ละคร อีบัวกับไอ้ขวัญ 2568 “บัว” สาวงามลูกเศรษฐีที่ต้องแต่งงานกับ “ขวัญ” ชายหนุ่มที่เธอเกลียดชังจากใจ ด้วยปมขัดแย้งในอดีตและความบาดหมางระหว่างครอบครัว ท่ามกลางฉากชีวิตชนบทย้อนยุค ขวัญพยายามพิสูจน์รักแท้เพื่อละลายใจบัว ส่วนบัวตั้งกำแพงแน่นหนาไม่ยอมรับเขา เมื่อทั้งคู่ต้องเผชิญอุปสรรคที่ทดสอบหัวใจ กลายเป็นการเดินทางจากศัตรูสู่ความรักที่ชวนลุ้นทุกตอน

ละคร อีบัวกับไอ้ขวัญ 2568 ละครแนวโรแมนติกคอมเมดี้ดราม่า ความรักสุดชุลมุนในบรรยากาศย้อนยุคของท้องทุ่งบางกะปิ ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ความเกลียดชัง และการเปลี่ยนแปลงของหัวใจ เรื่องราวเริ่มต้นด้วย “บัว” สาวสวยลูกเศรษฐีแห่งหมู่บ้านดงขาม ที่เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ในหมู่บ้าน แต่โชคชะตากลับพลิกผันเมื่อเธอต้องแต่งงานกับ “ขวัญ” ชายหนุ่มที่เธอเกลียดที่สุดในชีวิต ความบาดหมางนี้มีรากฐานมาจากความขัดแย้งระหว่างครอบครัวของทั้งสองฝ่ายตั้งแต่รุ่นพ่อ รวมถึงวีรกรรมในวัยเด็กที่ขวัญเคยทิ้งบาดแผลในใจบัว โดยเฉพาะการที่เขาเป็นคนเดียวที่กล้าบอกว่าเธอ “ไม่สวย” และ “ขี้เหร่” บัวมองว่าขวัญเป็นคนเกเร ไม่เอาไหน ในขณะที่ขวัญกลับซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงไว้ นั่นคือเขาหลงรักบัวมานานแล้ว แม้ปากจะแข็งว่าเกลียด แต่การกระทำของเขากลับแสดงถึงความรักที่ลึกซึ้ง

จุดเปลี่ยนของเรื่องเกิดขึ้นเมื่อ “เรือง”เพื่อนสนิทของขวัญ ยอมเสียสละเพื่อให้ขวัญได้แต่งงานกับบัว แม้จะต้องขัดขวางการสู่ขอจากชายอื่นอย่าง “พ่อเทพ” แต่การแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่จุดจบของความเกลียดชังระหว่างบัวและขวัญ มันกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย บัวตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ยอมรักขวัญ และพยายามรักษาระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด ส่วนขวัญมองว่านี่คือโอกาสทองที่จะพิสูจน์ตัวเอง และทำให้บัวหันมารักเขาให้ได้

ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงของบัวเสียหาย เช่น เรื่องราวที่ขวัญแอบปีนเข้าห้องบัวตอนกลางคึก จนถูกชาวบ้านจับได้และกลายเป็นข่าวลือฉาวโฉ่ว่าบัวคบชู้ แม้เธอกำลังจะหมั้นกับพ่อเทพก็ตาม เหตุการณ์นี้สร้างความหวั่นไหวในใจพ่อเทพ และจุดชนวนให้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักยิ่งทวีความเข้มข้น

ใจความสำคัญ

ละครเรื่องนี้เน้นการเดินทางของความรักที่เริ่มจากความเกลียดชัง สู่การเรียนรู้และเข้าใจกัน ผ่านฉากหลังของวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ในชนบทไทยย้อนยุค ผู้ชมจะได้ลุ้นว่า “ไอ้ขวัญ” จะสามารถละลายกำแพงในใจของ “อีบัว” ได้หรือไม่ และความรักจะเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นคนรักได้จริงหรือเปล่า เรื่องราวเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย ทั้งดราม่า โรแมนติก และมุกตลกที่สอดแทรกมาเป็นระยะ ทำให้เป็นละครฟีลกู๊ดที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

ละครเรื่องนี้จึงเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ชวนให้ผู้ชมร่วมลุ้นไปกับเส้นทางความรักอันแสนวุ่นวายของ “อีบัว” และ “ไอ้ขวัญ” ที่ทั้งขัดแย้งแต่ก็อบอุ่นหัวใจในเวลาเดียวกัน

• บัวอาจเริ่มใจอ่อนกับขวัญ หลังจากเห็นเขาเสียสละหรือปกป้องเธอจากสถานการณ์คับขัน
• พ่อเทพอาจกลายเป็นตัวขัดขวางความรักของทั้งคู่ เพราะความหวั่นไหวจากข่าวลือและความรู้สึกที่ยังไม่ยอมแพ้
• มีฉากหวานปนขัดใจ เมื่อบัวและขวัญต้องใช้ชีวิตด้วยกันในฐานะสามีภรรยาแบบจำใจ แต่เริ่มเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกมา

เรื่องราวเริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง “บัว” (เดนิส เจลีลชา) สาวสวยลูกเศรษฐีแห่งหมู่บ้านดงขาม และ “ขวัญ” (คณิน ชอบประดิถ) ชายหนุ่มที่เธอเกลียดเข้าไส้จากปมในอดีต โดยเฉพาะคำพูดของขวัญที่เคยบอกว่าเธอ “ไม่สวย” และ “ขี้เหร่” ซึ่งฝังใจบัวมาตั้งแต่เด็ก แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลก เมื่อทั้งคู่ถูกจับให้แต่งงานกันจากสถานการณ์ที่บังคับให้ไม่มีทางเลือก

ในช่วงแรก “บัว” พยายามต่อต้าน “ขวัญ” ทุกวิถีทาง เธอตั้งกำแพงสูง ไม่ยอมเปิดใจ และมองว่า “ขวัญ” เป็นแค่คนเกเรที่ไม่คู่ควร ขณะที่ “ขวัญ” แม้จะปากแข็งว่าเกลียด “บัว” แต่ลึกๆ เขากลับหลงรักเธอมานาน และมองว่านี่คือโอกาสที่จะพิสูจน์ตัวเอง ความวุ่นวายเริ่มต้นเมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้ชื่อเสียงของ”บัว”เสียหาย เช่น ข่าวลือฉาวที่”ขวัญ”แอบปีนเข้าห้อง”บัว”ตอนกลางคืน จนชาวบ้านจับได้และเข้าใจผิดว่า”บัว”คบชู้ ทั้งที่เธอกำลังจะหมั้นกับ “พ่อเทพ” (ยูโด ธรรม์ธัช) ชายหนุ่มอีกคนที่รัก”บัว”

จากเหตุการณ์นี้ ความสัมพันธ์ของ”บัว”และ”ขวัญ”ยิ่งตึงเครียด “บัว”โกรธ”ขวัญ”หนักที่ทำให้เธออับอาย ส่วน”ขวัญ”พยายามแก้ตัวและปกป้องเธอในแบบของเขา ซึ่งเริ่มทำให้”บัว”สับสนในใจตัวเอง ขณะเดียวกัน “เรือง” (อาไท กลมกิ๊ก) เพื่อนสนิทของ”ขวัญ” ก็เข้ามามีบทบาทสำคัญ โดยยอมเสียสละเพื่อช่วยให้ขวัญได้อยู่กับบัว แม้ตัวเองจะรู้สึกเจ็บปวด

ตลอดเรื่อง ผู้ชมจะได้เห็นพัฒนาการที่ค่อยๆ เปลี่ยนจากความเกลียดชังเป็นความผูกพัน บัวเริ่มเห็นด้านดีของขวัญจากการกระทำที่เขาแสดงออก แม้ปากจะยังไม่ยอมรับ ส่วนขวัญก็ต้องเผชิญบททดสอบมากมายเพื่อพิสูจน์ว่ารักของเขาจริงใจ เรื่องราวผสมผสานทั้งความดราม่า โรแมนติก และมุกตลกจากตัวละครสมทบ เช่น เถ้าแก่บุญ (ดี๋ ดอกสะเดา) ที่เพิ่มสีสันให้กับละคร

ละคร “อีบัวกับไอ้ขวัญ” ความรู้สึกแรกมีความสนุกปนตื่นเต้นที่ได้เห็นเคมีระหว่าง “บัว” (เดนิส เจลีลชา) กับ “ขวัญ” (คณิน ชอบประดิถ) ที่ถึงจะเริ่มต้นด้วยการไม่ชอบหน้ากัน (กัดฟันกรอด) เพราะความเกลียดชัง แต่ก็มีเสน่ห์แบบแปลกๆ ที่ทำให้อยากติดตามต่อ บรรยากาศชนบทย้อนยุคของท้องทุ่งบางกะปิในละครชวนให้รู้สึก nostalgic เหมือนได้ย้อนกลับไปสัมผัสชีวิตเรียบง่ายสมัยก่อน ภาพทุ่งนาเขียวขจี บ้านไม้เก่าๆ และวิถีชีวิตสโลว์ไลฟ์ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันก็ตื่นเต้นกับความวุ่นวายของครอบครัวของคู่พระนาง ที่เริ่มต้นด้วยความขัดแย้งสุดเข้มข้น

ตอนที่บัวกับขวัญต้องเผชิญหน้ากันครั้งแรกหลังถูกจับแต่งงาน คงรู้สึกทั้งหมั่นไส้และขำกับการตีกันด้วยคำพูดของทั้งคู่ บัวที่ปากแข็ง ด่าขวัญไม่ยั้ง ส่วนขวัญก็แกล้งยั่วโมโหแต่แอบมีสายตาเจ้าเล่ห์ที่บ่งบอกว่าเขาชอบเธอ มันเป็นโมเมนต์ที่ทำให้หัวใจเต้นตึกตัก เพราะลุ้นว่าเมื่อไหร่บัวจะรู้ตัวว่าขวัญไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ความรู้สึกตอนเห็นขวัญแอบทำอะไรดีๆ ให้บัวแบบเงียบๆ (เช่น ปกป้องเธอจากข่าวลือ) ทำให้มีความรู้สึกอบอุ่นหัวใจ แต่ก็อดหงุดหงิดแทนไม่ได้ที่บัวยังไม่ยอมมองเห็นด้านดีของเขา

ฉากที่ขวัญแอบปีนเข้าห้องบัวแล้วถูกจับได้จะเป็นจุดพีคที่ทำให้รู้สึกทั้งลุ้นทั้งขำจนตัวโก่ง เพราะมันชุลมุนมาก ชาวบ้านตีโฉงฉางกันใหญ่โต บัวโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ส่วนขวัญก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แบบน่าตี ความรู้สึกตอนนั้นคงผสมกันระหว่างความสนุกกับความสงสารบัวที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ แต่ก็แอบเชียร์ขวัญในใจ เพราะรู้ว่าเขาทำไปด้วยความหวังดีแบบเงอะๆ งะๆ

ตัวละครสมทบอย่าง “เรือง” (อาไท กลมกิ๊ก) กับ “เถ้าแก่บุญ” (ดี๋ ดอกสะเดา) ก็จะช่วยเบรกความตึงเครียดได้ดี อาไทที่เล่นเป็นเพื่อนขวัญทำให้รู้สึกเอ็นดูกับความซื่อๆ ของเขา ส่วนดี๋ ดอกสะเดา เรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อยด้วยมุกตลกสไตล์บ้านๆ ที่เข้ากับบรรยากาศเรื่อง

โดยรวมแล้ว ละครจะเป็นแบบ “ฟีลกู๊ด” ที่ผสมทั้งความสนุก ดราม่า และความหวานปนขมเล็กๆ ทำให้อยากดูต่อไปเรื่อยๆ เพื่อรอดูว่าบัวจะใจอ่อนตอนไหน และขวัญจะพิชิตใจเธอได้ยังไง มันเหมือนนั่งรถไฟเหาะอารมณ์ที่ทั้งลุ้น ทั้งขำ และทั้งซึ้งในเวลาเดียวกัน คงต้องยกให้เป็นละครที่ดูแล้วติดหนึบจริงๆ


ละคร อีบัวกับไอ้ขวัญ 2568

ละคร อีบัวกับไอ้ขวัญ 2568

ละคร อีบัวกับไอ้ขวัญ 2568 EP.1-6CH3+​​​​

ซีน ละคร อีบัวกับไอ้ขวัญ 2568

คนบ้านนอก OST.อีบัวกับไอ้ขวัญ | เบิ้ล ปทุมราช | Official MV

ละคร อีบัวกับไอ้ขวัญ 2568

ความรัก…สร้างและทำลายความเกลียดชังได้
ความรัก…สร้างและทำลายความเข้าใจได้
ความรัก…เปลี่ยนแปลงมิตรเป็นศัตรู แต่ก็เปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรได้
ความรัก…ทำให้รู้สึกแพ้ รู้สึกชนะได้
ความรัก…ทำได้ทุกอย่าง

เรื่องราวของ บัว สาวสวยลูกเศรษฐีแห่งหมู่บ้านดงขาม เป็นที่หมายปองของหนุ่ม ๆ ที่พบเจอ จับพลัดจับผลูต้องแต่งงานกับ ขวัญ ผู้ชายที่เธอเกลียดที่สุดในชีวิต ความเกลียดที่ส่งต่อจากความขัดแย้งของรุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูกจนยากที่จะญาติดีกันได้ โดยเฉพาะวีรกรรมฝังใจในวัยเด็กที่ขวัญสร้างบาดแผลไว้ให้กับบัว เพราะขวัญเป็นผู้ชายคนเดียวที่บอกว่าเธอไม่สวย ขี้เหร่ แถมขวัญยังทำตัวเกเร ไม่ได้เรื่องได้ราว

แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้วขวัญหลงรักบัวมานาน แม้ปากจะบอกว่าเกลียด แต่การกระทำช่างตรงข้าม ขวัญรักบัวสุดหัวใจ เป็นความรักที่มีมากกว่าความเกลียด แต่ใครเลยจะรู้ใจคนปากแข็งอย่างขวัญได้ดีเท่าเพื่อนรักอย่าง เรือง ที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เพื่อนได้อยู่กับคนที่รัก แม้แต่การล้มการสู่ขอของชายอื่น แล้วยื่นโอกาสที่จะได้แต่งงานกับบัวให้เป็นของไอ้ขวัญเพื่อนรักแทน

แต่การแต่งงานกลับไม่ใช่บทสรุปของคนที่เกลียดขี้หน้ากันมานานอย่างขวัญและบัว มันคือจุดเริ่มต้นที่บัวต้องยืนหยัดเพื่อตัวเอง เพราะไม่รู้ว่าจะฝากอนาคตของตัวเองไว้ในมือขวัญได้แค่ไหน จึงตั้งใจว่าจะรักษาระยะห่างจากขวัญให้มากที่สุด ที่สำคัญเธอจะไม่มีวันรักไอ้ขวัญแน่นอน แต่ขวัญกลับคิดจะใช้โอกาสที่ได้แต่งงานเป็นผัวเมียกับบัวในครั้งนี้ทำให้บัวรักเขาให้ได้

ขวัญตั้งใจจะเปลี่ยนความเกลียดชังที่มีมาตั้งแต่รุ่นพ่อพิสูจน์ตัวเองและความรู้สึกแท้จริงที่มีต่อบัว ทำให้บัวรักเขาให้ได้ แม้ว่าจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายทั้งศัตรูหัวใจอย่าง เทพ ผู้ชายที่เคยเป็นคู่หมายแถมยังตามมาวุ่นวายกับบัวไม่เลิก หรือแม้แต่ด่านของพ่อตาตัวแสบ คนอย่างไอ้ขวัญก็ไม่กลัว เพราะขวัญจะทำให้บัวรักขวัญให้ได้ มาเอาใจช่วยขวัญกันต่อได้ในละคร อีบัวกับไอ้ขวัญ

บทประพันธ์โดย : ยักษ์
บทโทรทัศน์โดย : วรรณศร
กำกับการแสดงโดย : เกรย์ ชัยยุทธ ชูศักดิ์ไพบูลย์
ผลิตโดย : ค่าย เลิฟดราม่า
ควบคุมการผลิตโดย : ไก่ วรายุฑ มิลินทจินดา

นักแสดง

→ คณิน ชอบประดิถ รับบท ขวัญ
บุคลิกภายนอก เกเรแต่มีเสน่ห์ “ขวัญ” เป็นชายหนุ่มบ้านนอกที่ดูหยาบกระด้างตามสไตล์คนชนบท เขามักถูกมองว่าเป็น “ไอ้เกเร” ในหมู่บ้านดงขาม เพราะชอบทำตัวไม่แคร์ใคร ปากร้าย และพูดจาตรงไปตรงมาแบบไม่เกรงใจใคร โดยเฉพาะกับ บัว ที่เขาเคยแซวแรงๆ ว่า “ไม่สวย” หรือ “ขี้เหร่” ตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นปมในใจเธอ แต่ภายใต้ความเกเรนั้น ขวัญมีเสน่ห์แบบบ้านๆ ที่ดึงดูดคนดูได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ท่าทางทะเล้น หรือสายตาที่ซ่อนความรู้สึกไว้ลึกๆ

รักจริงแต่ปากแข็ง “ขวัญ” แอบรัก “บัว” มานาน แต่เขาเลือกซ่อนความรู้สึกด้วยการแกล้งเธอและทำตัวเป็นศัตรู เพราะไม่รู้จะแสดงออกยังไงให้เธอเข้าใจ ความรักของเขาถูกถ่ายทอดผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เช่น การปกป้องบัวจากข่าวลือฉาว หรือการยอมรับชะตากรรมที่ต้องแต่งงานกับเธอทั้งที่รู้ว่าเธอเกลียดเขาเข้าไส้ ทำให้ขวัญดูเป็นผู้ชายที่ทั้งน่าสงสารและน่าเอ็นดู เพราะเขาพยายามพิสูจน์ตัวเองในแบบที่ไม่เก่งเรื่องหวาน

ดื้อแต่เปราะบาง “ขวัญ” มีปมในใจจากครอบครัวและฐานะที่ไม่ร่ำรวยเท่าบัว ทำให้เขามักทำตัวดื้อรั้นเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี แต่ลึกๆ เขาก็มีความเปราะบางที่อยากให้คนเห็นคุณค่า โดยเฉพาะ “บัว” การที่เขาต้องเผชิญหน้ากับความเกลียดชังจากเธอและชาวบ้านบางส่วน (เช่น จากเหตุการณ์ที่แอบปีนเข้าห้องบัวแล้วถูกจับได้) ยิ่งทำให้เห็นว่า ขวัญเป็นคนที่ทั้งเข้มแข็งและอ่อนไหวในเวลาเดียวกัน

จากศัตรูสู่คนรัก ในช่วงแรก ขวัญเป็นเหมือน “ตัวร้ายในสายตาบัว” ที่ทำให้เธอโกรธและอับอาย แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป คาดว่าเขาจะค่อยๆ เผยด้านดีออกมา เช่น การเสียสละเพื่อเธอ หรือการยืนหยัดเคียงข้างเธอในยามลำบาก ขวัญถูกออกแบบให้เป็นคนที่เติบโตผ่านความรักและความเข้าใจ ซึ่งน่าจะทำให้ผู้ชมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงจาก “ไอ้ขวัญเกเร” สู่ “ขวัญที่แสนดี” ในตอนท้าย

สไตล์การแสดงของคณิน คณิน ชอบประดิถ (เพื่อน) นำเสนอ “ขวัญ” ด้วยการผสมผสานความกวนๆ เข้ากับความจริงจังได้อย่างลงตัว เขาใช้ภาษากาย เช่น การยักคิ้ว สายตาทะเล้น และน้ำเสียงกวนประสาท มาสร้างคาแรกเตอร์ให้มีชีวิตชีวา แต่ในฉากดราม่า เช่น ตอนที่ขวัญต้องเผชิญหน้ากับความเข้าใจผิดหรือความเจ็บปวดจากบัว คณินก็ถ่ายทอดอารมณ์เปราะบางออกมาได้ดี ทำให้ขวัญเป็นตัวละครที่ทั้งน่าหมั่นไส้และน่าหลงรัก

“ขวัญ” ในบทของคณิน ชอบประดิถ เป็นพระเอกที่ไม่เพอร์เฟกต์ เขาเกเร ปากร้าย แต่มีหัวใจที่อบอุ่นและจริงใจ เป็นตัวละครที่ชวนให้คนดูทั้งเชียร์ทั้งด่าในเวลาเดียวกัน คาแรกเตอร์นี้ถูกออกแบบมาให้มีเสน่ห์แบบผู้ชายบ้านๆ ที่ต้องผ่านบททดสอบมากมายเพื่อพิชิตใจนางเอก และน่าจะกลายเป็นที่รักของผู้ชมเมื่อเรื่องดำเนินไปถึงจุดที่เขาได้แสดงความรักอย่างเต็มที่

→ เดนิส เจลีลชา คัปปุน รับบท บัว
หญิงสาวสวยแห่งบ้านดงขาม ลูกสาวของเศรษฐีในหมู่บ้าน ผู้ที่มีเสน่ห์ดึงดูดและเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ มากมาย บัวเป็นตัวละครที่มีบุคลิกโดดเด่น ฉลาด และมีไหวพริบ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความดื้อรั้นและความเป็นตัวของตัวเองสูง เธอเริ่มต้นด้วยการเป็นคู่กัดกับ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) ซึ่งทั้งสองมีปมความขัดแย้งมาจากอดีต โดยเฉพาะความเกลียดชังที่สืบทอดมาจากครอบครัว รวมถึงวีรกรรมในวัยเด็กที่ขวัญเคยทำให้เธอฝังใจ เช่น การบอกว่าเธอไม่สวยหรือขี้เหร่ ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความบาดหมาง

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวพลิกผันเมื่อบัวต้องเผชิญสถานการณ์ที่ทำให้เธอต้องแต่งงานกับขวัญแบบไม่เต็มใจ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งแต่ก็ค่อยๆ พัฒนาไปสู่ความเข้าใจและความรัก คาแร็กเตอร์ของบัวจึงมีมิติที่หลากหลาย ตั้งแต่ความเย่อหยิ่งจากฐานะและความสวยของเธอ ไปจนถึงการเผยด้านที่อ่อนโยนและเติบโตขึ้นผ่านประสบการณ์ชีวิต โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองต่อขวัญ ซึ่งขัดกับความเกลียดชังที่เธอเคยมี

บัวในเรื่องนี้จึงเป็นตัวละครที่ผสมผสานทั้งความแข็งแกร่ง ความเปราะบาง และเสน่ห์แบบสาวชนบทที่ทั้งน่ารักและน่าหมั่นไส้ในเวลาเดียวกัน ถือเป็นบทบาทที่ท้าทายสำหรับเดนิส เพราะต้องถ่ายทอดอารมณ์ที่ซับซ้อนและการเปลี่ยนแปลงของตัวละครจากคู่กัดสู่คู่รักได้อย่างน่าเชื่อถือ

→ ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์ รับบท เทพ
ชายหนุ่มรูปงามที่มีเสน่ห์และฐานะดี เป็นหนึ่งในผู้ชายที่หลงรัก “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และเป็นคู่แข่งทางความรักกับ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) เทพมีบุคลิกที่ดูสมบูรณ์แบบ ทั้งมารยาทดี พูดจาไพเราะ และมีความทะเยอทะยาน เขามักจะแสดงออกถึงความมั่นใจในตัวเองและความปรารถนาที่จะครอบครองหัวใจของบัว ซึ่งเขาเชื่อว่าเหมาะสมกับเธอมากกว่าขวัญ

อย่างไรก็ตาม เทพไม่ใช่แค่ตัวละครที่ดูดีผิวเผิน คาแร็กเตอร์ของเขามีด้านที่ซับซ้อนกว่านั้น เขามีความหยิ่งยโสและบางครั้งเผยด้านที่เจ้าเล่ห์ออกมา โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญหน้ากับขวัญ ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นคู่แข่งที่ต่ำต้อยกว่า เทพพยายามใช้ทั้งเสน่ห์และอิทธิพลของตัวเองเพื่อเอาชนะใจบัว แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไป ความพยายามของเขากลับทำให้เกิดความขัดแย้งและดราม่ามากขึ้นในหมู่ตัวละครหลัก

บทบาทของเทพในเรื่องนี้จึงเป็นตัวเร่งให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างบัวและขวัญ เขาเป็นตัวแทนของ “ทางเลือกที่ดูดีกว่า” ในสายตาคนทั่วไป แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงความจริงที่ว่าความรักไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์แบบภายนอกเท่านั้น ธรรม์ธัช ถ่ายทอดคาแร็กเตอร์นี้ได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการแสดงออกถึงความมั่นใจที่บางครั้งแฝงไปด้วยความอ่อนไหวและความพ่ายแพ้เมื่อเผชิญกับความรู้สึกที่เขาไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้เทพกลายเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าหงุดหงิดในสายตาคนดูไปพร้อมๆ กัน

→ สุรีย์ญะเรศ ยะคะเรศ รับบท แก้ว
เป็นตัวละครที่มีสีสันและบทบาทสำคัญในเรื่อง แก้วเป็นน้องสาวของ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) เธอถูกวางคาแร็กเตอร์ให้เป็นสาวน้อยจอมซนแห่งบ้านดงขาม มีนิสัยร่าเริง ตรงไปตรงมา และมีความกล้าได้กล้าเสีย แก้วมักจะเป็นตัวแปรที่สร้างความวุ่นวายและความสนุกให้กับเรื่องราว โดยเฉพาะในความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักอย่างบัวและขวัญ

คาแร็กเตอร์ของแก้วมีเสน่ห์ในแบบเด็กสาวบ้านนอกที่ทั้งน่ารักและแสบซน เธอมีความผูกพันกับพี่ชายอย่างขวัญ แต่ก็มักจะมีมุมที่ขัดแย้งหรือแกล้งพี่ชายอยู่บ่อยๆ ทำให้เกิดฉากตลกๆ ในละคร นอกจากนี้ แก้วยังมีความอยากรู้อยากเห็นและกล้าคิดกล้าทำ ซึ่งบางครั้งก็นำไปสู่สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือกลายเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตในหมู่บ้าน เธอเป็นเหมือน “น้องสาวตัวป่วน” ที่เข้ามาเติมเต็มอารมณ์ให้กับละคร ทั้งในแง่ของความสดใสและความดราม่าเล็กๆ ที่เกิดจากการกระทำของเธอ

สำหรับ สุรีย์ญะเรศ การรับบทแก้วถือเป็นความท้าทายใหม่ หลังจากที่เธอเคยมีผลงานในซีรีส์มาก่อน การก้าวมารับบทในละครโทรทัศน์แนวชีวิตจินตนิยมเรื่องนี้ เธอต้องถ่ายทอดทั้งความสดใส ความแสบซน และความน่ารักของแก้วออกมาให้คนดูเอ็นดู ซึ่งจากกระแสในช่วงเริ่มต้นของละคร แก้วกลายเป็นตัวละครที่ถูกพูดถึงอย่างมากในฐานะตัวแปรสุดต๊าซที่ทำให้เรื่องราวสนุกยิ่งขึ้น

→ ศรันฉัตร์ มิตรชัย รับบท วกุล
ตัวละครที่เพิ่มความเข้มข้นและมิติให้กับเรื่องราว คาแร็กเตอร์ของวกุลถูกวางให้เป็นหญิงสาวที่มีความสง่างามและมีเสน่ห์ในแบบฉบับของลูกผู้ดี เธอเป็นลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลในหมู่บ้านดงขาม มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับ “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) ในฐานะญาติห่างๆ เช่น พี่สาวหรือลูกพี่ลูกน้อง

วกุล มีบุคลิกที่ดูอ่อนหวานแต่แฝงไปด้วยความทะเยอทะยานและความเจ้าเล่ห์ เธอเป็นตัวละครที่มีความรู้สึกซับซ้อนต่อตัวละครหลักอย่างบัวและ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) โดยเฉพาะในแง่ของความอิจฉาและความต้องการครอบครองสิ่งที่เธอคิดว่าควรเป็นของเธอ วกุลอาจมีใจให้กับ “เทพ” (รับบทโดย ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์) หรือในบางช่วงของเรื่องอาจเผยความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ต่อขวัญ ซึ่งทำให้เธอกลายเป็นตัวแปรสำคัญในความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก

ด้วยความที่เป็นคนฉลาดและรู้จักใช้เสน่ห์ของตัวเอง วกุลมักจะวางแผนหรือสร้างสถานการณ์เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เธอดูเหมือนเป็นตัวร้ายในสายตาคนดู แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็มีด้านที่เปราะบางและหวังการยอมรับจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะจากครอบครัวและคนที่เธอรัก บทนี้จึงเป็นโอกาสให้ศรันฉัตร์ได้แสดงความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย ทั้งความเย่อหยิ่ง ความอ่อนไหว และความเจ้าเล่ห์แบบมีชั้นเชิง

การรับบท วกุล ของศรันฉัตร์ยังสะท้อนถึงความสามารถในการก้าวข้ามภาพลักษณ์ของเธอในฐานะลูกสาวของ เอ ไชยา มิตรชัย นักแสดงลิเกชื่อดัง โดยเธอพิสูจน์ฝีมือการแสดงที่พัฒนาขึ้นจากผลงานก่อนหน้า ทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นที่พูดถึงในหมู่แฟนละครทั้งในแง่ของการแสดงและการเพิ่มความสนุกให้กับเส้นเรื่องความรักและความขัดแย้งในละครเรื่องนี้

→ กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช รับบท ชลิต
ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง คาแร็กเตอร์ของชลิตถูกวางให้เป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์ในแบบฉบับของคนที่มีความมั่นใจสูง แต่แฝงไปด้วยความลึกลับและปมบางอย่างในใจ เขาเป็นคนที่มาจากหมู่บ้านใกล้เคียงกับบ้านดงขาม และมีสายสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับตัวละครหลักอย่าง “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ)

ชลิตมีบุคลิกที่ดูเป็น “หนุ่มแบดบอย” ในสายตาคนรอบข้าง เขามักจะแสดงออกถึงความเจ้าชู้และความทะเยอทะยาน อาจเป็นคนที่มีความสนใจในตัวบัว แต่ไม่ใช่ในแบบที่หวังดีเสมอไป เพราะเขามีเป้าหมายบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวของบัวหรือผลประโยชน์ในหมู่บ้าน คาแร็กเตอร์ของชลิตจึงมีทั้งด้านที่น่าดึงดูดและด้านที่น่าสงสัย เขาเป็นตัวละครที่อาจสร้างความขัดแย้งหรือหักมุมในเรื่องราว โดยเฉพาะเมื่อต้องปะทะกับขวัญหรือ “เทพ” (รับบทโดย ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคู่แข่งในเส้นเรื่อง

สำหรับ กฤตกานต์ การรับบทชลิตเป็นโอกาสที่เขาได้แสดงความสามารถในการถ่ายทอดตัวละครที่มีมิติซับซ้อน ผสมผสานทั้งความเท่ ความร้าย และความลึกซึ้งทางอารมณ์ ซึ่งสอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่แฟนๆ คุ้นเคยจากผลงานก่อนหน้าของเขา เช่น บท “กระทิง” ใน “กลเกมรัก” ที่มีกลิ่นอายของความเป็นแบดบอยเช่นกัน ชลิตจึงเป็นตัวละครที่ทั้งน่าติดตามและน่าจะสร้างกระแสในหมู่คนดูได้ไม่น้อย ด้วยการแสดงที่จัดจ้านและมีเสน่ห์เฉพาะตัวของกฤตกานต์

→ โย่ง เชิญยิ้ม รับบท เข้ม
ตัวละครที่เพิ่มรสชาติความสนุกและสีสันให้กับเรื่องราว คาแร็กเตอร์ของเข้มถูกวางให้เป็นชายหนุ่มชาวบ้านที่มีนิสัยขี้เล่น ซื่อตรง แต่ก็มีความแอบแฝงด้วยความเจ้าเล่ห์แบบน่ารักๆ เข้มเป็นเพื่อนสนิทของ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) และมักจะคอยช่วยเหลือหรือยุยงให้ขวัญจัดการกับปมต่างๆ ในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องหัวใจกับ “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) 

เข้มมีบุคลิกที่เป็นตัวตลกประจำกลุ่ม ด้วยลักษณะที่พูดจาตรงไปตรงมา บางครั้งก็เผลอพูดอะไรที่ทำให้สถานการณ์วุ่นวายยิ่งขึ้น แต่ก็เป็นที่รักของคนรอบข้างเพราะความจริงใจและความจงรักภักดีต่อเพื่อน ตัวละครนี้ยังมีมุมที่แสดงให้เห็นถึงความฉลาดแบบบ้านๆ ที่สามารถแก้ปัญหาได้ในแบบที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งสอดคล้องกับสไตล์การแสดงของโย่ง เชิญยิ้ม ที่มีพื้นฐานจากความเป็นนักแสดงตลกและศิลปินแห่งชาติ สาขาการแสดงพื้นบ้าน-เพลงฉ่อย (ได้รับรางวัลในปี 2566) เขาจึงถ่ายทอดความเป็นเข้มออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผสมผสานทั้งความฮาและความอบอุ่น

บท เข้ม ของโย่งในเรื่องนี้จึงเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวให้สนุกครบรส ทั้งในแง่ของการเป็นเพื่อนที่คอยสนับสนุนขวัญ และการเป็นตัวเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆ ในหมู่บ้านดงขาม ถือเป็นการกลับมาสร้างเสียงหัวเราะให้แฟนละครอีกครั้งของโย่ง หลังจากที่เขาเคยฝากผลงานในบทบาทตลกมากมายทั้งในจอแก้วและจอเงิน

→ นงค์ เชิญยิ้ม รับบท นายอำเภอสิงห์
ตัวละครที่ผสมผสานทั้งความขึงขังและความน่าเกรงขามในฐานะผู้มีอำนาจในท้องถิ่น คาแร็กเตอร์ของนายอำเภอสิงห์ถูกวางให้เป็นบุคคลที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในหมู่บ้านดงขาม มีบุคลิกเข้มแข็ง ตรงไปตรงมา และเป็นที่เคารพของชาวบ้าน แต่ก็แฝงด้วยอารมณ์ขันและความเป็นกันเองในบางมุม ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มาจากสไตล์การแสดงของนงค์ เชิญยิ้ม

นายอำเภอสิงห์มีบทบาทเป็นผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งในเรื่อง โดยเฉพาะปมระหว่าง “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) รวมถึงตัวละครอื่นๆ เช่น “เทพ” (รับบทโดย ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์) หรือ “ชลิต” (รับบทโดย กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช) เขามักจะปรากฏตัวในฉากที่ต้องตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ ของหมู่บ้าน หรือเมื่อมีการทะเลาะเบาะแว้งที่ต้องการผู้มีอำนาจเข้ามาควบคุมสถานการณ์ แม้จะดูเป็นคนจริงจัง แต่บางครั้งนายอำเภอสิงห์ก็เผยด้านที่อบอุ่นและเข้าใจหัวอกของชาวบ้าน โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับความรักวุ่นๆ ของคนรุ่นลูกอย่างบัวและขวัญ

ด้วยประสบการณ์ในวงการตลกและการแสดงลิเกของนงค์ เขานำความสามารถในการเล่นบทจริงจังผสมมุกตลกมาใช้ได้อย่างลงตัว ทำให้ตัวละครนายอำเภอสิงห์ไม่เพียงเป็นแค่ผู้บังคับใช้กฎหมายในเรื่อง แต่ยังเป็นจุดพักอารมณ์ให้คนดูได้ยิ้มในสถานการณ์ตึงเครียด บทนี้จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในการแสดงของนงค์ เชิญยิ้ม ที่ไม่ได้จำกัดแค่ความตลก แต่ยังถ่ายทอดความน่าเชื่อถือในฐานะผู้นำท้องถิ่นได้อย่างน่าประทับใจ

→ ตี๋ ดอกสะเดา รับบท เถ้าแก่บุญ
ตัวละครที่เพิ่มความสนุกและสีสันให้กับเรื่องราว คาแร็กเตอร์ของเถ้าแก่บุญถูกวางให้เป็นพ่อค้าผู้มั่งคั่งในหมู่บ้านดงขาม มีนิสัยขี้เหนียว ขี้โวยวาย แต่ก็มีมุมที่น่ารักและอบอุ่นแบบคนบ้านนอก เขาเป็นคนที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่น โดยเฉพาะเมื่อเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของตัวเอง จึงมักปรากฏตัวในฉากที่สร้างความวุ่นวายหรือความขบขันให้กับตัวละครหลักอย่าง “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ)

เถ้าแก่บุญมีบุคลิกที่เด่นชัดด้วยการพูดจาโผงผางและท่าทางที่เกินจริง ซึ่งเป็นสไตล์ที่ตี๋ ดอกสะเดา ถนัดจากการเป็นนักแสดงตลกมากประสบการณ์ เขามักจะเข้ามาแทรกแซงหรือให้คำแนะนำแบบไม่เข้าท่าในความสัมพันธ์ของบัวและขวัญ ทำให้เกิดสถานการณ์ชุลมุนที่คนดูต้องอมยิ้ม ถึงจะดูเหมือนเป็นตัวละครที่เห็นแก่ตัว แต่เถ้าแก่บุญก็มีด้านที่แสดงความเมตตาและความจริงใจในบางจังหวะ เช่น การช่วยเหลือชาวบ้านหรือการสนับสนุนขวัญในแบบที่เขาไม่รู้ตัว

การรับบทนี้ของตี๋ ดอกสะเดา เป็นการผสมผสานความตลกที่เป็นเอกลักษณ์ของเขากับความอบอุ่นของตัวละครในละครพื้นบ้านได้อย่างลงตัว ทำให้เถ้าแก่บุญกลายเป็นตัวละครที่ทั้งน่าหมั่นไส้และน่าเอ็นดูในเวลาเดียวกัน ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ตอกย้ำฝีมือการแสดงของตี๋ในวงการบันเทิงไทย

→ ศรุต วิจิตรานนท์ รับบท ผู้ใหญ่ชัด
ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำชุมชนของหมู่บ้านดงขาม คาแร็กเตอร์ของผู้ใหญ่ชัดถูกวางให้เป็นผู้ใหญ่บ้านที่มีความเฉลียวฉลาด ใจดี และเป็นที่พึ่งของชาวบ้าน เขามีบุคลิกที่ดูอบอุ่นแต่ก็เข้มงวดในเรื่องความถูกต้องและความสงบเรียบร้อยของหมู่บ้าน ทำให้เขาเป็นที่เคารพของทั้งตัวละครหลักอย่าง “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) รวมถึงตัวละครอื่นๆ

ผู้ใหญ่ชัดมักจะปรากฏตัวในฉากที่ต้องตัดสินข้อพิพาทหรือให้คำแนะนำแก่คนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะเมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างบัวและขวัญ หรือเมื่อตัวละครอย่าง “เทพ” (รับบทโดย ธรรม์ธัช ธารินทร์ภิรมย์) และ “ชลิต” (รับบทโดย กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช) เข้ามาสร้างความวุ่นวาย เขามีวิธีการจัดการปัญหาที่เรียบง่ายแต่ได้ผล ด้วยการอาศัยประสบการณ์และความเข้าใจในนิสัยของคนในชุมชน แม้จะดูเป็นคนจริงจัง แต่ผู้ใหญ่ชัดก็มีมุมขี้เล่นและอารมณ์ขันที่โผล่มาให้เห็นเป็นระยะ ซึ่งช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดในเรื่องได้ดี

สำหรับ ศรุต วิจิตรานนท์ การรับบทผู้ใหญ่ชัดเป็นโอกาสที่เขาได้แสดงความสามารถในการถ่ายทอดตัวละครที่มีทั้งความน่าเกรงขามและความอบอุ่น ด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่มและท่าทางที่เป็นธรรมชาติ เขาทำให้ผู้ใหญ่ชัดกลายเป็นตัวละครที่คนดูรู้สึกผูกพัน ราวกับเป็น “พ่อใหญ่” ของหมู่บ้านจริงๆ บทนี้ยังสะท้อนถึงฝีมือการแสดงที่สั่งสมมาจากประสบการณ์ในวงการของศรุต ทำให้ผู้ใหญ่ชัดเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่โดดเด่นและมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเรื่องราวของละครเรื่องนี้

→ สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ รับบท ตอง
ตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง คาแร็กเตอร์ของตองถูกวางให้เป็นหญิงสาวที่มีความอ่อนหวานแต่ก็แฝงไปด้วยความเข้มแข็งในจิตใจ เธอเป็นเพื่อนสนิทของ “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และมักจะคอยเป็นที่ปรึกษาและที่พึ่งให้บัวในยามที่เผชิญปัญหา โดยเฉพาะเรื่องหัวใจกับ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ)

ตองมีบุคลิกที่ดูเรียบร้อยและใจเย็น แต่ก็มีความเฉลียวฉลาดและรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนรอบข้าง เธอเป็นตัวละครที่เปรียบเสมือน “กาวใจ” ในหมู่ตัวละครหลัก คอยช่วยคลายปมความขัดแย้งหรือให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ตองเองก็มีปมชีวิตส่วนตัวที่ค่อยๆ เผยออกมาในเรื่อง เช่น ความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ต่อตัวละครบางคน หรือความลับในอดีตที่อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ในกลุ่ม ทำให้ตัวละครนี้มีมิติที่น่าสนใจมากขึ้น

สำหรับ สรวงสุดา การรับบทตองเป็นการแสดงถึงความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนและอบอุ่น ซึ่งเป็นจุดเด่นของเธอจากผลงานที่ผ่านมา ด้วยประสบการณ์ในวงการบันเทิงตั้งแต่คว้าตำแหน่งนางสาวไทยปี 2540 และการแสดงในละครหลายเรื่อง เธอนำความเป็นธรรมชาติและความน่าเชื่อถือมาสู่ตัวละครตอง ทำให้ตองกลายเป็นตัวละครที่คนดูทั้งเอ็นดูและลุ้นตามในเส้นเรื่องของละครเรื่องนี้

→ โกสินทร์ ราชกรม รับบท แดง
ตัวละครที่มีบทบาทเด่นและเพิ่มความเข้มข้นให้กับเรื่องราว คาแร็กเตอร์ของแดงถูกวางให้เป็นชายหนุ่มที่มีความดุดันและแข็งกร้าว เป็นคนที่มีอดีตอันซับซ้อนและปมในใจที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของเขาในปัจจุบัน แดงเป็นคนสนิทหรือลูกน้องของตัวละครที่มีอิทธิพลในหมู่บ้านดงขาม เช่น “ชลิต” (รับบทโดย กฤตกานต์ ประสิทธิ์พานิช) หรืออาจมีความสัมพันธ์ในเชิงขัดแย้งกับ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ)

แดงมีบุคลิกที่ดูเป็น “ลูกผู้ชายบ้านนอก” เต็มไปด้วยความแค้นและความมุ่งมั่น เขามักจะปรากฏตัวในฉากที่ต้องเผชิญหน้ากับตัวละครหลักอย่าง “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) หรือขวัญ โดยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเรื่องที่ดิน ฐานะ หรือแม้แต่ความรัก ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวละครที่ทั้งน่ากลัวและน่าสงสารในเวลาเดียวกัน ความดิบของแดงสะท้อนผ่านการกระทำที่หุนหันและคำพูดที่ตรงไปตรงมา แต่ลึกๆ แล้ว เขาก็มีด้านที่อ่อนไหวและเจ็บปวดจากอดีตที่ถูกเปิดเผยในภายหลัง

สำหรับ โกสินทร์ ราชกรม การรับบทแดงเป็นการแสดงถึงความสามารถในการถ่ายทอดตัวละครที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์ ด้วยประสบการณ์จากผลงานที่ผ่านมาทั้งบทบาทตัวร้ายและตัวละครที่มีมิติ เช่น บท “พิสัย” ใน “รากบุญ” หรือบทเกย์ใน “นางร้ายสายลับ” เขานำความดิบและพลังการแสดงมาสู่แดงได้อย่างน่าประทับใจ ทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่คนดูจับตามองในละครเรื่องนี้

→ พรรษชล สุปรีย์ รับบท ลำดวน
ตัวละครที่มีความสำคัญในเรื่อง โดยเฉพาะในหมู่บ้านดงขาม ซึ่งเป็นฉากหลักของละคร ลำดวน ถูกวางคาแร็กเตอร์ให้เป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์ตามแบบฉบับสาวบ้านนอก เธอเป็นเพื่อนสนิทหรือญาติของ “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) หรือมีความสัมพันธ์บางอย่างกับ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) ลำดวนมีนิสัยที่แตกต่างจากบัว เช่น เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง กล้าแสดงออก และมีมุมที่ขี้เล่นหรือเจ้าเล่ห์เล็กๆ เพื่อเพิ่มความสนุกให้กับเรื่องราว เธอเป็นตัวละครที่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์ระหว่างบัวและขวัญ ไม่ว่าจะในฐานะคนที่คอยยุแยงให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเป็นคนที่ช่วยให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันในท้ายที่สุด

ด้วยชื่อ “ลำดวน” ซึ่งเป็นชื่อดอกไม้ที่สื่อถึงความอ่อนหวานและมีเสน่ห์ คาแร็กเตอร์ของเธอมีทั้งด้านที่อ่อนโยนและด้านที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่ เช่น การเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะบอบบางแต่กลับมีจิตใจเข้มแข็งและพร้อมปกป้องคนที่เธอรัก บทบาทนี้น่าจะให้โอกาส พรรษชล ได้แสดงความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ความสดใสไปจนถึงความดราม่า ซึ่งสอดคล้องกับโทนของละครที่ผสมผสานทั้งความรัก ความขัดแย้ง และมุมตลกขบขัน

→ อาไท กลมกิ๊ก รับบท เรือง
ตัวละครที่เพิ่มสีสันและความอบอุ่นให้กับเรื่องราว คาแร็กเตอร์ของเรืองถูกวางให้เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของ “ไอ้ขวัญ” (รับบทโดย คณิน ชอบประดิถ) เขาเป็นคนที่มีนิสัยขี้เล่น ซื่อสัตย์ และทุ่มเทให้กับเพื่อนอย่างสุดใจ เรืองมักจะเป็นคนที่คอยสนับสนุนขวัญในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะเรื่องความรักกับ “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) ที่เริ่มต้นจากความเกลียดชัง

เรืองมีบุคลิกที่ร่าเริงและเป็นธรรมชาติ เขามักจะพูดจาตรงไปตรงมาและมีมุมตลกที่ทำให้คนรอบข้างต้องยิ้ม บทบาทของเขาในเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ตัวประกอบธรรมดา แต่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมที่ช่วยให้ขวัญและบัวเข้าใจกันมากขึ้น เช่น การที่เรืองยอมเสียสละหรือวางแผนเพื่อให้ขวัญมีโอกาสได้ใกล้ชิดบัว แม้ว่าบางครั้งการกระทำของเขาจะดูวุ่นวายหรือเกินเลยไปบ้าง แต่ทุกอย่างก็มาจากความหวังดีและความจงรักภักดีต่อเพื่อน

สำหรับ อาไท กลมกิ๊ก การรับบทเรืองเป็นโอกาสที่เขาได้ใช้ความสามารถด้านการแสดงตลกที่เป็นจุดเด่นของตัวเอง ผสมผสานกับการถ่ายทอดความจริงใจของตัวละครได้อย่างลงตัว ด้วยพื้นฐานจากวงการตลกและการเป็นนักพากย์มาก่อน เขาทำให้เรืองกลายเป็นตัวละครที่ทั้งน่ารักและน่าจดจำ ช่วยเติมเต็มอารมณ์ให้ละครครบรสทั้งความสนุกและความซาบซึ้ง

→ ปารีณา บุศยศิริ รับบท สร้อย
ตัวละครที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาและมิติให้กับเรื่องราว คาแร็กเตอร์ของสร้อยถูกวางให้เป็นหญิงสาวที่มีความสดใส ร่าเริง และมีเสน่ห์ในแบบสาวบ้านนอกที่ทั้งน่ารักและมีไหวพริบ เธอเป็นเพื่อนสนิทของ “บัว” (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และมักจะคอยเป็นคนเคียงข้างบัวในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักหรือความขัดแย้งในหมู่บ้านดงขาม

สร้อยมีนิสัยที่เป็นคนพูดตรง กล้าแสดงออก และบางครั้งก็เผลอพูดอะไรที่ทำให้เกิดความวุ่นวายเล็กๆ น้อยๆ แต่ทุกอย่างมาจากความจริงใจและความหวังดี เธออาจมีความรู้สึกพิเศษต่อตัวละครบางคนในเรื่อง เช่น “เข้ม” (รับบทโดย โย่ง เชิญยิ้ม) หรือ “เรือง” (รับบทโดย อาไท กลมกิ๊ก) ซึ่งเป็นเพื่อนของขวัญ ทำให้เกิดมุมโรแมนติกเบาๆ ที่ช่วยเสริมให้เรื่องราวครบรสยิ่งขึ้น ด้วยความที่เป็นคนช่างเจรจาและมีอารมณ์ขัน สร้อยจึงเป็นตัวละครที่ช่วยคลายความตึงเครียดในฉากดราม่า และกลายเป็นที่รักของทั้งตัวละครในเรื่องและคนดู

สำหรับ ปารีณา บุศยศิริ การรับบทสร้อยถือเป็นโอกาสที่เธอได้โชว์ความสามารถในการถ่ายทอดตัวละครที่มีพลังบวกและเสน่ห์ ด้วยประสบการณ์จากผลงานก่อนหน้าทั้งละครและซีรีส์ เช่น “สุดร้ายสุดรัก” หรือ “กล่อมรัก” เธอนำความเป็นธรรมชาติและความสดใสมาสู่สร้อยได้อย่างลงตัว ทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นจุดเด่นที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราวของ “อีบัวกับไอ้ขวัญ” ให้สนุกและน่าติดตามยิ่งขึ้น

→ พินญดา สรินวระดา รับบท ทับทิม
ทับทิมจะเป็นตัวละครที่มีความสำคัญในเส้นเรื่องรอง หรือเป็นตัวละครที่เข้ามาเชื่อมโยงกับตัวละครหลักอย่าง “อีบัว” (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และ “ไอ้ขวัญ” (คณิน ชอบประดิถ) ทับทิมมีบทบาทที่ช่วยขับเคลื่อนอารมณ์หรือเหตุการณ์ในเรื่อง จากสไตล์การแสดงของพินญดาในผลงานที่ผ่านมา เธอมักได้รับบทที่สดใส มีชีวิตชีวา หรือมีเสน่ห์เฉพาะตัว ซึ่งอาจสะท้อนในตัวทับทิมว่าเป็นหญิงสาวที่มีความมั่นใจ ฉลาด และอาจมีด้านที่ทั้งน่ารักและท้าทายในเวลาเดียวกัน

ทับทิมเป็นเพื่อนสนิทของอีบัว หรือเป็นตัวละครที่เข้ามาสร้างความขัดแย้ง/มิติเพิ่มเติมในความรักระหว่างอีบัวและไอ้ขวัญ เช่น การเป็นคนที่ไอ้ขวัญเคยสนใจในอดีต หรือเป็นตัวละครที่เข้ามาช่วยคลายปมบางอย่างในเรื่อง

พินญดา หรือนิต้า เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงจากผลงานที่หลากหลาย เธอเคยเปลี่ยนชื่อจาก “นุ่น สุทธิภา” มาเป็น “นิต้า พินญดา สรินวระดา” ในปี 2023 เพื่อเสริมดวงและความปังในสายงาน ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็มีผลงานต่อเนื่อง รวมถึงบทในละครเรื่องนี้ การที่เธอได้รับบท “ทับทิม” แสดงว่าโปรดิวเซอร์น่าจะเล็งเห็นศักยภาพของเธอในการถ่ายทอดตัวละครที่มีสีสันและน่าจดจำ

→ บนณภ พงษ์สุวรรณ รับบท ปิ่น
เป็นตัวละครประกอบที่มีบทบาทสำคัญในเส้นเรื่องรอง หรือเป็นตัวละครที่เชื่อมโยงกับตัวละครหลักอย่าง “อีบัว” (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และ “ไอ้ขวัญ” (คณิน ชอบประดิถ) ด้วยความที่ละครเรื่องนี้เป็นแนวชีวิตผสมจินตนิยมที่มีกลิ่นอายย้อนยุค ปิ่นจะเข้ามาเติมเต็มความสัมพันธ์หรือเหตุการณ์ในชุมชนทุ่งบางกะปิ

จากผลงานที่ผ่านมาของบนณภ เขามักได้รับบทที่ดูอบอุ่น ซื่อตรง หรือมีเสน่ห์แบบหนุ่มบ้านนอก ซึ่งอาจสะท้อนในตัวปิ่นว่าเป็นชายหนุ่มที่มีความจริงใจ อาจจะเป็นคนที่นิสัยดี มีอารมณ์ขัน หรือเป็นที่พึ่งพาของคนรอบข้างได้ ในบริบทของละครที่เน้นความสโลว์ไลฟ์และวิถีชนบท ปิ่นอาจเป็นตัวแทนของความเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์

ปิ่นเป็นเพื่อนของไอ้ขวัญ หรือมีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวของอีบัว เช่น เป็นญาติหรือคนในหมู่บ้านที่คอยช่วยเหลือหรือสร้างสีสันให้กับเรื่องราวความรักของทั้งคู่ มีโอกาสที่ปิ่นจะเป็นตัวละครที่เพิ่มมิติให้กับความขัดแย้งหรือความสนุก

บนณภ พงษ์สุวรรณ เป็นนักแสดงหนุ่มที่เริ่มมีชื่อเสียงจากผลงานละครและภาพยนตร์ไทยหลายเรื่อง เขามักได้รับบทที่เน้นความเป็นธรรมชาติและมีเคมีที่ดีกับนักแสดงร่วม ซึ่งใน “อีบัวกับไอ้ขวัญ” การที่เขาได้รับบท “ปิ่น” แสดงว่าเขาน่าจะถูกเลือกมาเพื่อถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ที่เข้ากับโทนของละคร ที่ผสมทั้งความสนุกสนานและความอบอุ่นแบบชนบท

→ มินรญา ตั้งสืบวงศ์ รับบท มะลิ
มะลิจะเป็นตัวละครประกอบที่มีบทบาทในเส้นเรื่องรอง หรือเป็นตัวละครที่ช่วยขับเคลื่อนเหตุการณ์ในชีวิตของตัวละครหลักอย่าง “อีบัว” (เดนิส เจลีลชา คัปปุน) และ “ไอ้ขวัญ” (คณิน ชอบประดิถ) มะลิเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนทุ่งบางกะปิที่เข้ามาเติมสีสันหรือสร้างความสัมพันธ์ในเรื่อง

จากสไตล์การแสดงของมินรญาในผลงานที่ผ่านมา เธอมักได้รับบทที่สดใส ร่าเริง และมีเสน่ห์แบบธรรมชาติ ซึ่งอาจสะท้อนในตัวมะลิว่าเป็นหญิงสาวที่มีชีวิตชีวา อาจจะเป็นคนช่างพูดช่างเจรจา หรือมีนิสัยน่ารักที่ทำให้คนรอบข้างเอ็นดู ในบริบทของละครที่เน้นความสโลว์ไลฟ์และความสัมพันธ์แบบชนบท มะลิอาจมีลักษณะที่เข้ากับวิถีชีวิตเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์

มะลิเป็นเพื่อนสนิทของอีบัว เป็นตัวละครที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับไอ้ขวัญในแง่มุมที่สร้างความสนุกหรือความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เป็นคนที่คอยแซวหรือช่วยเหลือทั้งคู่ในเรื่องความรัก หรืออาจเป็นคนที่รู้เรื่องราวในอดีตของตัวละครหลักบางอย่าง

มินรญา ตั้งสืบวงศ์ หรือมินนี่ เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่เริ่มมีผลงานในวงการบันเทิงไทย เธอมีภาพลักษณ์ที่สดใสและเป็นธรรมชาติ ซึ่งน่าจะถูกเลือกให้มารับบท “มะลิ” เพื่อถ่ายทอดคาแร็กเตอร์ที่เข้ากับโทนของละครที่เน้นทั้งความสนุกและความอบอุ่น การที่เธอได้ร่วมแสดงในเรื่องนี้แสดงถึงศักยภาพที่ผู้จัดเห็นในตัวเธอในการสร้างความประทับใจให้ผู้ชม