ซีรีส์วาย เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning 2568 ซีรีส์วายแนวโรแมนติกคอมเมดี้ดราม่า ความรักที่เคยหวานชื่น กลายเป็นพายุฝนฟ้าคะนองในวงการข่าว เรื่องราวเปิดฉากด้วยตัวเอกหลัก “ปฐพี” นักข่าวชื่อดังเจ้าของฉายา “เจ้าชายพยากรณ์” ผู้มีชื่อเสียงในฐานะนักข่าวสายพยากรณ์อากาศและข่าวด่วนที่แม่นยำที่สุดในวงการ เขาคือไอคอนของความสมบูรณ์แบบ หน้าตาหล่อเหลา บุคลิกมั่นใจ และอาชีพที่กำลังรุ่งโรจน์
แต่แล้วชีวิตของปฐพีก็พลิกผันในชั่วพริบตา เมื่อเขาเกิดอารมณ์พลุ่งพล่าน หัวร้อนสาดกาแฟร้อนๆ ใส่หน้า “เต้” นักข่าวรุ่นน้องที่เขาไม่ถูกคอมาตั้งแต่แรก เหตุการณ์นี้กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดียทันที สังคมประณามปฐพีอย่างหนักหน่วง จากนักข่าวดาวรุ่งที่ทุกคนยกย่อง กลายเป็น “ดาวร่วง” ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนใจร้ายและขาดความเป็นมืออาชีพ บริษัทข่าวของเขาต้องรับมือกับวิกฤตภาพลักษณ์ จนนำไปสู่บทลงโทษที่หนักหน่วง: ปฐพีถูกโยกย้ายไปทำรายการเช้าใหม่ที่ไม่มีใครอยากทำ
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้น เพราะรายการเช้าที่ปฐพีถูกส่งไป กลายเป็นเวทีที่เขาไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกครั้ง เมื่อต้องร่วมงานกับ ตามตะวัน หรือ “ตาม” แฟนเก่าที่เคยรักกันสุดหัวใจแต่จบลงแบบไม่สวยงาม เมื่อหลายปีก่อน ทั้งคู่เคยเป็นคู่รักคู่หวานในวงการสื่อ แต่ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตและทัศนคติทำให้ความสัมพันธ์แตกหัก ตามตะวันคือผู้ประกาศข่าวหนุ่มไฟแรงที่เติบโตขึ้นจากรุ่นน้องของปฐพี สู่การเป็นพิธีกรหลักของรายการเช้า เขาเปลี่ยนไปมาก จากเด็กหนุ่มขี้อายกลายเป็นชายหนุ่มมั่นใจ เฉียบขาด และประสบความสำเร็จในแบบที่ปฐพีเคยใฝ่ฝัน
ความขัดแย้งที่เดือดพล่าน ถ่านไฟเก่ากับพายุแห่งการเปลี่ยนแปลง
หัวใจหลักของเรื่องคือการปะทะกันระหว่างอดีตและปัจจุบัน เมื่อปฐพีและตามตะวันต้องนั่งเคียงข้างกันในรายการ “The Ex-Morning” รายการข่าวเช้าที่เน้นพยากรณ์อากาศและไลฟ์สไตล์ แต่เบื้องหลังกล้อง ความตึงเครียดระหว่างทั้งคู่เดือดพล่านยิ่งกว่า พวกเขาต้องเผชิญกับความทรงจำเก่าๆ ที่ยังค้างคาใจ การเลิกราที่เต็มไปด้วยคำพูดรุนแรง การเปลี่ยนแปลงในตัวตนที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแปลกหน้า และคำถามที่วนเวียนว่า “ทำไมเราถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้?” ปฐพีมองว่าตามตะวัน “ทรยศ” ความรักเก่าโดยการก้าวหน้าในอาชีพ ขณะที่ตามตะวันมองว่าปฐพีคือคนที่ “หยุดนิ่ง” ไม่ยอมปรับตัวกับโลกที่หมุนเร็ว
นอกจากดราม่าระหว่างพระเอกทั้งสองแล้ว ซีรีส์ยังสอดแทรกตัวละครสมทบที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องให้เข้มข้นยิ่งขึ้น เช่น “เก๋ากี้” เพื่อนสนิทของปฐพีที่คอยให้คำปรึกษาแต่แอบมีมุมมองลับๆ ต่อความสัมพันธ์นี้ “หนูดี” สาวน้อยทีมงานที่สดใสแต่ซ่อนความลับ และ “ย้ง” หัวหน้าทีมที่เข้มงวดแต่แอบเชียร์ให้ทั้งคู่คืนดี ทั้งหมดต้องร่วมกันฝ่าฟันอุปสรรคใหญ่หลวง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อใจทีมงานที่ยังเกลียดชังปฐพี การพิสูจน์ตัวเองต่อหน้าประชาชนที่จับตาด้วยความสงสัย และดราม่าในวงการสื่อที่เต็มไปด้วยการแข่งขันดุเดือด
เรื่องค่อยๆ เร่งจังหวะสู่จุดไคลแมกซ์ เมื่อเหตุการณ์พายุฝนฟ้าคะนองครั้งใหญ่ กลายเป็นจุดเปลี่ยนของทั้งคู่ ปฐพีและตามตะวันต้องร่วมกันรายงานข่าวด่วนท่ามกลางวิกฤต ทำให้พวกเขาได้เห็นด้านที่แท้จริงของกันและกันอีกครั้ง ด้านที่ยังคงรักและห่วงใยแม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน คำถามสำคัญที่ซีรีส์โยนหาผู้ชมคือ “ถ่านไฟเก่าจะจุดติดอีกครั้งไหม? หรือการกลับมาร่วมงานกันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม?”
เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning ไม่ใช่แค่ซีรีส์รักวายธรรมดา แต่เป็นบทเรียนเกี่ยวกับการเติบโต การให้อภัย และการยอมรับความเปลี่ยนแปลงในตัวเองและคนรักเก่า ต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องสำคัญของซีรีส์
ดราม่ารักท่ามกลางพายุข่าวสารและถ่านไฟเก่าที่ลุกโชน ในโลกที่ข่าวสารหมุนเร็วราวสายฟ้า ละคร เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning นำเสนอเรื่องราวความรักที่เคยหวานซึ้งแต่แตกสลาย ถูกจุดติดอีกครั้งท่ามกลางพายุแห่งการเปลี่ยนแปลง
ดาวรุ่งร่วงหล่นสู่เงามืด
แสงสปอตไลต์ในสตูดิโอข่าวสว่างจ้า แต่หัวใจของ ปฐพี นักข่าวพยากรณ์อากาศฉายา “เจ้าชายพยากรณ์” กลับร้อนรุ่มราวไฟ เขาคือดาวเด่นของวงการสื่อ หล่อเหลา มั่นใจ และแม่นยำราวเทพพยากรณ์ แต่ในวันหนึ่งของปี 2568 ความโกรธที่ปะทุจากความขัดแย้งเล็กๆ ทำให้เขาสาดกาแฟร้อนใส่หน้า เต้ (อู๋ ธนบูรณ์) นักข่าวรุ่นน้องที่เขามองว่าไร้ความสามารถ คลิปเหตุการณ์กลายเป็นไวรัลในชั่วพริบตา โซเชียลมีเดียประณามปฐพีว่าใจร้าย ไร้ความเป็นมืออาชีพ จากดาวรุ่ง เขากลายเป็นดาวร่วงในพริบตา
บทลงโทษจากบริษัทข่าวรุนแรงยิ่งกว่า ปฐพีถูกโยกย้ายไปทำรายการเช้าใหม่ชื่อ The Ex-Morning รายการที่เน้นพยากรณ์อากาศและไลฟ์สไตล์ ซึ่งทุกคนในวงการมองว่าเป็น “หลุมฝังศพ” อาชีพ แต่เมื่อก้าวเท้าเข้าสตูดิโอวันแรก เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับฝันร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่า ตามตะวัน หรือ “ตาม” อดีตคนรักที่เคยรักกันสุดหัวใจเมื่อสามปีก่อน แต่จบลงด้วยการเลิกราที่เต็มไปด้วยคำพูดรุนแรง ตามตะวันเปลี่ยนไปจากเด็กหนุ่มขี้อายที่ปฐพีเคยรู้จัก เขากลายเป็นพิธีกรหลักที่มั่นใจ เฉียบขาด และประสบความสำเร็จในแบบที่ปฐพีเคยฝันถึง
ถ่านไฟเก่าที่ยังคุกรุ่น
การทำงานร่วมกันในรายการ The Ex-Morning เหมือนการเต้นรำบนขอบมีด ความตึงเครียดระหว่างปฐพีและตามตะวันแผ่ออกมาทั้งในและนอกจอ ปฐพีมองว่าตาม “ทรยศ” ความรักเก่าโดยก้าวหน้าในอาชีพ ขณะที่ตามมองว่าปฐพี “หยุดนิ่ง” ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตามโลกที่หมุนเร็ว ทุกเช้า ทั้งคู่ต้องนั่งเคียงข้างกัน พูดถึงสภาพอากาศและข่าวไลฟ์สไตล์ด้วยรอยยิ้มปลอมๆ แต่เบื้องหลังกล้องคือการโต้เถียงที่ร้อนแรงราวพายุ
ตัวละครรอบข้างช่วยเติมสีสันและความลึกให้เรื่องราว เก๋ากี้ (เจมี่ จุฑาพิชญ์) เพื่อนสนิทของปฐพี คอยให้คำปรึกษาแต่แอบเก็บงำความรู้สึกบางอย่าง หนูดี (เอิร์น ปรียาภัทย์) สาวน้อยทีมงานที่สดใสแต่มีปมลับในใจ และ ย้ง (ไผ่ พาทิศ) หัวหน้าทีมที่เข้มงวดแต่แอบเชียร์ให้ทั้งคู่คืนดี ท่ามกลางการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ปฐพีต้องเผชิญกับทีมงานที่ยังโกรธเขา และสาธารณชนที่จับตาด้วยความสงสัย ขณะที่ตามตะวันพยายามรักษาสมดุลระหว่างความสำเร็จและความรู้สึกที่ยังค้างคา
พายุฝนฟ้าคะนองและจูบแรกที่เปียกฝน
เมื่อเรื่องราวดำเนินถึงจุดกึ่งกลาง พายุฝนฟ้าคะนองครั้งใหญ่ในตอนที่ 6 กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สะเทือนใจ ปฐพีและตามตะวันต้องออกไปรายงานข่าวด่วนท่ามกลางลมฝนที่โหมกระหน่ำ ระหว่างภารกิจอันตราย ทั้งคู่เผชิญหน้ากับความทรงจำเก่าๆ: การเลิกราที่เต็มไปด้วยคำว่า “ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป?” และความเจ็บปวดที่ยังฝังลึก ในวินาทีที่ทั้งสองช่วยกันปกป้องทีมงานจากอันตราย พวกเขาเผลอกอดกันท่ามกลางสายฝน ความอบอุ่นของอ้อมกอดนั้นจุดถ่านไฟเก่าให้ลุกโชนอีกครั้ง
ฉากไคลแมกซ์ของตอนนี้คือจูบแรกที่เปียกฝนในตอนที่ 7 ใต้แสงไฟถนนที่พร่ามัวด้วยสายน้ำ ตามตะวันจ้องตาปฐพีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความเจ็บปวด ก่อนที่ทั้งคู่จะจูบกันอย่างลืมตัว ฉากนี้กลายเป็นโมเมนต์ที่แฟนๆ กรี๊ดสนั่น เพราะมันไม่เพียงแค่หวานซึ้ง แต่ยังเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เก็บกดมานาน แต่ความรักที่จุดติดใหม่นี้ไม่ได้ราบรื่น เมื่อมีคนแอบถ่ายรูปจูบนั้นและโพสต์ลงโซเชียลในตอนที่ 8 ทำให้ปฐพีถูกโจมตีหนักอีกครั้ง คราวนี้ ตามตะวันเลือกยืนเคียงข้างเขา สารภาพรักต่อหน้าทีมงานว่า “ฉันไม่เคยหยุดรักเขาเลย” และทั้งคู่เริ่มคืนดีอย่างจริงจัง
กระสุน ความลับ และการให้อภัย
เมื่อเข้าสู่ตอนที่ 9 ดราม่าทวีคูณด้วยการปรากฏตัวของ พอล (โอห์ม ฐิติวัฒน์) คู่ปรับเก่าของปฐพีที่เผยตัวว่าเป็นตัวการใหญ่เบื้องหลังบ่อนการพนันผิดกฎหมาย ซึ่งเชื่อมโยงกับข่าวฉาวในวงการสื่อ เขาวางแผนล้มรายการ The Ex-Morning และทำร้ายปฐพีเพื่อแก้แค้นอดีต ระหว่างการไล่ล่าข่าวเพื่อเปิดโปงความจริง ปฐพีถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส ฉากที่ตามตะวันร้องไห้ข้างเตียงในโรงพยาบาลคือจุดพีคที่บีบหัวใจ เขากระซิบว่า “ฉันกลัวว่าจะเสียเธอไปอีกครั้ง” ขณะที่ปฐพีฟื้นตัวและยอมรับผิดในความผิดพลาดของตัวเอง
การสืบสวนนำไปสู่การจับกุมพอลในตอนที่ 10 ทำให้รายการ The Ex-Morning กลายเป็นที่รักของผู้ชมอีกครั้ง ปฐพีและตามตะวันเรียนรู้ที่จะให้อภัยกันและกัน รวมถึงตัวเอง ผ่านการยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต Subplot ของ เก๋ากี้ และ หนูดี ปิดฉากด้วยความสัมพันธ์ที่หวานละมุนแบบ open ending ซึ่งแฟนๆ ตีความว่าเป็น canon คู่รองที่น่ารักไม่แพ้คู่หลัก
เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning ไม่ใช่แค่ซีรีส์รักวายธรรมดา แต่เป็นบทเรียนเกี่ยวกับการให้อภัย การยอมรับความเปลี่ยนแปลง และการรักที่แท้จริงท่ามกลางโลกที่หมุนเร็ว แม้บางตอนจะคลิเช่หรือคอมเมดี้โอเวอร์ แต่โดยรวมคือ feel-good series ที่สมบูรณ์แบบ ต่อไปนี้คือจุดเด่นของซีรีส์
เคมีคริส-สิงโตที่ยังคงไร้เทียมทาน
การกลับมาร่วมงานกันของคริสและสิงโตหลังจากห่างหายไปนานคือไฮไลต์ที่แฟนๆ Peraya รอคอย ทั้งคู่ถ่ายทอดตัวละครปฐพีและตามตะวันได้อย่างสมจริง ตั้งแต่การจ้องตาแบบเกลียดชังในตอนแรกๆ ไปจนถึงโมเมนต์หวานซึ้งในฉากจูบเปียกฝน (EP.7) และฉากทะเบียนสมรสในตอนจบ (EP.10) เคมีของทั้งคู่ไม่เพียงจุดถ่านไฟเก่าในเรื่อง แต่ยังจุดใจแฟนๆ ให้ลุกโชน โดยเฉพาะฉากอ้างอิง SOTUS ที่ทำเอาแฟนคลับกรี๊ดด้วยความฟิน
เนื้อเรื่องที่ผสานความรักและดราม่าอาชีพ
เรื่องราวที่ตั้งอยู่ในโลกของวงการข่าวสารนำเสนอประเด็นที่สมจริง เช่น การแข่งขันที่ดุเดือด ความกดดันจากโซเชียลมีเดีย และการพิสูจน์ตัวเองหลังความผิดพลาด การที่ปฐพี (คริส) ต้องเผชิญกับผลกระทบจากการสาดกาแฟไวรัลและการทำงานร่วมกับแฟนเก่าอย่างตามตะวัน (สิงโต) ทำให้ซีรีส์มีทั้งความตื่นเต้นและความลึกซึ้ง ธีมหลักเรื่อง “การเปลี่ยนแปลง” ถูกถ่ายทอดผ่านความสัมพันธ์และการเติบโตของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ
ตัวละครสมทบที่เพิ่มสีสัน
ตัวละครอย่าง เก๋ากี้ (เจมี่ จุฑาพิชญ์) และ หนูดี (เอิร์น ปรียาภัทย์) นำเสนอคู่รองที่หวานและน่ารักแบบ open ending ซึ่งแฟนๆ ตีความว่าเป็น canon ได้อย่างลงตัว ย้ง (ไผ่ พาทิศ) หัวหน้าทีมที่เข้มงวดแต่มีหัวใจอบอุ่น และ พอล (โอห์ม ฐิติวัฒน์) ตัวร้ายที่เพิ่มความเข้มข้นให้เรื่อง ล้วนช่วยขับเคลื่อนพล็อตได้อย่างดี โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของเก๋ากี้-หนูดีที่กลายเป็นขวัญใจแฟนๆ อีกคู่
งานภาพและดนตรีประกอบที่ยกระดับอารมณ์
การถ่ายภาพในฉากพายุฝนฟ้าคะนอง (EP.6) และฉากสตูดิโอข่าวที่สมจริง ผสานกับดนตรีประกอบที่เข้ากับอารมณ์ เช่น เพลงป๊อปเบาๆ ในฉากหวาน และซาวนด์ดราม่าตึงเครียดในฉากขัดแย้ง ทำให้ทุกโมเมนต์มีพลัง การออกแบบฉากสตูดิโอ The Ex-Morning สะท้อนความเป็นมืออาชีพของ GMMTV ได้ดีเยี่ยม
คะแนน 8.5/10 (The Ex-Morning ไม่ใช่แค่ละครวายที่เน้นความฟิน แต่เป็นเรื่องราวที่พูดถึงการยอมรับความเปลี่ยนแปลง การให้อภัย และการเติบโตทั้งในความรักและหน้าที่การงาน)
ละครเรื่องนี้สมบูรณ์แบบสำหรับแฟนๆ โดยเฉพาะ Peraya ที่รอคอยคริส-สิงโตคัมแบ็ก แม้จะมีจุดด้อยเรื่องพล็อตคลิเช่และจังหวะที่ช้าในบางช่วง แต่เคมีของนักแสดง งานภาพที่สวยงาม และข้อคิดที่ลึกซึ้งทำให้ The Ex-Morning เป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การดู
ตั้งแต่ตอนแรก ความรู้สึกตื่นเต้นพุ่งถึงขีดสุดเมื่อเห็น คริส และ สิงโต กลับมาร่วมงานกันหลังจากห่างหายไปนาน การปรากฏตัวของปฐพีในฐานะ “เจ้าชายพยากรณ์” นักข่าวพยากรณ์อากาศที่หล่อเหลาและมั่นใจ ทำให้ใจเต้นแรงด้วยความคาดหวัง แต่เมื่อเขาสาดกาแฟใส่หน้า เต้ (อู๋ ธนบูรณ์) และกลายเป็นไวรัล ความรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าสู่โลกที่โซเชียลมีเดียตัดสินทุกอย่าง – มันสมจริงจนน่าขนลุก! การที่ปฐพีถูกย้ายไปทำรายการ The Ex-Morning และต้องเผชิญหน้ากับ ตามตะวัน แฟนเก่าที่เปลี่ยนไปจากเด็กขี้อายเป็นพิธีกรสุดมั่น ทำให้นั่งไม่ติดเก้าอี้ เพราะเคมีของทั้งคู่ชัดเจนตั้งแต่การจ้องตาครั้งแรก – มันคือการปะทะกันของความรักเก่าและความแค้นที่ยังคุกรุ่น
โลกของวงการสื่อที่ซีรีส์นำเสนอให้ความรู้สึกเหมือนได้แอบมองเบื้องหลังวงการข่าว การแข่งขันที่ดุเดือด ความกดดันจากผู้ชม และการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังดูเรื่องราวที่อาจเกิดขึ้นจริง สตูดิโอที่ออกแบบมาอย่างสวยงามและสมจริงของ The Ex-Morning รวมถึงบทสนทนาที่เฉียบคม ช่วยดึงอารมณ์ให้จมดิ่งไปกับละครตั้งแต่ต้น
เมื่อเรื่องดำเนินไป ความรู้สึกเริ่มหนักหน่วงขึ้นในตอนที่ 4-6 โดยเฉพาะเมื่อปฐพีและตามตะวันต้องเผชิญหน้ากับความทรงจำเก่าที่เจ็บปวด การโต้เถียงที่เต็มไปด้วยคำถามว่า “ทำไมเธอถึงเปลี่ยนไป?” และ “ทำไมเราไม่เหมือนเดิม?” ทำให้รู้สึกเหมือนถูกแทงใจ เพราะมันสะท้อนถึงความสัมพันธ์ในชีวิตจริงที่มักแตกสลายจากความไม่เข้าใจ การเห็นทั้งคู่พยายามรักษาระยะห่างแต่ยังคงห่วงใยกันอย่างปฏิเสธไม่ได้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำตา
ฉากพายุฝนฟ้าคะนองในตอนที่ 6 คือจุดที่อารมณ์พุ่งถึงขีดสุด การที่ปฐพีและตามตะวันต้องร่วมงานกันท่ามกลางวิกฤต และเผลอกอดกันในสายฝน ทำให้น้ำตาไหลด้วยความรู้สึกที่ปนเประหว่างความหวังและความเจ็บปวด ฉากจูบเปียกฝนในตอนที่ 7 ยิ่งทวีความรู้สึกให้พุ่งถึงจุดเดือด มันหวานซึ้งแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ค้างคา ทำให้รู้สึกเหมือนหัวใจกำลังละลายและแตกสลายพร้อมกัน
เมื่อถึงตอนที่ 8-9 ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนเป็นความฟินล้วนๆ เมื่อปฐพีและตามตะวันเริ่มเปิดใจและคืนดีกัน การสารภาพรักของตามตะวันในตอนที่ 8 ที่บอกว่า “ฉันไม่เคยหยุดรักเธอเลย” ทำให้รู้สึกเหมือนหัวใจพองโตจนระเบิดได้ คู่รองอย่าง เก๋ากี้ (เจมี่ จุฑาพิชญ์) และ หนูดี (เอิร์น ปรียาภัทย์) ก็เพิ่มความสดใสให้เรื่อง ด้วยโมเมนต์เล็กๆ น่ารักที่ทำให้ยิ้มไม่หุบ ความสัมพันธ์แบบ open ending ของทั้งคู่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสมหวังในแบบที่ไม่ต้องพูดอะไรมาก
ฉากโรงพยาบาลในตอนที่ 9 เมื่อปฐพีถูกยิงสาหัสและตามตะวันเฝ้าข้างเตียง เป็นอีกโมเมนต์ที่บีบหัวใจ การที่ทั้งคู่ยอมรับความผิดพลาดและให้อภัยกัน ทำให้รู้สึกถึงพลังของความรักที่แท้จริง รักที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงและเติบโตไปด้วยกัน
ซีรีส์วาย The Ex-Morning เหมือนการเดินทางผ่านพายุแห่งอารมณ์ จากความตื่นเต้นของการคัมแบ็กของคริส-สิงโต ความเจ็บปวดจากดราม่าถ่านไฟเก่า ไปจนถึงความฟินที่ระเบิดใจในตอนจบ ละครเรื่องนี้ไม่เพียงมอบความบันเทิง แต่ยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับการยอมรับความเปลี่ยนแปลงและการให้อภัยที่ลึกซึ้ง สำหรับแฟน Peraya นี่คือของขวัญที่สมบูรณ์แบบ ส่วนผู้ชมทั่วไปจะได้สัมผัสเรื่องราวที่ทั้งสมจริงและอบอุ่นหัวใจ
ซีรีส์วาย เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning 2568
ซีรีส์วาย เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning 2568 EP.1-5oneD
ซีรีส์วาย เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning 2568 EP.1-5GMMTV OFFICIAL
ซีรีส์วาย เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning 2568 EP.1-10 ENDVIU
ซีน ซีรีส์วาย เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning 2568
ซีรีส์วาย เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning 2568
ดาวรุ่งร่วงหล่น ดราม่ากาแฟร้อนสู่ไวรัลสุดช็อก
ตัวเอกของเราคือ ปฐพี (คริส พีรวัส) นักข่าวพยากรณ์อากาศสุดหล่อ เจ้าของฉายา เจ้าชายพยากรณ์ ที่ทุกคนกรี๊ด เขาคือท็อปสตาร์ของวงการข่าว หน้าตาดี บุคลิกมั่นใจ และแม่นยำสุดๆ แต่ ชีวิตของปฐพีพลิกผันในพริบตาเมื่อเขาเกิดหัวร้อน สาดกาแฟร้อนใส่หน้า เต้ (อู๋ ธนบูรณ์) นักข่าวรุ่นน้องที่เขาไม่ถูกคอ คลิปนี้กลายเป็นไวรัลในโซเชียลทันที ชาวเน็ตประณามปฐพีว่าใจร้าย ไร้มารยาท จากดาวรุ่งกลายเป็นดาวร่วงในชั่วข้ามคืน บริษัทข่าวเลยสั่งพักงานเขาเพื่อลดกระแสเกลียดชัง ใจสลายมากกก 😭
แต่เดี๋ยว เรื่องมันพีคกว่านั้น บริษัทตัดสินใจให้ปฐพีกลับมาทำงาน แต่ต้องย้ายไปทำรายการเช้าใหม่ชื่อ The Ex-Morning ที่เน้นพยากรณ์อากาศและไลฟ์สไตล์ ซึ่งทุกคนในวงการมองว่าเป็นรายการที่ไม่มีใครอยากทำ และที่ช็อกยิ่งกว่าคือ เขาต้องทำงานกับ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) โปรดิวเซอร์คนใหม่ที่จบจากเมืองนอก และที่สำคัญคือ แฟนเก่าของปฐพี ใช่แล้ววว อดีตคนรักที่เลิกกันแบบไม่สวยเมื่อสามปีก่อน แค่ตอนแรกก็ดราม่าหนักแล้ววว
ถ่านไฟเก่าคุกรุ่น ความตึงเครียดในสตูดิโอ
ปฐพีกับตามตะวันต้องนั่งเคียงข้างกันในสตูดิโอทุกเช้า อ่านข่าวด้วยรอยยิ้มปลอมๆ แต่เบื้องหลังกล้องนี่คือสงครามเย็นชัดๆ ปฐพีโทษว่าตาม “ทรยศ” ความรักเก่าโดยก้าวหน้าในอาชีพ กลายเป็นโปรดิวเซอร์สุดเป๊ะ ส่วนตามมองว่าปฐพี “หยุดนิ่ง” ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง การจ้องตาของทั้งคู่ในตอนที่ 2 คือแบบ… เคมีระเบิดมาก มันทั้งเกลียดทั้งรักในเวลาเดียวกัน ฟินปนเจ็บปวดสุดๆ
ในตอนนี้เรายังได้เจอตัวละครสมทบสุดปัง ย้ง (ไผ่ พาทิศ) รุ่นพี่โปรดิวเซอร์ใหญ่ที่ให้โอกาสปฐพี แต่เข้มงวดสุดๆ และแอบเชียร์ให้ทั้งคู่คืนดี เก๋ากี้ (เจมี่ จุฑาพิชญ์) เพื่อนสนิทของปฐพีที่คอยให้กำลังใจ และ หนูดี (เอิร์น ปรียาภัทย์) สาวน้อยทีมงานที่สดใสแต่มีปมลับๆ ปฐพีต้องเผชิญกับทีมงานที่ยังเกลียดเขา และประชาชนที่ยังจับตาด้วยความสงสัย ส่วนตามตะวันต้องพยายามปั้นรายการให้รอดท่ามกลางความกดดัน โอ้ย ลุ้นจนเหนื่อย
พายุฝนฟ้าคะนองและจูบแรกที่เปียกฝน
มาถึงจุดเปลี่ยนของเรื่อง ปฐพีกับตามเริ่มเผชิญความทรงจำเก่าๆ ที่เจ็บปวด การเลิกราที่เต็มไปด้วยคำพูดรุนแรงทำให้ทั้งคู่ยังมีปมในใจ การโต้เถียงในสตูดิโอบางครั้งก็หนักหน่วงจนรู้สึกเหมือนใจจะแตก แต่แล้วก็มาถึงฉากที่ทุกคนรอคอย พายุฝนฟ้าคะนองครั้งใหญ่ ทั้งคู่ต้องออกไปรายงานข่าวด่วนท่ามกลางลมฝนโหมกระหน่ำ และในโมเมนต์ที่ช่วยกันปกป้องทีมงานจากอันตราย พวกเขาเผลอกอดกันท่ามกลางสายฝน อารมณ์ตอนนี้คือพีคมากกก
และแล้วก็มาถึงฉากในตำนาน จูบเปียกฝน! ปฐพีกับตามจ้องตากันใต้แสงไฟถนนที่พร่ามัวด้วยสายน้ำ ก่อนจะจูบกันแบบลืมตัว ฉากนี้คือฟินจนกรี๊ดลั่นบ้าน เคมีคริส-สิงโตคือที่สุดของความหวานปนดราม่า มันเหมือนถ่านไฟเก่าที่ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง แต่ ยังไม่จบแค่นั้น
ดราม่าคลิปไวรัลและการสารภาพรัก
มีคนแอบถ่ายรูปจูบเปียกฝนของปฐพีและตามตะวันแล้วโพสต์ลงโซเชียล กลายเป็นไวรัลอีกครั้ง ปฐพีถูกโจมตีหนักกว่าเดิม ส่วนตามตะวันเลือกยืนเคียงข้างเขา ตามตะวันสารภาพรักต่อหน้าทีมงานว่า “ฉันไม่เคยหยุดรักเขาเลย” โอ้ยยย ฉากนี้คือน้ำตาไหลด้วยความฟิน ทั้งคู่เริ่มคืนดีกันอย่างจริงจัง และเคมีของคริส-สิงโตในตอนนี้คือระเบิดใจสุดๆ
นอกจากนี้ คู่รองอย่าง เก๋ากี้ และ หนูดี ก็เริ่มมีโมเมนต์น่ารักๆ ที่ทำให้ยิ้มไม่หยุด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นแบบ open ending ที่แฟนๆ ตีความว่า canon ได้เลย หวานมากกก ส่วน ย้ง ยังคงเป็นพี่ใหญ่ที่คอยผลักดันให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไป
การยิงสาหัส การเปิดโปง และตอนจบสุดฟิน
พอล (โอห์ม ฐิติวัฒน์) คู่ปรับเก่าของปฐพี ถูกเปิดเผยว่าเป็นตัวการใหญ่เบื้องหลังบ่อนการพนันผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับข่าวฉาว เขาวางแผนล้มรายการ The Ex-Morning และแก้แค้นปฐพี ระหว่างการไล่ล่าข่าวเพื่อเปิดโปงความจริง ปฐพีถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส ฉากที่ตามตะวันร้องไห้ข้างเตียงในโรงพยาบาลคือบีบหัวใจสุดๆ เขากระซิบว่า “ฉันกลัวว่าจะเสียเธอไปอีกครั้ง” โอ้ย น้ำตาไหลเป็นลิตร
การสืบสวนนำไปสู่การจับกุมพอล ทำให้รายการ The Ex-Morning กลับมาฮิตติดชาร์ต ปฐพีหายดีและกลับมาทำงานเคียงข้างตามตะวันด้วยความรักที่แน่นแฟ้นกว่าเดิม ฉากสุดท้ายคือที่สุดของความฟิน ทั้งคู่เซ็น ทะเบียนสมรสชาย-ชาย (ในโลกสมมติของเรื่อง) พร้อมถ่ายรูปคู่กับทะเบียนสมรส มีการอ้างอิง SOTUS ด้วยประโยคสไตล์ Kongpob-Arthit ที่ปฐพีถามว่า “ถ้าผมเปลี่ยนไป คุณจะยังรักผมอยู่ไหม?” และตามตอบว่า “ถึงเปลี่ยนยังไง ผมก็รักคุณอยู่ดี” แฟนๆ Peraya กรี๊ดลั่นแน่นอน งานแต่งเล็กๆ ที่มีเก๋ากี้, หนูดี, และย้ง มาร่วมฉลองคือปิดท้ายด้วยความอบอุ่นสุดๆ
ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ BL หวานๆ นะ แต่เป็นเรื่องของการให้อภัย การยอมรับความเปลี่ยนแปลง และการเติบโตไปด้วยกัน ธีม “ถ่านไฟเก่า” และ “การเปลี่ยนแปลง” ทำให้เรารู้สึกว่า ความรักที่แท้จริงคือการที่เรายอมรับตัวตนของกันและกัน แม้ว่าโลกจะหมุนเร็วแค่ไหนก็ตาม ถ้าคุณเป็นแฟน BL หรือ Peraya ตัวยง The Ex-Morning คือ must-watch! เคมีคริส-สิงโตคือที่สุดของความฟิน ดราม่าก็เข้มข้น งานภาพสวย ดนตรีประกอบดี ถึงบางฉากจะคลิเช่ (เช่น คลิปไวรัลตอนที่ 8) แต่โดยรวมคือให้ 9/10 เลย
เบื้องหลัง การสร้างละครวายสุดฮิตแห่งปี 2568 เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning จาก GMM25 ที่ทำเอาแฟนๆ Peraya และแฟน BL กรี๊ดลั่นจอ ละครเรื่องนี้ไม่ได้มาเล่นๆ นะ เพราะทีมงานเบื้องหลังคือตัวท็อปของวงการ ไปดูกันเลยว่าใครเป็นใคร และทำไมซีรีส์นี้ถึงปังขนาดนี้
ทีมเขียนบทสุดปัง พงศ์เศรษฐ์ ลักษมีพงศ์, ปรัชญา ถาวรธรรมรัตน์, กรพรหม นิยมศิลป์
เริ่มที่หัวใจของเรื่องเลย บทละคร ทีมเขียนบทของ The Ex-Morning คือสุดยอดมาก มี พงศ์เศรษฐ์ ลักษมีพงศ์, ปรัชญา ถาวรธรรมรัตน์, และ กรพรหม นิยมศิลป์ ที่มาร่วมกันรังสรรค์เรื่องราวให้ทั้งหวาน ดราม่า และมีข้อคิด ทีมนี้คือมือฉมังที่รู้วิธีผสมความรักแบบถ่านไฟเก่ากับดราม่าวงการข่าวให้ลงตัวสุดๆ
พงศ์เศรษฐ์ ลักษมีพงศ์ – คนนี้คือกูรูสายดราม่า! เขาเก่งมากในการใส่ความขัดแย้งที่บีบหัวใจ อย่างฉากที่ปฐพี (คริส พีรวัส) สาดกาแฟใส่เต้ (อู๋ ธนบูรณ์) จนกลายเป็นไวรัล หรือฉากโต้เถียงระหว่างปฐพีกับตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) ที่ทำให้เราน้ำตาซึม
ปรัชญา ถาวรธรรมรัตน์ – สายนี้เด่นเรื่องโมเมนต์หวานๆ ค่ะ! ฉากจูบเปียกฝนในพายุตอนที่ 6 หรือฉากสารภาพรักของตามตะวันในตอนที่ 8 นี่คือฝีมือของเขาเลย ฟินจนจิกหมอนแตกแน่นอน
กรพรหม นิยมศิลป์ – คนนี้คือตัวแม่สายข้อคิดชีวิต ธีมการยอมรับความเปลี่ยนแปลงและการให้อภัยในเรื่องนี่คือลายเซ็นของเขา ทำให้ The Ex-Morning ไม่ใช่แค่ละครวาย แต่เป็นละครที่ให้แง่คิดลึกซึ้ง
ทั้งสามคนนี้รวมพลังกันเขียนบทที่ผสมทั้งความฟิน ดราม่า และความสมจริงของวงการสื่อได้อย่างลงตัว ต้องปรบมือให้เลย 👏
ผู้กำกับสุดคูล ผดุง สมาจาร
ต่อมาเรามาคุยถึง ผดุง สมาจาร ผู้กำกับที่เป็นสมองหลักของ The Ex-Morning ผดุงคือผู้กำกับที่ขึ้นชื่อเรื่องการดึงเคมีนักแสดงออกมาได้แบบสุดปัง เขาเคยกำกับงาน BL และละครดราม่ามาแล้วหลายเรื่อง และคราวนี้เขากลับมาพร้อมความท้าทายใหม่ – การเล่าเรื่องรักของแฟนเก่าท่ามกลางโลกข่าวสารที่โหดร้าย
สไตล์การกำกับ ผดุงเก่งมากในการสร้างโมเมนต์ที่ตราตรึงใจ อย่างฉากพายุฝนฟ้าคะนองที่ปฐพีกับตามตะวันกอดกัน หรือฉากในสตูดิโอที่ทั้งคู่ต้องแกล้งยิ้มแต่แอบเกลียดกันในใจ เขาใช้มุมกล้องและแสงที่ทำให้เรารู้สึกถึงความตึงเครียดและความรักที่ซ่อนอยู่ การที่ผดุงเลือกคริสและสิงโตมารับบทปฐพีและตามตะวันคือการตัดสินใจที่สมบูรณ์แบบ เขารู้วิธีให้ทั้งคู่แสดงเคมีที่ทั้งดราม่าและหวาน เช่น ฉากจ้องตาในตอนที่ 2 หรือฉากทะเบียนสมรสในตอนจบที่ทำเอาแฟนๆ ร้องไห้ฟิน
ผดุงใส่ใจทุกอย่าง ตั้งแต่การออกแบบสตูดิโอ The Ex-Morning ให้สมจริงเหมือนสตูดิโอข่าวจริงๆ ไปจนถึงการเลือกเพลงประกอบที่เข้ากับอารมณ์ เช่น เพลงป๊อปหวานๆ ในฉากรัก และซาวนด์ดราม่าในฉากขัดแย้ง บอกเลยว่า ผดุงคือ MVP ที่ทำให้ละครเรื่องนี้มีทั้งความสวยงามและพลังอารมณ์ 🙌
ผลิตโดย GMMTV ค่ายยักษ์ใหญ่ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง
GMMTV ค่ายที่เป็นตำนานของวงการ BL และละครไทย GMMTV คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ The Ex-Morning และเป็นค่ายที่รู้วิธีมัดใจแฟนๆ ทั่วโลก 🌍 โปรดักชันคุณภาพ GMMTV ทุ่มทุนสุดๆ กับงานภาพและการผลิต สตูดิโอข่าวในเรื่องนี่เหมือนของจริงเป๊ะ การถ่ายทำฉากพายุฝนฟ้าคะนองในตอนที่ 6 คืออลังการมาก แสง สี เสียง ลงตัวทุกอย่าง
การเลือกคริส-สิงโตให้กลับมาร่วมงานกันคือการตัดสินใจที่ทำเอาแฟนๆ Peraya กรี๊ดลั่น แถมยังมีนักแสดงสมทบอย่าง เจมี่ จุฑาพิชญ์ (เก๋ากี้), เอิร์น ปรียาภัทย์ (หนูดี), ไผ่ พาทิศ (ย้ง), และ อู๋ ธนบูรณ์ (เต้) ที่ช่วยทำให้เรื่องครบรส GMMTV รู้วิธีโปรโมตให้แฟนๆ คลั่ง ตั้งแต่ปล่อยทีเซอร์ที่มีฉากคริส-สิงโตจ้องตากัน ไปจนถึงการปล่อยภาพเบื้องหลังที่ทำเอาแฟนๆ รอไม่ไหว แถมยังมีซับอังกฤษใน Viu และ YouTube GMMTV ให้แฟนอินเตอร์ได้ฟินด้วย
GMMTV คือการันตีความปัง และ The Ex-Morning คือพิสูจน์ว่าค่ายนี้ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งในวงการ BL และละครไทย 🎉
โอเค ทุกคน เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning จะไม่ปังขนาดนี้ถ้าไม่มีทีมเขียนบทอย่าง พงศ์เศรษฐ์, ปรัชญา, และกรพรหม ที่รังสรรค์เรื่องราวให้ทั้งฟินและลึกซึ้ง, ผู้กำกับ ผดุง สมาจาร ที่ดึงเคมีนักแสดงออกมาได้แบบสุดยอด, และ GMMTV ที่ทุ่มสุดตัวเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องรักของปฐพีและตามตะวัน แต่เป็นผลงานที่แสดงถึงความทุ่มเทของทีมงานทุกคน
นักแสดง
→ คริส พีรวัส แสงโพธิรัตน์ รับบท ปฐพี
ปฐพีคือนักข่าวพยากรณ์อากาศชื่อดังที่ทุกคนในวงการรู้จัก เขาคือหนุ่มหล่อ มั่นใจ และมีสกิลการนำเสนอข่าวที่เป๊ะปังสุดๆ แต่ชีวิตไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้น เพราะปฐพีมีด้านที่หัวร้อนและอีโก้สูง ซึ่งจุดนี้ทำให้เขาเจอดราม่าหนักเมื่อสาดกาแฟใส่หน้าเต้ นักข่าวรุ่นน้อง จนกลายเป็นไวรัลและชีวิตพังทลาย จากดาวรุ่งกลายเป็นดาวร่วง เขาถูกย้ายไปทำรายการเช้า The Ex-Morning และต้องเจอแฟนเก่าอย่างตามตะวัน ซึ่งทำให้เขาเผชิญหน้ากับความทรงจำเก่าๆ และความผิดพลาดในอดีต
ตลอดเรื่อง ปฐพีค่อยๆ เติบโต จากคนที่ยึดติดกับความสำเร็จและอีโก้ กลายเป็นคนที่เรียนรู้ที่จะยอมรับความเปลี่ยนแปลงและให้อภัยทั้งตัวเองและคนอื่น การแสดงของคริสทำให้เราเห็นทุกมิติของปฐพี ไม่ว่าจะเป็นความเย่อหยิ่ง ความเปราะบาง หรือความรักที่ซ่อนอยู่ในใจ เรียกว่าเคมีกับสิงโตในบทตามตะวันคือระเบิดมาก
ฉายา เจ้าชายพยากรณ์
ฉายานี้ได้มาเพราะปฐพีคือสุดยอดนักข่าวพยากรณ์อากาศที่ทั้งแม่นยำและมีเสน่ห์ในจอ ทุกคนในเรื่องยกให้เขาเป็นดาวเด่นของวงการก่อนที่ดราม่าจะพังทุกอย่างลง
ข้อคิดจากปฐพี การยอมรับความผิดพลาดคือก้าวแรกของการเติบโต
ปฐพีสอนเราว่า ไม่ว่าเราจะเคยอยู่ในจุดสูงสุดแค่ไหน ความผิดพลาดอาจทำให้ล้มลง แต่ถ้าเรากล้ายอมรับและเรียนรู้จากมัน เราจะพบโอกาสใหม่ๆ และกลายเป็นเวอร์ชันที่ดีกว่าของตัวเอง
→ สิงโต ปราชญา เรืองโรจน์ รับบท ตามตะวัน
ตามตะวันคือโปรดิวเซอร์หนุ่มไฟแรงที่จบจากเมืองนอก กลับมาพร้อมความมั่นใจและความสามารถที่ทำให้ทุกคนในวงการข่าวต้องยอมรับ เขาคือคนที่เปลี่ยนจากเด็กหนุ่มขี้อายในอดีตกลายเป็นผู้นำที่เฉียบขาดและมีวิสัยทัศน์ แต่ใต้ความเป๊ะนั้น ตามตะวันยังเก็บความเจ็บปวดจากการเลิกรากับ ปฐพี (คริส พีรวัส) แฟนเก่าเมื่อสามปีก่อนไว้ในใจ การต้องกลับมาร่วมงานกับปฐพีในรายการ The Ex-Morning ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับทั้งความรักเก่าและความท้าทายในอาชีพ ตามตะวันเป็นคนที่ทั้งเข้มแข็งและเปราะบาง
เขาพยายามรักษาสมดุลระหว่างความเป็นมืออาชีพกับความรู้สึกส่วนตัว การแสดงของสิงโตทำให้เราเห็นมิติของตามตะวันได้ชัดเจน ตั้งแต่สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธในตอนแรก ไปจนถึงความอ่อนโยนในฉากสารภาพรัก และเคมีกับคริสในบทปฐพีคือแบบ ระเบิดใจสุดๆ โดยเฉพาะฉากจูบเปียกฝนที่ทุกคนต้องกรี๊ด
ฉายา ดาวรุ่งแห่งวงการข่าว
ฉายานี้ได้มาเพราะตามตะวันคือโปรดิวเซอร์ที่ทุกคนจับตามอง ด้วยความสามารถและความมั่นใจที่ทำให้เขากลายเป็นผู้นำรายการ The Ex-Morning ได้อย่างสง่างาม
ข้อคิดจากตามตะวัน ความรักที่แท้จริงต้องมาพร้อมความเข้าใจ
ตามตะวันสอนเราว่า การรักใครสักคนไม่ได้แค่รักตัวตนของเขาในอดีต แต่ต้องยอมรับและเติบโตไปกับการเปลี่ยนแปลงของกันและกัน เพื่อให้ความรักนั้นยั่งยืน
→ เจมี่ จุฑาพิชญ์ อินทร์จันทร์ รับบท เก๋ากี้
เก๋ากี้คือเพื่อนสนิทของ ปฐพี (คริส พีรวัส) ที่คอยเป็นที่ปรึกษาและพลังบวกของเรื่อง เธอเป็นสาวมั่นใจ สดใส มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และมีเซนส์ด้านแฟชั่นที่ไม่เหมือนใคร เก๋ากี้ทำงานในทีมรายการ The Ex-Morning และมักจะเป็นคนที่คอยช่วยปฐพีผ่านช่วงเวลายากๆ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เขาถูกสังคมโจมตีจากดราม่ากาแฟ หรือตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) แฟนเก่า
แต่ที่ทำให้เก๋ากี้เด่นสุดๆ คือความสัมพันธ์แบบเคมีลงตัวกับ หนูดี (เอิร์น ปรียาภัทย์) ที่พัฒนาไปแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปจนกลายเป็นคู่รองที่แฟนๆ กรี๊ด เธอมีทั้งความตลก ความอบอุ่น และปมลับๆ ที่ทำให้ตัวละครมีมิติ การแสดงของเจมี่คือจุดไฟให้เก๋ากี้เป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ โดยเฉพาะฉากที่แซวปฐพีหรือโมเมนต์หวานๆ กับหนูดีที่ทำเรายิ้มไม่หยุด
ฉายา สาวแซ่บแห่งสตูดิโอ
ฉายานี้ได้มาเพราะเก๋ากี้คือตัวแม่เรื่องความมั่นใจและสไตล์ที่โดดเด่นในทีม The Ex-Morning เธอคือคนที่ทำให้ทุกฉากมีชีวิตชีวาด้วยความแซ่บและพลังบวก
ข้อคิดจากเก๋ากี้ การเป็นเพื่อนที่ดีคือการอยู่ข้างกันในทุกสถานการณ์
เก๋ากี้สอนเราว่า เพื่อนแท้ไม่ใช่แค่คนที่หัวเราะด้วยกัน แต่เป็นคนที่พร้อมยืนเคียงข้างและให้กำลังใจในวันที่เพื่อนล้มลง โดยไม่ตัดสิน
→ เอิร์น ปรียาภัทย์ หล่อสุวรรณศิริ รับบท หนูดี
หนูดีคือสาวน้อยทีมงานในรายการ The Ex-Morning ที่มาพร้อมความสดใส ร่าเริง และพลังบวกที่ทำให้ทุกคนในสตูดิอยิ้มตาม เธอเป็นคนที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย แต่จริงๆ แล้วมีปมลับในใจที่ค่อยๆ เผยออกมาในเรื่อง หนูดีเป็นคนที่คอยช่วยเหลือทีม โดยเฉพาะการสนับสนุน ปฐพี (คริส พีรวัส) ในวันที่เขาต้องเผชิญดราม่า และยังเป็นคนที่ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ในทีมให้ลงตัว
แต่ที่ทำให้แฟนๆ กรี๊ดคือเคมีสุดน่ารักกับ เก๋ากี้ (เจมี่ จุฑาพิชญ์) ที่พัฒนาจากเพื่อนร่วมงานกลายเป็นความสัมพันธ์แบบ open ending ที่ทำคนดูฟินสุดๆ การแสดงของเอิร์นทำให้หนูดีเป็นตัวละครที่มีทั้งความน่ารัก ความลึกซึ้ง และเสน่ห์ที่ทำให้เราอยากเอาใจช่วย โดยเฉพาะฉากที่เธอแอบเผยด้านเปราะบางหรือโมเมนต์หวานๆ กับเก๋ากี้ที่ทำเรายิ้มแก้มปริ
ฉายา นางฟ้าแห่งสตูดิโอ
ฉายานี้ได้มาเพราะหนูดีคือคนที่นำความสดใสและพลังบวกมาสู่ทีม The Ex-Morning เธอเหมือนแสงสว่างที่ทำให้ทุกคนรู้สึกดีขึ้นในวันที่วุ่นวาย
ข้อคิดจากหนูดี ความจริงใจคือกุญแจสู่ความสัมพันธ์ที่ดี
หนูดีสอนเราว่า การแสดงออกด้วยความจริงใจ ไม่ว่าจะในมิตรภาพหรือความรัก สามารถสร้างสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนได้
→ ไผ่ พาทิศ พิสิฐกุล รับบท ย้ง
ย้งคือรุ่นพี่โปรดิวเซอร์ใหญ่ของทีมรายการ The Ex-Morning ที่ทั้งเข้มงวดและมีวิสัยทัศน์ชัดเจน เขาเป็นคนที่คอยควบคุมทุกอย่างในสตูดิโอให้เดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการปั้นรายการใหม่ท่ามกลางดราม่า หรือการจัดการทีมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ย้งให้โอกาส ปฐพี (คริส พีรวัส) ที่กำลังล้มลงจากเหตุการณ์สาดกาแฟไวรัล และยังต้องร่วมมือกับ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) โปรดิวเซอร์รุ่นใหม่ที่เป็นแฟนเก่าของปฐพี
แต่เบื้องหลังความเข้มงวดนั้น ย้งมีด้านที่อบอุ่นและแอบเชียร์ให้ทุกคนในทีมคืนดีกัน โดยเฉพาะปฐพีกับตามตะวัน การแสดงของไผ่ทำให้ย้งเป็นตัวละครที่มีทั้งอำนาจและความเมตตา โดยเฉพาะฉากที่เขาต้องตัดสินใจยากๆ หรือโมเมนต์ที่ให้คำปรึกษาแบบพี่ใหญ่ที่ทำเรารู้สึกอุ่นใจ
ฉายา บอสใหญ่ใจดี
ฉายานี้ได้มาเพราะย้งคือหัวหน้าทีมที่เข้มงวดแต่แฝงด้วยความเมตตา เขาให้โอกาสคนอื่นและคอยผลักดันให้ทีมก้าวผ่านวิกฤตได้อย่างสง่างาม
ข้อคิดจากย้ง การเป็นผู้นำที่ดีคือการให้โอกาสและความเชื่อมั่น
ย้งสอนเราว่า ผู้นำตัวจริงไม่ใช่แค่สั่งการ แต่เป็นคนที่กล้าให้โอกาสคนอื่นลุกขึ้นจากความผิดพลาด และเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมเพื่อสร้างความสำเร็จร่วมกัน
→ อู๋ ธนบูรณ์ เกียรตินิรันดร์ รับบท เต้
เต้คือนักข่าวรุ่นน้องในวงการสื่อที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานแต่ยังขาดประสบการณ์ เขาเป็นคนที่ดูมั่นใจเกินตัวและบางครั้งก็ยั่วโมโหคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นทำให้เขาไปขัดใจ ปฐพี (คริส พีรวัส) จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของดราม่าครั้งใหญ่เมื่อปฐพีสาดกาแฟร้อนใส่หน้าเต้จนกลายเป็นไวรัล แม้ว่าเต้จะดูเหมือนตัวละครที่ทำให้คนหมั่นไส้ในตอนแรก
แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป เราได้เห็นว่าเขามีด้านที่อยากพิสูจน์ตัวเองและเติบโตในสายงานเหมือนกัน การที่เขาต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบจากดราม่าและพยายามก้าวผ่านมัน ทำให้เต้มีมิติมากขึ้น การแสดงของอู๋ทำให้เต้เป็นตัวละครที่ทั้งน่ารำคาญและน่าสงสารในบางมุม โดยเฉพาะฉากที่เขาพยายามปรับปรุงตัวเองหลังจากเหตุการณ์ใหญ่ ซึ่งทำให้เราเริ่มเอาใจช่วยเขา
ฉายา ตัวจุดดราม่า
ฉายานี้ได้มาเพราะเต้คือคนที่จุดชนวนดราม่าครั้งใหญ่ในเรื่อง ด้วยการปะทะกับปฐพีจนนำไปสู่เหตุการณ์สาดกาแฟที่เปลี่ยนชีวิตทุกคนใน The Ex-Morning
ข้อคิดจากเต้ ทุกความผิดพลาดคือโอกาสในการเรียนรู้
เต้สอนเราว่า แม้จะเริ่มต้นด้วยความผิดพลาดหรือการถูกมองในแง่ลบ แต่ถ้าเรายอมรับและพยายามปรับปรุงตัวเอง ก็สามารถเปลี่ยนมุมมองของคนอื่นและเติบโตได้
→ ป๊อด ศุภกร ศรีโพธิ์ทอง รับบท สุวิทย์
สุวิทย์คือหนึ่งในทีมงานของรายการ The Ex-Morning ที่มีบทบาทเป็นผู้ช่วยในสตูดิโอ เขาเป็นคนที่ดูเงียบๆ ขยัน และคอยสนับสนุนทีมอยู่เบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยจัดการอุปกรณ์หรือประสานงานในช่วงที่รายการต้องเผชิญวิกฤตจากดราม่าของ ปฐพี (คริส พีรวัส) และความตึงเครียดระหว่างปฐพีกับ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) สุวิทย์อาจจะไม่ได้เด่นในแสงสปอตไลต์เหมือนตัวละครหลัก
แต่เขาคือคนที่คอยทำให้ทุกอย่างในทีมเดินหน้าได้อย่างราบรื่น ด้วยนิสัยที่ใจเย็นและทุ่มเท สุวิทย์มักจะมีโมเมนต์เล็กๆ ที่แสดงถึงความภักดีต่อทีม เช่น ฉากที่เขาช่วยแก้สถานการณ์ในสตูดิโอหรือให้กำลังใจเพื่อนร่วมงาน การแสดงของป๊อดทำให้สุวิทย์เป็นตัวละครที่ดูสมจริงและน่ารักในแบบคนทำงานเบื้องหลังที่ไม่เคยขโมยซีน แต่ขาดไม่ได้
ฉายา เงียบแต่ทรงพลัง
ฉายานี้ได้มาเพราะสุวิทย์คือคนที่ทำงานหนักเงียบๆ แต่มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ทีม The Ex-Morning รอดจากความวุ่นวาย และเป็นที่พึ่งของทุกคนในยามฉุกเฉิน
ข้อคิดจากสุวิทย์ การทำงานหนักอย่างเงียบๆ ก็มีคุณค่า
สุวิทย์สอนเราว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่โดดเด่นในแสงไฟเสมอไป การทุ่มเทและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้
→ ก๊อตจิ ทัชชกร บุญลัภยานันท์ รับบท ริต้า
ริต้าคือหนึ่งในทีมงานของรายการ The Ex-Morning ที่มีบทบาทเป็นผู้ช่วยพิธีกรหรือสไตลิสต์ในสตูดิโอ เธอเป็นคนที่ดูร่าเริง มีไหวพริบ และมักจะเป็นคนที่คอยคลายความตึงเครียดในทีมท่ามกลางดราม่าของ ปฐพี (คริส พีรวัส) และ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) ริต้ามีด้านที่ฉลาดแกมโกงเล็กๆ แต่มาจากเจตนาดี เช่น การช่วยจัดการข่าวลือหรือประสานงานให้รายการรอดพ้นวิกฤตจากเหตุการณ์สาดกาแฟไวรัล
เธอเป็นคนที่สังเกตเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในทีมและคอยให้คำแนะนำแบบไม่เป็นทางการ ทำให้เธอเป็นเหมือนตัวเชื่อมที่ทำให้ทุกคนในสตูดิโอรู้สึกผ่อนคลาย การแสดงของก๊อตจิทำให้ริต้าเป็นตัวละครที่ทั้งสนุกสนานและมีเสน่ห์ โดยเฉพาะฉากที่เธอแซวทีมงานหรือช่วยแก้สถานการณ์ที่ทำเรายิ้มตาม
ฉายา ราชินีไหวพริบ
ฉายานี้ได้มาเพราะริต้าคือคนที่เก่งเรื่องการแก้ปัญหาในพริบตา ด้วยไหวพริบที่เฉียบคม ทำให้เธอเป็นที่พึ่งของทีม The Ex-Morning ในวันที่ทุกอย่างวุ่นวาย
ข้อคิดจากริต้า ไหวพริบคืออาวุธลับในการเอาตัวรอด
ริต้าสอนเราว่า ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การใช้ไหวพริบและมองหาทางออกแบบสร้างสรรค์สามารถช่วยให้เราก้าวผ่านอุปสรรคได้โดยไม่ต้องเผชิญหน้ากับมันตรงๆ เสมอไป
→ เง็ก กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ รับบท วารี
วารีคือผู้บริหารระดับสูงในบริษัทข่าวที่คอยกำกับดูแลรายการ The Ex-Morning ด้วยความเฉียบขาดและมีประสบการณ์ยาวนาน เธอเป็นคนที่ดูสงบแต่มีอิทธิพลสูง มักจะเป็นคนตัดสินใจสำคัญๆ ในช่วงวิกฤต เช่น การจัดการดราม่าของ ปฐพี (คริส พีรวัส) จากเหตุการณ์สาดกาแฟไวรัล หรือการสนับสนุนให้ทีมปรับตัวกับความตึงเครียดระหว่างปฐพีและ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา)
วารีมีด้านที่เป็นเมนเทอร์ให้คำแนะนำแบบไม่ต้องพูดมาก แต่คำพูดของเธอทุกคำมีน้ำหนัก ทำให้ทีมรู้สึกมั่นใจ การแสดงของเง็กทำให้วารีเป็นตัวละครที่ทั้งน่าเกรงขามและอบอุ่น โดยเฉพาะฉากที่เธอให้คำปรึกษาหรือตัดสินใจเด็ดขาดที่ทำเรารู้สึกถึงพลังของผู้หญิงที่แข็งแกร่ง
ฉายา ราชินีแห่งวงการข่าว
ฉายานี้ได้มาเพราะวารีคือผู้บริหารที่ทุกคนในบริษัทเคารพ ด้วยประสบการณ์และการตัดสินใจที่เฉียบคม ทำให้เธอเป็นเหมือนราชินีที่ปกป้องทีม The Ex-Morning จากพายุภายนอก
ข้อคิดจากวารี ประสบการณ์คือเครื่องมือที่ทรงพลังในการนำทาง
วารีสอนเราว่า การมีประสบการณ์ช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ โดยไม่ปล่อยให้อารมณ์มาบดบัง แต่ต้องแบ่งปันมันเพื่อช่วยเหลือคนรุ่นใหม่
→ ขวัญ ขวัญฤดี กลมกล่อม รับบท ษา
ษาคือหนึ่งในทีมงานของรายการ The Ex-Morning ที่มีบทบาทเป็นผู้ช่วยประสานงานในสตูดิโอ เธอเป็นคนที่ดูเงียบๆ มีความลึกลับนิดๆ และมักจะเก็บตัว ไม่ค่อยเปิดเผยตัวตนมากนัก แต่จริงๆ แล้วษามีความฉลาดและสังเกตการณ์เก่ง เธอคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวในทีม โดยเฉพาะดราม่าระหว่าง ปฐพี (คริส พีรวัส) และ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) รวมถึงเหตุการณ์สาดกาแฟไวรัลที่เปลี่ยนทุกอย่างในรายการ
ษามักจะมีโมเมนต์ที่แสดงให้เห็นว่าเธอรู้มากกว่าที่แสดงออก และบางครั้งก็ทิ้งคำใบ้ที่ทำให้คนดูสงสัยว่าเธอรู้ความลับอะไรเกี่ยวกับทีม การแสดงของขวัญทำให้ษาเป็นตัวละครที่ทั้งน่าสนใจและมีเสน่ห์ในแบบที่เงียบแต่ทรงพลัง โดยเฉพาะฉากที่เธอพูดอะไรสั้นๆ แต่แฝงความหมายลึกซึ้งที่ทำให้เราต้องคิดตาม
ฉายา เงาลึกลับแห่งสตูดิโอ
ฉายานี้ได้มาเพราะษาคือคนที่ทำงานเงียบๆ แต่เหมือนรู้ทุกอย่างในทีม The Ex-Morning เธอเป็นเหมือนเงาที่คอยสังเกตและเก็บข้อมูลไว้โดยไม่มีใครรู้ตัว
ข้อคิดจากษา การรู้จักฟังและสังเกตทำให้เราเข้าใจมากขึ้น
ษาสอนเราว่า บางครั้งการเงียบและคอยดูสถานการณ์อย่างรอบคอบช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ลึกซึ้งกว่าการพูดหรือลงมือทำทันที
→ โอห์ม ฐิติวัฒน์ ฤทธิ์ประเสริฐ รับบท พอล (รับเชิญ)
พอลคือคู่ปรับเก่าของ ปฐพี (คริส พีรวัส) ในวงการสื่อที่แฝงตัวเข้ามาแบบเงียบๆ แต่เต็มไปด้วยความแค้นและแผนการร้าย เขาเป็นคนที่ดูสุภาพแต่ซ่อนด้านมืดไว้ลึกๆ โดยเฉพาะการเป็นตัวการเบื้องหลังบ่อนการพนันผิดกฎหมายที่เชื่อมโยงกับข่าวฉาว พอลปรากฏตัวในช่วงหลังของเรื่องเพื่อแก้แค้นปฐพีและพยายามล้มรายการ The Ex-Morning ซึ่งนำไปสู่จุดไคลแมกซ์ที่เข้มข้น พอลมีมิติที่ทั้งเย็นชาและมีเหตุผลในแบบตัวร้ายที่เชื่อว่าตัวเองถูกทำร้าย การแสดงของโอห์มทำให้พอลเป็นตัวละครที่ทั้งน่ากลัวและน่าสงสาร โดยเฉพาะฉากที่เขาเผยแผนการหรือการไล่ล่าที่ทำเราลุ้นจนตัวโก่ง
ฉายา เงามืดแห่งข่าวฉาว
ฉายานี้ได้มาเพราะพอลคือตัวร้ายที่ซ่อนตัวในเงา คอยก่อข่าวฉาวและวางแผนล้มทีม The Ex-Morning ด้วยความแค้นที่สะสมมานาน
ข้อคิดจากพอล ความแค้นที่ไม่ถูกจัดการนำไปสู่การทำลายตัวเอง
พอลสอนเราว่า การยึดติดกับความแค้นและแก้แค้นคนอื่นอาจให้ความรู้สึกสะใจชั่วคราว แต่สุดท้ายมันจะทำลายทั้งตัวเราและคนรอบข้าง หากไม่หาทางปล่อยวาง
→ พลอยภัช ภัชธร ธนวัฒน์ รับบท อริน (รับเชิญ)
อรินคือตัวละครรับเชิญที่โผล่มาในวงการสื่อของ The Ex-Morning ในฐานะนักข่าวอิสระที่ทั้งฉลาดและมีสไตล์ เธอเข้ามาในช่วงที่รายการกำลังเผชิญดราม่าจากเหตุการณ์สาดกาแฟของ ปฐพี (คริส พีรวัส) และความตึงเครียดระหว่างปฐพีกับ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) อรินมีบุคลิกที่มั่นใจ มีไหวพริบ และมักจะนำข้อมูลหรือมุมมองใหม่ๆ มาสู่ทีม
เธอเหมือนสายลมที่พัดเข้ามาเพิ่มความสดชื่น แต่ก็แฝงด้วยความลึกลับเล็กๆ ที่ทำให้คนดูสงสัยว่าเธอมีบทบาทอะไรในดราม่าครั้งนี้ การแสดงของพลอยภัชทำให้อรินเป็นตัวละครที่ทั้งน่าสนใจและมีพลัง โดยเฉพาะฉากที่เธอพูดอะไรแซ่บๆ หรือช่วยทีมแก้ปัญหาด้วยความเฉลียวฉลาด
ฉายา สายลมแห่งข่าวลือ
ฉายานี้ได้มาเพราะอรินเหมือนลมที่พัดเข้ามานำข่าวสารและความเปลี่ยนแปลงมาสู่ทีม The Ex-Morning ด้วยสไตล์ที่ทั้งสดชื่นและน่าค้นหา
ข้อคิดจากอริน มุมมองใหม่ๆ สามารถเปลี่ยนเกมได้
อรินสอนเราว่า บางครั้งการมองสิ่งต่างๆ จากมุมมองที่แตกต่างหรือการกล้าเสนอไอเดียใหม่ๆ สามารถช่วยแก้ปัญหาและนำพาความสำเร็จมาได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ข้อคิด จากซีรีส์วายสุดปัง เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning ซีรีส์นี้ไม่ได้มีแค่ความฟินของคู่จิ้น คริส พีรวัส และ สิงโต ปราชญา หรือดราม่าจากวงการสื่อ แต่ยังแฝงข้อคิดดีๆ ที่ทำให้เราคิดตามเกี่ยวกับชีวิต ความรัก และการเติบโต มาดูกันว่าละครนี้สอนอะไรเราบ้าง
การยอมรับความเปลี่ยนแปลงคือกุญแจสู่ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน
เรื่องราวของ ปฐพี และ ตามตะวัน แสดงให้เห็นว่า ความรักไม่ได้หยุดนิ่งที่อดีต การที่ทั้งคู่ต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงในตัวตนของกันและกันสอนเราว่า ถ้าอยากให้ความรักหรือมิตรภาพยืนยาว ต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับและเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของอีกฝ่าย
ความผิดพลาดเป็นโอกาสในการเริ่มต้นใหม่
การที่ปฐพีสาดกาแฟจนกลายเป็นไวรัลและชีวิตพัง ทำให้เราเห็นว่า ความผิดพลาดครั้งใหญ่ไม่ได้หมายถึงจุดจบ ถ้าเรากล้ายอมรับและพยายามแก้ไข มันจะกลายเป็นโอกาสให้เราได้พิสูจน์ตัวเองและกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม
การให้อภัยคือการปลดปล่อยตัวเอง
ดราม่าถ่านไฟเก่าระหว่างปฐพีและตามตะวันสอนเราว่า การให้อภัยไม่ใช่แค่การปล่อยวางความเจ็บปวดให้อีกฝ่าย แต่เป็นการปลดปล่อยตัวเราเองจากความแค้นและความเสียใจ เพื่อเดินหน้าต่อไปด้วยใจที่เบาขึ้น
ทีมเวิร์กคือพลังที่ขับเคลื่อนความสำเร็จ
รายการ The Ex-Morning จะไม่รอดพ้นวิกฤตได้ถ้าขาดทีมงานอย่าง ย้ง, เก๋ากี้, หนูดี, และคนอื่นๆ เรื่องนี้สอนว่า ไม่ว่าเป้าหมายจะใหญ่แค่ไหน การทำงานเป็นทีมและสนับสนุนกันคือสิ่งที่ทำให้ฝ่าฟันอุปสรรคได้
ความจริงใจคือรากฐานของทุกความสัมพันธ์
ไม่ว่าจะเป็นความรักของปฐพีและตามตะวัน หรือมิตรภาพระหว่างเก๋ากี้และหนูดี ละครแสดงให้เห็นว่า ความจริงใจในการสื่อสารและแสดงความรู้สึกคือสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งและยั่งยืน
นี่คือข้อคิดเด็ดๆ ที่เราคัดมาให้จาก The Ex-Morning ละครเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ให้ความฟิน แต่ยังให้แง่คิดที่ใช้ได้จริงในชีวิต ทุกคนได้ข้อคิดอะไรจากเรื่องนี้บ้าง
หลังจากที่ภาคแรกปี 2568 จาก GMM25 ปิดฉากไปแบบฟินสุดๆ กับความรักของ ปฐพี (คริส พีรวัส) และ ตามตะวัน (สิงโต ปราชญา) ที่จบด้วยทะเบียนสมรสและความสำเร็จของรายการ The Ex-Morning คราวนี้เราจะมาสร้างภาคต่อที่ยังคงความดราม่า ความหวาน และพลังของถ่านไฟเก่า พร้อมเรื่องราวที่เข้มข้นกว่าเดิม ไปดูกันว่าถ้ามีภาค 2 จะเป็นยังไง ไปเริ่มกันเลย
จุดเริ่มต้น ความรักที่มั่นคงแต่ถูกท้าทายด้วยอดีต
ผ่านไปหนึ่งปีหลังจากตอนจบของภาคแรก ปฐพีและตามตะวันยังคงเป็นคู่รักที่หวานชื่นและทำงานร่วมกันในรายการ The Ex-Morning ซึ่งตอนนี้กลายเป็นรายการข่าวเช้าอันดับหนึ่งของเมืองไทย แต่ชีวิตคู่และชีวิตการงานของทั้งคู่ไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด เมื่อ อริน (พลอยภัช ภัชธร) นักข่าวอิสระจากภาคแรก กลับมาพร้อมความลับจากอดีตของตามตะวันที่อาจสั่นคลอนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ อรินเผยว่าเธอเคยทำงานร่วมกับตามตะวันสมัยอยู่นอกประเทศ และมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ พอล (โอห์ม ฐิติวัฒน์) ตัวร้ายจากภาคแรกที่ตอนนี้หลบหนีการจับกุมและวางแผนแก้แค้นครั้งใหม่
ในขณะเดียวกัน รายการ The Ex-Morning ต้องเผชิญกับคู่แข่งใหม่ – รายการข่าวจากช่องคู่แข่งที่นำโดย นที (รับบทโดยนักแสดงหน้าใหม่) นักข่าวหนุ่มไฟแรงที่มีความทะเยอทะยานและพร้อมทำทุกอย่างเพื่อแย่งชิงเรตติ้ง การแข่งขันในวงการสื่อครั้งนี้รุนแรงยิ่งกว่าที่เคย เพราะมีข่าวลือว่ามีคนในทีม The Ex-Morning แอบปล่อยข้อมูลให้คู่แข่ง ทำให้ ย้ง (ไผ่ พาทิศ) ต้องสืบหาคนทรยศในทีม
ความลับที่ซ่อนไว้และการทดสอบความรัก
ปฐพีเริ่มสงสัยในตัวตามตะวันเมื่อพบว่าเขามีความลับที่ไม่เคยบอกเกี่ยวกับช่วงเวลาที่อยู่นอกประเทศ ความลับนี้เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจครั้งใหญ่ในอดีตที่อาจเชื่อมโยงกับพอล และทำให้ปฐพีรู้สึกว่าความไว้ใจที่ทั้งคู่สร้างมากำลังสั่นคลอน การกลับมาของอรินยิ่งทำให้สถานการณ์ซับซ้อน เพราะเธอเหมือนรู้มากเกินไปและมีเจตนาที่ไม่ชัดเจนว่าเป็นมิตรหรือศัตรู ฉากดราม่าจุดพีคคือตอนที่ปฐพีและตามตะวันทะเลาะกันหนักถึงขั้นขอพักความสัมพันธ์ชั่วคราว แต่ในใจทั้งคู่ยังรักกันสุดหัวใจ
ด้านวงการสื่อ ทีม The Ex-Morning ต้องต่อสู้เพื่อรักษาตำแหน่งอันดับหนึ่ง เก๋ากี้ (เจมี่ จุฑาพิชญ์) และ หนูดี (เอิร์น ปรียาภัทย์) กลายเป็นคู่ที่พัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้น แต่ต้องเผชิญกับความท้าทายเมื่อเก๋ากี้ถูกสงสัยว่าเป็นคนปล่อยข้อมูลให้คู่แข่ง ทำให้เกิดรอยร้าวในทีม สุวิทย์ (ป๊อด ศุภกร) และ ริต้า (ก๊อตจิ ทัชชกร) ต้องช่วยกันหาทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเก๋ากี้ ขณะที่ วารี (เง็ก กัลยา) และ ษา (ขวัญ ขวัญฤดี) เข้ามาช่วยวางกลยุทธ์เพื่อปกป้องรายการจากคู่แข่ง
พายุความจริงและการกลับมาของถ่านไฟเก่า
เมื่อพอลปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังแผนการของช่องคู่แข่ง เขาเปิดเผยความลับที่อาจทำลายทั้งความสัมพันธ์ของปฐพีและตามตะวัน รวมถึงชื่อเสียงของ The Ex-Morning ในช่วงพายุฝนครั้งใหญ่ที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของความโกลาหล ปฐพีและตามตะวันต้องร่วมมือกันทั้งในจอและนอกจอเพื่อเปิดโปงพอลและปกป้องทีม การสืบสวนนำไปสู่การเผชิญหน้าสุดเข้มข้นที่ทั้งสองต้องเผชิญหน้ากับความจริงเกี่ยวกับอดีต และตัดสินใจว่าความรักของพวกเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะผ่านพายุครั้งนี้หรือไม่
การเริ่มต้นใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม
ในตอนสุดท้าย ทีม The Ex-Morning เอาชนะคู่แข่งได้ด้วยการนำเสนอข่าวที่ซื่อสัตย์และสร้างสรรค์ ปฐพีและตามตะวันเรียนรู้ที่จะไว้วางใจกันอีกครั้ง ด้วยการเปิดใจคุยถึงความลับในอดีตและสัญญาว่าจะไม่ปิดบังอะไรอีก ฉากปิดท้ายคือการฉลองครบรอบแต่งงานของทั้งคู่ในสตูดิโอ The Ex-Morning พร้อมทีมงานทั้งหมดที่กลายเป็นเหมือนครอบครัว เก๋ากี้และหนูดีตกลงใช้ชีวิตคู่แบบชัดเจน ส่วนย้ง วารี และคนอื่นๆ ในทีมมองไปข้างหน้าด้วยความหวังในอนาคตของรายการ
เรื่องลึกลับสุดหลอนในเบื้องหลังกองถ่ายละครวายสุดปัง เพราะแฟนเก่าเปลี่ยนแปลงบ่อย The Ex-Morning ปี 2568 จาก GMM25 เกี่ยวกับความลับดำมืดที่เกิดขึ้นในสตูดิโอและกองถ่ายที่ไม่มีใครคาดคิด
กองถ่ายของ The Ex-Morning ตั้งอยู่ในสตูดิโอขนาดใหญ่ของ GMMTV ที่ออกแบบให้เหมือนสตูดิโอข่าวจริง ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ: แสงไฟสว่างจ้า อุปกรณ์ทันสมัย และทีมงานที่วิ่งวุ่นเพื่อให้ทุกฉากออกมาสมบูรณ์ แต่ตั้งแต่สัปดาห์แรกของการถ่ายทำ ผดุง สมาจาร ผู้กำกับเริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติ เมื่อทีมงานบางคนรายงานว่า เอกสารบทละคร หายไปจากโต๊ะในห้องควบคุม และบางครั้งก็พบว่ามันถูกวางไว้ในที่ที่ไม่มีใครคาดคิด เช่น ในห้องเก็บของเก่าที่ปิดตายมานาน
พงศ์เศรษฐ์ ลักษมีพงศ์ หนึ่งในทีมเขียนบทเล่าว่า เขาเคยเห็นเงาดำเคลื่อนไหวในมุมมืดของสตูดิโอตอนดึก หลังจากที่ทุกคนควรจะกลับบ้านไปแล้ว ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นแค่ทีมงานที่ทำงานล่วงเวลา แต่เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด กลับไม่พบใครในบริเวณนั้น เรื่องนี้ทำให้ทีมเขียนบททั้งสามคน พงศ์เศรษฐ์, ปรัชญา ถาวรธรรมรัตน์, และ กรพรหม นิยมศิลป์ เริ่มรู้สึกว่า มีบางอย่างในกองถ่ายที่มากกว่าแค่ความกดดันจากการทำงาน
ทีมตากล้องนำโดย ตากล้องใหญ่ (สมมติชื่อว่า โจ) ผู้มีประสบการณ์ยาวนานในวงการ เริ่มเจอปัญหาลึกลับเมื่อฟุตเทจที่ถ่ายไว้บางส่วนมีภาพที่ไม่สามารถอธิบายได้ ในฉากที่ควรจะเป็นแค่การซ้อมบทของทีมงาน มีเงาคล้ายคนยืนอยู่ในมุมกล้อง แต่เมื่อตรวจสอบ ไม่มีใครอยู่ในจุดนั้นตอนถ่ายทำ โจและทีมตัดต่อเริ่มสงสัยว่า อุปกรณ์ในสตูดิโออาจมีปัญหา แต่เมื่อเช็คทุกอย่างกลับปกติ สิ่งที่ทำให้ทุกคนขนลุกคือ ภาพเงานั้นปรากฏเฉพาะในฉากที่เกี่ยวกับดราม่าสาดกาแฟของปฐพี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในละคร
ทีมงานแสงและเสียงที่นำโดย หัวหน้าทีมแสง (สมมติชื่อว่า มิ้นต์) ก็เจอเหตุการณ์แปลกๆ เช่น ไฟสปอตไลต์ในสตูดิโอกระพริบเองในตอนกลางคืน ทั้งที่ไฟฟ้าถูกตัดเรียบร้อยแล้ว มิ้นต์เคยลองอยู่ดึกเพื่อตรวจสอบ แต่พบว่าไฟบางดวงเปิดเองและส่องไปที่จุดเดียวกัน โต๊ะพยากรณ์อากาศที่เป็นฉากหลักของเรื่อง ทีมงานเริ่มลือกันว่า สตูดิโออาจมี “บางสิ่ง” ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องของละคร ซึ่งพูดถึงถ่านไฟเก่าและความแค้นจากอดีต
เรื่องราวยิ่งลึกลับเมื่อ ผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ (สมมติชื่อว่า แนน) ค้นพบสมุดบันทึกเก่าในห้องเก็บของของ GMMTV ที่ถูกล็อกมานาน สมุดเล่มนี้มีบันทึกของโปรดิวเซอร์รุ่นเก่าที่เคยทำงานในสตูดิโอเมื่อ 20 ปีก่อน บันทึกเล่าถึงเหตุการณ์ที่รายการข่าวเก่าชื่อ “Morning Light” ต้องปิดตัวลงเพราะดราม่าที่คล้ายกับในละคร มีนักข่าวที่ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายรุ่นน้องจนชื่อเสียงพัง และสุดท้ายรายการก็ล่มสลาย บันทึกจบลงด้วยประโยคที่ทำให้ทุกคนสะดุ้ง “บางอย่างในสตูดิโอนี้ไม่เคยจากไป”
แนนนำสมุดนี้ไปให้ ผดุง สมาจาร ดู และทีมงานเริ่มสงสัยว่า การถ่ายทำ The Ex-Morning อาจไป “ปลุก” บางอย่างในสตูดิโอ ทีมเขียนบททั้งสามคนตัดสินใจปรับบทบางส่วนเพื่อลดความคล้ายคลึงกับเรื่องราวในอดีต หวังว่าจะทำให้เหตุการณ์แปลกๆ หยุดลง แต่ยิ่งถ่ายทำต่อ เอกสารบทก็ยังคงหายไป และบางครั้งพบว่ามีรอยขีดเขียนด้วยลายมือที่ไม่มีใครรู้จัก
เมื่อการถ่ายทำใกล้ถึงตอนจบของละคร ทีมงานตัดสินใจจัดการประชุมตอนดึกเพื่อหาคำตอบ ผดุง, พงศ์เศรษฐ์, ปรัชญา, กรพรหม, โจ, มิ้นต์ และแนน รวมตัวกันในสตูดิโอเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดและห้องเก็บของ พวกเขาค้นพบว่า สมุดบันทึกเก่ามีชื่อของโปรดิวเซอร์ที่เคยทำงานใน “Morning Light” ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วในอุบัติเหตุลึกลับหลังรายการปิดตัว ทีมงานเริ่มเชื่อว่า ความแค้นจากอดีตของโปรดิวเซอร์คนนี้อาจยังคงอยู่ในสตูดิโอ
ในคืนนั้น ขณะที่ทีมงานตรวจสอบห้องควบคุม ไฟทั้งสตูดิโอดับลง และจอมอนิเตอร์ในห้องเริ่มแสดงภาพเก่าของรายการ Morning Light โดยไม่มีใครกดเล่น ทีมงานตกใจแต่ตัดสินใจทำพิธีเล็กๆ ตามคำแนะนำของผู้ใหญ่ใน GMMTV เพื่อขอขมาสิ่งที่อาจถูกรบกวน หลังจากนั้น เหตุการณ์แปลกๆ ค่อยๆ ลดลง และการถ่ายทำจบลงอย่างราบรื่น
