Posted: วันที่ 1 ตุลาคม ปี 2019
พัทธพลสืบทราบมาว่าสิ่งที่คุณหญิงมาริสาต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คือทายาทสืบสกุลสุทธกานต์ พัทธพลจึงเสนอตัวเคทให้แก่ เสกข์ (ฌอห์ณ จินดาโชติ) ลูกชายคนเดียวของมาริสา โดยมีข้อตกลงว่าถ้าเคทสามารถให้กำเนิดทายาทได้หนี้ทั้งหมดเป็นอันลบล้างไป ทั้งมาริสาและภาคินี (คีรติ มหาพฤษ์พงศ์) ยอมรับข้อเสนอขอพัทธพล เพราะต้องการใช้เคทเป็นเครื่องมือกันอิษยา (พิชญา เชาวลิต) ภรรยาของพี่ชายให้ออกไปให้พ้น ทว่าเสกข์กลับเข้าใจผิดคิดว่าเคทเต็มใจจะมีทายาทให้สุทธกานต์ ด้วยการยอมเข้ามาเป็นนางบำเรอ เสกข์จึงพลอยรังเกียจและดูถูกเคทไปด้วย
Posted: วันที่ 13 พฤษภาคม ปี 2019
เรื่องปลาบู่ทองเริ่มขึ้นโดยเศรษฐีทารก (อ่านว่า ทา-ระ-กะ) ผู้มีอาชีพจับปลามีภรรยา 2 คน คนแรกชื่อขนิษฐา มีลูกสาวชื่อ เอื้อย ส่วนคนที่สองชื่อ ขนิษฐี มีลูกสาวชื่อ อ้าย และ อี่
วันหนึ่งเศรษฐีทารกพาขนิษฐาไปจับปลาในคลอง ไม่ว่าจะเหวี่ยงแหไปกี่ครั้งก็ได้มาเพียงปลาบู่ทองที่ตั้งท้องตัวเดียวเท่านั้น จนกระทั่งพลบค่ำเศรษฐีก็ตัดสินใจที่จะเอาปลาบู่ทองที่จับได้เพียงตัวเดียวกลับบ้าน ทว่าขนิษฐาผู้เป็นภรรยาเกิดความสงสารปลาบู่ ขอให้เศรษฐีปล่อยปลาไป เศรษฐีทารกเกิดบันดาลโทสะจึงฟาดนางขนิษฐาจนตายและทิ้งศพลงคลอง
เมื่อกลับถึงบ้านเอื้อยก็ถามหาแม่ เศรษฐีจึงตอบไปว่าแม่ของเอื้อยได้หนีตามผู้ชายไป และจะไม่กลับมาบ้านอีกแล้ว นับตั้งแต่วันนั้นขนิษฐีผู้เป็นแม่เลี้ยงของเอื้อย และอี่กับอ้ายน้องสาวทั้งสองก็กลั่นแกล้งใช้งานเอื้อยเป็นประจำโดยที่เศรษฐีทารกทำเป็นไม่รับรู้และไม่สนใจ
เอื้อยคิดถึงแม่มากจึงมักไปนั่งร้องไห้อยู่ริมท่าน้ำ และได้พบกับปลาบู่ทองซึ่งเป็นนางขนิษฐากลับชาติมาเกิด เมื่อเอื้อยรู้ว่าปลาบู่ทองเป็นแม่ของตนก็ได้นำข้าวสวยและรำมาโปรยให้ปลาบู่ทองกิน และมาปรับทุกข์ให้ปลาบู่ทองฟังทุกวัน
นางขนิษฐีและลูกสาวเห็นเอื้อยดูมีความสุขขึ้น เมื่อถูกกลั่นแกล้งก็อดทนไม่ปริปากบ่นจึงไปแอบสืบจนพบว่านางขนิษฐาได้มาเกิดเป็นปลาบู่ทอง และได้พบกับเอื้อยทุกวัน ดังนั้นเมื่อเอื้อยกำลังทำงานนางขนิษฐีก็ไปจับปลาบู่ทองมาทำอาหารและขอดเกล็ดทิ้งไว้ในครัว