ละคร วนิดา 2553 (EP.1-29 ตอนจบ) HD END

พันตรี ประจักษ์ มหศักดิ์ (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ถูกเชื้อเชิญจากเสด็จในวังให้ลงแข่งกีฬาขี่ม้าโปโล เพื่อให้ราชนิกูลชั้นสูงได้มาแข่งขันประลองกำลัง ฝีมือในการขี่ม้าโปโลของประจักษ์เป็นที่โจษจันไปทั่วว่าเก่งฉกาจ เพราะเขาเป็นถึงหัวหน้าทหารม้ารักษาพระองค์ พิสมัย (รินลณี  ศรีเพ็ญ) ว่าที่คู่หมั้นของประจักษ์ และเป็นคุณข้าหลวงของเสด็จ ภูมิใจในตัวประจักษ์ยิ่งนัก ซ้ำยังชอบโอ้อวดว่าเธอกับประจักษ์จะแต่งงานกันในเร็ววันนี้



ละคร วนิดา 2553

ละคร วนิดา 2553

ละคร วนิดา 2553 EP.1-29

พรหมลิขิต – ที Jetset’er – OST วนิดา [Official MV]

ละคร วนิดา 2553

อีกด้านหนึ่ง ไม่ใกล้ไม่ไกลกันนั้น วนิดา วงศ์วิบูลย์ (ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) กำลังหัดขับรถเป็นครั้งแรก เธอชวนเพื่อนซี้อย่าง สุมาลี (สิรีอัญ สิริไพศาลเอก) และ กัลยา (ธนีญา กิติธรรมนุภาพ) มาเป็นเพื่อนนั่งรถ สองสาวกลัวสุดขีดกรี๊ดกร๊าดไปตลอดทาง ทำเอาวนิดาสะดุ้งเป็นระยะ ๆ พาจะเฉี่ยวชนหลายรอบ ทันใดนั้นมีรถสวนออกมา วนิดาไม่เห็นเลยชนเข้าให้อย่างจัง และเจ้าของรถที่วนิดาชนก็คือ ประจักษ์ มหศักดิ์

วนิดาหน้าเสียแต่ไม่ยอมรับผิด ทำให้ประจักษ์ไม่พอใจ และไม่ถูกชะตาวนิดาอย่างแรง (เพราะเข้าใจว่าผู้หญิงอย่างวนิดา เอะอะก็คงใช้เงินในการแก้ปัญหา) วนิดาหวังว่าจะไม่เจอผู้ชายคนนี้อีก แต่ผิดคาด วนิดากับประจักษ์มาพบกันอีกทีในสนามม้า วนิดากำลังขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวาง ดูสง่างาม มนตรี (พิษณุ นิ่มสกุล) เพื่อนสนิทกับประจักษ์ถึงกับอึ้งกิมกี่ เกิดความประทับใจ แต่ประจักษ์กลับไม่ชอบในความกล้าหาญและก๋ากั่นของเธอ

วนิดาเป็นสาววัยแรกรุ่นเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยมาหมาด ๆ ความสวยของเธอเป็นที่หมายปองของหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ แต่ไม่มีหนุ่มไหนที่สามารถเอาชนะใจเธอกับ นายดาว วงศ์วิบูลย์ (มนตรี เจนอักษร) พ่อของเธอไปได้ หนุ่มแต่ล่ะคนที่เข้ามาไม่ได้รักที่ตัววนิดา หากแต่รักที่เงิน ทำให้นายดาวกีดกันทุกวิถีทาง และกลัวเหลือเกินว่าลูกสาวจะเลือกคู่ผิด นายดาวจึงตัดสินใจที่จะหาสามีให้วนิดา และเมื่อเปิดค้นรายชื่อบรรดาลูกหนี้มากมายของเค้า เค้าก็สะดุดตากับคน ๆ หนึ่งเข้า เค้าก็คือ ประจวบ มหศักดิ์ (สรวิชญ์ สุบุญ) น้องชายของประจักษ์นั่นเอง

นายดาว วงศ์วิบูลย์ เรียกประจวบมาหาที่บ้าน พร้อมยื่นข้อเสนอว่าจะยกหนี้ทั้งหมดให้ ถ้าประจวบยอมแต่งงานกับวนิดา ดาวต้องการให้วนิดาได้เป็นฝั่งเป็นฝากับผู้รากมากดีตระกูลดังอย่าง มหศักดิ์ ประจวบไม่ยอม นายดาวขู่ว่าถ้าประจวบไม่ตกลงแต่งงานกับลูกสาวของตน ก็จะฟ้องศาล เล่นงานให้ชื่อเสียงของมหศักดิ์ย่อยยับป่นปี้ ทันทีที่เรื่องนี้รู้ถึงหูของคุณนายน้อม มหศักดิ์ (ดวงตา ตุงคะมณี) ลมก็แทบจับ เพราะเธอเกลียดตระกูลนี้หยั่งกับอะไรดี

เรื่องเกิดมาตั้งแต่สมัยที่ มณฑา (เดือนเต็ม สาลิตุล) ย่าของวนิดา ผู้เป็นภรรยาสุดที่รักของ พระยามหศักดิ์ธำรง (สุเชาว์ พงษ์วิไล) มณฑาเป็นกุลสตรีไทยที่เพียบพร้อม เป็นที่รักใคร่ของพระยามหศักดิ์ธำรงและคนอื่น ๆ คุณนายน้อมอิจฉา จึงสร้างเรื่องโกหกว่ามณฑามีชู้ ทำให้พระยามหศักดิ์ธำรงค์โกรธ จึงขับไล่มณฑาออกจากบ้านมหศักดิ์ตัดขาดจากกัน มณฑาต้องไปอาศัยอยู่กับน้องชายซึ่งก็คือนายดาว

คุณนายน้อมยืนยันเสียงแข็งว่าจะไม่ขอร่วมวงพงศ์ไพรกับตระกูลวงศ์วิบูลย์เด็ดขาด และขอให้ประจักษ์ช่วย แต่น้องสร้างหนี้ไว้มากมาย จนประจักษ์ไม่อาจช่วยเหลือได้ ประจวบไม่อยากแต่งงาน เพราะมีคนรักอยู่แล้วคือ ปราณี (พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์) ประจวบตัดสินใจลาออกจากราชการ และหนีลงใต้เพื่อไปหาเงินมาใช้หนี้ แต่นายดาวไม่ยอม ในเมื่อน้องชายหายตัวไป ก็ต้องให้พี่ชายอย่างประจักษ์แต่งงานกับวนิดาแทน ประจักษ์ปฏิเสธเสียงแข็ง แต่คุณนายน้อมเองที่กลัวชื่อเสียงวงศ์ตระกูลเสียหาย จึงเกลี้ยกล่อมให้ลูกชายยอมแต่งงาน เพื่อแก้ปัญหาไปก่อน ระหว่างที่รอประจวบหาเงินมาใช้หนี้ ประจักษ์จึงต้องเสียสละตัวเองเพื่อรักษาภาพพจน์ของตระกูลโดยการแต่งงานกับวนิดา

ด้านวนิดา…ทันทีที่รู้ข่าวจากนายดาวผู้เป็นพ่อก็เกิดอาการไม่พอใจ นายดาวพยายามเกลี้ยกล่อมและบอกว่าประจักษ์ชอบพอในตัววนิดาจึงให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ นายดาวบรรยายสรรพคุณของประจักษ์เสียจนดีเลิศ วนิดาโดนหว่านล้อมจนต้องตอบตกลงที่จะแต่งงานกับประจักษ์ ประจักษ์บอกข่าวนี้ให้กับพิสมัยว่าที่คู่หมั้นให้รับรู้ ทันทีที่พิสมัยรู้ก็ถึงกับหัวฟาดหัวเหวี่ยงไม่พอใจ และรู้สึกเสียหน้า เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าว่าที่ภรรยาของประจักษ์ในอนาคตคือเธอ ประจักษ์พยายามพูดโน้มน้าว ปลอบโยน และให้คำมั่นสัญญาว่าถ้าประจวบหาเงินมาใช้หนี้นายดาวหมดเมื่อไหร่ จะหย่ากับวนิดาทันที

ประจักษ์มาพบกับนายดาวอีกครั้งเพื่อตกลงกันก่อนที่พิธีแต่งงานจะถูกจัดขึ้น สิ่งที่นายดาวต้องการจากประจักษ์ก็คือ…..(1) ประจักษ์ต้องยินยอมให้วนิดาใช้นามสกุลมหศักดิ์ (2) ถ้ามีการหย่าร้างเกิดขึ้นระหว่างที่ประจวบยังใช้หนี้ไม่ครบ นายดาวมีสิทธิ์ฟ้องร้องต่อศาลได้ทันที

ประจักษ์ตกลง ก่อนจะที่บอกความต้องการของตัวเองกลับไปเช่นกัน (1) เมื่อประจวบหาเงินมาใช้หนี้นายดาวจนครบ เค้าจะหย่าขาดกับเธอทันที (2) เค้าจะไม่ล่วงเกินวนิดา เค้ากับวนิดาจะแยกห้องนอนกัน (3) ไม่มีการจัดงานแต่งงานใหญ่โต ประกาศให้คนรู้ จะเลี้ยงกันแค่คนในครอบครัวเท่านั้น นายดาวตอบตกลงเช่นกัน ก่อนจะให้ประจักษ์ลงนามในสัญญาเอาไว้เป็นหลักฐาน

ในที่สุดวันแต่งงานก็มาถึง งานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย วนิดาแต่งกายด้วยชุดไทยเดินลงมา ทันทีที่ทั้งสองคนเจอหน้ากันก็แทบช็อค เพราะจำกันได้ว่าเคยเจอกันมาก่อน วนิดาเหวี่ยงใส่นายดาวทันทีจะยกเลิกงานแต่งงาน นายดาวจึงขอร้องให้ประจักษ์ไปปรับความเข้าใจกับวนิดาและขอโทษเรื่องที่ผ่านมา ประจักษ์จะไม่ยอม แต่พอโดนขู่เรื่องสัญญาก็ต้องจำยอม วนิดายอมเข้าพิธีแต่งงานต่อ

พิธีเสร็จประจักษ์จะพาวนิดากลับบ้านมหศักดิ์ ประจักษ์พอแต่งงานเสร็จ ก็หนีหน้าวนิดา ออกไปทำงานตลอด ทำให้วนิดาโมโหมาก เพราะไม่รู้เหตุผลของการแต่งงานครั้งนี้ หลังจากวันนั้น วนิดากับประจักษ์ ก็เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมา ต่างไม่มีใครยอมใคร คุณนายน้อมกับพิสมัยกลับมาบ้านมหศักดิ์ ก็หาเรื่องกลั่นแกล้งวนิดา แต่เธอก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน ทำให้คนกลางอย่างประจักษ์ต้องคอยห้ามทัพตลอด สุดท้ายประจักษ์ตัดสินใจย้ายไปอยู่บ้านพักทหารกับวนิดา

วนิดาไม่ได้รู้สึกเหงาอะไร สนุกกับการทำบ้าน ทำสวน ปลูกผักผลไม้ ประจักษ์เริ่มเห็นความดีของวนิดาหลาย ๆ อย่าง วนิดาได้ไปรู้จักกับสองพี่น้องที่ปลูกบ้านอยู่ในสวนหลังบ้านมหศักดิ์ คือ อำพัน (ศิระ แพทย์รัตน์) กับ อำไพ (พริมรตา เดชอุดม) แม่ของสองพี่น้องเคยเป็นคนรับใช้ของมณฑามาก่อน ทำให้ทั้งสองคนเข้ากับวนิดาได้ง่าย

อำพันกับอำไพ รู้จักประวัติของบ้านมหศักดิ์เป็นอย่างดี และรู้ด้วยว่ามณฑาถูกกล่าวหาว่ามีชู้ วนิดาให้อำไพเล่าเรื่องสมัยที่ย่าเธออยู่ที่นี่ให้ฟัง ระหว่างที่ประจักษ์ไปทำงาน วนิดามักมาอยู่กับอำพัน อำไพที่บ้านสวน น้อมเห็นเข้าก็รีบใส่ไฟให้ประจักษ์ฟัง สร้างเรื่องว่าวนิดามีชู้ สนิทสนมกับอำพันจนเกินงาม ประจักษ์ไม่เชื่อ แต่ก็หึงที่วนิดาไปสนิทสนมกับผู้ชายคนอื่น

ประจักษ์แสดงความเป็นเจ้าของวนิดามากขึ้น และเริ่มชวนวนิดาออกไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง ตามประสาสามี ภรรยา ทำให้วนิดาแปลกใจ แต่ป้าทอง จวง ไปล่ชอบใจ เพราะอยากให้วนิดากับประจักษ์รักชอบพอกันจริง ๆ

อำพันต้องไปสัมมนาที่ชะอำ จึงชวนอำไพกับวนิดาไปด้วย วนิดาอยากไปอยู่แล้วเลยจะไปบอกประจักษ์ แต่กลับเห็นประจักษ์อยู่กับพิสมัยท่าทางเหมือนสวีทกันอยู่ วนิดาไม่พอใจ เลยเขียนจดหมายเสียบไว้ที่ประตู ก่อนจะออกไปกับอำไพแต่เช้า น้อมเห็นจดหมายของวนิดาเข้าเลยแอบขโมยมาเก็บไว้ ทำให้ประจักษ์เข้าใจวนิดาผิด และรีบตามวนิดาไปชะอำ น้อมกับพิสมัยห้ามก็ไม่ฟัง

ประจักษ์มาถึงชะอำ จะลากวนิดากลับบ้าน แต่วนิดาไม่ยอมกลับ ประจักษ์เลยตัดสินใจค้างคืนด้วย ห้องพักมีอยู่แค่ห้องเดียวทำให้ทั้งสองคนต้องนอนห้องเดียวกัน ท่ามกลางความอึดอัดสุด ๆ วนิดาแอบหนีไปขี่ม้าคนเดียว ประจักษ์ตามไป วนิดาเร่งหนีประจักษ์ทำให้ตัวเองตกม้า ม้าวิ่งหนี วนิดาหาทางกลับบ้านพักไม่เจอ วนิดาหลงทาง ประจักษ์เป็นห่วงวนิดาสุด ๆ เขาไม่สนใจฟ้าฝนที่กำลังจะตกหนัก ขี่ม้าตามหาวนิดาจนต้นไม้หล่นทับเป็นไข้ วนิดาตามจนเจอพากลับมาดูแลรักษา ประจักษ์รู้สึกดีที่วนิดาห่วงใยดูแล ประจักษ์รู้หัวใจของตัวเอง ด้านพิสมัยก็คอยแกล้งและใส่ร้ายวนิดาจนประจักษ์เริ่มเห็นธาตุแท้ของอดีตคนรัก

วนิดากับประจักษ์เริ่มเปิดใจให้กัน จนน้อมทนไม่ไหว เลยวางแผนคิดจะรวบหัวรวบหางลูกชายให้พิสมัยในงานวันเกิดครบรอบ 60 ปีของตัวเอง น้อมรู้นิสัยของประจักษ์ดีว่าถ้าเกิดเรื่องไม่งามขึ้น ก็พร้อมจะรับผิดชอบ

เรื่องราวความรักของ ประจักษ์ กับ วนิดา จะฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาและลงเอยกันได้อย่างไร ติดตามชม

บทประพันธ์โดย : วรรณสิริ
บทโทรทัศน์โดย : ปณธี
กำกับการแสดงโดย : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ดำเนินงานสร้างโดย : หทัยรัตน์ อมตวณิชย์
ผลิตโดย : บริษัท ละครไท จำกัด

นักแสดง
เจษฎาภรณ์ ผลดี รับบท พันตรีประจักษ์ ในละคร วนิดา
ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ รับบท วนิดา ในละคร วนิดา
สรวิชญ์ สุบุญ รับบท ประจวบ ในละคร วนิดา
รินลณี ศรีเพ็ญ รับบท พิสมัย ในละคร วนิดา
พิษณุ นิ่มสกุล รับบท มนตรี ในละคร วนิดา
พริมรตา เดชอุดม รับบท อำไพ ในละคร วนิดา
ศิระ แพทย์รัตน์ รับบท อำพัน ในละคร วนิดา
พิมพ์อักษิพร วินโกมินทร์ รับบท ปราณี ในละคร วนิดา
มนตรี เจนอักษร รับบท นายดาว ในละคร วนิดา
ดวงตา ตุงคะมณี รับบท คุณนายน้อม ในละคร วนิดา
อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ รับบท นางทอง ในละคร วนิดา
เบญจพล เชยอรุณ รับบท ไปล่ ในละคร วนิดา
ชมพู่ ก่อนบ่ายฯ รับบท จวง ในละคร วนิดา
สิรีอัญ สิริไพศาลเอก รับบท สุมาลี ในละคร วนิดา
ธนีญา กิติธรรมนุภาพ รับบท กัลยา ในละคร วนิดา
เดือนเต็ม สาลิตุล รับบท มณฑา ในละคร วนิดา
สุเชาว์ พงษ์วิไล รับบท พระยามหศักดิ์ธำรง ในละคร วนิดา

เมื่อออกอากาศแล้ว วนิดาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้น ได้เขียนลงเฟซบุ๊คของตัวเอง โดยเอาเนื้อหาจากละครมาอธิบายถึงพระราชบัญญัติการติดตามทวงหนี้อย่างเป็นธรรมซึ่งถือเป็นนโยบายหนึ่งที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ต่อมาก็ได้เป็นที่ฮือฮากันในแวดวงสังคมพอสมควร
ต่อมา จึงได้มีการผลิตภาพยนตร์โฆษณาเพื่ออธิบายนโยบายดังกล่าว โดยที่ให้นักแสดงบทบาทต่าง ๆ ในเรื่อง มาแสดงร่วมกัน และนายกรณ์เองก็ร่วมแสดงด้วย โดยเป็นผู้อธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับเนื้อหาของนโยบายชิ้นนี้ ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีอีกเช่นกัน