ละคร เด็กชายในเงา 2556 (EP.1-15 ตอนจบ) END

ละครแนวโรแมนติกดราม่าที่อบอุ่น ซาบซึ้งกินใจ ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของพี่น้องฝาแฝด โดยแฝดน้อง “ป่าน” เป็นเด็กสมบูรณ์ปกติ แต่แฝดผู้พี่ “ว่าว” เป็นเด็กพิการที่ต้องใช้ชีวิตภายใต้เงาแฝดน้องตลอดมา


ละคร เด็กชายในเงา 2556

ละคร เด็กชายในเงา 2556

“เด็กชายในเงา” ละครแนวโรแมนติกดราม่าที่อบอุ่น ซาบซึ้งกินใจ และสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าเปื้อนหยาดน้ำตาแห่งความประทับใจแก่ผู้ชม ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของพี่น้องฝาแฝด โดยแฝดน้อง “ป่าน” เป็นเด็กสมบูรณ์ปกติ แต่แฝดผู้พี่ “ว่าว” เป็นเด็กพิการที่ต้องใช้ชีวิตภายใต้เงาของแฝดน้องตลอดมา ว่าวเติบโตมาพร้อมกับสายตาที่แสดงความเวทนาของคนรอบข้าง จนทำให้เขาเชื่อสนิทใจว่าตัวเองด้อยค่ากว่าทุกคนในโลก และจะมีชีวิตอยู่ในเงาของคนอื่นตลอดไป แต่ในที่สุด ด้วยความรักของป่าน แฝดน้องและการช่วยเหลือของคนรอบข้าง รวมถึงการมีศรัทธาในตัวเอง ได้ช่วยให้ชีวิตของว่าวได้ออกจากเงามืด มาใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีความสุข

นักแสดง
ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ รับบท วนิดา
นภัสรัญชน์ มิตรธีรโรจน์ รับบท ปราชญ์
อนุชิต สพันธุ์พงษ์ รับบท ครูวาที
คุณัญญา จันหาญ รับบท ว่าว
คุณัญนนท์ จันหาญ รับบท ป่าน
วริศรา กาญจน์วีระโยธิน รับบท อิงดาว

ว่าวและป่าน เป็นพี่น้องฝาแฝดที่มีรูปลักษณ์เหมือนกันทุกประการ หากแต่สิ่งที่ไม่เหมือนกัน คือ ว่าว ได้รับความกระทบกระเทือนตั้งในอยู่ในท้อง ทำให้เป็นโรคสมองพิการส่งผลทำให้เดินไม่ได้ถนัดต้องนั่งรถเข็น

วนิดาพาป่านมาสมัครเรียนในโรงเรียนใกล้บ้านโดยไม่บอกใครว่ามีลูกชายอีกคนหนึ่งที่บ้าน ป่านได้ยินเสียงไวโอลินในโรงเรียนก็นึกว่าพ่อ จึงวิ่งไปตามเสียง วนิดาห้ามไม่ทัน จึงได้พบว่าเป็นครูวาที ครูพิเศษสอนในชมรมดนตรี

ชีวิตเริ่มต้นในโรงเรียนใหม่ของป่าน ที่มีอิงดาวสาวน้อยเพื่อนบ้านเรียนอยู่ด้วยกัน และมีนักเลงประจำห้องคือ เต้และสมุนคือหน่อย ที่คอยแสดงอาการหมั่นใส้ป่าน โดยป่านไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ ว่าวต้องอยู่เงียบ ๆ เหงา ๆ กับแม่ที่ทำงานบ้านทุกอย่าง

ป่านยังลังเลที่จะสมัครชมรมดนตรีสากาลของครูวาที เพราะไม่รู้ว่าจะนำไวโอลินมาบ้านอย่างไรไม่ให้แม่รู้ ส่วนว่าว เริ่มสื่อสารกับอิงดาวเพื่อนบ้าน ด้วยการส่งข้อความเขียนในกระดาษยกชู โดยอิงดาวคิดว่าเป็นป่าน

ป่านพบว่าเต้แกล้งผูกเสือน้อยไว้ ทำให้หมามาขย้ำจนกลายเป็นแมวพิการ ป่านเสียใจ อิงดาวและป่านจึงฟ้องครูอาภรณ์ให้ทำโทษเต้และหน่อย ยิ่งทำให้เต้แค้นเคืองป่านมากขึ้น วนิดาปล่อยว่าวไว้บ้านคนเดียวเพื่อไปพบพิชัย ความเบลอทำให้วนิดาลืมปิดแก๊สที่ต้มน้ำไว้

ป่านและว่าวช่วยกันทำการบ้าน ทำให้คะแนนของป่านออกมาดี แต่เมื่อป่านทำข้อสอบเองที่โรงเรียนกลับไม่ดีเท่า ทำให้อิงดาวสงสัย ป่านขอยืมไวโอลินมาให้ว่าวและรอเวลาที่วนิดาไปส่งชุดที่ร้านเสื้อในวันเสาร์ ป่านช่วยปิดหน้าต่างทั้งบ้านโดยลืมคิดว่าเสียงไวโอลินจะดัง

ว่าวเสียใจที่วนิดาใจร้าย ทำให้วนิดายิ่งเครียด ป่านพบว่าเสือน้อยกลายเป็นแมวพิการ แต่ลุงกล้าภารโรงไม่ขังไว้เพราะความสุขของแมว คือการได้ไล่จับหนู ทำให้ป่านคิดได้ว่าความสุขของว่าวคือการได้เล่นไวโอลิน ป่านต้องหาทางช่วยว่าว

เมื่ออิงดาวโกรธ ป่านจึงจำเป็นต้องบอกความจริงเรื่องว่าว โดยเกี่ยวก้อยสัญญาว่าจะต้องเก็บเป็นความลับสุดยอด เต้แอบมองไกล ๆ เห็นสองคนเกี่ยวก้อยสัญญากันแล้วยิ่งโมโห ว่าวตกใจที่เย็นนี้อิงดาวเขียนข้อความว่าสวัสดีว่าว ป่านบอกว่า อิงดาวอยากพบว่าวและจะช่วยว่าว

ป่านพยายามถ่วงเวลาให้แม่อยู่บ้านปู่ เพื่อให้ว่าวมีเวลาเต็มที่ แต่ป่านก็แอบได้ยินป้าคุยกันเรื่องปู่เรียกว่าวว่าเป็นตัวซวย ป่านยิ่งสงสารพี่ชาย อิงดาว โอบฟ้าเอาผ้าคลุมว่าวพากลับมาบ้านได้ทันแต่ออกมาพบวาที

อิงดาวคิดเรื่องแผนสลับตัวให้ว่าวไปแสดงแทนป่าน เพื่อให้วนิดาเห็นความสามารถของว่าว ว่าวเองก็อยากทำให้แม่ยิ้ม เด็ก ๆ แอบพาว่าวคลุมผ้าออกจากบ้านมาซ้อมไวโอลินที่พิเศษ จนวาทีมาพบอย่างตกใจและประหลาดใจ ยิ่งรู้ว่าวนิดาไม่เปิดเผยว่ามีว่าว ยิ่งทำให้กังวล

วาที ได้ความคิดจากคุณภาณุมาศ ที่เป็นคนพิการเพราะอุบัติเหตุ ว่าบางทีอาจเป็นความรักของแม่ที่มากเกินไปและคิดแทนลูก วาทีจึงตัดสินใจร่วมมือกับเด็ก ๆ เพื่อช่วยว่าวได้แสดงไวโอลิน โดยว่าวขอให้ครูวาทีฝึกซ้อมเพลงที่พ่อแต่งให้แม่ให้ว่าวได้แสดง

ครูวาทีคลุกคลีกับว่าวและป่านจนประทับใจในความพยายามของว่าว จนวันแสดงจริงมาถึง วนิดาไปโรงเรียนกับป่าน โอบฟ้าแอบมาช่วยว่าวใส่ชุดนักเรียนเป็นครั้งแรก และพาว่าวไปโรงเรียนด้วย ทุกคนให้กำลังใจว่าว ว่าวขึ้นแสดงโดยหลับตาคิดว่าพ่อมาหาและแม่ก็ยิ้มอย่างภูมิใจ

วนิดา เครียดร้องไห้หนักจนอาเจียน พ่ออิงดาวจึงพาไปส่งโรงพยาบาล ครูใหญ่โกรธมากสั่งให้ยุบชมรมดนตรี วาทีรู้สึกผิดเป็นห่วงว่าว ป่านก็มาอยู่เป็นเพื่อนที่บ้าน วันต่อมาป้าหมอแม่อิงดาวพาป่านไปหาวนิดาที่สารภาพกับป่านว่าไม่ได้โกรธว่าวแต่รู้สึกผิด

ครูวาทีมาขอโทษวนิดาที่ร่วมมือกับเด็ก ๆ แต่วนิดาขอบคุณวาทีและบอกว่าทำให้วนิดาตาสว่างต้องเป็นแม่ที่เข้มแข็ง วาทีบอกเรื่องรายการทีวี ป่านบอกว่าวว่าดีเลย เผื่อว่าพ่อความจำเสื่อมแล้วดูทีวีจะได้จำได้ พ่อจะได้กลับบ้าน

ปู่เกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตกทำให้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว วาทีทราบข่าวจากไวเรื่องตำรวจภูเก็ตจำภาพปราชญ์จากทีวีได้จึงมาบอกวนิดาให้ไปรับของที่เหลือ วนิดารู้ความจริง จึงบอกว่าวและป่านว่าพ่อถูกรถชนตายไปเมื่อสองปีก่อนระหว่างวิ่งไล่ขโมยที่มาแย่งกระเป๋าสะพาย