ละคร สื่อสองโลก 2560 (EP.1-30 ตอนจบ) HD END

เรื่องราวของหญิงสาวมาดเซอร์ที่บังเอิญได้รับพรสวรรค์พิเศษจึงทำให้มองเห็ฟนวิญญาณได้ เป็นเหตุให้เธอต้องเข้าไปพัวพันกับเรื่องอันตรายเพื่อแก้ไขปัญหาให้วิญญาณเหล่านั้น โดยมีช่างภาพหนุ่ม ผู้ไม่เชื่อเรื่องลึกลับคอยให้ความช่วยเหลือ แม้ทั้งคู่จะเป็นไม้เบื่อไม้เมาต่อกันแต่ความใกล้ชิดก็ค่อยๆ ก่อเกิดเป็นความผูกพันและกลายเป็นความรักขึ้นโดยไม่รู้ตัว


ละคร สื่อสองโลก 2560

ละคร สื่อสองโลก 2560

ละคร สื่อสองโลก ตอนแรก

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 2

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 3

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 4

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 5

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 6

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 7

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 8

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 9

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 10

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 11

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 12

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 13

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 14

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 15

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 16

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 17

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 18

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 19

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 20

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 21

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 22

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 23

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 24

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 25

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 26

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 27

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 28

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 29

ละคร สื่อสองโลก ตอนที่ 30 ตอนจบ

เงยหน้า Ost.สื่อสองโลก | แปม ไกอา [Official MV]

เวลากลับหลัง Ost.สื่อสองโลก | ณัชชา จันทพันธ์ [Official MV]


ปลายจันทร์ สาวห้าวที่เพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยวัยยี่สิบต้น ๆ จิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ทว่ากลับคิดอยู่เสมอว่าสำหรับครอบครัวเธอแล้ว ต่อให้เธอจะทำดีแค่ไหน เธอก็ยังดีได้ไม่เท่าพี่ชายคนโต ต้นกล้า หนุ่มนักธุรกิจหัวแก้วหัวแหวนของครอบครัว และ กลางใจ พี่สาวคนกลางแอร์โฮสเตสสุดสวยที่เก่งไปเสียทุกอย่าง ไม่มีใครสนใจน้องสาวคนสุดท้องจอมแก่นอย่างเธอ ที่แม้แต่ชื่อยังตั้งว่า ปลายจันทร์ ซึ่งสำหรับเธอฟังดูเป็นอะไรที่เหมือนปลายแถวมากกว่า แถมเรียนจบแล้วเธอก็ยังหางานทำไม่ได้สักที ต้องรับจ็อบเป็นแมสเซนเจอร์คอยขับรถไปเก็บเงินจากลูกค้าของร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ที่พ่อของเธอเป็นเจ้าของ เมื่ออยู่บ้านก็ต่อล้อต่อเถียงกับ อากง ที่ไม่เคยพอใจในสิ่งที่เธอทำเลยสักอย่าง ทั้งหมดนี้ยิ่งตอกย้ำให้ปลายจันทร์รู้สึกว่าทุกคนในครอบครัว ไม่มีใครรักและใส่ใจเธอเลยสักคน

แต่แล้ววันหนึ่ง ปลายจันทร์ได้เดินทางไปปฏิบัติธรรมในวันออกพรรษาที่สำนักชีบนเขาตามคำชวนของ อุ้ง เภสัชกรสาวที่เป็นเพื่อนซี้ตั้งแต่สมัยเด็ก อุ้งผู้ซึ่งเป็นคนกลัวผีอย่างมาก แต่ฟ้ากลับบันดาลให้เธอมีความสามารถในการได้ยินเสียงเรียกจากวิญญาณอยู่เสมอซะอย่างงั้น ที่สำนักชีนั้นเกิดเรื่องราวประหลาดขึ้น เมื่อปลายจันทร์ได้พบกับ ตาอ่อง ชายแก่คนคุ้นเคยที่ปลายจันทร์ช่วยเหลือดูแลเวลาเจ็บป่วย ตาอ่องพาเธอไปดูพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ แต่นั่นไม่ใช่พิธีทั่วไปของโลกมนุษย์ แต่เป็นพิธีตักบาตรเทโวโรหณะตอนสองยาม ซึ่งนั่นหมายถึงว่าเป็นพิธีของโลกวิญญาณนั่นเอง ที่นั่น ปลายจันทร์ได้เห็นโลกทั้งสามคือ สวรรค์ นรก และโลกมนุษย์ในเวลาเดียวกัน

ตาอ่องขอร้องให้ปลายจันทร์ช่วยเป็นแมสเซนเจอร์นำสร้อยพระเครื่องของตนที่เก็บซ่อนไว้ ไปให้หลานชายที่ชื่อ โอ่ง ที่ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ปลายจันทร์คิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่หนักหนาอะไรจึงรับปากช่วย แต่เมื่อปลายจันทร์ไปเอาสร้อยพระที่บ้านตาอ่องจึงได้รู้ความจริงว่าตาอ่องเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่หลายวันก่อน ตาอ่องที่คุยกับเธอบนเขาคืนนั้นคือ วิญญาณของตาอ่องที่ตายไปแล้ว ! ปลายจันทร์ไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง แต่ก็ปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่ได้ เธอได้แต่ยอมรับและรับผิดชอบเป็นธุระให้ตาอ่องตามที่ได้รับปากไว้ ปลายจันทร์จึงมุ่งหน้าเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปหาหลานชายตาอ่อง

เมื่อไปถึงเวดดิ้งสตูดิโอที่ทำงานของโอ่ง เรื่องเข้าใจผิดก็เกิดขึ้น เมื่อปลายจันทร์เข้าใจว่า กรวีร์ ชายหนุ่มช่างภาพเจ้าของสตูดิโอเป็นหลานชายตาอ่อง จึงรู้สึกไม่พอใจที่เขาไม่ดูแลตาอ่องให้ดีกว่านี้ทั้ง ๆ ที่เป็นคนรวยมีฐานะ แถมกรวีร์ยังมีท่าทีกวนประสาท เธอจึงพยายามรีบยัดเยียดสร้อยพระคืนให้เขา ส่วนทางด้านกรวีร์ก็คิดว่าปลายจันทร์เป็นพวกสิบแปดมงกุฏจึงไม่ยอมรับสร้อยพระ ทั้งคู่ทุ่มเถียงกันจนปลายจันทร์ชกกรวีร์เข้าให้ กัลยาพร แม่ของกรวีร์เข้ามาช่วยห้ามทัพ กว่าเจรจากันรู้เรื่องว่า โอ่ง หรือชื่อจริงว่า ทวี ซึ่งเป็นหลานชายของตาอ่องเป็นคนสวนของสตูดิโอนี้ ไม่ใช่กรวีร์อย่างที่ปลายจันทร์เข้าใจ ปลายจันทร์จึงรีบเอาสร้อยพระคืนให้กับโอ่ง ก่อนที่จะรีบหนีออกมาจากบ้านนั้นด้วยความอับอาย และตั้งมั่นว่าจะไม่กลับมาที่นี่อีก ทว่าเธอคิดผิด…

ปลายจันทร์เดินทางกลับมาหาวิญญาณตาอ่องที่สำนักชีเพื่อบอกว่า ได้จัดการธุระที่ทำให้วิญญาณของตาอ่องยังมีห่วงอยู่เสร็จสินแล้ว แต่เหมือนโชคชะตาจะกลั่นแกล้งเมื่อปลายจันทร์ได้พบกับ ชมพร วิญญาณที่ดูเศร้าหมองเพราะต้องการจะยกเงินในบัญชีที่เธอเก็บไว้ให้กับลูกสาวคนสุดท้องซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือกัลยาพรแม่ของกรวีร์นั่นเอง แม้ปลายจันทร์จะไม่อยากรับงานนี้ แต่ก็ต้องรับไว้เพราะสงสารวิญญาณชมพรที่ไม่สามารถไปสู่สุขคติได้ ปลายจันทร์จึงบากหน้าเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปพบกัลยาพร และแน่นอนที่เธอจะต้องพบกับกรวีร์ ชายหนุ่มที่เธอหมั่นไส้จนอยากจะต่อยหน้าเขาอีกหลาย ๆ ครั้ง
การเดินทางไปพบกัลยาพรคราวนี้ ปลายจันทร์ พาอุ้ง และ ซัน ลูกพี่ลูกน้องของปลายจันทร์ พนักงานธนาคารสุดงก ผู้หายใจเข้าออกเป็นเงินทอง ช่วยขับรถพาปลายจันทร์มาที่สตูดิโอของกรวีร์ด้วย เมื่อปลายจันทร์เล่าเรื่องราวทั้งหมดของชมพรให้ฟัง กัลยาพรเหมือนจะเชื่อสิ่งที่ปลายจันทร์พูดแล้วแต่ถูกกรวีร์ห้ามไว้ หาว่าปลายจันทร์กับเพื่อนเป็นนักต้มตุ๋นและไล่ทุกคนกลับไป ยิ่งทำให้ปลายจันทร์ไม่ชอบหน้ากรวีร์เข้าไปใหญ่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ล่าถอยกลับบ้าน

เมื่อกลับมาถึงบ้านปลายจันทร์ต้องแปลกใจที่พ่อแม่และอากงต่างพูดจาเอาใจเธอ แถมทำอาหารเตรียมไว้ให้อย่างดี จนกระทั่งได้รู้ว่าที่บ้านของเธอชวน ป้องเกียรติ ร้อยตำรวจเอกหนุ่มรูปหล่อลูกเศรษฐีใหญ่ประจำจังหวัดที่เพิ่งได้ย้ายกลับมาประจำที่บ้านให้มาดูตัวเธอนั่นเอง ปลายจันทร์ไม่พอใจอย่างมาก เพราะแค่การเป็นคนที่ครอบครัวไม่รักก็แย่พอแล้ว แต่นี่ยังต้องโดนบังคับให้ดูตัวกับคนแปลกหน้าอยู่เสมอ แต่ป้องเกียรติดูจะถูกชะตาปลายจันทร์อยู่ไม่น้อย หลังจากป้องเกียรติกลับไป ปลายจันทร์ทะเลาะกับอากงที่อยากให้หลานเป็นฝั่งเป็นฝา ทั้งยังบ่นเรื่องเข้ากรุงเทพฯ บ่อยไม่ยอมอยู่บ้านและจะบังคับให้เธอแต่งงานให้ได้ โดยยื่นคำขาดว่าถ้าปลายจันทร์ไม่ยอมแต่งงาน อากงจะตัดหลานและจะไม่ยกมรดกให้ ยิ่งทำให้ปลายจันทร์ทั้งโกรธทั้งน้อยใจหนักเข้าไปอีก

วันรุ่งขึ้น ปลายจันทร์แวะไปหาอุ้งที่ร้านขายยาเพื่อบ่นให้เพื่อนฟัง ที่ร้านขายยาได้เจอ ซันลูกพี่ลูกน้องและลูกไล่ของปลายจันทร์กำลังซื้อยาที่ร้านอยู่พอดี ทั้งสามเลยออกมากินข้าวด้วยกัน ระหว่างที่กินข้าวอยู่นั้นเอง ได้เจอกรวีร์ที่กำลังเซ็งหนัก กรวีร์เล่าให้ทุกคนฟังว่ากัลยาพรตามไปสืบจนเจอเงินบัญชีตามที่ปลายจันทร์เคยเล่าไว้จริง แต่ธนาคารต้องการใบมรณบัตรของชมพรเพื่อเป็นหลักฐานในการถอนเงิน ซึ่งใบมรณบัตรนั้นอยู่ที่ กุณฑล พี่สาวคนโตสุดเค็มของกัลยาพร กัลยาพรเลยต้องกลับมาบ้านที่นี่ และโดนกุณฑลหลอกให้ซื้อของต่าง ๆ ให้เพื่อแลกกับเอกสาร แต่แล้วกุณฑลก็ยังไม่ยอมให้ใบมรณบัตรเสียที

อุ้งและซันจึงเสนอไอเดียที่จะเอาใบมรณะบัตรมาให้ได้ ด้วยการให้กรวีร์พากุณฑลกับกัลยาพรไปที่สำนักชี ที่ที่ปลายจันทร์ได้เจอกับวิญญาณชมพร โดยให้ปลายจันทร์แกล้งทำเป็นร่างทรงของชมพรเพื่อสั่งกุณฑลให้มอบใบมรณะบัตรให้ ทั้งหมดเห็นพ้องกัน ยกเว้นปลายจันทร์ที่ไม่ชอบหลอกใคร แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเล่นตามแผน

ทว่า พอถึงเวลาจริงทุกอย่างกลับผิดคาดไปหมด เมื่อป้องเกียรติ ที่ดันมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของกรวีร์ดันเดินทางมากับพวกกรวีร์ด้วยในตอนที่กรวีร์กับแม่จะไปรับกุณฑลมาจากบ้าน ด้วยสัญชาติญาณของตำรวจ ป้องเกียรติจึงจับไต๋เปิดเผยแผนเข้าทรงของซัน อุ้ง และกรวีร์ได้ แต่ตกใจที่เห็นว่าปลายจันทร์มีส่วนร่วมด้วย ทางปลายจันทร์เองก็เพิ่งรู้ว่าป้องเกียรติเป็นญาติของกรวีร์ กุณฑลโกรธมากจะให้ป้องเกียรติจับทุกคนเข้าคุกให้หมด แต่ด้วยความช่วยเหลือจากวิญญาณชมพรที่บอกปลายจันทร์เรื่องข้อมูลสำคัญระหว่างเธอกับลูก ๆ ที่ไม่มีใครรู้ โดยเฉพาะพระสมเด็จที่ตั้งใจจะยกให้ป้องเกียรติหลานรัก ทำให้เรื่องราวกลับตาลปัตร กุณฑลที่งมงายอยู่แล้วได้ยินเข้าก็เชื่อสนิทใจว่าวิญญาณแม่ของเธออยู่ตรงนั้น ทำให้เกิดกลัวความผิดที่ฮุบสมบัติหลาน วิ่งหนีเตลิดหายไปในป่าทั้ง ๆ ที่มืดแล้ว ทุกคนพยายามจะช่วยกันค้นหาแต่ก็หาไม่เจอ อีกทั้งยังทำให้ปลายจันทร์กับกรวีร์พลัดหลงป่าไปด้วยอีกคู่

ระหว่างหลงป่า ปลายจันทร์กับกรวีร์ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ปลายจันทร์ได้รู้ว่ากรวีร์ไม่ได้มีชีวิตสุขสบายแบบลูกคนรวยอย่างที่เธอคิด แต่เขาต้องดิ้นรนด้วยฝีมือตัวเองอย่างอยากลำบากกว่าจะลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ ส่วนตัวกรวีร์เองที่ตอนนี้ก็เชื่อแล้วว่าปลายจันทร์ติดต่อวิญญาณได้จริง ก็เพิ่งเข้าใจว่าปลายจันทร์ช่วยเหลือผู้อื่นด้วยใจบริสุทธิ์ ทั้งคู่หลงป่าอยู่พักใหญ่ ปลายจันทร์ก็คิดขึ้นมาได้ว่าควรใช้ความสามารถติดต่อวิญญาณของเธอขอความช่วยเหลือจากเจ้าป่าเจ้าเขา แต่อธิษฐานเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งคู่เริ่มหมดแรง จู่ ๆ กรวีร์เริ่มร้องเพลงด้วยเสียงแตก ๆ เพี้ยน ๆ เพื่อปลุกใจไม่ให้หวาดกลัวความมืดและสิ่งรอบข้าง แล้วก็ดันเป็นผลเมื่อเจ้าป่าออกมาปรากฎตัวเพราะทนหนวกหูเสียงร้องเพลงเพี้ยน ๆ ของกรวีร์ไม่ไหว

วิญญาณท่านเจ้าป่าเจ้าเขาอธิบายว่า ที่ปล่อยให้ทั้งสองคนหลงป่าและไม่ออกมาช่วยแต่แรก เพราะพวกปลายจันทร์ไม่รู้จักสัมมาคารวะ ไม่กราบไหว้บูชาท่านในฐานะเจ้าที่เจ้าทาง แถมด้วยตัวปลายจันทร์เองยังเล่นพิเรนทร์หลอกเจ้าเข้าทรงจึงอยากจะสั่งสอน แต่เมื่อเห็นว่าปลายจันทร์คิดได้ก็พอใจแล้ว จึงเลิกบังตาและเปิดทางออกจากป่าให้ กรวีร์กับปลายจันทร์ถามถึงคนอื่น ๆ จึงได้รู้ว่าทุกคนออกจากป่าไปได้หมดแล้ว เหลือเพียงกุณฑลที่เจ้าป่าขอกักไว้อีกสามวันเพื่อสั่งสอนคนละโมบแทนชมพรสักหน่อย ทั้งยังสำทับว่ากุณฑลจะไม่เป็นอันตราย อีกทั้งยังมีชมพรคอยตามเฝ้าดูด้วยจึงไม่ต้องเป็นห่วง ทั้งคู่จึงวางใจพากันลงจากเขามา

ที่สำนักชีที่ตีนเขา อุ้ง ซัน ป้องเกียรติและญาติคนอื่น ๆ กำลังเป็นห่วงคนที่หลงป่าทั้งสามคน พอเห็นปลายจันทร์กับกรวีร์ลงมาได้ก็เบาใจลงแต่ก็ยังเป็นห่วงกุณฑล ปลายจันทร์กับกรวีร์ไม่กล้าบอกเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าป่า เพราะคิดว่าจะทำให้เรื่องไปกันใหญ่ และตอนนั้นก็ดึกมากแล้วจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน

วันรุ่งขึ้น กรวีร์ไปรับปลายจันทร์ที่บ้านแต่เช้า ทั้งคู่นัดญาติ ๆ ของกุณฑลไว้เพื่อบอกความจริงเรื่องที่หลอกกุณฑลขึ้นไปบนเขา ปลายจันทร์ขอโทษที่เป็นต้นคิดแผนนี้และยินดีรับผิดถ้าใครจะฟ้องร้องเอาความ ทุกคนไม่มีใครติดใจเพราะรู้จักนิสัยกุณฑลดี แถมแต่ละคนยังโดนกุณฑลเอาเปรียบกันมาแล้ว ทางด้านป้องเกียรติเห็นปลายจันทร์กล้าทำกล้ารับจึงยิ่งนึกชอบเธอมากขึ้นไปอีก

หลังจากสารภาพความกันเสร็จ กรวีร์คุยกับแม่ว่าจะต้องรีบกลับไปทำงาน จำเป็นต้องหาช่างแต่งหน้าและลูกมือเพิ่มเพราะแม่ยังติดธุระทางนี้ ปลายจันทร์จึงเสนอตัวช่วยงานเพราะตัวเองแต่งหน้าเป็นและอยากจะหนีจากที่บ้านที่พยายามจะจับเธอคลุมถุงชน โดยระหว่างนั้นเธอจะไปพักอยู่ที่คอนโดกลางเมืองของกลางใจพี่สาวของเธอ

ระหว่างที่ทำงานด้วยกัน กรวีร์แม้จะยังคอยแซวคอยกวนประสาทปลายจันทร์อยู่ตลอด แต่ก็ทึ่งในตัวปลายจันทร์มากขึ้นเพราะลุยงานชนิดไม่มีบ่น แถมฝีมือเรื่องแต่งหน้าก็ไม่ได้โม้ ส่วนปลายจันทร์เองก็สนุกที่ได้ทำงานอื่นบ้างสักที จะรำคาญก็แต่กลางใจที่ดูเหมือนจะชอบหนุ่มหล่ออย่างกรวีร์จึงคอยถามถึงเรื่องกรวีร์บ่อย ๆ ในคืนวันที่สองหลังจากเสร็จงานที่สตูดิโอ ปลายจันทร์ได้ยินเสียงฮัมเพลงลูกกรุงเก่า ๆ จนจับได้ว่าเจ้าของเสียงเพลงนั้นคือวิญญาณ เด่นเดือน อดีตนักร้องชื่อดังที่ตายตั้งแต่ยังสาว ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่กรวีร์และกัลยาพรเช่าทำสตูดิโอนี่เอง วิญญาณเด่นเดือนดีใจมากที่ปลายจันทร์สามารถสื่อสารกับวิญญาณอย่างเธอได้ เลยทั้งชวนคุยทั้งร้องเพลงให้ฟังเป็นการใหญ่ เพราะถือเป็นคนฟังคนแรกในรอบหลายปี

ครบสามวันตามกำหนดของเจ้าป่า กรวีร์กับปลายจันทร์กลับไปรับกุณฑลที่ชายป่า พร้อมกับร่ำลากับชมพรที่บอกว่าตอนนี้กุณฑลคิดได้แล้ว ลูก ๆ ทุกคนก็กลับมารักใคร่ปรองดองเหมือนเดิมเธอจึงหมดห่วง ปลายจันทร์ดีใจที่เรื่องยุ่ง ๆ จบลงเสียที แต่ชมพรยิ้มและทิ้งท้ายว่ายังไม่จบหรอก ก่อนวิญญาณของชมพรจะสลายข้ามภพไป

ทางด้านกุณฑลฟื้นได้สติขึ้นมาที่โรงพยาบาลก็รีบบอกกัลยาพรว่าซ่อนใบมรณบัตรอยู่ที่ไหน รวมถึงเคลียร์คดีเก่า ๆ ที่เอาเปรียบญาติทุกคนไว้จนหมด เพราะตอนนี้กุณฑลคิดและกลับตัวได้แล้วหลังจากหลงป่าอยู่สามวัน ญาติ ๆ มอบเงินรางวัลที่ตั้งไว้สำหรับคนที่หากุณฑลเจอให้กับปลายจันทร์ กรวีร์ขอบคุณปลายจันทร์ที่ช่วยเหลือจนแม่ได้เงินมรดกตามที่ชมพรตั้งใจไว้ และออกปากว่าถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยก็บอกได้ ปลายจันทร์บอกว่า มีแน่ แต่ยังไม่บอกว่าเป็นอะไร กรวีร์หวั่นใจว่าปลายจันทร์จะมาไม้ไหน

ปลายจันทร์พากรวีร์ไปที่บ้าน บอกครอบครัวว่าเธอจะไปช่วยงานแฟนที่กรุงเทพฯ ซึ่งแฟนของเธอคนนั้นก็คือกรวีร์นั่นเอง กรวีร์ตกใจเพราะไม่ได้เตี๊ยมกันไว้ก่อนว่าจะให้เล่นเป็นแฟนของปลายจันทร์ แต่ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษที่ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับปลายจันทร์จึงได้แต่เออออห่อหมกไป

อากงเขม่นมองกรวีร์อย่างไม่ไว้วางใจ ขณะที่พ่อกับแม่ของปลายจันทร์ดูตกใจแกมงงงวยกับการเปิดตัวแฟนหนุ่มของลูกสาวอย่างสายฟ้าแลบ ทั้งคู่ตั้งท่าจะซักไซ้ไล่เลียงว่ากรวีร์เป็นใครมาจากไหน รู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมก่อนหน้านี้ไม่เคยพามาแนะนำ ปลายจันทร์รีบตัดบทและบอกทุกคนว่าต้องรีบเข้ากรุงเทพฯ โดยไม่เปิดโอกาสให้ครอบครัวได้ถามถึงเรื่องต่าง ๆ กรวีร์ทำหน้าไม่ถูก ก่อนจะบอกลาผู้ใหญ่แล้วออกจากบ้านไปพร้อมกับปลายจันทร์

ปลายจันทร์มาพักอยู่กับกลางใจที่คอนโด ทันทีที่เจอหน้ากัน กลางใจซึ่งทราบเรื่องแฟนของน้องจากที่บ้าน ก็รู้ได้ทันทีว่าปลายจันทร์กับกรวีร์ไม่ได้เป็นแฟนกันจริง ๆ ปลายจันทร์เถียงไม่ออกได้แต่ขอร้องกลางใจอย่าพึ่งบอกครอบครัว กลางใจยอมตกลงช่วยแลกกับให้ปลายจันทร์เล่าเรื่องของกรวีร์มาให้หมดและแสดงความสนใจในตัวกรวีร์อย่างโจ่งแจ้ง จนทำให้ปลายจันทร์เริ่มรู้สึกไม่พอใจที่กลางใจหวังจะโปรยเสน่ห์กับกรวีร์เหมือนกับผู้ชายหลาย ๆ คนที่ผ่านมาอย่างบอกไม่ถูก

ทางด้านกัลยาพรอยากเลี้ยงขอบคุณซันและอุ้งที่มีส่วนช่วยในเรื่องมรดก จึงนัดทุกคนมาทานข้าวที่บ้าน หลังจากทานกันเสร็จกรวีร์ชวนทุกคนไปร้องคาราโอเกะกันต่อที่ร้านอาหารเรือนไม้งามเพราะเขามีบัตรส่วนลด เด่นเดือนได้ยินเข้าจึงขอปลายจันทร์ตามไปด้วย ที่ร้านอาหาร จันนี่ สาวใหญ่ท่าทางเหมือนเจ้าของร้านตั้งแง่ไม่ให้ใช้บัตรส่วนลดโดยอ้างว่าร้านได้ยกเลิกข้อตกลงกับบริษัทที่ออกบัตรไปแล้ว แต่ คำนึง หนุ่มใหญ่วัยกลางคนเจ้าของร้านตัวจริงกลับต้อนรับทุกคนอย่างดีและอนุญาตให้ใช้บัตรได้ พลางอธิบายอย่างเหนื่อยหน่ายว่าจันนี่เป็นแม่เลี้ยง เด่นเดือนได้ยินเข้าก็กรี๊ดลั่นจนอุ้งและปลายจันทร์ตกใจ ก่อนจะเฉลยว่าพ่อของคำนึงเป็นสามีของเธอที่เคยสาบานกันไว้ว่าจะรักกันไปจนตาย แต่ดันหนีเธอไปมีเมียน้อย ที่เธอตามมาที่ร้านแห่งนี้ก็เพราะอยากเจอลูกชายซึ่งคือคำนึงนั่นเอง

ระหว่างที่ทุกคนกำลังร้องเพลงกันอยู่ เด่นเดือนขอเข้าสิงปลายจันทร์เพื่อจะได้ร้องเพลงอีกครั้ง เพลงที่เลือกเป็นเพลงที่ดังที่สุดของเธอสมัยมีชีวิตอยู่ และเมื่อปลายจันทร์เริ่มร้องเพลง เสียงที่ออกมาก็เป็นเสียงสุดแสนจะไพเราะของเด่นเดือน พอคำนึงได้ยินเข้าก็ตกใจว่าเสียงของปลายจันทร์เหมือนแม่ของเขาไม่มีผิด ส่วนจันนี่พอได้ยินเสียงก็จำได้ดีว่านั่นคือเสียงของเด่นเดือนเมียหลวงที่เธอเกลียดนักเกลียดหนา จันนี่เข้ามาอาละวาดโวยวายในห้องส่วนตัวของพวกปลายจันทร์ทันที จนคำนึงต้องพาตัวไปสงบสติอารมณ์ กรกนก ผู้บริหารค่ายเพลงรุ่นใหญ่ที่บังเอิญมาทานข้าวที่นั่นก็เข้ามาหาปลายจันทร์ บอกว่าสนใจอยากจะชวนปลายจันทร์เข้าประกวดร้องเพลงในรายการ The Deva ปลายจันทร์อยากจะปฏิเสธแต่เด่นเดือนร้องขอไว้ รวมไปถึงซันก็คำนวณให้เสร็จสรรพตามประสาคนงกเงินว่าเงินรางวัลคุ้มค่ามาก คำนึงที่ส่งจันนี่กลับบ้านไปได้ก่อนแล้ว เห็นปลายจันทร์คุยกับกรกนกก็เข้ามาร่วมวงหว่านล้อมให้ปลายจันทร์ประกวดด้วย เพราะเขาเองก็อยากฟังเสียงของแม่บนเวทีอีกครั้ง พร้อมทั้งรับปากว่าจะช่วยซ้อมให้ปลายจันทร์ ส่วนเด่นเดือนก็นึกสนุกอยากร้องเพลงให้คนฟังอีกครั้ง ปลายจันทร์ที่โดนทั้งผีทั้งคนหว่านล้อมจนตกปากรับคำชวนของกรกนก

ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ปลายจันทร์เห็น เฟื่องลดา ผีสาวแต่งชุดโบราณยืนอยู่ข้างเสาไม้ต้นใหญ่หน้าร้าน มองจ้องไปทางกรวีร์ด้วยแววตาอันเศร้าโศกอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เนื่องจากเฟื่องลดาก็ไม่ได้ทำอะไรและไม่ได้มีทีท่าอยากจะคุยกับเธอ ปลายจันทร์จึงกลับคอนโดไปพร้อมกับเพื่อน ๆ แบบไม่ได้สนใจอะไรมากนัก

วันรุ่งขึ้น ปลายจันทร์ อุ้งและซันเดินทางไปที่ค่ายเพลงของกรกนกเพื่อคุยเรื่องการเข้าประกวด จนได้เจอกับ ธาริน สาวสวยมาดเท่รั้งตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดของค่ายเพลง แถมกรวีร์ก็อยู่ที่นั่นเพราะมีนัดคุยเรื่องการถ่ายภาพงานแถลงข่าว ปลายจันทร์ได้รู้ว่าธารินเป็นแฟนเก่าของกรวีร์ เธอรู้สึกถูกชะตากับธารินที่มีบุคลิกแมน ๆ ตรง ๆ แถมยังดูเป็นคนเก่งอีกต่างหาก

ก่อนกลับจากค่ายเพลง ปลายจันทร์ได้พบกับวิญญาณ เควิน ผีนักร้องลูกครึ่งชื่อดังในอดีตของค่ายเพลงแห่งนี้ ที่เข้ามาขอความช่วยเหลือให้เธอช่วยสืบความจริงว่าเขาจมน้ำตายหรือเขาโดนฆาตกรรมกันแน่ ปลายจันทร์อยากจะช่วยแต่จำใจปฏิเสธ เพราะตอนนี้ก็มีภาระเรื่องเด่นเดือนอยู่แล้ว

เมื่อกลับถึงสตูดิโอ ปลายจันทร์สังเกตเห็นเฟื่องลดามายืนมองนิ่งอยู่ที่หน้าบ้าน เธอจำได้ว่าเป็นวิญญาณที่เคยพบที่ร้านเรือนไม้งาม จึงแปลกใจว่ามาทำอะไรที่นี่ เข้าไปสอบถามได้ความว่าเฟื่องลดาเป็นคนรักเก่าของกรวีร์ในชาติก่อน และเฝ้ารอเขาอยู่ที่ต้นไม้สักหน้าร้านมาตลอด จนกระทั่งได้พบกรวีร์อีกครั้งเมื่อคืน จึงตามเขากลับมาที่บ้านแต่เข้าไปข้างในไม่ได้เพราะติดเจ้าที่ เฟื่องลดาไม่ต้องการอะไรขอแค่ได้เฝ้ามองกรวีร์ก็พอใจแล้ว เมื่อปลายจันทร์เข้ามาในสตูดิโอก็เห็นว่าคำนึงมารออยู่ คำนึงดีใจมากที่รู้ว่าปลายจันทร์จะร่วมประกวดร้องเพลงแม่ของเขา และเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังว่าพ่อยกร้านอาหารนี้ให้เขา อีกร้านให้จันนี่ดูแล แต่จันนี่ชอบมาวุ่นวายที่ร้านที่เขาดูแล เขามั่นใจว่าปลายจันทร์จะต้องเป็นผู้ชนะแน่นอน และจะพาพ่อไปฟังเสียงของปลายจันทร์ในรอบชิงชนะเลิศด้วย กัลยาพรอาสาดูแลเรื่องชุดให้ ส่วนเด่นเดือนก็จะสอนการเดินและลีลาบนเวทีให้อีก ปลายจันทร์ซ้อมเดินซ้อมเต้นอยู่นานโดยมีกรวีร์ดูอยู่เงียบ ๆ และแอบขำท่าทาง ก่อนที่จันนี่จะบุกเข้ามาโวยวายให้คำนึงกลับบ้าน เด่นเดือนโกรธแค้นจันนี่ที่บุกมาถึงบ้านและพยายามหลอกหลอน แต่จันนี่กลับหึงคำนึงจนไม่กลัวผีสางที่ไหน ปลายจันทร์เห็นจันนี่มาอาละวาดจึงยิ่งมุ่งมั่นที่จะชนะเลิศเพื่อเด่นเดือนให้ได้ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเอกสารที่ใช้ในการสมัครยังอยู่ที่บ้าน จึงจะรีบกลับบ้านไปเอาเอกสารกลางดึก กรวีร์เป็นห่วงว่าจะเป็นอันตรายจึงอาสาไปส่ง ปลายจันทร์ดีใจที่เขาเป็นห่วงแต่ก็ยืนยันที่จะกลับเอง พอไปถึงตัวจังหวัดนึกกลัวตามคำพูดของกรวีร์ขึ้นมาจึงโทรบอกพ่อให้ออกมารับ ระหว่างทางกลับบ้าน ปลายจันทร์ถามพ่อถึงซีดีเพลงของเด่นเดือน จึงได้รู้ว่าพ่อของตัวเองเคยเป็นนักร้องในคาเฟ่มาก่อนแต่ถูกอากงลากกลับมาสืบทอดกิจการที่บ้าน ปลายจันทร์เลยขอร้องให้พ่อของเธอช่วยสอนร้องเพลงให้ แต่ยังไม่ยอมบอกว่าเพื่อจะเอาไปประกวดร้องเพลง

ในวันประกวดรอบแรก ปลายจันทร์ขึ้นเวทีด้วยชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่เธอชอบเพราะบอกทุกคนว่ามั่นใจมากกว่า ทั้งคนดูและกรรมการเห็นเข้าก็หัวเราะแต่พอปลายจันทร์เริ่มร้อง เสียงที่ออกมาก็เป็นเสียงของเด่นเดือนจึงทำให้ทุกคนหันมาสนใจ หลังประกวดรอบแรกเสร็จ ปลายจันทร์โดนวิญณาณเควินตามมาขอร้องให้ช่วยอีก สุดท้ายปลายจันทร์ก็ใจอ่อน ยอมตกลงช่วยเหลือเควินจนได้ ปลายจันทร์ปรึกษาอุ้งและซันให้ช่วยกันวางแผนว่าจะสืบเรื่องการตายของเควินนี้อย่างไรดี กรวีร์ ได้ยินเข้าก็รีบยื่นมือช่วยเหลือ ปลายจันทร์กับกรวีร์ตัดสินใจเริ่มต้นด้วยการไปหาแม่ของเควิน

ที่บ้านของเควิน ปลายจันทร์ได้เจอกับ รัชดา ลูกเลี้ยงของแม่เควินที่โตมาพร้อมกับเควินและ คม สามีของรัชดา แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คล้ายกับที่ไปหากัลยาพรครั้งแรก คือถูกเข้าใจว่าเป็นพวกสิบแปดมงกุฎ ปลายจันทร์มืดแปดด้าน เพราะในสมัยที่เควินโด่งดัง เธอเองก็ยังไม่เกิด เลยไม่รู้ว่าจะไปหาข้อมูลของเควินได้ที่ไหน แต่เหมือนสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยหนุนให้เธอทำความดีในการช่วยปลดปล่อยวิญญาณทั้งหลายให้ไปสู่สุขคติ เธอจึงพบว่าต้นกล้า พี่ชายของเธอเป็นแฟนคลับตัวจริงของเควินในสมัยที่เควินดังสุดขีด

ต้นกล้าให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับเควินและแนะนำให้มาคุยกับ ลุงผาง อดีตผู้จัดการส่วนตัวของเควิน แต่ว่าตอนนี้ออกจากวงการไปไม่รู้อยู่ที่ไหน ปลายจันทร์มาขอความช่วยเหลือจากธารินที่ดูเหมือนจะยินดีให้ความร่วมมือกับเธอมากกว่ากรกนกที่หงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเควิน เมื่อได้คุยกับลุงผาง ปลายจันทร์จึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้วเควินกับรัชดาไม่ได้คิดกันแค่พี่น้องแต่กลับเป็นคู่รักกัน แถมยังได้รู้ความลับว่า กรกนก เองก็แอบรัก รัชดาอยู่ในตอนนั้นด้วยเหมือนกัน

ด้วยความร่วมมือของธารินที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเพลง รวมกับข้อมูลเรื่องงานศพของเควินที่แม่ของเควินเล่าให้ปลายจันทร์ฟัง ทำให้ปลายจันทร์และเพื่อนสรุปได้ว่ากรกนกต้องเป็นฆาตกรแน่นอน แต่ก่อนที่เรื่องจะไปถึงตำรวจ กรกนกก็ตามมาจับตัวปลายจันทร์หมายจะฆ่าปิดปากเรื่องเควิน วิญญาณของเควินจึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเขาโดนเพื่อนรักหักหลัง กรวีร์และป้องเกียรติตามมาช่วยปลายจันทร์จนต้องไล่ล่ากัน ก่อนที่ปลายจันทร์จะรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ส่วนกรกนกโดนเควินหลอกหลอนจนขับรถตกสะพานตายระหว่างหลบหนี

กลางใจรีบรุดมาดูอาการของปลายจันทร์ที่โรงพยาบาลและได้พบกับป้องเกียรติ ทั้งสองปิ๊งกันทันที วันรุ่งขึ้นปลายจันทร์ออกจากโรงพยาบาลและไปบ้านของเควินเพื่อเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด แม่ของเควิน ขอบคุณปลายจันทร์ที่ช่วยวิญญาณของเควินไปสุ่สุขคติ เมื่อปลายจันทร์กลับไปที่สตูดิโอเพื่อทำงานต่อก็เห็นเด่นเดือนรออยู่แล้ว ปลายจันทร์ตัดพ้อว่าเด่นเดือนไม่ยอมไปช่วยตอนเกิดเรื่อง เด่นเดือนบอกว่าเธอเป็นผีติดที่ไม่ใช่นึกจะไปไหนก็ไปได้ ถ้าจะไปก็ต้องมีสื่ออย่างปลายจันทร์พาไป ปลายจันทร์เห็นว่าคำนึงนั่งคุยอยู่กับกัลยาพรอีกแล้ว คำนึงเห็นปลายจันทร์มาก็รีบบอกว่ามาเพราะจะช่วยซ้อมร้องเพลง แต่เด่นเดือนกลับแซวว่าลูกชายน่าจะมาหาลูกสะใภ้ให้แม่มากกว่า ปลายจันทร์ที่คุยกับทั้งผีทั้งคนจนทำให้ตอบสลับกันไปหมด ฝ่ายกรวีร์ก็บอกว่าไม่ได้เห็นแม่สดชื่นแบบนี้มานานแล้ว จนทำให้คำนึงและกัลยาพรได้แต่หัวเราะแก้เขิน กรวีร์รับปากว่าพรุ่งนี้จะปิดสตูดิโอไปเชียร์ปลายจันทร์ในรอบชิงชนะเลิศ ทำให้ปลายจันทร์ดีใจมาก เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป

พอปลายจันทร์กลับไปถึงคอนโดของกลางใจก็ต้องเจอเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ เมื่อพ่อแม่และอากงไปรออยู่ที่คอนโดแล้ว พร้อมด้วยซันและอุ้ง ซันบอกว่าเป็นฝืมือของเขาเองที่กระจายข่าว แถมขายบัตรที่บวกค่านายหน้า ให้ญาติ ๆ ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย แม่ของปลายจันทร์จะแต่งหน้าให้ลูกสาวด้วยตัวเอง ปลายจันทร์เมื่อได้เห็นครอบครัวตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากก็พลอยทำให้รู้สึกดีใจไปด้วย ที่ลูกไม่รักประจำตระกูลอย่างเธอก็มีความสำคัญขึ้นมาบ้าง แต่ปากยังแกล้งบ่นว่ารำคาญแก้เขิน

วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันประกวดรอบชิงชนะเลิศ ปลายจันทร์แต่งตัวเลียนแบบเด่นเดือนเต็มยศ เมื่อไปถึงค่ายเพลงที่จัดประกวด ธารินผู้รับไม้ต่อจากกรกนกที่เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ทั้งตำแหน่งโปรดิวเซอร์ของบริษัทและผู้จัดการประกวด ได้ยืนยันกับพวกของปลายจันทร์เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าได้แจกจ่ายรูปของจันนี่ให้กับ รปภ.ทุกคนแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะเข้ามาก่อความวุ่นวาย ปลายจันทร์ก็เบาใจลง แม้จะยังกังวลนิดหน่อยที่ไม่เห็นเด่นเดือน แต่ก็ไม่ติดใจมากนักเพราะรอบแรกเด่นเดือนก็โผล่มาตอนร้องเพลงเหมือนกัน หลังจาก รุ่งฟ้า คนที่ร้องเพลงก่อนหน้าเธอร้องจบ ปลายจันทร์ก็ก้าวขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจ เหลือบเห็นครอบครัวตัวเอง กรวีร์และแม่ รวมไปถึงคำนึงกับพ่ออยู่ในกลุ่มคนดูก็เริ่มตื่นเต้น พอเริ่มร้องเพลงปัญหาก็เกิดขึ้น เมื่อเด่นเดือนไม่ปรากฏร่าง เสียงที่ออกไปเป็นเสียงลูกเป็ดง่อย ๆ ของปลายจันทร์ !

กลุ่มคนดูและกรรมการเริ่มแปลกใจที่เสียงของปลายจันทร์ไม่เหมือนครั้งก่อน แต่ก่อนที่จะได้ร้องไปมากกว่าท่อนแรก ไมค์ก็ดับลง ทีมงานต้องหยุดพักการประกวด ปลายจันทร์ตกใจมากที่เด่นเดือนไม่มา ก่อนที่จะเป็นเฟื่องลดาที่โผล่มาแทนแล้วบอกว่าเธอเห็นเด่นเดือนออกมาไม่ได้เพราะมีหมอผีเอาสายสิญจน์ไปล้อมบ้านไว้ และเธอเองเป็นคนช่วยถ่วงเวลาทำให้ไมค์ดับ เพราะเห็นแก่ที่ปลายจันทร์เคยช่วยกรวีร์เรื่องมรดก รวมถึงไม่ไล่เธอไปให้พ้นจากกรวีร์

ปลายจันทร์รีบบอกซันและอุ้งให้ช่วยแก้ปัญหา ทุกคนต้องแก้ปัญหาแข่งกับเวลาเพราะไม่รู้กองประกวดจะพร้อมกลับมาเมื่อไหร่ กรวีร์จะกลับไปปลดสายสิญจน์ที่สตูดิโอเองก็ไม่ทัน สุดท้ายเดือดร้อนบิวที่กำลังไปเที่ยวต้องรีบกลับไปช่วยตัดสายสิญจน์ และได้พบว่าโอ่งโดนวางยาจึงไม่รู้ตัวและไม่รับโทรศัพท์ ส่วนคนที่ล้อมสายสิญจน์นั้นคือหมอผีที่จันนี่จ้างมา แต่กลับกลัวผีเสียเองและโดนชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้

เด่นเดือนโผล่มาช่วยปลายจันทร์ร้องเพลงได้ทันแบบฉิวเฉียด พอร้องเพลงจบ พ่อของคำนึงที่ได้ยินและจำเสียงของเด่นเดือนได้ก็เพ้อว่า เด่นเดือนกลับมาหาและยกโทษให้ตนแล้วก่อนจะล้มฟุบไป ปลายจันทร์เห็นวิญญาณของเขาลอยตามวิญญาณของเด่นเดือนเลือนหายไปต่อหน้า ปลายจันทร์รีบกระโดดลงจากเวทีไปดูอาการพ่อของคำนึง ขณะที่ทุกคนกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จันนี่ก็โผล่เข้ามากลางงานประกวด เมื่อเห็นพ่อของคำนึงช็อกตายไปก็ยิ่งขาดสติ อาละวาดด่าทอ เห็นปลายจันทร์เป็นเด่นเดือนและชักปืนออกมาจะยิง กรวีร์รีบเข้ามายืนขวางปลายจันทร์ แต่ก่อนที่จะได้ลั่นกระสุน ป้องเกียรติก็ตะครุบตัวจันนี่ไว้ได้เสียก่อน กลางใจที่เห็นเหตุการณ์อยู่ยิ่งประทับใจในตัวป้องเกียรติมากขึ้น

หลังจากเหตุการณ์สงบลง ปลายจันทร์ตัดสินใจบอกธารินเรื่องสละสิทธิชนะเลิศยกให้รุ่งฟ้า ทางด้านธารินเองก็รู้สึกผิดที่ รปภ.หละหลวมปล่อยให้จันนี่แอบเข้ามาได้จึงขอโทษเป็นการใหญ่และยืนยันจะยกเงินรางวัลส่วนหนึ่งให้ปลายจันทร์ตามเดิม หลังจากเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเสร็จ ปลายจันทร์ได้พบกับเด่นเดือนอีกครั้ง เด่นเดือนมาลาเพื่อไปสู่สุขคติเพราะได้ทำตามสัญญาแล้ว ปลายจันทร์ที่ได้เงินรางวัลกลับบ้านส่วนหนึ่ง เคลียร์เรื่องยุ่ง ๆ ของผีอีกตนนึงได้สำเร็จ แถมแอบฟินกับช็อตที่กรวีร์พุ่งมาขวางหน้าไว้ตอนจันนี่โผล่มาจะยิงอีก ทำให้ปลายจันทร์คิดว่ากลับบ้านคืนนี้ต้องนอนหลับฝันดีแน่ ๆ

แต่มันกลับไม่ใช่เลย เพราะเมื่อเธอหลับไปจริง ๆ ก็มีปีศาจค้าวคาวนรกน่าเกลียดน่ากลัวปรากฏขึ้นในความฝัน ก่อกวนจนเธอต้องสะดุ้งตื่นทั้งคืน และที่สำคัญ ปีศาจค้าวคาวนั้นหน้าตาเหมือนกรกนกเปี๊ยบ ! นั่นเกิดจาก กรกนกซึ่งเคียดแค้นปลายจันทร์อย่างหนักที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องตาย จึงต้องการที่จะลากตัวปลายจันทร์ให้ตายตกตามกันไปด้วย ความแค้นและความเกลียดชังได้เปลี่ยนให้วิญญาณธรรมดากลายเป็นปีศาจอัปลักษณ์ ถึงแม้ว่าเขาจะทำร้ายปลายจันทร์ตรง ๆ ไม่ได้ แต่ก็สามารถถือโอกาสตอนปลายจันทร์หลับเข้าไปสร้างฝันร้ายได้ ปีศาจค้างคาวกรกนกตามรังควานปลายจันทร์จนไม่ได้หลับไม่ได้นอนติดต่อกันหลายวัน ร่างกายของปลายจันทร์อ่อนแอลงเรื่อย ๆ เพราะไม่ได้พักผ่อนจนคนรอบข้างต่างเป็นห่วงไปตาม ๆ กัน กรวีร์พยายามจะเข้ามาดูแลปลายจันทร์ แต่ปลายจันทร์ก็พยายามตีตัวออกห่างเพราะคิดว่ากรวีร์กำลังจะกลับไปคืนดีกับธาริน ซึ่งระยะหลังทั้งคู่เริ่มติดต่อกันมากขึ้นเรื่อย ๆ อาการของปลายจันทร์น่าเป็นห่วง จนซันและอุ้งตัดสินใจพาปลายจันทร์ไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าป่า โดยมีกรวีร์เป็นคนขับรถพาไป เจ้าป่าเจรจากับปีศาจ กรกนก เปิดตาให้ได้เห็นนรก จนปีศาจกรกนกหวาดกลัวยอมรับการช่วยเหลือเจ้าป่าและยอมรามือจากการแก้แค้นปลายจันทร์ เจ้าป่าจึงให้กรกนกไปเกิดเป็นค้างคาวอยู่ในถ้ำเพื่อชดใช้กรรมกึ่งหนึ่งของตนก่อนที่จะต้องไปชดใช้กรรมในนรกต่อ ทุกคนพากันขึ้นรถ แต่ปลายจันทร์ที่อิดโรยเต็มทีกลับเดินโซเซคล้ายจะเป็นลมจึงทำให้เธอโดนรถของชาวบ้านที่วิ่งสวนมาเฉี่ยวชนเข้า !!!

ที่โรงพยาบาล เมื่อปลายจันทร์ตื่นขึ้นก็ตกใจที่พบว่าตัวเองอยู่ในสถานะของวิญญาณ ! ในขณะที่ร่างของเธอมีวิญญาณของเฟื่องลดาครอบครองอยู่ เฟื่องลดาเล่าให้ฟังว่าระหว่างที่ปลายจันทร์บาดเจ็บเพราะรถชน ทำให้วิญญาณของปลายจันทร์ทำท่าจะหลุดจากร่าง เฟื่องลดาจึงพยายามเข้ามาช่วยแต่กลายเป็นว่าตัวเธอเองถูกดึงเข้ามาอยู่ในร่างของปลายจันทร์แทนวิญญาณของปลายจันทร์ที่หลุดออกมา ปลายจันทร์ซาบซึ้งที่เฟื่องลดาพยายามจะช่วย จึงยอมให้เฟื่องลดายืมใช้ร่างของเธอ เพื่อที่เฟื่องลดาจะได้มีช่วงเวลาที่ดีร่วมกับกรวีร์อีกครั้ง จนกว่าจะหาทางทำให้วิญญาณของปลายจันทร์กลับเข้าร่างได้เหมือนเดิม

ปลายจันทร์ที่มีวิญญาณของเฟื่องลดาสิงร่างอยู่ กลายเป็นสาวหวานช่างเอาใจ เป็นที่รักและเอ็นดูของผู้คนรอบข้างไม่เว้นแม้แต่ครอบครัวของปลายจันทร์เองก็ดูมีความสุข เฟื่องลดาในร่างปลายจันทร์พยายามเข้าหากรวีร์ทุกวิถีทางและพยายามดูแลเขาเป็นอย่างดี จนทำให้ปลายจันทร์รู้สึกว่าจริง ๆ แล้วคนที่ควรมีชีวิตต่อไปน่าจะเป็นเฟื่องลดามากกว่า ตัวเธอเองต่างหากที่สมควรไปสู่สุขคติ ส่วนวิญญาณของเฟื่องลดาที่อยู่ในสถานะวิญญาณมานาน พอได้มาอยู่ในร่างกายมนุษย์และได้ใกล้ชิดกรวีร์ก็ยิ่งทำให้เธอยึดติดและไม่อยากคืนร่างให้ปลายจันทร์อีกต่อไป กรวีร์สงสัยปลายจันทร์ที่บุคลิกเปลี่ยนแปลงไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ จึงไปปรึกษากับอุ้งและซันที่โตมาด้วยกัน ทางด้านอุ้งและซันก็สงสัยเช่นกันจึงบอกกรวีร์ไปว่าจะไปสืบเรื่องราวที่บ้านปลายจันทร์ให้

ทางด้านวิญญาณของปลายจันทร์ที่ตัวตนเริ่มจางลงทุกที เธอคิดว่าเวลาของเธอใกล้หมดแล้วจึงไปหาพ่อแม่และอากง หวังว่าจะขอเห็นเป็นครั้งสุดท้าย แต่แล้วคำพูดของทุกคนที่พูดถึงเธอทำให้เธอรู้ว่า ที่จริงทุกคนรักเธอมาก รักเธอจริง ๆ ไม่ใช่แบบในร่างของเธอที่เฟื่องลดาเข้าสิง ทำให้ปลายจันทร์เริ่มอยากได้ร่างกลับคืน ในขณะนั้นเองอุ้งและซันก็มาถึงบ้านพอดี ปลายจันทร์จึงลองพยายามสื่อสารกับอุ้งดูทั้ง ๆ ที่ไม่แน่ใจว่าสถานะของตัวเองตอนนี้เรียกว่าเป็นผีหรือไม่ หรืออุ้งจะได้ยินเสียงของเธอหรือเปล่า แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็สื่อสารกันได้ อุ้งจึงได้รู้ว่าความจริงว่าเฟื่องลดาต่างหากที่ใช้ร่างของปลายจันทร์อยู่

ปลายจันทร์ตัดสินใจจะทวงร่างคืนโดยมีอุ้งและซันตามไปช่วยด้วย ที่สตูดิโอเฟื่องลดาในร่างของปลายจันทร์เอ่ยปากขอความรักและเสนอตัวให้กรวีร์ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ธารินเดินถือถุงขนมพะพุงพะรังเข้ามาตั้งใจจะแวะมาหากรวีร์ จึงได้ยินคำพูดทุกอย่าง พอได้ยินดังนั้นก็รีบกลับออกไปทันทีด้วยความโกรธ อีกฟากหนึ่ง อุ้ง ซัน และวิญญาณของปลายจันทร์มาถึงพอดี อุ้งรีบวิ่งนำหน้าเข้ามาบอกว่า ที่อยู่กับกรวีร์นั่นไม่ใช่ปลายจันทร์ แต่เป็นวิญญาณของเฟื่องลดาที่กำลังสิงร่างเพื่อนของเธออยู่ กรวีร์สับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉับพลันเฟื่องลดาประกาศออกมาว่า เธอคือคนรักเก่าของกรวีร์ตั้งแต่ชาติที่แล้ว ติดตามมาเพราะความรักที่มีต่อเขา ปลายจันทร์เองพยายามแย่งชิงร่างของตนกลับมา เธอก้าวเข้าไปผลักวิญญาณของเฟื่องลดาออกจากร่าง ทั้งสองต่างพยายามผลักอีกฝ่าย ขณะที่ทุกคนในที่นั้นเห็นปลายจันทร์ยกมือเปะปะและเดินเซไปมา ปลายจันทร์ต่อสู้กับเฟื่องลดาจนเกือบจะชิงร่างคืนได้แล้ว แต่เฟื่องลดาที่ยังพอมีพลังที่จะควบคุมมือข้างหนึ่งของปลายจันทร์ได้หยิบมีดขึ้นมาจ่อคอ ขู่ว่าถ้าเธอไม่ได้ร่างนี้ก็จะทำลายทิ้งซะ ปลายจันทร์เองยกมือที่เหลืออีกข้างขึ้นเพื่อยื้อมือที่ถือมีดนั้นไว้

ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานนี้ ซันกับอุ้งบอกกรวีร์ให้รีบทำอะไรสักอย่าง กรวีร์จึงบอกออกไปว่า ในชาตินี้ตนเองรักปลายจันทร์ รักที่นิสัยและตัวตนที่แท้จริงแบบที่ปลายจันทร์เป็น ไม่ใช่แบบที่ตอนโดนเฟื่องลดาเข้าสิง วิญญาณของปลายจันทร์ยืนอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน เฟื่องลดาชะงักแล้วตัดพ้อ กรวีร์พยายามเกลี้ยกล่อมจนเฟื่องลดาคิดได้และยอมไปสู่สุคติ ก่อนเฟื่องลดาจะข้ามภพไป เธอขอให้ปลายจันทร์อโหสิกรรมให้ พร้อมทั้งเตือนปลายจันทร์ให้ระวังคนที่เธอไม่คาดคิด ว่าจะนำหายนะมาให้ แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม

เรื่องราวเหมือนจะผ่านพ้นไปด้วยดี ปลายจันทร์กับกรวีร์ตกลงคบหากัน ทว่าในคืนรุ่งขึ้นหลังจากทั้งคู่เสร็จงาน ธารินมาดักจับตัวปลายจันทร์ไปหวังจะฆ่าทิ้งเพราะทนไม่ได้ที่เห็นกรวีร์จะลงเอยกับปลายจันทร์ เธอคิดแต่ว่าขอเพียงแค่ไม่มีปลายจันทร์บนโลก เธอก็มั่นใจว่าจะสามารถกลับมารักกับกรวีร์ได้เหมือนเดิม ปลายจันทร์พยายามเกลี้ยกล่อมให้ธารินหยุดแล้วเธอจะไม่เอาความ แต่ธารินซึ่งเสียสติไปแล้วไม่ยอมฟัง และก่อนที่จะลงมือฆ่าปลายจันทร์ ธารินเฉลยว่าเป็นเธอเองที่บอกให้กรกนกรู้ว่าปลายจันทร์รู้แล้วว่าใครฆ่าเควิน ทำให้กรกนกสติขาดจับตัวปลายจันทร์ในคืนนั้น อีกทั้งยังเป็นเธอเองที่ปล่อยให้จันนี่เข้ามาในห้องโถงประกวดร้องเพลงจนทำให้ปลายจันทร์เกือบโดนยิงตายอีกด้วย ปลายจันทร์ตกใจ เสียใจและผิดหวังมากที่คนที่เธอนับถือกลายเป็นคนที่อันตรายที่สุด อันตรายยิ่งกว่าผีตัวไหนที่เธอเคยเจอมา แต่ก่อนที่ธารินจะได้ลงมือสำเร็จ กรวีร์ก็มาช่วยได้ทันเวลาพร้อมด้วยกำลังตำรวจมาจับธารินไว้ได้ ธารินกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งก่อนที่ป้องเกียรติจะจับไปโรงพัก

ป้องเกียรติกลับมาเล่าให้ทุกคนฟังว่า ธารินนั้นหลังจากแต่งงานกับนักธุรกิจใหญ่ แทนที่จะเป็นเจ้าหญิงเสวยสุขเหมือนในนิยาย แต่การณ์กลับตรงกันข้ามเพราะความจริงสามีของเธอเป็นพวกซาดิสม์ ชอบซ้อมเธออยู่บ่อยครั้ง ทำให้เธอกลายเป็นคนจิตใจไม่ปกติ หลังจากนั้นไม่นานสามีของเธอก็เกิดอุบัติเหตุตกตึกตายจนเธอได้รับมรดกทั้งหมด ซึ่งหลังจากที่พาไปโรงพักแล้ว ธารินที่ยังคุมสติไม่อยู่ได้หลุดปากออกมาเองว่าเธอเป็นคนผลักเขาลงไป ตอนนี้ธารินต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวช ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้ออกมา บางทีอาจจะต้องอยู่ในนั้นตลอดชีวิต

วันรุ่งขึ้น ปลายจันทร์กับกรวีร์ตกลงกันว่าจะกลับไปสารภาพกับครอบครัวเรื่องหลอกว่าเป็นแฟนกัน และจะไปขออนุญาตคบหากันเพราะตอนนี้รักกันจริงแล้ว แต่พอไปถึงบ้านก็ได้รับข่าวร้ายว่าอากงป่วยหนักคงอยู่ได้อีกไม่นาน คืนนั้นปลายจันทร์ได้พบกับยมทูตขาวและยมทูตดำที่จะมาเอาชีวิตของอากง ปลายจันทร์พยายามจะเจรจาด้วยแต่ก็คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะยมทูตพูดภาษาจีน ร้อนถึงซันที่พูดภาษาจีนได้โดนปลายจันทร์เรียกมาช่วยเจราจาให้กลางดึก จนสามารถหลอกล่อให้ยมทูตสับสนว่าอาจมารับผิดคน เพราะเธอหลอกว่าอากงนั้นมีแต่ชื่อไทย ไม่มีชื่อจีน จนยมทูตต้องถอยทัพกลับไปก่อน

ปลายจันทร์ อุ้งและซันปรึกษากันว่าคงจะหลอกยมทูตไว้ได้อีกไม่นาน ปลายจันทร์รู้สึกว่าตนยังไม่ทันที่จะได้ทดแทนบุญคุณอากงเลย จึงตัดสินใจว่าเธอจะขอให้ยมฑูตเอาชีวิตของเธอไปแทนแล้วฝากให้อุ้งและซันดูแลทุกคนให้ เพราะถึงเธอจะตายไปแต่ก็คงจะอยู่ใกล้ ๆ ทุกคนแน่นอน เผื่อมีอะไรก็ยังสามารถสื่อสารผ่านทางอุ้งได้อยู่แล้ว อุ้งและซันคัดค้านเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล

คืนนั้นอากงแอดมิทเข้าโรงพยาบาล ปลายจันทร์ตามมาเฝ้าและได้พบกับยมทูตดำขาวอีกครั้ง ปลายจันทร์พยายามที่จะรั้งวิญญาณของอากงไว้แล้วขอให้ยมทูตเอาวิญญาณของเธอเองไปแทน แต่อากงเองกลับขอให้ปลายจันทร์ปล่อยให้อากงไปสู่สุคติ อากงจึงกล่าวกับปลายจันทร์เป็นครั้งสุดท้ายว่า เธอได้ทำหน้าที่ของหลานสาวที่ดีแล้ว ถึงเวลาที่อากงต้องไปเสียที ปลายจันทร์ควรได้มีความสุขอยู่กับคนที่รักต่อไป อย่าน้อยใจว่าไม่มีใครรัก เพราะทุกคนรักและเป็นห่วงปลายจันทร์ด้วยกันทั้งนั้น ปลายจันทร์รู้แล้วว่าที่ผ่านมาตัวเองเอาแต่น้อยใจว่าไม่มีคนรักจนลืมสนใจและดูแลครอบครัว เธอเข้าใจทุกอย่างและยอมปล่อยให้อากงไป ปู่และหลานกอดกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนอากงจะหายวับไปพร้อมกับยมทูต กรวีร์โผล่มารั้งปลายจันทร์ไว้เพราะคิดว่าปลายจันทร์ตั้งใจจะตายจากเขาไปจริง ๆ ปลายจันทร์จึงได้รู้ว่ากรวีร์รักและเป็นห่วงเธอมากเพียงใด ส่วนอุ้งและซันเริ่มจะรู้ใจตัวเองและเริ่มคบหากัน

คำนึงและกัลยาพรตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ที่เหลือร่วมกัน กรวีร์และปลายจันทร์ช่วยกันจัดงานแต่งงานแสน หวานให้แม่กับพ่อเลี้ยง โดยมีโอ่งและบิวเป็นผู้ช่วยอย่างขันแข็ง ปรากฏว่าทั้งคู่ก็กำลังคบหากัน คนรอบข้างต่างแปลกใจระคนยินดีว่ามันไปได้กันตอนไหน

ต้นกล้าพี่ชายคนโตของตระกูลกลายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักสืบทอดกิจการขายอาหารสัตว์ของที่บ้านพร้อมทั้งเปิดตัวแฟนหนุ่ม ซึ่งกลายเป็นว่าทุกคนรับได้กับการที่เขาเป็นเกย์ กลางใจได้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของสายการบิน แม้จะมีหนุ่ม ๆ ตามจีบเป็นพรวนแต่ก็มีป้องเกียรติคอยตามกันท่าไม่ให้ใครมายุ่ง เธอยังสนุกกับการแกล้งยั่วเขาเล่นอยู่จึงยังไม่ตัดสินใจแต่งงานเสียที อุ้งยังคงได้ยินเสียงวิญญาณหลอนอยู่เหมือนเดิมแต่ตอนนี้ไม่กลัวเท่าไหร่แล้วเพราะมีซันคอยดูแลทั้งหัวใจและร้านขายยา จนร้านขายยาขายดิบขายดี พ่อแม่ของอุ้งปลื้มว่าที่ลูกเขยคนนี้สุด ๆ แน่นอนว่าเงินของร้านปลอดภัยไร้กังวลเพราะได้ซันคอยวิ่งเอาไปฝากธนาคารซื้อกองทุนจนดอกเบี้ยงอกเงยเป็นกอบเป็นกำ

ปลายจันทร์ กรวีร์ ซันและอุ้ง เดินทางกลับไปหาตาอ่องบนเขาสำนักชีอีกครั้งในวันออกพรรษา ตาอ่องบอกกับปลายจันทร์ว่าสมควรแก่เวลาแล้วที่จะสิ้นสุดการมองเห็นวิญญาณ ปลายจันทร์ขอบคุณตาอ่องและฝากความคิดถึงอากงที่ล่วงลับไปแล้ว ตาอ่องค่อย ๆ หายไป ทุกอย่างควรจะจบลงด้วยดี เมื่อปลายจันทร์ไม่ต้องเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นอีก แต่ทว่าเธอดันได้ความสามารถพิเศษใหม่มาแทน นั่นก็คือ พลังในการมองเห็นอนาคต !

ซันกับอุ้งรีบวางแผนหาเงินกับความสามารถใหม่ของปลายจันทร์ทันที ปลายจันทร์ถึงกับปวดหัว เพราะแน่ใจว่าต้องมีเรื่องยุ่ง ๆ รอเธออยู่ข้างหน้าอีกแน่ ๆ แต่กรวีร์ก็ปลอบใจเธอว่าไม่ต้องคิดมาก เพราะต่อจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็จะมีเขาอยู่เคียงข้างกันตลอดไป

บทประพันธ์โดย : แก้วเก้า
บทโทรทัศน์โดย : คงกะพัน ไชยมะโน, พิชญ อยู่เป็นแก้ว, ชลวิชฐ์ จิรายุเจริญศักดิ์
ผลิตโดย : บริษัท ปรากฏการณ์ดี จำกัด

นักแสดง
วรากร ศวัสกร รับบท กรวีร์
ปาณิชดา แสงสุวรรณ รับบท ปลายจันทร์
บัณฑวิช ตระกูลพานิชย์ รับบท ซัน
จาด้า อินโตเร รับบท อุ้ง
ณรงค์ฤทธิ์ รัตนภักดี รับบท ป้องเกียรติ
พรสวรรค์ มะทะโจทย์ รับบท กลางใจ
ช้องมาศ บางชะวงษ์ รับบท ธาริน
วรางคนาง วุฑฒยากร รับบท เฟื่องลดา
พาเมล่า เบาว์เด้น รับบท เด่นเดือน
พศิน ศรีธรรม รับบท ต้นกล้า
กชกร นิมากรณ์ รับบท กัลยาพร
วัลวิภา โยคะกุล รับบท กุณฑล