครียดให้กับทุกคน
ในขณะเดียวกัน “สารวัตรนิรุตติ์” นายตำรวจหนุ่มไฟแรง ได้รับมอบหมายให้สืบสวนคดีระเบิด เขาค้นพบเบาะแสที่ชี้ไปยังผู้ต้องสงสัยหลายราย รวมถึงบุคคลใกล้ชิดของพัสกร เช่น จันทิมาที่มีตุ้มหูคู่พิเศษหายไป และ “อคิน” เจ้าของโรงเรียนคู่แข่งที่ดูเหมือนจะมีส่วนในแผนการร้าย การสืบสวนนำพาไปสู่การเปิดโปงขบวนการอาชญากรรมที่ซับซ้อน ซึ่งไม่เพียงแต่ต้องการที่ดิน แต่ยังเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและอิทธิพลมืดในสังคม พัสกรต้องแปลงร่างจากนักเต้นสู่ “วีรบุรุษ” ที่ต้องต่อสู้ทั้งในสนามเต้นรำและนอกสนาม ด้วยความช่วยเหลือจากแหวนพลอย หญิงสาวผู้กล้าหาญที่ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับเขา ท่ามกลางฉากเต้นรำที่งดงามซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “มนตราลายหงส์” เวทมนตร์แห่งลายเส้นที่ทั้งสวยงามและอันตราย
เรื่องราวดำเนินไปด้วยการผสมผสานระหว่างฉากโรแมนติกหวานละมุน ฉากแอ็กชันตื่นเต้น และดราม่าความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน พัสกรต้องเผชิญหน้ากับศัตรูทั้งในรูปแบบของผู้ร้ายชั่วร้ายและความกลัวในใจตัวเอง ขณะที่แหวนพลอยต้องเลือกระหว่างความรักและความปลอดภัยของคนรอบข้าง จันทิมาและนิรุตติ์กลายเป็นคู่หูที่ช่วยไขปริศนา สร้างมิติให้กับตัวละครรองที่ไม่ใช่แค่ตัวประกอบ แต่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนพล็อต ละครเรื่องนี้ยังสะท้อนประเด็นสังคม เช่น ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โอกาสสำหรับเด็กยากไร้ และพลังของศิลปะในการเยียวยาบาดแผล
มนตราลายหงส์ คือผลงานที่พิสูจน์ว่าความฝันดั่งนกหงส์ สามารถบินทะยานได้แม้เผชิญพายุ หากมีหัวใจที่มุ่งมั่นและมิตรภาพที่เหนียวแน่น ละครเรื่องนี้ไม่เพียงบันเทิง แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงพลังของวีรบุรุษในชีวิตจริง ผู้ที่ต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้องท่ามกลางความมืดมิด ต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องสำคัญของละคร
ในย่านชานเมืองที่เต็มไปด้วยเสียงเพลงและกลิ่นดินเปียกชื้นหลังฝนตก พัสกรยืนอยู่หน้าประตูไม้เก่าๆ ของโรงเรียนหงส์เหิน ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ป้ายชื่อที่เพิ่งทาสีใหม่ สีทองสะท้อนแสงอาทิตย์ยามบ่าย เขา วัยสามสิบต้นๆ กับร่างกายกำยำที่ผ่านการฝึกฝนการเต้นมานับสิบปี รู้สึกถึงน้ำหนักของความฝันที่พ่อมอบให้ก่อนจากไป “ลูกเอ๋ย การเต้นไม่ใช่แค่ขยับตัว มันคือมนตร์ที่ทำให้หัวใจบินได้” คำพูดนั้นดังก้องในหูขณะที่เขาจัดแจงเด็กๆ สามคน ปั้น เด็กชายผอมบางแต่ตาเป็นประกาย แตงกวา สาวน้อยขี้เล่น และน้ำฝน ที่เงียบขรึมแต่เต้นเก่ง ให้ซ้อมท่ารำพื้นฐาน ท่วงท่าที่สง่างามดั่งนกหงส์กำลังโบยบิน
วันพิธีเปิดโรงเรียนมาถึงอย่างรวดเร็ว แสงไฟสปอตไลต์สาดส่องเวทีชั่วคราว ผู้คนในชุมชนมาร่วมยินดี ขวัญกมล แม่ค้าขายขนมที่พัสกรแอบรัก ยิ้มให้เขาจากมุมหนึ่ง จันทิมา ครูสอนเต้นอาวุโสที่เคยเป็นเพื่อนสนิทในวัยเด็ก ยืนปรบมือให้กำลังใจด้วยตุ้มหูคู่พิเศษที่ห้อยระยิบระยับ และแล้ว แหวนพลอย หญิงสาวสวยสะพรั่งที่บังเอิญหลงทางเข้ามาในงาน ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนนั้น เธอสวมเสื้อสีขาวเรียบง่าย ดวงตากลมโตมองพัสกรเต้นด้วยความทึ่ง
พัสกรเริ่มแสดง ท่าเต้น “มนตราลายหงส์” ที่พ่อสร้างขึ้น ลายเส้นของร่างกายพลิ้วไหวดั่งปีกหงส์ที่กำลังร่อนลงสู่ผิวน้ำ ผู้ชมตะลึง แต่แล้ว… บูม! เสียงระเบิดดังสนั่น เปลวเพลิงลุกโชน ควันดำคลุ้มคลั่ง พัสกรกระเด็นกระแทกพื้น รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่าน ขวัญกมลล้มลงนิ่งสนิท แหวนพลอยถูกคลื่นกระแทกจนสูญเสียสติชั่วขณะ เด็กๆ ร้องไห้โหยหวน ท่ามกลางความโกลาหล จันทิมาหายตัวไปในควันบุหรี่ และเต้ ชายหนุ่มลึกลับที่ยืนดูอยู่ไกลๆ ยิ้มมุมปากอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เมื่อฟื้นขึ้นในโรงพยาบาล พัสกรจับมือแหวนพลอยที่เฝ้าเขา เธอสูญเสียความทรงจำบางส่วนจากแรงระเบิด แต่หัวใจของเธอรู้สึกผูกพันกับชายผู้นี้ “คุณคือใคร?” ถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พัสกรยิ้มเศร้า “ผมคือคนที่สูญเสียทุกอย่าง แต่ยังมีเธอ” สารวัตรนิรุตติ์ เข้ามาสอบสวน ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องตุ้มหูที่พบใกล้จุดระเบิด “ของจันทิมาใช่ไหม?” เขาพึมพำ พัสกรปฏิเสธที่จะเชื่อ เพื่อนเก่าของเขาจะทรยศได้อย่างไร?
วันเวลาผ่านไป พัสกรฟื้นตัวและรวบรวมทีมใหม่ เขาซ้อมเด็กๆ อย่างหนักหน่วง ท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำ “เราจะไม่ยอมแพ้” เขาบอกปั้นที่ขาเจ็บจากเหตุการณ์ แหวนพลอยกลายเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียน เธอเรียนเต้นกับเขา ความรักเบ่งบานช้าๆ ราวกับดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ แต่เงามืดตามหลอกหลอน เต้เข้ามาช่วยเหลือบ่อยครั้ง ด้วยรอยยิ้มที่ซ่อนความลับ “ผมเคยผิดพลาดในอดีต แต่ตอนนี้ผมอยู่ข้างนาย” เขาบอกพัสกร แต่ในใจเต้รู้ดีว่าเขาเป็นสายลับที่แฝงตัวมา
นิรุตติ์ขุดคุ้ยลึกขึ้น เขาพบว่าอคิน เจ้าของโรงเรียนเต้นคู่แข่ง ชายหนุ่มหล่อเหลาแต่ใจร้าย คือผู้บงการ อคินอิจฉาพัสกรมาตั้งแต่สมัยเรียนด้วยกัน เขาร่วมมือกับเสี่ยใหญ่ หัวโจกมาเฟียที่ต้องการที่ดินเพื่อฟอกเงินผ่านธุรกิจเต้นรำปลอม “กำจัดมันซะ” อคินสั่งลูกน้องที่วางระเบิดในวันนั้น จันทิมาเคยแอบฟังได้ เธอเปิดเผยอดีตที่เคยถูกอคินหลอกใช้ “เขาเคยสัญญาจะรักฉัน แต่ทิ้งฉันไปพร้อมความฝันที่พังทลาย” เธอร้องไห้ในอ้อมแขนพัสกร
อันตรายรุมเร้า ลูกน้องอคินไล่ล่าแหวนพลอยในตรอกมืด เธอวิ่งหนี สะดุดล้ม แต่พัสกรมาถึงทัน เขาใช้ท่าเต้นมนตราลายหงส์พลิกตัวหลบมีดที่ฟันมา “รักคือการปกป้อง” เขากระซิบขณะกอดเธอ เด็กๆ อย่างแตงกวาช่วยสอดแนม พวกเขาพบเอกสารลับในโรงเรียนของอคิน นิรุตติ์บุกจับแต่พลาด อคินหนีไปได้
จุดสูงสุดมาถึงในงานแข่งขันเต้นรำใหญ่ที่อคินจัด เป็นฉากหน้าของการฟอกเงิน พัสกรปลอมตัวเข้าร่วมกับทีมหงส์เหิน เวทีสว่างไสว ผู้ชมแน่นขนัด อคินยืนยิ้มเยาะบนอัฒจันทร์ “คืนนี้จบสิ้นนาย” เขาพึมพำ เสี่ยใหญ่นั่งข้างๆ มือถือปืนซ่อนไว้
การแสดงเริ่มต้น พัสกรและแหวน โลยเต้นคู่กัน ลายเส้นมนตราลายหงส์พลิ้วไหว ปีกแห่งหงส์ราวกับมีชีวิต ฟาดฟันอากาศ ผู้ชมปรบมือกึกก้อง แต่แล้วลูกน้องอคินบุกเวที พัสกรพลิกตัวต่อสู้ ใช้ท่าเต้นหลบกระสุนและโจมตีกลับ นิรุตติ์นำตำรวจบุก เต้เสียสละ กระโดดขวางกระสุนที่เล็งพัสกร “ไปให้ถึงฝันซะ!” เขาล้มลงด้วยรอยยิ้ม จันทิมาชี้หลักฐานให้ตำรวจ อคินดิ้นรนแต่ถูกจับ เสี่ยใหญ่ยิงตอบโต้แต่พลาดโดนตัวเอง
มนตราลายหงส์ ไม่ใช่แค่ละครแก้แค้นธรรมดา แต่เป็นการยกย่องพลังของศิลปะในการต่อสู้กับความอยุติธรรม ด้วยพล็อตที่หักมุมหลายครั้งและตอนจบที่สมบูรณ์แบบ เรื่องนี้ยังคงเป็นที่จดจำในใจผู้ชมชาวไทย ต่อไปนี้คือจุดเด่นของละคร
เนื้อเรื่องและพล็อต
“มนตราลายหงส์” เล่าเรื่องของพัสกร (วรินทร ปัญหกาญจน์ หรือเกรท) นักเต้นหนุ่มที่สานต่อความฝันของพ่อด้วยการเปิดโรงเรียนสอนเต้นให้เด็กด้อยโอกาส แต่กลับเผชิญเหตุระเบิดที่เปลี่ยนชีวิตเขาและคนรอบข้าง พล็อตเรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็วและมีหักมุมพอประมาณ โดยใช้ “มนตราลายหงส์” ซึ่งเป็นท่าเต้นลับที่สง่างามดั่งนกหงส์ เป็นสัญลักษณ์หลักที่ผสานเข้ากับธีมการต่อสู้กับความอยุติธรรมและกลุ่มอิทธิพลมืด เนื้อหาสะท้อนประเด็นสังคมอย่างความเหลื่อมล้ำและพลังของศิลปะได้ดี โดยไม่หนักหน่วงเกินไป เหมาะสำหรับครอบครัว แต่จุดอ่อนคือบางตอนอาจดูเร่งรีบเพราะความสั้นของซีรีส์ ทำให้ปมบางอย่างคลี่คลายเร็วเกินไป เช่น การสืบสวนคดีที่ดูเรียบง่ายในบางช่วง
การแสดงและเคมีนักแสดง
นักแสดงนำอย่างเกรท วรินทร ในบทพัสกร ถ่ายทอดความมุ่งมั่นและความเมตตาได้สมจริง โดยเฉพาะฉากเต้นรำที่เขาแสดงเองเกือบทั้งหมด ทำให้ตัวละครดูน่าเชื่อถือ มณีรัตน์ ศรีจรูญ (สายไหม) ในบทแหวนพลอย เป็นนางเอกที่สดใสและกล้าหาญ เคมีคู่กันของทั้งสองถือเป็นไฮไลต์ เพราะเป็นการจับคู่ครั้งแรกที่ลงตัว ความโรแมนติกพัฒนาแบบธรรมชาติ ไม่ฝืน นักแสดงสมทบอย่างสินจัย เปล่งพานิช (จันทิมา) มอบมิติลึกซึ้งให้บทครูสอนเต้นผู้มีปมในใจ อนุชิต สพันธุ์พงษ์ (เต้) และหลุยส์ สก๊อตต์ (อคิน) เพิ่มความตื่นเต้นด้วยบทลึกลับและตัวร้ายที่น่ากลัว ขณะที่เด็กๆ อย่างปั้นและเพื่อนๆ น่ารักและช่วยขับเคลื่อนเรื่องได้ดี โดยรวมการแสดงอยู่ในระดับดีเยี่ยม ให้คะแนน 8/10
โปรดักชันและองค์ประกอบทางเทคนิค
ฉากเต้นรำเป็นจุดขายหลัก ถ่ายทอดด้วยมุมกล้องที่สวยงามและเพลงประกอบที่เร้าใจ โดยเฉพาะเพลงธีม ที่ไพเราะและติดหู การออกแบบท่าเต้นผสมผสานระหว่างบัลเลต์ ร่วมสมัย และศิลปะการต่อสู้ ทำให้ดูสนุกและไม่น่าเบื่อ ฉากแอ็กชันอย่างการไล่ล่าและต่อสู้บนเวทีทำออกมาได้ตื่นเต้น แต่เอฟเฟกต์ระเบิดและซีจีบางจุดดูเป็นธรรมชาติแบบละครไทยทั่วไป ไม่หวือหวาเท่าหนังฮอลลีวูด เสื้อผ้าและสถานที่อย่างโรงเรียนหงส์เหินดูสมจริง สะท้อนบรรยากาศชุมชนไทยได้ดี โปรดักชันโดยรวมให้คะแนน 7.5/10 เพราะงบประมาณที่จำกัดแต่ใช้ได้อย่างคุ้มค่า
ข้อคิดและความบันเทิง
ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ความบันเทิง แต่ยังให้ข้อคิดเรื่องการไม่ยอมแพ้และพลังของความฝัน โดยใช้การเต้นรำเป็นอุปมาที่สวยงาม เหมาะสำหรับผู้ชมที่ชอบละครแนววีรบุรุษผสมโรแมนติก ความยาวสั้นทำให้ดูเพลิน ไม่ยืดเยื้อ แต่ผู้ที่คาดหวังดราม่าหนักๆ อาจรู้สึกเบาไปหน่อย เรทติ้งตอนออกอากาศสูงในกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัว เพราะเนื้อหา positive และแรงบันดาลใจจากศิลปะ
คะแนนรวม 8/10 แนะนำสำหรับใครที่อยากผ่อนคลายกับเรื่องราวที่เต้นระบำระหว่างความรักและความยุติธรรม
มนตราลายหงส์ เป็นละครที่คุ้มค่าแก่การดูซ้ำ โดยเฉพาะสำหรับแฟนซีรีส์ My Hero ที่อยากเห็นเกรทในบทนักเต้น มันพิสูจน์ว่าละครสั้นๆ ก็สามารถสร้าง impact ได้ หากมีหัวใจและความคิดสร้างสรรค์
ละคร มนตราลายหงส์ 2561
ละคร มนตราลายหงส์ 2561
ละคร มนตราลายหงส์ 2561 EP.1-14 ตอนจบCH3+
ฉากเด็ด ละคร มนตราลายหงส์ 2561
คนในฝัน Ost.มนตราลายหงส์ | พล PPP feat.ลำไย ไหทองคำ, เพชร สหรัตน์ | Official MV
ละคร มนตราลายหงส์ 2561
พระเอกของเรา พัสกร แสดงโดยเกรท วรินทร ปัญหกาญจน์ นักเต้นหนุ่มสุดเท่แต่มีปมในใจหนักๆ เลยนะ เขาเคยอายพ่อตัวเองมาก เพราะพ่อชื่อภากร (พีรมณฑ์ ชมธวัช) เป็นนักบัลเลต์ชื่อดัง แต่พัสกรดันทะเลาะกับพ่อใหญ่เลย ก่อนที่พ่อจะถูกรถชนตายต่อหน้า ดราม่าตั้งแต่ต้น หลังจากนั้นพัสกรเลยรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต แล้วตัดสินใจสานต่อฝันพ่อด้วยการเปิดโรงเรียนสอนเต้นชื่อ “หงส์เหิน” ให้เด็กยากไร้ฟรีๆ เลย สอนเด็กกำพร้าอย่างปั้น แตงกวา น้ำฝน และเพชร ที่น่ารักๆ นี่แหละ ธีมหลักคือการเต้นรำที่เป็น “มนตราลายหงส์” ท่าเต้นลับสุดสง่างามดั่งนกหงส์ ที่พ่อสร้างขึ้นมา ผสมบัลเลต์กับศิลปะป้องกันตัว โคตรคูล
นางเอก แหวนพลอย โดยสายไหม มณีรัตน์ ศรีจรูญ สาวกำพร้าที่อาศัยกับปู่ (ชลิต เฟื่องอารมย์) ในต่างจังหวัด เธอสนิทกับพัสกรตั้งแต่เด็ก เพราะเขาเป็นพี่ข้างบ้านที่คอยช่วยเหลือเรื่องเงินทอง เธอมีเพื่อนสนิทชื่อกวง (เตชินท์ ปิ่นชาตรี) ที่แอบรักเธอแต่ไม่กล้าบอก ส่วนแฟนพัสกรคือขวัญกมล (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) สาวหวานที่คอยซัพพอร์ตเขา
วันเปิดโรงเรียนสุดอลังการ ผู้คนมาร่วมเพียบ มีจันทิมา (วรรณปิยะ ออมสินนพกุล) นักเต้นสาวคู่เต้นเก่าของพัสกร, เต้ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) เพื่อนสนิทนักเต้น, และกุ๊งกิ๊ง (วิรากานต์ เซนีตันติกุล) ครูสอนเต้นที่แอบชอบพัสกร พัสกรโชว์ท่าเต้นมนตราลายหงส์เท่ๆ แต่บูม ระเบิดดังสนั่น! พ่อแม่บุญธรรมและน้องสาวต่างสายเลือดของพัสกรตายคาที่ ขวัญกมลบาดเจ็บหนัก พัสกรช็อกสุดๆ เพราะก่อนหน้านี้ได้จดหมายข่มขู่บอก “ถ้าเปิดโรงเรียนจะเสียใจ” แต่เขาไม่เชื่อ นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาทำให้คนรักตาย (ครั้งแรกพ่อไง) ความรู้สึกผิดถาโถมเลย
ที่น่าสนใจคือมนตรี (ดนัย จารุจินดา) หลานพ่อบุญธรรมที่เกลียดพัสกรเข้าไส้ เพราะถูกปลูกฝังให้รังเกียจเด็กกำพร้า โศกนาฏกรรมครั้งนี้ยิ่งทำให้มนตรีโกรธแค้นพัสกรหนักเข้าไปอีก อาจเป็นตัวร้ายซ่อนปมครอบครัว
สารวัตรนิรุตต์ (สมิทธิ ลิขิตมาศกุล) หรืออู๋ ตำรวจหล่อไฟแรงเข้ามาสืบคดี พบผู้ต้องสงสัยจากแขกเชิญที่หายตัว เต้ จันทิมา และกุ๊งกิ๊ง แล้วยังมีคลิปจากมือถือ น้องสาวพัสกรที่กู้คืนมา เผยหญิงสาวลึกลับในงาน! ใครวะ? ลุ้นมาก
หลังออกโรงพยาบาล พัสกรพาขวัญกมลไปพักบ้านเกิดใกล้ๆ บ้านแหวนพลอย เธอเห็นเขาซึมเลยอยากช่วย แหวนพลอยแอบจัดฉากให้พัสกรเจอเด็กชายเพชรที่นั่งเลียนแบบคลิปเต้นเก่าของเขา พัสกรเห็นเพชรตั้งใจเลยจุดไฟในใจ สอนเค้าเต้นเบื้องต้น แต่ขวัญกมลกลัวเลยขอร้องให้หยุด พัสกรรับปากชวนกลับกรุงเทพ แหวนพลอยผิดหวังเพราะเธออยากให้พัสกรฟื้น กวงเลยมาปลอบเธอ (แอบฟินสามเส้า)
แต่พัสกรทนไม่ไหวหรอกครับ เขากลับมาสอนเด็กๆ อีก ตั้งทีมใหม่กับปั้น แตงกวา น้ำฝน และเพชร ปัญหาเกิดเมื่อกุ๊งกิ๊งถูกฉัตรชัย (กนกฉัตร มรรยาทอ่อน) เจ้าของโรงเรียนคู่แข่งซื้อตัว ฉัตรชัยเกลียดพัสกรมานาน เพราะแข่งประกวดเด็กๆ กันตลอด และนี่แหละคือผู้บงการระเบิด เขาร่วมมือกับกลุ่มอิทธิพลอยากยึดที่ดินโรงเรียนไปฟอกเงินผ่านธุรกิจเต้นรำปลอมๆ จดหมายข่มขู่มาจากมันนี่แหละ
แหวนพลอยเข้ากรุงเทพมาช่วยพัสกรเต็มตัว ความรักค่อยๆ ก่อตัว ขวัญกมลรู้สึกไม่มั่นคงเลยถอยไป (ดราม่ารักสามเส้าเบาๆ) การสืบสวนคืบหน้า นิรุตต์พบว่าหญิงลึกลับในคลิปคือลูกน้องฉัตรชัยที่แฝงตัววางระเบิด กุ๊งกิ๊งถูกซื้อเพราะอิจฉาแต่สุดท้ายสำนึกผิดกลับมาช่วย เต้พิสูจน์ว่าเป็นเพื่อนแท้ (ไม่ใช่ผู้ร้าย) จันทิมาก็มีปมอดีตกับฉัตรชัยที่เคยหลอกเธอ
คลายปมใหญ่ตอนกลางๆ มนตรีถูกเปิดเผยว่าถูกฉัตรชัยยุยงให้เกลียดพัสกรเพื่อแย่งมรดกครอบครัว แต่สุดท้ายมนตรีเห็นความดีของพัสกรเลยหันมาช่วย การไล่ล่าตื่นเต้น พัสกรและแหวนพลอยถูกตามฆ่า แต่ใช้ท่าเต้นหลบหลีกแบบแอ็กชั่นผสมบัลเลต์ โคตรเท่
ไคลแม็กซ์ในงานแข่งเต้นใหญ่ที่ฉัตรชัยจัดเป็นฉากหน้าฟอกเงิน พัสกรปลอมทีมเข้าแข่ง โชว์มนตราลายหงส์สุดอลังการ ต่อสู้กับลูกน้องบนเวที นิรุตต์บุกจับ ฉัตรชัยถูกเปิดโปง มนตรีช่วยหลักฐาน เต้เสียสละขวางกระสุน (น้ำตาแตกตรงนี้) ขวัญกมลฟื้นแต่ยอมให้พัสกรไปกับแหวนพลอย
เบื้องหลังแบบ exclusive ละคร มนตราลายหงส์ 2561 เรื่องนี้แพ็คความสนุกด้วยการเต้นรำผสมดราม่า แต่เบื้องหลังคือทีมงานระดับเทพที่ทำให้ทุกอย่างลงตัว จากบทประพันธ์สุดลึกซึ้งไปจนถึงโปรดักชันใหญ่โต ไปดูว่าทีมไหนอยู่เบื้องหลังที่ทำให้พัสกรและแหวนพลอยเต้นระบำในใจเราได้ขนาดนี้
บทประพันธ์โดย ศตรัศมิ์ – ต้นกำเนิดไอเดียมนตร์เต้นรำที่สะท้อนสังคม
เริ่มต้นที่บทประพันธ์มาจากปากกาของ “ศตรัศมิ์” นักเขียนนิยายไทยชื่อดังที่เชี่ยวชาญเรื่องดราม่าแอ็กชันผสมโรแมนติก คุณศตรัศมิ์เคยให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีว่าคิดไอเดียนี้จากประสบการณ์จริงของนักเต้นที่เจออุปสรรคในวงการศิลปะไทย ธีม “มนตราลายหงส์” ที่เป็นท่าเต้นลับเนี่ย มันมาจากแรงบันดาลใจนกหงส์ในวรรณคดีไทย ผสมกับปัญหาสังคมอย่างเด็กด้อยโอกาสและการฟอกเงินในธุรกิจบันเทิง นิยายต้นฉบับขายดีเลยนะ ทำให้ช่อง 3 เลือกมาทำละคร เพราะมัน positive และแรงบันดาลใจสูง ถ้าไม่มีคุณศตรัศมิ์ เราคงไม่มีพัสกรที่เต้นสู้ชีวิตแบบนี้หรอกครับ คุณศตรัศมิ์แอบใส่ปมทะเลาะกับพ่อจากเรื่องจริงในครอบครัวตัวเองด้วยนะ
บทโทรทัศน์โดย ปลายสี – การดัดแปลงให้เข้ากับจอแก้วแบบเป๊ะ
จากนิยายสู่บทละคร มอบหมายให้ “ปลายสี” บทโทรทัศน์สาวเก่งที่เคยเขียนเรื่องดังๆ อย่างในซีรีส์ช่อง 3 เยอะมาก คุณปลายสีปรับพล็อตให้กระชับ ไม่ยืดเยื้อ เพิ่มฉากเต้นรำให้ตระการตา และใส่หักมุมปริศนาระเบิดให้ลุ้น ตามนิยายต้นฉบับ เธอเล่าว่าใช้เวลา research การเต้นบัลเลต์จริงๆ ไปดูโชว์ถึงโรงละครแห่งชาติ เพื่อให้ท่า “มนตราลายหงส์” ดูสมจริงและสง่างาม ในบทเธอเพิ่มตัวละครเด็กๆ อย่างปั้นกับเพชร ให้มีบทเด่นขึ้น เพราะอยากสะท้อนประเด็นเด็กกำพร้าในสังคมไทย คุณปลายสีเคยบอกว่าต้องตัดฉากโรแมนติกบางส่วนออกเพราะกลัวผู้ชมงง แต่สุดท้ายเคมีพระนางยังฟินอยู่
กำกับการแสดงโดย ตระกูล อรุณสวัสดิ์ – มือทองที่ทำให้ฉากเต้นเป็นตำนาน
ผู้กำกับใหญ่ “ตระกูล อรุณสวัสดิ์” นี่คือพระเจ้าแห่งละครแอ็กชันผสมดราม่าเลยครับ เขาเคยกำกับเรื่องดังใน My Hero ชุดนี้หลายตอน คุณตระกูลเล่าว่า challenge ที่สุดคือถ่ายฉากเต้นรำกับระเบิด ต้องใช้สตันท์แมนและนักเต้นมือโปรกว่า 50 คน เกรท วรินทร เต้นเองจริงๆ เกือบทุกฉาก คุณตระกูลฝึกเขาเพิ่ม 2 เดือนเพื่อให้พลิ้วเหมือนนกหงส์ เบื้องหลัง ฉากระเบิดใช้เอฟเฟกต์จริงผสม CGI งบประมาณทะลุหลักล้าน แต่คุ้มเพราะ viral มาก ผู้กำกับยังใส่ใจนักแสดงเด็กๆ ให้แสดงธรรมชาติ ไม่ฝืน ถ้าไม่มีคุณตระกูล ละครคงไม่ตื่นเต้นขนาดนี้
ผลิตโดย บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด – ค่ายยักษ์ที่เนรมิตทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ
ปิดท้ายด้วยโปรดิวเซอร์ “บริษัท ชลลัมพี โปรดั๊กชั่น จำกัด” ค่ายดังที่ผลิตละครช่อง 3 มานับไม่ถ้วน พวกเขาลงทุนใหญ่เรื่องสถานที่ ถ่ายทำที่สตูดิโอจริงและโลเคชันชานเมืองเพื่อให้ดูสมจริง ทีมงานกว่า 100 ชีวิต ดูแลตั้งแต่คอสตูมชุดเต้นสุดอลังไปจนเพลงประกอบที่ไพเราะ ชลลัมพีเคยให้สัมภาษณ์ว่างบเรื่องนี้สูงเพราะเชิญนักออกแบบท่าเต้นจากต่างประเทศมาช่วย ทำให้ซีรีส์ My Hero ชุดนี้เรทติ้งพุ่ง ค่ายนี้คือเหตุผลที่ละครออกมาคุณภาพสูง ไม่มีสะดุด
จากศตรัศมิ์ที่เขียน ปลายสีที่ดัด ตระกูลที่กำกับ และชลลัมพีที่ผลิต ทำให้ “มนตราลายหงส์” เป็นละครที่ไม่ใช่แค่ดูสนุก แต่ยังมีคุณค่าทางศิลปะและสังคม ถ้าคุณชอบ แบบนี้ บอกเลยว่าทีมงานทุกคนทุ่มเทมาก
นักแสดง
→ วรินทร ปัญหกาญจน์ รับบท พัสกร

หนุ่มนักเต้นฝีมือฉกาจวัยสามสิบต้นๆ ร่างกายกำยำจากฝึกบัลเลต์และศิลปะป้องกันตัวมาตั้งแต่เด็ก เขาเติบโตในครอบครัวยากจนแต่ได้รับการอุปการะจากพ่อแม่บุญธรรม มีพ่อแท้ๆ ชื่อภากรเป็นนักบัลเลต์ที่เขาอายมากจนทะเลาะใหญ่ก่อนพ่อถูกรถชนตายต่อหน้า ทำให้พัสกรรู้สึกผิดตลอดกาลและกลายเป็นแรงผลักดันให้สานต่อฝันพ่อด้วยการเปิดโรงเรียนหงส์เหินสอนเต้นฟรีให้เด็กด้อยโอกาสอย่างปั้น เพชร แตงกวา น้ำฝน เขาเมตตาเด็กๆ เห็นพวกเขาเป็นโอกาสไถ่บาป แต่ลึกๆ มีด้านมุ่งมั่นดื้อรั้น
เวลาเจออุปสรรคอย่างระเบิดในวันเปิดโรงเรียนที่ทำให้ญาติและแฟนขวัญกมลบาดเจ็บ เขาจะอดโทษตัวเองและลุกขึ้นสู้ด้วยท่าเต้นมนตราลายหงส์ที่ผสมสง่างามกับการต่อสู้ ในความสัมพันธ์ เขาเริ่มจากเพื่อนสนิทกับแหวนพลอยที่คอยช่วยฟื้นใจ พัฒนาเป็นความรักลึกซึ้ง เคมีลงตัวแบบธรรมชาติ แต่กับคู่แข่งอย่างฉัตรชัยหรือมนตรีที่เกลียดเขา เขาจะปกป้องทุกอย่างด้วยหัวใจวีรบุรุษ การแสดงของเกรททำให้พัสกรดูสมจริง โดยเฉพาะฉากเต้นที่เขาเต้นเองจริงๆ ถ่ายทอดความเจ็บปวดจากปมพ่อออกมาได้กินใจ ถือเป็นบทที่โชว์สกิลแอ็กชันผสมดราม่าได้ดีมาก
ฉายาของพัสกรคือ นักเต้นไถ่บาป
เพราะเขาใช้การเต้นรำเป็นเครื่องมือล้างบาปจากความผิดพลาดในอดีต เช่น การทะเลาะกับพ่อจนพ่อตาย และการไม่เชื่อจดหมายข่มขู่ที่ทำให้เกิดระเบิดฆ่าญาติ ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่ไม่ยอมแพ้ แม้เจอความสูญเสียซ้ำๆ เขาจะแปลงความเจ็บเป็นพลังสอนเด็กๆ และต่อสู้กับผู้ร้ายด้วยท่าหงส์ที่สง่างาม ทำให้เขาเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นคืนจากเถ้าถ่านเหมือนนกหงส์ในตำนาน
ข้อคิดจากพัสกรคือ ความผิดพลาดในอดีตไม่ใช่จุดจบแต่เป็นแรงผลักสู่การทำความดี
เพราะเขาเคยอายพ่อและทะเลาะจนเสียคนรักไป แต่เลือกสานต่อด้วยการช่วยเด็กกำพร้า สอนให้รู้ว่าการไถ่บาปด้วยการกระทำจริง เช่น การเปิดโรงเรียนท่ามกลางอันตราย ช่วยให้หัวใจเข้มแข็งและชนะความชั่วในที่สุด ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าทุกคนมีปม แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นพลังบวก ชีวิตจะบินสูงได้เหมือนมนตราลายหงส์
→ มณีรัตน์ ศรีจรูญ รับบท แหวนพลอย

หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก อาศัยกับปู่ในต่างจังหวัดแบบเรียบง่ายแต่หัวใจwarmและกล้าหาญ เธอสนิทกับพัสกรตั้งแต่เด็กๆ เพราะเขาเป็นพี่ข้างบ้านที่คอยช่วยเหลือด้านการเงินและให้กำลังใจ เธอมีเพื่อนสนิทชื่อกวงที่แอบรักแต่เธอไม่รู้ตัว ทำให้มีมิติสามเส้าโรแมนติกเบาๆ เมื่อรู้ข่าวระเบิดที่โรงเรียนหงส์เหิน เธอรีบเข้ากรุงเทพเพื่อช่วยพัสกรที่เธอผูกพัน เห็นเขาซึมจากสูญเสียญาติและแฟนขวัญกมลบาดเจ็บ เธอแอบจัดฉากให้พัสกรเจอเด็กชายเพชรเพื่อจุดไฟในใจเขาให้กลับมาสอนเต้น
เธอเองก็พัฒนาจากเพื่อนสนิทสู่คนรัก กลายเป็นพันธมิตรต่อสู้กับผู้ร้ายอย่างฉัตรชัย ใช้ความฉลาดและความเมตตาช่วยสืบและปกป้องเด็กๆ ในความสัมพันธ์ เธอสดใสธรรมชาติแต่แฝงความเข้มแข็ง เวลาพัสกรสิ้นหวังเธอจะคอยปลอบและผลักดัน การแสดงของสายไหมทำให้แหวนพลอยดูน่ารักสมจริง โดยเฉพาะฉากโรแมนติกที่เคมีกับเกรทลงตัว และฉากดราม่าที่สะท้อนความกำพร้าได้กินใจ ถือเป็นบทที่โชว์สกิลนางเอกใจดีผสมแอ็กชันได้ดีมาก
ฉายาของแหวนพลอยคือ แสงหงส์แห่งความหวัง
เพราะเธอเหมือนแสงสว่างที่นำทางพัสกรให้บินสูงอีกครั้งท่ามกลางความมืด จากการสูญเสียและปมอดีต เธอใช้ความผูกพันวัยเด็กและความกล้าหาญจัดฉากช่วยเขาเจอเพชร จุดประกายให้พัสกรฟื้นโรงเรียนและต่อสู้ด้วยมนตราลายหงส์ ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่อบอุ่นแต่แข็งแกร่ง เหมือนปีกหงส์ที่ปกป้องทุกคนรอบตัว ทำให้เธอเป็นสัญลักษณ์ของการเยียวยาผ่านความรักและมิตรภาพ
ข้อคิดจากแหวนพลอยคือ ความผูกพันเก่าอาจเป็นกุญแจปลดล็อกหัวใจที่ปิดตาย
เพราะเธอใช้ความสนิทกับพัสกรตั้งแต่เด็กช่วยเขาฟื้นจากความผิดพลาดและสูญเสีย เช่น การรีบเข้ากรุงเทพและผลักดันให้เขาสอนเด็กต่อ สอนให้รู้ว่าการช่วยเหลือคนที่รักด้วยสิ่งเล็กๆ อย่างการจัดฉากหรือให้กำลังใจ สามารถเปลี่ยนชีวิตคนหนึ่งได้ทั้งหมด ข้อคิดนี้ชวนคิดว่ามิตรภาพแท้สามารถเอาชนะความสิ้นหวัง และนำไปสู่ความรักที่ยั่งยืน
→ ณัฐฐาวีรนุช ทองมี รับบท ขวัญกมล

หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ อ่อนโยนและซัพพอร์ตเต็มที่ เป็นแฟนสาวของพัสกรที่คบกันมานาน คอยอยู่เคียงข้างเขาในช่วงสร้างโรงเรียนหงส์เหิน เธอเป็นคนธรรมดาที่รักศิลปะการเต้นผ่านพัสกร แต่ลึกๆ มีด้านกลัวและปกป้องตัวเองสูง เมื่อเกิดระเบิดในวันเปิดโรงเรียน เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและเห็นพัสกรซึมจากสูญเสียญาติ ทำให้เธอไม่สบายใจเวลาพัสกรอยากกลับมาสอนเต้นเพราะกลัวเขาจะเสี่ยงอีก
เธอขอร้องให้เขาหยุดและพากลับกรุงเทพเพื่อพักฟื้น ในความสัมพันธ์ เธอเริ่มมั่นคงแต่ค่อยๆ รู้สึกไม่มั่นใจเมื่อแหวนพลอยเข้ามาใกล้ชิดพัสกรมากขึ้น สุดท้ายเธอเลือกถอยเพื่อความสุขของเขา การแสดงของณัฐฐาวีรนุชทำให้ขวัญกมลดูสมจริงในฐานะคนรักที่อ่อนแอแต่มีเหตุผล โดยเฉพาะฉากดราม่าบาดเจ็บและการยอมแพ้ ถือเป็นบทที่เพิ่มความซับซ้อนให้รักสามเส้าได้ดีมาก
ฉายาของขวัญกมลคือ ดอกไม้ที่บอบบางในพายุ
เพราะเธอเหมือนดอกไม้สวยงามที่คอยซัพพอร์ตพัสกรแต่เปราะบางเมื่อเจอพายุสูญเสียอย่างระเบิดที่ทำให้เธอบาดเจ็บและกลัวการเต้นรำที่จะนำภัยมาอีก ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่อ่อนโยนแต่ขาดความเข้มแข็งในการเผชิญหน้า ทำให้เธอถอยจากความรักเพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดเพิ่ม เหมือนดอกไม้ที่รอวันบานแต่พายุทำให้โรยรา
ข้อคิดจากขวัญกมลคือ การรู้จักปล่อยวางคือความรักที่แท้จริง
เพราะเธอรักพัสกรมากแต่เห็นว่าเขามีความสุขกับการสอนเต้นและแหวนพลอยที่เข้าใจปมเขา เธอจึงยอมถอยแม้ใจเจ็บ สอนให้รู้ว่าความรักไม่ใช่การครอบครองแต่เป็นการเห็นคนที่รักเดินตามฝัน ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าการถอยบางครั้งช่วยให้ทุกคนเติบโต และป้องกันความสูญเสียที่ใหญ่กว่า
→ อนุชิต สพันธุ์พงษ์ รับบท เต้

ชายหนุ่มนักเต้นวัยสามสิบต้นๆ ลึกลับแต่ภักดี เป็นเพื่อนสนิทของพัสกรที่คอยช่วยเหลือตั้งแต่สมัยเรียนเต้นด้วยกัน เขาได้รับเชิญงานเปิดโรงเรียนหงส์เหินแต่มาสาย ทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีระเบิดของสารวัตรนิรุตต์ ลึกๆ เขามีปมอดีตที่เคยผิดพลาดในวงการเต้นจนเกือบถอดใจ
แต่ความสนิทกับพัสกรทำให้เขากลับมาแฝงตัวช่วยสืบและปกป้องทีม ในความสัมพันธ์ เขาเป็นพี่น้องแท้ๆ ที่คอยให้คำปรึกษา แต่เมื่อเรื่องราวคลี่คลาย เขาพิสูจน์ตัวเองด้วยการเสียสละในไคลแม็กซ์ การแสดงของอนุชิตทำให้เต้ดูเท่เข้มสมบทสายลับ โดยเฉพาะฉากแอ็กชันและดราม่าเพื่อน ถือเป็นบทที่เพิ่มความตื่นเต้นให้พล็อตสืบสวนได้ดีมาก
ฉายาของเต้คือ เพื่อนในเงาที่เสียสละ
เพราะเขาเหมือนเงาที่คอยหนุนพัสกรจากด้านหลัง แม้ถูกสงสัยจากตำรวจและปมอดีตที่ซ่อนไว้ เขาแฝงตัวช่วยสืบผู้ร้ายอย่างฉัตรชัย จนสุดท้ายขวางภัยแทนเพื่อนในงานแข่งเต้นใหญ่ ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่เงียบแต่หนักแน่น มิตรภาพที่แท้จริงไม่ต้องประกาศแต่พิสูจน์ด้วยการกระทำ เหมือนเงาหงส์ที่ปกป้องปีกหลักให้บินต่อ
ข้อคิดจากเต้คือ มิตรภาพแท้ต้องพิสูจน์ด้วยการเสียสละ
เพราะเขาเคยผิดพลาดแต่เลือกกลับมาช่วยพัสกรแม้เสี่ยงถูกเข้าใจผิด สอนให้รู้ว่าการยืนเคียงข้างเพื่อนในยามยากอย่างการแฝงสืบหรือขวางกระสุน ช่วยรักษาความฝันร่วมกันได้ ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าเพื่อนดีไม่ใช่คนที่อยู่เฉยๆ แต่เป็นคนที่พร้อมเสี่ยงเพื่อเห็นอีกฝ่ายชนะ
→ สมิทธิ ลิขิตมาศกุล รับบท พ.ต.ต. นิรุตต์

ตำรวจหนุ่มไฟแรงวัยสามสิบกลางๆ รูปร่างสูงโปร่งเข้มแข็งจากพื้นฐานนักกีฬา เป็นนายตำรวจที่ได้รับมอบหมายสืบคดีระเบิดโรงเรียนหงส์เหินทันที เขาเริ่มจากสงสัยผู้ต้องสงสัยอย่างเต้ จันทิมา และกุ๊งกิ๊ง จากรายชื่อแขกเชิญที่หายตัว ลึกๆ เขามีด้านยุติธรรมสูงและฉลาดวิเคราะห์หลักฐาน เช่น คลิปวิดีโอมือถือของน้องสาวพัสกรที่กู้คืนมา เผยหญิงสาวลึกลับในงาน ทำให้เขาขุดลึกถึงผู้บงการฉัตรชัยและกลุ่มฟอกเงิน
ในความสัมพันธ์ เขาเป็นพันธมิตรกับพัสกรและแหวนพลอย คอยปกป้องทีมเต้นและบุกจับในไคลแม็กซ์งานแข่งใหญ่ การแสดงของสมิทธิทำให้ นิรุตต์ ดูเท่สมบทฮีโร่ตำรวจ โดยเฉพาะฉากสืบและแอ็กชัน ถือเป็นบทที่เพิ่มความตื่นเต้นให้พล็อตอาชญากรรมได้ดีมาก
ฉายาของนิรุตต์คือ ผู้พิทักษ์เงาหงส์
เพราะเขาเหมือนผู้คุ้มครองจากเงามืดที่คอยสืบและปกป้องความฝันของพัสกรกับเด็กๆ ด้วยหลักฐานและการบุกจับ เหมือนปีกเงาที่สนับสนุนหงส์หลักให้บินปลอดภัยจากภัยอย่างระเบิดและผู้ร้าย ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่เงียบแต่เด็ดขาด ยุติธรรมที่ไม่ปล่อยปริศนาใดหลุดมือ ทำให้เขาเป็นสัญลักษณ์ของกฎหมายที่ช่วยศิลปะเอาชนะความชั่ว
ข้อคิดจากนิรุตต์คือ ความยุติธรรมต้องมาจากหลักฐานและความมุ่งมั่น
เพราะเขาไม่ตัดสินเร็วแต่ขุดคลิปและเบาะแสหญิงลึกลับจนเปิดโปงฉัตรชัย สอนให้รู้ว่าการสืบสวนด้วยสติและความกล้า เช่น การบุกงานแข่งเต้น ช่วยล้มเครือข่ายอาชญากรและคืนความสงบให้สังคม ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าตำรวจดีไม่ใช่แค่จับแต่ต้องปกป้องความฝันของคนบริสุทธิ์ด้วย
→ วรรณปิยะ ออมสินนพกุล รับบท จันทิมา

หญิงสาวนักเต้นอาวุโสวัยสี่สิบต้นๆ สง่างามและมีประสบการณ์จากวงการบัลเลต์มานาน เป็นคู่เต้นเก่าของพัสกรและพ่อเขา ทำให้เธอสนิทสนมเหมือนครอบครัว เธอได้รับเชิญงานเปิดโรงเรียนหงส์เหินแต่หายตัวไปช่วงระเบิด ทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากตุ้มหูที่พบใกล้จุดเกิดเหตุ ลึกๆ เธอมีปมอดีตที่เคยถูกหลอกใช้โดยผู้ร้ายอย่างฉัตรชัยในวัยสาว ทำให้รู้จุดอ่อนของเขาและช่วยสืบให้พัสกร
ในความสัมพันธ์ เธอเป็นเสาหลักให้คำปรึกษาและกำลังใจ ช่วยฟื้นทีมเต้นและเปิดเผยความจริงตอนคลี่คลาย การแสดงของวรรณปิยะทำให้จันทิมาดูสงบแต่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะฉากเปิดปมและให้คำแนะนำ ถือเป็นบทที่เพิ่มความอบอุ่นให้พล็อตดราม่าได้ดีมาก
ฉายาของจันทิมาคือ ปีกหงส์อาวุโส
เพราะเธอเหมือนปีกผู้ใหญ่ที่คอยหนุนหงส์รุ่นใหม่ให้บินสูงด้วยประสบการณ์ แม้ถูกสงสัยจากตุ้มหูและปมเก่า เธอใช้ความรู้จุดอ่อนของฉัตรชัยช่วยพัสกรสืบและต่อสู้ ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่สง่างามแต่แฝงบาดแผล เหมือนปีกหงส์ที่ผ่านพายุแต่ยังปกป้องรัง ทำให้เธอเป็นสัญลักษณ์ของ mentor ที่เปลี่ยนปมเป็นพลัง
ข้อคิดจากจันทิมาคือ ประสบการณ์อดีตคืออาวุธในการปกป้องอนาคต
เพราะเธอเคยถูกหลอกแต่เลือกเปิดปมช่วยพัสกรเปิดโปงผู้ร้าย สอนให้รู้ว่าการเผชิญบาดแผลเก่าอย่างการให้คำปรึกษาและช่วยสืบ สามารถป้องกันความสูญเสียใหม่และสานต่อความฝันศิลปะ ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าผู้ใหญ่ที่มีปมไม่ควรซ่อนแต่ใช้มันสร้างความดีให้รุ่นหลัง
→ วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบท กุ๊งกิ๊ง

หญิงสาวนักเต้นวัยยี่สิบปลายๆ ขี้เล่นแต่แฝงความอิจฉา เป็นครูช่วยสอนในโรงเรียนหงส์เหินที่แอบชอบพัสกรมาตลอด เธอแสดงออกตรงๆ จนบางครั้งสร้างความอึดอัด เธอได้รับเชิญงานเปิดโรงเรียนแต่หายตัวช่วงระเบิด ทำให้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยจากนิรุตต์ ลึกๆ เธอมีด้านเปราะบางจากความรักข้างเดียวที่ไม่สมหวัง จนถูกฉัตรชัยเจ้าของคู่แข่งซื้อตัวไปด้วยเงินและคำหลอก แต่เมื่อเห็นความชั่วของเขา เธอสำนึกผิดกลับมาช่วยพัสกรสืบและไถ่โทษ
ในความสัมพันธ์ เธอเริ่มจากเพื่อนร่วมงานแต่พลิกเป็นพันธมิตรตอนคลี่คลาย การแสดงของวิรากานต์ทำให้กุ๊งกิ๊งดูน่ารักสมจริงในฐานะคนธรรมดาที่ผิดพลาด โดยเฉพาะฉากอิจฉาและกลับตัว ถือเป็นบทที่เพิ่มความขัดแย้งภายในให้พล็อตเต้นรำได้ดีมาก
ฉายาของกุ๊งกิ๊งคือ หงส์น้อยหลงทาง
เพราะเธอเหมือนนกหงส์รุ่นใหม่ที่บินผิดทางจากความอิจฉาและถูกล่อด้วยเงินของฉัตรชัยจนทรยศทีม แต่สุดท้ายหลงทางนั้นนำกลับสู่รังด้วยการสำนึกผิดช่วยสืบ ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่สดใสแต่เปราะบาง ความรักข้างเดียวทำให้หลงแต่ความดีดึงกลับ เหมือนหงส์ที่พลาดแต่ยังโบยบินได้ใหม่
ข้อคิดจากกุ๊งกิ๊งคือ การสำนึกผิดคือก้าวแรกสู่การไถ่โทษ
เพราะเธอถูกซื้อตัวแต่เห็นความชั่วแล้วเลือกกลับมาช่วยพัสกรเปิดโปง สอนให้รู้ว่าความผิดจากอิจฉาหรือเงินสามารถแก้ได้ด้วยการกระทำดี เช่น การกลับทีมและให้ข้อมูลจุดอ่อนผู้ร้าย ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าทุกคนหลงได้แต่การยอมรับและเปลี่ยนข้างช่วยสร้างความดีที่ใหญ่กว่า
→ กนกฉัตร มรรยาทอ่อน รับบท ฉัตรชัย

ชายหนุ่มเจ้าของโรงเรียนเต้นวัยสี่สิบต้นๆ หล่อเหลาแต่ใจร้าย อิจฉาพัสกรมาตั้งแต่สมัยแข่งขันประกวดเด็กๆ เพราะพัสกรมักชนะและมีพรสวรรค์จากพ่อ เขาใช้ธุรกิจเต้นรำเป็นฉากหน้าฟอกเงินให้กลุ่มอิทธิพล สั่งวางระเบิดโรงเรียนหงส์เหินเพื่อยึดที่ดินและกำจัดคู่แข่ง ลึกๆ เขามีด้านโลภและยุยงคนอย่างมนตรีหรือซื้อกุ๊งกิ๊งด้วยเงิน
ในความสัมพันธ์ เขาเคยหลอกจันทิมาในวัยสาวทำให้เธอรู้จุดอ่อน สุดท้ายจัดงานแข่งใหญ่เป็นกับดักแต่ถูกเปิดโปง การแสดงของกนกฉัตรทำให้ฉัตรชัยดูน่ากลัวสมจริงในฐานะบอสชั่ว โดยเฉพาะฉากสั่งการและเผชิญหน้า ถือเป็นบทที่เพิ่มความตึงเครียดให้พล็อตอาชญากรรมได้ดีมาก
ฉายาของฉัตรชัยคือ มารหงส์ดำ
เพราะเขาเหมือนนกหงส์ที่บินในเงามืด ใช้ความสง่างามของธุรกิจเต้นรำปกปิดความชั่วอย่างฟอกเงินและวางระเบิด ยุยงอิจฉาเพื่อทำลายพัสกร ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่หลอกลวงภายนอกหรูแต่ภายในดำมืด เหมือนหงส์ที่ย้อมสีเพื่อกลืนความโลภ ทำให้เขาเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วที่แฝงในศิลปะ
ข้อคิดจากฉัตรชัยคือ ความโลภนำพาความพินาศเพราะทำลายผู้อื่น
การอิจฉาและใช้เงินซื้อคนอย่างกุ๊งกิ๊งหรือวางระเบิดเพื่อยึดที่ดิน สุดท้ายถูกหลักฐานจากนิรุตต์และจันทิมาพลิกกลับ ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าความชั่วที่สร้างจากความอยากได้มักล้มเหลวเมื่อเจอความดีรวมพลัง และธุรกิจที่สกปรกไม่ยั่งยืน
→ เตชินท์ ปิ่นชาตรี รับบท กวง

ชายหนุ่มวัยยี่สิบปลายๆ อบอุ่นและซื่อสัตย์ เป็นเพื่อนสนิทของแหวนพลอยตั้งแต่เด็กในต่างจังหวัด คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอโดยไม่หวังผลตอบแทน เขารู้จักพัสกรผ่านเธอและช่วยเหลือเบื้องหลัง ลึกๆ เขาแอบรักแหวนพลอยแต่ไม่กล้าบอกเพราะเห็นเธอผูกพันกับพัสกร เมื่อเธอผิดหวังจากข่าวระเบิดและการช่วยพัสกร เขาจะมาปลอบและให้กำลังใจ ในความสัมพันธ์ เขาเป็นตัวละครที่เพิ่มมิติสามเส้าโรแมนติกเบาๆ แต่สุดท้ายยอมรับความจริงและสนับสนุนเธอ การแสดงของเตชินท์ทำให้กวงดูนุ่มนวลสมจริงในฐานะเพื่อนแท้ โดยเฉพาะฉากปลอบและถอยเพื่อความสุขเธอ ถือเป็นบทที่เพิ่มความอบอุ่นให้พล็อตโรแมนติกได้ดีมาก
ฉายาของกวงคือ ผู้พิทักษ์เงาของหงส์
เพราะเขาเหมือนผู้คุ้มครองจากเงาที่คอยปลอบแหวนพลอยเมื่อเธอเจอพายุอารมณ์จากพัสกรและสูญเสีย แอบรักแต่เลือกปกป้องมิตรภาพ ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่เงียบแต่หนักแน่น ความรักที่ไม่เห็นแก่ตัวทำให้เขาเป็นเงาที่ช่วยหงส์หลักบินต่อโดยไม่บังแสง
ข้อคิดจากกวงคือ ความรักที่แท้ไม่ต้องครอบครองแต่ให้กำลังใจ
เพราะเขาแอบรักแต่เลือกปลอบแหวนพลอยและยอมถอยเมื่อเห็นเธอมีความสุขกับพัสกร สอนให้รู้ว่าการสนับสนุนจากเงาเช่นการอยู่เคียงเมื่อผิดหวัง ช่วยรักษามิตรภาพและนำความสุขที่ยั่งยืน ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าเพื่อนที่รักจริงมักเสียสละเพื่อเห็นอีกฝ่ายบินสูง
→ ชลิต เฟื่องอารมย์ รับบท ปู่ของแหวนพลอย

ชายชราวัยเจ็ดสิบต้นๆ ใจดีและเรียบง่าย อาศัยในต่างจังหวัดกับหลานสาวกำพร้าอย่างแหวนพลอยที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก เขาเป็นเสาหลักครอบครัวที่ให้ความรักแบบเงียบๆ และสนับสนุนการตัดสินใจของเธอ ลึกๆ เขามีพื้นฐานชีวิตยากลำบากแต่สอนหลานให้เข้มแข็ง เมื่อแหวนพลอยรีบเข้ากรุงเทพช่วยพัสกรหลังระเบิด เขาจะคอยให้คำแนะนำจากไกลๆ และรอเธอกลับ ในความสัมพันธ์ เขาเป็นพื้นฐานที่ทำให้แหวนพลอยมีหัวใจเมตตา การแสดงของชลิตทำให้ปู่ดูสมจริงในฐานะปู่ไทยแท้ โดยเฉพาะฉากให้กำลังใจและความห่วงใย ถือเป็นบทที่เพิ่มความอบอุ่นพื้นฐานให้พล็อตครอบครัวได้ดีมาก
ฉายาของปู่แหวนพลอยคือ รากหงส์แห่งความเมตตา
เพราะเขาเหมือนรากไม้ที่คอยหล่อเลี้ยงหงส์อย่างแหวนพลอยให้เติบโตแข็งแรงด้วยความรักและคำสอนจากชีวิตต่างจังหวัด แม้ไม่ปรากฏมากแต่เป็นฐานที่ทำให้เธอกล้าหาญช่วยพัสกร ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่เงียบแต่หนักแน่น ความเมตตาที่สอนหลานให้บินสูงโดยไม่หวง
ข้อคิดจากปู่แหวนพลอยคือ ความรักจากรากฐานครอบครัวคือแรงผลักให้กล้าหาญ
เพราะเขาเลี้ยงแหวนพลอยด้วยความเรียบง่ายแต่ให้อิสระตัดสินใจเข้ากรุงเทพ สอนให้รู้ว่าการสนับสนุนเงียบๆ เช่น การรอและให้คำแนะนำ ช่วยให้ลูกหลานเผชิญพายุชีวิตและช่วยผู้อื่นได้ ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าผู้สูงอายุที่เมตตาคือรากที่ทำให้ต้นไม้แห่งความดีเติบโตยั่งยืน
→ พีรมณฑ์ ชมธวัช รับบท ครูภากร

ชายวัยกลางคนนักบัลเลต์ชื่อดังแต่ชีวิตยากจน เป็นพ่อแท้ๆ ของพัสกรที่ทุ่มเทสอนเต้นรำให้ลูกแต่ถูกมองว่าอายจากสังคม เขาสร้างท่า “มนตราลายหงส์” ที่ผสมสง่างามกับศิลปะป้องกันตัวเพื่อเป็นมรดก ลึกๆ เขามีด้านเมตตาและมุ่งมั่นสานฝันเปิดโรงเรียนให้เด็กด้อยโอกาส แต่ทะเลาะกับพัสกรก่อนถูกรถชนตายต่อหน้า ทำให้กลายเป็น flashback ที่หลอกหลอนลูก ในความสัมพันธ์ เขาเป็นแรงผลักดันที่ทำให้พัสกรไถ่บาปและสอนเด็กๆ การแสดงของพีรมณฑ์ทำให้ครูภากรดูสง่างามสมจริงในฐานะ mentor ผู้ล่วงลับ โดยเฉพาะฉากทะเลาะและมรดกท่าเต้น ถือเป็นบทที่เพิ่มความลึกให้พล็อตปมครอบครัวได้ดีมาก
ฉายาของครูภากรคือ ผู้สร้างมนตร์หงส์
เพราะเขาเหมือนจอมเวทที่ร่ายมนตร์ผ่านท่าเต้นลายหงส์ให้พัสกรสืบทอด แม้ตายแต่ยังหลอกหลอนและจุดประกายลูกให้สานต่อโรงเรียน ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่สร้างสรรค์แต่เจ็บปวด ความฝันที่กลายเป็นมนตร์ปกป้องลูกจากความสูญเสีย ทำให้เขาเป็นสัญลักษณ์ของพ่อที่ให้มรดกทางใจเหนือกาย
ข้อคิดจากครูภากรคือ มรดกที่แท้คือความฝันที่สอนให้บินต่อ
เพราะเขาสร้างท่าเต้นและฝันโรงเรียนให้เด็กยากไร้ แม้ทะเลาะกับลูกแต่สุดท้ายจุดไฟให้พัสกรลุกขึ้นสู้ สอนให้รู้ว่าการถ่ายทอดศิลปะและความเมตตาอย่างการสอนบัลเลต์ ช่วยไถ่บาปและเปลี่ยนชีวิตคนรุ่นหลัง ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าพ่อแม่ที่จากไปยังอยู่ผ่านสิ่งที่ฝากไว้ ถ้าลูกสานต่อจะบินสูงกว่าเดิม
→ ดนัย จารุจินดา รับบท มนตรี

ชายหนุ่มวัยสามสิบต้นๆ หลานชายของพ่อบุญธรรมพัสกรที่ถูกปลูกฝังให้รังเกียจเด็กกำพร้าตั้งแต่เด็ก ทำให้ไม่ยอมรับพัสกรเป็นญาติและเกลียดเข้าไส้ เมื่อระเบิดฆ่าญาติในงานเปิดโรงเรียน เขายิ่งโทษพัสกรและเพิ่มความแค้น ลึกๆ เขาถูกฉัตรชัยยุยงเพื่อแย่งมรดกครอบครัว แต่เมื่อเห็นความดีและความมุ่งมั่นของพัสกร เขาค่อยๆ เปลี่ยนใจกลับมาช่วยสืบและคืนดี
ในความสัมพันธ์ เขาเริ่มจากศัตรูภายในครอบครัวแต่พลิกเป็นพันธมิตรตอนคลี่คลาย การแสดงของดนัยทำให้มนตรีดูสมจริงในฐานะคนถูกยุยง โดยเฉพาะฉากเกลียดและสำนึก ถือเป็นบทที่เพิ่มดราม่าครอบครัวให้พล็อตสูญเสียได้ดีมาก
ฉายาของมนตรีคือ พายุในรังหงส์
เพราะเขาเหมือนพายุที่ถาโถมทำลายรังด้วยความเกลียดที่ถูกปลูกฝังและยุยงจากฉัตรชัยเพื่อมรดก แต่สุดท้ายพายุสงบเมื่อเห็นความจริงและหันมาปกป้อง ฉายานี้สะท้อนบุคลิกที่รุนแรงแต่เปลี่ยนได้ ความแค้นที่กลายเป็นพลังดีเมื่อคืนดี เหมือนพายุที่ถล่มแต่ช่วยชำระล้างสิ่งชั่ว
ข้อคิดจากมนตรีคือ ความเกลียดที่ถูกปลูกฝังสามารถล้างได้ด้วยความจริง
เพราะเขาถูกยุยงให้รังเกียจพัสกรแต่เมื่อเห็นความเมตตาต่อเด็กและต่อสู้ผู้ร้าย เขาเลือกกลับมาช่วยเปิดโปง สอนให้รู้ว่าการฟังและเห็นด้วยตาตัวเองอย่างการคืนดีครอบครัว ช่วยเปลี่ยนศัตรูเป็นญาติและสร้างความสามัคคี ข้อคิดนี้ชวนคิดว่าครอบครัวที่แตกแยกมักหายจากความเข้าใจที่แท้จริง
มนตราลายหงส์ ภาค 2 ปีกหงส์ทะยานเหนือพายุใหม่ หลังจากตอนจบอันแสนหวานของ “มนตราลายหงส์” ในปี 2561 ที่พัสกรและแหวนพลอยฟื้นโรงเรียนหงส์เหินให้ยิ่งใหญ่ เด็กๆ เต้นรำอย่างมีความสุข และความยุติธรรมบังเกิดกับผู้ร้ายอย่างฉัตรชัย ภาค 2 นี้จะต่อยอดโลกนั้นให้เข้มข้นขึ้น
เรื่องราวเริ่มต้นสองปีหลังภาคแรก โรงเรียนหงส์เหินกลายเป็นสถาบันสอนเต้นชื่อดังระดับประเทศ พัสกร (เกรท วรินทร) และแหวนพลอย (สายไหม มณีรัตน์) แต่งงานกันแล้ว มีลูกสาวตัวน้อยชื่อ “หงส์ฟ้า” ที่เริ่มหัดเต้นตามพ่อแม่ เด็กเก่าอย่างปั้น แตงกวา และน้ำฝน เติบโตเป็นนักเรียนหลัก สอนรุ่นน้องอย่างเพชรที่ตอนนี้เป็นดาวรุ่ง แต่ความสงบถูกทำลายเมื่อ “ลีโอนาร์โด” (นักแสดงใหม่ เช่น หลุยส์ สก๊อตต์ ในบทฝรั่ง) เจ้าพ่อมาเฟียอิตาลีที่เคยร่วมทุนฟอกเงินกับฉัตรชัยรอดคุกมาได้ เขาส่งลูกน้องบุกไทยเพื่อล้างแค้นและยึดธุรกิจเต้นรำสากล โดยใช้การแข่งขันเวิลด์แดนซ์เฟสติวัลที่กรุงเทพเป็นฉากหน้า
พัสกรได้รับจดหมายข่มขู่ใหม่ ทำให้ปมเก่ากับพ่อครูภากร (ใน flashback เพิ่มเติม) กลับมาหลอกหลอน เขาค้นพบว่าพ่อเคยมีศัตรูเก่าในวงการเต้นต่างประเทศที่เชื่อมโยงกับลีโอนาร์โด ขณะที่แหวนพลอยตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง เธอต้องปกป้องครอบครัวและช่วยสามีฝึกทีมเด็กๆ ให้พร้อมแข่งระดับโลก เต้ (อนุชิต สพันธุ์พงษ์) ที่รอดจากการเสียสละในภาคแรก (พลิกให้ฟื้นในโรงพยาบาล) กลับมาช่วยในฐานะโค้ชลับ พร้อมเปิดปมว่าเขาเคยเป็นสายลับนานาชาติ
ดราม่าเข้มข้นขึ้นเมื่อมนตรี (ดนัย จารุจินดา) ที่คืนดีแล้ว ถูกจับตัวไปโดยลูกน้องลีโอนาร์โดเพื่อล่อพัสกร นิรุตต์ (สมิทธิ ลิขิตมาศกุล) เลื่อนขั้นเป็นนายตำรวจสากล ต้องร่วมมือกับ Interpol สืบคดีข้ามชาติ จันทิมา (วรรณปิยะ ออมสินนพกุล) กลับมาเป็นที่ปรึกษาแต่เผยปมใหม่ว่าเธอเคยเต้นในยุโรปและรู้จักลีโอนาร์โด กุ๊งกิ๊ง (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) ที่ไถ่โทษแล้ว กลายเป็นสปายแฝงตัวในทีมศัตรูเพื่อช่วยเพื่อนเก่า
จุดไคลแม็กซ์ในเฟสติวัลใหญ่ พัสกรและทีมต้องเต้นมนตราลายหงส์เวอร์ชันอัปเกรด ผสานเทคโนโลยี AR เพื่อต่อสู้กับการแทรกแซงของมาเฟีย เด็กๆ อย่างปั้นที่ตอนนี้เป็นวัยรุ่น ใช้ท่าเต้นช่วยสืบและหนีภัย ขวัญกมล (ณัฐฐาวีรนุช ทองมี) กลับมาในฐานะนักข่าวที่ขุดคุ้ยความลับ กวง (เตชินท์ ปิ่นชาตรี) และปู่แหวนพลอย (ชลิต เฟื่องอารมย์) ให้การสนับสนุนจากต่างจังหวัด สุดท้ายพัสกรช่วยมนตรีและจับลีโอนาร์โดได้ด้วยการเต้นที่เป็น “มนตร์” ดึงดูดตำรวจบุก
โรแมนติกยังหวานเมื่อพัสกรและแหวนพลอยเผชิญวิกฤตทำให้ความรักแน่นแฟ้นขึ้น ปิดท้ายด้วยการขยายโรงเรียนเป็นนานาชาติ เด็กๆ ชนะเลิศโลก และลูกสาวหงส์ฟ้าหัดเต้นท่าพ่อ สัญญาณว่ามนตร์หงส์จะสืบทอดต่อ
มนตราลายหงส์ ภาค 2 นี้ไม่ใช่แค่ต่อสู้อาชญากรรมแต่เป็นการยกระดับธีมวีรบุรุษให้กว้างไกล สะท้อนปัญหาโลกจริงอย่างมาเฟียข้ามชาติและการอนุรักษ์ศิลปะไทย ถ้าช่อง 3 สร้างจริง คงฮิตไม่แพ้ภาคแรก เพราะผสมแอ็กชันเต้นรำกับดราม่าครอบครัวได้ลงตัว

