ละคร สุดแต่ใจจะไขว่คว้า 2551
พ่อพล (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) มีลูกอยู่ 5 คน แต่เขากลับรักลูกไม่เท่ากันและไม่ยุติธรรมกับลูกๆ พลรักพงษ์พรรษ์ (สุรินทร คราวุตม์) ลูกชายคนโต มากกว่าลูกคนอื่นๆ เพราะว่าพงษ์เรียนเก่ง จึงสนับสนุนส่งเสียพงษ์ เพื่อชดเชยความผิดหวังของพ่อในอดีตที่อยากเป็นข้าราชการแต่ไม่สมหวัง พ่อตามใจและเข้าข้างพงษ์มากกว่าลูกคนอื่นๆ ทำให้ในที่สุดพงษ์กลายเป็นคนที่นิสัยไม่ดี ส่วนแม่ส่ง ( เพ็ญพักตร์ ศิริกุล) เป็นคนที่คอยช่วยขัดขวางพ่อในทุกๆเรื่องที่เห็นว่าพ่อไม่ยุติธรรมกับลูกคนอื่นๆ
พัฒนะ ( อเล็กซ์ เรนเดลด์) เป็นลูกที่พ่อชัง เพราะว่าเรียนไม่เก่งและยังดื้อกับพ่ออีก หลายครั้งที่พ่อมองข้ามความดีของพัฒไป พ่อไม่พอใจอย่างมากที่พัฒไม่เรียนต่อ และมาทำอู่ซ่อมรถเพราะมองว่าเป็นอาชีพที่ต่ำต้อยและไม่มีอนาคต แต่ว่าพัฒก็ยังทำต่อไปโดยมีแม่สนับสนุนพุดจีบพี่สาวคนโต ( เพชรดา เทียมเพ็ชร) มีความตั้งที่จะเรียนพยาบาล แต่ก็จำใจต้องสละสิทธิ์ เนื่องจากพ่อไม่ยอมส่งเสียให้เรียน โดยให้เหตุผลว่า เป็นลูกผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนเยอะ แต่ว่าที่แท้จริงแล้ว พ่อนำเงินไปลงทุนให้พงษ์จนหมด ทำให้พุดจีบต้องไปเรียนตัดเสื้อกับอาวรรณี ( อำภา ภูษิต)น้องสาวของพ่อแทน ส่วนพิณรมย์ (ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง) น้องสาวคนรองได้เรียนพยาบาลสมใจจากเงินของ
พุดจีบและพัฒ
พรพุฒิ ( จิรายุ ละอองมณี) น้องชายคนสุดท้องที่มีพรสวรรค์ทางศิลปะต้องการเรียนช่างศิลป์ แต่ว่าพ่อก็ขัดขวางอีกเช่นเคย มีครั้งหนึ่งพ่อเอารูปวาดของพุฒิไปเผาทิ้ง ทำให้พุฒิหนีออกจากบ้านไปมั่วกับกลุ่มเด็กเสเพลในช่วงหนึ่ง แล้วพัฒก็ไปตามพุฒิกลับมาโดยให้กำลังใจและส่งเสียพุฒิเรียนในด้านที่พุฒิชอบต่อพงษ์ได้เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับวันแรม ( วิภาวี ศิริมณีวัฒนา) ลูกสาวคนโตของลุงกำนัน ( มนตรี เจนอักษร) ผู้เป็นเพื่อนบ้าน ซึ่งพัฒและพงษ์ต่างก็ชอบและหมายปองวันแรมมาตั้งแต่เด็ก แต่ว่าพัฒก็ต้องใจสลายเพราะว่าวันแรมห่างเหินพัฒไปทุกทีและสนิทสนมกับพงษ์มากขึ้น วันแรมทำตัวเป็นสาวสมัยใหม่และจะสนใจพัฒก็ตอนที่วันแรมต้องการให้พัฒช่วยเท่านั้น
วันสว่าง ( ณฐพร เตมีรักษ์) น้องสาวของวันแรม แอบรักพัฒจึงมาช่วยพัฒดูแลเรื่องอาหารการกินและหาลูกค้าเข้าอู่ซึ่งได้มาจากการช่วยเหลือจากแม่ ด้วยความพยายามมานะบากบั่นและซื่อสัตย์ต่อลูกค้าของพัฒทำให้พัฒได้งานเพิ่มขึ้น ไม่มีขาด โดยได้วันสว่างมาช่วยดูแลด้านบัญชี การเงิน และความสะอาดของอู่ของพัฒ ทำให้อู่ของพัฒเป็นระบบระเบียบมากขึ้นวันแรมและพงษ์มีอิสระในชีวิตมากขึ้นจึงเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนคนรวย จนวันแรมและพงษ์เริ่มเป็นคนใจแตก และไม่กลับบ้าน จนน้าแก้ว (สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ) ไม่สบายใจและขอร้องให้พัฒช่วยตามวันแรมกลับมาด้านพุดจีบแต่งงานกับไวฑูรย์ ( โกสินทร์ ราชกรม) ลูกชายของอาวรรณี และพาครอบครัวเข้ามาอยู่ในบ้าน ต่อมาไม่นานเงินและของในบ้านหายไปเพราะว่าพงษ์ขโมยไปเนื่องจากพงษ์ใช้เงินเกินตัว
พงษ์กับวันแรมไปเที่ยวบ้านตากอากาศที่ชะอำด้วยกัน วันแรมเมายาทำให้เธอกับพงษ์ได้เสียกัน หลังจากนั้นพงษ์ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พัฒฟังว่าวันแรมตกเป็นของพงษ์แล้ว ทำให้พัฒหมดกำลังใจ จึงไปถามวันแรมโดยที่วันแรมบอกพัฒไปว่าตนเองกับพงษ์เป็นแค่เพื่อนกัน เพื่อที่จะหลอกใช้พัฒต่อ ทำให้วันสว่างเตือนสติพัฒหลายครั้ง แต่พัฒก็ไม่เชื่อ วันสว่างโกรธและน้อยใจจึงลาออกจากอู่ ทำให้พัฒต้องไปตามง้อและขอโทษ วันสว่างจึงกลับมาทำงานที่อู่ตามเดิมหลังจากเรียนจบ พงษ์และวันแรม ไปเที่ยวบ้านตากอากาศอีกครั้งกับเพื่อนๆที่เป็นคนรวย เพื่อเลี้ยงฉลองที่เรียนจบโดยมี พิณ พัฒ วันสว่าง และน้าแก้วตามไปด้วย
ที่ปาร์ตี้ริมชายหาด พัฒเสียความรู้สึกมากที่เห็นวันแรมเมาและอยู่กับผู้ชายที่หล่อๆหลายคนโดยที่ไม่เลือกหน้า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้พัฒพูดกับวันแรมเรื่องที่ฝันไว้ว่าจะแต่งงานกับวันแรม แต่ว่าวันแรมที่อยู่ในอาการเมาไร้สติ ได้ร้องไห้ซาบซึ้งในความรักที่บริสุทธิ์ของพัฒ จึงได้เสนอตัวให้พัฒ ยอมเป็นของพัฒ พัฒจึง ผิดหวังและเสียใจมากที่วันแรมเปลี่ยนนิสัยไปถึงขนาดนี้เชาว์ ( วิวัฒน์ ผสมทรัพย์ ) ผู้มีอิทธิพลอยากได้พิณมาเป็นเมียจึงตกลงกับชวลิต ( ธัญวิชญ์ เจนอักษร )ว่าจะส่งชวลิตไปเรียนต่อที่เมืองนอกเขาตอบตกลงทันที
วันแรมและพงษ์เมาจนทะเลาะกัน วันแรมบอกว่าเด็กในท้องคือลูกของพงษ์และต้องการเงินไปทำแท้ง และไปอยู่เมืองนอกเพื่อหนีปัญหาโดยก่อนจากไปเธอได้ไปลาพัฒ และบอกว่าความรักของพัฒเป็นสิ่งบริสุทธิ์สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตเธอพงษ์ทำงานแต่เงินเดือนไม่พอกับรายจ่าย พ่อเลยต้องมายืมเงินของน้องๆไปให้พงษ์ใช้ โดยที่พงษ์ไม่เคยกลับบ้านมาให้พ่อชื่นใจสักครั้ง แม้แต่ตอนที่พ่อป่วยหนัก มีพัฒที่คอยดูแลพ่อจนพ่อเริ่มมองพัฒในสายตาที่เป็นธรรมมากขึ้น และพอใจในตัวพัฒมากขึ้น ที่สร้างตัวได้เร็วและยังเป็นที่พึ่งของน้องๆทุกคนได้ พงษ์อยากไปเรียนเมืองนอกจึงไปหลอกพิณให้ไปหานายเชาว์ พิณไปหานายเชาว์ตามที่พงษ์หลอก และในที่สุดพิณก็ถูกวางยาและตกเป็นของนายเชาว์
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนในบ้านไม่สบายใจจนพ่อเริ่มสงสัยและทุกคนในบ้านก็พากันถามความจริงจากพงษ์ ทำให้พงษ์ยอมรับความจริงโดยอ้างว่าทำไปเพื่อพี่น้องทุกคน หลังจากพ่อรู้ความจริงพ่อก็ตีพงษ์อย่างแรง จนพงษ์หนีออกจากบ้านไป และพ่อก็ขอโทษลูกๆทุกคน โดยให้น้าแก้วทำเรื่องพาพิณหนีไปต่างประเทศ เพื่อหนีให้พ้นจากอิทธิพลของนายเชาว์ในที่สุดพัฒก็พบว่าเขามีใจให้กับวันสว่าง แต่วันสว่างได้ขอลาออกไปทำงานกับช่างตี๋( ศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม) โดยบอกกับพัฒว่าช่างตี๋รักเธอ และเธอก็ไม่อยากเป็นสาวทึนทึกอยู่แบบนี้ ทำให้พัฒหงุดหงิด จึงเรียกวันสว่างกลับมาคุยที่ริมน้ำ ต่อหน้าลุงกำนัน โดยมีพ่อแม่ของพัฒตามมาสู่ขอวันสว่างให้กับพัฒ ทั้งสองคนจึงได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ส่วนทางพงษ์หลังจากมีเรื่อง ก็ไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดและใช้ชีวิตเสเพลตามเดิม
พัฒได้แต่คิดและปลงว่า ชีวิตจะดีหรือไม่ดี เป็นสิ่งที่เราไขว่คว้ามาเองทั้งนั้น พัฒตั้งเป้าหมายในชีวิตไว้และมานะบากบั่นจนประสบความสำเร็จ และไม่กลัวที่จะตั้งเป้าหมายชีวิตไว้สวยหรูเพราะเชื่อมั่นว่าเขาจะไขว่คว้ามันมาได้เช่นเคย “สุดแต่ใจจะไขว่คว้า”
บทประพันธ์:โบตั๋น
บทโทรทัศน์ : Sanctuary
กำกับการแสดงโดย : อดุลย์ บุญบุตร
นักแสดง
อเล็กซ์ เรนเดลด์ รับบทเป็น พัฒนะ
สุรินทร คราวุตม์ รับบทเป็น พงษ์พรรษ์
วิภาวี ศิริมณีวัฒนา รับบทเป็น วันแรม
ณฐพร เตมีรักษ์ รับบทเป็น วันสว่าง
พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง รับบทเป็น พ่อ (พล)
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล รับบทเป็น แม่ (ส่ง)
ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง รับบทเป็น พิณรมณ์
เพชรดา เทียมเพ็ชร รับบทเป็น พุดจีบ
จิรายุ ละอองมณี รับบทเป็น พรพุฒิ
สรวงสุดา ลาวัลย์ประเสริฐ รับบทเป็น น้าแก้ว
โกสินทร์ ราชกรม รับบทเป็น ไวฑูรย์
มนตรี เจนอักษร รับบทเป็น ลุงกำนัน