ซีรีส์ เลือดนายลมหายใจฉัน My Golden Blood 2025 ซีรีส์วายแนวโรแมนติกดราม่าแฟนตาซี ที่ผสมผสานเรื่องราวความรักระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ เรื่องราวเริ่มต้นที่ “ตอง” เด็กหนุ่มวัย 20 ปี ผู้มีชีวิตเรียบง่ายและเติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้า เขาถูกคนรอบตัวบอกว่าเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ห้ามทำอะไรที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ แต่ความจริงแล้ว ตองมี “Golden Blood” หรือเลือดสีทอง ซึ่งเป็นเลือดพิเศษที่มีพลังดึงดูดและเป็นที่ปรารถนาของเหล่าแวมไพร์
วันหนึ่ง ตองตัดสินใจฝ่าฝืนคำเตือน โดยแอบไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในงานอีเวนต์แทน “ต้นกล้า” เพื่อนสนิทของเขา และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้พบกับ “มาร์ค”
มาร์ค ทายาทหนุ่มแห่งตระกูลอมฤต อายุ 200 ปี เป็นแวมไพร์ที่ใช้ชีวิตอย่างลึกลับและยังค้นหาความหมายของการมีชีวิตอยู่ เมื่อเขาได้พบกับตอง โลกของมาร์คก็เปลี่ยนไป เขาสัมผัสได้ถึงพลังพิเศษในตัวตอง และพยายามปกป้องตองจากอันตราย โดยเฉพาะจากเหล่าแวมไพร์ที่กระหายเลือดสีทองของตอง รวมถึง “นกันต์” แวมไพร์หนุ่มอายุ 250 ปี ผู้เป็นทายาทอีกคนของตระกูลอมฤตที่มีความต้องการครอบครองเลือดของตองเช่นกัน
เมื่อตองเกิดอุบัติเหตุและเลือดไหลออกมา กลิ่นหอมหวานของเลือดสีทองปลุกสัญชาตญาณดิบของแวมไพร์รอบตัว ทำให้เกิดความวุ่นวาย มาร์คต้องเผชิญหน้ากับทั้งศัตรูและความรู้สึกในใจของตัวเอง ขณะที่ตองเริ่มค้นพบความลับเกี่ยวกับเลือดของเขาและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับมาร์ค เรื่องราวดำเนินไปด้วยการต่อสู้เพื่อปกป้อง ความรักที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางอันตราย และการค้นหาความหมายของชีวิตที่ทั้งสองต่างต้องการ
ไฮไลต์ของซีรีส์
• ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ ความรักและความผูกพันระหว่างมาร์คและตองที่พัฒนาขึ้นท่ามกลางความแตกต่างของเผ่าพันธุ์
• ปมปริศนาเกี่ยวกับเลือดสีทอง ความลับของตองที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผย และพลังที่อาจเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของทั้งสอง
• การต่อสู้และการเสียสละ มาร์คต้องเผชิญหน้ากับแวมไพร์อื่นๆ เพื่อปกป้องตอง โดยมีทั้งมิตรและศัตรูเข้ามาเกี่ยวข้อง
ซีรีส์เรื่องนี้ผสมผสานความโรแมนติกเข้ากับความตื่นเต้นของโลกแวมไพร์สมัยใหม่ พร้อมนำเสนอเคมีที่ลงตัวของคู่พระนางที่ทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นตั้งแต่ตัวอย่างแรกปล่อยออกมา ถือเป็นหนึ่งในผลงานที่ได้รับการจับตามองในปี 2025 จาก GMMTV
เรื่องราวในตอนแรก (EP.1) และภาพรวมจากตัวอย่าง
“My Golden Blood เลือดนายลมหายใจฉัน” เริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวละครหลัก ตอง (กวิน แคสกี้) เด็กหนุ่มกำพร้าวัย 20 ปีที่เติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้า เขาถูกเลี้ยงดูมาด้วยความเชื่อว่าเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) จึงต้องใช้ชีวิตอย่างระวังตัว ไม่ให้เกิดบาดแผลใดๆ แต่ในความเป็นจริง ตองมี “Golden Blood” หรือเลือดสีทอง ซึ่งเป็นเลือดหายากที่มีพลังพิเศษและเป็นที่ต้องการของเหล่าแวมไพร์
ในตอนแรก ตองตัดสินใจฝ่าฝืนคำเตือน โดยรับงานเป็นเด็กเสิร์ฟในงานอีเวนต์แทน ต้นกล้า (นีโอ ตรัย) เพื่อนสนิทของเขา งานนี้จัดโดย มาร์ค (จอส เวอาห์) ทายาทหนุ่มแห่งตระกูลอมฤต อายุ 200 ปี ซึ่งเป็นแวมไพร์ลึกลับที่ดูเหมือนจะเบื่อหน่ายกับการมีชีวิตอันยาวนานของตัวเอง การพบกันครั้งแรกของตองและมาร์คเกิดขึ้นเมื่อตองเผลอทำแก้วแตกและบาดตัวเอง เลือดสีทองของตองไหลออกมา กลิ่นหอมหวานของมันปลุกสัญชาตญาณของมาร์คและแวมไพร์คนอื่นๆ ในงานให้ตื่นตัวทันที
มาร์ครีบพาตองออกจากสถานการณ์วุ่นวายนั้น แต่เหตุการณ์นี้ทำให้ตองเริ่มสงสัยในตัวเองและมาร์ค ขณะที่มาร์คเองก็รู้สึกถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไปในใจ เขาเริ่มผูกพันกับตองและตัดสินใจปกป้องตองจากอันตราย โดยเฉพาะจาก นกันต์ (ม่อน ธนัชชัย) แวมไพร์อีกคนจากตระกูลอมฤตที่ปรากฏตัวในตอนท้ายของตอนแรก พร้อมแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการเลือดของตอง
ความสัมพันธ์ของมาร์คและตอง หลังจากเหตุการณ์ในงานอีเวนต์ มาร์คพยายามเข้าใกล้ตองมากขึ้นเพื่อปกป้องเขา แต่ก็ต้องต่อสู้กับสัญชาตญาณแวมไพร์ที่อยากครอบครองเลือดของตองด้วยตัวเอง ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งนี้
การตามล่าของแวมไพร์ นกันต์และแวมไพร์อื่นๆ จะกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่ มีฉากต่อสู้และการหลบหนีที่เข้มข้น ปริศนาเลือดสีทอง ตองจะค้นพบความจริงเกี่ยวกับเลือดของเขา ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับอดีตของมาร์คและตระกูลอมฤต
บทสรุปจากตอนแรก
ตอนแรกปูทางด้วยการแนะนำตัวละคร ความลับของเลือดสีทอง และจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างมาร์คและตอง โดยทิ้งปมให้คนดูสงสัยว่า มาร์คจะควบคุมตัวเองได้หรือไม่ และตองจะรับมือกับความจริงที่กำลังจะเปิดเผยอย่างไร เรื่องราวยังคงเข้มข้นและน่าติดตามในตอนต่อๆ ไปแน่นอน
ตื่นเต้นและลุ้นระทึก ตอนแรกเปิดเรื่องด้วยฉากที่ตองบาดเจ็บและเลือดสีทองไหลออกมา ทำให้แวมไพร์อย่างมาร์คและคนอื่นๆ ตื่นตัว ผู้ชมอาจรู้สึกตื่นเต้นกับการเผยความลับของเลือดสีทอง และลุ้นว่ามาร์คจะปกป้องตองได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อนกันต์ (ตัวร้าย) ปรากฏตัวในตอนท้าย เป็นการทิ้งปมที่ทำให้อยากดูต่อ
ฟินกับเคมีของคู่หลัก การพบกันครั้งแรกของมาร์ค (จอส เวอาห์) และตอง (กวิน แคสกี้) จะจุดประกายความรู้สึก “ฟิน” ให้แฟนๆ ซีรีส์วาย เพราะโมเมนต์ที่มาร์ครีบช่วยตองจากสถานการณ์วุ่นวาย แสดงถึงความห่วงใยตั้งแต่แรกเริ่ม แม้จะยังมีความขัดแย้งในใจของมาร์คอยู่ ผู้ชมอาจรู้สึกถึงพลังงานของ “รักต้องห้าม” ระหว่างมนุษย์และแวมไพร์ที่กำลังก่อตัว
สงสัยและอยากรู้คำตอบ ความลับเกี่ยวกับเลือดสีทองของตอง และความสัมพันธ์ที่อาจเชื่อมโยงกับมาร์คหรือตระกูลอมฤต ทำให้ผู้ชมรู้สึกอยากรู้อยากเห็น คาดเดาไปต่างๆ ว่าตองจะรับมือกับความจริงนี้ยังไง และมาร์คจะเลือกอะไรระหว่างสัญชาตญาณแวมไพร์กับความรู้สึกที่มีต่อตอง
ดึงดูดด้วยภาพและบรรยากาศ ด้วยการเป็นผลงานของ GMMTV ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องโปรดักชันคุณภาพสูง ผู้ชมจะรู้สึกประทับใจกับภาพสวยๆ การออกแบบฉากงานอีเวนต์ที่ดูหรูหรา และดีไซน์ตัวละครแวมไพร์ที่เท่มีสไตล์ โดยเฉพาะมาร์คที่นำเสนอภาพลักษณ์แวมไพร์สมัยใหม่ได้น่าดึงดูด
อินกับดราม่าและความขัดแย้ง ความรู้สึกเห็นใจตองที่เติบโตมาในบ้านเด็กกำพร้าและต้องเผชิญชะตากรรมที่ไม่คาดคิด รวมถึงความขัดแย้งภายในของมาร์คที่ต้องต่อสู้กับสัญชาตญาณของตัวเอง จะทำให้ผู้ชมอินและรู้สึกผูกพันกับตัวละครตั้งแต่ต้น
ผู้ชมส่วนใหญ่ที่ชื่นชอบซีรีส์วายและแนวแฟนตาซีจะรู้สึกว่า “My Golden Blood” เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความโรแมนติกแบบหวานปนขม กับความตื่นเต้นของโลกแวมไพร์ ตอนแรกจะให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะ ทั้งลุ้น ทั้งฟิน และอยากดูต่อทันที โดยเฉพาะแฟนคลับของจอสและกวินที่อาจกรี๊ดกับเคมีที่เข้ากันสุดๆ ของทั้งคู่
ซีรีส์ เลือดนายลมหายใจฉัน My Golden Blood 2025
ซีรีส์ เลือดนายลมหายใจฉัน My Golden Blood 2025 EP.1-3iQIYI
ซีรีส์ เลือดนายลมหายใจฉัน My Golden Blood 2025 EP.1-3GMMTV OFFICIAL
ซีน ซีรีส์ เลือดนายลมหายใจฉัน My Golden Blood 2025
ซีรีส์ เลือดนายลมหายใจฉัน My Golden Blood 2025
ตอง (กวิน แคสกี้) เด็กหนุ่มวัย 20 ปีที่เกิดมาพร้อมเลือดพิเศษหรือ Golden Blood แต่กลับถูกคนรอบตัวบอกว่าเขาเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด จึงห้ามทำอะไรก็ตามที่เสี่ยงการเลือดออกเด็ดขาด แต่เขาก็ฝ่าฝืนโดยการแอบเข้าไปเป็นเด็กเสิร์ฟในงานอีเวนท์แทนต้นกล้า (นีโอ ตรัย) เพื่อนสนิทที่มาจากบ้านเด็กกำพร้าด้วยกัน จึงได้พบกับ มาร์ค (จอส เวอาห์) ทายาทหนุ่มของอมฤตระกูลอายุ 200 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของงานที่จัดขึ้น
มาร์คพยายามที่จะพาตองหลีกหนีจากคนในงาน แต่ดันเกิดอุบัติเหตุทำให้ตองเลือดออกจนเกิดเป็นความวุ่นวายขึ้น เพราะกลิ่นอันหอมหวานของเลือดนั้นปลุกความกระหายของเหล่าแวมไพร์ รวมถึง นกันต์ (ม่อน ธนัชชัย) แวมไพร์หนุ่มอายุ 250 ปีซึ่งเป็นทายาทอีกคนของอมฤตระกูลที่ต้องการเลือดพิเศษนี้เช่นกัน มาร์คจะสามารถปกป้องตองจากการถูกล่าของเหล่าแวมไพร์ได้หรือไม่ ติดตามได้ใน “My Golden Blood เลือดนายลมหายใจฉัน”
กำกับการแสดงโดย : อาร์ค สาโรจน์ คุณาธเนศ
ผลิตโดย : จีเอ็มเอ็มทีวี
นักแสดง
→ จอส เวอาห์ แสงเงิน รับบท มาร์ค
ตัวละครหลักที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง คาแร็กเตอร์ของมาร์คถูกออกแบบให้เป็นแวมไพร์หนุ่มที่มีความซับซ้อนทั้งในด้านบุคลิกและอารมณ์

พื้นฐานตัวละคร อายุ 200 ปี (แต่มีรูปลักษณ์เป็นชายหนุ่มวัย 20 ต้นๆ) เผ่าพันธุ์แวมไพร์ สถานะทายาทของตระกูลอมฤต ตระกูลแวมไพร์ที่มีอำนาจและอิทธิพลในโลกมืด ลักษณะเด่นหล่อเหลา ลึกลับ และมีเสน่ห์แบบเย็นชา มาพร้อมกับสไตล์การแต่งตัวที่ทันสมัยแต่แฝงความคลาสสิกของแวมไพร์
บุคลิกภาพ เย็นชาและเก็บตัว มาร์คใช้ชีวิตมานานจนรู้สึกเบื่อหน่ายและขาดจุดหมาย เขามักแสดงออกด้วยท่าทีเย็นชาและไม่สนใจสิ่งรอบตัวมากนัก ฉลาดและสุขุม ในฐานะแวมไพร์ที่อยู่มานาน เขามีความรู้และประสบการณ์มากมาย ทำให้ตัดสินใจได้อย่างรอบคอบและมีไหวพริบ
เปราะบางลึกๆ แม้ภายนอกจะดูแข็งแกร่ง แต่ภายในมาร์คมีความเหงาและโหยหาความหมายของการมีชีวิต ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เขาเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเจอตอง สัญชาตญาณแวมไพร์เขาต้องต่อสู้กับความหิวกระหายเลือด โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้ตองที่มี “Golden Blood” ซึ่งทำให้เกิดความขัดแย้งในใจ
บทบาทในเรื่อง มาร์คเป็นคนที่ช่วยชีวิต ตอง (กวิน แคสกี้) จากอันตรายในตอนแรก และกลายเป็นผู้พิทักษ์ของตองเมื่อแวมไพร์อื่นๆ เช่น นกันต์ (ม่อน ธนัชชัย) ตามล่าเลือดสีทอง เขาค่อยๆ พัฒนาความรู้สึกพิเศษต่อตอง จากการปกป้องกลายเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้ง ซึ่งจุดนี้เป็นหัวใจของความโรแมนติกในเรื่อง
มาร์คยังมีปมในอดีตเกี่ยวกับตระกูลอมฤตที่อาจเชื่อมโยงกับความลับของเลือดสีทอง ซึ่งน่าจะถูกเปิดเผยในตอนต่อๆ ไป
ลักษณะเด่นของการแสดง จอส เวอาห์ นำเสนอมาร์คด้วยภาพลักษณ์ที่เท่และมีเสน่ห์ตามสไตล์ของเขาเอง ด้วยหุ่นสูงโปร่งและใบหน้าคมเข้ม ทำให้มาร์คดูเป็นแวมไพร์ที่ทั้งน่าหลงใหลและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน การแสดงออกทางสายตาและท่าทางที่สุขุมเย็นชาของจอสช่วยถ่ายทอดความลึกลับของมาร์คได้ดี โดยเฉพาะฉากที่เขาต้องซ่อนความรู้สึกเมื่ออยู่ใกล้ตอง
ความสามารถในการแสดงฉากแอ็กชันก็โดดเด่น เพราะมาร์คมีฉากต่อสู้กับแวมไพร์อื่นๆ เพื่อปกป้องตอง
พัฒนาการของตัวละคร จากแวมไพร์ที่เย็นชาและใช้ชีวิตไปวันๆ มาร์คเริ่มมีความหวังและความรู้สึกมีชีวิตชีวาอีกครั้งผ่านการพบกับตอง ความขัดแย้งภายในระหว่างสัญชาตญาณแวมไพร์กับความรักที่เริ่มก่อตัว จะเป็นจุดที่ทำให้ผู้ชมเห็นมิติลึกซึ้งของมาร์คมากขึ้น
มาร์คใน “My Golden Blood” คือแวมไพร์ที่มีทั้งความแข็งแกร่งและความเปราะบาง เป็นตัวละครที่ผสมผสานความเท่แบบแวมไพร์คลาสสิกเข้ากับความอบอุ่นของพระเอกในซีรีส์วายได้อย่างลงตัว จอส เวอาห์ จะถ่ายทอดคาแร็กเตอร์นี้ได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะสำหรับแฟนๆ ที่ชื่นชอบเคมีระหว่างเขากับกวินในบทตอง คาแร็กเตอร์นี้มีทั้งความลึกลับ ความโรแมนติก และปมดราม่าที่ทำให้คนดูอยากติดตามต่อ
→ กวิน แคสกี้ รับบท ตอง
ตัวละครหลักอีกคนหนึ่งที่มีความสำคัญในเรื่อง คาแร็กเตอร์ของตองถูกออกแบบให้เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีชีวิตเรียบง่าย แต่กลับมีพลังพิเศษซ่อนอยู่ในตัว

พื้นฐานตัวละคร อายุ 20 ปี เผ่าพันธุ์มนุษย์ สถานะเด็กกำพร้าที่เติบโตในบ้านเด็กกำพร้า มี “Golden Blood” หรือเลือดสีทอง ซึ่งเป็นเลือดพิเศษที่ดึงดูดแวมไพร์ ลักษณะเด่น หน้าตาน่ารัก ใสซื่อ และมีแววตาที่สะท้อนความอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความเข้มแข็ง
บุคลิกภาพ บริสุทธิ์และจริงใจ ตองเป็นคนที่มีจิตใจดี ซื่อสัตย์ และมองโลกในแง่บวก แม้จะเติบโตมาโดยขาดครอบครัว เขายังคงมีความหวังและพยายามใช้ชีวิตอย่างดีที่สุด กล้าหาญแต่ไม่รู้ตัว แม้จะดูอ่อนแอจากภายนอก แต่ตองมีหัวใจที่เข้มแข็งและกล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น การรับงานเสี่ยงเพื่อช่วยเพื่อน
อยากรู้อยากเห็น เมื่อเริ่มสงสัยในตัวเองและความลับของเลือดสีทอง ตองแสดงออกถึงความอยากรู้และความพยายามค้นหาความจริง เปราะบางในบางมุม การที่เขาเติบโตมาโดยไม่มีครอบครัวและต้องเผชิญอันตรายจากแวมไพร์ ทำให้ตองมีด้านที่อ่อนไหวและต้องการคนคอยปกป้อง
บทบาทในเรื่อง ตองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว เมื่อเขาเผลอบาดเจ็บในงานอีเวนต์และเผยให้เห็นเลือดสีทอง ซึ่งดึงดูดความสนใจของ มาร์ค (จอส เวอาห์) และแวมไพร์อื่นๆ เช่น นกันต์ (ม่อน ธนัชชัย) เขาค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์กับมาร์ค จากคนแปลกหน้ากลายเป็นคนที่ไว้วางใจและผูกพัน โดยมีมาร์คเป็นทั้งผู้พิทักษ์และคนที่ทำให้เขาเริ่มรู้สึกถึงความรัก
ตองยังเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนาเกี่ยวกับเลือดสีทอง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับอดีตของตัวเองหรือตระกูลอมฤต
ลักษณะเด่นของการแสดง กวิน แคสกี้ นำเสนอตองด้วยภาพลักษณ์ที่สดใสและน่ารักตามสไตล์ของเขา ด้วยรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์และท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติ ทำให้ตองเป็นตัวละครที่คนดูเอ็นดูได้ง่าย การแสดงอารมณ์ที่หลากหลายของกวินช่วยถ่ายทอดความไร้เดียงสาของตองในตอนแรก รวมถึงความกลัวและความสับสนเมื่อเผชิญหน้ากับโลกของแวมไพร์
ความอ่อนโยนในแววตาและการโต้ตอบกับมาร์ค น่าจะสร้างเคมีที่ลงตัวให้กับคู่หลักของเรื่อง
พัฒนาการของตัวละคร จากเด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ตองจะค่อยๆ เติบโตและเรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับชะตากรรมของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อรู้ความจริงเกี่ยวกับเลือดสีทอง ความสัมพันธ์กับมาร์คจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น และอาจมีจุดที่เขาต้องตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อปกป้องคนที่เขารัก
ตองใน “My Golden Blood” คือตัวละครที่เปรียบเสมือนแสงสว่างในโลกมืดของแวมไพร์ เขามีทั้งความอ่อนแอและความเข้มแข็งที่ซ่อนอยู่ เป็นตัวละครที่ทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจและอยากเอาใจช่วย กวิน แคสกี้ จะถ่ายทอดคาแร็กเตอร์นี้ได้อย่างน่ารักและมีเสน่ห์ โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแสดงความรู้สึกผูกพันกับมาร์ค ซึ่งเป็นจุดขายสำคัญของซีรีส์วายเรื่องนี้
→ อุ๋ม อาภาศิริ นิติพน รับบท ธาร่า
ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในฐานะหัวหน้าตระกูลอมฤต ซึ่งเป็นตระกูลแวมไพร์ที่มีอำนาจและอิทธิพลในโลกมืดของเรื่อง

พื้นฐานตัวละคร อายุไม่ระบุแน่ชัด แต่ในฐานะแวมไพร์และหัวหน้าตระกูลอมฤต คาดว่าน่าจะมีอายุหลายร้อยปี (อาจมากกว่า มาร์ค อายุ 200 ปี และ นกันต์ อายุ 250 ปี) เผ่าพันธุ์แวมไพร์ สถานะหัวหน้าตระกูลอมฤต ผู้มีอำนาจสูงสุดในตระกูลและเป็นผู้นำที่ควบคุมเหล่าแวมไพร์
ลักษณะเด่น สง่างาม ดูน่าเกรงขาม และมีออร่าของผู้นำที่แข็งแกร่ง มาพร้อมกับความลึกลับและเสน่ห์อันเยือกเย็นแบบแวมไพร์โบราณ
บุคลิกภาพ เข้มแข็งและเด็ดขาด ธาร่าเป็นผู้นำที่เข้มงวดและตัดสินใจอย่างเฉียบขาด เธอปกครองตระกูลอมฤตด้วยมือเหล็ก และไม่ยอมให้ใครขัดขวางอำนาจของเธอ ลึกลับและเย็นชาเธอมีท่าทีที่คาดเดาได้ยาก แฝงด้วยความเย็นชาที่สะท้อนถึงประสบการณ์อันยาวนานในฐานะแวมไพร์
ฉลาดและวางแผนเก่ง ในฐานะหัวหน้าตระกูล ธาร่ามีความสามารถในการวางกลยุทธ์และควบคุมสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับ “Golden Blood” ของตอง มีด้านที่ซับซ้อน แม้จะดูแข็งกร้าว แต่ธาร่าอาจมีปมในอดีตหรือความลับที่ทำให้เธอตัดสินใจบางอย่าง ซึ่งอาจถูกเปิดเผยในภายหลัง
บทบาทในเรื่อง ธาร่าเป็นตัวละครที่มีอิทธิพลต่อทั้ง มาร์ค และ นกันต์ ซึ่งเป็นทายาทของตระกูลอมฤต เธอจะมีส่วนกำหนดทิศทางของเรื่องราว โดยเฉพาะในสงครามแย่งชิงเลือดสีทองของ ตอง (กวิน แคสกี้) เธออาจเป็นทั้งพันธมิตรและศัตรูของมาร์ค ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของตระกูล ซึ่งอาจขัดแย้งกับความรู้สึกส่วนตัวของมาร์คที่มีต่อตอง
ในฐานะผู้ปกครองแวมไพร์ ธาร่ามีแนวโน้มที่จะมอง “Golden Blood” เป็นสิ่งล้ำค่าที่ต้องครอบครอง หรืออาจมีจุดมุ่งหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น เช่น การรักษาอำนาจของตระกูลหรือปกป้องเผ่าพันธุ์แวมไพร์
ลักษณะเด่นของการแสดง อุ๋ม อาภาศิริ นักแสดงมากประสบการณ์ที่มีผลงานโดดเด่นทั้งในวงการภาพยนตร์และละคร (เช่น คู่กรรม, เลือดข้นคนจาง, ฮาวทูทิ้ง) นำเสนอธาร่าด้วยภาพลักษณ์ที่สง่างามและน่าเกรงขาม ด้วยส่วนสูง 173 เซนติเมตรและใบหน้าที่มีเอกลักษณ์ เธอเหมาะสมกับบทผู้นำแวมไพร์ที่มีทั้งความสวยและความน่ากลัว
การแสดงของอุ๋มจะเน้นที่สีหน้าและน้ำเสียงที่เย็นชาแต่ทรงพลัง สะท้อนความเป็นหัวหน้าตระกูลที่ไม่มีใครกล้าท้าทายความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อนของอุ๋ม ทำให้ธาร่าเป็นตัวละครที่มีมิติ ไม่ใช่แค่ตัวร้ายธรรมดา แต่เป็นผู้นำที่มีเหตุผลและเป้าหมายของตัวเอง
พัฒนาการของตัวละคร ในตอนแรกๆ ธาร่าอาจปรากฏตัวในฐานะตัวละครที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ใหญ่ เช่น ส่งนกันต์ไปตามล่าเลือดของตอง หรือกดดันมาร์คให้ทำตามคำสั่งตระกูล เมื่อเรื่องดำเนินไป ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับมาร์คและนกันต์อาจเผยให้เห็นความขัดแย้งภายในตระกูล หรือปมในอดีตที่เชื่อมโยงกับเลือดสีทอง
มีโอกาสที่ธาร่าจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญในตอนท้ายของเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับมาร์คและตอง หรือการเปิดเผยจุดยืนที่แท้จริงของเธอ
ธาร่าใน “My Golden Blood” คือตัวละครที่เปี่ยมด้วยพลังและอำนาจ เป็นหัวหน้าตระกูลแวมไพร์ที่ทั้งน่าเกรงขามและน่าค้นหา อุ๋ม อาภาศิริ จะถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยประสบการณ์การแสดงที่ทำให้ธาร่าเป็นมากกว่าตัวละครประกอบ แต่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเรื่องราว คาแร็กเตอร์นี้มีทั้งความเย็นชา ความฉลาด และปมลึกลับที่ชวนให้คนดูติดตาม
→ ม่อน ธนัชชัย วิจิตรวงศ์ทอง รับบท นกันต์
ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในฐานะแวมไพร์หนุ่มจากตระกูลอมฤต และเป็นคู่แข่งของ มาร์ค (จอส เวอาห์) ในการตามล่า “Golden Blood” ของ ตอง (กวิน แคสกี้)

พื้นฐานตัวละคร อายุ 250 ปี (มีลักษณะเป็นชายหนุ่มวัย 20 ปลายๆ) เผ่าพันธุ์แวมไพร์ สถานะทายาทอีกคนหนึ่งของตระกูลอมฤต คู่แข่งของมาร์ค และผู้ที่มีความทะเยอทะยานสูงในตระกูล ลักษณะเด่น หล่อเหลาแบบดาร์กๆ มีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดแต่แฝงด้วยความอันตรายและความลึกลับ
บุคลิกภาพ ทะเยอทะยานและเจ้าเล่ห์ นกันต์เป็นแวมไพร์ที่มุ่งมั่นในอำนาจและการครอบครอง เขาเห็น “Golden Blood” ของตองเป็นโอกาสในการยกระดับตัวเองในตระกูลอมฤต และอาจท้าทายอำนาจของ ธาร่า (อุ๋ม อาภาศิริ) หัวหน้าตระกูล
เย็นชาและโหดเหี้ยม เขาไม่ลังเลที่จะใช้ความรุนแรงหรือกลอุบายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ แตกต่างจากมาร์คที่เริ่มมีความรู้สึกต่อตอง นกันต์มองตองเป็นเพียง “เป้าหมาย” ไม่ใช่คนที่มีคุณค่าในตัวเอง มีเสน่ห์แบบอันตราย นกันต์มีบุคลิกที่ดึงดูดคนรอบข้าง แต่ความมีเสน่ห์นี้มักถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อ操控คนอื่น
มีความขัดแย้งกับมาร์ค ในฐานะทายาทของตระกูลเดียวกัน นกันต์และมาร์คมีแนวคิดที่ต่างกัน โดยนกันต์มักมองมาร์คว่าอ่อนแอเกินไปสำหรับการเป็นแวมไพร์
บทบาทในเรื่อง นกันต์เป็นตัวร้ายหลัก (antagonist) ในช่วงต้นเรื่อง เขาปรากฏตัวครั้งแรกในตอนท้ายของตอนแรก พร้อมแสดงเจตนาชัดเจนว่าต้องการครอบครองเลือดสีทองของตอง ซึ่งทำให้เขาเป็นภัยคุกคามต่อทั้งตองและมาร์ค เขามีส่วนในการสร้างความตึงเครียดและขับเคลื่อนความขัดแย้งในเรื่อง โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับมาร์ค ซึ่งอาจนำไปสู่ฉากต่อสู้หรือการปะทะกันทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
นกันต์อาจมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับธาร่า หัวหน้าตระกูล ซึ่งอาจเป็นทั้งผู้สนับสนุนและคู่แข่งของเขา ขึ้นอยู่กับเป้าหมายที่แท้จริงของนกันต์
ลักษณะเด่นของการแสดง ม่อน ธนัชชัย นำเสนอนกันต์ด้วยภาพลักษณ์ที่เท่และดุดัน ด้วยส่วนสูง 185 เซนติเมตรและหุ่นที่สมส่วน เขาเหมาะกับบทแวมไพร์ที่มีทั้งความน่ากลัวและเสน่ห์แบบมืดหม่น การแสดงของม่อนจะเน้นที่สีหน้าและน้ำเสียงที่เย็นชาแต่แฝงด้วยความมั่นใจ ซึ่งเป็นจุดเด่นจากผลงานก่อนหน้าของเขา เช่น บท “หมอแมท” ใน Kiss Me Again หรือ “ครูธี” ใน The Underclass
ความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อนของม่อน ทำให้นกันต์เป็นตัวละครที่คนดูทั้งเกลียดและหลงใหลในเวลาเดียวกัน
พัฒนาการของตัวละคร ในตอนแรกๆ นกันต์จะเป็นตัวละครที่เน้นการตามล่าและสร้างความโกลาหล แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป อาจมีการเปิดเผยปมในอดีตหรือแรงจูงใจที่ลึกซึ้งกว่านี้ เช่น ความแค้นต่อตระกูลหรือความปรารถนาที่จะพิสูจน์ตัวเอง
มีโอกาสที่นกันต์จะเผชิญหน้ากับจุดเปลี่ยน เช่น การถูกทรยศหรือการเผชิญหน้ากับมาร์คในแบบที่เปลี่ยนมุมมองของเขา
นกันต์ใน “My Golden Blood” คือแวมไพร์ที่มีทั้งความหล่อเหลา ความทะเยอทะยาน และความโหดร้าย เป็นตัวละครที่ขับเคลื่อนความตื่นเต้นและความขัดแย้งในเรื่อง ม่อน ธนัชชัย จะถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างน่าจดจำ ด้วยภาพลักษณ์ที่เข้ากับคาแร็กเตอร์และฝีมือการแสดงที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จากผลงานในสังกัด GMMTV คาแร็กเตอร์นี้มีทั้งความดาร์ก ความเท่ และปมที่น่าจะทำให้คนดูอยากติดตามบทสรุปของเขาในเรื่อง
→ นีโอ ตรัย นิ่มทวัฒน์ รับบท ต้นกล้า
ตัวละครที่เป็นเพื่อนสนิทของ ตอง (กวิน แคสกี้) และมีบทบาทสำคัญในฐานะตัวละครสนับสนุนที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว

พื้นฐานตัวละคร อายุประมาณ 20 ปี (ใกล้เคียงกับตอง) เผ่าพันธุ์มนุษย์ สถานะเพื่อนสนิทของตอง เติบโตมาด้วยกันในบ้านเด็กกำพร้า ลักษณะเด่น หน้าตาดีแบบหนุ่มทะเล้น มีเสน่ห์แบบเป็นกันเอง และมีบุคลิกที่ดูร่าเริง สดใส
บุคลิกภาพ ร่าเริงและขี้เล่นต้นกล้าเป็นคนที่มักนำรอยยิ้มและความสนุกมาสู่กลุ่มเพื่อน เขามีนิสัยกวนๆ และชอบแกล้งตองเพื่อความสนุก แต่ก็ไม่เคยเกินเลยจนทำให้เพื่อนเดือดร้อน จิตใจดีและซื่อสัตย์ แม้จะดูเป็นคนตลกๆ แต่ต้นกล้ามีความจริงใจและพร้อมช่วยเหลือเพื่อน โดยเฉพาะตองที่เขาเห็นเป็นเหมือนครอบครัว
กล้าได้กล้าเสียเขามีความกล้าที่จะทำอะไรเสี่ยงๆ เช่น การชวนตองไปรับงานเด็กเสิร์ฟในงานอีเวนต์ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด มีมุมอ่อนไหวใต้ความร่าเริง ต้นกล้าอาจมีความรู้สึกไม่มั่นคงจากชีวิตในบ้านเด็กกำพร้า ซึ่งทำให้เขาพยายามปกป้องตองในแบบของตัวเอง
บทบาทในเรื่อง ต้นกล้าเป็นเพื่อนสนิทที่เติบโตมาพร้อมกับตองในบ้านเด็กกำพร้า เขาคือคนที่ชวนตองไปทำงานเด็กเสิร์ฟในงานอีเวนต์แทนตัวเอง ซึ่งนำไปสู่การพบกันครั้งแรกระหว่างตองและ มาร์ค (จอส เวอาห์) เขาเป็นตัวละครที่ช่วยสร้างสีสันและบรรเทาความตึงเครียดในเรื่อง ด้วยบุคลิกที่ขี้เล่นและมุกตลกที่มักทำให้คนดูอมยิ้ม
ต้นกล้าอาจไม่รู้เรื่องความลับของ “Golden Blood” ในตอนแรก แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไป เขาจะมีส่วนช่วยตองเผชิญหน้ากับอันตรายจากแวมไพร์ เช่น การสนับสนุนหรือให้กำลังใจในยามที่ตองสับสน
ลักษณะเด่นของการแสดง นีโอ ตรัย นำเสนอต้นกล้าด้วยภาพลักษณ์ที่สดใสและมีพลัง ด้วยส่วนสูง 179 เซนติเมตรและรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ เขาทำให้ต้นกล้าดูเป็นหนุ่มขี้เล่นที่เข้าถึงง่าย การแสดงของนีโอมักเน้นที่ความเป็นธรรมชาติและท่าทางที่ทะเล้น ซึ่งสอดคล้องกับผลงานก่อนหน้าของเขา เช่น บท “เดือน” ใน ปลาบนฟ้า ที่มีนิสัยกวนๆ แต่ก็น่ารัก
ความสามารถในการตบมุกและการโต้ตอบกับตัวละครอื่น โดยเฉพาะตอง น่าจะทำให้ต้นกล้าเป็นตัวละครที่แฟนๆ ชื่นชอบ
พัฒนาการของตัวละคร ในตอนแรก ต้นกล้าอาจดูเป็นแค่ตัวละครที่เข้ามาสร้างความสนุก แต่เมื่อตองเผชิญหน้ากับโลกของแวมไพร์ เขาจะเริ่มตระหนักถึงอันตรายและแสดงด้านที่จริงจังมากขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับตองอาจถูกทดสอบ เมื่อต้นกล้าต้องเลือกว่าจะปกป้องเพื่อนหรือปล่อยให้ตองเผชิญชะตากรรมด้วยตัวเอง
ต้นกล้าใน “My Golden Blood” คือตัวละครที่เปรียบเสมือนแสงสว่างและกำลังใจของตอง เป็นเพื่อนที่ทั้งกวนประสาทและน่ารักในเวลาเดียวกัน นีโอ ตรัย จะถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างมีเสน่ห์ ด้วยสไตล์การแสดงที่เป็นธรรมชาติและบุคลิกที่เข้ากับคาแร็กเตอร์ คาแร็กเตอร์นี้มีทั้งความสนุก ความอบอุ่น และอาจมีโมเมนต์ซึ้งๆ ที่ทำให้คนดูผูกพัน
→ เชลซี ณปภัช สัทธาอธิคม รับบท ปูเป้
ตัวละครสนับสนุนที่มีบทบาทในเรื่องราวของโลกแวมไพร์และมนุษย์

พื้นฐานตัวละคร อายุประมาณ 20 ต้นๆ (ใกล้เคียงกับตัวละครหลักอย่างตองและต้นกล้า) เผ่าพันธุ์มนุษย์ สถานะเพื่อนหรือคนรู้จักของ ตอง (กวิน แคสกี้) และอาจมีความสัมพันธ์กับตัวละครอื่นในวงเพื่อนหรือโลกของเรื่อง ลักษณะเด่น สวย เปรี้ยว และมีสไตล์ที่โดดเด่น เป็นสาวมั่นที่มีเสน่ห์แบบทันสมัย
บุคลิกภาพ มั่นใจและกล้าแสดงออก ปูเป้เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ชอบเป็นจุดสนใจ และไม่กลัวที่จะพูดหรือทำอะไรตามใจตัวเอง ร่าเริงและมีชีวิตชีวาเธอนำพลังบวกและความสนุกมาสู่ฉากที่ปรากฏตัว มักเป็นคนที่ทำให้บรรยากาศคึกคัก
ฉลาดและมีไหวพริบ ปูเป้อาจมีด้านที่เฉลียวฉลาดและรู้ทันคน ซึ่งอาจช่วยให้เธอมีบทบาทในการแก้ปัญหาหรือสนับสนุนตัวละครหลักในบางสถานการณ์ ซื่อตรงต่อความรู้สึก แม้จะดูเป็นสาวเปรี้ยว แต่ปูเป้มีความจริงใจและอาจแสดงด้านที่อ่อนโยนเมื่อเกี่ยวข้องกับคนที่เธอห่วงใย
บทบาทในเรื่อง ปูเป้เป็นตัวละครสนับสนุนที่อาจปรากฏในกลุ่มเพื่อนของตอง หรือมีส่วนเชื่อมโยงกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิตประจำวันของเขา ก่อนที่เรื่องราวจะเข้าสู่โลกของแวมไพร์ เธอจะมีส่วนช่วยสร้างความสมดุลในเรื่อง ด้วยการเป็นตัวละครที่เพิ่มสีสันหรือมุมมองจากฝั่งมนุษย์ ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างตองและแวมไพร์อย่าง มาร์ค (จอส เวอาห์) และ นกันต์ (ม่อน ธนัชชัย)
ลักษณะเด่นของการแสดง เชลซี ณปภัช นำเสนอปูเป้ด้วยภาพลักษณ์ที่สดใสและทันสมัย ด้วยความสวยแบบมีสไตล์และบุคลิกที่มั่นใจ เธอเหมาะกับบทสาวเปรี้ยวที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ การแสดงของเชลซีน่าจะเน้นที่ความเป็นธรรมชาติและเสน่ห์ส่วนตัว ซึ่งอาจทำให้ปูเป้เป็นตัวละครที่แฟนๆ ชื่นชอบในฐานะ “เพื่อนสาวสุดปัง”
ความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ขี้เล่นและจริงใจของเชลซี อาจทำให้ปูเป้มีโมเมนต์ที่ทั้งตลกและอบอุ่นในเรื่อง
พัฒนาการของตัวละคร ในตอนแรก ปูเป้อาจปรากฏตัวในฐานะเพื่อนที่ไม่รู้เรื่องความลับของตอง แต่เมื่อเรื่องราวเข้มข้นขึ้น เธออาจมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแวมไพร์ หรือช่วยตองในสถานการณ์คับขัน มีโอกาสที่ปูเป้จะค้นพบความจริงเกี่ยวกับ “Golden Blood” และกลายเป็นคนที่สนับสนุนตองในแบบที่ไม่คาดคิด
ปูเป้ใน “My Golden Blood” คือตัวละครที่เปี่ยมด้วยพลังและเสน่ห์ เป็นสาวมั่นที่ช่วยเติมสีสันให้กับเรื่องราวความรักและการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ เชลซี ณปภัช จะถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างมีชีวิตชีวา ด้วยสไตล์การแสดงที่สดใสและบุคลิกที่เข้ากับคาแร็กเตอร์ คาแร็กเตอร์นี้มีทั้งความสนุก ความมั่นใจ และอาจมีโมเมนต์ที่ทำให้คนดูประทับใจ
→ เอเจ ชยพล จุฑามาศ รับบท โดม
ตัวละครสนับสนุนที่มีบทบาทในเรื่องราวของโลกแวมไพร์และมนุษย์

พื้นฐานตัวละคร อายุประมาณ 20 ต้นๆ (ใกล้เคียงกับตัวละครหลักอย่างตองและต้นกล้า) เผ่าพันธุ์มนุษย์ สถานะ เพื่อนหรือคนรู้จักของ ตอง (กวิน แคสกี้) และอาจมีความสัมพันธ์กับกลุ่มเพื่อนในบ้านเด็กกำพร้าหรือวงสังคมของตอง ลักษณะเด่น หล่อแบบหนุ่มอบอุ่น มีบุคลิกที่ดูน่าเชื่อถือและเป็นมิตร
บุคลิกภาพ ใจดีและน่าไว้วางใจ โดมเป็นคนที่ดูเป็นพี่ชายหรือเพื่อนที่คอยให้คำแนะนำ เขามักจะเป็นที่พึ่งของคนรอบตัว โดยเฉพาะตองในยามที่ต้องการความช่วยเหลือ สงบและมีเหตุผล แตกต่างจากตัวละครที่ขี้เล่นอย่าง ต้นกล้า (นีโอ ตรัย) โดมมีท่าทีที่สุขุมและมักจะคิดก่อนทำ
กล้าหาญในแบบเงียบๆ เขาอาจไม่ใช่คนที่เด่นในเรื่องการต่อสู้ แต่มีความกล้าที่จะยืนหยัดเคียงข้างเพื่อนเมื่อสถานการณ์คับขัน มีความลับบางอย่าง จากการคาดเดา โดมอาจมีปมหรือความลับที่เกี่ยวข้องกับอดีตของตองหรือโลกของแวมไพร์ ซึ่งอาจถูกเปิดเผยในภายหลัง
บทบาทในเรื่องโดมเป็นตัวละครที่ปรากฏในฐานะเพื่อนของตอง โดยอาจมีส่วนช่วยในเหตุการณ์สำคัญ เช่น การช่วยตองหลบหนีจากแวมไพร์ หรือเป็นคนที่คอยเตือนภัยเมื่อตองเริ่มเข้าไปพัวพันกับ มาร์ค (จอส เวอาห์) และ นกันต์ (ม่อน ธนัชชัย)
เขาน่าจะมีบทบาทในฝั่งมนุษย์ที่ช่วยเชื่อมโยงเรื่องราวระหว่างชีวิตธรรมดาของตองกับโลกมืดของแวมไพร์
ลักษณะเด่นของการแสดง เอเจ ชยพล นำเสนอโดมด้วยภาพลักษณ์ที่อบอุ่นและน่าเชื่อถือ ด้วยส่วนสูง 182 เซนติเมตรและใบหน้าที่หล่อแบบมีเสน่ห์ เขาทำให้โดมดูเป็นหนุ่มที่ทั้งเท่และเข้าถึงได้ การแสดงของเอเจจะเน้นที่ความนิ่งและการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสายตา ซึ่งสอดคล้องกับผลงานก่อนหน้าของเขา เช่น บท “เมธ” ใน อาตี๋ของผม หรือบทใน The Gifted ที่แสดงถึงความลึกซึ้งของตัวละคร
ความสามารถในการแสดงฉากดราม่าหรือโมเมนต์ที่ต้องปกป้องเพื่อน อาจทำให้โดมเป็นตัวละครที่แฟนๆ จดจำ
พัฒนาการของตัวละคร ในตอนแรก โดมอาจดูเป็นแค่เพื่อนธรรมดาที่ไม่รู้เรื่องความลับของ “Golden Blood” แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป เขาอาจมีส่วนร่วมมากขึ้น เช่น การช่วยตองค้นหาความจริงเกี่ยวกับเลือดของเขา มีโอกาสที่โดมจะต้องเผชิญหน้ากับอันตรายจากแวมไพร์ ซึ่งจะแสดงให้เห็นด้านที่กล้าหาญและเสียสละของเขา
โดมใน “My Golden Blood” คือตัวละครที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่นและความน่าเชื่อถือ เป็นเพื่อนที่คอยสนับสนุนตองในโลกที่เต็มไปด้วยความลับและอันตราย เอเจ ชยพล จะถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างลงตัว ด้วยสไตล์การแสดงที่ทั้งนิ่งและมีพลัง คาแร็กเตอร์นี้มีทั้งความเป็นมิตร ความลึกลับ และอาจมีโมเมนต์ที่ทำให้คนดูรู้สึกผูกพัน
→ ลูกนัท ปนัดดา เรืองวุฒิ รับบท ครูนวล
ตัวละครสนับสนุนที่มีบทบาทในชีวิตวัยเด็กของ ตอง (กวิน แคสกี้)

พื้นฐานตัวละคร อายุประมาณ 30-40 ปี เผ่าพันธุ์มนุษย์ สถานะครูประจำบ้านเด็กกำพร้าที่ตองและ ต้นกล้า (นีโอ ตรัย) เติบโตมา ลักษณะเด่นอ่อนโยน ใจดี และมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ที่อบอุ่น ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและท่าทางที่ดูเป็นที่พึ่ง
บุคลิกภาพ ใจดีและเมตตา ครูนวลเป็นคนที่ดูแลเด็กๆ ในบ้านเด็กกำพร้าด้วยความรัก เธอเปรียบเสมือนแม่หรือพี่สาวที่คอยปกป้องและให้คำแนะนำ เข้มงวดแต่หวังดี เธออาจมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเพื่อปกป้องเด็กๆ โดยเฉพาะตองที่ถูกเข้าใจว่าเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia) ซึ่งทำให้เธอห้ามไม่ให้เขาทำอะไรเสี่ยงๆ
อ่อนไหวและห่วงใยครูนวลมีความผูกพันกับตองและเด็กๆ ในบ้านกำพร้า เธอแสดงความกังวลเมื่อตองหายตัวไปหรือเผชิญอันตราย มีความทรงจำในอดีตในฐานะครูที่เลี้ยงตองมา ครูนวลอาจมีส่วนในความทรงจำวัยเด็กของเขา ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับปมเรื่อง “Golden Blood”
บทบาทในเรื่อง ครูนวลปรากฏตัวในช่วงต้นเรื่อง โดยเฉพาะฉากย้อนอดีตหรือเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตในบ้านเด็กกำพร้าของตอง เธอเป็นคนที่เลี้ยงดูและปกป้องตองมาตั้งแต่เด็ก เธอมีส่วนในจุดเริ่มต้นของเรื่อง เมื่อตองฝ่าฝืนคำเตือนของเธอโดยไปรับงานเด็กเสิร์ฟแทนต้นกล้า ซึ่งนำไปสู่การพบกับ มาร์ค (จอส เวอาห์) และการเปิดเผยความลับของเลือดสีทอง
จากข้อมูลที่แฟนๆ พูดถึง มีฉากหนึ่งที่ครูนวลตากผ้ากับตองตอนเด็ก และต้องตามหาเขาถึงสนามเด็กเล่นเมื่อตองหายไป ซึ่งแสดงให้เห็นบทบาทของเธอในฐานะผู้ดูแลที่ห่วงใย
ลักษณะเด่นของการแสดง ลูกนัท ปนัดดา นำเสนอครูนวลด้วยภาพลักษณ์ที่อบอุ่นและน่าเชื่อถือ ด้วยประสบการณ์ในวงการบันเทิงทั้งในฐานะนักร้องและนักแสดง (เช่น คอนเสิร์ต Young Divas And The Supermen, เลือดข้นคนจาง) เธอถ่ายทอดความอ่อนโยนได้อย่างเป็นธรรมชาติ
น้ำเสียงที่ไพเราะและท่าทางที่สงบของลูกนัท ช่วยเสริมให้ครูนวลเป็นตัวละครที่คนดูรู้สึกผูกพันและเห็นใจ ความสามารถในการแสดงฉากดราม่าของเธอ อาจทำให้ครูนวลมีโมเมนต์ที่สะเทือนอารมณ์ เช่น การกังวลเมื่อตองตกอยู่ในอันตราย
พัฒนาการของตัวละคร ในตอนแรก ครูนวลอาจปรากฏในฐานะตัวละครที่ย้อนอดีต แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป เธออาจกลับมามีบทบาทอีกครั้ง เช่น การช่วยตองค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเอง หรือการเผชิญหน้ากับผลกระทบจากโลกแวมไพร์ที่เริ่มรุกล้ำเข้ามา
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับตองอาจถูกทดสอบ เมื่อตองต้องเผชิญชะตากรรมที่ครูนวลไม่สามารถปกป้องเขาได้อีกต่อไป
ครูนวลใน “My Golden Blood” คือตัวละครที่เปี่ยบเสมือนแสงสว่างในวัยเด็กของตอง เป็นครูที่ทั้งเข้มงวดและอ่อนโยน คอยดูแลและปกป้องเขาจากอันตราย ลูกนัท ปนัดดา จะถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยสไตล์การแสดงที่อบอุ่นและน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ คาแร็กเตอร์นี้มีทั้งความเมตตา ความห่วงใย และความทรงจำที่อาจเป็นกุญแจสำคัญในปมของเรื่อง
→ หยา จรรยา ธนาสว่างกุล รับบท ป้าวรรณ
ตัวละครสนับสนุนที่มีบทบาทในชีวิตของ ตอง (กวิน แคสกี้) โดยเฉพาะในบริบทของบ้านเด็กกำพร้าที่เขาเติบโตมา

พื้นฐานตัวละคร อายุประมาณ 40-50 ปี เผ่าพันธุ์มนุษย์ สถานะผู้ดูแลหรือเจ้าหน้าที่ในบ้านเด็กกำพร้าที่ตองและ ต้นกล้า (นีโอ ตรัย) เติบโตมา ลักษณะเด่นมีทั้งความเข้มงวดและความเมตตา เป็นผู้ใหญ่ที่มีออร่าแห่งความน่าเกรงขามผสมกับความอบอุ่นแบบป้าๆ
บุคลิกภาพ เข้มงวดและเด็ดขาด ป้าวรรณเป็นคนที่มีกฎเกณฑ์ชัดเจนในการดูแลเด็กกำพร้า เธอมักออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเพื่อให้ทุกอย่างอยู่ในระเบียบ โดยเฉพาะกับตองที่เธอห่วงเรื่องสุขภาพ (เข้าใจว่าเป็นโรคเลือดไหลไม่หยุด) ใจดีแต่ไม่แสดงออกมาก ภายใต้ท่าทีเข้มงวด ป้าวรรณมีความห่วงใยและรักเด็กๆ ในบ้านกำพร้าเหมือนลูก เธออาจไม่ค่อยแสดงความอ่อนโยนออกมาตรงๆ แต่การกระทำของเธอสะท้อนถึงความปรารถนาดี
มีอารมณ์ขันแบบเสียดสีจากสไตล์การแสดงของหยาในผลงานก่อนหน้า ป้าวรรณอาจมีมุกตลกหรือคำพูดแซวเด็กๆ ที่ทำให้เกิดโมเมนต์ผ่อนคลายในเรื่อง มีปมในใจ ป้าวรรณอาจมีความรู้สึกผิดหรือเสียใจลึกๆ ที่ไม่สามารถปกป้องตองจากอันตรายได้เต็มที่ ซึ่งอาจถูกเปิดเผยผ่านฉากดราม่า
บทบาทในเรื่อง ป้าวรรณเป็นตัวละครที่ปรากฏในช่วงต้นเรื่อง โดยเฉพาะฉากที่เกี่ยวข้องกับชีวิตวัยเด็กของตองในบ้านเด็กกำพร้า เธอเป็นหนึ่งในผู้ดูแลที่คอยกำชับไม่ให้ตองทำอะไรเสี่ยงๆ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ เธอมีส่วนในจุดเริ่มต้นของเรื่อง เมื่อตองฝ่าฝืนคำสั่งโดยไปรับงานเด็กเสิร์ฟ ซึ่งอาจนำไปสู่ฉากที่ป้าวรรณแสดงความกังวลหรือตำหนิตองหลังจากนั้น
ป้าวรรณอาจเป็นตัวแทนของ “ครอบครัว” ที่ตองมีในช่วงแรกของชีวิต ก่อนที่เขาจะก้าวเข้าสู่โลกของแวมไพร์ผ่านการพบกับ มาร์ค (จอส เวอาห์)
ลักษณะเด่นของการแสดง หยา จรรยา นำเสนอป้าวรรณด้วยภาพลักษณ์ที่ทั้งเข้มแข็งและน่าจดจำ ด้วยประสบการณ์การแสดงกว่า 20 ปี (เช่น บท “ผิน” ใน บุพเพสันนิวาส) เธอถ่ายทอดความเป็นผู้ใหญ่ที่มีมิติได้อย่างยอดเยี่ยม การแสดงของหยามักเน้นที่น้ำเสียงและสีหน้าที่ทรงพลัง ป้าวรรณอาจมีฉากที่ใช้สายตาดุหรือคำพูดที่หนักแน่นเพื่อแสดงความห่วงใยแบบเข้มๆ
ความสามารถในการเล่นบทดราม่าผสมตลกของหยา อาจทำให้ป้าวรรณมีทั้งโมเมนต์สะเทือนใจ (เช่น การสูญเสียตองให้กับโลกภายนอก) และโมเมนต์ที่สร้างรอยยิ้ม (เช่น การแซวตองและต้นกล้า)
พัฒนาการของตัวละคร ในตอนแรก ป้าวรรณน่าจะเป็นตัวละครที่ยึดติดกับการปกป้องตอง แต่เมื่อตองเริ่มเผชิญโลกกว้าง เธออาจต้องยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมชะตากรรมของเขาได้ มีโอกาสที่ป้าวรรณจะกลับมามีบทบาทในตอนท้ายของเรื่อง เช่น การช่วยตองเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับแวมไพร์ หรือการเปิดเผยความลับบางอย่างเกี่ยวกับอดีตของตอง
ป้าวรรณใน “My Golden Blood” คือตัวละครที่ผสมผสานความเข้มงวดและความอบอุ่น เป็นผู้ดูแลที่เปรียบเสมือนเสาหลักในชีวิตวัยเด็กของตอง หยา จรรยา จะถ่ายทอดบทนี้ได้อย่างมีเสน่ห์และน่าประทับใจ ด้วยฝีมือการแสดงที่ทั้งทรงพลังและมีมิติ คาแร็กเตอร์นี้มีทั้งความเป็นแม่ ความเป็นครู และความเป็นมนุษย์ที่อาจทำให้คนดูทั้งขำและซึ้งในเวลาเดียวกัน