ละคร เวียงร้อยดาว 2557 “ร้อยดาว” เด็กสาวกำพร้าในอังกฤษ ได้รับจดหมายให้กลับเมืองไทยเพื่อฟังพินัยกรรมของผู้เป็นพ่อ แต่เมื่อเธอกลับมาถึงคฤหาสน์บดินทร์ธร กลับต้องเผชิญกับความเย็นชาและการกลั่นแกล้งจากบรรดาภรรยาและลูกๆ ของพ่อ รวมถึงเรื่องราวลึกลับของ “เวียงร้อยดาว” ที่ซ่อนเงื่อนงำและความอาฆาตเอาไว้

ละคร เวียงร้อยดาว 2557 ละครแนวสืบสวน ฆาตกรรม สยองขวัญ และดราม่า ออกอากาศทางช่อง 3 ในปี 2557 จากบทประพันธ์ของ บินละเว สร้างโดย ธัญญา และ พงศ์พัฒน์ วชิรบรรจง กำกับโดย สถาพร นาควิไล เรื่องราวเต็มไปด้วยปมปริศนา ความแค้น และความลับในอดีตของตระกูลบดินทร์ธรที่เกี่ยวพันกับคฤหาสน์ลึกลับและวิญญาณของ เวียงแก้ว

เรื่องราวเริ่มต้นที่ตระกูล บดินทร์ธร ซึ่งมีประวัติขมขื่นและรอยร้าวจากอดีตในเมือง เวฬุมาศ หลังจาก ดิลก และ จันทร์ฉาย พ่อแม่บุญธรรมของ “ร้อยดาว” เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในอังกฤษ ร้อยดาวได้รับการติดต่อจาก “ทนายทวีป” ให้กลับประเทศไทยเพื่อฟังพินัยกรรมของ “ปกรณ์ บดินทร์ธร” ผู้เป็นบิดา เมื่อร้อยดาวเดินทางถึงคฤหาสน์บดินทร์ธร เกิดเหตุประหลาดเมื่อต้นชัยพฤกษ์ที่ไม่เคยออกดอกกลับบานสะพรั่งราวกับต้อนรับเธอ

ร้อยดาวได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก “นมแสง” ข้ารับใช้เก่าแก่ของ เวียงแก้ว แม่ของเธอ แต่ถูกเดียดฉันท์จากภรรยาคนอื่นของปกรณ์และลูกต่างมารดา ปกรณ์มีภรรยา 4 คน ได้แก่
• เต็มเดือน – ภรรยาคนแรก ไม่มีลูก
• จงจิตร – ภรรยาคนที่สอง มีลูกสาวชื่อ ดารกา
• สร้อยฟ้า – ภรรยาคนที่สาม มีลูกสองคนคือ วีระวิทย์ และ ดาราเรศ
• เวียงแก้ว – ภรรยาคนที่สี่และแม่ของร้อยดาว มีร้อยดาวเป็นลูกคนเดียว

ร้อยดาวต้องเผชิญกับความเกลียดชังและการกลั่นแกล้งจากครอบครัว โดยเฉพาะ เต็มเดือน ที่มีท่าทีลับลมคมใน ขณะที่ “ดำรง” ผู้เป็นปู่ก็ไม่ยอมรับเธอ แต่ยอมรับว่าร้อยดาวมีดวงตาคล้ายเวียงแก้ว ร้อยดาวเริ่มสงสัยในอดีตของแม่เมื่อฝันเห็นวิญญาณของเวียงแก้วและเหตุการณ์ประหลาด เช่น เสียงร้องโหยหวน หยดน้ำจากเพดาน และรอยกากบาทที่ปรากฏในฝัน

สารบัญละคร

ปมปริศนาและการสืบสวน

ร้อยดาวเริ่มสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้ว ซึ่งมีข่าวลือว่าเคยเป็นสาวใช้ในคฤหาสน์ก่อนกลายเป็นภรรยาของปกรณ์ เธอพบว่า เวียงร้อยดาว เรือนที่ปกรณ์สร้างให้เวียงแก้ว ปัจจุบันกลายเป็นเรือนร้างและเต็มไปด้วยความน่าสะพรกลัว นมแสงและ กระถิน หลานสาวของนมแสงกลายเป็นผู้ช่วยของร้อยดาวในการค้นหาความจริง

ขณะเดียวกัน ร้อยดาวได้พบกับ “สิบทิศ” หม่อมราชวงศ์จากตระกูลเวฬุมาศ เพื่อนบ้านเก่าแก่ของบดินทร์ธร และ “น่านฟ้า” น้องสาวของสิบทิศที่สนใจร้อยดาวเป็นพิเศษ ความสัมพันธ์ระหว่างร้อยดาวและสิบทิศพัฒนาท่ามกลางความขัดแย้งในครอบครัว โดยมี “ปรมัตถ์” ลูกชายทนายทวีปที่คอยช่วยเหลือร้อยดาว

เมื่อร้อยดาวเข้าใกล้ความจริง เธอค้นพบว่าเวียงแก้วถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย โดย เต็มเดือน มีส่วนเกี่ยวข้อง เธอจ้างคนข่มขืนเวียงแก้วและฆ่าโดยถ่วงศพในบึง วิญญาณของเวียงแก้วเต็มไปด้วยความแค้นและพยายามแก้แค้นทุกคนในคฤหาสน์ ผ่านร่างของ เมดา (ณฐพร เตมีรักษ์) ซึ่งแท้จริงคือร้อยดาวตัวจริงที่ถูกสลับตัวตั้งแต่เด็ก

จุดพลิกผัน

ปมสำคัญคือร้อยดาวที่เติบโตในอังกฤษไม่ใช่ร้อยดาวตัวจริง แต่เป็น เมดา ซึ่งถูกสลับตัวกับร้อยดาวตัวจริง (ลูกของเวียงแก้ว) ตั้งแต่ยังเด็กเพื่อปกป้องเธอจากอันตรายในตระกูล เวียงแก้วรู้ความจริงตั้งแต่เมดาก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ แต่ยอมใช้เมดาเป็นเครื่องมือแก้แค้น เมดา (ในบทร้อยดาว) ตัดสินใจเผา เวียงร้อยดาว เพื่อยุติคำสาปและความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว โดยมี พระปกรณ์ (ที่ทุกคนคิดว่าเสียชีวิตแล้ว) มาสวดบังสุกุลให้วิญญาณเวียงแก้วสงบ

ในตอนจบ เต็มเดือนถูกเปิดโปงและรับผลกรรม จงจิตรถูกฆาตกรรม สร้อยฟ้าเสียสติ ส่วนร้อยดาว (เมดา) และสิบทิศลงเอยกันอย่างมีความสุข ปรมัตถ์ คู่กับ ดาหลา (พลอย ภัทรากร) และ น่านฟ้า ไปเรียนต่อที่อังกฤษพร้อม กระถิน คฤหาสน์บดินทร์ธรและเวียงร้อยดาวปิดตำนานความอาฆาต คำสาป และความลับในอดีต

จุดเด่นของละคร

→ ความลึกลับและสยองขวัญ การปรากฏตัวของวิญญาณเวียงแก้วและปมการฆาตกรรมสร้างความตื่นเต้นและน่าสะพรกลัว
→ ความซับซ้อนของตัวละคร ตัวละครอย่างเต็มเดือนและเมดา/ร้อยดาวมีมิติ ทั้งความร้ายกาจและความลับที่ค่อยๆ เผย
→ ความสัมพันธ์ในครอบครัว แสดงถึงความขัดแย้ง ความอิจฉา และการต่อสู้เพื่อมรดกในตระกูล
→ ความรักท่ามกลางความขัดแย้ง ความรักของสิบทิศและร้อยดาวเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดของเรื่องราว

เวียงร้อยดาว ปี 2557 เรื่องราวเกี่ยวกับปริศนาการฆาตกรรม ความแค้น และความลับในตระกูลบดินทร์ธรที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ลึกลับและวิญญาณของ เวียงแก้ว ต่อไปนี้คือเนื้อเรื่องทั้งหมด

จุดเริ่มต้น
ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เด็กสาวที่เติบโตในอังกฤษ ถูกเรียกตัวกลับประเทศไทยหลังพ่อแม่บุญธรรม (ดิลก และ จันทร์ฉาย) เสียชีวิตในอุบัติเหตุ เพื่อฟังพินัยกรรมของ ปกรณ์ บดินทร์ธร พ่อของเธอที่คฤหาสน์บดินทร์ธรในเมือง เวฬุมาศ เมื่อร้อยดาวมาถึง ต้นชัยพฤกษ์ที่ไม่เคยออกดอกกลับบานสะพรั่งราวกับต้อนรับเธอ

ร้อยดาวถูกต้อนรับโดย นมแสง ข้ารับใช้เก่าแก่ของ เวียงแก้ว แม่ของเธอ แต่ถูกเดียดฉันท์จากภรรยาคนอื่นของปกรณ์และลูก ๆ ต่างมารดา

เต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) – ภรรยาคนแรก ไร้ทายาท
จงจิตร – ภรรยาคนที่สอง มีลูกสาว ดารกา
สร้อยฟ้า – ภรรยาคนที่สาม มีลูกสองคน วีระวิทย์ และ ดาราเรศ
เวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) – ภรรยาคนที่สี่ แม่ของร้อยดาว

ดำรง (พิศาล อัครเศรณี) ปู่ของร้องดาว ไม่ยอมรับเธอและมองว่าเธอเหมือนเวียงแก้วที่เขาเกลียด ร้อยดาวเริ่มสงสัยในอดีตเมื่อฝันเห็นวิญญาณเวียงแก้วและเจอเหตุการณ์ประหลาด เช่น เสียงร้องโหยหวน หยดน้ำจากเพดาน และรอยกากบาทในฝัน

การสืบหาความจริง
ร้อยดาวตั้งใจค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้ว ซึ่งมีข่าวลือว่าเคยเป็นสาวใช้ก่อนกลายเป็นภรรยาปกรณ์ เธอได้รับความช่วยเหลือจาก

นมแสง และ กระถิน หลานสาวของนมแสง
สิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) หม่อมราชวงศ์จากตระกูลเวฬุมาศ เพื่อนบ้านของบดินทร์ธร
น่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) น้องสาวของสิบทิศ
ปรมัตถ์ (จรณ โสรัตน์) ลูกชายของทนายทวีป

ร้อยดาวพบว่า เวียงร้อยดาว เรือนที่ปกรณ์สร้างให้เวียงแก้ว กลายเป็นเรือนร้างที่น่าสะพรกลัว เธอเริ่มสงสัย เต็มเดือน ที่มีท่าทีลับลมคมในและดูเหมือนรู้ความลับเกี่ยวกับเวียงแก้ว ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของร้อยดาวและสิบทิศค่อยๆ พัฒนาท่ามกลางความขัดแย้งในครอบครัว

ปมปริศนาและความลับ
ร้อยดาวค้นพบว่าเวียงแก้วถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย โดย เต็มเดือน เป็นผู้บงการ เต็มเดือนจ้างคนข่มขืนเวียงแก้วและฆ่าโดยถ่วงศพในบึง เนื่องจากความอิจฉาที่เวียงแก้วได้ใจปกรณ์และกลายเป็นภรรยาคนที่สี่ วิญญาณเวียงแก้วเต็มไปด้วยความแค้นและคอยหลอกหลอนทุกคนในคฤหาสน์ โดยเฉพาะเต็มเดือนที่เริ่มเสียสติ

ระหว่างการสืบสวน ร้อยดาวเจอเหตุการณ์น่าสะพรกลัว เช่น การปรากฏตัวของวิญญาณเวียงแก้ว การตายปริศนาของ จงจิตร และการที่ สร้อยฟ้า ค่อยๆ เสียสติจากความกลัววิญญาณ ดารกา และ ดาราเรศ พยายามกลั่นแกล้งร้อยดาวเพื่อชิงมรดก แต่สุดท้ายก็ต้องเผชิญผลกรรมจากความโลภ

จุดพลิกผันสำคัญ
ปมใหญ่ของเรื่องคือ ร้อยดาวที่เติบโตในอังกฤษไม่ใช่ร้อยดาวตัวจริง เธอคือ เมดา เด็กที่ถูกสลับตัวกับร้อยดาว (ลูกของเวียงแก้ว) ตั้งแต่เด็กเพื่อปกป้องร้อยดาวจากอันตรายในตระกูล วิญญาณเวียงแก้วรู้ความจริงตั้งแต่เมดา (ในบทร้อยดาว) เข้ามาในคฤหาสน์ และใช้เมดาเป็นเครื่องมือแก้แค้น โดยหลอกให้เมดาคิดว่าเธอคือร้อยดาว

เมดา (ในบทร้อยดาว) เริ่มสงสัยตัวตนของตัวเองเมื่อพบหลักฐานว่าเธออาจไม่ใช่ลูกของเวียงแก้ว เธอค้นพบความจริงจาก นมแสง และ ปกรณ์ ซึ่งทุกคนคิดว่าเสียชีวิตแล้ว แต่แท้จริงเขายังมีชีวิตและแอบดูแลทุกอย่างจากเงามืด ปกรณ์รู้ว่าเมดาคือเด็กที่ถูกสลับตัวและพยายามปกป้องเธอ

ตอนท้าย
เมดา (ในบทร้อยดาว) ตัดสินใจยุติวงจรความแค้นโดยเผา เวียงร้อยดาว เพื่อปลดปล่อยวิญญาณเวียงแก้ว ปกรณ์ ปรากฏตัวและทำพิธีสวดบังสุกุลให้วิญญาณเวียงแก้วสงบ วิญญาณเวียงแก้วยอมปล่อยวางความแค้นและจากไปอย่างสงบ

ผลลัพธ์ของตัวละคร
เต็มเดือน ถูกเปิดโปงและรับผลกรรม ต้องเผชิญความจริงที่ตัวเองทำร้ายเวียงแก้วและเสียสติในที่สุด
จงจิตร ถูกฆาตกรรมระหว่างเรื่อง
สร้อยฟ้า เสียสติจากความกลัววิญญาณ
ดารกา และ ดาราเรศ เผชิญผลจากความโลภและสูญเสียทุกอย่าง
วีระวิทย์ กลายเป็นคนที่ยอมรับเมดาและพยายามเริ่มต้นใหม่
เมดา (ในบทร้อยดาว) ลงเอยกับ สิบทิศ และยอมรับตัวตนของตัวเอง
ปรมัตถ์ คู่กับ ดาหลา (พลอย ภัทรากร)
น่านฟ้า และ กระถิน ไปเรียนต่อที่อังกฤษ

คฤหาสน์บดินทร์ธรและ เวียงร้อยดาว ปิดฉากลงพร้อมกับการยุติคำสาป ความอาฆาต และความลับในอดีต เมดาและสิบทิศเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยความหวังและความรัก

จุดเด่นและความน่าสนใจ
ปมสลับตัว: การเปิดเผยว่าเมดาคือร้อยดาวตัวปลอมเป็นจุดพลิกผันที่ช็อกและน่าติดตาม
ความสยองขวัญ: การปรากฏตัวของวิญญาณเวียงแก้วและบรรยากาศคฤหาสน์ร้างสร้างความหลอน
การแก้แค้น: เรื่องราวความแค้นของเวียงแก้วและการลงโทษตัวละครร้ายชวนสะใจ
ความรัก: ความสัมพันธ์ของเมดาและสิบทิศเป็นส่วนที่อบอุ่นท่ามกลางความมืดของเรื่อง

เวียงร้อยดาว ปี 2557 ละครเรื่องนี้ได้รับความนิยมจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้น บรรยากาศชวนหลอน และการแสดงที่ทรงพลัง ต่อไปนี้คือจุดเด่นและภาพรวมของละคร

เวียงร้อยดาว เล่าเรื่องราวของ ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เด็กสาวที่กลับจากอังกฤษเพื่อรับมรดกจาก ปกรณ์ บดินทร์ธร พ่อของเธอ และค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของ เวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) แม่ของเธอ เรื่องราวเต็มไปด้วยปมปริศนา ความลับในตระกูล ความแค้นของวิญญาณ และการสลับตัวตนที่เป็นจุดพลิกผันสำคัญ ละครผสมผสานความสยองขวัญ ดราม่าครอบครัว และความรักได้อย่างลงตัว

(จุดเด่น)

เนื้อเรื่องที่ซับซ้อนและชวนติดตาม
ละครมีโครงเรื่องที่แน่นและเต็มไปด้วยปมปริศนา การสืบสวนการตายของเวียงแก้วและการเปิดเผยว่า ร้อยดาว แท้จริงคือ เมดา ที่ถูกสลับตัวตั้งแต่เด็ก เป็นจุดพลิกผันที่ช็อกและทำให้ผู้ชมอยากติดตามต่อ การเฉลยปมในตอนท้ายทำได้สมเหตุสมผลและน่าพึงพอใจ

บรรยากาศสยองขวัญที่ลงตัว
การนำเสนอวิญญาณเวียงแก้วและคฤหาสน์ร้าง เวียงร้อยดาว สร้างความหลอนได้ดี โดยไม่เน้น jump scare แต่ใช้บรรยากาศ เช่น เสียงร้องโหยหวน หยดน้ำจากเพดาน และรอยกากบาท เพื่อกระตุ้นความน่าสะพรกลัว การใช้แสงและมุมกล้องในฉากคฤหาสน์ช่วยเพิ่มความขึงขัง

การแสดงที่ทรงพลัง
→ ณฐพร เตมีรักษ์ (เมดา/ร้อยดาว) ถ่ายทอดบทเด็กสาวที่ทั้งเปราะบางและเข้มแข RESDENT_TOKEN (Resident Evil) สามารถแสดงถึงความหวาดกลัวและความมุ่งมั่นได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ในตอนนั้น
→ มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล (เวียงแก้ว) สร้างความน่าสะพรกลัวในบทวิญญาณที่เต็มไปด้วยความแค้นได้อย่างน่าประทับใจ
→ ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ (เต็มเดือน) ขโมยซีนในบทภรรยาคนแรกที่ร้ายลึกและเต็มไปด้วยความอิจฉา การแสดงของเธอทำให้ตัวละครน่ากลัวและน่ารังเกียจในเวลาเดียวกัน
→ กฤษฎา พรเวโรจน์ (สิบทิศ) และ โฟกัส จิระกุล (น่านฟ้า) เติมสีสันให้เรื่องด้วยความสดใสและเคมีที่เข้ากัน

ตัวละครที่มีมิติ
ตัวละครในเรื่องมีมิติและพัฒนาการที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ เต็มเดือน ที่เริ่มจากภรรยาคนแรกที่ดูสง่างามแต่ค่อยๆ เผยความร้ายกาจ และ เมดา ที่เปลี่ยนจากเด็กสาวไร้เดียงสาเป็นหญิงสาวที่กล้าหาญและยอมรับตัวตนของตัวเอง

ความรักที่อบอุ่น
ความสัมพันธ์ระหว่าง เมดา และ สิบทิศ เป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดของเรื่อง ฉากโรแมนติกอาจไม่เยอะ แต่เคมีของทั้งคู่ทำให้ผู้ชมเอาใจช่วย การจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งของทั้งคู่ให้ความรู้สึกสมหวัง

การผลิตและด้านเทคนิค
โปรดักชัน การออกแบบฉากคฤหาสน์บดินทร์ธรและเรือนร้าง เวียงร้อยดาว ทำได้สมจริงและชวนขนลุก การใช้โทนสีมืดและแสงเงาในฉากสยองขวัญช่วยเสริมอารมณ์ได้ดี

ดนตรีประกอบ เพลงประกอบและซาวนด์เอฟเฟกต์ เช่น เสียงหยดน้ำและเสียงร้องโหยหวน ช่วยสร้างความตึงเครียดและน่าสะพรกลัว

บทละคร บทมีการดัดแปลงจากบทประพันธ์ให้ทันสมัยขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอายของละครย้อนยุคได้ดี การแปลความฝันและสัญลักษณ์ เช่น รอยกากบาทและต้นชัยพฤกษ์ ช่วยเพิ่มความลึกให้เรื่อง

คะแนน 8/10 (จาก sence9.com)

เวียงร้อยดาว เป็นละครที่ผสมผสานความสยองขวัญ ดราม่า และการสืบสวนได้อย่างลงตัว เรื่องราวที่ซับซ้อนและการแสดงที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะของ ณฐพร และ ณัฐริกา ทำให้เรื่องน่าติดตาม แม้จะมีจังหวะช้าบางช่วงและปมที่ดูเกินจริงบ้าง แต่จุดเด่นในด้านบรรยากาศและปมพลิกผันช่วยชดเชยได้ดี ถือเป็นหนึ่งในละครไทยที่น่าจดจำในปี 2557 และยังเหมาะสำหรับผู้ที่อยากย้อนดูละครคุณภาพในยุคนั้น

เวียงร้อยดาว เหมาะกับผู้ชมที่ชอบละครแนวสืบสวนปนสยองขวัญที่มีดราม่าครอบครัวเข้มข้น อาจไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบเรื่องราวที่มีปมซับซ้อนหรือฉากดราม่ายืดเยื้อ เนื้อหามีความรุนแรงเล็กน้อย (เช่น ฉากข่มขืนและฆาตกรรม) จึงแนะนำสำหรับผู้ชมวัยรุ่นขึ้นไป

ตั้งแต่ตอนแรก ละครดึงดูดด้วยปริศนาการตายของ เวียงแก้ว และการกลับมาของ ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) สู่คฤหาสน์บดินทร์ธรที่เต็มไปด้วยความลับ การค่อยๆ เผยปมผ่านฝันของร้อยดาว เสียงประหลาด และเหตุการณ์ลึกลับ เช่น หยดน้ำจากเพดานหรือรอยกากบาท ทำให้รู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้ว่าความจริงคืออะไร การสืบสวนของร้อยดาวและการเผชิญหน้ากับตัวละครร้ายอย่าง เต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ยิ่งเพิ่มความลุ้นระทึก โดยเฉพาะเมื่อใกล้เฉลยปมใหญ่เกี่ยวกับตัวตนของร้อยดาว

บรรยากาศของคฤหาสน์ร้าง เวียงร้อยดาว และการปรากฏตัวของวิญญาณเวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) สร้างความหลอนได้ดี ฉากที่วิญญาณเวียงแก้วปรากฏตัว หรือเสียงร้องโหยหวนในยามค่ำคืน ทำให้รู้สึกขนลุก โดยเฉพาะถ้าดูในที่มืดหรือตอนดึก ถึงแม้ว่าความสยองขวัญจะไม่ถึงขั้นน่ากลัวสุดขีดแบบหนังผี แต่การใช้แสงเงาและซาวนด์เอฟเฟกต์ทำให้รู้สึกกดดันและหวาดระแวงไปกับตัวละคร

การที่ เต็มเดือน และตัวละครอื่นในตระกูลบดินทร์ธรแสดงความร้ายกาจและกลั่นแกล้งร้อยดาว ทำให้ผู้ชมรู้สึกโกรธและหมั่นไส้ โดยเฉพาะพฤติกรรมของ เต็มเดือน ที่ร้ายลึกและเต็มไปด้วยความอิจฉา แต่เมื่อความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้วเริ่มเผย และตัวละครร้ายเริ่มได้รับผลกรรม ความรู้สึกสะใจก็เข้ามาแทนที่ การแก้แค้นของวิญญาณเวียงแก้วและการที่ร้อยดาวต่อสู้เพื่อความยุติธรรมให้ความรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยอารมณ์

ร้อยดาวในฐานะเด็กสาวที่ต้องเผชิญความเกลียดชังจากครอบครัวและค้นหาความจริงเกี่ยวกับแม่ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจและเอาใจช่วย การแสดงของ ณฐพร เตมีรักษ์ ที่ถ่ายทอดความเปราะบางและความเข้มแข็งได้อย่างลงตัว ทำให้รู้สึกผูกพันกับตัวละคร นอกจากนี้ ตัวละครอย่าง นมแสง และ กระถิน ที่คอยปกป้องร้อยดาว หรือ สิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) ที่เป็นกำลังใจให้เธอ ก็เพิ่มความอบอุ่นและทำให้รู้สึกอยากให้ตัวละครดีๆ มีความสุข

ความสัมพันธ์ระหว่างร้อยดาวและ สิบทิศ เป็นส่วนที่ทำให้รู้สึกใจฟูท่ามกลางความมืดของเรื่อง แม้ว่าฉากโรแมนติกจะไม่เยอะ แต่เคมีของทั้งคู่และการที่สิบทิศคอยปกป้องร้อยดาวทำให้รู้สึกหวานและประทับใจ โดยเฉพาะในตอนจบที่ทั้งคู่ลงเอยกันอย่างมีความสุข ช่วยให้รู้สึกสมหวังและผ่อนคลายหลังจากความตึงเครียดของเรื่อง

ฉากคฤหาสน์บดินทร์ธรและเรือนร้าง เวียงร้อยดาว ออกแบบได้สมจริงและชวนขนลุก ดนตรีประกอบและซาวนด์เอฟเฟกต์ช่วยเสริมอารมณ์ได้ดี ทำให้รู้สึกดื่มด่ำกับบรรยากาศ การแสดงของนักแสดงรุ่นใหญ่ เช่น ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ และ พิศาล อัครเศรณี (ดำรง) ก็เพิ่มน้ำหนักให้เรื่องราว ทำให้รู้สึกว่าละครมีคุณภาพและน่าจดจำ

บางช่วงของเรื่องอาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดหรือน่าเบื่อ โดยเฉพาะฉากที่ตัวละครรองอย่าง ดารกา หรือ ดาราเรศ กลั่นแกล้งร้อยดาวซ้ำๆ ซึ่งอาจดูยืดเยื้อเกินไป หรือบางปม เช่น การสลับตัวตน อาจทำให้รู้สึกว่าเกินจริงเล็กน้อย แต่โดยรวมความเข้มข้นของพล็อตและการเฉลยปมช่วยกลบจุดด้อยเหล่านี้ได้

ละคร เวียงร้อยดาว ได้อารมณ์ ตั้งแต่ความลุ้นระทึกกับปริศนา ความหลอนจากวิญญาณ ความโกรธต่อตัวละครร้าย ความเห็นใจร้อยดาว ไปจนถึงความหวานของความรักและความสะใจเมื่อความยุติธรรมมาถึง ละครเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบเรื่องราวเข้มข้นที่มีทั้งดราม่า สยองขวัญ และการสืบสวน หลังดูจบอาจรู้สึกประทับใจกับการแสดงและเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน พร้อมทั้งรู้สึกโล่งใจที่เรื่องราวจบลงอย่างสมบูรณ์และมีความหวัง



ละคร เวียงร้อยดาว 2557

ละคร เวียงร้อยดาว 2557

ละคร เวียงร้อยดาว 2557 EP.1-22 ENDCH3+​​​​​​

ยิ่งใกล้ยิ่งใช่ Ost.เวียงร้อยดาว | พัดชา เอนกอายุวัฒน์ | Official MV

ความจริง Ost.เวียงร้อยดาว | มาลีวัลย์ เจมีน่า | Official MV

ละคร เวียงร้อยดาว 2557

เรื่องราวของคนในตระกูล บดินทร์ธร ตระกูลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นอดีตอันแสนขมและเป็นต้นเหตุแห่งรอยร้าวฉานแห่ง..เวฬุมาศ

หลังการจากไปด้วยอุบัติเหตุของ ดิลก และ จันทร์สาย พ่อแม่บุญธรรมที่เลี้ยง ร้อยดาว ในประเทศอังกฤษ ร้อยดาวก็ได้รับการติดต่อจาก ทนายทวีป ให้กลับเมืองไทย เพื่อมาร่วมฟังพินัยกรรมของ ปกรณ์ บดินทร์ธร บิดาผู้ให้กำเนิด และเมื่อร้อยดาวเดินทางมาถึงยังคฤหาสน์บดินทร์ธร ต้นชัยพฤกษ์ซึ่งเมื่อวานไม่มีดอก กลับออกดอกบานสะพรั่งราวกับรับรู้การมาถึงของเธอ

ร้อยดาวได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก นมแสง แต่กลับถูกเดียดฉันท์จากภรรยาคนอื่น ๆ และลูกต่างแม่ เนื่องจากปกรณ์ พ่อผู้ให้กำเนิดของร้อยดาวนั้นมีภรรยาถึง 4 คน คือ เต็มเดือน แต่ไม่มีลูกด้วยกัน ภรรยาคนที่สองชื่อ จงจิตร มีลูกสาวคนเดียว คือ ดารกา ภรรยาคนที่สาม ชื่อ สร้อยฟ้า มีลูกด้วยกัน 2 คน คือ วีระวิทย์ และ ดาราเรศ ส่วน เวียงแก้ว แม่ของร้อยดาวนั้นเป็นภรรยาคนที่สี่ และมีร้อยดาวเป็นลูกเพียงคนเดียว

นอกจากนั้นแล้ว ร้อยดาวยังถูกหมางเมินจาก ดำรง ผู้เป็นปู่อีกด้วย แต่กระนั้นดำรงก็ยังยอมรับว่าร้อยดาวหน้าเหมือนเขา และมีดวงตาเหมือนเวียงแก้ว แม่ของเธอเอง ร้อยดาวบอกดำรงว่าเธออยากกลับมาดูเวียงร้อยดาว เรือนของแม่ที่อยู่ในเขตบดินทร์ธร ดำรงบอกเธอว่าตอนนี้มันเป็นเวียงร้าง และร้างมานานเท่ากับอายุของร้อยดาว และเมื่อเต็มเดือนภรรยาคนแรกของพ่อปกรณ์ของเธอเอ่ยว่า ที่นี่ก็เป็นบ้านของเธอเหมือนกันจึงทำให้ร้อยดาวรู้สึกดีขึ้น แต่แล้วจู่ ๆ ก็มีเสียงดังขึ้นว่า…อย่าไว้ใจ !! ทั้งที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ ทำเอาร้อยดาวขนลุกถึงต้นเสียงนั้นขึ้นมาทันที และเนื่องจากไม่มีใครสนใจร้อยดาว เธอจึงต้องไปพักอยู่ที่เรือนของนมแสง โดยมี กระถิน หลานสาวจอมทะเล้นของนมแสงอยู่เป็นเพื่อน

วันต่อมา มาตร ลูกชายทูตไทยประจำอังกฤษ แวะมาหาร้อยดาวที่บดินทร์ธร มาตรมีใจให้ร้อยดาว แต่ทว่าร้อยดาวเห็นเขาเป็นเพียงเพื่อนสนิทคนหนึ่งเท่านั้น ร้อยดาวขี่จักรยานมาหามาตรที่รั้วหน้าบ้านซึ่งห่างออกมาจากตัวคฤหาสน์ มาตรจอดรถไว้หน้าประตูบดินทร์ธรแล้วลงจากรถมาคุยกับร้อยดาว แต่รถของเขากลับถูกรถของ ม.ร.ว.น่านฟ้า ชนเข้าอย่างจัง น่านฟ้าโวยวายว่ามาตรจอดรถเกะกะ ขณะที่มาตรกับน่านฟ้ากำลังทะเลาะกันอยู่นั้น ม.ร.ว.สิบทิศ เวฬุมาส พี่ชายแท้ ๆ ของน่านฟ้าซึ่งขับรถตามน้องสาวออกมาเห็นเข้า จึงสั่งให้น่านฟ้ายอมรับผิด และให้นามบัตรไว้เพื่อชำระค่าซ่อมรถให้หลังซ่อมเสร็จ แต่มาตรไม่สนใจ ร้อยดาวจึงเป็นคนเก็บนามบัตรไว้ให้ สิบทิศแอบพึงใจในตัวร้อยดาวแต่ยังคงไว้ท่าทำเป็นไม่สนใจ เพราะสิบทิศอยู่ที่ตำหนักม่วง อันมีพื้นที่ติดกับคฤหาสน์บดินทร์ธร และตั้งแต่ ม.จ.วิรุฬ พ่อของเขาเสียชีวิตในเขตบดินทร์ธรเป็นต้นมา ความสัมพันธ์ของสองตระกูลจึงสิ้นสุดลงนับแต่นั้น !!

วันต่อมา ดำรงเรียกร้อยดาวไปพบเพื่อเปิดพินัยกรรมของปกรณ์ซึ่งกำหนดไว้ว่า จะต้องเปิดต่อหน้าทายาททั้งหมด และเมื่อจะเริ่มเปิดพินัยกรรม ก็มีลมพัดอื้ออึงเข้ามาภายในห้องโดยไม่มีสาเหตุทำให้กระจกแตก ดำรงเป็นคนเดียวที่เห็น ผีเวียงแก้ว ก้มลงกราบอยู่แทบเท้า ก่อนที่เดินไปทรุดนั่งที่ข้างร้อยดาว โดยทิ้งรอยเปียกเป็นทาง…ไปบนพรม !!

เมื่อเปิดพินัยกรรมของปกรณ์แล้ว ปรากฏว่าสมบัติถูกยกให้กับภรรยาทั้งสาม อันได้แก่ เต็มดวง จงจิต และสร้อยฟ้าเท่านั้น วิญญาณของเวียงแก้วโกรธและพุ่งตัวเข้าหาดำรง ทำให้ช็อกแน่นิ่งไป สิบทิศซึ่งเป็นหมอและอยู่ใกล้ที่สุด จึงถูกเรียกตัวให้มาที่บดินทร์ธรเพื่อที่จะรักษาดำรง และเมื่อจะกลับ ร้อยดาวคอยเขาอยู่หน้ารั้วบ้านเพื่อถามอาการของดำรง แต่เมื่อสิบทิศรู้ว่าเธอคือ…ร้อยดาว บดินทร์ธร สิบทิศก็กลับขับรถหนีไป ทำให้ร้อยดาวต้องขี่จักรยานตามแล้วปีนรั้วเข้าไปในเขตเวฬุมาส สิบทิศเห็นเข้าจึงรีบลงจากรถ แล้วรับร่างร้อยแก้วที่หล่นลงจากรั้วได้ทันท่วงที

เมื่อได้ใกล้ชิดกับสาวน้อยที่เขาสนใจ มันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหวั่นไหว แต่ยังตั้งป้อมไม่ญาติดีกับเธอง่าย ๆ ระหว่างทางที่กลับบ้าน ร้อยดาวเห็นรถของหญิงสูงวัยจอดเสียอยู่ข้างทาง จึงเข้าไปถามไถ่อย่างมีน้ำใจทำให้เจ้าของรถประทับใจในตัวร้อยดาวเป็นอย่างยิ่ง และเมื่อหญิงสูงวัยผู้นั้นรู้ว่าเธอเป็นหลานของดำรง จึงบอกให้ร้อยดาวพาเธอไปพบปู่

หญิงสูงวัยนั้น คือ หม่อมเจ้าหญิงรัตนากร เวฬุมาศ ผู้ซึ่งเป็นอดีตคนรักของดำรงซึ่งถูกกีดกันด้วยฐานันดร ดำรงจึงหนีไปแต่งงานกับคนอื่น รัตนากรมักหาสาวสวย ดี มีน้ำใจ เพื่อให้เป็นเจ้าสาวของสิบทิศ ด้วยการแกล้งทำเป็นรถเสียอย่างที่ร้อยดาวเจอ แต่ทว่าที่ผ่านมานั้นสิบทิศไม่สนใจจึงหลบเลี่ยงการจับคู่ของหม่อมป้ามาตลอด ถึงกระนั้นหม่อมเจ้าหญิงก็ไม่เคยย่อท้อ เมื่อพบกับดำรง หม่อมเจ้าหญิงจึงได้เอ่ยปากขอร้อยดาวให้สิบทิศ โดยทวงสัญญาที่ดำรงเคยให้ไว้ก่อนหนีไปแต่งงานว่า…วันหนึ่งจะต้องให้คนทั้งสองตระกูลแต่งงานกันให้ได้ !!

คืนนั้นเอง ร้อยดาวก็ฝันถึงผีสาวอุ้มเด็กทารก และจู่ ๆ ตัวเธอเองกลายเป็นเด็กทารกนอนร้องไห้อยู่ใต้ร่างหญิงสาวที่ผูกคอห้อยอยู่บนขื่อ จิตใต้สำนึกบอกร้อยดาวว่าผู้หญิงคนนั้นคือ…แม่เวียงแก้ว !! เธอเห็นรอยบากจากคมมีดบนแขนข้างซ้ายหลายรอย มีรอยหนึ่งถูกกรีดทับกลายเป็นกากบาทไปแล้ว แล้วร่างของเวียงแก้วก็หล่นลงจากขื่อแล้วลุกขึ้นเดินมาหาเธอ พร้อมกับร้องขอให้ร้อยดาวช่วย ร้อยดาวถดร่างหนีจนไปชนเอากับร่างของผู้ชายอีกคนที่นอนตายโดยมีมีดปักอกทะลุหลัง เธอจึงรีบเลื่อนตัวหนีจนตัวของเธอตกจากเรือน ร้อยดาวพยายามจะไขว่คว้าหาหลักแต่ทว่าคว้ามาได้แต่ผ้ายันต์สีแดงที่ติดอยู่บนพื้นใต้ซุ้มประตูแล้วสะดุ้งตื่นแต่กลับพบว่าตัวเธอเองนั่งทับเด็กกระถินอยู่ที่ใต้ถุนเวียงร้อยดาว กระถินบอกว่าเห็นร้อยดาวเดินออกจากเรือนนมแสงจึงตามมาด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่กล้าตามขึ้นไปบนเรือนจึงรออยู่ด้านล่างจนร้อยดาวร่วงลงมาทับ ร้อยดาวจึงได้แต่งงและไม่เข้าใจในฝันของตัวเอง

วันต่อมา มาตรมาหาร้อยดาวแต่เช้า แต่เขากลับพบดาราเรศลูกสาวของสร้อยฟ้า และดารกาลูกสาวจงจิตก่อน เมื่อสองสาวรู้ว่ามาตรเป็นลูกทูตจึงให้ต้อนรับเป็นอย่างดี ร้อยดาวมาหามาตรที่ห้องรับแขก เขาบอกว่าจะมารับร้อยดาวกลับอังกฤษ แต่กลับถูกปรมัตถ์ลูกชายทนายทวีปขัดว่า พินัยกรรมยังเปิดไม่หมด ต้องรอให้ดิลกเสียชีวิตครบร้อยวันก่อนจึงจะเปิดได้ ร้อยดาวจึงต้องรอไปอีกสองเดือน แล้วมาตรก็นำใบเสร็จค่าซ่อมรถมาเบิกกับสิบทิศ แต่ว่านามบัตรอยู่ที่ร้อยดาว เธอจึงต้องพามาตรมา

ที่ตำหนักม่วง ร้อยดาวต่อปากต่อคำกับสิบทิศจนร้อยดาวฉุนขาด เธอจึงทำทีขอตัวไปห้องน้ำก่อนออกมาเดินนอกห้องรับแขก แล้วเดินตามพรมสีสวยมาจนถึงห้องหนังสือใหญ่ที่ถูกใจร้อยดาวเป็นอย่างยิ่ง แต่เมื่อเห็นภาพที่อยู่ในกรอบไม้ทองบนผนัง เธอต้องตกใจเมื่อชายในภาพ เป็นคน ๆ เดียวกับที่เธอเห็นนอนตายอยู่บนเวียงร้อยดาวในความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา สิบทิศเข้ามาเห็นเข้าจึงบอกว่าเป็นรูปท่านพ่อ (วิรุฬ) เขาเอง พ่อของเขากับปกรณ์พ่อของร้อยดาวเป็นเพื่อนกันมาก่อน ทั้งสองพบกับเวียงแก้วที่เชียงรายและตกหลุมรักเวียงแก้วทั้งคู่ แต่เวียงแก้วเลือกปกรณ์ ทำให้พ่อเขาอกหักจึงยอมแต่งงานกับแม่ แต่สุดท้ายพ่อเขากลับถูกเวียงแก้วฆ่าตาย แล้วชิงผูกคอตายหนีความผิดบนเวียงร้อยดาว ส่วนแม่ของเขาเองก็ตรอมใจตายตามพ่อ ทิ้งให้เขาเป็นเด็กกำพร้า โดยมีหม่อมป้าเป็นผู้ดูแลเขาและน้องสาวแทนพ่อและแม่ แต่ปรากฏว่าเรื่องทั้งหมดที่เขาเล่าให้ร้อยดาวฟังนี้ ร้อยดาวไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย

เมื่อร้อยดาวกับสิบทิศกลับมาที่ห้องรับแขกที่มีมาตรรออยู่ก็พบกับหม่อมป้าและน่านฟ้าซึ่งกลับมาด้วยกัน หม่อมป้ายินดีที่เห็นร้อยดาวอยู่กับสิบทิศ แต่ว่าเมื่อสิบทิศรู้ทันว่าถูกหม่อมป้าจับคู่ให้กับร้อยดาว สิบทิศก็ปฏิเสธทันที จนน่านฟ้าต้องบอกกับสิบทิศว่าหม่อมป้าเป็นมะเร็ง เด็กสาวแอบได้ยินจากหมอจึงรู้ว่า หม่อมป้าต้องการเห็นสิบทิศหลานชายแต่งงานกับคนดี ๆ จึงจะหมดห่วง ทำให้สิบทิศถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ก่อนจะกลับจากตำหนักม่วง สิบทิศให้หนังสือร้อยดาวยืมอ่าน และระหว่างทางจากรั้วบ้านมาที่เรือนของนมแสงนั้น ไกลจนร้อยดาวต้องหลบนั่งพักใต้ต้นชัยพฤกษ์แล้วเผลอหลับไป เมื่อร้อยดาวรู้สึกตัวอีกที เธอเห็นแม่เวียงแก้วและชายคนรัก ซึ่งทำให้ร้อยดาวต้องตกใจอีกครั้งเมื่อได้เห็นว่า คนรักของแม่เธอก็คือหม่อมเจ้าวิรุฬ !! และเมื่อหม่อมเจ้าวิรุฬเห็นรอยกรีดบนต้นไม้จึงถามว่าเวียงแก้วทำอะไร หญิงสาวตอบว่าเป็นสัญลักษณ์ หนึ่งรอยกรีดหมายถึงหนึ่งการกระทำที่ถูกกลั่นแกล้ง และเมื่อผู้กลั่นแกล้งได้รับการลงโทษแล้วจึงจะกรีดอีกรอยทับให้เป็นกากบาท และขณะที่ทั้งสองหยอกล้อกันอยู่นั้นเอง จู่ ๆ เวียงแก้วก็หยุดหันมาทางร้อยดาวพร้อมยกมีดขึ้นจะแทงเธอ ร้อยดาวสะดุ้งตื่นขึ้นจากการเขย่าปลุกของกระถิน แล้วลุกเดินกลับเรือน ทันใดนั้นรถเก๋งของวีระวิทย์ลูกชายคนสุดท้องของสร้อยฟ้าก็พุ่งเข้าหากระถิน แต่โชคดีที่ร้อยดาวดึงกระถินหลบได้ทัน วีระวิทย์ซึ่งลงมาจากรถด้วยอาการเมาก็โวยวายหาว่ากระถินขวางทาง เมื่อร้อยดาวเถียงแทนและหลอกด่าจนวีระวิทย์ต้องถอย ทำให้วีระวิทย์คิดแก้แค้นหญิงสาวอยู่ในใจ

เมื่อร้อยดาวกลับถึงเรือน นมแสงบอกเธอว่าดำรงให้ขึ้นไปทานอาหารค่ำที่บนตึกใหญ่ร่วมกันกับคนอื่น บรรยากาศในโต๊ะอาหารที่พบกันพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครั้งแรกนั้นอึมครึมสิ้นดี จะมีก็แต่เต็มเดือนที่เอาใจใส่ร้อยดาวจนเป็นที่อิจฉาของคนอื่น ๆ ยิ่งเมื่อดำรงบอกให้ร้อยดาวขึ้นมาทานอาหารด้วยกันอีก ทำให้ดาราเรศและดารกาไม่พอใจ แต่ทว่าดาราเรศใจร้อนกว่าจึงลุกขึ้นโวยวาย ดาราเรศจึงถูกดำรงตักเตือนแล้วสั่งให้สร้อยฟ้ากลับไปอบรมลูกเสียใหม่ สร้อยฟ้าจึงแอบบอกให้ลูกสาวใจเย็นเรื่องกำจัดร้อยดาว ดาราเรศบอกว่าจะทำให้ร้อยดาวอับอายจนอยู่ที่นี่ไม่ได้ แต่เมื่อพูดจบสร้อยฟ้าก็เห็นวิญญาณเวียงแก้วนั่งหันหลังให้อยู่ที่กรอบหน้าต่าง และบอกว่าคืนนี้เธอจะเอาชีวิตลูกสาวของสร้อยฟ้า ก่อนที่ร้อยดาวจะถูกลูกของสร้อยฟ้าเอาชีวิต ทำเอาสร้อยฟ้านอนไม่หลับเพราะกังวลกับสิ่งที่เห็นไปทั้งคืนทีเดียว

คืนนั้นไม่เพียงแต่สร้อยฟ้าเท่านั้นที่นอนไม่หลับ แต่ร้อยดาวก็นอนไม่หลับเช่นกัน ร้อยดาวรู้สึกว่าถูกคนผลักตกน้ำ พอเธอพยายามว่ายน้ำกลับรู้สึกว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น และก่อนจะสิ้นลมหายใจ เธอเห็นร่างของเวียงแก้วจมอยู่ในน้ำ ทั้งคอ ข้อมือ และข้อเท้า ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนและมีหีบเหล็กถ่วงอยู่ที่ปลายโซ่ข้างละใบรวมห้าใบ แล้วจู่ ๆ แม่ของเธอลืมตาขึ้นพร้อมบอกว่า จะไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอ แล้วโซ่ตรวนที่มัดมือเท้าของเวียงแก้วก็ค่อย ๆ หลุดออก จนเมื่อโซ่เส้นสุดท้ายที่คอหลุดออก ร่างของเวียงแก้วเริ่มลอยขึ้นมาหาร้อยดาว ด้วยความตกใจร้อยแก้วรีบตะเกียกตะกายจนพ้นน้ำก่อนจะปีนขึ้นฝั่ง แล้วจึงเห็นว่าน้ำนั้นเป็นบึงบัวขนาดใหญ่ และจากภาพนิมิตรที่ได้เห็นมาสองครั้งสองคราว จึงทำให้ร้อยดาวเริ่มสับสนว่า แท้จริงเวียงแก้วเสียชีวิตอย่างไร

เมื่อร้อยดาวหันหลังกลับ ก็ต้องสะดุ้งเมื่อตัวเองยืนประชิดอยู่กับผู้ชายรูปร่างสูงคนหนึ่ง เขามีสีหน้า แววตาโกรธแค้นและพูดว่า ตายซะทั้งแม่ทั้งลูก แล้วผลักร้อยดาวตกบึงไปอีกครั้ง คราวนี้หญิงสาวตื่นขึ้น รู้ตัวว่าอยู่บนที่นอนที่มีรอยชื้นของน้ำ และรอบเตียงก็มีรอยเท้าที่มีคราบน้ำเดินวนอยู่รายรอบ

ตกดึกวีระวิทย์ขับรถเมามายกลับบ้านเหมือนเคย และเมื่อถึงหน้าบ้าน เขาตะโกนให้ บังหนั่น ยามของบ้านเปิดประตูรั้วเหล็กให้ บังหนั่นเห็นร่างผีของเวียงแก้วยืนอยู่บนหลังคารถ ส่วนวีระวิทย์นั้นกลับเห็นเวียงร้อยดาวเป็นตึกบดินทร์ธร เพราะเขากำลังถูกวิญญาณเวียงแก้วสะกดเพื่อลากขึ้นเรือน ร้อยดาวผวาตื่นจากฝันที่เห็นวีระวิทย์บนเวียงร้อยดาว เธอจึงรีบพนมมือตั้งจิตอธิษฐานกับกล่องไม้เล็ก ๆ บนหลังตู้ที่เธอนำมาจากอังกฤษด้วย แล้วขอให้เวียงแก้วอย่าได้ทำร้ายใครให้เป็นบาปติดตัวอีกเลย

สายวันต่อมา หม่อมเจ้าหญิงกิริยากรพาสิบทิศและน่านฟ้ามาที่บดินทร์ธร ดำรงจึงเรียกคนในบ้านมารวมที่ห้องรับแขก แล้วยังมีปรมัตถ์ที่มาเยี่ยมดำรง และมาตรที่มาหาร้อยดาวร่วมอยู่ด้วย ดำรงประกาศว่าหม่อมเจ้าหญิงมาขอร้อยดาวให้แต่งงานกับสิบทิศ แต่ร้อยดาวไม่ยอม แต่แล้วก็เกิดมีลมพัดดอกชัยพฤกษ์เข้ามาในห้อง ดำรงเห็นวิญญาณของเวียงแก้วซ้อนทับอยู่ในร่างของร้อยดาว ซึ่งมีท่าทีและน้ำเสียงเปลี่ยนไป ร่างของร้อยดาวบอกว่าเธอจะยอมแต่งงานกับสิบทิศ แต่ก็มีเงื่อนไขว่าต้องจัดงานแต่งงานขึ้นที่เวียงร้อยดาวเท่านั้น แล้วร้อยดาวก็สลบไป หลังจากนั้นคนรับใช้เข้ามาบอกว่า พบรถวีระวิทย์จอดอยู่หน้าเวียงร้อยดาว ทุกคนนอกจากคนจากเวฬุมาสและมาตรตามไปที่เวียง หม่อมป้าทิ้งสิบทิศไว้ให้ดูแลร้อยดาว แล้วให้มาตรไปส่งน่านฟ้า

เมื่อคนจากบดินทร์ธรมาถึงเวียงร้อยดาว แต่ว่ากลับไม่มีใครกล้าขึ้นไป ปรมัตถ์จึงอาสาขึ้นไปหาตัววีระวิทย์ให้เอง ก่อนจะขึ้นไปปรมัตถ์ก้มลงกราบที่เชิงบันไดขออนุญาตเวียงแก้ว และเขาเห็นรอยเท้าเปื้อนน้ำที่ขยับหลบให้ เขาขึ้นไปบนเรือน และเมื่อชายหนุ่มขึ้นไปบนเวียงร้อยดาวแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็ทะยอยตามขึ้นไปเว้นแต่ดำรงและดาหลาพยาบาลสาวซึ่งเป็นเด็กกำพร้าที่ดำรงอุปการะมาตั้งแต่เล็ก สร้อยฟ้าได้ยินเสียงเวียงแก้ว ขณะที่เต็มเดือนเห็นหญิงสาวอยู่ที่เชิงบันได และเห็นผ้ายันต์ที่ขาดไป หลังจากค้นเวียงจึงพบวีระวิทย์นอนจมกองเลือดและสิ่งปฏิกูลที่เขากำลังกินมันเข้าไป !

เมื่อร้อยดาวฟื้นขึ้นมา เธอก็รีบขอร้องให้สิบทิศพาไปที่เวียงร้อยดาวทันที ที่นั่นร้อยดาวเห็นปกรณ์ประคองแม่เวียงแก้วที่ท้องแก่ขึ้นไปชมเรือน หญิงสาวต้องตกใจเมื่อเห็นว่าพ่อเป็นคนที่ผลักตัวเธอตกลงไปในบึง หม่อมเจ้าวิรุฬก้าวขึ้นเรือนมา ปกรณ์ทักเพื่อนแล้วคุยอวดเวียงร้อยดาว ก่อนจะขอให้วิรุฬตั้งชื่อลูกในครรภ์เวียงแก้วให้ หม่อมเจ้าวิรุฬจึงตั้งชื่อ พันดวงสำหรับเด็กผู้ชาย และชื่อร้อยดาวสำหรับเด็กผู้หญิง

ฝ่ายมาตรที่พาน่านฟ้าไปส่ง ก็เอาแต่ทะเลาะกันจนมาตรขับรถชนรั้วของมหาวิทยาลัย คณบดีเรียกทั้งสองไปพบ และทักว่ามีคนตามมาด้วยเป็นผู้หญิงเป็นนักศึกษาที่เสียชีวิตไปบริเวณนั้นแต่วิญญาณยังไม่ไปไหนการขับรถชนรั้วได้กระทบถูกเธอด้วย คณบดีจึงบอกให้ทั้งสองไปทำบุญอุทิศส่วนกุศล และขอขมา พร้อมกับให้นามบัตรเขาไว้กับน่านฟ้า ดาราเรศมาเยี่ยมวีระวิทย์ที่อาการดีขึ้นมาก เธอจ้างให้วีระวิทย์จัดการกับร้อยดาวมารหัวใจเพราะรู้ว่าวีระวิทย์ติดการพนันอย่างหนักและกำลังถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้อยู่ทุกวัน

หลังจากผ่านเหตุร้ายในรั้วบดินทร์ธรมาได้สักระยะหนึ่ง สิบทิศและร้อยดาวต่างก็เริ่มตกหลุมรักกัน ทั้งสองสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ดำรงเรียกร้อยดาวให้ไปบนตึกเพื่อที่จะมอบเครื่องเพชรให้ เมื่อดำรงเห็นปานแดงบนฝ่ามือของร้อยดาวก็ชะงักไป ดำรงครุ่นคิดเรื่องเวียงแก้วจนคิดได้ว่า ที่ผีเวียงแก้วยังวนเวียนอยู่เป็นเพราะร่างยังไม่ได้เผา ในอดีตผีเวียงแก้วขอร้องให้เขาฝังเธอไว้ให้เธอได้พบลูกอีกครั้งก่อน ดำรงจึงเป็นคนเดียวที่รู้ว่าศพเธออยู่ที่ไหน แต่วิญญาณเวียงแก้วจะไม่ยอมให้ดำรงนำร่างเธอไปเผา วิญญาณเวียงแก้วจึงทำให้ดำรงตกจากเตียง

ร้อยดาวรู้เรื่องและจะพาดำรงไปโรงพยาบาล แต่สะใภ้ทั้งสามไม่อยู่บ้าน จะเหลือก็แต่ดาราเรศและดารกา ร้อยดาวจึงคิดจะยืมรถของดาราเรศ แต่ดาราเรศบอกว่ากุญแจรถไม่อยู่ ร้อยดาวจึงถีบจักรยานไปหาสิบทิศที่บ้านกลางดึก บังหนั่นเห็นวิญญาณเวียงแก้วนั่งซ้อนท้ายจักรยานของร้อยดาว พร้อมกับลากหีบและโซ่ตรวนไปด้วย แต่เมื่อร้อยดาวพ้นรั้วของบ้านบดินทร์ธร วิญญาณเวียงแก้วก็หายไปจากท้ายจักรยาน เปลี่ยนมาเดินวนเวียนอยู่ที่หน้าประตูรั้วเหมือนออกไปนอกเขตบ้านไม่ได้

ร้อยดาวไปลากตัวสิบทิศมาดูอาการดำรงจนในที่สุดชายชรากระซิบบอกอะไรบางอย่างกับสิบทิศก่อนนิ่งไปแล้วดำรงก็ถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลและได้รับการช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตราย แต่ทว่ากลับเป็นอัมพาตและไม่สามารถพูดได้

สิบทิศพาร้อยดาวกลับมาส่งที่บดินทร์ธร เธอหลับและพบตัวเองอยู่ใต้ถุนเวียงร้อยดาวและได้เห็นภาพเหตุการณ์ชายฉกรรจ์หกคน ขึ้นไปข่มขืนเวียงแก้วแล้วจากไป จากนั้นปกรณ์และเมียทั้งสามของเขาจึงขึ้นเรือนมา เต็มเดือนเข้ามาประคองเวียงแก้วที่อุ้มทารกวัยสองเดือนอยู่แนบอก แต่ว่าสร้อยฟ้ากลับใส่ความหาว่าเวียงแก้วคบชู้ จงจิตพานมแสงและจันทร์สายเข้ามาบอกว่าเห็นทั้งคู่อยู่หน้าเรือน สร้อยฟ้าจึงใส่ความว่าทั้งสองมาดูต้นทางให้และร้อยดาวอาจเป็นลูกชู้ พร้อมกับให้ตามคนทั้งหกที่ก่อเหตุมา ซึ่งพวกมันก็เป็นบ่าวในเรือนนี้เองเมื่อปกรณ์ถามทั้งหมดก็บอกว่าเวียงแก้วเรียกพวกเขามาหาและให้จี้สลักคำว่าบดินทร์ธรเป็นรางวัล

ปกรณ์โกรธและผิดหวังในตัวเวียงแก้วมากจึงไม่ฟังความจากจันทร์สาย พร้อมขับไล่เวียงแก้วไปจากบดินทร์ธร แล้วภาพทั้งหมดก็เลือนหายไป ร้อยดาวเห็นก็แต่เวียงแก้วที่บอกว่า ร้อยดาวมาช่วยปลดปล่อยเธอให้พ้นจากอำนาจของยันต์ และเธอจะล้างแค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ จากนั้นร้อยดาวก็ได้เห็นภาพของชายฉกรรจ์ทั้งหกถูกแขวนคออยู่ใต้ถุนเวียงร้อยดาว และยังมีคนที่เจ็ดอีกนั่นคือ…ปกรณ์ !

ร้อยดาวถามวิญญาณเวียงแก้วว่าได้ทำร้ายดำรงด้วยใช่หรือไม่ แม่ของเธอยอมรับว่าเธอจำใจต้องทำ หญิงสาวจึงขอร้องให้แม่หยุดแก้แค้นเสียที สร้างความผิดหวังให้แก่เวียงแก้วที่ร้อยดาวไม่เห็นถึงความทุกข์ทรมานของเธอ ร้อยดาวบอกว่าจันทร์สายสอนให้เธออภัย ให้เธอทำดี ผีเวียงแก้วโกรธแล้วถามร้อยดาวว่าเธอเป็นลูกของใครกันแน่ จากนั้นร้อยดาวจึงตื่นขึ้น เมื่อลำดับเหตุการณ์ในฝันแล้วจึงรู้ว่า นมแสงเป็นคนที่เธอจะถามเรื่องราวจริง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ แต่นมแสงไปหาดำรงที่โรงพยาบาลพร้อมกับสิบทิศ ซึ่งสิบทิศพยายามคุยเรื่องร้อยดาวอยู่กับนมแสงเช่นกัน

นมแสงเล่าให้สิบทิศฟังว่าได้ติดต่อร้อยดาวตั้งแต่สองปีก่อนและมีจดหมายคุยกันเรื่อย ๆกระทั่งดิลกและจันทร์สายเสียชีวิต ร้อยดาวจึงเดินทางกลับมาบดินทร์ธร สิบทิศนั้นยังเชื่อว่าพ่อของเขาถูกแม่ของร้อยดาวฆ่าตาย ถ้าเป็นไปได้เขาไม่อยากให้เธอเป็นลูกของเวียงแก้วและมีความหวังมากขึ้น เมื่อเสียงกระซิบสุดท้ายของดำรงที่บอกกับเขาคือ หล่อนไม่ใช่ร้อยดาว ! สิบทิศจึงตัดสินใจไปขอให้ปรมัตถ์ช่วยสืบเรื่องร้อยดาวให้เขาที เพราะทนายทวีปพ่อของปรมัตถ์เป็นคนที่ติดต่ออยู่กับร้อยดาวก่อนที่เธอจะกลับมาเมืองไทย

คนที่บดินทร์ธรมาเยี่ยมดำรงโดยที่ไม่ยอมให้ร้อยดาวมาด้วย เมื่อมาถึงก็พบหม่อมเจ้าหญิงกิริยากรมาเยี่ยมดำรงอยู่ก่อนแล้ว สร้อยฟ้าจงใจเอ่ยเรื่องยกเลิกการแต่งงานเพราะเห็นว่าดำรงป่วยหนักอยู่ แต่ทว่าหม่อมเจ้าหญิงไม่ยอม จนสิบทิศยืนยันว่าเขาจะทำตามความประสงค์ของดำรง ที่กระซิบบอกเขาให้แต่งงานกับร้อยดาวก่อนหมดสติเมื่อคืน โดยอ้างดาราเรศและดารกาที่อยู่ในห้องเป็นพยาน เมื่อสิบทิศว่าเช่นนั้นจึงไม่มีใครกล้าทัดทาน ท่านหญิงจึงยอมถอยให้เป็นหมั้นกันไว้ก่อนในกำหนดการเดิม ในสองอาทิตย์ข้างหน้านี้ที่เวียงร้อยดาว และไม่ต้องเชิญแขกอื่นนอกจากคนสองตระกูล หลังจากร้อยดาวถูกทิ้งไว้ที่บดินทร์ธรเธอจึงชวนกระถินไปหาที่วาดรูปและเมื่อร้อยดาวเดินไปถึงที่บริเวณหลังเวียง ก็ได้พบบ่อบัวที่เธอเคยฝันถึง ร้อยดาวจึงนั่งลงวาดรูป ณ ที่นั้นโดยมีกระถินนั่งเป็นเพื่อน จนกระทั่งร้อยดาวง่วงแล้วหลับไปที่ริมบึงนั้นเอง

เมื่อตื่นขึ้น ร้อยดาวก็ไม่เห็นกระถินกับของที่นำมาด้วยเสียแล้วแต่มีเสียงฝีเท้าของคนที่เดินเข้ามา ทำให้ร้อยดาวรีบวิ่งหลบไปที่หลังต้นไม้อย่างอัตโนมัติ เมื่อแอบดูจึงเห็นว่า เป็นปกรณ์ที่เดินตามมาลวนลามจันทร์สาย ปกรณ์กล่าวโทษจันทร์สายที่เป็นคนดูต้นทาง และจันทร์สายยังเป็นคนที่วิ่งไปตามหม่อมเจ้าวิรุฬมาที่เวียงร้อยดาวจนเกิดเป็นเรื่องใหญ่ แม้จันทร์สายจะปฏิเสธว่าเวียงแก้วไม่ได้ทำผิด แต่ปกรณ์ก็ไม่สนใจพยายามล่วงเกินหญิงสาว ไม่สนใจที่เธอบอกว่าเธอเป็นคนรักของดิลก น้องชายของเขา ทว่าก่อนที่เรื่องราวจะเกินเลยไปกว่านั้นดิลกเข้ามาพอดี ปกรณ์จึงยอมปล่อยจันทร์สาย ทั้งสองจึงปรึกษากันว่าไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่ก็ยังเป็นห่วงร้อยดาวอยู่ ดิลกจึงบอกว่าเขาจะรับร้อยดาวเป็นลูก แล้วย้ายไปอยู่กับจันทร์สายที่ประเทศอังกฤษ ครั้งนี้ร้อยดาวจึงตื่นขึ้นมาพบว่า ภาพวาดบึงบัวของตนกลายเป็นรูปเวียงแก้วที่นอนเหยียดยาว ที่บริเวณคอ มือ และเท้าถูกโซ่ล่าม ปลายโซ่มีหีบเหล็กถ่วงอยู่ !

เต็มเดือนมอบหมายให้นมแสงเป็นคนคุมงานทำความสะอาด ดูแลเวียงร้อยดาวให้สะอาด สวยงามทันวันงาน ทำให้ร้อยดาวไม่มีโอกาสได้ซักถามความจริง สิบทิศก็เพียงแวะมาบอกว่าเขาต้องไปทำธุระด่วน แล้วหายตัวไป แต่ร้อยดาวรู้จากมาตรว่าสิบทิศมาคุยกับเขาเรื่องของร้อยดาวและถามถึงสุสานของครอบครัวที่อังกฤษ ร้อยดาวเริ่มกังวลใจในเรื่องที่สิบทิศอยากรู้เกี่ยวกับตัวเธอ แต่มาตรบอกว่า สิบทิศเตรียมไว้เพื่อจะพาร้อยดาวไปฮันนีมูนที่อังกฤษ ร้อยดาวจึงคลายใจลง

ก่อนถึงวันงานหมั้น หม่อมป้าให้ร้อยดาวมาเข้าคอร์สเจ้าสาวที่ตำหนักม่วง และแล้วสิบทิศก็กลับมาหลังจากหายหน้าไปหลายวัน และบอกว่าเขารู้แล้วว่า…เธอไม่ใช่ร้อยดาว !! หลังจากที่เขาไปสืบค้นความจริงเกี่ยวกับเธอที่ประเทศอังกฤษกับปรมัตถ์นานถึงสองอาทิตย์ ร้อยดาวตกใจที่สิบทิศรู้ความจริงว่า แท้จริงนั้นร้อยดาวคือ เมดา ลูกสาวที่แท้จริงของดิลกกับจันทร์สาย และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับร้อยดาวตัวจริง และในระหว่างที่อยู่ประเทศอังกฤษด้วยกันนั้น ร้อยดาวตัวจริงเจ็บออด ๆแอด ๆ ตลอดมา กระทั่งวันหนึ่ง เมดาประสบอุบัติเหตุจนสูญเสียดวงตาไป ร้อยดาวจึงตัดสินใจสละดวงตาของเธอให้แก่เมดา เพราะรู้ตัวว่าตัวเองคงจะมีชีวิตอยู่ดูโลกต่อไปได้อีกไม่นาน หลังจากนั้นไม่นานร้อยดาวก็เสียชีวิตลง ส่วนเมดานั้นหลังจากที่ได้ดวงตาของร้อยดาวมา เธอก็เริ่มเห็นเรื่องราวชีวิตแต่หนหลังของเวียงแก้ว แม่ที่แท้จริงของร้อยดาวเรื่อยมา

เมดาสบายใจขึ้นมากเมื่อไม่ต้องปิดบังความจริงเรื่องตัวเธอนี้แก่สิบทิศอีกต่อไปทั้งคู่ตกลงกันว่าความลับนี้ก็จะเป็นความลับต่อไป !! แต่แล้วคืนนั้น ก็มีคนมาเรียกให้ร้อยดาวไปหาเต็มเดือนกลางดึก และไม่ได้กลับมาที่ห้องตัวเองอีกเลย ดังนั้นเมื่อถึงวันงานหมั้น คนในบดินทร์ธรจึงพบว่าร้อยดาวหายตัวไปพร้อมกับจงจิตและวีระวิทย์ โดยไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน !!

ก่อนเหตุการณ์จะวุ่นวายมากไปกว่านี้ ร้อยดาวก็ปรากฏตัวขึ้นในชุดของเวียงแก้วที่สวมใส่ก่อนตาย นมแสงเห็นข้อมือของร้อยดาวมีรอยกากบาทเพิ่ม จึงรู้ว่าร่างของร้อยดาวคือเวียงแก้ว หาใช่ร้อยดาวอย่างที่ทุกคนเข้าใจไม่ ฝ่ายสร้อยฟ้าก็ไม่ยอมให้งานเริ่มถ้าวีระวิทย์ยังไม่มา ร้อยดาวจึงบอกว่าวีระวิทย์มาร่วมยินดีตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ก่อนที่จะก้มลงมองที่รอยแยกของร่องกระดานพื้นเวียง ทำให้ทุกคนได้เห็นว่า วีระวิทย์ถูกจับห้อยเท้าแขวนร่างและเสียชีวิตแล้ว ! แล้วร้อยดาวก็หมดสติไปโดยสิบทิศวิ่งเข้ามารับร่างของเธอเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มฟาดไป การหมั้นจึงล้มเลิกไปโดยปริยาย

สิบทิศขอร้องให้ปรมัตถ์พาหม่อมป้ากับน่านฟ้ากลับตำหนักม่วง บนเวียงร้อยดาวจึงเหลือแต่คนของบดินทร์ธร แล้วทุกคนก็ได้เห็นภาพจากอดีตเมื่อ 25 ปีก่อน ย้อนกลับมาปรากฏตรงหน้า กล่าวคือหลังจากปกรณ์ลงจากเรือนไปแล้ว สร้อยฟ้าจึงโยนเงินให้ชายฉกรรจ์ที่ขึ้นมาทำร้ายเวียงแก้ว ก่อนที่พวกมันจะลงจากเรือนไป จงจิตโวยวายว่าไม่ได้ร่วมมือด้วย เต็มเดือนก็เดินไปหยิบเชือกเส้นใหญ่มาให้เวียงแก้ว จันทร์สายรีบวิ่งลงจากเรือนเพื่อไปหาคนมาช่วยระงับเหตุร้าย ขณะที่เต็มเดือนพูดกับเวียงแก้วว่าเธอมีราคีคาว ยังจะมีหน้าอยู่ต่อไปอีกหรือ เวียงแก้วที่แค้นใจมาก ตัดสินใจเอามีดกรีดข้อมือให้เป็นรอยหกรอยก่อนที่จะแขวนคอตัวเองจนตายไปบนขื่อ !! และเมื่อจันทร์สายพาหม่อมเจ้าวิรุฬมาก็สายเกินไป ด้วยความเสียใจไม่อาจปกป้องคนรักดังสัญญาได้หม่อมเจ้าวิรุฬจึงกรีดข้อมือเวียงแก้วเพิ่มอีกรอยแล้วค่อยกากบาททับลงไป ก่อนจะใช้มีดเล่มนั้นแทงลงตรงหัวใจของตนเองสิ้นใจตายตรงนั้น เพื่อชดใช้หนี้ชีวิตให้แก้เวียงแก้ว

หลังจากนั้นดำรงจึงให้ปกรณ์จัดงานศพให้เวียงแก้ว แต่ปกรณ์กลับไปโยนภาระให้เต็มเดือนจัดการ เต็มเดือนจึงให้คนตีตรวนศพเวียงแก้วที่คอ แขน และเท้า ก่อนถ่วงด้วยหีบเหล็กแล้วนำไปถ่วงบึงบัว โชคดีที่ดาหลาเห็นแล้วเอาความนี้ไปบอกแก่ดำรง ดำรงจึงให้คนมาช่วยกันงมร่างเวียงแก้วไปฝังโดยไม่ยอมบอกใครว่าฝังไว้ที่ไหน ไม่นานนักผีเวียงแก้วก็ออกอาละวาดเอาชีวิตชายฉกรรจ์ทั้งหกที่ข่มขืนเธอสำเร็จ รวมทั้งปกรณ์อีกด้วย แล้ววิญญาณของเวียงแก้วก็ถูกตรึงด้วยยันต์สะกดเอาไว้ที่เวียงร้อยดาว ไม่ให้ไปทำร้ายใครได้อีก แต่ก็ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้เช่นกัน ทำให้วิญญาณของเวียงแก้วยังคงพยาบาทอาฆาต รอการชดใช้มาจนถึงวันที่ร้อยดาวหรือเมดาไปดึงผ้ายันต์จากที่พื้นเรือนขึ้นมา ทำให้วิญญาณของเวียงแก้วหลุดจากมนต์สะกด ออกมาตามล่าทวงถามหาความยุติธรรมจากคนในบดินทร์ธรอีกครั้ง

เวียงแก้วบอกกับสร้อยฟ้าว่า เธอเอาชีวิตลูกชายของสร้อยฟ้าแทนชีวิตของสร้อยฟ้าและกรีดกากบาทที่ข้อมือเพิ่มขึ้นอีกรอย พร้อมบอกว่าอีกคนก็ได้รับกรรมแล้ว ยังเหลือรอยอีกสองรอย เวียงแก้วจึงบังคับให้เต็มเดือนผูกคอตายเช่นเดียวกับที่ตัวเธอเคยทำในอดีต ก่อนหันมาหาร้อยดาวซึ่งสลบอยู่ในอ้อมแขนสิบทิศ เจ้าของรอยกรีดสุดท้ายนั้นคือ…ร้อยดาว เวียงแก้วต้องการพาลูกสาวไปอยู่ด้วย แต่สิบทิศรีบบอกว่า นี่ไม่ใช่ร้อยดาว เธอเป็นลูกสาวของดิลกและจันทร์สายชื่อ เมดา เวียงแก้วปฏิเสธการรับรู้ วิญญาณเธอจะสงบสุขไม่ได้ ถ้ารอยกรีดสุดท้ายไม่ได้รับการกรีดไขว้เป็นกากบาทจนเสร็จสิ้นสมบูรณ์

แต่ก่อนที่วิญญาณของเวียงแก้วจะทำร้ายเมดา คณบดีก็ได้ปรากฏตัวขึ้นเพราะน่านฟ้ากับมาตรไปตามตัวมา คณบดีบอกสิบทิศให้เอาเมดามาอยู่หลังเขา แล้วให้สิบทิศไปเอากล่องไม้หลังตู้ที่ห้องนอนเมดามาที่นี่ เวียงแก้วพยายามขัดขวาง แต่คณบดีสวดมนต์ป้องกันสิบทิศและเมดาไว้ เมดารู้สึกตัวขึ้นและบอกกับเวียงแก้วว่าเธอไม่ใช่ร้อยดาว แต่ที่เธอมีดวงตาของร้อยดาว เพราะว่าร้อยดาวมอบดวงตาให้เธอที่ประสบอุบัติเหตุจนตาบอด แต่ร้อยดาวร่างกายไม่แข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก จึงเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ก่อนที่ดิลกและจันทร์สายจะเสียชีวิตไปไม่นาน ที่เธอมาที่นี่เพราะร้อยดาวอยากกลับมาที่เวียงร้อยดาวสักครั้ง

วิญญาณของเวียงแก้วได้ฟังเช่นนั้นก็เสียใจ ไม่ยอมเชื่อ คิดจะเอาตัวเมดาไปสู่ปรโลกให้จงได้ เวียงแก้วทำร้ายคณบดี เมดาไม่อยากให้มีใครในบดินทร์ธรหรือที่ใดต้องเจ็บและตายอีกแล้ว เมดาจึงยอมเสียสละตนเองยื่นมือไปหาเวียงแก้ว แต่เวียงแก้วเห็นปานแดงบนฝ่ามือของเมดาก็รู้ทันทีว่า เธอไม่ใช่ร้อยดาวจริง ๆ เธอกรีดร้องด้วยความผิดหวังจนทำให้เวียงร้อยดาวสั่นรุนแรงเหมือนจะถล่มลงมา คณบดีจึงบอกให้ทุกคนรีบลงไปจากเวียง แต่ว่าเมดาไม่ยอมไป กระถินและนมแสงลงบันไดสวนกับสิบทิศที่กลับมาพร้อมกับกล่องไม้ สิบทิศวิ่งไปช่วยเมดาพร้อม ๆ กับที่เวียงร้อยดาวถล่มลงไป ทั้งสองจึงร่วงลงไปมีกองไม้ทับตัวจนมองแทบไม่เห็น แต่ไม่เป็นอันตราย วินาทีนั้นสิบทิศก็เห็นวิญญาณของเวียงแก้วเหยียบอยู่บนแผ่นไม้เหนือศีรษะ และก้มลงยื่นมือเข้ามาหาเมดา สิบทิศเบี่ยงตัวหลบ มือของเวียงแก้วจึงคว้าเอากล่องไม้ไป เมื่อออกแรงบีบด้วยแรงโมโห กล่องไม้ที่บรรจุกระดูกและเถ้าของร้อยดาวจึงแตกออก พร้อม ๆ กับร่างของร้อยดาวปรากฏขึ้น วิญญาณของเวียงแก้วจึงได้พบกับลูกสาวที่คิดถึง จึงกลายร่างกลับไปเป็นร่างสวยงามเช่นยังมีชีวิต ทั้งสองขอบใจเมดา แล้วพากันหายไป

สิบทิศและเมดาถูกหาตัวพบจากกองไม้อย่างง่ายดาย เพราะบังหนั่นบอกว่าเห็นสาวสวยชุดขาวสองคนยืนอยู่บนกองไม้นี้ เมื่อถูกช่วยออกมาจึงพบว่าทั้งสองนั่งอยู่บนร่างของเวียงแก้วที่ถูกฝังไว้ใต้ขื่อที่เธอผูกคอนั่นเอง และหลังจากนั้นจึงพบว่า จงจิตถูกคนขับรถขืนใจแล้วฆ่า สร้อยฟ้าเป็นบ้าไปเพราะความกลัว ดำรงอาการดีขึ้นเรื่อย ๆ ปรมัตถ์ลงเอยกับดาหลา สิบทิศส่งน่านฟ้าไปเรียนต่อที่อังกฤษ โดยมีกระถินตามไปคอยดูแล และสิบทิศได้แต่งงานกับเมดา ปิดตำนานเวียงร้อยดาว…เวียงอาถรรพ์ไปชั่วนิรันดร์

บทประพันธ์โดย : บินละเว
กำกับการแสดงโดย : สถาพร นาควิไล
ผลิตโดย : บริษัท แอคอาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
ดำเนินงานโดย : พงษ์พัฒน์ – ธัญญา วชิรบรรจง

นักแสดง

→ กฤษฎา พรเวโรจน์ รับบท สิบทิศ

กฤษฎา พรเวโรจน์

ตัวละครสำคัญที่มีบทบาทเป็นพระเอกของเรื่อง เขาเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์ อบอุ่น และเป็นที่รักของผู้ชม ด้วยบุคลิกที่ทั้งสง่างามและจริงใจ

สิบทิศเป็นตัวละครที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับ เวียงร้อยดาว ซึ่งเต็มไปด้วยความมืดและความแค้น เขาเป็นตัวแทนของความรัก ความหวัง และความยุติธรรมที่คอยยึดโยงร้อยดาวไว้ไม่ให้จมลงในความทุกข์ การลงเอยของเขากับร้อยดาวในตอนจบช่วยให้เรื่องราวจบลงด้วยความรู้สึกอบอุ่นและสมหวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชมต้องการหลังจากความเข้มข้นของดราม่าและสยองขวัญ

สำหรับผู้ชม สิบทิศเป็นตัวละครที่ทำให้รู้สึกใจฟูและเอาใจช่วย เขาเป็น “พระเอกในฝัน” ที่ทั้งหล่อ สุภาพ และจงรักภักดี ความสัมพันธ์ของเขากับร้อยดาวเป็นส่วนที่ช่วยผ่อนคลายจากความตึงเครียดของเรื่อง และทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ายังมีความดีงามท่ามกลางความชั่วร้ายในตระกูลบดินทร์ธร

ภูมิหลังและตัวตน
ชื่อและฐานะหม่อมราชวงศ์สิบทิศ เวฬุมาศ เป็นทายาทของตระกูลเวฬุมาศ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่และเป็นเพื่อนบ้านของตระกูลบดินทร์ธรในเมืองเวฬุมาศ เขามีสถานะทางสังคมสูงและได้รับการยกย่องในชุมชน สิบทิศมีน้องสาวชื่อ น่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) ซึ่งเป็นตัวละครที่สดใสและสนิทกับเขา ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและคอยสนับสนุนกัน

การศึกษาและอาชีพ สิบทิศเป็นคนมีการศึกษาดี มีความรู้ และมีท่าทีที่สุภาพเรียบร้อย แม้ว่าละครจะไม่ได้ระบุอาชีพชัดเจน แต่เขามักปรากฏตัวในฐานะผู้ดูแลกิจการของตระกูลและเป็นที่ปรึกษาของคนรอบข้าง

บุคลิกและนิสัย
อบอุ่นและใจดี สิบทิศเป็นคนจิตใจดี มีความเมตตา และพร้อมช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะ ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) หรือ เมดา ซึ่งเขาคอยปกป้องและให้กำลังใจตั้งแต่แรกพบ ในฐานะหม่อมราชวงศ์ สิบทิศมีมารยาทดี พูดจานุ่มนวล และมีท่าทีที่สุขุม ซึ่งสะท้อนถึงการอบรมสั่งสอนที่ดีจากตระกูล

แม้ว่าสิบทิศจะดูอ่อนโยน แต่เมื่อถึงสถานการณ์คับขัน เช่น การปกป้องร้อยดาวจากอันตรายหรือการเผชิญหน้ากับความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร เขาจะแสดงความกล้าหาญและไม่ยอมก้มหัวให้ความอยุติธรรม สิบทิศมีสติปัญญาและมักช่วยร้อยดาววิเคราะห์สถานการณ์หรือหาทางออกจากปริศนาต่างๆ ในเรื่อง ทำให้เขาเป็นทั้งที่พึ่งและคู่คิดของนางเอก

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับร้อยดาว (เมดา) สิบทิศเป็นคนแรกที่ต้อนรับร้อยดาวอย่างอบอุ่นเมื่อเธอมาถึงคฤหาสน์บดินทร์ธร เขาคอยปกป้องเธอจากความเกลียดชังของครอบครัวและช่วยเธอสืบหาความจริงเกี่ยวกับ เวียงแก้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆ พัฒนาจากมิตรภาพเป็นความรักที่มั่นคง สิบทิศเป็นแสงสว่างในชีวิตของร้อยดาวท่ามกลางความมืดของเรื่องราว

กับน่านฟ้า ในฐานะพี่ชาย สิบทิศรักและเอ็นดูน่านฟ้าอย่างมาก เขาคอยดูแลและให้คำแนะนำน้องสาว ซึ่งน่านฟ้าก็ตอบแทนด้วยความซื่อสัตย์และการสนับสนุนพี่ชาย

กับตระกูลบดินทร์ธร สิบทิศมีปฏิสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับบางคนในตระกูล เช่น เต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ที่มองเขาเป็นศัตรู แต่เขาก็พยายามรักษาความสุภาพและไม่ยอมให้ถูกยั่วยุ

บทบาทในเรื่อง
ผู้สนับสนุนหลักของร้อยดาว สิบทิศเป็นกำลังใจและที่พึ่งของร้อยดาวในยามที่เธอเผชิญความยากลำบาก เขาคอยช่วยเหลือทั้งด้านกายและใจ รวมถึงช่วยสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้ว ในเรื่องที่เต็มไปด้วยความแค้น ความลับ และความชั่วร้าย สิบทิศเป็นตัวละครที่นำพาความอบอุ่นและความหวังมาสู่ทั้งร้อยดาวและผู้ชม

ตัวเชื่อมโยงปม สิบทิศมีส่วนช่วยคลายปมบางอย่างในเรื่อง ด้วยความรู้และความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลบดินทร์ธร ทำให้เขาเป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้ในการขับเคลื่อนเรื่องราว

การแสดงของ กฤษฎา พรเวโรจน์
กฤษฎา พรเวโรจน์ ถ่ายทอดบท สิบทิศ ได้อย่างน่าประทับใจ เขานำเสนอบุคลิกที่ทั้งสง่างามและอบอุ่นได้อย่างลงตัว การแสดงของเขาเน้นความสุภาพและความจริงใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความน่าเชื่อถือของตัวละคร เคมีระหว่างเขากับ ณฐพร เตมีรักษ์ ในบทร้อยดาวก็เข้ากันได้ดี โดยเฉพาะในฉากโรแมนติกที่ทั้งคู่แสดงความรักผ่านสายตาและการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกใจฟู

อย่างไรก็ตาม บางครั้งบทของสิบทิศอาจดูเรียบง่ายเกินไปเมื่อเทียบกับตัวละครที่มีความซับซ้อนอย่าง เต็มเดือน หรือ เวียงแก้ว ซึ่งอาจทำให้การแสดงของกฤษฎาดูไม่โดดเด่นเท่านักแสดงรุ่นใหญ่ แต่โดยรวมเขาก็สามารถทำให้สิบทิศเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำ

สิบทิศ เป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยความอบอุ่น กล้าหาญ และเป็นที่พึ่งของนางเอก เขาไม่ใช่ตัวละครที่ซับซ้อนหรือมีปมดราม่าหนักหน่วง แต่เป็นเหมือนแสงสว่างที่ช่วยนำทางเรื่องราวให้สมดุล การแสดงของ กฤษฎา พรเวโรจน์ ทำให้สิบทิศเป็นพระเอกที่ทั้งน่ารักและน่าเชื่อถือ แม้ว่าบทของเขาจะเรียบง่าย แต่ก็มีส่วนสำคัญในการทำให้ เวียงร้อยดาว เป็นละครที่น่าจดจำ

→ ณัฐพร เตมีรักษ์ รับบท เมด้า/ร้อยดาว

hq720
ณัฐพร เตมีรักษ์

ตัวละครนางเอกที่มีความซับซ้อนและเป็นศูนย์กลางของเรื่องราว ตัวละครนี้มีพัฒนาการที่น่าสนใจ ผ่านการเผชิญหน้ากับปริศนา ความแค้น และความลับในตระกูลบดินทร์ธร

เมดา/ร้อยดาว เป็นหัวใจของ เวียงร้อยดาว เธอไม่เพียงเป็นตัวละครที่ขับเคลื่อนเรื่องราวผ่านการสืบสวนและการเผชิญหน้ากับความชั่วร้าย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความจริงและการก้าวข้ามความเจ็บปวดในอดีต การตัดสินใจของเธอในตอนจบที่ยุติวงจรความแค้นโดยการเผาเรือน เวียงร้อยดาว และยอมรับตัวตนที่แท้จริง แสดงถึงการเติบโตและความแข็งแกร่งของตัวละคร ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกประทับใจและสมหวัง

สำหรับผู้ชม เมดา/ร้อยดาว เป็นตัวละครที่ทำให้รู้สึกเห็นใจและอยากเอาใจช่วย การที่เธอต้องเผชิญกับความเกลียดชังและเหตุการณ์น่าสะพรกลัวตั้งแต่ต้นเรื่อง ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและอยากเห็นเธอเอาชนะอุปสรรค การพัฒนาจากเด็กสาวที่สับสนไปสู่หญิงสาวที่เข้มแข็งและกล้าหาญให้ความรู้สึกที่สร้างแรงบันดาลใจ ความรักระหว่างเธอกับสิบทิศยังเป็นส่วนที่ทำให้รู้สึกใจฟูและช่วยสมดุลความเข้มข้นของดราม่าและสยองขวัญ

ภูมิหลังและตัวตน
ชื่อและการสลับตัวตน ตัวละครนี้ถูกเรียกว่า ร้อยดาว ตลอดทั้งเรื่อง แต่ในความเป็นจริง เธอคือ เมดา เด็กสาวที่ถูกสลับตัวกับ ร้อยดาว ตัวจริง (ลูกของ เวียงแก้ว และ ปกรณ์ บดินทร์ธร) ตั้งแต่เด็ก เพื่อปกป้องร้อยดาวตัวจริงจากอันตรายในตระกูลบดินทร์ธร

การเติบโต เมดาเติบโตในอังกฤษภายใต้การเลี้ยงดูของ ดิลก และ จันทร์ฉาย พ่อแม่บุญธรรม โดยไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง หลังจากพ่อแม่บุญธรรมเสียชีวิตในอุบัติเหตุ เธอถูกเรียกตัวกลับประเทศไทยเพื่อฟังพินัยกรรมของปกรณ์ และเริ่มต้นการเดินทางเพื่อค้นหาความจริง

สถานะในตระกูล ในฐานะ “ร้อยดาว” เธอถูกมองว่าเป็นทายาทของปกรณ์และเวียงแก้ว แต่ถูกครอบครัวบดินทร์ธร โดยเฉพาะ เต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) และลูกๆ ต่างมารดา (ดารกา, ดาราเรศ) เดียดฉันท์และกลั่นแกล้ง

บุคลิกและนิสัย
เปราะบางแต่เข้มแข็ง ในช่วงแรก เมดา (ในบทร้อยดาว) ดูเป็นเด็กสาวที่เปราะบางและสับสน เธอเผชิญกับความเกลียดชังจากครอบครัวและเหตุการณ์ลึกลับในคฤหาสน์ แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป เธอค่อยๆ แสดงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในการค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้ว

กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว แม้จะเผชิญกับความน่าสะพรกลัว เช่น วิญญาณของเวียงแก้ว หรือการคุกคามจาก เต็มเดือน เมดาก็ไม่ยอมถอย เธอเลือกที่จะสู้เพื่อความยุติธรรมให้แม่และปกป้องตัวเอง ฉลาดและมีไหวพริบ เมดาแสดงให้เห็นถึงความฉลาดในการสืบหาความจริง เธอสามารถเชื่อมโยงเบาะแสจากฝันและเหตุการณ์ประหลาด รวมถึงใช้ความช่วยเหลือจาก นมแสง, กระถิน, และ สิบทิศ เพื่อคลายปม

จิตใจดีและซื่อสัตย์ เมดามีจิตใจที่บริสุทธิ์และไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น แม้ว่าจะถูกกลั่นแกล้ง เธอก็ยังพยายามรักษาความสุภาพและไม่ตอบโต้ด้วยความแค้น ซึ่งทำให้เธอเป็นที่รักของตัวละครดีๆ เช่น สิบทิศ และ น่านฟ้า

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับสิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) สิบทิศเป็นที่พึ่งและกำลังใจหลักของเมดา เขาคอยปกป้องและสนับสนุนเธอในการสืบหาความจริง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่พัฒนาจากมิตรภาพสู่ความรักที่มั่นคง โดยเมดาไว้วางใจสิบทิศอย่างเต็มที่ และเขาก็เป็นแสงสว่างในชีวิตของเธอ

กับเวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) แม้ว่าเมดาจะไม่ใช่ร้อยดาวตัวจริง แต่เธอมีความผูกพันกับเวียงแก้วผ่านความฝันและวิญญาณที่ปรากฏตัว เมดารู้สึกถึงความเจ็บปวดและความแค้นของเวียงแก้ว และพยายามหาความยุติธรรมให้เธอ

กับนมแสงและกระถิน นมแสง ข้ารับใช้เก่าแก่ของเวียงแก้ว และ กระถิน หลานสาวของนมแสง เป็นเหมือนครอบครัวที่คอยดูแลและช่วยเหลือเมดา ทั้งสองช่วยให้เมดารู้สึกปลอดภัยและมีเพื่อนในคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยศัตรู

กับเต็มเดือน เต็มเดือนเป็นศัตรูหลักของเมดา เธอแสดงความเกลียดชังและพยายามทำร้ายเมดาด้วยวิธีต่างๆ ความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเรื่อง

กับตระกูลบดินทร์ธร เมดาถูกปฏิเสธจาก ดำรง (ปู่) และถูกกลั่นแกล้งจากภรรยาคนอื่นของปกรณ์และลูกๆ (จงจิตร, สร้อยฟ้า, ดารกา, ดาราเรศ) แต่เธอก็พยายามยืนหยัดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

บทบาทในเรื่อง
ศูนย์กลางของปริศนา เมดาเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงทุกปมในเรื่อง ตั้งแต่การสืบหาการตายของเวียงแก้ว การเปิดเผยความลับของตระกูลบดินทร์ธร ไปจนถึงปมการสลับตัวตน เธอเป็นตัวเร่งให้ความจริงค่อยๆ ปรากฏ ตัวแทนของความยุติธรรม เมดาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเวียงแก้วในการนำความจริงเกี่ยวกับการฆาตกรรมมาสู่แสงสว่าง และยุติวงจรความแค้นของวิญญาณ

สัญลักษณ์ของความหวัง แม้จะเผชิญความยากลำบาก เมดาก็แสดงถึงความหวังและความเข้มแข็ง เธอเป็นตัวละครที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า ความดีสามารถเอาชนะความชั่วร้ายได้ จุดพลิกผันของเรื่อง การที่เมดาไม่ใช่ร้อยดาวตัวจริงเป็นหนึ่งในปมสำคัญที่ทำให้เรื่องราวน่าติดตาม การยอมรับตัวตนที่แท้จริงของเธอและการตัดสินใจเผาเรือน เวียงร้อยดาว เพื่อยุติคำสาปแสดงถึงความกล้าหาญและการเติบโตของตัวละคร

การแสดงของ ณฐพร เตมีรักษ์
ณฐพร เตมีรักษ์ ถ่ายทอดบท เมดา/ร้อยดาว ได้อย่างน่าประทับใจ แม้ว่าจะเป็นนักแสดงหน้าใหม่ในขณะนั้น เธอสามารถแสดงถึงความเปราะบาง ความหวาดกลัว และความเข้มแข็งของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ฉากดราม่า ในฉากที่เมดาเผชิญหน้ากับวิญญาณเวียงแก้วหรือถูกกลั่นแกล้งจากครอบครัว การแสดงออกทางสีหน้าและน้ำตาของณฐพรทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจและผูกพันกับตัวละคร

ฉากสืบสวน ณฐพรแสดงถึงความมุ่งมั่นและไหวพริบของเมดาได้ดี โดยเฉพาะในฉากที่ต้องตีความฝันหรือค้นหาเบาะแส

ฉากโรแมนติก เคมีระหว่างณฐพรและ กฤษฎา พรเวโรจน์ (สิบทิศ) ช่วยให้ฉากความรักดูหวานและอบอุ่น การแสดงผ่านสายตาและท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูน่าเชื่อ

ความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ความกลัว ความโศกเศร้า ไปจนถึงความกล้าหาญ ทำให้เมดาเป็นตัวละครที่มีมิติและน่าจดจำ อย่างไรก็ตาม ในบางฉากที่ต้องแสดงอารมณ์หนักๆ อาจมีจังหวะที่ดูเกินจริงเล็กน้อย ซึ่งอาจเป็นผลจากสไตล์การกำกับหรือความที่ณฐพรยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่โดยรวม เธอสามารถพกพาบทนางเอกที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม

เมดา/ร้อยดาว เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนและมีพัฒนาการที่น่าติดตาม เธอเป็นทั้งเหยื่อของความแค้นในอดีตและผู้ที่นำความยุติธรรมมาสู่ตระกูลบดินทร์ธร บุคลิกที่เปราะบางแต่เข้มแข็ง ฉลาด และจิตใจดี ทำให้เธอเป็นนางเอกที่ทั้งน่าสงสารและน่าชื่นชม การแสดงของ ณฐพร เตมีรักษ์ ช่วยให้ตัวละครนี้มีชีวิตและเป็นที่รักของผู้ชม ถือเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำในละครไทยยุคนั้น

→ มนัสนันท์ เลิศพันธ์วงศ์สกุล รับบท เวียงแก้ว

00 A5B580791C1E1280
มนัสนันท์ เลิศพันธ์วงศ์สกุล

ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในฐานะตัวละครที่เป็นจุดเริ่มต้นของปริศนาและความแค้นในเรื่อง เวียงแก้วเป็นตัวละครที่มีมิติทั้งในฐานะมนุษย์และวิญญาณที่เต็มไปด้วยความอาฆาต

เวียงแก้วเป็นหัวใจของ เวียงร้อยดาว เธอเป็นทั้งเหยื่อของความชั่วร้ายและผู้ที่จุดชนวนให้เกิดการแก้แค้น การตายของเธอเป็นรากฐานของปริศนาทั้งหมด และวิญญาณของเธอเป็นตัวขับเคลื่อนความน่าสะพรกลัวของเรื่อง การที่เธอใช้เมดาเป็นเครื่องมือแก้แค้นแสดงถึงความซับซ้อนของตัวละครที่ทั้งรักลูกและถูกครอบงำด้วยความแค้น ในตอนจบ การที่วิญญาณของเธอยอมสงบลงหลังจากพิธีสวดบังสุกุลโดยปกรณ์ แสดงถึงการปิดวงจรความอาฆาตและนำความสงบมาสู่เรื่องราว

สำหรับผู้ชม เวียงแก้วเป็นตัวละครที่ทั้งน่าสงสารและน่าสะพรึงกลัว การที่เธอถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายและต้องทนทุกข์ในฐานะวิญญาณ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเห็นใจและอยากเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้น การปรากฏตัวของวิญญาณเวียงแก้วสร้างความหลอนและตึงเครียด โดยเฉพาะในฉากที่เธอหลอกหลอนเต็มเดือนหรือปรากฏตัวในฝันของเมดา

เมื่อเวียงแก้วแก้แค้นตัวละครร้ายอย่างเต็มเดือน ผู้ชมอาจรู้สึกสะใจที่เห็นความชั่วร้ายได้รับการลงโทษ การที่เวียงแก้วใช้เมดาเป็นเครื่องมือแก้แค้นทำให้ผู้ชมรู้สึกขัดแย้ง เพราะเธอทั้งรักลูกและมีความโหดร้ายในเวลาเดียวกัน

ภูมิหลังและตัวตน
ชื่อและสถานะ เวียงแก้ว เป็นภรรยาคนที่สี่ของ ปกรณ์ บดินทร์ธร เจ้าของคฤหาสน์บดินทร์ธรในเมืองเวฬุมาศ เธอมีลูกสาวคนเดียวคือ ร้อยดาว (ซึ่งต่อมาถูกสลับตัวกับ เมดา)

อดีต ก่อนแต่งงานกับปกรณ์ เวียงแก้วเคยเป็นสาวใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ความสวยงามและความอ่อนโยนของเธอทำให้ปกรณ์ตกหลุมรักและแต่งงานกับเธอ ซึ่งจุดนี้กลายเป็นสาเหตุของความอิจฉาและความเกลียดชังจากภรรยาคนอื่น โดยเฉพาะ เต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ภรรยาคนแรก

การตาย เวียงแก้วถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้ายโดยการจ้างวานของเต็มเดือน เธอถูกข่มขืนและถ่วงศพในบึง ศพของเธอถูกซ่อนไว้เป็นเวลานาน ส่งผลให้วิญญาณของเธอเต็มไปด้วยความแค้นและวนเวียนอยู่ในคฤหาสน์เพื่อรอวันแก้แค้น

สถานะในเรื่อง เวียงแก้วปรากฏตัวทั้งในฐานะมนุษย์ (ผ่านเหตุการณ์ย้อนอดีต) และวิญญาณที่หลอกหลอนคฤหาสน์ โดยเฉพาะเรือน เวียงร้อยดาว ที่ปกรณ์สร้างให้เธอ

บุคลิกและนิสัย
ในฐานะมนุษย์
อ่อนโยนและจิตใจดี เวียงแก้วในอดีตเป็นหญิงสาวที่อ่อนหวานและมีจิตใจบริสุทธิ์ เธอรักปกรณ์และร้อยดาวอย่างสุดหัวใจ และพยายามรักษาความสงบในครอบครัว แม้จะถูกภรรยาคนอื่นรังเกียจ ในฐานะสาวใช้ที่กลายเป็นภรรยา เธอต้องเผชิญกับการดูถูกและความเกลียดชังจากตระกูล แต่เลือกที่จะอดทนและไม่ตอบโต้ด้วยความร้ายกาจ

ในฐานะวิญญาณ
เต็มไปด้วยความแค้น หลังจากการตายอันโหดร้าย วิญญาณของเวียงแก้วเต็มไปด้วยความโกรธและความอาฆาต เธอพยายามแก้แค้นทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการตายของเธอ โดยเฉพาะเต็มเดือน วิญญาณของเวียงแก้วปรากฏตัวในลักษณะที่น่าสะพรึงกลัว เช่น การร้องโหยหวน การปรากฏตัวในเงามืด หรือการสร้างสัญลักษณ์อย่างรอยกากบาท ทำให้เธอเป็นตัวละครที่สร้างความหลอนให้ทั้งตัวละครในเรื่องและผู้ชม

ฉลาดและเจ้าเล่ห์ แม้จะเป็นวิญญาณ เวียงแก้วแสดงให้เห็นถึงความฉลาดในการใช้ เมดา (ที่ถูกเข้าใจว่าเป็นร้อยดาว) เป็นเครื่องมือในการแก้แค้น โดยหลอกให้เมดาคิดว่าเธอคือลูกสาวตัวจริง

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เวียงแก้วมีความผูกพันกับเมดาในฐานะ “ร้อยดาว” ผ่านความฝันและการปรากฏตัวของวิญญาณ เธอพยายามสื่อสารกับเมดาเพื่อเผยความจริงเกี่ยวกับการตายของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เวียงแก้วรู้ว่าเมดาไม่ใช่ร้อยดาวตัวจริง และใช้เมดาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น ซึ่งแสดงถึงความซับซ้อนในตัวละครที่ทั้งรักลูกและต้องการแก้แค้น

กับปกรณ์ ปกรณ์เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ของเวียงแก้ว เขาสร้างเรือน เวียงร้อยดาว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่มีต่อเธอ ความรักของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งในตระกูล

กับเต็มเดือน เต็มเดือนเป็นศัตรูตัวฉกาจของเวียงแก้ว ความอิจฉาของเต็มเดือนที่เวียงแก้วได้ใจปกรณ์นำไปสู่การฆาตกรรม ในฐานะวิญญาณ เวียงแก้วมุ่งเป้าแก้แค้นเต็มเดือนเป็นหลัก ทำให้เกิดฉากที่ตึงเครียดและน่าสะพรกลัว

กับนมแสง นมแสง ข้ารับใช้เก่าแก่ เป็นคนสนิทที่รักและภักดีต่อเวียงแก้ว เธอรู้ความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้วและพยายามปกป้อง “ร้อยดาว” เพื่อสานต่อเจตนาของเจ้านาย

กับตระกูลบดินทร์ธร เวียงแก้วถูกเกลียดชังจากภรรยาคนอื่น (จงจิตร, สร้อยฟ้า) และ ดำรง (พ่อของปกรณ์) ที่ไม่ยอมรับเธอในฐานะสะใภ้ ความเกลียดชังนี้กลายเป็นเชื้อเพลิงให้ความแค้นของเธอในฐานะวิญญาณ

บทบาทในเรื่อง
จุดเริ่มต้นของปริศนา การตายของเวียงแก้วเป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวทั้งหมด ปริศนาเกี่ยวกับการฆาตกรรมของเธอเป็นตัวขับเคลื่อนให้ เมดา สืบหาความจริง ตัวแทนของความแค้น ในฐานะวิญญาณ เวียงแก้วเป็นสัญลักษณ์ของความอยุติธรรมและความเจ็บปวด เธอหลอกหลอนคฤหาสน์และลงโทษตัวละครที่เกี่ยวข้องกับการตายของเธอ เช่น เต็มเดือนและจงจิตร

ตัวเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน เวียงแก้วเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีต (ผ่านการย้อนอดีต) กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน (ผ่านวิญญาณและความฝันของเมดา) ทำให้เรื่องราวมีความต่อเนื่องและลึกซึ้ง ตัวเร่งการเปลี่ยนแปลง การปรากฏตัวของวิญญาณเวียงแก้วผลักดันให้เมดาตัดสินใจยุติวงจรความแค้น โดยการเผาเรือน เวียงร้อยดาว และปลดปล่อยวิญญาณของเธอในตอนจบ

การแสดงของ มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล
มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ถ่ายทอดบท เวียงแก้ว ได้อย่างทรงพลังและน่าจดจำ เธอสามารถแสดงทั้งสองด้านของตัวละครได้อย่างสมบูรณ์
ในฐานะมนุษย์ มนัสนันท์แสดงถึงความอ่อนโยนและความเจ็บปวดของเวียงแก้วได้อย่างน่าสงสาร โดยเฉพาะในฉากย้อนอดีตที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่อปกรณ์และร้อยดาว รวมถึงความทุกข์จากการถูกกดขี่ในตระกูล

ในฐานะวิญญาณ การแสดงของมนัสนันท์ในบทวิญญาณนั้นน่าสะพรึงกลัวและน่าขนลุก เธอใช้สายตาที่เต็มไปด้วยความแค้น น้ำเสียงที่เย็นเยือก และท่าทางที่ลึกลับเพื่อสร้างความหลอน ฉากที่เวียงแก้วปรากฏตัวในเงามืดหรือร้องโหยหวนเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกกลัว

จุดเด่นความสามารถในการสลับระหว่างความอ่อนโยนและความน่าสะพรึงกลัว ทำให้เวียงแก้วเป็นตัวละครที่มีมิติและน่าจดจำ การแสดงของมนัสนันท์ช่วยยกระดับความเข้มข้นของละคร โดยเฉพาะในฉากที่ต้องถ่ายทอดความแค้นและความเจ็บปวด

เวียงแก้ว เป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนและเป็นกุญแจสำคัญของ เวียงร้อยดาว เธอเป็นทั้งเหยื่อที่น่าสงสารและวิญญาณที่เต็มไปด้วยความแค้น การผสมผสานระหว่างความอ่อนโยนในอดีตและความน่าสะพรึงกลัวในปัจจุบันทำให้เธอเป็นตัวละครที่น่าจดจำ การแสดงของ มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล ช่วยให้เวียงแก้วมีชีวิตและเพิ่มความเข้มข้นให้กับละคร ทั้งในแง่ดราม่าและสยองขวัญ เธอเป็นตัวละครที่ผู้ชมทั้งรัก กลัว และเห็นใจในเวลาเดียวกัน

→ โฟกัส จิระกุล รับบท น่านฟ้า

%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%AA3
โฟกัส จิระกุล

ตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในฐานะน้องสาวของพระเอก สิบทิศ และเป็นเพื่อนสนิทของนางเอก เมดา/ร้อยดาว น่านฟ้าเป็นตัวละครที่นำความสดใสและความมีชีวิตชีวามาสู่เรื่องราวที่เต็มไปด้วยความมืดและปริศนา

น่านฟ้าเป็นตัวละครที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับ เวียงร้อยดาว ซึ่งเต็มไปด้วยความแค้น ความลับ และความสยองขวัญ เธอเป็นเหมือนลมเย็นที่พัดผ่านเรื่องราว ทำให้ผู้ชมรู้สึกผ่อนคลายและมีหวัง การปรากฏตัวของเธอในฐานะเพื่อนของเมดาและน้องสาวของสิบทิศช่วยเสริมสร้างความรู้สึกของมิตรภาพและครอบครัว ซึ่งเป็นแง่มุมที่สำคัญในละคร การที่เธอไปเรียนต่อในตอนจบยังแสดงถึงการเริ่มต้นใหม่และความหวังสำหรับตัวละครรุ่นใหม่

ภูมิหลังและตัวตน
ชื่อและสถานะ หม่อมราชวงศ์น่านฟ้า เวฬุมาศ เป็นน้องสาวของ หม่อมราชวงศ์สิบทิศ และเป็นทายาทของตระกูลเวฬุมาศ ซึ่งเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่และเพื่อนบ้านของตระกูลบดินทร์ธรในเมืองเวฬุมาศ เธอมีสถานะทางสังคมสูงและได้รับการยกย่องในชุมชน

ครอบครัว น่านฟ้าเป็นน้องสาวคนเล็กของสิบทิศ และทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและใกล้ชิดกันมาก เธอมักปรากฏตัวเคียงข้างพี่ชายและมีบทบาทในการเชื่อมโยงตระกูลเวฬุมาศกับเหตุการณ์ในคฤหาสน์บดินทร์ธร

การศึกษาและอนาคต ในตอนจบ น่านฟ้ามีแผนจะไปเรียนต่อที่อังกฤษพร้อมกับ กระถิน ซึ่งบ่งบอกว่าเธอเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานและอยากพัฒนาตัวเอง แม้ว่าละครจะไม่ได้เน้นเรื่องการเรียนของเธอมากนักในช่วงต้น

บุคลิกและนิสัย
สดใสและร่าเริง น่านฟ้าเป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยพลังบวกและความมีชีวิตชีวา เธอมักนำรอยยิ้มและความสนุกสนานมาสู่ฉากที่เธอปรากฏตัว ซึ่งช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากดราม่าและความสยองขวัญของเรื่อง จิตใจดีและจริงใจ น่านฟ้ามีจิตใจที่บริสุทธิ์และเป็นมิตร เธอต้อนรับ เมดา/ร้อยดาว อย่างอบอุ่นตั้งแต่แรกพบ และกลายเป็นเพื่อนสนิทที่คอยให้กำลังใจและช่วยเหลือเมดาในยามยาก

กล้าหาญและซื่อสัตย์ แม้ว่าน่านฟ้าจะดูเป็นสาวน้อยที่ร่าเริง แต่เธอก็มีความกล้าหาญในแบบของตัวเอง เธอไม่กลัวที่จะยืนเคียงข้างเมดา แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร และแสดงความภักดีต่อทั้งเมดาและพี่ชายของเธอ ฉลาดและมีไหวพริบ น่านฟ้ามักแสดงให้เห็นถึงความฉลาดและการสังเกตที่เฉียบแหลม เธอช่วยเมดาและสิบทิศในการสืบหาความจริงบางอย่าง และบางครั้งก็เป็นคนที่จุดประกายไอเดียให้กับกลุ่ม

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับสิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) น่านฟ้ามีความสัมพันธ์ที่อบอุ่นและใกล้ชิดกับสิบทิศ พี่ชายของเธอ เธอมักแซวหรือหยอกล้อพี่ชายอย่างน่ารัก แต่ก็เคารพและให้ความสำคัญกับคำแนะนำของเขา สิบทิศเองก็รักและปกป้องน้องสาวอย่างมาก

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) น่านฟ้าเป็นเพื่อนสนิทคนแรกของเมดาเมื่อเธอมาถึงคฤหาสน์บดินทร์ธร เธอคอยให้กำลังใจและช่วยเหลือเมดาในการเผชิญหน้ากับความเกลียดชังจากครอบครัวบดินทร์ธร รวมถึงช่วยสืบหาความจริงเกี่ยวกับ เวียงแก้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นมิตรภาพที่บริสุทธิ์และน่าประทับใจ

กับกระถิน น่านฟ้าสนิทกับ กระถิน หลานสาวของ นมแสง ซึ่งเป็นตัวละครที่ช่วยเมดาเช่นกัน ทั้งคู่มักปรากฏตัวด้วยกันในฉากที่ต้องการความสดใส และในตอนจบ การที่น่านฟ้าและกระถินไปเรียนต่อด้วยกันแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้น

กับตระกูลบดินทร์ธร น่านฟ้าไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับตัวละครร้ายอย่าง เต็มเดือน หรือภรรยาคนอื่นมากนัก แต่เธอมักแสดงความไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของพวกเขา และยืนหยัดเคียงข้างเมดาในฐานะเพื่อน

บทบาทในเรื่อง
ตัวละครที่สร้างสมดุล ในเรื่องที่เต็มไปด้วยความมืด ดราม่า และความสยองขวัญ น่านฟ้าเป็นตัวละครที่นำความสดใสและพลังบวกมาสู่เรื่อง เธอช่วยให้บรรยากาศของละครไม่หนักหน่วงจนเกินไป ผู้สนับสนุนเมดาและสิบทิศ น่านฟ้ามีบทบาทเป็นผู้ช่วยของเมดาและสิบทิศในการสืบหาความจริง เธอมักให้มุมมองใหม่ๆ หรือช่วยในสถานการณ์ที่ต้องการความคล่องตัว

ตัวแทนของมิตรภาพ ความสัมพันธ์ของน่านฟ้ากับเมดาและกระถินแสดงถึงมิตรภาพที่แท้จริงและการสนับสนุนกันในยามยาก ซึ่งเป็นหนึ่งในแง่มุมที่อบอุ่นของเรื่อง ตัวเชื่อมโยงตระกูลเวฬุมาศ ในฐานะน้องสาวของสิบทิศ น่านฟ้าช่วยเชื่อมโยงตระกูลเวฬุมาศกับเหตุการณ์ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ทำให้เรื่องราวมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

การแสดงของ โฟกัส จิระกุล
โฟกัส จิระกุล ถ่ายทอดบท น่านฟ้า ได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่ารัก เธอนำเสนอบุคลิกที่สดใสและร่าเริงของตัวละครได้อย่างลงตัว ความมีชีวิตชีวา การแสดงของโฟกัสเต็มไปด้วยพลังและรอยยิ้ม ซึ่งทำให้ฉากที่น่านฟ้าปรากฏตัวรู้สึกเบาสบายและสนุกสนาน

เคมีกับตัวละครอื่น โฟกัสมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ ณฐพร เตมีรักษ์ (เมดา) และ กฤษฎา พรเวโรจน์ (สิบทิศ) โดยเฉพาะในฉากมิตรภาพและฉากที่เธอแซวพี่ชาย ซึ่งทำให้ตัวละครน่านฟ้าดูน่าเอ็นดู ความสมจริง แม้ว่าน่านฟ้าจะเป็นตัวละครที่ไม่มีปมดราม่าหนักหน่วง แต่โฟกัสสามารถแสดงถึงความจริงใจและความกล้าหาญของตัวละครได้ดี ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพัน

ข้อจำกัดบทของน่านฟ้าเป็นตัวละครรองที่ไม่มีมิติซับซ้อนเท่าตัวละครหลักอย่างเมดาหรือเวียงแก้ว ซึ่งอาจทำให้การแสดงของโฟกัสดูเรียบง่าย แต่เธอก็สามารถทำหน้าที่ของตัวละครได้อย่างสมบูรณ์

น่านฟ้า เป็นตัวละครรองที่เปี่ยมด้วยความสดใส จิตใจดี และความภักดี เธอเป็นเหมือนแสงสว่างเล็กๆ ในเรื่องราวที่มืดมนของ เวียงร้อยดาว ด้วยบทบาทที่ช่วยสนับสนุนเมดาและสิบทิศ รวมถึงการนำความร่าเริงมาสู่ฉากต่างๆ การแสดงของ โฟกัส จิระกุล ทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตและเป็นที่รักของผู้ชม แม้ว่าจะไม่มีปมซับซ้อน แต่บทบาทของน่านฟ้าก็ช่วยเติมเต็มเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์

→ ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ รับบท เต็มเดือน

ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์

ตัวละครวายร้ายหลักที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราว เต็มเดือนเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน เต็มไปด้วยความร้ายกาจ ความอิจฉา และความลับที่ทำให้เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำที่สุดของเรื่อง

เต็มเดือนเป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้ใน เวียงร้อยดาว เธอเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมดผ่านการฆาตกรรมเวียงแก้ว และเป็นตัวเร่งให้เกิดความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร ความร้ายกาจของเธอเป็นตัวขับเคลื่อนให้เมดา/ร้อยดาวต้องสู้เพื่อความยุติธรรม และการล่มสลายของเธอในตอนจบเป็นสัญลักษณ์ของการชัยชนะของความดีเหนือความชั่ว การที่เธอค่อยๆ เสียสติจากความกลัววิญญาณเวียงแก้วยังช่วยเพิ่มความเข้มข้นและความสยองขวัญให้กับเรื่อง

ภูมิหลังและตัวตน
ชื่อและสถานะ เต็มเดือน เป็นภรรยาคนแรกของ ปกรณ์ บดินทร์ธร เจ้าของคฤหาสน์บดินทร์ธรในเมืองเวฬุมาศ เธอเป็นภรรยาที่มีสถานะสูงสุดในบรรดาภรรยาทั้งสี่คน (เต็มเดือน, จงจิตร, สร้อยฟ้า, เวียงแก้ว) แต่ไม่มีทายาทสืบสกุล ซึ่งเป็นปมที่ทำให้เธอรู้สึกด้อยค่าและอิจฉาผู้อื่น

อดีต เต็มเดือนเป็นผู้หญิงที่สง่างามและมีความทะเยอทะยาน เธอหวังจะครอบครองหัวใจของปกรณ์และควบคุมอำนาจในตระกูล แต่เมื่อปกรณ์แต่งงานกับภรรยาคนอื่น โดยเฉพาะ เวียงแก้ว ที่เคยเป็นสาวใช้ ความอิจฉาของเธอก็กลายเป็นความเกลียดชังที่นำไปสู่การกระทำอันโหดร้าย

บทบาทในครอบครัว เต็มเดือนมักทำตัวเป็นผู้นำในบรรดาภรรยา เธอมีอิทธิพลในคฤหาสน์และได้รับการเคารพจากคนในตระกูล แม้ว่าจะถูก ดำรง (พ่อของปกรณ์) ดูถูกเพราะไม่มีลูก เธอก็พยายามรักษาภาพลักษณ์ที่สง่างามและแข็งแกร่ง

บุคลิกและนิสัย
ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ เต็มเดือนเป็นตัวละครที่ร้ายลึก เธอวางแผนอย่างแยบยลเพื่อกำจัดศัตรูและรักษาอำนาจของตัวเอง การที่เธอจ้างคนข่มขืนและฆ่า เวียงแก้ว แสดงถึงความโหดเหี้ยมและความไร้ศีลธรรม อิจฉาและขมขื่น ความอิจฉาเป็นแรงผลักดันหลักของเต็มเดือน เธออิจฉาเวียงแก้วที่ได้ใจปกรณ์และมีลูกสาว (ร้อยดาว) รวมถึงอิจฉาภรรยาคนอื่นที่มีทายาท ความรู้สึกนี้ทำให้เธอกลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยความขมขื่นและความแค้น

สง่างามแต่เย็นชา เต็มเดือนมีภาพลักษณ์ที่สง่างามและน่าเกรงขาม เธอพูดจาด้วยน้ำเสียงที่สุขุมแต่แฝงด้วยความเย็นชาและการเสียดสี ซึ่งทำให้คนรอบข้างรู้สึกกดดัน เปราะบางในใจ ภายใต้ความแข็งแกร่ง เต็มเดือนมีความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ การที่เธอไม่มีลูกและสูญเสียความรักจากปกรณ์ทำให้เธอรู้สึกด้อยค่า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอแสดงออกด้วยความร้ายกาจเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเอง

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) เวียงแก้วเป็นศัตรูตัวฉกาจของเต็มเดือน ความอิจฉาที่เวียงแก้วได้ใจปกรณ์และกลายเป็นภรรยาคนที่สี่นำไปสู่การฆาตกรรมที่เต็มเดือนบงการ วิญญาณของเวียงแก้วคอยหลอกหลอนและแก้แค้นเต็มเดือน ซึ่งสร้างความหวาดกลัวและความเสียสติให้เธอในช่วงท้ายเรื่อง

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เต็มเดือนมองเมดา (ที่ทุกคนคิดว่าเป็นร้อยดาว) เป็นภัยคุกคาม เธอเกลียดเมดาเพราะเป็นลูกของเวียงแก้ว และพยายามกลั่นแกล้งและขัดขวางเมดาในการสืบหาความจริง ความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่เป็นหนึ่งในจุดเด่นของเรื่อง

กับปกรณ์ เต็มเดือนรักปกรณ์อย่างลึกซึ้ง แต่รู้สึกเจ็บปวดที่เขาเลือกภรรยาคนอื่น โดยเฉพาะเวียงแก้ว ความรักที่ไม่สมหวังนี้เป็นแรงผลักดันให้เธอกระทำการชั่วร้าย

กับภรรยาคนอื่น (จงจิตร, สร้อยฟ้า) เต็มเดือนมีอำนาจเหนือภรรยาคนอื่น เธอมักดูถูกและควบคุมพวกเขา แต่ก็มีความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ โดยเฉพาะกับจงจิตรที่พยายามแข่งขันกับเธอ

กับดำรง (พิศาล อัครเศรณี) ดำรง พ่อของปกรณ์ ดูถูกเต็มเดือนเพราะเธอไม่มีลูก ซึ่งทำให้เต็มเดือนรู้สึกอับอายและยิ่งเพิ่มความขมขื่นในใจ

กับสิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) และน่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) เต็มเดือนมองตระกูลเวฬุมาศเป็นศัตรู โดยเฉพาะเมื่อสิบทิศและน่านฟ้าสนับสนุนเมดา เธอพยายามข่มขู่หรือต่อต้านทั้งคู่ แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้

บทบาทในเรื่อง
วายร้ายหลัก เต็มเดือนเป็นตัวร้ายที่ขับเคลื่อนเรื่องราว การฆาตกรรมเวียงแก้วที่เธอบงการเป็นจุดเริ่มต้นของปริศนาและความแค้นทั้งหมดในเรื่อง ตัวเร่งความขัดแย้ง การกระทำของเต็มเดือน เช่น การกลั่นแกล้งเมดา การปกปิดความจริง และการพยายามรักษาอำนาจในตระกูล ทำให้เกิดความขัดแย้งและความตึงเครียดในคฤหาสน์

ตัวแทนของความชั่วร้ายและผลกรรม เต็มเดือนเป็นสัญลักษณ์ของความอิจฉาและความโลภที่นำไปสู่การทำลายตัวเอง การที่เธอถูกเปิดโปงและเผชิญผลกรรมในตอนจบให้ความรู้สึกสะใจแก่ผู้ชม ตัวกระตุ้นความหลอน ความกลัวของเต็มเดือนต่อวิญญาณของเวียงแก้ว และการที่เธอค่อยๆ เสียสติจากความรู้สึกผิดและความหวาดกลัว ช่วยเพิ่มความสยองขวัญให้กับเรื่อง

การแสดงของ ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์
ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ ถ่ายทอดบท เต็มเดือน ได้อย่างทรงพลังและน่าประทับใจ เธอสามารถทำให้ตัวละครนี้ทั้งน่าเกลียดชังและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน
ความร้ายกาจที่น่ากลัว ณัฐริกาใช้สายตาที่เย็นชาและรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์เพื่อแสดงถึงความร้ายลึกของเต็มเดือน ฉากที่เธอสั่งการฆาตกรรมหรือข่มขู่เมดาเต็มไปด้วยพลังที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความน่ากลัวของตัวละคร

ความสง่างามที่ซ่อนความโหดร้าย การแสดงของณัฐริกาทำให้เต็มเดือนดูเป็นผู้หญิงที่สง่างามแต่แฝงด้วยความโหดร้าย เธอควบคุมน้ำเสียงและท่าทางได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ตัวละครมีทั้งความน่าเกรงขามและความน่ารังเกียจ

ความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ ในฉากที่เต็มเดือนเผชิญกับความกลัววิญญาณหรือถูกเปิดโปง ณัฐริกาแสดงถึงความแตกสลายและความเสียสติได้อย่างน่าเห็นใจเล็กๆ ซึ่งเพิ่มมิติให้ตัวละคร

จุดเด่น การแสดงของณัฐริกาเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของละคร เธอขโมยซีนได้ในหลายฉาก โดยเฉพาะฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับเมดาหรือวิญญาณของเวียงแก้ว ทำให้เต็มเดือนเป็นตัวร้ายที่ทั้งน่ากลัวและน่าจดจำ

เต็มเดือน เป็นตัวร้ายที่ทั้งร้ายกาจ น่าสะพรึงกลัว และมีมิติ เธอเป็นตัวละครที่ขับเคลื่อนเรื่องราวผ่านความอิจฉาและการกระทำอันชั่วร้าย แต่ก็มีความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ในใจ การแสดงของ ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ ทำให้เต็มเดือนเป็นตัวร้ายที่น่าจดจำและทรงพลัง เธอเป็นทั้งตัวเร่งความขัดแย้งและสัญลักษณ์ของผลกรรมที่รอการลงโทษ ซึ่งช่วยยกระดับความเข้มข้นของ เวียงร้อยดาว ให้เป็นละครที่น่าติดตาม

→ เมธัส ปรีรัตนวารี รับบท มาร์ค

7d53ca10 2080 11ee aac1 83b76f82d1d7 webp original
เมธัส ปรีรัตนวารี

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นเพื่อนสนิทของ เมดา/ร้อยดาว และเพิ่มสีสันให้กับเรื่องราว มาร์คเป็นตัวละครที่นำความสดใสและความเป็นมิตรมาสู่ละครที่เต็มไปด้วยดราม่าและความสยองขวัญ

มาร์คเป็นตัวละครรองที่ไม่ได้มีส่วนสำคัญในปมปริศนาหลักหรือความขัดแย้งของตระกูลบดินทร์ธร แต่เขามีบทบาทในการเพิ่มมิติให้ตัวละครเมดา โดยแสดงให้เห็นว่าเธอมีเพื่อนที่ห่วงใยจากชีวิตในอังกฤษ สร้างความผ่อนคลายให้กับเรื่องราว ด้วยบุคลิกที่ร่าเริงและเหตุการณ์เล็กๆ ที่เข้ามาเติมสีสัน

เป็นตัวแทนของความรักที่ไม่สมหวังแต่บริสุทธิ์ ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับความสัมพันธ์ในเรื่อง การปรากฏตัวของมาร์คในช่วงต้นเรื่องช่วยสร้างความสมดุลให้กับละคร ก่อนที่เรื่องราวจะเข้มข้นขึ้นด้วยปริศนาและความสยองขวัญในภายหลัง

ภูมิหลังและตัวตน
มาร์ค เป็นลูกชายของทูตไทยประจำอังกฤษ มีฐานะดีและมีการศึกษาสูง เขาเติบโตในอังกฤษและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ เมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ในช่วงที่เธออาศัยอยู่ที่นั่น มาร์คปรากฏตัวในฐานะเพื่อนสนิทของเมดาที่เดินทางจากอังกฤษมาเยี่ยมเธอที่คฤหาสน์บดินทร์ธรในเมืองเวฬุมาศ เขามีส่วนช่วยในบางเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เป็นตัวละครหลักในปมปริศนาหรือความขัดแย้งของตระกูลบดินทร์ธร

ความสัมพันธ์กับเรื่อง มาร์คเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงชีวิตในอังกฤษของเมดากับเหตุการณ์ในประเทศไทย การปรากฏตัวของเขาช่วยให้ผู้ชมเห็นมุมมองภายนอกเกี่ยวกับครอบครัวบดินทร์ธร

บุคลิกและนิสัย
ร่าเริงและเป็นมิตร มาร์คเป็นตัวละครที่มีบุคลิกสดใสและเป็นกันเอง เขามักพูดจาด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายและมีมารยาทดี ซึ่งสะท้อนถึงการเลี้ยงดูในสังคมชั้นสูง มาร์คแสดงความห่วงใยต่อเมดาอย่างจริงใจ เขาคอยถามไถ่และให้กำลังใจเธอเมื่อเธอต้องเผชิญกับความยากลำบากในคฤหาสน์

มีใจให้เมดา มาร์คมีความรู้สึกพิเศษต่อเมดาเกินกว่าความเป็นเพื่อน แต่เขาเคารพความรู้สึกของเธอและไม่แสดงออกในลักษณะที่ก้าวร้าวหรือบีบคั้น ความรักของเขาดูบริสุทธิ์และไม่หวังผลตอบแทน มาร์คมักนำความสนุกสนานมาสู่ฉากที่เขาปรากฏตัว เช่น การหยอกล้อหรือการพูดคุยที่ทำให้บรรยากาศผ่อนคลาย ซึ่งช่วยลดความตึงเครียดของเรื่อง

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) มาร์คเป็นเพื่อนสนิทของเมดาจากอังกฤษ เขาแวะมาเยี่ยมเธอที่คฤหาสน์บดินทร์ธรและแสดงความห่วงใยเมื่อเห็นว่าเธอถูกครอบครัวปฏิเสธ เมดามองมาร์คเป็นเพื่อนสนิทเท่านั้น ไม่ได้ตอบสนองความรู้สึกพิเศษที่เขามีต่อเธอ ซึ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยังคงเป็นมิตรภาพที่บริสุทธิ์

กับน่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) มาร์คมีปฏิสัมพันธ์ที่น่าสนใจกับ น่านฟ้า เมื่อรถของเขาถูกรถของน่านฟ้าชนหน้าคฤหาสน์บดินทร์ธร การพบกันครั้งแรกนี้สร้างความขัดแย้งเล็กๆ ที่มีสีสันและแสดงถึงบุคลิกขี้เล่นของทั้งคู่

กับสิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) มาร์คและสิบทิศไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง แต่ในฐานะคนที่ห่วงใยเมดาเหมือนกัน ทั้งคู่มีความเคารพต่อกัน มาร์คยอมรับบทบาทของสิบทิศในฐานะคนรักของเมดาโดยไม่แสดงความอิจฉา

กับตระกูลบดินทร์ธร มาร์คไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งในตระกูล เขาเป็นเพียงบุคคลภายนอกที่เข้ามาในเรื่องชั่วคราว และไม่ได้เผชิญหน้ากับตัวละครร้ายอย่าง เต็มเดือน หรือคนอื่นในตระกูล

บทบาทในเรื่อง
มาร์คเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับเรื่อง ด้วยบุคลิกที่ร่าเริงและบทสนทนาที่ขี้เล่น เขาเป็นตัวละครที่ทำให้ผู้ชมได้พักจากความเข้มข้นของดราม่าและสยองขวัญ การปรากฏตัวของมาร์คช่วยให้ผู้ชมเข้าใจชีวิตของเมดาในอังกฤษก่อนที่เธอจะกลับมาประเทศไทย เขาเป็นตัวแทนของช่วงเวลาที่เมดายังมีความสุขและไร้เดียงสา

 แม้ว่ามาร์คจะไม่มีบทบาทสำคัญในการสืบหาความจริงหรือคลายปมปริศนา แต่เขาคอยให้กำลังใจเมดาและแสดงความห่วงใย ซึ่งช่วยให้เมดาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในช่วงแรกที่มาถึงคฤหาสน์ การที่รถของมาร์คถูกรถของน่านฟ้าชนเป็นเหตุการณ์เล็กๆ ที่เพิ่มความสนุกและแสดงถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยความขัดแย้งแต่กลายเป็นมิตรภาพในภายหลัง

การแสดงของ เมธัส ปรีรัตนวารี
เมธัส ปรีรัตนวารี ถ่ายทอดบท มาร์ค ได้อย่างเหมาะสมกับบทบาทตัวละครรองที่มีความสดใสและเป็นมิตร ความเป็นธรรมชาติ เมธัสแสดงถึงความร่าเริงและความเป็นกันเองของมาร์คได้อย่างเป็นธรรมชาติ การพูดจาและท่าทางของเขาทำให้ตัวละครดูน่าเชื่อว่าเป็นหนุ่มที่มีการศึกษาดีและมีมารยาท

เมธัสมีเคมีที่ดีกับ ณฐพร เตมีรักษ์ (เมดา) ในฉากที่แสดงถึงมิตรภาพ และกับ โฟกัส จิระกุล (น่านฟ้า) ในฉากที่ทั้งคู่มีปฏิสัมพันธ์แบบขี้เล่น เนื่องจากมาร์คเป็นตัวละครรองที่มีบทบาทจำกัด การแสดงของเมธัสจึงไม่มีโอกาสได้แสดงความซับซ้อนหรืออารมณ์ที่เข้มข้นเท่าตัวละครหลัก แต่เขาก็สามารถทำให้มาร์คเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำในบทบาทของเขา

มาร์ค เป็นตัวละครรองที่เปี่ยมด้วยความสดใส จิตใจดี และความภักดีในฐานะเพื่อนของเมดา/ร้อยดาว เขาเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มสีสันและความอบอุ่นให้กับ เวียงร้อยดาว แม้ว่าจะไม่มีบทบาทสำคัญในปมปริศนาหลัก การแสดงของ เมธัส ปรีรัตนวารี ทำให้มาร์คเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำในบทบาทของหนุ่มที่เป็นมิตรและมีความรักที่บริสุทธิ์ เขาเป็นเหมือนลมหายใจที่สดชื่นในเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความมืดและความแค้น

→ จรณ โสรัตน์ รับบท ปรมัตถ์

hq720
จรณ โสรัตน์

ตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้สนับสนุน เมดา/ร้อยดาว และเป็นตัวละครที่เพิ่มมิติให้กับเรื่องราว ปรมัตถ์เป็นตัวละครที่ผสมผสานความจริงจัง ความฉลาด และความภักดี ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชม

ปรมัตถ์เป็นตัวละครรองที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มของเมดาและสิบทิศ เขาไม่ใช่ตัวละครที่ขับเคลื่อนปมปริศนาหลักโดยตรง แต่มีบทบาทสำคัญในการ ช่วยคลายปมปริศนาผ่านความฉลาดและการวิเคราะห์ เป็นตัวแทนของมิตรภาพที่มั่นคงและการสนับสนุนที่ไม่มีเงื่อนไข

เพิ่มความสมดุลให้กับเรื่องราวด้วยบุคลิกที่สงบและเป็นเหตุเป็นผล การลงเอยกับดาหลาในตอนจบยังช่วยเติมเต็มเรื่องราวให้ครบถ้วนและให้ความรู้สึกสมหวังสำหรับตัวละครรอง

ภูมิหลังและตัวตน
ปรมัตถ์ เป็นลูกชายของ ทนายทวีป ทนายความที่ดูแลพินัยกรรมของ ปกรณ์ บดินทร์ธร เขามีฐานะดีและมีการศึกษาสูง โดยมีแนวโน้มว่าจะสืบทอดอาชีพทนายความจากพ่อ ปรมัตถ์มีความสัมพันธ์ที่ดีกับทนายทวีป พ่อของเขา ซึ่งเป็นคนที่ซื่อสัตย์และมีบทบาทในการนำเมดา/ร้อยดาวกลับมาที่คฤหาสน์บดินทร์ธรเพื่อฟังพินัยกรรม

ปรมัตถ์เป็นตัวละครที่ช่วยเหลือเมดาในการสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของ เวียงแก้ว และเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนที่คอยปกป้องเธอจากความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร

บุคลิกและนิสัย
ฉลาดและมีไหวพริบ ปรมัตถ์เป็นคนที่มีความคิดเป็นระบบและมีทักษะในการวิเคราะห์ เขามักช่วยเมดาค้นหาเบาะแสหรือตีความเหตุการณ์ลึกลับในคฤหาสน์ ซึ่งแสดงถึงความเฉลียวฉลาดและความรอบคอบ ปรมัตถ์เป็นคนที่ซื่อสัตย์และมีจิตใจดี เขาคอยสนับสนุนเมดาโดยไม่มีวาระซ่อนเร้น และแสดงความเคารพต่อความสัมพันธ์ของเธอกับ สิบทิศ แม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกดีๆ ต่อเมดาในช่วงแรก

แม้ว่าปรมัตถ์จะไม่ใช่ตัวละครที่เผชิญหน้ากับอันตรายโดยตรงเหมือนสิบทิศ แต่เขาก็กล้าที่จะยืนหยัดเคียงข้างเมดาและเผชิญหน้ากับความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธรเมื่อจำเป็น ปรมัตถ์มีบุคลิกที่สุภาพและเป็นผู้ใหญ่ เขาพูดจานุ่มนวลและมีท่าทีที่ให้เกียรติผู้อื่น ซึ่งสะท้อนถึงการเลี้ยงดูที่ดีและการศึกษาที่สูง

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ปรมัตถ์เป็นเพื่อนและผู้ช่วยที่สำคัญของเมดา เขาคอยให้คำแนะนำและช่วยเธอสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้ว ในช่วงแรก เขาอาจมีความรู้สึกดีๆ ต่อเมดา แต่เมื่อเห็นว่าเธอรักสิบทิศ เขาก็ยอมถอยและรักษาความเป็นเพื่อนที่ดีไว้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นมิตรภาพที่บริสุทธิ์และน่าประทับใจ

กับสิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) ปรมัตถ์และสิบทิศมีความเคารพซึ่งกันและกันในฐานะผู้ที่ห่วงใยเมดา ทั้งคู่ทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องเมดาและคลายปมปริศนา โดยไม่มีท่าทีแข่งขันหรืออิจฉากัน

กับน่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) และกระถิน ปรมัตถ์มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับน่านฟ้าและกระถินในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มเพื่อนที่สนับสนุนเมดา เขามักเป็นคนที่นำความสงบและเหตุผลมาสู่กลุ่ม

กับดาหลา (พลอย ภัทรากร) ในตอนจบ ปรมัตถ์ลงเอยกับ ดาหลา ซึ่งเป็นตัวละครรองที่มีบทบาทน้อยในเรื่อง ความสัมพันธ์นี้เป็นการปิดท้ายที่ช่วยให้ตัวละครของเขามีบทสรุปที่สมบูรณ์

กับตระกูลบดินทร์ธร ปรมัตถ์ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับตัวละครร้ายอย่าง เต็มเดือน หรือภรรยาคนอื่นมากนัก แต่ในฐานะลูกชายของทนายทวีป เขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการมรดกและพินัยกรรม ซึ่งทำให้เขาเป็นเป้าสายตาของบางคนในตระกูล

บทบาทในเรื่อง
ผู้ช่วยในการสืบสวน ปรมัตถ์มีบทบาทสำคัญในการช่วยเมดาค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้วและปมการสลับตัวตน ความฉลาดและความรู้ของเขาช่วยให้กลุ่มสามารถเชื่อมโยงเบาะแสและคลายปริศนาได้ ปรมัตถ์เป็นตัวละครที่นำความสงบและเหตุผลมาสู่กลุ่มเพื่อน ในขณะที่น่านฟ้าและกระถินเพิ่มความสดใส และสิบทิศเป็นผู้ปกป้อง ปรมัตถ์เป็นเหมือนสมองของทีมที่ช่วยวางแผนและตัดสินใจ

ตัวแทนของมิตรภาพ ความภักดีและความจริงใจของปรมัตถ์ต่อเมดาแสดงถึงมิตรภาพที่ไม่มีเงื่อนไข เขาเป็นตัวละครที่ช่วยย้ำถึงความสำคัญของการมีเพื่อนที่ดีในยามยาก การลงเอยกับดาหลาในตอนจบช่วยให้ปรมัตถ์มีบทสรุปที่สมบูรณ์ และเพิ่มความรู้สึกแฮปปี้เอนดิ้งให้กับเรื่อง

การแสดงของ จรณ โสรัตน์
จรณ โสรัตน์ ถ่ายทอดบท ปรมัตถ์ ได้อย่างเหมาะสมและน่าเชื่อถือ เขานำเสนอบุคลิกที่สุภาพ ฉลาด และเป็นมิตรของตัวละครได้อย่างลงตัว ความเป็นผู้ใหญ่ จรณแสดงถึงความสุขุมและความรอบคอบของปรมัตถ์ได้ดี โดยเฉพาะในฉากที่ต้องวิเคราะห์สถานการณ์หรือให้คำแนะนำแก่เมดา

จรณมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ ณฐพร เตมีรักษ์ (เมดา) ในฐานะเพื่อนสนิท และกับ กฤษฎา พรเวโรจน์ (สิบทิศ) ในฐานะพันธมิตร การแสดงของเขาทำให้ความสัมพันธ์ในกลุ่มดูเป็นธรรมชาติ จรณทำให้ปรมัตถ์ดูเป็นตัวละครที่น่าเชื่อถือและมีน้ำหนัก โดยเฉพาะในฉากที่ต้องแสดงความห่วงใยหรือความกล้าหาญ

เนื่องจากปรมัตถ์เป็นตัวละครรองที่ไม่มีปมดราม่าซับซ้อน การแสดงของจรณจึงอาจไม่โดดเด่นเท่าตัวละครหลักอย่างเมดาหรือเต็มเดือน แต่เขาก็สามารถทำให้ปรมัตถ์เป็นตัวละครที่อบอุ่นและน่าจดจำในบทบาทของเขา

ปรมัตถ์ เป็นตัวละครรองที่เปี่ยมด้วยความฉลาด จิตใจดี และความภักดี เขาเป็นเพื่อนที่น่าเชื่อถือและผู้ช่วยที่สำคัญของเมดา/ร้อยดาวในการสืบหาความจริง การแสดงของ จรณ โสรัตน์ ทำให้ปรมัตถ์เป็นตัวละครที่อบอุ่น สุภาพ และน่าจดจำ แม้ว่าจะไม่มีปมดราม่าที่ซับซ้อน แต่บทบาทของเขาในการสนับสนุนทีมและเพิ่มความสมดุลให้กับเรื่องราวทำให้เขาเป็นส่วนสำคัญของ เวียงร้อยดาว การลงเอยที่สมหวังในตอนจบยังช่วยให้ตัวละครนี้มีบทสรุปที่น่าพึงพอใจ

→ สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ รับบท จันทร์สาย

5c0e0310 1fc3 11ee 9dc9 b5ed7ab3864f webp original
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ

ตัวละครรองที่มีบทบาทในฐานะแม่บุญธรรมของ เมดา/ร้อยดาว และเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงชีวิตในอังกฤษของเมดากับปริศนาในตระกูลบดินทร์ธร จันทร์ฉายเป็นตัวละครที่มีความสำคัญในช่วงต้นเรื่อง แม้ว่าจะปรากฏตัวเพียงสั้นๆ

จันทร์ฉายเป็นตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในฐานะจุดเริ่มต้นของเรื่องราว การเสียชีวิตของเธอเป็นตัวเร่งที่นำเมดาเข้าสู่ปริศนาและความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร เธอยังเป็นตัวแทนของความรักและความปลอดภัยในชีวิตช่วงแรกของเมดา ซึ่งตัดกันกับความโหดร้ายและความลับที่เมดาต้องเผชิญในคฤหาสน์ แม้ว่าจะปรากฏตัวเพียงสั้นๆ แต่จันทร์ฉายช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครเมดาและสร้างความรู้สึกเห็นใจจากผู้ชม

ภูมิหลังและตัวตน
จันทร์ฉาย เป็นภรรยาของ ดิลก และเป็นแม่บุญธรรมของ เมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เธอและสามีเลี้ยงดูเมดาในอังกฤษ โดยเมดาเข้าใจว่าเธอคือร้อยดาว ลูกสาวแท้ๆ ของ เวียงแก้ว และ ปกรณ์ บดินทร์ธร อดีตจันทร์ฉายและดิลกได้รับเมดามาเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากการสลับตัวตนเพื่อปกป้องร้อยดาวตัวจริงจากอันตรายในตระกูลบดินทร์ธร ทั้งคู่ย้ายไปใช้ชีวิตในอังกฤษและเลี้ยงดูเมดาอย่างดีราวกับเป็นลูกแท้ๆ

การเสียชีวิตจันทร์ฉายและดิลกเสียชีวิตในอุบัติเหตุ (รถยนต์) ในอังกฤษก่อนที่เรื่องราวหลักจะเริ่มต้น การเสียชีวิตของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เมดาได้รับการติดต่อจาก ทนายทวีป เพื่อกลับมาประเทศไทยและฟังพินัยกรรมของปกรณ์

บุคลิกและนิสัย
อ่อนโยนและใจดี จันทร์ฉายเป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและมีจิตใจดี เธอรักและดูแลเมดาด้วยความรักเหมือนลูกแท้ๆ การเลี้ยงดูเมดาในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นในอังกฤษแสดงถึงความเอาใจใส่และความเสียสละของเธอ จันทร์ฉายรู้ความจริงเกี่ยวกับการสลับตัวตนของเมดาและร้อยดาว แต่เลือกที่จะเก็บความลับนี้ไว้เพื่อปกป้องเมดา ซึ่งแสดงถึงความรับผิดชอบและความภักดีต่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับตระกูลบดินทร์ธร

สงบและมีเมตตา แม้ว่าจะปรากฏตัวเพียงช่วงสั้นๆ (ในฉากย้อนอดีตหรือการเล่าเรื่อง) จันทร์ฉายมีบุคลิกที่สงบและเปี่ยมด้วยความเมตตา เธอเป็นตัวละครที่สร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับเมดาและผู้ชม

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) จันทร์ฉายเป็นแม่บุญธรรมที่เมดารักและผูกพันอย่างมาก เธอเลี้ยงดูเมดาด้วยความรักและให้การศึกษาที่ดีในอังกฤษ การเสียชีวิตของจันทร์ฉายส่งผลกระทบต่อจิตใจของเมดา ทำให้เมดารู้สึกสูญเสียและต้องเผชิญกับโลกใหม่ในประเทศไทยเพียงลำพัง

กับดิลก จันทร์ฉายและดิลก สามีของเธอ มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและร่วมกันเลี้ยงดูเมดาด้วยความรัก ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่น่ารักและทุ่มเทให้กับหน้าที่ในฐานะพ่อแม่บุญธรรม

กับตระกูลบดินทร์ธร จันทร์ฉายมีความเชื่อมโยงกับตระกูลบดินทร์ธรผ่านการรับเมดามาเลี้ยงดู เธอน่าจะได้รับความไว้วางใจจากปกรณ์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการปกป้องเมดา แต่ละครไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าเธอรู้จักตระกูลนี้ในระดับใด

กับตัวละครอื่น เนื่องจากจันทร์ฉายเสียชีวิตก่อนที่เรื่องราวหลักจะเริ่มต้น เธอจึงไม่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับตัวละครหลักอื่นๆ เช่น สิบทิศ, น่านฟ้า, หรือ เต็มเดือน

บทบาทในเรื่อง
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว การเสียชีวิตของจันทร์ฉายและดิลกเป็นเหตุการณ์ที่กระตุ้นให้เมดากลับมาประเทศไทยและเผชิญหน้ากับปริศนาในตระกูลบดินทร์ธร เป็นจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่การคลายปมทั้งหมดในเรื่อง จันทร์ฉายเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและความเสียสละ เธอเลี้ยงดูเมดาโดยไม่เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับตัวตนของเธอ เพื่อปกป้องเมดาจากอันตราย

ตัวเชื่อมโยงอดีตของเมดา การเล่าเรื่องหรือฉากย้อนอดีตที่เกี่ยวข้องกับจันทร์ฉายช่วยให้ผู้ชมเข้าใจชีวิตของเมดาในอังกฤษ และแสดงให้เห็นว่าเธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นก่อนที่จะเผชิญกับความโหดร้ายในคฤหาสน์ การที่เมดาคิดถึงจันทร์ฉายและรู้สึกสูญเสียหลังจากการตายของเธอช่วยสร้างความเห็นใจจากผู้ชม และทำให้เมดาเป็นตัวละครที่น่าสงสารในช่วงต้นเรื่อง

การแสดงของ สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ
สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ ถ่ายทอดบท จันทร์ฉาย ได้อย่างอบอุ่นและน่าเชื่อถือ แม้ว่าบทบาทของเธอจะมีจำกัดเนื่องจากตัวละครเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเรื่องราวหลักเริ่มต้น ความอ่อนโยน สรวงสุดาแสดงถึงความอ่อนโยนและความรักของจันทร์ฉายได้อย่างเป็นธรรมชาติ การแสดงออกทางสีหน้าและน้ำเสียงของเธอทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความอบอุ่นของตัวละคร

ความน่าเชื่อถือ แม้ว่าจะปรากฏตัวสั้นๆ สรวงสุดาสามารถทำให้จันทร์ฉายดูเป็นแม่ที่น่ารักและน่าเชื่อว่าเป็นคนที่เมดาจะผูกพันด้วยอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากบทของจันทร์ฉายมีน้อยและปรากฏในฉากย้อนอดีตหรือการเล่าเรื่องเป็นหลัก การแสดงของสรวงสุดาจึงไม่มีโอกาสได้แสดงความซับซ้อนหรืออารมณ์ที่หลากหลาย แต่เธอก็สามารถถ่ายทอดบทบาทนี้ได้อย่างสมบูรณ์ตามที่บทต้องการ

จันทร์ฉาย เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทสั้นแต่สำคัญใน เวียงร้อยดาว เธอเป็นแม่บุญธรรมที่อ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความรัก ซึ่งเป็นตัวแทนของความอบอุ่นในชีวิตช่วงแรกของเมดา/ร้อยดาว การเสียชีวิตของเธอเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว และความลับที่เธอเก็บไว้เกี่ยวกับการสลับตัวตนช่วยเพิ่มมิติให้กับปริศนาของเรื่อง การแสดงของ สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ ทำให้จันทร์ฉายเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าสงสาร แม้ว่าจะปรากฏตัวเพียงเล็กน้อย แต่เธอก็มีส่วนช่วยให้เรื่องราวสมบูรณ์และสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับผู้ชม

→ พิมพรรณ ชลายต์คุปต์ รับบท จงจิต

hq720
พิมพรรณ ชลายต์คุปต์

ตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในฐานะหนึ่งในภรรยาของ ปกรณ์ บดินทร์ธร และเป็นตัวละครที่เพิ่มความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร จงจิตรเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน ผสมผสานความทะเยอทะยาน ความอิจฉา และความเปราะบาง

จงจิตรเป็นตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นให้กับ เวียงร้อยดาว สร้างความขัดแย้งในตระกูลผ่านความทะเยอทะยานและการกลั่นแกล้งเมดา เป็นส่วนหนึ่งของปมปริศนาเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้วและการแก้แค้นของวิญญาณ เป็นตัวอย่างของตัวละครที่ได้รับผลกรรมจากความชั่วร้าย ซึ่งช่วยย้ำธีมของความยุติธรรมในเรื่อง การตายของจงจิตรเป็นจุดเปลี่ยนที่เพิ่มความลึกลับและกระตุ้นให้เมดาและทีมสืบหาความจริงต่อไป ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้ในโครงเรื่อง

ภูมิหลังและตัวตน
จงจิตร เป็นภรรยาคนที่สองของ ปกรณ์ บดินทร์ธร เจ้าของคฤหาสน์บดินทร์ธรในเมืองเวฬุมาศ เธอมีสถานะรองจาก เต็มเดือน (ภรรยาคนแรก) แต่เหนือกว่า สร้อยฟ้า (ภรรยาคนที่สาม) และ เวียงแก้ว (ภรรยาคนที่สี่) จงจิตรมีลูกสาวคนเดียวชื่อ ดารกา ซึ่งเธอหวังจะให้เป็นทายาทที่ได้รับมรดกและอำนาจในตระกูล เธอทุ่มเทให้กับการผลักดันสถานะของตัวเองและลูกสาวในครอบครัว

อดีตจงจิตรเป็นผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยานและต้องการยกระดับตัวเองในตระกูลบดินทร์ธร เธออิจฉาเต็มเดือนที่เป็นภรรยาคนแรกและมีอำนาจในบ้าน และยิ่งเกลียดชังเวียงแก้วที่เคยเป็นสาวใช้แต่ได้ใจปกรณ์ ชะตากรรมจงจิตรถูกฆาตกรรมในช่วงกลางเรื่อง ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เพิ่มความลึกลับและความสยองขวัญให้กับละคร การตายของเธอเกี่ยวข้องกับปมปริศนาและความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว

บุคลิกและนิสัย
ทะเยอทะยานและมักใหญ่ใฝ่สูง จงจิตรเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูง เธอต้องการให้ตัวเองและดารกาได้รับส่วนแบ่งมรดกและอำนาจในตระกูลมากที่สุด ซึ่งทำให้เธอมักแข่งขันกับภรรยาคนอื่น โดยเฉพาะเต็มเดือน อิจฉาและขมขื่น เช่นเดียวกับเต็มเดือน จงจิตรมีความอิจฉา โดยเฉพาะต่อเวียงแก้วที่ได้ใจปกรณ์และมีลูกสาว (ร้อยดาว) เธอยังอิจฉาเต็มเดือนที่ครองตำแหน่งภรรยาคนแรก ความอิจฉานี้ทำให้เธอแสดงออกด้วยความเย็นชาและการกลั่นแกล้ง

เจ้าเล่ห์และคำนวณ จงจิตรเป็นคนเจ้าเล่ห์และวางแผนเก่ง เธอพยายามหาทางกำจัดคู่แข่งและปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองและลูกสาว แต่ความเจ้าเล่ห์ของเธอมักอยู่ภายใต้เงาของเต็มเดือน ซึ่งมีอำนาจมากกว่า เปราะบางและหวาดระแวง ภายใต้ท่าทีที่แข็งกร้าว จงจิตรมีความเปราะบาง เธอกลัวการสูญเสียสถานะและเริ่มหวาดระแวงเมื่อวิญญาณของเวียงแก้วเริ่มหลอกหลอน ซึ่งนำไปสู่ความตึงเครียดและการตายของเธอ

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) จงจิตรและเต็มเดือนมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียด เธอพยายามแข่งขันกับเต็มเดือนเพื่อครองอำนาจในบ้าน แต่เต็มเดือนมักเหนือกว่าเพราะความร้ายกาจและอิทธิพลที่มากกว่า จงจิตรจึงอยู่ในตำแหน่งที่ทั้งเกรงกลัวและท้าทายเต็มเดือน

กับเวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) จงจิตรเกลียดชังเวียงแก้วอย่างมาก เพราะมองว่าเวียงแก้วเป็นสาวใช้ที่ไม่สมควรได้เป็นภรรยาของปกรณ์ เธอมีส่วนร่วมทางอ้อมในการดูถูกและกดขี่เวียงแก้ว ซึ่งทำให้เธอเป็นเป้าหมายของความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) จงจิตรปฏิเสธและกลั่นแกล้งเมดา (ที่ทุกคนคิดว่าเป็นร้อยดาว) เพราะเห็นว่าเมดาเป็นลูกของเวียงแก้วและอาจมาแย่งมรดก เธอมักแสดงความเย็นชาและพูดจาเสียดสีเมดา

กับดารกา จงจิตรรักและปกป้อง ดารกา ลูกสาวของเธออย่างมาก เธอพยายามผลักดันให้ดารกาได้เปรียบในตระกูล และมักสอนให้ลูกสาวแสดงออกด้วยความมั่นใจและแข็งแกร่ง

กับสร้อยฟ้า จงจิตรดูถูก สร้อยฟ้า (ภรรยาคนที่สาม) เพราะมองว่าสร้อยฟ้ามีสถานะต่ำกว่าและขาดความทะเยอทะยาน เธอมักควบคุมหรือกดดันสร้อยฟ้าในบางสถานการณ์

กับปกรณ์ จงจิตรรักปกรณ์ แต่รู้สึกขมขื่นที่เขาให้ความสำคัญกับเวียงแก้วมากกว่า ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงเต็มไปด้วยความตึงเครียด

กับดำรง (พิศาล อัครเศรณี) ดำรง พ่อของปกรณ์ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับจงจิตรมากนัก ซึ่งทำให้เธอรู้สึกด้อยค่าและยิ่งเพิ่มความทะเยอทะยานในการพิสูจน์ตัวเอง

บทบาทในเรื่อง
ตัวเร่งความขัดแย้ง จงจิตรเป็นหนึ่งในตัวละครที่สร้างความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร การกลั่นแกล้งเมดาและการแข่งขันกับภรรยาคนอื่นช่วยเพิ่มความตึงเครียดและดราม่าในเรื่อง ในฐานะผู้ที่มีส่วนในการกดขี่เวียงแก้ว จงจิตรกลายเป็นเป้าหมายของวิญญาณเวียงแก้ว การตายของเธอเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เพิ่มความสยองขวัญและปริศนาให้กับเรื่อง

ตัวแทนของความโลภและผลกรรม ความทะเยอทะยานและความอิจฉาของจงจิตรนำไปสู่จุดจบที่โหดร้าย เธอเป็นตัวอย่างของตัวละครที่ได้รับผลกรรมจากความชั่วร้ายของตัวเอง การตายของจงจิตรเป็นส่วนหนึ่งของปมปริศนาที่เมดาและทีมต้องสืบ การตายของเธอช่วยกระตุ้นให้เมดายิ่งมุ่งมั่นค้นหาความจริงเกี่ยวกับเวียงแก้ว

การแสดงของ พิมพรรณ ชลายนคุปต์
พิมพรรณ ชลายนคุปต์ ถ่ายทอดบท จงจิตร ได้อย่างน่าประทับใจ เธอนำเสนอความร้ายกาจ ความทะเยอทะยาน และความเปราะบางของตัวละครได้อย่างลงตัว ความร้ายกาจที่น่าเกรงขาม พิมพรรณใช้สายตาและน้ำเสียงที่เฉียบคมเพื่อแสดงถึงความเจ้าเล่ห์และความอิจฉาของจงจิตร ฉากที่เธอกลั่นแกล้งเมดาหรือเผชิญหน้ากับเต็มเดือนเต็มไปด้วยพลัง

ความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ ในฉากที่จงจิตรเริ่มหวาดกลัววิญญาณเวียงแก้ว พิมพรรณสามารถแสดงถึงความตื่นตระหนกและความเสียสติได้อย่างน่าเชื่อ ทำให้ผู้ชมเห็นด้านที่อ่อนแอของตัวละคร ความมีมิติ การแสดงของพิมพรรณทำให้จงจิตรไม่ใช่แค่ตัวร้ายธรรมดา แต่เป็นตัวละครที่มีปมในใจและความขมขื่น ซึ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับบทบาท

จุดเด่น ความสามารถในการถ่ายทอดความร้ายกาจที่แฝงด้วยความเปราะบาง ทำให้จงจิตรเป็นตัวละครที่ทั้งน่าเกลียดชังและน่าสงสารในบางมุม การแสดงของพิมพรรณช่วยยกระดับความเข้มข้นของละคร โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในตระกูล

จงจิตร เป็นตัวละครรองที่ทั้งร้ายกาจ ทะเยอทะยาน และเปราะบาง เธอเป็นหนึ่งในตัวเร่งความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร และเป็นเป้าหมายของความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว การแสดงของ พิมพรรณ ชลายนคุปต์ ทำให้จงจิตรเป็นตัวละครที่มีมิติ ทั้งน่าเกลียดชังและน่าสนใจในเวลาเดียวกัน การตายของเธอเพิ่มความลึกลับและความสยองขวัญให้กับเรื่อง และช่วยย้ำธีมของผลกรรมและความยุติธรรม จงจิตรจึงเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็มความเข้มข้นของ เวียงร้อยดาว ได้อย่างดี

→ กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ รับบท สร้อยฟ้า

กัลยา เลิศเกษมทรัพย์

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นหนึ่งในภรรยาของ ปกรณ์ บดินทร์ธร และเป็นตัวละครที่เพิ่มมิติให้กับความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร สร้อยฟ้าเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อน ผสมผสานความอ่อนแอ ความหวาดกลัว และความพยายามปกป้องครอบครัวของตัวเอง

สร้อยฟ้าเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและความซับซ้อนให้กับ เวียงร้อยดาว เพิ่มความขัดแย้งในตระกูลผ่านการกลั่นแกล้งเมดาและการปกป้องผลประโยชน์ของลูกๆ เป็นส่วนหนึ่งของปมความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสยองขวัญและปริศนาให้กับเรื่อง

เป็นตัวแทนของตัวละครที่อ่อนแอและต้องเผชิญผลกรรม ซึ่งช่วยย้ำธีมของความยุติธรรมและผลจากการกระทำในอดีตเพิ่มมิติทางอารมณ์ผ่านการแสดงความรักต่อลูกและการเสียสติที่น่าสงสาร ทำให้ผู้ชมรู้สึกผสมผสานระหว่างความไม่ชอบและความเห็นใจ

ภูมิหลังและตัวตน
สร้อยฟ้า เป็นภรรยาคนที่สามของ ปกรณ์ บดินทร์ธร เจ้าของคฤหาสน์บดินทร์ธรในเมืองเวฬุมาศ เธอมีสถานะต่ำกว่า เต็มเดือน (ภรรยาคนแรก) และ จงจิตร (ภรรยาคนที่สอง) แต่สูงกว่า เวียงแก้ว (ภรรยาคนที่สี่) สร้อยฟ้ามีลูกสองคนคือ วีระวิทย์ และ ดาราเรศ ซึ่งเธอรักและปกป้องอย่างสุดใจ เธอหวังให้ลูกๆ ได้รับส่วนแบ่งมรดกและมีอนาคตที่ดีในตระกูล

อดีตสร้อยฟ้าเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะมาจากภูมิหลังที่ไม่สูงส่งเท่าภรรยาคนอื่น เธอแต่งงานกับปกรณ์และพยายามรักษาตำแหน่งของตัวเองในตระกูล แต่ขาดความมั่นใจและมักถูกกดขี่โดยเต็มเดือนและจงจิตร ชะตากรรม สร้อยฟ้าค่อยๆ เสียสติจากความกลัววิญญาณของเวียงแก้วและความกดดันในตระกูล เธอกลายเป็นตัวละครที่น่าสงสารในช่วงท้ายเรื่อง เนื่องจากต้องเผชิญกับผลกระทบจากความขัดแย้งและความแค้นในอดีต

บุคลิกและนิสัย
อ่อนแอและขาดความมั่นใจ สร้อยฟ้าเป็นภรรยาที่ดูอ่อนแอกว่าเต็มเดือนและจงจิตร เธอมักยอมจำนนต่ออำนาจของภรรยาคนอื่นและไม่กล้าแสดงออกอย่างแข็งกร้าว ซึ่งทำให้เธออยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบในตระกูล หวาดกลัวและหวาดระแวง สร้อยฟ้ามีความหวาดกลัวต่อเหตุการณ์ลึกลับในคฤหาสน์ โดยเฉพาะเมื่อวิญญาณของเวียงแก้วเริ่มหลอกหลอน ความกลัวนี้ทำให้เธอค่อยๆ เสียสติและกลายเป็นคนที่ตื่นตระหนกง่าย

รักและปกป้องครอบครัว แม้ว่าสร้อยฟ้าจะอ่อนแอ เธอมีความรักที่ยิ่งใหญ่ต่อวีระวิทย์และดาราเรศ เธอพยายามปกป้องลูกๆ จากความขัดแย้งในตระกูลและหวังให้พวกเขามีอนาคตที่ดี ซึ่งแสดงถึงความเป็นแม่ที่เสียสละ ขมขื่นและอิจฉาเล็กน้อย สร้อยฟ้ามีความขมขื่นจากการถูกกดขี่โดยภรรยาคนอื่น เธอยังมีความอิจฉาเวียงแก้วที่ได้ใจปกรณ์และมีลูกสาว (ร้อยดาว) แต่ความอิจฉาของเธอไม่รุนแรงเท่าเต็มเดือนหรือจงจิตร

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) สร้อยฟ้าอยู่ภายใต้อิทธิพลของเต็มเดือน เธอมักถูกเต็มเดือนกดขี่และดูถูก ซึ่งทำให้เธอไม่กล้าขัดขืนหรือท้าทาย ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นแบบเจ้านายและผู้ใต้บังคับบัญชา

กับจงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) สร้อยฟ้าถูกจงจิตรดูถูกและกดดันเช่นกัน เธอรู้สึกด้อยกว่าจงจิตรที่มีความทะเยอทะยานและเจ้าเล่ห์กว่า ซึ่งทำให้สร้อยฟ้ามักหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับจงจิตร

กับเวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) สร้อยฟ้ามีส่วนในการดูถูกเวียงแก้วในอดีต เพราะมองว่าเวียงแก้วเป็นสาวใช้ที่ไม่สมควรได้เป็นภรรยาของปกรณ์ การกระทำของเธอในอดีตทำให้เธอเป็นเป้าหมายของความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) สร้อยฟ้าไม่ต้อนรับเมดา (ที่ทุกคนคิดว่าเป็นร้อยดาว) และมองว่าเมดาเป็นภัยคุกคามต่อมรดกของลูกๆ เธอแสดงความเย็นชาและร่วมมือกับภรรยาคนอื่นในการกลั่นแกล้งเมดา

กับวีระวิทย์และดาราเรศ สร้อยฟ้ารักและปกป้อง วีระวิทย์ และ ดาราเรศ ลูกของเธออย่างมาก เธอพยายามผลักดันให้ทั้งคู่ได้เปรียบในตระกูล แต่ดาราเรศมักแสดงออกด้วยความโลภและกลั่นแกล้งเมดา ซึ่งบางครั้งขัดใจสร้อยฟ้า

กับปกรณ: สร้อยฟ้ารักปกรณ์ แต่รู้สึกด้อยค่าเมื่อเทียบกับเวียงแก้วที่ได้ใจเขา เธอพยายามรักษาตำแหน่งของตัวเองในตระกูล แต่ไม่สามารถแข่งขันกับภรรยาคนอื่นได้

กับดำรง (พิศาล อัครเศรณี) ดำรง พ่อของปกรณ์ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับสร้อยฟ้ามากนัก ซึ่งยิ่งเพิ่มความรู้สึกด้อยค่าและความหวาดกลัวของเธอในตระกูล

บทบาทในเรื่อง
ตัวเร่งความขัดแย้ง สร้อยฟ้ามีส่วนในการสร้างความขัดแย้งในตระกูลผ่านการกลั่นแกล้งเมดาและการปกป้องผลประโยชน์ของลูกๆ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่ตัวร้ายหลัก แต่การกระทำของเธอช่วยเพิ่มความตึงเครียดในคฤหาสน์ เป้าหมายของความแค้น ในฐานะผู้ที่มีส่วนในการกดขี่เวียงแก้วในอดีต สร้อยฟ้ากลายเป็นเป้าหมายของวิญญาณเวียงแก้ว ความกลัวและการเสียสติของเธอช่วยเพิ่มความสยองขวัญให้กับเรื่อง

ตัวแทนของความอ่อนแอและผลกรรม สร้อยฟ้าเป็นตัวอย่างของตัวละครที่อ่อนแอและต้องเผชิญผลจากความผิดในอดีต การที่เธอค่อยๆ เสียสติแสดงถึงผลกระทบของความชั่วร้ายที่เธอมีส่วนร่วม ตัวละครที่น่าสงสาร การที่สร้อยฟ้าต้องเผชิญกับความกลัวและความสูญเสียในครอบครัวทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่น่าสงสารในช่วงท้ายเรื่อง ซึ่งช่วยเพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับละคร

การแสดงของ กัลยา เลิศเกษมทรัพย์
กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ ถ่ายทอดบท สร้อยฟ้า ได้อย่างน่าประทับใจ เธอนำเสนอทั้งความอ่อนแอ ความหวาดกลัว และความรักของตัวละครได้อย่างลงตัว ความอ่อนแอที่น่าเชื่อ กัลยาใช้ท่าทางที่ตื่นตระหนกและน้ำเสียงที่สั่นเครือเพื่อแสดงถึงความขาดความมั่นใจและความหวาดกลัวของสร้อยฟ้า โดยเฉพาะในฉากที่เธอเผชิญหน้ากับวิญญาณเวียงแก้ว

ความรักของแม่ ฉากที่สร้อยฟ้าแสดงความห่วงใยต่อวีระวิทย์และดาราเรศเต็มไปด้วยความจริงใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเป็นแม่ที่เสียสละของตัวละคร ความเสียสติที่น่าสงสาร ในช่วงที่สร้อยฟ้าค่อยๆ เสียสติจากการถูกหลอกหลอน กัลยาสามารถแสดงถึงความแตกสลายทางจิตใจได้อย่างน่าเห็นใจ ทำให้ผู้ชมรู้สึกสงสารตัวละครนี้

จุดเด่นความสามารถในการถ่ายทอดความเปราะบางและความหวาดกลัวทำให้สร้อยฟ้าเป็นตัวละครที่มีมิติ ไม่ใช่แค่ภรรยาที่ร้ายกาจ แต่เป็นคนที่มีความอ่อนแอและต้องเผชิญผลจากความผิดในอดีต เนื่องจากสร้อยฟ้าไม่ใช่ตัวร้ายหลักเหมือนเต็มเดือนหรือมีบทบาทเด่นเท่าจงจิตร การแสดงของกัลยาอาจไม่โดดเด่นเท่านักแสดงหลัก แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตและน่าจดจำ

สร้อยฟ้า เป็นตัวละครรองที่มีความซับซ้อน ผสมผสานความอ่อนแอ ความหวาดกลัว และความรักต่อครอบครัว เธอเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งและความชั่วร้ายในตระกูลบดินทร์ธร แต่ก็เป็นตัวละครที่น่าสงสารเมื่อต้องเผชิญผลจากความผิดในอดีต การแสดงของ กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ ทำให้สร้อยฟ้าเป็นตัวละครที่มีมิติ ทั้งน่าไม่ชอบและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน การเสียสติของเธอช่วยเพิ่มความสยองขวัญและความเข้มข้นให้กับ เวียงร้อยดาว ทำให้เธอเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็มเรื่องราวได้อย่างดี

→ วิรากานต์ เสณีตันติกุล รับบท ดาราเรศ

วิรากานต์ เสณีตันติกุล

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นลูกสาวของ สร้อยฟ้า และเป็นหนึ่งในตัวละครที่เพิ่มความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร ดาราเรศเป็นตัวละครที่มีความร้ายกาจ โลภ และมักใหญ่ใฝ่สูง ซึ่งทำให้เธอเป็นตัวละครที่ผู้ชมทั้งน่าเกลียดชังและน่าสนใจ

ดาราเรศเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและความขัดแย้งให้กับ เวียงร้อยดาว สร้างความขัดแย้งในตระกูลผ่านการกลั่นแกล้งเมดาและการแข่งขันกับทายาทคนอื่น เป็นตัวแทนของความโลภและความชั่วร้ายรุ่นใหม่ ซึ่งช่วยสะท้อนวงจรของความแค้นและความอยุติธรรมในตระกูลบดินทร์ธร

กระตุ้นความเห็นใจในเมดาและทำให้ผู้ชมอยากเห็นเมดาเอาชนะความร้ายกาจของเธอ เป็นตัวละครที่ได้รับผลกรรม ซึ่งช่วยย้ำธีมของความยุติธรรมและผลจากการกระทำชั่ว

ภูมิหลังและตัวตน
ดาราเรศ เป็นลูกสาวของ สร้อยฟ้า (ภรรยาคนที่สามของ ปกรณ์ บดินทร์ธร) และเป็นน้องสาวของ วีระวิทย์ เธอเป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลบดินทร์ธรที่มีสิทธิ์ในมรดก ดาราเรศเติบโตในคฤหาสน์บดินทร์ธรภายใต้การเลี้ยงดูของสร้อยฟ้า ผู้เป็นแม่ที่รักและปกป้องเธอ เธอมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแม่ แต่มีความขัดแย้งกับทายาทคนอื่นในตระกูล โดยเฉพาะ เมดา/ร้อยดาว

อดีตดาราเรศถูกเลี้ยงดูให้มีความทะเยอทะยานและหวังจะได้ส่วนแบ่งมรดกมากที่สุด เธอได้รับอิทธิพลจากความขมขื่นและความอิจฉาของแม่และภรรยาคนอื่นในตระกูล ซึ่งหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนที่เห็นแก่ตัวและร้ายกาจ ชะตากรรมดาราเรศต้องเผชิญผลจากความโลภและความร้ายกาจของตัวเองในตอนท้ายเรื่อง เธอไม่ได้รับส่วนแบ่งมรดกตามที่หวังและกลายเป็นตัวละครที่สูญเสียทั้งอำนาจและศักดิ์ศรี

บุคลิกและนิสัย
ร้ายกาจและเห็นแก่ตัว ดาราเรศเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยความร้ายกาจ เธอมักกลั่นแกล้งและดูถูก เมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เพราะมองว่าเมดาเป็นภัยคุกคามต่อมรดกที่เธอหวังจะได้ โลภและมักใหญ่ใฝ่สูง ดาราเรศมีความทะเยอทะยานสูง เธอต้องการครองส่วนแบ่งมรดกของตระกูลและยกระดับสถานะของตัวเอง ความโลภนี้ทำให้เธอกระทำการที่ไร้ศีลธรรมและขาดความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

หยิ่งยโสและดูถูกคนอื่นดาราเรศมีท่าทีหยิ่งผยองและมักดูถูกคนที่เธอมองว่าต่ำกว่า โดยเฉพาะเมดาที่เธอคิดว่าเป็นลูกของ เวียงแก้ว ซึ่งเคยเป็นสาวใช้ เธอยังแสดงความเหยียดหยามต่อตัวละครอื่น เช่น น่านฟ้า และ กระถิน ขาดความมั่นคงทางอารมณ์แม้ว่าดาราเรศจะดูมั่นใจในตัวเอง แต่เธอก็มีความเปราะบางและหวาดกลัวเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ลึกลับ เช่น การปรากฏตัวของวิญญาณเวียงแก้ว ซึ่งทำให้เธอตื่นตระหนกและเสียการควบคุม

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) ดาราเรศเป็นลูกสาวที่ สร้อยฟ้า รักและปกป้องอย่างมาก สร้อยฟ้าพยายามผลักดันให้ดาราเรศได้เปรียบในตระกูล แต่ดาราเรศมักแสดงออกด้วยความร้ายกาจเกินกว่าที่แม่คาดหวัง ซึ่งบางครั้งทำให้สร้อยฟ้ารู้สึกกังวล

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ดาราเรศเกลียดชังเมดาและมองว่าเธอเป็นคู่แข่งในการแย่งชิงมรดก เธอมักกลั่นแกล้งเมดาด้วยการพูดจาเสียดสีหรือร่วมมือกับ ดารกา เพื่อทำให้เมดาอับอาย ความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่เป็นส่วนสำคัญของดราม่าในเรื่อง

กับวีระวิทย์ วีระวิทย์ พี่ชายของดาราเรศ มีบุคลิกที่แตกต่างจากเธอ เขาดูเป็นคนที่สุขุมและไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งในตระกูล ดาราเรศจึงมักเป็นฝ่ายที่แสดงออกมากกว่าในนามของครอบครัว

กับดารกา ดาราเรศและ ดารกา (ลูกสาวของ จงจิตร) เป็นเหมือนคู่หูในการกลั่นแกล้งเมดา ทั้งคู่มีความทะเยอทะยานและร้ายกาจเหมือนกัน ทำให้พวกเธอมักร่วมมือกันเพื่อต่อต้านเมดา

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ดาราเรศอยู่ในเงาของเต็มเดือน เธอเคารพและเกรงกลัวเต็มเดือนในฐานะภรรยาคนแรกที่มีอำนาจในบ้าน และมักทำตามคำสั่งของเต็มเดือนในการกลั่นแกล้งเมดา

กับน่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) และกระถิน ดาราเรศมักดูถูก น่านฟ้า และ กระถิน ที่เป็นเพื่อนของเมดา เธอแสดงท่าทีเหยียดหยามและพยายามข่มขู่ทั้งคู่ แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะความกล้าหาญของพวกเขาได้

บทบาทในเรื่อง
ตัวเร่งความขัดแย้งดาราเรศเป็นหนึ่งในตัวละครที่สร้างความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร การกลั่นแกล้งเมดาและการแสดงออกที่ร้ายกาจของเธอช่วยเพิ่มความตึงเครียดและดราม่าในเรื่อง ตัวแทนของความโลภและความชั่วร้ายรุ่นใหม่ ดาราเรศเป็นตัวละครที่สะท้อนความโลภและความร้ายกาจที่ถ่ายทอดมาจากรุ่นแม่ (เต็มเดือน, จงจิตร, สร้อยฟ้า) เธอเป็นตัวอย่างของทายาทที่ได้รับอิทธิพลจากความขมขื่นของครอบครัว

ตัวกระตุ้นความเห็นใจในเมดาการที่ดาราเรศและดารกากลั่นแกล้งเมดาทำให้ผู้ชมรู้สึกสงสารเมดาและอยากเห็นเธอเอาชนะความอยุติธรรม ซึ่งช่วยยกระดับความน่าสนใจของตัวละครหลัก ตัวละครที่ได้รับผลกรรม ความร้ายกาจและความโลภของดาราเรศนำไปสู่จุดจบที่เธอไม่ได้รับสิ่งที่หวัง เธอสูญเสียโอกาสในมรดกและต้องเผชิญกับความล้มเหลว ซึ่งช่วยย้ำธีมของผลกรรมในเรื่อง

การแสดงของ วิรากานต์ เสณีตันติกุล
วิรากานต์ เสณีตันติกุล ถ่ายทอดบท ดาราเรศ ได้อย่างน่าประทับใจ เธอนำเสนอความร้ายกาจ ความหยิ่งยโส และความเปราะบางของตัวละครได้อย่างลงตัว ความร้ายกาจที่น่าเกลียดชังวิรากานต์ใช้สายตาที่เย่อหยิ่งและน้ำเสียงที่เสียดสีเพื่อแสดงถึงความร้ายกาจของดาราเรศ ฉากที่เธอกลั่นแกล้งเมดาหรือพูดจาดูถูกผู้อื่นเต็มไปด้วยพลังที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกหมั่นไส้

ความเปราะบางที่ซ่อนอยู่ในฉากที่ดาราเรศเริ่มหวาดกลัววิญญาณเวียงแก้วหรือเผชิญกับความล้มเหลว วิรากานต์สามารถแสดงถึงความตื่นตระหนกและความเสียใจได้อย่างน่าเชื่อ เคมีกับตัวละครอื่นวิรากานต์มีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับนักแสดงที่รับบท ดารกา ในฉากที่ทั้งคู่ร่วมมือกันกลั่นแกล้งเมดา และกับ กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ (สร้อยฟ้า) ในฉากที่แสดงถึงความสัมพันธ์แม่ลูก

จุดเด่น ความสามารถในการถ่ายทอดความร้ายกาจที่แฝงด้วยความเปราะบางทำให้ดาราเรศเป็นตัวละครที่มีมิติ เธอไม่ใช่แค่ตัวร้ายที่ไร้เหตุผล แต่เป็นคนที่ถูกหล่อหลอมโดยสภาพแวดล้อมในตระกูล เนื่องจากดาราเรศเป็นตัวละครรองและมีบทบาทที่จำกัดเมื่อเทียบกับตัวร้ายหลักอย่าง เต็มเดือน การแสดงของวิรากานต์อาจไม่โดดเด่นเท่านักแสดงหลัก แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตและน่าจดจำ

ดาราเรศ เป็นตัวละครรองที่ร้ายกาจ โลภ และมักใหญ่ใฝ่สูง เธอเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธรและช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับเรื่องราวผ่านการกลั่นแกล้งเมดาและการแข่งขันเพื่อมรดก การแสดงของ วิรากานต์ เสณีตันติกุล ทำให้ดาราเรศเป็นตัวละครที่ทั้งน่าเกลียดชังและน่าสนใจ ด้วยความร้ายกาจที่แฝงด้วยความเปราะบาง การที่เธอต้องเผชิญผลกรรมในตอนจบช่วยย้ำธีมของความยุติธรรม และทำให้เธอเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็ม เวียงร้อยดาว ได้อย่างดี

→ ภัทรากร ตั้งศุภกุล รับบท ดาหลา

ภัทรากร ตั้งศุภกุล

ตัวละครรองที่มีบทบาทเล็กแต่สำคัญในฐานะเพื่อนสนิทของ เมดา/ร้อยดาว และเป็นตัวละครที่เพิ่มความอบอุ่นและมิตรภาพให้กับเรื่องราว ดาหลาเป็นตัวละครที่นำความสดใสและความเป็นมิตรมาสู่ละครที่เต็มไปด้วยดราม่าและความสยองขวัญ

ดาหลาเป็นตัวละครรองที่ไม่ได้มีส่วนสำคัญในปมปริศนาหลักหรือความขัดแย้งของตระกูลบดินทร์ธร แต่มีบทบาทในการ
เพิ่มความอบอุ่นและมิตรภาพให้กับเรื่องราวผ่านความสัมพันธ์กับเมดา เป็นตัวแทนของชีวิตในอังกฤษของเมดา ซึ่งช่วยให้ผู้ชมเข้าใจภูมิหลังของนางเอก

เติมเต็มตอนจบด้วยการลงเอยที่สมหวังกับปรมัตถ์ ซึ่งช่วยให้เรื่องราวมีบทสรุปที่ครบถ้วนและน่าพึงพอใจ การปรากฏตัวของดาหลาในช่วงต้นเรื่องช่วยสร้างความรู้สึกว่ามีคนที่ห่วงใยเมดา และทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับนางเอกมากขึ้น

ภูมิหลังและตัวตน
ดาหลา เป็นเพื่อนสนิทของ เมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ที่รู้จักกันในอังกฤษ เธอเป็นหญิงสาวที่มีฐานะดีและมีการศึกษาสูง คล้ายกับ มาร์ค ซึ่งเป็นเพื่อนอีกคนของเมดา ละครไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับครอบครัวของดาหลา แต่จากบริบท เธอน่าจะมาจากครอบครัวที่มีฐานะและได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี

บทบาทในเรื่อง ดาหลาเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวเพื่อสนับสนุนเมดาในช่วงที่เธอเผชิญกับความยากลำบากในคฤหาสน์บดินทร์ธร เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับปมปริศนาหรือความขัดแย้งในตระกูล แต่มีบทบาทสำคัญในตอนจบเมื่อเธอลงเอยกับ ปรมัตถ์ ชะตากรรม ในตอนจบ ดาหลาลงเอยกับ ปรมัตถ์ (จรณ โสรัตน์) ซึ่งเป็นการปิดท้ายที่สมหวังสำหรับตัวละครรอง และช่วยเพิ่มความรู้สึกแฮปปี้เอนดิ้งให้กับเรื่อง

บุคลิกและนิสัย
ร่าเริงและเป็นมิตร ดาหลาเป็นตัวละครที่มีบุคลิกสดใสและเป็นกันเอง เธอมักพูดจาด้วยน้ำเสียงที่เบิกบานและมีท่าทีที่ทำให้คนรอบข้างรู้สึกสบายใจ จิตใจดีและภักดี ดาหลาแสดงความห่วงใยต่อเมดาด้วยความจริงใจ เธอพร้อมที่จะสนับสนุนและให้กำลังใจเมดาในยามที่เธอต้องเผชิญกับความเกลียดชังจากตระกูลบดินทร์ธร

ฉลาดและมีไหวพริบแม้ว่าดาหลาจะไม่ใช่ตัวละครที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนเหมือน ปรมัตถ์ หรือ สิบทิศ แต่เธอก็แสดงถึงความฉลาดและความสามารถในการปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ อบอุ่นและน่ารัก ดาหลามีบุคลิกที่น่ารักและอบอุ่น ซึ่งทำให้เธอเป็นตัวละครที่ผู้ชมรู้สึกชื่นชอบและอยากเห็นในฉากที่เน้นมิตรภาพ

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ดาหลาเป็นเพื่อนสนิทของเมดาจากอังกฤษ เธอเดินทางมาเยี่ยมเมดาที่คฤหาสน์บดินทร์ธรและคอยให้กำลังใจเมื่อเมดาต้องเผชิญกับความยากลำบาก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นมิตรภาพที่บริสุทธิ์และเต็มไปด้วยความห่วงใย

กับปรมัตถ์ (จรณ โสรัตน์) ดาหลาลงเอยกับปรมัตถ์ในตอนจบของเรื่อง แม้ว่าละครจะไม่ได้แสดงพัฒนาการความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากนัก แต่การจับคู่ในตอนจบนี้ช่วยให้ตัวละครทั้งสองมีบทสรุปที่สมหวัง

กับมาร์ค (เมธัส ปรีรัตนวารี) ดาหลาและมาร์คเป็นเพื่อนของเมดาจากอังกฤษ และน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในฐานะกลุ่มเพื่อน แม้ว่าจะไม่มีฉากที่แสดงปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างทั้งคู่มากนัก

กับน่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) และกระถิน ดาหลาน่าจะมีปฏิสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับ น่านฟ้า และ กระถิน ในฐานะส่วนหนึ่งของกลุ่มที่สนับสนุนเมดา แต่ละครไม่ได้เน้นความสัมพันธ์นี้มากนัก

กับตระกูลบดินทร์ธร ดาหลาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับความขัดแย้งในตระกูล เธอเป็นเพียงบุคคลภายนอกที่เข้ามาในเรื่องชั่วคราว และไม่ได้เผชิญหน้ากับตัวละครร้ายอย่าง เต็มเดือน, จงจิตร, หรือ ดาราเรศ

บทบาทในเรื่อง
ตัวละครที่เพิ่มความอบอุ่นดาหลาเป็นตัวละครที่นำความสดใสและความรู้สึกเป็นมิตรมาสู่เรื่อง เธอช่วยสร้างความสมดุลในละครที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดและความสยองขวัญ ตัวแทนของมิตรภาพความสัมพันธ์ของดาหลากับเมดาแสดงถึงมิตรภาพที่แท้จริงและการสนับสนุนที่ไม่มีเงื่อนไข เธอเป็นหนึ่งในตัวละครที่ช่วยให้เมดาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในช่วงที่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก

ตัวเชื่อมโยงชีวิตในอังกฤษเช่นเดียวกับ มาร์ค, ดาหลาเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงชีวิตในอังกฤษของเมดากับเหตุการณ์ในประเทศไทย การปรากฏตัวของเธอช่วยให้ผู้ชมเห็นว่าเมดามีเพื่อนที่ห่วงใยจากอดีต ตัวละครที่เติมเต็มตอนจบ การที่ดาหลาลงเอยกับปรมัตถ์ในตอนจบช่วยให้ตัวละครรองทั้งสองมีบทสรุปที่สมหวัง และเพิ่มความรู้สึกแฮปปี้เอนดิ้งให้กับเรื่องราว

การแสดงของ ภัทรากร ตั้งศุภกุล
ภัทรากร ตั้งศุภกุล ถ่ายทอดบท ดาหลา ได้อย่างเหมาะสมและน่ารัก เธอนำเสนอบุคลิกที่สดใสและเป็นมิตรของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความร่าเริงภัทรากรใช้รอยยิ้มและน้ำเสียงที่เบิกบานเพื่อแสดงถึงความร่าเริงของดาหลา ซึ่งทำให้ฉากที่เธอปรากฏตัวรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย

ความจริงใจการแสดงความห่วงใยต่อเมดาของภัทรากรดูเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อ ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเป็นเพื่อนแท้ของตัวละคร เคมีกับตัวละครอื่น ภัทรากรมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ ณฐพร เตมีรักษ์ (เมดา) ในฉากที่แสดงถึงมิตรภาพ และช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดูน่ารักและน่าประทับใจ

เนื่องจากดาหลาเป็นตัวละครรองที่มีบทบาทจำกัดและไม่มีปมดราม่าที่ซับซ้อน การแสดงของภัทรากรจึงอาจไม่โดดเด่นเท่าตัวละครหลัก แต่เธอก็สามารถทำให้ดาหลาเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำในบทบาทของเธอ

ดาหลา เป็นตัวละครรองที่เปี่ยมด้วยความร่าเริง จิตใจดี และความภักดีในฐานะเพื่อนของเมดา/ร้อยดาว เธอเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นและมิตรภาพให้กับ เวียงร้อยดาว แม้ว่าจะมีบทบาทจำกัด การแสดงของ ภัทรากร ตั้งศุภกุล ทำให้ดาหลาเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำในบทบาทของเพื่อนที่เป็นกำลังใจ การลงเอยที่สมหวังกับปรมัตถ์ในตอนจช่วยให้ตัวละครนี้มีบทสรุปที่สมบูรณ์ และเพิ่มความรู้สึกแฮปปี้เอนดิ้งให้กับเรื่องราว

→ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย รับบท กระถิน

00 A5B2762788C7E700
สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย

ตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในฐานะหลานสาวของ นมแสง และเพื่อนสนิทของ เมดา/ร้อยดาว กระถินเป็นตัวละครที่นำความสดใส ความกล้าหาญ และความจงรักภักดีมาสู่เรื่องราว ช่วยเพิ่มสีสันและความอบอุ่นให้กับละครที่เต็มไปด้วยดราม่าและความสยองขวัญ

กระถินเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับเรื่องราวของ เวียงร้อยดาว เพิ่มความสดใสและพลังบวกให้กับละครผ่านบุคลิกที่ร่าเริงและการกระทำที่กล้าหาญ ช่วยขับเคลื่อนการสืบสวนโดยให้ข้อมูลและเบาะแสที่สำคัญเกี่ยวกับคฤหาสน์และตระกูลบดินทร์ธร เป็นตัวแทนของมิตรภาพและความภักดีที่ช่วยให้เมดาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในการต่อสู้กับความอยุติธรรม สะท้อนถึงความหวังและโอกาสใหม่ผ่านการไปเรียนต่อในตอนจบ ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกแง่บวกให้กับเรื่องราว

ภูมิหลังและตัวตน
ชกระถิน เป็นหลานสาวของ นมแสง ข้ารับใช้เก่าแก่ที่เคยรับใช้ เวียงแก้ว เธออาศัยอยู่ในคฤหาสน์บดินทร์ธรและทำงานเป็นคนรับใช้หรือช่วยงานในบ้าน กระถินมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนมแสง ซึ่งเป็นทั้งย่าและผู้เลี้ยงดู เธอได้รับการถ่ายทอดความภักดีต่อเวียงแก้วและครอบครัวบดินทร์ธรจากนมแสง

บทบาทในเรื่อง กระถินเป็นเพื่อนสนิทและผู้ช่วยของเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เธอมีส่วนสำคัญในการช่วยเมดาสืบหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้วและปมการสลับตัวตน ชะตากรรม ในตอนจบ กระถินได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษพร้อมกับ น่านฟ้า ซึ่งแสดงถึงการเริ่มต้นใหม่และโอกาสในการพัฒนาตัวเอง สะท้อนถึงความสำเร็จและความหวังสำหรับตัวละครนี้

บุคลิกและนิสัย
ร่าเริงและมีชีวิตชีวากระถินเป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยพลังและความสดใส เธอมักนำรอยยิ้มและความสนุกสนานมาสู่ฉากที่เธอปรากฏตัว ซึ่งช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากดราม่าและความสยองขวัญของเรื่อง กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว แม้ว่าจะเป็นเพียงคนรับใช้ กระถินมีความกล้าหาญและไม่กลัวที่จะยืนหยัดเคียงข้างเมดา เธอพร้อมเผชิญหน้ากับความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธรและช่วยเหลือเมดาในสถานการณ์อันตราย

จงรักภักดีกระถินมีความภักดีต่อเมดาและนมแสง เธอช่วยเมดาด้วยความจริงใจและไม่หวังผลตอบแทน ซึ่งแสดงถึงจิตใจที่บริสุทธิ์และความซื่อสัตย์ ฉลาดและมีไหวพริบกระถินมีไหวพริบและความสามารถในการสังเกต เธอมักช่วยเมดาค้นหาเบาะแสหรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับคฤหาสน์และคนในตระกูล ซึ่งช่วยขับเคลื่อนการสืบสวนในเรื่อง

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) กระถินเป็นเพื่อนสนิทและผู้ช่วยคนสำคัญของเมดา เธอเป็นหนึ่งในคนแรกๆ ที่ต้อนรับเมดาด้วยความเป็นมิตรเมื่อเมดามาถึงคฤหาสน์บดินทร์ธร กระถินคอยให้กำลังใจและช่วยเมดาสืบหาความจริง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นมิตรภาพที่อบอุ่นและน่าประทับใจ

กับนมแสง นมแสงเป็นย่าที่กระถินรักและเคารพอย่างมาก เธอได้รับการเลี้ยงดูและคำสอนจากนมแสงให้จงรักภักดีต่อครอบครัวของเวียงแก้ว กระถินมักปรึกษานมแสงและช่วยเหลือย่าในงานต่างๆ

กับน่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) กระถินและน่านฟ้าเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ทั้งคู่มีบุคลิกที่ร่าเริงและเข้ากันได้ดี มิตรภาพของทั้งสองพัฒนาตลอดเรื่อง และในตอนจบ การที่ทั้งคู่ไปเรียนต่อด้วยกันที่อังกฤษแสดงถึงความผูกพันที่แน่นแฟ้น

กับสิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) กระถินมีความเคารพต่อสิบทิศในฐานะผู้ปกป้องเมดาและเป็นนายชายของตระกูลเวฬุมาศ เธอมักทำงานร่วมกับสิบทิศและน่านฟ้าเพื่อช่วยเมดาคลายปมปริศนา

กับตระกูลบดินทร์ธร กระถินถูกมองว่าเป็นเพียงคนรับใช้โดยตัวละครร้ายอย่าง เต็มเดือน, จงจิตร, สร้อยฟ้า, ดารกา, และ ดาราเรศ เธอมักถูกดูถูกและกลั่นแกล้ง แต่กระถินไม่ยอมจำนนและตอบโต้ด้วยความกล้าหาญและไหวพริบ

บทบาทในเรื่อง
ตัวละครที่เพิ่มสีสัน กระถินเป็นตัวละครที่นำความสดใสและพลังบวกมาสู่เรื่อง ด้วยบุคลิกที่ร่าเริงและการกระทำที่กล้าหาญ เธอช่วยให้บรรยากาศของละครไม่หนักหน่วงจนเกินไป ผู้ช่วยในการสืบสวน กระถินมีบทบาทสำคัญในการช่วยเมดาค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้วและปมการสลับตัวตน เธอใช้ความรู้เกี่ยวกับคฤหาสน์และความใกล้ชิดกับนมแสงเพื่อให้ข้อมูลและเบาะแสที่สำคัญ

ตัวแทนของมิตรภาพและความจงรักภักดี ความสัมพันธ์ของกระถินกับเมดาและน่านฟ้าแสดงถึงมิตรภาพที่แท้จริงและความภักดีที่ไม่มีเงื่อนไข เธอเป็นตัวละครที่ช่วยย้ำถึงความสำคัญของการมีเพื่อนที่ดี ตัวละครที่เติมเต็มตอนจบ การที่กระถินได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษในตอนจบแสดงถึงโอกาสใหม่และความหวังสำหรับตัวละครที่มาจากภูมิหลังที่ต่ำต้อย ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกสมหวังและแง่บวกให้กับเรื่องราว

การแสดงของ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย
สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย ถ่ายทอดบท กระถิน ได้อย่างยอดเยี่ยม เธอนำเสนอบุคลิกที่สดใส กล้าหาญ และน่ารักของตัวละครได้อย่างเป็นธรรมชาติ ความร่าเริงสุมณทิพย์ใช้รอยยิ้มและน้ำเสียงที่เปี่ยมพลังเพื่อแสดงถึงความมีชีวิตชีวาของกระถิน ฉากที่เธอพูดคุยหรือหยอกล้อกับเมดาและน่านฟ้าทำให้ผู้ชมรู้สึกใจฟู

ความกล้าหาญในฉากที่กระถินเผชิญหน้ากับตัวละครร้ายหรือช่วยเมดาในสถานการณ์ตึงเครียด สุมณทิพย์แสดงถึงความเด็ดเดี่ยวและความมุ่งมั่นได้อย่างน่าเชื่อ เคมีกับตัวละครอื่น สุมณทิพย์มีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ ณฐพร เตมีรักษ์ (เมดา) และ โฟกัส จิระกุล (น่านฟ้า) ทำให้ความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนดูเป็นธรรมชาติและน่าประทับใจ

จุดเด่นความสามารถในการถ่ายทอดความร่าเริงที่แฝงด้วยความกล้าหาญและความภักดีทำให้กระถินเป็นตัวละครที่น่ารักและน่าจดจำ การแสดงของสุมณทิพย์ช่วยยกระดับบทบาทของตัวละครรองให้โดดเด่น เนื่องจากกระถินเป็นตัวละครรองและไม่มีปมดราม่าที่ซับซ้อน การแสดงของสุมณทิพย์อาจไม่เด่นเท่าตัวละครหลักอย่างเมดาหรือเต็มเดือน แต่เธอก็สามารถทำให้กระถินเป็นตัวละครที่ผู้ชมรักได้อย่างสมบูรณ์

กระถิน เป็นตัวละครรองที่เปี่ยมด้วยความร่าเริง กล้าหาญ และความจงรักภักดี เธอเป็นเพื่อนสนิทและผู้ช่วยที่สำคัญของเมดา/ร้อยดาว และช่วยเพิ่มความสดใสให้กับ เวียงร้อยดาว การแสดงของ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย ทำให้กระถินเป็นตัวละครที่น่ารัก น่าจดจำ และเป็นที่รักของผู้ชม การไปเรียนต่อในตอนจบแสดงถึงความหวังและโอกาสใหม่ ซึ่งช่วยเติมเต็มเรื่องราวด้วยความรู้สึกแง่บวก กระถินจึงเป็นตัวละครที่ขาดไม่ได้ในการสร้างสมดุลและความอบอุ่นให้กับละคร

→ เตชิน ปิ่นราตรี รับบท วีระวิทย์

photo 78308
เตชิน ปิ่นราตรี

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นลูกชายของ สร้อยฟ้า และพี่ชายของ ดาราเรศ ในตระกูลบดินทร์ธร วีระวิทย์เป็นตัวละครที่แตกต่างจากทายาทคนอื่นในตระกูล ด้วยบุคลิกที่สงบ สุขุม และไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง

วีระวิทย์เป็นตัวละครรองที่ไม่ได้มีส่วนสำคัญในปมปริศนาหลักหรือความขัดแย้งของ เวียงร้อยดาว แต่มีบทบาทในการ
เพิ่มมิติให้ตระกูลบดินทร์ธร โดยแสดงถึงทายาทที่ไม่ร้ายกาจหรือโลภเหมือนตัวละครอื่น เป็นตัวแทนของความเป็นกลางและความเฉยเมย ซึ่งช่วยให้ผู้ชมเห็นความหลากหลายในตัวละครของตระกูล

เติมเต็มภาพของครอบครัวสร้อยฟ้า โดยเป็นลูกชายที่รักแม่และน้องสาว แต่เลือกที่จะไม่เข้าร่วมในความขัดแย้ง การปรากฏตัวของวีระวิทย์ช่วยให้ตระกูลบดินทร์ธรดูสมจริงมากขึ้น ด้วยการแสดงว่ามีสมาชิกที่ไม่ใช่ทุกคนจะร้ายกาจหรือทะเยอทะยาน

ภูมิหลังและตัวตน
วีระวิทย์ เป็นลูกชายของ สร้อยฟ้า (ภรรยาคนที่สามของ ปกรณ์ บดินทร์ธร) และเป็นพี่ชายของ ดาราเรศ เขาเป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลบดินทร์ธรที่มีสิทธิ์ในมรดก วีระวิทย์เติบโตในคฤหาสน์บดินทร์ธรภายใต้การเลี้ยงดูของสร้อยฟ้า ผู้เป็นแม่ที่รักและปกป้องเขาและน้องสาวอย่างมาก เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่และน้องสาว แต่เลือกที่จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งในตระกูล

บทบาทในเรื่อง วีระวิทย์เป็นตัวละครที่ปรากฏตัวในฐานะทายาทที่เป็นกลาง เขาไม่ค่อยมีส่วนร่วมในดราม่าหรือการกลั่นแกล้ง เมดา/ร้อยดาว และมักทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์มากกว่าผู้ลงมือกระทำ ชะตากรรม ในตอนจบ วีระวิทย์ยังคงอยู่ในตระกูลบดินทร์ธร แต่ไม่มีบทบาทเด่นในผลลัพธ์ของมรดกหรือปมปริศนา เขาเป็นตัวละครที่รอดพ้นจากความโกลาหลของเรื่องโดยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

บุคลิกและนิสัย
สงบและสุขุม วีระวิทย์มีบุคลิกที่สงบและไม่แสดงออกมากเกินไป เขาแตกต่างจาก ดาราเรศ น้องสาวของเขาที่ร้ายกาจและทะเยอทะยาน วีระวิทย์มักเลือกที่จะอยู่นิ่งและหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เป็นกลางและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งวีระวิทย์ไม่เข้าร่วมในการกลั่นแกล้งเมดาหรือการแข่งขันเพื่อมรดกเหมือนทายาทคนอื่น เช่น ดารกา หรือ ดาราเรศ เขาดูเหมือนไม่สนใจในเกมอำนาจของตระกูล

จิตใจดีและมีเหตุผลแม้ว่าจะไม่แสดงออกชัดเจน วีระวิทย์มีท่าทีที่เป็นมิตรและไม่ร้ายกาจ เขาไม่เคยดูถูกหรือทำร้ายเมดา ซึ่งแสดงถึงจิตใจที่ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับตัวละครอื่นในตระกูล ขาดความทะเยอทะยานวีระวิทย์ไม่แสดงความทะเยอทะยานหรือความโลภในมรดกเหมือนตัวละครอื่น เขาดูเหมือนยอมรับสถานะของตัวเองและไม่ต่อสู้เพื่ออำนาจ ซึ่งอาจสะท้อนถึงความเฉยเมยหรือความพึงพอใจในสิ่งที่มี

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) วีระวิทย์เป็นลูกชายที่สร้อยฟ้ารักและปกป้อง เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่ แต่ไม่ค่อยตอบสนองต่อความหวังของสร้อยฟ้าที่อยากให้ลูกๆ ได้เปรียบในตระกูล เขามักปล่อยให้แม่และน้องสาวเป็นฝ่ายจัดการเรื่องเหล่านี้

กับดาราเรศ (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) วีระวิทย์เป็นพี่ชายของดาราเรศ แต่ทั้งคู่มีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างมาก ดาราเรศร้ายกาจและโลภ ในขณะที่วีระวิทย์เฉยเมยและไม่ยุ่งเกี่ยวกับแผนการของน้องสาว เขาไม่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านการกระทำของดาราเรศ

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) วีระวิทย์ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่รุนแรงหรือเป็นศัตรูกับเมดา เขาไม่เข้าร่วมในการกลั่นแกล้งเมดาเหมือน ดาราเรศ หรือ ดารกา และมักรักษาระยะห่างจากความขัดแย้งที่เมดาต้องเผชิญ

กับดารกา วีระวิทย์และ ดารกา (ลูกสาวของ จงจิตร) ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่เด่นชัดในเรื่อง เขาไม่ได้เข้าร่วมในแผนการของดารกาและดาราเรศ ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวละครที่ค่อนข้างแยกตัวจากกลุ่มทายาทที่ร้ายกาจ

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) วีระวิทย์อยู่ในตำแหน่งที่ต้องเคารพเต็มเดือนในฐานะภรรยาคนแรกที่มีอำนาจในบ้าน แต่เขาไม่แสดงท่าทีที่สนิทสนมหรือต่อต้านเต็มเดือน เขามักอยู่นอกวงของการเมืองภายในตระกูล

กับตัวละครอื่น (เช่น สิบทิศ, น่านฟ้า) วีระวิทย์ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญกับตัวละครนอกตระกูล เช่น สิบทิศ หรือ น่านฟ้า เขาเป็นตัวละครที่อยู่นอกเหนือความขัดแย้งหลักของเรื่อง

บทบาทในเรื่อง
ตัวละครที่เป็นกลางวีระวิทย์เป็นตัวละครที่ทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ในตระกูลบดินทร์ธร เขาไม่เข้าร่วมในความขัดแย้งหรือการกลั่นแกล้งเมดา ซึ่งช่วยให้เขาเป็นตัวละครที่แตกต่างจากทายาทคนอื่นที่ร้ายกาจ ตัวแทนของความเฉยเมยวีระวิทย์สะท้อนถึงทายาทที่ไม่สนใจในเกมอำนาจหรือมรดก เขาเป็นตัวอย่างของคนที่เลือกจะอยู่นิ่งท่ามกลางความโกลาหล ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับตัวละครในตระกูล

ตัวละครที่เติมเต็มตระกูล การมีตัวละครอย่างวีระวิทย์ช่วยให้ตระกูลบดินทร์ธรมีมิติมากขึ้น เขาแสดงถึงด้านที่ไม่ร้ายกาจของทายาท และช่วยให้ผู้ชมเห็นว่ามีคนในตระกูลที่ไม่ได้ต่อต้านเมดา บทบาทจำกัด วีระวิทย์ไม่มีส่วนสำคัญในการคลายปมปริศนาหรือขับเคลื่อนเรื่องราว เขาเป็นตัวละครที่อยู่นอกวงของดราม่าหลัก และปรากฏตัวเพื่อเติมเต็มภาพของตระกูลมากกว่าที่จะมีบทบาทเด่น

การแสดงของ เตชิน ปิ่นราตรี
เตชิน ปิ่นราตรี ถ่ายทอดบท วีระวิทย์ ได้อย่างเหมาะสมกับบทบาทตัวละครรองที่มีบุคลิกสงบและเป็นกลาง ความสุขุม เตชินใช้ท่าทางและน้ำเสียงที่สงบเพื่อแสดงถึงความเฉยเมยและความเป็นผู้ใหญ่ของวีระวิทย์ การแสดงของเขาทำให้ตัวละครดูน่าเชื่อว่าเป็นคนที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง

ความเป็นธรรมชาติ การแสดงของเตชินดูเป็นธรรมชาติและไม่ปรุงแต่ง เขานำเสนอวีระวิทย์ในฐานะตัวละครที่เรียบง่ายและไม่ดึงดูดความสนใจ ซึ่งเหมาะสมกับบทบาท เคมีกับตัวละครอื่น เตชินมีปฏิสัมพันธ์ที่เหมาะสมกับ กัลยา เลิศเกษมทรัพย์ (สร้อยฟ้า) และ วิรากานต์ เสณีตันติกุล (ดาราเรศ) ในฐานะครอบครัว แม้ว่าจะไม่มีฉากที่เด่นชัดมากนัก

เนื่องจากวีระวิทย์เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทจำกัดและไม่มีปมดราม่าที่ซับซ้อน การแสดงของเตชินจึงไม่โดดเด่นเท่าตัวละครหลักหรือตัวละครที่มีความขัดแย้งอย่าง เต็มเดือน หรือ ดาราเรศ แต่เขาก็สามารถถ่ายทอดบทบาทนี้ได้อย่างสมบูรณ์ตามที่บทต้องการ

วีระวิทย์ เป็นตัวละครรองที่มีบุคลิกสงบ สุขุม และเป็นกลาง เขาเป็นลูกชายของ สร้อยฟ้า และพี่ชายของ ดาราเรศ ที่เลือกจะอยู่นอกวงของความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร การแสดงของ เตชิน ปิ่นราตรี ทำให้วีระวิทย์เป็นตัวละครที่น่าเชื่อและเหมาะสมกับบทบาทของทายาทที่ไม่ร้ายกาจ แม้ว่าจะมีบทบาทจำกัด แต่เขาช่วยเติมเต็มภาพของตระกูลและเพิ่มมิติให้กับเรื่องราวโดยแสดงถึงความหลากหลายในตัวละคร วีระวิทย์เป็นตัวละครที่อาจไม่โดดเด่น แต่มีส่วนช่วยให้ เวียงร้อยดาว มีความสมบูรณ์มากขึ้น

→ พลรักษ์ รอดรักษา รับบท ดิลก

rk1g3j382bOnalPcPa6V o
พลรักษ์ รอดรักษา

ตัวละครรองที่มีบทบาทสั้นแต่สำคัญในฐานะพ่อบุญธรรมของ เมดา/ร้อยดาว และสามีของ จันทร์ฉาย ดิลกเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงชีวิตในอังกฤษของเมดากับปริศนาในตระกูลบดินทร์ธร และช่วยเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นให้กับเรื่องราวในช่วงต้น

ดิลกเป็นตัวละครที่มีบทบาทสั้นแต่สำคัญใน เวียงร้อยดาว เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวผ่านการเสียชีวิตที่นำเมดาเข้าสู่ปริศนาและความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร เป็นตัวแทนของความรักและความปลอดภัยในชีวิตช่วงแรกของเมดา ซึ่งตัดกันกับความโหดร้ายและความลับที่เมดาต้องเผชิญในคฤหาสน์ ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวละครเมดาโดยแสดงถึงความผูกพันและการสูญเสียที่เธอต้องเผชิญ เป็นส่วนหนึ่งของปมการสลับตัวตน ซึ่งเป็นหัวใจของเรื่องราว แม้ว่าจะไม่ได้ปรากฏตัวเพื่อคลายปมโดยตรง

ภูมิหลังและตัวตน
ดิลก เป็นสามีของ จันทร์ฉาย และเป็นพ่อบุญธรรมของ เมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เขาและจันทร์ฉายเลี้ยงดูเมดาในอังกฤษ โดยเมดาเข้าใจว่าเธอคือร้อยดาว ลูกสาวแท้ๆ ของ เวียงแก้ว และ ปกรณ์ บดินทร์ธร อดีต ดิลกและจันทร์ฉายได้รับเมดามาเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากการสลับตัวตนเพื่อปกป้องร้อยดาวตัวจริงจากอันตรายในตระกูลบดินทร์ธร ทั้งคู่ย้ายไปใช้ชีวิตในอังกฤษและเลี้ยงดูเมดาด้วยความรักราวกับเป็นลูกแท้ๆ

การเสียชีวิต ดิลกและจันทร์ฉายเสียชีวิตในอุบัติเหตุรถยนต์ในอังกฤษก่อนที่เรื่องราวหลักจะเริ่มต้น การเสียชีวิตของทั้งคู่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เมดาได้รับการติดต่อจาก ทนายทวีป เพื่อกลับมาประเทศไทยและฟังพินัยกรรมของปกรณ์ สถานะในเรื่อง ดิลกเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวในฉากย้อนอดีตหรือการเล่าเรื่องเท่านั้น เขาไม่มีบทบาทในเหตุการณ์หลักของเรื่อง แต่มีความสำคัญในฐานะส่วนหนึ่งของอดีตของเมดา

บุคลิกและนิสัย
ใจดีและอบอุ่น ดิลกเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและมีจิตใจดี เขารักและดูแลเมดาด้วยความรักเหมือนลูกแท้ๆ การเลี้ยงดูเมดาในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นในอังกฤษแสดงถึงความเอาใจใส่และความรับผิดชอบ ปกป้องและมีความลับ ดิลกรู้ความจริงเกี่ยวกับการสลับตัวตนของเมดาและร้อยดาว แต่เลือกที่จะเก็บความลับนี้ไว้เพื่อปกป้องเมดา ซึ่งแสดงถึงความภักดีต่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับตระกูลบดินทร์ธรและความห่วงใยต่อเมดา

เป็นผู้ใหญ่และน่าเชื่อถือ ดิลกมีบุคลิกที่สุขุมและเป็นผู้ใหญ่ เขาดูเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มั่นคงและเป็นที่พึ่งของจันทร์ฉายและเมดา มีความรักต่อครอบครัว ดิลกมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับจันทร์ฉาย และทั้งคู่ร่วมกันสร้างครอบครัวที่อบอุ่นให้กับเมดา ซึ่งแสดงถึงความรักและความทุ่มเทในฐานะพ่อและสามี

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ดิลกเป็นพ่อบุญธรรมที่เมดารักและผูกพันอย่างมาก เขาเลี้ยงดูเมดาด้วยความรักและให้การศึกษาที่ดีในอังกฤษ การเสียชีวิตของดิลกส่งผลกระทบต่อจิตใจของเมดา ทำให้เธอรู้สึกสูญเสียและต้องเผชิญกับโลกใหม่ในประเทศไทยเพียงลำพัง

กับจันทร์ฉาย (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) ดิลกและจันทร์ฉายเป็นคู่สามีภรรยาที่รักกันและทุ่มเทให้กับการเลี้ยงดูเมดา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นแบบอย่างของครอบครัวที่อบอุ่นและมั่นคง

กับตระกูลบดินทร์ธร ดิลกมีความเชื่อมโยงกับตระกูลบดินทร์ธรผ่านการรับเมดามาเลี้ยงดู เขาน่าจะได้รับความไว้วางใจจากปกรณ์หรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการปกป้องเมดา แต่ละครไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าเขารู้จักตระกูลนี้ในระดับใด

กับตัวละครอื่น เนื่องจากดิลกเสียชีวิตก่อนที่เรื่องราวหลักจะเริ่มต้น เขาจึงไม่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับตัวละครหลักอื่นๆ เช่น สิบทิศ, น่านฟ้า, หรือ เต็มเดือน

บทบาทในเรื่อง
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวการเสียชีวิตของดิลกและจันทร์ฉายเป็นเหตุการณ์สำคัญที่กระตุ้นให้เมดากลับมาประเทศไทยและเผชิญหน้ากับปริศนาในตระกูลบดินทร์ธร เป็นจุดเปลี่ยนที่นำไปสู่การคลายปมทั้งหมดในเรื่อง ตัวแทนของความรักและความเสียสละ ดิลกเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ไม่มีเงื่อนไขและความเสียสละ เขาเลี้ยงดูเมดาโดยไม่เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับตัวตนของเธอ เพื่อปกป้องเธอจากอันตราย

ตัวเชื่อมโยงอดีตของเมดา การเล่าเรื่องหรือฉากย้อนอดีตที่เกี่ยวข้องกับดิลกช่วยให้ผู้ชมเข้าใจชีวิตของเมดาในอังกฤษ และแสดงให้เห็นว่าเธอเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นก่อนที่จะเผชิญกับความโหดร้ายในคฤหาสน์ ตัวกระตุ้นอารมณ์ การที่เมดาคิดถึงดิลกและรู้สึกสูญเสียหลังจากการตายของเขาช่วยสร้างความเห็นใจจากผู้ชม และทำให้เมดาเป็นตัวละครที่น่าสงสารในช่วงต้นเรื่อง

การแสดงของ พลรักษ์ รอดรักษา
พลรักษ์ รอดรักษา ถ่ายทอดบท ดิลก ได้อย่างอบอุ่นและน่าเชื่อถือ แม้ว่าบทบาทของเขาจะมีจำกัดเนื่องจากตัวละครเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเรื่องราวหลักเริ่มต้น ความอบอุ่น พลรักษ์แสดงถึงความอ่อนโยนและความรักของดิลกได้อย่างเป็นธรรมชาติ การแสดงออกทางสีหน้าและน้ำเสียงของเขาทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเป็นพ่อที่มั่นคงและน่ารัก

ความน่าเชื่อถือ แม้ว่าจะปรากฏตัวสั้นๆ พลรักษ์สามารถทำให้ดิลกดูเป็นหัวหน้าครอบครัวที่น่าเชื่อถือและเป็นที่พึ่งของจันทร์ฉายและเมดา เคมีกับตัวละครอื่น พลรักษ์มีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ (จันทร์ฉาย) ในฉากที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยา ทำให้ครอบครัวนี้ดูอบอุ่นและน่าประทับใจ

เนื่องจากบทของดิลกมีน้อยและปรากฏในฉากย้อนอดีตหรือการเล่าเรื่องเป็นหลัก การแสดงของพลรักษ์จึงไม่มีโอกาสได้แสดงความซับซ้อนหรืออารมณ์ที่หลากหลาย แต่เขาก็สามารถถ่ายทอดบทบาทนี้ได้อย่างสมบูรณ์ตามที่บทต้องการ

ดิลก เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทสั้นแต่สำคัญใน เวียงร้อยดาว เขาเป็นพ่อบุญธรรมที่อ่อนโยน ใจดี และทุ่มเทให้กับการเลี้ยงดูเมดา/ร้อยดาว การเสียชีวิตของเขาเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว และความลับที่เขาเก็บไว้เกี่ยวกับการสลับตัวตนช่วยเพิ่มมิติให้กับปริศนาของเรื่อง การแสดงของ พลรักษ์ รอดรักษา ทำให้ดิลกเป็นตัวละครที่อบอุ่น น่าเชื่อถือ และน่าสงสาร แม้ว่าจะปรากฏตัวเพียงเล็กน้อย เขาก็มีส่วนช่วยให้เรื่องราวสมบูรณ์และสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับผู้ชม

→ ศุกล ศศิจุลกะ รับบท วิรุฬ

ศุกล ศศิจุลกะ

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นทายาทของตระกูลบดินทร์ธรและเป็นลูกชายของ เต็มเดือน ภรรยาคนแรกของ ปกรณ์ บดินทร์ธร วิรุฬเป็นตัวละครที่เพิ่มความขัดแย้งและสะท้อนความร้ายกาจของครอบครัว โดยมีบุคลิกที่ทะเยอทะยานและร้ายกาจ

วิรุฬเป็นตัวละครรองที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับ เวียงร้อยดาว สร้างความขัดแย้งในตระกูลผ่านการกลั่นแกล้งเมดาและการแข่งขันเพื่อมรดก เป็นตัวแทนของความร้ายกาจและความโลภที่สืบทอดจากเต็มเดือน ซึ่งช่วยสะท้อนวงจรของความชั่วร้ายในตระกูลบดินทร์ธร กระตุ้นความเห็นใจในเมดาโดยการเป็นหนึ่งในตัวละครที่ทำให้เธอต้องเผชิญกับความอยุติธรรม เป็นส่วนหนึ่งของปมความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสยองขวัญและความลึกลับให้กับเรื่อง

ภูมิหลังและตัวตน
วิรุฬ เป็นลูกชายของ เต็มเดือน (ภรรยาคนแรกของปกรณ์ บดินทร์ธร) และเป็นหนึ่งในทายาทที่มีสิทธิ์ในมรดกของตระกูลบดินทร์ธร เขามีสถานะสูงในตระกูลเนื่องจากเป็นลูกของภรรยาคนแร วิรุฬเติบโตในคฤหาสน์บดินทร์ธรภายใต้การเลี้ยงดูของเต็มเดือน แม่ของเขาที่ร้ายกาจและทะเยอทะยาน เขาได้รับอิทธิพลจากแม่ให้มีความโลภและปรารถนาจะครองมรดกและอำนาจของตระกูล

บทบาทในเรื่อง วิรุฬเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความขัดแย้งในตระกูล เขามีส่วนในการกลั่นแกล้ง เมดา/ร้อยดาว และแสดงออกถึงความร้ายกาจที่สืบทอดมาจากเต็มเดือน ชะตากรรม ในตอนท้ายเรื่อง วิรุฬต้องเผชิญผลจากความร้ายกาจของตัวเองและครอบครัว เขาไม่ได้รับส่วนแบ่งมรดกตามที่หวัง และตระกูลบดินทร์ธรต้องเผชิญกับความพินาศจากความแค้นของวิญญาณ เวียงแก้ว

บุคลิกและนิสัย
ร้ายกาจและหยิ่งยโส วิรุฬมีบุคลิกที่ร้ายกาจและเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง เขามองตัวเองว่ามีสถานะสูงกว่าทายาทคนอื่น และมักแสดงออกด้วยท่าทีดูถูกผู้อื่น โดยเฉพาะเมดาที่เขาคิดว่าเป็นลูกของเวียงแก้ว ซึ่งเคยเป็นสาวใช้ ทะเยอทะยานและโลภ เช่นเดียวกับเต็มเดือน วิรุฬมีความทะเยอทะยานสูง เขาต้องการครองมรดกและอำนาจของตระกูล และมองว่าเมดาเป็นภัยคุกคามต่อเป้าหมายของเขา

เจ้าเล่ห์และคำนวณ วิรุฬมีไหวพริบและความเจ้าเล่ห์ เขามักวางแผนร่วมกับเต็มเดือนหรือทายาทคนอื่น เช่น ดารกา และ ดาราเรศ เพื่อกำจัดเมดาหรือรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง ขาดความเห็นอกเห็นใจ วิรุฬเป็นตัวละครที่ไร้ความเมตตา เขาไม่รู้สึกผิดเมื่อกลั่นแกล้งเมดาหรือทำร้ายผู้อื่น ซึ่งสะท้อนถึงจิตใจที่เย็นชาและเห็นแก่ตัว

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) วิรุฬเป็นลูกชายที่เต็มเดือนรักและวางใจ เขาได้รับการเลี้ยงดูให้มีความทะเยอทะยานและร้ายกาจเหมือนแม่ และมักทำตามคำสั่งหรือแผนการของเต็มเดือนในการกลั่นแกล้งเมดาและปกป้องผลประโยชน์ของครอบครัว

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) วิรุฬเกลียดชังเมดาและมองว่าเธอเป็นคู่แข่งในการแย่งชิงมรดก เขามีส่วนในการกลั่นแกล้งและดูถูกเมดา โดยร่วมมือกับเต็มเดือนและทายาทคนอื่น ความขัดแย้งระหว่างเขากับเมดาเป็นส่วนหนึ่งของดราม่าในเรื่อง

กับดารกา (ลูกสาวของจงจิตร) และดาราเรศ (ลูกสาวของสร้อยฟ้า) วิรุฬมีความสัมพันธ์แบบพันธมิตรกับ ดารกา และ ดาราเรศ ในฐานะทายาทที่ต้องการกำจัดเมดา เขาและทั้งสองมักร่วมมือกันในแผนการร้าย แต่วิรุฬมีสถานะที่สูงกว่าเนื่องจากเป็นลูกของเต็มเดือน

กับวีระวิทย์ (ลูกชายของสร้อยฟ้า) วิรุฬและ วีระวิทย์ ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่เด่นชัดในเรื่อง วีระวิทย์มีบุคลิกที่เป็นกลางและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง ซึ่งแตกต่างจากวิรุฬที่ร้ายกาจและกระตือรือร้นในการต่อสู้เพื่อมรดก

กับจงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) และสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) วิรุฬอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าภรรยาคนอื่นในตระกูล เนื่องจากเป็นลูกของเต็มเดือน เขามักได้รับการสนับสนุนจากจงจิตรในบางครั้ง แต่ดูถูกสร้อยฟ้าที่อ่อนแอกว่า

กับตัวละครอื่น (เช่น สิบทิศ, น่านฟ้า) วิรุฬไม่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับตัวละครนอกตระกูล เช่น สิบทิศ หรือ น่านฟ้า มากนัก แต่เขามองคนที่สนับสนุนเมดาด้วยความรังเกียจ

บทบาทในเรื่อง
ตัวเร่งความขัดแย้ง วิรุฬเป็นหนึ่งในตัวละครที่สร้างความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร การกลั่นแกล้งเมดาและการแสดงออกที่ร้ายกาจของเขาช่วยเพิ่มความตึงเครียดและดราม่าในเรื่อง ตัวแทนของความร้ายกาจรุ่นใหม่ วิรุฬสะท้อนความร้ายกาจและความโลภที่สืบทอดมาจากเต็มเดือน เขาเป็นตัวอย่างของทายาทที่ได้รับอิทธิพลจากความขมขื่นและความทะเยอทะยานของครอบครัว

เป้าหมายของความแค้น ในฐานะลูกชายของเต็มเดือน ซึ่งมีส่วนในการกดขี่เวียงแก้วในอดีต วิรุฬกลายเป็นเป้าหมายทางอ้อมของความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว การที่เขาต้องเผชิญผลจากความชั่วร้ายของครอบครัวช่วยย้ำธีมของผลกรรมตัวละครที่เพิ่มมิติให้ตระกูล วิรุฬช่วยแสดงถึงด้านที่ร้ายกาจและทะเยอทะยานของตระกูลบดินทร์ธร เขาเป็นส่วนหนึ่งของภาพครอบครัวที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความโลภ

การแสดงของ ศุกล ศศิจุลกะ
ศุกล ศศิจุลกะ ถ่ายทอดบท วิรุฬ ได้อย่างเหมาะสมกับบทบาทของตัวละครรองที่ร้ายกาจและทะเยอทะยาน ความร้ายกาจ ศุกลใช้สายตาที่เฉียบคมและน้ำเสียงที่เย่อหยิ่งเพื่อแสดงถึงความร้ายกาจและความหยิ่งผยองของวิรุฬ ฉากที่เขากลั่นแกล้งเมดาหรือพูดจาดูถูกผู้อื่นเต็มไปด้วยพลังที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกหมั่นไส้

ความทะเยอทะยานการแสดงของศุกลสะท้อนถึงความโลภและความปรารถนาจะครองอำนาจของวิรุฬได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในฉากที่เขาร่วมมือกับเต็มเดือนหรือทายาทคนอื่น เคมีกับตัวละครอื่น:ศุกลมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ (เต็มเดือน) ในฉากที่แสดงถึงความสัมพันธ์แม่ลูก และกับนักแสดงที่รับบท ดารกา และ ดาราเรศ ในฉากที่ร่วมกันกลั่นแกล้งเมดา

เนื่องจากวิรุฬเป็นตัวละครรองและมีบทบาทที่จำกัดเมื่อเทียบกับตัวร้ายหลักอย่างเต็มเดือน การแสดงของศุกลอาจไม่โดดเด่นเท่านักแสดงหลัก แต่เขาก็สามารถทำให้วิรุฬเป็นตัวละครที่น่าเกลียดชังและน่าจดจำในบทบาทของเขา จุดเด่นความสามารถในการถ่ายทอดความร้ายกาจที่แฝงด้วยความเย่อหยิ่งทำให้วิรุฬเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับดราม่าในตระกูล

วิรุฬ เป็นตัวละครรองที่ร้ายกาจ ทะเยอทะยาน และหยิ่งยโส เขาเป็นลูกชายของ เต็มเดือน และเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร การแสดงของ ศุกล ศศิจุลกะ ทำให้วิรุฬเป็นตัวละครที่น่าเกลียดชังและน่าสนใจ ด้วยความร้ายกาจที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นให้กับเรื่อง การที่เขาต้องเผชิญผลกรรมในตอนจบช่วยย้ำธีมของความยุติธรรมและผลจากการกระทำชั่ว วิรุฬจึงเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็มภาพของตระกูลบดินทร์ธรและขับเคลื่อนดราม่าใน เวียงร้อยดาว ได้อย่างดี

→ วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม รับบท รัตนากร

วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม

ตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในช่วงท้ายของเรื่อง เธอเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันของตระกูลบดินทร์ธรและเวฬุมาส ผ่านความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับ ดำรง และช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวไปสู่บทสรุป

รัตนากรเป็นตัวละครที่แม้จะปรากฏตัวสั้นๆ แต่มีบทบาทสำคัญใน เวียงร้อยดาว ผ่าน การเชื่อมโยงอดีตของตระกูลบดินทร์ธรและเวฬุมาส ผ่านเรื่องราวความรักที่ไม่สมหวังกับดำรง การช่วยคลายปมความขัดแย้งโดยการเผชิญหน้ากับดำรงและทวงสัญญา ซึ่งช่วยให้ผู้ชมเข้าใจความโศกเศร้าในอดีตของตระกูล การสนับสนุนความรักของร้อยดาวและสิบทิศ ซึ่งช่วยนำไปสู่บทสรุปที่สมหวังและตัดกันกับความสูญเสียของเธอเอง การเพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในฉากที่เต็มไปด้วยความขมขื่นและการยอมรับอดีต

ภูมิหลังและตัวตน
หม่อมเจ้าหญิงรัตนากร เวฬุมาส เป็นหญิงสูงศักดิ์จากตระกูลเวฬุมาสที่มีเชื้อสายราชนิกุล เธอเป็นหญิงสูงวัยในช่วงเวลาของเรื่องราวหลัก และเคยเป็นอดีตคนรักของ ดำรง (พิศาล อัครเศรณี) พ่อของปกรณ์ บดินทร์ธร อดีต รัตนากรและดำรงเคยรักกันในวัยหนุ่มสาว แต่ความรักของทั้งคู่ถูกกีดกันด้วยความแตกต่างในฐานันดรและข้อจำกัดทางสังคม ดำรงถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ทำให้รัตนากรต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ความเจ็บปวดจากความรักที่ไม่สมหวังนี้หล่อหลอมให้เธอกลายเป็นหญิงสูงวัยที่สงบแต่มีความขมขื่นในใจ

บทบาทในเรื่อง รัตนากรปรากฏตัวในช่วงท้ายของละครเพื่อเผชิญหน้ากับดำรงและทวงสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ เธอยังมีส่วนสำคัญในการจับคู่ ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) กับ สิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) ซึ่งสะท้อนถึงความหวังที่เธอจะเห็นความรักสมหวังในรุ่นต่อไป ชะตากรรม รัตนากรไม่มีบทสรุปที่ชัดเจนในเรื่อง แต่การปรากฏตัวของเธอช่วยคลายปมบางส่วนเกี่ยวกับอดีตของดำรงและตระกูลบดินทร์ธร เธอเป็นตัวละครที่ปิดฉากการเผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองอย่างสงบ

บุคลิกและนิสัย
สง่างามและมีศักดิ์ศรี ในฐานะหม่อมเจ้าหญิง รัตนากรมีท่วงท่าที่สง่างามและแสดงถึงความเป็นผู้ดีเก่า เธอรักษาศักดิ์ศรีของตัวเองแม้จะผ่านความเจ็บปวดในอดีต ขมขื่นแต่ไม่แค้น รัตนากรมีความขมขื่นจากความรักที่ไม่สมหวัง แต่เธอไม่ได้แสดงออกด้วยความโกรธหรือความแค้น เธอเลือกที่จะเผชิญหน้ากับดำรงด้วยความสงบและพูดถึงอดีตด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเสียใจมากกว่าความเกลียดชัง

หวังดีและเห็นอกเห็นใจ การที่รัตนากรขอให้ร้อยดาวแต่งงานกับสิบทิศแสดงถึงความหวังดีของเธอ เธอต้องการเห็นความรักของคนรุ่นใหม่สมหวัง เพื่อชดเชยความสูญเสียในชีวิตของตัวเอง ลึกลับและมีมิติรัตนากรเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวเพียงช่วงสั้นๆ แต่มีความลึกลับและชวนให้สงสัยเกี่ยวกับชีวิตของเธอในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวละคร

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับดำรง (พิศาล อัครเศรณี) รัตนากรและดำรงเคยเป็นคู่รักในอดีต ความรักของทั้งคู่ถูกขัดขวางด้วยฐานันดร ทำให้ดำรงหนีไปแต่งงานกับคนอื่น การเผชิญหน้ากันในช่วงท้ายเรื่องเป็นฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ โดยรัตนากรทวงสัญญาที่ดำรงเคยให้ไว้ด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเสียใจและสงบ

กับร้อยดาว/เมดา (ณฐพร เตมีรักษ์) รัตนากรพบร้อยดาวและรู้ว่าเธอเป็นหลานสาวของดำรง เธอแสดงความเมตตาต่อร้อยดาวและขอให้ร้อยดาวแต่งงานกับสิบทิศ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความหวังที่จะเห็นความรักสมหวังในรุ่นหลาน

กับสิบทิศ (กฤษฎา พรเวโรจน์) รัตนากรในฐานะผู้ใหญ่ในตระกูลเวฬุมาสมีอิทธิพลต่อสิบทิศ การที่เธอสนับสนุนให้สิบทิศแต่งงานกับร้อยดาวช่วยยืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่และเพิ่มน้ำหนักให้กับบทสรุปของเรื่อง

กับตัวละครอื่น รัตนากรไม่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับตัวละครอื่นในตระกูลบดินทร์ธร เช่น เต็มเดือน, จงจิตร, หรือ สร้อยฟ้า การปรากฏตัวของเธอจำกัดอยู่ที่ความสัมพันธ์กับดำรงและร้อยดาวเท่านั้น

บทบาทในเรื่อง
ตัวเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน รัตนากรเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงความขัดแย้งในอดีตของตระกูลบดินทร์ธรและเวฬุมาส การเผชิญหน้ากับดำรงช่วยเปิดเผยปมความรักที่ไม่สมหวังและเหตุผลที่นำไปสู่ความโศกเศร้าในตระกูล ตัวแทนของความรักที่สูญเสีย เรื่องราวของรัตนากรและดำรงเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ถูกขัดขวางโดยสังคม ซึ่งตัดกันกับความรักของร้อยดาวและสิบทิศที่สมหวังในรุ่นต่อมา

ตัวเร่งบทสรุป การที่รัตนากรขอให้ร้อยดาวแต่งงานกับสิบทิศช่วยยืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่และนำไปสู่บทสรุปที่สมหวังของเรื่องราว ตัวละครที่เพิ่มมิติทางอารมณ์ การปรากฏตัวของรัตนากรในช่วงท้ายเรื่องช่วยเพิ่มความลึกซึ้งทางอารมณ์ โดยเฉพาะในฉากที่เธอเผชิญหน้ากับดำรง ซึ่งทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเจ็บปวดและการยอมรับอดีต

การแสดงของ วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม
วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ถ่ายทอดบท หม่อมเจ้าหญิงรัตนากร ได้อย่างสง่างามและเต็มไปด้วยอารมณ์
ความสงบและศักดิ์ศรี วันทิพย์แสดงถึงความเป็นผู้ดีเก่าด้วยท่วงท่าที่สง่างามและน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่หนักแน่น ซึ่งเหมาะสมกับสถานะของหม่อมเจ้าหญิง ความขมขื่นที่ซ่อนอยู่ ในฉากที่รัตนากรเผชิญหน้ากับดำรง วันทิพย์สามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดและความเสียใจจากอดีตได้อย่างลึกซึ้ง โดยไม่ต้องใช้การแสดงที่เกินจริง

ความเมตตา การแสดงออกต่อร้อยดาวแสดงถึงความหวังดีและความอ่อนโยนของตัวละคร ซึ่งวันทิพย์นำเสนอได้อย่างน่าเชื่อและน่าประทับใจ เนื่องจากรัตนากรเป็นตัวละครที่ปรากฏตัวเพียงช่วงสั้นๆ ในตอนท้ายเรื่อง บทบาทของวันทิพย์จึงมีจำกัดและไม่สามารถแสดงความซับซ้อนได้มากนัก แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตและน่าจดจำ

จุดเด่นความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซึ้งในเวลาจำกัด ทำให้ฉากของรัตนากรกลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สะเทือนใจของละคร

หม่อมเจ้าหญิงรัตนากร เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทสั้นแต่ทรงพลังใน เวียงร้อยดาว เธอเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่สูญเสียและความขมขื่นจากอดีต แต่ก็แสดงถึงความหวังดีและความปรารถนาที่จะเห็นความรักสมหวังในรุ่นต่อไป การแสดงของ วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม ทำให้รัตนากรเป็นตัวละครที่สง่างาม น่าสงสาร และน่าจดจำ การปรากฏตัวของเธอช่วยเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันของตระกูลบดินทร์ธร และเพิ่มมิติทางอารมณ์ให้กับบทสรุปของเรื่องราว รัตนากรจึงเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็มละครและสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม

→ พิศาล อัครเศรณี รับบท ดำรง

hq720
พิศาล อัครเศรณี

ตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในฐานะพ่อของ ปกรณ์ บดินทร์ธร และเป็นผู้นำตระกูลบดินทร์ธรในอดีต ดำรงเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงปมความขัดแย้งและความลับของตระกูล โดยเฉพาะผ่านความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับ หม่อมเจ้าหญิงรัตนากร และการตัดสินใจในอดีตที่ส่งผลต่อเหตุการณ์ในเรื่อง

ดำรงเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อน เวียงร้อยดาว เชื่อมโยงอดีตของตระกูลบดินทร์ธรผ่านความรักที่ไม่สมหวังกับรัตนากรและการตัดสินใจที่ส่งผลต่อรุ่นต่อมาเป็นผู้รู้ความลับของการสลับตัวตน ซึ่งเป็นปมหลักที่ขับเคลื่อนเรื่องราว เพิ่มมิติทางอารมณ์ผ่านการเผชิญหน้ากับรัตนากรและการยอมรับความผิดในอดีต ช่วยนำไปสู่บทสรุปของเรื่อง โดยเฉพาะการตายของเขาที่เป็นส่วนหนึ่งของการคลายปมและการเริ่มต้นใหม่ของตระกูล

ภูมิหลังและตัวตน
ดำรง เป็นผู้นำตระกูลบดินทร์ธรในรุ่นก่อนหน้า และเป็นพ่อของ ปกรณ์ บดินทร์ธร เจ้าของคฤหาสน์บดินทร์ธรในเมืองเวฬุมาศ เขาเป็นบุคคลที่มีอำนาจและอิทธิพลในตระกูล อดีตในวัยหนุ่ม ดำรงเคยรัก หม่อมเจ้าหญิงรัตนากร เวฬุมาส (วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) แต่ความรักของทั้งคู่ถูกกีดกันด้วยความแตกต่างในฐานันดรและข้อจำกัดทางสังคม ดำรงถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งนำไปสู่การเกิดของปกรณ์ การตัดสินใจในอดีตนี้สร้างความเจ็บปวดให้กับรัตนากรและทิ้งรอยแผลในใจของเขาเอง

บทบาทในเรื่อง ดำรงปรากฏตัวในฐานะผู้เฒ่าของตระกูลที่มีส่วนรู้เห็นในความลับของการสลับตัวตนระหว่าง เมดา และ ร้อยดาว เขายังเป็นตัวละครที่เผชิญหน้ากับอดีตของตัวเองผ่านการพบกับรัตนากรในช่วงท้ายเรื่อง ชะตากรรม ดำรงเสียชีวิตในช่วงท้ายของเรื่อง โดยการตายของเขาเป็นส่วนหนึ่งของการคลายปมปริศนาและการเผชิญหน้ากับผลจากอดีตของตระกูล การเผชิญหน้ากับรัตนากรก่อนตายช่วยให้เขาปิดฉากชีวิตด้วยการยอมรับความผิดพลาดในอดีต

บุคลิกและนิสัย
เข้มแข็งและมีอำนาจ ดำรงเป็นผู้นำตระกูลที่มีบุคลิกเข้มแข็งและน่าเกรงขาม เขามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในตระกูลและเป็นที่เคารพของสมาชิกในบ้าน ขมขื่นและเก็บตัว ภายใต้ท่าทีที่เข้มแข็ง ดำรงมีความขมขื่นจากความรักที่สูญเสียในอดีต เขามักเก็บความรู้สึกและความเสียใจไว้ภายใน ไม่แสดงออกต่อผู้อื่น ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวละครที่ลึกลับและมีมิติ

รู้ผิดแต่ยอมรับช้า ดำรงตระหนักถึงความผิดพลาดในอดีตที่ทิ้งรัตนากรและการตัดสินใจที่นำไปสู่ความโศกเศร้าในตระกูล แต่เขาเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความจริงในช่วงท้ายของชีวิตเท่านั้น มีความรับผิดชอบต่อตระกูล ดำรงทุ่มเทให้กับการปกป้องตระกูลบดินทร์ธร เขามีส่วนรู้เห็นในการสลับตัวตนของเมดาและร้อยดาวเพื่อปกป้องหลานสาวจากอันตราย ซึ่งแสดงถึงความรับผิดชอบต่อครอบครัว

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับหม่อมเจ้าหญิงรัตนากร (วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) ดำรงและรัตนากรเคยเป็นคู่รักในวัยหนุ่มสาว ความรักของทั้งคู่ถูกขัดขวางโดยฐานันดร ทำให้ดำรงต้องทิ้งเธอไป การเผชิญหน้ากันในช่วงท้ายเรื่องเป็นฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ โดยรัตนากรทวงสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ และดำรงยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง

กับปกรณ์ บดินทร์ธร ดำรงเป็นพ่อของปกรณ์ และมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในชีวิตของลูกชาย เขาน่าจะสนับสนุนหรือรู้เห็นในความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของปกรณ์กับภรรยาหลายคน รวมถึง เวียงแก้ว

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ดำรงมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับร้อยดาว (หลานสาว) และรู้ความจริงเกี่ยวกับการสลับตัวตน เขาแสดงความห่วงใยต่อเมดาในฐานะผู้ที่ถูกเลี้ยงดูแทนร้อยดาว แต่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเธอในเรื่อง

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ดำรงเป็นพ่อสามีของเต็มเดือน เขามีอำนาจเหนือเต็มเดือนในฐานะผู้นำตระกูล แต่เต็มเดือนมักควบคุมการตัดสินใจภายในบ้าน ดำรงดูเหมือนจะยอมให้เต็มเดือนมีอิทธิพลในคฤหาสน์

กับจงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) และสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) ดำรงมีอำนาจเหนือภรรยาคนอื่นของปกรณ์ แต่เขาไม่ให้ความสำคัญกับจงจิตรหรือสร้อยฟ้ามากนัก ซึ่งทำให้ทั้งสองรู้สึกด้อยค่าและยิ่งเพิ่มความทะเยอทะยานของพวกเธอ

กับตัวละครอื่น ดำรงไม่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับตัวละครนอกตระกูล เช่น สิบทิศ หรือ น่านฟ้า มากนัก แต่เขามีความเชื่อมโยงกับตระกูลเวฬุมาสผ่านรัตนากร

บทบาทในเรื่อง
ตัวเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน ดำรงเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงความขัดแย้งในอดีตของตระกูลบดินทร์ธร โดยเฉพาะผ่านความรักที่ไม่สมหวังกับรัตนากรและการตัดสินใจที่ส่งผลต่อปกรณ์และร้อยดาว ผู้รู้ความลับของตระกูล ดำรงมีส่วนรู้เห็นในการสลับตัวตนของเมดาและร้อยดาว ซึ่งเป็นปมหลักของเรื่อง การที่เขาเก็บความลับนี้ไว้ช่วยเพิ่มความลึกลับและความซับซ้อนให้กับเรื่องราว

ตัวแทนของความผิดพลาดในอดีต ความรักที่สูญเสียและการตัดสินใจที่ผิดพลาดของดำรงเป็นสัญลักษณ์ของความโศกเศร้าในตระกูล การเผชิญหน้ากับรัตนากรในช่วงท้ายเรื่องช่วยให้เขายอมรับและชดเชยความผิดของตัวเอง ตัวเร่งบทสรุป การตายของดำรงและการเผชิญหน้ากับรัตนากรเป็นส่วนหนึ่งของการคลายปมปริศนาและนำไปสู่บทสรุปของเรื่อง โดยเฉพาะการยืนยันความรักของร้อยดาวและสิบทิศ

การแสดงของ พิศาล อัครเศรณี
พิศาล อัครเศรณี ถ่ายทอดบท ดำรง ได้อย่างน่าประทับใจและเต็มไปด้วยมิติ ความเข้มแข็งและน่าเกรงขาม พิศาลแสดงถึงความเป็นผู้นำตระกูลด้วยท่วงท่าที่หนักแน่นและน้ำเสียงที่ทรงพลัง ทำให้ดำรงดูเป็นบุคคลที่มีอำนาจและน่าเคารพความขมขื่นที่ซ่อนอยู่ ในฉากที่ดำรงเผชิญหน้ากับรัตนากร พิศาลสามารถถ่ายทอดความเสียใจและความรู้สึกผิดจากอดีตได้อย่างลึกซึ้ง โดยใช้สีหน้าและน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์

ความน่าเชื่อถือ การแสดงของพิศาลทำให้ดำรงดูเป็นตัวละครที่มีน้ำหนักและน่าเชื่อว่าเป็นผู้เฒ่าที่แบกรับความลับและความผิดพลาดของตระกูล เคมีกับตัวละครอื่น พิศาลมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ วันทิพย์ ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม (รัตนากร) ในฉากที่เผชิญหน้ากัน ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่สะเทือนใจที่สุดในเรื่อง

จุดเด่นความสามารถในการถ่ายทอดทั้งความเข้มแข็งและความเปราะบางของดำรงทำให้ตัวละครนี้มีมิติและน่าจดจำ โดยเฉพาะในฉากที่เกี่ยวข้องกับอดีตของเขา

ดำรง เป็นตัวละครรองที่มีความสำคัญใน เวียงร้อยดาว ในฐานะผู้นำตระกูลบดินทร์ธรและผู้แบกรับความลับและความผิดพลาดในอดีต เขาเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบันผ่านความรักที่สูญเสียกับรัตนากรและการตัดสินใจที่ส่งผลต่อตระกูล การแสดงของ พิศาล อัครเศรณี ทำให้ดำรงเป็นตัวละครที่ทั้งเข้มแข็ง ขมขื่น และน่าสงสาร การเผชิญหน้ากับอดีตและการตายของเขาเป็นส่วนสำคัญในการคลายปมและนำไปสู่บทสรุปของเรื่อง ดำรงจึงเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มมิติทางอารมณ์และความสมบูรณ์ให้กับละคร

→ โกมรทิพย์ รัตนาไพศาลสุข รับบท ดารกา

ID 12297 576b8674e1052
โกมลทิพย์ รัตนาไพศาลสุข

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นลูกสาวของ จงจิตร และเป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลบดินทร์ธร ดารกาเป็นตัวละครที่ร้ายกาจ ทะเยอทะยาน และโลภ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างความขัดแย้งในเรื่อง โดยเฉพาะการกลั่นแกล้ง เมดา/ร้อยดาว

ดารกาเป็นตัวละครรองที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นและความขัดแย้งให้กับ เวียงร้อยดาว สร้างความขัดแย้งในตระกูลผ่านการกลั่นแกล้งเมดาและการแข่งขันเพื่อมรดก เป็นตัวแทนของความร้ายกาจและความโลภที่สืบทอดจากจงจิตร ซึ่งช่วยสะท้อนวงจรของความชั่วร้ายในตระกูลบดินทร์ธร กระตุ้นความเห็นใจในเมดาโดยการเป็นหนึ่งในตัวละครที่ทำให้เธอต้องเผชิญกับความอยุติธรรม เป็นส่วนหนึ่งของปมความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสยองขวัญและความลึกลับให้กับเรื่อง เป็นตัวละครที่ได้รับผลกรรม ซึ่งช่วยย้ำธีมของความยุติธรรมและผลจากการกระทำชั่ว

ภูมิหลังและตัวตน
ดารกา เป็นลูกสาวคนเดียวของ จงจิตร (ภรรยาคนที่สองของ ปกรณ์ บดินทร์ธร) และเป็นหนึ่งในทายาทที่มีสิทธิ์ในมรดกของตระกูลบดินทร์ธร เธอมีสถานะรองจาก วิรุฬ (ลูกชายของ เต็มเดือน) แต่สูงกว่า ดาราเรศ และ วีระวิทย์ (ลูกของ สร้อยฟ้า)

ดารกาเติบโตในคฤหาสน์บดินทร์ธรภายใต้การเลี้ยงดูของจงจิตร ผู้เป็นแม่ที่มีความทะเยอทะยานและอิจฉา เธอได้รับการปลูกฝังให้มุ่งหวังครองมรดกและปกป้องผลประโยชน์ของตัวเองและแม่ บทบาทในเรื่องดารกาเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความขัดแย้งในตระกูล เธอมีส่วนสำคัญในการกลั่นแกล้งเมดาและร่วมมือกับ ดาราเรศ และ เต็มเดือน เพื่อต่อต้านเมดาในฐานะคู่แข่งมรดก

ชะตากรรม ในตอนท้ายเรื่อง ดารกาต้องเผชิญผลจากความร้ายกาจของตัวเองและครอบครัว เธอไม่ได้รับส่วนแบ่งมรดกตามที่หวัง และตระกูลบดินทร์ธรต้องเผชิญกับความพินาศจากความแค้นของวิญญาณ เวียงแก้ว

บุคลิกและนิสัย
ร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ ดารกาเป็นตัวละครที่มีความร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ เธอมักวางแผนกลั่นแกล้งเมดาด้วยวิธีที่แยบยลและใช้คำพูดเสียดสีเพื่อยั่วโมโหหรือทำให้เมดาอับอาย ทะเยอทะยานและโลภ เช่นเดียวกับจงจิตร ผู้เป็นแม่ ดารกามีความทะเยอทะยานสูง เธอต้องการครองส่วนแบ่งมรดกของตระกูลและยกระดับสถานะของตัวเอง ความโลภนี้ทำให้เธอกระทำการที่ไร้ศีลธรรม

หยิ่งยโสและดูถูกผู้อื่น ดารกามีท่าทีหยิ่งผยองและมักดูถูกคนที่เธอมองว่าต่ำกว่า โดยเฉพาะเมดาที่เธอคิดว่าเป็นลูกของเวียงแก้ว ซึ่งเคยเป็นสาวใช้ เธอยังแสดงความเหยียดหยามต่อ น่านฟ้า และ กระถิน เปราะบางเมื่อเผชิญความล้มเหลว ภายใต้ท่าทีที่มั่นใจ ดารกามีความเปราะบางเมื่อต้องเผชิญกับความล้มเหลวหรือความกลัว เช่น การถูกหลอกหลอนโดยวิญญาณเวียงแก้ว ซึ่งทำให้เธอตื่นตระหนกและเสียการควบคุม

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับจงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์) ดารกาเป็นลูกสาวที่จงจิตรรักและปกป้องอย่างมาก จงจิตรปลูกฝังให้ดารกามีความทะเยอทะยานและร้ายกาจเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของครอบครัว ดารกามักทำตามคำแนะนำของแม่และพยายามทำให้แม่ภูมิใจ

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ดารกาเกลียดชังเมดาและมองว่าเธอเป็นภัยคุกคามต่อมรดก เธอมักกลั่นแกล้งเมดาด้วยการพูดจาเสียดสีหรือร่วมมือกับ ดาราเรศ เพื่อทำให้เมดาอับอาย ความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่เป็นส่วนสำคัญของดราม่าในเรื่อง

กับดาราเรศ (วิรากานต์ เสณีตันติกุล) ดารกาและดาราเรศเป็นเหมือนคู่หูในการกลั่นแกล้งเมดา ทั้งคู่มีความร้ายกาจและทะเยอทะยานเหมือนกัน ทำให้พวกเธอมักร่วมมือกันเพื่อต่อต้านเมดาและปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) ดารกาอยู่ภายใต้อิทธิพลของเต็มเดือน เธอเคารพและเกรงกลัวเต็มเดือนในฐานะภรรยาคนแรกที่มีอำนาจ และมักทำตามคำสั่งของเต็มเดือนในการกลั่นแกล้งเมดา

กับวิรุฬ (ศุกล ศศิจุลกะ) ดารกาและ วิรุฬ (ลูกชายของเต็มเดือน) มีความสัมพันธ์แบบพันธมิตรในฐานะทายาทที่ต้องการกำจัดเมดา แม้ว่าทั้งคู่จะแข่งขันกันเองเพื่อมรดก แต่ก็ร่วมมือกันในบางสถานการณ์

กับวีระวิทย์ (เตชิน ปิ่นราตรี) ดารกาและ วีระวิทย์ (ลูกชายของสร้อยฟ้า) ไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่เด่นชัด วีระวิทย์มีบุคลิกที่เป็นกลางและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง ซึ่งแตกต่างจากดารกาที่ร้ายกาจและกระตือรือร้น

กับน่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) และกระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) ดารกามักดูถูกน่านฟ้าและกระถินที่เป็นเพื่อนของเมดา เธอแสดงท่าทีเหยียดหยามและพยายามข่มขู่ทั้งคู่ แต่ไม่สามารถเอาชนะความกล้าหาญของพวกเขาได้

บทบาทในเรื่อง
ตัวเร่งความขัดแย้ง ดารกาเป็นหนึ่งในตัวละครที่สร้างความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร การกลั่นแกล้งเมดาและการแสดงออกที่ร้ายกาจของเธอช่วยเพิ่มความตึงเครียดและดราม่าในเรื่อง ตัวแทนของความร้ายกาจรุ่นใหม่ ดารกาสะท้อนความร้ายกาจและความโลภที่สืบทอดมาจากจงจิตร เธอเป็นตัวอย่างของทายาทที่ได้รับอิทธิพลจากความขมขื่นของครอบครัว

ตัวกระตุ้นความเห็นใจในเมดา การที่ดารกาและดาราเรศกลั่นแกล้งเมดาทำให้ผู้ชมรู้สึกสงสารเมดาและอยากเห็นเธอเอาชนะความอยุติธรรม ซึ่งช่วยยกระดับความน่าสนใจของตัวละครหลัก เป้าหมายของความแค้น ในฐานะลูกสาวของจงจิตร ซึ่งมีส่วนในการกดขี่เวียงแก้วในอดีต ดารกากลายเป็นเป้าหมายทางอ้อมของความแค้นของวิญญาณเวียงแก้ว การที่เธอต้องเผชิญผลจากความชั่วร้ายของครอบครัวช่วยย้ำธีมของผลกรรม

ตัวละครที่ได้รับผลกรรม ความร้ายกาจและความโลภของดารกานำไปสู่จุดจบที่เธอไม่ได้รับสิ่งที่หวัง เธอสูญเสียโอกาสในมรดกและต้องเผชิญกับความล้มเหลว

การแสดงของ โกมรทิพย์ รัตนาไพศาลสุข
โกมรทิพย์ รัตนาไพศาลสุข ถ่ายทอดบท ดารกา ได้อย่างน่าประทับใจ เธอนำเสนอความร้ายกาจ ความหยิ่งยโส และความเปราะบางของตัวละครได้อย่างลงตัว ความร้ายกาจที่น่าเกลียดชัง โกมรทิพย์ใช้สายตาที่เฉียบคมและน้ำเสียงที่เสียดสีเพื่อแสดงถึงความร้ายกาจของดารกา ฉากที่เธอกลั่นแกล้งเมดาหรือพูดจาดูถูกผู้อื่นเต็มไปด้วยพลังที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกหมั่นไส้

ความทะเยอทะยาน การแสดงของโกมรทิพย์สะท้อนถึงความโลภและความปรารถนาจะครองอำนาจของดารกาได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในฉากที่เธอวางแผนร่วมกับดาราเรศหรือเต็มเดือน ความเปราะบาง ในฉากที่ดารกาเริ่มหวาดกลัววิญญาณเวียงแก้วหรือเผชิญกับความล้มเหลว โกมรทิพย์สามารถแสดงถึงความตื่นตระหนกและความเสียใจได้อย่างน่าเชื่อ ทำให้ตัวละครมีมิติมากขึ้น

เคมีกับตัวละครอื่น โกมรทิพย์มีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ วิรากานต์ เสณีตันติกุล (ดาราเรศ) ในฉากที่ทั้งคู่ร่วมมือกันกลั่นแกล้งเมดา และกับ พิมพรรณ ชลายนคุปต์ (จงจิตร) ในฉากที่แสดงถึงความสัมพันธ์แม่ลูก จุดเด่น ความสามารถในการถ่ายทอดความร้ายกาจที่แฝงด้วยความเปราะบางทำให้ดารกาเป็นตัวละครที่มีมิติ เธอไม่ใช่แค่ตัวร้ายที่ไร้เหตุผล แต่เป็นคนที่ถูกหล่อหลอมโดยสภาพแวดล้อมในตระกูล

เนื่องจากดารกาเป็นตัวละครรองและมีบทบาทที่จำกัดเมื่อเทียบกับตัวร้ายหลักอย่าง เต็มเดือน การแสดงของโกมรทิพย์อาจไม่โดดเด่นเท่านักแสดงหลัก แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตและน่าจดจำ

ดารกา เป็นตัวละครรองที่ร้ายกาจ ทะเยอทะยาน และโลภ เธอเป็นลูกสาวของ จงจิตร และเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งในตระกูลบดินทร์ธร การแสดงของ โกมรทิพย์ รัตนาไพศาลสุข ทำให้ดารกาเป็นตัวละครที่น่าเกลียดชังและน่าสนใจ ด้วยความร้ายกาจที่แฝงด้วยความเปราะบาง การที่เธอต้องเผชิญผลกรรมในตอนจบช่วยย้ำธีมของความยุติธรรมและผลจากการกระทำชั่ว ดารกาจึงเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็มความเข้มข้นของ เวียงร้อยดาว และขับเคลื่อนดราม่าในเรื่องได้อย่างดี

→ ทัศวรรณ เสนียวงศ์ รับบท นมแสง

ทัศวรรณ เสนีย์วงศ์

ตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในฐานะข้ารับใช้เก่าแก่ของตระกูลบดินทร์ธรและย่าของ กระถิน นมแสงเป็นตัวละครที่รู้ความลับของตระกูล โดยเฉพาะเรื่องราวของ เวียงแก้ว และการสลับตัวตนของ เมดา/ร้อยดาว เธอเป็นตัวละครที่เพิ่มความอบอุ่น ความภักดี และมิติทางอารมณ์ให้กับเรื่องราว

นมแสงเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ เวียงร้อยดาว เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันโดยการเป็นพยานในเหตุการณ์ของเวียงแก้วและผู้รู้ความลับของการสลับตัวตน ช่วยขับเคลื่อนการสืบสวนโดยให้ข้อมูลและเบาะแสที่สำคัญเกี่ยวกับตระกูลบดินทร์ธร

เป็นตัวแทนของความภักดีและความยุติธรรมที่ช่วยให้เมดาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในการต่อสู้กับความอยุติธรรม เพิ่มความอบอุ่นและความสมดุลให้กับเรื่องราวผ่านความรักและความเมตตาที่มีต่อเมดาและกระถิน สะท้อนถึงความหวังและความสมหวังผ่านการได้เห็นความยุติธรรมในตอนจบ

ภูมิหลังและตัวตน
นมแสง เป็นข้ารับใช้เก่าแก่ที่ทำงานในคฤหาสน์บดินทร์ธรมานาน เธอเคยรับใช้ เวียงแก้ว (ภรรยาคนที่สี่ของ ปกรณ์ บดินทร์ธร) และมีความภักดีต่อเวียงแก้วอย่างสูง เธอยังเป็นย่าของ กระถิน ซึ่งทำงานในคฤหาสน์เช่นกัน อดีต นมแสงเป็นพยานในเหตุการณ์อันโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับเวียงแก้ว รวมถึงการกดขี่และการเสียชีวิตของเธอ เธอรู้ความลับเกี่ยวกับการสลับตัวตนของเมดาและร้อยดาว ซึ่งทำเพื่อปกป้องร้อยดาวจากอันตรายในตระกูล นมแสงเก็บความลับนี้ไว้ด้วยความภักดีและความหวังที่จะเห็นความยุติธรรม

บทบาทในเรื่อง นมแสงเป็นตัวละครที่ช่วยเมดาค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีตของเวียงแก้วและตระกูล เธอเป็นที่ปรึกษาและผู้ให้กำลังใจของเมดาและกระถิน รวมถึงเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบันของเรื่องราว ชะตากรรมในตอนท้ายเรื่อง นมแสงยังคงอยู่ในคฤหาสน์และได้เห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นเมื่อปมปริศนาคลายออก เธอรู้สึกสมหวังที่ได้เห็นร้อยดาวได้รับความรักและความยุติธรรมที่สมควรได้รับ

บุคลิกและนิสัย
ภักดีและซื่อสัตย์นมแสงมีความภักดีอย่างลึกซึ้งต่อเวียงแก้วและตระกูลบดินทร์ธร เธอเก็บความลับของการสลับตัวตนไว้เพื่อปกป้องร้อยดาว แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความกดดันจากสมาชิกตระกูลที่ร้ายกาจ ใจดีและอบอุ่นนมแสงมีจิตใจดีและเปี่ยมด้วยความเมตตา เธอปฏิบัติต่อเมดาด้วยความรักและให้การสนับสนุนเหมือนเป็นหลานของตัวเอง ซึ่งช่วยสร้างความรู้สึกอบอุ่นในเรื่อง

ฉลาดและมีไหวพริบแม้ว่าจะเป็นเพียงข้ารับใช้ นมแสงมีความฉลาดและรู้จักระมัดระวัง เธอให้คำแนะนำที่สำคัญแก่เมดาและกระถิน และช่วยปกป้องพวกเขาจากอันตรายในคฤหาสน์ เข้มแข็งและอดทน นมแสงต้องเผชิญกับความโหดร้ายของตระกูลบดินทร์ธรมาหลายปี เธอแสดงถึงความเข้มแข็งทางจิตใจและความอดทนในการทำงานและปกป้องความลับของตระกูล

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) นมแสงเป็นหนึ่งในคนแรกที่ต้อนรับเมดาด้วยความอบอุ่นเมื่อเธอมาถึงคฤหาสน์ เธอรู้ว่าเมดาไม่ใช่ร้อยดาวตัวจริง แต่ปฏิบัติต่อเมดาด้วยความรักและให้การสนับสนุน เธอยังช่วยเมดาค้นหาความจริงเกี่ยวกับเวียงแก้วและการสลับตัวตน

กับกระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) นมแสงเป็นย่าที่กระถินรักและเคารพอย่างมาก เธอเลี้ยงดูกระถินให้มีความภักดีและกล้าหาญ และทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและอบอุ่น นมแสงมักให้คำแนะนำและปกป้องกระถินจากความขัดแย้งในตระกูล

กับเวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) นมแสงมีความภักดีอย่างลึกซึ้งต่อเวียงแก้ว เธอเป็นข้ารับใช้ที่ใกล้ชิดและรู้สึกเสียใจอย่างมากเมื่อเวียงแก้วถูกกดขี่และเสียชีวิต ความภักดีนี้ทำให้เธอพยายามปกป้องร้อยดาวและช่วยเมดาคลายปมปริศนา

กับน่านฟ้า (โฟกัส จิระกุล) นมแสงมีปฏิสัมพันธ์ที่เป็นมิตรกับน่านฟ้า ซึ่งเป็นเพื่อนของเมดา เธอปฏิบัติต่อน่านฟ้าด้วยความเมตตาและสนับสนุนมิตรภาพของน่านฟ้ากับเมดาและกระถิน

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์) จงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์), และสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์): นมแสงถูกมองว่าเป็นเพียงข้ารับใช้โดยภรรยาของปกรณ์ เธอมักถูกดูถูกและกดขี่ โดยเฉพาะจากเต็มเดือนและจงจิตร แต่เธอเลือกที่จะอดทนและทำงานอย่างเงียบๆ เพื่อปกป้องความลับของตระกูล

กับดำรง (พิศาล อัครเศรณี) นมแสงน่าจะมีความเคารพต่อดำรงในฐานะผู้นำตระกูล เธออาจรู้ความลับเกี่ยวกับการสลับตัวตนผ่านการสั่งการของดำรงหรือปกรณ์ แต่ละครไม่ได้แสดงปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างทั้งคู่

บทบาทในเรื่อง
ตัวเชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน นมแสงเป็นพยานในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเวียงแก้วและรู้ความลับของการสลับตัวตน เธอช่วยเชื่อมโยงอดีตของตระกูลบดินทร์ธรกับเหตุการณ์ในปัจจุบันผ่านการให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่เมดา ผู้ช่วยในการสืบสวน นมแสงมีบทบาทสำคัญในการช่วยเมดาค้นหาความจริงเกี่ยวกับการตายของเวียงแก้วและปมการสลับตัวตน เธอให้เบาะแสและคำแนะนำที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว

ตัวแทนของความภักดีและความยุติธรรม ความภักดีของนมแสงต่อเวียงแก้วและความมุ่งมั่นที่จะปกป้องร้อยดาวแสดงถึงจิตใจที่บริสุทธิ์และความหวังในความยุติธรรม เธอเป็นตัวละครที่ยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง ตัวละครที่เพิ่มความอบอุ่น การปฏิบัติต่อเมดาและกระถินด้วยความรักและความเมตตาทำให้นมแสงเป็นตัวละครที่สร้างความรู้สึกอบอุ่นและช่วยสมดุลความตึงเครียดจากความร้ายกาจของตระกูลบดินทร์ธร

ตัวละครที่สมหวังการที่นมแสงได้เห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นและร้อยดาวได้รับความรักในตอนจบช่วยให้ตัวละครนี้มีบทสรุปที่สมหวัง ซึ่งเพิ่มความรู้สึกแง่บวกให้กับเรื่องราว

การแสดงของ ทัศวรรณ เสนียวงศ์
ทัศวรรณ เสนียวงศ์ ถ่ายทอดบท นมแสง ได้อย่างยอดเยี่ยมและน่าประทับใจ เธอนำเสนอความภักดี ความอบอุ่น และความเข้มแข็งของตัวละครได้อย่างลงตัว ความอบอุ่นและเมตตา ทัศวรรณใช้รอยยิ้มและน้ำเสียงที่นุ่มนวลเพื่อแสดงถึงความใจดีของนมแสง ฉากที่เธอพูดคุยกับเมดาหรือกระถินเต็มไปด้วยความรู้สึกเหมือนย่าที่ห่วงใยหลาน

ความภักดีและความลึกซึ้ง ในฉากที่พูดถึงเวียงแก้วหรือให้คำแนะนำเกี่ยวกับความลับของตระกูล ทัศวรรณแสดงถึงความรู้สึกผิดและความมุ่งมั่นของนมแสงได้อย่างน่าเชื่อ ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงน้ำหนักของความภักดีของตัวละคร ความเข้มแข็งแม้ว่านมแสงจะเป็นข้ารับใช้ ทัศวรรณสามารถถ่ายทอดความเข้มแข็งและความอดทนของตัวละครได้ผ่านท่าทีที่สงบและมั่นคงเมื่อเผชิญหน้ากับความร้ายกาจของตระกูล

เคมีกับตัวละครอื่น ทัศวรรณมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ ณฐพร เตมีรักษ์ (เมดา) และ สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย (กระถิน) ทำให้ความสัมพันธ์ของตัวละครเหล่านี้ดูเป็นธรรมชาติและน่าประทับใจ จุดเด่นความสามารถในการถ่ายทอดความอบอุ่นที่แฝงด้วยความเข้มแข็งและความภักดีทำให้นมแสงเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าเคารพ การแสดงของทัศวรรณช่วยยกระดับบทบาทของตัวละครรองให้โดดเด่น

เนื่องจากนมแสงเป็นตัวละครรองและไม่มีปมดราม่าที่ซับซ้อน การแสดงของทัศวรรณอาจไม่เด่นเท่าตัวละครหลักอย่างเมดาหรือเต็มเดือน แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้เป็นที่รักและน่าจดจำ

นมแสง เป็นตัวละครรองที่เปี่ยมด้วยความภักดี ใจดี และเข้มแข็ง เธอเป็นข้ารับใช้เก่าแก่ที่รู้ความลับของตระกูลบดินทร์ธรและช่วยเมดาค้นหาความจริงเกี่ยวกับอดีต การแสดงของ ทัศวรรณ เสนียวงศ์ ทำให้ นมแสง เป็นตัวละครที่น่ารัก น่าเคารพ และน่าจดจำ เธอเพิ่มความอบอุ่นและมิติทางอารมณ์ให้กับ เวียงร้อยดาว ผ่านความรักที่มีต่อเมดาและกระถิน และความมุ่งมั่นในการปกป้องความยุติธรรม การได้เห็นความสมหวังในตอนจบทำให้ นมแสง เป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็มเรื่องราวด้วยความรู้สึกแง่บวก

→ รอง เค้ามูลคดี รับบท ทวีป

รอง เค้ามูลคดี

ตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญในฐานะทนายความประจำตระกูลบดินทร์ธร ทวีปเป็นตัวละครที่รู้ความลับของตระกูลและมีส่วนช่วยในการคลายปมปริศนาของเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการสลับตัวตนของ เมดา/ร้อยดาว และการจัดการพินัยกรรมของ ปกรณ์ บดินทร์ธร

ทวีปเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อน เวียงร้อยดาว เริ่มต้นเรื่องราวโดยการนำเมดา (ในนามร้อยดาว) กลับเมืองไทยเพื่อฟังพินัยกรรม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งและการสืบสวน เป็นผู้รู้ความลับของการสลับตัวตน ซึ่งช่วยเพิ่มความลึกลับและนำไปสู่การคลายปมในตอนท้าย

จัดการพินัยกรรมของดิลกและปกรณ์ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการยุติความขัดแย้งเรื่องมรดกและยืนยันตัวตนของเมดา
เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเรื่องราวผ่านบทบาททนายความที่มีความรู้และเป็นกลาง สะท้อนถึงความยุติธรรมโดยการมอบมรดกให้เมดา ซึ่งช่วยย้ำธีมของผลกรรมและความยุติธรรมในเรื่อง

ภูมิหลังและตัวตน
ทวีป เป็นทนายความที่ทำงานให้กับตระกูลบดินทร์ธรมานาน เขาเป็นบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจจาก ดำรง (ผู้นำตระกูล) และ ปกรณ์ บดินทร์ธร ในการจัดการเรื่องกฎหมายและพินัยกรรมของตระกูล อดีต ทวีปมีส่วนรู้เห็นในเหตุการณ์สำคัญของตระกูล รวมถึงการสลับตัวตนของเมดาและร้อยดาว ซึ่งทำเพื่อปกป้องร้อยดาวจากอันตรายในตระกูล เขายังเป็นพยานในความขัดแย้งและความโศกเศร้าของตระกูล เช่น การตายของ เวียงแก้ว และการย้ายไปอยู่อังกฤษของ ดิลก และ จันทร์สาย

บทบาทในเรื่องทวีปเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวโดยการนำ ร้อยดาว (ที่แท้คือเมดา) กลับเมืองไทยเพื่อฟังพินัยกรรมของปกรณ์ และมีส่วนในการเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับมรดกและความลับของตระกูลในตอนท้าย ชะตากรรม ทวีปยังคงทำหน้าที่ทนายความจนถึงตอนจบของเรื่อง เขาเป็นผู้จัดการพินัยกรรมของ ดิลก ซึ่งมอบมรดกให้เมดา และช่วยให้ปมปริศนาของตระกูลคลายออก เขาไม่มีบทสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว แต่มีส่วนช่วยให้เรื่องราวจบลงอย่างสมบูรณ์

บุคลิกและนิสัย
ซื่อสัตย์และภักดี ทวีปเป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และภักดีต่อตระกูลบดินทร์ธร เขาทำตามคำสั่งของดำรงและปกรณ์อย่างเคร่งครัด และเก็บความลับของตระกูลไว้อย่างดี สุขุมและรอบคอบ ในฐานะทนายความ ทวีปมีบุคลิกที่สุขุมและรอบคอบ เขาคิดก่อนพูดและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับความขัดแย้งในตระกูล

เป็นกลางและยุติธรรม ทวีปไม่เข้าข้างฝ่ายใดในตระกูล เขาทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการพินัยกรรม ซึ่งทำให้เขาได้รับความเคารพจากตัวละครอย่างดำรง ห่วงใยผู้อื่น ทวีปแสดงความห่วงใยต่อ ปรมัตถ์ (ลูกชายของเขา) โดยเฉพาะเมื่อเห็นปรมัตถ์มีใจให้ร้อยดาว เขากลัวว่าลูกชายจะเจ็บปวดจากความรักที่อาจไม่สมหวัง

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับดำรง (พิศาล อัครเศรณี) ทวีปมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับดำรงในฐานะทนายความที่ได้รับความไว้วางใจ เขารายงานเรื่องสำคัญ เช่น การกลับมาของร้อยดาว และหารือเรื่องพินัยกรรมของปกรณ์และดิลกกับดำรง

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ทวีปเป็นผู้ติดต่อให้เมดา (ในนามร้อยดาว) กลับเมืองไทยเพื่อฟังพินัยกรรม เขาปฏิบัติต่อเธอด้วยความเคารพและให้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับตระกูล ในตอนท้าย เขาเป็นผู้เปิดเผยว่าเมดาคือลูกสาวของดิลกและได้รับมรดกทั้งหมด

กับปรมัตถ์ (จรณ โสรัตน์) ปรมัตถ์เป็นลูกชายของทวีป ทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ทวีปห่วงใยลูกชายและพยายามเตือนเขาเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อร้อยดาว กลัวว่าปรมัตถ์จะเจ็บปวดจากความรักที่ไม่สมหวัง

กับนมแสง (ทัศวรรณ เสนียวงศ์) ทวีปและนมแสงมีความสัมพันธ์ในฐานะผู้รู้ความลับของตระกูล ทั้งคู่ทำงานร่วมกันอย่างเงียบๆ เพื่อปกป้องร้อยดาวและเมดา ปรมัตถ์เคยส่งข้อความผ่านนมแสงเพื่อแจ้งทวีปเกี่ยวกับธุระของดำรง

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์), จงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์), และสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) ทวีปปฏิบัติต่อภรรยาของปกรณ์ด้วยความเป็นกลางในฐานะทนายความ เขาต้องรับมือกับความกดดันจากเต็มเดือนและจงจิตรที่ต้องการรู้เนื้อหาของพินัยกรรม แต่เขายังคงรักษาความลับจนถึงเวลาที่เหมาะสม

กับดิลก (พลรักษ์ รอดรักษา) และจันทร์สาย (สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) ทวีปมีความสัมพันธ์ในอดีตกับดิลกและจันทร์สาย เขาเป็นผู้ส่งทั้งคู่ไปสนามบินเมื่อพวกเขาตัดสินใจย้ายไปอังกฤษพร้อมร้อยดาว เพื่อหนีจากความโหดร้ายของตระกูล

บทบาทในเรื่อง
ตัวเชื่อมโยงเหตุการณ์ ทวีปเป็นผู้เริ่มต้นเรื่องราวโดยการติดต่อให้ร้อยดาว (เมดา) กลับเมืองไทย และช่วยเชื่อมโยงเหตุการณ์ในอดีต เช่น การย้ายไปของดิลกและจันทร์สาย กับเหตุการณ์ในปัจจุบัน ผู้จัดการพินัยกรรมทวีปมีบทบาทสำคัญในการจัดการพินัยกรรมของปกรณ์และดิลก เขาเป็นผู้เปิดเผยเนื้อหาของพินัยกรรมในตอนท้าย ซึ่งนำไปสู่การคลายปมว่าเมดาคือลูกสาวของดิลกและได้รับมรดกทั้งหมด

ผู้รู้ความลับทวีปเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่รู้ความจริงเกี่ยวกับการสลับตัวตนของเมดาและร้อยดาว เขาเก็บความลับนี้ไว้เพื่อปกป้องทั้งสองและช่วยให้เมดาค้นหาความจริงเกี่ยวกับตระกูล ตัวแทนของความยุติธรรมการที่ทวีปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลางและเปิดเผยพินัยกรรมอย่างถูกต้องแสดงถึงความยุติธรรม เขาช่วยให้มรดกตกไปถึงผู้ที่สมควรได้รับ (เมดา) และปิดฉากความขัดแย้งในตระกูล

ตัวละครที่เพิ่มความน่าเชื่อถือ บทบาทของทวีปในฐานะทนายความที่มีความรู้และประสบการณ์ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับโครงเรื่อง โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและมรดก

การแสดงของ รอง เค้ามูลคดี
รอง เค้ามูลคดี ถ่ายทอดบท ทวีป ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สมกับเป็นนักแสดงอาวุโสและศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (2560) ความสุขุมและน่าเชื่อถือ รองแสดงถึงความเป็นทนายความที่สุขุมและรอบคอบผ่านน้ำเสียงที่หนักแน่นและท่าทีที่มั่นคง ฉากที่เขาพูดคุยกับดำรงหรือแจ้งเรื่องพินัยกรรมแสดงถึงความน่าเชื่อถือของตัวละคร

ความห่วงใยที่ละเอียดอ่อน ในฉากที่ทวีปเตือนปรมัตถ์เกี่ยวกับความรู้สึกที่มีต่อร้อยดาว รองสามารถถ่ายทอดความห่วงใยของพ่อที่มีต่อลูกได้อย่างเป็นธรรมชาติและน่าประทับใจ เคมีกับตัวละครอื่น รองมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับ พิศาล อัครเศรณี (ดำรง) ในฉากที่ทั้งคู่หารือเรื่องตระกูล และกับ จรณ โสรัตน์ (ปรมัตถ์) ในฉากที่แสดงถึงความสัมพันธ์พ่อลูก

จุดเด่น ความสามารถในการถ่ายทอดบุคลิกที่ทั้งเข้มแข็งและนุ่มนวลทำให้ทวีปเป็นตัวละครที่มีน้ำหนักและน่าจดจำ แม้จะเป็นตัวละครรอง การแสดงของรองช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับบทบาททนายความ เนื่องจากทวีปเป็นตัวละครรองและมีบทบาทจำกัดในส่วนของการจัดการพินัยกรรม การแสดงของรองอาจไม่โดดเด่นเท่าตัวละครหลัก แต่เขาก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีมิติและน่าเคารพ

ทวีป เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทสำคัญใน เวียงร้อยดาว ในฐานะทนายความประจำตระกูลบดินทร์ธรที่ซื่อสัตย์ สุขุม และเป็นกลาง เขาเป็นผู้รู้ความลับของการสลับตัวตนและมีส่วนช่วยคลายปมปริศนาผ่านการจัดการพินัยกรรม การแสดงของ รอง เค้ามูลคดี ทำให้ทวีปเป็นตัวละครที่น่าเชื่อถือและน่าจดจำ ด้วยการถ่ายทอดทั้งความเข้มแข็งและความห่วงใยอย่างลงตัว บทบาทของทวีปช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว สะท้อนความยุติธรรม และเพิ่มมิติให้กับความขัดแย้งในตระกูล ทวีปจึงเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็ม เวียงร้อยดาว ได้อย่างสมบูรณ์

→ ปราสาท ทองอร่าม รับบท บังหนั่น

hq720
ปราสาท ทองอร่าม

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นยามประจำคฤหาสน์บดินทร์ธร บังหนั่นเป็นตัวละครที่มีเอกลักษณ์ด้วยความสามารถพิเศษในการมองเห็นวิญญาณ โดยเฉพาะวิญญาณของ เวียงแก้ว ซึ่งทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่เพิ่มความลึกลับและความสยองขวัญให้กับเรื่อง

บังหนั่นเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ เวียงร้อยดาว เพิ่มความสยองขวัญและความลึกลับด้วยความสามารถในการเห็นวิญญาณเวียงแก้ว ซึ่งช่วยย้ำถึงพลังและความแค้นของวิญญาณ สะท้อนความเชื่อในสิ่งลี้ลับที่สอดคล้องกับบริบทของเรื่อง ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงบรรยากาศของคฤหาสน์ที่เต็มไปด้วยความลับ

เพิ่มสีสันและความขบขันผ่านปฏิกิริยาที่ตื่นตระหนก ซึ่งช่วยสมดุลความเข้มข้นของดราม่าและความสยองขวัญ เป็นพยานในเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ซึ่งช่วยยืนยันว่าคฤหาสน์บดินทร์ธรมีอดีตที่มืดมนและน่าสะพรึงกลัว เป็นตัวละครที่เป็นกลางและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งหลัก ทำให้เขาเป็นจุดเชื่อมโยงที่ช่วยให้ผู้ชมมุ่งเน้นไปที่บรรยากาศของเรื่อง

ภูมิหลังและตัวตน
บังหนั่น เป็นยามที่ทำงานในคฤหาสน์บดินทร์ธรมานานหลายปี เขาเป็นคนในท้องถิ่นที่มีความผูกพันกับตระกูลบดินทร์ธรในฐานะผู้รับใช้ อายุ ประมาณ 50 ปี ความสามารถพิเศษบังหนั่นมี “เซ้นส์” ในการมองเห็นวิญญาณ ทำให้เขาเป็นหนึ่งในตัวละครไม่กี่คน (นอกเหนือจาก ดำรง) ที่สามารถมองเห็นวิญญาณของเวียงแก้วได้ ซึ่งเพิ่มความน่าสะพรึงกลัวให้กับบทบาทของเขา

บทบาทในเรื่อง บังหนั่นทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของคฤหาสน์ แต่ความสามารถในการเห็นผีทำให้เขาเป็นพยานในเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในตระกูล เขายังเป็นตัวละครที่เพิ่มสีสันด้วยบุคลิกที่ดูขี้กลัวแต่ภักดี ชะตากรรม ละครไม่ได้ระบุชะตากรรมที่ชัดเจนของบังหนั่นในตอนจบ แต่ในฐานะตัวละครรองที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งหลัก เขาน่าจะยังคงทำงานในคฤหาสน์ต่อไปหลังจากปมของเรื่องคลายลง

บุคลิกและนิสัย
ขี้กลัวแต่ภักดี บังหนั่นเป็นคนขี้กลัว โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณของเวียงแก้ว แต่เขาก็ภักดีต่อหน้าที่และไม่ละทิ้งงานในคฤหาสน์ แม้จะรู้ว่ามีสิ่งลี้ลับเกิดขึ้น ซื่อสัตย์และตรงไปตรงมา เขาเป็นคนที่ทำงานอย่างซื่อสัตย์และไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งในตระกูล เมื่อเห็นสิ่งผิดปกติ เช่น วิญญาณของเวียงแก้ว เขามักจะรายงานหรือแสดงความกลัวออกมาอย่างตรงไปตรงมา

มีอารมณ์ขัน บุคลิกของบังหนั่นมักถูกนำเสนอในแง่ที่ตลกขบขันเล็กน้อย โดยเฉพาะในฉากที่เขาตื่นตระหนกเมื่อเห็นผี ซึ่งช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของเรื่อง เชื่อในสิ่งลี้ลับ ความสามารถในการเห็นวิญญาณทำให้บังหนั่นมีความเชื่อในเรื่องเหนือธรรมชาติ เขามักแสดงความเคารพหรือหวาดกลัวต่อสิ่งที่เขาเห็น ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อพื้นบ้าน

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับดำรง (พิศาล อัครเศรณี) บังหนั่นมีความสัมพันธ์ในฐานะลูกน้องกับดำรง ซึ่งเป็นผู้นำตระกูล เขาน่าจะรายงานสิ่งที่เห็น เช่น การปรากฏตัวของวิญญาณเวียงแก้ว ให้ดำรงทราบ เนื่องจากดำรงก็เป็นอีกคนที่เห็นวิญญาณนี้

กับนมแสง (ทัศวรรณ เสนียวงศ์) และ กระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) บังหนั่นอาจมีปฏิสัมพันธ์เล็กน้อยกับนมแสงและกระถินในฐานะผู้รับใช้ในคฤหาสน์ เขาน่าจะรู้จักทั้งคู่ดีจากการทำงานร่วมกันมานาน แต่ละครไม่ได้เน้นความสัมพันธ์นี้

กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) บังหนั่นไม่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับเมดามากนัก แต่เขาอาจเห็นเธอในคฤหาสน์และรู้ว่าเธอคือทายาทที่กลับมาเพื่อฟังพินัยกรรม ความกลัวผีของเขาอาจทำให้เขาเลี่ยงการเข้าใกล้เมดาเมื่อมีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติเกิดขึ้น

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์), จงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์), และสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) ในฐานะยาม บังหนั่นน่าจะถูกมองว่าเป็นเพียงคนรับใช้โดยภรรยาของปกรณ์ เขาอาจถูกสั่งการหรือดูถูกจากตัวละครอย่างเต็มเดือนหรือจงจิตร แต่เขาเลือกที่จะทำงานอย่างเงียบๆ

กับวิญญาณเวียงแก้ว (มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล) ความสัมพันธ์ที่โดดเด่นที่สุดของบังหนั่นคือการที่เขามองเห็นวิญญาณของเวียงแก้ว การเห็นผีของเขาช่วยยืนยันความน่าสะพรึงกลัวของคฤหาสน์และเพิ่มความลึกลับให้กับเรื่อง

บทบาทในเรื่อง
ตัวละครที่เพิ่มความสยองขวัญ ความสามารถของบังหนั่นในการเห็นวิญญาณเวียงแก้วช่วยเสริมบรรยากาศความน่าสะพรึงกลัวของ เวียงร้อยดาว การที่เขาและดำรงเป็นเพียงไม่กี่คนที่เห็นผีทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงพลังของวิญญาณเวียงแก้ ตัวแทนของความเชื่อพื้นบ้าน บังหนั่นสะท้อนถึงความเชื่อในสิ่งลี้ลับที่พบได้ในสังคมไทย การที่เขาขี้กลัวแต่ยอมรับการมีอยู่ของผีช่วยเชื่อมโยงผู้ชมกับธีมเหนือธรรมชาติของเรื่อง

ตัวละครที่เพิ่มสีสัน ปฏิกิริยาตื่นตระหนกและความกลัวของบังหนั่นเมื่อเห็นผีมักถูกนำเสนอในแง่ขบขันเล็กน้อย ซึ่งช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดจากดราม่าหรือความสยองขวัญในบางฉาก พยานในเหตุการณ์ลี้ลับในฐานะยามที่อยู่ในคฤหาสน์มานาน บังหนั่นเป็นพยานในเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ซึ่งช่วยยืนยันว่าคฤหาสน์บดินทร์ธรมีอดีตที่มืดมนและเต็มไปด้วยความแค้น

ตัวละครที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง บังหนั่นไม่ได้มีส่วนในความขัดแย้งเรื่องมรดกหรือการแก้แค้นของตระกูล ทำให้เขาเป็นตัวละครที่เป็นกลางและเน้นบทบาทในการเสริมบรรยากาศมากกว่าขับเคลื่อนพล็อต

การแสดงของ ปราสาท ทองอร่าม
ปราสาท ทองอร่าม ถ่ายทอดบท บังหนั่น ได้อย่างเหมาะสมและน่าจดจำ โดยเฉพาะในแง่ของการเพิ่มความสนุกและความสยองขวัญให้กับตัวละคร ความขี้กลัวที่ขบขัน ปราสาทแสดงถึงความตื่นตระหนกของบังหนั่นเมื่อเห็นวิญญาณเวียงแก้วได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยสีหน้าตกใจและท่าทางที่ดูหวาดระแวง ซึ่งทำให้ผู้ชมทั้งขำและรู้สึกถึงความน่ากลัว

บุคลิกที่สมจริง การพูดจาและท่าทางของปราสาทสะท้อนถึงคนทำงานทั่วไปที่มีความเชื่อในสิ่งลี้ลับ ทำให้บังหนั่นดูเป็นตัวละครที่สมจริงและเข้าถึงได้ เคมีกับฉากสยองขวัญ ในฉากที่บังหนั่นเผชิญหน้ากับวิญญาณ ปราสาทสามารถถ่ายทอดความกลัวที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกถึงพลังของวิญญาณเวียงแก้ว โดยไม่ต้องพูดมาก

จุดเด่นความสามารถในการผสมผสานความตลกและความน่ากลัวทำให้บังหนั่นเป็นตัวละครที่โดดเด่นในฉากที่เขาได้ปรากฏตัว การแสดงของปราสาทช่วยเพิ่มมิติให้กับตัวละครที่อาจดูธรรมดา เนื่องจากบังหนั่นเป็นตัวละครรองที่มีบทบาทจำกัด การแสดงของปราสาทอาจไม่เด่นเท่าตัวละครหลัก แต่เขาก็สามารถทำให้ตัวละครนี้เป็นที่จดจำในฉากที่เกี่ยวข้องกับความสยองขวัญ

บังหนั่น เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นยามประจำคฤหาสน์บดินทร์ธร โดดเด่นด้วยความสามารถในการมองเห็นวิญญาณเวียงแก้วและบุคลิกที่ขี้กลัวแต่ภักดี การแสดงของ ปราสาท ทองอร่าม ทำให้บังหนั่นเป็นตัวละครที่น่าจดจำ ด้วยการผสมผสานความตลกและความน่ากลัวได้อย่างลงตัว บังหนั่นช่วยเพิ่มความสยองขวัญ ความลึกลับ และสีสันให้กับ เวียงร้อยดาว ผ่านปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์เหนือธรรมชาติและการเป็นพยานในความมืดมนของตระกูล เขาเป็นตัวละครที่เสริมบรรยากาศของเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม แม้ว่าจะไม่มีส่วนในความขัดแย้งหลัก

→ สุดา ชื่นบาน รับบท ช้อย

hq720
สุดา ชื่นบาน

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นข้ารับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ช้อยเป็นตัวละครที่เพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวด้วยบุคลิกที่ซื่อๆ และการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญของตระกูล แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวละครที่มีบทบาทเด่นมากนัก

ช้อยเป็นตัวละครรองที่ช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับ เวียงร้อยดาว เพิ่มบรรยากาศของคฤหาสน์บดินทร์ธรโดยการแสดงถึงชีวิตประจำวันของข้ารับใช้ ซึ่งช่วยให้คฤหาสน์ดูมีมิติและสมจริง ช่วยถ่ายทอดข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวละครหลัก เช่น ความเคลื่อนไหวในตระกูลหรือเหตุการณ์ในคฤหาสน์

สะท้อนถึงความยากลำบากของข้ารับใช้ที่ต้องทำงานภายใต้การกดขี่ของสมาชิกตระกูล ซึ่งตอกย้ำความโหดร้ายของตัวละครร้าย เพิ่มความหลากหลายให้กับตัวละครในเรื่องด้วยบุคลิกที่เรียบง่ายและเป็นมิตร เป็นตัวละครที่เป็นกลางและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งหลัก ซึ่งช่วยให้ผู้ชมมุ่งเน้นไปที่ตัวละครหลักและพล็อตสำคัญ

ภูมิหลังและตัวตน
ช้อย เป็นข้ารับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ทำงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับงานบ้านทั่วไป เช่น การทำความสะอาดหรือช่วยงานในครัว เธอเป็นคนในท้องถิ่นที่ทำงานให้ตระกูลบดินทร์ธรมานาน อดีต ช้อยจะทำงานในคฤหาสน์ตั้งแต่สมัยที่ เวียงแก้ว ยังมีชีวิตอยู่ เธอเป็นพยานในความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในตระกูล เช่น การกดขี่เวียงแก้ว แต่ไม่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์เหล่านั้น

บทบาทในเรื่อง ช้อยเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศของคฤหาสน์บดินทร์ธร เธอมีส่วนในฉากที่เกี่ยวข้องกับการทำงานประจำวันและบางครั้งช่วยถ่ายทอดข้อมูลหรือเหตุการณ์ในตระกูลให้ตัวละครหลักอย่าง เมดา/ร้อยดาว และ กระถิน ทราบ

ชะตากรรม ละครไม่ได้ระบุชะตากรรมที่ชัดเจนของช้อยในตอนจบ เนื่องจากเธอเป็นตัวละครรองที่ไม่มีส่วนในความขัดแย้งหลัก เธอน่าจะยังคงทำงานในคฤหาสน์ต่อไปหลังจากปมปริศนาคลายลง

บุคลิกและนิสัย
ซื่อสัตย์และขยัน ช้อยเป็นคนทำงานหนักและซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ เธอทำตามคำสั่งของสมาชิกตระกูลอย่างเต็มใจและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งในบ้าน เรียบง่ายและตรงไปตรงมา ช้อยมีบุคลิกที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เธอมักพูดจาตรงไปตรงมาและแสดงออกตามความรู้สึก ซึ่งทำให้เธอดูเป็นตัวละครที่สมจริงและเข้าถึงได้

ขี้กลัวและระแวง เช่นเดียวกับตัวละครรับใช้บางคนในคฤหาสน์ ช้อยมีความกลัวต่อความโหดร้ายของสมาชิกตระกูล เช่น เต็มเดือน หรือ จงจิตร และอาจหวาดระแวงต่อเหตุการณ์ลี้ลับที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ เป็นมิตรและสนับสนุน ช้อยมีท่าทีเป็นมิตรต่อ เมดา และ กระถิน เธอมักให้ความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ หรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งแสดงถึงจิตใจที่ดี

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ช้อยมีปฏิสัมพันธ์กับเมดาในฐานะข้ารับใช้ที่ทำงานในคฤหาสน์ เธออาจช่วยเมดาในงานเล็กๆ น้อยๆ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับตระกูล ซึ่งช่วยให้เมดาเข้าใจบริบทของคฤหาสน์มากขึ้น

กับกระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) ช้อยและกระถินมีความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมงานในคฤหาสน์ ทั้งคู่เป็นข้ารับใช้ที่มีสถานะใกล้เคียงกัน และอาจมีการพูดคุยหรือทำงานร่วมกันในบางฉาก

กับนมแสง (ทัศวรรณ เสนียวงศ์) ช้อยน่าจะเคารพนมแสงในฐานะข้ารับใช้รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับตระกูล เธออาจรับคำสั่งจากนมแสงในงานบ้านบางอย่าง

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์), จงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์), และสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) ช้อยอยู่ในสถานะที่ต่ำต้อยและมักถูกสั่งการหรือดูถูกจากภรรยาของปกรณ์ โดยเฉพาะเต็มเดือนและจงจิตร เธอต้องทำงานอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ถูกต่อว่า

กับบังหนั่น (ปราสาท ทองอร่าม) ช้อยและบังหนั่นเป็นข้ารับใช้ที่ทำงานในคฤหาสน์เหมือนกัน อาจมีการพูดคุยหรือแบ่งปันความกลัวเกี่ยวกับเหตุการณ์ลี้ลับในคฤหาสน์ แต่ละครไม่ได้เน้นความสัมพันธ์นี้

กับตัวละครอื่น ช้อยไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่เด่นชัดกับตัวละครหลักอื่นๆ เช่น สิบทิศ หรือ น่านฟ้า เนื่องจากบทบาทของเธอจำกัดอยู่ในบริบทของการเป็นข้ารับใช้

บทบาทในเรื่อง
ตัวละครที่เพิ่มบรรยากาศ ช้อยช่วยสร้างภาพของคฤหาสน์บดินทร์ธรในฐานะสถานที่ที่มีข้ารับใช้ทำงานมากมาย การปรากฏตัวของเธอทำให้คฤหาสน์ดูมีชีวิตชีวาและสมจริง ผู้ถ่ายทอดข้อมูล ช้อยอาจมีส่วนในการให้ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตระกูลหรือเหตุการณ์ในคฤหาสน์แก่เมดาหรือกระถิน ซึ่งช่วยให้ตัวละครหลักเข้าใจบริบทของเรื่องมากขึ้น

ตัวแทนของคนรับใช้ ช้อยสะท้อนถึงชีวิตของข้ารับใช้ที่ต้องทำงานหนักและเผชิญกับความกดดันจากสมาชิกตระกูล เธอเป็นตัวละครที่แสดงถึงความยากลำบากของคนในสถานะต่ำ ตัวละครที่เพิ่มสีสัน บุคลิกที่เรียบง่ายและปฏิกิริยาที่ตรงไปตรงมาของช้อยช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับตัวละครในเรื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่จุดเด่นของพล็อต

ไม่มีส่วนในความขัดแย้งหลัก ช้อยไม่ได้มีส่วนในความขัดแย้งเรื่องมรดกหรือการแก้แค้นของตระกูล ทำให้เธอเป็นตัวละครที่เป็นกลางและเน้นบทบาทในการเสริมบริบทมากกว่าขับเคลื่อนเรื่องราว

การแสดงของ สุดา ชื่นบาน
สุดา ชื่นบาน ถ่ายทอดบท ช้อย ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับบทบาทของข้ารับใช้ที่เรียบง่าย ความสมจริง สุดาแสดงถึงความเป็นข้ารับใช้ที่ทำงานหนักด้วยท่าทางที่ดูขยันและน้ำเสียงที่เรียบง่าย ทำให้ช้อยดูเป็นตัวละครที่สมจริงและเข้าถึงได้

ความเป็นมิตรในฉากที่ช้อยพูดคุยกับเมดาหรือกระถิน สุดาใช้รอยยิ้มและน้ำเสียงที่เป็นมิตรเพื่อแสดงถึงจิตใจที่ดีของตัวละคร ความขี้กลัวเล็กน้อยหากช้อยต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียดหรือคำสั่งจากตัวละครร้าย สุดาสามารถถ่ายทอดความระแวงและความกังวลได้อย่างเหมาะสม

เคมีกับตัวละครอื่น สุดามีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับนักแสดงที่รับบทข้ารับใช้ เช่น สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย (กระถิน) และ ทัศวรรณ เสนียวงศ์ (นมแสง) ทำให้ฉากที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มข้ารับใช้ดูเป็นธรรมชาติ จุดเด่นความสามารถในการแสดงถึงความเรียบง่ายและความเป็นคนทำงานทั่วไปทำให้ช้อยเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับคฤหาสน์

เนื่องจากช้อยเป็นตัวละครรองที่มีบทบาทจำกัดและไม่มีปมส่วนตัว การแสดงของสุดาอาจไม่โดดเด่นเท่าตัวละครหลักหรือตัวละครที่มีบทบาทมากกว่า แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตในฉากที่ปรากฏ

ช้อย เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นข้ารับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ด้วยบุคลิกที่ซื่อสัตย์ เรียบง่าย และเป็นมิตร เธอช่วยเพิ่มบรรยากาศและความสมจริงให้กับเรื่อง การแสดงของ สุดา ชื่นบาน ทำให้ช้อยเป็นตัวละครที่ดูเป็นธรรมชาติและน่ารัก แม้ว่าจะมีบทบาทจำกัด ช้อยมีส่วนในการถ่ายทอดข้อมูลและสะท้อนถึงชีวิตของข้ารับใช้ในตระกูลที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เธอเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็ม เวียงร้อยดาว โดยการเพิ่มมิติให้กับคฤหาสน์และบริบทของเรื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวละครที่ขับเคลื่อนพล็อตหลัก

→ ณัฐนี สิทธิสมาน รับบท เสงี่ยม

hq720
ณัฐนี สิทธิสมาน

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นข้ารับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร เสงี่ยมเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศของคฤหาสน์และมีส่วนเล็กๆ ในการถ่ายทอดข้อมูลหรือเหตุการณ์ในตระกูลให้ตัวละครหลักทราบ เธอเป็นตัวละครที่สะท้อนถึงชีวิตของข้ารับใช้ที่ต้องทำงานภายใต้ความกดดันของสมาชิกตระกูล

เสงี่ยมเป็นตัวละครรองที่ช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับ เวียงร้อยดาว เพิ่มบรรยากาศของคฤหาสน์บดินทร์ธรโดยการแสดงถึงชีวิตประจำวันของข้ารับใช้ ซึ่งช่วยให้คฤหาสน์ดูมีมิติและสมจริง ช่วยถ่ายทอดข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวละครหลัก เช่น ความเคลื่อนไหวในตระกูลหรือเหตุการณ์ในคฤหาสน์

สะท้อนถึงความยากลำบากของข้ารับใช้ที่ต้องทำงานภายใต้การกดขี่ของสมาชิกตระกูล ซึ่งตอกย้ำความโหดร้ายของตัวละครร้าย เพิ่มความหลากหลายให้กับตัวละครในเรื่องด้วยบุคลิกที่เรียบง่ายและถ่อมตัว เป็นตัวละครที่เป็นกลางและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งหลัก ซึ่งช่วยให้ผู้ชมมุ่งเน้นไปที่ตัวละครหลักและพล็อตสำคัญ

ภูมิหลังและตัวตน
เสงี่ยม เป็นข้ารับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ทำงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับงานบ้านทั่วไป เช่น การทำความสะอาด ช่วยงานในครัว หรือรับใช้สมาชิกตระกูล เธอเป็นคนในท้องถิ่นที่ทำงานให้ตระกูลมานาน อดีต เสงี่ยมน่าจะเริ่มทำงานในคฤหาสน์ตั้งแต่สมัยที่ เวียงแก้ว ยังมีชีวิตอยู่ เธออาจเคยเห็นเหตุการณ์ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในตระกูล เช่น การกดขี่เวียงแก้ว แต่ไม่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์เหล่านั้นและไม่รู้ความลับลึกซึ้งของตระกูล

บทบาทในเรื่อง เสงี่ยมเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมภาพของคฤหาสน์บดินทร์ธรในฐานะสถานที่ที่มีข้ารับใช้จำนวนมาก เธอปรากฏตัวในฉากที่เกี่ยวข้องกับงานบ้านหรือการสนทนาในหมู่ข้ารับใช้ และอาจช่วยถ่ายทอดข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตระกูลให้ตัวละครหลักอย่าง เมดา/ร้อยดาว หรือ กระถิน ทราบ

ชะตากรรม ละครไม่ได้ระบุชะตากรรมที่ชัดเจนของเสงี่ยมในตอนจบ เนื่องจากเธอเป็นตัวละครรองที่ไม่มีส่วนในความขัดแย้งหลัก เธอน่าจะยังคงทำงานในคฤหาสน์ต่อไปหลังจากปมปริศนาคลายลง

บุคลิกและนิสัย
ซื่อสัตย์และขยัน เสงี่ยมเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์และทำงานหนัก เธอทำตามคำสั่งของสมาชิกตระกูลอย่างไม่บ่นและพยายามหลีกเลี่ยงปัญหาในบ้าน เรียบง่ายและถ่อมตัว เสงี่ยมมีบุคลิกที่เรียบง่ายและไม่แสดงออกมาก เธอเป็นคนถ่อมตัวที่รู้สถานะของตัวเองในฐานะข้ารับใช้ และมักอยู่ในบทบาทที่สนับสนุนผู้อื่น

ขี้กลัวและระวังตัว เสงี่ยมมีความกลัวต่อความโหดร้ายของสมาชิกตระกูล เช่น เต็มเดือน หรือ จงจิตร และอาจระแวงต่อเหตุการณ์ลี้ลับในคฤหาสน์ เธอมักทำงานอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ถูกต่อว่า เป็นมิตรและมีน้ำใจ เสงี่ยมแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อข้ารับใช้ด้วยกัน เช่น กระถิน หรือ นมแสง และอาจมีน้ำใจช่วยเหลือ เมดา ในสถานการณ์ที่เหมาะสม

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) เสงี่ยมอาจมีปฏิสัมพันธ์เล็กน้อยกับเมดาในฐานะข้ารับใช้ที่ทำงานในคฤหาสน์ เธอน่าจะปฏิบัติต่อเมดาด้วยความเคารพในฐานะทายาท และอาจช่วยเหลือในงานเล็กๆ น้อยๆ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับตระกูล

กับกระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) เสงี่ยมและกระถินมีความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมงานในคฤหาสน์ ทั้งคู่เป็นข้ารับใช้ที่มีสถานะใกล้เคียงกัน และอาจมีการพูดคุยหรือทำงานร่วมกันในบางฉาก

กับนมแสง (ทัศวรรณ เสนียวงศ์) เสงี่ยมน่าจะเคารพนมแสงในฐานะข้ารับใช้รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ เธออาจรับคำสั่งหรือคำแนะนำจากนมแสงในงานบ้าน และมีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตร

กับช้อย (สุดา ชื่นบาน) เสงี่ยมและช้อยเป็นข้ารับใช้ที่ทำงานในคฤหาสน์เหมือนกัน และน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีในฐานะเพื่อนร่วมงาน ทั้งคู่มีสถานะและบทบาทที่คล้ายกัน

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์), จงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์), และสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) เสงี่ยมอยู่ในสถานะที่ต่ำต้อยและมักถูกสั่งการหรือดูถูกจากภรรยาของปกรณ์ โดยเฉพาะเต็มเดือนและจงจิตร เธอต้องทำงานอย่างระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกต่อว่า

กับบังหนั่น (ปราสาท ทองอร่าม) เสงี่ยมอาจมีการพูดคุยหรือแบ่งปันความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคฤหาสน์กับบังหนั่น ซึ่งเป็นยามของคฤหาสน์ แต่ละครไม่ได้เน้นความสัมพันธ์นี้

กับตัวละครอื่น เสงี่ยมไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่เด่นชัดกับตัวละครหลักอื่นๆ เช่น สิบทิศ หรือ น่านฟ้า เนื่องจากบทบาทของเธอจำกัดอยู่ในบริบทของการเป็นข้ารับใช้

บทบาทในเรื่อง
ตัวละครที่เพิ่มบรรยากาศ เสงี่ยมช่วยสร้างภาพของคฤหาสน์บดินทร์ธรในฐานะสถานที่ที่มีข้ารับใช้ทำงานมากมาย การปรากฏตัวของเธอทำให้คฤหาสน์ดูมีชีวิตชีวาและสมจริง ผู้ถ่ายทอดข้อมูล เสงี่ยมอาจมีส่วนในการให้ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตระกูลหรือเหตุการณ์ในคฤหาสน์แก่เมดาหรือกระถิน ซึ่งช่วยให้ตัวละครหลักเข้าใจบริบทของเรื่องมากขึ้น

ตัวแทนของข้ารับใช้ เสงี่ยมสะท้อนถึงชีวิตของข้ารับใช้ที่ต้องทำงานหนักและเผชิญกับความกดขี่จากสมาชิกตระกูล เธอเป็นตัวละครที่แสดงถึงความยากลำบากของคนในสถานะต่ำ ตัวละครที่เพิ่มความหลากหลาย บุคลิกที่เรียบง่ายและการทำงานเงียบๆ ของเสงี่ยมช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับตัวละครในเรื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่จุดเด่นของพล็อต

ไม่มีส่วนในความขัดแย้งหลัก เสงี่ยมไม่ได้มีส่วนในความขัดแย้งเรื่องมรดกหรือการแก้แค้นของตระกูล ทำให้เธอเป็นตัวละครที่เป็นกลางและเน้นบทบาทในการเสริมบริบทมากกว่าขับเคลื่อนเรื่องราว

การแสดงของ ณัฐนี สิทธิสมาน
ณัฐนี สิทธิสมาน ถ่ายทอดบท เสงี่ยม ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับบทบาทของข้ารับใช้ที่เรียบง่าย ความสมจริง ณัฐนีแสดงถึงความเป็นข้ารับใช้ที่ทำงานหนักด้วยท่าทางที่ดูขยันและน้ำเสียงที่ถ่อมตัว ทำให้เสงี่ยมดูเป็นตัวละครที่สมจริงและสอดคล้องกับบริบท

ความเป็นมิตร ในฉากที่เสงี่ยมพูดคุยกับข้ารับใช้ด้วยกันหรือตัวละครอื่น ณัฐนีใช้ท่าทีที่เป็นมิตรเพื่อแสดงถึงจิตใจที่ดีของตัวละคร ความขี้กลัวและระวังตัว หากเสงี่ยมต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น การถูกสั่งการจากตัวละครร้าย ณัฐนีสามารถถ่ายทอดความกังวลและความระมัดระวังได้อย่างเหมาะสม

เคมีกับตัวละครอื่น ณัฐนีมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับนักแสดงที่รับบทข้ารับใช้ เช่น สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย (กระถิน), ทัศวรรณ เสนียวงศ์ (นมแสง) และ สุดา ชื่นบาน (ช้อย) ทำให้ฉากที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มข้ารับใช้ดูเป็นธรรมชาติ จุดเด่นความสามารถในการแสดงถึงความเรียบง่ายและความถ่อมตัวทำให้เสงี่ยมเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับคฤหาสน์บดินทร์ธร

เนื่องจากเสงี่ยมเป็นตัวละครรองที่มีบทบาทจำกัดและไม่มีปมส่วนตัว การแสดงของณัฐนีอาจไม่โดดเด่นเท่าตัวละครหลักหรือตัวละครที่มีบทบาทมากกว่า แต่เธอก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตในฉากที่ปรากฏ

เสงี่ยม เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นข้ารับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ด้วยบุคลิกที่ซื่อสัตย์ เรียบง่าย และถ่อมตัว เธอช่วยเพิ่มบรรยากาศและความสมจริงให้กับเรื่อง การแสดงของ ณัฐนี สิทธิสมาน ทำให้เสงี่ยมเป็นตัวละครที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับบทบาท แม้ว่าจะมีบทบาทจำกัด เสงี่ยมมีส่วนในการถ่ายทอดข้อมูลและสะท้อนถึงชีวิตของข้ารับใช้ในตระกูลที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เธอเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็ม เวียงร้อยดาว โดยการเพิ่มมิติให้กับคฤหาสน์และบริบทของเรื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวละครที่ขับเคลื่อนพล็อตหลัก

→ ชาติชาย งามสรรพ์ รับบท ปัน

ชาติชาย งามสรรพ์

ตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ปันเป็นตัวละครที่ช่วยเสริมบรรยากาศของคฤหาสน์และเพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวด้วยบุคลิกที่ซื่อสัตย์และเรียบง่าย แม้ว่าจะมีบทบาทจำกัดและไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งหลักของเรื่อง

ปันเป็นตัวละครรองที่ช่วยเสริมความสมบูรณ์ให้กับ เวียงร้อยดาว เพิ่มบรรยากาศของคฤหาสน์บดินทร์ธรโดยการแสดงถึงชีวิตประจำวันของคนรับใช้ ซึ่งช่วยให้คฤหาสน์ดูมีมิติและสมจริง ช่วยถ่ายทอดข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวละครหลัก เช่น ความเคลื่อนไหวในตระกูลหรือเหตุการณ์ในคฤหาสน์

สะท้อนถึงความยากลำบากของคนรับใช้ที่ต้องทำงานภายใต้การกดขี่ของสมาชิกตระกูล ซึ่งตอกย้ำความโหดร้ายของตัวละครร้าย เพิ่มความหลากหลายให้กับตัวละครในเรื่องด้วยบุคลิกที่เรียบง่ายและซื่อสัตย์ เป็นตัวละครที่เป็นกลางและไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งหลัก ซึ่งช่วยให้ผู้ชมมุ่งเน้นไปที่ตัวละครหลักและพล็อตสำคัญ

ภูมิหลังและตัวตน
ปัน เป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ทำงานในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับงานทั่วไป เช่น การดูแลสวน งานซ่อมบำรุง หรือช่วยเหลือในงานหนักของคฤหาสน์ เขาเป็นคนในท้องถิ่นที่ทำงานให้ตระกูลบดินทร์ธร อดีต ปันจะทำงานในคฤหาสน์มานานพอสมควร อาจตั้งแต่สมัยที่ เวียงแก้ว ยังมีชีวิตอยู่ เขาไม่น่าจะรู้ความลับลึกซึ้งของตระกูล เช่น การสลับตัวตนของ เมดา/ร้อยดาว หรือเรื่องราวของเวียงแก้ว แต่คงเคยเห็นความโหดร้ายของสมาชิกตระกูลในฐานะคนรับใช้

บทบาทในเรื่อง ปันเป็นตัวละครที่ช่วยสร้างภาพของคฤหาสน์บดินทร์ธรในฐานะสถานที่ที่มีคนรับใช้จำนวนมาก เขาปรากฏตัวในฉากที่เกี่ยวข้องกับงานประจำวันหรือเหตุการณ์ในคฤหาสน์ และอาจมีส่วนเล็กๆ ในการถ่ายทอดข้อมูลให้ตัวละครหลักอย่าง เมดา หรือ กระถิน

ชะตากรรม ละครไม่ได้ระบุชะตากรรมที่ชัดเจนของปันในตอนจบ เนื่องจากเขาเป็นตัวละครรองที่ไม่มีส่วนในความขัดแย้งหลัก เขาน่าจะยังคงทำงานในคฤหาสน์ต่อไปหลังจากปมปริศนาคลายลง

บุคลิกและนิสัย
ซื่อสัตย์และขยัน ปันเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์และทำงานหนัก เขาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งในตระกูล เรียบง่ายและตรงไปตรงมา ปันมีบุคลิกที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน เขาพูดจาตรงไปตรงมาและแสดงออกตามความรู้สึก ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวละครที่ดูสมจริงและเป็นคนทำงานทั่วไป

ขี้กลัวและระวังตัว เช่นเดียวกับข้ารับใช้คนอื่นๆ ปันมีความกลัวต่อความโหดร้ายของสมาชิกตระกูล เช่น เต็มเดือน หรือ จงจิตร และอาจระแวงต่อเหตุการณ์ลี้ลับในคฤหาสน์ เขามักทำงานอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา เป็นมิตรและมีน้ำใจ ปันน่าจะมีท่าทีเป็นมิตรต่อคนรับใช้ด้วยกัน เช่น กระถิน, นมแสง, ช้อย, หรือ เสงี่ยม และอาจแสดงน้ำใจด้วยการช่วยเหลือในงานหรือให้ข้อมูลเมื่อจำเป็น

ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
กับเมดา/ร้อยดาว (ณฐพร เตมีรักษ์) ปันอาจมีปฏิสัมพันธ์เล็กน้อยกับเมดาในฐานะคนรับใช้ที่ทำงานในคฤหาสน์ เขาน่าจะปฏิบัติต่อเมดาด้วยความเคารพในฐานะทายาท และอาจช่วยเหลือในงานเล็กๆ น้อยๆ หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับคฤหาสน์

กับกระถิน (สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย) ปันและกระถินมีความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมงานในคฤหาสน์ ทั้งคู่เป็นคนรับใช้ที่มีสถานะใกล้เคียงกัน และอาจมีการพูดคุยหรือทำงานร่วมกันในบางฉาก

กับนมแสง (ทัศวรรณ เสนียวงศ์) ปันน่าจะเคารพนมแสงในฐานะคนรับใช้รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์ เขาอาจรับคำสั่งหรือคำแนะนำจากนมแสงในงานที่ต้องประสานกัน

กับช้อย (สุดา ชื่นบาน) และเสงี่ยม (ณัฐนี สิทธิสมาน): ปัน, ช้อย และเสงี่ยมเป็นคนรับใช้ที่ทำงานในคฤหาสน์เหมือนกัน น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีในฐานะเพื่อนร่วมงาน และอาจมีการพูดคุยหรือช่วยเหลือกันในงานประจำวัน

กับบังหนั่น (ปราสาท ทองอร่าม) ปันและบังหนั่นเป็นคนรับใช้ที่มีบทบาทต่างกัน (ปันทำงานทั่วไป ส่วนบังหนั่นเป็นยาม) แต่ทั้งคู่น่าจะรู้จักกันดีจากการทำงานในคฤหาสน์ และอาจแบ่งปันความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ในคฤหาสน์ เช่น ความกลัวต่อสิ่งลี้ลับ

กับเต็มเดือน (ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์), จงจิตร (พิมพรรณ ชลายนคุปต์), และสร้อยฟ้า (กัลยา เลิศเกษมทรัพย์) ปันอยู่ในสถานะที่ต่ำต้อยและมักถูกสั่งการหรือดูถูกจากภรรยาของปกรณ์ โดยเฉพาะเต็มเดือนและจงจิตร เขาต้องทำงานอย่างระวังเพื่อไม่ให้ถูกต่อว่า

กับตัวละครอื่น ปันไม่มีปฏิสัมพันธ์ที่เด่นชัดกับตัวละครหลักอื่นๆ เช่น สิบทิศ หรือ น่านฟ้า เนื่องจากบทบาทของเขาจำกัดอยู่ในบริบทของการเป็นคนรับใช้

บทบาทในเรื่อง
ตัวละครที่เพิ่มบรรยากาศ ปันช่วยสร้างภาพของคฤหาสน์บดินทร์ธรในฐานะสถานที่ที่มีคนรับใช้ทำงานหลากหลาย การปรากฏตัวของเขาทำให้คฤหาสน์ดูมีชีวิตชีวาและสมจริง ผู้ถ่ายทอดข้อมูล ปันอาจมีส่วนในการให้ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับตระกูลหรือเหตุการณ์ในคฤหาสน์แก่เมดาหรือกระถิน ซึ่งช่วยให้ตัวละครหลักเข้าใจบริบทของเรื่องมากขึ้น

ตัวแทนของคนรับใช้ ปันสะท้อนถึงชีวิตของคนรับใช้ที่ต้องทำงานหนักและเผชิญกับความกดขี่จากสมาชิกตระกูล เขาเป็นตัวละครที่แสดงถึงความยากลำบากของคนในสถานะต่ำ ตัวละครที่เพิ่มสีสัน บุคลิกที่เรียบง่ายและการทำงานเงียบๆ ของปันช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับตัวละครในเรื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่จุดเด่นของพล็อต

ไม่มีส่วนในความขัดแย้งหลัก:ปันไม่ได้มีส่วนในความขัดแย้งเรื่องมรดกหรือการแก้แค้นของตระกูล ทำให้เขาเป็นตัวละครที่เป็นกลางและเน้นบทบาทในการเสริมบริบทมากกว่าขับเคลื่อนเรื่องราว

การแสดงของ ชาติชาย งามสรรพ์
ชาติชาย งามสรรพ์ ถ่ายทอดบท ปัน ได้อย่างเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับบทบาทของคนรับใช้ที่เรียบง่าย ความสมจริง ชาติชายแสดงถึงความเป็นคนรับใช้ที่ทำงานหนักด้วยท่าทางที่ดูขยันและน้ำเสียงที่ตรงไปตรงมา ทำให้ปันดูเป็นตัวละครที่สมจริงและสอดคล้องกับบริบท

ความเป็นมิตรในฉากที่ปันพูดคุยกับคนรับใช้ด้วยกันหรือตัวละครอื่น ชาติชายใช้ท่าทีที่เป็นมิตรเพื่อแสดงถึงจิตใจที่ดีของตัวละคร ความขี้กลัวและระวังตัว หากปันต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น การถูกสั่งการจากตัวละครร้าย ชาติชายสามารถถ่ายทอดความกังวลและความระมัดระวังได้อย่างเหมาะสม

เคมีกับตัวละครอื่น: ชาติชายมีเคมีที่เข้ากันได้ดีกับนักแสดงที่รับบทคนรับใช้ เช่น สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย (กระถิน), ทัศวรรณ เสนียวงศ์ (นมแสง), สุดา ชื่นบาน (ช้อย), และ ณัฐนี สิทธิสมาน (เสงี่ยม) ทำให้ฉากที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนรับใช้ดูเป็นธรรมชาติ

จุดเด่นความสามารถในการแสดงถึงความเรียบง่ายและความซื่อสัตย์ทำให้ปันเป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มความสมจริงให้กับคฤหาสน์บดินทร์ธร เนื่องจากปันเป็นตัวละครรองที่มีบทบาทจำกัดและไม่มีปมส่วนตัว การแสดงของชาติชายอาจไม่โดดเด่นเท่าตัวละครหลักหรือตัวละครที่มีบทบาทมากกว่า แต่เขาก็สามารถทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตในฉากที่ปรากฏ

ปัน เป็นตัวละครรองที่มีบทบาทเป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์บดินทร์ธร ด้วยบุคลิกที่ซื่อสัตย์ เรียบง่าย และขยัน เขาช่วยเพิ่มบรรยากาศและความสมจริงให้กับเรื่อง การแสดงของ ชาติชาย งามสรรพ์ ทำให้ปันเป็นตัวละครที่ดูเป็นธรรมชาติและเหมาะสมกับบทบาท แม้ว่าจะมีบทบาทจำกัด ปันมีส่วนในการถ่ายทอดข้อมูลและสะท้อนถึงชีวิตของคนรับใช้ในตระกูลที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เขาเป็นตัวละครที่ช่วยเติมเต็ม เวียงร้อยดาว โดยการเพิ่มมิติให้กับคฤหาสน์และบริบทของเรื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่ตัวละครที่ขับเคลื่อนพล็อตหลัก